<<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

อ่านครบทุกเรื่องแล้ว ชอบเรื่องไหนมากที่สุด

วิญญาณเสน่หา
28 (34.1%)
ตัวประหลาด
6 (7.3%)
ทดลองรัก
14 (17.1%)
เอาชีวิต
3 (3.7%)
ลูกเลี้ยง
20 (24.4%)
เดียวดายใต้แสงจันทร์
11 (13.4%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 82

ผู้เขียน หัวข้อ: <<X-Theme the series Season2>> ขายทาง Ebook แล้วค่ะ  (อ่าน 225292 ครั้ง)

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
เอิ่มมมมมมมมม
ปอ กับ ภู คือคราย?????
ลูกของชลกับโยธินหรอ อะไรยังไงเนี่ย งง! TT

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                          ตัวประหลาด

                                                              บทที่ 4


               แคปซูลขนาดใหญ่ยักษ์สูงสองเท่าของขนาดมนุษย์คือสาเหตุของสัญญาณเรียกประชุมด่วนเมื่อไม่กี่นาทีที่

ผ่านมา ภูริและปรมะวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องกว้างเปิดไฟสว่างไสวเป็นคู่สุดท้ายในขณะที่ภายในห้องมีบุคลากร

จำนวนหนึ่งยืนอยู่แล้ว

               ที่นี่คือองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติหรือที่ทุกคนรู้จักกันในนาม นาซ่า แต่มีไม่กี่คนที่รู้ว่านาซ่ามี

ฐานทัพเล็กๆแห่งนี้อยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่งกลางทะเลอันดามันของประเทศไทยด้วย และมันก็ตรวจสอบไม่ได้ทาง

ภาพถ่ายดาวเทียมเพราะฐานทัพแห่งนี้ถูกขุดลึกลงมาใต้ดินลึกจนกระทั่งส่วนหนึ่งด้านล่างของโดมยักษ์ล้อมรอบไปด้วย

น้ำทะเล ทางออกของฐานทัพมีเพียงไม่กี่ทาง ทางหนึ่งคือด้านบนที่มีลานจอดของเครื่องบินขนาดเล็กและด้านล่างที่

ต้องใช้เรือดำน้ำออกไป

              แต่เมื่อออกไปภายนอกได้การเดินทางก็ค่อนข้างจะลำบากเช่นกัน เพราะโดยรอบที่ตั้งฐานมีแต่หน้าผาสูงชัน

ของเกาะเล็กๆแห่งนี้ ดังนั้นที่นี่คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดที่นาซ่าเลือกใช้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลความลับที่ไม่อาจเปิดเผย

ให้มนุษย์โลกรู้ได้

                มนุษย์ต่างดาว เป็นสิ่งที่ใครๆก็พูดถึงในแง่ความเหนือจริง บางคนก็ว่าเป็นเรื่องไร้สาระแต่หากคนนั้นได้มาเห็น

ฐานลับแต่ละแห่งทั่วโลกของนาซ่าแล้วก็จะรู้ว่ายังมีความลับมากมายที่ปกปิดไว้ ในเมื่อโลกของเรายังมีสิ่งมีชีวิตมากมาย

แล้วทำไมดาวดวงอื่นในจักรวาลจึงจะไม่มีสิ่งมีชีวิตเล่า คนที่ทำงานในฐานทัพนาซ่าจึงเต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์ใน

สาขาต่างๆ เช่นด้านฟิสิกส์คำนวนการเคลื่อนไหวของดวงดาวอย่างภูริหรือจะเป็นนักชีววิทยาอย่างปรมะเป็นต้น

               หัวหน้าฐานทัพประจำประเทศไทยยืนเด่นอยู่ด้านหน้าเป็นชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐาน เขาอธิบายที่มาของ

แคปซูลประหลาดที่ตั้งอยู่กลางห้องควบคุมที่มีกระจกหนาพิเศษล้อมรอบ นักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายยืนกระจายตัวจ้อง

มองอย่างตื่นเต้น


               “มียานบินลำหนึ่งบินผ่านโลกของเราและได้ปล่อยอะไรบางอย่างผ่านชั้นบรรยากาศของโลกลงมา เราคาด

เดาว่าจะเป็นยานบินสำรวจของดาวดวงอื่นที่ส่งมาแต่เมื่อมาถึงชั้นบรรยากาศคาดว่าพลังงานคงจะหมดลงจนกระทั่งมัน

ตกลงมากลางทะเลลึกในเขตการดูแลของหน่วยเรา นี่คือยานลำนั้น”


               พูดจบลงเขาก็สั่งให้หน่วยตรวจสอบหลายคนที่สวมชุดป้องกันเต็มที่ก้าวเข้าไปด้านใน ทุกคนทำงานอย่าง

ระมัดระวังเพื่อจะหาทางเปิดเจ้าแคปซูลนั่นใช้เวลาครู่ใหญ่สัญลักษณ์ว่าพวกเขาทำสำเร็จก็ถูกส่งออกมา ผนังด้านหนึ่ง

ของแคปซูลถูกดันขึ้นช้าๆ


               เสียงฮือฮาดังขึ้นจากหน่วยตรวจสอบ คนหนึ่งพูดผ่านไมค์ออกมาอย่างตื่นเต้น


               “มีสิ่งมีชีวิตหนึ่งร่างอยู่ในแคปซูล แต่มันกำลังบาดเจ็บสาหัสมากเราจะทำยังไงดีครับหัวหน้า”


               “นำมันออกมาอยู่ภายใต้การควบคุมตามกฏแล้วให้ฝ่ายชีววิทยาเข้าไปรักษาและศึกษาข้อมูลเชิงสรีรจาก

ร่างกายของมันด้วย”


                นี่คืองานชิ้นใหม่ของปรมะ

               ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ใครๆไม่อยากใช้คำว่าหล่อเมื่อได้เห็นเพราะมันค่อนจะไปทางสวยหวานมากกว่า ดวงตาสี

นิลเป็นประกายคือเสน่ห์ดึงดูดจุดใหญ่ของเขาที่ทำให้ทุกคนต่างเหลียวมอง แต่เพื่อนที่ทำงานต่างก็รู้กันว่าปรมะกำลัง

คบหาอยู่กับภูริที่เป็นชายหน้าตาดีอีกคนหนึ่งของฐาน

               
            และตอนนี้ปรมะกำลังตื่นเต้นกับมนุษย์อวกาศจากดวงดาวไกลโพ้นที่เขาเองก็ไม่รู้ที่มา แต่ร่างกายใหญ่โตสีควัน

บุหรี่กำลังรอให้เขาและทีมงานช่วยชีวิต

               แผนกของเขาคือการทำงานด้านชีวิต พวกเขาจะศึกษาวิจัยร่างกายของมนุษย์ต่างดาวที่ถูกจับอยู่ในฐาน แต่

ที่ผ่านมามักจะเป็นร่างที่ไม่มีการเคลื่อนไหว นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปรมะเข้ามาทำงานที่เขาพบว่าสิ่งที่เขาวิจัยอยู่ยังมีลม

หายใจ

               ปรมะและเพื่อนร่วมแผนกกำลังตรวจร่างกายที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดพอดีกับสิ่งมีชีวิตนั้น ร่างกายภายนอก

สูงใหญ่เกือบเท่าผู้ชายสองคนต่อตัวกัน สีผิวขาวซีดปนเทามีมือเท้าคล้ายมนุษย์โลกแต่ใหญ่กว่ามาก ดวงตาไร้เปลือก

ตาห่อหุ้มแต่มันปิดได้เพราะหนังด้านบนกับด้านล่างมาประกบกันเอง


               “เพศผู้”


               เพื่อนร่วมงานกล่าวขึ้นเป็นข้อมูลให้คนที่ทำหน้าที่บันทึกได้เก็บข้อมูล


               “ลมหายใจเร็วและร้อนมาก ร่างกายก็อุณหภูมิสูงและมีร่องรอยบาดเจ็บ”


               ปรมะขมวดคิ้วเมื่อเขาพบสิ่งแปลกปลอมอยู่ภายในร่างกายนั้น มือเรียวที่ใส่ถุงมือปราศจากเชื้อวางแนบไปกับ

ส่วนลำตัวพร้อมกับตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ ปรมะเบิกตากว้างอย่างตื่นเต้น


               “พบสิ่งมีชีวิตอยู่หนึ่งร่างอยู่ในร่างกายนี้คาดว่าน่าจะเป็นลูก”


               เสียงฮือฮาดังขึ้นก่อนที่คนในแผนกจะวิ่งเข้ามาดูผลจากจอมอนิเตอร์เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวภายในช่องท้อง

แต่ทันใดนั้นทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อสัญญาณชีพจากสิ่งมีชีวิตที่นอนบาดเจ็บจะหยุดลง


               “มันหยุดหายใจแล้ว เอาไงดีในท้องมันมีลูกนะ”


               “เราต้องช่วยมัน”


               ปรมะตัดสินใจ เขาวิ่งไปคว้าเครื่องมือผ่าตัดเล็กออกมาแล้วใช้มีปลายแหลมกรีดลงไปบนผนังหน้าท้องหนา

อย่างยากลำบากในขณะที่คนอื่นแบ่งหน้าที่ไปช่วยฟื้นคืนชีพ ครู่ใหญ่ปรมะจึงสามารถแหวกช่องท้องลงไปมองเห็นตัว

อ่อนที่เกาะติดอยู่ตรงช่องท้อง เขาควักมันออกมาท่ามกลางของเหลวสีเขียวอ่อนที่น่าจะเป็นเลือดของสิ่งมีชีวิตจากดาว

อื่น

               ตัวอ่อนขนาดเท่าเด็กสักสองขวบดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมกอดของปรมะที่ถอนหายใจอย่างโล่งอก ในขณะที่เพื่อน

ร่วมงานพากันสบถเมื่อไม่สามารถยื้ออีกหนึ่งชีวิตไว้ได้ พวกเขาพากันมามุงดูสิ่งมีชีวิตแรกเกิดในอ้อมแขนของปรมะ


               “โชคดีนะที่ลูกของมันยังไม่ตาย แล้วเราจะเรียกมันว่าอะไรดีล่ะ”


               ปรมะจ้องมองใบหน้าแปลกประหลาดนั้นแล้วคลี่ยิ้มออกมา


               “เราจะเรียกมันว่าเอวัน”


               ทันทีที่เขาพูดจบปรมะก็สะดุ้งเมื่อผนังหุ้มตาของมันเปิดออก ดวงตาสีเขียวเบิกโพลงจ้องมองปรมะไม่วางตา

               






               “ภูไม่เห็นด้วยเลยที่ปอจะเลี้ยงมันไว้”


               ภูริส่ายหัวไปมาเมื่อรู้ที่มาที่ไปของเอวันที่อยู่ในตู้อบขนาดใหญ่ เขามองมันอย่างไม่ไว้วางใจ


               “จุดประสงค์ของมันที่มายังโลกเราก็ยังไม่รู้ ร่างกายของมันจะมีอันตรายหรือเปล่าก็ยังไม่รู้อีก แล้วจะเลี้ยงมัน

ไปทำไม”


               “ไม่เอาน่าภู อย่าพูดอย่างนั้นสิเอวันน่าสงสารออก เกิดมาพ่อเอ๊ะ หรือแม่ก็มาตายแถมยังมาเกิดในดาวที่ไม่ใช่

ดาวตัวเองด้วย”


               “ใครใช้ให้มาดาวโลกกันล่ะ”


               ภูริยักไหล่พลางขมวดคิ้วมองตัวอ่อนขนาดใหญ่ที่ส่ายมือเปะปะไปมาอยู่ในตู้อบ ดวงตาสีเขียวมองมายังเขา

อย่างหงุดหงิด


               “จะมองกูทำไมไอ้ตัวประหลาด”


               ภูริจ้องตาตอบกลับ


               “ทำเป็นหงุดหงิดไอ้นี่ เดี๋ยวเหอะ”


               “มันคงหิวล่ะมั้งตั้งแต่เกิดมายังไม่ได้กินอะไรเลยนี่”


               “อ้าว แล้วจะเอาอะไรให้มันกินล่ะ”


               ภูริถามอย่างสงสัย ทันใดนั้นเสียงเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของปรมะก็ดังลั่น


               “ผลวิเคราะห์เลือดของมันอย่างละเอียดออกแล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยสารปรอททั้งนั้น”


               ปรมะดีดนิ้วเปาะก่อนจะวิ่งไปที่ห้องเก็บสารเคมีที่อยู่ด้านหลัง เขาหยิบสารปรอทสีเงินออกมาอย่างระวังกลับ

มาด้วยและใช้หลอดทดลอบดึงมันแล้วยื่นมือเข้าไปในตู้อบจ่อสารปรอทเข้าใกล้ปาก เอวันใช้จมูกใหญ่ดมอยู่พักหนึ่งแล้ว

ค่อยๆดูดกลืนสารปรอทเข้าไปจนหมด


               “สงสัยดาวมันจะมีแต่สารปรอท นี่ไม่เป็นโรคมินามาตะกันบ้างไงวะ”


               ปรมะอดหัวเราะไม่ได้กับอาการพาลของภูริที่ทำท่าฮึดฮัดก่อนจะเดินออกไปทำงานต่อ เมื่อเอวันกินสารปรอท

จนอิ่มหนำก็ปิดเยื่อหุ้มตาแล้วหลับลงไป เขาจึงได้กลับมานั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง

               ชายหนุ่มมองผลการวิเคราะห์โครโมโซมของเอวัน สิ่งมีชีวิตที่ดวงดาวอันไกลโพ้นมีโครโมโซมเพศวายเพียง

อย่างเดียวแสดงว่าการผสมพันธุ์จนเกิดตัวอ่อนก็คือโครโมโซมวายกับวาย ปรมะเลิกคิ้วเมื่อเดาว่าดาวดวงนั้นก็จะเป็น

ดวงดาวที่มีแต่เพศผู้เหมือนกันหมดทั้งดวงดาว ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปมองเอวันพลางยิ้มอย่างมีเมตตา


               “เป็นเด็กดีนะเอวัน”


               เขาเดินกลับไปแล้ว ปรมะไม่ทันเห็นดวงตาสีเขียวที่จ้องมองตามแผ่นหลังของเขาไม่วางตา




           

               เอวันโตเร็วมาก เพียงสองเดือนรูปร่างก็สูงใหญ่เกือบจะเท่าตัวเต็มวัย และไม่มีใครเข้าใกล้มันได้นอกจากปร

มะเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มันยอมให้เข้ามาภายในห้องควบคุมที่ต้องขยายขนาดเพื่อรองรับ มีปรมะคนเดียวที่สามารถเจาะ

เลือดหรือแตะต้องตรวจร่างกายมันได้ถ้าเป็นคนอื่นเอวันจะอาละวาดและส่งเสียงกรีดร้องด้วยภาษาที่ทุกคนฟังไม่ออก

และโดยเฉพาะวันนี้ที่มันหงุดหงิดเป็นพิเศษจนกระทั่งเขาต้องเข้าไปฉีดยานอนหลับให้มัน


               “อาละวาดอะไรนักหนาก็ไม่รู้”


               เพื่อนคนหนึ่งบ่นอุบเมื่อเห็นเอวันมองตาขวาง อุณหภูมิร่างกายพุ่งสูงลิบ


               “นี่ถ้าเป็นหมาเป็นแมวที่บ้านจะบอกว่ามันติดสัด ถ้าเป็นคนก็จะบอกว่ามันเงี่ยน ฮ่าๆๆ”


               เพื่อนอีกคนพูดขึ้นจนปรมะยื่นมือไปตบปาก


               “พูดมากลามก”


               “หรือไม่จริงไอ้ปอ แหม การระบายออกซึ่งอารมณ์ทางเพศนี่มันก็เป็นเรื่องปกติหรือเปล่าวะ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตดาว

ไหนมันก็ต้องมีทั้งนั้นแหละไม่งั้นมันจะสืบพันธุ์มีวงศาคณาญาติกันยังไงล่ะไอ้นี่ทำเป็นเขิน มึงนั่นแหละไอ้ปอระวังเหอะ

เอาเวลามาทุ่มให้ไอ้เอวันนี่มากๆเดี๋ยวไอ้ภูแม่งเงี่ยนขึ้นมามึงแหละจะหนาว”


               ปรมะหน้าแดงก่ำ เขาคว้ากระดาษม้วนอยู่ในมือแล้วโยนใส่เพื่อนพลางหัวเราะอย่างขัดเขิน มันก็จริงอย่างที่

เพื่อนบอก เขาเองก็ไม่ได้มีความสุขกับภูริมานานตั้งแต่เอวันเกิดขึ้นมา ก็น่าที่ภูริจะหงุดหงิดอยู่หรอก


               “ไอ้พวกบ้า หมดเวลาทำงานออกเวรไปได้แล้วพวกมึงโน่นฤทธิ์ยานอนหลับออกแล้ว เจ้าเอวันหลับเรียบร้อย

ไม่มีอะไรต้องห่วง”


               หัวเราะกันลั่นก่อนที่เพื่อนๆเขาจะโบกมือแล้วเดินออกไป วันนี้เป็นวันที่เขาต้องอยู่เวรเฝ้าเอวันเพียงลำพังแต่

อยู่คนเดียวไม่นานก็ได้ยินเสียงสัญญาณเรียกหน้าห้อง ปรมะเดินไปเปิดประตูจึงเห็นภูริยิ้มกริ่มอยู่ด้านนอกปรมะยิ้มรับ

พลางเบี่ยงตัวให้ภูริเดินเข้ามาภายในแล้วปิดประตู


                 ทันทีที่อยู่กันเพียงลำพังภูริก็คว้าปรมะมากอดรัดจนแน่นแล้วฝังจมูกโด่งลงบนซอกคอแล้วสูดกลิ่นตัวหอมๆ

ของปรมะ            


               “ปอใจร้าย เบื่อภูแล้วใช่ไหมถึงได้ไม่สนใจกันเลย”


               “ภูอย่าเข้าใจผิด”


               ปรมะเกี่ยวแขนคนรักให้มานั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวเล็กของเขา


               “ปอต้องทำงานหนักเพราะช่วงนี้เจ้าเอวันมันกำลังโต ภูอย่าน้อยใจเลยปอรักภูเหมือนเดิมแหละ คิดถึงมาก

ด้วย”


               ดวงตาสีนิลเป็นประกายฉ่ำหวานเมื่อปรมะกางขานั่งคร่อมลงไปบนตักของภูริ เขาประคองใบหน้าคมของภูริ

แล้วประกบปากแนบชิด ภูริขยับตัวเบียดแนบโอบเอวคอดเข้าหาพลางส่งปลายลิ้นเข้าไปตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กจนหอบตัวโยน


               “อยากจูบปอมาหลายวันแล้วรู้หรือเปล่า”


               เสียงของภูริสั่นไหวแหบพร่า เขาใช้ลิ้นเกี่ยวลิ้นชื้นของปรมะออกมาดูดดุนอยู่นอกริมฝีปากจนน้ำใสเชื่อมกัน

เป็นแนวยาวเมื่อผละจากกัน ปรมะเอียงคอให้ภูริได้ฝังปากขบเม้มถนัดๆพลางเบียดกายเข้าหาให้แผ่นอกถูไถจนลม

หายใจร้อนผ่าว


               “ปอก็คิดถึงภูจะตายอยู่แล้ว”


               ปรมะพึมพำเสียงสั่นพร่าไม่แพ้กัน สองมือโอบกอดไปที่แผ่นหลังแล้วกดบีบเบาๆปล่อยให้ภูริปลดกระดุมเสื้อ

เชิ้ตของเขาทีละเม็ดจนกระทั่งผิวกายขาวผ่องอวดสายตาพร้อมยอดอกสีชมพูงดงามที่ล่อตาให้ภูริใช้ปลายลิ้นแตะลงไป

เบาๆ


               “อื้อ ภู”


               ปรมะเหยียดกายให้ภูริได้ละเลงลิ้นลงบนยอดอกข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ถูกปลายนิ้วของภูริคีบดึงแล้วบีบเค้น

รอบลานนม ร่างโปร่งกดสะโพกเข้าหาจุดกึ่งกลางลำตัวของภูริแล้วถูไถไปมาจนรู้สึกถึงความแข็งขืนอยู่ภายใต้ร่มผ้า ปร

มะเป่าปากสยิวกายไปมาเขาเลื่อนมือไปลูบไล้ขอบกางเกงของภูริแล้วปลดซิปออก มือเรียวคว้าท่อนเนื้ออุ่นจนร้อนมา

คลึงเคล้าจนรู้สึกถึงความชื้นที่ปริ่มออกมา


               “เซ็กซี่จังเลยปอ”


               ภูริครางอย่างถูกใจเมื่อเห็นคนบนตักเงยหน้าสูดลมเข้าปอด ดวงตาคู่สวยปรือฉ่ำพลางเม้มริมฝีปากแดงเรื่อ

เบาๆ ภูริยกสะโพกปรมะเพื่อจะดึงกางเกงออกจนพ้นต้นขา


               “กดลงมาเลยไหมครับปอ ภูอยากจะเข้าไปในตัวปอจะแย่แล้ว”


               เสียงทุ้มกระซิบเบาๆปรมะยิ้มรับ เขาโหย่งสะโพกแล้วจับแท่งเนื้อร้อนจนเส้นเลือดโปนของภูริจ่ออยู่ตรงปาก

ทางแล้วกดช่องทางของตัวเองลงมาช้าๆ สองแขนโอบคลองรอบคอภูริพลางเอียงคอซบไหล่กว้างกัดฟันรับความคับ

แน่นที่ค่อยๆสอดลึกเข้าไปจนกระทั่งเนื้ออ่อนสัมผัสถึงขนหยาบปรมะก็รู้ว่ามันเข้ามาจนสุดโคนแล้ว


               “เสียวมาก คับแน่นฟิตเหมือนเดิมนะครับปอที่รัก”


               ภูริเป่าลมเบาๆเมื่อช่องทางของปรมะกำลังโอบรัดอยู่รอบลำแท่งจนแทบขาดใจ ภูริบีบแก้มก้นนุ่มมือจนได้ยิน

เสียงครางหวานลอดออกมา เขาดึงเอวออกมาพร้อมผ่อนลมหายใจแล้วกระแทกเข้าไปใหม่


               “อ๊า ภู เสียวจัง”


               ปรมะปล่อยเสียงครางลั่น เขาเอียงหน้าไปบดจูบหนักหน่วง สะโพกกลมกลึงเบียดลงแล้วขยับเป็นวงกลมให้

ท่อนเนื้อที่ฝังกายควงสว่านอยู่ภายในจนเบียดแนบจุดกระสันให้ความเสียวซ่านแล่นปราดตั้งแต่หัวจรดเท้า สองขาของ

ปรมะเกาะเกี่ยวไปรอบเก้าอี้แล้วยิ่งคลึงสะโพกเรียกเสียงครางต่ำออกมาจากลำคอของภูริบ้าง


               “จะฆ่ากันหรือปอ นี่เกือบแตกแล้วนะ”


               ภูริเองก็ไม่ยอมแพ้ เขาเด้งเอวเข้าใส่มือใหญ่จับเอวปรมะไว้แน่นแล้วยกขยับขึ้นลงจนพากันสั่นสะท้าน ปรมะ

กอบกุมแท่งเนื้อสีสวยของตัวเองแล้วรูดรั้งไปมา กัดฟันด้วยความเสียวซ่านจนกระทั่งร่างกายทนไม่ไหวบีบเกร็งหดรัด

น้ำขาวขุ่นก็ทะลักออกมา ภูริหอบลึกเร่งเครื่องสาวเอวจนปรมะพ่นเสียงครางฮือเขาจึงอัดผลผลิตให้ปรมะรองรับรีดเค้นจน

ตัวเบา


               ต่างพากันซบหน้าลงบนบ่าของอีกฝ่ายจึงไม่มีใครเห็นดวงตาสีเขียวที่เบิกโพลงมองมาตั้งแต่ภูริก้าวเข้ามาใน

ห้องทดลอง
                        


     


  มีต่ออีกจ้า...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2015 22:03:18 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้






             กว่าจะออกเวรเฝ้าเอวันก็เที่ยงคืน ปรมะล้มตัวนอนหลับสนิทอยู่ในห้องพักเนื้อตัวเบาหวิวเมื่อได้ปลดปล่อยออก

ไปกับภูริเมื่อตอนหัวค่ำแต่เพิ่งคล้อยหลับไปได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่นกับเสียงดังโหยหวนของสัญญาณเตือนภัย ปรมะรีบ

ลุกมาแต่งตัวลวกๆแล้ววิ่งออกมาภายนอกที่กำลังโกลาหลกันยกใหญ่


               “เกิดอะไรขึ้น”


               เขาถามเพื่อนคนหนึ่งเมื่อวิ่งไปถึงห้องทดลอง หัวหน้าของเขากำลังยืนสั่งการหน้าเครียดเมื่อห้องควบคุมเอ

วันถูกทำลายลง ปรมะตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณของเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งมาทำงานต่อเวรจากเขานอนอยู่

กับพื้น


               “ทุกคนออกตามหาเอวันแล้วจับมันกลับมาให้ได้ เราจะให้คนอื่นเห็นมันไม่ได้เป็นอันขาด”


               สิ้นคำสั่งทุกคนก็กระจายกำลังกันออกไปจากห้อง จับกลุ่มกันออกไปตามหามนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก


                “ปอ ระวังด้วย”


               ภูริเอ่ยด้วยความเป็นห่วง ปืนไฟฟ้าอานุภาพสูงอยู่ในมือของเขา ปรมะพยักหน้ารับพลางกระชับปืนในมือตัว

เองเช่นกัน

                 ปรมะก้าวออกไปทางประตูด้านบนพร้อมกับเจ้าหน้าที่คนอื่น เมื่อประตูที่เปิดออกไปสู่พื้นดินด้านบนเปิดออก

บรรดาเจ้าหน้าที่ก็วิ่งแยกย้ายกันไปเป็นกลุ่มๆ

                ภายใต้ความมืดบนเกาะโดดเดี่ยว มีเสียงแสงจันทร์เสี้ยวที่ช่วยอะไรไม่ได้เลยเมื่อเขาต้องตามหาตัวประหลาด

ปรมะพยายามกวาดสายตาในความมืด ต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมยิ่งเป็นที่ซ่อนให้เอวันได้วเป็นอย่างดี

               แสงสีเขียวสองจุดพุ่งวาบอยู่ในลานสายตา ปรมะหันขวับไปมองก่อนจะตะโกนให้ภูริและเพื่อนอีกสองถึงสาม

คนที่มาทางเดียวกันได้รู้


               “เอวันอยู่ทางโน้น”


               ทุกคนพุ่งไปทางที่ปรมะบอก แต่เมื่อไปถึงกับพบแต่ความเงียบสนิทจนได้ยินแต่เสียงลมหายใจที่ดังสลับกัน

ทันใดนั้นร่างกายใหญ่โตสีควันบุหรี่ก็พุ่งเข้ามากลางวงอย่างรวดเร็ว เพียงพริบตาเดียวมันก็ตะปบจนเพื่อนของเขาพากัน

ร่วงลงกับพื้น


               “เอวัน หยุดนะ”


               ปรมะตะโกนห้ามเมื่อเห็นเอวันมุ่งความสนใจไปหาภูริที่ยืนจังก้าส่องปากกระบอกปืนเข้ามา ดวงตาสีเขียว

ชะงักแล้วหันมามองปรมะพร้อมส่งเสียงคำรามลั่น ภูริถือโอกาสยิงไฟฟ้าใส่จนกระแสไฟสีแดงพุ่งวาบถากหัวไหล่มันไป

เอวันร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อเลือดสีเขียวทะลักออกมา มันหันไปหาภูริแล้วกระโจนเข้าหาใช้มือใหญ่ตบอย่างแรงจนภูริ

ลอยกระเด็นไปกระแทกต้นไม้แล้วร่วงลงมากองกับพื้น


               “ภู!”


               ปรมะตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นคนรักบาดเจ็บ และเมื่อเอวันหันขวับมาพร้อมส่งเสียงคำรามปรมะก็กลัวจนตัว

สั่น


               “ปอ หนีไป”


               เสียงแหบโหยของภูริเตือนสติ ปรมะมองร่างกายใหญ่โตที่ย่างสามขุมเข้ามาหา เขาหันหลังวิ่งหนีไม่คิดชีวิต

เมื่อเอวันกำลังพุ่งตัวตามมาด้านหลัง


               ปรมะวิ่งไม่คิดชีวิตไม่ว่าร่างกายจะชนกับต้นไม้หรือเท้าจะกระแทกกับก้อนหิน แต่เอวันก็ยังตามมาและ

กระโจนเข้าใส่ ปรมะถูกมือใหญ่โตกระชากจนร่วงไปนอนกองกับพื้นแล้วคร่อมตัวอยู่บนร่างกายกดหน้าอกเขาจนแทบจม

ดิน


               “เอวัน อย่า ออกไป!”


               เสียงตะโกนอย่างหวาดกลัวไม่ได้ช่วยสักนิดเมื่อเอวันกระชากเสื้อผ้าจนขาดวิ่น ดวงตาสีเขียวเบิกโพลงเมื่อ

ก้มลงมอง ปรมะมองเห็นอวัยวะของมันตื่นตัวจนน่ากลัว


               “ไม่ ช่วยด้วย อย่านะ ใครก็ได้ช่วยที” 


               เอวันคำรามอย่างกระหายมันดันตัวเข้าใส่ช่องทางของปรมะจนสะดุ้งสุดตัว ปรมะอ้าปากค้างเมื่อความเจ็บปวด

แล่นวาบจนร้องไม่ออก ช่องทางคับแคบรัดรึงจนเอวันเบิกตาโต มันกระทุ้งกายเข้าออกจนโลหิตแดงฉานไหลรินอยู่รอบ

ปากทาง ปรมะส่งเสียงร้องจนหมดแรง มือใหญ่กดอยู่ตรงหน้าอกทำให้เขาดิ้นไม่ได้ต้องปล่อยให้มันกระทำจนหนำใจจน

กระทั่งเอวันคำรามยาวเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อร่างกายของมันปลดปล่อยสารออกมาในช่องทางของเขา ปรมะกัดฟันถีบมัน

ออกแล้วซมซานวิ่งหนีในขณะที่มันยังหมดแรง เขาวิ่งไปจนเจอหน้าผากว้าง

               เมื่อหันกลับไปด้านหลังดวงตาสีเขียวยังคงพุ่งตรงมาหา ปรมะตัดสินใจทิ้งตัวลงทะเลลึกเบื้องล่าง เสียงปืน

ไฟฟ้าดังแว่วเข้าหูเมื่อตัวยังคงลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศพร้อมกับเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ปรมะได้ยินเสียงภูริดังแว่วเข้าหู

เป็นครั้งสุดท้าย


               “ปออออ”
               




               ห้าปีแล้วที่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น เมื่อเขาตามไปใช้ปืนไฟฟ้ายิงเข้าแผ่นหลังของไอ้ตัวประหลาดนั่นอย่างจัง

จนมันล้มดิ้นพล่าน แต่เขาก็ช่วยร่างบอบบางที่ลอยตกหน้าผาไม่ทัน ภูริกัดฟันกับความสูญเสียที่เขาได้รับ ทะเลลึกกลืน

ชีวิตของปรมะไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสจะเห็นแม้แต่ร่างกายไร้วิญญาณ อยากจะฆ่าไอ้ตัวประหลาดให้ตายคามือจนเพื่อน

ร่วมงานที่ตามมาต้องรีบห้ามไว้และควบคุมไอ้ตัวประหลาดกลับมายังฐานอีกครั้ง

               ห้าปีแล้วที่เขาต้องจ่อมจมกับความเจ็บปวดมองหน้าไอ้ตัวประหลาดด้วยความแค้น จนกระทั่งในวันนี้ที่มันหนี

ไปได้อีกครั้ง และคราวนี้ภูริจะคร่าชีวิตมันชดเชยให้กับปรมะให้ได้ เขาสาบาน!








               ร่างสูงโปร่งพอๆกับเด็กวัยรุ่นทั่วไปดำผุดดำว่ายอยู่กลางทะเลลึก ผิวที่เคยขาวถูกไอแดดเผาจนออกสีแทน

ลอยตัวอยู่กลางทะเลสีครามอย่างไม่สนใจเปลวแดดสักนิด


               “หยก กลับมาบนฝั่ง”


               เสียงตะโกนของบุรุษที่ยืนเด่นอยู่บนหาดทรายเรียกความสนใจได้เล็กน้อยแต่เจ้าตัวก็ยังเริงร่ากับน้ำทะเลใส

แจ๋ว


               “หยก พ่อบอกให้กลับมาได้ยินไหม หยก นีลสาคร พ่อบอกให้กลับมา”


               เสียงเรียกชื่อจริงทำให้รู้ว่าคนเรียกชักไม่สบอารมณ์ เด็กหนุ่มคลี่ยิ้มมองเห็นฟันขาวกระจ่างก่อนจะว่ายน้ำเข้า

ฝั่งแล้วโผกอดเอวบิดา


               “พ่อโยเรียกหยกมีอะไรหรือเปล่าครับ”


               โยธินหัวเราะเบาๆเมื่อถูกกอดรัด เขาลูบผมดกดำของเด็กหนุ่มอย่างรักใคร่ เด็กหนุ่มที่กอดรัดยอมปล่อยท่อน

แขนแล้วเงยหน้าขึ้นมา

               ดวงตาสีเขียวมองโยธินด้วยความรักไม่แพ้กัน



                                                                               TBC


                                                          :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
               
                                    จบตอนนี้น่าจะเข้าใจกันแล้วเนอะ ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นไง ฮี่ๆๆๆ
                                       หรือว่าใครจะลองสรุปให้หน่อยก็ดีน้า

               
               
               
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-05-2015 22:26:54 โดย Belove »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:  น่าสนุก
พ่อโยยังเลี้ยงลูกด้วยปรอทอยู่รึเปล่าเนี่ย  ไม่อยากให้ภูมาแก้แค้นผิดตัวเลยนะจริงๆ
ว่าแต่คุณแม่ชลล่ะ

ออฟไลน์ LoveYoukissme

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ชักเข้มข้นขึ้นมาแล้วสิ
รอตอนต่อไปค่า
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
จบเรื่องนี้แล้วขอความกรุณาทำบทสรุปให้ด้วย งง ตามไม่ทันเท่าไหร่ อินดี้สุดละเรื่องนี้ 5555

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:  น้องชลไปหน๊ายยยยยยยยยย  แล้วตอนหน้า ภูจะมาเจอตัวหยกสินะ  :z3:

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?


ถูกต้องคร้าบ เก่งมาก
แต่ลูกของชลกับไอ้เอวันชื่อ หยกจ้า ชื่อจริงว่า นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว ขอรับ

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?


ถูกต้องคร้าบ เก่งมาก
แต่ลูกของชลกับไอ้เอวันชื่อ หยกจ้า ชื่อจริงว่า นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว ขอรับ



 เด๊วๆๆๆๆๆ   ตกลงโยเนี่ยคือ เอวันหลอ  จริ๊งงงงงงงงงง  ตกลงยังไง  :m31:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ชล(ปรมะหรือปอ)เคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ คบกับภูริ วันนึงมีสัตว์ประหลาดตัวผู้ที่กำลังท้องจากนอกโลกตกลงมา ตัวโตตายตัวลูกรอด ชื่อ เอวัน  ไปๆมาๆชล(ปอ)โดนเอวันข่มขืนจนต้องโดดลงทะเล จนความจำเสื่อมแล้วไปเจอกับ โยธิน แล้วก็กลายเป็นแฟนกัน แล้วก็ท้องลูกของเอวัน หรือที่ชื่อ โย


ปลล.ประมาณนี้มั้ย?


ถูกต้องคร้าบ เก่งมาก
แต่ลูกของชลกับไอ้เอวันชื่อ หยกจ้า ชื่อจริงว่า นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว ขอรับ



 เด๊วๆๆๆๆๆ   ตกลงโยเนี่ยคือ เอวันหลอ  จริ๊งงงงงงงงงง  ตกลงยังไง  :m31:


เสปิร์มเอวัน แต่โยธินรับเลี้ยงโง

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ท่าภูริจะมาเจอสินะ  ภูริจะมาเอาปรมะ แล้วเหลือหยกให้โยธินหรือเปล่า?
โคตรอินดี้เลยค่ะ

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
เป็นนิยายที่พล็อตโคตรแปลกจริงๆ เลยให้ตายสิ! -O-;; พอจะเข้าใจละ
เรื่องในอดีตเฉลยออกมาแล้ว ทีนี้ก็เหลือให้เรื่องในปัจุบันดำเนินต่อไป (รึเปล่าหว่า?)
ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะจบยังไง และใครเป็นพระเอก!
เป็นกำลังใจให้ค่าาา

ออฟไลน์ Gamyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
คล้ายหนังเรื่องนึงที่เคยดูเลยค่ะ ชื่อเรื่องว่า splice อ่ะค่ะสนุกมากค่ะชอบเรื่องแนวนี้อยู่แล้วด้วย เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ ติดตามทุกเรื่องเลย :impress2: :mew1:

ออฟไลน์ ekuto

  • ถ้าวันไหนไม่เข้ามาในเล้า วันนั้นเหมือนชีวิตขาดบางอย่าง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-5
สุดยอดดดดดด  เรียบเนื้อเรื่องได้อินสุดๆ

รอตอนหน้าครับ

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
โอ้โห อย่างอินดี้เลยเรื่องนี้สนุกค่ะๆ โดยรวมเราเข้าใจแจ่มเลยว่าทำไม่หยกตาสีเขียนแล้วก็ชอบกินปรอท
อดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าปอได้เจอกับภูริอีกครั้งจะเป็นไงนะภูริคงจะแค้นมากจริงๆแล้วที่เอวังหนีไปได้คงจะออกไปตามหาลูกตัวเองชัว :katai5:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ไม่งงนะที่คนแน่งต้องการจะสื่อ
แต่ลุ้นตอนจบนี่สิว่าจะเป็นยังไง
ว่าแต่เอวันหนีออกมาตามหาปอหรือเปล่า

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อ่อ เข้าใจเรื่องโดยรวมทั้งหมดแล้วววว เย้!!
แต่ว่าตอนนี้ ชล ไปไหนน๊า
แล้วจะจบยังไงเนี่ย รักสามเศร้า สี่เศร้าของคนกับสัตว์ประหลาดหรอเนี่ย มีลูกด้วยนา ตาเขียวๆๆ =_=

ออฟไลน์ miniminiXD

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 313
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
กรี๊ดดดด ไม่ได้เข้ามาอ่านเลยยย
เรื่องแรกจบด้วยดี
เรื่องนี้มาเจ้มจ้นนนนมากกกกกก

ออฟไลน์ ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
เดาทางไม่ถูกเลย  :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เคยดูหนังแนวๆนี้เลย นักวิทยาศาสตร์ผัวเมียเลี้ยงสัตว์ประหลาดเพศเมีย พอมันโตก็มีความต้องการ จะมีอะไรกับสามีเขา แต่ก็ไม่ได้ พอหวิดไป มันดันกลายร่างเป็นตัวผู้จะเอาเมียเขาอีก แถมสำเร็จ ฆ่าผัวเขา แล้วก็ทิ้งเด็กในท้องไว้ให้ผู้หญิงดูต่างหน้า  พออ่านตั้งแต่เจอภูริกับปอ แล้วมีตัวประหลาดโผล่มาเลยเริ่มเข้าใจเนื้อเรื่องและ แต่ก็เดาอะไรไม่ได้อยู่ดีนะ คนเขียนทำไรเหนือความคาดหมายเสมอ รีบมาต่อนะ รออยู่

ออฟไลน์ Oo๐FosfoggY๐oO

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
หรือเอวันจะหลงรักปอ

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                         ตัวประหลาด

                                                             บทที่ 5


               นีลสาคร แปลว่า ทะเลสีเขียว

               หยกรักชื่อจริงของเขาที่พ่อตั้งให้ เพราะหยกรักทะเล

               หยกคืออัญมณีที่มีทั้งความแข็งแกร่งและอ่อนโยนอยู่ในเนื้อเดียวกัน


               “พ่ออยากให้หยกเป็นเด็กที่เข้มแข็งแต่ก็อ่อนโยนเหมือนกับชื่อ”


               พ่อบอกอย่างนั้นและหยกก็จำขึ้นใจ

               ความจริงหยกก็จำทุกๆคำสอนที่พ่อพูดอยู่เสมอ รวมทั้งความรู้ต่างๆที่พ่อคอยสอนให้เขาอ่านออกเขียนได้

แม้ว่าจะไม่เคยไปเรียนในโรงเรียน พ่อบอกว่าหยกเป็นเด็กพิเศษที่ไม่จำเป็นต้องไปเรียนกับคนอื่นแค่มีพ่อสอนก็พอแล้ว

หยกก็คิดว่าอย่างนั้นเพราะถ้าหยกไปเรียนในโรงเรียนเล็กๆกลางหมู่บ้านคงกลายเป็นตัวประหลาดแน่ๆ

               จะไม่ให้ประหลาดได้อย่างไรก็ในเมื่อพ่อบอกหยกว่าหยกเพิ่งจะมีอายุครบห้าขวบแต่ตัวกลับโตเท่ากับพี่ชัย

ลูกชายลุงชิดผู้ใหญ่บ้านที่อายุสิบห้าแทนที่จะตัวเท่ากับเจ้าจิ๋วลูกน้าดาที่เกิดใกล้เคียงกัน แถมหยกยังมีเรี่ยวแรงเกินตัว

ขนาดยกของหนักได้ทีเป็นร้อยกิโลแบบสบายๆ นี่อาจเป็นสาเหตุที่พ่อต้องย้ายบ้านที่อยู่ติดกับชายหาดแล้วย้ายไปสร้าง

ใหม่จนไกลลึกเข้าไปในเกาะเพื่อหลีกเลี่ยงจากสายตาคนอื่นที่ชอบสอดรู้สอดเห็น บ้านดินของหยกเป็นบ้านชั้นเดียวมุง

ด้วยทางมะพร้าวรอบบ้านรายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่บดบังตัวบ้านไว้ภายในมีสองห้องนอนกับอีกหนึ่งห้องโถงกว้าง

ห้องนอนหนึ่งคือห้องของหยกส่วนอีกห้องหนึ่งคือห้องของพ่อโยธินและแม่ชลของเขา

               พูดถึงแม่ชลรอยยิ้มก็เกิดขึ้นมาจนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้ม แม่ของหยกเป็นผู้หญิงที่แปลกไม่แพ้กันกับหยก หยก

นึกถึงผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งปล่อยผมยาวสยายที่มักจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าของชาวพื้นเมืองแต่แม่ก็ยังงดงามผิดแผกไป

จากหญิงชาวบ้านทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ก็แม่ของหยกสวยหวานขนาดนั้นมันย่อมแตกต่างอยู่แล้วแต่มันจะดีกว่านี้ถ้าแม่

ของหยกจะเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงหวานเหมือนหน้าตาให้หยกได้ยินบ้าง


               ใบหน้าสดใสกลับหมองลงเมื่อคิดถึงตรงนี้ ตั้งแต่เกิดมาหยกไม่เคยได้ยินเสียงพูดของแม่นอกจากเสียงอือๆ

อาๆที่แม่พยายามเปล่งออกมา พ่อบอกว่าเสียงของแม่หายไปตั้งแต่วันที่คลอดหยกพ่อพยายามค้นหาสาเหตุและรักษา

แม่แต่ก็ไม่สำเร็จ หยกอยากให้แม่พูดได้ มันจะดีแค่ไหนถ้าหยกได้ยินเสียงแม่บอกรักหยก


               “ได้ปลามาเยอะหรือเปล่า”


               พ่อโยถามเมื่อพวกเขาเดินลึกจากชายฝั่งเข้ามาจนเกือบจะถึงตัวบ้าน หยกคลี่ยิ้มกว้างเมื่อยกกระชังที่สะพาย

อยู่บนบ่าอวดพ่อ


                “เยอะสิพ่อ คราวนี้พ่อทำปลาเผาให้แม่กินได้อีกหลายวัน”


               “เก่งมาก ไม่เสียแรงที่เป็นลูกพ่อ”


               พ่อโยวางมือมาบนบ่าที่เตี้ยกว่าพ่ออยู่แค่เล็กน้อยแล้วพากันเดินเข้าไปในบ้านที่มีหญิงคนหนึ่งนั่งอ่านหนังสือ

อยู่บนเก้าอี้สานอยู่ริมหน้าต่าง เมื่อมองเห็นพ่อและลูกเดินกอดคอกันมาหนังสือในมือก็ถูกวางลงบนโต๊ะตัวเล็กที่อยู่ด้าน

ข้างก่อนจะยืนขึ้นแล้วส่งรอยยิ้มต้อนรับ รูปร่างสูงเพรียวสวมใส่เสื้อคอวีลายดอกดวงสะดุดตาและผ้าถุงสีสดยาวกรอมเท้า

เช่นเดียวกับผู้หญิงบนเกาะ ผมสีดำสนิทเฉกเช่นนัยน์ตาของเธอปล่อยยาวสยายถึงกลางหลังยิ่งส่งใบหน้าหวานให้ยิ่ง

งดงาม


               “แม่จ๋าหยกกลับมาแล้ว”


               หยกวิ่งเข้าไปแล้วสวมกอดร่างบางอย่างแสนรัก มือเรียวของแม่วางไว้บนหัวพลางลูบเบาๆหยกยิ้มกว้างก่อน

จะเงยหน้าขึ้นมองมารดา แต่ทันใดนั้นทั้งหยกและพ่อโยก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงร้องไม่เป็นภาษาดังขึ้นพร้อมกับแม่ชล

ที่ยืนตัวแข็งเหงื่อแตกซิกๆ พ่อโยรีบวิ่งมาแยกหยกกับแม่ออกจากกันแล้วกอดแม่ไว้แน่น พ่อหันมาทางหยกเพ่งมอง

ใบหน้าเขม็ง


               “หยก รีบไปใส่คอนแทกเลนส์เร็วเข้า”


               ไม่ต้องเอ่ยซ้ำ หยกรีบวิ่งไปที่หน้าโต๊ะกระจกบานมัวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้องโถง บนโต๊ะมีกล่องคอนแทก

เลนส์ตั้งอยู่จำนวนมาก หยกรีบคว้ามันมากล่องหนึ่งแล้วเปิดมันออกใส่เข้าไปในดวงตาอย่างชำนาญ

เท่านี้ดวงตาสีเขียวของหยกก็กลายเป็นสีดำ


                “แม่ชล แม่ชลจ๋าหยกขอโทษ ลืมตามองหยกสิครับ ตาหยกเป็นสีดำแล้วนะ”


               หยกคว้ามือนุ่มของแม่มากุมในขณะที่แม่ยังนั่งตัวสั่นอยู่บนเก้าอี้โดยที่มีพ่อโยกอดปลอบโยน ใบหน้าของแม่

ซีดเผือดเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนหยกต้องเอ่ยปากประโยคเดิมอีกหลายครั้งกว่าแม่จะยอมเปิดเปลือกตาขึ้นมามอง

เมื่อเห็นหยกที่มีดวงตาสีดำร่างสั่นเทาก็ค่อยๆบรรเทาลงแต่กว่าจะเป็นปกติก็ใช้เวลาพักใหญ่


               บางทีหยกก็เกลียดดวงตาของตัวเองที่ทำให้แม่ไม่รัก


               “หยกอยากจะควักลูกตาตัวเองทิ้ง”


               หยกพูดกับพ่อโยเมื่ออยู่กันตามลำพัง พ่อโยให้แม่ชลกินยาคลายเครียดแล้วพาไปนอนพักอย่างเช่นทุกครั้งที่

เกิดเหตุการณ์นี้ เมื่อแม่ชลหลับแล้วพ่อโยจึงได้ออกมาจากห้อง


               “หยกไม่อยากให้แม่ชลเกลียดหยกเพราะว่าไอ้ดวงตาที่เป็นสีเขียวไม่เหมือนคนอื่น เป็นตัวประหลาดใน

สายตาคนอื่นน่ะหยกทนได้ แต่หยกไม่อยากเป็นตัวประหลาดในสายตาแม่”


               น้ำใสรื้นไปทั้งหน่วยตาของใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคลึงมารดาแทบไม่มีผิดเพี้ยนยกเว้นลักยิ้มที่บุ๋มเข้าไปใน

แก้มเนียนใสของหยก พ่อโยถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางวางมือลงมาบนหัวของหยกแล้วโยกเบาๆ


               “อดทนนะหยก พ่อเองก็ไม่รู้ว่าทำไมแม่ชลของหยกถึงได้กลัวดวงตาสีเขียวนัก แต่หยกเชื่อพ่อเถอะว่าแม่เขา

ไม่ได้เกลียดหยกแน่ๆ”


               พ่อโยพูดให้หยกคลายความเศร้า หยกเอียงหัวซบลงกับไหล่ของพ่อแล้วร้องไห้ออกมา

               





               “พ่อโย หยกไปว่ายน้ำนะครับ”


               “อย่าไปไกลนักนะหยก ช่วงนี้ลมมรสุมกำลังเข้า”


               พ่อโยเตือนไล่หลังในวันรุ่งคืนเมื่อความสดใสกลับคืนมาสู่บ้านหลังน้อย แม่ชลตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยอาการที่

เป็นปกติหยกเข้าไปกอดรัดคลอเคลียกินอาหารเช้าฝีมือพ่อโยด้วยกันจนอิ่มท้องหยกจึงได้วิ่งไปที่ทะเล


               หยกรักทะเลเหมือนพ่อโย หยกชอบที่จะแหวกว่ายอยู่ในน้ำทะเลสีครามพลางก้มหน้าลงไปมองปะการังและ

เหล่าฝูงปลาตัวน้อยที่ยังสวยสดอยู่ข้างใต้ เรี่ยวแรงของหยกมีมากขึ้นทุกวันจนสามารถว่ายไปลึกจนสุดลูกตาโดยที่พ่อ

โยยังไม่รู้เพราะหยกไม่อยากให้พ่อโยต้องเป็นห่วง อย่างวันนี้ก็เช่นกันที่หยกลอยคออยู่กลางทะเลท้าทายแสงแดดที่

จัดจ้าขึ้น แต่แล้วความสนุกของหยกก็ชะงักเมื่อหยกมองเห็นควันไฟสีดำพวยพุ่งอยู่ห่างไปไกลลิบ


               “ควันอะไรหวา”


               ด้วยความอยากรู้จนลืมความระมัดระวังหยกจึงว่ายตรงไปยังกลุ่มควันนั้นอย่างไม่รีรอ ภาพเรือติดเครื่องยนต์

ไม่ใหญ่นักเริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดขึ้นเมื่อหยกว่ายเข้าไปใกล้ ควันดำพวยพุ่งมาจากด้านหลังที่หยกคาดว่าน่าจะเป็นถัง

น้ำมันเชื้อเพลิง หยกลอยคอว่ายไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าเปลวไฟสงบลงแล้วจนไม่น่ามีอันตรายหยกจึงค่อยๆปีนขึ้นไปบน

กราบเรือ



              “เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นวะ”


               หยกอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างกายไร้การเคลื่อนไหวกระจัดกระจายกันอยู่ราวสี่ถึงห้าคน หยกจรดเท้าก้าว

ย่องทีละนิด เขารู้ว่าร่างกายเหล่านี้ไม่มีการหายใจอีกต่อไปแล้วด้วยสภาพบาดเจ็บจนโลหิตสีแดงฉานเจิ่งนองเต็มพื้นเรือ

ไปหมด


               “ฮัก  ฮัก”


               หยกหันขวับไปมา หูพยายามเงี่ยฟังแหล่งที่มาของเสียงนั้น ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นชายคนหนึ่งนอน

คว่ำหน้าอยู่กับพื้นเรือ ใบหน้าด้านข้างเต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรังจนแทบมองไม่เห็นใบหน้าแท้จริง หยกรีบก้าวตรงไปย่อ

ตัวลงพลิกให้ร่างชายคนนั้นนอนหงายหายใจรวยรินอยู่บนตักของเขา


               “คุณ คุณ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ”


               เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหลือเกินสำหรับผู้ชายที่น่าสงสารที่ยังคงมีลมหายใจอยู่เพียงคนเดียวบนเรือลำนี้เมื่อหยก

หันไปเห็นท้องฟ้าที่เคยจัดจ้าด้วยแสงแดดกลับกลายเป็นมืดคลึ้มด้วยเมฆดำที่ก่อตัวหนาจัด เรือเริ่มเอียงไปมาเพราะ

คลื่นที่แรงขึ้นเพราะแรงลม


               “ซวยฉิบ”


               หยกสบถออกมาก่อนจะวางร่างของชายคนนั้นไว้กับพื้นเรือแล้วรีบหาทางแก้ไข หยกวิ่งไปมองเชื้อเพลิงที่ยัง

พอหลงเหลืออยู่อีกนิดหน่อยพลางหันขวับไปรอบๆ จำได้ว่าพ่อโยเคยชี้ให้ดูเกาะร้างที่เคยเป็นเกาะสัมปทานรังนกที่บัดนี้

ไม่มีคนอาศัยแล้วอยู่แถวนี้ หยกรีบมองหาทิศทางที่เขาจำได้


               “ขอโทษนะ แต่มันจำเป็นจริงๆ”


               หยกขออโหสิกรรมให้กับร่างไร้วิญญาณที่นอนเกลื่อน เขายกร่างเหล่านั้นลงทะเลอย่างง่ายดายจนเหลือ

เพียงคนที่ยังมีชีวิตอยู่เพียงผู้เดียว หยกวิ่งไปที่คันบังคับมองเข็มทิศจนมั่นใจแล้วจึงติดเครื่องยนต์อย่างที่พ่อโยเคยให้

เขาขับ เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นอย่างไม่เต็มใจนักแต่หยกก็รีบบังคับให้มันแล่นไปยังทิศทางที่ต้องการ

               น้ำมันอันน้อยนิดแต่ก็เพียงพอให้เรือแล่นเข้ามายังเกาะร้างที่อยู่เบื้องหน้าได้ เสียงเครื่องยนต์สะดุดสองสาม

ครั้งแล้วจึงดับสนิท ลมพายุพัดจนเรือเอียงวูบสายฝนกระหน่ำลงมาเม็ดโตจนหยกต้องรีบแบกร่างที่น่าจะสูงกว่าเขาขึ้น

พาดบ่าแล้วกระโจนลงน้ำทะเลเพื่อที่จะเข้าไปหลบลมมรสุมบนเกาะ กระท่อมเล็กสำหรับให้คนงานเก็บรังนกอาศัย

กระจัดกระจายอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งนัก หยกรีบตรงไปยังกระท่อมหลังที่สภาพดูดีที่สุดแล้วว่างร่างคนบาดเจ็บลงให้

เหยียดตัวนอนหงายกับพื้นกระท่อมโล่ง


               คุณพระ!


               หัวใจของหยกเต้นโครมครามจนต้องยกมือมากุมหน้าอกด้านซ้ายเมื่อมองเห็นใบหน้าของคนที่เขาเพิ่งจะช่วย

มาชัดๆ สายฝนที่เทลงมาช่วยชะล้างคราบเลือดให้หมดไปจนเผยให้เห็นใบหน้าคมและจมูกโด่งนั้น หยกสาบานได้ว่าเขา

เพิ่งเคยเห็นผู้ชายคนนี้เป็นครั้งแรก หยกไม่เข้าใจอาการของตัวเองที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย


               หยกตัวสั่นเมื่อเอื้อมปลายนิ้วไปสัมผัสเปลือกตาที่ปิดสนิทมันยิ่งทำให้หัวใจของหยกเต้นรัว ดวงตาสีเขียวที่

ซ่อนอยู่ภายใต้คอนแทกเลนส์สีดำกลอกไปมาเมื่อรู้สึกว่าอยู่ๆร่างกายของหยกก็ร้อนวูบวาบราวกับเลือดในกายจะวิ่ง

พล่านไปทั่วทั้งตัว ยิ่งได้จ้องมองใกล้ๆ เนื้อตัวของหยกก็ยิ่งสั่นสะท้าน ความรู้สึกแปลกๆจู่โจมเวียนวนจนยากที่จะอธิบาย


               “อะ แค่ก แค่ก”


               คนบาดเจ็บไอออกมา เศษเลือดเก่าทะลักออกจากปากจนหยกผวาเข้าไปประคองไว้ หยกใช้มือตบหน้าชาย

คนนั้นเบาๆ


               “คุณๆ ตื่นสิ”


               ตัวร้อนผ่าวด้วยพิษไข้ ริมฝีปากแตกซีดเมื่อหยกเช็ดคราบเลือดออกจนหมด หยกรู้ว่าร่างกายนี้กำลังต้องการ

น้ำจืดเพราะพ่อของหยกเคยสอนไว้ หยกละล้าละลังแต่จำต้องวางร่างนั้นคืนลงกับพื้นกระท่อมก่อนแล้วจึงวิ่งตื๋อลงจาก

กระท่อมพลางมองหาใบไม้ที่ใหญ่พอจะรองรับน้ำฝนได้ หยกประคับประคองให้น้ำจืดที่เขารองมาด้วยใบไม้มาถึงชาย

บาดเจ็บได้มากที่สุด หยกค่อยๆเทน้ำลงใส่ริมฝีปากแตกระแหงที่เผยอรอรับอย่างกระหาย จนเมื่อน้ำจืดหมดชายบาดเจ็บ

ก็หยุดกระสับกระส่ายและหลับไปอีกครั้ง


               ทั้งลมทั้งฝนพัดกระหน่ำไม่ขาดระยะจนกระท่อมสั่นไหว หยกถลาเข้ากอดคนบาดเจ็บด้วยความเป็นห่วงจับใจ

ร่างกายนั้นยังคงร้อนผ่าวเพราะไข้สูงหยกกอดร่างนั้นแนบหน้าลงกับอกกว้างที่เสื้อผ้าขาดวิ่น ความมืดเข้าปกคลุมทีละ

นิดเสียงสายฝนจางลงจนกระทั่งขาดเม็ด กว่าลมมรสุมจะหยุดหยกก็อยู่ท่ามกลางความมืดสลัวยามโพล้เพล้กับชาย

แปลกหน้า


               เสียงอืออาดังแผ่ว หยกเบิกตากว้างวางมือแนบบ่ากว้างเขย่าตัวอย่างยินดี


               “คุณ ตื่นสิ”


               เปลือกตาเต้นระริกก่อนจะเปิดขึ้นมาอย่างยากเย็น นัยน์ตาแดงก่ำเพราะพิษไข้ยังคงเลื่อนลอยเมื่อมองมายัง

ใบหน้าเนียนที่อยู่ใกล้แค่คืบ มือใหญ่ซีดเย็นค่อยๆยกขึ้นมาวางแนบแก้มใสช้าๆ ริมฝีปากแห้งผากขยับแผ่วเบา


               “คุณพูดอะไรนะ”


               หยกยิ่งเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้จนลมหายใจร้อนริดรดอยู่ตรงแก้มเพื่อเงี่ยหูฟังคำพูดอ่อนระโหยนั้น


               “ปอ ปอออ กลับมาแล้ว”


               หยกกลั้นใจเมื่อกรอบหน้าถูกรั้งเข้าหา กลีบปากนุ่มถูกประทับแนบด้วยปากซีดช้าๆ ความร้อนระอุของผิวกาย

ปะทุแข่งกับคนมีไข้เมื่อแผ่นหลังถูกโอบกระชับลิ้นหยุ่นที่ยื่นเข้ามาทำให้หยกยิ่งสั่นสะท้านอย่างควบคุมร่างกายไม่ได้


               จริงๆแล้วแค่ผลักไสด้วยปลายนิ้วก็คงสามารถหลุดจากความใกล้ชิดนี้ได้ทันที แต่ไม่รู้เพราะอะไรร่างกายของ

หยกจึงมีปฏิกิริยาตอบรับกับสัมผัสจากผู้ชายคนนี้ ที่ราวกับคุ้นเคยกันมาเนิ่นนาน แค่เพียงมือร้อนแตะไล้ไปตามแผ่นอก

เปลือยเปล่าคร้ามด้วยไอแดดของหยกก่อนจะผลักเบาๆพลิกให้หยกกลายเป็นฝ่ายหงายลงจนแผ่นหลังเสียดสีกับพื้น

กระท่อมแล้วร่างที่สูงกว่าก็พลิกกลับมาทาบทับอยู่เบื้องบนหยกยังหมดปัญญาจะห้ามปราม


               “ดะ เดี๋ยว เดี๋ยวสิ จะทำอะไร อ๊ะ”


             


มีต่ออีกนิด...




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-05-2015 00:32:35 โดย Belove »

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove
ต่อกันตรงนี้





                    คราวนี้เรียวปากถูกครอบครองไว้ทั้งหมด กลีบปากนุ่มถูกไล่ขบเม้มง้างงับก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปยามหยก

เผลอไผล หน้าท้องแบนราบของหยกถูกมือข้างหนึ่งวางแนบลงไปหยกถึงกับสะดุ้งผิวกายไปตามรอยมือ เลือดในกายวิ่ง

พล่านจนยากจะควบคุมในหัวของหยกไร้ซึ่งการสั่งการ มันมีแต่สัญชาตญาณที่กำลังขับเคลื่อนเมื่อคนบาดเจ็บลากปาก

ลงมาเม้มที่เนินเนื้อเหนือแผ่นอก หยกถึงกับผวาและเป็นฝ่ายกระชากเสื้อผ้าขาดวิ่นอยู่แล้วให้หมดไปจากร่างกายที่เต็ม

ไปด้วยร่องรอยบาดเจ็บและเบียดกายเข้าหา


               “ปอ ผมรักคุณ”


               เสียงกระซิบดังแว่วจนแทบจับใจความไม่ได้ หยกสะดุ้งเฮือกเมื่อคนบาดเจ็บงับปากลงตรงเนินสามเหลี่ยม

ก่อนจะลากลิ้นลงไปถึงจุดอ่อนไหว หยกแหงนหน้าหายใจถี่เสียวกายซาบซ่านจนหลังไม่ติดพื้น มือเรียวเสยเข้ากับกลุ่ม

ผมเปียกชื้นแล้วขยุ้มสุดแรงเมื่อกางเกงขาสั้นของหยกถูกรูดรั้งลงจนองคาพยพขนาดเหมาะมือเด้งอวดกายชู่ช่อล้อเล่น

อยู่กับปลายลิ้นที่แตะไล้


               “อะ อือ คุณ ผม อื๊อออ”


               บิดตัวพล่านไปหมดเมื่อช่องปากอุ่นครอบลงมาทีละนิด หยกอ้าขากว้างตั้งฉากเปิดทางให้อีกฝ่ายกลืนกินไป

จนหมด หยกสะท้านไปทั้งตัวเมื่อเขาคนนั้นเม้มปากรูดรั้งช้าๆปลุกอารมณ์แห่งความเป็นมนุษย์จนระอุร้อนอย่างที่หยกไม่

เคยพบพาน กล้ามเนื้อหดรัดจนปวดเกร็งเมื่อปากร้อนรูดยาวครั้งสุดท้ายเสียงครางสั่นพร่าก็ดังออกมาจากปากเมื่อ

ของเหลวสีขาวปนเขียวทะลักออกมาจนไหลรินย้อนกลับมาเปียกชื้นอยู่รอบแท่งเนื้อร้อนของหยก


                ยังไม่ทันตั้งตัวร่างสูงที่อยู่ระหว่างขาก็เลื่อนตัวขึ้นมา ดวงตาเรียวของหยกเบิกกว้างกว่าเดิมเมื่อท่อนขาถูก

ผลักจนส้นเท้าชิดก้น ช่องทางด้านล่างหดรัดอัตโนมัติเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสดุนดันที่ประตูทางเข้า


               “ปอ อย่าเกร็ง เราจะมีความสุขด้วยกันไงครับ”


               ไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องทำตามแต่หยกก็หลับตาสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆเมื่อรับรู้ถึงการเคลื่อนไหว แท่งเอ็นร้อน

ผ่าวชำแรกแทรกตัวเข้ามาด้วยปลายบานจนหยกถึงกับน้ำตาไหล สองแขนผวากอดรัดร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลแล้ว

ส่งเสียงร้องลั่น


               “อ๊า เจ็บบบบ”


               ริมฝีปากถูกปิดลงอีกครั้ง ลิ้นหยุ่นชื้นตวัดพันเกี่ยวไปมาดึงความสนใจ สะโพกหนั่นแน่นถูกยกขึ้นสูงเมื่อชาย

บาดเจ็บยังคงดันตัวเปิดทางด้วยความเร็วคงที่ เสียงร้องถูกดูดซับจนเหลือเพียงเสียงอื้ออึงจนกระทั่งถุงเนื้อแฝดถูก

กระแทกเบาๆ ความเจ็บปวดที่ไม่เคยรู้จักจึงได้พอจางหายเหลือทิ้งไว้คือความเสียวซ่านสยิวกายจนต้องยกสองขาเกี่ยว

พันไปรอบเอวราวกับเด็กขาดความอบอุ่น เสียงครางต่ำแหบพร่าดังลอดมาจากลำคอของชายแปลกหน้าเมื่อช่องทาง

ของหยกบีบรัดจนอึดอัด เขาคนนั้นดึงท่อนลำออกมาให้พอหายใจก่อนจะกระแทกกลับเข้าจนสุดโคน


               “อื้อออ”


               หยกน้ำตาไหลริน ความเจ็บปวดแล่นเป็นริ้วสลับกับความต้องการที่ถาโถมเข้าใส่ เส้นเอ็นถูไถเสียดสีอยู่

ภายในจนเริ่มฉ่ำชื้นให้ความเจ็บปวดบรรเทาเบาบางจนแทบไม่หลงเหลือและทดแทนด้วยความกระสัน หยกยกก้นให้ยิ่ง

สูงจนท่อนเนื้อสอดลึกยามกระแทกกระทั้น ลมหายใจของหยกร้อนระอุเนื้อตัวบีบเค้นแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ


               “อา ปอ เสียวเหลือเกิน”


               เสียงพึมพำดังอยู่แถวยอดอกเมื่อชายบาดเจ็บวนกลับมาครอบครองด้วยปลายลิ้นรัวเร็ว หยกแอ่นกายให้เขา

ละเลงจนเปียกชุ่ม เนื้อกระทบเนื้อดังแว่วจนหยกยิ่งทะยานอยาก เอวคอดเด้งสวนกลับกระชากอารมณ์ให้ถึงฝั่งฝัน


               “โอ๊ะ ปวด มันจะ อ๊ะ”


               หยกชะงักค้างกลั้นหายใจเมื่อกล้ามเนื้อบีบพรวดออกมาเปียกชุ่มโชก ชายบาดเจ็บส่งเสียงคำรามลั่นเขาเงย

หน้าเลื่อนตัวกระแทกกระทั้นรัวจนกระทั่งร่างกายสั่นไปหมดเมื่อทะยานถึงความหฤหรรษ์


               ร่างสูงโอนเอนตัวทิ้งลงซบไปกับร่างกายของหยกที่ยังไม่หยุดหอบ หยกกัดริมฝีปากจนห้อเลือดเมื่อเขารับรู้

ว่าสิ่งที่ใครๆเรียกกันว่าความบริสุทธิ์ถูกพรากไปจนหมดสิ้นจากผู้ชายที่หยกยังไม่รู้แม้แต่ชื่อของเขา
               


                                                    TBC


                                                  :o12: :o12: :o12: :o12:







               

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เปิดมาอีกทีน้องหยกป้าเสียจิ้นแล้วซะงั้น
แหม่ ได้ทั้งแม่ทั้งลูกเลยนะคะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
เอาละสิ  อิรุงตุงนังแล้ว  ภูริมาตามปอ แต่ได้หยก  ชลอยู่กับโยแต่จะไปกับภูริหรือเปล่านี่สิ  โยรักชลแน่ๆ  ไม่รู้สิเรายังเชื่อว่าพ่อของหยกยังอยู่นะ โยหรือเปล่าก็ไม่รู้

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
โห ปมความสัมพันธ์ยิ่งอินุงตุงนังเข้าไปอีก ดูท่าหยกจะชอบภูรินะเนี่ย แล้วทำไมชลหลังคลอดลูกแล้วถึงพูดไม่ได้อ่ะ? (รอเฉลย) แล้วหยกรู้รึเปล่าว่าชลเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงอ่ะ (ทำไมฉันมีแต่คำถาม -0-;)
รองับบบ เป็นกำลังใจให้จ้า

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
ยุ่งกันไปอีก

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
โห เอาเข้าไปๆ ความสัมพันธ์ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากอ่ะบอกเลย รอตอนต่อไปจ้า
ชักอยากจะรู้แล้วว่าจะจบยังไงนะเรื่องนี้  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด