~ เจ้าหนี้หรือสามี บอกผมสิจะเป็นใคร~ [ตอนพิเศษ 4 ต้อนรับวันแม่] |P.39|
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ถ้านิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์สนใจจะสั่งซื้อหรือไม่

แน่นอนอยู่แล้ว ดีงามขนาดนี้
ก็ไม่แน่รอตอนต่อไป
ไม่มีทางได้กินเงินชั้นหรอก

ผู้เขียน หัวข้อ: ~ เจ้าหนี้หรือสามี บอกผมสิจะเป็นใคร~ [ตอนพิเศษ 4 ต้อนรับวันแม่] |P.39|  (อ่าน 336420 ครั้ง)

ออฟไลน์ Blueniie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
การใช้หนี้ครั้งที่ 19 #ผู้ชายในฝัน



" คุณปูน ลองชิมสปาเก็ตตี้สิครับ วันนี้ผมลดหวานตามที่คุณชอบ คิดว่าน่าจะโอเคกว่าเมื่อวาน "

" ไม่กิน! "


" คุณปูนทานมะยงชิดมั้ยครับ เดี๋ยวผมปลอกให้ สดๆ จากต้นเลยลุงเพิ่มเพิ่งไปสอยมาเมื่อเช้า "

" ไม่เอา! "


" คุณปูน เย็นนี้เราไปทานอาหารนอกบ้านกันนะ จะได้ไปซื้อของด้วย ครีมโกนหนวดของคุณใกล้หมดแล้ว "

" ไม่ไป! "


“ คุณปูน ผม.. ”

“ ไม่! ”

" ผมยังไม่ทันพูดเลย ว่าแต่เป็นอะไรอีกล่ะครับ ไอ้นั่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เอา "

" แล้วมึงทำอะไรไว้ล่ะ ! "

" หื้อ? ผมนี่นะ? "

พูดพลางเอานิ้วชี้เข้าหาตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็นิ่งไม่มีท่าทีที่จะตอบ ผมเลยเริ่มสาธยายชีวิตประจำวันให้เขาฟัง

" เมื่อเช้าตื่นมาหลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เข้าครัวไปช่วยน้าอิ่ม หลังจากนั้นก็ไปให้อาหารปีใหม่แล้วพาไปเดินเล่น อ่อ เมื่อกี้เพิ่งเอา…ชุดชั้นในที่คุณกองไว้ไปซักที่ห้อง "

คุณปูนมองหน้าผมอย่างคนหงุดหงิดเมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ก่อนจะเดินหนีขึ้นไปบนห้อง ทำเอาผมที่เพิ่งเดินลงมางงยิ่งกว่าเก่า นี่เขาโกรธอะไรผมอีกเนี่ย ดูท่าจะโมโหมากด้วย ไม่งั้นคงไม่กลับไปใช้สรรพนามเดิมสมัยพ่อขุนแบบนั้นหรอก

จำได้ว่าล่าสุดที่เขาใช้ เป็นตอนที่เขากลับมาจากการเก็บดอกที่ต่างจังหวัดแล้วไม่เจอใครอยู่ที่บ้าน เพราะผมกับน้องปันมาส่งบรีสขึ้นเครื่องไปเรียนต่อ โดยไม่ได้บอกใครไว้ ทำเอาทุกคนในบ้านตามหากันให้วุ่น


แต่นั่น...มันเมื่อ 3 ปีก่อนนะเว้ย!



ก็อกๆ


ผมบอกไปรึยังว่าผมกับคุณปูนนอนห้องเดียวกันแล้ว ก็ตั้งแต่ที่ทำข้อตกลงแลกกับการให้ผมได้กลับไปเรียน ตอนนี้ผมเลยเป็นนิสิตคณะวิศวะชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศด้วยเกรดเฉลี่ยที่..ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพราะอดีตเจ้าหนี้ที่ไม่ยอมให้ผมทำการบ้านของใครนอกจากตัวเขาเอง

แต่เดี๋ยวก่อน...มันเป็นแค่ปีแรกเท่านั้นแหละ เพราะหลังจากนั้นผมก็ยื่นคำขาดว่าถ้ายังทำตัวเหมือนเดิมอีก ผมจะกลับไปนอนที่ห้องตัวเอง เดือดร้อนคนตัวใหญ่ต้องรีบมาง้อและยอมรับข้อตกลงในที่สุด

' เป็นผัวเป็นเมียจะนอนแยกห้องได้ยังไง ถ้าเกิดพี่มีอารมณ์ขึ้นมาจะให้เข้าหาบอสตอนดึก คงรู้สึกเหมือนย่องไปหาเมียน้อยแน่ๆ ไม่เอาหรอก '

‘ ไม่ให้ไปว่างั้น? ’

‘ เมียทั้งคนใครจะปล่อยให้ไปง่ายๆ ’

‘ งั้นตกลงตามนี้ ผมจะอยู่ห้องนี้ต่อ แต่มีข้อแม้ว่าคุณปูนห้ามมารบกวนเวลาอ่านหนังสือของผมเด็ดขาด ’

‘ โอเคๆ ตกลง ยอมทุกอย่าง แต่ว่า...ค่อยเริ่มทำตามพรุ่งนี้นะ วันนี้ไม่ไหวแล้ว ’



คนที่เคยพูดประโยคนั้นด้วยรอยยิ้มและดวงตาเจ้าเล่ห์ บัดนี้ใบหน้าหล่อกลับถูกแทนที่ด้วยความบึงตึงบวกกับแววตาตัดพ้อ คนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ปลายเตียงเมื่อเห็นผมเดินเข้ามาก็รีบหันหลังให้ทันที

...ใครจะไปคิดว่าปีนี้เขาจะอายุครบ 30 ปี ในเมื่ออายุกับการกระทำช่างสวนทางกันเหลือเกิน

" บอสไปทำอะไรให้พี่ปูนโกรธหรอ ไหนหันหน้ามาบอกบอสสิ "

ผมนั่งลงบนเตียงข้างๆ คนขี้งอนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบที่เขาชอบ น่าแปลก ทุกทีมันได้ผล แต่ครั้งนี้ทุกอย่างกลับว่างเปล่า

" ถ้าพี่ปูนไม่บอกแล้วบอสจะรู้ได้ยังไงละ หื้ม? "

พูดพลางจูบหัวไหล่กว้างของเขาไปพลาง จนคนตัวใหญ่ค่อยๆ หันหน้ากลับมา แต่สายตายังแฝงไว้ด้วยความน้อยใจ

" มึงไปคุยกับไอ้กรูปรีทำไม "

" กรูปรี? "

...เดี๋ยวนะ ถึงที่มหาลัยจะมีคนชื่อแปลกๆ เยอะ แต่ผมมั่นใจว่าไม่มีคนชื่อนี้แน่นอน ฟันเฟิร์ม

" ก็ไอ้หมอหน้าจืดที่เคยเป็นเจ้าของไข้กูไง "

" หมอเจ้าของไข้? อ่อ พี่หมอปรีดิ์ "

" มึงยังรักมันอยู่ใช่มั้ย อยากกลับไปหามันมากใช่มั้ย ใช่สิ มันเด็กกว่ากูนี่ หน้าที่การงานดีกว่ากู ถึงหน้าตาและฐานะจะสู้กูไม่ได้ก็เหอะ "

เห้ยยยย อะไรวะ!!


ร้อยวันพันปีไม่เคยพูดถึงพี่หมอ แล้วไหงวันนี้พูดมาเป็นชุด แต่ละเรื่องก็คิดเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว ดูสิหาว่าผมยังรักพี่หมอแล้วอยากกลับไปคบอีก ทั้งๆ ที่ล่าสุดที่ผมคุยกับเขาก็ตอนที่เขาอยู่โรงพยาบาลหลังจากถูกลูกน้องโทนี่กระทืบ

" คุณปูน ” ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพยายามเรียกสติ ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังร้อนผมต้องใจเย็นเข้าไว้ “ ผมว่าคุณกำลังเข้าใจอะไรผิดนะ "

" มึงว่ากูเข้าใจผิดหรอ กูได้ยินมึงคุยกันเต็มสองรูหูขนาดนี้ มึงยังจะแก้ตัวอะไรอีกห๊ะ! "

" ผมนี่นะคุยกับพี่หมอ เมื่อไหร่กัน? "

" เมื่อคืน!! "

" เมื่อคืนผมก็นอนอยู่บนเตียงข้างคุณ แล้วผมจะเอาเวลาไหนไปคุยกับพี่หมอ "

" ในฝันกู !! "


พ่องงงงงงงงงงงง #งองูล้านตัว #ร้องไห้หนักมาก #ร้องเอี้ยหนักกว่า #ผัวงอนเรื่องผู้ชายในฝันหนักที่สุด

สรุปที่ผมโดนมันโกรธ โดนมันเหวี่ยงตลอดทั้งวัน เพราะความฝันบ้าๆ นั่น โอ้ย ยิ่งพูดยิ่งอารมณ์เสีย ไอ้คุณปูนนะไอ้คุณปูน แม่งเอาเรื่องที่ตัวเองจินตนาการขึ้นเองมาด่าผมเป็นตุเป็นตะอยู่ได้ตั้งนานสองนาน นี่ดีนะที่บอกผมเร็ว ถ้าขืนบอกช้ากว่านี้ผมคงกลายเป็นไอ้งั่งที่ต้องคอยง้อคนเจ้าอารมณ์ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด

หึ คอยดูเหอะ ถ้าคิดว่าคนอย่างยศพัทธ์โกรธใครไม่เป็นละก็ คุณจะได้รับรู้รสชาติวันนี้แหละว่าคนอย่างผมโกรธทีนึงจะน่ากลัวได้ขนาดไหน บอกไว้ก่อนนะว่าง้อให้ตายก็ไม่ยอมคืนดีด้วยง่ายๆ แน่ คนแบบนี้ต้องเอาให้เข็ด ทีหลังจะได้ไม่มาโกรธอะไรไม่เข้าเรื่องแบบนี้อีก




" สมมน้ำหน้า "

" ยัยปัน! "

" พี่ปูนอย่ามาขึ้นเสียงนะ ไม่งั้นปันไม่ช่วยจริงๆ ด้วย "

" ขอโทษครับ น้องสาวคนสวย ช่วยพี่ชายคนนี้หน่อยนะ พี่คิดถึงบอสใจจะขาดแล้ว ไม่คุยไม่พอยังเก็บข้าวของย้ายออกจากห้องอีก ”

“ สมควร ตอนนั้นทำอะไรไม่คิด ทีตอนนี้จะมาเรียกร้องเอาอะไร ”

“ โหย ก็ตอนนั้นคนมันหึงนี่หว่า นะๆ ยังไงก็ช่วยพี่หน่อยเหอะ ไม่เห็นแก่หน้าพี่เห็นแก่หน้าหลานที่จะลืมตามาดูโลกก็ยังดี ”

“ ยังๆ ยังจะมาเล่นอีก มันน่าช่วยมั้ยเนี่ย? ”

“ แฮ่ๆ เอางี้ ถ้าทำสำเร็จเดี๋ยวพี่ซื้อกระเป๋าลิ้นวัวรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของ second hand ให้เลย โอเคมั้ย "

" ชิ คิดว่าเอาของแบบนั้นมาล่อแล้วปันจะยอมช่วยง่ายๆ หรอ อยากงี่เง่าเอง ช่วยไม่ได้ กะอีแค่ความฝันจะจริงจังอะไรกันนักกันหนา พี่บอสไม่บอกเลิกพี่ปูนก็ดีแค่ไหนแล้ว! "

" เห้ย มันร้ายแรงถึงขั้นต้องบอกเลิกเลยรึไง พี่ไม่ยอมหรอก ได้พี่แล้วคิดจะทิ้งพี่ไปง่ายๆ ไม่มีทาง "

เสียงสองพี่น้องตระกูลอภิมหาธวัชดังขึ้นมาจากชั้นล่าง ทำเอาผมที่กำลังจะลงไปหาอะไรกินถึงกับต้องยั้งขาตัวเองไว้ที่หัวบันได
สะใจดีเหมือนกันแฮะ

ยิ่งเห็นคนตัวโตยอมลงทุนโดนน้องเล็กของบ้านโขกสับเพื่อจะให้ช่วยง้อผมเนี่ย ตลกชะมัด แต่อีกใจก็แอบสงสารเหมือนกัน ผมไม่ได้พูดกับเขาเลยแถมยังหลบหน้าเขาด้วยการขอลี้ภัยไปอยู่ที่ห้องน้องสาวเขาอีก เรื่องอะไรจะกลับห้องเก่าให้โง่ละครับ เจ้าของบ้านนี้คือใคร ต่อให้ผมล็อคประตูคิดว่าเขาจะไม่มีกุญแจหรอ

นึกย้อนไปตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็พยายามมามากเหมือนกันนะ ไหนจะดอกไม้ ของขวัญ หรือแม้กระทั่งอาหารค่ำสุดพิเศษที่เนรมิตเพื่อให้ผมหายงอน แต่อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น ถ้าหายง่ายๆ เดี๋ยวเขาก็ทำอีก เพราะฉะนั้นผมต้องใจแข็ง ทั้งๆ ที่ความจริงหายตั้งแต่เห็นเขายืนหน้าประตูห้องนอนเมื่อ 3 วันก่อนแล้วก็ตาม

‘ พี่ปูน มานอนอะไรตรงนี้!! ’

เสียงปัณณ์ณิชตะโกนทันทีที่เปิดประตูห้องออก ทำเอาผมที่กำลังแต่งตัวต้องแอบชำเลืองไปมองตาม ภาพที่เห็นก็อยากที่เด็กสาวว่า ชายร่างใหญ่เจ้าของบ้านในชุดนอนมือถือหมอนหนึ่งใบกำลังลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้างงๆ เหมือนคนเพิ่งตื่นอยู่หน้าประตู ถ้าให้เดาจากหลักฐานทั้งหมด คงเป็นไปได้ว่าเขาคงมานอนอยู่ตรงนั้นทั้งคืน เพราะหวังว่าผมจะเปลี่ยนใจกลับไปนอนที่ห้องตามเดิม แต่เปล่าเลยผมเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น

ย้ายออกก็คือย้ายออก

เสียงที่โต๊ะอาหารเริ่มเบาลงและเงียบไปในที่สุดพอดีกับที่สติเริ่มกลับมาจากการท่องอดีต ผมตัดสินใจเดินลงมาภายในห้องครัว เห็นเจ้าบ้านที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ส่งสายตาเป็นหมาหงอยรอคอยความหวังว่าผมจะเหลียวตาไปมองมาให้ ผมเลยแกล้งเดินผ่านไปเปิดตู้เย็นหยิบแอปเปิ้ลเขียวมาไว้ในมือ 1 ลูก เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าปีใหม่วิ่งมาคลอเคลียอยู่ที่ขา ดูท่าคงออเซาะให้อุ้มตามเคย

“ ตั้งแต่ได้แม่ใหม่ก็ลืมแม่เก่าเลยนะ ตั้งแต่พี่บอสย้ายมานอนที่ห้องเจ้าปีใหม่ก็ไม่สนใจปันเลย อ้อนแต่จะให้พี่บอสกอด พี่บอสอุ้มอยู่คนเดียว น้อยใจชะมัด สรุปมันเป็นตัวผู้จริงรึเปล่าเนี่ย ”

ผมหันไปยิ้มหวานให้ปัณณ์ณิชที่บ่นสัตว์เลี้ยงหน้าขนที่รักทีเล่นทีจริง แล้วกลับมาสนใจลูกหมาที่โตเป็นหนุ่มทีบัดนี้มาอยู่ในอ้อมอกผมเป็นทีเรียบร้อยแล้ว

หนักชะมัด หมาหรือหมู ฟร่ะ!

“ น้องปันก็ว่าไป หมามันก็รักพี่เท่ากับน้องปันแหละ เพราะมันรู้ว่าใครรักมัน ไม่ขี้โมโห ไม่โวยวาย ไม่งี่เง่า! ”

ขอเน้นคำสุดท้ายหนักๆ โดยไม่ลืมที่จะส่งหางตาไปจิกคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ยิ่งเห็นแววตาของเด็กขี้อิจฉากำลังอยากลงไปนอนดิ้นก็เกือบจะหลุดขำ จนต้องซุกหน้าลงบนขนนุ่มๆ สีขาวสะอาดของเจ้าอ้วนในมือแทน

ผมรู้ครับว่าคุณปูนเป็นคนขี้หึง ไม่ว่าใครหน้าไหนเข้ามาใกล้ผมเป็นต้องโดนรังสีอำมหิตเล่นงานไปซะทุกราย แม้แต่เจ้าปีใหม่ก็ไม่เว้น แต่ตอนนี้คือผม(แกล้ง)โกรธเขาอยู่ เขาเลยไม่กล้าเหวี่ยงใส่ไม่งั้นจะโดนข้อหาใหม่เพิ่มอีกกระทง

“ พี่รู้ว่าพี่งี่เง่า พี่ขอโทษ บอสเลิกทรมานพี่ แล้วกลับมาอยู่ห้องเราเหมือนเดิมนะครับ ”

“ ไปกันเถอะปีใหม่ กลับขึ้นไป ‘ห้องเรา’ กันเถอะ คืนนี้แม่จะนอนกอดปีใหม่ทั้งคืนเลย ”

กร็อดดดดดดด

คุณปูนผู้ไม่เคยเก็บอาการส่งเสียงกัดฟันดังทันทีที่ผมอุ้มเจ้าปีใหม่เดินผ่านไป แต่ยังไม่ทันที่ขาทั้งสองจะได้ก้าวขึ้นบันได เสียงทุ้มก็รั้งตัวผมไว้เสียก่อน

“ ถ้าหมามันน่ารักขนาดนั้น งั้นพี่ยอมเป็นหมาของบอสก็ได้ บอสจะได้นอนกอดพี่ทั้งคืน ”

ผมยิ้มกว้างจนปากเกือบจะชิดรูหู โชคดีนะว่าตอนนี้หันหลังอยู่ ไม่งั้นแผนแตกกันพอดี ก็ใครจะคิดว่าเจ้าพ่อเงินกู้ผู้ยิ่งใหญ่อิจฉาหมาถึงขั้นจะยอมเป็นหมาซะเอง โอ้ย  ฮาน้ำตาไหล แต่ก็..

น่ารักชะมัด

ไม่ได้ๆ ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะได้รับการให้อภัย อดทนไว้ก่อนยศพัทธ์

“ แน่ใจหรอว่าจะทำ ” ผมรีบหุบยิ้มก่อนจะหันไปพูดกับเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ พี่ทำได้ทุกอย่างนั้นแหละ เพื่อบอส แค่..ไม่สั่งให้พี่ไปคาบลูกบอลมาก็พอ ”

เป็นครั้งแรกเลยนะที่เห็นคุณปูนหง่อได้ขนาดนี้ สงสัยจะรู้สึกผิดจริงๆ หรือไม่ก็อาจจะเริ่มกลัวโดนผมทิ้งตามคำขู่ของน้องสาว
นี่ถ้าจะทิ้ง คงไปตั้งแต่วันแรกแล้วครับ ไม่ทนเก็กหน้าจนตะคริวกินถึง 3 วันหรอก

“ งั้นก็เจอกันพรุ่งนี้ อ่อ เวลาให้อาหารคือ 8 โมง ถ้าเลทอด แล้วก็หมดสิทธิ์ในการไปเดินเล่น เพราะฉะนั้นรู้นะครับว่าควรจะทำยังไง ”

“ แล้วคืนนี้ล่ะ? ”


“ แยก ย้าย  !! ”


( มีต่อด้านล่าง )

ออฟไลน์ Blueniie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
( ต่อจากด้านบน )




เช้าวันรุ่งขึ้น

ผมเข้ามาช่วยน้าอุ่นในครัวเหมือนปกติ แต่สิ่งที่ดูผิดปกติคงไม่พ้นผ้าห่มที่ถูกม้วนเป็นก้อนอยู่บนโซฟา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครอยู่ในนั้น นอกเสียจาก

เอก..อี..เอ้ก..เอ้ก !!

“ 8 โมงตรง ได้เวลาอาหารแล้ว ”

ผมยื่นชามข้าวสีชมพูที่บรรจุอาหารเม็ดให้ปีใหม่ที่นั่งรออยู่ด้านล่างโซฟา ก่อนจะหยิบชามสีขาวอีกใบส่งให้คนที่เพิ่งโหงวหัวขึ้นมานั่งด้วยอาการสลึมสลือ

เห็นน้าอุ่นบอกว่าคุณปูนลงมานอนตรงนี้ตั้งแต่ตี 4 คงกลัวกว่าจะมาสายแล้วอดไปเดินเล่นกับผม เลยมานอนรอตั้งแต่เนิ่นๆ (บางทีก็เนิ่นไป)

ประมุขของบ้านที่เคยตื่นเช้าแม้กระทั่งวันหยุดนักขัตฤกษ์มันเป็นอดีตไปแล้ว ตั้งแต่ผมกลับเข้ามาในบ้านอีกครั้งในฐานะใหม่ที่ไม่ใช่แค่ลูกหนี้ เขาก็ไม่เคยตื่นก่อน 10 โมงอีกเลย ใช่สิ กลางคืนไม่ยอมหลับยอมนอนมัวแต่..เอ่อ ช่างเถอะ พูดไปผมจะโดนหางเลขไปด้วยเปล่าๆ

“ กินเยอะๆ นะ เดี๋ยวจะพาไปจับหนู ”

“ แค่กๆ ”

เสียงคนบนโซฟาสำลักข้าวต้ม สายตาที่ส่งมาไม่บอกก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่

หนู เป็นสิ่งมีชีวิตที่คุณปูนเกลียดที่สุดในโลก ผมก็เพิ่งรู้ไม่นานนี้หรอกครับ พอดีว่าเพื่อนที่มหาวิทยาลัยมันจะไม่อยู่บ้าน 2-3 วัน เลยฝากหนูแก๊สบี้มาให้ผมช่วยเลี้ยง ผมก็เลยเอามาเลี้ยงในห้องนอน พอคุณปูนกลับมาเจอเท่านั้นแหละ บ้านแตก เขาให้เลือกระหว่างจะเอาหนูออกไปทั้งเป็นหรือจะเอาออกไปแบบร่างไร้วิญญาณ ผมเลยต้องแอบไปฝากน้องปันเลี้ยง เลยได้คุณปูนเคยเลี้ยงหนูตอนเด็กแล้วถูกมันกัด ตั้งแต่นั้นมาก็กลัวหนูเข้าไส้ ปฏิกิริยาเลยเป็นแบบที่เห็น

“ ปีใหม่ อิ่มแล้วก็เอาจานไปเก็บ ”

เจ้าปีใหม่กระดิกหางพร้อมกับคาบชามข้าวไปวางไว้ในครัวตามที่ถูกฝึกให้ทำอยู่ทุกวัน มีก็แต่ปีเก่าที่ยังนั่งอึนอยู่กับที่ จนผมต้องส่งสายตาไปกระตุ้น

“ กินเสร็จแล้วก็เอาไปเก็บครับ ”

คนตัวใหญ่กระพริบตาให้ปริบๆ ก่อนจะส่งยิ้มหวานมา แล้วก้มมองสัตว์หน้าขนที่เพิ่งกลับออกมาจากในครัว

“ เอาไปเก็บให้ด้วยสิ ปีศาจ เอ้ย ปีใหม่ ”

ผมรีบแย่งชามมาจากมือคุณปูนก่อนที่ปีใหม่จะเข้าไปงับได้อย่างฉิวเฉียด คนอะไรขี้เกียจแล้วไปใช้หมาทำแทน

“ วันนี้คุณเป็นหมานะ มีศักดิ์เท่ากับเจ้าปีใหม่ เพราะฉะนั้นอะไรที่ปีใหม่ทำ คุณก็ต้องทำ! ”

คนตัวใหญ่ทำหน้าหงอยลุกขึ้นมาหยิบชามคืนไปจากผม แถมยังมีหน้าส่งสายตาอาฆาตไปให้เจ้าปีใหม่ที่กระโดดขึ้นไปนอนบนโซฟาแทนที่เขาอีกแหน่ะ

ดูๆ ดูคนอายุ 30 เขาทำกัน




“ หมาที่ไหนต้องมาขุดดินหาไส้เดือนไปเลี้ยงปลาแบบนี้เนี่ย ”

“ มีสิทธิ์บ่นด้วยหรอ? ”

“ โธ่ บอส นี่พี่ขุดหามาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ร้อนก็ร้อน เหงื่อก็ไหลเข้าตาจนแสบไปหมดแล้วเนี่ย ดูดิ บอสยังโกรธพี่ลงอยู่อีกหรอ พี่ยอมเพื่อบอสขนาดนี้แล้วนะครับ ”

“ ขนาดนี้? คุณเพิ่งขุดเจอไส้เดือนไป 2 ตัวเองนะ รีบๆ หาเต็มกะละมัง เดี๋ยวต้องไปรดน้ำต้นไม้ต่ออีก ”

“ บอสจะใจร้ายกับพี่ไปถึงไหนอ่ะ ให้พี่ไปยืนตากฝนสำนึกผิดทั้งคืนเลยมั้ย ถ้ามันจะทำให้บอสหายโกรธ พี่ก็จะทำ ”

“ งั้นคืนนี้คุณก็ไปยืนนอกบ้านนะครับ ถ้าฝนไม่ตกผมจะเอาสายยางฉีดให้เอง ”

พูดเสร็จต้องรีบเดินหนีก่อนจะหลุดหัวเราะ ปล่อยให้พระเอกก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก ฮ่าๆ จะได้รู้ซะมั้งว่างานที่เขาเคยสั่งให้ผมทำมันหนักขนาดไหน นี่ถือว่าผมปราณีมากแล้วนะ ไม่งั้นคงให้ไปกวาดขยะ ถางหญ้า แล้วก็ปีนเก็บลูกมะพร้าว

อย่ามองผมว่าผมใจร้ายขนาดนั้น

ถ้าผมใจร้ายจริงๆ ป่านนี้เขาคงได้ไปจับหนูแทนที่จะมานั่งหาไส้เดือนแบบนี้แน่ แต่ใครจะกล้าให้ไปจริงล่ะ เกิดหัวใจวายตายขึ้นมาผมก็เป็นหม้ายกันพอดี

แปลกใจใช่มั้ยว่าสมาชิกร่วมชะกรรมกับคุณปูนอยู่ที่ไหน ขอบอกเลยว่ารายนั้นน่าอิจฉาที่สุด เพราะตอนนี้กำลังนอนตีพุงตากแอร์อยู่บนห้องกับยัยปันโน้น



“ โอ้ยยยยยยยย ”

เสียงร้องดังมาจากบริเวณที่ผมเพิ่งเดินจากมา ผมเลยรีบวิ่งกลับไปดู เห็นคุณปูนนอนดิ้นไปดิ้นมาอยู่ที่พื้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนสาด สภาพการณ์มีเสียมที่ใช้ตกอยู่ข้างตัว มือสองข้างกำเข้าหากันแน่นพลางร้องโอดครวญอย่างน่าสงสาร
อย่าบอกนะว่าโดนไส้เดือนกัด

“ คุณปูนๆ เป็นอะไรครับ ส่งมือมาให้ผมดูหน่อย ”

ผมทรุดตัวลงข้างคนตัวใหญ่ที่ทั้งร้องและดิ้นไม่หยุด มือเล็กของผมพยายามจะแกะมือหนาทั้งสองออกเพื่อเช็คว่าเขาได้รับบาดเจ็บตรงไหน แต่ยิ่งแกะคนข้างหน้ายิ่งกำแน่นและร้องเสียงดังหนักกว่าเดิม จนผมหมดความอดทนระเบิดใส่เขาไป

“ ถ้าคุณไม่ให้ผมดูแล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณเจ็บตรงไหน!!! ”

ผมพยายามอีกครั้งในการแงะมือหนาออก ทันทีที่มือข้างหนึ่งของผมคว้ามือใหญ่มาได้ ผมก็พลิกดูฝ่ามือนั้นทั้งหน้าหลังอย่างละเอียดแต่ก็ไม่พบความผิดปกติ นอกจาก

ฟรึ่บ

“ ดีกันแล้วนะ ”

คนตัวใหญ่หาจังหวะจากเหตุการณ์เมื่อครู่ แล้วใช้มือข้างที่ว่างเกี่ยวนิ้วก้อยผมขึ้นมาชูไว้ในระดับสายตา ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ ดีไปคนเดียวสิ เล่นอะไรก็ไม่รู้ ”

“ แต่ชอบใช่มั้ยล่ะ ”

“ อย่ามาขี้ตู่นะ คนขี้โกง คนฉวยโอกาส คน.. อึก ”

เรี่ยวแรงของผมถูกกลืนหายไปพร้อมกับคำพูด ทันทีที่ริมฝีปากผมถูกคนตรงหน้าครอบครอง รสจูบของเขายังคงเร้าร้อนแต่อ่อนหวานและทำให้ผมอ่อนระทวยได้เหมือนทุกครั้ง ผมเผลอจูบตอบเขาครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างคนโหยหาจุมพิตนี้มานานแสนนาน เรียวลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดในโพรงปากจนลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ เราสองคนจูบกันแบบนั้นอยู่นานสองนานจนลืมไปเลยว่าสถานที่ตรงนี้มันคือ สวนหย่อมหน้าบ้าน

“ พ..พอ ”

ผมที่ได้สติผลักไอ้คนเจ้าเล่ห์เต็มแรงแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นอ้อมกอดอันแข็งแกร่งจากเขา

“ หายโกรธรึยัง หื้ม? ”

หน้าผมร้อนวูบเมื่อถูกคนตัวใหญ่สัมผัสที่กกหู ไอร้อนที่เขาพ่นออกมายังคลอเคลียอยู่แถวๆ ซอกคอ จนผมต้องหดคอลงโดยอัตโนมัติ

“ ม..ไม่ ”

คนตัวใหญ่หัวเราะผ่านลำคอ ก่อนจะกลับมากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู ด้วยประโยคที่ผมแทบลงไปนอนดิ้น

“ งั้นก็ดี ถ้าไม่หายโกรธ จะจับกดตรงนี้แหละ ”

“ เห้ย ด..เดี๋ยว ”

“ ว่าไงครับ ”

ผมเกลียดรอยยิ้มแบบนั้น รอยยิ้มของผู้ชนะ รอยยิ้มที่ถูกส่งมาพร้อมสายตาของราชสีห์ที่ได้เหยื่อมาไว้ในกำมือ

“ ตกลงจะหายโกรธพี่ได้รึยัง ”

ผมรีบพยักหน้ารัวๆ ก่อนที่จะกลายเป็นดารา GV จำเป็นต่อหน้ากล้องวงจรปิดทั้งหลาย ผมรู้ครับว่าอีคนที่กึ่งนอนทับตัวผมอยู่เนี่ยมันไม่อาย แต่ผมอาย ถ้าผมตายไปผมจะมีหน้าไปหาม้าบนสวรรค์ได้ยังไง คิดสิคิด

“ พยักหน้าแบบนี้ คืออยากให้พี่ทำเร็วๆ อ่อได้ๆ ”

นั่นไง ความหน้าด้านผสมมโนของมันออกฤทธิ์แล้ว ให้ตายเถอะ ผมคิดถูกคิดผิดที่มีสามีแบบนี้เนี่ย

“ หายโกรธ บอสหายโกรธแล้ว ป..ปล่อยบอสก่อนนะ ”

การได้แกล้งผมอาจจะนำมาซึ่งนิพพานของมันก็เป็นได้ คนตัวใหญ่มองผมด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มไล่ตั้งแต่ใบหน้าเรื่อยลงไปจนถึงปลายเท้า ก่อนจะกลับมามองหน้าอีกครั้ง

“ ปล่อยก็ได้ แต่ต้องไปต่อที่ห้องนะ ”

“ อื้อ ”

ไม่มีเวลาให้ช่างใจอะไรทั้งนั้น ถ้าขืนตอบช้าหรือปฏิเสธ ผมได้เป็นเมียมันตรงนี้อย่างไม่ต้องสงสัย ผมไม่น่ายอมให้มันเป็นหมาเลยจริงๆ อย่างน้อยตอนเป็นคนมันก็ทำกับผมเฉพาะบนเตียง

เราสองคนยืนขึ้นเต็มความสูงปัดเศษดินเศษใบไม้เตรียมจะเดินเข้าบ้าน แต่สายตาของผมก็ดันไปปะทะเข้ากับร่างที่คุ้นตาที่ยืนมองผมอยู่ก่อนแล้วจากทางด้านหลัง


เป็นเขาจริงๆ ไม่ผิดแน่










“ ป๊า!!!!!!!! ”





------------------------------------

TBC


ป๊า กลับมา? << ได้ข่าวว่าอีกตอนเดียวก้จะจบแล้ว จะกลับมาสร้างความวุ่นวายอะไรอีกเนี่ย อยากรุ้ต้องตามลุ้น เพราะคนเขียนก้ลุ้นด้วย ว่าจะแต่งให้จบภายใน 1 ตอนได้รึป่าว รึจะต้องเพิ่มตอนอีก ><

ปล เรารีบลงเพราะเราสัญญาไว้ในเฟส ถ้ามีความผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ล่วงหน้าแล้วเดี๋ยวเราจะรีบมาแก้ให้นะ

ปล2 ขอบคุณทุกๆ คอมเม้นสำหรับตอนที่แล้ว มันเป็นความกล้าบ้าบิ่นที่อยากจะลอง ใส่ ญช ใน นิยายวายเองแหละ ฮ่าๆ เราน้อมรับทุกคำติชมนะ จะได้พัฒนาให้นิยายของเราสมบูรณ์กว่านี้ในอนาคต

ปล3 ไม่ไหวแล้วไปนอนก่อนนะคะ ฝันดีค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
 :laugh: คุณปูนสติสตังไปไหนหมดแล้วครับ เมียคือที่สุดใช่ม๊า...
อ่านไปอิมเมจคุณปูนเด็กลงเรื่อยๆ #หัวเราะหนักมาก #ปวดท้อง

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณปูนขี้มโนมากค่ะ ทำไปได้~ ฝันเองโกรธเองเป็นตุเป็นตะเชียวนะคะ :laugh:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
ช่างมโนแท้คุณปูน

55555555555555555

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :hao7:  ป๊ามาก็ดีจะได้จับมาเคลียร์เลย

พี่ปูนตั้งแต่มีเมียนี่อาการหนักกว่าเก่านะคะ นี่เล่นบทหมาได้ด้วย

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ป๊า!มาทำไม??แต่เขาหยอกกันน่ารักเนาะ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ปูนควรรู้นะว่าใครหย่าย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ padthaiyen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 943
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-2
ปูนมันบ้านะเนี่ย

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
กลับมาทำไมนะป๊า

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ป๊ากลับมาเพื่อ???

ส่วนบรีส อ่านๆดูเป็นผู้หญิงเห็นแก่ตัวมาก หวังตัวเองสบายแลดูไม่ค่อยสนใจอะไรพี่และขี้อ่อย อยากได้ผัวรวยยังไงก็ไม่รู้
ส่วนตัวแล้ว ไม่ค่อยชอบเลย

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
บอส เสร็จ ปูน อีกจนได้ 5555

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ป๊าาาาาาาา
แกจะมาทำม้ายยยยยยย. เหอะ ยังแค้นแทนบอสอยู่นะนิ

ออฟไลน์ sanri

  • เวลาไม่ใช่ตัวพิสูจน์ทุกสิ่งเสมอไป
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-9
อ้าว ป๊าของบอสจะมาอาไยอ่ะ สร้างความวุ่นวายเรอะ  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nongcream

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

ออฟไลน์ Blueniie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
การใช้หนี้ครั้งที่ 20 : สมาชิกใหม่


“ เมื่อกี้ป๊าว่าไงนะ! ”

ผมตะโกนใส่ป๊าอย่างลืมตัว ทันทีที่ฟังป๊าพูดจบ

แผนการพาผมขึ้นห้องของคุณปูนเป็นอันต้องถูกยกเลิกกระทันหัน เมื่อผมขอคุยกับป๊าที่สวนต่อเป็นการส่วนตัว คุณปูนทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจพักใหญ่ แต่ก็ไม่ปฏิเสธเพราะเพิ่งได้รับการอภัยโทษจากคดีเก่าไปหมาดๆ

" แกจะถามฉันอีกกี่สิบรอบ คำตอบมันก็เป็นเหมือนเดิมนั่นแหละ "

" แล้วเราจะทำยังไงกันดี "

รู้สึกประโยคมันคุ้นหูยังไงไม่รู้ เหมือนเหตุการณ์แบบนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

“ อย่าบอกนะว่าจะหนีอีก ”

“ จะหนีไปทำไมล่ะ ในเมื่อตอนนี้ฉันมีฐานะเป็นถึงพ่อตาเจ้าหนี้แล้วนะเว้ย ”

ป๊าพูดพร้อมกับหัวเราะชอบใจ จนผมทนไม่ไหวต้องตะโกนดึงสติของเขากลับ

นี่มันใช่เวลามาพูดเล่นมั้ย?

“ ป๊า!!!!!!! ”

“ อุว๊ะ! แกจะเรียกฉันให้ดังไปถึงสวรรค์ชั้นที่ม้าแกอยู่เลยมั้ย ”

ถ้าเป็นไปได้จริงผมก็อยากจะทำ จะได้ถามม้าด้วยว่าคิดยังไงมาตกลงปลงใจกับป๊าเนี่ย

หรือว่าโดนป๊าทำเสน่ห์? น่าคิดๆ

“ ช่วยฉันหน่อยน่า ฉันหมดปัญญาแล้วจริงๆ ”

“ ก็อยากจะช่วยนะครับ แต่เงินเก็บของผมมันไม่พอ.. ”

พูดยังไม่ทันจบประโยคดี อีกฝ่ายก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน

“ แกก็ยืมผัวแกมาก่อนสิจะยากอะไร เงินแค่นี้ไม่ทำให้ผัวแกเดือดร้อนหรอก ”

“ พูดอะไรแบบนั้นน่ะป๊า ใครได้ยินเข้าเขาจะคิดยังไง ”

“ ใครคิดยังไงฉันไม่รู้ รู้แค่ถ้าผัวแกไม่ให้ยืม ฉันจะไม่ยกแกให้เขา ”   

“ ป๊า!!!!!!!!!!!! ”

ผมโวยวายใส่ผู้เป็นบิดาอีกหน

ไม่ใช่ว่าผมห่วงเรื่องที่เขาจะขัดขวางเรื่องผมกับคุณปูน เพราะเรื่องนั้นมันไม่ได้เป็นปัญหาเท่าเรื่องที่เขาสร้างตอนบินไปต่างประเทศหรอก

ช่างเลือกที่ทางทำมาหากินซะด้วยซิ

มาเก๊า

แหล่งเงินทุนชั้นดี? ป๊ากล่าวเช่นนั้น

ซึ่งผมก็คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะป๊าใช้เงินก้อนสุดท้ายที่ได้จากการยืมเงินของไอ้เหี้ยอิฐ(เลิกนับญาติกันไปตั้งแต่โศกนาฏกรรมครั้งก่อน) ไปที่นั่นเพื่อทำให้มันงอกเงย ถึงขนาดที่ว่าชีวิตเหมือนได้เกิดใหม่ อยู่อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องทำงานทำการอย่างอื่นนอกจากเข้าบ่อนตั้ง 3 ปีกว่า

แต่ขึ้นชื่อว่า ‘การพนัน’ มีได้ก็ย่อมมีเสีย และการศูนย์เสียครั้งล่าสุด ก็เล่นเอาป๊าผมพลิกผลันกลับมาเป็นผู้ชายที่มีหนี้ท่วมหัวอีกครั้ง

และครั้งนี้มันมากกว่าครั้งก่อนหลายเท่าตัวนัก

“ สรุปว่าไงแกจะช่วยหรือไม่ช่วย ถ้าไม่ ฉันจะส่งบรีสไปขัดดอก ”

“ ป๊า! เลิกใช้วิธีแบบนั้นซักทีเถอะ พวกเราเป็นลูกนะครับ ไม่ใช่สิ่งของที่จะเอาไปขายหรือเอาไปทิ้งได้เมื่อไม่ต้องการ ”

“ ... ”

“ ตอนนี้ผมส่งน้องไปเรียนต่อที่เมืองนอกเพื่อน้องจะได้มีอนาคตที่ดี เพราะฉะนั้นอย่าดึงน้องกลับมา ส่วนเรื่องทั้งหมดผมจะจัดการเอง แต่ป๊าต้องสาบานต่อหน้าหลุมศพม้าว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการพนันทุกชนิดและตั้งใจทำงานสุจริต แล้วเราจะเอาเงินพวกนี้ไปใช้หนี้กันนะ ”

“ แกก็ยืมเงินผัวแกมาซะก็หมดเรื่อง ” ป๊ายังคงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไร้วี่แววคนสำนึกผิด จนผมหมดความอดทนขึ้นเสียงใส่ป๊าอีกครั้ง เจอหน้ากันในรอบ 3 ปีแท้ๆ ตกนรกไปกี่ขุมแล้วเนี่ยยศพัทธ์

“ นี่ป๊ายังไม่สำนึกอีกหรอครับว่าตัวเองผิด ที่ครอบครัวเราต้องแตกแยก ที่ป๊าต้องหนีหัวซุกหัวซุนแบบนี้มันเป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะการเป็นหนี้ ”

ผมสูดหายใจเข้าจนเต็มปอดเพื่อระงับสติอารมณ์ไม่ให้เกรี้ยวกราดใส่ผู้เป็นบิดาไปมากกว่านี้

“ และเรื่องนี้ห้ามรู้ถึงหูคุณปูนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นความเป็นพ่อลูกของเราได้จบลงแน่ ”

อโหสิให้ผมด้วยนะครับ ที่ต้องพูดจาร้ายกาจก็แค่อยากให้ป๊าเลิกเล่นการพนัน เลิกสร้างหนี้สักที ผมรู้ครับถ้าคุณปูนรู้เรื่องเข้า เขาพร้อมที่จะเซ็นเช็คให้โดยไม่ถามจำนวนเงินแน่นอน แต่ผมจะทำแบบนั้นได้ยังไง แค่หนี้เก่าๆ รวมถึงที่โทนี่เคยใช้แทนป๊าเมื่อ 3 ปีก่อนนั่นด้วย ผมก็รบกวรเขามามากพอแล้ว

ลำพังเงินเดือนผมที่ได้รับจากงานเลขามันยังไม่ได้เสี้ยวกับหนี้ที่ป๊าสร้างเลยแม้แต่น้อย แล้วผมยังจะมีหน้าไปขอเงินคุณปูนเพิ่มสำหรับหนี้ก้อนใหม่อีกหรอ ไม่มีทาง

เอาเถอะ ไหนๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาแล้ว อีกอย่างคนที่เดือดร้อนก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็นบิดาผู้ให้ชีวิตและยังเลี้ยงผมมาจนเติบใหญ่ ถึงจะไม่เต็มใจแต่ผมก็ไม่อาจจะอกตัญญูไม่เหลียวแลเขาได้ ยังไงซะผมก็ต้องช่วยเขาให้ถึงที่สุด

“ ป๊าพักในนี้ไปก่อนนะ แล้วห้ามออกจากห้องจนกว่าผมจะอนุญาต ”

ผมพาป๊าขึ้นมายังห้องนอนเก่าที่ผมเคยใช้ครั้งเมื่อเดินเข้าบ้านอภิมหาธวัชเป็นครั้งแรก ถึงผมจะอาศัยอยู่ในฐานะนายหญิงของบ้านตามที่คุณปูนเคยพูด แต่ผมก็ไม่เคยใช้อำนาจใดๆ เกินเลยหน้าที่เลขาที่ได้รับ เพราะฉะนั้นการจะเปิดห้องใหม่โดยไม่ได้ขออนุญาตจากผู้เป็นเจ้าบ้านตัวจริงคงเป็นการไม่สมควร อีกอย่างห้องเก่าผมมันก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร เทียบไม่ติดฝุ่นกับตอนที่ป๊าเคยนอนข้างถนนเลยซักนิด

ก็อกๆ

“ อ้าว บอส คุยกับพ่อเสร็จแล้วหรอ ”

คนตัวใหญ่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงพร้อมทำท่าบิดขี้เกียจ สงสัยจะนอนรอผมจนเผลอหลับขึ้นมาจริงๆ

“ เป็นอะไรรึเปล่า น่าเครียดเชียว มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกได้นะไม่ต้องเกรงใจ ”

ผมยังยืนนิ่งไม่กล้าสบตาเขาเช่นเคย รู้สึกเกลียดสถานการณ์แบบนี้ชะมัด อีกฝ่ายคงรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ เลยเดินเข้ามาหาก่อนจะพาผมไปนั่งคุยที่ปลายเตียง

“ ว่าไง หื้ม? ”

“ ผมขอให้ป๊ามาอยู่บ้านเราสักพักได้มั้ยครับ ”

“ ไม่ได้! ”

“ ต..แต่ว่าป๊า.. ”

ยังไม่ทันที่คำพูดมากมายจะถูกถ่ายทอดออกมา น้ำเสียงทั้งหมดก็ถูกริมฝีปากสีเชอร์รี่กลืนกินอย่างไม่ทันตั้งตัว

ริมฝีปากที่แตะกันเพียงไม่ถึงวินาที เป็นการบอกให้รู้ถึงเจตนาของผู้กระทำ

ว่านี่เป็นเพียงบทลงโทษเท่านั้น

“ เลิกพูดจาห่างเหินแบบนั้นกับพี่ตอนเราอยู่กันสองต่อสองได้มั้ย ถ้าขืนยังพูดอีก ครั้งหน้าไม่หยุดแค่จูบแน่ ”

รอยยิ้มเล็กๆ ผุดบนใบหน้าของผู้คาดโทษ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติผมคงจะทุบอกเขาด้วยความขวยเขิน แต่ในเวลานี้ผมคงทำได้ก้มหน้าจนคางชิดอก ความรู้สึกมากมายเริ่มตีรวนอยู่ภายใน

“ ที่ทำหน้าเครียดนี่กลัวพี่ไม่ให้พ่อเราอยู่ในบ้านด้วยหรือไง พี่ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้นนะ อีกอย่างเราเองก็เป็นถึงนายหญิงของบ้าน พี่เคยบอกแล้วใช่มั้ย เรามีสิทธิ์ในบ้านนี้ไม่ต่างจากพี่ ”

“ ต..แต่ว่า ”

“ ไม่ต้องแต่อะไรทั้งนั้น เดี๋ยวพี่บอกน้าอุ่นให้จัดห้องให้พ่อเราเอง พ่อตาทั้งคนทำไมจะเลี้ยงไม่ได้ ”

ผมเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลานั้นก่อนจะโผเข้ากอดเขาไว้แน่น ทั้งแทนคำขอบคุณและแทนความรู้สึกผิดที่ทำให้ต้องเดือดร้อน คนถูกกอดกะทันหันเมื่อตั้งตัวได้ก็ใช้มือหนาลูบหัวผมเบาๆ อย่างเอ็นดู

“ บอสมีอีกเรื่องที่อยากจะขอ ”

พูดทั้งๆ ที่ยังคงกอดเขาอยู่ เพราะว่าผมขี้ขลาดเกินกว่าจะเผชิญหน้ากับสายตาคมคู่นั้น

“ ว่ามาซิ พี่ให้บอสได้ทุกอย่างแหละ ”

“ บอสอยากให้ป๊าทำงานที่บ้านเรา งานอะไรก็ได้ คนสวนหรือคนขับรถก็ได้ นะครับนะ ”

“ อืมมมม ถ้าบอสทำให้พี่มีความสุขพี่อาจจะตอบตกลง ”

ผมเงยหน้ามองคนตัวใหญ่ที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ ที่เขาว่ากันว่าในสมองผู้ชายคิดแต่เรื่องอย่างว่าทุกนาทีคงจะเป็นเรื่องจริง ยิ่งกับคนตรงหน้าผมว่าเขาคิดทุกวินาทีซะด้วยซ้ำ

“ ตกลงครับ บอสจะทำให้พี่ปูนมีความสุขที่สุดเลย ให้สมกับที่ปล่อยให้พี่ปูนนอนคนเดียวมา 3 คืน ”

“ ให้ได้อย่างนี้สิ เด็กดีของพี่ ”

-------------------------------

วันถัดมา

“ เจ้าหนี้ป๊าเขาจะมาเก็บดอกอีกทีเมื่อไหร่ครับ ”

ผมถามผู้เป็นบิดาในขณะที่ช่วยเขาตัดแต่งกิ่งต้นเฟื่องฟ้าอยู่ในสวน

ใช่แล้วครับ ตอนนี้ป๊าผมอาศัยอยู่ในบ้านฐานะคนสวน ที่ได้รับอัตราค่าจ้างเท่าคนงานทั่วไป แต่มีสิทธิ์นอนบนเรือน(ห้องเก่าผม) และได้ร่วมรับประทานอาหารบนโต๊ะกับเจ้าของบ้านทุกมื้อ

ข้อตกลงดังกล่าวเป็นการเจอกันครึ่งทางระหว่างผมและเจ้าของบ้าน ที่ต้องใช้ร่างกายคุยกันแทบตายกว่าคนตัวใหญ่จะยอมรับเงื่อนไข

‘ บอสจะให้พ่อไปนอนห้องนั้นทำไม แคบก็แคบ ที่นอนก็ไม่สบาย ตอนบรีสก็ทีนึงแล้วนะ บ้านเราออกจะใหญ่โต เหลือห้องให้พ่อเรานอนอีกตั้งเยอะ ’

‘ ไม่ได้หรอกครับ แค่นี้บอสก็เอาเปรียบพี่ปูนจะแย่แล้ว อีกอย่างบอสอยากดัดนิสัยป๊าและอยากทำให้เขารู้ด้วยว่าเงินไม่ได้หามาได้ง่ายๆ การมาอยู่บ้านนี้ก็เช่นกัน ถ้าอยากอยู่ต่อก็ต้องทำงาน พี่ปูนก็อย่าใจอ่อนเด็ดขาด ห้ามคิดว่าเขาเป็นป๊าของบอสแล้วจะมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่น ถ้ารู้ว่าแอบช่วยกันลับหลังละก็ บอสจะเก็บเสื้อผ้าพาป๊ากลับไปอยู่บ้าน ’

‘ โอเคๆ พี่ยอมแล้วจ๊ะเมียจ๋า ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้นแหละ อยู่ที่นี่ด้วยกันให้หมด คราวก่อนที่บอสงอนแล้วหนีไปอยู่ห้องยัยปันพี่ก็ใจจะขาดแล้ว เพราะฉะนั้นห้ามไปไหนอีกนะครับ ’

‘ … ’

‘ แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อที่บอสห้ามปฏิเสธ ’

‘ อะไรครับ? ’

‘ ให้พ่อบอสทานข้าวพร้อมพวกเรา อย่างน้อยก็ให้พี่ได้ดูแลท่านในฐานะลูกเขยบ้างเถอะ ’
[/corlor]


“ วันมะรืน ”

“ ค..ครับ? ”

ผมหันไปถามป๊าด้วยความสงสัย หลังจากที่มัวคิดเรื่องอื่นจนลืมไปว่าก่อนหน้านี้พูดถึงเรื่องอะไรกันอยู่ ป๊าก็คงสังเกตเห็นว่าใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องท้าวความกันยืดยาว

“ เจ้าหนี้ฉันบอกว่าจะมาถึงเมืองไทยวันมะรืน ส่วนสถานที่จะนัดอีกที แต่ถ้าหนี ตาย! ”

โหดจังแหะ

“ แล้วเขาบอกรึเปล่าครับว่าถ้าไม่มีจ่ายจะโดนอะไร ”

“ ตาย! ”

เอิ่ม หนีก็ไม่รอด ไม่มีจ่ายก็ยังไม่รอด ทำไมมันมีค่าเท่ากันเลยวะครับ ชักอยากจะขอร้องคุณปูนให้ใช้หนี้แทนให้แล้วซิ แต่ไม่ได้ๆ ผมก็มีศักดิ์ศรีของผม หนี้ที่ป๊าก่อ ผมเป็นลูกก็ต้องรับผิดชอบ จะโยนให้คนอื่นมาชดใช้แทนไม่ได้เด็ดขาด

“ โอเคครับ เรื่องเงินค่าดอกเบี้ยงวดแรกไม่ต้องห่วง เงินเก็บของผมยังพอมีอยู่ ว่าแต่แล้วงวดต่อไปละครับ เขาจะนัดจ่ายเมื่อไหร่ ”

“ วันถัดไป ”

ห๊ะ!

ด้วยความตกใจผมเลยทำกรรไกรตัดกิ่งหลุดจากมือ จากองศาที่ปลายกรรไกรทำมุม 180 องศากับเท้าผม สุดท้ายมันก็เกิดการกระทบกันเข้าอย่างจัง จนถึงกับต้องร้องโอดโอยไปนอนดิ้นอยู่ที่พื้น

“ โอ้ยยยยย ”

“ ซุ่มซ่ามชะมัดเป็นยังไงบ้าง เห้ย เลือดไหลเยอะเลยนะนั่น มาๆ ลุกไหวมั้ย เดี๋ยวฉันช่วยพาไปทำแผลในบ้าน ”

“ ป๊าอย่าบอกนะว่าเขาจะมาเก็บดอกป๊าเป็นรายวัน เห้ย! ป๊าไม่ตลก เงินตั้งหลายแสนแล้วเราจะไปหาจากที่ไหน ”
ผมนั่งทึ้งหัวตัวเองไม่ยอมลุกตามแรงฉุดของผู้เป็นพ่อ เขาก็คงหมดความอดทนจนเลิกพยายามแล้วเปลี่ยนมาตะคอกใส่ผมแทน

“ ถ้าฉันหาเองได้แล้วจะมาให้แกช่วยมั้ย!! ”

“ ให้ช่วยอะไรหรอครับ? ”

“ พี่ปูน/คุณปูน!! ”

“ ว่าไง? ”

คนตัวใหญ่ที่มาไม่ให้ซุ้มให้เสียงยืนกอดอกมองผมสลับกับป๊าด้วยสายตาจับผิด ทำเอาเหงื่อเม็ดเป้งผุดขึ้นเต็มหน้าผาก ถ้าขืนนั่งนานกว่านี้คงใช้รดน้ำต้นไม้แทนสายยางได้สบายเลย

“ ค..คือผม.. ”

“ คือตาบอสเจ็บขาน่ะครับ แล้วฉันกำลังจะช่วยมัน แต่มันดันเล่นตัวไม่ยอมให้ช่วย ก็เลย.. ”

“ บอสบาดเจ็บ ตั้งเมื่อไหร่? ตรงไหน? เห้ย! เลือด! ”

…ผมว่าคนที่เจ็บหนักที่สุดตอนนี้น่าจะเป็นป๊านะ แถซะสีข้างถลอกเชียว คุณปูนนี่ก็อีกคนทำเป็นตกอกตกใจแผลเท่าไข่แมลงวัน (จริงๆ ก็ไม่ได้เล็กขนาดนั้นหรอก แต่ก็ไม่ถึงกับเลือดสาดกระจายแบบที่ทุกคนทำหน้าตกใจ)

“ ผมเดินเองได้ครับ ”

“ ยังจะมาอวดเก่งอีก นี่แน๊ะ ”

“ โอ้ย ”

คนตัวใหญ่ตรงดิ่งเข้ามาอุ้มผมในท่าเจ้าสาว แต่เมื่อผมขัดขืนเลยถูกฝ่ามือพิฆาตเขกมะเหงกไปหนึ่งที สุดท้ายเลยตรงยอมแต่โดยดี

ป๊าที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่อมยิ้มเล็กๆ ก่อนจะทำหน้าเป็นห่วงผมออกหน้าออกตายามที่คุณปูนมองไป

“ ไม่ต้องห่วงนะครับพ่อ ผมจะดูแลลูกชายพ่อเอง ”

“ ฝากเจ้าบอสด้วยนะลูก พ่อมีลูกชายคนเดียวยังไงก็ดูแลกันดีๆ นะ พ่อเป็นห่วงบอส กระซิกๆ ”

สองคนนี้ก็สนิทกันเร็วเกินไปป่ะ เป็นพ่อลูกกันตั้งแต่ชาติไหน ดูซิ พูดจากันซะหวานหูชวนขนลุก ทีเวลาคุยกับลูกแท้ๆ ไม่เห็นพูดแบบนี้มั่งล่ะป๊า แล้วแอคติ้งบีบน้ำตานั่นคืออะไร เอารางวัลตุ๊กตายางป่ะ
ใช่สิ ลูกชายคนเดียว อีกคนเป็นลูกสาวหนิ หึ้ย น่าหมั้นไส้

...รู้สึกเหมือนตัวเองจะหงุดหงิดอย่างกับคนประจำเดือนไม่มา เอ๊ะ หรือว่า ผมท้อง? จะบ้าหร๋า! ผมไม่มีมดลูกเว้ยเห้ย!

(มีต่อด้านล่าง)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2015 23:48:34 โดย Blueniie »

ออฟไลน์ Blueniie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-0
(ต่อจากด้านบน)

ย้ายสถานที่จากในสวนมายังเตียงคิงไซส์

“ เจ็บมั้ย ”

“ กลัวบอสเจ็บก็เบาๆ ซิครับ ”

“ ถ้าไม่อยากเจ็บก็อย่าเกร็งสิ ”

“ โอ้ย บอสว่าบอสทำเองดีกว่า ”

“ บอสทำเองมันจะไปถนัดตรงไหน อย่าดื้อสิ มาพี่ทำให้ รับรองครั้งนี้ไม่เจ็บ ”

“ พี่ปูนก็พูดแบบนี้ตลอด สุดท้ายก็เจ็บอยู่ดี ”

คนตัวใหญ่หยุดมือที่กำลังทายาที่แผลผมก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

อย่าบอกนะว่าเพราะประโยคเมื่อกี้?

“ ที่ว่าพี่พูดตลอด พี่พูดตอนไหนหรอครับ ”

เจอแบบนี้ก็ไปไม่ถูกสิ เอาไงดี

“ ว่าไง หื้ม? ”

ผมเคยบอกหรือยังว่าผมเกลียดสายตาเจ้าเล่ห์ของเขาที่สุด ยิ่งเวลาคาดคั้นจะเอาคำตอบยิ่งทำให้ผมจนมุมจนแทบอยากจะสลายร่างกลายเป็นผุยผง แต่ในเมื่อทำไม่ได้ ก็ขอแถตามป๊าบ้างละกัน

“ เรื่องงานพรุ่งนี้ พี่ปูนเตรียมของขวัญให้น้องปันรึยังครับ ”

“ เปลี่ยนเรื่องเฉย เฮ้อ ” คนตัวใหญ่แกล้งถอนหายใจพลางติดผ้าก็อซที่แผล ก่อนจะตอบคำถามอย่างไม่มีทางเลือก “ ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะซื้อแพ็กเก็จทัวร์ยุโรปหรือว่าจะซื้อมินิคูเปอร์ให้ดี บอสว่าไงล่ะ ”

“ ผมว่าซื้อครัวใหม่ให้น้องก็ดีนะครับ ครัวเก่าเริ่มจะเละละ ”

“ ไม่มีทาง ถ้าทำแบบนั้นมีหวังโดนฆาตกรรมหมู่กันทั้งบ้านแน่ เข้าครัวมาตั้งหลายปี ทำไมรสชาติมันถึงเหมือนเดิม สอนกันยังไงเนี่ย ”

พูดพลางขยับเข้ามาใกล้จนปลายจมูกของเราชนกัน น้ำเสียงคนพูดดูคล้ายตำหนิแต่สายตากลับสวนทาง ดวงตาคมที่มองมาเลื่อนต่ำลงไปเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ริมฝีปาก

“ สู้บอสก็ไม่ได้ สอนครั้งเดียวก็รู้งานเลย ”

“ ทะลึ่ง! ”

พูดจบก็ได้ตีอกชกลมไปเมื่อคนตัวใหญ่รวบมือเล็กๆ ของผมได้ทัน ก่อนจะจ้องมาที่ตาผมด้วยสายตาจริงจังไม่มีท่าทีขี้เล่นเหมือนก่อน

“ บอส เรื่องหนี้ของพ่อเราพี่จะจัดการให้เอง ไม่ต้องห่วงนะ ”

“ พ..พี่ปูนรู้? ป๊าบอกใช่มั้ย บอสจะไปหาป๊า! ”

ผมสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมพร้อมกับจะลุกขึ้นเตรียมจะเดินไป แต่ก็โดนอีกฝ่ายรั้งให้กลับมานั่งที่เตียงดังเดิมแต่เปลี่ยนท่าใหม่ เป็นผมนั่งอยู่บนตักหนาไม่สามารถหนีออกไปได้เพราะโดนแขนแกร่งทั้งสองข้างของอีกฝ่ายโอบล้อมรอบตัว ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียที่ใบหูเพื่อกระซิบตอบทุกคำถาม

“ พ่อไม่ได้บอกอะไรพี่ แต่ท่าทีของบอสต่างหากที่บอกว่ากำลังโกหก พี่รู้จักบอสมานานแล้วนะ เรื่องแค่นี้ทำไมจะดูไม่ออก ”
อึ้งสิครับ ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าผมจะทำตัวมีพิรุธขนาดโดนจับได้ แต่ก็อย่างที่เขาว่านั่นแหละ ถ้ากลับกันเป็นคุณปูนโกหกผม มีหรือที่ผมจะดูไม่ออก

“ เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับพี่บอกก็รู้ ”

“ แต่.. ”

“ ฟังพี่ให้จบก่อน ”

คุณปูนจับผมพลิกให้หันไปเผชิญหน้ากับเขา แต่ยังคงนั่งอยู่บนตักนั่นเหมือนเดิม

“ บอสเป็นคนรักของพี่ ของๆ พี่ก็เหมือนของๆ บอส ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ หรือว่าเงินทอง บอสอยากจะใช้เมื่อไหร่ก็เอาไปได้เลยพี่ไม่เคยว่า พี่ไม่อยากให้เรามามัวเกรงใจแล้วทำเหมือนพี่เป็นคนอื่น ”

“ … ”

“ บอสรักยัยปันมั้ย ”

ผมเงยหน้าขึ้นมาสบตาคุณปูนอีกครั้งหลังจากที่โดนเอ็ดจนคางชิดอก ก่อนจะเงยหน้ามาตอบคำถามล่าสุดโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการคิดให้เสียเวลา

“ รักสิครับ รักเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองเลย ”

“ พี่ก็รักบรีส รักพ่อบอสเหมือนคนในครอบครัวเช่นกัน เพราะฉะนั้นเมื่อครอบครัวของคนที่เรารักเดือดร้อนเราจะนิ่งดูดายได้ยังไง เว้นเสียแต่ว่า...บอสไม่ได้รักพี่ ”

สายตาคมเปลี่ยนเป็นเศร้าสอยในทันที คุณปูนไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อเรียกคะแนนสงสาร หากแต่เป็นความรู้สึกลึกๆ ที่ติดอยู่ในใจตลอดระยะเวลาที่คบกัน

เพราะผมไม่เคยพูดคำว่า ‘รัก’ กับเขาเลย

“ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ ผม... ”

“ บอสไม่ต้องรีบพูดก็ได้ ถ้าบอสยังไม่พร้อม พี่บอกแล้วว่าพี่จะรอ รอฟังคำว่ารักที่ออกมาจากหัวใจของบอส ”

“ พี่ปูน ”

ผมโผเข้ากอดคุณปูนแน่น ซบหน้าลงบนไหล่กว้างแล้วร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ

ที่ยังไม่พูดไม่ใช่ว่าไม่รัก แต่ด้วยบางครั้งโอกาสก็ไม่เอื้ออำนวย และคิดว่าไม่เป็นไร คำๆ นั้นบอกเมื่อไหร่ก็ได้ ใช้การกระทำบอกในทุกๆ วันแทนก็คงพอ

,,แต่ลืมคิดไปว่าเวลามันไม่เคยพอ,,

คุณปูนกอดผมจนผมหยุดร้องไห้โดยไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปกว่าจูบซับน้ำตาที่ข้างแก้ม ก่อนจะพาผมไปล้างหน้าล้างตาและลงไปทานอาหารเย็น และขึ้นมาอาบน้ำนอน

คืนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งคืนที่เราสองคนต่างหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน โดยไม่มีเรื่องอื่นใดเข้ามาเกี่ยวนอกจาก
‘ความรัก’
ที่บอกผ่านกันผ่านภาษากาย


วันนี้คฤหาสน์อภิมหาธนวัชรมีงานเลี้ยง ฉลองการจบไฮส์สคูลของเด็กสาวคนเล็กของบ้าน

ผมเลยต้องแยกร่างทั้งช่วยน้าอุ่นเตรียมอาหาร ช่วยป๊าจัดแต่งสวน ก่อนจะไปแต่งตัวด้วยชุดสูทสีเทามาช่วยคุณปูนดูแลความเรียบร้อยของงาน

จริงๆ น้องปันจะให้ผมสวมชุดเจ้าหญิงเป็นเพื่อนเธอ แต่เจ้าปีใหม่ดันไปงับชุดผมเล่นจนขาด ผมเลยรอดตัวอย่างหวุดหวิด
งานเลี้ยงเป็นไปด้วยความเรียบง่าย ตามสไตล์งานเล็กๆ ในครอบครัว ทำให้การตระเตรียมไม่ยุ่งยากมากนัก แต่ขึ้นชื่อว่าปุณณัตต์ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ก็สามารถนำมาเป็นประเด็นได้ทุกที

" ทำไมต้องเชิญมันมาด้วย อยากเจอกันนักรึไง "

" มันไหนครับ? "

" ก็ไอ้หมอนั่นไง เป็นคนนอกแท้ๆ ยังสะเอ๊อะมางานครอบครัวคนอื่นอีก "

ผมมองตามสายตาของคุณปูนไปปะทะกับชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไม่คุ้นตาที่กำลังหันหลังคุยกับปัณณ์ณิชอยู่

น้องปันคงเห็นว่าผมมองไป เลยสะกิดชายคนนั้นให้หันมาทางที่ๆ ผมยืน

รอยยิ้มอบอุ่นที่แสนคุ้นเคยฉายชัดบนใบหน้าที่คุ้นชิน

..โทนี่..

สมกับมีเชื้อสายทางยุโรปจริงๆ ภายในเวลาแค่ไม่กี่ปีดูเหมือนจะสูงขึ้นอีกเกือบ 20 เซน หน้าตาก็ดูคมขึ้นจากหนุ่มน้อยโทนี่ในวันนั้น กลายเป็นคุณชายโทนี่หล่อเฟี้ยวโดยสมบูรณ์ในวันนี้ ไม่อยากจะคิดถึงวันที่เขาก้าวเข้าสู่รั้วมหา'ลัย คงหนีไม่พ้นตำแหน่งเดือนคณะที่ใครๆ ต่างพากันหลงใหล ดีไม่ดีคงได้เป็นถึงเดือนมหาวิทยาลัยประจำปีการศึกษานี้ก็เป็นได้

" บอส! "

" ค...ครับ? "

" มองตาไม่กระพริบแบบนั้นหมายความว่าไง นี่อย่าบอกนะว่า.. "

ผมหลุดขำพร้อมกับส่ายหน้าน้อยๆ ให้สามีจอมขี้หึง ก่อนจะพูดตัดประโยคของคนที่ชอบคิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะ

" พี่ปูน โทนี่เป็นเพื่อนบอสนะครับ อีกอย่างเราก็ไม่ได้เจอกันมาตั้งหลายปี ถ้าบอสคิดกับโทนี่เกินคำว่าเพื่อน บอสไม่อยู่กับพี่มาจนวันนี้หรอก "

คนฟังมีสีหน้าอ่อนลง แต่ก็ยังมีแววตาไม่พอใจอยู่เล็กๆ คงเป็นเพราะคำๆ นั้น ที่ผมยังไม่ได้พูดไป ผมยิ้มให้เขาแทนเพื่อส่งสานส์บางอย่าง ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะไปถึงเขาหรือไม่

ผมจะบอกประโยคที่เขาอยากฟังที่สุด วันนี้

งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยมีคุณพิทรับหน้าที่เป็นพิธีกรอย่างเช่นทุกครั้ง งานนี้พิเศษสุดตรงที่มีการแสดงโชว์จากป๊าผมเพิ่มเข้ามา

คุณพิทคิดผิดแล้วละที่ยกไมค์ให้ป๊า เพราะคนอย่างป๊าเสียงไม่หมดไม่มีทางเลิก!

" พ่อบอสร้องเพลงเพราะนะ "

ประโยคแรกที่โทนี่พูดกับผมในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้คุยกันตั้งนานแอบเขินๆ เหมือนกันแหะ ยิ่งตอนอยู่กันสองต่อสองแบบนี้ยิ่งทำตัวไม่ถูก

เหตุผลที่คุณปูนยอมทิ้งผมไว้กับโทนี่ตามลำพังจะเป็นอะไรได้อีกนอกจาก น้องสาวบังเกิดเกล้าที่ถูลู่ถูกังลากพี่ชายไปตักอาหารที่มุมอีกด้านนึง ผมเห็นนะว่าน้องปันแอบส่งสายตาให้โทนี่ คงไม่พ้นวางแผนกันไว้อีกตามเคย แต่ก็ดีแล้วล่ะครับ ผมก็อยากคุยกับมันเหมือนกัน ตอนคุณปูนอยู่คุยไม่ได้ อึดอัดจะแย่

“ เพราะ? ฟังออกรึไงถึงได้พูดว่าเพราะ ”

โทนี่ไม่ตอบเพียงแต่หัวเราะเล็กๆ ออกมา ก่อนจะหาเรื่องคุยใหม่แต่ยังอยู่ในหัวข้อเดิม

“ ดูท่าทางบ้านบอสจะชอบเพลงนี้นะ ”

ผมพยายามตั้งใจฟังเสียงป๊าที่กำลังแหกปากแข่งกับเสียงดนตรี ไม่รู้ว่าดนตรีเล่นไม่ดีหรือป๊าผมร้องไม่ได้เรื่องกันแน่ ก็กว่าผมจะแกะเนื้อร้องได้เล่นเอาสมองแทบระเบิด

“ อ่อ เพลงเป็นโสดทำไม เพลงหากินจีบหญิงของป๊าน่ะ แกชอบเอาไปร้องแซวแม่ค้าในตลาดหวังจะได้ส่วนลด แต่ก็ไม่เคยได้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่เขาไม่แถมสากแถมมีดมาด้วย ร้องก็เพี้ยนออกขนาดนั้น ”

พูดไปก็ขำไป ภาพในอดีตย้อนกลับเข้ามาเหมือนหนังม้วนเก่า จริงๆ ป๊าในความทรงจำวัยเด็กของผมถือว่าเป็นไอดอลของผมเลยนะ ทั้งเก่ง ขยัน อดทน รักครอบครัว จนกระทั่งวันที่เขาเป็นหนี้นี่แหละ ทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป

เสียงฮัมเพลงลอยมาตามลม เสียงมันดังไม่ใกล้ไม่ไกล ถ้าหูผมไม่ฝาดผมว่ามันดังมาจากคนข้างๆ นี่แหละ

“ เห้ย โทนี่ร้องเพลงนี้ได้หรอ ไปฝึกภาษาไทยมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ชัดเชียว ”

“ ได้นิดหน่อย ก็บรีสร้องกรอกหูอยู่ทุก.. ”

คนพูดจบประโยคตัวเองซะดื้อๆ ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มเริ่มหมองลง ก่อนจะกลับมามีสีหน้าปกติเมื่อเงยหน้ามามองที่ผม

“ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย ”

“ ถามถึงผมหรือว่าใคร ”

โทนี่เงียบไม่ตอบ ผมว่าผมไม่ได้คิดไปเองแล้วล่ะว่าตั้งแต่เจอโทนี่ ผมเห็นเขาชะเง้อเหมือนกำลังหาใครบางคน ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่คนในความคิดผมมั้ย แต่ยิ่งเห็นปฏิกิริยามีพิรุธของมัน ผมว่าคงใช่แล้วล่ะ

“ คุยกับบอสก็ต้องถามถึงบอสสิ จะไปพูดถึงคนอื่นทำไม จริงมั้ย ”

“ ถ้าถามผม ผมก็สบายดีอย่างที่เห็น แต่ถ้าไม่ใช่ผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันรายนั้นไม่ติดต่อมาหลายวันแล้ว ”

“ ทำไม? เกิดอะไรขึ้น ป่วยรึเปล่า แล้วบอกมั้ยว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ ทำไมชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วงอยู่เรื่อย ตอนไปก็ไม่คิดจะร่ำลา คนเคยอยู่ด้วยกันแท้ๆ น่าน้อยใจชะมัด ไม่เห็นผมเป็นเพื่อนก็น่าจะเห็นเป็นคนรู้จักบ้างก็ยังดี นี่อะไร.. ”

“ มาซะยาวเลยนะ ”

โทนี่หัวเราะแห้งๆ มาให้อย่างคนลืมตัวที่หลุดพูดทุกสิ่งในใจจนหมด ดูแล้วไม่เหมือนโทนี่ที่ผมเคยรู้จักเลยแม้แต่น้อย ส่วนผมเองก็ได้แต่ยิ้มให้เขาอย่างผู้มีชัย ก่อนจะตอบทุกคำถามที่เขาอยากจะรู้

“ เห็นว่าอ่านหนังสือหนักเตรียมสอบเข้ามหา’ลัย เรื่องที่ว่าจะกลับเมื่อไหร่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้แน่ ดูท่าจะอยู่ยาว ไม่รู้ติดใจอะไรที่นั่นหนักหนา ส่วนเรื่องอื่นคงต้องไปถามกันเองแล้วล่ะ เพราะถึงผมจะเป็นพี่ชายแท้ๆ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ”

“ หรือว่ามีใครใหม่ไปแล้ว ”

รู้สึกเหมือนโทนี่จะพึมพำอะไรซักอย่างผมฟังไม่ถนัด ก็เสียงป๊าบนเวทีดังออกขนาดนั้น
เมื่อไม่มีใครคิดจะพูดอะไรต่อ ความเงียบจึงเข้าปกคลุมพวกเราโดยปริยาย แต่ทว่าความเงียบนั้นก็มาได้เพียงไม่นาน เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มข้างๆ ก็ดังขึ้น

Rrrrrrrrrrrrrrr

“ แม่โทรมา งั้นผมขอตัวไปรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ ”

ผมพยักหน้าพลางยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เพื่อนเก่า

สุดท้ายผมก็ถูกทิ้งให้นั่งเฝ้าโต๊ะเพียงลำพัง อาหารก็ยังไม่มา คนคุยด้วยก็ไม่มี ครั้นจะเล่นมือถือก็กลัว 3G หมด งั้นนั่งดูป๊าร้องเพลงก็ได้ว่ะ

“ พี่บอส เซอร์ไพร์ส ^^ ”

เสียงเล็กๆ สดใสของใครคนนึงเรียกผมให้หันไปมอง ไม่อยากจะเชื่อว่าคนๆ นั้นจะมาอยู่ที่นี่จริงๆ เหมือนฝันเลย แต่ยังไม่ทันทีผมจะได้เรียกชื่อคนมาใหม่กลับ คนที่จากไปในตอนแรกทั้งสามก็กลับมาพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

 “ พี่บอส ดูซิพี่ปูนตักนี่มาให้.. พ่อ! ” ปัณณ์ณิชยื่นจานที่ใส่อาหารจนพูนมาตรงหน้าผม แต่แล้วสายตาก็ไปปะทะกับชายวัยกลางคนในชุดสูทดูภูมิฐานยืนเคียงข้างกับหญิงวัยสี่สิบปลายๆ แต่หน้าตาอ่อนกว่าอายุ(เอ๊ะ ยังไง?)

“ พ่อเพ่ออะไรยัยปัน นั่นมัน.. แม่! ”

ประโยคของโทนี่ก็ดังขึ้นเป็นคนสุดท้าย พร้อมกับใบหน้าของทั้งเขาและชื่อของคนในประโยคจะสตั้นไปไม่ต่างกัน

“ โทษทีๆ พอดีแม่ชวนคุย รอนานหรือเปล่าครับ บรีส! ”

“ O_o ”


อย่าถามถึงผม เพราะผมช็อกไปตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว


( ขอแบ่งตอนจบเป็น 3 พาร์ทนะคะ วันนี้เอาพาร์ทแรกไปก่อน แล้วจะทยอยลงให้เน้อ )  :mew1:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ป๊านี่ไม่มีเข็ดนะ ดูแล้ว

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :ling2:  รู้สึกได้ถึงระเบิดเวลา
ขอบคุณค่ะ. รอตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
นี่มันวันรวมญาติเหรอเนี่ย!?

ออฟไลน์ nemesis

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-3

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
คิดถึง ปูน-บอส ใจจะขาด..... :sad2:
อยากให้มาลงต่อ สักที.... :mew6:
ลุ้นจนตัวโก่ง ทุกวินาที..... :katai1:
กลัวมาม่าเธอ มาเพียวๆ  :z3:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด