Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน : UP Chapter 23 (The end) 25/02/2015
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน : UP Chapter 23 (The end) 25/02/2015  (อ่าน 47188 ครั้ง)

ออฟไลน์ สองโซ่แซ่กุญแจมือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






 
                                                                   Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน

                                                                   Chapter 1 : I let it fall, my heart


                   ผมคิดว่าความบังเอิญบนโลกนี้มีอยู่หลายแบบ ทั้งตั้งใจให้บังเอิญ หรือจะเป็นการบังเอิญแบบแปลกๆ ผมคิดว่าความรักมันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอย่างนึงเหมือนกัน และเรื่องบังเอิญทุกเรื่อง มันก็มีจุดจบของมันเอง..


         ตอนนี้จะเรียกว่าผมถังแตก ก็ไม่เชิงนัก เพราะเมื่อประมาณ 5 เดือนที่แล้ว พ่อแม่ผมเสียพร้อมกันทั้งคู่แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่มีเวลามาพร่ำเพ้อหรือเสียใจอะไร เพราะนอกจากจะยุ่งเรื่องจัดงานแล้ว ผมยังยุ่งเรื่องของการแบ่งสมบัติ ความจริงผมเป็นลูกคนเดียว แต่ญาติๆของพ่อเค้าไม่อยากให้ผมได้ในทรัพย์สมบัติของพ่อผม ..

         ฟังดูแล้วมันก็น่าตลกดีนะ ทั้งๆที่ผมมีสิทธิ์อย่างถูกต้องทุกอย่าง แต่แค่พ่อแม่ผมไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน กลับกลายเป็นว่าผมโดนฟ้องร้องกลับมาซะจนแทบไม่เหลืออะไรเลยด้วยซ้ำ

         ผมโดนพูดกรอกหูบ่อยๆตอนเด็กว่า แม่ผมหนีตามพ่อมา ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อหรอกนะ แต่ผมไม่อยากเก็บมาคิดให้มันปวดหัวมากกว่า ก็คนเค้ารักกัน เราจะห้ามอะไรได้

        ผมกำลังเดินมายังบริษัทที่ผมต้องสอบสัมภาษณ์เพื่อรับงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขา
        “เฮ้อ..” ผมเลิกคิดฟุ้งซ่านและถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ถ้าผมเริ่มทำงานตั้งแต่จบใหม่ๆ ตอนนี้ผมก็คงมีบ้านเป็นหลักเป็นแหล่งแล้วมั้ง และถ้าผมรู้ก่อนว่าญาติของพ่อเป็นพวกหิวสมบัติมากขนาดนี้ ผมก็คงรีบออกจากบ้านหลังนั้นตั้งนานแล้วละมั้ง ผมได้แค่คิดเท่านั้นแหละ อดีตใครจะกลับไปแก้ไขได้..

         “น้องที่มาสัมภาษณ์งานใช่มั้ยคะ ?” ผมพยักหน้าพร้อมทั้งส่งยิ้มไปให้เมื่อพี่ประชาสัมพันธ์ถาม
         “อืม...วันนี้คุณเลขาลาหยุด 1 วัน เดี๋ยวน้องขึ้นไปชั้น 25 แล้วรายงานตัวกับท่านประธานโดยตรงเลยนะคะ” ผมบอกขอบคุณพี่เขาไป ก่อนที่จะเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้น 25

        ผมค่อนข้างตื่นเต้นอยู่มากเลยทีเดียว เพราะไม่เคยมีประสบการณ์ทำงาน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำได้รึเปล่า แต่ก็นะ..ถ้าไม่ลองทำ ใครจะรู้ อีกอย่าง..ใครจะคิดละ ว่าจู่ๆผมก็ต้องมาสอบสัมภาษณ์กับประธานบริษัทเลยด้วยซ้ำ
ทันทีที่ลิฟต์เปิดผมก็ต้องพบกับผู้ชายท่าทางน่ารัก อายุน่าจะเกือบเท่ากับผม เดินร้องห่มร้องไห้มา ถึงจะเป็นห่วงแต่ผมก็ไม่กล้าถามหรอกครับ ผมได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเอง คือการเดินมาหยุดที่หน้าห้องที่มีป้ายสีดำติดอยู่หน้าห้องว่า ‘Manager’ ผมสูดลมหายใจเข้าปอดครั้งสุดท้ายเพื่อเรียกขวัญตัวเอง ก่อนที่จะผลักประตูที่เป็นกระจกเงาสีหม่นเข้าไป
 
        “ที่บ้านไม่สอนเหรอครับว่าให้เคาะประตูก่อนเข้าห้องคนอื่น..” ผมนิ่งอึ้งไป เมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังตัวใหญ่สีดำ
        “...” มีเพียงความเงียบที่น่าอึดอัดรอบๆตัว
ผมกำลังคิด..ว่าบางทีโลกนี้ก็กลมเกินไป
         “กรุณาแนะนำตัวด้วยครับ”
สายตาอันเย็นตาตวัดตามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ตามด้วยสายตาที่คล้ายๆจะสมเพชผมอยู่กลายๆ จนผมรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก
         “ที่นี่ไม่รับคนใบ้ทำงานหรอกนะครับ เชิญออกไปด้วยครับ มันเสียเวลาผม” ผมอึ้ง ตกใจกับคำพูดที่ไม่น่าจะออกมาจากปากคนที่ผมเคยรู้จักได้
          “..ผมชื่อ ตุลท์ กุลชาต ครับ อายุ 25 ปี จบมาจากมหาลัย..”
         “เชิญออกไปได้แล้วครับ ”
หน้าผมชาจนแทบไร้ความรู้สึกเมื่ออีกฝ่ายจ้องหน้าผมตรงๆด้วยสายตาดูถูก  จนผมอดคิดไม่ได้ว่า นี่เป็นคนที่ผมเคยรักจริงๆเหรอ ?
          “..ตกลงผมไม่ผ่านใช่มั้ยครับ ?”
          “...” เมื่อไร้คำตอบจากอีกฝ่าย ผมก็เลยหันหลังกลับ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดทิ้งท้ายกับอีกฝ่าย
          “ต่อไปคุณก็ช่วยแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานออกจากกันด้วยนะครับ..ผมคิดว่าบริษัทขนาดใหญ่แบบนี้น่าจะพัฒนาได้ดีกว่าเดิม” ผมเดินไปโดยแทบไม่คิดจะหันหลังกลับมาที่นี่ด้วยซ้ำ

          ผมรู้ว่าผมไม่ควรจะพูดแบบนั้น เพราะมันมาทำให้ผมคิดไม่ตกว่า ควรจะทำยังไงกับชีวิตต่อไปดี ก้มลงมองเงินในกระเป๋าตังค์ตัวเองก็เห็นแค่ใบห้าร้อยใบเดียว ผมไม่ได้ดูถูกค่าของเงินหรอกนะ แต่ผมกำลังดูถูกตัวเองอยู่มากกว่า ผมไม่มีปัญญาอยู่ไปถึงสิ้นเดือนหรอก แถมนี้มันยังต้นเดือนอยู่อีกด้วย ผมมองโทรศัพท์ไอโฟนสีดำในมือด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง

          “เฮ้อ..” ไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ของวันนี้แล้วที่ผมเอาแต่ถอนหายใจ
ผมกลับมาที่หอพักของตัวเองอีกครั้ง ทิ้งตัวลงเตียงเก่าๆของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้า หลับตาได้ไม่ถึงนาทีก็มีเสียงโหวงเหวกโวยวายดังขึ้นที่หน้าห้อง

          “ปัง ปัง ปัง  !! ไอ้โรม มึงออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ !”
ผมเดินเอื่อยๆออกไปเปิดประตู ทันทีที่บานประตูเก่าๆเปิดออก น้ำขุ่นๆสีคล้ำก็สาดเข้ามาเต็มหน้าผม นอกจากกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ของมันแล้ว ก็มีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งวัยกลางคนที่ด่าทอผมอย่างรุนแรง

          “ถ้ามึงไม่มีปัญญาจ่ายค่าห้อง มึงก็ออกไปเลยนะค้างกูมาจะสามเดือน พอกูไม่ทวงเข้าหน่อย ก็หุบปากเงียบ ! หน้าก็ดูเหมือนคนมีกิน แต่สันดานยิ่งกว่าขอทาน !! มึงรีบย้ายของมึงออกจากห้องกูไปเลยนะ !” คุณอาจจะไม่เชื่อก็ได้ ว่าคำพูดแสลงหูพวกนี้ออกมาจากปากของผู้หญิง

           ผมนึกสมเพชตัวเองไม่น้อยที่มายืนให้คนที่ผมไม่เคยคิดสักนิดว่ารู้จักด่า ผมมองห้องที่ติดกับตัวเองก็เห็นว่ามีใครหลายคนเริ่มสนใจ บางคนก็ซุบซฺบนินทา.. เหอะ..ก็แค่สังคมขยะๆ

          “มึงรีบไสหัวมึงออกไปจากหอกูเลยนะ ถ้าพรุ่งนี้กูยังเห็นมึงอยู่ที่นี่นะ มึงเจอดีแน่ !” พูดจบหญิงสาววัยกลางคนก็เดินจากไป ผมปิดประตูให้เรียบสนิท ทิ้งตัวลงนั่งพิงประตู เมื่อประมาณ 6 เดือนก่อนผมยังเลือกอยู่เลยว่าจะไปเที่ยวไหนดี กินอะไรดี หรือจะเรียนต่อป.โทที่ไหนดี

          “หึ..” ผมยิ้มให้กับชีวิตแสนบัดซบของตัวเอง บางที..มันอาจจะเป็นกรรมของผมก็ได้ที่ไปทิ้งคนอื่นเค้า
ผมค่อยๆปิดเปลือกตา ย้อนนึกไปถึงวันเวลาตอนที่ผมยังไม่ทิ้งเค้าไป บางทีนะ การที่ผมทิ้งคนอื่นไปง่ายๆแบบนั้น มันอาจทำให้ผมโดนทิ้งอยู่แบบนี้ก็ได้
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2015 22:42:16 โดย สองโซ่แซ่กุญแจมือ »

ออฟไลน์ actionmarks

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-44
น่าติดตามๆ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ชีวิตโรมช่างตกต่ำและโหดร้ายอะไรอย่างงี้...
ท่านประธานที่เป็นคนสัมภาษณ์เคยมีอดีตอะไรกันสินะ อยากรู้จัง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ท่านประธานนี่แฟนเก่าใช่ไหม?  น่าสนใจ

ครางเคราะห์ปกติไม่มาแบบซิงเกิ้ลแพ็คหรอก มักจะมาแบบยกโหลเลยทีเดียว หวังว่าโรมคงจะผ่านไปได้นะ

ป้าเอาใจช่วย

เดี๋ยวรออ่านตอนต่อไปนะ

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
ตามเม้นท์บนว่าเลย เคราะห์กรรมมันมักมากันยกโหล ราวกับนัดกันมา สู้เขาโรม ไม่มีใคร ไม่เคยผิดพลาดหรอก

ออฟไลน์ สองโซ่แซ่กุญแจมือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
          พี่คีย์แก่กว่าผม 4 ปี และมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าผมเยอะมาก เราเจอกันตอนที่ผมต้องไปออกงานกับพ่อ พี่เขาดูอบอุ่น แต่สิ่งที่สะดุดตาผมมากที่สุดคงเป็นรอยยิ้มที่สว่างไสวนั่น
                                                                         
                                                                                ‘ ไม่ชอบ ’

          ผมรู้สึกไม่ชอบรอยยิ้มแบบนั้น มันดูไม่จริงใจสักนิด.. มันเหมือนรอยยิ้มของธุรกิจ ไม่จริงใจสักนิด ดูเหมือนผมจะมองเขานานเกินไป จนเขาหันมามอง ผมถึงได้แกล้งทำเป็นมองอย่างอื่นอยู่ เขาหัวเราะเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินมาหาพ่อผม

          “สวัสดีครับ คุณกิตติ เป็นยังไงบ้างเหรอครับ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยเห็นคุณออกงานบ่อยเหมือนเมื่อก่อนเลยนะครับ”
ผมเบื่อที่จะฟังประโยคสนทนาน่าเบื่อพวกนี้ซ้ำไปซ้ำมา จึงได้ออกมารอพ่อด้านนอก ผมไม่น่ามางานนี้เลยให้ตายเหอะ เพราะความเบื่อบวกกับอีกนานกว่าที่พ่อจะออกมา ผมถึงได้ยกบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบฆ่าเวลา แต่จู่ๆก็มีมือของใครบางคนมาดึงบุหรี่ที่ผมกำลังสูบอยู่ออกจากปาก พร้อมทั้งเอาไปสูบเองหน้าตาเฉย

          “คุณครับ !?” ผมหันไปมองอีกฝ่ายตรงๆ ก่อนจะเงียบไปเมื่อเห็นว่าเป็นผู้ชายคนเดียวกับที่คุยกับพ่อผมก่อนหน้านี้  อีกฝ่ายฉีกยิ้มให้ผมเหมือนกับที่ยิ้มให้กับใครหลายๆคนก่อนหน้านี้ จนผมต้องเบือนหน้าหนี

          “ชื่ออะไรเหรอครับ”

         “...”

          “พี่ชื่อ คีย์ นะครับ”

          “...”

          “อายุเท่าไหร่เหรอครับ น่าจะเด็กกว่าพี่นะ”

          ผมขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดกับความจู้จี้ของอีกฝ่าย ใครถามและใครอยากรู้ ? ผมอยากจะตอกหน้าเขากลับไป แต่ก็กลัวจะส่งผลกระทบต่อพ่อผม

          ได้ยินอีกฝ่ายหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะสูดบุหรี่เข้าปอด ผมยกบุหรี่ม้วนใหม่ขึ้นมาจะจุด แต่อีกฝ่ายกับแย่งไปอีกครั้ง
ชื่ออะไรนะ ? คีย์ ?

          “ขอโทษนะครับ มีปัญหาอะไรกับผมเหรอ ?” ผมจ้องเขาอย่างไม่วางตา จากความรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆเริ่มกลายเป็นความโกรธแทนที่

          “ถ้าจะพูดตรงๆเลย..พี่สนใจนายนะ”  ผมยืนอึ้ง หาความล้อเล่นบนใบหน้าของอีกฝ่าย ก็พบแค่สายตาจริงจัง จนทำให้ผมหลุบตาต่ำมองเท้าตัวเองแทน

          รู้สึกแปลกๆ...เหมือนหน้าตัวเองกำลังไหม้ แล้วอาการใจเต้นแบบนี้ละ ? ทำไมผมต้องรู้สึกแบบนี้ด้วย? ยิ่งคิดยิ่งสับสน  ผมเริ่มไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเอง และไม่ชอบเลยอะไรที่มันทำให้ผมสับสนแบบนี้

         พอผมจะเดินหนีออกไป เขาก็คว้าแขนเอาไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสลดลงจนผมรู้สึกผิด

          “นายไม่ต้องคิดมากหรอก แค่คิดว่าพี่เป็นพี่ชายคนนึงก็พอ”

          ตั้งแต่วันนั้นผมกับพี่คีย์ก็สนิทกันมากขึ้น เรียกได้ว่าพี่เขาตีสนิทกับผมได้อย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นว่าเราสองคนตกลงคบกันโดยที่ไม่มีใครรู้ เราก็เหมือนคู่รักทั่วไปที่ทะเลาะกันบ้าง ซื้อของให้กัน เพียงแต่ผมเป็นคนปากหนัก เราทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมากๆ จนผมเริ่มรู้สึกว่าบางทีมันก็ถึงทางตันของพวกเราแล้ว

          ผมยังจำคืนนั้นที่ฝนตกหนักคืนนั้นได้ดี พวกเราทะเลาะกันหนักทางโทรศัพท์ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง และผมไม่ชอบเอาซะเลยที่มันทำให้ผมไม่สบายใจ ผมโทรหาเขาอีกครั้ง แต่สายก็โดนตัดไป ผมเลิกเซ้าซี้ที่จะโทรต่อ และขับรถไปยังคอนโดของพี่คีย์ทันที เพราะผมรู้สึกบางอย่าง.. ความจริงผมรู้สึกมาสักพักแล้ว ว่าบางอย่างมันแปลกๆ แต่ผมก็เลือกที่จะเงียบ เพื่อรักษาความสัมพันธ์ของเราเอาไว้ ไม่ใช่ว่าผมเจ็บไม่เป็น แต่ผมควบคุมความรู้สึกตัวเองได้มากพอที่จะไม่ทำอะไรงี่เง่า

     ทันทีที่ผมถึงคอนโดของอีกฝ่าย ผมก็โทรไปหาอีกครั้งและครั้งนี้นอกจากเขาจะตัดสายผมแล้ว เขายังปิดเครื่องใส่ผมอีกด้วย..

          ผมนึกสงสัยว่าทำไมหลายๆคนถึงบอกว่าผมไม่มีหัวใจ เพราะถ้าผมไม่มีหัวใจ ผมคงไม่นั่งร้องไห้อยู่ในรถเป็นชั่วโมง ผมตัดสินใจที่จะคุยกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่อง และผมคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ผิดที่สุดในชีวิตที่ผมเคยทำมา ..

                                                                                  หึ....


         ความรักระหว่างผู้ชายกับผู้ชายเนี้ยนะ ? ผมคิดบ้าอะไรอยู่ถึงคิดว่าความรักโง่ๆแบบนั้นมันมีอยู่จริง ภาพตรงหน้าผม มันยากที่จะบรรยายนะ ผู้หญิงกับผู้ชายที่นัวเนียกันอย่างเมามันบนเตียงนี่... ถึงแม้ว่าเขาจะหันหลังอยู่ แต่ลอยสักบนแผ่นหลังกว้างนั่นก็ยืนยันกับผมได้โดยไม่ต้องหาหลักฐานด้วยซ้ำ ว่าผู้ชายบนเตียงเป็นใคร

          แวบนึงสาบานได้ว่า ผู้หญิงคนนั้นเธอเห็นผมแล้ว เธอส่งยิ้มบางๆที่น่ารังเกียจมาให้ผม ผมได้แต่ส่งยิ้มกลับไป มือสองข้างเผลอกำแน่น..อ่า..ให้ตาย ทำไมผมต้องเจ็บปวดด้วยนะ ผมไม่ชอบเลยจริงๆ..เหอะ




         “ น่าสมเพช ”

 
         

          ผมลืมตาขึ้น อาบน้ำและลงมือเก็บเสื้อผ้าและของอีกเล็กน้อยเก็บลงใส่กระเป๋าเดินทาง ถึงจะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผมจะไปนอนที่ไหน แต่ผมก็หน้าด้านไม่พอที่จะอยู่ต่อให้คนอื่นเขาเอาน้ำถูพื้นมาสาดใส่อีกรอบ

                                                                       ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด

          ผมมองเบอร์โทรแปลกๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปกดรับ

         “สวัสดีครับ”

          “สวัสดีคะ ไม่ทราบว่าคุณตุลท์ กุลชาต อยู่ในสายไหมคะ ?”

          “ครับ..”

          “บริษัท K&R รับคุณเข้าทำงานแล้วนะคะ ไม่ทราบว่าสะดวกเริ่มงานในวันพรุ่งนี้เลยไหมคะ ?”

          “ครับ ?เอ่อ..ขอโทษนะครับ ผมผ่านสัมภาษณ์เหรอครับ ?”

          “คะ สามารถเริ่มงานได้ตามที่คุณตุลท์สะดวกเลยนะคะ ”

          “เริ่มพรุ่งนี้เลยก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ”


         นาฬิกาบนผนังบอกเวลาเกือบตี 3 แต่ผมก็ยังนอนพลิกตัวอยู่บนเตียงแข็งๆของตัวเอง คิดยังไงผมก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าเหตุผลอะไรที่เขารับผมเข้าทำงาน

                                                            สมเพช ?

                                                            สงสาร ?

                                                            ทุเรศ ?

                                                              .....



          ผมพลิกตัวไปมาอย่างทรมาน แสงสีทองเริ่มส่องทะลุผ้าม่านเข้ามา จนภายในห้องเริ่มร้อนอบอ้าว ผมสะดุ้งตื่นจนแทบตกเตียง เมื่อมองไปยังนาฬิกาบนฝาผนังที่บอกเวลาเกือบเที่ยงวัน

         “ฉิบ..” ผมสบถแทบไม่ซ้ำคำ รีบอาบน้ำแต่งตัว แต่เดินออกมาได้ไม่ทันไร ก็รู้สึกเปียกชุ่มไปทั้งตัวอีกรอบ..

         “มึงยังไม่ไปอีกเหรอ !! กูบอกให้มึงออกไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วใช่มั้ยห๊ะ !!? หน้าด้านหน้าทนยิ่งกว่าถนนคอนกรีตอย่างมึง ต่อไปคงต้องใช้น้ำร้อนๆสาดแล้วมั้ง ถึงจะรู้สึก !!”

         ความอดทนของทุกคนมีจำกัด ผมด้วย.. คุณคงไม่กล้าคิดแน่ ว่าถ้าคุณโดนด่าทอแบบรุนแรงมาทั้งเดือน คุณจะทนได้มากแค่ไหน  ผมสูดหายใจเข้าปอดลึกๆอีกครั้ง

          “ผมขอโทษนะครับ ผมจะเอาเงินที่ผมติดป้ามาคืนและย้ายออกตอนเย็นนะครับ ขอโทษอีกครั้งที่ทำให้ป้าลำบาก”

         ผมเดินกลับเข้าห้องเพื่อมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่อีกรอบ หึ..โดนเค้าไล่เหมือนหมูเหมือนหมานี่..มันน่าตลกที่สุดเลยนะ
กว่าผมจะฝ่ารถติดมาถึงบริษัทได้ ก็เกือบจะบ่ายโมง คิดๆแล้วผมก็น่าจะโดนไล่ออกตั้งแต่วันแรกเลยนะ บริษัทที่ไหนเขาเข้าทำงานบ่ายโมงบ้างนะ ผมหัวเราะกับความคิดของตัวเอง 


          “คุณตุลท์ใช่ไหมคะ ? ท่านประธานบอกว่าถ้าหากมาถึงแล้วให้ไปพบที่ห้องประธานด้วยคะ”

         “ครับ ขอบคุณครับ”

          ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า ที่พนักงานที่นี่มองผมแปลกๆ  มันก็ไม่ผิดหรอกถ้าพวกเขาจะมองผมแปลกๆ เล่นเข้ามาทำงานซะป่านนี้
                                           

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก..

        “เชิญครับ” ผมผลักประตูกระจกสีหม่นเข้าไปทันทีที่ได้ยินคนข้างในตอบรับ 

          เขาเงยหน้าจากเอกสารกองโตมาจ้องมองผมด้วยสายตานิ่งเฉย จนผมรู้สึกหายใจไม่ออก จำต้องหลบสายตาก้มลงมองพื้นแทน

         “ผมคิดว่าคุณต้องอธิบายให้ผมฟังว่าทำไมคุณถึงเข้างานเอาตอนนี้มากกว่าจะยืนอยู่นิ่งๆเหมือนคนไร้ความรับผิดชอบนะครับ”

          “.....” ผมเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่รู้ว่าทำไมแต่ผมเกลียดสายตาที่จ้องมาราวกับจับผิดแบบนั้นที่สุด

          “เฮ้อ..ถ้าคุณไม่มีอะไรจะพูดก็กลับไปเถอะครับ” พูดจบเขาก็ก้มลงไปเซ็นต์เอกสารต่อ

        “ผมตื่นสายครับ..” ผมเผลอบีบมือตัวเองแน่น เมื่อมือที่กำลังเซ็นต์เอกสารอยู่ชะงักงัน

        “.....ไร้ความรับผิดชอบ....” พูดจบ เขาก็เซ็นต์เอกสารต่อไป ผมยืนนิ่งอึ้งอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งมีผู้ชายร่างเล็กที่เมื่อวานเดินร้องไห้สวนกับผมเข้ามาในห้อง

         ใบหน้าเล็กๆนั่นประดับด้วยรอยยิ้ม..ไม่ชอบ ผมไม่ชอบรอยยิ้มแบบนั้นเลย แต่ผมก็จำต้องยิ้มตอบ

         “สวัสดีครับ คุณคงเป็นผู้ช่วยเลขาที่เพิ่งมาทำงานสินะครับ ผมชื่อ สีคราม นะครับ” พูดจบก็ฉีกยิ้ม บอกทำไม ?  ผมแค่คิดแบบนี้ในใจทุกครั้งที่จู่ๆก็มีคนมาพูดๆใส่หน้า

         “ผมชื่อ โรม ครับ”

         กึก .. เสียงเคาะปากกาดังขึ้น เมื่อผมแนะนำตัวเอง บรรยากาศน่าอึดอัดเกิดขึ้นอีกครั้ง สีครามยิ้มเห่ยๆ ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าของประธาน

        “ไร้ความรับผิดชอบ ทำตัวปัญญาอ่อนแบบนั้น เมื่อไหร่จะได้ทำงานละครับ ?” ผมรู้สึกไม่ชอบใจเลยที่เหมือนเขากำลังหาเรื่องผมมากกว่าที่จะเป็นแค่เจ้านายปกติทั่วไป แถมคำพูดน่ารังเกียจที่เขาพ่นออกมานั่นอีก

        “คีย์ครับ..ใจเย็นๆแล้วก็คุยดีๆกับเขาสีครับ เดี๋ยวเขาตกใจจนลาออกไปจะทำยังไงละครับ” เขาไม่ได้สนใจคำพูดของสีครามสักนิด ซ้ำยังจ้องผมไม่วางตา จนมันน่าอึดอัดเกินไป

        “ขอโทษครับ .. ไม่ทราบว่าผมต้องทำอะไรบ้างเหรอครับ ? ”

        “เลขาของผมลาคลอด 1 เดือนเต็ม ระหว่างนั้น คุณต้องทำหน้าที่เป็นเลขาของผม และกรุณาทำหน้าที่อย่าให้ขาดตกบกพร่องตรงไหนนะครับ” 



-----------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ไม่เคยคิดว่าจะมีคนเข้ามาอ่าน 5555 - //////-
เรารู้สึกขอบคุณทุกคนที่อ่านนิยายของเรามากๆเลยนะคะ บางคนอ่านเเล้วชอบ บางคนไม่ชอบ ไม่ว่ากันเนอะ
เราเพิ่งเริ่มเล่นเล้าเป็ดครั้งเเรก รบกวนทุกคนเเนะนำหรือติเตียนให้ด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งคะ -///-
******นิยายเรื่องนี้เราจะอัพอีกครั้งไม่น่าจะเกินอาทิตย์หน้านะคะ เพราะว่าเราอยู่ในช่วงสอบแล้วด้วย (ใครอยู่ในช่วงการสอบมิดเทอมก็สู้ๆนะคะ)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2014 19:22:36 โดย SpoilerNo.2 »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
สู้ๆกับการสอบนะคะ เรารอด้ายยยยยยยย  o13

****

มีคำถามค่าาาาาาาา
- ดราม่ามากไหมคะ?

สีครามเป็นไรกับคีย์ อยากรู้ใจจะขาด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-12-2014 19:51:48 โดย กุ้งเชอรี่ »

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
งื้อออ สนุกกกกกก ตอนนี้ติดแงมๆยังไงไม่รู้ อยากอ่านต่อใจจะขาด
จริงๆแอบมาอ่านเมื่อวานด้วยแหละครับ แต่ค้างสุดๆไปเลย ว่าจะรอดูอีกสักตอน เป็นไงล่ะ อยากกอ่านกว่าเดิมอีก โฮๆ

ไอ้ทั่นประธานนี่ดูท่าทางจะหาดุร้ายน่าดู ทนๆไปก่อน
ไว้เก็บตังได้สักระยะค่อยหางานใหม่ หาแฟนใหม่มาเย้ยด้วยก็ดี หมั่นไส้คุณคีย์ ไอ้พวกนอกใจ ฮึ๊ย :katai1:

อ่านเรปนี้แล้วนึกได้

คีย์อาจจะไม่ได้เป็นพระเอกก็ได้นี่หว่า ประมาณตัวประกอบกลับเข้ามามีบทบาทในชีวิต

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ได้อ่านตอนใหม่ก็ยิ่งติดหนึบหนับเข้าไปอีก

เราชอบบุคลิกของโรมนะ ไม่ตีโพยตีพาย ดูมีสติ อาจจะดูเฉื่อยชาไปในบางจุด จะรอดูว่าถ้าเดือดมากๆจะออกมาในรูปใด

ส่วนอิท่านประธาน ณ ตอนนี้ยังหาข้อดีไม่เจอเลย :ruready

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
พล็อตเรื่องน่าสนใจดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่าสนุก :t2:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
สนุกมาก มาต่อด่วนๆน้า o13

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ท่าจะมาม่าชามโต ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้า  :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ สองโซ่แซ่กุญแจมือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1
Once again ถ้าครั้งหนึ่งเราเคยรักกัน
Chapter 2 : And as it fell, you rose to claim it


          โต๊ะทำงานของผมตั้งอยู่ทางด้านขวาของห้องประธาน ส่วนโซนด้านซ้ายจะเป็นชั้นวางหนังสือขนาดใหญ่ มีโต๊ะรับแขกเล็กๆตั้งอยู่ และพื้นที่ตรงกลางห้องเป็นที่ทำงานของประธาน

          ผมหัวหมุนทั้งวันเมื่อมีเอกสารเกี่ยวกับการซื้อขายเพชรมากมายถูกส่งมากองอยู่ที่โต๊ะ แค่เลขาของคีย์ไม่มาทำงานแค่วันเดียว แต่งานที่ต้องเคลียร์มันยิ่งกว่าหยุดไปแล้วสักสามเดือน รวมถึงเอกสารต่างประเทศที่ผมต้องแปลให้หมดภายในวันนี้ เพราะต้องส่งให้ประธานประชุมต่อในวันพรุ่งนี้อีก เอกสารยิบย่อยมากมายมันทำให้ผมอยากจะเอาไฟมาจุดเผากระดาษพวกนี้ทิ้งไปให้หมด

         ส่วนคีย์นะเหรอ..? เขาออกไปกับสีครามตั้งแต่ตอนบ่าย และสั่งไว้แค่ให้ผมทำงานทุกอย่างที่เลขาทั่วไปเขาทำกัน รวมถึงรอเขากลับมา ไม่รู้ว่าเวลามันผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่กว่าผมจะทำทุกอย่างที่ต้องส่งพรุ่งนี้เสร็จก็ปาเข้าไปเกือบ 3 ทุ่ม ความเหนื่อยล้าเกาะกุมทุกส่วนของร่างกาย ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เริ่มเก็บของต่างๆที่ต้องเอากลับไปทำที่บ้าน ผมสะดุดใจเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องบ้าน...  ผมยังไม่ได้ย้ายของออกมาจากหอ และผิดคำพูดกับป้าเจ้าของหออีก

ผมคงเป็นคนน่าสมเพชจริงๆ
[/b]

         ผมยกไอโฟนขึ้นมากดเปิดเครื่อง แต่ก็ไร้วี่แววที่มันจะกลับมาใช้งานได้ ผมถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เก็บมันกลับเข้ากระเป๋าตามเดิม และเดินดูรอบๆห้องขนาดใหญ่ ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมของตัวเอง

ผมคิดเรื่องต่างๆที่วิ่งอยู่ในหัว มันน่าตลกนะ ผมทำตัวน่าสงสารเกินไปรึเปล่าที่มาสมัครงานที่บริษัทใหญ่ขนาดนี้ โดยไม่รู้ว่าเขาเป็นประธานบริษัท และยังมายืนให้เขาด่าได้ไม่เว้นแต่ละวัน ญาติตัวเองแท้ๆยังพึ่งอะไรไม่ได้ ซ้ำยังโดนเขาไล่ออกมาอีก แถมด้วยการโดนฟ้องจนเงินประกันของพ่อแม่หมดจนแทบไม่เหลืออะไร

        ผมก้มลงมองแหวนสีขาวสะอาดที่ผมสวมไว้ ค่อยๆถอดมันออก พลางคิดถึงราคาของมัน  นั่งอยู่ไม่นาน คีย์ก็เดินเข้ามา ใบหน้าเขาเรียบตึงราวกับไม่พอใจอะไรสักอย่าง จนผมคิดว่าถ้าพูดอะไรไม่เข้าหูเขาตอนนี้ ผมอาจจะโดนต่อยก็ได้ 

       “ผมทำงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้เสร็จหมดแล้ว งั้นผมขอกลับ..”

       “จะรีบไปไหนงั้นเหรอ ? ” ผมเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

       “คือผม..”

       “ทำไมเหรอ ? ทิ้งผมไว้แบบนั้น แล้วจะหนีไปง่ายๆอีกงั้นเหรอ ?”

ผมเริ่มหายใจติดขัด ไม่ชอบ..เกลียดความรู้สึกแบบนี้

         “ผมคิดว่าคุณคงคุยไม่รู้เรื่องแล้วละครับ”

        “เหอะ ! ใครกันแน่ที่คุยไม่รู้เรื่อง !! ”

        “..”

        “ พวกชอบหนีปัญหา ”

ผมเกลียดคนๆนี้ที่สุดเลยละ เกลียดจนไม่รู้ว่าผมเคยรักเขาลงได้ยังไง

          “ครับ ผมมันพวกชอบหนีปัญหา และผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ ”

          “มึงมันเหี้ยที่สุดที่กูเคยเจอมาเลย !”

          ลมหายใจผมรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ...ความรู้สึกกลัวมันมีอยู่เต็มอก .. กลัวจนไม่กล้าพูดอะไร ไม่กล้าขยับไปไหน ไม่เข้าใจว่าผมทำอะไรที่เขาต้องโกรธแค้นผมมากถึงขนาดนี้ แค่นี้ชีวิตผมยังบัดซบไม่พอรึไง

          “อยากกลับมากใช่มั้ย ? ”

          “..”

          “เหอะ..”

          “...”

         “เงียบให้ได้ตลอดละกัน”

          พูดจบเขาก็กระชากแขนผม เดินออกไปทันที ผมรู้สึกรังเกียจการกระทำของเขา จนต้องสะบัดแขนออก

         “มันเลยเวลางานแล้วครับ ผมต้องกลับบ้านแล้วครับ..”

          รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความดูถูกผุดขึ้นมาบนใบหน้าแสนเย็นชานั่น มันไม่ใช่รอยยิ้มที่ผมไม่ชอบ..

แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ผมเกลียด
[/b]

          “มีบ้านด้วยเหรอ ? หรือจะเป็นหอพักสกปรกๆนั่นละ ?”

          “!!!!!!!!”

          “มีปัญญาเช่าหอได้ขนาดนั้น ก็สมกับเป็นมึงแล้วนิ”

          ผมกำมือทั้งสองข้างแน่น..ผู้ชายตรงหน้าผม ยังเป็นคนอยู่รึเปล่า ? เขาน่าจะตายๆไปซะ

          “ไปตายที่ไหนก็ไปเถอะครับ..”

         ผมก้าวเท้าออกไปทันที แต่ก็ช้ากว่าอีกฝ่ายที่กระชากแขนผมอีกรอบ และคราวนี้ดูเหมือนเขาจะจงใจบีบแรงขึ้นจนผมต้องเบ้หน้า

        “ปล่อย ! ”

          คีย์ไม่ฟังที่ผมพูดสักนิด เขาฉุดลากผมมาจนถึงรถสีดำคันหรูที่จอดอยู่หน้าบริษัท ไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่า รถคันนี้ของใคร..
 
          หลังจากที่ขึ้นมาบนรถ กลิ่นน้ำหอมแสบจมูกบนรถคันนี้ มันตีกันจนผมปวดหัวไปหมด มันก็คงเป็นกลิ่นของผู้หญิงของเขาสักคนนั่นแหละ

เหอะ .. คนอย่างเขาจะรู้จักความรักได้ยังไง ถ้ายังทำตัวไม่รู้จักพออยู่อย่างนี้

         รถเคลื่อนตัวไปตามความเงียบของพวกเรา ราวกับจะทดสอบความอดทนของแต่ละคน จนเป็นผมที่ทนไม่ไหวกับความงี่เง่าของอีกฝ่ายก่อน

          “ผมไม่คิดเลยนะ ว่าแค่ความรักโง่ๆจะทำให้คุณเปลี่ยนไป”

         ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอของเขา เขาคงคิดว่ามันคงจะตลกมากเลยสินะ ตัวรถวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมว่าบางทีถ้ารถมันคว่ำซะตอนนี้ ก็คงไม่แปลก

         ผมเดินตามเขาเงียบๆมาจนถึงห้อง โวยวายหรือห้ามไปมันก็เท่านั้น เขาคงไม่ฟังอะไรแล้วในตอนนี้

         เขาโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะรับแขก ก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาสีเทา จ้องหน้าผมราวกับหาคำตอบจากบางสิ่ง

          “ทำไมจู่ๆมึงก็ไปเรียนต่อโดยไม่บอกกู”

           ผมแทบหลุดขำกับคำพูดที่ไร้ความคิดแบบนั้น และดูเหมือนปฏิกิริยาของผมมันจะทำให้เขาชักสีหน้าไปพอใจ.. ไม่พอใจงั้นเหรอ ? ผมต่างหากมั้ง ที่ควรจะไม่พอใจ เขาจะไปรู้สึกอะไรละ นอกจากทำตามใจตัวเองไปวันๆ

           “ปากมีไว้ตอบก็ตอบ  ”
       
          “ทำไมผมต้องบอกคุณด้วยละครับ ? เราจบกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ ??”

เพียะ !

         กลิ่นคาวเลือดอบอวลอยู่ในปากของผม ผมรู้สึกหน้าชา... เขาไม่เคยตบผม และไม่มีใครเคยตบผม   อ่า..ผมเกลียดความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ตอนนี้ ไม่ชอบความรู้สึกไม่พอใจจนเกือบจะหมดความอดทนแบบนี้เลย

        “หัดมีสติซะบ้างนะ ทำอะไรก็หัดคิดถึงกูบ้าง”  น้ำเสียงที่อ่อนลงทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวด

       เขาก็เป็นซะอย่างนี้ ชอบตบหัวแล้วลูบหลัง..ไอ้คนเลี้ยงไม่เชื่อง

        “...ผู้หญิงที่อยู่กับพี่คืนนั้น กล้าพูดมั้ยละ ว่าเธอไม่ได้ตื่นมาบนเตียงเดียวกับพี่..”

       ขอบตาของผมเริ่มร้อนขึ้น ทั้งๆที่ไม่อยากรื้อฟื้นแล้วแท้ๆ ผมไม่น่ามาเจอเขาอีกครั้งเลยจริงๆ

        “เรื่องแค่นี้เนี้ยนะ ? เรื่องปัญญาอ่อน”

        “ใช่ มันปัญญาอ่อน แล้วเรื่องที่พี่ชวนผมทะเลาะคืนนั้นก็ปัญญาอ่อนพอๆกัน ในเมื่อเราจบกันแล้ว ทำไมพี่ต้องมาทำตัวงี่เง่าใส่ผมด้วย เรื่องมันผ่านมาตั้ง 3 ปีแล้วนะ พี่น่าจะทำเป็นไม่รู้จักผม แล้วไล่ผมออกไปซะ ” ผมพูดด้วยเสียงราบเรียบราวกับไม่รู้สึกอะไร.. .. ผมไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอ ? สาบานเถอะว่าตอนนี้ผมไม่ได้กำลังเจ็บปวดอยู่

         “คิดว่ามันจบง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ? ”

         “..”

         “กูใช้เวลา 3 ปีหามึง มึงจะให้มันจบลงแค่ว่ากูปล่อยมึงไปงั้นเหรอ ?”

         “..แล้วพี่จะให้ผมทำยังไง ? ...พี่คิดว่าผมมีความสุขมากนักรึไง ? .....อย่างพี่จะไปรู้อะไร..”

         เขากำหมัดแน่น .. ราวกับกำลังอัดอั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ผมถอนหายใจ เพื่อลดความปั่นป่วนที่อยู่ในจิตใจตัวเอง
 
         หลายๆคนที่ผมเคยพบเจอได้บอกผมไว้ว่า ผมเป็นคนที่เก็บความรู้สึกตัวเองเก่ง มีความอดทนสูง และไม่ค่อยพูด ผมก็ไม่รู้หรอก ว่าทำไมพวกเขาถึงพูดแบบนั้น ทั้งๆที่ยังไม่รู้จักผมดี ผมแค่คิดว่า ทุกคนควรมีเหตุผลที่จะทำในสิ่งต่างๆ แต่ความคิดนี้คงใช่ไม่ได้กับคีย์ เขาไร้เหตุผล และไม่มีความอดทน

          “ยังไงตอนนี้มึงก็ไม่เหลืออะไรแล้วนี่ ? ทำไมมึงไม่ขายชีวิตที่เหลือของมึงให้กูละ ”

ถ้าหากขายมันแล้วผมจะมีค่ามากขึ้นกว่าเดิมเหรอ ?

          ความคิดสับสนที่วิ่งอยู่ในหัวผม มันทำให้ผมอยากอาเจียน คนเราจะขายจิตวิญญาณของตัวเองได้เหรอ ? หรือแค่ขายความเป็นคน ?

         “....”

         “หรือมึงกลัว ? ”

         “ต้องกลัวอะไรเหรอครับ ? คนอย่างพี่จะมีอะไรน่ากลัว... ผมแค่คิดถึงผลประโยชน์ที่ผมจะได้ถ้าผมมาอยู่กับพี่..”

        “หึ..อย่าว่าแต่กูที่เปลี่ยนไปเลย มึงเองก็ไม่ต่างกันหรอก”


--------------------------------------------------------
ไม่รู้มาลงให้ค้างกว่าเติม หรือรู้เรื่องกว่าเดิม  555
สอบเราเลื่อนเป็นอาทิตย์หน้าเลยมีเวลามาลงให้นะคะ
 ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะ มีความสุขปีใหม่กันถ้วนหน้านะคะ เจอกันอาทิตย์หน้าทีเดียวเลยนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-12-2014 20:59:56 โดย SpoilerNo.2 »

ออฟไลน์ actionmarks

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-44
ค้างจริงๆ อย่างที่บอกเลย  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
คนอย่างคีย์นี่น่ารังเกียจจัง

ขอให้เอดส์รับประทานสักวันนึงเถอะ

เกลียดนักพวกมักมาก

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:


ค้างหนักกว่าเดิม

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ค้างงง เพราะฉะนั้น มาต่อด้วยน้า รอติดตามอยู่น้า o13

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
หึอม์  มีลงไม้ลงมือด้วย?   คีย์เอ๋ยตกท่อระบายน้ำอย่างแรงเลยเอ็งในมาตรฐานพระเอก

น่าสนใจและติดตาม นะรออ่านนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ม่ายยยยย โรมน้อยอย่าขายเลย T T

จริงๆอยากให้ชิงลาออกแล้วหนีไปเงียบๆอยุ่ตจว.จัง ปลอยให้คีย์เป็นบ้าไป ส่วนเราหาพระเอกใหม่ดีกว่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
น้องโรมมมมมทำไมถึงทนกับคนอย่างงี้  :z3:

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
อะไร? ยังไงวะ? เอากับคนอื่นทั้งที่มีแฟนอยู่แล้ว แล้วแฟนโกรธนี่คือ ปัญญาอ่อน งั้นคนทั้งโลกคงเป็นเหมือนโรมอะ

หนีมันไปไกลๆเลยโรม คนเหี้ยๆอย่างนี้  ถ้าจะขายตัวขายความเป็นคน ขายให้คนอื่นที่มันไม่คอยแต่จะดูถูกเราอย่างนี้ดีกว่าไหม
กลัวแต่ว่าโรม จะยอมทำโง่ๆให้เขาดูถูกเอาอีกน่ะสิ ยังรักมันลงอยู่อีกเหรอ คนอย่างนี้ :mew5:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อะไร ยังไง ลุ้นกันต่อไป

ออฟไลน์ arigatozung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดดดดดดด ค้างอ่า  :sad4:
//มาต่อไวๆน้า  :L1:  :mew3:

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
คีย์ เห็นแก่ตัวไปใหมเป็นแฟนกับโรมแต่นอนกับคนอื่นหน้าตาเฉย พอโรมถามกลับว่าเรื่องแค่นี้ปัณญาอ่อน เหตุผลคนเลวชัดๆๆที่โรมเลิกตอนนั้นทำถูกล่ะถ้านอกใจก็สมควรที่โรมจะเลิก พอมาเจอกันใหม่กลับดูถูกโรมสารพัด  โรมเจ็บได้แต่ไม่เห็นต้องทนหรือยอม คน แบบคีย์เลย  (สู้ๆๆเป็นกำลังให้คนแต่ง) :mew2:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
โนคอมเม้น
รอดูสถานการณ์ :hao4:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
อย่าไปยอมนะโรม... ว่าแต่ตังในกระเป๋าเหลืออยู่เท่าไหร่ล่ะน่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียน(กับโรมด้วย)จ๊ะ

ปล.ช่วยใส่บทที่กับวันที่อัพที่หัวข้อด้วยจ๊ะ จะได้เห็นว่าอัพเพิ่มแล้ว

ออฟไลน์ jamelovelove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-5
ดูเหมือนนนนาย เอกจะเป็น โรคคคจิตตตตนะ
555555555555หลบบบตีนแฟ๊บบบบบๆๆๆๆ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่าติดตามมากค่ะ รอตอนต่อไปไม่ไหวแล้ววว
 :hao5:

ออฟไลน์ สองโซ่แซ่กุญแจมือ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 56
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-1

                                                                    Once again ถ้าเราเคยรักกัน
                                                             Chapter 3 : It was dark and I was over


          ผมเงยหน้ามองท้องฟ้าสีดำสนิท.. พลางคิดสงสัยกับตัวเองว่าผมเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมจำได้ว่าครั้งนึง เขาเคยเข้ามาเปลี่ยนชีวิตผมให้มันสว่างไสว จนผมกลัวว่าถ้าหากวันนึง ความสว่างไสวนั่น มันละลายตัวผมเองจนไม่สามารถกลับมาเป็นแบบเดิมได้

        แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสอนผมด้วยเช่นกัน ก็คือการรู้จักที่จะเก็บความสุขเอาไว้ให้น้อยที่สุด เพราะวันนึง ถ้าหากพลั้งเผลอคว้าความสุขเอาไว้มากเกินเกินไป พอถึงวันที่ความสุขพวกนั้นมันโดนกระชากกลับคืนไป มันก็ไม่เหลืออะไรเหมือนเดิม



         ผมลุกขึ้นยืน บิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะเดินลงมาจากดาดฟ้า เพื่อไปขนของยังห้องของตัวเอง ผมคิดว่าผมตัดสินใจได้แล้ว

        “มาดูกันสิ ว่าคนอย่างตุลท์ กุลชาต จะตกต่ำได้มากขนาดไหน”

        ตั้งแต่ผมตัดสินใจมาอยู่กับคีย์แล้ว ดูเหมือนเขาจะช่วยผมทุกอย่างในด้านการเงิน แบบนี้สินะ พวกนักศึกษาบางคนถึงอยากมีเสี่ยเลี้ยง ตอนผมเรียนมหาลัย เพื่อนของผมแต่ละคนแทบจะขับรถเบนซ์ (ที่ไม่ใช่ของตัวเอง) มาเรียนกันเป็นแถว และอาจจะเพราะผมเลือกคบคนจำพวกนี้ด้วยมั้ง ผมถึงพึ่งใครไม่ได้สักคนตอนนี้

        “กูจะออกไปข้างนอก.. ห้องนอนมึงอยู่ตรงข้ามห้องกู อย่าออกไปไหนจนกว่ากูจะกลับเข้ามา ”

       “...”

      “เข้าใจไหม ?”

      “...”

      “กูถามว่า เข้าใจรึเปล่า ??”

      “...ครับ”

       สิ่งแรกที่ผมได้รู้จากการอยู่ร่วมกับคนอย่างเขาคือ อย่าหวังอิสรภาพ ...แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการมันอยู่แล้ว  ถ้าหากผมได้มันมา แล้วต้องแลกกับการที่ผมต้องอยู่คนเดียว..  อย่างน้อยๆให้ผมอยู่กับที่คนเกลียดไปเลยอาจจะดีกว่า

        ผมเพิ่งสำนึกได้อย่างหนึ่งตั้งแต่เมื่อวานคือ ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องผมเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อความหิวเริ่มทักท้วง ผมจึงได้ไปเปิดตู้เย็นดู แต่ก็พบเพียงแค่เหล้าและเบียร์ ในตู้เย็นแทบไม่มีน้ำเปล่าเลยด้วยซ้ำ เขาดื่มของพวกนี้แทนน้ำเลยรึไง ?

        00.00 น.

       ผมยังนั่งอยู่บนโซฟา เพราะความหิวมันทำให้ผมข่มตาหลับไม่ลง การนั่งนิ่งๆจะทำให้ผมไม่เสียพลังงานมากเกินไป เพราะถ้าให้ผมหาของกินทั่วห้องขนาดใหญ่แบบนี้ มันก็ไม่ต่างกับผมนั่งหาเม็ดทรายในผลไม้ แถมดูเหมือนประตูจะล็อคจากด้านนอกซะด้วย
       เหอะ..  เขาคิดบ้าอะไรกันอยู่แน่ ถึงได้ล็อคห้องไว้ซะขนาดนั้น ความคิดฟุ้งซ่านมันเกิดขึ้นได้เสมอ ถ้าหากคุณรู้สึกหิว ผมก็เหมือนกัน ตอนนี้ถ้าเกิดว่าทำได้ ผมอยากจะพังประตูออกไป และเพราะว่ามันเป็นความคิดที่โง่ ผมเลยไม่ทำ

      “อ่า...ให้ตายเหอะ !”

      อาการแสบท้องเริ่มเล่นงานผมจนต้องสบถซ้ำๆ  จนกระทั่งมีเสียงรูดคีย์การ์ดผ่านประตูนั่นแหละ ผมถึงได้สงบสติอารมณ์ของตัวเอง

        “ทำไมยังไม่นอน..?”

        “หิว..”

        เขาดูตะลึงไป ก่อนจะหลุดขำออกมา จนผมรู้สึกอาย หน้าผมคงจะบูดบึ้งมากกว่าเดิม เขาถึงได้หยุดขำ 
 
        “แล้วทำไมไม่บอกก่อนกูจะออกไปละ จะได้ซื้อมาให้”

        “..ก็ไม่คิดว่าคุณจะออกไปนานขนาดนั้น”

         เขาโทษผมได้ไง ในเมื่อเขาเองที่จู่ๆก็พาผมมาในห้องนี้ พูดๆแล้วก็เดินออกไป

         “เรียกกูแบบเดิม..”

         “แบบไหน ?”

          “มึงเคยเรียกกูว่าพี่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เหรอ”

          “....”

          ไม่รู้ทำไมผมถึงเรียกเขาไปอย่างนั้น  อาจเพราะอารมณ์ส่วนตัว ? ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่อยากเรียกเขาแบบสนิทสนมแบบนั้นอีกครั้ง  อย่างน้อยให้มันมีช่องว่างเล็กๆระหว่างเราเอาไว้ 

                                                           ผมจะได้ไม่ลืมอดีต..


         “ช่างมันเหอะ ตอนนี้ก็คงหาได้แค่ร้านโต้รุ่ง มึงกินได้รึเปล่า ?”

       “....อือ..”

         เกือบ 20 นาที กว่าเราจะหาร้านข้าวโต้รุ่งกันได้ คีย์ดูคุ่นเคยกับการใช้ชีวิตแบบนี้ เขาไม่ได้ดูติดหรูเหมือนเมื่อก่อน หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้ติดหรูอยู่แล้วก็ได้ เพียงแต่มันเป็นเรื่องที่ผมไม่รู้

         “อยากกินอะไร ?”

         “แล้วแต่..”

         “งั้นเอาข้าวต้มปลาสองที่ครับ”

        “ยังจำได้ด้วยเหรอ”  ถามไปเพราะอยากรู้ว่า แค่บังเอิญหรือเขาจำได้จริงๆ ว่าผมชอบอะไร

          ผมแอบเห็นเขาลอบยิ้มบางๆเมื่อผมถามจบ ก่อนที่จะกลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิม

         “ลบมันออกไปจากสมองบ้างก็ได้นะ เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่สำคัญพอที่จะจำหรอก”

       “ถ้ากูไม่บอกให้ลืม มึงก็ห้ามลืม

       ไม่มีใครพูดอะไรจบกระทั่งพวกเรากินกันเสร็จ เวลาล่วงเลยมาจนเกือบตีหนึ่ง หลังจากกลับมาเเล้ว พวกเราต่างก็แยกย้ายกันอาบน้ำในห้องของตัวเอง และเตรียมตัวนอน


        พอมีเวลาอยู่คนเดียวแล้ว มันก็ทำให้ผมคิดถึงเรื่องราวที่ยิ่งกว่านิยายน้ำเน่าเรื่องหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตผม ที่ผมมาอยู่กับเขา ผมแค่คิดว่าผมอยากมีใครสักคนที่อยู่ด้วย อย่างน้อยก็แค่สักคนที่เขาจะไม่ทิ้งผมไป ถึงแม้ว่าผมจะรู้ก็เถอะ ว่าเขาอาจจะทิ้งผมไปตอนไหนก็ได้..แต่ขอแค่มันไม่ใช่ตอนนี้ มันก็เพียงพอสำหรับผมแล้วละ


                           ก๊อก ก๊อก ก๊อก

        “ครับ ?”

        “อีก 3 วัน เตรียมตัวไปประชุมกับกูที่เชียงใหม่ด้วยนะ”

       “ไปกี่วันครับ ?”

       “กูยังไม่ได้ตัดสินใจ คิดว่าอาจจะไปเที่ยวด้วย ”

        มีเพียงประตูที่กั้นระหว่างพวกเรา เขาแค่เคาะประตู แต่ไม่ได้เปิดเข้ามาคุยกันตรงๆ ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ล็อคประตู   

       “ครับ”


       ผมทรุดตัวลงนั่งพิงประตู ผมออกจากบ้านมาได้เกือบสามเดือน แต่กลับไม่มีใครติดต่อมา ไม่สิ..พวกเขาอาจจะไม่คิดแม้แต่ตามหา ผมเลยก็ได้ พ่อเคยบอกกับผมว่าเป็นผู้ชายต้องเข้มแข็งและปกป้องคนที่เรารักได้ .. แล้วพ่อไม่รักผมเหรอ ? จู่ๆก็ทิ้งผมไป ให้อยู่กับพวกคนไม่รู้จักพอพวกนั้น  หรือเพราะพ่อเสียใจที่ผมเป็นผู้ชายอย่างที่พ่อคาดหวังไม่ได้..


                                                           เคยบอกผมใช่ไหมครับว่า อย่าร้องไห้

                                                          ผมขอโทษนะครับที่รักษาสัญญาไม่ได้


       “..อึก...ฮือ...”

                  ไม่ไหวแล้ว  ผมทนไม่ไหวแล้ว
 
         เมื่อไหร่ผมจะหลุดพ้นจากความรู้สึกแบบนี้สักที  ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าความรู้สึกมีความสุขมันเป็นยังไง..  ใครก็ได้.. ดึงผมออกไปที

       เพราะไม่อยากเจ็บปวดกับการถูกเหยียบย่ำความรู้สึก มันทำให้ผมอยากไปให้พ้นๆซะ แต่ผมกลัว .. ผมไม่อยากอยู่คนเดียว

       “.....ฮึก...”

   พื้นตรงหน้ามันสั่นไหวไปหมด จนผมมองอะไรไม่เห็น นอกจากน้ำตาที่ล้นอยู่ในดวงตา เจ็บจนเหมือนทุกอย่างมันชาไปหมด ....

                                                                                   .......


       เวลาผ่านพ้นไปนานพอสมควร ผมค่อยๆลุกขึ้น ไม่รู้ว่าโชคดีหรือเปล่าที่ห้องน้ำของที่นี่อยู่ในตัวห้องนอนทั้งหมด ทำให้ผมไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับเขาในตอนที่ผมยังไม่พร้อม

       หน้าตาของผมที่ปรากฏอยู่บนกระจกมันย่ำแย่ไปหมด  จนผมไม่อยากมองหน้าตัวเอง ได้แต่ก้มหน้าล้างคราบน้ำตาออกไป


             5.00 น.

       ทั้งๆมันเลยเวลาที่คนจะนอนแล้ว แต่ผมกลับยังไม่ได้หลับสักที ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ว่าผมเลือกดีแล้วจริงๆเหรอ ?  ถึงจะรู้ว่าเขาและผม เราต่างก็อ่อนลงทั้งคู่ แต่มันไม่ได้หมายความว่าจะลบอดีตที่เขาทำเอาไว้ได้

        “..เฮ้อ..”

        ผมลุกขึ้นนั่ง ในเมื่อนอนไม่หลับแล้วจริงๆ ก็คงต้องหาอะไรทำ จะได้ไม่ฟุ้งซ่านเกินไป จนถึงขนาดเอามีดมาไล่ฟันตัวเอง

         “ตื่นแล้วเหรอ ?”

         “ครับ”

        “หิวไหม ?”

        “ไม่ครับ”

        “เมื่อคืนนอนหลับไหม ?”
 
       “ครับ”

       “....”

         เขานั่งมองผมเงียบๆ เหมือนกำลังดูว่าผมจะทำอะไรต่อไป  ถ้าหากรู้ว่าเขาตื่นเช้าขนาดนี้ผมคงไม่ออกมา  ..ไม่รู้ผมคิดไปเองรึเปล่า แต่นัยน์ตาของเขามันดูเจ็บปวด มันก็แค่แวบเดียวก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นนิ่งสงบเหมือนเดิม..

         “ผมอยากดื่มกาแฟสักแก้ว ..”

        “ตรงไป แล้วเลี้ยวขวา กาแฟตั้งอยู่บนโต๊ะ”

       “ขอบคุณครับ”


         ไม่รู้ว่าบรรยากาศที่น่าอึดอัดเหมือนมีหมอกบางๆกั้นระหว่างเราอยู่มันมาจากไหน ผมเดินมาตามที่เขาบอก แก้วสีเทาที่มีไอร้อนระเหยขึ้นมาตั้งอยู่บนโต๊ะ

         เขาทำเผื่อผมเหรอ ?  แล้วเขาจะรู้ได้ไง ว่าผมจะตื่นตอนนี้  แต่พอผมคิดว่าบางทีเขาอาจจะแค่ทำมันเหลือก็ได้ 

         ผมเดินถือแก้วสีเทาออกมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับเขา เขานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจเงียบๆ ส่วนผมก็ยกของเหลวสีดำขึ้นมาดื่มเป็นบางครั้ง

                                                             ให้ตาย.. มันน่าอึดอัดจริงๆ

         “เอ่อ / นี่”

        พอมีใครจะพูด ก็ดันพูดพร้อมกัน จนทำให้บรรยากาศมันแย่ไปกว่าเดิม...

        “คุณพูดก่อนก็ได้ครับ”

        “ขอโทษนะ.. ”

       “..”

       “ที่ตบเมื่อวาน”

       “...อือ”

       ได้แต่ตอบรับเบาๆ แต่ไม่ได้บอกว่าผมยกโทษให้ คนที่ใช้กำลังตัดสินปัญหา ไม่ใช่คนที่สมควรได้รับการยกโทษให้ เพียงแค่เพราะคำขอโทษ..

                                                                          การกระทำมันสำคัญกว่าคำพูด




------------------------------------
เริ่มตัดสินใจไม่ถูกว่าจะลงตอนไหน เพราะเเต่งเสร็จแล้ว 5555 เลยลงซะเลยเนอะ
แอบอ่านเม้นเเล้วเห็นมีคนเกลียดพี่คีย์เยอะ.. ใจเย็นๆนะคะ เราคุยกันได้ 5555
พี่คีย์สำหรับนักเขียน น่าจะเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดมั้ง -  ... +
ไม่รู้ว่าเเต่งออกมาดีรึเปล่า เพราะว่าส่วนหนึ่งมาจากผู้เขียนยังมีประสบการณ์น้อย
ขอบคุณนะคะที่เข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้ 

ปล. ตอนหน้าจะเป็นตอน Special นะคะ จะให้พี่คีย์เป็นคนดำเนินเรื่อง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-12-2014 08:15:03 โดย SpoilerNo.2 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด