บทที่ 9 เรื่องที่ไม่ควรจะเกิดก็แห่กันมาไม่หยุดหย่อน
“ตกลงว่าเมื่อวานประธานเรียกทำไมวะ”ผมถามอ่อนไอซ์ที่นั่งหน้ามึนอยู่ที่โต๊ะของมัน เวลาตอนนี้ยังไม่ถึงเจ็ดโมงเช้าทำให้คนในห้องยังมีน้อย ตัวผมที่มาค่อนข้างเร็วในวันที่มีการบ้านต้องส่งมักจะใช้บริการสมุดของมันเป็นต้นฉบับเสมอ
บ้านไอ้ไอซ์อยู่ไกลมันเลยต้องรีบมาก่อนชั่วโมงรถติดเป็นเวรเป็นกรรมของมันที่ต้องมานอนฟุบกับโต๊ะเรียนทุกเช้า...ทำไมมันไม่เรียนที่ที่ใกล้บ้านมันวะ...เอาเถอะ อย่างงี้ก็ดีแล้วถ้าไม่มีมันก็คงไม่มีใครให้ลอกการบ้าน
...สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเพื่อนสนิท มิตรภาพของนายน้ำเงินและอ่อนไอซ์เชื่อมโยงกันด้วยสมุดการบ้าน...
“เรื่องพิธีเกษียณ”หัวหน้าห้องหรืออีกชื่อหนึ่งก็คือเบ๊สาธารณะยื่นสมุดวิชาฟิสิกส์มาให้อย่างอ่อนใจ คนที่ต้องอ่อนใจนะมันกู ไอ้ห่านี่กากเลขอ่อนฟิสิกส์ขนาดไหนทำไมผมจะไม่รู้แต่ในเมื่อไม่มีทางเลือกก็ลอกๆแม่งไป
“ก็แค่พิธีเกษียณไม่ใช่เหรอวะ ทำไมรอบนี้ถึงทำซะใหญ่โตกูเห็นมีจัดซุ้มดอกไม้อะไรกันมากมาย”ถามไปลอกไป
“คราวนี้ผอ.ก็เกษียณด้วยนะสิ ยังมีหัวหน้าหมวดอังกฤษอีกคน”มันตอบ
“อ่อ มีแต่คนใหญ่คนโตสินะปีนี้“จะว่าไปแล้วอาจารย์ที่สอนอังกฤษห้องผมก็คือหัวหน้าหมวดนี่หว่า
“อ่าว...แล้วใครจะมาสอนห้องเราแทนหละ กูไม่เอาชมพูนุชนะเว้ย!!”ชมพูนุชที่ว่าก็คือท่านอาจารย์ชมพูนุชที่เคารพรัก หากสุชาติเป็นประมุขพรรคแห่งภาควิชาภาษาไทยแล้วชมพูนุชคงเป็นท่านอ๋องแห่งแคว้นภาษาอังกฤษ...อย่างง สรุปคือเป็นตัวโหดระดับเดียวกันยากที่จะมีใครต่อกร...
“ไม่นะเห็นว่าเค้าจะรับอาจารย์จบใหม่มา”ไอ้อ่อนรีบตอบก่อนที่ผมจะล้มโต๊ะ
“เฮ้อออ ค่อยยังชั่ว ครูใหม่ไม่ค่อยโหดเท่าไหร่”จุดนี้ขอแค่ไม่ใช่ชมพูนุชก็พอครับ
“ไอ้แชคบอกว่าจารย์คนใหม่จบนอกแถมยังจบมหาลัยเร็วกว่าปกติปีนึงด้วยนะ แต่ฟังดูโม้ๆถ้าเจ๋งขนาดนั้นจริงจะมาเป็นครูทำไมวะ ไม่รู้ข่าวนี้แชคได้กรองมาก่อนมั้ย”ไอซ์กล่าวทำท่านึก
“ระดับแชคเรื่องแค่นี้ไม่มีพลาดหรอก ที่สำคัญครูโรงเรียนเรามีจนที่ไหนสอนตามเวลาราชการเสร็จก็ไปสอนพิเศษต่อ เด็กที่อยากเข้าที่นี่มีเยอะแยะถ้าสอนแล้วสอบไม่ติดยังมีให้รอบเด็กเส้นให้กินตังค์อีกต่อ มึงรู้จักไอ้สองมั้ยไอ้เหี้ยนี่อะตอนมันเข้าแม่มันเส้นครู่เป็นแสนเลยนะเว้ย”ผมตอบมันอย่างออกรส
เนื่องจากโรงเรียนของผมมีชื่อเสียงค่อนข้างมากครูๆทั้งหลายเลยรับทรัพย์ค่าแลกเข้ากับค่าสอนพิเศษกันเหนาะๆ
“จริงของมึง กูเห็นครูที่นี่แก่ๆกันทั้งนั้นเข้ามาสอนใหม่ๆก็อายุสี่สิบกว่ากันแล้วแต่คนนี้ได้ย้ายมาสอนที่นี่ตั้งแต่เรียนจบไม่ถึงปีแสดงว่าเด็ดจริง”ไอซ์เริ่มคล้อยตาม ไอ้หอยเหม็ดนี่เป่าหูง่ายครับพูดไปเถอะมีมูลไม่มีมูลแม่งเห็นด้วยหมด...แต่ครั้งนี้มีมูลครับ...
“ขอโทษนะจ๊ะ”เสียงหวานใสดังขึ้นข้างๆผมกับเพื่อนรักต้นฉบับการบ้านที่ยังลอกไม่ถึงไหนเพราะเสียเวลากับการนินทาครูบาอาจารย์อยู่นานรีบหันไปมองทางต้นเสียงก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง
“พี่ไอริณ!!!!!”ไอซ์แฟนคลับหมายเลขหนึ่งดีใจเนื้อเต้นที่คนสวยประจำโรงเรียนเข้ามาทัก...ผม
เอ่อ...เค้าทักกูไม่ใช่มึง ขอร้องอย่าดีใจขนาดนั้นมันแลน่าสงสาร
“ครับ?”ผมเลิกคิ้วเชิงถาม แม้ผมกับพี่ไอริณจะพอรู้จักกันบ้างเนื่องจากมีตำแหน่งเดียวกัน(คฑากร)แต่ก็ไม่ได้สนิทถึงกับมาทักทายกันถึงห้อง
ต้องมีธุระสำคัญแหง...
ใบหน้าสวยฉายแววลำบากใจชั่วครู่ก่อนเธอจะเอ่ยถามอย่างเลี่ยงๆ”น้ำเงินอยู่กับเพื่อนแค่สองคนเหรอจ๊ะ แล้วคนอื่นๆหละ”
“ยังไม่มาครับ พวกที่เหลือเป็นจอมมาสายทั้งนั้น”ถ้าไม่มีการบ้านต้องลอกผมก็มาสายครับ ทั้งกลุ่มก็มีแค่ไอ้ไอซ์บ้านไกลคนเดียวที่มาเร็ว แม้แต่ซีซีที่ดูเรียบร้อยก็ขี้เซาตัวพ่อ
“เหรอจ๊ะ แล้วพอจะรู้ไหมว่าเพื่อนจะมาเมื่อไหร่”พี่ไอริณถามอย่างไม่เจาะจง เธอดูพิรุธมากเสียจนผมเริ่มเอะใจ
“เช่นใครหละครับ”ผมถามหยั่งเชิง ร่างบางถึงกับกระตุกกับคำถามของผม
“เอ๋!?”
“ก็ถ้าพี่ไม่ระบุชื่อผมจะบอกให้ได้ยังไงหละครับว่ามันจะมาเมื่อไหร่”คุณเธอเริ่มเหลือบซ้ายแลขวาหาทางออก เห็นอาการวิตกแบบนั้นของเธอแล้วผมก็เริ่มใจอ่อน
“ซีซีมาก่อนเข้าแถวสักสิบนาที อาร์ตกะปอจะขี่มอเตอร์ไซต์มาจอดหน้าประตูโรงเรียนพอดีกับเสียงสัญญาณเข้าแถว ส่วนแชคจะมาหลังจากเข้าแถวเสร็จหรือไม่ก็มาหลังคาบแรกเลย แต่วันนี้คาบแรกคือพละมันไม่น่าโดดวิชานี้ถ้าจะมาหามันหละก็ไปหาได้ที่โรงยิมหรือรอพักกลางวันก็ได้ครับ”ผมบอกอย่างละเอียดโดยเฉพาะคนหลังสุดละเอียดเป็นพิเศษ...
ถึงจะไม่รู้ว่ามาหาใครก็เถอะแต่เซ้นส์มันบอกว่าต้องเป็นแชคแน่ๆ...
“อ้อออออ โอเค...ขอบคุณมากน้ำเงิน เจอกันงานกีฬานะจ๊ะ”พี่ไอริณยิ้มก่อนโบกมือลาผมเล็กน้อยก่อนเดินออกจากห้องไป
ผมเองก็อดยิ้มตามท่าทางแบบนั้นของเธอไม่ได้ เพิ่งอกหักมาแท้ๆกลับยิ้มออกมาได้สวยขนาดนั้น เห็นพี่สบายดีแฟนคลับอย่างผมก็สบายใจ...ถึงแม้ว่าผู้ชายที่หักอกพี่กำลังตามจีบผมอยู่ก็ตาม...
เห...เดี๋ยวนะ...มันแปลกๆ
พี่ไอริณชอบเปลว เปลวชอบผม ผมชอบ(ปลื้ม)พี่ไอริณ...สถานะของพวกเราเอามาโยงคร่าวๆแล้วได้ประมาณนี้รึป่าว!?
เห้ยยยย...แล้วยังไงหละนั่น!? คือกูต้องรู้สึกกระดากหรือรู้สึกผิดเวลาคุยกับพี่เขาใช่มั้ย?
“น่าอิจฉาหวะ ได้คุยกับพี่ไอริณด้วย น้ำเงินได้คุยกับพี่ไอริณ”มึงจะพูดซ้ำสองรอบทำไมวะไอซ์
.
.
คาบพละผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว มีเหตุการณ์สำคัญอยู่สองสามฉาก ฉากแรกคืออาร์ตกับปอที่กะเวลามาพลาดเลยโดนกักให้วิ่งรอบสนามอยู่หน้าโรงเรียน ฉากที่สองคือพวกมันวิ่งไปอู้ไปเลยวิ่งเสร็จช้าทำให้มาเข้าเรียนคาบพละช้าทำให้ถูกทำโทษให้วิ่งรอบโรงยิมอีกเด้งนึง...สมน้ำหน้าพวกโง่มัน ผมนี่หัวเราะเยาะคนจนเหนื่อยเลยครับ...
ส่วนฉากที่สามจะนับเป็นฉากก็คงไม่ได้เพราะ เหตุการณ์ที่ว่าก็คือพี่ไอริณไม่ปรากฏโฉมมาเยือนแชคแม้แต่เงา...หรือเซ้นส์ของผมจะพลาด เอาเถอะยังไงก็ไม่ใช่ธุระกงการของผมตั้งแต่แรกแล้ว
ตอนนี้ผมและคณะกำลังรอเรียนคาบต่อไปอันเป็นวิชาภาษาอังกฤษซึ่งผู้สอนเป็นหนุ่มจบใหม่ไฟแรงสตรีทั้งหลายวาดฝันไว้เต็มเปี่ยมว่าต้องเป็นหนุ่มหล่อเพียงเพราะโปรไฟล์ดีกรีเรียนนอก...
ปล่อยผู้หญิงเขาฝันกันไปครับ ผู้ชายมีน้อยผมเข้าใจแม้ว่าครูบาอาจารย์เป็นบุคคลที่นักเรียนควรนินทา...เอ๊ยย เคารพบูชา แต่ขอกรี๊ดบ้างอะไรบ้างก็ถือเป็นสีสันในการเรียนของสาวๆและตุ๊ดสี่เหล่าของห้องผม
ตุ๊ดสี่เหล่าเป็นสมญานามของบุรุษงามประจำห้องผมครับ ไอ้แสบแชคเป็นคนตั้งให้เหตุผลคือตุ๊ดทั้งสี่ถึกเสียยิ่งกว่าชายแท้อย่างกลุ่มผมและมีสี่คน...บางอารมณ์มันก็เรียกจตุรตุ๊ด เหตุผลหลักเลยคือพวกนางดำถึกประหนึ่งผ่านการฝึกภาคสนามมาตั้งแต่อนุบาล แต่ไม่ว่ามันจะเรียกพวกนางว่าอะไรผลก็คือโดนด่าไม่ต่างกัน
“แกๆ วันนี้ฉันปัดมาสคาร่ามาด้วยสวยมั้ย เตรียมมาไล่ต้อนอุ๊ย! ต้อนรับครูใหม่เต็มที่เลยนะ”ตุ๊ดทัพบกกล่าวกระดี๊กระด๊า
“ต๊ายยย นั่นขนตาหรือกันสาดคะ อาจารย์เขาเห็นแกเขาคงวิ่งเข้าไปหลบฝนละไม่ว่า หิ๊หิ๊หิ๊หิ๊”เสียงหัวเราะทุเรศชิบ ตุ๊ดทัพอากาศที่นั่งถัดออกไปได้ยินตุ๊ดทัพบกคุยกับเพื่อนสาวเลยพูดขัดแข้งขัดขากันเอง
“แต่ฉันว่าจารย์แกน่าจะวิ่งหลบมันมากกว่านะ โฮ๊ะโฮ๊ะโฮ๊ะ”ตุ๊ดกรมตำรวจร่วมวง
“หนอยอีดำ เมื่อกี้แกว่าไงนะ!?”คนโดนรุมเริ่มมีน้ำโห ตุ๊ดทัพบกลุกขึ้นตบโต๊ะดังฉาด
เรื่องก็คือเหล่าเทยทั้งสี่ไม่ถูกกันเท่าไหร่นัก...เรียกว่าไม่ถูกกันเลยจะดีกว่า เจอหน้ากันก็ฉะกันตลอดไม่เข้าใจจริงๆว่าจะตีกันไปทำไม ก่อสงครามกันตลอดแถมยังหน้าไม่อายเรียกว่าสงครามนางฟ้าอีก ผมนี่อยากจะถุยสักรอบแต่เกรงบารมีพวกนาง
“สวัสดีทุกคน นั่งที่ให้เรียบร้อยด้วยครับ”ก่อนที่สงครามจะเกิด เสียงของราชฑูตอิมพอร์ตจากนอกก็ดังขึ้นขัดตราทัพเสียก่อน ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีน้ำนายซอยเป็นทรงประดับเสริมให้ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นทวีเสน่ห์ยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมานับรวมกับร่างกายกำยำอย่างคนออกกำลังกายแล้วผลลัพธ์ที่ได้คือ
“กรี๊ดดด...หล่อมาก”เสียงกรี๊ดเบาๆอย่างพยามอั้นความดีใจไว้ของฝูงชะนี้แท้เทียม
อาจารย์คนใหม่ปรากฏกาย!!สร้างเสียงฮือฮาภายในห้องได้อย่างดี
“ทะ...ทำความเคารพ”ไอซ์ที่ติดสตั๊นไปแล้วสะดุ้งด้วยศอกของซีซีที่กระทุ้งเข้าที่สีข้างเรียกสติให้กลับมาทำภารกิจหัวหน้าชั้น
“สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ”
“เห็นไหมกูบอกแล้วว่าหล่อ”ไอ้แชคหันไปเย้ยอาร์ตกับปอที่ทำหน้าผิดหวังอยู่ ผมขอเดาว่าพวกมันคงพนันกันเรื่องหนังหน้าของผู้สอนคนใหม่...ท่ามกลางความยินดีของสาวๆในห้องและความผิดหวังของผู้ชายนั่นเอง...ตัวผมเหมือนจะตัดขาดจากสัญญาณใดๆภายนอกไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อใบหน้าแสนคุ้นเคยนั้นยังประทับอยู่ในความทรงจำ...ตนและชายหนุ่มตรงหน้าเพิ่งพบกันเมื่ออาทิตย์ก่อน
ด้วยภารกิจที่ท่านหญิงแม่มอบหมาย...
ผู้ชายคนแรกที่นายน้ำเงินเอ่ยปากจีบกลางห้าง
“พี่เอิท!!”
เหมือนฟ้ากลั่นแกล้ง เสียงไม่ดังไม่เบาที่หลุดจากริมฝีปากผมนั้นเข้ากระทบโสตประสาตของร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าชั้นได้อย่างไรก็ไม่ทราบ ก็ในห้องตอนนี้เต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์เบาน้อยเสียเมื่อไหร่...ทั้งอย่างั้นพี่แกก็ยังได้ยินและเลื่อนสายตามาประสานกัน...
“สวัสดีครับ ผมอาจารย์คัมภีร์ จะมาสอนวิชาอังกฤษของพวกคุณตั้งแต่วันนี้ขอฝากตัวด้วยนะ”
.
.
“...น้ำเงินจ๊ะ...”เสียงของคุณแม่ที่รักดังผ่านเครื่องมือสื่อสารนามโทรศัพท์ ช่วงเวลานี้เป็นพักกลางวันอันสงบสุขของเหล่านักเรียน...คนอื่นๆยกเว้นผมอะนะ
จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา การโทรหาของมารดานั้นไม่มีเรื่องดีเกิดตามมาเลยสักครั้ง...ครั้งนี้ก็เช่นกัน “มีอะไรครับแม่...”
“ลูกยังจำพี่เอิทลูกชายเพื่อนแม่ได้ไหม”แม่ครับ ช้าไปแล้วครับ ไม่บอกเอาตอนปิดเทอมไปเลยหละ
“ครับ วันนี้พี่เค้ามาสอนห้องผมด้วย”ผมตอบไปตามตรง
“อ๋อออ บังเอิญจังพี่เค้าได้สอนห้องเราเหรอเนี่ย พอดีเลยแม่มีเรื่องจะรบกวน...”นั่นไงมาละ คิดไว้ไม่มีผิด กูซวยทั้งปี
“อะไรเหรอครับ”แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายยอดกตัญญูผมเลยต้องยอมอย่างช่วยไม่ได้
“แม่อยากให้เราเก็บ’เรื่อง’ของพี่เค้าเป็นความลับเพราะถ้ามีใครรู้เข้าคงไม่ดีมีผลต่ออาชีพการงานแน่ แล้วก็ช่วยสังเกตุพฤติกรรม
พี่เค้าแบบห่างๆ เอิ่ม...จะพูดยังไงดีหละ ไม่ได้ให้ไปจับผิดพี่เขานะ แต่ให้คอยดูเผื่อพี่เค้ามีปัญหาอะไรหรือแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็อยากให้ช่วยปรามแบบอ้อมๆนะจ่ะ”
“จะพยามแล้วกัน แต่ไม่รับรองผลนะ”
“ไม่เป็นไรๆ เพื่อนแม่เขาแค่เป็นห่วงไม่ได้ต่อต้านอะไรพวกนี้หรอกแค่เขาเตือนด้วยตัวเองไม่ได้เพราะตัวลูกชายเขายังไม่ได้บอกกับแม่เขาตรงๆ คนเป็นแม่เลยได้แต่กลุ้มอกกลุ้มใจ”จากนั้นแม่ก็วางสายไปทิ้งให้ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน
คาบบ่ายวันนี้ไม่มีการเรียนการสอนปออาร์ตไปทำหน้าที่พิธีกร แชคที่ถ่ายรูปเก่งก็ได้รับมอบหมายให้ถ่ายภาพบรรยากาศภายในงาน ส่วนซีซีกับนาวเห็นว่าได้รับรางวัลนักเรียนตัวอย่างอะไรสักอย่างต้องไปต่อแถวรวมกับพวกรอรับเกียรติบัตรเหลือเพียงผมโดดเดี่ยวเปลี่ยวใจแต่เพียงผู้เดียว
เอาไงดีวะ...
นั่งทนทำพิธีสักสองสามชั่วโมงไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรมากมายแต่ถ้าตัดพวกเพื่อนๆผมออกไปก็เหลือแค่ผมกับสี่เทยที่เรียกว่าเป็นเพศชาย ทั้งแถวมีอยู่ห้าคนแถมเป็นตุ๊ดไปสี่...โดนเด็กห้องข้างๆแซวแหง
ทางหนีทีไร่ซึ่งคิดออกตั้งแต่แรกแล้วแต่ยังชั่งใจลังเลอยู่จึงเป็นทางออกสุดท้ายสำหรับผม...ไปหาเปลวดีกว่า...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ชื่อตอนควรเป็นพระอาทิตย์กลางฤดูร้อนกับบทพระเอกที่หายไปมากกว่านะคะ 55555555
ตอนต่อจากตอนนี้คุณพระเอกค่าตัวแพงของเราก็ยังไม่ถึงคิวออกฉากอีกเช่นเดิม(ฮา)
แล้วตอนหน้าใครจะมีบทกันหละ? น้ำเงินเหรอ? หรือสมชาย? หรือซีซี หรือแชค เห...หรือว่าจะเป็นฟงกันน้ออออ ปล. อยากทำสารบัญจัง เร็วเกินไปมั้ยที่จะทำ