...
......
...
เสียงพูดคุยเซ็งแซ่เป็นภาษาอาหรับดังกึกก้องภายในบริเวณวังส่วนหน้าที่ใช้ในการต้อนรับผู้เข้าร่วมการประชุม ชีคจาร์ซีนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ พลางจิบกาแฟไปอย่างอารมณ์ดี
“เดี๋ยวฉันจะเข้าประชุมแทนทัชอัลดินเอง วันนี้เขาติดธุระ อาจจะมาไม่ทันน่ะ” ชีคหนุ่มตอบคำถามทุกคนที่เข้ามาถามด้วยความสงสัย เพราะไม่บ่อยครั้งนักที่ชีคจาร์ซีจะมีเวลาว่างมาร่วมประชุมผู้นำชนเผ่าทะเลทรายเช่นนี้
สักพักเสียงอื้ออึงก็ค่อยๆ เบาบางลง เนื่องจากผู้เข้าร่วมการประชุมทยอยเข้าไปในห้องประชุมกันแล้ว หากประธานการประชุมยังคงนั่งอย่างสบายใจอยู่บนโซฟากับเลขาของเขา
“เฮ้อ... ไม่น่าเชื่อเลย เจ้าทัชอัลดินได้เมียก่อนฉันซะแล้ว”
“พี่จาร์ซี” ผู้ถูกกล่าวถึงเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าขรึมเฉกเช่นในยามปกติ “ทำอะไรอยู่น่ะครับ”
“อ้าว เฮ้ย! ทัชอัลดิน มาได้ไงเนี่ย”
“...ก็น้องมีประชุม”
ชีคจาร์ซียกมือขึ้นกุมขมับ ทำไมน้องเขาซื่อบื้ออย่างนี้หนอ เขาอุตส่าห์ส่งทหารไปบอกว่าจะเข้าประชุมแทนให้ เพื่อที่น้องเขาจะได้ง้องอน ขอคืนดีกับคนรักให้เต็มที่ แต่ดันทิ้งคนรักไว้คนเดียวแล้วมาประชุมซะได้นี่ ไอ้น้องซื่อบื้อ
“นั่งลงคุยกันก่อนสิ” ผู้เป็นพี่ชายเรียกให้น้องชายนั่งลง เขาหันไปบอกกับเลขาให้เข้าไปดูแลการประชุมในห้องก่อน จากนั้นจึงหันมาคุยกับทัชอัลดินต่อ “คืนดีกับศตคุณหรือยัง”
ทัชอัลดินพยักหน้า “ครับ...”
“เขาจะไม่กลับเวียนนาแล้วใช่มั้ย ค่อยยังชั่ว... แล้วถ้างั้น ออกมาจากห้องทำไมเนี่ย ทำไมไม่อยู่ดูแลเขาก่อนล่ะ พี่บอกแล้วไงว่าจะเข้าประชุมแทนให้”
“...แต่ว่านี่มันเป็นหน้าที่ของน้อง พี่เหนื่อยเพราะน้องมาเยอะแล้ว”
“เราพี่น้องกัน เรื่องแค่นี้ธรรมดาน่ะ อีกอย่างพวกโจรก่อการร้ายที่ก่อความวุ่นวายหนักๆ พวกเราก็กำจัดไปจนบ้านเมืองปกติดีขึ้นมากแล้ว น้องอย่าคิดมากเลย อีกไม่นานท่านพ่อก็คงจะกลับมา”
“ท่านพ่อ...” ทัชอัลดินเม้มริมฝีปาก
“กังวลอะไรล่ะ ท่านพ่อก็รู้ว่าน้องรักศตคุณไม่ใช่หรือ”
“แต่น้องไม่เคยรู้ว่าท่านพ่อจะคิดยังไง”
ชีคจาร์ซีตบหัวไหล่กว้างหนักๆ สองสามที “พี่จะบอกให้... รีบๆ ตักตวงความสุขให้มากๆ ก่อนที่ท่านพ่อจะกลับมา... เพราะว่าเมื่อท่านพ่อสั่งให้มีพิธีแต่งงานน่ะ น้องจะไม่ได้เจอเจ้าสาวของน้องถึงสี่สิบวันเชียวนะ”
ทัชอัลดินเบิกตากว้าง “สี่สิบวัน!”
“จำไม่ได้แล้วล่ะสิน้องพี่ ประเพณีการแต่งงานของประเทศเราน่ะ”
“น้องไม่คิดว่าจะจัดงานใหญ่โต”
“คิดเถอะ เตรียมปวดหัวไว้ได้เลย ท่านพ่อไม่ยอมให้จัดเงียบๆ แน่... ศตคุณ หลานชายเพียงคนเดียวของแจ็ค กับชีคทัชอัลดินลูกชายของผู้ครอบครองดินแดนอาหรับตะวันออก เชื่อพี่สิ ท่านต้องมีประกาศให้เฉลิมฉลองและจัดงานตามประเพณีอย่างยิ่งใหญ่”
ชีคจาร์ซียิ้มกริ่ม แล้วพูดต่อ “ถึงบ้านเมืองเราจะเปิดกว้างให้ผู้ครองเมืองเลือกคู่ครองได้ตามใจ แต่ก็มีข้อแม้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อศตคุณเป็นชาย เขาก็ต้องศึกษาเพิ่มเรื่องของการเมืองและกฎหมายเพื่อที่จะได้สามารถช่วยเหลือน้องในการปกครองบ้านเมืองได้”
“แต่ว่าตอนแจ็ค...”
“ท่านพ่อกับแจ็คไม่ได้มีงานแต่งงานใหญ่โตก็เพราะตัวแจ็คเองขอไว้ แล้วท่านพ่อก็ไม่อยากขัด” พี่ชายเอ่ยดักอย่างรู้ทัน
“...บางทีศตคุณเองก็อาจจะไม่ต้องการงานแต่งงานใหญ่โตก็ได้นะครับ”
“ศตคุณกับแจ็คต่างกันนะ เพราะแจ็คถือเป็นภรรยาคนที่สอง และแจ็คก็ต้องการให้เกียรติท่านแม่ ในตอนนั้นน้องยังเล็กมาก ส่วนแจ็คเองก็กลัวว่าน้องจะไม่เข้าใจ... แต่พี่เข้าใจว่าศตคุณจะเป็นภรรยาคนแรกและคนเดียวของน้องไม่ใช่หรือ ดังนั้นถึงเขาจะไม่ต้องการ แต่น้องก็ควรจะจัดงานแต่งงานให้สมเกียรติ” ผู้เป็นพี่ชายหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นทัชอัลดินมีสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด เขานึกดีใจที่ทัชอัลดินต้องเจอกับประเพณีน่าปวดหัวนี้ก่อนเขา แต่จะว่าไปก็สมน้ำหน้าเบาๆ ก็อยากชิงแต่งงานก่อนพี่เองนี่นา “เอาล่ะ ไปเถอะ ไปหาศตคุณซะ พี่จะเข้าประชุมแล้ว”
ผู้เป็นน้องถอนหายใจ เขารั้งเสื้อคลุมพี่ชายไว้เล็กน้อยแล้วเงยหน้าขึ้น “พี่จาร์ซี... เอ่อ เรื่องทั้งหมด... ขอบคุณนะครับ”
ชีคจาร์ซียิ้มกว้าง เขาเพิ่งเคยเห็นน้องชายแท้ๆ ทำตัวน่ารักก็คราวนี้ “อืม... ดีใจด้วยนะ สมหวังสักที เรื่องแต่งงานไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พี่จะช่วยน้องเท่าที่จะทำได้”
ชีคหนุ่มก้าวเดินไปบนพื้นหินอ่อน กลับไปยังห้องนอนของตนที่เพิ่งจากมาไม่นาน ทว่าเมื่อถึงหน้าห้องพักก็ต้องแปลกใจที่เห็นจามิลและจีฮาลยืนยิ้มเผล่อยู่ข้างๆ ทหารเฝ้ายามบริเวณด้านหน้าห้อง
“ทำไมไม่อยู่กับศตคุณ”
“คือว่า...” จีฮาลรีบรายงานก่อน “...เจ้าจามิลน่ะสิครับ พูดมากจนคุณศตคุณหลับไปเลย พวกผมเลยออกมารอด้านนอกห้องแทน”
“ไม่ใช่เพราะผมนะครับชีค เจ้าจีฮาลน่ะแหละ ร้องเพลงอะไรของมันก็ไม่รู้ คุณศตคุณคงรำคาญเลยหลับหนีซะงั้น”
ทัชอัลดินส่ายหน้าพร้อมหัวเราะเบาๆ ก็คงจะรำคาญทั้งคู่นั่นล่ะ แต่จีฮาลกับจามิลก็เป็นทหารมือดีที่สุด เขาเห็นว่าพูดเก่งพอๆ กับศตคุณและวัยใกล้เคียงกันซะด้วย เลยส่งให้มาดูแลคนรักของตนโดยเฉพาะ
ชีคหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างเงียบเชียบ เขาเดินไปหยุดตรงข้างเตียงที่ร่างโปร่งนอนหลับสนิทอยู่ ดวงตากลมหลับพริ้มบนใบหน้าสวยหวาน ริมฝีปากสีแดงฉ่ำอมยิ้มน้อยๆ หัวไหล่ที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมาเปลือยเปล่า มีรอยจูบสีชมพูจางๆ ที่เขาเป็นคนทำไว้... ยิ่งเพ่งพิศก็ยิ่งรู้สึกว่าศตคุณของเขาช่างน่ารักมากเหลือเกิน
สี่ปีแล้วสินะ ตั้งแต่การแสดงบนเวทีครั้งแรกของศตคุณ เขาเคยได้แต่เฝ้ามองเด็กหนุ่มจากที่ไกลๆ เฝ้าหลงรักและคอยดูแล ในที่สุด เขาก็ได้สิ่งที่ล้ำค่าที่สุด นั่นก็คือหัวใจของศตคุณเป็นสิ่งตอบแทน
ร่างสูงเดินไปหยิบสมุดสเก็ตช์ภาพจากบนโต๊ะทำงานในห้อง จากนั้นก็มานั่งลงตรงเก้าอี้นอนตัวยาวริมหน้าต่างที่มีผ้าม่านปิดสนิท มือหยาบหยิบดินสอขึ้นมาร่างภาพของเด็กหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
ดินสอสีดำในมือหยาบพลิ้วไหวเพื่อระบายเงาสะท้อนบนเส้นผมอันอ่อนนุ่ม ตามด้วยการแรเงาเพื่อสร้างมิติตามเส้นโค้งบริเวณดวงตา สันจมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอวบอิ่มที่เขาคิดว่าหอมหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งชนิดไหนๆ และท่อนแขนเรียวที่โอบกอดหมอนหนุนใบใหญ่ที่เด็กหนุ่มซุกใบหน้าไว้ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการตัดเส้นและตกแต่งภาพให้สมบูรณ์
เมื่อภาพวาดแบบพอร์ตเทรตเสร็จสิ้นลง ชีคหนุ่มก็จรดปลายดินสอลงตรงมุมภาพแล้วเขียนว่า
“My white desert rose; Nisreen, July, 20XX”ทัชอิลดินยิ้มให้กับภาพในมืออย่างพอใจ ก่อนจะวางสมุดสเก็ตช์ลงข้างตัวแล้วปิดตาลงเพื่อพักผ่อนสายตาชั่วครู่ ที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องวาดภาพที่เกิดจากความเพ้อฝันเหล่านี้อีกแล้ว เพราะศตคุณคือความจริงที่เขามีอยู่ และต่อจากนี้ไป เขาหวังว่าการเรียนรู้และปรับตัวเข้ากับอากาศร้อนของทะเลทราย ความเป็นอยู่ในแบบอาหรับ การเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวและศึกษาเรื่องการเมือง จะไม่น่าเบื่อและยุ่งยากเกินไปสำหรับเด็กหนุ่มนัก
“หืม?” ชีคหนุ่มผงกศีรษะขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเนื้อผ้าเสียดสีกันดังซอกแซก หากเขายังไม่ทันลุกขึ้น ร่างโปร่งบางที่ห่อตัวไว้ในผ้าห่มก็นั่งลงแล้วโน้มตัวเข้ามาซบใบหน้าลงบนแผ่นอกกว้าง “คุณ... ตื่นแล้วหรือ”
“พี่ทาริค... มีอะไรรึเปล่าครับ ทำไมเอาแต่ถอนหายใจ”
“...ไม่มีหรอก...” แขนแกร่งโอบเอวบางไว้หลวมๆ
“ไม่จริงหรอก พี่ทาริคมีอะไรบอกน้องไม่ได้เหรอครับ” ศตคุณผงกศีรษะขึ้นเหนือแผ่นอกเล็กน้อย
ปลายนิ้วหยาบเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลที่ปรกกรอบหน้าสวยไปทางด้านหลัง เพื่อให้เขาเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มได้อย่างชัดเจน แล้วถอนหายใจยาว “พี่ขอโทษนะ ทั้งๆ ที่ความตั้งใจของพี่คือการให้น้องอยู่อย่างสุขสบายแต่เพียงในวัง... แต่ว่าต่อไปนี้น้องจะต้องเรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับบ้านเมืองของเรา ทั้งภาษา ประเพณี วัฒนธรรม การปกครองบ้านเมือง แล้วนี่ยังต้องศึกษาเตรียมตัวการเป็นเจ้าสาวด้วย น้องจะไหวรึเปล่า”
“โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร” เด็กหนุ่มวางศีรษะลงบนแผ่นอกอบอุ่นเช่นเดิม แล้วยิ้มกว้าง “แค่นี้เอง... สบายมากครับ น้องยินดีและจะตั้งใจเรียนรู้ทุกอย่าง พี่ทาริคอย่าห่วงไปเลย”
ทัชอัลดินยิ้มบาง แล้วใช้ปลายนิ้วไล้ไปมาบนแก้มใสที่เห็นเส้นเลือดฝาด “จูบพี่หน่อยได้มั้ย ที่รัก”
ร่างโปร่งหัวเราะเบาๆ พลางดันตัวลุกขึ้น ก่อนจะโน้มไปประทับจูบริมฝีปากหยัก สอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลึกซึ้ง ให้คนที่ถูกจูบได้ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
“อืม... จูบเก่งแบบนี้ พี่ต้องกังวลมั้ยนี่”
“มันก็เป็นเรื่องธรรมดา” เด็กหนุ่มยักไหล่ “ก็น้องอายุสิบแปดแล้วนี่ครับ”
ทัชอัลดินจรดปลายจมูกบนแก้มนิ่มแรงๆ อย่างมันเขี้ยว แต่พอใบหน้าคมเริ่มซุกไซ้ เด็กหนุ่มหัวเราะพร้อมพลิกตัวหนีทันควัน ระหว่างนั้นก็หลือบไปเห็นสมุดสเก็ตซ์ภาพที่หล่นอยู่บนพื้นข้างเก้าอี้นอน “...นี่มัน... รูปผม พี่ทาริควาดรูปผมอีกแล้ว ที่ห้องโถงนั่นยังไม่พออีกเหรอครับ ตัวจริงก็อยู่ที่นี่แล้วด้วย”
“ก็ตัวจริงหลับอยู่ พี่ทำอะไรไม่ได้นี่... หรือจะให้พี่รักน้องทั้งที่ยังหลับล่ะหืม” แขนแกร่งเกี่ยวรั้งเอวบางเข้าหาตัว
“...บะ... บ้า... ไม่เอานะครับ” ใบหน้าหวานร้อนวูบ คำถามอะไรกันนี่
“ฮ่าๆ ล้อเล่นน่ะ”
“พี่ทาริคล้อเล่นได้น่าเชื่อที่สุดเลยล่ะครับ...” ศตคุณมองค้อน พร้อมกับบ่นพึมพำ “คนอะไรก็ไม่รู้ ชอบหลอกกันอยู่เรื่อย... น้องเคยถามว่าทำงานอะไร ก็บอกว่าทำทุกอย่างที่มี ถามว่ามีบ้านอยู่ที่เฟอร์โดสนี่รึเปล่า ก็บอกว่าไม่มี”
ทัชอัลดินจรดปลายจมูกลงบนแก้มนิ่มเบาๆ “หืม? พี่ก็ทำงานทุกอย่างจริงๆ ไม่ใช่หรือ... แล้วบ้าน... ก็ไม่มีจริงๆ นี่”
“แล้วที่นี่เรียกว่าอะไรครับ”
“วัง...”
“ฮื้ยยยย...” มือขาวหยิกท่อนแขนแกร่งเบาๆ
เสียงพูดคุยหยอกเย้า สลับกับเสียงหัวเราะของทั้งสองดังก้อง พวกเขามีแต่ความสุข ความสุข และจะมีแต่ความสุขเท่านั้น ชีคหนุ่มลุกขึ้นสวมเสื้อคลุมไว้หลวมๆ เขาเดินไปเปิดประตูออกสู่ระเบียงออกกว้าง แล้วเดินกลับมาอุ้มเด็กหนุ่มขึ้นแนบกาย
ร่างโปร่งมีผ้าห่มพันรอบตัวแทนเสื้อผ้า เขาวาดแขนโอบรอบลำคอใหญ่ “หือ พี่ทาริคจะพาน้องไปไหนครับ”
ทัชอัลดินเดินมาหยุดตรงราวระเบียง “มองออกไปสิ น้องพี่”
ใบหน้าหวานหันออกไปตามที่คนรักกระซิบบอก เขาได้เห็นเมืองสวรรค์ในโอเอซิสกลางทะเลทรายที่มีชื่อว่าเฟอร์โดสเต็มๆ ตาเป็นครั้งแรก บ้านเมืองที่เต็มไปด้วยตึกซึ่งสร้างจากอิฐโคลนสูงๆ ตั้งเรียงติดๆ กัน คลองและทะเลสาบ กำแพงเมืองสูงใหญ่รายล้อม และด้านนอกเป็นทะเลทรายไกลจนสุดลูกหูลูกตา
“ดูสิ บ้านเมืองของเรา ต่อไปเราจะต้องช่วยกันดูแล ชีวิตของชาวเมือง ผู้คนในทะเลทรายอาหรับแห่งนี้อยู่ในกำมือของเรา”
ศตคุณขนลุกซู่ เขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าจากนักเปียโนธรรมดาๆ จะเปลี่ยนแปลงไปได้มากถึงขนาดนี้ “น้อง... จะพยายามให้มากที่สุดครับ”
“ไม่ต้องห่วงนะ ท่านพ่อ พี่และพี่จาร์ซีจะอยู่เคียงข้างน้องเสมอ”
ครอบครัวที่เด็กหนุ่มโหยหามาโดยตลอด ทว่าเป็นครอบครัวที่ยิ่งใหญ่กว่าครอบครัวธรรมดาๆ มากนัก เด็กหนุ่มซุกใบหน้าตรงซอกคอสีน้ำผึ้ง ความอบอุ่นของสายลมและแสงแดดจากทะเลทรายเทียบไม่ได้กับความอบอุ่นจากอ้อมแขนของคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายและคนรักเลยแม้แต่น้อย “ครับ”
ทัชอัลดินกดจูบลงบนศีรษะเล็กหนักๆ “ดูทะเลทรายนั่นสิ มันกว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต เต็มไปด้วยเม็ดทรายมากมายนับไม่ถ้วน... นั่นคือความรักของพี่ที่มีให้น้อง...”
“Ana Ooheboka (อานา อูฮิบบูกา)”
ศตคุณเงยหน้าขึ้นสบตากับนัยน์ตาคมกริบ ดวงตาเขาร้อนผ่าว “อานา อูฮิบบูกา น้องก็รักพี่ครับ อย่าปล่อยมือไปจากน้องอีกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... นะครับ”
“พี่สัญญา”
หยดน้ำตาแห่งความยินดีไหลรินจากดวงตาสีน้ำตาลอ่อน หล่นลงกระทบพื้นหินอ่อนคาร์เรร่าสีขาว สองแขนเรียวกอดรัดร่างสูงใหญ่ ผู้ซึ่งจะเป็นคู่ชีวิตของตน โชคชะตานำพาให้เขามาเป็นส่วนหนึ่งของทะเลทรายแห่งนี้ หลังจากที่เฝ้ารอมานานแสนนาน ใบหน้าหวานหันกลับไปมองทะเลทรายกว้างไกลอีกครั้ง สายลมแผ่วๆ พัดเส้นผมสีน้ำตาลให้ระปลายคางของเจ้าของอ้อมกอด
เด็กหนุ่มบอกกับตัวเองว่านับจากวันนี้ไป เขาจะตั้งใจศึกษาและจะรักแผ่นดินนี้ให้มากที่สุด โดยมีบิดามารดากับคุณลุงของเขาคอยดูแล และอวยพรจากบนสรวงสวรรค์... ให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างกล้าหาญ
...และให้เติบโตได้อย่างงดงามเฉกเช่นดอกกุหลาบสีขาวแห่งทะเลทราย
END
จบแล้วค่าาาาาา ฮือๆๆๆ ในที่สุด ลูกชายก็ได้สามีหล่อรวย สวีตกันจนเหยี่ยวยังบินเตลิดเปิดเปิงหนี
หวานมั้ยค้า??? เขาจีบกันน่ารักเน้อ 5555555
ขอบคุณทุกคนที่อดทนติดตามมาจนจบเรื่องนะคะ ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่คอยเป็นกำลังใจ เป็นแรงผลักดันให้กับฮัสกี้ค่ะ
เอาไว้จะเอาวัง "นิสรีน" มารีไซเคิลเป็นนิยายอีกเรื่อง สำหรับทุกคนที่ชื่นชอบนิยายแนวทะเลทรายนะคะ
คงจะต้องใช้เวลาเขียนนานสักหน่อย 55555 เพราะยากมากกกกกกกกกกก 
แต่ยังไงก็อยากจะขอให้ทุกคนรอฮัสกี้ก่อนแน้ ฮือๆๆๆ