การใช้หนี้ครั้งที่ 13 : อยากได้ยินว่ารักกัน
" คุณเป็นญาติคนไข้ใช่มั้ยครับ " ผู้ชายใส่แว่นในชุดสีเขียวคนเดิมเดินออกมา ถ้าเป็นละครผมคงต้องรีบลุกวิ่งไปแล้วถามว่า คนไข้เป็นยังไงบ้าง แต่ ณ เวลานี้ แค่หายใจผมยังแทบไม่มีแรง จนบุรุษพยาบาลที่เดินตามหมออกมาต้องมาช่วยพยุงให้ลุกไปยืนอยู่หน้าคุณหมอ
" หมอขอโทษด้วยนะครับ ตอนนี้คนไข้ "
คุณหมอหยุดแค่นั้นเมื่อเห็นยกมือปิดหูทั้งสองข้างก่อนที่น้ำตามากมายจะพรั่งพรูอีกระลอก
" ดูปากหมอดีๆ นะครับ "
" ไม่ ผมไม่อยากได้ยิน ไม่เอา ฮื่อๆ " ครั้งนี้ผมหลับหูหลับตาลง ยังไม่พร้อมจะรับรู้อะไรทั้งนั้น ยิ่งเป็นคำพูดที่หมอกำลังจะเอ่ยออกมา ประโยคที่โหดร้ายที่สุดในชีวิตผม
" นี่คงเป็นเคสแรกตั้งแต่หมอผ่าตัดมา ที่ญาติไม่อยากได้ยินว่าคนไข้ปลอดภัย "
ผมเงยหน้าลืมตามองคนตรงหน้านิ่งอึ้งไป พร้อมกับมือทั้งสองถูกปล่อยทิ้งไว้ข้างตัว
" ม..หมอว่าไงนะครับ "
คุณหมอส่ายหัวน้อยๆ ก่อนจะเร่งเสียงตัวเองขึ้นอีก
" หมอบอกว่าคนไข้ปลอดภัย การผ่าตัดเป็นไปด้วยดีครับ "
คำที่ได้ยินทำเอาผมช็อกถึงขั้นต้องตบหน้าตัวเองแรงๆ ให้รู้ว่านี่ไม่ใช่ฝัน
เพี๊ยะ
" โอ้ย เห้ยหมอผมเจ็บ " หมอมองหน้าประมาณว่าผมบ้ารึเปล่าตบหน้าตัวเองเล่น แต่ใครสนล่ะ " ไม่ได้ฝันจริงๆ ด้วยคุณปูนปลอดภัย วู้ๆๆ หมอทำสำเร็จ ขอบคุณนะครับหมอ ขอบคุณจริงๆ เย้ " ผมดีใจกระโดดไปมาแต่ในวินาทีที่จะหอมแก้มคนตรงหน้า ร่างผมก็ชะงักเมื่อคิดถึงเสียงนรกในห้องผ่าตัด
" ถ้าคุณปูนไม่ได้เป็นอะไร แล้วเสียงนั่น.. "
คุณหมอหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดประโยคที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยิน มันใช่หรอวะ หลอกให้ผมคิดว่าคุณปูนตาย ปล่อยให้ผมร้องไห้ฟูมฟายเป็นชั่วโมง เพียงเพราะว่า
" หมอตั้งใจจะบอกคุณตั้งแต่แรกแล้วแต่คุณไม่ยอมฟัง หมอต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ พอดีพยาบาลดันเกิดสะดุดขาตัวเองเตะปลั๊กหลุด เครื่องมันเลยร้องน่ะ ไม่มีอะไรหรอก "
เหยดดดดดดดดดดด โพ่งงงงงงงงงงงงงงงง
" ถ้าไม่เต็มใจป้อนก็ไปเรียกพยาบาลมา หน้าเป็นตูดใครจะกินลง "
คนป่วยที่นอนเป็นผักมา 2 วันเพิ่งฟื้นเมื่อ 10 นาทีก่อน ลืมตาได้ก็โวยวายลั่นห้องว่าหิว เดือดร้อนผมต้องวิ่งวุ่นหาโจ๊กมาให้ ได้ดีและเร็วที่สุดก็คนอร์คัพนี่แหละ แถมไม่ได้ซื้อด้วยพยาบาลที่เขารำคาญเสียงบอกให้ผมเอามาอุดปากคุณปูน จะได้ไม่รบกวนคนไข้รายอื่น
" เป็นไรว่ะ หรือเสียใจที่กูยังไม่ตาย มึงเลยต้องใช้หนี้ต่อ เหอะ บอกให้รู้ไว้ก่อนนะ ไส้ติ่งแค่นี้ทำอะไรคนอย่างปุณณัตต์ไม่ได้หรอก ฮ่าๆ อึก มึง.. "
ผมวางถ้วยโจ๊กลงที่หัวเตียงก่อนโผล่เข้ากอดเจ้าหนี้ที่ไม่ทันตั้งตัว
" ฮื่อๆ ผมนึกว่าจะไม่เจอหน้าคุณแล้วซะอีก ในห้องผ่าตัดก็รอบนึงแล้ว ในห้องพิเศษก็ยังจะขี้เซาอีก ฮื่อๆ ถ้าคุณปูนไม่อยู่แล้วผมจะทำยังไง ผมยังไม่ได้บอก.... ฮื่อๆ " คนตัวใหญ่นอนนิ่งปล่อยให้ผมกอดอยู่อย่างนั้น ผมไม่รู้ว่าเขาทำหน้ายังไง สัมผัสได้เพียงเสียงลมหายใจที่ดูผ่อนคลายราวกับคนโล่งอก
" บอกอะไร "
" ป..เปล่าครับ "
" ถ้าไม่พูดก็ปล่อย "
" ไม่เอา " ผมส่ายหัวดุกดิกเหมือนเด็กหวงของเล่นอยู่ในอกกว้าง พลางกอดรัดเจ้าหนี้แน่นเพราะกลัวว่าถ้ากอดไม่แน่นพอแล้วเขาจะหายไป
" ปล่อยกู กูเจ็บแผล " ผมผละออกจากเจ้าหนี้ทันทีพร้อมส่งยิ้มแหยๆ ไปให้ ก็คนมันดีใจจนลืมตัวนี่หน่า
" โทดทีครับ แฮะๆ "
" กูจะตายเพราะมึงนี่แหละ แล้วเมื่อกี้จะบอกอะไร หื้ม? "
" จะบอกว่า...เอ่อ.. “
“ …. ”
“ ว่าตอนที่คุณปูนนอนอยู่น้องปันโทรมาทุกวันเลย แต่ผมรับแทนให้แล้ว ไม่ต้องห่วงนะครับผมไม่ได้บอกเธอเรื่องนี้ "
เจ้าหนี้ทำท่าขัดใจกับคำตอบที่ได้รับก่อนจะยอมพยักหน้าอ่อนลงเมื่อพูดถึงน้องสาว ก็แหม น้องปันเหมือนคนอื่นที่ไหนหละ ขืนรู้เข้ามีหวังได้ตามมาเฝ้าแหงๆ ไอ้เป็นห่วงพี่ชายน่ะเข้าใจ แต่ผมรู้ว่าเหตุผลจริงๆ คือหาเรื่องหยุดเรียน ส่วนเรื่องที่ผมจะบอกจริงๆ วันนี้ขอเลื่อนไปก่อนนะ ยังไม่พร้อมจริงๆ จะว่าผมขี้ป๊อดก็ได้ ผมยอม
คิดถึงครั้งแรกตอนที่ยัยตัวแสบโทรเข้าแล้วหูยังชาไม่หาย ก็พอรู้ว่าคนรับสายเป็นผมแทนที่จะเป็นเจ้าของเครื่อง ผมก็โดนอีกฝ่ายตะโกนใส่เป็นชั่วโมง โวยวายว่าติดต่อไม่ได้ ขอสายจากพี่ชายก็ไม่ได้คุย โทรศัพท์เอาไว้ทับกระดาษรึไง ไม่คิดถึงกันเลยใช่มั้ย แล้วพี่ปูไปไหนทำไมมารับสายเอง บลาๆๆ
" แล้วเรื่องคุณกิตติล่ะ "
" เอ่อ คือ.. "
" ทำไม มีปัญหาอะไร "
" ไม่ครับๆ ทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณกิตติยอมยกเลิกข้อเสนอแล้วและยินดีนำเงินมาชดใช้แทนลูกสาวครับ "
คุณปูนเลิกคิ้วสงสัย คำถามที่ออกมาจากดวงตาคู่นั้นคือผมทำได้ยังไง ใจจริงก็ไม่อยากจะเล่า แต่ถึงขั้นนี้ละ เลยต้องอธิบายให้เจ้าหนี้ฟัง
วันแรกที่คุณปูนนอนอยู่บนเตียง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หน้าจอสี่เหลี่ยมโชว์เบอร์ที่ไม่ได้เมมชื่อ ผมเลยถือวิสาสะรับแทน ปรากฏว่าเป็นว่าที่คนขัดดอกนี่เอง
" สวัสดีค่ะ พี่ปูน อุ๊ป คุณ ปุณณัตต์ พอดีนิกติดน่ะค่ะ "
" สวัสดีครับ ผมเป็นเลขาคุณปุณณัตต์นะครับ พอดีคุณชายไม่สะดวกจะรับสาย คุณกณิกนันต์มีธุระอะไรฝากผมไว้ได้เลยครับ "
" อ้าว คุณยศภัทรเองหรอคะ นิกจะโทรมาบอกว่าตอนนี้นิกอยู่.. "
" คุณเป็นใคร "
เสียงคุ้นหูแทรกเข้ามาในปลายสาย หวังว่าเรื่องมันคงไม่เป็นแบบที่ผมคิดหรอกนะ
" สวัสดีค่ะ พี่ชื่อกณิกนันต์ เรียกพี่นิกก็ได้ หนูต้องเป็นน้องปันแน่ๆ ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีก " คุณนิกคุยกับน้องปันอย่างออกรส แต่ดูจากน้ำเสียงอีกฝ่ายจะไม่เล่นด้วย
" งั้นแค่นี้ก่อนนะคะคุณยศภัทร บอกคุณปุณณัตต์ว่าไม่ต้องห่วง นิกจะดูแลน้องปันเอง มานี่มาเด็กดี พี่สาวซื้อของมาให้เยอะแยะเลยนะ "
ติ๊ด
ผมไม่รู้หรอกครับว่าระหว่างนั้นเกิดอะไรขึ้น รู้แค่วันนี้วันเสาร์น้องปันอยู่บ้าน ทั้งวันผมก็ไม่มีเวลามาติดตามเหตุการณ์ต่อ เพราะยุ่งๆ เริ่มจากกลับไปขนเสื้อผ้าตัวเองและเอกสารของลูกหนี้รายอื่นที่โรงแรมเพื่อมาทำต่อที่โรงพยาบาลและยังต้องจัดการเรื่องกรอกข้อมูลผู้ป่วยอีก
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงหัวค่ำ โทรศัพท์ของเจ้าหนี้ก็ดังอีกครั้ง ถึงมันจะไม่ขึ้นชื่อเหมือนเดิม แต่ผมก็จำเบอร์นี้ได้แม่น
" ฮื่อๆ คุณยศภัทร "
" เกิดอะไรขึ้นครับ คุณกณิกนันต์ "
" น้องปันเขา.. ฮื่อๆ "
" พี่นิกจะรีบไปไหน อยู่เล่นกับปันก่อนสิ ฮี่ๆ "
" ไม่เอาแล้ว เด็กบ้า อย่าเข้ามานะ ฮื่อๆ นิกจะบอกคุณพ่อ นิกจะไม่ยอมขัดดอกให้แล้ว นิกจะกลับบ้าน! "
ติ๊ด
หลังจากคุณนิกตัดสายไป ผมเลยโทรกลับมาไปหายัยตัวแสบ ได้เรื่องว่าคุณนิกกะจะมาทำตัวเป็นว่าที่พี่สะใภ้แสนดี กะทำคะแนนก่อนที่คุณปูนจะกลับ แต่ดันเจอน้องปันเล่นงาน ผมฟังไปก็ไม่รู้จะขำหรือจะสงสารดี
โอ้โห อะไรจะโดนขนาดนั้น เริ่มจากให้อาบน้ำให้ปีใหม่ ผมเพิ่งรู้ว่ายัยเจ๊นั่น(ผมเรียกตามน้องปันนะ)กลัวลูกหมาเข้าไส้ แต่ก็ต้องทนทำเพื่อจะชนะใจน้องปัน พออาบเสร็จก็ให้พาไปวิ่งเล่น เก็บอึเก็บฉี่ ตกบ่ายน้องปันชวนทำขนมก่อนจะให้กินบะหมี่เย็นที่เป็นของโปรดคุณปูนให้หมดอีก
หลังมื้ออาหารก็ชวนเล่นบทสมมติโดยยัยเจ๊เป็นสัตว์ประหลาดแล้วน้องปันเป็นอุลตร้าแมน คุณลองคิดถึงเวลาฮีโร่เหวี่ยงปีศาจออกนอกโลกดูสิ หึหึ ยัยนั่นคงแทบมดลูกหลุด ไม่น่าแปลกหรอกที่จะโทรมาร้องห่มร้องไห้ พร้อมกับขอถอนตัว
บอกแล้วคนบ้านนี้ไม่ธรรมดา ไม่อึดไม่ทนอยู่ด้วยไม่ได้ อีกอย่างการเป็นคนขัดดอกใช่ว่าจะสบาย ดูผมสิกว่าจะมีวันนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง โชคดีตรงที่ผมมีน้องปันคอยให้ท้าย ไม่งั้นคงตายไม่ต่างยัยเจ๊นั่นหรอก
หลังจากเรื่องราวสุดรันทดของยัยเจ๊นิกจบลง คุณปูนก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา กว่าจะยอมให้ผมพาเข้าห้องน้ำได้ก็แทบตาย ไม่รู้จะดื้ออะไรนักหนา รู้ว่าอายแต่ดูสังขาลด้วย ผมไม่ใช่พวกโรคจิตแอบดูนะเห้ย พอคุณปูนเสร็จธุระเบาผมก็พากลับมายังเตียง
" ขอบใจ "
" เมื่อกี้คุณปูนว่าอะไรนะครับ เหมือนผมได้ยินว่า ขอบใจ " แทบไม่เชื่อหู อยู่ๆ เจ้าหนี้มาขอบใจผม ถ้าคิดว่าคนแบบเขาจะยอมรับง่ายๆ ก็ผิดละ ฟอร์มจัด ปากหนักขนาดนั้น แต่มีหรอผมจะดูไม่ออก หลักฐานมันฟ้องไม่เชื่อก็ดูหน้าที่ขึ้นสีจนรามไปถึงใบหูสิ คราวนี้จะรอฟังว่าจะโกหกอะไรอีก
" กูบอกว่า ออกไป หูมึงนี่นะ "
ผมหัวเราะออกมานิดๆ ก่อนจะก้มหัวยักคิ้วให้เจ้าหนี้อย่างคนรู้ทันแล้วเดินออกจากห้อง ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่ทิ้งเขาหรอก ว่าจะออกไปคุยกับหมอพอดีว่าจะให้คุณปูนออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่ ในเมื่อคนไข้ก็ฟื้นมาแผงฤทธิ์ได้แล้ว ลูกหนี้ก็หมดปัญหา เราก็ไม่มีเหตุผลต้องอยู่ต่อ
ที่สำคัญคิดถึงน้องปันจะแย่ละ
( มีต่อ อาจจะไม่ใช่วันนี้นะคะ )