นิสรีน... กุหลาบขาวแห่งทะเลทราย [Ch.26: คู่รัก END ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิสรีน... กุหลาบขาวแห่งทะเลทราย [Ch.26: คู่รัก END ]  (อ่าน 462806 ครั้ง)

ออฟไลน์ zeroj

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เราชอบแนวท่านชีค   ดูเท่ห์ดีอ่ะ

จัดมาหวานๆ เลยนะ  คนเขียน    :mew1:


ติดตามค่าาาาาาาาาาาาาาาา     :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ kaway

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มารอจ้า แค่บทนำก็สนุกแล้วค่า   o13  :-[

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
รีบมาต่อนะคะ ชอบค่ะชอบแนวนี้ไม่ค่อยมีคนเขียนเกี่ยวกับทะเลทรายเลย รีบๆมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ khunkun91

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
หูววววววว ยาวมากเลยข่ะ อ่านตาแฉะ

รอลุ้นว่าเด็กหนุ่มจะได้เจออับบาไหม
 :katai5:

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ท่านชีคนี่อาจจะไม่ใช่อับบาแต่เป็นลูกชายของอับบาแล้วหรือเปล่าคะ
เดามั่วเดาไปเรื่อย 55555555

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
อับบาเหมอนนินจาเลย

ออฟไลน์ sanfran

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
ยาวมากกกกกกกกก
อ่านลื่นมากๆๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปน้า

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รอค้าบรอ หุๆๆ

ออฟไลน์ moneza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สนุกมากเลยค่ะ บรรยายเรื่องดีมากๆ ชอบบรรยากาศในนิยายของคุณทุกเรื่องเลย อบอุ่นอ่อนหวานยังงัยไม่รู้ อ่านแระรู้สึกถึงควมฟรุ้งฟริ้งมุ้งมิ้งกุ๊งกิ๊งมาก 555555

เมื่อไหร่เค้าจะเจอกัน ท่านชีคลึกลับจัง

ออฟไลน์ yumijung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :mew1: อับบ้า...มายัง..เค้ารออยู่..น้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poppy29

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :mc4: จุดพลุๆแสดงความดีใจกับฮัสกี้ด้วยค่า   :mew1: เห็นกระแสคอมเม้นท์แล้วก็อดปลื้มใจตามไปด้วยไม่ได้อ่านไปอมยิ้มไปเลยค่ะ ขออวยพรให้เรื่องนี้ดังเป็นพลุแตกในเล้าเลยนะคะ เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องโปรดเลยค่ะ  เล่มที่มีนี่คืออ่านแล้วอ่านอีกจนมันจะเก่าแล้วค่ะ55 หวานซึ้งน่ารัก ภาษาสวย ข้อมูลแน่น บรรยายได้แบบเหมือนกำลังดูสารคดีทะเลทรายอะไรสักอย่าง คือได้ความรู้ไปด้วย พร้อมๆกับความสุขใจตอนอ่านเนื้อหาและเรื่องราวของตัวละคร เรื่องนี้ดีจริงๆค่ะทุกคนนนนน อย่าลืมบอกต่อนะคะ  รับรองว่าจะต้องหลงรักเรื่องนี้แน่ๆค่ะ :impress2:
ปูลู : เป็นกำลังใจให้ฮัสกี้นักเขียนในดวงใจของเค้าเสมอนะคะ กอดๆๆ :กอด1:  อยากให้คนอื่นๆได้อ่านผลงานของฮัสกี้อีกหลายๆเรื่องที่มันน่ารักและสนุกมว้ากกกกกกกกกกก อ่านไปยิ้มไปจนแก้มจะฉีก5555 คือฟินทุกเรื่องจริงๆค่ะ  :katai2-1: คุณ☆สู้ๆน๊าาาาา

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:เข้ามารอออออออออออ :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ YounIn

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-8
สนุกดี น่าติดตาม
ตอนนึงนี่ยาวมากกกกกกก
แอบง่วงตรงช่วงเวลา

ต่อๆๆ

ออฟไลน์ paladin.kn

  • ไฟมอดลงยังคงทิ้งรอย...เถ้าถ่าน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
ชอบบบบบบบบบบบบบบ

อ้ายยย ท่านชีค ยังไม่ทันเจอก็ฟินละ

ปูเสื่อรอจ้า

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
เป็นบทนำและบทที่ 1 ที่ยาวนานมากค่ะ (หมายถึงการเกริ่นนำน่ะค่ะ) ก็ชอบนะคะ ไม่ใช่ไม่ชอบ เนื้อหายาวๆแบบเนี๊ย อ่านจุใจดี ^^

รอจ้าาาา ลุ้นไปด้วยเลยนะเนี่ย ว่าคีตคุณจะได้เจออัลบาไหม เรื่องนี้แนวคุณพ่อขายาวสินะ 555+

ออฟไลน์ KS.F

  • มือใหม่หัดแต่งนิยาย ช่วยแนะนำด้วยน่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ pipoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
    • https://twitter.com/dokpeepo
ชอบแนวนี้ปักไว้ก้อนนะคะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ชอบมากเลยค่ะ บรรยากาศแบบคุณพ่อขายาว

มหากาพย์การเลี้ยงต้อยอันยิ่งใหญ่ :hao7:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ยาวเวอร์ และบรรยายได้ดีมากกกกกกกกกก
ชอบมากๆเลยน้าาาาา
น้องตะวันงับหนอนแล้ว มาต่อน้องคุณด้วยเน้ออออ
รอตอนต่อไปเนาะ

ออฟไลน์ pagg

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ศตคุณเป็นเด็กน่าสงสารนะคะ พ่อแม่ลุงจากไปพร้อมกัน  ไม่เหลือใครเลย ดีนะที่มีอับบารับเป็นลูกบุญธรรม ถึงจะไม่เจอแต่ก็มีอาเหม็ดที่คอยมาส่งข่าวให้ทุกเดือน
แต่อับบานี่ช่างลึกลับ เวลามาดูศตคุณเล่นเปียโนก็ไม่เคยได้เจอหน้า เจอแค่กุหลาบขาว
การแสดงครั้งสุดท้ายของศตคุณ ขอให้ได้เจออับบานะ

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่าเตรงงง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 2 : พรหมลิขิต


เสียงเพลงคริสต์มาสดังแว่วไปทั่วทุกมุมถนนในตัวเมืองเวียนนา หิมะเม็ดกลมโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้าสีหม่นตลอดวัน ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างราวกับถูกปกคลุมไว้ด้วยสำลีหนา

ร่างโปร่งบางอยู่ในชุดทักซิโด้สีขาวสะอาดตา มีโค้ตขนสัตว์สีเทาดำสวมทับ เส้นผมจัดแต่งเป็นทรงเรียบ เขายืนอยู่ตรงหน้าทางเข้าโรงละครกับเพื่อนรักที่ในวันนี้จะได้เข้าร่วมชมการแสดงด้วยเป็นครั้งแรก เควินทั้งตื่นเต้นและปลาบปลื้มใจ จนถึงกับลงทุนไปหายืมชุดสูทแบบสามชิ้นมาใส่ ไปร้านบาร์เบอร์เพื่อตัดผมและจัดทรงให้เรียบร้อย ดูหล่อเหลาไม่แพ้ศตคุณเลยทีเดียว 

“หยุดหัวเราะซะทีได้มั้ย!” เควินส่งเสียงดุเพื่อนรักที่เอาแต่หัวเราะ ซึ่งตั้งแต่พบกันเมื่อสิบห้านาทีที่แล้วจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ยอมหยุด เขาอายจนหน้าแดงไปหมดแล้ว ใช้ข้อศอกถองสะกิดเบาๆ อยู่หลายรอบ แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจ

“ก็ตกใจอ้ะ! ไม่เคยเห็นนายแต่งตัวหล่อขนาดนี้”

“ถ้าไม่แต่งแบบนี้ เค้าจะให้ฉันเข้าไปดูนายมั้ยเล่า สูทนี่ยืมรุ่นพี่ที่ร้านที่ฉันไปทำงานพิเศษมาเชียวนะเว้ย”

ขณะที่สองหนุ่มยืนคุยกันอย่างออกรส เสียงฝีเท้าหนักๆ ที่ดังแทรกขึ้นมาก็เรียกความสนใจจากทั้งสองให้หันไปยังต้นเสียง ชายวัยกลางคนกำลังเดินเข้ามาหาร่างโปร่งช้าๆ พร้อมกับช่อบูเก้ดอกไม้สำหรับติดหน้าอกและกล่องของขวัญขนาดเล็กในมือ “สวัสดีครับ”

“สวัสดีครับคุณอาเหม็ด งั้นผมเข้าไปข้างในแล้วดีกว่า เดี๋ยวเสร็จงานเจอกันนะคุณ” เควินรีบปลีกตัวให้กับคนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ตามมารยาท เพราะเขาเห็นว่าทั้งคู่คงจะมีธุระต้องคุยกันก่อนการแสดง

ศตคุณพยักหน้ากับเพื่อนรัก แล้วหันกลับมาชะเง้อมองไปด้านหลังของอาเหม็ด “...คุณอาเหม็ด แล้ว...”

“ฮะๆ ชีคให้ผมนำของขวัญมาให้คุณศตคุณก่อน เพื่อเป็นกำลังใจในการแสดงครับ” มือกร้านช่วยติดช่อดอกไม้ซึ่งประกอบไปด้วยดอกกุหลาบสีขาวสองดอก แซมด้วยใบสีเขียวบนแผ่นอกด้านซ้ายให้กับเด็กหนุ่ม แล้ววางกล่องกำมะหยี่ลงบนฝ่ามือนุ่ม “เปิดดูสิครับ”

ศตคุณแง้มฝากล่องออกทีละน้อย ดวงตากลมเบิกกว้างกับเหรียญตราที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ซึ่งแกะสลักเป็นลายกุหลาบอ่อนช้อย เกสรของมันฝังเพชรเม็ดใหญ่เป็นประกายแวววาว ดูเหมือนกับเป็นเครื่องประดับประจำตำแหน่งอะไรสักอย่าง

“สำหรับความสำคัญและความหมายของเหรียญนี้เอาไว้คุยกันหลังจากงานแสดงจบลงละกันนะครับ”

“ของขวัญอะไรกันขนาดนี้...” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่น

“นี่แค่ของรับขวัญเท่านั้นนะครับ ของขวัญที่เหลือคงต้องให้ชีคเป็นคนมอบให้กับคุณศตคุณเอง” อาเหม็ดยิ้มกว้าง “อ้อ ผมจะบอกอะไรให้นะครับ ชีคท่านตื่นเต้นกับเพลงที่คุณศตคุณแต่งเองมากเลยล่ะครับ”

“ผมอยากพบอับบาเหลือเกิน” แววตาใสสั่นระริก เขาอยากพบ อยากให้บิดาบุญธรรมโอบกอดตนเองไว้ในอ้อมแขนแทนช่อดอกไม้สีขาวนั่น อยากจะมี ครอบครัว มีใครที่คอยดูแลและใส่ใจ

การรอคอยเนิ่นนานกำลังจะจบสิ้นลงไปแล้ว ศตคุณกำกล่องกำมะหยี่ไว้ในมือแล้วยกขึ้นแนบอก

ชายวัยกลางคนวางมือประกบบนหลังมือขาว “อีกไม่นานครับ อีกแค่ไม่กี่อึดใจเท่านั้น... ขอให้เต็มที่กับการแสดง และเมื่อคุณแสดงเสร็จ ท่านจะรอคุณอยู่ที่ห้องโถงด้านหน้า แล้วพบกันนะครับ คุณศตคุณ”

หลังจากอาเหม็ดเดินออกไป ศตคุณก็ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนลืมความเย็นเยือกของฤดูหนาวไปเสียสนิท

เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาเป็นควันขาว เขาซุกมือและกล่องกำมะหยี่ลงในกระเป๋าเสื้อโค้ต ใบหน้าสวยหวานมีรอยยิ้มน่ารักประดับขณะที่กวาดสายตามองไปรอบๆ อดนึกสงสัยไม่ได้ว่าอับบาจะเป็นใครสักคนที่ยืนอยู่แถวนั้นรึเปล่า แล้วพอได้ยินเสียงออดเรียกนักแสดงให้เตรียมความพร้อม เขาจึงหันหลังกลับเข้าไปยังด้านในของโรงละคร

“คุณ!” เสียงเรียกของเด็กสาวหยุดร่างโปร่งไว้เสียก่อน ไอด้าอยู่ในชุดราตรียาวสีฟ้าอ่อน ท่อนบนมีเพียงแค่ขนกระต่ายฟูฟ่องห่มช่วงไหล่ไว้เท่านั้น

“ไอด้า ผมนึกว่าคุณเข้าไปในงานตั้งนานแล้ว”

ไอด้ายิ้มรื่น เธอหมุนตัวช้าๆ แล้วขยับเข้าไปหาร่างโปร่ง “เป็นไงคะ”

“หืม?” ศตคุณขมวดคิ้ว ก่อนนึกขึ้นได้ “อ้อ... สวยครับ วันนี้คุณสวยเป็นพิเศษเลย”

“เพราะเป็นวันพิเศษของคุณน่ะสิคะ” เธอบิดตัวไปมาด้วยความขวยเขิน“ฮัดชิ้ว!... บรื๋อออออ~”

เด็กหนุ่มหัวเราะ แต่พอเห็นว่าอีกฝ่ายยืนตัวสั่นแล้วก็นึกสงสาร เขาจึงถอดเสื้อโค้ตของตนสวมทับให้กับเด็กสาว “ใส่ซะ เดี๋ยวไม่สบายนะครับ”

เพียงแค่นั้น ใบหน้าของเด็กสาวก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มในทันที เธอยิ้มเอียงอาย “ขอบคุณค่ะ”

“คุณศตคุณ!! อยู่ที่นี่เอง เข้าไปเตรียมพร้อมได้แล้ว! เร็วเข้า!” สตาฟฟ์ของโรงละครที่กำลังวิ่งตรงเข้ามาส่งเสียงเรียก

“อ๊ะ ครับ จะรีบไปเดี๋ยวนี้ละครับ” ร่างโปร่งตอบรับ แล้วหันไปบอกกับเด็กสาว “ไอด้าเข้าไปข้างในเถอะครับ ผมต้องรีบไปหลังเวทีแล้ว”

“งั้นเดี๋ยวไอด้าเอาโค้ตของคุณไปฝากให้นะคะ พอคุณแสดงจบค่อยมาเอา”

“ครับๆ ขอบคุณครับ” ศตคุณโบกมือลา ก่อนจะหันหลังวิ่งเข้าไปในตัวตึกทันที โดยที่ลืมนึกไปเสียสนิทว่า... ของขวัญที่เขาเพิ่งได้รับมาจากอับบานั้น ยังอยู่ในกระเป๋าเสื้อโค้ตด้วย


ไม่นานเสียงออดซึ่งเป็นสัญญาณว่างาน Winter Waltz ประจำปีได้เริ่มขึ้นแล้วก็ดังขึ้น ผ้าม่านหนาเปิดออกพร้อมกับเสียงเพลงบรรเลงจากวงออร์เคสตร้าที่ตั้งอยู่ด้านในสุดของเวที โดยเบื้องหน้ามีกลุ่มนักแสดงบัลเล่ต์รุ่นเยาว์ในชุดหลากสีสันที่แสดงถึงความสดใสร่าเริงในวันคริสต์มาสเปิดการแสดงขึ้นเป็นกลุ่มแรก เสียงดนตรีดังกระหึ่ม ผู้ชมเต็มไปด้วยรอยยิ้มและรู้สึกเอ็นดูไปกับความน่ารักของเด็กๆ การแสดงถัดมาเป็นการแสดงดนตรีในเพลง Nutcracker อันเป็นที่นิยมสำหรับเทศกาลนี้ ตามมาด้วยการแสดงเต้นรำเพลงวอลซ์ และเมื่อโปรแกรมดำเนินมาถึงช่วงกลางของงาน ก็เป็นเวลาสำหรับการแสดงเดี่ยวเปียโนของศตคุณ

เพลงที่เป็นผลงานการประพันธ์ของเด็กหนุ่มทำให้ภายในโรงละครอบอุ่นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับมีแสงอาทิตย์เฉกเช่นในทะเลทรายสาดส่อง ผู้ชมหลายคนที่เผลอหลับตาและจินตนาการตามท่วงทำนอง เมื่อถึงตอนที่จังหวะเร็วและรุนแรง บางคนก็เผลอกลั้นลมหายใจตามไปด้วย และเมื่อท่วงทำนองเปลี่ยนเป็นสดใสร่าเริง พวกเขาก็ถอนหายใจออกมากันอย่างลืมตัว

การบรรเลงจบสิ้นลงไปแล้ว ร่างโปร่งลุกขึ้นค้อมศีรษะให้กับผู้ชม ก่อนจะเบี่ยงตัวไปทางซ้ายมือของเวที เพื่อค้อมศีรษะให้กับผู้ปกครองของตนเป็นพิเศษ จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นช้าๆ ศตคุณได้สบสายตากับชายในชุดสูทสีดำนั่นเป็นครั้งแรก หากระยะทางและแสงไฟทำให้เห็นใบหน้าของชายผู้นั้นได้ไม่ชัดเจนนัก ทว่าเด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ถึงสายตาอันอบอุ่นและรอยยิ้มนั่น หัวใจดวงน้อยเต้นรุนแรงจนเหมือนจะกระเด็นออกมานอกอกอยู่รอมร่อ ริมฝีปากอิ่มยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบรุดออกจากเวทีไป เพื่อให้การแสดงถัดไปได้เริ่มขึ้นตรงตามกำหนดการที่วางไว้

“ศตคุณ Congratulations!!!” ...เสียงไชโยโห่ร้องแสดงความยินดีจากสตาฟฟ์ด้านหลังเวทีดังสนั่น ซึ่งเด็กหนุ่มก็ค้อมให้กับทุกคน แล้วกล่าวขอบคุณ

“เรียนจบแล้วจะทำอะไรต่อล่ะ!”

“วันนี้จะไปฉลองกันหน่อยมั้ย!”

ศตคุณถูกรุมล้อมและถามคำถามมากมาย เขาหัวเราะ พลางบอกปฏิเสธกับทุกคนอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาไม่ต้องรีบออกไปเพื่อดักหน้าและรอพบกับอับบาอย่างเช่นทุกครั้ง นั่นก็เพราะอับบาจะรออยู่เพื่อพบและฟังคำตอบจากตน

ขาเรียวพาเจ้าของเดินจากด้านหลังของเวทีออกไปยังห้องโถงส่วนหน้าของโรงละครโอเปร่าตามที่นัดไว้ ริมฝีปากอิ่มฮัมเพลงอย่างสุขใจ ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเพราะนึกขึ้นได้... กล่องกำมะหยี่... ของขวัญที่เขาได้รับมาจากอับบา!! เขาลืมมันไว้ในเสื้อโค้ต! รวมทั้งของขวัญวันเกิดที่เขาเตรียมไว้ให้ไอด้าด้วย! พอนึกได้เช่นนั้นก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดโทรหาอีกฝ่าย

..

......

..

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทมีผิวสีน้ำผึ้งเข้ากับโครงหน้าคมสันหล่อเหลา หากแฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม ดวงตาสีเข้มดูลึกลับ ท่วงท่าการก้าวเดินสง่างาม จนทุกคนที่เดินสวนกับเขาไปเผลอมองตามจนเหลียวหลัง

“ผมถือดอกไม้ให้มั้ยครับ” อาเหม็ดถามเจ้านายของเขา

“ไม่ต้องหรอก ฉันให้เขาเองกับมือดีกว่า”

อาเหม็ดอมยิ้ม ก็เพราะท่าทางของเจ้านายดูประหม่าอยู่ไม่น้อย “ตื่นเต้นหรือครับ”

“...ก็นิดหน่อย ฉัน...” ร่างสูงชะงัก เพราะห่างออกไปเพียงไม่กี่เมตร เด็กสาวร่างเล็กในชุดราตรีสีฟ้ายาวกรุยกรายกำลังคุยโทรศัพท์และสาวเท้าอย่างเร่งรีบ พอกดวางสายก็เอาแต่มองบนหน้าจอโทรศัพท์จนสะดุดส้นสูงของเธอเสียหลักล้มลง

ใบหน้าสวยหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด เธออับอายจนแทบจะร้องไห้ออกมาเดี๋ยวนั้น “ฮึก...”

ชายหนุ่มก้าวเข้าไปหาเธออย่างรวดเร็ว เขาส่งมือให้เธอใช้ยึด แล้วพยุงตัวเธอขึ้นมา “เป็นอะไรรึเปล่า”

เด็กสาวส่ายหน้า เธอสูดหายใจเข้าปอดลึก แล้วพยายามทำจิตใจให้สงบ “ขอบคุณค่ะ อ๊ะ” ร่างเล็กรีบผละออก แล้วก้มหยิบกล่องกำมะหยี่ที่กลิ้งหลุนๆ ไปบนพื้นหินอ่อนตอนที่เธอเสียหลักล้มลง “แย่จริง เปื้อนหมดเลย เอ้อ... ขอบคุณนะคะ แต่ว่าดิฉันต้องรีบไปแล้วล่ะค่ะ” เธอค้อมศีรษะลงต่ำพร้อมกล่าวเจื้อยแจ้ว จากนั้นจึงถอดรองเท้าส้นสูงของเธอออกมาถือไว้ในมือ แล้วก้าวฉับๆ จากไป

หากเมื่อชายหนุ่มเห็นกล่องกำมะหยี่อันคุ้นตาที่อยู่ในมือของเด็กสาวนั่น เขาก็ขมวดคิ้ว ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อนราวกับรูปปั้น

“ชีคครับ...” อาเหม็ดเอ่ยเสียงอ่อย ดูท่านายของเขาจะตกใจไม่น้อยที่เห็นกล่องกำมะหยี่กล่องนั้นอยู่ในมือของคนอื่น... ก็มันเป็นกล่องที่ใส่ของขวัญชิ้นสำคัญที่เจ้านายเพิ่งให้เขาเอาไปให้ศตคุณเมื่อตอนก่อนเริ่มงานนี่นา

ผู้เป็นนายก้าวเท้ายาวๆ ตามเด็กสาวไป ก่อนจะหยุดอยู่ไม่ไกลจากระเบียงทางเดินด้านข้างของโรงละครมากนัก


เด็กหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็นนักเปียโนอัจฉริยะวิ่งไปบนระเบียงเพื่อตามหาเพื่อนหญิงอย่างรีบเร่ง ทว่าเมื่อเห็นเธอเดินกระย่องกระแย่งเข้ามาพร้อมกับถือรองเท้าส้นสูงอยู่ในมือ เขาก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “ไอด้า! ทำไมเดินเท้าเปล่ามาแบบนี้! ผมว่าแล้วเชียว”

เด็กสาวเบ้ปาก “คุณอ้ะ ไอด้าอุตส่าห์แต่งตัวสวยมาเพื่อคุณนะ เอาเสื้อโค้ตคุณคืนไปเลย อุตส่าห์ไปเอามาให้”

“อ๊ะ จริงสิ ขอบคุณมากครับ” มือขาวรีบควานหากล่องกำมะหยี่ทันที

“อ้อ คุณหาไอ้นี่อยู่รึเปล่า ไอด้าเจอมันก่อนเอาเสื้อคุณไปฝาก กลัวว่าจะเป็นของสำคัญเลยเก็บไว้ให้” ใบหน้าสวยซับสีเลือด ก็เพราะเธอคิดว่านั่นเป็นของขวัญที่เด็กหนุ่มจะให้กับเธอน่ะซี นี่ถึงขนาดอดใจไว้ไม่เปิดดูเลยนะ

“ขอบคุณครับ เฮ้อ... โล่งอกไปที” ศตคุณรับกล่องกำมะหยี่คืนมาแล้วรีบเก็บใส่กระเป๋ากางเกง

ไอด้าขมวดคิ้วและกัดริมฝีปาก “...กล่องนั่น...” ...ไม่ใช่ของขวัญสำหรับเธอหรอกหรือ

“อ้อ นี่เป็นของขวัญจากพ่อบุญธรรมของผม ส่วนของขวัญของไอด้าอยู่นี่” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนล้วงเข้าไปรูดซิปเสื้อโค้ตด้านใน  แล้วหยิบกล่องของขวัญขนาดเล็กออกมาส่งให้กับเธอ “Happy Birthday นะครับ”

เด็กสาวยิ้มอย่างขวยเขินขณะรับกล่องของขวัญมาเปิดออกดู “ว้าย สวยจังเลยค่ะ” ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าของขวัญนั้นคือสร้อยคอน่ารักจากร้านชื่อทิฟฟานี่ที่สาวๆ ต่างก็ฝันถึงอยากได้มาครอบครอง ศตคุณเลือกของขวัญสุดพิเศษนี้ให้กับเธอ ไม่อยากเชื่อเลย

มือที่ถือกล่องของขวัญสั่นระริก เธอปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร “ฮือ โฮ...”

“เอ้า ไม่ถูกใจเหรอ ผมว่าเหมาะกับไอด้าออกนะ”

ไอด้าโผเข้ากอดเด็กหนุ่ม พลางร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง “ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ”

ศตคุณกอดเธอไว้หลวมๆ รอจนเธอสะอื้นน้อยลง เขาจึงผละออก “ผมก็ขอบคุณไอด้าเหมือนกันที่คอยช่วยเหลือดูแลผม คุณเป็นน้องสาวที่น่ารักของผมมาตลอด นี่... ผมใส่ให้นะ” พร้อมกับหยิบสร้อยขึ้นมาสวมให้กับเธอ

คำพูดของเด็กหนุ่มไม่ต่างกับการปฏิเสธความรู้สึกของเธอ ทำให้ไอด้าสะอึก หัวใจราวกับถูกแทงด้วยของแหลมมีคม แต่ถึงอย่างนั้น เด็กสาวก็ยังฝืนยิ้มทั้งน้ำตา “...ไอด้ารักคุณนะคะ” เธอเอ่ยด้วยเสียงที่เบาหวิว

ร่างโปร่งลูบศีรษะเธอเพื่อปลอบโยน ก่อนโน้มใบหน้าเข้าไปจูบแก้มของเธออย่างแผ่วเบา “ขอบคุณครับ... แล้วร้องไห้ทำไมล่ะ ดูซิ ร้องไห้จนหน้าสวยๆ เลอะเทอะหมดแล้ว”

...ศตคุณอ่อนโยนและใจดีกับเธอเสมอ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอคิดเกินเลยไปไกลแสนไกล และถึงแม้เขาจะบอกปัดความรู้สึกจากใจของเธอ แต่ยังไงเธอก็เกลียดเขาไม่ลง

“งั้น... ไอด้าขอไปห้องน้ำก่อน... นะคะ” เธอเอ่ยเลี่ยง ก่อนจะเบี่ยงตัวเดินออกไป

“โอเคครับ เดี๋ยวผมมีธุระ แล้วค่อยเจอกันนะ”

หลังเด็กสาวเดินจากไป ศตคุณก็ยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี หัวใจของเขาเต็มตื้น เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันที่รอคอยมาแสนนาน ต่อจากนี้ไป เขาจะไม่ต้องอยู่อย่างเดียวดายอีกต่อไปแล้ว เขาจะได้อยู่ร่วมกับครอบครัวอย่างที่หวังซะที... ขาเรียวเดินต่อไปยังห้องโถง เขายิ้มกว้างให้กับชายวัยกลางคนที่ยืนรอเขาอยู่ที่นั่นพร้อมกับช่อกุหลาบในมือ

“คุณอาเหม็ด ผมมาแล้วครับ”

สีหน้าของอาเหม็ดดูไม่สู้ดีนัก ซ้ำไม่ยอมสบตากับเขา ท่าทางมีพิรุธจนเด็กหนุ่มนึกเอะใจ “เป็นอะไรรึเปล่าครับ... แล้ว... อับบาล่ะ”

“ชีคท่าน... เอ่อ... ติดธุระด่วนน่ะครับ... ท่านกลับไปแล้ว”

รอยยิ้มบนใบหน้าหวานจางลงไปทีละน้อย “อย่าล้อเล่นแบบนี้สิครับ คุณอาเหม็ด” ทว่าชายวัยกลางคนยังคงอึกอัก จะเอ่ยปากพูดอะไรก็พูดไม่ออก คล้ายน้ำท่วมปาก

“คุณอาเหม็ด... อับบาอยู่ที่ไหนครับ”

“...ผมขอโทษ...” อาเหม็ดกล่าวเสียงสั่นเครือ

หัวใจของเด็กหนุ่มกระตุกวูบ ใบหน้าหวานหันมองไปรอบๆ หลายๆ ครั้ง... ที่ตรงนั้นไม่มีใครคนอื่นอีกเลยนอกจากเขากับอาเหม็ด “...ไม่จริง... ไม่จริงใช่มั้ยครับ”

มือหยาบยัดเยียดดอกไม้ช่อใหญ่ใส่มือขาว “ท่านฝากช่อดอกไม้ไว้ให้คุณศตคุณครับ... วันนี้ผมต้องขอตัวก่อน แล้วยังไงผมจะรีบติดต่อคุณศตคุณมาอีกที”

“เดี๋ยวสิครับ เกิดอะไรขึ้น ต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับอับบาแน่ๆ เดี๋ยว!!! คุณอาเหม็ด!!”

อาเหม็ดไม่ฟังเสียง เขาหันหลังแล้ววิ่งออกไปทันที

“ส่งเสียงดังเอะอะอะไรน่ะ?” เพื่อนสนิทของร่างโปร่งที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงละครร้องถาม

“ฝากของที” ศตคุณโยนช่อดอกไม้และเสื้อโค้ตใส่มือเพื่อนรัก ก่อนจะวิ่งตามหลังอาเหม็ดออกไป

ขาเรียวพาเจ้าของวิ่งออกไปจากตัวตึกของโรงละคร ท้องฟ้าข้างนอกมืดมิด มีเพียงแสงไฟสลัวจากเสาไฟพอให้เห็นทางเดินได้เท่านั้น เด็กหนุ่มก้าวยาวๆ ไปบนทางเดินที่เต็มไปด้วยหิมะหนา เขาหมุนตัวมองหาชายวัยกลางคนที่เพิ่งวิ่งออกมา หากก็ไม่พบแม้แต่เงา อาเหม็ดหายไปไหนได้รวดเร็วถึงขนาดนี้

ร่างโปร่งหยุดหอบ สองมือกำเข้าหากันแน่นแล้วตะโกนลั่น “ไม่จริงใช่มั้ย อับบา!! วันนี้อับบาบอกว่าจะมาพบผมไม่ใช่เหรอ!! โกหกผมทำไม!!” จากนั้นก็วิ่งต่อไปจนถึงลานจอดรถ หากที่นั่นเงียบสงัด ไร้การเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตใดๆ เช่นกัน

ศตคุณพ่นลมหายใจออกเป็นควันโขมง เขาไอแค่กๆ เพราะความเย็นของอุณหภูมิ แต่ก็ยังพยายามส่งเสียงเรียก “อับบา!!” มือขาวกระชากเข็มกลัดดอกไม้ที่ติดเสื้อออก แล้วเหวี่ยงลงไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ เด็กหนุ่มตะโกนจนเสียงแหบแห้ง พลันน้ำตาใสๆ ก็พาลเอ่อล้นออกมาโดยไม่รู้ตัว

“อับบา!”

ภาพในอดีตอันเลวร้ายวนเวียนเข้ามาเป็นฉากๆ ภาพของตัวเขาที่ยืนเกาะกระจกรอคอยครอบครัว ความหวังที่กลับกลายเป็นความโศกเศร้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก่อนที่ร่างโปร่งบางจะทรุดตัวลงบนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ มือของเพื่อนรักก็ฉุดรั้งเขาไว้

เควินวิ่งเข้าไปประคอง พลางรีบเอาเสื้อโค้ตมาคลุมให้กับเด็กหนุ่ม “คุณ!! นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”

ใบหน้าหวานหันมาทางเพื่อนรักช้าๆ “เควิน... อับบาทิ้งฉันไปอีกแล้ว เขาไม่อยู่รอเจอฉันตามสัญญา”

เควินตกตะลึงอยู่ไม่น้อย เขาไม่เคยเห็นน้ำตาของศตคุณมาก่อนเลย ไม่ว่าจะเจ็บปวด ท้อแท้ เหงาหงอย หรือสิ้นหวังขนาดไหน ศตคุณก็ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าเขา แขนแกร่งดึงร่างโปร่งบางเข้ามากอด “คุณ...”

ศตคุณกอดเพื่อนรักแน่นราวกับเป็นที่พึ่งสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกกระแสน้ำเชี่ยวพัดพาตัวไป ร่างโปร่งสะอื้นฮักๆ อย่างน่าสงสาร เขาปรับตัวไม่ทัน  เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เขายังมีความสุข มีความหวังในการเฝ้ารอคอยที่จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับครอบครัว ทว่าทุกสิ่งทุกอย่างกลับพังทลายลงภายในชั่วพริบตา “ฮือ... อับบาทิ้งฉัน... ฉันรู้... เขาไม่ได้สนใจจะรับฉันเป็นคนในครอบครัวแต่แรก... ฮือ... ฉันมันก็แค่เด็กกำพร้า” ความเสียใจและปวดร้าวพรั่งพรูออกมากับคำตัดพ้อ ราวกับเก็บกักไว้ในใจมาเนิ่นนาน

“ไม่จริงหรอกไอ้คุณ ใจเย็นๆ เรากลับกันก่อนนะ ไอด้ารออยู่ข้างในน่ะ เขาเป็นห่วงนายมาก”

ใบหน้าหวานส่ายไปมา “ปล่อยฉันให้อยู่ตรงนี้แหละ ให้ฉันตายอยู่ตรงนี้ ฉันจะได้ไปอยู่กับพ่อกับแม่สักที... ฮือ...”

“อย่าพูดอะไรงี่เง่าน่า!!” เควินดุเสียงลั่น ก่อนจะฉุดกระชากเพื่อนรักจนแทบอุ้มให้ไปด้วยกันกับเขา

ค่ำคืนนั้นวุ่นวายโกลาหล ศตคุณเอาแต่ร้องไห้จนสลบไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็เอาแต่นิ่งเงียบ แล้วร้องไห้อีกครั้ง ส่วนเควินก็เป็นห่วงเพื่อนมากเสียจนต้องมาเฝ้าและนอนค้างที่คอนโดมิเนียมด้วย

“ฮึก...” เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาจากคนที่นอนอยู่บนเตียง

“ตื่นมาก็ร้องไห้ก่อนเลย ไอ้ลูกหมา” เควินถอนหายใจ นี่ก็เช้าแล้ว เขาคอยดูแลเพื่อนรักที่เอาแต่ร้องไห้จนหลับๆ ตื่นๆ อยู่ตลอดทั้งคืน

กิ๊งก่อง เสียงกริ่งดังขึ้น

“ใครมากันหว่า... เดี๋ยวฉันออกไปดูให้นะ” เควินลุกไปเปิดประตู แล้วจึงพบว่าเป็นอาเหม็ดที่ยืนอยู่พร้อมกับซองเอกสารในมือ เด็กหนุ่มเห็นผู้มาเยือนมีสีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เขาแทบจะปิดประตูเพื่อปิดกั้นและป้องกันเพื่อนตัวขาวไว้จากเรื่องราวร้ายๆ ที่รุมประดังเข้าใส่

เควินกลืนน้ำลายฝืดลงคอ สีหน้าของอาเหม็ดบ่งบอกหมดทุกสิ่งทุกอย่าง “เขาอาการไม่ค่อยดี” ...อย่าเพิ่งซ้ำเติมเขาด้วยข่าวร้ายเลยได้มั้ย...

อาเหม็ดเสตาหลบ ดวงตาของชายวัยกลางคนลึกโบ๋ ราวกับอดนอน ดูอ่อนล้าไม่แพ้กันกับคนที่อยู่ในห้อง “...ผม... ฝากเอกสารนี่ให้กับคุณศตคุณด้วย”

เด็กหนุ่มรับซองสีน้ำตาลนั้นมา “ผมจะเอาให้คุณดูเมื่อเขาสงบใจได้สักหน่อยก่อนนะครับ”

ผู้มาเยือนพยักหน้า... “ฝากดูแลเขาด้วยนะครับ... ผมขอโทษ”

คำพูดของอาเหม็ดไม่เพียงทำให้หัวใจของเควินร่วงวูบ หากของคนที่เพิ่งเดินสะโหลสะเหลเข้ามาด้วย

“ขอโทษทำไมครับ” ศตคุณถามเสียงสั่น

อาเหม็ดพูดไม่ออก เขารู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งจุกอยู่ที่ลำคอ ชายวัยกลางคนค้อมศีรษะลงต่ำ ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

“คุณอาเหม็ด!” ร่างโปร่งถลาตามไป ทั้งๆ ที่เพียงแค่ก้าวเดินธรรมดาก็ยังไม่มั่นคงนัก

เควินคว้าแขนเรียวไว้ ออกแรงเพียงนิดเดียวเขาก็สามารถต้านขืนแรงอันน้อยนิดของเพื่อนรักได้ “ไม่ต้องตาม มันไม่มีประโยชน์อะไรแล้วไอ้ลูกหมา”

“...หมายความว่ายังไง” ดวงตากลมบวมช้ำ เขาร้องไห้เสียจนน้ำตาไม่ยอมไหลออกมาอีกแล้ว “ซองนั่น...”

มือใหญ่ลังเลที่จะส่งซองเอกสารสีน้ำตาลให้อีกฝ่าย แต่ศตคุณก็ดึงออกไปจากมือเขา “...ฉันว่า ในซองนี้คงไม่ใช่ข่าวดีนัก”

ศตคุณประสานสายตากับเพื่อนรัก แล้วจึงค่อยๆ เปิดซองนั้นออกดู “...หึ...” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ จากนั้นจึงก้าวขาช้าๆ ไปยังโซฟาในห้อง มือขาวโยนเอกสารทั้งหมดลงบนโต๊ะตัวเล็กหน้าโซฟา พร้อมกับทิ้งตัวลงนอน

“ไอ้ลูกหมา...” เควินพูดไม่ออก เขาเดินตามร่างโปร่งไปนั่งบนโซฟาอีกตัวข้างๆ กัน “ฉันขอดูได้มั้ย”

“ตามสบาย” เสียงที่ตอบกลับมาแหบพร่า

เควินเอื้อมไปหยิบเอกสารมาดู จดหมายร่างที่ดูเป็นทางการ ระบุว่าให้อิสระกับศตคุณทุกอย่าง ไม่ว่าเขาจะศึกษาต่อในชั้นมหาวิทยาลัยหรือทำงาน พร้อมบัญชีซึ่งมีจำนวนเงินให้ใช้จ่ายต่อเดือนเป็นจำนวนไม่น้อย แต่นั่นคงไม่ทำให้เพื่อนของเขาหัวใจสลายเท่า... ข้อความที่ระบุว่า ขอยกเลิกข้อตกลงที่เคยเจรจาไว้เมื่อหกปีก่อน ศตคุณไม่จำเป็นต้องเลือกที่จะใช้นามสกุลหรือเดินทางไปดัมมัม ไม่จำเป็นต้องเขียนจดหมายรายงานในทุกๆ เดือนอีกแล้ว และสำหรับอาเหม็ด... เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางมาพบกับศตคุณอีก

...นี่มัน ไม่ต่างกับการตัดหางปล่อยวัดเลย ถึงจะดูดีกว่าก็เถอะ เควินครางในลำคอ หลังมือใหญ่ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าของตน เด็กหนุ่มไม่อยากเชื่อว่าเขากำลังร้องไห้ ถ้าเขายังเสียใจถึงขนาดนี้... แล้วเพื่อนรักของเขาล่ะ

เควินกำมือแน่น นึกอยากจะไปตั้นหน้าไอ้ชีคชารีฟอะไรนั่น คนที่ศตคุณเฝ้ารอคอยมาตลอดหกปีเสียเดี๋ยวนั้น เขาจ้องมองเพื่อนรักที่นอนคว่ำหน้าไม่กระดุกกระดิกอยู่บนโซฟาแล้วผ่อนลมหายใจออกมาหนักๆ เวลาหกปีกับการเติบโตขึ้นมาอย่างเดียวดาย ความหวังของศตคุณมีเพียงสิ่งเดียวคือการได้ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวอีกครั้งและได้ชื่อว่ามีบิดาเหมือนคนอื่นเขา เด็กหนุ่มเฝ้ารอให้อายุครบสิบแปด ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง ตั้งใจฝึกเปียโนจนสอบได้คะแนนสูงสุดทุกเทอม เพียงเพราะอยากให้บิดาบุญธรรมได้ภูมิใจและยอมรับ เขารู้ว่าลึกๆ ในใจของศตคุณไม่เคยรู้สึกมั่นคงเลย ร่างโปร่งกลัวว่าจะถูกทอดทิ้งอยู่ตลอดเวลา

ถ้าหากเป็นเด็กคนอื่น คงดีใจกับข้อตกลงในการให้อิสระแบบนี้ แต่เควินมั่นใจว่าไม่ใช่ศตคุณเพื่อนรักของเขาแน่


“ฉันก็มีพ่อกับเขาเหมือนกันนะ ถึงจะเป็นพ่อบุญธรรมก็เถอะ... เขาอยู่ไกล... แต่เราจะได้พบกันสักวัน แล้วฉันก็จะมีครอบครัวเหมือนคนอื่นเขา”


กี่ครั้งแล้วนะ ที่เขาได้ยินประโยคนี้จากร่างโปร่ง... ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันเลยก็ว่าได้

“คุณ...”

“......” ศตคุณยังคงนอนนิ่ง

“นายอยากพบเขามากใช่มั้ย... ก็บินไปพบเขาเองเลยซี่ แล้วตั้นหน้าแรงๆ ให้สมกับที่ต้องรอคอยมานาน เอาหลายๆ ทีให้หายแค้นเลย”

ร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นช้าๆ แล้วหันกลับมาหาเพื่อนรัก “...บินไปพบเขา”

สายตาของเควินดูแข็งกร้าว ด้วยนึกอยากให้เพื่อนรักเลิกทำตัวเหลาะแหละแล้วลุกขึ้นสู้ “ใช่ พบกับอับบาของนายไง เงินทองนายก็มีตั้งมากมาย อายุสิบแปดก็ถือว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตัดสินใจทำอะไรด้วยตัวเองได้แล้ว ถ้านายจะอยากบินไปดัมมัม มันก็เป็นสิทธิของนายไม่ใช่เรอะไง”

“......” ศตคุณสับสน จริงอยู่ที่เขาอยากพบอับบา แต่อีกฝ่ายไม่ได้อยากพบเขาด้วยนี่ แล้วมันจะดีหรือ หากเขาจะดั้นด้นไปยังดินแดนอันแสนไกลนั่น “...มันสายไปแล้ว พบกันแล้วได้อะไร...” เขาตอบเสียงเบาหวิว

“นายจะได้หายค้างคาใจ เมื่อได้พบเขา ก็บอกความรู้สึกของนายไปซี่ ด่าไปแรงๆ ต่อยให้คางเหลืองไปเลย! เสร็จแล้วก็กลับมาที่นี่ มาเรียนต่อมหาลัย เริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ต้องไปสนใจอับบาอะไรนั่นแล้ว”

“นั่นสินะ...” ศตคุณสบสายตาที่จ้องมายังเขาเขม็ง เควินพูดถูก... เสียใจร้องไห้ไปก็เท่านั้น ชีคชารีฟอะไรนั่นก็ไม่ได้จะเปลี่ยนใจหรือมาสงสารอะไรเขาเสียหน่อย เวลานี้เขาควรจะสะสางสิ่งที่ยังค้างคาในใจ แล้วเริ่มต้นใหม่ เลิกหวังลมๆ แล้งๆ เลิกฝันถึงครอบครัวอะไรนั่นเสียที หกปีที่ผ่านมานี่ เขาก็อยู่มาคนเดียวได้ไม่ใช่หรือ และอีกอย่าง เขาจะได้ถือโอกาสนี้ท่องเที่ยวทะเลทราย แค่ทริปสั้นๆ ให้เขาได้สัมผัสกับทะเลทรายของจริงอีกสักครั้ง... “พรุ่งนี้ฉันจะไปทำพาสปอร์ต”

“ดี! อยากให้ช่วยอะไรก็บอก ฉันจะช่วยนายเต็มที่เลย”


(มีต่อนะคะ)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-12-2014 01:42:27 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


วันรุ่งขึ้นศตคุณเดินทางไปขอทำพาสปอร์ตที่กระทรวงการต่างประเทศแต่เช้า ส่วนเควินมีเรียนที่โรงเรียนตามปกติ ทว่าดูท่าจะไม่ได้เรียนอย่างเป็นสุขสักเท่าไหร่ เพราะว่าเพื่อนตัวขาวส่งข้อความมาเป็นระยะๆ แทบจะทุกๆ สิบนาที เขารอจนถึงเวลาพักจึงรีบเข้าห้องน้ำไปอ่านดูข้อความ

ฉันทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ไม่ได้

คิ้วหนาขมวดมุ่น พลางกดโทรศัพท์ออกไป “เฮ้ย ทำไมวะ!”

“...ฉันก็ไม่รู้ กระทรวงปฏิเสธที่จะออกพาสปอร์ตให้กับฉัน” ปลายสายตอบกลับมาเสียงสั่นพร่า

“เดี๋ยวๆ ใจเย็นๆ รออีกสามชั่วโมงได้มั้ย เลิกเรียนจะรีบไปหา!”

หลังเลิกเรียน เคนวินตรงไปหาเพื่อนรักของเขาทันที ขายาวก้าวฉับๆ ไปในตึกคอนโดมิเนียมอย่างคุ้นเคย แล้วใช้คีย์การ์ดที่ศตคุณให้ไว้เปิดประตูเข้าไปในห้อง

ศตคุณหมอบศีรษะอยู่บนฝาเปียโนสีขาว นัยน์ตากลมที่มองไปทางทีวีในห้องซึ่งเปิดค้างไว้ดูเหม่อลอย บนจอภาพเป็นคลิปวิดีโอเกี่ยวกับทะเลทรายที่เขาป้อนคำสั่งทิ้งไว้ให้คลิปเปิดวนไปวนมาไปเรื่อยๆ

“ไอ้คุณเอ๊ย เฮ้อ...” เควินเดินไปหยุดอยู่ข้างร่างโปร่ง แล้วลูบศีรษะเล็กเบาๆ

“ฉันไม่ได้ร้องไห้” เสียงที่เปล่งออกมาฟังดูอ่อนแรง แต่กลับไม่ได้แฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยเหมือนเมื่อวาน

ผู้มาเยือนหันมองไปรอบๆ ห้อง หน้าต่างทุกบานมีผ้าม่านปิดไว้มิดชิด เครื่องทำความร้อนก็เปิดไว้แรงจนสุด เขาถอนหายใจเบาๆ ศตคุณคงจะเกลียดฤดูหนาวมากจริงๆ หากเขาก็เข้าใจเหตุผลดี... “ก็ดี... แล้ววันนี้เกิดไรขึ้นวะ มีด้วยเหรอวะ กระทรวงไม่รับทำพาสปอร์ต”

“เขาว่า... ฉันมีชื่ออยู่ในลิสต์ที่ห้ามออกพาสปอร์ตให้ชั่วคราว”

“...ลิสต์?”

“อับบาคงกลัวว่าฉันจะไปหาเขา...”

“นายคิดว่านี่เป็นฝีมือของอับบานายเหรอ... ถ้าเป็นจริง เขา... ก็ใจร้ายมากเลยนะ”

ศตคุณหัวเราะขื่นๆ ในลำคอ “...นั่นสินะ... เขาคงมีเงินทองเหลือใช้ พอที่จะซื้อชีวิตใครต่อใครไว้เป็นของดูเล่นได้”

“แล้วนายจะเอาไงต่อไป” เควินทิ้งตัวลงนั่งตรงที่ว่างข้างๆ กัน

“...ฉัน... ไม่ว่ายังไง... ก็ต้องไปที่นั่นให้ได้ ฉันจะต้องพูดกับเขา... ฉันจะไม่ยอมเป็นของเล่นให้ใครอีกแล้ว”

“อือ...”

“นายต้องช่วยฉันนะ”

“ช่วยยังไง”

“ฉันจะทำพาสปอร์ตปลอม”

เควินมองลึกเข้าไปในดวงตาสีอ่อนที่ฉายแววจริงจัง “เอาจริง?... ถ้าอย่างนั้น ร้านอาหารที่ฉันทำงานพิเศษอยู่อาจจะพอมีใครช่วยนายได้”

“ขอบใจนะเควิน... กินอะไรมารึยังล่ะ คืนนี้ค้างที่นี่มั้ย”

เด็กหนุ่มรู้สึกสงสารและเห็นใจเพื่อนรัก เขาอยากจะอยู่เป็นเพื่อน แต่ก็ไม่สามารถทำได้เพราะยังมีงานพิเศษที่ต้องไปทำ เขาไม่ได้มีเงินใช้เหลือเฟือ แล้วยังต้องเก็บเงินไว้สำหรับเรียนต่อ เควินลูบศีรษะเล็กเบาๆ แล้วเลื่อนลงมาบีบหัวไหล่ “โทษทีว่ะ เดี๋ยวต้องไปทำงาน”

ศตคุณพยักหน้า “อือ...”

หงอยอีกแล้ว... เควินเป็นห่วงเพื่อนรักของเขามากเหลือเกิน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ “อย่าคิดมากน่ะ กินข้าวแล้วนอนซะ พรุ่งนี้ไปหาฉันที่โรงเรียนแล้วจะได้พานายไปที่ร้านอาหารที่ฉันทำงานพิเศษพร้อมกันเลย”

“อือ... แล้วเจอกันนะ”

..

....

..

ณ ร้านอาหารอิตาเลียนหรูหราในย่านเซนต์สเตฟานใจกลางกรุงเวียนนา

เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงแผ่วๆ เพื่อขับกล่อมแขกผู้มาเยี่ยมเยียนที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาอยู่ตลอดวัน ร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังไม่น้อย เพราะอาหารที่มีคุณภาพและรสชาติอร่อย แถมยังตั้งอยู่ในทำเลดีเสียด้วย

เควินพาเพื่อนของเขาไปแนะนำให้กับเจ้าของร้านรู้จัก “เพื่อนผมครับ คนที่ผมเล่าให้ฟังบ่อยๆ”

“โอ้ ที่ว่าเป็นนักเปียโนใช่มั้ย อุ๊ยตายจริง! หน้าตาน่ารัก หน่วยก้านดี สนใจมาเล่นเปียโนให้กับร้านของน้ามั้ยจ๊ะ” หญิงวัยกลางคนถามทีเล่นทีจริง

ดวงตากลมเบิกกว้าง “เอาสิครับ ผมอยากทำงานพิเศษ กำลังหาอยู่พอดีเลย”

“ฮะ” เควินหันขวับ ทำไมเขาไม่เคยได้ยินจากปากเพื่อนรักมาก่อนเลยล่ะเนี่ย?

แล้วศตคุณก็ได้งานทำอย่างง่ายดาย พร้อมค่าจ้างสมกับราคาค่าตัวของเขา แต่เพียงแค่สามชั่วโมงต่อวันเท่านั้น เด็กหนุ่มจึงเสนอขอทำงานเสิร์ฟอีกสองชั่วโมง แม้รายได้จะไม่มากเท่ากับการเล่นเปียโน แต่คนจนตรอกที่กำลังต้องการเงินอย่างเขา ก็พร้อมที่จะทำงานสุจริตทุกอย่าง

“นึกยังไงมาทำงานร้านอาหาร ฉันว่าถ้านายไปแสดงคอนเสิร์ต น่าจะได้รายได้ดีกว่าเยอะนะ”

“คอนเสิร์ตไม่ได้มีให้ไปเล่นบ่อยๆ นี่หว่า... แล้วเงินที่ฉันต้องใช้จ่ายค่าที่พัก ค่ากินค่าอยู่ ค่าทำพาสปอร์ตปลอม ค่าเดินทางก็ไม่ใช่น้อย”

“ค่าที่พัก?? ที่พักอะไรของนาย แล้วคอนโดฯ ล่ะ”

“เมื่อไหร่ที่ฉันได้เงินพอสำหรับเช่าห้องพักใหม่ ฉันจะย้ายออก... แล้วจะไม่กลับไปเหยียบที่นั่นอีก”

“เฮ้ย แล้วข้าวของของนาย เปียโนอีก”

“ฉันจะเอามาแค่สิ่งที่จำเป็น... ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนั้น ฉันจะคืนให้กับ... ชีคชารีฟ... ทั้งหมด ฉันจะไม่ใช้เงินของเขาอีกแม้แต่เซนต์เดียว” ...ร่างโปร่งไม่คิดจะเรียกอีกฝ่ายว่า อับบา ซึ่งแปลว่าบิดาอีกแล้ว

“คุณ...” เควินตกใจกับการตัดสินใจของศตคุณไม่น้อย เพราะเพื่อนเขาน่ะ มีคนดูแลเป็นอย่างดีมาตลอด ไม่เคยทำอะไรเองเลย เนื่องจากตามปกติแล้ว ที่คอนโดมิเนียมของศตคุณมีแม่บ้านมาทำความสะอาด ซักผ้ารีดผ้า และเตรียมอาหารเช้าเย็นให้เป็นประจำทุกวัน

ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มบาง “ที่จริง ฉันก็มีเงินมรดกมากพอที่จะคืนให้กับชีคชารีฟเท่าที่เขาเคยจ่ายให้ฉันมา เมื่อได้พบเขา ฉันจะคืนเงินกับข้าวของทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับมาให้กับเขา ถึงหลังจากนั้นฉันจะไม่มีอะไรเหลือติดตัวมากนักก็ตาม”

“แล้วนายจะไหวเหรอวะ...”

“ไหวสิ ทำงานเก็บเงินเอาใหม่ก็ได้ วันเสาร์อาทิตย์มีโบสถ์ชวนฉันไปเล่นคอนเสิร์ต เงินที่ได้จากค่าตั๋วก็แบ่งกันกับทางโบสถ์... วันธรรมดาฉันก็สอนเปียโนตามบ้าน ไปเล่นเปียโนที่ร้าน... ฉันน่าจะเก็บเงินได้สักก้อน พอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายกับค่าเดินทางไปดัมมัมได้สบายๆ”

“ทำไมไม่ไปเป็นครูที่โรงเรียนดนตรีที่นายจบมา ฉันว่าพวกเขาต้องยินดีต้อนรับนายอยู่แล้ว”

“ฉัน... อยากจะหนีไปให้พ้นจากที่เดิมๆ ละมั้ง” ร่างโปร่งเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วถอนหายใจยาว “อ้อ! แล้วก็... ไม่ต้องบอกเรื่องนี้กับไอด้านะ”

“นายกับไอด้า... เอ่อ...” เควินเองก็ไม่แน่ใจเรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อนตนกับเด็กสาว แต่ก็เห็นคบหาสนิทสนมกันอยู่เป็นปีๆ

ศตคุณยิ้มบาง “ฉันรู้ว่าไอด้าชอบฉัน แต่คนอย่างฉัน... ก็ให้ได้แค่ความเอ็นดูเหมือนน้องสาว ฉันไม่เคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้เขาฟัง ถ้าจู่ๆ ฉันหายไป เขาคงตัดใจได้ แล้วจะได้พบกับคนอื่นที่ดีๆ สักที”

“ฮะ!”

“ถ้าหาฉันไม่เจอ เขาต้องมาถามนายแน่ๆ นายไม่ต้องบอกเขาว่าฉันย้ายไปอยู่ที่ไหน หรือทำอะไร...”

“นายใจร้ายไปหน่อยรึเปล่า คนรู้จักกันมาตั้งหลายปี... ไอด้าก็เป็นเหมือนเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง”

“เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีน่ะสิ ฉันถึงไม่อยากให้ยึดติดอยู่กับคนอย่างฉัน”


ศตคุณทำงานแบบไม่หยุดพักถึงหกเดือนเต็ม เงินที่เขาสั่งสมมาได้มีจำนวนมากกว่าที่คาดไว้ในคราวแรกไม่น้อย ด้วยความสามารถทางเปียโนของเขา ทำให้มีงานเข้ามาอยู่เรื่อยๆ บางทีก็มีคนจ้างไปแสดงตามงานแต่งงาน งานวันเกิด ไม่ว่าจะงานเล็กหรือใหญ่ขนาดไหน เขาไม่เคยเกี่ยงเลยสักงาน ส่งผลให้ชื่อเสียงในแง่ดีถูกบอกต่อไปเรื่อยแบบปากต่อปาก นับวันงานที่เข้ามาก็เพิ่มขึ้น มากมายจนเด็กหนุ่มต้องวิ่งรอกตลอดวัน ห้องพักขนาดเล็กที่เขาหาเช่าได้ เขาได้ใช้เพื่อพักผ่อนในยามค่ำคืนเท่านั้น

วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ร่างโปร่งไปทำงานตามกำหนดการของตน หากเริ่มเอะใจ เมื่อเห็นชายวัยกลางคนหน้าเดิมๆ ในสถานที่หลายๆ แห่งที่ไปทำงาน ราวกับว่าสะกดรอยตามเขาอยู่อย่างนั้นล่ะ เขาสังเกตมาหลายสัปดาห์แล้ว

เย็นวันนั้น ศตคุณไปทำงานที่ร้านอาหารตามปกติ พอเควินซึ่งอยู่ที่นั่นก่อนแล้วเห็นเข้าก็เดินยิ้มร่าเข้าไปหา “เฮ้ย! ไอ้คุณ! ของที่นายอยากได้ ส่งมาถึงแล้วนะเว้ย!”

“เฮ้ย จริงอ้ะ ไหนเอามาดู”

ทั้งสองพากันเข้าไปในห้องพักของพนักงานในร้าน มือขาวรับซองสีน้ำตาลที่ปิดผนึกเป็นอย่างดีมาเปิดออก ของที่เขาอยากได้มากเหลือเกิน... พาสปอร์ตปลอมที่ใช้ชื่อจริงว่าจีรุฒน์... ชื่อของคุณลุงของตน

“เดี๋ยวไปขอบคุณคุณน้าเจ้าของร้านเค้าซะด้วย เพราะคุณน้ารู้จักกับพวกมาเฟียถึงได้ทำไอ้นี่มาให้นายได้ เหมือนของจริงเป๊ะเลยใช่มั้ยล่ะ”

“สุดยอดไปเลย” ศตคุณพยักหน้าหงึกหงัก แต่พอเควินเดินนำออกไป เขาก็คว้าข้อมือไว้ “เดี๋ยว! เควิน! ฉันคิดว่า ฉันกำลังถูกสะกดรอยตามอะ”

เควินหยุดกึก แล้วหันกลับไปสบสายตาตากับเพื่อนรัก “เฮ้ย... แน่ใจเหรอ”

“ฉันคิดว่าชีคชารีฟอาจเริ่มรู้ตัวแล้วว่าฉันวางแผนอะไรอยู่... แต่เขาไม่อยากพบฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ นี่ฉันจะเอาเงินไปคืนเขานะเว้ย หรือเพราะเงินเขามีมากจนเห็นว่าเงินที่ให้ฉันมามันเป็นแค่เศษเงินกัน”

“เฮ่ย... ใจเย็นก่อน” เควินตบหัวไหล่เล็กเบาๆ พลางกัดริมฝีปากครุ่นคิดอีกชั่วครู่ “ถ้าเป็นงั้นจริง... ฉันว่าไปปรึกษาคุณน้ากันดีกว่ามั้ย ไม่ต้องเล่าเรื่องละเอียดหมดหรอก เอาแค่คร่าวๆ คุณน้าแกรู้จักคนเยอะ คงช่วยอะไรได้มากโขอยู่”

เป็นอย่างที่เควินคิด หญิงวัยกลางคนผ่านเรื่องร้อนหนาวมาไม่น้อย แล้วเธอก็เห็นอกเห็นใจและเอ็นดูเด็กหนุ่มๆ มากเสียด้วย

“กะว่าจะเดินทางเมื่อไหร่ น้าว่าถ้าจะไม่ให้อีกฝ่ายไหวตัวทัน คุณก็น่าจะเดินทางให้เร็วที่สุด แต่ว่า... เอ... ดัมมัมเหรอ... ถิ่นของพวกอาหรับน่ะ มันอันตรายนา คนอาหรับที่ดีก็มีอยู่ แต่พวกที่ใจคอโหดร้าย พวกกองโจรก่อการร้ายก็เยอะ แต่ละเมืองก็ฮึ่มๆ ใส่กันอยู่บ่อยๆ... น้าไม่อยากให้คุณไปเสี่ยงเลย”

“คุณน้าจะช่วยหรือจะขู่ไอ้คุณกันครับเนี่ย ดูสิ หน้าซีดหมดแล้ว”

“ไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ผมแค่อยากไปพบ... คนคนหนึ่ง อยากเห็นทะเลทรายกับตาสักครั้ง แล้วก็จะกลับมาที่นี่ครับ”

หญิงวัยกลางคนถอนหายใจ แม้ไม่เห็นด้วยนัก หากเธอก็ยอมช่วย โดยออกความเห็นว่า ถ้าจะให้อีกฝ่ายตั้งตัวไม่ทันหรือคาดไม่ถึง ศตคุณก็ควรจะเดินทางมันซะคืนนี้เลย เธอจัดการยกหูโทรศัพท์ไปหาคนรู้จักเพื่อติดต่อซื้อตั๋วเดินทาง สั่งให้เควินแอบไปเก็บข้าวของที่ห้องพักของศตคุณ แล้วพวกเขาจะไปพบกันที่สถานีรถไฟ เธอวางแผนให้ศตคุณเดินทางไปกับรถไฟความเร็วสูง ซึ่งวิ่งจากเวียนนาไปยังโรม และจากที่นั่นค่อยขึ้นเครื่องบินต่อไปยังดัมมัมอีกที

ศตคุณใจเต้นระส่ำ ทั้งกังวลและใจหาย หากนี่เป็นสิ่งที่เขาตัดสินใจ เขาจำเป็นต้องได้พบกับคนที่เขาเคยเรียกว่าอับบาเพื่อที่จะได้คืนทุกสิ่งทุกอย่างที่ติดค้างไว้ แล้วเขาจะได้ก้าวเดินต่อไปได้โดยไม่ต้องย้อนกลับไปมองอดีตอีก ภาพทะเลทรายที่เขาจะได้ไปเห็นและสัมผัส จะเป็นความทรงจำเพียงสิ่งเดียวที่เขาใช้ยึดติดกับคำว่าครอบครัว... ครอบครัวที่มีเพียงบิดา มารดา และลุงจีรุฒน์เท่านั้น

หญิงเจ้าของร้านพาเด็กหนุ่มไปยังสถานีรถไฟอย่างเงียบๆ ไม่นานหลังจากที่พวกเขาไปถึง เควินก็ตามมาสมทบพร้อมกระเป๋าเดินทางใบใหญ่

“ฉันเก็บใส่มาเท่าที่จะเก็บได้ ส่วนของที่เหลือ... เดี๋ยวจะเอาไปเก็บไว้ห้องฉัน แล้วค่อยแคนเซิลห้องพักละกัน”

ใบหน้าสวยพยักหน้าหงึกหงัก “ขอบใจ... แต่ไม่ต้องแคนเซิลห้องพักหรอก ฉันกะว่าจะไปแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น”

เควินกัดริมฝีปากแน่น ก่อนจะดึงเพื่อนรักเข้ามากอด... พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็สังหรณ์ใจไม่ดีเลย เขาคิดถูกรึเปล่านะที่กระตุ้นให้ศตคุณทำแบบนี้ “ระวังตัวด้วยนะ”

กำมือขาวชกลงไปเบาๆ บนกล้ามท้องของอีกฝ่าย “เฮ้ย... ไม่ต้องทำท่าร่ำลาเหมือนฉันจะไปแล้วไปลับ!”

“...เออ กลับมาเมื่อไหร่ก็โทรบอก จะได้ไปรับ”

“อือ... ขอบใจนายมาก แล้วเจอกัน... อีกไม่นานฉันจะกลับมาเป็นคนใหม่... ที่เข้มแข็งกว่าเดิม”

เควินยิ้ม... ที่จริงสำหรับเขา คิดว่าศตคุณเองก็แข็งแกร่งไม่แพ้หินผาอยู่แล้ว “ใกล้เวลาละ”

ร่างโปร่งหันไปสวมกอดหญิงวัยกลางคนผู้ให้การช่วยเหลือ “ขอบคุณคุณน้ามากครับ”

“ระวังตัวดีๆ พวกชาวคนเมืองน้ำมัน รักใครก็รักจริง เกลียดใครก็เกลียดจริง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน บ้านเมืองของเขาต่างจากเรามาก อาจไม่ค่อยสงบ มีการรบราฆ่าฟันกันอยู่เรื่อย ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปเกี่ยวข้องมีเรื่องกับใคร อย่าไว้ใจใครนะคุณ”

ศีรษะเล็กพยักขึ้นลง “ครับ คุณน้าไม่ต้องห่วง ฝากเควินด้วยนะครับ”

เสียงประกาศของนายสถานีดังขึ้นแทรก รถไฟด่วนกำลังเข้าเทียบชานชาลาแล้ว ถึงเวลาที่ศตคุณต้องบอกลาจากบ้านเมืองที่เขาอยู่มาเกือบตลอดทั้งชีวิต ร่างโปร่งยกกระเป๋าเดินทางขึ้นเตรียมพร้อม เขาใช้มือข้างที่ว่างโบกลา แล้วก้าวขึ้นรถไฟไปโดยไม่หันกลับมาด้านหลังอีก

เด็กหนุ่มทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตามเลขที่นั่งบนตั๋วในมือของเขา พร้อมกับค้อมตัวลงต่ำแล้วยกสองมือขึ้นประกบใบหน้าอยู่สักพัก ก่อนจะเงยขึ้นมามองออกไปนอกหน้าต่าง ใบหน้าของเพื่อนรักดูเป็นกังวล เขายิ้มบางพลางโบกมือลาอยู่นาน จนรถไฟเคลื่อนออกจากชานชาลาไปช้าๆ ไม่นานก็ลับสายตาไป


“ศตคุณ... ขอให้ปลอดภัย ขอให้นายได้เจอกับเขา...” เควินพึมพำกับตัวเองเบาๆ


To be continued


พาน้องคุณมาส่งแล้วค่ะ แต่ยังส่งไม่ถึงมือพระเอก T^T แต่ตอนหน้าน้องคุณจะออกทะเลทรายไปตามหาหัวใจแล้วล่ะค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเมนต์และทุกกำลังใจนะคะ ฮัสกี้ดีใจมากเลยค่ะ ตกใจด้วย 55555 เปิดมาดูแล้วน้ำตาแทบจะไหล ฮือๆๆๆ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ

ขออนุญาตตอบข้อความสักเล็กน้อย ฮัสกี้อยากตอบทุกคนแต่กลัวว่าจะยาวไป ขอโทษด้วยนะคะ T^T
 
คุณWordslinger ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ จะพยายามให้มากขึ้นค่ะ
คุณfuku ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยชี้ที่ผิดให้ 55555555 เขินจุง ฮัสกี้แก้แล้วนะคะ /กราบรัวๆ
คุณB52 ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า มีให้กันทุกเรื่องทุกตอนเลย /ดึงเข้ามาจูบ
คุณsirin_chadada T^T ขออภัยที่ทำให้ผิดหวังเบาๆ อีกนานเลยค่ะกว่าน้องคุณจะได้เจอกับอับบา อดใจรออีกนิดดดดนะคะ
คุณaorpp ศตคุณ อ่านว่า สะ ตะ คุน เข้าใจถูกแล้วค่ะ ชื่อนี้แปลว่า ผู้มีความรู้ดีมาก ฮัสกี้เปิดหามาจากเว็บโหรดูดวงค่ะ 55555
คุณชัดเจนกาบ เรื่องนี้พระนายของเราหวานมากค่ะ จบแฮปปี้สุดๆ แน่นอน ไม่ต้องกังวลน้า


husky's page :กอด1:

ปล. ในเรื่องนี้ครอบครัวศตคุณย้ายมาอยู่ที่ออสเตรียเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นศตคุณจึงถือสัญชาติออสเตรียนะคะ เลยไปทำพาสปอร์ตที่กระทรวงค่ะ  :mew1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-12-2014 21:16:06 โดย huskyhund »

ออฟไลน์ donutnoi

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-7

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
แทบอยากโดดถีบ ไม่คิดบ้างรึไงว่าเด็กจะเสียใจ มันต้องมีอะไรผิดพลาดอยู่แล้วแหละ แทนที่จะอยู่สอบถามกัน กลับตัดขาดกันเลยซะงั้น น่าแค้นใจจริงๆ หัวใจสลายเลยนะเว้ย!  :m31:

ออฟไลน์ andear

  • ยาราไนก๊ะ ??
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-1
วัยทองเรอะท่านชีค คุยกันให้รู้เรื่องก่อนไม่ได้เรอะงายยยยย   :m16: :m16:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ทำไมอับบาอ่อนไหวเช่นนี้ โกรธน้องรุนแรงไปไหม
สงสารน้องคุณ คนที่ไม่มีครอบครัวมาหกปีแล้วรอวันนี้มาตลอด ช่างทำกันได้
ชอบเควิน พึ่งพาได้ นายมันสุดยอดจริง ๆ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart

ออฟไลน์ ฝัullล้วlv

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
สงสารน้อง
ทำไมอับบา ไม่ๆๆ ชีคทำแบบนี้
เพราะเรื่องเหรียญเหรอ มันสำคัญกว่าตัวคนเหรอ!!
อินจัดมากตอนนี้ 555
คนเขียนแต่งได้ยาวจุใจมาก ปลื้มมมม มาจุ๊บที ฮาาา

ออฟไลน์ ormn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3925
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-8
    • http:///uc.exteenblog.com/riko-tomo/images/23213506_1208714389_3598161_Okane_ga_Nai_v01_ch01_pg002__Cover.jpg

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ไม่รอฟังอะไรเล้ยยย  :hao4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด