Chapter 8 “อือ...”
ดวงตาสีเข้มลืมขึ้นเมื่อรู้สึกว่าคนที่อยู่ในอ้อมกอดขยับตัวดิ้นขลุกขลัก
มือขาวดันตัวให้ออกห่าง ก่อนจะยันตัวขึ้นนั่งช้าๆ เขาลังเลที่จะลุกออกจากเตียงเพราะรู้สึกเจ็บร้าวไปทั่วทั้งส่วนล่าง ชายหนุ่มส่งเสียงครางออกมาเล็กน้อย เพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงจะยังหลับอยู่ “...โอย”
พอเร็นมองเห็นว่าเจ้านายกำลังจะลุกออกจากเตียงไป “จะไปแล้วเหรอครับ อยู่ต่ออีกสักนิดไม่ได้เหรอ” เขายื่นออกไปคว้าข้อมือเล็กเอาไว้โดยอัตโนมัติ
“จะเช้าแล้วนะ แล้วผมก็ต้องรีบไปทำงานด้วย”
เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง แล้วคลานเข้าไปโอบกอดร่างผอมบางไว้หลวมๆ ...เพราะเสียงผู้เป็นนายฟังดูอ่อนแรงจนเขานึกเป็นห่วง “คุณไม่เป็นไรนะ ผมว่าพักต่ออีกนิดดีกว่านะครับ เช้าแล้วก็ไม่เห็นเป็นไร เดี๋ยวผมจะปิดตา...”
“ไม่ได้หรอก วันนี้ผมมีนัดตอนเช้าน่ะ”
“งั้นนั่งตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมจะช่วยใส่เสื้อผ้าให้นะครับ” เร็นรีบก้าวลงจากเตียง แล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าของเจ้านายที่กองระเกะระกะอยู่บนพื้นมาช่วยสวมให้ จากนั้นก็คุกเข่าลงพร้อมกับสวมกอดร่างผอมบางไว้ “ผมทำให้เจ้านายเจ็บใช่มั้ย”
“นิดเดียว”
ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้นมองเจ้านายอย่างเป็นห่วง “...ให้ผมอุ้มไปส่งที่รถ...”
“ไม่ต้องหรอก” ชายหนุ่มแกะแขนแกร่งที่โอบร่างกายตนไว้ออก พร้อมกับหันไปแนบจูบบนหน้าผากของร่างสูงอย่างแผ่วเบา “แล้วคืนนี้ค่อยเจอกันนะ”
เร็นจับมือขาวไว้แล้วบีบเบาๆ “...ครับ ผมจะรอนะครับ”
ผู้เป็นนายชะงักไปเล็กน้อย เงาในความมืดนั้นพยักหน้าขณะลุกออกไปจากเตียง ร่างบอบบางโซเซ ยืนได้ไม่มั่นคงนัก หากยังคงก้าวขาเดินออกไป เวลาผ่านไปไม่นานเร็นก็ได้ยินเสียงประตูห้องปิดลงสนิท
ร่างสูงนั่งมองบานประตูนิ่งอยู่เช่นนั้น ตั้งแต่อยู่กับเจ้านายมา วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาตื่นทันอีกฝ่ายและได้บอกลากันก่อนที่เจ้านายจะออกไป... สำหรับเขาแล้วนี่เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ ใจต้องการจะเหนี่ยวรั้งชายหนุ่มไว้ ออดอ้อนไม่อยากอยู่ห่างอีกฝ่าย ปรารถนาให้เวลากลางวันสั้นลงและกลางคืนเนิ่นนานไม่มีจุดสิ้นสุด
ดวงตะวันโผล่พ้นขึ้นมาจากขอบฟ้าหลังจากนั้นไม่นาน เร็นหันหน้าไปทางบานประตูกระจกสำหรับออกสู่ระเบียงซึ่งมีแสงสีทองอบอุ่นสาดส่องผ่านเข้ามา เขาลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมแล้วเดินออกไปยังระเบียงกว้าง
ดวงตาคมกริบทอดมองออกไปยังน้ำทะเลสีน้ำเงินเข้มซึ่งส่องประกายระยิบระยับเมื่อมีลำแสงจากดวงอาทิตย์ตกกระทบ
...ทะเลสวยจังแฮะ ถ้าเจ้านายอยู่ต่ออีกสักหน่อย ก็คงจะได้เห็นภาพที่สวยงามขนาดนี้
ถ้าหากชายหนุ่มยังอยู่ที่นี่ในตอนนี้ เขาจะอุ้มอีกฝ่ายออกมามองพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน แล้วกอดไว้ในอ้อมแขนแน่นๆ เร็นคิดไปพลางยิ้มอย่างมีความสุข เขารอจนกระทั่งดวงอาทิตย์เคลื่อนพ้นขอบฟ้าขึ้นมาจึงเดินกลับเข้าไปในห้อง
มือหยาบดึงผ้าห่มออกเพื่อจัดการกับซากของถุงยางอนามัยที่ถอดทิ้งไว้เมื่อคืน แต่แล้วก็พบรอยหยดเลือดบนผืนเตียงและที่ติดเกรอะกรังบนถุงยางนั้นด้วย
...เลือดของเจ้านาย ทั้งที่เขาคิดว่าอ่อนโยนที่สุดแล้ว หากยังทำให้อีกฝ่ายต้องเจ็บปวดมาก แต่ถึงอย่างนั้นเจ้านายก็ยังอดทน ยินยอมให้เขากกกอดแม้จะเป็นครั้งแรกของอีกฝ่าย ทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้... คนเราจะยอมหลับนอนกับผู้ชายธรรมดาๆ ที่ใช้เงินซื้อมาได้ง่ายๆ เลยอย่างนั้นเหรอ
แล้วตัวเขาล่ะ? ทั้งที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีความสัมพันธ์ทางร่างกายกับผู้ชายด้วยกันได้ แต่กับเจ้านาย... เขาเป็นคนเริ่มแล้วก็เป็นคนรุกเข้าไปหาอีกฝ่ายเองเลยซะด้วย เขาทำลงไปโดยไม่ได้นึกถึงเรื่อง งาน หรือ หน้าที่ เลยด้วยซ้ำ หากเพราะ...
ห้ามนำอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวมาปะปนกับการทำงานสัญญาที่เลขาหนุ่มเคยกล่าวถึงไว้แล่นแวบเข้ามาในความคิด เร็นหัวใจร่วงวูบ “ชิปหายแล้ว!” เขายกมือขึ้นกุมอกทางด้านซ้าย ถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วเดินกลับห้องนอนของตัวเองไป
..
.....
..
ค่ำคืนที่เด็กหนุ่มเฝ้ารอคอยเวียนมาถึงอีกครั้ง คืนนี้เจ้านายมาตรงเวลาพอดี เขายิ้มกว้างเมื่อบานประตูห้องเปิดออก “สวัสดีครับ เจ้านาย”
“อื้ม สวัสดี”
เสียงที่ตอบกลับมาฟังดูสดใส ทำให้เร็นคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าเจ้านายเองก็ยินดีกับการมาพบเขาเช่นกัน เขาลุกขึ้นไปต้อนรับชายหนุ่มอย่างเคย ทว่าพอสัมผัสกับเสื้อผ้าของอีกฝ่าย กลับกลายเป็นเสื้อไหมพรมนุ่มมือแทนที่จะเป็นสูทเหมือนทุกครั้ง เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยนึกสงสัย “เอ๋... วันนี้ไม่ได้ใส่สูทเหรอครับ”
ร่างผอมบางก้าวไปนั่งลงบนโซฟา “อืม ช่วงบ่ายผมลางานกลับไปนอนพักที่บ้านน่ะ”
เร็นเดินตามไปอย่างรวดเร็ว เขาหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่มแล้วค้อมตัวลง พร้อมกับใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากอีกฝ่าย “ตัวอุ่นๆ แบบนี้ คุณ... ไม่สบายรึเปล่าครับ”
“ผมกินยามาแล้วล่ะ”
“เจ้านาย...” เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อย
“ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกนะ แค่มีไข้นิดหน่อย”
เร็นคุกเข่าลง แล้ววางมือบนหลังมือขาว “...ผมขอโทษ”
“...ไม่ใช่ความผิดของคุณสักหน่อย” ผู้เป็นนายหัวเราะ “แต่ว่า... เร็น ผมอยากไปเดินชายหาด เบื่อที่จะอุดอู้อยู่แต่ในห้องแล้วล่ะ”
“มีไข้ แล้วจะออกไปตากลมกลางคืน จะดีเหรอครับ”
“วันนี้อากาศอุ่นๆ ลมก็ไม่ได้เย็นอะไรนักนี่” ผู้เป็นนายเถียง
“...ถ้าคุณต้องการ จะเอางั้นก็ได้ครับ” เร็นลุกขึ้น อุ้มเจ้านายขึ้นแนบกายโดยไม่ให้อีกฝ่ายได้ทันตั้งตัว ส่งผลให้แขนเรียวเกี่ยวไหล่หนาไว้ทันที
“อ๊ะ! เร็น!”
“แต่ต้องให้ผมอุ้มไปนะครับ” เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง “อะ... ไม่ได้สิ งั้นคุณต้องขี่หลังผมไปนะครับ เดี๋ยวออกจากบ้านแล้วค่อยเปลี่ยนไปขี่หลังแทนละกัน”
“จะแบกไหวรึไง”
“เจ้านายตัวเบาจะตายไปครับ แค่นี้สบายมาก แต่ขออย่าปิดตาผมก็แล้วกัน”
“...ไม่ปิดก็ได้ แต่ห้ามแอบมองหน้ากันนะ”
“สัญญาด้วยเกียรติของอดีตเอซของทีมเบสบอลไฮสคูลเลยครับ”
พอเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ได้ขัดขืนอะไร เร็นจึงก้าวฉับๆ ออกจากห้อง ตรงไปยังชั้นหนึ่งของบ้าน เขาวางชายหนุ่มลงอย่างระมัดระวังเมื่อเดินไปถึงประตูทางออกสู่สวนทางด้านหลัง แล้วย่อตัวลงตรงหน้า “ขึ้นมาเลยครับ”
“ห้ามปล่อยหล่นระหว่างทางเด็ดขาดเลยนะ”
“ผมแข็งแรงกว่าที่เจ้านายคิดเยอะน่า” เร็นหัวเราะ
คืนนี้มีดวงจันทร์เสี้ยวเล็กประดับท้องฟ้าแห่งยามรัตติกาล มีเมฆหมอกที่ลอยอยู่ประปรายบดบังดวงดาวไปเสียเกือบหมด สายลมอุ่นพัดเอื่อย พาให้คลื่นม้วนเป็นเกลียวเล็กๆ แล้วสาดขึ้นสู่ฝั่ง
เด็กหนุ่มพาเจ้านายไปจนถึงชายหาด เขาหยุดยืนอยู่บนพื้นทรายละเอียดนุ่มเท้า ก้มลงมองท่อนแขนที่โอบกอดตนเองไว้แล้วอมยิ้ม
“ชายหาดที่นี่สวยมากเลยนะครับ... ทรายขาวละเอียดสุดๆ ไปเลย”
“อืม... ที่นี่เป็นที่ที่ผมชอบมาก เมื่อก่อนก็มักจะมาทุกๆ วันหยุด”
“เจ้านายชอบชายหาดกับทะเลเหรอครับ”
“...อื้ม...”
“เจ้านายรู้มั้ยครับ ที่จริงผมเป็นลูกครึ่งกรีซ... ผมเคยได้ไปที่นั่นกับแม่ครั้งนึง แล้วก็ไปเที่ยวเกาะครีต แม่พาผมไปเพราะอยากให้ผมเห็นที่ที่แม่ได้พบกับพ่อของผม... บนเกาะนั่นชายหาดสวยมากๆ เลยล่ะครับ แต่คุณอาจจะเคยไปแล้ว”
“ครีตยังไม่เคยไป... ยังไม่เคยไปกรีซน่ะ”
“งั้นเหรอครับ... แย่จัง” เร็นเบือนหน้าไปทางด้านหลังเล็กน้อย “...ถ้าหากมีโอกาส... ผมก็อยากจะพาเจ้านายไปที่นั่นสักครั้ง”
“.....”
เด็กหนุ่มไม่อาจเดาได้ว่าเจ้านายรู้สึกเช่นไรกับคำพูดของเขา เนื่องจากอีกฝ่ายเอาแต่ก้มหน้างุด “ผมพูดจริงๆ น้า... ฮะๆ” เขาหัวเราะอย่างเขินๆ “...ผมก็พูดไป... คงจะมีปัญญาหรอก” หากชายหนุ่มยังคงนิ่งเงียบ รอยยิ้มของเร็นจึงเลือนหายไปทีละน้อย เขานี่... พูดอะไรไม่คิดเอาเสียเลย คงจะมีวันนั้นหรอก เพราะเมื่อใดที่หมดสัญญา... ความสัมพันธ์เขากับเจ้านายก็จบสิ้นกัน
...เจ็บในอกอีกแล้ว
เร็นผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ จากนั้นจึงสาวเท้าตัดชายหาดลงไปยังน้ำทะเล
“เร็น! ทำอะไร!”
“พาเจ้านายมาเล่นน้ำไงครับ”
“ไม่เอานะ! เร็น!” ชายหนุ่มโวยวาย
“ไม่ทันแล้วครับ” ร่างสูงก้าวลึกลงไปเรื่อยๆ จนเท้าของเจ้านายสัมผัสกับน้ำ
แขนเรียวกอดลำคอใหญ่ไว้แน่น เขาร้องเสียงลั่น “เร็น!”
“ฮะๆ” เร็นหัวเราะ “ตกใจเลยใช่มั้ยครับ คิดว่าผมจะพาคนป่วยลงมาเล่นน้ำตอนกลางคืนงั้นเหรอ”
มือขาวทุบลงไปบนไหล่หนาอย่างไม่เบาแรงนัก “เล่นอะไรก็ไม่รู้!”
“...เห็นเจ้านายเงียบไป ผมนึกว่าคุณจะหลับไปซะแล้ว”
“เปล่าซะหน่อย”
“แต่ผมเริ่มเมื่อยแล้วล่ะ” ท่อนแขนแกร่งแสร้งทำเป็นสั่นเล็กน้อย คล้ายจะปล่อยอีกฝ่ายลงเพราะทานน้ำหนักไม่ไหว
“เร็น! ไม่เอานะ!” ชายหนุ่มส่งเสียงโวยวาย
“ฮ่าๆ ผมล้อเล่นหรอกน่า” ร่างสูงหัวเราะ เขารีบรุดกลับขึ้นไปบนฝั่ง “ให้ผมเดินต่อไปอีกสักหน่อยมั้ยครับ”
“...เรานั่งเล่นบนหาดนี่กันสักพักดีกว่า”
“กลัวผมเมื่อยเหรอ”
เจ้านายไม่ตอบ แต่ทุบไหล่หนาเป็นเชิงบอกให้ปล่อยตนเองลง พอขาแตะลงบนพื้นทรายได้ก็ทรุดตัวลงนั่ง
เร็นชำเลืองมองดูอีกฝ่าย เขาทำตัวไม่ถูก จะนั่งลงข้างๆ กันก็เกรงว่าจะทำให้เจ้านายรู้สึกไม่ดีที่อาจจะเห็นหน้ากันได้ แม้จะมืดมากจนมองเห็นเพียงแค่เงารางๆ ก็ตามที หลังจากยืนอยู่สักพัก เขาตัดสินใจย่อตัวลงนั่งโดยหันหลังประกบกันกับชายหนุ่ม “พระจันทร์เสี้ยวเล็กๆ แบบนี้ก็สวยดีนะครับ เสียดายที่เมฆเยอะไปหน่อย แต่ถ้าเต็มดวงเมื่อไหร่คงสวยกว่านี้มาก”
ชายหนุ่มเอนตัวพิงแผ่นหลังกว้าง “อืม”
“เจ้านาย”
“หืม...”
“ผมว่าผมต้องอ้วนขึ้นแน่ๆ เลย ขนาดว่าผมออกกำลังเยอะแล้วนะ แต่คุณแม่บ้านทำอาหารอร่อยเกิน” เด็กหนุ่มชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย “ผมไม่ได้กินอาหารดีๆ แบบนี้มานาน ก็เลยกินแบบยัดทะนานทุกวันเลย...”
“ถ้าแม่บ้านได้ยินคงดีใจ คุณจะได้กินอาหารอร่อยๆ เยอะมากขึ้นอีก”
“โอย ไม่ไหวแล้วครับ ผมว่ากางเกงผมเริ่มจะคับๆ แล้วล่ะ” เร็นหัวเราะแหะแหะ มือหยาบยกขึ้นลูบท้ายทอย “จริงๆ แล้ว ผมก็ทำอาหารเป็นเหมือนกันนะครับ อาจจะไม่อร่อยเหมือนคุณแม่บ้าน รสชาติเรียกว่าแค่พอถูไถ กินพอให้อิ่มได้คงดีกว่า... ผมทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านโซบะน่ะครับ เวลาใกล้เลิกงาน ลุงเจ้าของร้านจะทำอาหารค่ำเลี้ยงพวกเรา บางทีผมก็เป็นลูกมือให้กับลุงด้วย... ทุกคนที่ร้านน่ะ ใจดีมากเลยล่ะครับ”
เด็กหนุ่มทอดสายตามองไกลออกไป เขารู้สึกถึงความอบอุ่นบนแผ่นหลัง ซึ่งเจ้านายคงจะเอนตัวพิงเขาไว้ ใจนึกอยากจะหันไปโอบกอดอีกฝ่ายไว้แนบกาย หากในเวลานี้ทำได้เพียงแค่อดทน “วันนี้... ผมดีใจมากนะครับที่เจ้านายอุตส่าห์มาหาผม... ทั้งๆ ที่คุณไม่ค่อยสบาย” มือหยาบทั้งสองข้างวางประสานกันไว้หลวมๆ “...ที่จริง คุณจะมาตอนท้องฟ้ายังสว่างก็ยังได้ ผมสัญญาว่าจะปิดตาไว้ตลอดเลย... เอ้อ... แต่ผมไม่รู้ว่าคุณทำงานถึงกี่โมง”
ผู้เป็นนายนิ่งเงียบไป เร็นไม่รู้ว่าเขาพูดมากไปรึเปล่าจึงปิดปากลงสนิท ทว่าเวลาผ่านไปสักพัก ชายหนุ่มก็ยังคงเงียบกริบแล้วไม่ขยับเขยื้อนเสียด้วย ร่างสูงจึงหันไปมองอย่างสงสัย เขาเห็นศีรษะของเจ้านายซบซุกอยู่บนแผ่นหลังตน “เจ้านายครับ... เจ้านาย... หลับซะแล้วเหรอครับ”
“อ่า... หลับแล้วแน่เลย” เร็นผ่อนลมหายใจออกยาว ก่อนจะสังเกตเห็นว่าพื้นทรายสว่างขึ้น พอหันไปทางด้านหลังอีกครั้ง ก็พบว่าเขาสามารถมองเห็นเส้นผมสีทองของเจ้านายได้เสียด้วย
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองจันทร์เสี้ยวที่โผล่พ้นออกมาจากก้อนเมฆ แวบหนึ่งเขาคิดจะหันกลับไปจ้องมองใบหน้าของเจ้านาย ถ้ามีแสงสลัวอย่างในตอนนี้ เขาคงจะพอมองเห็นใบหน้าเจ้านายได้แน่ๆ เร็นหันรีหันขวางอย่างลังเล
“อือ...” ร่างผอมบางขดตัวลงสั่นน้อยๆ
“เจ้านาย...” เร็นคิดว่าอีกฝ่ายคงจะหนาว เจ้านายมาหาเขาทั้งที่ไม่สบาย แล้วเขายังคิดจะขี้โกงสัญญากับเจ้านายอีก โอกาสที่พอมีแสงเบาบางเช่นนี้ ช่วยให้เขามองเห็นทางได้สะดวกขึ้น ดังนั้นเขาควรรีบพาเจ้านายกลับเข้าไปในบ้านให้เร็วที่สุดก่อนที่เมฆครึ้มนั่นจะเคลื่อนมาบดบังไปอีก
ร่างสูงค่อยๆ ถอดเสื้อสเวตเตอร์ที่สวมอยู่ออกแล้วคลุมใบหน้าของอีกฝ่ายไว้ จากนั้นจึงหันกลับไปอุ้มชายหนุ่มขึ้นมาแนบกาย เขาจูบศีรษะเล็กที่มีเสื้อคลุมอยู่พร้อมกระซิบบอก “ดูสิ ไม่สบายขนาดนี้แท้ๆ เรากลับไปข้างในบ้านกันดีกว่านะครับ” แล้วอุ้มพาร่างผอมบางกลับไปยังบ้านพัก
เมื่อวางเจ้านายลงบนเตียงนอนเรียบร้อยแล้ว เร็นก็ปลีกตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเงียบๆ ในห้องของตน สักพักจึงกลับเข้ามาภายในห้องเจ้านายอีกครั้ง เขาขยับขึ้นไปบนเตียงอย่างระมัดระวังไม่ให้อีกฝ่ายตื่นขึ้นมาได้ แล้วเอามือสัมผัสหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ “อืม... ตัวอุ่นๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อนอะไร...” เด็กหนุ่มจัดการนำผ้าหมาดมาช่วยเช็ดตัวให้อย่างเบามือ เสร็จแล้วก็ตรวจเช็กอุณหภูมิอีกครั้ง ทำซ้ำไปซ้ำมาจนมั่นใจว่าพิษไข้ลดลง
เร็นโน้มตัวลงต่ำ เขาจรดปลายจมูกลงบนแก้มนิ่ม ลากไล้ลงไปตามลำคอ พร้อมกับโอบกอดชายหนุ่มไว้หลวมๆ “ฝันดีนะครับ เจ้านายของผม”
TBC~*ตอนนี้น่ารักกุ๊กกิ๊กดีมั้ยค้าาา มืดๆ ก็จีบกันได้นะเออ ฮี่ๆๆๆ
แต่ว่าน้องเร็นของฮัสกี้ ดูท่าจะตกหลุมรักแบบปีนขึ้นมาไม่ไหวซะแล้วสิ เอาใจเจ้านายไว้เยอะๆ นะคะหนู 
ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านค่ะ เอ็นดูน้องเร็นกับเจ้านายกันสักนิดน้า 