เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว  (อ่าน 534358 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
« เมื่อ07-01-2015 22:47:55 »

ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)







******************************************************************




พบเจอกับกระผมอีกแล้วนะครับ แหะๆ วันนี้เอานิยายอีกเรื่องมาฝาก


ออกแนวคู่รักโคตรนิ่งกับชีวิตในรั่วมหาลัย


ไม่รู้ว่าจะเบื่อแนวนี้กันมั้ย แต่ผมว่ามันก็ค่อนข้างต่างนะ


เพราะอีกเรื่องนึงเป็นแนวผู้ชายท้องได้ แต่เรื่องอิงความเป็นจริงมากกว่า อิอิ


ยังไงก็ ขอฝากฝังนิยายเรื่องนี้ให้คุณผู้อ่านได้ติดตามด้วยนะครับ







นิยายที่ Pawaree แต่ง


นี่แหละ...ที่เขาเรียกว่า 'ความรัก'
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้
[/size]

ก่อนอื่นเลย ต้องขอบคุณ คุณผู้อ่านที่น่ารักอย่างคุณmonetacaffeine ด้วยนะครับ ที่ใจดีทำสารบัญมาให้ ทำให้นิยายเรื่องนี้มีสารบัญแล้วครับ ต้องขอบคุณมากๆจริงๆครับ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


สารบัญ

บทนำ
ตอนที่ 1
ตอนที่ 2
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4
ตอนที่ 5
ตอนที่ 6 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 6 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 7 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 7 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 8 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 8 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 9 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 9 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 10 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 10 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 11 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 11 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 12 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 12 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 13 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 13 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 14 (ครั้งแรก)
ตอนที่ 14 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 15 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 15 (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 16 (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง
ตอนที่ 17 ครึ่งแรก
ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง
ตอนที่ 18
ตอนที่ 19
ตอนที่ 20
ตอนที่ 21
ตอนที่ 22
ตอนที่ 23
ตอนที่ 24
ตอนที่ 25
ตอนที่ 26
ตอนที่ 27
ตอนที่ 28
บทส่งท้าย





TBL-425-920

เปิดจองและโอนเงินตั้งแต่ วันที่ 24 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2558
เริ่มจัดส่งหนังสือให้ตั้งแต่ วันที่ 20 กันยายน – 5 ตุลาคม 2558
ระยะเวลาที่จะได้รับหนังสือโดยประมาณ วันที่ 25 กันยายน - 12 ตุลาคม 2558





รายละเอียดหนังสือ

                              ขนาด A5 จำนวนเล่ม 1 เล่ม

                              ราคา 425 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียน/ห่อกันกระแทกใส่ซอง)

                              ของแถม จะแจ้งอีกครั้งที่หน้าเว็บ

                              สั่งจองได้ที่ Pre-order เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว

                              และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ FANPAGE









จุ้บ
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-10-2015 21:51:51 โดย Pawaree »

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
«ตอบ #1 เมื่อ07-01-2015 22:54:29 »

บทนำ










ขาเรียวยาวก้าวลงจากแท็กซี่ สัมภาระทั้งหมดที่ตัวเองมีถูกวางอยู่ข้างๆกายของเขา ตรงหน้าคือบ้านหลังขนาดกลาง แต่พื้นที่รอบบ้านค่อนข้างเยอะกว่าบ้านหลังอื่นๆ




สายตาของร่างสูงจับจ้องไปยังภาพเบื้องหน้า นี่คือบ้านหลังใหม่ของเขา พี่สาวของเขาได้แต่งงานกับแฟนหนุ่ม และกำลังตั้งท้องได้สามเดือน และเมื่อแต่งงานแล้วย้ายเข้ามาอยู่บ้านที่เป็นเรือนหอ พี่สาวของเขาก็ชวนเขามาอยู่ด้วย เนื่องจากเหลือกันแค่สองคน แต่เขาก็ไม่ได้ย้ายมาทันที เพราะว่าค่าห้องก็พึ่งจะจ่ายไป เลยขอผลัดมาเป็นสิ้นเดือน แล้วค่อยย้ายออกจากหอที่อยู่ใกล้มหา’ลัยกับพี่สาว และก็พี่เขย แม้ในใจไม่ค่อยอยากจะมา เพราะอยู่แถวนั้นก็สะดวกดี แต่เห็นว่าพี่สาวตัวเองกำลังท้องกำลังไส้ เลยไม่อยากขัด กลัวว่าจะมีผลกระทบถึงหลาน




ร่างสูงโปร่งหายใจเข้าเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปกดกริ่งหน้าบ้าน ไม่นานนัก ร่างสูงของพี่เขยก็เดินออกมารับเขา




“ตาลกำลังนอนพักอยู่นะ ‘ติณณ์’ เข้ามาก่อนเลย เดี๋ยวพี่ช่วยขนของ” พี่เขย หรือ ‘ปาร์ตี้’ เอ่ยขึ้นพลางยกยิ้ม เพราะทุกวันนี้ภรรยาของเขาเอาแต่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่น้องชายของตนจะมาสักที




“ครับ ขอบคุณครับ” คนพูดน้อยอย่างติณณ์พูดแค่นั้น ก่อนจะขนของเข้าบ้าน




“ตาลได้บอกติณณ์มั้ย ว่าพี่ก็จะพาน้องชายพี่เข้ามาอยู่ด้วย แต่ว่า...น้องพี่นอนห้องเดียวกันกับติณณ์นะ ติณณ์คงจะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย” ปาร์ตี้เอ่ยอย่างเกรงใจ เพราะตอนแรกที่แพลนเอาไว้ จะมีเพียงติณณ์เท่านั้นที่เข้ามาอยู่ เขาจึงทำบ้านให้มีแค่สองห้องนอน แต่เมื่อไม่นานมานี่ หอพักที่น้องชายของเขาพักอยู่เกิดไฟไหม้ คนเป็นพี่อย่างเขาจึงชวนน้องชายเข้ามาอยู่ด้วย อีกนัยนึงเขาก็อยากอยู่กับน้องชายของเขาบ้าง เนื่องจากพ่อและแม่แยกทากันตั้งแต่ยังเล็กๆ คนเป็นพี่ไปอยู่กับพ่อ คนเป็นน้องไปอยู่กับแม่




“ครับ” ติณณ์ตอบอย่างไม่เรื่องมาก เพราะเขาเป็นเพียงผู้อาศัย




“ดีเลย น้องพี่มันก็เป็นคนไม่ค่อยพูดเหมือนติณณ์น่ะนะ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนะ” ปาร์ตี้รีบสปอยน้องชายของเขาให้ติณณ์ฟัง ส่วนติณณ์ก็ตอบกลับมาแค่เพียงว่า




“ครับ”




ติณณ์เดินสำรวจไปรอบๆบ้าน นี่คือบ้านใหม่ของเขา




ติณณ์เดินมาหยุดอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ในใจพลางคิดถึงน้องชายของพี่เขยว่าจะเป็นคนยังไง หน้าตาแบบไหน และภาวนาเพียงว่า...




...ขอให้อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตเขาก็พอ









****************************************************



ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ

FANPAGE
https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)


หากมีคำผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-05-2015 02:19:41 โดย Pawaree »

ออฟไลน์ Melonlove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
«ตอบ #2 เมื่อ07-01-2015 23:37:16 »

จิ้มๆๆๆปูเสื่อรอจร้า :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
«ตอบ #3 เมื่อ08-01-2015 03:39:15 »

สุดท้ายก็ได้กัน 555

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
«ตอบ #4 เมื่อ08-01-2015 05:26:42 »

อั้ยย น่าติดตาม  :katai2-1:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
«ตอบ #5 เมื่อ08-01-2015 12:28:46 »

ว๊ายยๆๆๆๆเรื่องใหม่เพิ่งเห็น

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
«ตอบ #6 เมื่อ08-01-2015 12:35:06 »

 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
สังสัยจะพูดน้อยต่อยหนักกันทั้งคู่ :laugh:

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
«ตอบ #7 เมื่อ08-01-2015 13:19:35 »

อึนๆค่อยๆรักกันเบาๆก็ดีนะคะลุ้นดี ติดตามตอนต่อไปนะคะ :impress3:

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 1














“น้องติณณ์ วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย เดี๋ยวพี่ทำให้” เสียงพี่สาวผมเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี เมื่อกี้ตอนที่พี่สาวผมตื่นมา แล้วรู้ว่าผมมานานแล้วก็โวยวายพี่ปาร์ (ปาร์ตี้) ใหญ่เลย ว่าทำไมถึงไม่ยอมปลุก ส่วนพี่ปาร์ก็ขอโทษและออดอ้อนไปตามระเบียบครับ ดูๆไปพี่ตาลกับพี่ปาร์ก็เหมาะสมกันดีนะครับ อ้อนกันไปอ้อนกันมา แต่ผมไม่อิจฉาหรอกนะ เพราะผมยังไม่อยากมีความรัก ผมคิดว่ามันคงวุ่นวายน่าดูถ้าเราต้องแบ่งเวลาว่างของตัวเองไปให้คนอื่น ทำอะไรร่วมกับคนอื่น ผมไม่ค่อยชอบ




คงจะสงสัยสินะ ว่าผมมีเพื่อนรึเปล่า คำตอบคือมีครับ แต่พวกนั้นก็เข้าใจว่าผมเป็นยังไง เวลาจะไปไหนกันก็จะชวนผมไปด้วยตลอด แม้จะรู้ว่าผมคงจะต้องตอบปฏิเสธ แต่ผมก็ดีใจนะ ที่พวกนั้นไม่ลืมผมน่ะ




“อะไรก็ได้ น้องติณณ์กินได้หมดแหละ ถ้าพี่ตาลเป็นคนทำ” ผมตอบอย่างเอาใจพี่สาวตัวเองนิดๆ คนกำลังท้อง ต้องอารมณ์ดีเข้าไว้ หลานผมจะได้แข็งแรง




“วันนี้ปากหวานนะ อยากได้อะไรรึเปล่าเนี่ย” พี่ตาลว่าอย่างยิ้มๆ




“ไม่หนิ”




“งั้นเดี๋ยวพี่กับพี่ปาร์จะออกไปซื้อของมาทำข้าวเย็นนะ น้องติณณ์อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย”




“...ได้ฮะ” ผมอายุยี่สิบแล้วนะ ตอนอยู่ที่หอผมก็อยู่คนเดียวไม่เห็นเป็นไร




“โอเค เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ อ้อ...ถ้าน้องของปาร์ ...พี่หมายถึง ‘โปเต้’ น่ะ ถ้าโปเต้มาก็ฝากดูแลหน่อยแล้วกัน พี่ไปแหละ” พี่ตาลว่าก่อนจะเดินออกไป เพราะพี่ปาร์ออกไปสตาร์ทรถรอแล้ว




ว่าแต่ว่า...โปเต้? น้องชายพี่ปาร์เป็นแบบไหน แล้วหน้าตายังไงหว่า???




ผมไม่ได้สนใจเขาหรอกนะ เพียงแต่ว่าพี่ปาร์บอกว่าจะให้ผมกับน้องชายพี่เขานอนด้วยกัน ซึ่งเมื่อกี้ตอนผมไปจัดของ ก็พบว่ามันเป็นเตียงเดี่ยว (แม้ว่าจะเป็นคิงไซส์)  และผมก็ต้องนอนกับเขาทั้งๆที่ไม่เคยต้องนอนกับใครยกเว้นพี่ตาล




มันรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องมานอนกับใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จัก




แต่ว่า...ผมอาจจะเคยเห็นน้องชายพี่ปาร์มั้งนะ เพราะวันงานแต่งพี่ตาลกับพี่ปาร์ผมก็ไป น้องพี่ปาร์ต้องเป็นใครสักคนที่มาร่วมงานนั่นแหละ




ผมเดินไปนั่งที่โซฟาตรงห้องนั่งเล่น ก่อนจะเอางานขึ้นมาทำ ผมเรียนสถาปัตย์ปีสาม งานก็เยอะพอสมควร การบ้านก็มีอีกเพียบ เหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็สนุกดี




อ๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด




มีคนมากดออดหน้าบ้านในขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ ในใจผมคิดว่าคงต้องเป็นน้องชายพี่ปาร์แน่ๆ ผมจึงเดินออกไปที่หน้าบ้าน เห็นผู้ชายผิวขาวค่อนข้างสูง ใบหน้าหวาน แต่กลับมีสายตาที่ดุดัน ดูน่าเกรงขามและไม่น่าคบในเวลาเดียวกัน




ถ้าหากว่าผมเป็นเกย์หรือชอบผู้ชายด้วยกัน ผมอาจะหลังใบหน้านั้นเข้าให้อย่างจัง แต่ผมไม่ใช่...ผมไม่ได้พิศวาสผู้ชาย แต่ก็ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน ผมไม่ชอบแบ่งเวลาตัวเองให้กับใครนอกจากคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สนิทกันจริงๆเท่านั้น




“นายคงเป็น...โปเต้?” ผมถามเสียงเรียบ ใบหน้านั้นมีเคล้าโครงพี่ปาร์หน่อยๆ




“.....” ดวงตาโตดำขวับมองมาที่ผม รู้สึกเสียวสันหลังนิดๆ เพราะสายตาที่มองมานั้น จะเรียกว่าอะไรดี ‘เย็นชา’ ‘เยือกเย็น’ หรือว่า ‘ไร้ความรู้สึก’




“.....”




“.....” เขาไม่ตอบอะไร แต่ชี้มาที่ประตูเหมือนจะบอกให้ผมเปิด




“.....” ผมมองหน้าหวานๆที่นิสัยไม่เข้ากันกับหน้า ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ พอเดินมายืนใกล้กัน ทำให้ผมพึ่งสังเกตเห็น ว่าหน้าหวานๆแบบนี้ ดันสูงกว่าผม และตัวหนากว่าผมเสียอีก ผมสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ด ส่วนคนตรงหน้าเหมือนจะสูงกว่าผมเกือบสิบเซ็นต์เลยมั้งเนี่ย




“นำไปสิ” เสียงทุ้มๆน่าฟังถูกเปล่งออกมา ราวกับออกคำสั่ง ผมมองหน้าเขาอย่างขัดใจก่อนจะเดินนำไป




รู้จักกันมั้ย?... ก็ไม่! แล้วยังจะมาออกคำสั่งอีก แต่ผมจะไปว่าอะไรก็ได้ เพราะเขาเป็นน้องชายพี่ปาร์ พี่ปาร์ก็เป็นเจ้าของบ้าน ส่วนผมเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น




ผมเดินนำเขาขึ้นมายังชั้นสอง แล้วบอกให้เขารออยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินลงมาที่ห้องเก็บของเพื่อที่จะเอาไม้แขวนเสื้อไปให้เขา แล้วจัดการขยับเสื้อผ้าของตัวเองไปไว้ที่ฝั่งหนึ่ง




“เต้ารีด โต๊ะรีดผ้า” ผมพูดก่อนจะชี้ไปยังมุมห้อง ซึ่งเป็นของที่ผมขนมาจากหอพักเก่า แต่มันพึ่งซื้อได้ไม่นาน สภาพเลยยังดูใหม่มากๆ โปเต้เขามองตามแล้วหันไปเปิดกระเป๋าของตัวเอง ส่วนผมก็เดินลงมายังห้องนั่งเล่นเพื่อที่จะทำงานต่อ




“.....” ผมนั่งลงได้แป๊บเดียว โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นครับ และคนที่โทร.เข้ามาก็คือ ‘หลุยส์’ เพื่อนของผมเอง




(ไอ้ติณณ์ วันนี้พวกกูจะไปดูหนังกัน มึงจะไปมั้ย)




“...งานยังไม่เสร็จ” ผมตอบปฏิเสธแบบอ้อมๆ




(เหรอ เหลืออีกเยอะป่ะ)




“พอสมควร”




(โอเคๆ เอาไว้คราวหน้าล่ะกัน ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ แค่นี้แหละ บาย)




และหลุยส์มันก็วางสายไป บางทีผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่แย่นะ ที่ไม่เคยไปไหนกับเพื่อนๆเลย แต่ว่า...ถ้าหากว่าตอนนี้ไม่มีงานอะไรให้ผมต้องทำ ผมอาจจะไปก็ได้ เพราะเวลาที่ว่างจริงๆ ส่วนใหญ่จะหมดไปกับการนอน และพอผมว่าง พวกเพื่อนๆผมก็ดันไม่ว่าง เวลาของเราเลยไม่ค่อยจะลงตัวแม้ว่าจะเรียนคณะเดียวกันสาขาเดียวกันก็ตาม




ผมนั่งทำงานไปสักพัก โปเต้ก็เดินลงมา ตรงมานั่งที่โซฟาแล้วเปิดทีวี ส่วนผมนั่งที่พื้นครับ และทำงานของตัวเองต่อไป




“หิว” เสียงทุ้มๆของคนที่นั่งบนโซฟาข้างๆผมเอ่ยขึ้น




“.....” ผมชะงักมือที่กำลังร่างแบบ ก่อนจะหันไปมองโปเต้ ประมาณว่าเมื่อกี้เขาพูดกับผมใช่มั้ย




“...หิว” เขามองหน้าผมกลับก่อนจะพูดอีกครั้ง แล้ว...แล้วมาบอกผมทำไม ทำกินเองไม่เป็นรึไง




“....”




“.....”




ผมกับเขานั่งจ้องตากันสักพัก และเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายยอมแพ้ วางงานลงบนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปในครัว หาดูว่ามีอะไรกินบ้าง พลันสายตาเหลือบไปเห็นขนมปังสอดไส้ครีมอยู่สองชิ้น เลยหยิบมา ก่อนจะหันไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมาเทน้ำใส่แก้ว




ผมเดินเอาแก้วน้ำไปวางไว้ตรงหน้าเขา ก่อนจะยื่นขนมปังไปให้




“โปเต้” ผมเรียกชื่อเขาเมื่อเขาทำเพียงแค่มองหน้าผมพลางขมวดคิ้ว




“.....”




“พี่ปาร์กับพี่ตาลออกไปซื้อของมาทำข้าวเย็น กินอันนี้รองท้องไปก่อน” ผมไม่เคยต้องมาอธิบายอะไรยาวๆให้ใครฟังเลยนะ




“.....” เขารับไปก่อนจะแกะกิน ส่วนผมที่ไม่มีสมาธิในการทำงานก็เก็บของแล้วเดินเอาขึ้นไปเก็บไว้ข้างบน ก่อนจะเดินกลับลงมา เห็นโปเต้กำลังนั่งดูทีวีอยู่เหมือนเดิม แต่มีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป สิ่งมีชีวิตที่นั่งอยู่บนตักของโปเต้...




...หมา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




หมาพันธุ์ชิวาวา วัยกำลังซน นั่งอยู่บนตักของโปเต้ และที่สำคัญ...มันน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก




แต่การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าของผมมันค่อนข้างที่จะติดลบ เพราะงั้นผมจึงมีสีหน้าเรียบเฉยแทบจะตลอดเวลา




แต่ว่านะ...ทำไมผมถึงพึ่งเห็นเจ้าหมาตัวนี้ล่ะเนี่ย ก่อนหน้านั้นไปอยู่ไหนมา???




“โปเต้ ลูกหมาของใคร” ความสงสัยที่มีมากเกินทำให้ผมเอ่ยถามไอ้คนหน้านิ่งที่นั่งอยู่ที่โซฟา




“...พี่ปาร์” โปเต้ตอบผมเสียงเรียบ ก่อนจะอุ้มเจ้าหมาตัวน้องลงจากตักแล้วปล่อยลงพื้น




“.....” ผมค่อยๆเดินไปหา แต่ท่าทางเจ้าหมาน้อยคงจะยังไม่คุ้นชินกับผม เลยส่งเสียงขู่ใส่ และตั้งท่าเหมือนจะเข้ามากัด เอ่อ...เอาไงอ่ะ อยากเล่น




“ระวังมันกัด” คนหน้านิ่งเอ่ยเตือนผม แล้วจะให้ผมทำยังไง อีกอย่างผมก็ยังต้องอยู่ที่นี่นะ ก็ต้องเป็นพันธมิตรก็น้องหมาตัวน้อยนี่สิ




“.....”




“.....” อยู่ๆโปเต้ก็ลุกมาหาผม




“.....” ผมมองไปที่เขาอย่างงงๆ




“ทำความคุ้นเคยกับมันก่อน มันถึงจะไม่กัด” โปเต้พูดประโยคยาวๆระหว่างผมกับเขาเป็นครั้งแรก (ยาวแล้วเหรอ?)




“แล้วถ้ามันกัดก่อนล่ะ” ผมว่าอย่างชั่งใจ อยากจับ แต่กลัวมันกัดอ่ะ




“ยื่นมือไปหามันช้าๆ ให้มันทำความคุ้นเคย”




“.....” ใครจะไปกล้าว่ะ ก็เจ้าหมาน้อยข้างหน้านี่ยังขู่ผมฟ่อๆอยู่เลย




“นั่งลงสิ” โปเต้ว่าก่อนจะนั่งยองๆลงที่พื้น




ผมมองการกระทำอย่างงงๆ แต่ก็ทำตาม




“.....”




“ค่อยๆยื่นมืออกไปหา” โปเต้ว่าก่อนจะทำให้ผมดู ซึ่งเจ้าหนูน้อยก็กระดิกหางวิ่งเข้าไปหาโปเต้ แต่ก็ยังไม่วายหันมาขู่ผมต่อ




“.....”




“ทำสิ”




“.....” ผมหายใจเข้าลึกๆเรียกความกล้าแป๊บ ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหาเจ้าหนูน้อยชิวาวา แต่ก็ต้องรีบชักกลับ เพราะเจ้าหนูน้อยทำท่าจะเข้ามากัดผม




“อันปัน” เสียงโปเต้เรียกเจ้าหนูน้อย ชื่ออันปันหรอ ...ชื่อน่ารักนะ




“อย่าดุหมาสิ” ปากผมไวกว่าใจคิด เพราะผมคิดว่า หมามันคงทำไปเพราะผมเป็นแปลกหน้าสำหรับมัน




“.....” โปเต้มองหน้าผมด้วยสายตาดุๆ (ซึ่งเขาก็มีสายตาแบบนี้ตลอดตั้งแต่เจอกันกับผม)




“เอามือมานี่” โปเต้ว่าก่อนจะแบมือตรงหน้าผม




“ทำไม” ผมถามอย่างไม่ไว้ใจ เจอหน้ากันไม่ถึงสองชั่วโมงจะให้มาจับมือ ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ก็เถอะ แต่...มันก็ไม่มีผู้ชายคนไหนจะมาจับมือถือแขนกันอยู่แล้ว




“จะเล่นกับอันปันมั้ย” โปเต้ว่าพลางขมวดคิ้ว




“.....” ผมมองหน้าโปเต้ แต่แววตาเขา...มันเหมือนกลับกำลังปิดกั้นความรู้สึก เพื่อไม่ให้คนอื่นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเอง ผมว่าแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ มันทำให้ดูไม่น่าคบ




แต่...สิ่งที่ผมมองหา มันแบบ...ว่า ประมาณว่าโปเต้มีอะไรแอบแฝงในการขอจับมือผมรึเปล่า แต่ดูแล้ว...ไม่มี ท่าทางเขาเหมือนจะหงุดหงิดผมด้วยซ้ำ ผมไม่ได้ดูออก แต่ผมรู้สึกได้




“.....”




“.....”




แปะ




ผมวางมือของผมลงบนมือเรียวยาวของโปเต้ มือโปเต้ใหญ่กว่าผม แต่ดูเหมือนจะนุ่มกว่าเสียอีก นุ่มกว่าพี่ตาลด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะแต่ก่อนตอนที่พ่อกับแม่พวกเราเสียใหม่ๆ พี่ตาลพึ่งเรียนจบก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ผมที่ตอนนั้นอายุห่างจากพี่ตาลสิบปี กำลังเรียนชั้นประถมอยู่ เลยช่วยงานพี่ตาลได้ไม่มากนัก




“...ไม่ต้องเกร็ง” น้ำเสียงทุ้มน่าฟังแต่ไร้ซึ่งความรู้สึก ราบเรียบ จนคนฟังอาจจะรู้สึกขนลุก เพราะมันดูน่ากลัว และไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด




“....” ผมพยายามที่จะทำตามที่โปเต้บอกนะ




โปเต้จับฝ่ามือของผมให้หงายขึ้นโดยที่มือของเขาประคองอยู่หลังมือของผม และค่อยๆเอื้อมมือไปให้อันปันมันดม




อันปันทำถ้าจะกัด โปเต้เลยเอื้อมมือไปลูบหัวมัน ก่อนจะกลับมาจับมือผมแล้วยื่นไปให้อันปันดมอีกครั้ง โดยที่อันปันเลือกที่จะดมมือโปเต้ก่อน ก่อนจะหันมาดมมือผมบ้าง




มือผมสั่นเล็กน้อยจากความเกร็ง เพราะผมกลัวโดนอันปันตัวน้อยมันกัด




“ทำอะไรกันน่ะ” เสียงพี่ตาลทักครับ ทำเอาผมสะดุ้ง จนมือผมไปโดนปากอันปัน และด้วยความตกใจหรืออะไรก็ไม่รู้ อันปันตัวน้อยเลยงับเข้าที่มือผมอย่างจัง ทั้งๆที่มือโปเต้ก็จับมือผมอยู่ แต่ไม่โดนกัด




งับ!!




“โอ๊ย!” ผมร้องก่อนจะดึงมือตัวเองมากลับมา ผมโดนหมางับนิ้ว




“ว๊าย น้องติณณ์ เป็นอะไรมากมั้ย” พี่ตาลรีบเดินเข้ามาดูผม




“ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบพลางดูมือตัวเอง เลือดไหลเล็กน้อย  หวังว่าอันปันคงฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้วนะ




“แต่เลือดไหลนะ ปาร์...พาน้องติณณ์ไปหาหมอกัน เร็วๆ” พี่ตาลว่าอย่างรนๆ




“พี่ตาลๆ ใจเย็นก่อน น้องติณณ์ไม่เป็นอะไรหรอก พี่ตาลอย่าเครียด มันส่งผลกระทบถึงเด็กในท้องนะ” ผมรีบห้ามพี่สาวตัวเองไม่ให้รนรานไปมากกว่านี้




“แต่...”




“เอางี้ตาล เดี๋ยวปาร์ให้เต้พาติณณ์ไปหาหมอนะ ตกลงมั้ย” พี่ปาร์ว่าอย่างสรุป




“แต่ตาลห่วงน้องนะปาร์”




“ติณณ์ไม่เป็นอะไรหรอกตาล เต้...เต้พาติณณ์ไปหาหมอ...ได้ใช่มั้ย” พี่ปาร์หันไปถามน้องชายตัวเอง




“ครับ” โปเต้เพียงแต่พยักหน้า ก่อนจะยื่นมาไปรับกุญแจรถที่พี่ปาร์ส่งมาให้




“.....” เขามองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะใช้มือดันหลังผมให้เดิน




“พี่ตาล พี่ตาลทำกับข้าวเลยนะ” ผมหันไปบอกพี่ตาลก่อนจะก้าวเดินอีกครั้ง เมื่อเห็นอีกคนกำลังเดินไปไม่รอผมเลย




ระหว่างที่ไปคลินิกใกล้ๆ ก็ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย แน่ล่ะ ผมเองไม่ค่อยจะมีเรื่องอะไรให้พูด ส่วนอีกฝ่ายก็ดูเหมือนกลัวน้ำลายจะไม่บูด เอาแต่เงียบ รู้สึกกดดันนิดๆนะ บรรยากาศมาคุชวนให้อึดอัด ปกติผมก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก ถ้าไอ้คนข้างๆไม่แผ่รังสีไม่น่าเข้าใกล้ออกมาแบบนี้




พอมาถึงคลินิก โปเต้ก็เดินไปนั่งและเล่นเกมรอ ผมเลยเป็นฝ่ายจัดการทุกอย่างเอง หลังจากที่ทำแผลและฉีดยาเสร็จ ก็ฟังหมออธิบายอะไรอีกนิดหน่อย เราก็ออกมาจากคลินิก ดีนะที่อันปันฉีดยามาแล้ว




“โปเต้...ช่วยแวะเซเว่นหน่อย” ผมบอกเมื่อเห็นเซเว่นอยู่ไม่ไกล




“.....” คนขับไม่พูดอะไร เพียงแต่ตีไฟเลี้ยวแล้วจอดหน้าเซเว่นให้ผม




ผมเป็นคนชอบกินขนมขบเคี้ยว วันไหนไม่ได้กินแล้วใจจะขาด ตอนสำรวจดูในครัวก็ไม่มีขนมที่ผมอยากกินเลย




ผมหอบเอาขนมต่างๆมาที่เคาน์เตอร์ พนักงานตาโตเล็กน้อยก่อนจะคิดเงิน ระหว่างนั้นมีก็ล้วงมือจะหยิบกระเป๋าตังค์มาเพื่อจะเอาเงินมาจ่าย แต่ว่า...




ว่างเปล่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




จริงสิ...ผมเอากระเป๋าตังค์ไว้บนห้อง ตอนออกมาก็ออกมาแบบปุบปับ ให้ตายสิ แล้วจะเอาเงินจากที่ไหนไปจ่ายเขาล่ะเนี่ย




“ทั้งหมด สี่ร้อยห้าสิบห้าบาทครับ” พนักงานบอกกับผม




“เอ่อ...” ถ้าจะออกไปนอกเซเว่นนี่เขาจะว่าอะไรรึเปล่า ผมกะว่าจะไปยืมเงินโปเต้ (เพราะโปเต้เป็นคนออกเงินค่ารักษาที่คลินิกให้ผม)




“เงินไม่พอหรอครับ”




“ลืมเงินไว้ที่รถน่ะครับ เดี๋ยวมา” ผมว่าก่อนจะหันตัวแล้วเดินไปที่รถ แต่ก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อหันปุ๊บ ก็เกือบจนชนเข้ากับร่างสูงหนาของโปเต้ ...เข้ามาตอนไหนเนี่ย




“โปเต้ ...ผมยืมเงินหน่อย” ผมพูดเสียงเรียบ ยืมเงินกับคนพึ่งรู้จักกัน มันออกจะแปลกๆ แต่เราอยู่บ้านเดียวกัน ยังไงผมก็คืนเขาแน่นอน




“เท่าไหร่” โปเต้หันไปถามพนักงานเสียงเรียบ แต่สายตานี่ดุชะมัด




“เอ่อ...สี่ร้อยห้าสิบห้าบาทครับ” พนักงานตอบโปเต้เสียงสั่นเล็กน้อย




“.....” โปเต้ยื่นแบงค์ห้าร้อยไปให้พนักงานก่อนจะเดินออกไป ส่วนผมก็ยืนรอรับเงินทอน ก่อนจะหอบถุงขนมออกตามโปเต้ไป




“กลับไป เดี๋ยวเอาเงินคืนให้” ผมพูดขึ้นเมื่อเข้ามานั่งในรถ




“.....” โปเต้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สตาร์ทรถ แล้วขับออกไปทันที




พอมาถึงที่บ้าน ก็พบว่าพี่ตาลกำลังทำกับข้าว เป็นอย่างสุดท้าย นั้นก็คือไข่เจียวหมูสับ โปเต้เดินไปหาพี่ปาร์ที่ห้องนั่งเล่น ผมเอาพวกขนมขึ้นไปเก็บไว้บนห้อง กลับลงมาก็เห็นอันปันนั่งอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย และเมื่อมันเห็นผมก็ส่งเสียงเห่าและกระดิกหาง




เอ่อ...นี่เป็นสัญญาณที่ดีรึเปล่า




“ติณณ์ ลงมาสิ อันปันไม่กัดหรอก” พี่ปาร์เดินมาเรียกผม




“.....” แต่ผมก็ยังลังเลอยู่ดี




“.....”




และเมื่อหันไปสบตากับชิวาวาตัวน้อย ความลังเลเมื่อกี้ก็หายไป ก่อนที่ผมจะเดินลงไปหาชิวาวาอันปัน เจ้าหนูน้อยก็ดูท่าจะไม่กัดผมแล้ว ตอนนี้แลดูเชื่องเสียมากกว่า




“.....” ผมตาวาวอย่างดีใจนิดๆที่เจ้าหนูน้อยไม่กัดผม




“มากินข้าวกันเถอะ เสร็จแล้วนะ” เสียงพี่ตาลเรียกครับ




ผมขอตัวไปกินข้าวก่อนล่ะกันนะครับ









****************************************************


เอาตอนที่ 1 มาฝากกันก่อนนนนนน


FanPage
https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)


หากมีคำผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
น่ารักดีนะ
มาต่ออีกนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ชอบชอบ มาต่ออีกนะ  :hao6:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :impress2: อร้ายยยย อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ชอบชื่อพระเอก(หรือเปล่า)โปเต้ ซึนได้อีกสงสัยจะรอสองคนนี้ชอบกันอีกนาน  ลุ้นๆๆๆ :-[

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบเลยอะ จะรอตอนต่อไปนะคะ :mew1:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ถึงบรรยากาศจะดูน่าอึดอัดไปบ้างแต่ติณนางดูน่ารักอ่ะ


ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
ซึนกะซึนมาชนกัน
มันส์ล่ะงานนี้

55555

ติดตามๆ
มาต่อเร็วน้าาาาาา
รอๆ
 :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ใครจะเปฺนพระเอก เต้นั่นเอง อิอิ
ลุ้นต่อจร้าาาาา

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 2
















ผมนั่งทำงานจนถึงตีสี่ ก็เอาหัวพิงขอบเตียงเพื่อพักสายตา ส่วนโปเต้ที่ต้องนอนกับผมนั้น ก็นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนั้นแหละ แต่ว่าผมพักสายตาอีท่าไหนก็ไม่รู้ หลับยาวเลย รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีคนมาปลุก




“นี่”




“หืม...อะไร” ผมถามเสียงงัวเงียทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา




“ไปนอนดีๆ” เสียงทุ้มๆแบบนี้ ...ใครว่ะ ขอนึกแป๊บ




“อืม” ผมครางตอบรับในลำคอ ก่อนจะค่อยๆเคลิ้มหลับต่อ แต่...




“นี่ ...ไปนอนบนเตียงดีๆ” อยู่ๆก็มีแรงสัมผัสมาที่หัวไหล่ของผม ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พบว่าเป็นผู้ชายหน้าหวานคนนึงกำลังทำตาดุๆใส่ผม




เอ่อ...ไม่ใช่สิ โปเต้ครับ โปเต้นั่งที่บนเตียงข้างๆผม หัวผมแทบจะซบที่เข่าเขาอยู่แล้ว




“...กี่โมงแล้ว” ผมถามพลางมองหาโทรศัพท์




“แปดโมง”




แปดโมง ...ตายห่า ผมมีเรียนตอนสิบโมงนี่ กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปยืนรอรถเมล์นี่ผมจะทันเปล่าว่ะเนี่ย




“.....” ผมรีบลุกขึ้นจะไปอาบน้ำ แต่ก็เกิดหน้ามืดกะทันหัน คงเป็นเพราะนอนน้อยด้วยล่ะมั้ง




“.....” โปเต้เข้ามารับตัวผมได้อย่างหวุดหวิด แล้วประคองให้ผมนั่งลงบนเตียง โดยที่ตาก็ยังจ้องผมอยู่แบบนั้น




“.....” มองกันไปมองกันมา จนกลายเป็นผมเองที่ละสายตาก่อน




คนอะไร...สายตาดุชะมัด!!!




สักพักโปเต้ก็หยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องไป (พึ่งสังเกตว่าโปเต้ใส่ชุดนักศึกษาแล้วเรียบร้อย) ผมนักอยู่สักพักจนรู้สึกว่าตัวเองปกติดีแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ พยายามอาบน้ำแต่งตัวให้เร็วที่สุด




“น้องติณณ์ มาพอดีเลย กินข้าวก่อนสิ” พี่ตาลเรียกผมเมื่อเห็นผมเดินลงบันไดมา ผมจึงเดินเข้าไปหา แต่ผมคงจะไม่ได้กินข้าวเช้าแล้วล่ะ เพราะกว่าจะเดินไปหน้าหมู่บ้าน รอรถเมล์อีก กว่าจะเดินเข้ามหาลัยไปคณะตัวเอง จะทันรึเปล่าก็ยังไม่รู้




“แต่น้องติณณ์สายแล้วนะ” เมื่อกี้ก่อนลงมาก็เสียเวลาหางานหาการบ้านตั้งนาน ตอนนี้ก็จะเก้าโมงแล้วด้วย




“นี่...โปเต้เขาก็เรียนมหาลัยเดียวกันกับเรานะ ไปพร้อมกันก็ได้ ใช่มั้ยเต้” พี่ตาลหันไปถามโปเต้ที่นั่งกินข้าวต้มอยู่




“...ครับ” โปเต้ตอบเพียงแค่นั้น ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวก่อน




“แต่น้องติณณ์รีบ น้องติณณ์มีเรียนตอนสิบโมงนะ”




“โปเต้เขาก็มีเรียนตอนสิบโมงกัน เห็นปาร์บอกว่าตารางเรียนเหมือนกัน”




หืม???




ผมกับโปเต้มองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย ตารางเรียนเหมือนกัน??? งั้นก็หมายความว่าเขาก็อยู่มหาลัยเดียวกันกับผม คณะและสาขาเดียวกัน แล้วทำไม...ทำไมผมถึงไม่เคยเห็นหน้าเขาอ่ะ ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีคนชื่อโปเต้อยู่ในคณะผมด้วย และยิ่งหน้าตาแบบโปเต้ มันก็จะต้องเป็นที่กล่าวถึงไม่เว้นวันแน่ๆ แต่เท่าที่ผมได้ยินมา คนที่ป็อปยิ่งกว่าเดือนคณะเขาชื่อนภัทร ไม่ว่าจะไปตรงไหนของมหาลัยก็จะได้ยินคนพูดถึงเขา




“อ้าว...นี่ไม่รู้เหรอว่าเรียนที่เดียวกัน” พี่ตาลพูดขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากผม




“ไม่รู้อ่ะ” ผมเป็นคนตอบเองครับ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา พบว่าเก้าโมงแล้วครับ




“พี่ตาล น้องติณณ์ไปก่อนนะ ช้ากว่านี้สายแน่” ผมว่าก่อนจะเดินไปหอมแก้มพี่ตาลทีนึง ก่อนจะรีบเดินไปใส่รองเท้า




ตุบ!




ในขณะที่ผมกำลังนั่งใส่รองเท้า ก็มีรองเท้าคู่นึงกระแทกลงบนพื้น ผมจึงเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นโปเต้




“.....” ผมยืนขึ้น มองหน้าเขานิดหน่อย ก่อนจะเดินเพื่อที่จะออกจากบ้านไปรอรถหน้าหมู่บ้าน แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน





“.....” โปเต้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ชี้ไปที่รถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบท์ราคาไม่รู้กี่แสน คันสีแดงของตัวเอง




“.....” เหมือนจะบอกว่าให้ผมไปด้วยกัน แต่...ผมไม่มีหมวกกันน็อคนี่




“.....” โปเต้เดินไปที่รถ แล้วหยิบหมวกกันน็อคยื่นมาให้ผม ส่วนผมก็เลยรับมาอย่างงงๆ




“.....”




โปเต้เดินไปคร่อมรถ ก่อนจะค่อยๆถอยรถแล้วมองมาที่ผม แล้วชี้ไปที่ประตูบ้าน อ่า...จะบอกให้ผมไปเปิดประตูบ้านสินะ




“.....” ผมเดินไปเปิดประตูบ้าน โปเต้สตาร์ทรถแล้วขับออกมาจอดที่หน้าบ้าน ผมจึงหันไปปิดประตูแล้วเดินไปหาเขา ก่อนจะยื่นหมวกไปให้เขา




“นายเป็นคนขับ ผมว่านายใส่จะดีกว่า” ผมพูดขึ้น




“.....” โปเต้มองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะดึงมือผมให้ผมขยับเข้าไปใกล้ เอาหมวกกันน็อคจากมือผมไป แล้วสวมลงที่...หัวผม




โปเต้เอาหมวกกันน็อคมาสวมให้ผม ...เพื่อ?




“ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวสาย”




“.....” ผมยืนชั่งใจอยู่พักนึงก่อนจะก้าวขาขึ้นคร่อมบิกไซต์ของโปเต้




โปเต้พาผมขับรถ...อืม ก็นับว่าเร็วอยู่นะ พาเลี้ยวเข้าซอยนู้นออกซอยนี้ แต่จากบ้านไปมหาลัยมันก็ไม่ได้ไกลมากนักหรอก มันจะเสียเวลารถติด ตรงทางก่อนถึงหน้ามหาลัย เพราะนอกจากจะเป็นมหาลัยขนาดใหญ่ รอบมหาลัยก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นดีเลยล่ะ ผับ บาร์ ร้านอาหาร นู้นนี่นั้นสารพัด คนนี่พลุกพลานทั้งวันทั้งคืน




โปเต้วนรถเข้ามาในที่จอดรถของคณะ คนแถวนั้นหันมามองพวกเราเป็นตาเดียว อาจจะเป็นเพราะรถ ...หรือไม่ก็เพราะหน้าตาคนขับ (ยอมรับตามตรงว่าโปเต้หล่อมาก)




“.....” ผมก้าวลงจากรถ ก่อนจะพยายามถอดหมวกกันน็อคออก แต่...ถอดไม่ออกอ่ะ แก้สายรัดไม่ได้สักที




“.....” โปเต้ลงจากรถ แล้วเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งพิงลงที่เบาะนั่ง มองผมอยู่พักนึง ก่อนจะเอื้อมมือมาถอดหมวกกันน็อคให้




ผมแอบเห็นคนรอบข้างทำหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ใส่หมวกกันน็อคปกปิดใบหน้าอยู่คือผม และคนที่ถอดหมวกให้ก็คือโปเต้ (เห็นผมแบบนี้ ก็รู้นะครับว่าตัวเองเป็นที่กล่าวถึงอยู่เหมือนกัน)




“เอาโทรศัพท์มา” โปเต้พูดขึ้นก่อนจะแบมือตรงหน้าผม




“.....” ผมมองหน้าโปเต้อยู่พักนึง ก่อนจะล้วงมือเอาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วว่าไปบนมือของโปเต้




“.....” โปเต้กดอะไรสักพักก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แต่ไม่ใช่ของผมหรอก ของโปเต้ต่างหาก เขาคงจะกดเบอร์ตัวเองแล้วโทร.เข้าเครื่องตัวเพื่อที่จะเอาเบอร์ผม...ล่ะมั้ง




“ตอนเย็น...กลับด้วยกัน” โปเต้ว่าเสียงเรียบ คือผมก็มีปัญญากลับบ้านเองนะ




“...อืม” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองจากมือโปเต้ ที่ผมตกลงก็เพราะสายตากดดันจากโปเต้นั่นแหละ




“จะกลับตอนไหน ก็โทร.มา” โปเต้พูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินแยกไป ส่วนผมก็เดินไปยังจุดบริเวณที่ประจำของผมกับเพื่อนๆ แต่ยังไม่ทันจะพ้นลานจอดรถ ก็เจอพวกเพื่อนที่ยืนมองผมอยู่ไม่ไกลนัก พอลองสังเกตดูรอบๆ ทำไมผมถึงรู้สึกว่าคนมันเยอะผิดปกติ รอบบริเวณลานจอดรถมีแต่คน และเหมือนจะมองมาที่ผม และบางส่วนก็เหมือนจะมองไปที่โปเต้ที่กำลังเดินไปยังโรงอาหารของคณะ




“ไอ้ติณณ์ มีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยว่ะ” เสียง ‘แลนด์’ เพื่อนของผมพูดขึ้น




“.....” คุย? คุยเรื่องอะไร การบ้านเหรอ???




“...ใช่ว่ะติณณ์ มีเรื่องที่พวกเราสงสัยเยอะเลย” คราวนี้เป็นเสียง ‘นิดา’ เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มผมครับ




“ก็ว่ามาสิ” ผมเอ่ยขึ้น อยากรู้เหมือนกันว่าพวกนั้นหมายถึงเรื่องอะไร




“มึงกับนภัทรเป็นอะไรกันว่ะ” หลุยส์ ถามพลางทำหน้าอยากรู้จริง ว่าแต่...นภัทรไหน???




“นภัทร???”




“ก็คนที่มึงซ้อนบิ๊กไบท์เขามาไงว่ะ” หลุยส์พูดขึ้น เดี๋ยวนะ...นภัทรที่พวกนี้หมายถึง...คือคนที่เป็นเจ้าของรถบิ๊กไบท์สีแดงที่ผมซ้อนมาเมื่อกี้




งั้น...นภัทรกับโปเต้ ...ก็เป็นคนๆเดียวกัน




หรอว่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




“ไอ้ติณณ์ ทำไมต้องขมวดคิ้วแบบนั้น” เสียง ‘จีน่า’ ถามอย่างงงๆปนสงสัย




“ก็...อืม...จะว่าไงดี โปเต้เป็น..”




“เดี๋ยวนะ” แลนด์ขัดขึ้นก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร อะไรว่ะไอ้นี่ -_-




“.....”




“มึงเรียกนภัทรว่าอะไรนะ”




“...โปเต้” ผมตอบเสียงเรียบ ทำไมอ่ะ...ก็เขาชื่อเล่นว่าโปเต้ ผมจะเรียกโปเต้แล้วมันผิดตรงไหน???




“ตอนมึงเรียกเขาครั้งแรกนี่ ไม่โดนต่อยปากหรอว่ะ” หลุยส์ถามพลางสำรวจหน้าผม




“ไม่หนิ” ตอนผมเรียกเขาว่าโปเต้ เขาก็มีท่าทีเฉยๆ ไม่เห็นจะแสดงความไม่พอใจหรืออะไรเลยนะ




“เหลือเชื่อ!” เสียงพวกเพื่อนผมมันอุทานครับ ทำไม...มีอะไร??




“อะไร” ผมล่ะไม่เข้าใจพวกมันจริงๆ




“ก็ไอ้นภัทรมันไม่เคยให้ใครเรียกชื่อเล่นมันเลย แม้แต่เพื่อนมันเอง คนล่าสุดที่ไปเรียกชื่อเล่นมันโดนต่อยดั้งยุบ ฟันหน้าหัก” แลนด์เล่าพลางทำท่าสยอง




อะไรกัน...กะอีแค่เรียกชื่อเล่น ทำไมโปเต้ต้องไปทิฐิขนาดนั้นล่ะ แต่...ผมไม่โดนชกนี่ ...หมายความว่าโปเต้อนุญาตสินะ




“เดี๋ยวๆ ประเด็นแรกยังไม่เคลียร์นะ” นิดาว่า




“อะไร” ประเด็นอะไร




“ทำไมถึงมากับนภัทร”





“.....”




จะบอกว่าเราอยู่บ้านเดียวกัน...เหรอ พวกนี้ก็ไม่รู้ว่าพี่สาวผมแต่งงานกับพี่ชายโปเต้ แล้ว...โปเต้เขาอยากจะให้คนอื่นรู้รึเปล่าว่าเราอยู่บ้านเดียวกัน อันนี้ผมก็ยังไม่ได้คุยกับโปเต้เลย





แต่ถ้าจะตอบว่าบังเอิญเจอ ...พวกนี้ก็จะต้องถามเยอะแน่ๆ และผมก็ขี้เกียจตอบ




แล้ว...ผมควรจะตอบว่าอะไรดี




“...ก็ไม่มีอะไรมาก” ผมตอบแค่นั้นก่อนจะเดินนำพวกนั้นไปยังห้องเรียนเลย




แน่นอนว่าพวกนั้นตามมาถามอีกหลายคำถาม แต่ผมไม่ตอบ พอมาถึงห้องเรียนผมก็เดินไปนั่งเงียบๆของผม จนพวกนั้นเลิกล้มความพยายามในการอยากรู้เรื่องของผมไปเอง




แต่ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่ะ ได้นอนไปนิดเดียวเอง ตอนนี้ก็ง่วงจะตายอยู่แล้ว หิวด้วย




วันนี้ผมเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะว่าหิวด้วยล่ะมั้ง พอเรียนคาบนี้เสร็จผมก็เก็บกระเป๋าเสร็จก่อนใครเพื่อนเลย ผมเลยบอกเพื่อนว่าจะออกไปก่อน เพราะพวกนั้นโดนอาจารย์เรียกไปคุยเรื่องงาน (ส่วนของผมผ่านครับ) แต่ยังไม่ทันจะได้ออกจากห้อง ก็มีคนมาขวางอยู่ตรงหน้าผมเสียก่อน




โปเต้นั่นแหละ




พวกนั้นหยุดดูผมกับโปเต้สักพัก ก่อนที่จะเดินไปหาอาจารย์ที่หน้าห้อง เพราะว่าถ้ามัวแต่หยุดมองผม พวกนั้นคงโดนด่าเละ






“...อะไร”




“ได้บอกพวกนั้นรึเปล่า” โป้เตถามเสียงเรียบ




“เรื่อง”




“เรา” พูดจาซะกำกวม โปเต้คงจะหมายถึงเรื่องที่เราอยู่บ้านเดียวกันน่ะนะ




“เปล่า”




“...อืม”




“.....”




“.....”




เขามีเรื่องจะถามแค่นี้ใช่มั้ย ผมจะได้ไปกินข้าวสักที หิวจะตายอยู่แล้ว




“ถ้า..”




“เลิกเรียน...”




ผมกำลังจะพูดขอตัวไปกินข้าว แต่โปเต้ก็ดันพูดขึ้นพร้อมผม ว่าแต่...เลิกเรียนอะไร ทำไม




“อะไร”




“เลิกเรียน...ไปร้านพี่นาย” ไปร้านพี่นาย พี่นายเป็นใคร แล้ว...มาบอกผมทำไม




“บอกทำไม”




“จะให้ไปด้วย”




ห๊ะ!?! ให้ไปด้วย เพื่อ???




“ทำไม”




“ถ้าให้กลับเอง เดี๋ยวพี่ตาลจะว่าเอา”




“แต่...” ผมไม่เคยเที่ยวเลยนะ




“มีที่ชาร์ตแบตสำรองมั้ย” อยู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องซะงั้น




“ก็...มี”




“ฝากชาร์ทหน่อย” ว่าจบ โปเต้ก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ยังดีที่เราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกัน เลยไม่ต้องวุ่นวายหาสายชาร์ต




“...อืม”




“เลิกเรียนแล้วรอก่อน” โปเต้พูดแค่นั้นก่อนจะเดินไปหาเพื่อนอีกสองคนที่ยืนรออยู่ตรงประตูห้อง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนผมเดินมาพอดี




“ติณณ์ นภัทรมันมาคุยอะไรกับมึงว่ะ” แลนด์ถามผมเป็นคนแรกเลยครับ




“ก็แค่ฝากชาร์ทแบตฯโทรศัพท์” ผมว่าก่อนจะยกโทรศัพท์ของโปเต้ให้ดู




“นภัทรมันไม่ใช่คนแบบนี้ ปกติมันไม่เคยสนใจชีวิตใครเลยนะ และมันก็ไม่อยากให้ใครยุ่งกับของส่วนตัวของมันด้วย” พวกมันว่าพลางจ้องผมอย่างจับผิด อะไรอ่ะ ไม่เข้าใจ แล้วจะมาจับผิดกันทำไม ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงมันก็น่าคิดอยู่หรอก




“แล้วยิ่งมันให้มึงเรียกชื่อเล่นแบบนั้น ก็ยิ่งน่าสงสัย” หลุยส์ว่าพลางหรี่ตามองผม




“จะไปกินข้าวมั้ย ถ้าไม่...กูไปก่อน” ผมว่าก่อนจะเดินนำพวกนั้นออกมา ทำเอาพวกนั้นวิ่งตามผมแทบไม่ทัน นึกว่าผมโกรธ ขอโทษผมกันยกใหญ่ ส่วนผมก็บอกปัดไป คนยิ่งแต่หิวๆอยู่




พอมาถึงโรงอาหาร ผมก็เดินไปซื้อข้าวทันที โดยมีนิดาเดินตามผมมา




“ติณณ์ อันนี้กูขอถามตรงๆเลยนะเว้ย ในฐานะที่กูคบกับมึงมาตั้งแต่อนุบาล กูสัญญาเลยก็ได้ว่าจะไม่บอกใคร แต่กูอยากรู้จริงๆ” นิดาว่าอย่างจริงจัง




“…..” ผมหันหน้ามามองหน้ามัน นิดาเป็นคนที่เก็บความลับอยู่ แต่...ก็โปเต้เขาทำท่าเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราอยู่ด้วยกัน ไม่สิ...ว่าเราอยู่บ้านหลังเดียวกัน




“กูกับโปเต้ ไม่ใช่อย่างที่พวกมึงคิด” นี่คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว




“แต่...”




“ถ้าไม่เชื่อ ไปถามโปเต้ดูก็ได้” ผมตอบหน้าจริงจัง




“นภัทรมันคงจะยอมบอกหรอกนะ”




“.....”




“เฮ้อ...โอเคๆ ตอนนี้กูจะไม่ถามอะไรมึงก็ได้” คำพูดของนิดาฟังดูแปลกๆนะ





“.....”




“แต่ถ้ามีเรื่องให้ผิดสังเกตมากกว่านี้ เตรียมตอบคำถามกูดีๆล่ะ” นิดาว่าก่อนจะหันไปซื้อข้าวบ้าง ส่วนผมก็เดินไปหาเจ้าพวกนั้นที่โต๊ะ แล้วลงมือกินอย่างเงียบๆ




อ่า...แต่ดูเหมือนสวรรค์จะอยากกระตุ้นต่อมอยากรู้ของเพื่อนผมมากขึ้นซะงั้น




เมื่ออยู่ๆโต๊ะข้างๆผม ที่บังเอิญว่ามันว่าง แล้วบังเอิญว่ากลุ่มของโปเต้เดินมานั่งโต๊ะตัวนั้น บังเอิญว่าโปเต้นั่งซ้ายสุดของโต๊ะ และบังเอิญว่าผมดันนั่งขวาสุดของโต๊ะเช่นกัน กลางเป็นว่าเราข้างกัน เพียงแต่มีระยะห่างของโต๊ะเป็นตัวคั้นกลางเอาไว้




เฮ้อ...ดูสิ สายตาที่เพื่อนผมมองมา ธรรมดาที่ไหน คำถามและความอยากรู้ออกมามากกมายเอ่อล้นซะขนาดนั้น




“.....” ผมก็กินไป โดยพยายามที่จะไม่สนใจอะไร ผมไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตา (แต่นิดาบอกผมว่า ผมหน้าตาค่อนข้างดี จะเป็นที่น่าจับตามองก็ไม่แปลก)




เพียงแต่...มันไม่ใช่สายตาของพวกเพื่อนผมอย่างเดียว คนรอบๆนี่ก็มองด้วย ถ้ามองผมอย่างเดียว หรือโปเต้อย่างเดียวผมก็ไม่ว่าเลยนะ แต่นี่มองพวกผมสลับกันแล้วหับไปซุบซิบกันนี่ดิ ผมไม่ชอบ




สงสัยเพราะเรื่องเมื่อเช้าแน่เลย แล้วไงอ่ะ ผู้ชายสองคนซ้อนมอ’ไซต์มาด้วยกันมันแปลกหรอ หรือเพราะว่าเป็นผมกับโปเต้มันถึงแปลก อะไรอ่ะ ...ไม่เข้าใจเลย




“ไอ้ภัทร มึงไม่กินอะไรหรอ” เสียงเพื่อนโปเต้ที่หน้าตาตี๋ๆพูดขึ้น




“คนมันเยอะ รอก่อน” โปเต้พูดนิ่งๆ ก่อนจะทำถ้าล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนจะชะงัก




“.....”




“เซย์ ยืมโทรศัพท์หน่อย”




“ของมึงอ่ะ” ผู้ชายที่ชื่อเซย์เงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวถามโปเต้ แต่ก็ล้วงเอาโทรศัพท์ตัวเองยื่นให้โปเต้




“ชาร์ตอยู่ไง”




“มึงเอาไปชาร์ตที่ไหน”




“.....” โปเต้ไม่ตอบ เพียงแต่เหล่มองผมนิดนึงแล้วก็หันไปสนใจโทรศัพท์ของเพื่อนตรงหน้า




ผมกินข้าวในจานต่อจนหมด แต่รู้สึกยังไม่อิ่ม เลยลุกไปเก็บจาน แล้วเดินเตลิดไปยันร้านน้ำแข็งใส




“ป้าครับ/ป้าครับ” เสียงผมเรียกป้าคนขาย แต่ว่า...ก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยเช่นกัน และเมื่อผมหันไปดู ก็พบว่าเป็น...




...โปเต้




เอ่อ...จะมายืนข้างๆทำไมนี่ ยิ่งแต่ไม่อยากตกเป็นประเด็นขี้ปากชาวบ้านอยู่




“อ้าว ว่าไงหนุ่มหล่อทั้งสอง” ป้าคนขายทักอย่างอารมณ์ดี




“ผมเอาวุ่นมะพร้าวกับขนมปังครับ/ผมเอาวุ่นมะพร้าวกับขนมปังครับ” ผมกับโปเต้ตอบพร้อมกันอีกแล้ว ผมเหลือบตามองคนแถวนั้น จ้องพวกผมเป็นตาเดียวเลย ผมจึงขยับออกห่างจากโปเต้เล็กน้อย




“แหม ...ใจตรงกันจัง” ป้าแกแซวเล็กน้อยก่อนจะลงมือทำน้ำแข็งใส




“ว่าแต่พ่อหนุ่มรู้จักนภัทรกับติณณ์มั้ยลูก” ป้าแกชวนคุยครับ แต่...ป้าถามถึงผมกับโปเต้ทำไม




“ครับ” โปเต้ตอบเพียงสั้นครับ




“ป้าก็พอจะรู้ว่าสองคนนี้น่ะดังนะ แต่เห็นว่าเมื่อเช้าสองคนนี้มาด้วยกันน่ะ สาวๆนี้กรี๊ดแทบสลบ บางคนก็บอกว่าจะ...อะไรน้า...จิ้ม เอ่อ...จิ้น! ใช่...เห็นบอกว่าจะจิ้นสองคนนี้ด้วยล่ะ” ป้าแกชวนคุยสนุกปากเลยครับ ส่วนผมก็เขยิบห่างจากโปเต้อีกก้าวนึง ไม่อยากโดนหาว่าเป็นคู่จิ้นกัน ผมไม่ชอบ ผมเป็นผู้ชาย โปเต้เองก็เป็นผู้ชาย




“หรอครับ” คราวนี้ผมตอบป้าแกบอก





“แล้วพ่อนุ่มจะราดน้ำอะไรจ๊ะ”




“น้ำแดง/น้ำแดงครับ”




อ่า...ตอบพร้อมกันอีกแล้ว




“ใจตรงกันจังนะ” ป้าแกแซวอย่างยิ้มๆครับ อะไรครับป้า ป้ายิ้มอะไรครับ!




“.....” ผมเหลือบตามองหน้าโปเต้เล็กน้อย เห็นว่าโปเต้ก็มองผมอยู่เหมือนกัน




“.....” เรามองหน้ากันพักนึง แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร




“นี่จ๊ะ คนละสิบห้าบาท” ป้าแกวางถ้วยน้ำแข็งใสไว้ตรงหน้าพวกผม ผมจึงล้วงมือหาตังค์ แต่...ล้วงมามีแต่แบงค์พัน (ผมเป็นพวกขี้เกียจพกกระเป๋าตังค์ติดตัวอ่ะนะ)




“ป้าครับ ผมมีแต่แบงค์พันอ่ะครับ” ผมบอกป้าแกครับ ถ้าเป็นเศษเหรียญน่าจะมีอยู่ในกระเป๋าตังค์




“ว๊าย...ป้าไม่มีตังค์ทอนหรอกลูก”




เอาไงอ่ะ หรือผมจะเดินกลับไปที่โต๊ะ ไปหาเศษเหรียญ




“นี่ครับ” โปเต้ยื่นเหรียญไปให้ป้าเขา เอ่อ...สามสิบบาท??




เขาจ่ายให้ผมหรอ




“จ่ายรวมกันเลยใช่มั้ยจ๊ะ”




“ครับ” โปเต้พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบถ้วยน้ำแข็งใสแล้วเดินไป




“.....” ผมจึงหยิบถ้วยน้ำแข็งใสแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ




พวกเพื่อนผมกับเพื่อนโปเต้กำลังซุบซิบกัน แต่เมื่อเห็นผมสองคนก็ผละออกจากกัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น




“.....” ผมนั่งลงที่โต๊ะ แล้วเอื้อมมือไปควานหากระเป๋าตังค์ในกระเป๋าสะพายของตัวเอง หาเศษเหรียญแล้วแต่มันไม่พอ เลยหยิบแบงค์ยี่สิบออกมา




“...โปเต้” ผมหันไปเรียกโปเต้ เห็นเพื่อนเขาเงยหน้ามองผมอย่างอึ้งๆ  ส่วนโปเต้เพียงแค่มองผมเฉยๆ




“.....”




“.....” ผมยื่นแบงค์ยี่สิบไปให้




“...ไม่เอา”




“...ต้องเอา” ผมไม่ชอบติดหนี้ใคร




“.....” โปเต้มองหน้าผมพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะรับเงินของผมไป แล้วหันไปกินน้ำแข็งใสต่อ




“.....” ส่วนผมก็หันมากินของตัวเองบ้าง





เฮ้อ...ผมเกลียดการตกเป็นเป้าสายตาจริงๆ

ออฟไลน์ ฝัullล้วlv

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
เฮ้ยๆๆ!
น่ารักจังเลยนายโปเต้ ><

ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
โอ้ยยยยยยยยยย นภัทร ถ้า(แอบ)น่ารักขนาดนี้ก็จะยอม :hao5: :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3593
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
ชอบอะไรๆๆเหมือนกันด้วยอ่ะ จีบกันแบบเงียบๆๆ รอลุ้นต่อๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
อ่านไปกรี๊ดไป กัดหมอนกัดผ้าห่มแทบขาด พวกเขาน่ารักกันทั้งคู่จริงๆ :-[
ปล. แต่ไม่ค่อยชอบเลยที่ว่าโปเต้หน้าหวาน คือเราไม่ค่อยชอบเมะหน้าหวานอะ มันจิ้นยังไงก็ไม่ฟิน ความเห็นความชอบส่วนตัวเนอะ อย่าว่ากัน :mew2:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
ฟินอ๊ะ  ไปแบบเงียบๆงงๆเนี่ย รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :impress2: อร้ายยยย  ยย อ่านไปทำไมเขินไป

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ความแตกเพราะเอ็งนั่นแหล่ะตินเอ๊ย กันไปเรียกโปเต้ต่อหน้าเพื่อน (เป็นคนอื่นคงโดนกระทืบไปแล้ว) คืนให้ที่บ้านก็ด้ายยยยย :katai1:

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ชอบโมเม้นต์เวลาที่เค้าอยู่ด้วยกันหรือว่าอยู่ใกล้ๆกัน
มันให้ความรู้สึกเหมือนบรรยากาศของคนที่สนิทกัน
ทั้งๆที่ทั้งสองไม่ได้พูดกันด้วยซ้ำ

ออฟไลน์ Babelilong

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
    • Facebook  เข้ามาขอเป็นเพือนได้เลย
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
ฟินเบาๆ เวลาอยู่ด้วยกัน

รอออออออออออออออ
มาต่อไวๆเด้อ

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 3
















วันนี้ผมมีเรียนถึงหกโมงเย็น และอีกสิบนาทีก็จะหมดชั่วโมงสุดท้ายแล้วครับ




“วันนี้ครูจะปล่อยก่อนเวลานะ ไปคิดทบทวนเกี่ยวกับหัวข้อที่พวกเธอเลือกมาดีๆก็แล้วกัน ติดขัดตรงไหนก็ปรึกษาครูได้”




อาจารย์พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ผมและเพื่อนๆยังไม่เก็บของเลย เนื่องจากเป็นวิชาสุดท้าย ขอเอ้อระเหยกันแป๊บนึงล่ะกัน




“ติณณ์” เสียงทุ้มๆเรียกผม ทำให้ทุกสายตาหันไปมองเสียงนั้นโดยมิได้นัดหมาย




โปเต้ครับ...โปเต้กำลังเดินมาหาผม




“.....”




“รีบเก็บของ” โปเต้ว่าพลางเหลือบตามองสมุดหนังสือบนโต๊ะผมที่ยังไม่เก็บเข้ากระเป๋า




“ไม่ไป...ไม่ได้เหรอ” ผมถามโปเต้ ผมไม่อยากไปอ่ะ อยากกลับบ้านไปนอนมากกว่า อย่าลืมสิว่าผมมานอนเอาตอนเช้ามืด ง่วงมากๆเลยนะขอบอก




“...เก็บของ”




ไม่ฟังกันเลย




“.....” ผมมองหน้าโปเต้พักนึงก่อนจะเก็บของตามที่โปเต้บอก




“.....”




“กูกลับล่ะ” ผมหันไปบอกพวกเพื่อนผม พวกนั้นก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ (แม้จะทำหน้าอยากรู้ก็กันเถอะ) ก่อนจะพากันเก็บของเหมือนกัน




“ถ้าไม่อยากให้ผมกลับเอง ก็พาผมไปส่งที่บ้านเถอะ ผมอยากนอน” ผมบอกโปเต้เมื่อเราเดินออกมาจากห้องเรียน




“ผมขี้เกียจ เตลิดไปร้านพี่นายแป๊บเดียวแล้วค่อยกลับบ้าน” โปเต้ว่างเสียงเรียบ




“แต่...”




“อย่าดื้อนักเลย เร็วๆ ...เดี๋ยวจะพาไปซื้อหมวกกันน็อคให้ก่อน” โปเต้ว่าเสียงดุ หน้าตาก็ออกจะหวาน เสียงก็หน้าฟัง แต่ไหงกลับกลายเป็นคนแบบนี้ล่ะเนี่ย ดุกว่าเจ้าอันปันที่บ้านอีก




“.....” ช่างเหอะ โปเต้บอกไปแป๊บเดียวนี่นา




ก็ขอให้มันแป็บเดียวจริงๆก็แล้วกัน




หลังจากที่โปเต้พาผมซื้อหมวกกันน็อค เขาก็พาผมไปร้านพี่นายอะไรก็ไม่รู้ของเขา เมื่อมาถึงก็พบว่ามันเป็นร้านอาหารที่มีคาราโอเกะ มีด้วยกันสองชั้น




“ห้องวีไอพีสองครับ” โปเต้บอกกับพนักงาน





พนักงานพาพวกผมขึ้นมายันชั้นสอง ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาแต่ไกล




“โปเต้ ให้ผมนั่งรอข้างนอกเถอะ” ผมเอื้มมมือไปคว้าแขนโปเต้ไว้ เมื่อโปเต้กำลังจะเปิดประตูห้องนั้น




“เข้ามาเถอะ”




“ผมไม่ชอบเสียงดัง”




“พูดเหมือนผมชอบ” โปเต้ว่าพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าไม่ชอบแล้วจะมาทำไม




“งั้นกลับกัน”




“วันนี้เลี้ยงสายรหัสผมกับเพื่อน ถ้าผมไม่มาก็โดนด่าเละ” โปเต้อธิบาย แต่...แล้วจะเอาผมมาด้วยทำไมว่ะ




“.....”




“.....”




“...งั้นก็รีบกลับล่ะกัน” ผมว่าก่อนจะเดินตามโปเต้เข้าไปในห้อง เจอพวกเพื่อนโปเต้กลุ่มนั้นด้วย




“เฮ้ยยย ...นภัทรพาเมียมาเฝ้าหรอว่ะ” เสียงของพี่ผู้ชายคนนึงที่ในมือมีไมค์อยู่พูดขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องหันมามองพวกผมทั้งสองคนเป็นตาเดียว




“.....”




“วิ้วววววววววววววววววว/กิ้วววววววววววววววววววววววว” มาเลยครับ เสียงมาทุกรอบทิศ อะไรกันเนี่ย ใครเป็นเมียโปเต้กัน




“โปเต้ ผมอยากกลับแล้ว” ผมร้องขอโปเต้ทันที ผมไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตา ผมเกลียดบรรยากาศแบบนี้ที่สุด




“.....” โปเต้มองหน้าผมเล็กน้อย ก่อนจะจับแขนให้ผมเดินตาม แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆ




“มึงอ่ะ...ติณณ์ใช่ป่ะ” ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาถามผม




“...ครับ” ผมมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ




“เอาอะไร เดี๋ยวกูให้น้องมันชงให้”




“ผมขอน้ำเปล่า” ผมตอบเสียงเรียบ ผู้ชายตรงหน้าดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด




“เฮ้ย...ไอ้นภัทรมันพามาเปิดตัวทั้งที ก็แดกเหล้าฉลองดิ”




“ผมไม่ได้เป็นแฟนเขา” ผมแก้ตัว เพราะผมไม่ชอบให้ใครเข้าใจอะไรในตัวผมผิด




“เอาน่า ไม่ต้องอายหรอก พวกกูรับได้ มึงก็คนดัง ไอ้นภัทรก็คนดัง คนดังคบกันเองไม่น่าเกลียดหรอก” ตรรกะไหนของเขาล่ะนั้น




“แต่ว่าผม...”




“พอ...ไม่ต้องปฏิเสธอะไรหรอก แค่เรื่องเมื่อเช้าก็เป็นเครื่องยืนยันได้ละว่าพวกมึงคบกัน” เรื่องเมื่อเช้า??? เรื่องที่ผมนั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์เขชามาน่ะนะ เฮ้ย...แค่ซ้อนมอเตอร์ไซต์กันก็เป็นแฟนกันได้แล้วเหรอ คิดได้ไงเนี่ย




“.....” อธิบายไปก็ไม่ฟัง ไม่พูดแล้วก็ได้ว่ะ




“.....”




ผู้ชายคนนั้นเอาแก้วเหล้าสองแก้วมาวางไว้ตรงหน้าผมกับโปเต้ เฮ้อ...อยากรู้จังว่าเป็นสายรหัสใคร ทำไมหน้ามึนขนาดนี้ ดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นเดียวกันไม่ก็รุ่นพี่ (แม้ว่าหน้าเขาจะล้ำอายุไปไกลก็ตามเถอะ)




“โปเต้ จะกลับตอนไหน ผมง่วงนอน” ผมหันไปถามเขา




“อีกสักชั่วโมง” เขาตอบเสียงเรียบ




“งั้นผมกลับก่อนนะ” ผมว่าก่อนจะลุกขึ้น ทำให้บางส่วนที่อยู่ในห้องหันมามองผมเป็นตาเดียว




“พูดให้ฟัง ...นั่งลง” โปเต้พูดหน้านิ่ง แต่สายตาเย็นชาสิ้นดี ดูหน้ากลัวกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกเสียอีก




น่ากลัวกว่าหลายเท่าเลยล่ะ




“.....” ผมยืนลังเลอยู่ในใจ ว่าจะเดินออกไป หรือนั่งลงต่อดี




แต่...มันเรื่องอะไรที่ผมจะต้องฟังเขาล่ะ




“...ผมจะไม่ทำให้นายโดนพี่ตาลหรือพี่ปาร์ว่าหรอก” ว่าจบ ผมก็เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเอง แต่ก็โดนโปเต้กระชากข้อมืออย่างแรง จนผมเซล้มลงบนตักเขา




“เฮ้ยๆๆ อย่าทะเลาะกันนะเว้ย”




“อย่าไปรุนแรงกับติณณ์สิวะ” เสียงคนรอบข้างตะโกนบอกโปเต้




“เงียบ!” โปเต้สั่งเสียงเฉียบขาด ไม่ได้ตะโกนแต่อย่างใด แต่ทุกคนทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องต่างก็เงียบกันตามที่โปเต้บอก




“.....”




มีเพียงเสียงเพลงคาราโอเกะเท่านั้นที่ยังดังอยู่




“โปเต้ ผมเจ็บ” ผมร้องบอกเมื่อโปเต้กำข้อมือผมแน่น จนผมรู้สึกเจ็บ




“พูดดีๆแล้วฟังมั้ยล่ะ” โปเต้ย้อนถามเสียงเรียบ




“แล้วทำไมนายถึงไม่ฟังผมบ้าง” เขาไม่ฟังผม ตั้งแต่บังคับให้ผมมาที่นี่แล้วนะ




“.....”




“ปล่อย ผมจะกลับ”




“โกธรเหรอ” โปเต้ถามผม




“....” โกธร? ไม่ถึงกับโกธรหรอก ไม่เข้าใจและไม่พอใจนิดหน่อย




“.....”




“.....”




“เฮ้ยๆ ถ้ามีธุระหรือปัญหาอะไรกันก็กลับไปก่อนก็ได้นะนภัทร พี่ไม่ว่า” รุ่นพี่คนนึงพูดกับโปเต้




“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ” ว่าจบ โปเต้ก็ลุกขึ้น ทั้งๆที่ผมยังนั่งอยู่บนตักเขาอยู่ เกือบได้ลงไปกองกับพื้นแล้ว ดีนะที่โปเต้คว้าผมเอาไว้ได้เสียก่อน




“สวัสดีครับ” พูดจบ โปเต้ก็เดินออกจากห้องโดยลากข้อมือผมให้เดินตามไปด้วย




ทำไม...ผมถึงรู้สึกแปลก เหมือน...โปเต้กำลังดีใจที่ออกมาจากร้านนั้นได้




“โปเต้...” ผมเรียกชื่อโปเต้เอาไว้เมื่อเราเดินมาถึงที่รถ




“.....”




“นายคิดเอาไว้แล้วใช่มั้ย กับเรื่องเมื่อกี้”




“.....”




“.....”




“...ฉลาดหนิ”




ใช่จริงๆด้วย เขาคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเอาผมที่อยู่ในสภาพอยากกลับบ้านเต็มทน ผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบนี้




เหอะ...ช่างมันเถอะ ตอนนี้สิ่งที่ผมคิดถึงมากที่สุดคือเตียงนอนนนนนนนนนนนนนน



















พอมาถึงบ้านผมก็หลับเป็นตายเลย ตื่นมาอีกทีก็เจ็ดโมงเช้า แต่...วันนี้เป็นวันหยุด ผมเลยกะว่าจะนอนต่อ แต่ก็ต้องตื่นอย่างเต็มตา เมื่อพบว่าผม...ดันไปนอนกอดเอวโปเต้ แถมยังเอาหน้าซุกไว้ที่เอวเขาแบบนั้นอีก




และผมจะไม่รู้สึกอายมากขนาดนี้ ถ้าโปเต้ยังหลับอยู่ แต่นี่...โปเต้ตื่นแล้ว แต่กำลังนอนเล่นไอแพดอยู่




“.....” ผมรีบลุกขึ้นนั่ง แต่คงลุกเร็วไปหน่อย หน้ามืดอีกแล้ว และโปเต้ก็ยังช่วยประคองผมให้นอนลงอีกครั้ง




“ดูนี่...” โปเต้ว่าก่อนจะยื่นไอแพดมาให้ผมดู




พบว่าเป็นแฟนเพจที่ตั้งชื่อว่า ‘คู่เลิฟมาดนิ่ง นภัทร<3ติวาลิน’ ที่เอาชื่อจริงของผมและโปเต้มาตั้ง (ติวาลินเป็นชื่อจริงของผม) คนกดไลค์เป็นพันทั้งๆที่เพจพึ่งสร้างเมื่อวาน โพสต่างๆมีมาให้อ่านอีกเพียบ รวมทั้งรูปของผมและโปเต้ด้วย ทั้งรูปเดี๋ยวรูปคู่




“นี่มันอะไรน่ะ” ผมพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ คู่เลิฟมาดนิ่ง เหอะ...เอาตรงไหนมองว่าผมเป็นแฟนกัน




“...เรื่องตลกไง”




“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ผมไม่ชอบกับการถูกเข้าใจผิด แล้วนี่...ยิ่งในโลกโซเชียลที่เปิดเผยแบบนี้ รู้ไปทั่วแล้วมั้งเนี่ย




“นอนต่อไปเถอะ” เสียงโปเต้พูดเสียงเรียบ




“.....” ผมไม่ตอบอะไร เพียงแต่ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินลงไปยันข้างล่าง เห็นพี่ปาร์กับพี่ตาลนั่งคุยกันอยู่




“อ้าวน้องติณณ์ ตื่นเร็วจัง เห็นเมื่อวานหลับเป็นตาย นึกว่าวันนี้จะสาย” พี่ตาลทักผมครับ ผมเลยเดินไปหาพี่ตาล




“ไหนๆก็ตื่นแล้วน่ะ ก็เลยตื่นดีกว่า ไม่อยากนอนต่อ” ใครจะไปกล้าบอกว่า ที่หลับต่อไม่ลงเพราะตื่นมาแล้วดันเห็นตัวเองไปนอนกอดเอวน้องพี่ปาร์กันล่ะ




“พี่ไม่ได้ทำข้าวเผื่อน่ะ”




“น้องติณณ์ทำเองก็ได้”




“น้องติณณ์ ...พี่ได้บัตรดูหนังฟรีสองไป แต่พี่ไม่อยากให้ตาลไปอยู่ในห้องมืดๆเสียงดังๆน่ะ วันนี้เราเอาไปดูกับเจ้าเต้ล่ะกันนะ หนังเข้าใหม่ด้วย”  พี่ปาร์ว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบตั๋วที่อยู่บนหนังสือบนโต๊ะ แล้วยื่นมาให้ผม แต่...เรียกผมว่าน้องติณณ์แบบนี้มันแปลกๆแฮะ สงสัยติดมาจากพี่ตาลแน่ๆเลย แต่ก็นะ...ช่างเถอะ




“.....” ผมรับมาโดยไม่พูดอะไร วันนี้ก็ว่าง ไปดูหนังก็แล้วกัน รอบบ่ายโมงซะด้วย แต่...จะให้ชวนโปเต้ไปดูด้วยกันเนี่ยนะ โปเต้จะไปรึเปล่าเหอะ




“.....”




“ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวน้องติณณ์ไปหาอะไรกินก่อนนะ” ผมว่าก่อนจะลุกขึ้น




“น้องติณณ์ ฝากทำเผื่อเต้ด้วยนะ” พี่ปาร์บอกครับ




“ครับ” ว่าจบ ผมก็เดินไปในครัว เปิดหาดูของในตู้เย็นว่าพอจะมีอะไรเอามาทำได้บ้าง




“...หิว”




“.....” ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ก็ได้ยินเสียงคนพูด แต่ไอ้วลีสั้นๆแบบนี้ โปเต้แน่นอน




“...มาไม่ให้สุ่มให้เสียง” ผมบ่นเล็กน้อย นี่ถ้าผมกำลังหั่นอะไรอยู่ คงบาดมือตัวเองไปแล้ว เห็นผมนิ่งๆแบบนี้ก็ตกใจง่ายนะครับ




“...หิว”




“...จะกินอะไร” ผมถาม เพราะตัวผมเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอะไรกิน




“ผัดผัก ข้าวผัด ไข่เจียว ...เอากระเพราด้วย”




เอ่อ...นี่กะจะกินแค่มื้อเช้ามื้อเดียวรึไงกัน สั่งซะเยอะเลย




“เอาจริงอ่ะ”




“อืม”




“ถ้าอยากกินเร็วๆก็มาช่วยกัน” ผมว่าก่อนจะหันไปหยิบของมาทำ





“ทำไม่เป็น” โปเต้ตอบ




“...หั่นผักเป็นมั้ย”




“น่าจะทำได้นะ” โปเต้ตอบแบบนี้แสดงว่าไม่เคยทำ ช่างเถอะ...สอนก็ได้เรื่องแค่นี้เอง





“เดี๋ยวผมสอน” ผมว่าก่อนจะเตรียมอุปกรณ์




ตอนนี้ผักไม่มีครับ มีแต่คะน้ากับกระเพราแล้วก็แครอท ผัดผักเป็นอันต้องตัดทิ้งไป ผมเลยให้โปเต้หั่นแครอทเพื่อที่จะใส่ในข้างผัด ซึ่งโปเต้ก็ทำได้ดีนะครับ แม้จะเล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่หั่นครั้งแรกแล้วมีดไม่บาดมือก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ




“ตักข้าวรอเลย ของผมแค่ทับพีเดียวพอ” ผมให้โปเต้ตักข้าว เพราะผมเจียวไข่กับทำผัดกระเพราเสร็จแล้ว เหลือข้าวผัด ส่วนผมไม่กินข้าวผัดหรอก และที่เห็นกินข้าวน้อยแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก ผมเป็นคนชอบกินกับมากกว่าข้าวน่ะ




“.....” โปเต้วางจานข้าวตัวเองไว้ใกล้ๆมือผม




แล้วอยู่ก็มีเสียงอันปันตัวน้อยเห่าครับ โปเต้เลยหันไปเล่นกับมัน ส่วนผมก็ทำข้าวผัดไป เมื่อเสร็จแล้วก็ยกไปที่โต๊ะกินข้าว เดินกลับมาก็ยังเห็นโปเต้นั่งเล่นกับอันปันอยู่ที่เดิม




“โปเต้ ไปล้างมือแล้วไปกินข้าว” ผมบอกโปเต้ก็จะเดินไปหยิบแก้วน้ำและน้ำไปที่โต๊ะกินข้าว ส่วนโปเต้ก็เดินไปล้างมือแล้วตามผมมาอย่างว่าง่าย วันนี้ไม่ค่อยทำตาดุเลยแหะ สงสัยคงกำลังอารมณ์ดีอยู่




“โปเต้” ในระหว่างที่เรากินข้าวใกล้หมดแล้วผมก็เรียกโปเต้ครับ (โปเต้กินเก่งมาก ข้าวที่โปเต้ตักให้ผมไปทำข้าวผมก็พูนเต็มจาน แถมยังหันไปตะโกนถามพี่ปาร์เลยว่าเค้กเมื่อวานเหลือมั้ย ...กินเก่งจริงๆแหะ)




“...ว่า”




“พี่ปาร์ให้ตั๋วหนังมาสองใบ เข้าใหม่วันนี้รอบบ่าย”




“ชวน?”




“แล้วจะไปมั้ย” ลดโลกร้อนรึไง (เกี่ยว?) ประหยัดคำพูดอยู่นั่นแหละ




“...อืม” โปเต้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกินต่อ ส่วนผมน่ะกินหมดแล้ว เลยรอเก็บจาน




“เดี๋ยวล้างเอง” โปเต้เหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น




“.....”




“.....”





“...ผมล้างเอง” ผมเป็นผู้อาศัยนะฮะ ต้องล้างเองสิถึงจะถูก




“อย่าดื้อ”




“ไม่ได้ดื้อ”




“.....”




“.....”




“...ตามใจ”




แล้วหลังจากที่โปเต้กินเสร็จ ผมก็ยกจานไปล้างโดยที่โปเต้ช่วยยกจาน และยืนดูตอนผมล้างจนกระทั่งผมล้างเสร็จ





อืม...ไปดูหนังบ่ายนี้ ขออย่าให้เจอคนรู้จักเป็นพอ สาธุ

ออฟไลน์ ฝัullล้วlv

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ไม่รอดหรอกจ๊ะ!
คนรู้จักเพียบ!! ฮ่าาา
"คู่เลิฟมาดนิ่ง นภัทร ติวาลิน" เพจนี้อยู่ไหนน้อ~ จะเข้าไปถูกใจสักหน่อย :hao7:

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ตามไปชงแล้วดื่ม :hao6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด