พระอาทิตย์กลางฤดูร้อน....... รวมเล่ม
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: พระอาทิตย์กลางฤดูร้อน....... รวมเล่ม  (อ่าน 119673 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ MiddaySuN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
    • พระอาทิตย์กลางฤดูร้อน



บทที่25


“อืม...ปวดหัวจัง”ผมปรือเปิดตาขึ้นช้าๆ... เมื่อต้องแสงไฟนีออนดูเหมือนจะลืมตาได้ลำบาก รู้สึกปวดหัวจนต้องยกมือขึ้นกุม



“ดูเหมือนจะตื่นแล้วนะ”เสียงคุ้นเคยดังขึ้นด้านข้าง แต่เพราะยังปรับสภาพไม่ได้ทำให้ผมลืมตาไม่ขึ้น



“อืม”



“งั้นกูไปรอห้องพี่ไอริณแล้วกัน เชิญมึงตามสบายเลย”



“เห้ย! อย่าไปทำอะไรพี่เขาล่ะ”



“เออๆ ห่วงแฟนมึงไปเหอะ”



แล้วก็ตามด้วยเสียงปิดประตู อา...เสียงแบบนี้มันเสียงของฟงกับ...”เปลว...”



ผมเอ่ยเรียกคนที่ยังอยู่ในห้องด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงพลางมองสภาพรอบๆห้อง...



ที่ที่ผมอยู่ตอนนี้เป็นห้องขนาดใหญ่ประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงอันได้แก่เตียงขนาดคิงไซส์ โซฟาสีน้ำตาลตัวใหญ่ตั้งเคียงกับทีวีจอกว้าพร้อมลำโพงยกชุด...ผมในชุดนอนคนป่วยมองซ้ายมองขวาแบบงงๆ?



“ที่นี่ที่ไหน? โรงพยาบาลเหรอ ไม่น่าใช่นะ หรือบ้านมึง?”



“หึหึหึหึ ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง”เปลวตะวันลูบหัวผมแผ่วเบาแล้วก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มอารมณ์ดี”ที่นี่คือโรงแรม”



เป็นคำตอบที่น่าตกใจไม่น้อย



“หา?”



“ตอนกูไปถึงมึงกับพี่ไอริณก็นั่งพิงกันหลับไปแล้ว ได้ป้าร้านส้มตำนั่งดูให้ลำบากกูต้องให้เงินตอบแทนเขาไปแล้วก็พาพวกมึงขึ้นแท็กซี่มานี่แหละ”



“มึงมากับฟงอ่อ?”



“อืม”



ไม่มีคำพูดมากไปกว่านั้นเพราะริมฝีปากของผมถูกทาบทับด้วยอีกคน เปลวตะวันน้อมตัวลงมาแล้วก็มอบสัมผัสแผ่วเบาที่กลีบปากก่อนจะแทรกเรียวลิ้นเข้ามาอย่างห่วงหา



“ทำไมชอบทำให้เป็นห่วง...หืม”



“อืม..กูขอโทษ”พวกเราผละออกจากกัน เปลวใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาปรกหน้าผมออกไป



“แล้วจะไม่เอาความพวกนั้นจริงๆน่ะเหรอ”ผมพยักหน้าแทนคำตอบ ตอนนี้เรี่ยวแรงเริ่มกลับมาแล้ว ที่ผล็อยหลับไปเมื่อบ่ายคงเป็นเพราะล้าเท่านั้นไม่ได้เป็นไข้อะไร...



“อืม พวกนั้นก็แค่คลุ้มคลั่ง ถ้าเราไม่ตอบโต้มันก็จะคิดว่าตัวเองชนะแล้วก็เลิกไปเอง แต่ถ้าเราไม่ยอมเรื่องก็ไม่จบ...”



“แล้วทำไมคนที่เดือดร้อนต้องเป็นน้ำเงินกัน...รู้ไหม ตอนที่มึงโทรมา กู...ตกใจขนาดนไหน”มันว่าด้วยสีหน้าโกรธแค้นและเจ็บปวด...



โกรธที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้...



เจ็บเพราะน้ำเงินต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้...



ผมเห็นท่าไม่ดีจึงออกแรงรั้งคอมันลงมา มันก็ยอมแต่โดยดี พวกเราแลกจูบกันดูดดื่ม...ยิ่งกว่าครั้งไหนๆ



เพราะพึ่งผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายมา...



ความเร่าร้อนซึ่งเกิดจากอาการผิดปกติบางอย่างคุกรุ่น ผมขยับตัวลุกขึ้นนั่งแล้วก็มองร่างสูงของคนชื่อเหมือนแสงสว่างซึ่งนั่งอยู่ขอบเตียงและมองมาด้วยแววตาเว้าวอน



“ได้ไหม”ถึงมันจะถามไม่ชัด แต่ผมก็เข้าใจ เพราะสัมผัสร้อนวาบจากฝ่ามือที่กำลังลูบไล้ผิวกายของผม...ตั้งแต่ต้นคอ ช่วงอก...ปลดกระดุมเสื้อผู้ป่วยตัวหลวม...ลากต่ำมาจนถึงท้องน้อยและสัมผัสเบาๆตรงส่วนอ่อนไหวภายใต้กางเกง...



“หึ...มึงถาม...แต่มึงไม่รอคำตอบ”



“กูตอบให้แทนมึงแล้วไง...ว่าได้...”ผมมองรอยยิ้มนั้นก่อนจะปรือตาลงแล้วก็กัดฟันเพื่อข่มเสียงซึ่งหลุดลอดออกจากริมฝีปาก   เม้มปากแน่นเชิดใบหน้าขึ้นเมื่ออีกฝ่ายดึงมือกลับแล้วหันมาใช้ลิ้นแทน...   



   มันดันให้ผมล้มตัวลงนอนแล้วก็ดึงชุดคนป่วยออกไป  ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ผมหนาวแต่หนาวได้ไม่นานก็ถูกความร้อนโหมใส่ระลอกใหญ่ ลิ้นอุ่นๆของเปลวตะวันไล่เรียงจากต้นคอแล้วก็ลงไปดูเม้มยอดอกอย่างไม่เกรงใจเจ้าของ



“อะ...มึง! ตรงหน้าไม่...อื๊อ...”ในที่สุดผมก็กลั้นเสียงครางไว้ไม่ไหว คำพูดเพื่อห้ามถูกกลืนหายไปพร้อมกับความเสียวซ่านจนอดใจไว้ไม่ไหว



       รู้ตัวอีกที่กางเกงก็หลุดลงไปกองที่ปลายเท้าเสียแล้ว...



   “เปลว...”ผมเรียกชื่อคนที่กำลังกอบกุมตรงนั้นของผมเอาไว้ด้วยใบหน้าที่ประดับรอยยิ้ม มันก้มหน้าและไปใช้มือขยับขึ้นลงและใช้ลิ้นแตะสัมผัสพร้อมหยอกเย้าด้วยโพรงปาก



“เด็กโง่ต้องโดนสั่งสอน”



“อา...โง่อะไร”



“ต้องสอนให้จำว่าคราวหลังอย่าไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้า”มันตอบช้าเพราะปากมันไม่ว่าง



เปลวละจากสิ่งที่มันกำลังทำอยู่หันไปหยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเป้ของมัน จังหวะนั้นผมรีบเอามือปิดหน้าตัวเองด้วยความอายแทนที่จะไปปิดโคมไฟหัวเตียง(?)



“ถ้าเจ็บก็บอกนะ”เปลวตะวันหันมาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน



ผมมองเจลในมือมันแบบหวั่นๆ”มึงจะหยุดรึไง”ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครมันหยุดหรอก อย่างมากก็จูบปลอบแล้วก็พูดว่าไม่เจ็บนะครับคนดีเท่านั้นแหละ...



“อืมหยุดสิ”แต่คำตอบกลับผิดคาด โดยไม่มีเวลาให้ผมตกใจร่างสูงก็ทาบทับลงมาแล้วบดเบียดริมฝีปากกันครู่ใหญ่”ก็ไม่อยากให้น้ำเงินเจ็บนี่”มันหยอกกระเซ้า



นิ้วอุ่นเรียวยาวหยอกล้อเล่นกับช่องทางที่ปิดสนิทช่วงล่างของผู้อยู่ใต้ตน ผมเผลอกำที่นอนด้วยความเกร็งแต่มันก็เลื่อนมือผมไปจับบ่ามันแทน...



“ฮ......”   เสียงหอบหายใจเบาๆหลุดรอดจากริมฝีปาก เมื่อถูกบางอย่างที่มากกว่านิ้วลุกล้ำเข้ามา



ผมจิกมือไปที่แผ่นหลังของมันอย่างแรงก่อนจะครูดไปมาเมื่อมันขยับเข้ามาลึกขึ้น”จะ เจ็บเหรอ!?”เปลวตะวันถามอย่างตกใจ ทำท่าจะผละตัวลุกผมก็เลยต้องรั้งมันเอาไว้...



“เจ็บ อือ...เจ็บแต่...ห้าม...ห้ามหยุดนะ...”ใบหน้าร้อนจนไม่รู้จะร้อนอย่างไรแล้ว เกิดมาต้องพูดคำนี้ด้วยเหรอเนี่ย...



แล้วก็หลุดร้องออกมาอีกครั้ง“อะ.....อ....” ใบหน้าเชิดขึ้นส่งเสียงครางแผ่วเบาราวกับไม่อยากให้คนด้านบนได้ยิน...คราวนี้ไม่ใช่เพราะความเจ็บ



“อื๊อ...ยังไม่สุดอีกเหรอ...”ผมถามขณะพยามปรือตาขึ้นมาคนด้านบนแล้วก็เห็นรอยยิ้มประหลาดบนใบหน้าหล่อเหลานั่น...



“ไม่ไหวแล้วเหรอครับ เพิ่งเข้ามาได้ครึ่งเดียวเองนะ”



อา...รอยยิ้มนั้นคือรอยยิ้มดีใจของคนใหญ่คนโตสินะ เมื่อรู้ว่าพลาดแล้วผมก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดปาก จากนั้นก็หลับตาปี๋รอรับความรุ่มร้อนที่ค่อยๆคืบคลานเข้ามาต่อไป...จนสุด...



“อ..อ๊ะ!!!!”แม้จะปิดปากซ่อนหน้าแดงๆเอาไว้แล้วก็ไม่อาจกักกั้นเสียงซึ่งหลุดรอดออกมาเมื่อมีการเคลื่อนกายขึ้นหลังค้างนิ่งเพื่อให้ผมปรับตัวอยู่ครู่หนึ่ง



และนั่นก็ถี่กระชั้นและรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ           



ปลายเท้าจิกลงพื้นด้วยความเสียวซ่าน  ดวงเนตรปรือหลับลงเม้มปากแน่นไม่ยอมหลุดเสียงที่น่าละอายออกมา  แต่เหมือนโดนแกล้งให้หลุดออกมาอยู่ตลอด  จนกระทั่งผมเป็นฝ่ายเคลื่อนสะโพกตามผสานไปกับจังหวะเดียวกัน 



       “ของมึงแน่นมากจนไม่อยากเชื่อเลยนะ”   ขยับเพียงนิดเดียว ผมก็หลุดเสียงครางหวานออกมาแล้ว ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนี้....ผมคลี่ยิ้มบางๆ ให้คนที่จงใจพูดเพื่อกลั่นแกล้งกัน



“อ้าวๆ...ก็ ...อา...เป็นครั้งแรกนี่ ฮ๊า...”ร่างกายสั่นไหวไปตามแรงขยับกายของอีกฝ่าย



       “รู้น่า”   เปลวสัมผัสแผ่วเบาที่ข้างแก้มให้กับผม...คนที่ยอมแต่โดยดี พร้อมขยับกายรวดเร็วขึ้นจนผู้ถูกกระทำมิอาจเอ่ยสิ่งใดได้อีก



คลื่นความปารถนารุนแรงโหมในร่างกายของคนทั้งสอง   ปล่อยร่างกายไปตามอารมณ์



“น้ำเงิน...เปลวรักน้ำเงินนะ รักมากๆเลย”



       “อะ อืม กูก็รักมึงเหมือนกัน...อ๊ะ..อ๊า!!”ผมเปล่งเสียงตอบพร้อมกับอุณหภูมิในกายซึ่งขึ้นสูง หยาดปรารถนาของพวกเราปลดปล่อยหลังจากนั้น   



แลกเปลี่ยนจุมพิตดื่มด่ำท่ามกลางความเงียบงันซึ่งได้ยินเพียงเสียงหอบหายใจ  และเสียงหัวใจซึ่งกลับเป็นจังหวะถี่ราบเรียบดังเดิม 

ออฟไลน์ MiddaySuN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
    • พระอาทิตย์กลางฤดูร้อน



บทที่ 26




ให้ตายเถอะ ผมว่าผมกำชับนักกำชับหนาแล้วนะว่าอย่าทำอะไรพวกเม่น...แต่ทว่าไอ้คุณเปลวมันไม่ฟังเลยแม้แต่น้อย...
เมื่อกี้ไอ้แชคมันเพิ่งโทรมารายงานข่าวด่วนให้ผมฟัง...ไอ้เม่นและเพื่อนพร้อมครอบครัวถูกย้ายไปต่างจังหวัดคนละทิศละทางเลยด้วย!!



พระเจ้า!!



นายน้ำเงินใช้เวลาของวันหยุดวันสุดท้ายในการเดินทางไปหาเปลวตะวันตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาโมโหขนาดนี้ถึงบ้าน...หลังทราบข่าวจากแชคเพื่อนรักผมก็รีบถามที่อยู่เปลวจากมันทันที



ท่ามกลางความงุนงงของป้าตาแม่บ้านผู้กำลังยืนกวาดบ้านอยู่ หล่อนเห็นผมแต่งตัวอย่างหล่อเดินลงมาจากชั้น2 ก็รีบวางไม้กวาดแล้วรั้งตัวผมไว้อย่างแปลกใจ”เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ”ท่าทางตกใจเหมือนเห็นผีนั่นมันอะไรครับป้า



ผมขยี้หัวแบบเซ็งๆ”ป้าครับ การที่ผมจะออกจากบ้านในวันหยุดวันสุดท้ายมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรขนาดนั้นสักหน่อย
เชอะ”



“แปลกสิลูก แปลกมากๆเลย ปกติจะต้องฝังตัวอยู่หน้าคอมแล้วก็คร่ำครวญอยากอยู่บ้านให้นานที่สุดไม่ใช่เหรอคะ”



“อืม...นั่นก็เพราะว่า...ผมเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้วยังไงล่ะ!!!”จากนั้นก็ยกนิ้วโป้งยิ้มยิงฟันโพสต์ท่าหล่อ(?)แล้วก็แจ้นออกจากบ้านไปทันที ขืนอยู่ต่อป้าแกคงซักไม่เลิก



“แท็กซี่!”ผมโบกรถที่หน้าปากซอยแล้วก็เข้าไปนั่งแบบมั่นใจไม่กลัวคนขับปฏิเสธ”ไปที่xxxxx ครับ!”พูดจบผมก็นั่งพิงเบาะ ลุงคนขับแกก็ทำหน้าเหรอหราแล้วก็ยอมออกรถไปแต่โดยดี...



ใช้เวลานานกว่าที่คิด รวมรถติดแล้วก็เป็นชั่วโมงกว่าจะมาถึงผมลอบกลืนน้ำลายมองมิเตอร์แสดงราคาค่าโดยสารแบบหวาดๆ...เข้าใจเลยว่าทำไมไอ้เปลวมันถึงติดนิสัยขึ้นแท็กซี่...ถึงจะแพงก็เถอะแต่ผมว่าขนหน้าแข้งมันไม่ร่วงกับเงินแค่นี้หรอก
ขนาดนั่งรถแท็กซี่มาทางลัดยังใช้เวลาขนาดนี้ถ้านั่งรถเมล์ล่ะจะขนาดไหน...



“นี่ครับ”ผมยื่นเงินให้ลุงแกก่อนทำท่าจะลงจากรถไป



“เดี๋ยว!”แต่ก็ถูกเรียกไว้ก่อน



“เอ็งรู้จักคนที่นี่ด้วยเหรอ”คำถามของลุงทำเอาผมขมวดคิ้วมุ่นแต่ก็พยักหน้าแล้วก็ก้าวลงจากรถไปแบบไม่คิดอะไร...แต่ทันทีที่ผมก้าวขาลงจากรถและเห็นภาพ’บ้าน’ตรงหน้าชัดๆผมก็แทบจะปิดประตูกลับเข้าไปใหม่แล้วก็ถามลุงแกว่าพามาถูกที่แล้วจริงหรือด้วยความตกใจ...



“บะ...บ้าน?”



ตรงหน้าผมคือคฤหาสน์ จากจุดที่ยืนอยู่ทำให้ถูกรั้วสีขาวทองลวดลายสวยงามตระกาลตาบดบังสวนด้านใน...แต่ถ้าเป็นตัวคฤหาสน์สูงเด่นเป็นสง่าล่ะก็เห็นนะ...เห็นชัดจนไม่กล้าไปกดออดเพราะกลัวมาผิดบ้านแล้วจะโดนยามหน้าเข้มซึ่งยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูจวกเอา...



“มาหาใครครับ”



สุภาพกว่าหน้าตา...ผู้รักษาความปลอดภัยเดินออกมาจากป้อมหน้าประตูและสอบถามผมอย่างเป็นมิตร



“เอ่อ มาหาเปลวครับ...”



“โอ้ว! เพื่อนคุณเปลวเหรอครับ เชิญเลยครับเชิญเลย”ว่าจบแกก็วิ่งเหยาะๆไปกดเปิดประตูให้



“...”



“...”



“เข้าไปได้เลยครับ ผมติดต่อแม่บ้านข้างในให้แล้วครับ”



ผมพยักหน้ารับคำแล้วก็ก้าวขาสั่นๆเดินเข้าไปในตัวบ้าน...ไอ้เวรแชค ไอ้เลว...มึงไม่บอกกูว่ากูจะมาเจอกับอะไร...มึงจำไว้เลยนะ!!



ผมเดินตัวแข็งทื่อราวกับหุ่นยนต์ผ่านน้ำพุตรงกลางสวนไปก่อนจะเห็นว่ามีแม่บ้านสองคนเปิดประตูบ้านออกมาแล้วก็ก้มหัวแสดงความเคารพผมเล็กน้อย”ห๊ะ! เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ครับ!!”เดือดร้อนเด็กสุภาพต้องโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน


“เชิญเข้ามานั่งด้านในก่อนค่ะ ไม่ทราบว่าคุณอะไรคะ เดี๋ยวดิฉันจะได้รายงานคุณเปลวถูก”



“อ่า...น้ำเงินครับ”



พูดเหมือนคนติดอ่าง ผมเงยหน้ามองเพดานซึ่งสูงพอจะติดโคมแชนเดอร์เรียคริสตัลขนาดใหญ่เป็นเมตรได้แบบหวาดๆว่ามันจะร่วงใส่หัวก่อนจะถูกพาไปนั่งที่โซฟาห้องรับรองแขก...



“วันนี้พวกคุณท่านไม่อยู่มีคุณเปลวอยู่บ้านแค่คนเดียว...เชิญตามสบายนะคะ”เธอกล่าวก่อนจะเดินหายลับเข้าไปที่ไหนสักแห่ง...สงสัยจะเดินไปตามเปลว...ผมคิดในจังหวะเดียวกับถ้วยชาพร้อมแก้วใส่น้ำตาลถูกวางลงตรงหน้า แม่บ้านอีกคนนำเครื่องดื่มมาเสริฟแล้วก็เดินค้อมหัวจากไปแบบเงียบๆ



เว่อร์วังมาก!!!



เกิดมาผมไม่คิดว่าจะได้ใช้คำนี่ในสถานการณ์ที่เหมาะกับมันขนาดนี้เลย



บ้านมันทำมาหากินอะไรกันแน่!!?



“คุณเปลวเพิ่งตื่น เขาบอกให้คุณรอสักครู่เขากำลังรีบอาบน้ำครับ”ยังไม่ทันได้สำรวจบ้าน’เพื่อน’แล้วเสร็จก็มีเสียงคนทักขัดจังหวะเสียก่อน ผมรีบหันขวับไปตามเสียงแล้วก็พบเข้ากับชายชราเส้นผมสีขาวถูกเสยเรียบร้อยในชุดเครื่องแบบที่ทำให้แขกรู้ว่าเป็นพ่อบ้าน



“อ่า...ครับ”



“เชิญขึ้นไปรอที่ห้องของคุณเปลวก่อนสิครับ”ชายแก่กล่าวก่อนเดินนำไปทำให้ผมต้องลุกตามอย่างว่างาย



“ปกติแล้วคนที่มาหาคุณเปลวก็มีแค่คุณฟงเท่านั้นแหละครับ พอคุณมาพวกเด็กๆก็เลยตื่นเต้นกันใหญ่”



ว่าสิ..ตั้งแต่เข้ามาก็รู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา...



“ที่นี่ครับ ถ้าต้องการอะไรก็เรียกได้นะครับ”คุณพ่อบ้านคนนั้นกล่าวลา



“ขอบคุณครับ”ผมรีบยกมือยกไม้ขอบคุณแกก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในด้าน...ห้องนอนของเปลวตะวัน...พระเอกที่เพิ่งมาเปิดเผยฐานะทางบ้านตอนจบเรื่อง



“ห้องนอนมันใหญ่พอๆกับห้องเรียนเลย”เดินเข้าไปก้มๆเงยๆรอบห้อง ทั้งเปิดเครื่องเสียงข้างโทรทัศน์คลอเพลงสากลคลาสสิคไปพลางถือวิสาสะขึ้นไปกลิ้งบนเตียงคิงไซส์สี่เสาสบายใจ



ซ่า...



ทันใดนั้นเองเสียงปริศนาก็ดังเรียกสายตามาจากบานประตูบานเล็กๆข้างทางเข้าห้อง...ผมขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ...



อย่าบอกนะว่าบ้านนี้สร้างห้องน้ำส่วนตัวในห้องนอนลูกทุกคน



นึกถึงข้อมูลที่แชคเคยบอก...เห็นว่าครอบครัวเปลวประกอบไปด้วยคุณปู่ คุณพ่อ คุณแม่ คุณพี่ชายคนโต คุณพี่สาวคนรองและคุณพี่ชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกคนก่อนหน้ามัน...



ครอบครัวใหญ่มากและทุกคนก็ทำงานทั้งหมดทำให้ช่วงกลางวันแบบนี้ไม่มีคนอยู่สินะ...



“ไม่คิดเลยนะว่าจะกล้าขึ้นมาจริงๆ ติดใจเมื่อคืนนั้นสินะ...”คำพูดถากถางทำให้ผมต้องกระเด้งตัวขึ้นมามองหมายจะตอบโต้เสียหน่อย...แต่กลับเป็นฝ่ายนิ่งเสียเอง...



เปลวตะวันในสภาพผ้าขนหนูเพียงผืนเดียวปกปิดร่างกายเผยให้เห็นแผ่นอกแกร่งและหยดน้ำที่ไหลเอื่อยผ่านกล้ามท้อง! มือใหญ่วางผ้าขนหนูผืนเล็กบนศีรษะก่อนจะขยี้พอหมาด การกระทำดูเป็นธรรมชาติแต่รอยยิ้มกรุ้มกริ่มมุมปากน้ำเอาคนเห็นลอบกลืนน้ำลายหวาดๆ



แทนที่จะไปหยิบเสื้อกลับทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง



“มาหาทำไม คิดถึงเหรอ...หืม?”



กลิ่นหอมจากแชมพูและอะไรต่อมิอะไรทำให้น้ำเงินเมามาย



ร่างสูงไม่ปล่อยให้เสียโอกาส เขาเคลื่อนตัวเบียดประชิดคนที่ยังรวบรวมสติไม่ได้ทันที



ผมรับหันหน้าไปทางอื่นเพื่อนซ่อนความเขินและตอบเสียงอู้อี้ไปว่า”ก็กูบอกแล้วว่าอย่าไปเอาเรื่องเม่น...”



“แต่ที่น้ำเงินทำอย่างนั้นไม่ใช่เพราะสงสารแต่เป็นเพราะไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิดไม่ใช่หรือไง...”ว่าพลางตวัดแขนพาด
ไหล่”เปลวก็จัดการให้เรื่องจบบริบูรณ์แล้วนี่ ไม่ดีเหรอ?”



กระซิบข้างหู!!



ไอ้เลวเปลวมันกระซิบข้างหูทำเอาคนถูกแกล้งตั้งแต่หัววันอย่างผมขนลุกซู่!



“วะ...ว่าแต่มึงแน่ใจได้ยังไง...ว่าเรื่องจะจบ บ้านมึงทำอะไรกันแน่!!?”



“อ้าว...นี่ยังไม่เคยบอกเหรอ?”



“ก็ยังนะเซ่!!”



“หึหึ มิน่าล่ะถึงกล้ามาถึงนี่ ฮ่ะๆๆๆ”ดูมันหัวเราะเยาะ



“ก็เป็นข้าราชการเก่าแก่เลยพอมีอำนาจอยู่บ้าง รู้เท่านี้ก็พอ...ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่าให้ทำอยู่ไม่ใช่หรือไง?”



“ทะ...ทำอะไรน่ะ”ผมแหวประโยคโง่เง่าเต่าตุ่นออกมา เมื่อถูกจับกดลงกับเตียงและถูกขึ้นคร่อม



“ก็เห็นจ้องมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วไม่ใช่หรือไง หึหึ”รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นของเปลวตะวันถูกแทนที่ด้วยการแสยะยิ้มร้าย นัยน์ตาพราวระยับเมื่อได้ของถูกใจมาไว้ในมือ ด้วยความอายจนไม่กล้าสู้หน้าผมจึงหลุบตาลงต่ำและ...ก็พบว่าเจ้าผ้าขนหนูผืนน้อยกำลังจะหลุดแหล่มิหลุดแหล่จากเอวแกร่ง



“อา...น้ำเงิน...ยั่วกันสินะ”เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูก่อนจะซุกไซ้ตรงซอกคอ



“ไม่ได้ยั่วนะ!!”



“ไม่เชื่อ...”ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว ทำไมผมต้องมาแพ้ให้สีหน้าลำพองใจของคนด้านบนนี้ตลอดเลยล่ะ...น่าหมั่นไส้จะตาย
มือแกร่งคว้าข้อมือของผมเอาไว้ทั้งสองข้างแล้วก็รวบไว้ด้วยมือข้างเดียวเหนือหัว...



“เสียงหัวใจมึง มันดังจนกูได้ยินแล้วน”พูดจาแบบนี้...  ก็ตายสิรออะไร...ผมจิ๊ปากแสร้งทำเป็นไม่พอใจกับคำพูดของมันแต่
ร่างกายกลับไม่ต่อต้านการคุกคาม...เสื้อตัวเก่งที่อุตส่าห์ซักรีดแต่เช้าถูกถอดปลิวตกอยู่ข้างเตียงตามมาด้วยกางเกง...



ผมคงถูกสะกดให้หลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้นจากเจ้าของลิ้นร้อนๆซึ่งกำลังลากเลียปะป่ายไปทั่วร่างนี้สินะ...


มันร้อน...ร้อนจนพร่าเรือนไปหมด...


มือใหญ่ปาดป้ายมอบสัมผัสไปทั่วร่างของผม  ริมฝีปากคลอเคลียแลกเปลี่ยนความหอมหวานไม่ยอมห่างกัน...


.


.



เสียงเครื่องยนต์ maseratiดังแว่วเขาหูเปลวตะวันค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นนั่ง เขาขยี้ผมสองสามครั้ง ความเมื่อยล้าจากกิจกรรมบางอย่างทำให้เขาไม่อยากลุกไปไหน...



...เสียงรถของพี่ฟ้าสินะ...



เพราะอาทิตย์นี้ไม่มีใครอยู่บ้านนอกจากเขาแลพี่ชายคนรองอีกแล้ว..



เปลวตะวันเลิกให้ความสนใจ เขาล้มตัวลงนอนอีกครั้งและรวบร่างโปร่งข้างกายเข้ามาในวงแขนเจ้าของเรือนผมสีดำขลับผู้อุตส่าห์มาหาถึงบ้านหลับไหลเพราะความเหนื่อย...กระชับผ้าห่มผืนหนาให้ห่อหุ้มร่างกายเปลือยเปล่าเอาไว้



“เดี๋ยวตื่นแล้วพาไปหาพี่ฟ้าดีกว่า...”ลูบเรือนผมนุ่มนั่นอย่างอ่อนโยน... พลางคิดใบหน้ายามล่วงรู้ความลับของพี่ชาย...   



พี่ฟ้าอย่างมากก็แค่ตกใจ...เขาเกิดมาในครอบครัวเก่าแก่แต่ก็ทันสมัย(?)ไม่มีใครกีดกันหรอก



”ก็เปลวรักน้ำเงินขนาดนี้ ใครจะมาห้ามได้ล่ะเนอะ”  โน้มก้มใบหน้าลงแนบสัมผัสริมฝีปากลงบนหน้าผากเนียนขาว...   



จะปกป้องดูแลตลอดไป



จะมอบความรักให้เพียงคนเดียว




ออฟไลน์ w-for-winnie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ตอนต่อไปจะมีดราม่ามั้ยเนี่ยยยยยย

 :hao7: :hao7: :hao7:

บ้านเปลวจะรับได้จริงๆหรอออออ หวังว่าเปลวคงไม่ได้คิดไปเองคนเดียวว่าที่บ้านจะโอเคนะ

ออฟไลน์ kkmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อิอิ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Aimiya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น้ำเงินนนนน ทำไมหนูมาให้เค้างาบถึงที่เลยล่ะะะ แหมมมม เปลวนี่ก็ไม่ได้ให้น้ำเงินได้ตั้งตัวเลยทีเดียว รวบหัวรวบหางเสร็จ เอิ้กๆ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2401
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
อ่านถึงบทที่ 4 ขอจีบน้ำเงินเหรอเปลวตะวัน น่าร๊อกอ่ะ

ออฟไลน์ TrafalgarLAW

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1

ออฟไลน์ MiddaySuN

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
    • พระอาทิตย์กลางฤดูร้อน




บทส่งท้าย




เอาล่ะครับ...จากนี้ไปคือปัญหาใหม่ของผมซึ่งนั่งอยู่ภายในห้องอาหารของบ้านไอ้เปลว นายน้ำเงินผู้เมื่อยล้าไปทั้งกายและใจกำลังนั่งฉีกยิ้มแห้งเหือดส่งไปให้ร่างโปร่งตรงหน้าในขณะที่เปลวตะวันขอตัวไปรดน้ำต้นไม้ในสวน...



เลวมากมึง ใช้คนสวนรดให้ก็ได้ไหม ทำไมต้องโดดออกไปตอนสำคัญแบบนี้ด้วย



คนที่อยู่ตรงหน้าของผมก็คือพี่ชายของไอ้เปลว...พี่ฟ้าซึ่งเห็นหน้าแวบแรกผมคิดว่าเขาเป็นผู้หญิง



ทั้งผิวพรรณขาวละเอียด ร่างกายบอบบางและส่วนสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบต้นๆ นัยน์ตากลมใสสีเดียวกับท้องฟ้ายามราตรีกำลังจับจ้องมายังผมซึ่งนั่งประสานมือไว้บนตักตัวลีบเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ตรงข้ามพี่แก



“ขออนุญาตค่ะ”แม่บ้านนำเค้กกับน้ำชามาเสริฟช่วยลดทอนความตึงเครียดให้ผมได้หน่อยหนึ่ง



แต่ก็นะ ขอชมอีกทีเถอะ...สวยมาก สวยจนไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายและเป็นพี่ชายของเปลวได้เลย...



“ระหว่างชอกโกแลตกับสตรอเบอรี่ชอบกินอะไรมากกว่ากันเหรอ?”



หะ...คำถามของคนตรงหน้าหมายความว่ายังไงกัน!?...เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าถ้าอยากพิสูจน์เกย์เขาจะถามว่าชอบองุ่นหรือแตงโมมากกว่ากันซึ่งผมที่อ่านผ่านๆก็จำไม่ได้ว่าเฉลยคืออะไร หรือนี่จะเป็นหนึ่งในวิธีลองเชิงของพี่เขย!!!!?



ว่าแต่เราก็เป็นเกย์ไปแล้วจะนั่งเหนียมไปทำไม



“อ่า...สะ สตรอเบอรี่ครับ...”ผมไม่ชอบกินหวานจัดก็เลยไม่ชอบช็อกโกแลต ไม่ใช่ว่าชอบตอแหลนะครับคุณพี่”แต่ที่ชอบที่สุดจริงๆคือบลูเบอรี่ครับ”



“เหรอ เหมือนกันเลย พี่ก็ชอบลูเบอรี่ที่สุด พวกเราน่าจะเข้ากันได้ดีนะว่าไหม”



“ครับ!!”



“คิกๆ ไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้น่า ว่าแต่คบกันมานานหรือยัง ในบ้านนี้พี่สนิทกับเปลวที่สุดเขาก็เลยพูดถึงเราให้ฟังบ่อยๆ แต่ไม่ได้บอกสถานะ”พี่ฟ้าเว้นจังหวะ มือเรียวยกแก้วชาขึ้นมาจิบ ตอนนี้ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มมืดสลัวแล้ว แถมโดนสายตาคมกริบจ้องทะลวงร่างขนาดนี้ผมว่าผมพรุนแน่



“อ่า...ครับ ก็สนิทกันพอสมควร”



“สนิทกันขนาดไหนเหรอ?”



ผมว่าพี่ชายคนนี้คงระแคะระคายเรื่องของเราพอสมควร ตอนที่เปลวจูงมือผมลงบันไดมาหาพี่แกที่ห้องนั่งเล่นแกก็ถามออกมาทันทีว่า...น้ำเงินใช่ไหม....ด้วยสีหน้าแววตายิ้มแย้ม ไม่ได้ตกใจที่น้องชายเดินจูงเพื่อนผู้ชายในบ้านแม้แต่น้อย



เอาอย่างไรดีล่ะทีนี้...คำถามเรื่องบลูเบอรี่เมื่อกี้อาจจะถามเล่นๆแบบชวนคุย แต่คำถามนี้ใช้ลองใจของจริง



เปลวไม่เคยบอกว่าเราเป็นอะไรกัน แต่ก็เล่าเรื่องของผมให้พี่ฟ้าฟังเป็นการบอกโดยนัย



ถ้าบอกว่าสนิทกันแบบเพื่อนพี่เขาจะไม่ประทับใจ...



แต่ถ้าบอกว่าอ๋อ เราเป็นแฟนกันครับ...ก็เกรงว่าจะไร้ยางอายเกินไป ผู้ดีอาจจะรับไม่ได้



ทำไงดี...!!!!?



“หืม ว่าไง สนิทกันขนาดไหนเหรอ?”ชายหนุ่มตรงหน้าเอียงคอถาม จังหวะเดียวกับเปลวตะวันเปิดประตูเข้ามาในห้อง



“อ้าว...ยังคุยกันไม่เสร็จอีกเหรอ?”มันทักขึ้นทันทีที่เห็นใบหน้าถอดสีของผมและสีหน้ามีเลศนัยน์ของพี่ฟ้า



ชัดเลย เมื่อกี้นี้มันจงใจปล่อยผมไว้แล้วก็เดินออกไป



“เปลวมึง...”



“เปลว ในห้องเก็บไวน์มีไวน์ปี 1957อยู่ขวดหนึ่งไปเอามาให้พี่ทีสิ”



จะแว๊กกกก...คุณพี่ครับ นี่มันคือการไล่ต้อน!! คำถามของคุณพี่เล็กน้อยมาก แต่แรงกดดันของคุณพี่จะทับผมแบนแล้วนะครับ จิตสังหารน่ะ ช่วยลดลงหน่อยได้ไหม!?



“ยี่ห้ออะไรล่ะครับ ในคลังเรามีไวน์เป็นร้อยๆขวดเลยนะ”เปลวหันมาสบตากับผมอย่างชั่งใจ ผมเลยรีบส่งสายตาขอความช่วยเหลือออกไป...มึงไปกูงอน โอเค๊!?



“เปลว...พี่ฟ้าของเราเป็นคนใจร้ายเหรอไง? รีบไปได้แล้ว”และแล้วพี่ฟ้ากับรอยยิ้มหวานละไมก็เป็นฝ่ายชนะ ในห้องอาหารกว้างขวางเหลือเพียงเราสองคนอีกครั้ง



“คำตอบล่ะน้ำเงิน”



คนถูกถามหลุบตามองพื้นด้วยความประหม่า รู้สึกน่ากลัวยิ่งกว่าโดนสุชาติเรียกไปพบอีก แต่ก่อนลงมาไอ้เปลวมันบอกว่าพี่ฟ้าเป็นคนใจดีและเข้าถึงง่ายที่สุดในบ้านแล้ว



เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ถ้าสิ่งที่ผมกำลังเผชิญอยู่น่าเป็นห่วงจริงๆมันคงไม่หันหลังเดินออกไปง่ายดายขนาดนี้หรอก



ผมสูดหายใจลึกก่อนจะตอบคำถามตามที่อีกฝ่ายต้องการออกไปด้วยสีหน้านิ่งสงบ...เพราะคำตอบนี้จะแสดงความลังเลออกไปไม่ได้เด็ดขาด



“สนิทกันขนาดคบเป็นแฟนครับ”



กลั้นใจตอบออกไปก่อนใจที่เย็นชืดจะถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกอื่น รอยยิ้มอบอุ่นบนใบหน้าหวานละไมของพี่ฟ้าทำให้ความตื่นเต้นทั้งหมดของผมสงบลงอีกฝ่ายเอื้อมมือมาวางไว้บนโต๊ะตรงหน้าผม ผมจึงเอามือของตัวเองวางทาบทับลงไปอย่างรู้หน้าที่ของตัวเอง



มือของพี่ฟ้านิ่มจัง...ผู้ชายบ้านนี้ยิ้มแล้วโลกสว่างขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย



“น้ำเงินน่ารักจัง พี่ชักชอบแล้วสิ สนใจมาเล่นชู้กับพี่ไหม...อ๊ะ แต่เราอยู่ตำแหน่งเดียวกันนี่นะ ฮ่ะๆๆ”



“ห๊ะ...”ถึงจะเสียมารยาทก็เถอะแต่พอได้ยินคำพูดของพี่แกแล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะหลุดร้องออกมา พี่ฟ้าหัวเราะร่วนเมื่อเห็นสีหน้าเงิบเบาๆของผม



ร่างโปร่งเดินย้ายมานั่งข้างผมแล้วก็สวมกอดหลวมๆ กลิ่นหอมจากตัวของอีกฝ่ายทำเอาผมเคลิบเคลิ้มเผลอเอื้อมมือสวมกอดกลับ



“พี่ชื่อฟ้าจากคำว่าท้องฟ้าก็จริง แต่เพื่อน้องชายที่น่ารักคนนี้พี่จะเปลี่ยนเป็นฟ้าจากสีฟ้าแล้วกันเนอะ”เสียงหวานกระซิบข้างใบหูเล่นเอาผมขนลุก รู้สึกหวิวๆในช่องท้อง



พี่แกเล่นหวานยิ่งกว่าเค้กที่กินเมื่อกี้ขนาดนี้ ถึงผมจะไม่ชอบหวานจัดแต่นานๆก็อยากชิม



พี่ครับ ผมสนใจข้อเสนอเล่นชู้ตอนนี้ทันไหม...เดี๋ยวผมเป็นฝ่ายเปลี่ยนตำแหน่งให้...



“เห้ๆ ทำอะไรกันอยู่น่ะ อย่าบอกนะว่าเล่นชู้?”



ทันใดนั้นเองเสียงมารที่ถูกสั่งให้ไปหาไวน์ก็ดังแทรกบรรยากาศละมุนละไมเข้ามา พี่ฟ้าถอนตัวออกจากผมอย่างอ้อยอิ่งสีหน้าแสนเสียดาย ส่วนผมหันไปยิ้มแห้งๆให้มันซึ่งมองพวกเราแบบงงๆ



คงไม่คิดหรอกว่าไอ้ที่มันแซวเล่นเมื่อกี้ผมจะแอบคิดจริง...อย่าไปบอกมันนะครับ!!



“กำลังกอดน้องสะใภ้”พี่ฟ้าเอาแขนมาคล้องรอบคอผมอย่างแสดงความเป็นเจ้าของซึ่งคนถูกเรียกว่าลูกสะใภ้ก็น้อมรับแต่โดยดีไม่มีการปฏิเสธเก้อเขิน นั่นทำให้เปลวที่พลาดช่วงสำคัญไปถึงกับงง



มันเดินมาหาผม วางขวดไวน์ปี 1957สามขวดลงบนโต๊ะแล้วก็เข้ามาดันตัวพี่ชายออกไป มันทั้งดึงทั้งผลักอยู่นานก็กำจัดพี่ฟ้ามือปลิงออกไปไม่ได้สักที ถ้าใช้ตีนยันได้มันคงทำไปแล้ว



“เชอะ”ในที่สุดพี่ฟ้าก็ยอมแพ้ เลิกแกล้งน้องตัวเองแล้วก็เดินกลับที่ไป



“สนิทกันได้ไงวะ เมื่อกี้ยังเห็นนั่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มอยู่เลย”เปลวกระซิบถามอย่างค้างคาใจ



“ก็ไม่ทำไม พี่ชายคนนี้ใจดีแล้วก็เข้าถึงง่ายที่สุดในบ้านแล้วไม่ใช่หรือไง หึหึ”ผมตอบกลับแบบกวนประสาต คนโดนย้อนขมวดคิ้วไม่พอใจแต่ผมก็ไม่สนใจหันไปจัดการเค้กที่เหลืออยู่เกินครึ่งชิ้นต่อ



ขณะที่กำลังกินของหวานในเวลาอาหารเย็นอยู่นั้นเองพี่ฟ้าก็แทรกขึ้นมาว่า”คืนนี้จะค้างที่นี่ไหม”



“อะ ไม่ล่ะครับ พรุ่งนี้ก็เปิดเทอมแล้ว กลับบ้านดีกว่า”



“แต่คืนนี้พ่อแม่แล้วก็พี่อีกสองคนไม่กลับบ้านนะ”ข่าวใหม่บวกกับการคะยั้นคะยอของอีกฝ่ายเริ่มทำให้ผมเขว แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ



“ผมว่าไว้มาใหม่วันหลังดีกว่าครับ”ผมปฏิเสธแบบสุภาพครั้งแรกในชีวิต โหย...มีมารยาทมากอ่ะ สมแล้วที่หม่อมแม่อบรมมาดี(?)



“เหรอน่าเสียดายจัง แล้วจะอยู่ทานข้าวเย็นก่อนไหม ถ้ารีบเดี๋ยวให้เขาอามาเสริฟให้ตอนนี้เลยก็ได้นะ”



“เอ้อ...”เอาแล้วไงครับน้ำเงินคนมารยาทงามอยากกลับไปกินข้าวบ้านแล้วแต่จะปฏิเสธพี่เขาบ่อยๆก็ดูไม่ดี ทำไงดีวะ...ทางออกของผมคือหันขวับไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ



“หิวแล้วเหรอ เพิ่งกินเค้กไปไม่ใช่เหรอไง”แล้วมันก็รู้งาน คำถามที่มันส่งมาเรียกรอยยิ้มพอใจบนใบหน้าของผม



“ยังอิ่มอยู่เลย เอาไว้กลับไปกินบ้านดีกว่าเนอะ”



“งั้นจะกลับเลยใช่ไหม เดียวให้คนขับรถไปส่ง เปลวก็นั่งไปด้วยกันสิ นี่อ่ะ พี่ฝากไวน์สองขวดนี่ไปสวัสดีพ่อแม่เราด้วยนะ”มือเรียวหยิบยกเอาขวดไวน์ซึ่งใช้ให้เปลวไปหาส่งมาให้ผมสองขวด ส่วนอีกขวดสงสัยเก็บไว้กินเอง



ก่อนจะมีมือที่สาม(?)ยื่นมารับขวดไวน์ไปถือไว้เอง ผมเหลือบตามองเปลวตะวันซึ่งไม่พูดไม่จาอะไร มันสบตากับพี่ชายของมันซึ่ง
ยืนมอบยิ้มละไมกลับไปให้ เหมือนกำลังสื่อสารบางอย่างด้วยสายตากันอยู่และในที่สุดก็ละสายตาจากกันแล้วร่างสูงก็หันมาบอกให้ผมเดินตามเขาไปที่รถ



.



.



“ส่งไวน์มาสิเดี๋ยวกูเอาไปให้แม่เอง”ผมกล่าวหลังจากนั่งรถมาสักพัก ดูแล้วอีกไม่นานก็จะถึงบ้านของผม ที่เบาะหลังของรถยุโรปผมกับลูกชายเจ้าของรถนั่งสบตากันด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดูเหมือนว่าเปลวกำลังคิดอะไรอยู่เลยไม่ตอบอะไรกลับมา สีหน้าของมันติดจะจริงจังจนคนมองไม่กล้าทักอะไร



“เดี๋ยวกูเอาไปให้เอง”มันตอบกลับมา



เล่นเอาผมแปลกใจไม่น้อย งั้นก็แสดงว่ามันจะลงไปทักทายพ่อกับแม่น่ะสิ...เห้ยๆ ในฐานะอะไรวะ อยู่ๆก็เอาไวน์โคตรแพงมาให้ชาวบ้านเขาตอนค่ำมืดแบบนี้



“อย่าบอกนะว่ามึง!”คนที่เพิ่งเข้าใจความหมายที่สองพี่น้องสื่อสารกันทางสายตาอย่างผมอ้าปากค้างอย่างตื่นตะลึง มองคนข้างกายที่มีอาการเกร็งไม่น้อยเหมือนกันอย่างไม่อยากจะนึกถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้



“ครอบครัวกูรับรู้แล้ว ครอบครัวมึงก็ควรจะรู้เช่นกัน”



“!!!”



เหมือนพระเจ้าจะไม่ต้องการเวลาให้ผมปฏิเสธเมื่อผ่านไปแค่อึดใจรถก็แล่นเข้ามาในหมู่บ้านของผมแล้ว เปลวเปิดประตูรถลงไปก่อน ตอนนี้เวลาเกือบๆสองทุ่ม ไฟในบ้านยังเปิดอยู่แต่รถของพ่อไม่ได้จอดอยู่ในโรงรถ



“เห พ่อยังไม่กลับเหรอ”ผมเอียงคออย่างสงสัย แต่นี่ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ ที่สำคัญก็คือไอ้คุณเปลวที่เดินลิ่วไปเอาโซ่คล้องรั้วออกแล้วก็ผลักประตูเข้าไป เอาที่มึงสบายใจเลย คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองเลย เหอะๆ



“สวัสดีครับ ผมพาน้ำเงินมาส่งครับคุณแม่”



นอกจากมันจะคิดว่าเป็นบ้านของตัวเองแล้วยังฝากฝังตัวเป็นลูกชายของแม่ผมเรียบร้อยแล้ว แต่พอพวกเราถอดรองเท้าแล้วก็เดินเข้ามาในบ้านกลับไม่มีวี่แววว่าจะมีใครเดินออกมาดูสักคน



“แม่!?”ผมลองตะโกนเรียกแม่ดูอีกครั้งหนึ่งก่อนร่างเล้กจิ๋วของน้องสาวผู้น่ารักจะเดินลงมาจากชั้นสอง



“พี่น้ำเงินคะ...”ดวงตากลมใสของเด็กน้อยเต็มตื้นไปด้วยหยาดน้ำตา น้ำตาลวิ่งเข้ามาหาพวกเราด้วยความดีใจ ดูท่าเธอจะอยู่คนเดียวแล้วก็รู้สึกกลัวเลยเปิดไฟเอาไว้ทั่วบ้านขนาดนี้



เด็กหญิงผู้กำลังหวาดหวั่นจนตัวสั่นโผเข้ากอดร่างสูงอันเป็นที่พึ่งทางใจ น้องสาวของผม...วิ่งเข้าไปกอดไอ้เปลวแน่นแล้วก็ปล่อยโฮออกมาแบบไม่ใยดีพี่ชายตัวเอง



เอิ่มคือ...



“โอ๋ๆ น้ำตาล เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”เปลวเอามือลูบหัวทุยๆของน้ำตาลซึ่งร้องงอแงไม่ยอมหยุด



“วันนี้คุณพ่อไม่กลับบ้าน...น้ำตาลอยู่กับแม่สองคน แล้วก็...คุณแม่ก็...ฮือออ ทำกับข้าวให้น้ำตาลอยู่ดีๆก็ล้มพับลงไป พี่เปลวคะ คุณแม่จะเป็นอะไรมั้ยคะ”เธอถามขณะเกาะบ่าเปลวแน่น มันหันมามองหน้าผมอย่างขอคำปรึกษาก่อนจะอุ้มน้องสาวผมขึ้นมาแล้ก็ถามว่า



“ตอนนี้คุณแม่อยู่ไหนครับ?”



เออ...มองหน้าถามกูแต่ไม่รอคำตอบ เมินกันเข้าไป ทั้งสองคนเลย ชิส์



ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นตามที่น้ำตาลบอก ผมช็อคมากตอนเห็นแม่นอนแผ่อยู่บนพื้นสภาพเสื้อผ้ายับเยิน



“แม่ครับ!! แม่!!”ผมรีบปราดเข้าไปดูอาการของกร่อนด้วยสีหน้ากังวล



“อืม...อ้าว น้ำเงินเหรอลูก เอ๋ แม่มานอนอยู่ตรงนี้ได้ยังไงเนี่ย อืม...อ้าว เปลวก็อยู่ด้วยเหรอลูก แล้วน้ำตาลร้องไห้เป็นอะไรเหรอคะ”น้ำเสียงอ่อนโยนและท่าทางเหมือนคนเพิ่งตื่นนอนมากกว่าคนเพิ่งฟื้นไข้นั่นทำให้คนมองรู้สึกโล่งใจ



“คุณแม่เป็นลมไป น้ำตาลคงพาคุณมาที่นี่ พวกเรากลับมาพอดีตอนที่คุณตื่นครับ”ลูกเขย(?)ช่วยอธิบาย แม่ของผมก็พยักหน้าตามอย่างไม่เอะใจคำที่มันใช้เรียกแม้แต่น้อย



“เหรอ ขอบคุณนะจ๊ะเปลว ขอบคุณน้ำตาลด้วยนะ”เปลวปล่อยน้ำตาลเป็นอิสระ เด็กน้อยวิ่งเข้ามากอดแม่แน่น
แล้วทำไมถึงไม่ขอบคุณผมด้วยล่ะ...เชอะๆๆๆ



“ตายล่ะ ข้าวเย็นไหม้หมดแล้วแน่เลย เดี๋ยวแม่ไปดูก่อนนะ ฝากน้ำตาลด้วยนะเปลว”แม่ส่งน้องสาวให้เปลวซึ่งน้อมรับไปอุ้มไว้ด้วยความยินดีมันยื่นน้องสาวส่งคืนมาให้ผมที่ยืนหน้ามุ่ยเหมือนเป็นคนนอกอยู่ด้วยรอยยิ้มแพรวพราว



“ฝากน้องเดี๋ยวเดียว ไปเอาขวดไวน์ที่วางไว้หน้าบันไดก่อนนะ”



ให้ตายเถอะ...แล้วมันก็เดินหายลับไป ผมเลยอุ้มน้องเดินมานั่งที่โซฟา



“พี่น้ำเงินคะ”



“หืม?”



“ทำไมพี่เปลวมาบ้านเราบ่อยจังคะ เพื่อนคนอื่นๆของพี่มากันแค่ครั้งเดียวเอง”



จึก!!(เสียงโดนแทงใจดำ)



น้องบ้า เด็กรู้มาก เด็กบ้า!!! ผมกระพริบตาถี่ๆจ้องตาน้องสาวช่างสงสัย งานเข้ากูอีกแล้วไง!!



“อย่าถามพี่เขาแบบนั้นสิคะน้ำตาล”ฉับพลันเสียงของแม่ที่ควรอยู่ในครัวก็ดังขึ้น จังหวะเดียวกับเปลวที่ถือไวน์เดินกลับเข้าไปในห้องพอดี



“เรื่องแบบนี้ต้องรอให้พี่เขาเป็นคนบอกเองนะจ๊ะ”



“เอ๋..!?”



“แต่ว่าน้ำตาลอยากรู้นี่คะ”



“ไม่ได้จะไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไปรู้ไหม”แม่ย่อตัวลงไปลูบหัวน้องอย่างอ่อนโยน



“แต่...ครั้งที่แล้วที่พี่เปลวมาค้าง พี่เค้าเข้าห้องน้ำไปทำอะไรกันก็ไม่รู้สองคนตั้งนานนี่คะ ตอนแรกน้ำตาลก็ยืนรอจะได้เข้านอนพร้อมกันแต่รอเท่าไหร่ก็ไม่มีใครออกมา พอไปแอบฟังก็ได้ยิน....”



“ว๊ากกกกกกกกก!!!”



เดี๋ยวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



ตอนนั้นจำได้ว่าผมส่งน้ำตาลเข้าห้องเรียบร้อยแล้วนี่ แล้วทำไมล่ะ ทำไมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



นายน้ำเงินตอนนี้สติแตกหน้าแดงแจ๋ยกมือยกไม้ปัดป่าย เดือดร้อนคนเป็นแม่ที่ลอบมองด้วยสายตาเอ็นดูปนขำขันต้องช่วย
เปลี่ยนเรื่องให้



“ดูเหมือนแม่จะปิดแก๊สก่อนจะเป็นลมไปนะจ๊ะ เอาล่ะ เด็กๆมากินข้าวกันได้แล้ว เปลวด้วยนะลูก”หล่อนยังคงยิ้มแย้มเหมือนเดิมแต่คำพูดที่แม่ทิ้งเอาไว้ทำให้ผมต้องหันไปมองหน้าเปลวอย่างแปลกใจ



น้ำตาลวิ่งตามแม่เข้าไปในครัว ส่วนผมเดินเข้าไปหาร่างสูง



เจ้าของใบหน้าชวนหลงส่งยิ้มมาให้”ก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอไง”มันไม่ได้กล่าวอะไรมากกกว่านั้น แต่กลับเดินตามทั้งสองคนเข้าไปในครัวด้วยรอยยิ้มอิ่มใจ ความตึงเครียดที่มันแอบแสดงออกมาให้เห็นในรถสลายไปหมดแล้ว



และนั่น...ทำให้ผมอดยิ้มตามไม่ได้จริงๆ



ร่างสูงโปร่งของคฑากรโรงเรียนเดินยิ้มเบิกบานเข้ามาที่โต๊ะอาหาร...แม่รู้เองแล้วแบบนี้ก็ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่ต้องบอกให้เมื่อย ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจับสังเกตได้ตอนไหนแต่แบบนี้ก็ดีแล้ว ต้องค่อยเป็นค่อยไปแบบที่แม่ว่า



เอาไว้ค่อยบอกหลังจากจบม.ปลายแล้วก็ไม่สาย



ชามแกงจืดเต้าหูถูกนำมาวางก่อนแม่ครัวที่ทำอาหารอร่อยที่สุดในโลกสำหรับผมจะตักข้าวให้ลูกๆทีละคน เมื่อพร้อมแล้วผมก็ตักซุบเข้าปาก



อื้ม...อร่อย



“คุณแม่ครับ”ขณะดื่มด่ำกับรสชาตอยู่นั้นเอง ไอ้คนที่ควรจะนั่งกินข้าวเงียบๆแล้วก็กลับบ้านดันพูดโพล่งขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจัง มือหนาเอื้อมไปอุดหูน้ำตาลเหมือนว่าเรื่องที่เขาจะพูดต่อไปนี้เด็กไม่ควรได้ยิน



“ผมรักน้ำเงินครับ”



เคร้ง!



ผมเผลอปล่อยช้อนในมือด้วยความตกใจ แต่สีหน้าแน่วแน่จริงจังของมันทำให้ผมไม่กล้าขัดหรือแก้ตัวใดๆทั้งสิ้น



รักน้ำเงินก็บอกน้ำเงินสิจ๊ะ มาบอกแม่ทำไม”แม่ยิ้มล้อๆ ท่าทางจริงจังแต่ไม่ตึงเครียด




“บอกแล้วครับ”



“เหรอ แล้วน้ำเงินว่าไงล่ะจ๊ะ”



“เขาก็รักผมเหมือนกันครับ”



“ก็ดีแล้วนี่จ๊ะ”



“ครับ ดีแล้วครับ”



“!?”



แล้วพวกเราก็นั่งกินข้าวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซะที่ไหนล่ะครับ เดี๋ยวสิ การสนทนาเมื่อกี้นี้มันอะไร ทำไมถึงพูดเรื่องแบบนั้นกันหน้าตาเฉย



ไอ้เปลว มึงต้องตื่นเต้นสิ มึงอยู่ต่อหน้าแม่ของแฟนนะ!!



แม่ด้วย ลูกเป็นเกย์นะแม่ แถมพาแฟนเข้าห้องน้ำกันนานสองนานอีก แม่ไม่คิดจะห้ามปรามอะไรหน่อยเหรอไง!?



จากนั้นไม่นานพวกเราก็กินกันเสร็จ น้ำตาลขึ้นห้องแปรงฟังนอนไปแล้วส่วนผมกับเปลวที่ถูกใช้ไปล้างจานก็เพิ่งเดินออกมาจากครัว เดินมาหาแม่ซึ่งนั่งพลิกขวดไวน์อยู่ตรงโซฟา



“แม่ครับ...”ผมเอ่ยเรียกเสียงอ่อย



“ทั้งสองคนมานั่งตรงนี้ซิ”



สิ้นคำเปลวก็สะกิดให้ผมที่ยืนตัวแข็งเดินตามมันไปนั่งข้างๆแม่



“คืนนี้เปลวจะค้างที่นี่รึป่าวลูก”



“ค้างได้เหรอครับ”



“ได้สิจ๊ะ”



“งั้นค้างครับ”



“เห้ย!! มึง...”ผมอ้าปากเตรียมขัดความกล้าหาญชาญชัยของไอ้เปลวแต่เจ้าตัวก็เอามือมาปิดปากผมส่วนมืออีกข้างก็เอามาโอบไหล่ คือมึงพีคมาก ไปเอาความแข็งแกร่งขนาดนี้มาจากไหนวะ



“พวกเราคบกันได้ใช่ไหมครับ”คำถามของมันซื่อตรงเหมือนแสงตะวัน ผมไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไง แม่ที่ตีหน้าเข้มมาตลอดเจอมุกนี้เข้าไปก็เริ่มหลุดบท



ปกติแม่เป็นผู้หญิงอารมณ์ดีแล้วก็เข้าอกเข้าใจคนอื่น ที่ตีหน้าเข้มเมื่อครู่คงแค่จะขู่หรือลองเชิงอะไรนิดหน่อย แต่เจอไอ้เปลวมั่นกลับไปแม่เลยเสียศูนย์



ใบหน้าซึ่งเริ่มมีรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลาหลุดรอยยิ้มขบขันออกมา แม่ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นใจครู่หนึ่ง สูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วก็ยิ้มกว้างให้พวกเรา



“พี่เอิร์ทเขามาเลียบๆเคียงๆบอกแม่เรื่องของพวกเราตอนก่อนจะปิดเทอม แล้วก็บอกเรื่องที่รู้สึกอึดอัดตอนโดนแม่ของตัวเองไล่บี้ด้วย เขาบอกว่าไม่อยากให้ลูกศิษย์ของตัวเองเจอเรื่องแบบเดียวกันก็เลยมาขอร้องให้แม่พยายามทำความเข้าใจแล้วก็รับฟัง...”
พี่เอิร์ทงั้นเหรอ...พี่เอิร์ทที่ผมเอาเรื่องที่เขาเป็นเกย์ไปบอกแม่เขาคนนั้นน่ะเหรอ



“แม่เองตอนแรกก็ทำใจไม่ได้ แต่พอเปลวมาบ้านเราบ่อยๆแม่ก็เริ่มสนิทแล้วก็ไว้ใจเขา แค่มองดูแม่ก็รู้แล้วว่าเปลวรักลูกชายของแม่ขนาดไหน ใช่ไหมจ๊ะ”



“ครับ”คนถูกถามยืดอกยอมรับ ส่วนผมก็ก้มหน้างุดๆด้วยความอาย



“น้ำเงินนี่ไม่ไหวเลย เด็กคนนี้เขาขี้อายอย่าไปถือสาเลยนะเปลว อ๊ะ ว่าแต่ไวน์พวกนี้...”



“พี่ชายฝากเอามาให้ครับ”



“ขอบคุณมากเลยนะลูก ของดีซะด้วยสิ หืม...พี่ชายก็รู้เรื่องแล้วเหรอ”



“ครับ เมื่อกี้นี้เองครับ”



“งั้นพวกเราก็น่าจะเหนื่อยกันแย่ หมายถึงลุ้นจนเหนื่อยนะจ๊ะ งั้นก็ขึ้นไปพักผ่อนกันได้เลย อ้อ ส่วนเรื่องของพวกเรา แม่จะลองเปรยๆกับพ่อ พวกเราก็อย่าเพิ่งออกตัวแรงล่ะ เดี๋ยวพ่อเขาช็อคตายเลย คิกๆ”



ง่ายดายเหลือเชื่อ ผมที่ใช้ห้องอาบน้ำบนชั้นสองอาบน้ำเรียบร้อยแร้งกำลังนั่งเอาพัดลมเป่าผมอยู่บนพื้น ก่อนอีกคนที่ลงไปอาบน้ำชั้นล่างเปิดประตูตามเข้ามาติดๆ



ผมปรายตามองใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มกว้างของมันอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้




“มีความสุขสิมึง”ผมทักด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้



ร่างสูงเดินมานั่งขัดสมาธิข้างตัวผม ยื่นหัวเบียดเข้ามาในกรอบพัดลมเพื่อเป่าผมบ้าง เจ้าของห้องที่ถูกเบียดกระเด็นออกไปหน้างอ แยกเขี้ยวใส่ไอ้คนที่ยักคิ้วกลับมาให้



“หาเรื่องเหรอ”ผมถามด้วยสีหน้าแสร้งทำเป็นนักเลง ยกมือขึ้นเท้าเอวแล้วก็ลอยหน้าลอยตาถาม



มันหัวเราะแล้วก็ส่ายหัวไปมา”น่ากลัวจังเลย ยอมแล้วคร้าบ...”ก็เลยได้ค้อนไปวงใหญ่



หึหึ...ทั้งๆที่พรุ่งนี้จะเปิดเทอมอยู่แล้วแท้ๆแต่กลับเกิดเรื่องต่างๆขึ้นมากมาย แม้ว่าความรักครั้งนี้จะดำเนินมาแบบราบเรียบ อาจจะมีสะดุดหรือมีคนอื่นเข้ามาทำให้ใจหายไปบ้าง แต่พอได้มองหน้าของมันแล้วก็ยิ้มให้กันแบบนี้ ทั้งความเครียดแล้วก็ความกังวลกลับหายไปเหมือนมีเวทมนต์



สำหรับผม...เปลวคือที่ยังไม่ทันได้พูดคำว่า’ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็จะผ่านไปได้ด้วยดีเอง’เลยด้วยซ้ำ แต่แค่คิดถึงมันผมก็รู้สึกว่าต้องไม่เป็นอะไรแล้วจริงๆ



“จริงสิ ถ่ายรูปกันไหม”ผมถาม โดยไม่รอคำตอบก็เดินไปหยิบโทรศัพท์มา ตั้งท่าเตรียมเซลฟี่ ในขณะที่อีกคนยังทำหน้างงๆแบบคนตามไม่ทันอยู่ดี



“เป็นที่ระลึกไง วันแบบนี้ไม่ได้มีมาบ่อยๆจริงไหมล่ะ”



“แต่งตัวแบบนี้เนื่ยนะ”



“คนหล่อใส่ชุดอะไรก็หล่อ”ผมยิ้มหน้าแป้นแล้วก็เบียดตัวเข้าไปกอดคอมันให้เข้ามาในเฟรม



กดบันทึกภาพเอาไว้เป็นตัวแทนของความทรงจำ...ในวันข้างหน้า...อีกสักสิบปีหรืออีกร้อยปีจะได้เปิดดูด้วยกัน...เปิดดูแล้วก็หวนย้อนคิดถึง...




ดูสิว่าวันนี้พวกเรามีความสุขขนาดไหน



“จะเอาไปโพสต์หรือเอาไปเก็บไว้ดีวะ”



“โพสต์สิ ไม่เห็นเป็นไรเลย”



“แล้วจะเขียนแคปชั่นว่าอะไรดี”



เปลวตะวันยกมือขึ้นลูบคางครุ่นคิดกับคำถามของผม ความจริงการเอารูปถ่ายในชุดนอนลงแบบนี้ออกจะล่อแหลมเกินไปหน่อยแต่ถ้าไม่ถ่ายตอนนี้ก็จะยิ้มได้ไม่สวยเท่านี้แล้ว



“ถ้าเปลวตะวันคือพระอาทิตย์ น้ำเงินก็คือท้องฟ้าสีคราม ส่วนรักของเราก็คือฤดูร้อนที่อบอุ่นแล้วก็สดใส”



มันพูดกลั้วหัวเราะ สีหน้ายิ้มล้อๆแบบรู้ดีว่าผมต้องไม่เอาคำบรรยายนี้ไปประกอบภาพแน่ๆ



แล้วมันก็ต้องตกใจเมื่อผมหันไปก้มหน้าพิมพ์แล้วก็โพสต์ออกไปแบบนั้นจริงๆ



ถ้ารูปถ่ายนี้คือระเบิด คำบรรยายใต้ภาพคงเป็นตัวชนวน ส่วนผู้เคราะห์ร้ายก็คงเป็นเหล่าผู้ติดตามที่ตื่นตระหนกแล้วก็เข้ามาคอมเม้นต์ถามกันจ้าละหวั่น ส่วนหน่วยกู้ระเบิดคงเป็นเพื่อนรักอย่างแชคและฟงที่รีบเข้ามาพิมพ์ล้อเหมือนเป็นเรื่องหลอกกันเล่น



ส่วนผู้ก่อการร้ายสองคนก็นั่งหัวเราะแล้วก็มองหน้ากันด้วยรอยยิ้มและความสุข

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
จิ้มจึกๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ กาลณัฐ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
เป็นนิยายที่ดีมากๆเรื่องหนึ่งเลย
ชอบเปลวมากกกกกกกก น้ำเงินยิ่งน่ารัก
ชอบสำนวนของคนเขียนนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ Zyse

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
จบแล้ววววววว  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
เรื่องจบ อารมไม่จบบบบ
สนุกมากกกเลยยยยยยยยย
เปลวกับน้ำเงินน่ารักมากๆๆๆๆๆๆ
พี่ฟ้ามาทีหลังแต่แจ่มว๊าวววววววสุด ๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[

ขอบคุณนะค๊าาาาา :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ PandP

  • Déjame vivir esa fantasía.
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-0
    • http://www.facebook.com/iAMpingPINGping
เพิ่งได้มาอ่าน ชอบเรื่องนี้มากๆเลยจ้า
อยากอ่านตอนของฟงต่อจัง
อ๊ะ เรื่องตำแหน่งของพี่ฟ้าด้วย 55555

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
อยากอ่านตอนพิเศษจัง...แม่เป็นลมน่ากลัวนะ...

ออฟไลน์ Aimiya

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 211
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น่ารักกกกกกกกกก >< เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ

ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
น่ารักจัง

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เผลอๆน้ำเงินนี่จะเป็นพระเอกแทนเปรวได้เลยนะนั่น ชอบมากเลยอ่ะนิสัยแบบนี้ ง่ายๆสบายๆ มีเหตุผล จิตใจดี พ่อคุณเอ้ยย อ่านแล้วอิจ อยากได้ 5555555555 ชอบความสัมพันธ์ระหว่างคู่หลักค่ะ อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกอยู่ในสถานะผู้หญิง บอยๆดี รอตอนพิเศษนะคะ ทิ้งอะไรไว้หลายอย่างมาก ไหนจะเรื่องแม่เป็นลม ไหนจะพี่ฟ้า ไหนจะเจ้าฟง 5555555 ป.ล.ชั้นว่าแล้วว่าชั้นเห็นรังสีเคะจากแกฟง

ออฟไลน์ samsung009

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
คู่นี้น่ารักกกกกกกกกก..น้ำเงินเป็นคนที่น่ารักไม่เรื่องมากออกจะมองโลกใน

แง่ดีเกินไปด้วยซ้ำสมแล้วที่เปลวรักนักรักหนา :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น่ารักมากเลยอะ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1909
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
 :mew2: :mew2: :mew2:

สนุกอะ ชอบมาก อยากอ่านต่อ มีอีกม่ายยยยยยย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ขอบคุณค่ะ...
จะมีเรื่องต่อไปมั้ยคะ รู้สึกเหมือนปูพื้นทางฟงไว้เยอะเหมือนกัน กับคู่ของซีซีอีก
 :pig4:  :pig4:  :pig4:

ออฟไลน์ @causeshinki

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
อ่านรวดเดียวจบเลย. น่ารักมาดเลย อยากอ่านคู่ฟงต่อจังเลยยย.  :impress2:

ออฟไลน์ Kamung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z3:ไม่อยากให้จบเลยยยยยยย :ling1:

ออฟไลน์ zabzebra

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1044
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +83/-1
มีตอนพิเศษมั้ยคะ อ๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
มีคู่อื่นอีกมั้ยย แชคซีซีว่างายยย ฟงกับหนุ่มนิรนามล่ะก๊ะ
พี่เอิท พี่ฟ้าอีกกกกกกกกกก ฮอลลลลลลลลลลลลลลลล
ได้กัน 2 ตอนเองงงงง ถถถถถถถถถ เรื่องนี้น่ารักมากๆค่ะ ชอบมากๆเลยยยยย

ออฟไลน์ nutae or

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 218
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
มาต่อนะ......pleaseeeee :pig4:

ออฟไลน์ DREAM COME TRUE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 379
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ชอบเรื่องนี้อะ ไม่ยาวไปไม่สั้นไป เนื้อเรื่องดูสมจริง นายเอกไม่ง้องแง้ง คือดูเป็นเกย์แบบแมนๆดี ทั้งพระเอกและนายเอกดูเป็นเด็กผู้ชายปกติดี ชอบมากอะ อยากต่อให้ยาวกว่านี้จังครับ
ขอบคุณผู้แต่งมากครับ ชอบจริงๆเลย

ออฟไลน์ หัวเเม่มือ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 804
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-1
แปะ เดียมมาอ่า (4)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด