เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว  (อ่าน 537068 ครั้ง)

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 9 (ครึ่งแรก)













พวกเรากลับมาจากเขาใหญ่กันเมื่อวาน วันนี้ไม่ใช่วันหยุด แต่ผมและเพื่อนก็พร้อมใจกันหยุดซะอย่างนั้น ไปทัศนะศึกษามันสนุกก็จริง แต่ก็เหนื่อยสุดๆไปเลย ขอพักหยุดแล้วนอนสักวันจะดีกว่า




ส่วนโปเต้ก็หยุดเหมือนกัน แต่ว่าพอตื่นมาอีกทีตอนบ่าย ก็ลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า บอกว่าจะไปรับอันปันกลับบ้าน ตอนแรกเขาก็ชวนผมนะ แต่ผมไม่ไหว เหนื่อยมาก เลยขอนอนต่อ โปเต้เองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร




แต่ว่า...นี่โปเต้ก็ออกไปได้เกือบสามชั่วโมงแล้วนะ ทั้งๆที่ความจริงแค่ครึ่งชั่วโมงก็น่าจะกลับมาได้แล้ว เพราะโรงพยาบาลสัตว์ที่เอาอันปันไปฝากมันก็ไม่ได้ไกลมาก




หายไปไหนของเขาว่ะ???




ผมที่นั่งคิดไปเรื่อย ก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อย เมื่ออยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของตัวเองก็ดังขึ้น และคนที่โทร.มาก็คือนิดา




“ว่าไง” ผมรับสายก่อนจะถามนิดา




(ไม่ว่าไง ตอนนี้กูกำลังจะถึงบ้านมึง ออกมาเปิดประตูให้ด้วยนะ จุ้บ) ว่าจบ นิดาก็วางสายไปทันที แต่ว่า...จะมาบ้าน? บ้านที่ผมอยู่ตอนนี้น่ะนะ???




นิดาจะรู้จักบ้านหลังนี้ได้ยังไง ผมยังไม่เคยบอกใคร หรือพาใครในกลุ่มเพื่อนมาเลยนะ แล้วนิดาจะมาได้ยังไง แล้วถ้าจะมา นิดาจะมาทำไม???




และดูเหมือนนิดาอาจจะรู้บ้านของผมจริงๆก็ได้ เพราะสักพักก็มีเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน ผมจึงเดินออกไปก็พบว่าเป็นรถของนิดาคันนึง แล้วก็ตามมาด้วยรถของแลนด์ และรถอีกคนที่ผมไม่เคยเห็น (และไม่รู้ว่าตามรถของพวกเพื่อนๆผมมารึเปล่า)




“รู้ได้ไงน่ะ” ผมถามเมื่อนิดาเดินลงจากรถมาหยุดอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน




“เจ้าของบ้านบอกมา เปิดประตูดิ”




“.....” ผมเดินไปเปิดประตู ทั้งที่ยังไม่หายสงสัย




ตอนนี้ห้องนั่งเล่นก็เต็มไปด้วยฝูงลิง ทั้งนิดา จีน้า หลุยส์ แลนด์ จินและเซย์ (เจ้าของรถอีกคันที่ผมไม่เคยเห็น)




“โปเต้ล่ะ” นิดาเอ่ยถามผม




“ไม่รู้” ผมตอบเสียงเรียบ ตอนแรกก็รู้นะว่าจะไปรับอันปัน แต่หายไปเกือบสามชั่วโมง เลยไม่รู้ว่าตอนนี้โปเต้อยู่ไหน ทำอะไร




“อ้าว ไหนวันนี้โปเต้ก็ไม่ไปมหาลัยไง” เซย์ถามผมพลางทำหน้างง




“ก็ใช่ ...แล้ว...มาที่นี่ได้ไง”




“อ้อ คือ...วันอาทิตย์ก่อนจะไปทัศนะศึกษา ตอนแปดโมงเรามาเอางานกับนภัทรมัน ก็เลยรู้จักบ้านมันน่ะ แต่แปลกที่ไม่เห็นติณณ์” เซย์เอ่ยบอกกับผม วันอาทิตย์ ก็คือวันหยุด วันหยุดผมตื่นเที่ยงครับ ไม่แปลกที่เซย์จะไม่เห็นผม




“คงหลับอยู่” ผมตอบก่อนที่จะเดินไปในครัว หาน้ำมาให้ทั้งหกคนนั้นดื่ม




“แล้วพี่ตาลล่ะมึง” นิดาถามผมหลังจากดื่นน้ำเข้าไปอึกใหญ่




“ไปเที่ยวกับพี่ปาร์ ...พี่ชายของโปเต้น่ะ” ผมตอบก่อนจะนั่งที่โซฟาเดี่ยว ที่มันว่างอยู่แค่ตัวเดียว




“อ่อ แล้วนี่มึงอยู่กับนภัทรแค่สองคน?” นิดาถามผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความล้อเลียน




“.....” ผมไม่ได้ตอบ แต่พยักหน้าเบาๆแทน




“กูว่าเราเข้าเรื่องเหอะนิดา” อยู่ๆแลนด์ก็พูดขึ้น เข้าเรื่อง? พวกเขามีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกับผมเหรอ??




“ก็ได้ คืองี้นะติณณ์ พวกกูมีเรื่องที่โคตรจะสงสัยเลยว่ะ คืองี้นะ ตอนที่พวกกูรู้ว่ามึงกับนภัทรอยู่ด้วยกัน นภัทรกับมึงยืนยันกับพวกกูว่าเป็นเพื่อนกัน แต่แล้วทำไมตอนเดินป่า แล้วมึงโดนกิ่งไม้บาดขาอ่ะ ทำไมนภัทรถึงได้บอกว่ามึงเป็นแฟนเขา แล้วไหนจะเรื่องแหวนคู่อีก” นิดายิงคำถามมายาวมาก




แล้ว...ผมมีเหตุผลที่จะต้องตอบคำถามพวกนั้นด้วยเหรอ ก็ไม่หนิ




“....”




“ไอ้ติณณ์ พวกเราอยากรู้” จีน่าถามผมด้วยสีหน้าที่อยากรู้เสียเต็มประดา




“ทำไมต้องอยากรู้ ว่าทำไมพวกกูถึงเป็นแฟนกัน” อันนี้ไม่ได้จะยียวน หรือกวนตีนนะ คือผมไม่เข้าใจจริงๆ ขนาดตัวผมเองยังไม่อยากรู้เลย ใครจะคบใคร คบกันได้ยังไง ทำไมต้องไปอยากรู้ด้วยล่ะ




“แหมมมม... ผู้ชายมาดนิ่งแสนเงียบอย่างมึงกับคุณชายหน้าหวานผู้เย็นชา หยิ่งและโคตรเงียบอย่างนภัทรมาคบกัน ใครๆมันก็ต้องอยากรู้ที่มานั่นแหละ”




“.....” เหรอว่ะ!?!




แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร ก็มีเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน คาดว่าหน้าจะเป็นรถของโปเต้ เพราะเมื่อตอนบ่ายโปเต้เอารถยนต์ของตัวเองขับออกไป




และมันก็คงจะจริง เพราะผมได้ยินเสียงประตูบ้านเปิด สักพักเจ้าหมาตัวน้อยที่น่ารักของบ้านก็รีบวิ่งมาหาผม




ไปตั้งสามชั่วโมง ไปรับอันปันหรือไปทัวร์พัทยา??




บ็อก! บ็อก!




เสียงอันปันเห่าพวกเพื่อนๆของผม คงเพราะมันเห็นคนแปลกหน้า




“...มาทำไม” โปเต้ที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยขึ้น ไม่น่าจะถามทุกคน น่าจะถามพวกเพื่อนของเขามากกว่า




“ว่าง” เซย์เป็นคนตอบ




“.....” โปเต้มองนิ่งๆ ก่อนจะก้มลงแล้วอุ้มเจ้าอันปันที่ส่งเสียงเห่า แล้วเดินหายออกไปยังทางที่พึ่งเข้ามาเมื่อกี้





“อันปันล่ะ” ผมเอ่ยถามเมื่อโปเต้เดินกลับเข้ามา




“ฝากนิกกี้เลี้ยง” นิกกี้ หมาพันธุ์โกเด้นที่สนิทกันอันปัน ซึ่งเป็นหมาของคุณบ้านข้างบ้าน




“...แล้วหายไปไหนมาตั้งสามชั่วโมง” ผมเอ่ยถาม ไม่ได้จะหายเรื่องนะ แค่อยากรู้ว่าแค่ไปรับอันปัน ทำไมต้องไปตั้งสามชั่วโมง




“ไปทำธุระให้พี่ปาร์”




“อืม” ที่แท้ก็ไปทำธุระให้พี่ปาร์




“กินอะไรยัง” โปเต้ถาม




เอ่อ...เหมือนว่าผมสองคนจะคุยกันจนลืมอีกหกคนที่นั่งหายใจมองพวกผมคุยกันโดยไม่พูดอะไร แต่..ช่างเหอะ




“ยัง”




“ทำไม”




“พึ่งตื่น”




“งั้นก็ไปหาอะไรกิน ...ไปมั้ย” ประโยคถัดมาเขาหันไปถามคนอื่นๆ




“เอ่อ ...เอาดิ” นิดาเป็นคนตอบครับ




สรุปพวกเราก็ขับรถออกจากบ้าน ทั้งที่พวกเพื่อนๆผมพึ่งจะเข้ามาในบ้านได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และอาหารของเรามื้อนี้ก็คือ..อาหารญี่ปุ่นครับ




ระหว่างกิน พวกเพื่อนๆก็คุยกันบ้าง เล่นมุกใส่กันบ้าง คงจะมีแค่ผมกับโปเต้ที่ไม่มีบทพูด อ้อ ...แล้วก็มีจิน ที่จริงจินไม่ได้มีลักษณะแบบผมหรือโปเต้หรอก แต่เหมือนจินจะเป็นขี้อายและพูดน้อย ส่วนมากจะชอบยิ้มแล้วนั่งฟังแทนซะมากกว่า




และเมื่อกินเสร็จ พวกเราก็สรุปว่าจะเดินเล่นย่อยอาหารก่อน แล้วคิ่ยคิดอีกทีว่าจะกลับบ้านหรือไปเที่ยวที่ไหนต่อ




“ทำอะไร?” ผมร้องถาม เมื่ออยู่ๆโปเต้ก็ยกมือขึ้นโอบเอวผม




“โอบเอว” กวนตีนล่ะ




“โอบทำไม” ผมว่าก่อนจะดึงมือโปเต้ออก แล้วเจ้าตัวไม่ยอม โอบเอวผมซะแน่นจนตัวผมและตัวเขสชิดกันมาก




“ก็มีแต่คนมอง” โปเต้ว่าก่อนจะทำตามดุใส่ผม เมื่อผมหยิกมือของเขา




“คนมีตาเขาก็มองสิ”




“ก็ไม่อยากให้มอง”




“บ้าล่ะ”




“นี่...”




“..อะไร”




“ผมเป็นคนขี้หวงนะ”




“แล้ว?”




“แฟนผมทั้งคน ผมก็ต้องหวงสิ แถมไอ้พวกที่มอง ก็มองด้วยสายตาอยากทำความรู้จักคุณทั้งนั้น จะไม้ให้ผมรู้สึกอะไรเลยเหรอ”




“.....” เอ่อ...บางทีผมก็อยากให้เขาเงียบๆ เหมือนที่เขาเป็นอยู่ทุกทีนะ




สารภาพเลยล่ะกัน ...เออ ผมกำลังเขินกับคำพูดเมื่อกี้ของโปเต้ ให้ตายเหอะ นี่ผมกำลังเขินผู้ชายด้วยกันเนี่ยนะ




“ถ้าไม่อยากให้จับ ก็ขอโทษล่ะกัน” โปเต้ว่า ก่อนจะปล่อยมือที่โอบผมอยู่จริงๆ และทำท่าจะเดินนำผมไป




แต่ว่า....




หมับ!




“.....” โปเต้หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผม



แน่ล่ะ ...ก็เพราะอยู่ๆผมก็เอื้อมมือไปจับมือโปเต้นี่นา




ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่อยู่ๆก็รู้สึกไม่อยากให้โปเต้ทำกับผมแบบนี้ ปล่อยมือแล้วทำท่าจะเดินหนี บอกตามตรงว่าผมไม่ชอบ ไม่เอาอ่ะ...ไม่เอาแบบนี้




“แค่จับ ไม่ต้องถึงกับโอบ...นะ” ผมเอ่ยบอกเสียงเบา รู้สึกประหม่าปนเขินที่ต้องพูด




“...ครับ” โปเต้ตอบรับ ก่อนจะกระชับมือผมแน่นไปอีก




แฟนกัน...ก็คงจะประมาณนี้สินะ








******************************************

ตอบคำถามที่บางคนสงสัย

ผมเรียนอยู่มัธยมครับ แต่อยู่ชั้นเดียวกันกับพี่สาว เพราะผมเข้าเรียนก่อนเกณฑ์

พี่สาวผมตอนนี้โอเคแล้ว ซ้ำยังฝากขอบคุณทุกๆคนที่มาคอมเม้นต์แนะนำแล้วให้กำลังใจด้วยนะครับ


ขอบคุณที่ติดตามนิยายของผมครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2015 05:07:11 โดย Pawaree »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai2-1:  เขินเหลือเกินเจ้าข้าเอ๊ยยยย

ออฟไลน์ nunnuns

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1972
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
สองคนนี้ทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมดเลยเย่ ชอบมากกกกสองนิ่งเนี่ย5555 โปเต้ขี้หึงขี้หวง เจอแฟนหน้าตาโคตรดีต้องทำใจนะครัชตัวเอง

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ว้ายยยยโปเต้ คนปากกับใจตรงกัน

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
 ประหยัดคำพูดกันจริงๆเลยสองคนนี้

มีองมีโอบกันด้วย พัฒนาๆ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
โปโต้ หวานจังอิอิ หึงตินณ์ด้วยยยยยยย :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
โป้เต้ขี้หึงนะ  เริ่มแสดงออกแล้ว
เวลาที่โปเต้กับตินณ์อยู่ด้วยกันลืมคนรอบข้างประจำเลย

ออฟไลน์ rainbowbim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 94
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักมากกกกกๆ เลยอ่ะ โอ๊ยยยยยย :-[

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
น่ารักที่ซู้ดดดดด  โปเต้เนียนเนอะ เป็นแฟนกันหลอกๆนะจ๊ะโปเต้

ปล.ไม่รู้ใช่คำผิดหรือเปล่า   คุณบ้านข้างบ้าน ,   ผมไม่ไหว ง่ายมาก  ง่ายเลยหรอจ๊ะติน อิอิ


 :L2:



ออฟไลน์ cass-meyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
มาแบบนิ่งๆ แต่โคตรหวานอ่ะ

เขินแทนติณเลยยยยยยยย

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ้ย...น่ารักอ่ะ แหมๆๆหนูอย่าขี้หวงมากนักนะโปเต้ ปล่อยๆติณน์เค้าบ้าง

ปล.เค้าอยากอ่านอีกเรื่องอ่ะ คิดถึงนิคแอล เนลเนส แล้วก็มาร์เจกับโช เอ๊ะใช่ชื่อนี้มั้ยนะจำไม่ได้แล้วอ่ะ

ออฟไลน์ PHA_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 206
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โปเต้วววววว น่าร๊ากกก มีหงมีหึงด้วยเว๊ะ
เพื่อนๆนี่ขี้เสือกระดับเทพจริงจังเลย55555555

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
จบได้ฟินกว่าncร้อนๆเป็นร้อยเท่า

บทนี้งานละเมียดมากกกกกกกอะ

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
น่ารักจังเลยยยยย มาต่อไวๆนะคะ

ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ชอบบรรยากาศฟินๆแบบลืมคนรอบข้าง

ออฟไลน์ Gapompom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
หวานอ่ะ

ถึงจะเงียบๆแต่หวงนะครับ อิอิ

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
เป็นเเฟนกันแบบเนียนๆ :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เบื่อเพื่อน วุ่นวายตอนอยู่กันสองคนละมุนมาก

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :o8:เค้าเขินเหมือนที่ติณน์เขินเลย

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
คู่นี้ คนอื่นยังจำเป็นอยู่ไหม 5555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ dekzappp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 271
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อ๊ายยยย เขินนนนน >////<
เขารักกันเงียบๆดีเนอะ มุ้งมิ้งกันอยู่ 2 คน รู้สึกตั้งแต่เป็นแฟน ติณณ์ดูเปิดเผยมากขึ้นนะ น่ารักขึ้นด้วย

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
ไม่ใช่แฟนหลอกๆแล้วติณณ์ หวงกันขนาดนี้
ฝากถึงพี่สาว ด้วยนะ เชิดๆเริดๆเข้าไว้ ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุธทรา หาเอาข้างหน้าดีๆอาจมีของเราอยู่

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
โปเต้น่ารักอ่ะขี้หวงสุดๆ

ออฟไลน์ Mickey199663

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คู่นี้หวานมากกกกกก หวานในแบบฉบับของคู่นี้ ไม่ได้สวีทมากอะไรเลยนะ แต่เขินอ่ะ
"ผมเป็นคนขี้หวงนะ" นี่กรี๊ดกับประโยคนี้ของโปเต้มาก 555555555
แล้วสองคนนี้หวานกันแบบไม่สนใจคนรอบข้างเลย โลกนี้มีเพียงเราสองคน 555555
อยากลองอ่านมุมของโปเต้บ้าง จะมีมั้ยคะ :mew2:

ออฟไลน์ cbqx

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 อิจฉาาาาาาาาติณณ์
อยากได้แบบโปเต้

งื้อออ คนแต่งอายุน้อยจังงงงงง  เราก็มัธยมนะ กำลังขึ้น ม.6 เลยยยยย

ออฟไลน์ ป้าจู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
มันสั้นไปนะ ตอนนี้มาเงียบๆแต่เขินจิกหมอนนะครับ  :-[

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 783
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อู้ววว~หวานกันแบบไม่แคร์สื่อเลยนะหนุ่มๆ คุคุคุ :hao7:

ออฟไลน์ tempo_oil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-1
คิดถึงงงงงงง

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
ตอนที่ 9 (ครึ่งหลัง)









[Pota’s part]







ผมเดินไปพลางเหลือบตามองคนข้างๆ โดยที่เขาไม่ทันได้สักเกตุ ผู้ชายที่เตี้ยกว่าผม ผู้ชายที่เป็นเจ้าของมือที่อบอุ่น ...ผู้ชายที่ผมกำลังเดินจับมืออยู่ตอนนี้




...ติณณ์




ติณณ์เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากๆ มากเสียงจนผมอยากจะให้ติณณ์อยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องออกมาเจอผู้คน และผมรู้ว่าถ้าหากทำแบบนั้น ติณณ์ก็คงเกลัยดผมแน่ ติณณ์ไม่ชอบให้ใครมากบังคับ แต่เขาจะชอบตามใจคนอื่นๆโดยที่เจ้าตัวเองก็คงจะไม่รู้




2 ปีแล้ว ...ที่ผมเอาแต่เฝ้ามองคนๆนี้ โดยที่ไม่มีใครรู้




ผมหลงเสน่ห์เขาตั้งแต่วันแรกที่พบหน้า...เมื่อตอนรับน้อง




ติณณ์มีใบหน้าที่หล่อเหลาและโดดเด่น บุคลิกที่น่าค้นหา และความสันโดษที่แผ่ออกมาจนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ ใบหน้านิ่ง...และไม่มีรอยยิ้ม




จนกระทั่งวันนั้น...วันที่ผมมองติณณ์เปลี่ยนไป จากที่คิดว่าแค่หลงเสน่ห์ ต้องแปรเปลี่ยนไปใช้คำว่า ... ‘หลงรัก’





วันนั้นฝนตกหนัก แต่ผมหิว เลยเดินออกจากหอ กางร่มเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกล แต่อยู่ๆก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีรถยนต์คันนึงขับรถมาและคาดว่าคงมองไม่เห็นแมวตัวนึง ที่กำลังเดินข้ามถนน รถคันนั้นชนแมวตัวนั้นเข้าอย่างจัง แล้วก็ขับหนีไปโดยไม่ยอมจอดลงมาดูว่าตัวเองได้ชนกับอะไรเข้า




แมวตัวนอนอาบเลือดอยู่บนพื้นถนน ผมเองก็ทนดูไม่ได้ กำลังจะเดินไปหาแมวตัวนั้น เพราะแถวนั้นมีโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ใกล้ๆ




แต่อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงในชุดไปรเวท เดินลงไปบนถนนอย่างไม่กลัวถูกรถชน และทันทีที่เห็น ผมก็จำได้ทันทีว่าคนนั้นๆคือใคร




ติณณ...อุ้มแมวตัวนั้นขึ้นมา ก่อนจะรีบวิ่งไปที่โรงพยาบาลสัตว์ และแน่นอนว่าผมเองก็รีบตามติณณ์ไป




ผมยืนกางร่มมองเข้าไปในห้องกระจกที่ไม่ใหญ่มาก ผมเห็นติณณ์กำลังยืนอยู่และมองไปยังประตูที่ปิดสนิท ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองมั้ย ติณณ์เป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ใดๆ ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากผม ติณณ์เหมือนเป็นคนไม่สนใจอะไร แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่า...




...ติณณ์กำลังเศร้า




และมันก็ทำให้ผมเศร้าไปด้วย




ผมยืนมองติณณ์อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งหมอออกมา ผมไม่รู้ว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน รู้เพียงแค่ว่า หมอส่ายหน้าเบาๆ แล้วเอามือตบบ่าติณณ์




หมายความว่าเจ้าแมวนั้นคงไม่รอดสินะ




ติณณ์พยักหน้าเบาก่อนล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเงินออกมา คาดว่าคงจะเป็นค่ารักษา แต่หมอคนนั้นส่ายหน้าเบาๆ เหมือนไม่รับเงินนั้น แล้วก็พูดอะไรอีกสองสามประโยค ติณณ์ยกมือไหว้หมอก่อนจะเดินออกมาจากโรงพยาบาลสัตว์นั้น แล้วเริ่มออกเดิน ส่วนผมก็ได้แต่เดินตามด้วยความเป็นห่วง อยากจะเดินเข้าไปกางร่มให้ แต่ผมก็ไม่กล้า ได้แต่เดินตามไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงหอพักที่อยู่เยื่องๆกันกับหอพักที่ผมอยู่ และมันก็น่าจะเป็นหอพักที่ติณณ์พักอยู่




เห็นท่าทางเศร้าๆของติณณ์แล้วผมก็อยากจะเข้าไปกอด รู้สึกไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้ต้องมีอาการแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก




แต่แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตากำลังเข้าข้าง หรือตัวเองทำบุญมาเยอะรึเปล่า




ผมกดออดหน้าบ้านของพี่ชายของผม พี่ปาร์ตี้...เขาขอให้ผมมาอยู่ด้วย หลังจากที่สร้างบ้านของตัวเองเสร็จ พี่ปาร์อยู่บ้านหลังนี้กับพี่ตาล ภรรยาของพี่เขา แต่เขาก็อยากให้ผมเข้ามาอยู่ด้วย เพราะพ่อกับแม่พวกเราแยกทางกันไปนานแล้ว พี่ปาร์บอกกับผมว่า ไหนๆก็มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว ก็อยากจะให้ผมเข้ามาอยู่ด้วย เพราะผมกับพี่ปาร์เราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานมากแล้วเหมือนกัน นับตั้งแต่ที่พ่อกับแม่แยกทางกัน




ผมกดออดของบ้านหลังนี้ไปได้ไม่นาน ก็มีคนเดินออกมา ทายสิ...ว่าผมเจอใคร




ติณณ์ ...เดินออกมาเปิดประตูบ้านให้ผม และติณณ์ก็คงจะเป็นน้องชายของพี่ตาล อย่างที่พี่ปาร์ได้บอกไว้ ซึ่งผมก็พึ่งรู้ และก็ยังสงสัยว่าทำไมตอนงานแต่งพี่ปาร์ ผมถึงไม่ได้เจอกับติณณ์




‘นายคงเป็น...โปเต้?’ เสียงนุ่มน่าฟังติดแหบนิดๆ ของติณณ์เอ่ยถามผม แถมยังเรียกผมด้วยชื่อเล่นที่ผมไม่เคยให้คนอื่นนอกจากคนในครอบครัวเรียก ไม่อยากนั้นผมคงเข้าไปต่อยแล้ว ขนาดเพื่อนสนิทผมยังไม่ให้มันเรียกเลย แต่สำหรับติณณ์ ...มันเป็นข้อยกเว้น




‘…..’ ผมไม่ตอบ ทำแค่เพียงยืนมองติณณ์นิ่งๆ นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมได้ยืนใกล้ติณณ์ขนาดนี้ ใจผมเต้นแรงจนจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว แต่ผมก็อาศัยความนิ่งเป็นนิสัยของตัวเองเข้าช่วย ก่อนจะชี้ไปยังประตู เพื่อบอกเป็นนัยๆว่าให้เขาเปิด




ติณณ์มองตามมือผมก่อนจะเปิดประตูให้ ผมเดินเข้าไป ทำให้ใกล้ติณณ์มากขึ้น ติณณ์ผมตั้งแต่เท้าจรดหัว ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ตัวมั้ย แต่คิ้วของเข้าขมวดเล็กน้อย ติณณ์เตี้ยกว่าผมเกือบสิบเซนต์เห็นจะได้ ไม่ก็มากกว่านั้น




‘นำไปสิ’ ผมเอ่ยบอกกับติณณ์ มันเป็นครั้งแรกที่ผมพูดกับเขา ทำให้เสียงผมแข็งเกินไปซะอย่างนั้น ติณณ์มองหน้าผมอย่างขัดใจราวกับไม่พอใจนิดๆ แต่ก็เดินนำผมเข้าไปในบ้าน ผมอยากจะตบปากตัวเองชะมัด ไปพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นกับติณณ์ได้ยังไงกัน




‘รออยู่นี้ เดี๋ยวมา’ ติณณ์พาผมขึ้นมายังห้องนอน ก่อนที่จะเดินออกไป ทำให้ผมได้มีเวลาสำรวจ พบข้าวของเครื่องใช้ที่มันเป็นของติณณ์ และผมก็อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ ...อยากจะรู้ว่าผมไม่ได้ฝันไป ผมกำลังจะได้นอนห้องเดียวกันกับติณณ์ ได้นอนเตียงเดียวกัน




ติณณ์เดินกลับมาพร้อมกับไว้แขวนเสื้อที่เยอะพอสมควร เดินเอามาวางไว้ที่เตียง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วขยับเสื้อผ้าของตัวเองที่แขวนอยู่ ให้ไปชิดริมฝั่งนึง




‘เต้ารีด โต๊ะรีดผ้า’ ติณณ์บอกผมก่อนจะชี้ไปยังมุมห้อง ผมมองตาม ก่อนจะหันไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง หันมาอีกีติณณ์ก็หายไปแล้ว ผมจึงรีบจัดเสื้อผาของตัวเองเข้าตู้เสื้อผ้า




และเมื่อจัดของทุกอย่างเสร็จ ผมก็เดินลงมาข้างล่าง เห็นติณณ์นั่งที่พื้น เหมือนกำลังทำงานอยู่ ผมเลยเดินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะเปิดทีวี




และดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรผมเลย ...ทำเอาเฟลไปนิด แต่แล้ว...ความกล้าบางอยู่ที่อยู่ในตัวผมก็ผุดขึ้นมาอย่างแรงกล้า แล้วหลุดปากพูดออกไป....




‘หิว’




พูดไปแล้ว....และเสียงแข็งอีกแล้ว




‘.....’ ติณณ์ชะงักมือที่กำลังร่างแบบ ก่อนจะหันหน้ามามองผม




‘...หิว’ ผมมองหน้าเขา ก่อนจะพูดคำนั้นอีกครั้ง เอาว่ะ...ไหนๆก็ไหนๆ กล้าๆหน่อยสิมึง




แล้วเราก็จ้องตากันอยู่อย่างนั้นสักพัก บอกตามตรงว่าใจสั่นโคตรๆ และสุดท้ายติณณ์ก็ทิ้งงานในมือแล้วเดินออกไป ซึ่งไปไหนก็ไม่รู้ อ่า...เขาโกรธอะไรผมรึเปล่าเนี่ย




แต่อยู่ก็มีแก้วน้ำมาวางลงตรงหน้าผม และเสียงเรียกเบาๆ




‘โปเต้’ ติณณ์เรียกผม พร้อมกับมือที่ยื่นขนมปังมาให้




นี่ติณณ์...ไปหาอะไรมาให้ผมกินเหรอเนี่ย




ปลื้มว่ะ...เขินด้วย




และแล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องเขินมากกว่านั้น เมื่อหมาน้อยชิวาวาของพี่ชายผมวิ่งมานั่งบนตักผมตอนที่ติณณ์หยิบงานของเขาแล้วเดินออกไป




และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เคยเห็นเจ้าอันปัน ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย แต่ติณณ์กำลังตื่นเต้นกับเจ้าลูกหมาตัวน้อย ทำให้ผมสรุปไปเองเลยว่า ...ติณณ์ชอบสัตว์น่ารักๆ




ผมนั่งมองติณณ์ที่พยายามจะเข้าไปเล่นกับอันปัน ซึ่งอันปันตัวน้อยทำท่าจะไม่เล่นด้วย แถมยังจะกัดติณณ์อีก ผมจึงเป็นคนไปช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่อันปันก็ยังทำท่าจะกัดติณณ์อีก ผมเลยเรียกอันปันเสียงดุ แต่ติณณ์กลับห้ามผมว่าอย่าดุหมา ติณณ์สนใจหมามากกว่าผมเสียอีก และความกล้าของผมมันก็มาอีกครั้ง เมื่อผมขอมือติณณ์ แน่นอนว่าตอนแรกเจ้าตัวก็ไม่ให้หรอก แต่ผมเอาอันปันไปอ้าง ทำให้ติณณ์ยอมวางมือนุ่มๆของเขาลงบนมือของผม มือติณณ์เล็กกว่าผมมาก ความนุ่มของผิวมือติณณ์ แม้จะไม่นุ่มเท่ามือของผม แต่ก็ทำให้ผมอยากจับไปนานๆ แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่อยากนั้นติณณ์จะต้องไม่ให้ผมเข้าใกล้เขาแน่ๆ แต่อยู่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เจอ ติณณ์โดนอันปันกัด เพราะตกใจเสียงพี่ตาลเลยทำให้มือไปโดนเจ้าอันปัน ส่วนเจ้าหมาน้อยก็งับที่นิ้วติณณ์เต็มๆ และเป็นผมที่เป็นคนพาติณณ์ไปหาหมอ




วันนั้นเป็นวันที่ผมนอนไม่หลับ คิดดูสิ...คนที่ชอบมานอนอยู่ข้างๆ ใครจะไปกล้าหลับกัน ผมใจเต้นจะตาย ทั้งเขินทั้งประหม่า




แต่แล้วมันก็มีเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผมเกิดขึ้น ข่าวว่าผมกับติณณ์กำลังคบกันดังไปทั่วคณะ เพียงเพราะติณณ์มาเรียนพร้อมกับผม แค่นั้น ...ซึ่งนั้นมันก็ดี แล้วมันก็ทำให้ผมตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่า...




...ผมจะจีบติณณ์ ...แบบเนียนๆ




เจอหน้ากันทุกวัน นอนด้วยกัน อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น แล้วความพยายามในการที่ผมจะดันตัวเองให้เข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตติณณ์อย่างเนียนๆ




จีบไม่ติดก็ให้มันรู้ไป




**********************************************

เห็นมีแต่คนอยากอ่านพาร์ทของโปเต้ เลยจัดให้สักหน่อย และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่ตอนเดียว

หวังว่าจะถูกใจกันนะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด