ตอนที่ 10 (ครึ่งแรก)
[Pota’s part]
บางทีผมก็เคยคิดนะ ว่าอยู่ด้วยกันขนาดนี้ ติณณ์จะคิดอะไรกับผมบ้างมั้ย ถ้าไม่...แล้วเขาจะรำคาญผมรึเปล่า
ผมไม่เคยจีบใคร ไม่เคยสนใจความรัก แต่พอเห็นติณณ์ครั้งแรกหัวใจผมก็เต้นผิดจังหวะ
...อยากอยู่ใกล้ๆ
...อยากกอด
...อยากคุย
...อยากจะทำอะไรที่มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ก็คิดว่าคงทำไมไม่ได้
จนกระทั่งผมคิดว่า การที่ผมได้ก้าวเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตของติณณ์ มันก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์ไปเสียทีเดียว
ติณณ์ใส่แหวนที่ซื้อด้วยกันกับผม ติณณ์พยายามใจเย็นยามที่ผมมีอารมณ์ร้อนอยู่ในตัว ทั้งที่ติณณ์จะทำเป็นไม่สนใจก็ได้ ติณณ์ป้อนน้ำผม เมื่อเห็นผมไอเพราะคอแห้ง ติณณ์ไปหาอะไรมาให้ผมกินเพียงเพราะผมบอกว่าหิว ติณณ์บอกผมในสิ่งที่ควรทำทั้งที่ถ้าปล่อยผ่านไปก็คงไม่เป็นไร ติณณ์ใส่ใจผมอย่างเปิดเผย จนผมเองและคนรอบข้างยังรู้สึกได้ ติณณ์ไม่ชอบหากจะถูกเข้าใจผิด แต่ติณณ์ก็ไม่เคยปฏิเสธอย่างจริงจังในเรื่องของเรา ติณณ์เป็นคนที่เมินเฉยมาก แต่เขากลับใส่ใจผมมากขึ้น ติณณ์ไม่โกรธที่ผมแกล้งแหย่เขาเพื่อให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อน
ระหว่างเรา แม้ว่าผมจะไม่พูดอะไร แต่ติณณ์กลับรู้ว่าผมต้องการอะไร
ติณณ์ห่วงผมแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย
มันไม่ผิดใช่มั้ย ที่ผมจะขอคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า ติณณ์เองก็เริ่มมีใจให้ผมแล้วเหมือนกัน
เรื่องของติณณ์อยู่ในหัวผมตลอดเวลา เวลาติณณ์ทำหน้าไม่เข้าใจตอนอยู่ในคลาส ก็อยากจะถามเขาว่าไม่เข้าอะไรตรงไหน ตอนที่ต้องรีบวิ่งขึ้นคลาสเรียนเพราะมาสาย ก็อยากจะถามว่าเหนื่อยมั้ย อยากเข้าไปเช็ดเม็ดเหงื่อที่ซึมอยู่ที่ใบหน้า อยากจะหยิบสมุดสักเล่มขึ้นมาพัดให้ ผมแอบถ่ายรูปตอนที่เจ้าตัวไม่รู้ไว้เสียเต็มเครื่อง และไม่อยากให้เขารู้ กลัวเขาจะคิดว่าผมเป็นโรคจิต
อย่างที่เคยได้บอกไป ติณณ์เป็นผู้ชายที่หล่อ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร มันก็จะดูน่ามองไปซะหมด และนั่นมันก็ทำให้ผมเริ่มหนักใจ เมื่อมีคนเริ่มแสดงตัวว่าชอบติณณ์นอกจากผม คนพวกนั้นเริ่มแสดงท่าทีอย่างชัดเจน มันทำให้ผมอิจฉาอยู่นิดๆ ผมใจไม่กล้าพอที่จะจีบแบบตรงๆ ผมยังไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าติณณ์ชอบผม แล้วถ้าหากผมทำแบบนั้นและติณณ์ไม่ได้ชอบผม ติณณ์อาจจะถอยห่างจากผม
คนแรกที่ผมอยากจะซัดให้กระเด็นก็คือไอ้เฟียส มันจีบติณณ์อย่างโจ่งแจ้ง และพยายามจะเข้าใกล้ แต่ยังดีที่ติณณ์ปฏิเสธอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ยอม
คนที่สองคือพี่เฟรม พี่รหัสของติณณ์ และดูเหมือนพี่เขาจะชอบติณณ์มานานแล้วเหมือนกัน แถมยังชอบเนียนเข้ามาใกล้ๆติณณ์ (เหมือนผม) คนนี้ผมหนักใจมาก เพราะเขาเป็นถึงพี่รหัสของติณณ์ ติณณ์คงไม่มีทางไล่พี่รหัสของตัวเองแน่ๆ
ผมอาจจะเหมือนคนเห็นแก่ตัว ที่ไม่อยากยกติณณ์ให้ใคร ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไร ผมเองก็ไม่ต่างจากคนพวกนั้น แต่เรื่องอะไรผมจะยอมแพ้ด้วยเรื่องแค่นี้
ผมพึ่งเข้าใจว่าการจะจีบคนๆนึง มันดูยากไปเสียหมด ผมไม่รู้วิธีการอะไรเลย เพราะไม่เคยคิดถึงเรื่องความรักมาก่อน ผมเลยใช้วิธีทำในสิ่งที่อยากทำ แต่ดูเหมือนว่า ติณณ์จะไม่เข้าใจ เขาคงจะเข้าใจแค่ว่า ...ผมทำไปเพราะอาจจะเห็นเขาเป็นเพื่อน
ตอนไปทัศนะศึกษา ผมแทบบ้าเมื่อเห็นติณณ์เดินหายไปกับพี่เฟรม และแน่นอนว่าผมแอบตามไป
‘เอ่อ...คือ...ติณณ์คบกับนภัทรจริงๆหรอ’
พี่เฟรมถามติณณ์ คำถามนั่นทำเอาผมลุ้นไปด้วย ติณณ์เงียบไปสักพักก่อนจะตอบ
‘ครับ’
ติณณ์ตอบพี่เฟรมไปอย่างนั้น ผมรู้สึกดีใจที่ติณณ์เลือกที่จะอ้างผม แต่อีกใจกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ผมไม่อยากให้ติณณ์เป็นแฟนปลอมๆ ที่ติณณ์เอาไปแอบอ้าง ผมไม่โกรธติณณ์...แค่น้อยใจว่าผมเป็นได้แค่นั้นจริงๆน่ะเหรอ
‘ทำไมล่ะติณณ์ พี่คิดว่าติณณ์ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะว่าพี่ชอบติณณ์มานานแล้ว’
นั่นคือเสียงพี่เฟรม ที่พูดกับติณณ์ราวกับตัดพ้อ ผมเลือกที่จะแอบอยู่แถวนั้นเพื่อดูท่าที ถ้าเกิดพี่เฟรมทำอะไรติณณ์ขึ้นมา ผมจะได้ไปช่วยทัน เพราะดูจากปัจจัยหลายๆอย่าง ติณณ์สู้แรงพี่เฟรมไม่ได้แน่ๆ
‘พี่เฟรมครับ ผมต้องขอบคุณความรู้สึกที่พี่มีให้นะครับ แต่ผมคงรับเอาไว้ไม่ได้ ที่ผมมีให้พี่คือ...นับถือพี่เหมือนพี่ชายก็เท่านั้น ขอโทษนะครับ ผมขอตัวก่อน’
ว่าจบ ติณณ์ก็เดินหนีพี่เฟรมออกมา ผมเห็นพี่เฟรมมองตามติณณ์อย่างขัดใจ ก่อนที่พี่เฟรมจะหมุนตัวเดินหนีไปอีกทาง
ตอนนั้น...อยู่ๆก็มีความคิดบางอย่างผุดเข้ามาในหัวผม คิดแค่ว่าจีบไปขนาดนั้นติณณ์ยังไม่รู้ ก็คงต้องลองใช้วิธีนี้
‘นี่...’
ผมส่งเสียงออกไป ติณณ์สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบหันมาทางผม ติณณ์มีสีหน้าที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัดที่เห็นผม และสุดท้ายติณณ์ก็เป็นคนเอ่ยปากพูดขึ้นก่อนหลังจากที่เรายืนจ้องตากัน ผมอยากจะรู้จังว่าในสายตาติณณ์ เห็นผมเป็นคนแบบไหน ทำไมเขาถึงมีท่าทีแบบนั้น
‘หึ...งั้นผมจะไปบอกพี่คนนั้น ว่าผมกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน’
ตอนที่พูดออกไป ผมโคตรจะไม่มั่นใจเลย กลัวติณณ์จะไม่แคร์แล้วให้ผมไปบอกพี่เฟรมจริงๆ แต่แล้วผมก็ต้องหยุดความคิดนั่น เมื่อติณณ์คว้าแขนของผมเอาไว้ ติณณ์ถามก่อนจะขอโทษผมเรื่องที่เอาชื่อผมไปแอบอ้าง อยากจะบอกว่าไม่ได้โกรธ เพียงแต่ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องหลอกๆ
มันเป็นนิสัยของคนเราอยู่แล้ว ที่จะหวัง...หวังว่าคนที่เรารักจะสนใจ หวังว่าเขาจะรับรักเรา หวังว่าเขาจะไม่อายหากต้องบอกคนทั้งโลกว่ารักเรา
และตอนนี้ผมก็หวัง หวังว่าคนตรงหน้าผมจะยอมคบกับผม แบบจริงๆ ...ไม่ใช่เพื่อหลอกคนอื่น ผมไม่อยากเป็นแฟนกำมะลอ กลัวว่าถ้าหากเมื่อถึงจุดๆนึง แล้วสรุปว่าติณณ์ไม่ได้รู้สึกอะไร เป็นแฟนกำมะลอเพื่อหลอกคนอื่น ผมทำใจไม่ได้
เพราะงั้นผมจึงไม่ตกลงที่จะเป็นแฟนแบบหลอกๆของติณณ์อย่างแน่นอน
‘แล้วนายจะเอายังไง จะเป็นแฟนจริงๆกับผมรึไง’
ดูไม่น่าเชื่อว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของติณณ์ มันทำให้ผมอยากบอกกับติณณ์จริงๆว่า ใช่...ผมอยากเป็นแฟน แฟนจริงๆ...ที่ไม่ต้องหลอกคนอื่น
แต่แล้วท่าทางลังเลของติณณ์ก็ทำเอาผมใจแป้ว บางทีสิ่งที่ผมคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดมันคงจะไม่ใช่ ติณณ์คงไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม
ผมรู้สึกอยากร้องไห้มากๆ ณ จุดนั้น รู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อคิดว่าจริงๆแล้วติณณ์ไม่ได้ชอบผมแบบนั้นเลย แต่...
ติณณ์ก็พูดคำๆนึงออกมา ที่ทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง ติณณ์ตอบตกลง ตกลงที่จะเป็นแฟนกับผม แฟน...ที่ไม่ใช่แฟนหลอกๆ
ผมอยากจะยิ้มกว้างๆ แต่ต้องวางฟอร์มยิ้มเพียงมุมปาก
ในที่สุด...ผมก็ได้เป็นแฟนกับติณณ์ มันทำให้ผมอารมณ์ดี และดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลแจ็กพลอต ทำเอาผมนอนไม่หลับเลยล่ะ อยากจะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ ว่าผู้ชายที่ชื่อติวาลิน...เป็นแฟนกับนภัทร แต่คนอย่างติณณ์ ไม่มีทางที่จะมาประกาศบอกคนอื่นหรอก
ผมจึงต้องคิดแผน ที่จะให้คนอื่นรู้ ...ใช่ เรื่องแหวน
ผมไม่ได้ลืมแหวนไว้ในห้องน้ำหรอก แต่ผมจงใจถอดแล้ววางไว้ ประจวบเหมาะที่แลนด์มาเรียกผมหน้าประตูห้องน้ำพอดี
และก็คิดไม่ผิด แลนด์รู้โลกรู้
วันต่อมามีกิจกรรมที่ต้องไปเดินป่า แต่ติณณ์กลับใส่ขาสั้น แม้จะไม่มาก แต่มันก็โชว์ขาเรียวขาวๆของติณณ์ ไม่ได้ๆ..ผมจะให้คนอื่นเห็นได้ยังไง
ผมจึงบอกให้ติณณ์ไปเปลี่ยนกางเกง แต่เจ้าตัวไม่ยอม กลับถามผมว่าทำไม จะให้ผมตอบเหรอว่าไม่อยากให้ใครเห็นขาขาวๆของติณณ์ ตอบแบบนั้นติณณ์ก็รู้หมดสิว่าผมก็มองขาของติณณ์ด้วย อีกอย่างเดินป่านะ พวกทากพวกกิ่งไม้มันก็ควรระวัง
แต่ดูเหมือนติณณ์จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของผม ผมจึงได้แต่ปล่อยติณณ์ อย่าลืมว่าติณณ์เองก็เป็นผู้ชาย บางทีก็ต้องให้เจอกับตัว ถึงจะรู้
และแล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ที่ผมคิด ติณณ์โดนกิ่งไม้บาดขา แผลไม่ลึก...แต่เลือดก็ไหลอยู่ ผมเลยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ติณณ์ไปก่อน พี่เฟรมทำท่าจะเข้ามายุ่งกับติณณ์ และนั้นมันทำให้ผมเผลอออกตัวแรง ประกาศว่าตัวเองเป็นแฟนติณณ์ และเมื่อพูดเสร็จผมก็พึ่งคิดได้ ผมกลัวติณณ์จะไม่ชอบให้ผมทำแบบนี้ แต่ผมก็โล่งใจเมื่อติณณ์ไม่ได้ว่าอะไร และเหตุการณ์นั้นก็อาจจะเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับผม ติณณ์หน้าแดงและแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าเขิน กับการที่ผมบอกว่าผมเป็นแฟนติณณ์ เห็นท่าทีติณณ์แบบนั้น ทำเอาผมประหม่าและเห่อร้อนที่หน้าเหมือนกัน
ทำไมติณณ์ถึงได้ทำตัวน่ารักแบบนี้เนี่ย ผมยังอยากดูดีในสายตาเขาอยู่นะ ไม่อยากจะแสดงออก...
...ว่าตัวเองก็แอบคิดเรื่องหื่นๆกับติณณ์อยู่เหมือนกัน
****************************************************
น้อมรับทุกคำติชมครับ ยอมรับเลยว่าการแต่งในมุมมองของนภัทร มันช่างยากเสียเหลือเกิน
ต้องแต่งให้รับรู้ว่านภัทรของเราชอบติณณ์ แต่ต้องไม่ทิ้งความเป็นนภัทรไป
เพราะนภัทรก็คือนภัทร คนที่ไม่เคยมีความรัก
แต่ติณณ์ คือผมแต่งในมุมมองของเขามาตั้งแต่ต้น มันเลยซึมซับและเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของติณณ์มากกว่า
ขอบคุณที่ติดตามครับ