เงาจันทร์ในม่านหมอก [บทที่ 23: ไซคีพบอีรอส END]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เงาจันทร์ในม่านหมอก [บทที่ 23: ไซคีพบอีรอส END]  (อ่าน 273036 ครั้ง)

ออฟไลน์ IaminLove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-5
จริงๆ เราว่าดาริลกลัวไปเองเยอะมาก ทั้งๆ ทีใจจะตรงกันกับเร็นอยู่แล้วเชียว ><

ออฟไลน์ FollowingTK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
.......จิงๆน่าหาแฟนให้พี่คาซึกิสักคนนะคะ กร้ากกกกกก อยากรู้ว่าแฟนพี่แกจะเป็นแบบไหน 55555
รีบๆมาต่อนะคะะะะะ กร้ากกกก *นวดๆ รอออออ

ออฟไลน์ cheyp

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1536
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-0
เฮ้อออออ ทั้งๆที่ทั้งสองคนรักกันแท้ๆน้าาา

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
ต่างคนต่างรักกัน ปรับความเข้าใจกันเร็วๆนะ

ออฟไลน์ subbeau

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ใจตรงกันแท้ๆ  ขอให้ปรับความเข้าใจกันได้ทีเถอะ   :ling2:

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 20 : อดีตของดาริล


ช่วงสองสามวันหลังจากนั้น ดาริลมีหน้าที่ต้องไปประชุมแทนคุณตาที่ต่างเมือง ส่วนธุรกิจของตนเอง เขามอบหมายให้คาโอรุคอยออกหน้าจัดการแทน แต่ก็ต้องคอยรับโทรศัพท์เพื่อให้คำปรึกษากับเธออยู่บ่อยๆ เขาวุ่นวายอยู่ทั้งวัน แต่ก็ยังยอมเสียเวลาในการเดินทางเพื่อให้ได้ไปพบกับเร็น แม้เพียงชั่วเวลาสั้นๆ ก็ยังดี

ในตอนกลางคืนของวันถัดมา ตามกำหนดการแล้ว ร่างผอมบางกับเพื่อนสาวมีนัดพูดคุยธุรกิจกับนักธุรกิจชาวต่างชาติที่ร้านอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง แต่เพราะเขาทำงานจนดึกดื่นมาหลายวัน คาโอรุจึงเสนอว่าเธอจะไปตามลำพังกับเลขาของเธอ แล้วไล่ให้เขากลับไปพักผ่อน

เมื่อกลับมาถึงบ้านพัก ลูกค้าชาวต่างชาติที่นัดไว้ก็โทรศัพท์มาพูดคุย แล้วไม่ยอมวางสายไปง่ายๆ เสียด้วย จนเขาต้องเป็นฝ่ายเสียมารยาทพูดตัดบท จากนั้นจึงเปิดประตูห้องพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋าเสื้อ หากยังไม่ทันจะมองหาว่าเร็นอยู่ที่ไหน ตัวเขาก็ถูกรวบเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเด็กหนุ่มเรียบร้อยแล้ว "เร็น" เขาหัวเราะเบาๆ

"ผมคิดถึงเจ้านาย"

เด็กหนุ่มเข้ามาอ้อนเขาราวกับเด็กๆ ดาริลเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ พลางยกมือลูบหลังอีกฝ่าย "ปากหวานจริง" เขาปล่อยให้เร็นกอดอยู่สักพัก จึงเดินไปนั่งลงบนโซฟา

“เจ้านายครับ... ผมขอบคุณมากเรื่องของแม่”

...อ้อ... จริงสินะ เขาส่งคนไปเยี่ยมมารดาของเร็น แล้วให้ถ่ายรูปมาด้วย น่าจะเพราะสาเหตุนั้นที่ทำให้เด็กหนุ่มเข้ามาอ้อน คงอยากจะขอบคุณเขา

“...ผม... ขอจูบเจ้านายหน่อยได้มั้ยครับ”

...นี่คงจะเป็นการตอบแทนในแบบของเร็นสินะ "ไม่เห็นต้องขอเลย..." ทันทีที่พูดจบ เรียวปากบางได้รูปนั่นก็แนบเข้ามาบนริมฝีปากอวบอิ่ม ซึ่งดาริลเองก็คาดหวังอยู่แล้ว เขาหรี่ตาปิดลง กำซาบความหอมหวานที่เด็กหนุ่มบรรจงมอบให้

หากก่อนที่ทั้งสองจะเตลิดไปกับสัมผัสอบอุ่นของกันและกัน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังแทรกขึ้น ดาริลคิดว่าคงจะเป็นลูกค้าคนเดิมจึงพยายามไม่สนใจ แต่เพราะหลังจากนั้นเสียงโทรศัพท์ยังคงดังขึ้นอีก ทำให้เขานึกถึงคาโอรุขึ้นมาได้ เธออาจจะมีปัญหาในการรับมือกับลูกค้าคนนั้น แล้วก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อเขารับโทรศัพท์แล้วจึงต้องรีบออกไปสมทบกับเธอ ทว่านั่นดูเหมือนว่าจะทำให้เร็นไม่พอใจ

“ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ”

ดาริลส่ายหน้า เขาอมยิ้ม พร้อมกับโน้มตัวเข้าไปแต้มจูบ “แล้วผมจะรีบกลับมา... รอผมก่อนนะ”

“ผมจะทำยังไงได้ล่ะครับ เจ้านายบอกให้รอก็ต้องรอ”

...เร็นคงไม่รู้ว่าการทำเป็นงอนแบบนี้ ส่งผลให้ดาริลอ่อนไปทั้งใจ เขาไม่ได้อยากจากเด็กหนุ่มไปนักหรอกนะ แต่เรื่องงานก็สำคัญ แล้วคาโอรุก็พยายามถึงที่สุดแล้ว อีกอย่าง เธอเป็นผู้หญิงซะด้วย คงจะรับมือกับนักธุรกิจที่อาวุโสและเจ้าอารมณ์ได้ลำบาก

“อย่าเพิ่งงอนสิ... แล้วจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุดนะ" เขาบอกกับเด็กหนุ่ม ก่อนจะหักใจ รีบเดินออกจากห้องไป


เมื่อดาริลมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้ากับคาโอรุแล้ว การเจรจาธุรกิจก็ดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น อีกฝ่ายต้องการเพียงเห็นหน้าของบุคคลที่จะทำธุรกิจร่วมกัน เพื่อความโปร่งใสและไว้วางใจ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

พอพูดคุยเรื่องการเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยและส่งลูกค้ากลับแล้ว คาโอรุจึงปราดเข้ามาสวมกอด "ขอโทษนะดาริล ฉันพยายามแล้ว แต่เขาไม่ฟังอะไรเลย"

"ไม่เป็นไร ที่จริงฉันควรจะมาพร้อมกับนายแต่แรก ขอโทษด้วยเหมือนกันนะ"

คาโอรุยิ้มกว้าง "ถ้างั้นนายรีบกลับไปพักผ่อนเถอะ ท่าทางเหมือนจะเป็นลมอยู่แล้ว ได้นอนบ้างรึเปล่าเนี่ย"

ดาริลหัวเราะ "งั้นไปล่ะ มีอะไรก็โทรมานะ"


ชายหนุ่มกลับมาถึงห้องพักอีกครั้ง เขาคิดว่าเวลาสองชั่วโมงไม่ได้มากมายอะไรนัก เร็นน่าจะยังรอเขาอยู่ คงจะยังไม่ทันเข้านอน หากพอเปิดประตูห้องเข้าไป เด็กหนุ่มกลับไม่ลุกมาต้อนรับอย่างเคย แถมยังเอาแต่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟา

ริมฝีปากสีเชอรีคลี่ยิ้มขณะที่เดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่าย "รอนานมากมั้ย... อ๊ะ!" แต่จู่ๆ เร็นก็คว้าท่อนแขนของเขาอย่างแรงแล้วตะคอกใส่เสียงดังลั่น

“...นี่คุณไปหาใครมากัน!”

มือกร้านขย้ำหัวไหล่แรงจนรู้สึกเจ็บ แล้วยังเขย่าจนศีรษะเล็กโคลงเคลงไปมา “เร็น! นี่มันเรื่องส่วนตัวของผมนะ!”

“...นอกจากผมแล้ว คุณยังซื้อคนอื่นไว้อีกงั้นสิ!”

“เร็น!”

ดาริลตั้งรับอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของร่างสูงไม่ทัน ยังไม่ทันจะอธิบายอะไร เด็กหนุ่มก็เดินหนีออกไปยังระเบียงซะแล้ว เร็นทำอย่างกับว่า... กำลังหึง... เขาอย่างนั้นล่ะ

...มันจะเป็นไปได้หรือ เร็นคงจะทำเป็นโมโหให้เขาดีใจ สำคัญตัวผิดไปมากกว่าละมั้ง

หากท่าทางมึนตึงและการแสดงออกแบบนั้น ถ้าเป็นการแสดง เร็นก็คงจะเป็นนักแสดงที่เก่งมากเลยทีเดียว ฟันซี่เล็กกัดลงบนกลีบปากสีแดงเบาๆ ขณะครุ่นคิด ก่อนจะก้าวขาไปยังบานประตูออกสู่ระเบียง ดวงตาสีอ่อนจ้องมองแผ่นหลังกว้างที่สั่นอยู่เล็กน้อยด้วยอารมณ์โกรธ แล้วเอ่ยออกไป “...เร็น... คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณเห็นผมเป็นคนที่ใช้เงินซื้อใครก็ได้มาสนองความต้องการงั้นเหรอ” เขาก้าวออกไปบนระเบียงอย่างเชื่องช้า แล้วสวมกอดเด็กหนุ่มจากทางด้านหลัง “ถ้าหากคุณเป็นเพียงใครก็ได้... ผมคงไม่สนใจว่าคุณจะคิดยังไง”

ท่าทางดีอกดีใจอย่างเปิดเผยของเร็น... นั่นไม่ใช่การแสดงใช่มั้ย เขาจะหวังว่าเด็กหนุ่มมีใจเอนเอียงมาทางเขาบ้างสักเล็กน้อยได้รึเปล่า ดาริลตั้งคำถามอยู่ในใจ จากนั้นจึงปล่อยให้เด็กหนุ่มพาร่างเปลือยเปล่าของตนขึ้นไปบนเตียงนอน

“ขอบคุณนะครับ ที่ไม่ปล่อยให้ผมต้องอกแตกตายเพราะคิดมากเรื่องของคุณ”

“...คุณนี่เข้าใจพูดให้ผมอารมณ์ดีอยู่เรื่อย”

“...ผมไม่คิดว่าสิ่งที่ผมทำอยู่นี่เป็นงานหรอกนะครับ... ไม่งั้นผมคงไม่ตั้งใจขนาดนี้”

...อย่าทำให้เขาหลงใหลไปมากกว่านี้เลย คำพูดเอาอกเอาใจแบบนั้น เร็นคงจะรู้ว่ามีผลกับอัตราการเต้นของหัวใจเขามากแค่ไหน ดาริลครวญครางอยู่ในใจ

แต่แล้ว... การกระทำของเร็นทำให้เขาต้องเบิกตาโพลง แม้ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง หากร่างกายที่รุ่มร้อน ความสุขจากรสสัมผัสนั่นไม่ได้เป็นแค่ความฝัน เด็กหนุ่ม... กำลังใช้ปากปรนเปรอให้กับเขาอย่างไม่รังเกียจ จากนั้นก็ใช้ปลายนิ้วคลำหาช่องทางที่คาซึกิเคยกล่าวถึง มาถึงตอนนี้ ดาริลไม่อยากจะห้ามใจตัวเองอีกแล้ว

“เจ้านาย คือ... ผม...” เสียงของเร็นแหบพร่า

ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง แต่ก็ต้องเชื่อ หัวใจดวงน้อยเต้นรัว เขาถามออกไปเสียงเบาอย่างไม่มั่นใจนัก “...เร็น... อยากใส่เข้ามามั้ย”

“อยากครับ ถ้าหากเจ้านายจะอนุญาต”

ดาริลยิ้มบาง นัยน์ตาสีเขียวร้อนผ่าวคล้ายน้ำตาอุ่นร้อนรื้นขึ้นมาเอ่อคลอ นึกไม่ถึงว่าจะมีวันที่จะถูกกอดรัดอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงที่เฝ้าคิดถึงมาแสนนาน เขาคลานไปหยิบเอาถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นมาส่งให้อีกฝ่ายตามที่เลขาพร่ำบอก “...ใช้ด้วยล่ะ”

"...ช่วยแนะนำผมด้วยนะครับ”

จะให้แนะนำยังไง... ตัวเขาเองไม่เคยมีประสบการณ์เลยสักครั้ง ใบหน้าสวยหวานร้อนราวกับถูกไฟลน มือขาวสั่นเทา ปลายนิ้วเย็นเฉียบ เขาจับมือหยาบมาเหนือบริเวณร่องสะโพก แต่ไม่กล้าพอให้สัมผัสโดนช่องทางที่อยู่ระหว่างกลีบเนื้อแน่นนั้น แล้วพูดไปตามที่คาซึกิสอน “...ใช้นิ้วของคุณ ใส่เข้ามาตรงนี้ก่อน ค่อยๆ ใส่นะ” ใจนึกกังวลว่าเร็นจะสามารถกกกอดร่างกายนี้ได้หรือไม่ ทว่ารสสัมผัสหลังจากนั้น... ทำให้ตัวเขาแทบหลอมละลาย แม้จะเจ็บราวกับร่างกายถูกฉีกออกจากกัน แต่เขาก็เชื่อว่าเร็นพยายามอ่อนโยนและทำให้เขามีความสุขมากที่สุด

“เจ้านาย... ผมไม่ใช่เป็นเพียงแค่คนพิเศษ แต่เป็นคนแรกของคุณด้วยใช่มั้ย”

ดาริลสะดุ้งเฮือก... ทำไมถึงรู้ได้ล่ะ!? เขาปิดปากเงียบ แต่ถูกเด็กหนุ่มปลุกเร้ากึ่งบังคับจนทำให้ต้องยอมพูดความจริงออกไป “ใช่... อ๊า!” หลังจากตอบคนบนร่างไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน ร่างกายราวกับถูกฉุดกระชากขึ้นไปสู่ปุยเมฆนุ่ม เขาหอบหายใจหนักๆ ทั้งร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อ สติหลงเหลืออยู่น้อยเต็มที ไม่นานก็ผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเด็กหนุ่ม เขาได้ยินเสียงกระซิบเบาๆ ซึ่งดาริลเองก็ไม่แน่ใจว่านั่นเป็นความฝันรึเปล่า

“ราตรีสวัสดิ์นะครับ เจ้านายของผม”


เมื่อถึงเวลาที่ต้องตื่น ดาริลรู้สึกหนักไปทั้งร่าง ปวดเมื่อยไปหมดราวกับเขาเพิ่งกลับจากสนามรบมาหมาดๆ เขายันตัวลุกนั่ง โอนเอนเล็กน้อย แต่ก็พอจะประคองตัวเองได้ มือขาวยกขึ้นกุมขมับพร้อมกับนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน เขากับเร็น... "โอย..."
...เจ็บกว่าที่คิดไว้เยอะเลย

พอจะลุกขึ้น คนที่ไม่เคยตื่นขึ้นมาทันเขาเลยสักครั้งในตอนเช้ากลับรั้งแขนไว้และพูดเสียงอ้อน “จะไปแล้วเหรอครับ อยู่ต่ออีกสักนิดไม่ได้เหรอ”

ดาริลยิ้มบาง ท่าทางของเร็นแบบนี้ ทำให้เขาไม่นึกเสียใจกับเรื่องเมื่อคืนเลย ความรู้สึกที่ได้ตื่นมาในอ้อมแขนของคนที่เขาหลงรักทำให้หัวใจอิ่มเอม สุขจนเหมือนตัวจะลอย “จะเช้าแล้วนะ แล้วผมก็ต้องรีบไปทำงานด้วย”

“งั้นนั่งตรงนี้ก่อน เดี๋ยวผมจะช่วยใส่เสื้อผ้าให้นะครับ” เด็กหนุ่มลุกไปหยิบเสื้อผ้ามาช่วยสวมให้กับเขาอย่างอ่อนโยน ตลอดเวลานั้น เขาจับจ้องใบหน้าของอีกฝ่ายไว้นิ่ง ใจไม่ได้นึกอยากไปทำงานสักเท่าไหร่ อยากจะนอนอยู่ในอ้อมกอดของเร็นต่อไปอีกนานๆ แต่ก็ต้องจำใจไป เขาไม่น่านัดตกลงเรื่องสัญญาการซื้อขายหุ้นวันนี้เลยจริงๆ

ดาริลทำสีหน้าให้เป็นปกติ ขณะที่ก้าวเดินไปนั่งในรถที่จอดรออยู่ เขาเบือนหน้าหลบสายตาของเลขาหนุ่ม เพราะไม่ต้องการพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

หากดูเหมือนว่าคาซึกิจะเข้าใจ เขาพ่นลมหายใจออกหนักๆ "...เช้านี้จะกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่คอนโดฯ ก่อนเหมือนเดิมใช่มั้ยครับ"

"อืม"

ทว่าร่างกายที่ไม่ได้พักผ่อนสั่งสมมาเป็นเวลานาน ประกอบกับประสบการณ์ครั้งแรกที่ค่อนข้างจะหนักหนาสาหัส ส่งผลให้ดาริลอ่อนแอและมีไข้ เขากัดฟันไปจัดการเรื่องหุ้นให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็แทบจะสลบไสล จนคาซึกิต้องพาเจ้านายกลับไปนอนพักที่คอนโดมิเนียมและพาแพทย์มาตรวจเช็กร่างกายให้

บนแผ่นอกสีขาวน้ำนม แขนเรียวและแผ่นหลัง ทุกจุดมีรอยจูบสีแดงช้ำเต็มไปหมด หากคาซึกิก็ไม่ได้ถามอะไร เขาจัดการเช็ดตัวให้กับเจ้านายเพื่อให้ไข้ลดลง แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ "คุณหมอฉีดยาให้แล้ว นอนพักสักหน่อยคงจะอาการดีขึ้นนะครับ"

ดาริลเม้มปาก แล้วพยักหน้า "...ขอบคุณครับ พี่คาซึกิ"

เลขาหนุ่มจับคางเรียวเงยขึ้นอย่างเบามือ ซึ่งดวงตาสีเขียวนั้นก็รีบเสหลบ ไม่กล้าสบสายตากับเขาตรงๆ “คุณดาริล... ไม่ได้ฝืนอะไรอยู่นะครับ”

ผู้เป็นนายค่อยๆ เคลื่อนสายตากลับมาหาคาซึกิ ก่อนรอยยิ้มน่ารักจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน “ไม่ครับ ผมมีความสุขดี”

“ถ้างั้นก็ดีครับ” เลขาหนุ่มยิ้มตอบ พลางพรูลมหายใจออกยาว

ชายหนุ่มหลับไปกว่าครึ่งวัน เมื่อตื่นขึ้นก็ดูจะอาการดีขึ้นมาก ใบหน้าสวยหวานดูสดใส เขารับประทานอาหารค่ำที่เลขาหนุ่มนำมาเสิร์ฟให้จนเกือบหมด

"วันนี้จะไปที่บ้านพักมั้ยครับ"

ผู้เป็นนายพยักหน้า แล้วจัดการกับยาที่เลขาจัดมาให้

คาซึกิอยากจะห้าม แต่ก็ไม่อยากขัดใจ "อย่าหักโหมนักนะครับ"

พวงแก้มนิ่มซับสีเลือด "...ครับ"

หากในคืนนั้น เร็นก็ทำให้เขาแปลกใจอีกจนได้ เด็กหนุ่มไม่ได้ดึงดันรุกเร้าร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่ปฏิบัติอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอม จนเขารู้สึกเหมือนกับเป็นคนที่ถูก...รัก

ร่างสูงให้ผู้ชายตัวโตๆ อย่างเขานี่ขี่หลังไปจนถึงชายหาด... แล้วยังรักษาคำพูดที่ว่าจะไม่มองหน้า แม้ว่าเขาจะแกล้งทำเป็นหลับ เด็กหนุ่มอุ้มเขามาถึงเตียงนอนแล้วช่วยเช็ดตัวให้ ดูเลเขาอย่างอ่อนโยนจนตัวเขาที่แกล้งหลับอ่อนไปทั้งใจ

...เร็น... อย่าทำให้เขาหลงรักมากไปกว่านี้อีกเลย ได้โปรด...

“ฝันดีนะครับ เจ้านายของผม”

ดวงตาที่ปิดสนิทร้อนผ่าว เขาพยายามอดกลั้นไม่ให้สะอื้น หัวใจเจ็บปวดเพราะรู้ว่าตัวเขา... ไม่มีวันตัดใจจากเร็นได้อีกแล้ว


เมื่อกลับมาถึงคอนโดมิเนียมในตอนเช้าตรู่ ร่างผอมบางก็ตรงไปยังห้องเก็บของขนาดเล็ก เปิดตู้หยิบกระเป๋าหนังใบหนึ่งออกมา เขานำมันไปวางลงบนโต๊ะตัวเล็กเบื้องหน้าโซฟา แล้วบรรจงเปิดกระเป๋าใบนั้นออก ส่วนคาซึกิที่นั่งรออยู่ก็ขมวดคิ้วอย่างสงสัย เพราะในมือของเจ้านายนั่น คือสิ่งที่เขาไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานานมากแล้ว มันคือไวโอลินเก่าๆ ที่เจ้านายนำติดตัวมาจากประเทศอังกฤษตั้งแต่เมื่อครั้งยังเยาว์

"คุณดาริลจะทำอะไรเหรอครับ"

ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม "ไม่ได้สีมานานแล้ว ผมอยากจะทบทวนความจำสักหน่อย"จากนั้นจึงยกไวโอลินขึ้นวางบนไหล่ แล้วจัดการปรับเสียง

คาซึกิจ้องมองเจ้านายของเขาด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งเจ็บปวด สงสารและดีใจปะปนกัน ภาพในอดีตย้อนคืนกลับมาช้าๆ ชายหนุ่มที่แสนจะสง่างามตรงหน้าเขานี่ ต้องผ่านเรื่องราวเลวร้ายมามากมายแค่ไหนแล้วกันนะ

ครั้งแรกที่ได้พบกัน ดาริลอายุเพียงเก้าขวบเท่านั้น เด็กชายพูดภาษาอังกฤษเพียงภาษาเดียว แล้วการที่ต้องมาอยู่ตามลำพังในสถานที่ที่มีแต่คนแปลกหน้า ก็คงไม่ใช่เรื่องน่ายินดีสำหรับเด็กชายนัก

ในตอนนั้นคาซึกิรับหน้าที่เป็นเลขาให้กับนามิโกะ มารดาบุญธรรมของดาริล แล้วก็เป็นคนสอนภาษากับมารยาทในการเข้าสังคมญี่ปุ่นให้กับดาริลไปด้วย เมื่อครั้งที่นามิโกะยังมีชีวิตอยู่นั้น เขามีโอกาสได้ยินเสียงไวโอลินของดาริลหลายครั้ง ภาพเด็กชายที่กำลังสีไวโอลินได้อย่างเก่งกาจราวกับมืออาชีพนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจ

แต่แล้ว เมื่อนามิโกะจากไป เขากลับเข้าไปทำงานในสำนักงานใหญ่ของเครือบริษัทรอส หากก็ยังแวะเวียนมาหาดาริลสัปดาห์ละครั้งตามที่นามิโกะฝากฝังไว้ เพียงแค่เดือนเดียวหลังจากการจากไปของหญิงสาว ดาริลเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เด็กชายกลายเป็นเด็กซึมเศร้า เขาแทบไม่ได้เห็นรอยยิ้ม ไม่เคยได้ยินเสียงไวโอลินจากเด็กชายอีกเลย

วันหนึ่ง คุณตาของดาริลเรียกให้เขาเข้าไปคุยด้วยที่คฤหาสน์ตระกูลรอส คฤหาสน์ที่เป็นบ้านแบบญี่ปุ่น มีเรือนใหญ่สองเรือนคือเรือนตะวันตกและตะวันออก เชื่อมไว้ด้วยทางเดินพาดกลางสวนหิน เรือนตะวันตกเป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ของอเล็กซิส ส่วนเรือนตะวันออกมีขนาดเล็กลงมา เป็นเรือนหอของนามิโกะกับสามีของเธอ อเล็กซิสต้องการให้เขารับหน้าที่พี่เลี้ยงดูแลดาริลแล้วย้ายเข้าไปอยู่ในเรือนตะวันตก แต่เขายังลังเล เพราะว่าในตอนนั้นกำลังสนุกกับการทำงานชิ้นใหม่ การได้พบปะผู้คนหลากหลายในออฟฟิศ ช่วยให้ชีวิตมีสีสันขึ้น

อเล็กซิสถอนหายใจหนักๆ "ดาริลน่ะ เขาอยู่ในเรือนตะวันออกกับพ่อเขา ต่อหน้าฉันน่ะ เจ้าอัตสึชิก็ทำทีดูแลลูกชายดี แล้วฉันก็ให้เงินค่าดูแลดาริลเดือนละไม่ใช่น้อย แต่ทุกครั้งที่ได้พบกัน หลานฉันก็มีแต่รอยช้ำตามตัว เสื้อผ้าก็มีแต่เสื้อผ้าเก่าๆ ฉันเป็นห่วงดาริล ถ้าหากเป็นคำสั่งของฉันให้ใครสักคนที่ไว้ใจได้มาดูแล แล้วพาดาริลมาที่เรือนตะวันตกนี่ อัตสึชิก็คงไม่กล้าขัด"

"ผม... ขอคิดดูก่อนนะครับ" หากพอถึงวันที่มาเยี่ยมดาริลอีกครั้ง คาซึกิได้ยินเสียงโวยวายดังลั่นมาจากข้างในบ้าน

"ถ้าฉันได้ยินแกเล่นไอ้ไวโอลินบ้าๆ ไร้สาระนี่อีก ฉันจะหักมันให้เป็นสองท่อนคามือเดี๋ยวนี้เลย!! ยัง! ยังกล้าจ้องหน้าฉันอีกเรอะ! อยากโดนตบอีกใช่มั้ย!"

คาซึกิหัวใจร่วงวูบ เขาทิ้งถุงขนมในมือแล้ววิ่งเข้าไปยังต้นเสียง พอเปิดบานประตูเลื่อนออก ก็เห็นเด็กชายที่นั่งกอดไวโอลินอยู่กับพื้น ใบหน้าเชิดขึ้น ดวงตาสีเขียวจ้องบิดาบุญธรรมอย่างเคียดแค้น ใบหน้ามีรอยช้ำสีแดง ตามท่อนแขนมีรอยมือเขียวช้ำ เขาถลาเข้าไปบังเด็กชายทันที "คุณอัตสึชิ! ถ้าคุณแตะต้องคุณดาริลอีก ผมจะแจ้งตำรวจ!"

อัตสึชิหัวเราะหึ พร้อมกับผลักคาซึกิจนหงายหลังผลึง "แกคิดว่าตำรวจจะกล้าทำอะไรฉันเรอะ! แกลืมไปแล้วรึไงว่าพ่อฉันเป็นรองผู้บัญชาการ!" จากนั้นก็ตรงไปกระชากคอเสื้อดาริลขึ้น

"หยุดนะ!" คาซึกิลุกขึ้นแล้วคว้าข้อมือของอัตสึชิอย่างแรง แววตาของเขาฉายแววโกรธขึ้ง "ต่อไปนี้ คุณดาริลอยู่ในการดูแลของผม! ขอให้คุณกลับไปอยู่ในที่ของคุณ"

"แกมีสิทธิอะไร!"

"นี่เป็นคำสั่งโดยตรงจากคุณอเล็กซิส คุณจะกล้าต่อต้านมั้ยล่ะ!"

อัตสึชิชะงัก

"ผมจะพาคุณดาริลย้ายไปเรือนตะวันตก ตามคำสั่งของคุณอเล็กซิส หวังว่าคุณอัตสึชิคงไม่ขัดข้อง"

บิดาบุญธรรมกัดฟันกรอด แต่ก็ไม่โต้เถียง "จะไปไหนก็ไป" แม้ใจจะเกลียดอเล็กซิสมากก็ตามที แต่ถ้าเขาขัดใจอเล็กซิส อนาคตทางด้านธุรกิจคงได้ป่นปี้ อัตสึชิจึงต้องจำใจยอม

คาซึกิอุ้มดาริลที่ตอนนั้นอายุสิบสองขวบแล้วขึ้นแนบกาย เด็กชายแม้จะโดนทำร้ายแต่ก็ไม่ร้องไห้ ใบหน้าน่ารักนิ่งเฉยราวกับตุ๊กตา เขาอุ้มดาริลตรงไปที่ห้องของเด็กชาย โอบกอดร่างเล็กไว้ทั้งน้ำตา... กลับเป็นตัวเขาที่ร้องไห้ไปซะได้

"ต่อไปนี้ ผมจะดูแลคุณดาริลเอง จะอยู่กับคุณเสมอ"

สองแขนเล็กๆ โอบกอดชายหนุ่มพร้อมกับซุกใบหน้าลงบนแผ่นอก แต่ดาริลก็ไม่ได้ร้องไห้ ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น และหลังจากวันนั้น เขาก็ไม่ได้ยินเสียงไวโอลินมาจากเด็กชายอีกเลย

"คุณดาริล ไม่สีไวโอลินแล้วเหรอครับ" เขาถามขณะที่สอนการบ้านให้เด็กชาย

"ไม่ล่ะครับ อัตสึชิว่าไร้สาระ ผมควรตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้ เพราะจะต้องดูแลบริษัทต่อไปในอนาคต"

หัวใจเขาเจ็บหน่วง... เด็กวัยสิบสองขวบที่ควรจะได้เล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ เฉกเช่นเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน แต่กลับต้องมาแบกรับภาระ ก้มหน้ารับชะตากรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพียงแค่เพราะมีสายเลือดเดียวกันเท่านั้น

"อยากกลับไปอังกฤษมั้ยครับ"

นัยน์ตาสีมรกตเป็นกระกายวาบ "อยากสิครับ!” ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นดวงตาที่ฉายแววเศร้าโศก “แต่..."

คาซึกิลูบเส้นผมสีทองอ่อนนุ่มอย่างสงสาร "เอาไว้โตอีกสักหน่อย คุณดาริลค่อยไปเรียนต่อที่อังกฤษสิครับ"

ดาริลส่ายหน้าไปมา "ไม่ล่ะ"

"อ้าว ไหนว่าอยากไปอังกฤษไงล่ะครับ" ชายหนุ่มหัวเราะ

"ผมอยากอยู่กับพี่คาซึกิมากกว่า"

คาซึกิชะงัก แล้วยิ้มกว้าง "ถ้าคุณดาริลจะไปที่นั่น ผมก็จะตามไปด้วย จะตามคุณดาริลไปทุกหนทุกแห่งเลยครับ"


(มีต่อนะคะ)


ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4



เสียงไวโอลินแปร่งๆ เรียกเลขาหนุ่มให้กลับคืนสู่ปัจจุบันอีกครั้ง เบื้องหน้าของเขาคือเด็กชายในอดีตที่เติบโตขึ้นมาโดยปราศจากความรักของบิดามารดา โชคดีเหลือเกินที่ดาริลยังมีหัวใจมีความรู้สึกเฉกเช่นมนุษย์ทั่วไป เขาหัวเราะเบาๆ "คุณดาริลครับ เสียงเพี้ยนมากเลยล่ะครับ"

"โธ่ พี่คาซึกิ ก็ผมไม่ได้สีไวโอลินนี่มานานมากแล้ว"

"แล้วทำไมจู่ๆ ถึงอยากจะสีขึ้นมาล่ะครับ"

ดาริลเบือนหน้าหลบแล้วพึมพำ "...ก็แค่อยากสีน่ะครับ ไม่ได้สีมานานแล้ว" เขาปรับเสียงอยู่อีกสักพัก จนคิดว่าใช้ได้ ชายหนุ่มเอียงคอไปมา พยายามนึกถึงตัวโน้ตในความทรงจำอันรางเลือน "อืม..."

คาซึกิยิ้ม เอื้อมไปหยิบแท็บเล็ตมาเปิดหาโน้ตเพลง แล้วส่งให้เจ้านาย "ลองดูมั้ยครับ ผมเคยได้ยินคุณดาริลเล่นเพลงนี้อยู่บ่อยๆ"

"ขอบคุณครับ" เมื่อได้มองตัวโน้ตแล้วบรรเลงเพลงไปสักพัก ทุกอย่างก็ดูจะกลับเข้าที่ ดาริลจึงเริ่มค้นหาเนื้อเพลงอื่นๆ บ้าง

"อืมมม... คุณดาริล วันนี้คุณมีประชุมตอนสิบเอ็ดโมง ยังไงไปฝึกต่อที่ออฟฟิศดีมั้ยครับ"

"อ๋าาา! จริงด้วยสิ! ผมต้องไปทำงานนี่นา!" ดาริลเบิกตาโพลง "ยังไม่ได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย!"

ท่าทีของเจ้านายทำให้เลขาหนุ่มต้องกลั้นหัวเราะ นานเหลือเกินแล้วที่ไม่ได้เห็นเจ้านายทำตัวสมวัยแบบนี้ ตลอดเวลาชายหนุ่มติดอยู่กับคำว่าเพอร์เฝ็กต์ซะจนราวกับเป็นหุ่นยนต์ คาซึกิคงรอยยิ้มอยู่เช่นนั้น หัวใจของเขามีความสุข... ดาริลเองก็คงจะมีความสุขมากเช่นกัน จนเขานึกอยากให้เจ้านายเป็นเช่นนี้ตลอดไป

คาซึกิเอื้อมมือไปหยิบแท็บเล็ตกลับมาดู ก็พบว่าเนื้อเพลงที่เจ้านายกดบันทึกไว้ มีแต่เพลงรักทั้งสิ้น เลขาหนุ่มขมวดคิ้ว ลึกลงไปชักนึกเป็นกังวล... ถ้าหากเป็นตัวเขา เขาคงไม่ขัดใจดาริล อะไรที่ทำให้อีกฝ่ายมีความสุขได้ เขาก็ยินดีทั้งนั้น แต่เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าดาริลมีคู่หมั้น และจากการพูดจาของคุณตาของดาริลนั้น ดูท่างานแต่งงานคงจะมีขึ้นในไม่ช้า เลขาหนุ่มถอนหายใจหนักๆ ...เขาก็ได้แต่หวังว่า สิ่งที่ดาริลพยายามทำอยู่ จะประสบความสำเร็จในเร็ววัน

ช่วงเวลาว่างยามบ่ายในออฟฟิศ ดาริลขึ้นไปยังดาดฟ้าของตึกเพื่อฝึกบรรเลงไวโอลินในเพลงที่ต้องการ เนื่องจากเวลามีไม่มาก เขาจึงตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อม นัยน์ตาจ้องดูตัวโน้ตแล้วพยายามจดจำให้ได้มากที่สุด โดยมีเลขาหนุ่มนั่งเฝ้าอยู่ใกล้ๆ

"พี่คาซึกิไม่ต้องมาเฝ้าผมก็ได้นะครับ"

"ไม่เป็นไรครับ งานส่วนของผมวันนี้เสร็จแล้ว" คาซึกิยิ้มรับ แต่ที่จริง เขาอยากรู้มากกว่าว่าเจ้านายเลือกฝึกเพลงอะไร ซึ่งจากที่ฟังดูก็เรียกว่าหลากหลาย เจ้านายคงจะกลัวว่าเขาจะจับความรู้สึกได้

"วันนี้ผมจะไปที่บ้านพักเร็วสักหน่อย"

...เป็นอย่างที่เลขาหนุ่มคาดเดาไว้ เจ้านายตั้งใจฝึกไวโอลินนี่เพื่อที่จะไปสีให้เร็นฟัง "ถ้างั้นผมจะโทรไปบอกคุณแม่บ้านไว้ให้นะครับ"


รถยนต์คันหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่ด้านหน้าบ้านพักในตอนหัวค่ำ สีหน้าของดาริลบ่งบอกถึงความสุขอย่างไม่ปิดบัง คาซึกิจึงปิดปากเงียบ เขาเอ่ยลาแล้วนั่งรถกลับไปยังที่พักของตนเฉกเช่นทุกวัน

ดาริลถือกระเป๋าใส่ไวโอลินเดินตรงไปยังศาลากลางสวน เขายิ้มกว้างเมื่อเห็นเร็นนั่งรออยู่ที่นั่น ใจนึกอยากให้เป็นแบบนี้ทุกวัน อยากกลับมาบ้านหลังจากเลิกงานแล้วมีคนรักรออยู่

เร็นทำให้ชายหนุ่มแปลกใจอีกครั้ง กับช่อดอกกุหลาบสีแดงในมือ

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “...เอาดอกไม้มาจากไหนกันน่ะ”

“ผมฝากคุณแม่บ้านซื้อมาครับ... แต่ผมเป็นคนเลือกดอกไม้เองนะครับ!”

“กุหลาบสีแดงนี่น่ะเหรอ” ดาริลหัวใจเต้นแรง เขาหลุดปากถามคำถามออกไป “...ทำไมถึงเลือกกุหลาบสีแดงล่ะ”

“ผมเดาเอาว่าเจ้านายคงจะเหมาะกับสีแดง...”

ร่างผอมบางชะงัก นึกโกรธตัวเองที่ถาม ที่แอบมีความหวัง เขาผ่อนลมหายใจออกยาว “งั้นเหรอ” ...ก็นั่นสินะ จะมีความหมายอะไรแฝงล่ะ พอมาถึงตอนนี้ ดาริลก็อดนึกย้อนไปสงสัยการกระทำทุกอย่างก่อนหน้าของอีกฝ่ายไม่ได้

“ช่างเถอะ” คิดไปก็รังแต่จะทำให้เสียใจและผิดหวังเท่านั้น ชายหนุ่มลังเล หากในที่สุดก็ตัดสินใจเปิดกระเป๋าใส่ไวโอลินออก... เพราะคิดว่ายังไงก็ตั้งใจจะมาสีไวโอลินให้เร็นฟังอยู่แล้ว

เสียงเพลงไพเราะดังกังวาน ดาริลบรรเลงไปพลางยิ้มบาง เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มนั่งฟังอย่างตั้งใจ พอเล่นจบเพลงแรก อีกฝ่ายก็ชวนคุย พร้อมถามคำถาม

"...ทำไมจู่ๆ”

ดาริลเบือนหน้าหนี จะให้ตอบว่าเพราะอยากสีไวโอลินให้ฟัง อยากบอกความรู้สึกผ่านทางเสียงเพลงงั้นเหรอ ไม่มีทางซะล่ะ “...ก็ไม่ได้เล่นนานแล้ว แต่จู่ๆ นึกอยากเล่นขึ้นมา”

“...เจ้านายอยากเล่นให้ผมฟังใช่มั้ยครับ...”

ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือก ยังไม่ทันปฏิเสธ เร็นก็คว้ามือเขาไปแนบแผ่นอก ซึ่งภายใต้ฝ่ามือขาวนั้นหัวใจของเด็กหนุ่มเต้นเป็นจังหวะรัวแรง

“...เจ้านายรู้สึกมั้ยครับ... ช่วยยืนยันกับผมที ว่าผมเข้าใจถูกต้องแล้ว”

ดาริลดึงมือกลับ ตอนแรกก็ทำเหมือนไม่ได้คิดอะไร แล้วจู่ๆ ก็ทำเหมือนว่ามีใจให้ จะให้เขาคิดยังไงกัน ทำให้เขาสับสนไปหมดแล้ว นัยน์ตาสีมรกตจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เข้าใจ

...อย่าทำให้มีความหวังถ้าไม่ได้คิดอะไร

ร่างผอมบางบรรเลงเพลงต่อไปเรื่อยๆ เขาทอดสายตาออกไปภายในสวนที่มืดมิด พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าของยามราตรีซึ่งมีเพียงก้อนเมฆหนาตา เมื่อบรรเลงจนจบเพลงแล้วก็เลยไปถอดผ้าปิดตาของเด็กหนุ่มออกให้ แล้วค่อยเริ่มเพลงใหม่

เร็นนั่งฟังบทเพลงและคำพูดของดาริลอย่างตั้งใจ แล้วดึงเขาเข้าไปสวมกอดพร้อมกับถามซ้ำ “เจ้านาย... คุณตั้งใจจะมาสีไวโอลินนี่ให้ผมฟังใช่มั้ยครับ” เสียงที่ฟังดูออดอ้อนแบบนั้น ถ้าดาริลไม่ใจอ่อนก็คงจะเรียกว่าไร้หัวใจไปแล้ว

“ก็รู้อยู่แล้วนี่” ผู้เป็นนายตอบไปเสียงอ่อย “...แค่ไวโอลินธรรมดาๆ เท่านั้นเอง...”

ร่างสูงยังคงพูดคำหวานต่อไปเรื่อย “เป็นไวโอลินที่วิเศษมากต่างหากล่ะครับ... เพราะมันทำให้เจ้านายมีความสุข... ผมชักจะอิจฉาไวโอลินนี่ซะแล้วสิ” 

คำพูดนั้นส่งผลให้ใบหน้าหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ “...ช่างพูดซะจริง” แล้วอมยิ้ม เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เร็นใช้ปลายนิ้วสัมผัสริมฝีปากของเขา ดาริลจับจ้องคนตรงหน้าอย่างเหม่อลอย เขาจูบปลายนิ้วนั้นเบาๆ “...ไม่จำเป็นต้องอิจฉาอะไร... ไวโอลินนี่ ผมไม่คิดว่าจะเล่นให้ใครฟังอีกแล้ว”

“เจ้านายกำลังจะบอกว่า เจ้านายจะสีไวโอลินนี่ให้ผมฟังคนเดียวเท่านั้นใช่มั้ยครับ”

...รู้ก็ดีแล้ว

แววตากลมใสสั่นระริก พลางทอดถอนใจ ก่อนจะเริ่มบรรเลงบทเพลงที่ตั้งใจจะมอบให้กับเด็กหนุ่ม “Salut d'amour... เพลงนี้ ผมเล่นให้กับคุณโดยเฉพาะ”

...เขาคงไม่มีโอกาสได้พูดความในใจออกไป บางทีสักวัน เร็นอาจจะเข้าใจ

"...ผมขอฟังเพลงสุดท้ายที่คุณเล่นอีกสักครั้งได้มั้ย”

“ชอบเหรอ”

“ชอบครับ ฟังแล้วหัวใจเต้นตึกตักเลย... เพลงที่เจ้านายเลือกให้ผม”

...หัวใจหวั่นไหวและเจ็บแปลบ ดาริลไม่อาจห้ามตนเองได้ เขาขยับเข้าไปแต้มจูบเรียวปากอุ่นๆ ที่ช่างพูดจาเอาอกเอาใจซะเหลือเกิน

ท้ายที่สุดแล้ว ร่างผอมบางก็ไม่อาจปฏิเสธสัมผัสของเร็นได้ ก็ในเมื่อหลงรักซะจนหมดหัวใจแบบนี้ ผิวกายที่แนบชิดกัน ร่างกายที่สอดประสาน อ้อมแขนที่เหมือนกับว่าจะทำให้เขาหลอมละลาย ดาริลไม่อาจปฏิเสธว่าตนเองต้องการเร็นมากแค่ไหน

“ผมรู้สึกดีมากเลย... ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน...”

“ปากหวานจริง” ...พอสักที เขากำลังจะคิดเข้าข้างตัวเองแล้วนะ

“ผมพูดจริงๆ นะครับ... เจ้านาย... ผม...”

ริมฝีปากสีแดงสดเผยอหอบหายใจ ดาริลรีบปิดปากของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้พูดคำหวานอะไรออกมาอีก เพราะหัวใจของเขารับไม่ไหวแล้ว “เร็น... เรากลับเข้าไปต่อข้างในกันดีกว่านะ อุ้มผมไปหน่อยได้มั้ย”

“ทุกอย่างที่เจ้านายต้องการครับ”


TBC~*



ดาริลช่างน่าสงสาร  :hao5: คาซึกิก็ช่างเป็นคนดี หงุงงง~

เนื้อเรื่องอาจจะเครียดๆ ไปนิด แต่รับรองว่าคู่นี้เขาแฮปปี้เอนดิ้งแน่ๆ ค่า แฮ่ๆๆ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะคะ



ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
แงงงง อยากให้ดาริลได้มีโอกาสใช้ชีวิตอย่างต้องการซะที
อ่านแล้วเศร้าเลย เป็นกำลังใจให้นะะ

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
ดาริล น่าสงสารอ่าา จริงนะ ชีวิตวัยเด็กนี่ หดหู่มากก ขอให้มีความสุขเร็วๆนะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 :เฮ้อ: สงสารดาริล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ความเศร้ายังไม่หมดไปง่ายๆ

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ดาริลสู้ต่อไป มีพี่ชายเเสนดีขนาดนี้ โชคดีมากกๆ

ออฟไลน์ sasa

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1008
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
อย่างอนกันนานนม ดีกันไวไว ลุ้นๆๆ  :mew2:

ออฟไลน์ Loste

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 430
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
ช่วงนี้ดราม่าตลอดเลย :hao5:

ออฟไลน์ nalavanh

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 15
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-1
 :impress2: :impress2: สนุกมากฮะ  อ่านแล้วเขีน

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
สู้ๆๆ นะดาริล พยายามมาขนาดนี้  :mew6:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
สู้ๆ นะค้าา..ดาริล :กอด1: หนูต้องข้ามผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้แน่นอน ^^

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ขอบคุณพี่คาซึกิที่ดูแลดาริลมาเป็นอย่างดี
ทุกคนหวังให้ดาริลมีความสุขกันทั้งนั้น

ออฟไลน์ FollowingTK

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่คาซึกิขา เอารองเท้าฟองน้ำตรบพ่อเลี้ยงเบยข่าาาา  :katai4: แง่มมมมม โกรธธธ
ขอความสุขให้มาอยู่กับเจ้านายเร็วๆ TT แงงงง เอานุ้งเร็นมาใส่พานให้ดาริลเบยน้าาาาาาา  :z13:

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
ดาริลของช้านนนนนนน

มาม๊ะ มาให้กอดปลอบใจสักที

อยากย้อนเวลาไปกระโดดเข่าคู่ใส่อิพ่อ! เลว!


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ subbeau

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 58
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ตอนเด็กๆดาริลน่าสงสารมากเลย เกลียดพ่อเลี้ยง  :katai1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
ดาริลน่าสงสารมาก มามีความสุขตอนได้อยู่กับเร็นนี่แหละ เวลาอยู่กับคนที่ชอบแค่เข่ทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้ก็มีความสุขมากแล้ว เร็นก็ช่างอ้อนจริงๆ พี่คาซึกิใจดีจัง งี้ดดด

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


Chapter 21 : เมฆหมอกจางหาย


"ดาริล ฮือ..." เสียงสั่นเครือดังมาจากปลายสายทันทีที่มือขาวยกโทรศัพท์ขึ้นรับ

"คาโอรุ เกิดอะไรขึ้น!"

ดาริลอยู่ในระหว่างการประชุมที่บริษัท ปกติแล้วเขาคงไม่รับสายจากใครในเวลานี้ แต่เพราะเป็นคาโอรุ หญิงสาวรู้ตารางงานและปกติก็จะไม่โทรมาหากไม่มีธุระสำคัญ เขาจึงกล่าวขอตัวกับผู้เข้าร่วมประชุมแล้วออกไปรับสายทางด้านนอก

"มีอะไรเหรอ ไปรอฉันที่คอนโดฯ ก่อน"

"ฉันขับรถอยู่ จะไปรอที่บ้านพักนายนะ ตอนนี้ไม่อยากเจอใคร อยากอยู่เงียบๆ ทะเลคงทำให้ฉันสงบลงได้บ้าง" เธอพูดรัวๆ แล้ววางสายไป

"เดี๋ยว!"

"คุณดาริลครับ มีอะไรรึเปล่า ทางฝ่ายผู้จัดการการเงินเร่งขอให้คุณตรวจสอบและลงลายเซ็นด่วนครับ พวกเขาจะต้องติดต่อลูกค้ากลับไปก่อนหมดเวลางาน" คาซึกิถามพลางหันไปปิดประตูห้องประชุม "แล้วก็มีเมลมาจากเลขาท่านประธาน ท่านสั่งให้คุณดาริลกลับไปพบท่านทันทีที่การประชุมจบลงครับ"

"มีอะไรน่ะ" ยังไม่ทันได้รับคำตอบ บานประตูห้องประชุมก็เปิดออกอีกครั้ง ตามมาด้วยพนักงานอีกคน

“คุณดาริลครับ ขอปรึกษาเพิ่มเรื่องการซื้อขาย...”

ดาริลไม่รู้ว่าควรจะแยกร่างไปทำสิ่งไหนก่อน แต่ก็เลือกที่จะกลับเข้าไปจัดการกับเอกสารในที่ประชุม หลังการประชุมเสร็จสิ้นลง ชายหนุ่มก็ตรงไปหาคุณตา ซึ่งลางสังหรณ์บอกเขาว่า นี่คงจะเป็นเรื่องข่าวร้ายที่ทำให้คาโอรุต้องร้องไห้ เขาก็ได้แต่หวังว่าคุณตาจะไม่กำหนดให้มันเกิดขึ้นเร็วๆ นี้

"ดาริล มานั่งกับตาสิหลาน" อเล็กซิสยิ้มกว้าง พร้อมกับกวักมือเรียกให้หลานชายไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆ กัน จากนั้นก็ชี้ไปที่กล่องไม้ขนาดกะทัดรัดบนโต๊ะกระจกตรงหน้า "ของขวัญจากตา เปิดดูสิ"

ดูจากขนาดกล่องแล้ว ดาริลก็พอจะคาดเดาได้ว่าข้างในนั้นเป็นอะไร หัวใจของเขาสั่นรัวแบบแปลกๆ พอเปิดดูก็รู้สึกว่าปลายนิ้วที่ถือกล่องนั้นอยู่เย็นเฉียบ "แหวน"

"งานแต่งงานของเรากับหนูคาโอรุน่ะ จะจัดขึ้นในอีกสามเดือนข้างหน้า ส่วนเรื่องการ์ดเชิญน่ะ ตากับทางบ้านของคาโอรุส่งไปเชิญญาติพี่น้องหมดแล้ว"

"คุณตา!" ดาริลเบิกตาโพลง... อีกสามเดือน คงไม่ทันให้เขาหาเหตุผลใดๆ มาปฏิเสธได้แน่ "ทำไมไม่ปรึกษาผมก่อน!"

"ทำไมต้องปรึกษา เราก็หมั้นกับคาโอรุมานานแล้ว จะปล่อยให้ฝ่ายหญิงเป็นคนถามถึงงานแต่งงานเองรึไงกัน!" คุณตาตอบเสียงขรึม

"แต่ผม..."

"ไม่มีแต่! ตาแก่มากแล้วนะ จะไม่ให้ได้เห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝาก่อนตายรึไงกัน!" อเล็กซิสเอื้อมไปหยิบแผ่นกระดาษมาส่งให้กับดาริลดู "หลังจากแต่งงานแล้วสักปี ตาจะยกหุ้นครึ่งหนึ่งของตาให้เรา แล้วก็จะได้มาทำหน้าที่บริหารแทนตาซะที"

ดาริลชะงัก ในตอนนี้เขามีหุ้นอยู่ในมือแล้วสิบห้าเปอร์เซ็นต์ และกำลังกว้านซื้อในตลาดหุ้นอีกสิบเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครรู้ นอกจากคาโอรุกับ

ไดอิจิ เมื่อเขาแต่งงานแล้วได้รับหุ้นจากคุณตา เขาก็จะมีหุ้นในมือถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และมีอำนาจในการตัดสินใจมากที่สุด

...แต่การแต่งงาน

ใบหน้าหล่อเหลาของเร็นผุดขึ้นมาในความคิด กับคนที่รักคงไม่มีวันเป็นจริงอยู่แล้ว แม้แค่ได้เป็นคนรักยังไม่มีโอกาสเลย

"งานแต่งงานของเราน่ะ ทั้งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีมากมายก็จะมาด้วยนะ พวกนั้นเขาตอบรับมาทางโทรศัพท์กันหมดแล้ว ตาสั่งให้จัดงานเลี้ยงให้ยิ่งใหญ่สมกับตระกูลรอสของเราเลยทีเดียว"

ดาริลพูดไม่ออก เขาได้แต่อ้ำอึ้ง แล้วนี่ เขายังไม่ได้โทรไปคุยกับคาโอรุเลย เธอไปที่บ้านพักของเขาหรือเปล่า ได้พบกับเร็นไหมเนี่ย!

"เดี๋ยววันนี้ตาจะไปพบท่านนายกฯ ถึงจะเกริ่นกันไว้แล้วแต่ก็ต้องเอาการ์ดเชิญไปให้อีกที เราต้องไปกับตาด้วย"

ริมฝีปากอวบอิ่มเม้นแน่น พลางค้อมศีรษะลง "ครับ"


พอก้าวออกจากห้องทำงานของคุณตา ชายหนุ่มก็รีบโทรไปหาหญิงสาวทันที "คาโอรุ!"

"ดาริล... ฉันขอโทษนะ แต่ฉันพบเขาแล้วล่ะ"

หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ "พบ..."

"คิมุระ เร็น"

ดาริลทรุดลงนั่งบนโซฟา "เขารู้รึเปล่าว่านายเป็นใคร"

"ไม่รู้ แล้วเขาก็ไม่รู้ว่านายเป็นใครด้วยเหมือนกัน ไม่ต้องห่วง"

ศีรษะเล็กส่ายไปมาอย่างอ่อนใจ พลางพรูลมหายใจออกยาว "ฉันรู้แล้วนะ เรื่องแต่งงาน"

"ดาริล เรื่องนั้น..."

"เดี๋ยวเราค่อยคุยกัน ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน"

"เอาไว้ก่อนนะ ฉันกำลังจะเดินทางไปอังกฤษ อีกสองวันจะกลับ"

"หา! ทำไมกะทันหันแบบนี้"

"ฉันจำเป็น ดาริล ฉันต้องบอกไดอิจิด้วยตัวเอง"

"เรื่องแต่งงานนี่น่ะเหรอ"

"ไม่ใช่... คือว่า...” เสียงของเธอสั่นเครือ “ดาริล... ฉันท้อง"

"ฮะ!?" ดาริลอ้าปากค้าง คาโอรุท้อง! ถ้าอย่างนั้น... แผนการทั้งหมดที่วางไว้ล่ะ แล้วเรื่องการแต่งงาน!

"ดาริล ฉันขอโทษนะ"

"...ทำใจให้สบายเถอะ เดี๋ยวกลับมาแล้วค่อยคุยกัน" เขาตอบกลับไปเสียงเบาหวิว ปัญหาทุกด้านที่ประโคมเข้ามา ส่งผลให้สับสนจนจับทิศทางไม่ถูก ไม่รู้จะเริ่มต้นแก้ปัญหาที่จุดไหนก่อนดี


กว่าจะเสร็จธุระทั้งหมดก็ปาเข้าไปดึกดื่น ดาริลนิ่งเงียบ ครุ่นคิดอยู่แต่เรื่องปัญหาที่เกิดขึ้น หัวใจรุ่มร้อนจนถอนหายใจหนักๆ ออกมาหลายครั้งโดยไม่รู้ตัว  ส่วนเลขาของเขาก็ลอบพิจารณาท่าทีของเจ้านายไปในเวลาเดียวกัน

ในเวลาเช่นนี้ เขานึกถึงแต่อ้อมแขนของเร็น ความสุขเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขาลืมเรื่องวุ่นวายทั้งหลายไปได้

"คุณดาริล มีอะไรรึเปล่าครับ สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย"

ดาริลส่ายหน้าช้าๆ "ไม่มีอะไรครับ แค่เครียดเรื่องงานนิดหน่อย" เขาเอนหลังพิงพนักเบาะ ปิดตาลงและพยายามสงบสติอารมณ์

เสียงเม็ดฝนตกกระทบตัวรถดังลั่นเรียกให้ดวงตาสีมรกตลืมขึ้น... หรือท้องฟ้าจะเข้าใจความรู้สึกของเขา ที่กำลังร้องไห้อยู่ภายใน
ชายหนุ่มนึกอิจฉาคาโอรุ เธอกำลังตั้งครรภ์บุตรกับคนที่เธอรัก ส่วนตัวเขา... มีเพียงความรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ตนเองเป็นใครยังไม่สามารถบอกให้คนที่แอบรักรู้ได้เลย เขาเบื่อเต็มทีกับการที่ถูกชักใยให้ทำนั่นทำนี่ราวกับหุ่นเชิด ต้องสวมหน้ากากเป็นผู้สืบทอดตระกูลที่แสนจะพรั่งพร้อมแบบนี้

ถ้าไหนๆ ก็จะต้องแต่งงานในอีกไม่ช้าแล้ว เขาควรจะใช้เวลาช่วงนี้กอบโกยความสุขให้ได้มากที่สุด

เมื่อไปถึงบ้านพัก ดาริลถลาลงจากรถไปโดยไม่เอ่ยคำลาใดๆ เขาวิ่งตรงไปยังห้องนอนแล้วผลักร่างสูงลงกับเตียง ในเวลานี้อยากจะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง อยากจะร่วมรักกับคนที่รักจนหมดใจ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เขามีความสุขได้ แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตามที
ผิวกายเปลือยเปล่าที่แนบชิดกัน ไออุ่นของร่างสูงทำให้ตัวเขาสั่นสะท้าน ต้องการอีกฝ่ายจนไม่อาจยับยั้งใจได้

"ไม่เจ็บเหรอครับ ผมยังไม่ได้ใส่ถุงยางเลย” เสียงกระเส่าบ่งบอกชัดเจนถึงอารมณ์ของเด็กหนุ่ม

หากในเวลานั้น สติสตังกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว ความสุขจากรสสัมผัสทำให้ดาริลไม่สนใจอะไรอีก “อา... อา... ช่างเถอะ อื้มมม... รู้สึกดีจัง เร็น” เวลานี้เท่านั้นที่เขาเป็นคนพิเศษ เขาต้องการทุกสิ่งทุกอย่างของเร็น “ปล่อยออกมาข้างในตัวผม... นะ” การที่ได้รู้สึกถึงของเหลวอุ่นวาบฉีดพ่นเข้ามาลึกซึ้งในกาย ทำให้สุขจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้

“กอดผมแน่นๆ หน่อยสิ”

ความอ่อนโยนของเร็นส่งผลให้ดาริลที่ในตอนนี้กำลังหวั่นไหวเล่าเรื่องส่วนตัวให้เด็กหนุ่มฟัง สัมผัสรุ่มร้อนและอ้อมแขนแข็งแรงทำให้ร่างผอมบางร้อนราวกับมีเปลวไฟโลมเลีย สมองขาวโพลน เขาทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง สองแขนเรียวกอดรัดร่างสูง ริมฝีปากเผยอครวญครางอย่างปล่อยตัวปล่อยใจ

...รัก... ผมรักคุณนะ เร็น

ในตอนเช้าของอีกวัน เมื่อกลับมาถึงคอนโดมิเนียมแล้ว ดาริลได้รับโทรศัพท์ทางไกลจากอังกฤษ เขาจึงสั่งให้เลขารออยู่ทางด้านนอก แล้วเข้าไปคุยผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในห้องนอนของตน

ภาพของคาโอรุและไดอิจิที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอดูไม่ค่อยสดใสนัก พวกเขาต่างก็กลุ้มใจกับเรื่องของการแต่งงานและการตั้งครรภ์ของเธอ เพราะถ้าหากเรื่องการตั้งครรภ์นี่หลุดออกไป ทางผู้ใหญ่คงคิดว่าเด็กในท้องเป็นบุตรของดาริล การแต่งงานคงจะถูกจัดเร็วขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ตาม อีกไม่กี่เดือน ครรภ์ของหญิงสาวก็จะโตขึ้นจนไม่อาจปิดบังได้เช่นกัน

ทว่านั่นยังไม่สำคัญเท่าหลังจากนั้น ถ้าเด็กที่เกิดมาไม่มีส่วนเหมือนกับดาริลเลยแม้แต่น้อย

“ฉัน... ฉันรู้ว่าเป็นเวลาสำคัญ แต่ฉันก็อยากจะเก็บลูกไว้” คาโอรุพูดเสียงสั่น

“เขาเป็นตัวแทนความรักของพวกคุณ อย่าคิดมากเลย เราต้องมีวิธีแน่” ดาริลถอนหายใจ “ก่อนอื่น เราคงต้องจัดการกับเรื่องงานแต่งงาน จะทำยังไง...”

“ก็แต่งสิครับ” เสียงนั้น... ไม่ใช่เสียงของใครในสามคน แต่เป็นเสียงของคนที่ถือวิสาสะเปิดประตูห้องออก

“ฮะ!? พี่คาซึกิ!”

เลขาหนุ่มไม่เปิดโอกาสให้ทั้งสามคนได้ตกใจไปมากกว่านี้ เขาพูดออกไปทันที “พวกคุณควรพลิกปัญหานี้ให้เป็นโอกาส แต่งงานได้ก็หย่าได้ ถ้าคุณดาริลกับคุณคาโอรุแต่งงานกัน ความตึงเครียดของคุณอเล็กซิสกับทางบ้านของคุณคาโอรุก็จะลดลง แรงบีบคั้นคุณอัตสึชิก็จะเพิ่มขึ้น นักลงทุนจะรอดูทิศทางของทั้งสองเครือบริษัทก่อนจะตัดสินใจลงทุน ผมว่าเป็นโอกาสที่ดีจะตายไป”

ดาริลประสานสายตากับคาซึกินิ่ง “...แต่ว่า คาโอรุกำลัง... ท้อง”

“แล้วยังไงล่ะครับ การตั้งครรภ์ของคุณคาโอรุถือเป็นเรื่องดี คุณอเล็กซิสจะได้ตายใจ รีบยกหุ้นและตำแหน่งให้กับคุณดาริลด้วยความยินดี... เมื่อทุกอย่างลงตัว อำนาจส่วนใหญ่อยู่ในมือของคุณดาริลเรียบร้อยแล้ว จะทำอะไรก็ง่าย จะกดดันหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทฟูจิฮาระ หรือจะซื้อหุ้นส่วนของคุณคาโอรุในบริษัทฟูจิฮาระมาก็ยังได้ คุณอเล็กซิสและคุณอัตสึชิก็จะไม่สามารถบีบคั้นอะไรคุณดาริลได้อีก พอทุกอย่างพร้อมแล้วค่อยสร้างเรื่องหย่าร้าง คุณดาริลก็จะได้มีข้ออ้างเพื่อป้องกันข่าวเสียหายด้วยว่า ไม่ต้องการแต่งงานอีกครั้งเพราะความทรงจำที่ฝังใจในอดีต คราวนี้คุณดาริลจะได้มีคนรักที่คุณรักจริงๆ ได้ ส่วนคุณคาโอรุ ก็จะได้สร้างครอบครัวใหม่กับคนที่คุณรัก”

แผนการของคาซึกิช่างชาญฉลาดอย่างที่ดาริลคาดไม่ถึง คนที่รักงั้นหรือ เขานึกถึงเร็นขึ้นมาทันที

“จริงด้วยสินะ” ไดอิจิที่เงียบอยู่นานเอ่ยขึ้น “ผมเห็นด้วยกับคุณคาซึกินะครับ”

“ถ้าแต่งงาน หุ้นของฟูจิฮาระจำนวนหนึ่งในสามของทั้งหมดก็จะเป็นของฉัน คุณพ่อคุณแม่บอกไว้แบบนั้น ถ้าฉันขายหุ้นให้กับสามี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ใครก็คงไม่กล้าคัดค้าน” คาโอรุทบทวนคำพูดของคาซึกิ “...ฉันอยากจะหลุดพ้นจากตำแหน่งผู้สืบทอดนี่เหลือเกินแล้วล่ะ ดาริล ฉันอยากจะมีครอบครัว อยู่อย่างมีความสุข ทำงานที่อยากทำ”

คาซึกิค้อมศีรษะลง “ขอโทษด้วยนะครับ ที่ผลุนผลันเข้ามาแบบนี้”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณคาซึกิ” คาโอรุตอบผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมาจากแดนไกล

เมื่อวางสายไป ดาริลก็หันมาจ้องเลขาหนุ่มเขม็ง "พี่คาซึกิ ทำไมถึงรู้...”

เลขาหนุ่มเบือนหน้าหนี "ผมดูแลคุณดาริลมากี่ปีแล้วครับ อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าผมจะไม่รู้ว่าเจ้านายของผมทำอะไรอยู่ และคุณคาโอรุมีคนรักที่พบกันมาตั้งแต่ไฮสคูล แล้วกำลังเรียนด็อกเตอร์อยู่ที่อังกฤษ"

นัยน์ตาสีอ่อนเบิกโพลง ริมฝีปากสีแดงสดเผยอค้าง

"ในฐานะผู้ดูแลอย่างผม การที่ได้เห็นคุณดาริลพยายามทุกวิถีทาง ทั้งการเพียรพยายามก่อตั้งบริษัท และบริหารร่วมกันกับคุณคาโอรุ แล้วยังสามารถซื้อหาหุ้นจำนวนสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของเครือบริษัทรอสมาครอบครองได้ด้วยตัวเอง ทำให้ผมภูมิใจมาก แต่ว่า... ผมก็น้อยใจนะครับ ที่คุณดาริลไม่ไว้ใจผม"

"ไม่ใช่... ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ" ร่างผอมบางหลุบตาลงต่ำ "พี่คาซึกิไม่ใช่แค่ผู้ดูแล แต่เป็นเหมือนทั้งพี่ชายแล้วก็พ่อ ผมไม่ต้องการให้พี่คาซึกิต้องโดนดุไปด้วยกับเรื่องที่ผมกับคาโอรุตัดสินใจทำ พี่ตั้งใจทำงานเพื่อคุณตามาตลอด ผมไม่อยากให้พี่ทรยศคุณตาเพราะผม"

คาซึกิหันไปประสานสายตากับเจ้านาย "เจ้านายของผมมีเพียงคุณดาริลเท่านั้น ผมเคยทำผิดร้ายแรงต่อคุณเพื่อคุณอเล็กซิสมาแล้ว ความผิดในตอนนั้น... ผมขอโทษ" เขาค้อมศีรษะลงต่ำ

ดาริลถลาเข้าไปสวมกอดเลขาหนุ่ม "ผมก็ขอโทษพี่เหมือนกัน"

เลขาหนุ่มลูบแผ่นหลังบางอย่างอ่อนโยน "เรื่องจัดการบีบคุณอัตสึชิให้เทขายหุ้น ผมจะช่วยคุณดาริลเอง ไม่ต้องห่วงนะครับ”

คืนนั้น ดาริลเดินทางไปที่บ้านพักริมหาดอย่างอารมณ์ดี แผนการใหม่ที่คาซึกิช่วยวางแผนให้ ประกอบกับท่าทีของเร็นทำให้เขามีความหวัง บางที เขาอาจจะมีโอกาสได้ใช้ชีวิตกับคนที่รักอย่างคนอื่นเขา หัวใจดวงน้อยพองโตเต้นแรง ใจจดจ่ออยู่กับความสุขและความฝันที่ยังมาไม่ถึง

การพูดจาด้วยคำหวาน อ้อมแขนที่โอบกอด ทำให้ดาริลอยากจะเชื่อว่าตนเองเป็นคนพิเศษของเร็นบ้างสักเล็กน้อย แล้วก็คิดว่าเด็กหนุ่มอาจจะเป็นคนที่เขาไว้วางใจ ฝากหัวใจไว้ในกำมือได้ เขาอยากจะเชื่อแบบนั้น

"ก็คิดถึงนี่ครับ ถ้าวันไหนเจ้านายไม่มา ไม่ได้พบคุณ ผมคงแทบขาดใจ"

“เจ้านาย... ไม่รู้ว่าคุณจะเชื่อมั้ย แต่หัวใจผมมันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณ เวลาที่คิดถึงคุณ”

สัมผัสอันอบอุ่นและอ่อนโยน ส่งผลให้ดาริลเผลอไผลและคล้อยตามคำพูดของเด็กหนุ่ม

“ผม... คงจะหลงรักคุณเข้าซะแล้ว”

วินาทีนั้นราวกับทั้งโลกหยุดหมุน รู้สึกเหมือนหูอื้อและดวงตาพร่ามัว... จะเป็นไปได้ยังไงกัน

“ฮะ... ฮ่าๆ รักเหรอ คุณจะมารักผมได้ยังไงกัน ผมเป็นใคร หน้าตาผมเป็นยังไงคุณยังไม่รู้เลย”

“เจ้านาย... ทำไมคุณไม่เชื่อคำพูดของผม ผมเป็นคนพิเศษของคุณไม่ใช่เหรอครับ”

เสียงทุ้มที่กระซิบคำหวานช่างน่าฟัง คำพูดเช่นนั้นประกอบกับการเอาอกเอาใจ ส่งผลให้หัวใจของชายหนุ่มสั่นไหว ทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลังและปล่อยตัวปล่อยใจไปความสุขมากมายที่ทำให้ร่างกายราวกับล่องลอยไปบนปุยเมฆ
 
ถ้าเขาตอบเร็นไปว่า เขาก็รักเด็กหนุ่มเช่นกัน รักมานานเหลือเกินแล้ว เร็นจะคิดยังไง จะหัวเราะเยาะเขาหรือเปล่า

ไว้พอตื่นขึ้นมา เขาจะลองพูดดูดีไหมนะ ยังไงแกล้งทำเป็นว่าพูดเล่นก็คงได้ แต่อย่างน้อยก็ได้บอกออกไป แล้วถ้าหากหัวใจของพวกเขาตรงกัน เขาคงจะไว้ใจบอกความจริงว่าตัวเขาเป็นใครให้เร็นรับรู้ได้ บางที... หลังจากหมดสัญญาไป พวกเขาก็จะยังแอบนัดพบกันได้อีก ระหว่างรอเวลาที่เหมาะสม

เรียวปากร้อนที่ประทับลงมาบนผิวกาย ร่างกายกำยำที่บดเบียด ท่อนแขนแกร่งที่โอบรัดตัวเขาไว้แนบแน่น บางที เขาอาจจะเชื่อมั่นในคำบอกรักจากเร็นได้... แล้วพวกเขาคงจะเป็นคนรักกันได้จริงๆ

แต่แล้ว... ความหวังทั้งหมดที่ตั้งไว้ต้องพังทลายลง เร็นทำให้เขาต้องเสียใจ ผิดหวังเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ความสุขที่เด็กหนุ่มปรนเปรอให้ทำให้เขาเผอเรอ ไม่ระวังตัวอย่างเช่นเคย และในที่สุด อีกฝ่ายก็ทรยศต่อความเชื่อใจของเขา

“คุณดาริล” ร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ตรงผ้าม่านเบิกตากว้าง

หัวใจดวงน้อยร่วงวูบ วินาทีนั้นไม่ทันนึกถึงอะไร ไม่ทันเอะใจว่าเร็นจำตนเองได้ด้วยซ้ำ ความผิดหวังและความเสียใจที่ประดังกันเข้ามา ส่งผลให้ดาริลนึกออกเพียงว่าเขาถูกอีกฝ่ายหักหลัง... ทั้งที่ไว้ใจถึงขนาดนี้ แต่การกระทำทั้งหมดของเร็น คำพูดหวานๆ คำบอกรักนั่น ก็เพื่อที่จะหลอกล่อให้เขาตายใจ เพื่อที่จะได้รู้ว่าเขาเป็นใครเท่านั้น

ในความมืดสลัวนั้น แสงจันทร์สีนวลฉาบไล้ใบหน้าหล่อเหลา ใบหน้าที่ดาริลอยากจะเห็นใกล้ๆ มาเป็นเวลานาน หากในเวลานี้แค่มองเห็นได้รางๆ ก็ทำให้เจ็บปวดราวกับจะขาดใจ

ดาริลยกมือขึ้นปิดบังใบหน้า ถ้าหากเรื่องของเขากับเร็นถูกเปิดเผยออกไป ความตั้งใจที่จะกอบกู้อิสระให้ตัวเอง และยังเรื่องของคาโอรุกับไดอิจิก็จะพังทลายลงไปทั้งหมด

"เจ้านาย! ผมรู้ว่าผมทำผิด! แต่ผมทำลงไป... ก็เพราะรักคุณนะ"

เร็นทรยศต่อความไว้ใจของเขา แล้วเขาจะยังไว้ใจ เชื่ออะไรเด็กหนุ่มได้อีกงั้นหรือ ดาริลแค่นเสียงออกไปจากลำคออย่างลำบาก "ผมจะไม่หลงคารม จะไม่โง่ให้คุณหลอกอีก เรื่องของคุณกับผมมันจบลงแล้ว พอกันที ผมขอยกเลิกสัญญาว่าจ้างเดี๋ยวนี้"

"ไม่!! คุณไม่เข้าใจ ผมไม่เคยหลอกอะไรคุณเลยนะ!"

"ได้โปรดเชื่อผม ผมรักคุณ! ผมรักคุณนะ ผมรอคอยที่จะได้พบกับคุณอีกครั้งมาตั้งนานแล้ว!"

จะหลอกลวงอะไรเขาอีก ห่วงเรื่องเงินหรือ? เขาคงไม่กล้าเสี่ยงหักเงินจากเด็กหนุ่ม ใจหนึ่งเพราะกลัวเร็นจะเอาเรื่องของตนไปเผยแพร่ อีกใจ... ลึกลงไปก็ยังเป็นห่วง อยากให้เร็นได้เป็นนักเบสบอลมืออาชีพสมใจ

"รักงั้นเหรอ... ความรักไม่อาจคงอยู่ได้หากปราศจากความไว้ใจ แล้วคุณยังจะมีค่าพอที่จะให้ผมเชื่อคำพูดของคุณอีกงั้นเหรอ”

“ผม... ผมขอโทษ”

...ออกไปเดี๋ยวนี้ ดาริล อย่าฟังคำพูดของคนคนนี้อีก แค่นี้ก็เจ็บจนหัวใจจวนเจียนจะหยุดเต้นแล้ว

ดาริลเบือนหน้าหลบ มือขาวกำแน่นจนเกร็ง ก่อนจะตัดใจ หันหลังให้กับเด็กหนุ่มแล้วสาวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไป เมื่อลงไปถึงชั้นล่างของบ้าน ก็สั่งแม่บ้านที่ออกมารอรับใช้ทั้งยังงัวเงียอยู่ว่าให้จัดการเก็บข้าวของของเร็นทั้งหมด แล้วให้คนขับรถพาไปส่งที่อะพาร์ตเมนต์ของเด็กหนุ่ม หลังจากที่กลับมาจากส่งเขากลับไปคอนโดมิเนียมเรียบร้อยแล้ว

พอกลับไปถึงคอนโดมิเนียม ดาริลจึงส่งข้อความเรียกคาซึกิให้มาหาที่ห้อง แล้วบอกกับเลขาหนุ่มไปว่า เขาเผอเรอ ไม่ทันระวัง ทำให้เร็นเห็นหน้าเข้าจนได้

คาซึกิขมวดคิ้ว ขณะที่จ้องมองใบหน้าซีดเซียวของเจ้านาย "คุณดาริล ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะจัดการ..."

"ไม่ต้อง! ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น พี่คาซึกิ!" ดาริลเสตาหลบ "ให้เงินเขาไปแล้วก็จบกัน"

"แล้วถ้าเขาคิดจะแบล็กเมลคุณดาริลล่ะครับ ถ้าข่าวหลุดออกไปได้...  แผนการของคุณดาริลจะพังหมดนะครับ เรื่องการแต่งงาน เรื่องของคุณคาโอรุ..."

แววตาสีเขียวสั่นไหว เร็นจะใจร้ายกับเขาได้ลงคอเชียวหรือ... แต่ว่าการกระทำทั้งหมดเพื่อให้ได้เห็นใบหน้าของเขานั่น เด็กหนุ่มยังคิดทำได้เลย "...ไม่หรอก" เสียงที่เปล่งออกไปจากลำคอแหบพร่า “คงไม่หรอก”


หลังจากวันนั้น คาซึกิก็ยังให้นักสืบไปคอยติดตามเร็นอยู่ทุกฝีก้าว เพราะไม่อาจวางใจ เขานึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่เด็กหนุ่มซึ่งมีเงินมากมายในมือกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ ไปทำงานพิเศษในร้านโซบะร้านเดิม แล้วยังทำงานพิเศษเพิ่มอีกหลายแห่ง เสื้อผ้าก็สวมชุดเก่าๆ ทั้งที่มีเสื้อผ้าที่เจ้านายซื้อให้ใหม่มากมาย เขาได้รับรายงานเข้ามาว่าเร็นมาที่แถวๆ บริษัท ใจหนึ่งก็สงสัยว่าเร็นรู้หรือว่าเจ้านายของเขาเป็นใครและทำงานที่ไหน อีกใจก็คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ ต่อมาก็ได้ข่าวว่าเร็นมาทำงานที่ร้านดอกไม้ในตอนเช้าแค่ช่วงสั้นๆ เขานึกเอะใจ... แต่ก็ยังปล่อยไป เพราะอยากจะรู้เหมือนกันว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร จนกระทั่งได้พบกัน

“ผมรักคุณดาริล”

คาซึกิแทบไม่อยากเชื่อหู เด็กหนุ่มจำเจ้านายของเขาได้!

“คุณคิมุระ อยากตกถังข้าวสารมากหรือครับ แต่เสียใจด้วยนะ คุณดาริลกำลังจะแต่งงานในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้ว”

“ผมรู้ แต่ผมก็ยังอยากจะบอกความรู้สึกของผมให้คุณดาริลรู้อยู่ดี”

คาซึกิเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ของตน ระยะเวลาอีกสามเดือน การกลับเข้าเป็นตัวจริงในทีมเบสบอลระดับแนวหน้าของมหาวิทยาลัยในโตเกียวไม่ใช่เรื่องง่าย เขาตั้งใจว่า ถ้าหากเร็นทำได้จริง เขาจะเชื่อใจ... เด็กหนุ่มคนนี้คงจะช่วยปกป้อง ดูแลเจ้านายของเขาได้

..

....

..

ออฟไลน์ huskyhund

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1093/-4


สองเดือนหลังจากนั้น ระหว่างที่กำลังนั่งรอเจ้านายของเขาอยู่ในคอนโดมิเนียมด้วยกันกับคาโอรุ คาซึกิก็ได้รับข่าวดีจากนักสืบของเขาก่อนที่เร็นจะได้รับผลแจ้งอย่างเป็นทางการเสียอีก เลขาหนุ่มก้มอ่านข้อความบนหน้าจอโทรศัพท์พลางยิ้มอย่างพอใจ
“มีอะไรเหรอคะ คุณคาซึกิ” คาโอรุอมยิ้ม “แหม นั่งมองโทรศัพท์แล้วยิ้มแบบนี้ ไปตกหลุมรักใครเข้ารึเปล่าคะ”

“อะ... ไม่ใช่นะครับ” คาซึกิลุกขึ้นพรวด “ขอโทษที่เสียมารยาทครับ เดี๋ยวผมจะไปดูคุณดาริลให้ว่าแต่งตัวเสร็จรึยัง พอดีเมื่อคืนกลับดึกมาก เมื่อเช้าคุณดาริลเลยตื่นสายไปหน่อยน่ะครับ”

“อื้อ ไม่ต้องหรอก ฉันรอได้” หญิงสาวคว้าแขนเลขาหนุ่มแล้วดึงให้นั่งลง “...จะว่าไป ฉันก็หาโอกาสจะคุยกับคุณคาซึกิตามลำพังมาสักพักแล้ว จะโทรไปหาก็ไม่รู้ว่าคุณจะยุ่งอยู่รึเปล่า”

เลขาหนุ่มขมวดคิ้ว “มีอะไรให้ผมรับใช้...”

“โอ๊ย รับใช้อะไรกันคะ” คาโอรุหัวเราะ “ฉันอยากรู้เรื่องของคิมุระ เร็น กับดาริล ระยะหลังนี่ เห็นดาริลไม่ค่อยสดใสเลย พวกเขามีอะไรกันรึเปล่า”

“ฮะ!?”

“ก็เหมือนกับที่คุณคาซึกิรู้เรื่องของฉันกับไดอิจิ เรื่องของฉันกับดาริลนั่นแหละ” หญิงสาวสะบัดหน้าใส่เขาเบาๆ “ฉันก็เป็นเพื่อนรักของดาริลนะ แค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้”

คาซึกิยิ้มบาง “...มีปัญหานิดหน่อย ก็เลยต้องห่างกันสักพักน่ะครับ”

“ฉันพอจะทำอะไรให้ดาริลได้บ้างมั้ยน้า” เธอพึมพำพร้อมถอนหายใจยาว

“จะว่าไป... ก็คงมีนะครับ”


Kimura Ren

ร่างสูงที่ร่างกายเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อทรุดลงนั่งบนพื้นทราย วางถุงมือเบสบอลไว้ที่ข้างตัว พลางหอบหนักๆ ก่อนพวกเพื่อนในทีมจะเดินมารุมล้อม บ้างก็ตบไหล่หนา บ้างก็ขยี้เส้นผมสีดำ “ดีใจด้วยเว้ย! กลับมาครั้งนี้ เอ็งฟิตกว่าเดิมซะอีก ฮ่าๆ ไปได้ยาดีอะไรมาวะ”

เร็นยิ้มกว้าง เขาเพิ่งได้รับข่าวดีว่าได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวจริงในทีม เป็นพิชเชอร์มือหนึ่งในตำแหน่ง starter และ closer ซะด้วย ซึ่งเท่ากับว่าเป็นคนสำคัญที่สุดในทีมเลยทีเดียว แต่ที่สำคัญกว่านั้น นั่นหมายความว่าการต่อสู้เพื่อให้ได้พบกับดาริลอีกครั้งผ่านพ้นไปครึ่งทางแล้ว เขาจำเป็นต้องลาออกจากงานพิเศษทุกงานอีกครั้ง แล้วทุ่มเทฝึกซ้อมทุกวัน เด็กหนุ่มตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อวิ่งจ๊อกกิ้ง จากอะพาร์ตเมนต์ไปยังมหาวิทยาลัย หลังจากนั้นก็เข้าร่วมการฝึกกับเพื่อนๆ ในทีมจนค่ำมืด

มารดาของเด็กหนุ่มย้ายกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว ซึ่งเธอได้รับเงินเดือนเล็กน้อยจากบริษัทประกัน ถ้าไม่ใช้จ่ายซื้อของอะไรมากนัก สองแม่ลูกก็พอจะมีเงินซื้ออาหารและของใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ลำบาก

แต่มีอีกเรื่องที่ทำให้เร็นต้องแปลกใจมาก คือการที่ทีมของเขาในมหาวิทยาลัยได้รับการสนับสนุนเรื่องอาหารระหว่างวันจากเครือบริษัทฟูจิฮาระ เพื่อให้นักกีฬาได้รับสารอาหารครบถ้วนและพร้อมสำหรับการแข่งขันมากที่สุด

หญิงสาวคนนั้น เขาจำใบหน้าของเธอได้ดี เธอสวมใส่เสื้อผ้าเรียบหรูสมฐานะ ทุกย่างก้าวสง่างาม สะกดสายตาของทุกคนในสนามให้มองตามเธอไปอย่างสนใจ เธอยืนอยู่กับชายหนุ่มในชุดสูท ซึ่งคงจะเป็นผู้ช่วยหรือเลขา กับโค้ชและผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัย ในมือของเธอถือช่อดอกลิลลี่สีชมพู ซึ่งเมื่อเธอหันมาสบสายตากับเร็นเข้า ก็โบกมือแล้วเดินตรงเข้ามาหาเขาทันที

“คุณคิมุระ ดีใจด้วยนะคะที่ได้เป็นตัวจริงของทีม” หญิงสาวยิ้มหวาน

เร็นชักสีหน้า สายตาที่เขาจ้องมองเธอไม่ค่อยจะเป็นมิตรสักเท่าไหร่ เพราะเธอ... คือคู่หมั้นของดาริล แล้วเขาเองก็ไม่แน่ใจถึงสาเหตุของการกระทำทั้งหมดของเธอ

คาโอรุยัดช่อดอกไม้ใส่ในมือของเด็กหนุ่ม “ดิฉันไม่ใช่ศัตรูของคุณนะ ไม่ต้องมองกันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อก็ได้”

เร็นรับช่อดอกไม้มาพร้อมกับเบือนหน้าหลบสายตาเธอ แล้วตอบอย่างขอไปที “ขอบคุณ”

 “พยายามเข้านะคะ ขอให้คุณคิมุระและทีมของคุณประสบความสำเร็จ” ท่าทางของเด็กหนุ่มทำให้เธอหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ “จริงสิ ยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ดิฉันคือ ฟูจิฮาระ คาโอรุ นะคะ”

...เขาไม่ได้อยากรู้สักหน่อย ไม่ได้อยากรู้จักแล้วก็ไม่อยากคุยกับเธอด้วย ผู้หญิงคนนี้กำลังจะแต่งงานกับคนที่เขารักในไม่ช้า “คุณต้องการอะไร”

“เพื่อตอบแทนกระดาษทิชชูและกำลังใจของคุณคิมุระในตอนนั้น ดิฉันจะบอกอะไรดีๆ ให้” เธอก้าวเข้าไปประชิดเด็กหนุ่มแล้วพูดเสียงเบา “ดิฉันยืนยันว่าทุกคำพูดที่พูดกับคุณที่บ้านพักหลังนั้นเป็นความจริงทุกอย่าง ถ้าคุณจำช่อดอกลิลลี่สีชมพูนี่ได้ คุณก็จะเข้าใจ ถือซะว่าดิฉันเป็นคนส่งสารก็แล้วกัน”

เร็นขมวดคิ้ว เขาจ้องใบหน้าของคาโอรุเขม็ง ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเคร่งเครียดขณะที่ย้อนนึกไปถึงเมื่อวันที่ได้พบหญิงสาวครั้งแรก ซึ่งในตอนนั้นเขาก็คิดว่าเธอพูดจาแปลกๆ 

“แล้ว... คุณคิมุระคิดว่า... ดา... เอ้อ... เจ้าของที่นี่น่ะ เขาเป็นยังไงบ้าง”

“เขากับดิฉัน เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก มีปัญหาอะไร เราก็ช่วยเหลือกันมาโดยตลอด เขาเป็นคนเก่ง แล้วก็ฉลาดมากด้วย แต่เขายังมีหน้าที่ที่ต้องทำให้สำเร็จลุล่วง ซึ่งมันคงต้องใช้เวลา เรื่องของความรู้สึกส่วนตัวคงจะต้องอดทนรอไปก่อน”

“เพราะงั้น ถ้าหากคุณคิมุระจริงใจแล้วละก็ ดิฉันก็อยากขอให้คุณรอ”


เธอพูดเหมือนกับว่า รู้ว่าเขาคิดอย่างไรกับเจ้านายอย่างนั้นล่ะ... แต่เธอไม่รู้จักเขานี่นา? ถ้างั้นแล้ว เธอหมายถึงเจ้านายหรือ?
เร็นก้มลงมองช่อดอกลิลลี่สีชมพู ดอกไม้แบบเดียวกันกับที่เจ้านายเคยนำมาให้เขาที่โรงพยาบาลเมื่อหลายปีก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ ยิ้มออกมาได้ “ผมไม่อยากจะรออยู่เฉยๆ อีกแล้ว ผมก็มีหน้าที่ของผมเช่นกัน ผมจะพยายามไปพร้อมกับเขา”

คาโอรุหัวเราะชอบใจ “หวังว่าดิฉันจะดูคนไม่ผิด”

“เอ่อ... ขอบคุณครับ” ร่างสูงค้อมศีรษะลงเล็กน้อย

คาโอรุทุบไหล่หนาเบาๆ “ชนะให้ได้นะ”

“ครับ”

“ถ้างั้น ดิฉันไปก่อนนะคะ หวังว่าคงจะได้พบกันใหม่เร็วๆ นี้”

เร็นค้อมศีรษะอีกครั้งเพื่ออำลา เขายิ้มมุมปาก รอจนเธอเดินออกไปจากสนาม เพียงชั่วครู่ก็ถูกเพื่อนๆ ในทีมเข้ามารุมล้อมด้วยความอิจฉา “เสน่ห์แรงจริงเอ็ง! คุยอะไรกันวะ!”

“ฮะๆ ไม่มีอะไรหรอกครับ เขาแค่พูดให้กำลังใจนิดหน่อย”

“แต่หน้าบานเลยน้า...”

เร็นผลักทุกคนออกพลางหัวเราะ “กลับไปซ้อมกันต่อเถอะครับ! การแข่งในครั้งนี้ พวกเราต้องชนะเท่านั้น!”


TBC~*


เจ้านายกับน้องเร็นใกล้ได้เจอกันอีกครั้งแล้ววววว~

ขอบคุณทุกคนที่อดทนกับความหดหู่ของเรื่องมาจนถึงตอนนี้นะคะ 555555 

แต่ยังไงไซคีก็จะได้พบอีรอส และกลายเป็นเทพ ครองรักกันอยู่ด้วยกันในโอลิมปัสแน่ๆ ค่า :mew1:


ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ง้อววววว กามเทพช่วยแผลงศรเพียบขนาดนี้ น่าดีใจแทนทั้งสองคนจังเลยนะค้าา :-[

เร็นน่ารักจังเลย มีการแอบเขม่นคาโอรุด้วยนะคะเนี่ย :laugh: ..

ออฟไลน์ newone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :hao5: ดราม่าจริงๆชีวิตเจ้านาย
แต่ดีหน่อยมีน้องเร็นออกมาตอนท้ายด้วย  :oo1: อยากให้ทั้งคู่เข้าใจกันไวๆ เจอกันไวๆค่ะ
สงสารเจ้านายเหลือเกิน :impress3:

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 o13คาสึกิ พี่เลขาน่ารักมาก ขอพระเจ้า(ฮัสกี้)หาคู่ดีๆล่ำๆให้พี่เขาด้วย

คาโอรุ ชะนีที่มีคุณค่า นี่สิเพื่อนกัน

ออฟไลน์ haemin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
 :mew6: :hao5: น่าสงสารดาริลลลลลล

ออฟไลน์ sweetyswtcou

  • R.Chek SwtCou
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 155
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เมื่อไหร่ดาริลจะมีความสุขจริงๆกับเขาสักทีนะ  :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
อยากให้ดาริลมีความสุขเสียที ทำเพื่อคนอื่นมาเยอะแล้ว ทำเพื่อตัวเองบ้างก้ได้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด