เดียวดายใต้แสงจันทร์
บทที่ 3/2
ที่แท่ฟ่านชิงไฉกลับมีใบหน้าละม้ายฟ่านเสี่ยวเอ้อในโรงเตี๊ยมริมทางไม่มีผิด ปังจู้พรรคไหมฟ้าสำเร็จเคล็ดวิชาไหมฟ้า
เปลี่ยนหน้า ใบหน้าของมันจึงคล้ายอ่อนเยาว์อายุสิบเจ็ดสิบแปดเพียงนั้นทั้งที่อายุจริงของมันล่วงกว่าเกือบห้าสิบปี นับว่าอาวุโสยิ่ง และ
นิสัยของมันยังนิยมในกามรสกับบุรุษเพศเฉกเช่นเดียวกับมันอีกด้วย
“ท่าน ฮาฮา นับว่าข้าพเจ้าโง่งมที่ถูกหลอก ท่านที่แท้ยังมีลมหายใจ เถ้าแก่ในโรงเตี๊ยมที่กล่าวคำท่านตายคงเป็นคนของ
ท่านโป้ปดข้าพเจ้า”
ฟ่านชิงไฉเดินกรุยกรายตรงมายังหวังต้าชาน มันขยิบตายั่วเย้าคล้ายดั่งนางยั่วเมืองก็มิปาน
“เพราะความจำเป็นที่ข้าพเจ้าต้องชิงหลีกหนีเนื่องเพราะทราบว่าจางหยวนฝ่ามือเหล็กเดินทางใกล้ถึงเต็มที หากข้าพเจ้าไม่
ทำเช่นนั้น เกรงมันจะทราบว่าข้าพเจ้ากำลังบรรเทิงกับชายอื่น แต่กระไรก็ตาม... ลีลารักของท่านพึงใจข้าพเจ้ายิ่งนัก”
“สารเลว”
ฟ่านชิงไฉปิดปากหัวร่อระริกกับคำด่าทอของหวังต้าชาน มันชมชอบหลอกล่อให้เหล่าบุรุษหลงกลให้กับมัน
“นับว่าเป็นคำชมที่ประเสริฐยิ่ง เพียงแต่ข้าพเจ้าไม่คิดว่าท่านจะมีฝีมือเก่งกล้าถึงกับกำจัดจางหยวนลงได้ รวมถึงเหล่าผู้กล้า
จากสำนักใหญ่น้อยที่ตายลงเพราะท่าน ดังนั้นหากข้าพเจ้ากำจัดท่านต่อหน้าชาวยุทธได้คงประเสริฐกว่า”
สีหน้าของมันพลันดุดันยิ่ง มันถึงกับเตรียมตั้งท่าต่อสู้กับหวังต้าชาน มิคาดกลับมีกระบี่ยาวเก้าเชียะถลาเข้ามา กรีดใบหน้า
อ่อนเยาว์ของฟ่านชิงไฉจนโลหิตทะลัก มันยกมือกุมหน้าร้องโหยหวนดิ้นพล่านท่ามกลางสายตาตกตะลึงของผู้มาชุมนุม หวังต้าชานมอง
เห็นแล้ว มันพลันวิตกเมื่อเห็นความแค้นล้นทะลักบนใบหน้าของเฉินเฟินหยาง
ร่างโปร่งในเสื้อคลุมสีดำรัดกุมยืนนิ่งกลางลาน กระบี่คมหลังจากดื่มเลือดกลับคืนสู่ฝักดาบดำสนิท มันยืนก้มหน้าปลายนิ้ว
เรียวกุมด้ามกระบี่แน่นเตรียมพร้อมดียิ่ง นักพรตซีไท่หยางแห่งบู๊ตึ๊งถึงกับมองด้วยความกังขา
“จอมยุทธท่านนี้คือ?”
“คนที่พวกท่านตามหา”
เสียงฮือฮาดังอีกคำรบเมื่อทราบว่ามันคือผู้สังหารเหล่าเจ้าสำนักทั้งหกจนตายด้วยกระบี่เดียว นักพรตซีไท่หยาง ถึงกับเดินลง
มาสู่ลานกว้างเพื่อประจันหน้า
“นามของท่าน?”
“เฉินเฟิงหยาง”
ซีไท่หยางชะงักงัน พลันเพ่งสายตามองใบหน้าของเฉินเฟิงหยาง มือเหี่ยวย่นลูบเคราสีดอกเลาพิจารณา
“แซ่เฉิน มิทราบว่า...”
“เฉินจื่อเยี่ยน ประมุขพรรคจันทราคือบิดาของข้าพเจ้า”
“เจ้าลูกเต่าทารกนี่คือบุตรของจอมมารเฉินจื่อเยี่ยน บัดซบ” ฟ่านชิงไฉกรีดร้องด่าทอ มันแค้นเคืองนักที่เฉินเฟิงหยางทำให้
มันเสียโฉม
“บัดซบน้อยกว่าเฒ่าทารกเยี่ยงท่าน ที่ในอดีตถึงกับใช้เล่ห์กลหลอกล่อให้บิดาหลงใหลความร่านราคะ และนำให้เหล่าคนที่
ล้วนแต่อ้างคุณธรรมเข้ากุ้มรุมเข่นฆ่าล้างตระกูลของข้าพเจ้าเพียงเพื่อต้องการสุดยอดวิชา”
“สามหาวยิ่ง!”
“หยุดก่อนเถิด” นักพรตซีไท่หยางรีบเอ่ยพลันยกมือห้าม
“เรื่องในอดีตนั้นเป็นเพราะทราบว่าพรรคจันทรามีสุดยอดวิชากระบี่จันทราอันเหี้ยมโหดยากจะมีใครต่อกร เหล่าจอมยุทธผู้
กล้าจึงร่วมแรงร่วมใจกันกำจัดประมุขเฉิน ข้าพเจ้าเข้าใจผิดหรือไม่”
“ผิดยิ่ง” เฉินเฟิงหยางกล่าวขื่นขม
“สุดยอดเพลงกระบี่จันทราหากผู้ใดฝึกปรือได้สำเร็จจะกลายเป็นจอมกระบี่ล้ำเลิศที่แม้แต่กิ่งไผ่ก็กลายเป็นคมได้ หากแต่มัน
จะกลายเป็นผู้หลงลืมทุกอย่างในอดีตของมัน ไร้รัก ไร้แค้น มีเพียงคืนที่จันทร์เต็มดวงเท่านั้นที่ทุกอย่างจะฟื้นกลับคืน”
“บิดาของข้าพเจ้ารู้ว่ามันอันตรายยิ่งหากผู้ที่ฝึกปรือสำเร็จเป็นผุ้มีจิตใจฝ่ายร้ายอยู่ก่อนแล้ว ไร้รัก ไร้ซึ่งสิ่งใดยึดเหนี่ยวย่อม
นับว่ากลายเป็นจอมมาร ดังนั้นบิดาจึงเก็บงำมิดชิดมิให้ตกถึงมือผู้เลวทราม มิคาดกลับมีคนโฉดรู้เรื่องเช่นนี้”
เฉินเฟิงหยางพลันรำลึกอดีต ภาพในวัยเด็กพรายขึ้นมาเป็นฉากตอนเพื่อเอ่ยให้ที่ชุมนุมรับรู้เรื่องราวแท้จริง
“ท่านพี่”
เสียงมารดาร่ำไห้เอ่ยเรียกบิดายามสะบัดแขนทิ้งแล้วเดินหนีออกจากบ้านทำให้เฉินเฟิงหยางในวัยเยาว์ราวห้าถึงหกขวบ
ร้อนใจยิ่ง มันถึงกับแอบวิ่งตามบิดาที่ก้าวเดินลัดเลาะไปยังน้ำตกที่สาดเซาะอยู่ในหุบเขาไม่ไกลนัก พลันเห็นบุรุษหนึ่งยื่นเด่นอยู่เหนือ
โขดหินชะม้ายชายตามองเมื่อเฉินจื่อเยี่ยนเข้าไปใกล้ เฉินเฟิงหยางแอบกายซ่อนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ไม่ไกลนัก
“นัดครานี้ท่านชักช้านัก” เอ่ยเสียงอ่อนหวานกว่าบุรุษอื่น เฉินเฟิงหยางถึงกับงงงันไม่เลิกรากับสภาพของมัน
“ข้าพเจ้ารีบร้อนแล้ว แต่ฮูหยินกลับห้ามไว้”
“กลัวแม้แต่อิสตรีนับว่าเป็นลูกเต่า” เฉินจื่อเยี่ยนถึงกับหน้าเขียว มันพลันรวบบุรุษเอวบางเข้าสวมกอดและตะคอกดุดัน
“ฟ่านชิงไฉ เจ้าตัวราคะ ข้าพเจ้าหากเป็นลูกเต่าก็นับเป็นลูกเต่าที่ทำให้ท่านครวญครางไม่สิ้นสุด”
เฉินจื่อเยี่ยนรวบร่างนั้นแล้วกระโจนลงไปในแอ่งน้ำใสภายใต้น้ำตกสาดกระเซ็น ครั้นทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากผิวน้ำก็พลัน
บดขยี้ปากลงกับปากของฟ่านชิงไฉ ทั้งคู่กอดก่ายวุ่นวายพลันดึงเสื้อคลุมออกจากร่างลอยไปตามน้ำ เหลือเพียงกายเปล่าเปลือยกลาง
สายน้ำเย็น
“ข้าพเจ้าจะคอยดูว่าจอมมารเช่นท่านเก่งแต่คำคุยหรือไม่ อ๊า...”
มันพลันเงยหน้าครางลั่นเมื่อกึ่งกลางกายถูกชำแรกแทรกประสานด้วยท่อนเนื้อแข็งแกร่ง ฟ่านชิงไฉยกท่อนขาขึ้นกอดก่าย
ไปรอบลำตัวพลันแอ่นอกให้เฉินจื่อเยี่ยนได้สัมผัสยอดของมันด้วยปลายลิ้น
“ฮา ฮา ขยับตอบรับได้ถึงใจยิ่ง ฟ่านชิงไฉ เจ้าช่างช่ำชองมากยิ่ง”
เฉินจื่อเยี่ยนเงยหน้าส่งเสียงคำรามดังก้อง มันขยับยกเอวฟ่านชิงไฉที่เกาะมันราวกับลูกลิงให้เปิดรับแรงกระแทก พายุ
สวาทโหมพัดให้เฉินจื่อเยี่ยนยิ่งหลงใหลในร่างกายบุรุษเพศเยี่ยงมัน
“แสดงเคล็ดวิชากระบี่จันทราอันเลื่องชื่อให้ข้าพเจ้าได้ชมเป็นบุญตาสักครั้งจะได้หรือไม่”
ฟ่านชิงไฉออดอ้อนยามกลับมาหนุนนอนทอดกายอยู่บนโขดหิน เฉินจื่อเยี่ยนพลันสีหน้าขรึมลงทันที
“มิได้เป็นอันขาด เคล็ดวิชานี้ไม่จำเป็นไม่แสดงต่อผู้ใด”
“แม้แต่ข้าพเจ้าที่ท่านเอ่ยนักว่าหลงใหล?”
“กล่าวถูกแล้ว”
“มิทราบท่านเก็บคัมภีร์ไว้ที่ใด”
“อยู่ใกล้ตัวข้าพเจ้า”
ฟ่านชิงไฉแย้มยิ้ม มันเลื้อยมานอนทาบทับพลันคว้ามังกรหลับใหลของเฉินจื่อเยี่ยนไว้ในอุ้งมือ
“ใกล้ตัวท่านข้าพเจ้าเห็นมีแต่สิ่งนี้”
“ตัวมาร นี่กำลังทำให้ข้าพเจ้าต้องการตัวท่านอีกครั้ง ใกล้ตัวข้าพเจ้านั้นหมายถึงภายในห้องนอนของข้าพเจ้าต่างหาก มานี่
เถิด มาให้ข้าพเจ้าลงโทษท่านเสียอีกครา”
“ข้าพเจ้ามิใช่คนว่าง่าย หากท่านต้องการร่างกายนี้ เห็นทีต้องทำให้ข้าพเจ้าพึงใจ”
“พึงใจเช่นไร”
“คืนนี้ ให้ข้าพเจ้าเข้าไปปรนเปรอท่านในบ้าน”
เฉินจื่อเยี่ยนถึงกับขมวดคิ้วเมื่อได้รับฟังข้อเสนอ
“แล้วฮูหยินข้าพเจ้า?”
ฟ่านชิงไฉยิ้มยั่วยวน มันพลันบิดกายบิดมือเร่งเร้าในอ้อมกอดก่อนผุดลุกเดินหนีหัวร่อท้าทาย
“เป็นหญิงก็ต้องอยู่ส่วนหญิง ไฉนท่านปล่อยให้ฮูหยินเก่งกล้าเหนือท่าน หากแม้นเปิดประตูรับสหายเยี่ยงข้าพเจ้ามิได้
กระไรจะเป็นประมุขพรรคอันเก่งกล้าได้”
รัตติกาล
ลมหนาวโชยพัดเยือกเย็น
ทารกเฉินเฟิงหยางยืนเคียงข้างมารดาที่ใบหน้าปกคลุมด้วยน้ำตาเมื่อสามีเปิดประตูรับบุรุษใบหน้าอ่อนเยาว์สะสวยให้ก้าวเข้า
สู่บ้านและเดินตามสามีเข้าไปในห้องนอนที่นางนอนด้วยทุกคืน ไม่มีผู้ใดกล้าห้ามปราม ซ้ำร้าย เสียงครวญครางด้วยความกำหนัดยังกรีด
ใจของนางให้เจ็บช้ำ มิคาด เมื่อเสียงกำหนัดจบสิ้นลงกลับกลายเป็นเสียงเป่าปากคล้ายสัญญาณดังขึ้น และทันใดรอบรั้วบ้านกลับปรากฏ
ผู้คนไม่ต่ำกว่าร้อยบุกเข้าเข่นฆ่าสมาชิกในพรรคที่อาศัยอยู่ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง
“ฟ่านชิงไฉ เจ้าตัวเลว ปิศาจร้าย นำเหล่าตัวเลวมาบุกถึงบ้านข้าพเจ้า”
เฉินจื่อเยี่ยนตะโกนอย่างเจ็บใจ มันคว้ากระบี่ขึ้นป้องกันทันทีเมื่อผู้กล้าจากแปดสำนักยืนประจันหน้าส่องอาวุธใส่มัน
“หากรักตัวกลัวตายก็จงส่งคัมภีร์กระบี่จันทราให้พวกเรา”
หนึ่งในแปดดังขึ้น เฉินจื่อเยี่ยนเดือดดาลยิ่ง มันไล่ต่อสู้แต่กลับถูกรุมทำร้าย บัดนั้นเฉินเฟิงหยางได้แต่ร่ำไห้เมื่อมารดาสละ
ชีวิตตนแลกกับลมหายใจของมัน เฉินจื่อเยี่ยนผู้เป็นบิดาแทงกระบี่เข้าช่องลับภายในห้องนอนดึงคัมภีร์ติดมือพร้อมทั้งคว้าร่างบุตรชาย
มันถีบเท้าส่งแรงกระโดดตีลังกาหนีออกไปทันที
เฉินจื่อเยี่ยนเร่งวิชาตัวเบาหนีจนถึงหน้าผา มันสิ้นทางหนีเมื่อหันกลับมามองเห็นคนบุกรุก มันกวาดตามองด้วยความคับแค้น
“จอมยุทธเฉินโปรดส่งคัมภีร์มาให้ข้าพเจ้า หากยังต้องการรักษาชีวิตท่านและบุตร”
บุรุษผู้หนึ่งกล่าวชัดท่าทางโอหัง ฟ่านชิงไฉตวัดสายตาใส่มันคราหนึ่ง
“เจ้าตัวโง่เง่า อย่ามัวงุ่มง่ามดังเช่นเรื่องนั้น ท่านจงบุกเข้าไปชิงคัมภีร์”
มันกลับกระทำตามคำสั่งของฟ่านชิงไฉ เฉินจื่อเยี่ยนต่อสู้ป้องกันคัมภีร์และบุตรชายจนกระทั่งคัมภีร์ถูกมันคว้าไว้
เฉินจื่อเยี่ยนรีบดึงคัมภีร์กลับคืน มันพลันตกใจอย่างยิ่งเมื่อคัมภีร์ถูกฉีกหน้าสุดท้ายติดอุ้งมือของผู้แย่งชิง
“เซียวหยาง ปกป้องคัมภีร์ไว้และแก้แค้นแทนบิดาด้วย”
เฉินจื่อเยี่ยนยัดคัมภีร์ใส่มือลูกน้อยก่อนโยนลงไปเบื้องหลังหน้าผาใหญ่ เสร็จสิ้นดังนั้นมันจึงหันกลับไปต่อสู้จนตัวตาย
ผู้คนต่างนิ่งงัน ฟ่านชิงไฉหน้าซีดเผือดแล้วเมื่อความหลังจบลง ซีไท่หยางมองบุรุษหนุ่มอย่างเห็นใจ
“กระนั้นจอมยุทธเฉินจึงชำระแค้นแทนบิดาและตามหาแผ่นสุดท้ายของคัมภีร์เพลงกระบี่จันทรา เจ้าสำนักทั้งหกที่ตายเพราะ
คมกระบี่คือผู้บุกฆ่าล้างตระกูลเฉิน หากฟ่านปังจู้แห่งพรรคไหมฟ้าเป็นหนึ่งในสองที่เหลือแล้ว จงคืนสิ่งที่ จอมยุทธเฉินต้องการเสียเถิด”
“ข้าพเจ้าไม่มี” ฟ่านชิงไฉพลันเอ่ยเสียงดัง
“คัมภีร์หน้าสุดท้ายหาได้อยู่ที่ข้าพเจ้า”
เฉินเฟิงหยางหัวร่อเหยียดหยันแล้ว
“หากไม่มีที่ตัวแพศยา ก็คงอยู่ที่ชู้รักคนสำคัญของมัน คนสุดท้ายที่ประมือกับบิดาข้าพเจ้า”
“มันคือผู้ใด?” ซีไท่หยางรีบเอ่ยถาม เฉินเฟิงหยางดึงกระบี่คมออกจากฝัก กระบี่สะท้อนแสงอาทิตย์แวววาวกรีดใจคนยิ่งนัก
“มันคือผู้ที่เบื้องหน้าพวกท่านเรียกว่าคุณธรรมและหวังให้มันเป็นผู้นำยุทธจักรคนต่อไป ลี่ซ่งสือ เจ้าสำนักคุณลุ้น”
พูดจบเฉินเฟิงหยางจึงกระทืบเท้าตรงเข้าใช้เพลงกระบี่เดียวไม่ขาดไม่เกินปลิดชีวิตฟ่านชิงไฉ คมกระบี่ปาดลำคอจน
โลหิตพุ่งคล้ายน้ำพุขาดใจตายในบัดดล
เสียงฮือฮาของผู้ชุมนุมยังไม่จบสิ้นเฉินเฟิงหยางก็กระโดดไปหาลี่ซ่งสือแล้ว
TBC