นิสรีน... กุหลาบขาวแห่งทะเลทราย [Ch.26: คู่รัก END ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิสรีน... กุหลาบขาวแห่งทะเลทราย [Ch.26: คู่รัก END ]  (อ่าน 463883 ครั้ง)

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
นายได้สร้างบาดแผลในใจให้คุณไปแล้ว คิดว่ามันจะลบออกเหรอ คิดว่าจะลบสิ่งที่ตนเองทำผิดพลาดกับคุณออกเหรอ รักของทาริค ทาริคไม่มั่นใจเอาซะเลย

ออฟไลน์ ekonut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 350
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
อย่าหายไปนานแบบนี้อีกเลยนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แบบว่าห่างหายจากนิยายเรื่องนี้ไปนานมากกกกกก พอกลับมาอ่านอีกที โอ้ว!!แม่เจ้าสิบกว่าตอนเลยเรอะ o22
กราบขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่ไม่ได้เข้ามาอ่านเสียนาน
แต่การที่ได้มาอ่านสิบกว่าตอนแบบจัดเต็มทำให้รู้ว่า ฉันพลาด! พลาดมาก! ทำไมถึงได้ลืมตัวไม่เข้ามาอ่านกันนะ ตอนแรกแอบเศร้าเสียใจไปกับคุณที่โดนปล่อยทิ้งไว้ แต่ตอนหลังแอบหมั่นไส้ทาริคเหลือเกินรักขนาดนั้นแล้วยังไม่บอกอีก มัวอมพะนำจนคุณร้องไห้เสียใจขนาดนั้นเลย แต่ก็ดีใจในที่สุดก็จะแฮปปี้กันซะที :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ JJHJJH

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +293/-2
กรี๊ดดด อยากอ่านภาคปัจจุบันต่อใจจะขาดดดดดดด

ออฟไลน์ Sohso

  • You are my precious thing And I will always love you.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1372
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-3
เข้าใจทั้งสองฝ่ายมากขึ้น

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จะบอกครึ้งนะว่า .... แก้ตัวกับของคุณดีๆละ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
หาทางรอดเอาเองน่ะทาริค

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พ่อคนช่างมโนเป็นไงบ้างล่ะคิดเองเออเองจนเรื่องมันเป็นอย่างงี้ อย่างว่าละคนมันไม่กล้าเผชิญหน้านี่แค่เห็นเค้าคุยกับเพื่อนหญิงยังคิดไปไกลจนเรื่องใหญ่โตซะ แบบนี้ต้องให้ง้อน้องคุณนานๆ ให้น้องคุณโกรธสักสัปดาห์ก็พอสงสารเห็นว่ารักน้องหรอกนะ เอาแค่สัปดาห์เดียวพอเนอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
#ทาริคขี้มโน
ด้วยคน 555555555

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
ก็ยังไม่น่าให้อภัยอยู่ดีย่ะะะ น้องคุณเล่นตัวให้หนักๆเลยขอร้องเถอะ ทาริคนางขี้มโนเกินไปอ่า ตั้งแต่เริ่มจนจบ เฮ้อออออออออ สงสารน้องคุณจัง ยุให้กลับเวียนนาเลยจ้า ให้นางตามมาง้อเอง กรั้กกกๆๆ

ขอบคุณค่ะ ^_^

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ทาริคนี้พูดน้อยจนน่ากลุ้มใจ

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
รอตอนปัจจุบันต่อ ทาริคจะทำไงละทีนี้

ออฟไลน์ b2friend

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาต่อภาคปัจจุบันเร็วๆ นะ  :impress2:

ออฟไลน์ noksamsee

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เปิดอกพระเอกแล้ว ยอมรับว่าทาริคมีมุมเด็กน้อยชอบมโน อนาคตเหมือนจะกลัวเมียเบาๆๆ ชอบอ่า

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
ต่อไปเจอน้องคุณเเเล้วววววววว

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ก็รอดูกันต่อไป ใครทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำนะทาริค แต่คุณก็รักคุณมากเหมือนกันนะ

ออฟไลน์ Cream A

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
น้องคุณจ๋างอนพอเบาะๆ อย่าเคืองคนแก่นานเลยเนอะ

ออฟไลน์ Minty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ถ้าทาริคเป็นแค่ผู้ชายธรรมดา เรื่องคงจะง่ายกว่านี้
ทาริคจะได้ไม่เครียด และน้องคุณจะได้ไม่ต้องเสียใจแบบนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
การตัดสินใจของทาริคผิดพลาดเยอะเลยนะ
คิดเองเออเองก็เป็นอย่างนี้

ออฟไลน์ KS.F

  • มือใหม่หัดแต่งนิยาย ช่วยแนะนำด้วยน่า
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 167
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
เป็นท่านชีคที่เราคิดว่าน่าจะโดนว่าที่แฟนเมินมาก ๆ มีอะไรก็เก็บเงียบเนี่ย 5555

ออฟไลน์ Chocobear

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ในที่สุด....ก็กลับมาตอนปัจจุบัน
รอน้องคุณตอบรับเป็นเจ้าสาวทาริคนะครับ  :hao3:

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตอนหน้าจะได้รู้ความในใจของศตคุณแล้ววว ตื่นเต้นอ่ะ

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 24 : ทิฐิ


(กลับมาภายในห้อง)

ร่างโปร่งบางยืนนิ่งข้างขาตั้งสำหรับวาดภาพ ซึ่งบนนั้นมีภาพร่างของตนบนผ้าแคนวาสในกรอบขึงวางอยู่ เขายังคงรอฟังคำอธิบายจากชีคหนุ่มซึ่งไม่ยอมเปิดปากพูดอะไร ทำให้ภายในห้องเงียบสงัด บรรยากาศชวนอึดอัดจนหายใจลำบาก

"คุณบอกว่าจะบอกผมทุกอย่างไม่ใช่เหรอครับ"

ทัชอัลดินลุกขึ้นจากโซฟานอนที่เขานั่งอยู่ แล้วเดินเข้าไปหาศตคุณอย่างเชื่องช้า ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย "เพราะฉัน... คนที่หลงรักเธอ รักอยู่ฝ่ายเดียวนี่... ตั้งใจจะไปพบเธอในการแสดงครั้งสุดท้าย แต่ว่า... เธออยู่ที่นั่นกับคนรักของเธอ"

ดวงตากลมใสกลับขุ่นมัว เขาเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว "คุณพูดอะไรของคุณ! คนรักที่ไหนกัน"

"ก็ผู้หญิงที่อยู่กับเธอที่นั่น เธอให้ไปกระทั่งของขวัญชิ้นสำคัญจากฉัน"

ศตคุณชะงัก "ไอด้า? คุณหมายถึงผู้หญิงชุดสีฟ้าคนนั้นเหรอ เธอเป็นเพื่อนของผม!"

"แต่จากการกระทำของเธอ ในประเทศฉันเขาทำกับคนที่รักเท่านั้น"

...มันก็จริง ร่างโปร่งรู้ได้จากการวางตัวของอีกฝ่ายในยามที่อยู่ในทะเลทรายด้วยกันตามลำพัง "...อีกอย่าง ของขวัญที่คุณให้ ผมไม่ได้ให้เธอไป ของขวัญชิ้นนั้นยังอยู่ในห้องพักที่เวียนนา บนเปียโนสีขาวที่คุณให้กับผมนั่น"

“ฉันเข้าใจว่าเธอมีคนรักแล้ว คนทั่วๆ ไปก็คงดีใจที่เป็นอิสระ ไม่ต้องมีพันธะใดๆ กับใคร แถมยังมีเงินมีทองใช้สบายๆ ไม่ใช่หรือ... แล้วสำหรับฉัน ก็มีเพียงแค่นั้นที่จะให้กับเธอได้”

แววตาของเด็กหนุ่มสั่นระริก เขาพูดออกไปเสียงสั่น “คุณไม่ถามความต้องการของผมเลย คุณมันใจร้าย เห็นแก่ตัวที่สุด” จากนั้นก็เบี่ยงตัว เพื่อเดินหนีออกไปให้ห่างๆ จากคนตรงหน้า

มือหยาบคว้าข้อมือขาวไว้อย่างรวดเร็ว “แล้วตอนนั้นเธอต้องการอะไรกันเล่า ครอบครัว? ฉันเป็นให้เธอได้รึไงกัน เธอยังไม่รู้ว่าฉันมีตัวตนอยู่เลยด้วยซ้ำ ท่านพ่อก็ป่วยหนักจนขยับตัวไม่ได้แบบนั้น แล้วฉันก็คงจะทนพบกับเธอและคนรักของเธอไม่ได้”

ร่างโปร่งหยุดกึก ใบหน้าหวานยังคงไม่ยอมหันกลับมาทางชีคหนุ่ม ดวงตาของเขาร้อนผ่าว “......”

“ฉันขอโทษ... ที่เธอว่าฉันเห็นแก่ตัว... มันก็จริง...”

ไหล่บอบบางสั่นสะท้าน ก่อนศตคุณจะปล่อยให้ความโศกเศร้าที่กักเก็บไว้หลั่งรินออกมากับน้ำตา “คุณไม่รู้หรอกว่าทำให้ผมเสียใจมากขนาดไหน ฮึก...”

ทัชอัลดินดึงเด็กหนุ่มที่กำลังสะอื้นไห้เข้ามาในอ้อมกอด แล้วลูบแผ่นหลังเบาๆ เพื่อปลอบโยน “รู้สิ ตอนนี้ฉันรู้แล้ว แต่ฉันไม่อาจย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ฉันขอโทษ ฉันเสียใจที่ด่วนตัดสินเธอไปแบบนั้น”

“ผมรอ... รอที่จะได้พบกับคุณมาตลอด ฮือ... ผมรอคอยการแสดงทุกครั้ง รอที่จะได้เห็นคุณยืนอยู่ที่นั่น”

“...ฉันไปในฐานะท่านพ่อ เพราะฉันคิดว่าเธอคงจะเสียใจ ถ้าหาก อับบา ไม่ไปดูการแสดงของเธอ แต่ฉันก็ไม่ใช่อับบาคนที่เธอรอคอย”

มือขาวทุบแผ่นอกกว้างอย่างไม่เบานักอยู่หลายครั้ง “ฮือ... คุณทำร้ายจิตใจของคนที่รอคอยความหวังมาตลอดหกปีเต็ม คุณมันใจร้ายที่สุด”

“ฉันขอโทษ” ริมฝีปากหยักกระซิบข้างใบหูนิ่ม  “Ana Ooheboka (อานา อูฮิบบูกา) ฉันรักเธอ... ให้โอกาสฉันแก้ตัวสักครั้งจะได้มั้ย เธอต้องการอะไร ฉันจะไม่ขัดเธอเลย ขอเพียงแค่ยกโทษให้ฉัน...”

ร่างโปร่งเบี่ยงใบหน้าหลบปลายจมูกโด่งที่คลอเคลียอยู่บนผิวแก้ม พลางดันตัวออก “จริงเหรอครับ ผมต้องการอะไรคุณก็จะไม่ขัดงั้นเหรอ!”

น้ำเสียงที่ตวัดขึ้นสูงนั้นทำให้ชีคหนุ่มผละออกเล็กน้อย เขาประสานสายตากับดวงตาคู่สวยที่ฉายแววแข็งกระด้างและแฝงไปด้วยความเจ็บปวด... วินาทีนั้นหัวใจของเขาร่วงวูบ พร้อมกับปิดตาลงอย่างยอมรับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น สิ่งที่เขาเลือกทำลงไปคงจะสร้างบาดแผลลึกจนร่างโปร่งไม่อาจให้อภัย ชีคหนุ่มถอนหายใจหนักๆ ก่อนจะพยักหน้า “ใช่ ไม่ว่าเธอต้องการอะไร ฉันจะไม่ขัด”

หยดน้ำตาอุ่นๆ ไหลพรั่งพรูออกมาพร้อมกับความเจ็บปวดที่สั่งสมอยู่ในอกมาแสนนาน ทั้งขุ่นเคืองและน้อยใจ สิ่งเหล่านั้นส่งผลให้ศตคุณเอ่ยคำพูดที่เชือดเฉือนใจร่างสูงมากที่สุด “ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกแล้ว... ผมจะกลับเวียนนา”

“คุณ” ใจเขาอยากจะขอร้อง ยื้อให้เด็กหนุ่มคิดทบทวนอีกสักครั้ง แต่เพราะเขาเอ่ยปากสัญญาไปแล้วว่าจะไม่ขัด และถ้านั่นเป็นสิ่งเดียวที่เขาจะทำให้ศตคุณเลิกโกรธเคืองเขาได้ เขาก็จะยอมทำตามอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ ร่างสูงกลืนคำพูดอ้อนวอนทั้งหมดกลับลงคอ  แล้วหักใจ... ปล่อยมือออกจากเด็กหนุ่มตามที่เจ้าตัวประสงค์

ทัชอัลดินยิ้มบางทั้งที่หัวใจเจ็บราวกับมีมีดกรีด เขาเดินกลับไปยังโซฟานอนพลางยกมือขึ้นคลึงขมับหนักๆ ก่อนจะเอื้อมไปยกหูโทรศัพท์ “เรียกตาฟาเข้ามาซิ”

เพียงชั่วครู่ ชายวัยกลางคนร่างผอมในชุดโต๊ปก็วิ่งเข้ามาในห้อง ตาฟาเป็นหนึ่งในทีมเลขาของชีคทัชอัลดิน ซึ่งมีอาเหม็ดเป็นหัวหน้า เขาค้อมศีรษะให้กับเจ้านาย แล้วหันไปค้อมศีรษะให้กับเด็กหนุ่ม

“ตาฟา ช่วยจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินกับพาสปอร์ตให้ศตคุณเดินทางกลับเวียนนาด้วย”

“ครับ เมื่อไหร่ดีครับ”

ชีคหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินไปหยุดตรงประตูห้อง “เดี๋ยวพาเขากลับไปห้องพักแล้วถามเอาจากเขานะ เขาต้องการอะไรก็จัดหาให้เขาให้เรียบร้อย นายมีหน้าที่ดูแลเขาจนกว่าเขาจะเดินทางกลับถึงเวียนนา... ระหว่างรอเครื่องที่ดัมมัม จัดโรงแรมกับรถรับส่ง และคอยดูแลเขาให้ดีด้วย” จากนั้นจึงหันไปสบสายตากับศตคุณ เด็กหนุ่มยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ใบหน้าสวยเบือนหนีไปจากเขาทันทีที่สายตาประสานกัน

ทัชอัลดินยื่นมือออกไปเล็กน้อย แต่แล้วก็ชักกลับ เขาฝืนยิ้มให้กับศตคุณ “ฉันดีใจ... ที่ในที่สุดเราก็ได้พบกัน”

“.....” สองมือขาวกำเข้าหากันแน่น นัยน์ตาสีอ่อนหลุบต่ำ แม้ท่าทีที่แสดงออกมาจะดูเหมือนว่าเขาโกรธเคืองคนตรงหน้ามากเต็มที แต่ภายในใจกลับสับสน และยิ่งเจ็บปวดมากกว่าเดิมเสียอีก

“ขอให้เธอรู้ไว้เพียงแค่ว่า ทุกคำพูดที่ฉันพูดกับเธอในทะเลทราย... เป็นความรู้สึกจากใจจริงของฉัน”

...ชีคหนุ่มพรูลมหายใจออกอย่างแผ่วเบา พยายามกดเก็บความเจ็บปวดเจียนตายไว้ภายใน “...ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ ศตคุณ” แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

เด็กหนุ่มน้ำตาร่วงเผาะ พอหันกลับมาทางที่ทัชอัลดินยืนอยู่ในคราวแรก ร่างสูงก็เดินจากเขาไปเสียแล้ว... ริมฝีปากสีสดเผยอค้าง บทจะปล่อยเขาไปก็ปล่อยไปง่ายๆ อย่างนี้จริงๆ น่ะหรือ เขาไม่อยากเชื่อเลย นี่หรือคือคนที่บอกว่ารัก... หลงรักเขาจนแทบบ้า

“เอ่อ... คุณศตคุณ จะกลับเวียนนาเมื่อไหร่ดีครับ” ตาฟาถามอย่างนบนอบ

ร่างโปร่งตัวแข็งราวกับหิน เพราะความจริงแล้วเขาไม่ได้อยากกลับเวียนนา แต่อารมณ์ที่พลุ่งพล่านบวกกับทิฐิและความดื้อรั้นทำให้เขาอยากเอาชนะ อยากเห็นอีกฝ่ายเจ็บปวดบ้าง อยากจะให้ชีคหนุ่มงอนง้อ อ้อนวอนขอให้เขาอยู่ที่นี่ด้วย จึงพูดโดยไม่ยั้งคิดไปแบบนั้น

แล้วตอนนี้เขาจะทำยังไงดีละนี่ “คุณตาฟา ผม... ฮือ... โฮ...”

ตาฟาสะดุ้ง เขาแค่ถามเองนะ! หรือภาษาเขาไม่ดี ไม่ชัดเจน ฟังดูไม่สุภาพกัน ทำไมจู่ๆ เด็กหนุ่มถึงปล่อยโฮออกมาเช่นนั้น “เอ่อ... ยังไงตอนนี้คุณศตคุณกลับไปที่พักของคุณก่อนดีมั้ยครับ แล้วมีอะไรที่พอจะให้ผมรับใช้...”

ศตคุณสะอื้นฮักๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี เขาเดินนำตาฟาออกจากห้องไปอย่างเลื่อนลอย ผ่านภาพวาดของตนนับสิบภาพ ที่บัดนี้เขาได้รู้แล้วว่าคนที่วาดภาพเหล่านั้น ทัชอัลดิน... วาดมันด้วยความรู้สึกแบบไหน

...Ana Ooheboka (อานา อูฮิบบูกา)

หัวไหล่เล็กสั่นน้อยๆ เขาหยุดสะอื้นไห้อยู่หลายครั้ง สลับเดินต่อไปตามทางเดินที่ปูพรมไว้ไปเรื่อยๆ จนพบกับจามิลและจีฮาลที่นั่งรออยู่ด้านนอกตรงสุดทางเดิน

“คุณศตคุณ! เกิดอะไรขึ้นครับ” นายทหารทั้งสองถลาเข้ามาหาเจ้านาย

“ฮือ...” ร่างโปร่งโผเข้ากอดทหารหนุ่มทั้งคู่แล้วร้องไห้โฮ จนจามิลและจีฮาลหันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พอหันไปทางตาฟา รายนั้นก็หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ก่อนหน้าทัชอัลดินก็เดินผ่านพวกเขาไปด้วยท่าทางเคร่งขรึม แล้วตอนนี้กลับเป็นศตคุณที่เอาแต่ร้องไห้ พวกเขาจึงรีบพาเด็กหนุ่มกลับไปยังห้องพักก่อน

สาวใช้ในห้องพักของศตคุณต่างพากันหน้าเสีย เมื่อเห็นใบหน้าน่ารักเปื้อนไปด้วยน้ำตา พวกเธอก้มหน้าหลุบตาต่ำ นิ่งเงียบจนแทบไม่ได้ยินเสียงลมหายใจ

เด็กหนุ่มคว่ำหน้าลงกับเตียง ซุกใบหน้าไว้กับหมอนหนุน “ฮือ... ทาริค คนบ้า... งี่เง่าที่สุด”

ตาฟาที่ติดตามมาถึงห้องด้วยก็ไม่รู้จะทำเช่นไร จะให้เขาถามศตคุณว่าต้องการจะกลับเวียนนาเมื่อไหร่ ตอนนี้ก็คงไม่ใช่เวลาแน่ๆ เขาจึงถอยหลังไปยืนอยู่ตรงมุมห้องกับพวกสาวใช้ ส่วนจามิลและจีฮาล ทั้งสองคนยืนอยู่ข้างเตียง คอยดูแลผู้เป็นนายอย่างใกล้ชิด

“เอ่อ คุณศตคุณ... ดื่มอะไรสักหน่อยมั้ยครับ” เวลาเช่นนี้ จีฮาลนึกอยากจะเหาะไปตามอาเหม็ดกลับมาจริงๆ เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะรับมือศตคุณอย่างไร ในเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ร้องห่มร้องไห้จนตัวโยนขนาดนี้

“มีเรื่องอะไรหรือครับ บางทีถ้าคุณศตคุณได้ระบายออกมา อาจจะรู้สึกดีขึ้นนะครับ”

ใบหน้าน่ารักเงยขึ้นเพื่อประสานสายตากับผู้พูด ดวงตากลมโตเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำจนดูน่าสงสาร เขานึกถึงเพื่อนรักขึ้นมาได้เป็นคนแรก อยากจะพูดคุยและขอคำปรึกษา “ผมขอโทรศัพท์หน่อยได้มั้ย ผมจะโทรไปเวียนนา ฮึก...”

“ครับๆ” ตาฟารีบอาสารับคำ ก่อนจะวิ่งฉิวออกไปข้างนอกห้อง สักพักก็กลับมาพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ เขานำมันมาส่งให้กับเด็กหนุ่ม

ศตคุณลุกขึ้นนั่ง ยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์มา แล้วกดโทรออกไปยังปลายทาง... ที่ปรึกษาสุดท้ายของเขา “ฮือ... เควิน”

“เฮ้ย! ไอ้ลูกหมา! ทำไมทำเสียงเป็นหมาหงอยแบบนี้!” คนที่อยู่ปลายสายร้องเสียงหลง

“ฉันจะทำยังไงดี โฮ...” ร่างโปร่งปล่อยโฮใส่เพื่อนรัก

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ!”

เด็กหนุ่มเล่าถึงเรื่องราวตั้งแต่เมื่อครั้งคริสต์มาสที่ผ่านมาจนถึงการเดินทางในทะเลทรายมายังเมืองเฟอร์โดสให้เพื่อนรักที่อยู่ปลายสายฟังจนหมดเปลือก ทั้งเรื่องของอับบา พี่ชาย และชายหนุ่มคนสำคัญ... ทัชอัลดิน พลางร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่นานเป็นชั่วโมง ระหว่างนั้น ทหารประจำตัวทั้งสองและตาฟา แม้ไม่ได้ตั้งใจจะฟังแต่ก็ได้ยินไปด้วย

“ไอ้คุณเอ๊ยย... วุ้ย... ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่ฉันว่า เขาก็น่าสงสารนะ... เพราะเรื่องของนายกับไอด้า ฉันเองยังเข้าใจผิดเลย ใครๆ ก็คิดว่านายกับไอด้าเป็นแฟนกันนะ ฉันว่ามันก็ไม่แปลกที่เขาจะเข้าใจผิด”

“บ้าน่ะ!” ศตคุณตวาด แล้วชะงัก

...ถ้าขนาดเพื่อนรักคนที่รู้จักตัวเขาดีที่สุดยังพูดแบบนี้... เด็กหนุ่มจึงตอบไปเสียงอ่อย “...จริงเหรอเควิน ฉัน...”

“คิดดูดีๆ สิ คนที่มีทั้งเงินทองและอำนาจมากมายอย่างนั้นน่ะ ถ้าเขาอยากจะลักพาตัวนายเอาไปขังไว้ดูเล่นที่วังของเขา ก็ยังทำได้... แต่เขากลับเลือกที่จะเสียสละ เป็นฝ่ายจากไปเสียเอง ถ้ามองในแง่ของเขา ก็ถือว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษมากเลยนะ”

“.....”

“แต่เหตุผลอะไรๆ มันก็ไม่สำคัญหรอก... ถามหัวใจนายดูสิ รักเขารึเปล่า อยู่โดยไม่มีเขาได้รึเปล่า”

“ฉัน...” ...รักเขา... คำตอบนั้นชัดเจนอยู่ในอก

“ไม่มีใครรู้คำตอบดีเท่ากับตัวนายเอง นายเสียใจมาก ฉันรู้ แต่ฉันว่าเขาก็คงเสียใจกับเรื่องทั้งหมดเหมือนกัน... เฮ่ย ไอ้ลูกหมา ความสุขมาอยู่ตรงหน้าแล้วนะเว้ย ทำไมไม่คว้าไว้ อย่ามัวแต่ทิฐิ ระวังนา... มัวแต่งอน เดี๋ยวเขาตัดใจจากนายไปหาคนอื่น คราวนี้จะทำไง”

เพียงแค่นึกถึงหัวใจก็เย็นวาบ “ฉัน...”

“ถ้าคิดว่าช่างมัน ก็กลับมาเวียนนามามะ แล้วลืมทะเลทรายไปซะ”

กลับไป... แล้วลืมความรัก ความอบอุ่นของผู้ชายแห่งทะเลทรายคนนี้นะหรือ... เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไรหากไร้ซึ่งหัวใจ “ฉัน... ลืมไม่ได้...”

“ก็ได้คำตอบแล้วนี่ ถ้างั้นก็ไปคุยกับเขาให้รู้เรื่องซะนะ”

“ขอบใจนะ นาย... เอ่อ ไม่ตกใจใช่มั้ย เรื่องที่ฉัน...”

“นายคือเพื่อนรักเพียงคนเดียวของฉัน นายจะรักกับสาวออสเตรียหรือหนุ่มอาหรับที่ไหน นายก็ยังเป็นเพื่อนของฉัน... ไอ้ลูกหมา ฉันขอแค่ให้นายมีความสุขกับสิ่งที่นายเลือกก็พอแล้ว”

“เควิน... ขอบใจนายมากนะ” ศตคุณเอ่ยเสียงสั่น... ในชีวิตเขา แม้จะมีเพื่อนเพียงคนเดียว แต่สำหรับเขาก็มากเพียงพอแล้ว
ทั้งสองนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ แต่จู่ๆ ปลายสายก็พูดขึ้นอย่างกวนๆ “...แล้วจะแต่งงานเมื่อไหร่ ส่งการ์ดมาให้ฉันด้วยนะเว้ย ไอ้ลูกหมาจะแต่งงานแล้ว แต่งก่อนฉันอีก นายนี่มันแก่แดดเป็นบ้า”

“ฮื้ยยย! ไอ้บ้า! คนกำลังซึ้ง หมดมู้ดเลย!” ก่อนพวกเขาจะหัวเราะออกมาพร้อมๆ กัน

ปลายสายวางหูโทรศัพท์ไปแล้ว เด็กหนุ่มทรุดตัวลงนั่งแล้วชันเข่าขึ้น ซบใบหน้าลงกับหัวเข่าตนอยู่สักพักใหญ่จึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วพบกับตาฟาที่ยืนยิ้มโชว์ฟันขาวอยู่ตรงหน้าพอดี “เอ่อ...”

“ตกลงว่า... จะกลับเวียนนาเมื่อไหร่ดีครับ”

ศตคุณค้อนขวับ เพราะตาฟาก็ยืนฟังคำพูดคุยของเขากับเพื่อนที่ปลายสายจนหมดเปลือก แล้วยังจะถามอีก “...ผมจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก ผมยังมีเรื่องที่ต้องคุยกันกับชีคทัชอัลดิน”

“ครับ” ตาฟาผงกศีรษะหงึกหงัก พลางเกาท้ายทอยแกรกๆ ในเมื่อชีคสั่งให้เขาคอยดูแล และจัดการทุกสิ่งทุกอย่างตามที่ศตคุณต้องการให้ เขาก็จะผันตัวมาเป็นเลขาให้กับศตคุณชั่วคราว คอยอยู่ดูแลรับใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าเด็กหนุ่มจะกลับเวียนนาก็แล้วกัน
ใบหน้าหวานเหม่อมองออกไปทางหน้าต่าง เขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงดื้อรั้นและพูดคำพูดร้ายกาจออกไปแบบนั้น จริงอย่างที่เควินว่า... ทั้งๆ ที่ความสุขที่เขารอคอยมาอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ ทำไมเขาจึงผลักไส ปล่อยมือจากความสุขนั้นไป

ทันทีที่ขาเรียวก้าวลงจากเตียง นายทหารทั้งสองก็ถลาเข้ามาช่วยประคองเจ้านาย “คุณศตคุณจะไปไหนหรือครับ”

“ฉัน... อยากจะไปพบชีคทัชอัลดินอีกครั้งน่ะ... พวกนายพาไปหน่อยได้มั้ย”

“เอ่อ... คุณศตคุณ การที่จะเข้าพบชีคได้ ต้องได้รับอนุญาตจากท่านก่อนนะครับ แล้วเมื่อกี้ชีคท่านก็ออกไปข้างนอกแล้วด้วย”

“งั้นฉันจะไปรอเขาที่ห้องโถงเมื่อกี้...”

จามิลกระตุกแขนเรียวเบาๆ “ไม่ได้หรอกครับ เขตวังหลังนั้นเป็นพื้นที่ส่วนตัวของชีค ถ้าไม่ได้รับอนุญาตก็เข้าไปไม่ได้”

ร่างโปร่งขมวดคิ้ว “อะไรกัน ก็พวกนายเคยเป็นทหารของชีคไม่ใช่รึไง ทำไมจะพาฉันเข้าไปไม่ได้ล่ะ”

“โธ่ คุณศตคุณ... ก็ตอนนี้พวกผมไม่ได้รับใช้ชีคแล้วนี่ครับ”

“ฮื้ยย...” เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด “...แล้ว เอ่อ... ชีคน่ะ ท่านออกไปไหนเหรอ ยังไม่กลับไปดัมมัมใช่มั้ย”

“วันนี้ท่านจะออกไปตรวจแถวโครงการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านน่ะครับ ปกติแล้วชีคท่านจะอยู่ที่เฟอร์โดสหนึ่งอาทิตย์ ดัมมัมหนึ่งอาทิตย์ สลับกันไปครับ” ตาฟาตอบ

“งั้นฉันจะไปฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่ว่านั่น” หลังจากพูดจบประโยค เหล่าสาวใช้ก็ถลาเข้ามาพร้อมกับเสื้อคลุมและผ้ากุตรา เพื่อช่วยสวมให้กับเด็กหนุ่ม แล้วยังคลุมทับด้วยผ้าคลุมผืนใหญ่อีกผืน

“จะคลุมทำไมหลายชิ้นกันเนี่ย”

“เอาไว้กันแสงแดดนะครับ ถึงนี่จะเย็นแล้วก็ตามที แต่ก็คลุมไว้ดีแล้วล่ะครับ” จามิลจับผ้าคลุมพันศีรษะให้กับเด็กหนุ่มจนเหลือแต่ดวงตา

“เดี๋ยวขี่อูฐไปละกันนะครับ ถ้าขับรถไปบริเวณเลี้ยงสัตว์ เสียงดังของเครื่องยนต์จะทำให้พวกสัตว์ตื่นกลัวได้” จีฮาลหันไปพูดคุยกับตาฟา เพื่อให้ชายวัยกลางคนช่วยเป็นธุระจัดหาพาหนะให้

ศตคุณเดินนำหน้านายทหารทั้งสองและสาวใช้อีกสามสี่คนออกไปจากห้องพัก จนมาหยุดอยู่ที่ห้องโถงที่เชื่อมวังฝั่งซ้ายกับฝั่งขวาเข้าไว้ด้วยกัน บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องนั้น ชีคจาร์ซีกำลังนั่งพูดคุยเรื่องงานอยู่กับผู้ใต้บัญชาของเขา เมื่อเห็นร่างโปร่งบางเดินเข้ามาภายในห้องโถง เขาจึงส่งเสียงทักทาย

“อ้าว น้องพี่ กำลังจะออกไปไหนหรือ”

เด็กหนุ่มค้อมศีรษะทำความเคารพ พร้อมกับปลดผ้าคลุมที่ปิดหน้าปิดตาไว้ออกพอหลวม “เอ่อ... ผม...”

“จะไปหาทัชอัลดินรึ” ชีคจาร์ซีถามทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ

“ครับ”

“แวะคุยกับพี่สักนิดก่อนค่อยไปได้มั้ย”

“เอ่อ...” ศตคุณขมวดคิ้ว แต่เขาก็ไม่กล้าขัด “ครับ”

“นั่งสิ” ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายผายมือเป็นเชิงบอกให้เด็กหนุ่มนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ กัน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนั่งลง เขาก็ประสานมือเข้าหากันไว้หลวมๆ พลางส่งสายตาบอกคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ในห้องให้ถอยออกไปก่อน แล้วรอจนเหลือเพียงแค่เด็กหนุ่มกับผู้ติดตามเท่านั้น

“พี่ไม่รู้หรอกนะ ว่าน้องคุยอะไรกับทัชอัลดินไปบ้าง แต่พี่คิดว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่ควรบอกให้น้องรู้ไว้... ทัชอัลดินน่ะ เขาเป็นคนตรงๆ ทื่อๆ เพราะพวกเราไม่มีแม่ ทัชอัลดินไม่เคยมีแม่ เขาเลยขาดความอ่อนโยนไปบ้าง จีรุฒน์สอนพวกเราให้เป็นสุภาพบุรุษ คำพูดและคำสัญญาของเรา เมื่อเอ่ยออกไปแล้วก็จะต้องทำให้ได้อย่างที่พูด... ทัชอัลดินเองก็บอกกับพี่ไว้ว่าเมื่อพาน้องมาถึงวังนิสรีนนี่ และได้บอกความจริงทุกอย่างกับน้อง เขาจะเคารพการตัดสินใจของน้องทุกอย่าง เพราะฉะนั้น... ก่อนจะพูดอะไรออกไป อย่าลืมคิดให้ดี”

ร่างโปร่งหน้าเสีย ก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อซ่อนแววตาที่หวั่นไหว “....”

“หรือว่าทะเลาะอะไรกันน่ะฮึ”

คำถามของชีคจาร์ซีช่างตรงประเด็น “ผม... ผมพูดจาไม่ดีออกไปครับ”

ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายสังเกตเห็นว่าไหล่เล็กสั่นน้อยๆ เขาจึงเอื้อมมือไปบีบเบาๆ อย่างต้องการช่วยปลอบใจ “ทัชอัลดินรักน้องมาก รู้ใช่มั้ย” แล้วจึงเอนหลังพิงพนักโซฟา “...เพราะรัก เขาจึงยอมเป็นฝ่ายปล่อยมือจากน้องไป ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เวียนนานั่นแล้ว ทุกสิ่งที่เขาเลือก ที่เขาตัดสินใจ ก็เพื่อน้องทั้งนั้น ลองคิดดูให้ดี”

ทั้งชีคจาร์ซีและเควินต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ยิ่งทำให้ศตคุณรู้สึกผิด เขาเม้มริมฝีปากแน่นเพื่ออดกลั้นไม่ให้ร้องไห้โฮออกมา ก่อนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก “ผมพูดไปว่า... ไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้ว และจะกลับเวียนนา... ผม... ผมไม่ทันคิดให้ดีก่อนจะพูด...”

“อืม...” น้ำเสียงเป็นกังวลของชีคจาร์ซียิ่งทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกย่ำแย่มากขึ้นไปอีก ซ้ำชีคหนุ่มยังนิ่งเงียบไปเสียด้วย

“ผมควรจะทำยังไงดีครับ”

ดวงตาเรียวจ้องมองผู้เป็นเสมือนน้องชายด้วยความสงสาร เขาก็อยากจะช่วยหรอกนะ แต่เรื่องส่วนตัวของทัชอัลดิน เขาเองก็ไม่อยากจะเข้าไปก้าวก่ายสักเท่าไร คงต้องให้ทัชอัลดินตัดสินใจด้วยตัวเอง น้องเขาก็ช่างซื่อบื้อ จะเถรตรงอะไรนักก็ไม่รู้ แต่ยังไงก็ตาม เขาก็จะพยายามช่วยอยู่ห่างๆ ก็แล้วกัน “น้องจะออกไปพบทัชอัลดินไม่ใช่หรือ... พยายามหน่อยแล้วกันนะ เรื่องที่ผ่านมาก็เก็บไว้เป็นบทเรียน”

...พยายาม?... คำพูดของผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเท่าไรนัก ศตคุณกล่าวลา แล้วเดินออกจากห้องโถงไปพร้อมกับผู้ติดตามกลุ่มใหญ่

ร่างโปร่งขึ้นนั่งบนหลังอูฐคนเดียวเป็นครั้งแรก เจ้าอูฐก้าวเดินไปอย่างเชื่องช้าโดยมีทหารสองนายคอยจูงและเหล่าสาวใช้เดินตามหลัง ขบวนเคลื่อนไปช้าๆ ตามทางเดินที่ทำจากดินและหินอัดแน่น ไปยังบริเวณฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของชาวบ้านที่ตั้งอยู่แถวเชิงเขา ซึ่งบริเวณนั้นมีคลองขนาดเล็กที่ถูกขุดแยกออกมา และปันน้ำมาจากทะเลสาบใหญ่ของเมือง เพื่อไม่ให้กลิ่นและมูลสัตว์ไหลปะปนไปกับน้ำสำหรับบริโภคได้

บริเวณใกล้ๆ กันเป็นที่โล่งสำหรับทำการเพาะปลูกผักนานาชนิด ซึ่งเป็นอาหารของทั้งคนและสัตว์  มีต้นไม้ให้ผลปลูกห่างๆ กันไว้สำหรับให้ร่มเงา

เด็กหนุ่มบนหลังอูฐมองตรงไปเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย เขาไม่ได้ให้ความสนใจกับบ้านเรือน ร้านค้า และชาวพื้นเมืองระหว่างทางที่ผ่านไปเท่าไรนัก เพราะใจเขามีแต่ความกังวล นี่เป็นครั้งแรกที่เขานั่งบนหลังอูฐเพียงคนเดียว มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร หากทำให้เขานึกถึงแต่อ้อมแขนมั่นคงที่คอยยึดร่างกายของตนไว้แนบชิดแผ่นอกอบอุ่น

มือขาวขยุ้มเชือกคล้องอูฐในมือแน่น... คิดวนไปเวียนมาอยู่เพียงว่าเขาควรจะทำอย่างไร เพื่อให้ได้วันและเวลาเฉกเช่นเมื่อครั้งที่อยู่ในทะเลทรายกลับคืนมา

“คุณศตคุณครับ ดูเหมือนว่าชีคจะอยู่แถวนู้นนะครับ ตรงที่มีคนยืนออกันอยู่เยอะๆ” จามิลพูดแทรกเข้ามาในความคิดของผู้เป็นนาย

“อืม งั้นเราไปตรงนั้นกันนะ”

นัยน์ตาสีอ่อนมองเห็นคนรักอยู่ไกลๆ ร่างสูงที่แสนสง่างามยืนอยู่ท่ามกลางผู้ชายในชุดพื้นเมืองนับสิบคน ดูจากการแต่งกายแล้วคงจะเป็นพวกที่มียศตำแหน่งสูง และมีหน้าที่รับคำสั่งโดยตรงจากผู้นำเพื่อไปทำหน้าที่บริหารดูแลบ้านเมืองต่อไป

“ชีคท่านน่าทึ่งไปเลยใช่มั้ยครับ” จีฮาลพูดอย่างภูมิใจ “ท่านขึ้นรับตำแหน่งผู้ครองเมืองเฟอร์โดสเมื่อตอนที่เรียนจบกลับมาจากอังกฤษใหม่ๆ ตอนนั้นท่านเพิ่งอายุยี่สิบเองครับ”

เรื่องที่ศตคุณไม่เคยรู้มาก่อนเลย เขาหันไปหาจีฮาลอย่างสนใจ “งั้นเหรอ แล้วตอนนี้ทา... เอ่อ ชีคทัชอัลดินอายุเท่าไหร่”

“ยี่สิบเจ็ดครับ ส่วนชีคจาร์ซี ท่านอายุสามสิบแล้วละครับ”

เด็กหนุ่มหันกลับไปมอง ชีคหนุ่มกำลังก้มหน้าอ่านเอกสารในมือ พร้อมกับฟังรายงานจากพวกรัฐมนตรีที่ยืนอยู่ข้างกาย เขาเงยหน้าขึ้นสำรวจพื้นที่ตรงหน้า ปรึกษากับบรรดาที่ปรึกษาทั้งหลายและออกคำสั่ง หลังจากที่ยืนอยู่บริเวณนั้นนานพอสมควร พอร่างสูงกำลังจะก้าวเดินออกไปจากที่ตรงนั้น เขาก็บังเอิญสบสายตากับศตคุณพอดี

มือขาวดึงผ้าคลุมหน้าออก ก่อนจะยกมือขึ้นเรียก ทว่าก็ได้แต่ชะงักค้างไว้เช่นนั้น เมื่อชีคหนุ่มเบือนหน้าหนี แล้วหันหลังเดินออกไปจากที่ตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

“...ทาริค...”

“สงสัยชีคท่านจะไม่ทันเห็น เดี๋ยวผมจะไปบอกชีคให้ว่าคุณศตคุณมาหานะครับ” จามิลวิ่งเข้าไปยังกลุ่มของรัฐมนตรีและทหารกลุ่มนั้น ก่อนจะวิ่งกลับมาหาเจ้านาย “ชีคท่านกำลังยุ่งนะครับ ท่านกำลังประชุมกับพวกรัฐมนตรีน่ะครับ เห็นว่ามีเรื่องต้องพูดคุยกันยาว กว่าจะเสร็จก็คงค่ำๆ”

“งั้นเหรอ...” ศตคุณเอ่ยเสียงอ่อย

จีฮาลแหงนมองท้องฟ้าที่ครึ้มลงทีละน้อย “ผมว่า คุณศตคุณกลับไปดักรอชีคที่วังดีมั้ยครับ นี่ก็เริ่มเย็นแล้ว”

“...เอางั้นก็ได้”

เด็กหนุ่มกลับมาปักหลักรออยู่ในห้องโถงของวังส่วนหน้า เพราะเขาคิดว่า อย่างไรก็ตามเมื่อชีคหนุ่มกลับมาก็ต้องเดินผ่านจุดนี้ คืนนี้เขาจะต้องคุยกับทัชอัลดินให้รู้เรื่อง ไม่เช่นนั้นเขาคงนอนไม่หลับแน่ๆ


(มีต่อค่ะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


ภายในวังยามค่ำคืนสงบเงียบ ชีคจาร์ซีเข้าไปพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงตัวเขา ตาฟา ทหารองครักษ์ทั้งสอง และสาวใช้อีกกลุ่มหนึ่ง

“ถ้าง่วงแล้วจะไปนอนกันก็ได้นะ ฉันจะอยู่รอชีค” ศตคุณยกขาทั้งสองข้างขึ้นบนเบาะ แล้วนั่งชันเข่ากอดขาไว้ เขาเกยคางบนหัวเข่าตน พลางทอดถอนใจ

ตาฟาหันซ้ายหันขวา เขาไม่แน่ใจว่าควรจะถามออกไปมั้ย แต่ถ้าเขาโดนว่าว่าไม่ใส่ใจคำสั่งของนายล่ะ “เอ่อ... คุณศตคุณจะกลับเวียนนาเมื่อไหร่ก็บอกผมนะครับ”

เด็กหนุ่มมองค้อน “ก็ผมบอกว่ายังมีเรื่องต้องคุยกับชีคไงครับ”

เมื่อเห็นว่าศตคุณมีท่าทีขุ่นเคือง ตาฟาก็หัวเราะแห้งๆ “ครับๆ แหะๆ”

“ชีคไปไหนกันนะ ทำไมป่านนี้แล้วยังไม่กลับ อ๊ะ!” ร่างโปร่งลุกขึ้นพรวดเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าจากทางด้านนอก หัวใจเขาเต้นระส่ำ รอคอยให้คนที่เฝ้ารอเดินเข้ามาข้างในสักที

ทว่าคนที่เดินเข้ามาเป็นทหารของชีคทัชอัลดินสองสามคน จามิลและจีฮาลจึงส่งเสียงทักออกไป
 
“อ้าว แล้วชีคล่ะ”

“ชีคไปงานเลี้ยงที่คฤหาสน์ของท่านฮาซีมน่ะครับ แล้วก็อาจจะค้างที่นั่นเลย” ทหารซึ่งมียศน้อยกว่าตอบอย่างนบนอบ

“แล้วท่านหญิงซาฟียาก็อยู่ด้วยล่ะสิ ถ้างั้นคืนนี้ทัชอัลดินคงจะค้างที่นั่นน่ะล่ะ” เสียงนั้นดังมาจากทางด้านหลัง เรียกทุกคนให้หันขวับไปตามต้นเสียง “ฮาซีมยังไม่เลิกหวังจะยกลูกสาวให้ทัชอัลดินรึไงนะ”

...ท่านหญิงซาฟียา... ยกลูกสาว... หัวใจดวงน้อยร่วงวูบ ใบหน้าหวานถอดสีขณะหันไปสบสายตากับชีคจาร์ซีที่กำลังเดินเข้ามาสมทบ

“ใครๆ ก็อยากให้ลูกได้เป็นภรรยาชีคกันทั้งนั้น เจ้าทัชอัลดินก็ดูดีน้อยซะเมื่อไหร่ เฮ้อ... ถ้างั้นก็ไปนอนเถอะน้องพี่ คืนนี้เจ้าทัชอัลดินไม่กลับมาหรอก เสียเวลารอเปล่าๆ น่ะ”

“.....” เด็กหนุ่มก้มหน้านิ่ง หากในใจร้อนรน อยากจะวิ่งออกไปตามหาทัชอัลดินซะเดี๋ยวนั้น


“มัวแต่งอน เดี๋ยวเขาตัดใจจากนายไปหาคนอื่น คราวนี้จะทำไง”


คำพูดของเพื่อนรักที่อยู่ในแดนไกลแล่นแวบเข้ามาในความคิด ส่งผลให้ศตคุณแสดงท่าทีกังวลออกมาจนเห็นได้ชัด “ผม... ยังไม่ง่วงครับ”

“งั้นหรือ...” ชีคจาร์ซียิ้มมุมปาก เหลือบมองใบหน้าหวานแล้วกระเซ้าแหย่ “เขาไม่สนใครหรอกน่ะ” ก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟาตัวโต “งั้นพี่จะคอยเป็นเพื่อนนะ”

“เอ่อ... พรุ่งนี้ชีคไม่ต้องทำงานเหรอครับ” จามิลกระซิบถาม

“ก็ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนน้องฉัน จะเป็นไรไปเล่า... เอ้า น้องพี่ มานั่งนี่สิ” ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายตบลงบนที่ว่างข้างๆ ตัว

ร่างโปร่งสบสายตากับพี่ชายต่างสายเลือด ก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “...ขอบคุณครับ”

“ไม่ต้องทำตัวเกร็งขนาดนี้ก็ได้ พี่ไม่กัดหรอกน่ะ”

“ผม... เอ่อ ขอโทษที่ทำให้ชีคพลอยลำบากไปด้วยครับ”

“เรียกพี่สิ! น้องเป็นลูกบุญธรรมของชีคชารีฟ ซึ่งเป็นพ่อของพี่ ก็เท่ากับว่าเราเป็นพี่น้องกัน” ชีคจาร์ซีพูดกึ่งดุ

“ครับ... พี่จาร์ซี”

“ดีมาก ว่าแต่... น่าเสียดายนะ ที่พี่ไม่เคยมีโอกาสได้ไปดูน้องแสดงเปียโนเลยสักครั้ง น้องคงรู้ว่าพี่กับทัชอัลดินต้องทำงานแทนท่านพ่อ เวลาว่างแทบจะไม่มี แต่ว่านะ ใครบางคนก็ถึงกับอดหลับอดนอนทำงาน เพื่อให้ได้ไปเวียนนาเพียงแค่สักคืนเดียวก็ยังดี”

คำพูดของผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายเรียกรอยยิ้มบางให้ผุดขึ้นมาได้

“เอาไว้เล่นเปียโนให้พี่ฟังบ้างได้มั้ย”

ศตคุณรีบตอบ “เล่นตอนนี้เลยก็ได้นะครับ”

“ดึกแล้วน่ะ เอาไว้ตอนกลางวันดีกว่านะ” ชีคจาร์ซียิ้มอย่างอ่อนโยน เขาบีบไหล่เล็กเบาๆ แล้วเอนหลังพิงกับพนักโซฟา “เฮ้อ... ถ้าพี่รู้ว่าจะได้น้องชายน่ารักขนาดนี้ละก็นะ ตอนนั้นน่าจะช่วยท่านพ่อเกลี้ยกล่อมแจ็คให้พาตัวน้องมาแต่แรกแล้ว เจ้าทัชอัลดินน่ะ เป็นน้องชายที่ไม่น่ารักเท่าไหร่เลย... เอ้อ พวกเราเรียกจีรุฒน์ว่าแจ็คน่ะนะ”

เด็กหนุ่มพยักหน้าหงึกหงัก พลางโน้มตัวไปทางผู้เป็นเสมือนพี่ชายอย่างสนใจ

“ที่จริง ฉันก็เคยช่วยแจ็คดูแลทัชอัลดินอยู่หลายปี แต่ว่าพอฉันเรียนจบชั้นประถม ก็ต้องไปเรียนโรงเรียนประจำที่อังกฤษน่ะ พอทัชอัลดินเรียนจบชั้นประถมต้น เขาก็ตามไปเรียนที่โรงเรียนประจำเดียวกันกับฉัน เขาเป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์เท่าไหร่ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนพวกเราไม่มีโอกาสได้เที่ยวเล่นหรอกนะ วันๆ ก็เอาแต่เรียนแล้วก็ออกงานกับท่านพ่อกับแจ็ค”

“แต่ว่าชีคทัชอัลดิน... ดูคุ้นเคยกับทะเลทรายมากเลยนะครับ”

“เพราะแจ็คพาเขามาเลี้ยงดูในเมืองเฟอร์โดสนี่ และเขาก็ได้ใกล้ชิดกับท่านตา อดีตเจ้าเมืองเฟอร์โดสจนถึงเวลาต้องเข้าเรียนชั้นประถมปลายน่ะสิ และทุกครั้งที่ปิดเทอมเราก็จะกลับมาพักที่ดัมมัมกับเฟอร์โดสนี่”

“ผมก็ต้องอยู่โรงเรียนประจำเหมือนกันนะครับ”

ชีคจาร์ซีลูบศีรษะเล็กอย่างอ่อนโยน “งั้นเราก็เหมือนกันเลยนะ น่าเสียดายที่เราไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน... เพราะฝีมือทางดนตรีของพวกพี่ๆ ไม่เอาไหนเลยน่ะสิ ทั้งๆ ที่แจ็คก็พยายามเคี่ยวเข็ญสอนแล้ว”

สองหนุ่มคุยกันอย่างถูกคอ อีกครั้งที่ศตคุณรู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัว แม้จะเป็นจากพี่ชายต่างสายเลือดที่เพิ่งได้พบกัน แต่ก็ช่วยเติมเต็มช่องว่างที่ขาดหายไปในชีวิตได้ เด็กหนุ่มฟังเรื่องเล่ามากมายจากชีคจาร์ซีไปเรื่อยๆ โดยลืมสนใจเวลา จนค่ำมากแล้ว เมื่อมองออกไปทางด้านนอกวังก็เห็นเพียงแค่แสงไฟจากกำแพงสูงใหญ่ที่รายล้อมกับความมืดมิดเท่านั้น ถึงแม้จะได้ใช้เวลาร่วมกับผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายอย่างสนุกสนาน แต่ความง่วงซึมก็คืบคลานเข้ามาช้าๆ ไม่นานเด็กหนุ่มก็เอนหลังพิงพนักโซฟา แล้วผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

ชีคจาร์ซีดึงศตคุณเข้าหาตัว แล้วจับศีรษะเล็กให้นอนหนุนลงบนตัก ก่อนจะหันไปพูดกับจามิลและจีฮาล “...เลี้ยงง่ายจริงๆ เลยนะน้องฉัน พวกนายว่ามั้ย”

“ก็ชีคเล่นพูดไม่หยุดเลยนี่ครับ ต่อให้ซนเป็นลิงก็ยังหลับ” จามิลพึมพำ

“ก็คนเพิ่งเคยเจอกัน ไม่คุยกันแล้วจะสนิทกันได้ยังไงล่ะ อ้าว นั่น!” หลังจากศตคุณหลับไปเพียงชั่วครู่ คนที่ทุกคนรอคอยกันมานานก็กลับเข้ามาในวังอย่างเงียบเชียบ “ดูซิ ใครกลับมาน่ะ”

“ชีคกลับมาแล้ว! คุณศตคุณรออยู่นานจนหลับไปแล้วน่ะครับ” จีฮาลปราดเข้าไปรายงาน

ชายร่างสูงในชุดอาหรับยังคงใบหน้าเคร่งขรึม เขาชำเลืองมองร่างโปร่งบางที่นอนเอาศีรษะหนุนตักพี่ชายอยู่บนโซฟา ความหึงและหวงทำให้เขาโกรธจนกำมือแน่น แล้วเบือนหน้าหนี “...ตาฟา จัดการเรื่องตั๋วให้เขารึยัง”

ตาฟาละล่ำละลักตอบ “คุณศตคุณบอกว่ายังมีเรื่องต้องการจะคุยกับชีคครับ”

“งั้นรึ” ทัชอัลดินเบี่ยงใบหน้าไปทางพี่ชายเล็กน้อย “แล้วทำไมพี่จาร์ซียังไม่นอนละครับ พรุ่งนี้มีงานไม่ใช่หรือ”

“ก็เห็นศตคุณอยู่คนเดียว กลัวเขาจะเหงา พี่ก็เลยนั่งคุยเป็นเพื่อน... เขาน่ารักดีนะ พี่อยากพากลับไปดัมมัมด้วยจริงๆ เลย” พี่ชายแกล้งตอบแบบยั่วโทสะ ก็น้องเขาทั้งสองคนนี่น่ะ ระดับความซื่อบื้อพอๆ กัน เขาเลยต้องช่วยกระตุ้นสักหน่อย

ร่างสูงส่งสายตาขุ่นๆ ใส่พี่ชาย จากนั้นก็เดินอาดๆ เข้าไปอุ้มศตคุณขึ้นมาแนบกาย เขาแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของออกมาโดยที่คนหลับลึกไม่รู้ตัวเลยสักนิด “น้องจะพาเขาไปนอน” แล้วเดินจากไปอย่างรวดเร็ว

“หึๆ ฮะๆๆ”

“ท่าทางชีคทัชอัลดินโกรธมากเลยนะครับ” ...จามิลพูดเสียงอ่อย ส่วนจีฮาลกับคนอื่นๆ วิ่งตามหลังชีคทัชอัลดินไปกันหมดแล้ว

“ฉันล่ะสงสารศตคุณจริงๆ พรุ่งนี้พวกเราต้องหาทางให้เขาคุยกันให้ได้ จามิล! ฉันมีแผน แล้วนายก็ต้องช่วยฉันด้วย”

จามิลคลานเข้าไปหาชีคหนุ่มเพื่อรอรับฟังแผนการ “ครับๆ ได้เลยครับท่าน”


TBC~*


ใกล้จบแล้วค่ะ ใจหายเนอะ 555555 ขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะ

เดี๋ยวเขาก็จะกลับมาหวานกันละค่ะ อย่าเพิ่งเฟี้ยงเกือกใส่ฮัสกี้ *กรีดร้องเหมือนโดนน้ำมนต์*

ตอนหน้าเตรียมชาเขียวไว้จิบตอนอ่านได้เลยค่ะ #หลอกล่อ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ เยิฟๆ จุ๊บๆ
  :mew1:


ออฟไลน์ saruttaya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 926
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-6
เอาใจช่วยให้เข้าใจ เพลาๆทิฐิลงบ้างทั้งคู่

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
เรียกหนอนน้อยมาช่วยเก็บยอดชาเขียว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด