เงาจันทร์ในม่านหมอก [บทที่ 23: ไซคีพบอีรอส END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เงาจันทร์ในม่านหมอก [บทที่ 23: ไซคีพบอีรอส END]  (อ่าน 272987 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เจ้านายบางมุมก็ดูเป็นเด็กน้อยน่ารักมากๆ เลยง่ะ

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
น่ารักกก อยากอ่านตอนปัจจุบันละ
เร็นพยายามมากๆเพื่อคุณดาริลนะะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ช่วงนี้ดาริลและทาริคกำลังอยู่ในช่วงรำลึกความหลังกันอยู่สิน่ะ ยิ่งอ่านยิ่งเศร้าไปด้วย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

ถึงเรื่องจะดูดำเนินช้าเพราะต้องเล่าความรู้สึกของตัวละครทั้งสองฝั่ง แต่ข้อดีคือทำให้เราเข้าใจเรื่องได้ละเมียดละไมกว่าเดิม

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
ต่างคนต่างรักกัน อย่รากให้มันอยากเลย.
เอาใจช่วย สู้ สู้

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
คุณเลขาทำเราเขินเลยตอนสอนดาริล
 :-[

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
กว่าจะได้รักมาครองไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับตัวละครในเรื่องนี้ พยายามเข้านะทุกคน

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
จิ้มก่อนนนน เดี๋ยวมาอ่านนะคุณฮัสกี้ ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
น่าสงสารทั้งคู่เลย :katai1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ดาริลน่ารัก น่ารักมากกกกกๆๆๆ สามคนเพื่อนกันฉลาดแยบยลกว่าที่คิดเยอะ เก่งสมกับเป็นทายาทตระกูลดัง
ขำคาซึกิ สอนวิธีละเอียดมาก ย้ำด้วยต้องฟังๆๆๆ 55555 ขำหนัก ชอบที่บอกว่าถ้าเห็นหน้าตาเจ้านายก็ต้องชอบแน่นอน
ก็น่ารักขนาดนี้นี่เนอะ ดาริลมีความสุขมากเลยตอนเจอกัน

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
เขินนนน ชอบรรยากาศที่ดาริลพูดจัง

ออฟไลน์ yumijung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
พี่คาซึกินี่เป็นทั้งลูกน้อง เพื่อน พี่ และพ่อเลยเนอะ..
ตามลุ้นตามเชียร์เจ้านายคนสวยให้ได้ทำตามใจฝันบ้างสักครั้ง..เพราะ
การที่ต้องทำตามความต้องการของคนอื่น..มันทรมานมากจริงๆนะ  :mew2:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
มาให้กำลังใจค่ะ เจ้านายสุดที่รักนะงานนี้
มาแสดงความจริงใจให้รักแรกเห็นดีกว่า

ออฟไลน์ subbeau

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ได้รู้อีกด้านอีกฝั่งความคิดของดาริลแล้วก็ยิ่งเห็นใจดาริลมากๆเลยค่ะ  :mew6:

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
ขอให้ความพยายามที่จะเป็นอิสระ ให้สำเร็จเร็วๆ
แล้วปรับความเข้าใจกันซะ เร็น ดาริล

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 19


ภายในห้องนอนยังคงเงียบสงัด ความมืดแผ่ปกคลุมไปทุกซอกมุม นัยน์ตากลมใสปรือขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเบาๆ ที่ตั้งปลุกไว้ในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ส่วนเร็นนั้นยังคงหลับสนิท เด็กหนุ่มนอนนิ่งเฉยราวกับรับประทานยานอนหลับเข้าไป

...ไม่รู้สึกแปลกบ้างรึไงกันนะ นอนด้วยกันกับคนแปลกหน้าแบบนี้ยังหลับเป็นตายได้ ดาริลนึกพลางโน้มใบหน้าเข้าไปเพ่งมอง ก่อนจะดีดหน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ ทว่าเร็นก็ยังไม่กระดุกกระดิกตัวเลยแม้แต่น้อย

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว... ไปอดหลับอดนอนมาจากไหนกันนี่!?

แต่แล้วเสียงของโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อดาริลหยิบมาดูก็เห็นว่าเป็นคาซึกิที่โทรมาปลุก คงกลัวว่าเขาจะตื่นไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น แล้วอีกอย่างภายในบ้านพักหลังนี้ก็ไม่มีนาฬิกา เพราะสถานที่นี้ดาริลใช้ในการพักผ่อน เขาไม่ต้องการจะรับรู้เวลาใดๆ ชายหนุ่มก้าวลงจากเตียง หันไปหยิบเสื้อสูทกับเนกไทที่ถอดไว้เมื่อคืนพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย สองขาพาเจ้าของก้าวออกไปจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบที่สุด

เมื่อลงมาถึงชั้นล่างของบ้าน แม่บ้านจัดการจุดเทียนไว้รอก่อนหน้าแล้ว เทียนจำนวนสามสี่เล่มให้แสงสลัวพอให้เจ้านายของเธอมองเห็นทางได้ ส่วนตัวเธอก็ยืนรอต้อนรับเจ้านายด้วยรอยยิ้ม

"อรุณสวัสดิ์ค่ะ"

ดาริลยิ้ม "อรุณสวัสดิ์ครับ ลำบากหน่อยนะ ไม่เปิดไฟแบบนี้"

"โรแมนติกดีออกค่ะ คุณท่านจะรับอาหารเช้ามั้ยคะ"

"ไม่ละครับ ยังเช้าเกิน เดี๋ยวผมไปหากินเอาที่ทำงาน ยังไงก็ฝากดูแลเขาด้วยนะครับ"

แม่บ้านค้อมศีรษะรับ "ได้ค่ะ แล้วดิฉันจะโทรศัพท์ไปรายงานเป็นระยะๆ นะคะ"

ชายหนุ่มพยักหน้า "ขอบคุณครับ"  จากนั้นจึงเดินตรงไปยังรถที่จอดรออยู่ เลขาของเขานั่งรออยู่ข้างในนั้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนขับรถยืนรออยู่ทางด้านนอก

ดาริลส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนใจ ลองแบบนี้ แปลว่าคาซึกิกำลังรอสอบสวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอยู่แน่ๆ

เมื่อลุงคนขับรถหันไปเห็นเจ้านายของตน เขาก็ปราดเข้ามาเปิดประตูให้กับเจ้านาย เสร็จแล้วจึงปิดประตูให้แล้วยืนรอฟังคำสั่งอยู่ทางด้านนอก

"อรุณสวัสดิ์ครับ เมื่อคืน... เอ่อ..." คาซึกิถามทันทีที่ประตูรถปิดลงสนิท

"ไม่มีอะไรทั้งนั้นล่ะครับ ผมบอกแล้วไง พี่คาซึกิน่ะ คิดมากไปได้..."

คาซึกิพรูลมหายใจออกยาว "ของในถุงเมื่อวาน ผมเอาไปฝากคุณแม่บ้านไว้แล้วนะครับ"

"ครับๆ ขอบคุณมาก... บอกให้ออกรถได้แล้วล่ะครับ" ดาริลตอบเลี่ยง จากนั้นก็เอนหลังพิงพนักเบาะแล้วปิดตาลง


ในตอนบ่ายของวันก่อนเลิกงาน เลขาหนุ่มเข้ามารายงานเจ้านายเรื่องกิจกรรมของเร็นเป็นครั้งที่สาม หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากแม่บ้าน

“ดูท่าคุณคิมุระจะเบื่อ เมื่อตอนบ่ายเห็นถอนหายใจอยู่บ่อยๆ คุณแม่บ้านว่าอย่างนี้น่ะครับ" 

"...งั้นเหรอครับ" ชายหนุ่มหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน วันนี้เขาเสร็จงานเร็ว แล้วใจก็นึกอยากจะกลับไปหาเร็นเร็วๆ ซะด้วย "...ถ้างั้นผมจะกลับเร็วหน่อย ฝากบอกคุณแม่บ้านให้ผมด้วย"

พอกลับมาถึงบ้านพักแล้ว ดูเหมือนว่าวันนี้เร็นจะตั้งหลักรับเขาพร้อม อีกฝ่ายตรงเข้ามาช่วยถอดเสื้อและเนกไทออกให้เสร็จสรรพ แล้วเสนอการนวดเพื่อเอาใจเขา

...ก็ดีเหมือนกัน เขาเองก็อยากจะรู้ว่าเร็นจะทำให้เจ้านายอย่างเขาได้มากแค่ไหน

เมื่อคุยกันไปคุยกันมาแล้ว ก็สรุปได้ว่าดาริลจะให้เร็นถอดเสื้อผ้าออกให้ เพื่อที่จะได้นวดอย่างสะดวก แต่การกระทำของเด็กหนุ่มดูเงอะงะ ไม่ค่อยสมกับเป็นคาซาโนว่าคนเดิมในความคิดของเขาสักเท่าไหร่ อาจจะรู้สึกเกร็งเพราะตัวเขาเป็นผู้ชาย ดาริลจึงคิดว่าควรจะชวนอีกฝ่ายพูดคุยให้ผ่อนคลายสักหน่อย หากเขาไม่ใช่คนที่มีวาทศิลป์เสียด้วย

“ผมนึกว่าคุณเร็นจะคล่องกว่านี้ซะอีก”

ทว่านั่นทำให้ร่างสูงหงุดหงิด เพราะน้ำเสียงที่ตอบกลับมาฟังดูกระฟัดกระเฟียดชอบกล “...ผมไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้เป็นอาชีพนะครับ”

ดาริลขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ดูเหมือนเร็นจะยิ่งออกห่างจากคำว่าผ่อนคลายไปมากโข “เรื่องแบบไหน”

“คุณเป็นคนแรกที่ซื้อตัวผมมา... และผมก็ไม่คิดจะทำแบบนี้อีก”

...อ้อ เข้าใจผิด... ผู้เป็นนายยิ้มมุมปาก หากก็คิดแย้งอยู่ในใจว่านี่น่ะหรือคำตอบของคนที่ตั้งใจจะเป็นโฮสต์ ไม่น่าเชื่อเลยสักนิด เขาหันไปทางเด็กหนุ่ม “แล้วถ้าคุณแม่ของคุณเร็นป่วยอีกล่ะ” ดาริลแกล้งยั่วให้โกรธ ซึ่งดูท่าจะทำให้เร็นโกรธมากเสียด้วย แต่อย่างน้อยคำตอบที่ได้รับก็ทำให้เขารู้ว่า เด็กหนุ่มยังรักศักดิ์ศรีของตัวเองอยู่เหมือนกัน

“ที่ผมว่าคุณน่าจะคล่อง... เพราะคิดว่าคุณคงมีแฟนมาเยอะ”

...เร็นเงียบไปหลังจากที่ได้ยินคำตอบ น้ำเสียงของเขาอ่อนลงมาก แต่ที่ทำให้ดาริลต้องแปลกใจก็คือ การที่เร็นยอมเล่าเรื่องส่วนตัวตามความเป็นจริง ซึ่งเหมือนกับที่เขาได้รับรายงานมาจากนักสืบทุกอย่าง

ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้มบาง... เขารู้สึกไว้ใจเด็กหนุ่มขึ้นเล็กน้อย พยายามที่จะมองอีกฝ่ายในแง่ดีขึ้น “แล้วก็... ผมมีข่าวดีจะบอกนะ คุณแม่ของคุณเร็นจะเข้ารับการผ่าตัดในอีกสองวันนี้”

“ขอบคุณครับ”

น้ำเสียงของเร็นบ่งบอกถึงความดีใจมากมาย ร่างผอมบางเดาว่า เด็กหนุ่มในเงามืดคงจะกำลังยิ้มอย่างพอใจ รอยยิ้มที่เขาไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานานมากเหลือเกิน

“เจ้านาย... เรียกผมว่าเร็นเฉยๆ ก็พอครับ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำนั้นส่งผลให้หัวใจดวงน้อยเต้นผิดจังหวะไปชั่วครู่ ดาริลรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนพิเศษของเด็กหนุ่มจริงๆ ร่างกายจึงขยับเข้าหาอีกฝ่ายไปเอง เขาแนบริมฝีปากลงบนเรียวปากบาง ทำตามอย่างที่หัวใจร่ำร้องหามาแสนนานเหลือเกิน

ทว่าสิ่งที่ดาริลไม่คาดคิดมาก่อนเลยก็คือ การที่เร็นโอบกอดเขาไว้ในอ้อมแขน เขาไม่แน่ใจว่านั่นเป็นการกระทำในหน้าที่ของเด็กหนุ่มรึเปล่า ใจที่สับสนทำให้ต้องผละออกแล้วเปลี่ยนไปซบใบหน้าอยู่ในอ้อมแขนนั้นแทน

...เสียงหัวใจของเร็นเต้นหนักๆ เหมือนในเวลาปกติ ถ้าเช่นนั้นแล้ว เด็กหนุ่มคงจะแค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น

ดาริลซุกไซ้แผ่นอกกว้างแล้วใช้แทนหมอนหนุน เแม้จะนึกเสียใจและผิดหวังอยู่บ้าง หากก็เป็นเรื่องที่เขาทำใจไว้ก่อนหน้าแล้ว เขาพยายามข่มตาหลับลง เมื่อถึงเวลาก่อนฟ้าสาง ชายหนุ่มก็ค่อยๆ ถอยออกมาจากอ้อมแขนแข็งแรง แล้วออกจากห้องนอนไปอย่างเงียบเชียบ

แม่บ้านของชายหนุ่มจุดเทียนไว้รอเขาเช่นเคย แต่วันนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียว คาซึกิก็มารอรับอยู่ภายในตัวบ้านด้วย ดาริลยิ้มบาง "อรุณสวัสดิ์ครับ... เรื่องช่างที่มาติดตั้ง เรียบร้อยมั้ยครับ"

"เรียบร้อยแล้วครับ แล้วก็ นี่ของที่สั่งครับ" เลขาหนุ่มส่งกล่องของขวัญขนาดใหญ่ให้กับเจ้านาย "ทางร้านจัดหาให้ได้ช้าไปสักหน่อย เพราะรุ่นนี้ต้องสั่งซื้อน่ะครับ"

"ขอบคุณ งั้น... ฝากให้เขาด้วยละกัน" ดาริลตอบเสียงเรียบ ส่งกล่องของขวัญต่อให้กับแม่บ้าน ก่อนจะเดินนำออกไป "ไปเถอะ"
คาซึกิไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก กับของขวัญราคาแพงชิ้นนี้ เขาไม่เห็นด้วยที่เจ้านายประโคมหาของขวัญเอาใจเด็กหนุ่มที่ไม่ได้รู้จักกันดี ใจนึกกลัวว่าเจ้านายจะหลงใหลเด็กหนุ่มมากจนเกินไป แล้วเด็กหนุ่มเองก็อาจจะได้ใจ ขอนั่นขอนี่จากเจ้านายอยู่บ่อยๆ

เมื่อเข้าไปนั่งภายในรถและเดินทางไปจนถึงที่ทำงานแล้ว คาซึกิก็ยังปิดปากเงียบ แต่เขาไม่อาจปิดบังความรู้สึกบนใบหน้าได้

ดาริลเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานของตน เขาเงยหน้าขึ้น "...พี่คาซึกิ ผมรู้ว่าพี่ไม่พอใจ"

เลขาหนุ่มหยุดกึก "คุณดาริล เวลาอยู่ที่ทำงานนี่ อย่าเรียกผมแบบนี้เลยครับ"

"ทำไมล่ะ ก็เราอยู่กันแค่สองคน... พี่คาซึกิ ผมรู้ว่าผมเอาแต่ใจมากไปหน่อย ทำให้พี่ไม่สบายใจ ขอโทษนะครับ"

"คุณดาริลไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ครับ" คาซีกิเสตาหลบ

"พี่ไม่พอใจที่ผมให้ของขวัญ ให้เงินเร็นเป็นจำนวนมากใช่มั้ย"

เลขาหนุ่มถอนหายใจหนักๆ "ผมเกรงว่า เด็กคนนั้น... จะได้ใจใหญ่น่ะสิครับ ถ้าเขาคิดอยากเป็นหนูตกถังข้าวสารขึ้นมา กลัวว่าคุณดาริลจะลำบาก"

"...." ดาริลเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน ที่จริงก็ยังไม่ได้รู้จักเด็กหนุ่มดีสักเท่าไหร่ เขาเอนหลังพิงพนักเก้าอี้แล้วเงยหน้าขึ้น "คงไม่หรอก เมื่อครั้งที่ช่วยเหลือผม เขาไม่รู้ว่าผมเป็นใครก็ยังเข้ามาช่วยนี่... แล้วตอนคุยกันที่โรงพยาบาล..."

"นั่นผ่านมานานมากแล้วนะครับ เวลาเปลี่ยน ใจและนิสัยคนก็เปลี่ยน"

"แต่พี่คาซึกิไม่เห็นเคยเปลี่ยนเลย" ดาริลเถียง

"ผม..."

"ผมจะระวังตัว พี่ไม่ต้องห่วง"

"จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงกันครับ" คาซึกิพูดเสียงอ่อย

"ผมไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะพี่คาซึกิ" ชายหนุ่มพูดเสียงขรึม "เอาล่ะ ไปทำงานเถอะครับ"

เลขาหนุ่มค้อมศีรษะลงต่ำ แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป

สักพักเสียงโทรศัพท์ในห้องของดาริลก็ดังขึ้น เป็นสายที่คาซึกิส่งต่อมาให้โดยตรง เนื่องจากแม่บ้านโทรมาบ่นยกใหญ่ว่าเร็นไม่ยอมรับของขวัญ แล้วก็ไม่ยอมฝึกเบสบอลทั้งที่ดาริลอุตส่าห์สั่งซื้อรั้วตาข่ายสำหรับฝึกไปติดตั้งให้

“...ทำไมคุณท่านของคุณแม่บ้านถึงดีกับผมขนาดนี้... คุณคิมุระบอกว่าอย่างนี้น่ะค่ะ แล้วนี่ก็ไปว่ายน้ำอีกแล้วค่ะ”

“เดี๋ยวผมจะคุยกับเขาเอง ขอบคุณนะครับ” ดาริลกดวางสาย เขาวางมือที่ประสานกันอยู่ลงบนโต๊ะแล้วผ่อนลมหายใจออกยาว ก่อนรอยยิ้มบางๆ จะปรากฏขึ้นบนใบหน้าน่ารัก

...ก็น่าสนใจดี


ยามที่ดวงตะวันคล้อยลงต่ำจนชิดขอบฟ้า รถคันหรูวิ่งไปบนถนนที่ตัดผ่านภูเขาลูกเล็ก มุ่งตรงเข้าสู่บ้านบนชายหาดส่วนตัวสีขาวสะอาด เมื่อไปถึงก็เป็นเวลาที่รัตติกาลเข้าปกคลุมให้ทุกแห่งหนมีแต่ความมืดมิด มีจันทราครึ่งดวงลอยประดับอยู่บนฟากฟ้าไกล 

เลขาหนุ่มก้าวออกมาจากตัวรถแล้วเดินวนมาเปิดประตูให้กับเจ้านาย "คืนนี้ ดวงจันทร์ครึ่งดวง ค่อนข้างจะสว่าง ยังไงก็อย่าลืมปิดม่านนะครับ"

ดาริลยิ้มตอบ "ครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ" ขาเรียวพาเจ้าของก้าวเข้าไปในตัวบ้าน ขึ้นไปยังชั้นสอง เขาเปิดประตูเข้าไปในภายในห้องนอน ซึ่งบานประตูออกสู่ระเบียงเปิดทิ้งไว้กว้าง สายลมพัดผ่านเข้ามาให้ผ้าม่านปลิวไสว

ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่บริเวณประตู สายตาจ้องมองไปยังร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ภายใต้แสงจันทร์ แผ่นหลังกว้างดูอบอุ่น ที่ซึ่งเขาอยากจะเข้าไปซุกซบในฐานะคนรัก  แต่นั่นคงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

“...ได้ยินว่าคุณไม่ยอมรับของขวัญจากผม”

เด็กหนุ่มหันขวับ นัยน์ตาคมกริบมองกลับเข้ามาภายในความมืด จ้องเขม็งจนดาริลนึกกลัวว่าอีกฝ่ายจะมองเห็นเขาได้

...แล้วถ้าเป็นเช่นนั้น เร็นจะจำเขาได้สักนิดมั้ยนะ

ความรู้สึกกลัวยังคงฝังรากลึกอยู่ที่ก้นบึ้งของหัวใจ ดาริลกลัวเหลือเกินว่าตนเองจะต้องผิดหวัง ถ้าหากอีกฝ่ายจำไม่ได้ เขาคงจะเจ็บปวดจนแทบขาดใจ ดังนั้นเขาจะปล่อยให้เร็นมองเห็นใบหน้าไม่ได้เป็นอันขาด เขาไม่อยากได้ยินกับหูและเห็นกับตาว่าเร็น... ไม่เคยสนใจตนเองเลยแม้แต่น้อย

ดาริลถอยหลังออกไปสองสามก้าว ก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเตียง ซึ่งอีกฝ่ายก็เดินตามเข้ามาช้าๆ แล้วหันไปปิดผ้าม่านให้สนิท

เร็นคุกเข่าลงตรงหน้าผู้เป็นนาย “เจ้านายครับ เรื่องนี้เอาไว้ก่อนเถอะครับ วันนี้ข้างนอกพระจันทร์สวยดี ไม่มีเมฆเลยด้วย เราออกไปเดินเล่นชายหาดกันมั้ยครับ” เสียงทุ้มต่ำอ่อนโยนจนดาริลคล้อยตาม

"ก็ได้... แต่ผมมีข้อแม้นะ คุณจะต้องปิดตาตลอดเวลาที่ออกไปข้างนอก ไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามแกะผ้าปิดตาออกเด็ดขาดถ้าผมไม่อนุญาต... สัญญากับผมได้มั้ย” 

“ก็ได้ครับ สัญญาก็สัญญา”

...เขาไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มจะรักษาสัญญาแค่ไหน เชื่อใจได้มากเพียงใด แต่ก็อยากจะลองเสี่ยง เพราะจากส่วนหนึ่งของหัวใจ เขายังอยากจะเชื่อว่าเร็นเป็นเด็กหนุ่มคนเดิม คนเดียวกันกับที่เคยพบเมื่อหลายปีก่อน

ระหว่างทางที่เดินลงไปยังชายหาด เร็นหยุดเดินเพื่อถอดรองเท้าออก แล้วจู่ๆ ก็ดึงตัวเขาที่ยืนรออยู่ข้างกันเข้าไปสวมกอด

“เร็น!” ดาริลเบิกตาโพลง

“เจ้านายอย่าออกห่างจากผมสิคร้าบ!” อีกฝ่ายร้องโวยวาย “ผมมองอะไรไม่เห็นนะ!”

ใบหน้าสวยหวานร้อนผ่าว ทั้งที่รู้ว่าเร็นโอบกอดตนเองเพราะความตกใจ แต่ถึงอย่างนั้น... ก็ทำให้หัวใจเต้นระส่ำ “รู้แล้ว! ปล่อยก่อนสิ กอดไว้แบบนี้เราจะเดินกันต่อไปยังไงล่ะ”

เร็นยอมคลายอ้อมแขนออก หากยังจับมือนิ่มไว้แน่น ดาริลเงยหน้าขึ้นมองเด็กหนุ่ม ใจนึกอยากจะทดสอบอะไรอีกฝ่ายสักหน่อย อยากรู้ว่าเขาจะไว้ใจเร็นได้ถึงขนาดไหน คิดได้แล้วจึงจูงมือเด็กหนุ่มเดินลงไปในน้ำทะเล ซึ่งเร็นก็ดูจะตกใจไม่น้อย

“เจ้านายยย!”

ดาริลหลุดหัวเราะเบาๆ “เดินลุยน้ำเล่นกันไง” แล้วจูงมืออีกฝ่ายเดินต่อไปเรื่อย

“แย่จัง มองไม่เห็นดวงจันทร์เลย... กะว่าจะมาดูดวงจันทร์ริมทะเลนี่พร้อมกับเจ้านายสักหน่อย”

ใบหน้าน่ารักเงยขึ้น ภายใต้แสงจันทร์สีนวล พวกเขาเดินทอดน่องกันตามลำพังบนหาดทราย หากเป็นคนรักกัน นี่ก็คงเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกอยู่ไม่น้อย เขาควรจะมีความสุขที่ได้ใช้เวลากับคนที่หลงรักอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้ “...อืม... ก็สวยดี”

“เจ้านายขี้โกงนี่ครับ! เห็นอยู่คนเดียวอ่า!”

ผู้เป็นนายอมยิ้ม เขาเดินวนไปประชิดด้านหลังของเด็กหนุ่มแล้วเปิดผ้าปิดตาออกให้ “เอ้า... พอใจรึยัง”

เร็นพยักหน้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหาดวงจันทร์ แต่จู่ๆ ก็หันกลับมาทางเขา ดาริลสะดุ้งเฮือก รีบก้มหน้าหลบ “หันมาทำไม”

“ก็เจ้านายอยู่ตรงนี้”

“อยากมองดวงจันทร์ก็มองไปสิ”

“ก็ผมอยากมองคุณ แล้วก็มองดวงจันทร์ด้วยนี่”

...ปากดีจริงๆ ร่างผอมบางขมวดคิ้วแล้วตัดสินใจดึงผ้าปิดตาลง “ไม่ได้” ...ต้องใจแข็งนะดาริล ถ้าไม่อยากผิดหวัง

“...ทำไมคุณต้องปิดบังผมด้วยล่ะ”

แววตาสีมรกตสั่นน้อยๆ “เราสัญญากันแล้วไม่ใช่รึไง” มือขาวผลักตัวเองออก พลางถอยห่างออกจากตรงที่เด็กหนุ่มยืนอยู่ เขาไม่ได้ออกไปห่างจากตรงที่ร่างสูงยืนอยู่มากนัก แต่ก็พอจะเห็นท่าทางของอีกฝ่ายได้ เร็นดูลังเล เขายกมือขึ้นเพื่อจะเปิดผ้าปิดตา แต่ก็ชะงัก แล้วยืนนิ่งอยู่แบบนั้น

ดาริลยืนจ้องมองร่างสูงอยู่นานนับสิบนาที เด็กหนุ่มทำให้เขาทึ่งอยู่ไม่น้อย... อีกฝ่ายรักษาคำพูดที่ให้ไว้จริงๆ

...หรือว่าเขา จะสามารถไว้ใจคนคนนี้ได้

เวลาเกือบสิบห้านาทีผ่านพ้นไป ร่างผอมบางจึงเดินลุยน้ำกลับไปหา เขายื่นมือที่เย็นเฉียบออกไปแตะมืออุ่นๆ ของอีกฝ่าย ก่อนจะถูกดึงเข้าไปสวมกอด “เจ้านาย คุณกลับมาแล้ว”

นัยน์ตากลมโตปิดลงภายในอ้อมแขนแข็งแรง เขาอมยิ้ม “ขอบใจที่รอนะ” ...อ้อมกอดที่แสนอบอุ่น ทำให้เขานึกอยากจะหยุดเวลาเอาไว้แบบนี้ ตลอดไป

คลื่นน้ำม้วนเป็นเกลียวแล้วสาดซัดขึ้นสู่ฝั่ง กระทบสองร่างที่ยืนกอดกันนิ่งจนแผ่กระเซ็นออกไปเป็นฟองคลื่นละเอียด ดาริลขยับออกเล็กน้อย “ปล่อยได้แล้วล่ะ” ทว่ากลับถูกอีกฝ่ายอุ้มขึ้นแนบกาย “เร็น!”

เด็กหนุ่มอุ้มตัวเขาแล้วนั่งลงให้คลื่นซัดจนเปียกปอน แล้วหัวเราะชอบใจ “เล่นน้ำกับเจ้านายไงครับ ไม่ได้ดูดวงจันทร์ด้วยกัน ก็เล่นน้ำด้วยกันแทนก็ได้” กว่าจะยอมกลับไปยังบ้านพักได้ ร่างผอมบางก็สั่นเทาด้วยความหนาว

มืออุ่นๆ ของเร็นจูงเขาวิ่งกลับไปบ้านพักหลังจากที่เขายินยอมให้เปิดผ้าปิดตาออกได้ พอไปถึงแล้วต่างคนก็หยุดหอบแล้วหัวเราะกันเสียงดังลั่น เขาไม่ได้รู้สึกสนุกแบบนี้มานานมากแล้ว ราวกับย้อนเวลากลับไปในวันเก่าๆ สมัยที่ยังอยู่ที่ประเทศอังกฤษ ช่วงเวลาซึ่งมีแต่ความสุขใจ

จากนั้นเร็นก็พาเจ้านายไปยังห้องอาบน้ำ มือหยาบช่วยถอดเสื้อผ้าให้กับเขา กระดุมแต่ละเม็ดที่ปลดออกส่งผลให้ดาริลรู้สึกแปลกๆ ใบหน้าของเขาร้อนผ่าว “ผมถอดเอง”

เร็นปล่อยมือออก “งั้นผมไปนะ”

...แต่เขาไม่อยากอยู่คนเดียวนี่นา ไม่อยากอยู่ห่างจากเด็กหนุ่มแม้เพียงวินาทีเดียว สองมือคว้าแขนแกร่งเอาไว้ทันควัน “คุณจะไปไหน... อาบด้วยกันก็ได้” พอพูดออกไปแล้วถึงได้รู้ตัวว่าพูดจาเหมือนเชิญชวนให้อีกฝ่ายเข้าใจผิด ดาริลรีบปล่อยมือจากเด็กหนุ่ม พวงแก้มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาคิดว่าโชคดีเหลือเกินที่อยู่ในความมืดเช่นนี้

หากเร็นก็ไม่ได้ถอยหนีเหมือนเมื่อวันแรก มือหยาบนั้นยกขึ้นจัดการถอดเสื้อผ้าของดาริลออกจนเหลือเพียงแค่ร่างกายที่เปล่าเปลือย

หัวใจดวงน้อยเต้นแรงราวกับกลองใหญ่ที่ถูกตีรัว ดาริลยื่นมือออกไปช่วยถอดเสื้อผ้าให้กับเร็นบ้าง หากก็ตื่นเต้นเสียจนนิ้วมือเย็นเฉียบและรู้สึกชา

“เจ้านายครับ ลงไปแช่น้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวผมจะตามลงไป คุณคงจะหนาวมากแล้ว”

ดาริลชักมือกลับ เขาไม่รู้ว่าอีกฝายสังเกตเห็นปลายนิ้วที่สั่นระริกหรือไม่ ทว่าใบหน้าร้อนราวกับมีไฟลน ชายหนุ่มจึงถอยออกไปเพื่อทำใจให้สงบลงก่อน

พวกเขาต่างลงไปแช่น้ำอุ่นในอ่าง ก่อนความเงียบงันจะเข้าปกคลุม ดาริลเกร็งไปทั้งร่าง จะหายใจก็ยังกลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน แต่สักพักฝ่ามือของเร็นก็เข้ามาสัมผัสบนท่อนขาเขาเบาๆ ชายหนุ่มสะดุ้ง “ทำอะไรน่ะ” หากอีกฝ่ายยิ่งขยับเข้ามาใกล้

“เจ้านาย... ผมไม่เข้าใจคุณเลย ทำไมต้องปิดบังไม่ให้ผมเห็นหน้าของคุณด้วย ยังไงผมก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคุณสักอย่างอยู่แล้ว ผมไม่รู้จักคุณสักหน่อย... ไม่ใช่เหรอครับ"

"...หรือว่า เราเคยพบกันมาก่อน”

หัวใจของดาริลร่วงวูบ ใจนึกกลัวว่าเร็นจะรู้... รู้ความในใจที่ซุกซ่อนมาแสนนาน “คุณไม่จำเป็นต้องรู้... ผมมีเงิน อยากจะซื้อใคร อยากจะได้อะไร มันก็เป็นเรื่องของผม” เขาพูดปัดออกไปแบบนั้น ทว่านั่นทำให้เร็นนิ่งไป ชายหนุ่มจึงค่อยๆ หันหน้ามาทางอีกฝ่าย หรือเขาจะพูดแรงไป... ทำให้เด็กหนุ่มโกรธเอารึเปล่า

“...ผมขอโทษ... ในสัญญาบอกไว้ว่าห้ามถามอะไรเจ้านายแท้ๆ” แล้วร่างสูงก็เปลี่ยนเรื่องซะง่ายๆ “...ของขวัญที่คุณให้ผมวันนี้... ขอบคุณนะครับ ผมดีใจมาก”

“...แปลว่าคุณยอมรับของขวัญจากผมแล้วงั้นเหรอ...”

“ผมฝันอยากจะได้ถุงมือเบสบอลแบบนี้มานานแล้ว ลูกเบสบอลนั่นก็สุดยอดไปเลย น้ำหนักกำลังดีสุดๆ เจ้านายรู้ใจผมอย่างไม่น่าเชื่อเลย”

ดาริลชะงัก หัวใจสั่นรัว เขารีบตอบออกไป “ของพรรค์นั้น เลขาของผมเป็นคนเลือก” ชายหนุ่มคิดว่าคำพูดร้ายๆ ของเขาจะทำให้เร็นถอยออกห่าง ทว่าเด็กหนุ่มกลับยิ่งเข้ามาใกล้ เขาแทบจะหยุดหายใจ “เร็น”

ริมฝีปากอบอุ่นที่แนบเข้ามา ส่งผลให้ร่างกายอุ่นร้อนตามไปด้วย เขาไม่อยากเชื่อเลย นี่เร็น... กำลังจูบ... เขาหรือนี่ จุมพิตลึกซึ้งครั้งแรกในชีวิต เขาแทบจะหลอมละลายอยู่ตรงหน้าอีกฝ่าย

“ผมจะพาเจ้านายไปที่เตียง”

ใบหน้าหวานเงยขึ้น จ้องมองเจ้าของคำพูดนั้นอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกไป เด็กหนุ่มก็อุ้มเขาไปที่เตียงนอนซะแล้ว

ร่างผอมบางสั่นสะท้าน ริมฝีปากที่เพิ่งได้สัมผัสนั้นกำลังละเลงจูบไปทั่วแผ่นอกและลำคอ ฝ่ามือหยาบกร้านลูบไล้ไปทั่วร่าง แล้วยังเคลื่อนลงสู่ที่ต่ำ

ดวงตาที่ปิดสนิทขณะที่ดาริลเพลิดเพลินไปกับความรู้สึกหวามไหวจำต้องเบิกโพลง เพราะส่วนที่มันร้อนผ่าวตรงกลางร่างนั่น ถ้าหากเร็นสัมผัส... อาจจะทำให้หมดอารมณ์ไปได้ ก็ตัวเขาเป็นผู้ชายเหมือนกันนี่นา “อ๊ะ! เร็น! หยุด!”

เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นถาม ริมฝีปากของเขาขยับขึ้นมาคลอเคลียอยู่บนกลีบปากอิ่ม “ทำไมล่ะครับ”

...เขารู้ว่าเร็นไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้ชายมาก่อน กลัวว่าถ้าสัมผัสโดนส่วนที่แข็งขึงของตนแล้วจะรู้สึกรังเกียจ ดาริลรีบพลิกตัวหลบ “เร็น! ...เดี๋ยวก่อน อะ...” หากร่างสูงไม่ปล่อยให้ตัวเขาหนีไปได้ สองแขนแกร่งดึงร่างผอมบางเข้าไปแนบชิด พรมจูบบนแผ่นหลัง สัมผัสปลุกเร้าให้สิ้นแรงต้านขืน ได้แต่ส่งเสียงขอร้องแหบพร่า “อื้อ! เร็น... หยุด”

มือใหญ่เคลื่อนลงไปกอบกุมส่วนที่ดาริลไม่ต้องการให้สัมผัส “หยุดอะไรกันครับ คุณรู้สึกขนาดนี้แล้ว”

...ไม่จริง มือ... มือของเร็น "อา..." ภายในศีรษะขาวโพลน ดาริลขยุ้มหมอนตรงหน้าแล้วดึงทึ้งอย่างลืมตัว ก่อนจะสะดุ้งตัวเมื่อรู้สึกถึงความแข็งขึงที่บดเบียดกับสะโพกของตน

“เจ้านายครับ คุณทำให้ผม... อา...” เร็นกระซิบเสียงกระเส่า “รู้สึกใช่มั้ยครับ ผม... ขอทำไปพร้อมกับคุณได้มั้ย”

"อา" ...เป็นไปได้หรือนี่ เร็น... มีอารมณ์กับร่างกายของเขา ทั้งที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน และไม่เคยได้เห็นหน้ากันแบบนี้ เสียงครางทุ้มต่ำชิดใบหู ความแข็งขึงใหญ่โตที่เสียดสีกับต้นขาด้านในและหลั่งน้ำออกมาจนเปียกชุ่ม ดาริลปล่อยตัวปล่อยใจให้ถลำลึกลงไปกับความสุขนั้น ก่อนพวกเขาจะปลดปล่อยอารมณ์ร้อนรุ่มออกมา

ดาริลหอบหนักๆ แต่ก็ยกมือขึ้นประกบใบหน้าหล่อเหลา แววตาสีเขียวใสสั่นไหว เช่นเดียวกับหัวไหล่เล็ก

เร็น... ช่วยบอกทีว่าเขาควรจะหวัง... ว่าสักวันจะมีโอกาสได้เป็นคนรักของเด็กหนุ่ม

“เจ้านาย... เดี๋ยวผมจะทำความสะอาดให้”

“ไม่ต้องหรอก”

แขนแกร่งโอบกอดร่างผอมบางไว้หลวมๆ สองร่างอิงแอบ ส่งความอบอุ่นผ่านผิวกายให้แก่กันและกัน มือขาวนุ่มนิ่มลูบเส้นผมสีดำของคนที่ซบอยู่บนหัวไหล่ หัวใจเจ็บ แต่ก็พองโต... เขาเองก็สับสนกับความรู้สึกของตนเองในเวลานี้มากเหลือเกิน

“ราตรีสวัสดิ์ เร็น”


เมื่อเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงผ่านพ้นไปก็ถึงเวลาที่ดาริลจะต้องรีบปลีกตัวออกไปจากห้อง นัยน์ตาสีเขียวปรือขึ้น ก่อนจะก้มลงมองแขนแกร่งที่โอบรัดตนเองไว้ ลมหายใจอุ่นๆ ของเร็นตกกระทบบนแก้มนิ่มที่ฉีดสีเลือด ร่างกายที่แนบชิดกันแบบเนื้อแนบเนื้อส่งผลให้รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

...เมื่อคืน ดาริลไม่อยากเชื่อเลยว่าเขากับเร็น... จะทำเรื่องแบบนั้นได้ แล้วยังเสียงกระเส่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาแบบนั้น

มือขาวยกขึ้นกุมใบหน้าที่ร้อนผ่าว เขาค่อยๆ พลิกตัวไปทางเด็กหนุ่มที่หลับสนิทไม่รู้เรื่องรู้ราว ดวงตาใสจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างสงสัย เร็นสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ แม้กระทั่งกับคนที่ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าอย่างเขา โดยที่ไม่ต้องมีความรัก ความผูกพันใดๆ เลยอย่างงั้นเหรอ

ไม่ใช่ว่าไม่ดีใจที่เร็นสามารถมีอารมณ์ร่วมและมีความสุขกับร่างกายและผิวสัมผัสของตนเองได้ แต่ในใจก็ยังคงระแวง สงสัยในตัวอีกฝ่าย

เสียงโทรศัพท์เบาๆ ดังขึ้นเพื่อเตือนให้เจ้าของตื่นขึ้น ดาริลจึงส่ายหน้าไปมาเพื่อสลัดความคิดสับสนออกไปก่อน เขาขยับออกจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุด พาร่างกายที่เปลือยเปล่าไปยังตู้เสื้อผ้า แล้วเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตแบบลำลองกับกางเกงผ้ามาสวม  ใจนึกว่าคงจะต้องติดชุดสูทและเสื้อผ้าทำงานไว้ในรถบ้างแล้ว จะได้ไม่ต้องกลับไปคอนโดมิเนียมทุกเช้าแบบนี้

ดาริลสังเกตเห็นสายตาของเลขาที่จ้องมองมายังตนเขม็ง เดี๋ยวอีกฝ่ายคงจะซักฟอกเขาจนขาวสะอาดแน่ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสื้อผ้า แล้วพอขึ้นไปนั่งในรถ คาซึกิก็ยิงคำถามใส่ทันทีอย่างที่คิดไว้จริงๆ

"คุณดาริล เสื้อผ้าของคุณหายไปไหนครับ"

"เปียกน้ำน่ะ" ร่างผอมบางตอบสั้นๆ "เดี๋ยวคงต้องแวะคอนโดก่อนนะ จะได้ไปเอาสูทชุดใหม่แล้วก็อาบน้ำด้วย"

"เมื่อคืน เอ่อ..."

"ไม่มีอะไรหรอกน่ะ พี่คาซึกิ ผมไปเดินเล่นที่ชายหาด ก็เลยเปียกน้ำทะเลเท่านั้นเอง" ดาริลพยายามข่มสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่ก็ไม่อาจปกปิดแก้มสีระเรื่อเอาไว้ได้ "บอกคุณแม่บ้านให้เอาเสื้อผ้าผมไปส่งซักแห้งด้วย แล้วออกรถเถอะ เดี๋ยวผมจะสาย"

เลขาหนุ่มค้อมศีรษะรับ หากสายตาก็ยังคงจับจ้องเจ้านายอย่างไม่วางตา "ครับ"



ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


ยามค่ำของคืนต่อมาซึ่งมีจันทร์เสี้ยวประดับท้องฟ้า ดวงดาวส่องแสงระยิบระยับงามจับตา ดาริลเดินทางมาถึงบ้านพักด้วยหัวใจที่เต้นแบบแปลกๆ จะว่าไปเขาก็รอเวลาที่จะได้มาพบกับเร็นอยู่ตลอดทั้งวัน ทว่าคืนนี้ พอมาถึงในห้องแล้ว ร่างสูงในเงามืดนั้นกลับนิ่งไปจนน่าสงสัย ผู้เป็นนายพยายามคิดทบทวนว่าจะเป็นเพราะสาเหตุใด หรือเพราะเรื่องเมื่อวานทำให้เร็นรู้สึกเกร็งเวลาที่อยู่ด้วยกัน เด็กหนุ่มจะนึกรังเกียจตัวเขารึเปล่า แต่ว่าเร็นเองก็มีอารมณ์เหมือนกันไม่ใช่เหรอ

หากเด็กหนุ่มเอาแต่จับจ้องมาที่เขา ทำไมกันล่ะ พอชวนพูดคุยก็เอาแต่อ้ำอึ้ง ดาริลขมวดคิ้ว พลางยกมือขึ้นแตะปลายคางอีกฝ่าย เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มไม่ได้ผละหนี ก็คิดว่าคงจะเป็นสาเหตุอื่น... แต่ว่า... เพราะอะไรนะ?

“...อ้อ..." จริงสิ คงจะเป็นเรื่องนี้...

"คุณคงจะเป็นห่วงคุณแม่สินะ”

“ก็... นิดหน่อยครับ”

ดาริลยิ้มมุมปาก เขาคิดว่าเร็นน่ารักก็เพราะแบบนี้ล่ะ  “ไม่ต้องห่วงหรอกนะ พวกหมอที่เข้าทำการผ่าตัดน่ะ เป็นหมอมือหนึ่งทั้งนั้น...” แล้วพอเขาใจดีเข้าหน่อย ร่างสูงก็เข้ามาอ้อนราวกับเด็กๆ จนเขาใจอ่อน

“...วันนี้เจ้านายใจดีจังเลยครับ”

ใบหน้าหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงราวกับลูกมะเขือเทศ ก็ดูเข้าสิ ไม่ใช่แค่พูดจาออดอ้อนอย่างเดียว แต่การกระทำที่มาขอนอนตัก จับมือแล้วจูบบนฝ่ามือแบบนี้... ถึงจะพยายามไม่คิดอะไร แต่ก็ทำให้รู้สึกเขินๆ ชอบกล “...ผมเคยใจร้ายกับคุณตอนไหนกันล่ะ”

“เพราะคุณ... ผมถึงได้มีโอกาสรู้สึกถึงความสุขเหมือนคนอื่นๆ เขา”

หัวใจราวกับหยุดเต้นไปชั่ววินาทีที่ได้ยินคำพูดหวานๆ แบบนั้น ดาริลหายใจติดขัด เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีแล้ว

“...คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่ผมขอบอกคุณไว้ตรงนี้เลย... ผมไม่คิดขายตัวแบบนี้อีกไม่ว่าต่อไปต้องลำบากแค่ไหน ผมจะเรียนจนจบมหาลัย แล้วจะต้องเป็นนักเบสบอลอาชีพให้ได้...”

...ราวกับเร็นรู้ว่าเขาต้องการจะได้ยินคำพูดแบบไหน ถ้าเช่นนั้นแล้วทั้งการกระทำและคำพูดเหล่านี้ ก็คงเพื่อเอาใจเขาเท่านั้น ไม่มีอะไรมากหรอก ดาริลบอกกับตนเอง “ก็ดีแล้ว” ชายหนุ่มพยายามนิ่งเฉย แต่แล้วอีกฝ่ายก็ลุกขึ้น แล้วรุกล้ำเข้ามากอดจูบตามอำเภอใจ ซ้ำยังจับมือเขาไปสัมผัสกับส่วนร้อนที่แข็งเกร็ง การกระทำที่บ่งบอกถึงความต้องการอย่างไม่ปิดบัง

อารมณ์ของดาริลถูกปลุกปั่นโดยง่าย ก็เพราะฝ่ามือที่ลูบไล้ไปบนเรือนกายเป็นฝ่ามือของเร็น เขาทอดกายให้อีกฝ่ายล่วงล้ำและพาไปจนถึงจุดสูงสุดแห่งอารมณ์

...นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ดูท่า เร็นจะถูกใจร่างกายของเขามาก หรือไม่ก็เป็นเพราะด้วยความที่อายุยังน้อย ดาริลเองก็ไม่เข้าใจเช่นกัน

ทั้งสองคนนอนเคียงข้างกัน เรียวปากอุ่นๆ ของเด็กหนุ่มยังคงไล้เล็ม แขนแกร่งกอดรัดเจ้านายไว้ “เจ้านายตัวหอมมากเลย”
นัยน์ตาสีเขียวกะพริบปริบ เร็นช่างเอาอกเอาใจเก่งจริงๆ สมแล้วที่มีประสบการณ์มามากมาย เขาแทบจะหลงคารมอีกฝ่ายเข้าซะแล้ว แต่ก็พยายามหักห้ามใจไว้

“เจ้านายครับ... พรุ่งนี้มาเร็วๆ หน่อยได้มั้ยครับ มาตอนยังไม่มืดก็ได้ ผมจะเอาผ้าปิดตาไว้รอ”

“...หืม... อยู่คนเดียวเบื่อเหรอ”

“ก็นิดหน่อยครับ”

“...อยู่กับผมไม่น่าเบื่อกว่ารึไง”

“ไม่ครับ... ผมออกจะชอบเวลาที่ได้อยู่กับคุณนะ”

ดาริลหลุดหัวเราะ  “...นี่ถ้าคุณตกลงทำงานที่โฮสต์คลับละก็ ต้องได้เป็นเบอร์หนึ่งแน่ๆ”

“เจ้านาย! คุณพูดยังกับว่าผมเป็นพวกคาสซาโนว่ายังงั้นแหละ” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว “...คุณคิดว่าที่ผมพูดๆ ออกไปนี่เพื่อเอาใจคุณงั้นเหรอครับ”

“แล้วไม่ใช่รึไง”

“แต่ผมพูดเพราะผมรู้สึกแบบนั้นจริงๆ” เร็นพูดเสียงขรึม พร้อมกับเล่าถึงความรู้สึกของตนเองที่ผ่านมาอย่างไม่ปิดบัง เด็กหนุ่มกุมมือขาวไว้แน่น ราวกับกำลังเอ่ยคำสัญญา  “...ผมตั้งใจว่าจะไม่คบกับใครโดยปราศจากความรักอีก แล้วถ้าผมรักใคร ผมก็จะซื่อสัตย์แต่กับเขาคนเดียวเท่านั้น”

ริมฝีปากสีแดงสดเม้มเข้าหากันแน่น หัวใจเจ็บราวกับมีมีดมาเฉือน ดาริลนึกอิจฉาคนรักของเด็กหนุ่มในอนาคต ไหล่ของเขาสั่นเล็กน้อย แต่ก่อนที่อีกฝ่ายจะสัมผัสได้ถึงความอ่อนแอของตน ดาริลก็รีบกระตุกมือออก เขาพยายามพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติมากที่สุด “...ถ้างั้น... ผมก็ดีใจกับคนรักของคุณในอนาคตด้วย”

หรือว่าเร็นจะรู้ว่าเขาเสียใจ ร่างสูงขยับเข้ามาอ้อน แล้วเริ่มพูดจาหวานๆ อีกครั้ง เด็กหนุ่มปรนเปรอความสุขให้กับเขา ทำให้เขาถลำลึกลงไปในห้วงแห่งภวังค์ สุขราวกับอยู่ในความฝัน... ที่อีกไม่นานก็คงจะต้องตื่นขึ้นเพื่อเผชิญกับความจริง


TBC~*


ย้อนอดีตแห่งฟามสุข ในช่วงของดาริลบ้างนะคะ ^^ จะได้เข้าใจว่าในความมืดนั้น นายเอกคิดอะไรอยู่น้อ

ความสัมพันธ์ของสองหนุ่มคงจะชัดเจนกว่านี้ถ้าเขาจีบกันในที่สว่าง คงจะเป็นอย่างที่คุณMouse2Uบอกไว้นะคะ 5555

เพราะ "ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ" แล้วดวงตาก็เป็นสิ่งแรกที่น้องเร็นหลงรักซะด้วยซี

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านค่ะ
:mew1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sweetyswtcou

  • R.Chek SwtCou
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เจ้านายน่ารักมากเลยนะคะ แถมยังหลงรักเร็นจนหมดใจอีกต่างหาก ฮ้า~ ความรักนี้หนา ใยเจ้าจึงแสดงแต่ด้านที่ทำให้ทั้งสองคนต้องช้ำใจ~ :heaven (ลิเก๊..ลิเก) เอาใจช่วยทั้งคู่เลยนะค้าา ^^

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
รักที่ต้องเก็บกด ทรมานจัง

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
กลับมาคืนดีกันเร็วๆนะ รอแบบหวานๆ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
สงสารดาริล ยิ่งเห็นว่า ดาริลรู้สึกยังไง ยิ่งสงสาร ทำตามใจตัวเองไม่ได้เลย รักใครซักคนก็อุปสรรคเยอะเหลือเกิน

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ดาริล คิดมากอ่ะ
รอตอนต่อไปค่ะ
ป.ล.เป็นนักอ่านเงาที่เชียร์ให้ดาริลออก555

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ใจตรงกันแต่ก็ไม่รู้ตัว คู่นี้น่าสงสาร แต่ก็เป็นความรักที่เร้าใจดีนะคะ
ดาริลคิดเนอะ คิดมาก แต่ก็ชอบเร็นมากเลย น่ารักมากด้วย
เร็นกำลังเข้าสู่ภาวะหลงเจ้านาย

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รำลึกความหวานกันเบาๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ดาริลคิดมากจัง  น่าสงสารเร็น :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด