@@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ by aoikyosuke ตอน จบ P.30  (อ่าน 434489 ครั้ง)

ออฟไลน์ purple

  • Aventador FC
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เอาแล้วไงเฮียย อาการออกนะ >< ทีงี้นั่งเงียบเลย 555
พัฒน์เอ๊ยยย สงสารเฮียเขาหน่อย เล่นแบบนี้เฮียเขาไปไม่เป็นนะ
น่ารักอ่าา นี่เริ่มจะเข้าโหมดหวานซึ้งแล้วใช่ไหม ^___^

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3

ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
น่ารักทั้งสองคู่เล้ยยย แหม่ อ่านไปอมยิ้มไปเลย

ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชีวิตประจำวันเหมือนคู่สามีภรรยาที่อยู่กินกันมานานเลย  :hao3:
เอ๊เอ๊ บารมีแอบหวั่นไหว ปล่อยให้ใจเต้นแรง แน่นหน้าอก นานๆไปไม่ดีนะ ต้องจัดการกับตัวต้นเหตุ อย่างเช่น สั่งสอนให้รู้จักความเป็นชาย   :oo1:

ออฟไลน์ dragon123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 744
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2

ออฟไลน์ WASAWATTE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
ช่างนัยกับเต๋อก็ปากแข็ง
พี่บั๊ดกับน้องพัฒน์ก็ยังไม่ถึงไหน
น้องก็อ้อนแบบไม่รู้ตัว พี่ก็ใจเต้นไปซะแล้ว..
 :katai2-1:

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
น่ารักขึ้นทุกที

ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
น่ารักแบบไม่ให้รู้ตัว.   เนื้อเรื่องสบายๆ.  อ่านไปยิ้มไป. ขอบคุณมากสำหรับความสุขเล็กๆ. ที่มอบให้กัน

ออฟไลน์ แค่ความทรงจำ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุด
น่าติดตาม เป็นเรื่องราวที่สนุกมาก
ชอบคู่ พี่บัสกะพัฒน์ น่ารักมาก  :-[
อีกคู่ก็น่ารักเหมือนกัน

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน เข้าใจไม่ตรงกัน

บ้านเราอยู่ใกล้กัน เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ที่จริงเมื่อก่อนก็ไปโรงเรียนด้วยกัน ไปเที่ยวเล่นด้วยกัน

แต่ที่เราต้องห่างเหินกันเพราะเมื่อโตขึ้นเราก็ต่างมีภาระหน้าที่มีสิ่งที่ต้องทำ

วินัยมีแฟน และไปเป็นทหาร
สุดท้ายก็ไปกันไม่ได้  และต้องเลิกกับแฟน  หลังปลดประจำการก็มาเป็นช่างซ่อมรถอยู่ที่อู่ของบารมีหลายปี

ในระหว่างหลาย ๆ ปีนั้น เราก็ได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง

ดีหรือเปล่าช่างวินัยไม่รู้
แต่ที่แน่ ๆ สิ่งที่ช่างวินัยคิดได้มีอย่างเดียวในตอนนั้นคือ

........ไอ้ห่าเต๋อ แม่งกวนตีน เด็กอะไรกวนตีนเหี้ย ๆ สมัยเด็กเดินตามกูต้อย ๆ พอโตขึ้นมันเสือกเมินกูซะงั้น  แค่เมินอย่างเดียวไม่พอ  ยังตั้งแง่ใส่กันอีก  มีเรื่องอะไรก็ถามคำตอบคำ  ทำเหมือนไม่อยากจะคุยกันสักนิด

แต่ช่างเถอะเรื่องนั้นช่างวินัยไม่เคยติดใจเอาความอะไร  ก็ปล่อยมันไป พูดกันตามหน้าที่ก็พอ

แต่จะให้พูดกันตามหน้าที่อย่างเดียวเอาเข้าจริง ๆ มันก็ทำไม่ได้อีกเพราะแม่ของเต๋อ  มักจะเข้าใจไปเองว่า  .......ปัจจุบันเต๋อก็ยังสนิทกับช่างวินัย........

เอาอะไรมาคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างช่างวินัยกับเต๋อจะยังคงเป็นเหมือนสมัยเด็ก
แม่ของเต๋อไม่เคยถามใด ๆ ทั้งสิ้น

การไปรับไปส่งเต๋อ กลายเป็นเรื่องปกติ  เพราะเต๋อมีปัญหาที่แขน อุบัติเหตุสมัยมัธยม ทำให้ไม่สามารถใช้แขนได้เหมือนคนปกติ จนแม่ของเต๋อเป็นห่วงและไม่ยอมให้ทำอะไรที่ลำบากร่างกายจนเกินไป  บางครั้งถึงมันจะปากดี หรือกวนตีนขนาดนั้น  แต่เอาจริง ๆ ช่างวินัยก็ปล่อยไปไม่ได้

ยังไงก็เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ
โตขนาดนี้แล้ว จะทำเป็นไม่สนใจก็ได้ แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ทำไม่ลง

เพราะสมัยช่างวินัยยังเด็ก แม่ของเต๋อก็เลี้ยงช่างวินัยมาเหมือนกัน

สำหรับช่างวินัยแล้ว
เต๋อก็เหมือนน้องชาย ถึงจะต่างสายเลือดแต่ช่างวินัยก็จำไม่ลืมที่ป้าเคยสอนว่าให้เห็นเต๋อเป็นน้อง

และน้องชายคนที่ว่า  มันก็ทำตัวห่างเหิน  เมินกันได้เมินกันดี เมินกันแบบชัดเจน

ท่าทางหมางเมิน และทำเหมือนไม่ชอบหน้ากันขนาดนั้น ช่างวินัยคิดเหมาเอาเองว่า เป็นเพราะความทะลึ่งบ้าบอแบบเด็ก ๆที่ไปแกล้งเต๋อเอาไว้  เต๋อเลยแค้นไม่หายมาถึงป่านนี้ ที่จริงจะถูกโกรธก็ไม่แปลก ในเมื่อก็สมควรถูกโกรธจริงๆ  แต่ไม่นึกว่านานขนาดนี้แล้วเต๋อมันก็ยังไม่ลืม 

ผ่านไปนานกี่ปี เต๋อก็ไม่เคยลืม
ที่จริงคือไม่ยอมลืม มากกว่า

“นั่งรถสองแถวกลับเองก็ได้ ไม่งั้นก็ให้เพื่อนมาส่งก็ได้  วันหลังช่างนัยก็บอกแม่ไปสิ  ว่ามาไม่ได้ เหตุผลมีตั้งเยอะแยะ”

แล้วมึงมาโกรธอะไรกูวะเนี่ย
กูมารับมึงนี่มันผิดมากหรือไง

“กูจะบอกแม่มึง ว่ามึงให้กูโกหกแม่มึง”

ช่างวินัยพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและเปิดเพลงฟังอย่างสบายอารมณ์ ส่วนเต๋อได้แต่ทำหน้างี่เง่าและฮึดฮัดอยู่คนเดียว

“ผมโตแล้วป่าววะ ทำไมต้องมารับมาส่งด้วย  แม่จะเห็นเป็นเด็กสี่ขวบไปตลอดชีวิตหรือไง”

กูไม่รู้ กูไม่ใช่แม่มึง

“รำคาญ  ไปถามแม่มึงเอาเองสิทำอย่างกับว่ากูอยากมารับมึงนักนี่”

“ไม่อยากมาแล้วจะมาทำไมวะ  ก็บอกไปสิว่าไม่อยากมา”

น่าเบื่อว่ะ ไอ้เต๋อแม่งพูดจาไม่รู้เรื่อง

“หุบปากไปเหอะ กูขี้เกียจจะพูดกับมึงแล้ว เจอกันในอู่ไม่เห็นจะอ้าปากพูด เวลาเจอกูตัวต่อตัวนี่  มึงจะอะไรกับกูนักหนาวะ   หาเรื่องอะไรกูนักหนาเนี่ย  กูแก่กว่ามึงตั้งกี่ปี   มารับแทนที่จะขอบคุณ  นี่แม่งมีแต่พูดห่าอะไรไม่รู้  ไม่เข้าท่า”

โดนช่างวินัยด่า และเต๋อก็ได้แต่อ้าปากค้าง  อยากจะทะเลาะด้วยหรอกนะ  แต่เจอสายตาดุ ๆของช่างวินัยที่มองมาและแสดงให้รู้ว่ากำลังหงุดหงิด  โกรธ และรำคาญ เต๋อก็เลยได้แต่เมินหน้าหนีแล้วก็หุบปากเงียบ เพราะทำอะไรไม่ได้

ที่จริงคือไม่เคยทำอะไรได้........

“ป้าไม่อยู่นะวันนี้ ไปดูดนตรี มึงหาข้าวกินเองด้วย”

อีกแล้วเหรอวะ

เต๋อหันมามองช่างวินัยทันทีและรีบกดโทรศัพท์โทรหาแม่

“ไปอีกแล้วเหรอ  มีข้าวกินมั้ย  ไม่มีอีก  โห่แม่ แม่จะกลับมากี่โมง แม่..........”

แล้วปลายสายก็เงียบไปดื้อ ๆ
และเต๋อก็มองโทรศัพท์ในมือที่ถูกแม่ตัดสายไปพร้อมประโยคอำลา

........ก็อต กำลังจะขึ้นแสดง แค่นี้ก่อนนะ แม่ยุ่งมาก  ไปกินข้าวบ้านพี่นัยก่อนนะลูก.........

แล้วเต๋อก็ได้แต่มองโทรศัพท์ในมือและถอนหายใจออกมายาว ๆ

ให้ไปกินข้าวบ้านช่างนัย  ใครจะไปวะ  แม่ทำไมทำแบบนี้  เห็นวงดนตรีดีกว่าลูก  ไม่สนใจว่าลูกจะมีข้าวกินหรือเปล่า  อยากจะชินอยู่หรอก  แต่มันทำใจได้ง่าย  ๆ หรือไง

ไม่ได้เป็นเด็กติดแม่ โตป่านนี้แล้ว ก็เข้าใจงานอดิเรกของแม่อยู่ แม่ก็มีความสุขในแบบของแม่   กลายเป็นเต๋อที่บางครั้งก็ไปนั่งจับเจ่าอยู่บ้านคนเดียว

ตะกร้อมันก็ใช่ว่าจะเตะกันทุกวัน
ยิ่งช่วงนี้งานที่อู่ยุ่ง ๆ ด้วย พี่พัฒน์ก็เลยไม่ค่อยมีเวลา  คนอื่นเขาก็มีงานมีการทำ   ไปเล่นก็ได้อยู่หรอก  แต่ต้องเล่นกับเด็กประถมชนะมันไปก็เท่านั้น  คนก็หาว่ารังแกเด็ก
อีกอย่าง วันนี้เลิกดึกด้วย กลับไปก็ไม่มีอะไรให้ทำแล้ว เฮียบัสก็กลับบ้านแล้ว ไปที่อู่ก็ไม่มีใครอยู่แล้ว

“ทำหน้าเป็นหมาเหงาเชียวนะ”

นี่ไงเรื่องที่ทำให้เกลียดช่างนัย ไม่เคยจะพูดกันดี ๆ มีแต่ซ้ำเติมให้เจ็บปวด

“เรื่องของผมเหอะ”

เออ เรื่องของมึง
เรื่องของมึงก็เรื่องของมึง กูก็ใช่ว่าจะอยากยุ่ง

ช่างวินัยไม่ได้พูดอะไรอีก รถแล่นไปเรื่อย ๆ ก่อนจะลัดเลาะเข้าไปในหมู่บ้าน  มองไปไม่ไกล แสงไฟหลากสี  และเสียงดนตรีอึกทึกชวนให้ผู้คนอยากมองไปที่ข้างทางไม่เว้นแม้กระทั่งเต๋อ ที่ชะเง้อคอมองออกไปนอกรถ

“งานอะไรวะ”

กูจะไปรู้เหรอ

“ถามใคร”

ไม่ได้ถามใครหรอก แค่ละเมอพูดคนเดียวมั้ง

เต๋อหันมามองช่างวินัยและเบะหน้าแบบเซ็ง ๆเลิกมองไปที่ข้างทางและกลับมานั่งกอดอก และไม่คิดจะสนใจช่างวินัยอีก

“จะลงไปดูมั้ยล่ะ”

เต๋อหันไปมองหน้าช่างวินัยอีกครั้ง และไม่ต้องให้พูดอะไรกันมากความช่างวินัยชะลอรถและขับเข้าไปในงานและมองหาที่จอดรถทันที

“แวะซะหน่อย  สงสารเด็กถูกทิ้ง”

ใช่ที่ไหนล่ะ 

เต๋อกำลังจะอ้าปากเถียง แต่ช่างวินัยไม่เปิดโอกาส

“พูดน้อยๆ  ไอ้เต๋อ  กูรำคาญ กูหิวข้าวแวะหาข้าวกินหรอก ไม่ใช่จะอยากพามึงเที่ยวจริง ๆ อย่าสำคัญตัวผิดไป”

เออออออออออออออออ
แวะหาข้าวกิน  รู้ตั้งนานแล้ว

“ไม่ลงนะ อยากกินก็ลงไปคนเดียว”

ที่ไม่ลงไม่ใช่ไม่หิวข้าว แต่เป็นเพราะว่า.........ไม่มีตังค์กินข้าว....

“ก็ตามใจนะ  แม่มึงฝากตังค์กูไว้สองร้อยไว้ให้มึงซื้อข้าวกิน  ถ้าไม่ลง  เงินที่แม่มึงฝากไว้กูยึดเป็นค่าน้ำมันรถแล้วกัน”

ได้ไงวะ

ไม่ต้องให้รอนาน เต๋อรีบลงจากรถและเดินตามช่างวินัยที่เดินลิ่ว ๆ เข้างานโดยไม่คิดจะรอ

“นี่จะยึดเงินเป็นค่าน้ำมันรถจริงเหรอ  แม่ผมก็ออกค่าน้ำมันรถให้ไม่ใช่หรือไง  จะฟ้องแม่ว่าช่างนัยเม้มตังค์”

โว้ยยยยยยยยยยย มึงจะฟ้องมึงก็ฟ้องไปเหอะ

“ไอ้ประสาท แม่มึงรักกูมากกว่ามึงอีกเหอะไอ้เต๋อ”

แค่คำพูดเดียวก็ทำให้เต๋อรู้สึกเจ็บจี๊ดไปถึงทรวง

เต๋อรีบเดินตามช่างวินัยที่เดินนำหน้าแบบไม่เคยคิดจะรอคนที่เดินตาม

สุดท้ายเดินไปแวะร้านผัดไทหอยทอด และสั่งมากินกันคนละจาน

นั่งรออาหารมาเสริฟ และเต๋อก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอ่านอะไรไปเรื่อยระหว่างรอ

“หัดเงยหน้ามาสนใจผู้คนในโลกซะบ้าง โทรศัพท์เอาไว้เล่นตอนว่าง ๆ ก็ได้มั้ง”

บ่นออกมาลอย ๆ และเต๋อก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าของช่างวินัย

“ก็คนตรงหน้าแม่งไม่เคยทำให้อยากสนใจ แล้วใครจะอยากมอง"

อ่อ  งั้นเหรอ

“ปากดีนักนะมึง  ตอนเด็ก ๆไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยวะ”

นั่นมันตอนเด็ก แต่นี่มันโตแล้ว

“ไอ้เต๋อที่เดินตามช่างนัยต้อย ๆ ให้ช่างนัยแกล้ง  มันตายห่าไปตั้งนานแล้ว”

อ่อเหรอออออออออออ

ช่างวินัยพยักหน้าและก็หัวเราะออกมาเสียงเบา

“ขำห่าอะไรวะ”

ก็เปล่า ไม่ได้ขำอะไรก็แค่ว่า.....

“ว่าแต่  กูยังนึกสงสัย  ว่าของมึงใหญ่ขึ้นบ้างยังวะเต๋อ  หรือมันตกใจที่โดนแกล้งเลยไม่โตขึ้นแล้ว  มึงก็เกินไปจะเอาเรื่องนั้นมาโกรธกูจนถึงป่านนี้ก็ไม่ไหวนะ ลืม ๆ มันไปบ้างได้แล้ว”

ลืมเหี้ยอะไรล่ะ

เต๋อถึงกับตาค้าง และกำลังจะอ้าปากด่าช่างวินัย  แต่เพราะผัดไทมาเสิร์ฟแล้ว  เต๋อก็เลยไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก

“เหี้ยเอ้ย”

ได้แต่สบถออกมา ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน  เต๋อก็ยังไม่เคยชนะช่างนัยได้

แค่ต่อปากต่อคำ  บางทียังแพ้  เคยเป็นเด็กยังไงก็เป็นอยู่อย่างนั้น  เคยแพ้ช่างนัยยังไงก็แพ้อยู่อย่างนั้น
เคยพยายามเอาชนะยังไง สุดท้ายก็ยังแพ้เหมือนเดิม

ถึงอยากจะเถียงอยากจะด่า สุดท้ายพอเห็นสายตาดุ ๆ ของช่างวินัยที่มองมา  เต๋อก็ได้แต่หุบปากเงียบเหมือนตอนเด็ก ๆไม่มีผิด

น่าแปลก  ถึงจะโตขนาดนี้แล้ว  เต๋อก็ยังไม่กล้าเอาชนะช่างวินัยอยู่ดี  ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่กล้า พยายามแล้ว  แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าจะต่อปากต่อคำกับช่างวินัยไปจนถึงที่สุด

ได้แต่ตั้งแง่ใส่อยู่ทุกวัน  แค่ช่างวินัยเริ่มเอ็ด  เต๋อก็กลายเป็นเด็กน้อยที่ต้องก้มหน้าก้มตาฟังสิ่งที่ช่างวินัยพูด

โตขึ้นขนาดไหน ก็ไม่เคยเอาชนะได้เลยจริง ๆ

เต๋อจัดการกับผัดไทตรงหน้า และไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมามองหน้าช่างวินัยอีก
รีบกิน จะได้รีบกลับบ้าน

และช่างวินัยก็คีบเส้นผัดไทใส่ปากไปเรื่อย ๆ 
ไม่ได้หิว ไม่ได้อยากกินเท่าไหร่  แต่รู้ว่า “น้อง”  หิวข้าว ถึงได้พามากิน  ดี ๆ ร้าย ๆมันก็เป็น “น้อง”   ถึงจะไม่ใช่น้องแท้ ๆแต่ป้าก็บอกทุกวันว่าขอให้เห็นไอ้เต๋อ เป็น “น้อง”

ใครอยากให้มันเป็นน้องล่ะ
ไม่เคยเลย  ไม่เคยสักครั้งที่อยากให้เต๋อเป็นแค่น้อง........

แต่เพราะถูกขอร้องมาก็เลยต้องจำใจเห็นเป็นน้องอยู่ทุกวัน  ก็เพราะเห็นเป็นน้องไง ถึงได้พามันมากินข้าว
ก็เพราะเห็นเป็นน้องไง ถึงได้ไปรับไปส่ง  เวลาที่แม่มันไปรับไปส่งไม่ได้

ก็เพราะเห็นเป็น........น้อง.......ไง
ถึงได้.............

ยอมทนเก็บความรู้สึกของตัวเองมาจนถึงป่านนี้  ทั้งที่ไม่ว่าวันไหน  สายตาก็ไม่เคยละไปจากมันได้
และไม่เคยคิดอยากจะให้ไอ้เต๋อเป็นน้องเลยสักครั้ง

ช่างวินัยถอนหายใจออกมายาว ๆ และก้มหน้าก้มตาใช้ตะเกียบคีบผัดไทกินไปเรื่อยๆ  และไม่คิดอยากจะมองหน้าของเต๋ออีก

ไม่อยากมอง
ไม่อยากเห็นนักหรอก เห็นไปก็เท่านั้น ไม่เห็นซะบ้างบางทียังดีกว่า

และเมื่อช่างนัยไม่คิดจะมอง
เต๋อที่รีบกินผัดไทเสร็จก่อนก็เลยนั่งมองช่างวินัยแทน

..............ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากปากของเต๋อ........

มีเพียงสายตาในเวลาที่เผลอตัวเท่านั้นที่ปกปิดความรู้สึกเอาไว้ไม่มิด    หลายครั้งที่หัวใจแกว่งไปแกว่งมา เวลาที่อยู่ใกล้ ๆ กัน

มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กจนถึงตอนนี้ความรู้สึกนี้ก็ยังไม่เคยจางหาย  และเต๋อไม่เคยกล้าหาความหมายที่แท้จริงของมัน

.......เต๋อเกลียดพี่นัย โตขึ้นเต๋อจะมีแฟนให้เยอะยิ่งกว่าพี่นัยอีกคอยดู.........

คำพูดนั้นที่เคยพูดเอาไว้เต๋อไม่เคยลืม

ไม่ลืม.......และไม่มีวันลืม

เพราะช่างนัยเห็นคนอื่นดีกว่าเต๋อ  เพราะช่างนัยเห็นคนอื่นสำคัญกว่าเต๋อ  เพราะช่างนัยแสดงให้รู้ว่าเต๋อเป็นแค่เด็กผู้ชายข้างบ้านที่น่ารำคาญ   เพราะช่างนัยเอาแต่แกล้งเต๋อทุกวัน  แกล้งให้อาย  แกล้งให้โกรธ  เพราะอย่างนั้นมันก็เลยเป็นเหตุผลมากพอให้เต๋อเกลียดช่างวินัย

“ผมเกลียดช่างนัย”

ยิ่งคิดบางครั้งเต๋อก็นึกอยากจะร้องไห้   

สิ่งที่ทำก็แค่พยายามหลอกตัวเองไปเรื่อย ๆ

จะเกลียดให้ดู
จะเกลียดช่างนัยทุกวัน ทุกวัน ทุกวัน จะไม่พูดดีด้วย  จะไม่สนใจ จะไม่มอง 

ไม่ว่ายังไงก็จะไม่รู้สึกอะไรกับช่างนัยทั้งนั้น นอกจาก “เกลียด”

เกลียด  คนที่ผิดสัญญา

ช่างวินัยเงยหน้าขึ้นมองหน้าของเต๋อ  ก่อนจะก้มกลับลงไปสนใจกับผัดไทตรงหน้า

ไม่ใช่ว่าเต๋อไม่เคยพูดแบบนี้

เพราะพูดแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ช่างนัยก็เลยคิดว่าจะพยายามชินกับสิ่งที่เต๋อพูด

แล้วจะให้ทำยังไง
โดนเกลียดไปแล้ว  จะไปทำอะไรได้ ไม่ว่ากี่ปีก็ไม่เคยทำอะไรได้
และในเวลานี้ความรู้สึกเดิม ๆ ก็กลับมา   ความรู้สึกที่คล้ายหัวใจเบาโหวงเหวงเหมือนปุยนุ่นเริ่มกลับมาอีกครั้ง

“รู้แล้วว่าเกลียด”

ช่างวินัยพยักหน้าและตอบรับสิ่งที่เต๋อพูด  พยายามทำให้เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ

ทำไมจะไม่รู้ ว่าไอ้เต๋อมันรู้สึกยังไงด้วย แต่ช่างนัยจะไปทำอะไรได้
ดีแล้วที่เกลียด  ช่างนัยจะได้ทำใจได้และพยายามเชื่อต่อไปว่าเต๋อ คือ “น้อง”   ต่อให้น้องมันกวนตีนมันร้าย มันแสดงออกให้รู้ว่าเกลียดขนาดไหน  แต่ในฐานะพี่ชาย  จะให้เกลียดน้องแบบจริงๆ จัง ๆ ใครมันจะไปทำได้

ช่างวินัยลอบถอนหายใจยาว ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาบอกสิ่งที่คิดอยู่ในหัวมาตลอดให้เต๋อได้รับรู้บ้าง

“กูก็ไม่เคยคิด หรือหวังให้มึงมาชอบกูเหมือนกัน”


TBC.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2015 06:19:42 โดย aa_mm »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ WASAWATTE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น่าสงสารทั้งคู่เลย

 :hao5: :hao5: :hao5:

อย่าเศร้านานไปกว่านี้เลยนะคะ~

ออฟไลน์ dekying kukkig

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-1
อุ้ยๆๆๆพิพัฒน์ทำแบบนั้นแถวบ้านเค้าเรียกอ่อยนะพี่บารมีจะทำไงต่อล่ะนั่น ....เค้าเริ่มหวั่นไหวกันแล้วซินะ  :katai2-1:  :katai2-1: ช่างวินัยกับน้องเต๋อ อย่านึกกันเองแบบนี้  :ling3:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
 มันอัดแน่นอยู่ในใจ
ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ทำอะไรไม่ได้

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เข้าเข้าใจความรู้สึกเต๋อว่ะ ช่างนัยโตซะป่าว ต่างคนต่างคิดเต๋อคิดแบบของเต๋อ วินัยคิดแบบของตัวเอง เลยทำให้เต๋อเกลียดเพราะวินัยผิดคำพูด วินัยตีคำพูดของเต๋อไม่แตก มันก็เลยเป็นนี้ จากที่คิดว่ามันจะสนุกพออ่านเรื่อยๆแต่ยิ่งอ่านมันกับทำให้เหนื่อยใจ สุดท้ายก็เซ็งเบื่อ เหมือนเด็กๆ ทั้งที่ก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว

ออฟไลน์ แค่ความทรงจำ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
จะเข้าใจกันไหมละเนี้ย  :monkeysad:

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โอ๊ยยยย ทั้งเศร้า ทั้งหน่วงเลยอ่ะ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
หน่วงงงงงงงง สมกับชื่อตอน แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจตรงกันสักที อีกสักตอนดีไหม กิกิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pittabird

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 796
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
อึดอัด. พวกคิดเองเออเอง ปากกะใจไม่ตรงกัน. เข้าใจกันเร็วๆ นะ.

ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ช่างนัยต้องตื๊อต้องง้อเค้าเยอะๆ ถ้าช่างนัยไม่เป็นฝ่ายเข้าหาเต๋อก่อน ดูท่าจะยาก เพราะเต๋อเป็นน้องที่ดื้อ  :katai2-1:

ออฟไลน์ MOMAMi_96

  • เรื่อยๆ
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
อย่างเศร้า ตกลงคู่นี้เนี่ยดราม่าหลักๆใช่ไหมคะ /ออกจากกระทู้ :katai5:

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ไม่ชอบ รักไปเลยก็ได้นะช่างนัย

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:ต่างคนก็ต่างความคิดจริงๆ
ถ้าพูดออกมาตรงๆทุกอย่างก็คงจะดีกว่านี้

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
คิดอะไรให้มันยุ่งยากกันจัง รักกันก็พูดกันตรงๆสิคะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ aa_mm

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-2

 @@รักเกิดในอู่ซ่อมรถ (เต๋อ กับ ช่างวินัย) ตอน กลับมาโอบกอดอีกครั้ง

กินผัดไทเสร็จแล้วก็ต่อด้วยน้ำแข็งใส และต่อด้วย ขนมครก และต่อด้วยสายไหม และต่อด้วย ขนมเบื้อง

“แดกขนาดนี้  ไม่เลียนิ้วเข้าไปด้วยเลยล่ะ”

กำลังจะทำอยู่เหมือนกัน

ไม่ต้องรอให้ช่างวินัยพูดซ้ำ เต๋อจัดการแตะลิ้นไปที่ปลายนิ้วของตัวเองตั้งแต่นิ้วโป้งจนถึงนิ้วก้อยอย่างช้าๆ

มองหน้าของช่างวินัยและส่งยิ้ม ไปให้ ยักคิ้วใส่ช่างวินัยด้วยมาดกวน ๆแต่ทำให้ช่างวินัยถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเองจนต้องรีบเมินหน้าหนีไปทางอื่น

ทำแบบนี้มันเกินไปแล้วไอ้เต๋อ
เล่นทำแบบนี้ มันก็เกินไป

“แดกแม่ง”

เต๋อหยิบขนมเบื้องในถุงออกมายัดเข้าปากและเคี้ยวเสียงดังกร๊อบแกร๊บให้ช่างวินัยได้ยินโดยไม่ได้สังเกตอาการของช่างวินัยเลยสักนิด

“เกินสองร้อยไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่”

ช่างวินัยแกล้งบ่นพึมพำและกำลังจะบิดกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ

“ช่วยไม่ได้อยากซื้อให้เอง”

ความผิดกูเหรอ

“เห็นว่าเป็นเด็กน้อยตาดำ ๆ หรอกกูถึงเมตตา”

หรา

“เหอะ  ที่จริงจะเม้มเงินแม่ผมไว้ก็บอกมาเถอะ"

ใครจะไปทำอะไรบ้าบอแบบนั้นวะ ที่พูดก็พูดไปอย่างนั้นเอง

ต่อปากต่อคำกันพอประมาณและช่างนัยก็หันมามองหน้าไอ้หนุ่มกวนตีนอย่างเต๋อแบบเต็มๆ ตา

“หรือมึงมีปัญหา”

แน่ล่ะ มีปัญหาอยู่แล้ว

“จะฟ้องแม่เหอะ คนดีของแม่ที่แท้เม้มตังค์”

ปัญญาอ่อนสุด ๆ
ช่างวินัยไม่รู้จะจัดการกับเต๋อยังไงดี  สุดท้ายเลยแย่งถุงขนมเบื้องมาถือเอาไว้และจัดการหยิบขนมเบื้องออกมากินแก้เครียด

เคี้ยวขนมเสียงดังกร๊อบแกร๊บแข่งกับเต๋อ  และเต๋อก็แย่งถุงขนมมาจากช่างวินัย

“ของผมนะ อยากกินทำไมไม่ซื้อเอง”

ช่างวินัยอยากจะเขกหัวไอ้เด็กกวนตีนนี่วันละหลาย ๆ รอบแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าหาเรื่องมันไปเรื่อยๆ

“มึงไปซื้อมาอีกสองถุงซิ ขี้เกียจเดิน ขนมเบื้องอร่อยดี”

ใช่มั้ยล่ะ
แต่ว่านะ..........

“ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหน  ป้าที่ขายตอนงานวัดทุกปีตอนผมเด็กๆ แล้วเราไปซื้อด้วยกัน ทำอร่อยกว่านี้ตั้งเยอะ”

เต๋อก็แค่ยกตัวอย่างขึ้นมาลอย ๆ และเมื่อพูดแล้วถึงเพิ่งนึกขึ้นได้

หันไปมองหน้าของช่างวินัยและก็เห็นว่าช่างวินัยชะงักนิ่งค้างไปชั่วขณะ

“...............”

นั่นสินะ
ตอนเด็ก ๆ ที่ไปซื้อด้วยกัน
อร่อยกว่านี้.......ตั้งเยอะจริง ๆ ด้วยนะ
อร่อยกว่านี้..........ตั้งเยอะ.....

“ก็......จริง”

ช่างวินัยพยักหน้าตาม และถอนหายใจออกมายาว ๆ

“ถึงเจ้านี้มันจะไม่อร่อยก็เถอะ เดี๋ยวเดินไปซื้อเองก็ได้    เอามั้ยคนละถุงมาแบ่งกัน”

เรื่องอร่อย หรือไม่อร่อยไม่ใช่ประเด็นที่ต้องคิดตอนนี้แล้ว

เพราะบางทีมันอาจเป็นประเด็นอื่นที่น่าสนใจกว่าและมันก็คอยกัดกินใจเราสองคนมาตลอด

ช่างวินัยเปิดประตูรถและก้าวขาลงจากรถและเต๋อก็เปิดประตูฝั่งของตัวเองและเดินลงมาด้วย

“ไปด้วย”

เดินตามช่างวินัยที่ก้าวขาเดินลิ่ว ๆเข้าไปในบริเวณงานที่มีร้านขายขนมและของเล่นและมาหยุดที่ร้านขายขนมเบื้อง ซื้อใส่ถุงมาอีกสองถุงและเดินกลับมาที่รถโดยมีเต๋อวิ่งตาม

วิ่งตาม........เหมือนตอนเด็ก ๆ

“พี่นัย รอด้วย พี่นัย พี่นัย”

ช่างวินัยหันกลับไปมองและคล้ายได้ยินเสียงแว่ว ๆ ในความรู้สึก

เพียงแต่ภาพที่เห็นมันไม่ใช่เด็กชายตัวเล็กผอมกะหร่องเหมือนที่เคย แต่กลายเป็นชายหนุ่มผิวขาว และมีใบหน้าน่ามองที่กำลังก้าวขาตามมาเรื่อย ๆ

เสียงพลุดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อกำลังจะถึงรถ

ท้องฟ้าสีดำแต่งแต้มไปด้วย สีสันจากพลุหลากสีที่ถูกจุดขึ้นไป

เต๋อเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ประดับประดาไปด้วยสีสันที่เปล่งประกายคล้ายดอกไม้หลากสี บนท้องฟ้าในยามค่ำคืน

“โห”

เด็กชายเต๋อตัวเล็กผอมกะหร่องเงยหน้าขึ้นมองพลุที่ถูกจุดบนฟ้า  ตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็นและยิ้มกว้างอย่างมีความสุข

และเต๋อคนที่อยู่กับช่างวินัยตอนนี้ก็....เงยหน้าขึ้นมองพลุหลากสีและยิ้มกว้างอย่างมีความสุขไม่ต่างกัน

“โคตรสวยเลยพี่นัย”

ใช่

สวย

พลุบนท้องฟ้าเปล่งประกายระยิบระยับ และดวงตาของคนที่เงยหน้าขึ้นมองก็ระยิบระยับวับวาวสวยจนช่างวินัยต้องนิ่งมอง

........พี่นัยเหรอ...........พี่นัย.....เมื่อกี้เต๋อมันเรียกว่า พี่นัย.....จะเพราะว่าเผลอหรือเพราะอะไรก็แล้วแต่ แต่เต๋อมันยอมเรียกว่า "พี่นัย" เหมือนตอนนั้น ตอนที่เรายังเป็นแค่เด็ก  เหมือนวันเวลาเก่า ๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง

ช่างวินัยส่งยิ้มให้กับคนที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังตื่นเต้นกับพลุสวย ๆเสมอ  ไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนที่ยังเป็นเด็ก

เต๋อยังคงชี้นิ้วไปที่พลุบนท้องฟ้าอย่างตื่นตาตื่นใจ  แต่ช่างวินัยก้าวขามาหยุดยืนอยู่ใกล้ ๆเต๋อและยกมือขึ้นแตะเบา ๆ ที่เส้นผมของเต๋อ

แตะเบา ๆ
และเต๋อก็ก้มกลับลงมามองไปที่ใบหน้าและดวงตาของช่างวินัย  จ้องนิ่งไปที่ดวงตาของช่างวินัยด้วยความรู้สึกหลากหลาย

อยากจะถาม  อยากรู้  สงสัย ไม่เข้าใจมีแต่เรื่องที่อยากรู้เต็มไปหมดแต่ยังไม่ทันได้ถาม

ช่างวินัยรีบดึงมือกลับและหันหลังเดินหนีไปดื้อ ๆปล่อยให้เต๋อยืนงงและถึงกับต้องแตะฝ่ามือไปที่อกข้างซ้ายของตัวเองเมื่อรู้สึกถึงเสียงหัวใจที่กำลังเต้นระทึกจนเหมือนมันจะกระเด็นหลุดออกมาจากอก

พลุถูกจุดหมดแล้ว

และทั้งเต๋อและช่างวินัยก็กลับมาอยู่ในรถด้วยกัน

ไม่มีอะไรจะพูด
ไม่มีคำพูดใด ๆ ระหว่างคนสองคน

มีเพียงความเงียบงัน
ตั้งแต่ออกจากบริวเวณงาน เต๋อไม่มีอะไรจะพูด

ได้แต่หุบปากเงียบ

จนเมื่อรถมาจอดที่หน้าบ้าน เต๋อก็รีบปลดเข็มขัดนิรภัยออกและกำลังจะลงจากรถเพราะกำลังจะทนต่อความอึดอัดใจครั้งนี้ไม่ไหว

“อย่าลืมขนม”

ขนม.....
เออใช่ ขนม
กลับเข้ามาในรถอีกครั้งและยื่นมือไปหยิบถุงขนมที่ช่างวินัยส่งให้

แค่ปลายนิ้วสัมผัสกันเบา ๆ
เต๋อกลับรู้สึกคล้ายกระแสไฟอ่อน ๆ กำลังวิ่งพล่านไปทั่วร่าง
เรื่องทุกอย่างที่เก็บสะสมเอาไว้ในใจมันมากเกินไปและกำลังล้นทะลักออกมา  ไม่รู้ว่าทำไมต้องทนเก็บกักความรู้สึกเอาไว้ขนาดนี้

ไม่คิดจะทนอะไรอีกแล้ว  ครั้งนี้ดูเหมือนความอดทนตลอดมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

เต๋อไม่ได้รับถุงขนมเอาไว้ แต่ข้อมือถูกกระตุกจนเสียหลัก และเต๋อก็เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของช่างวินัย

อยากจะถามว่าทำไมต้องดึงแขนกันด้วย
แต่ก็เท่านั้น เมื่อคำถามทั้งหมดถูกกลืนหายไปพร้อมกับการที่ริมฝีปากถูกกดแนบประทับรุนแรงจากริมฝีปากร้อนผะผ่าวของช่างวินัยที่แนบสัมผัสบดเบียดลงมาอย่างรวดเร็วโดยไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว

ใบหน้าชาวูบ และร่างกายคล้ายหมดความรู้สึกไปชั่วขณะ

เต๋อได้แต่ร่ำร้องอยู่ภายในใจ แต่เปล่งเสียงออกมาไม่ได้

และเมื่อช่างวินัยทำทุกอย่างอย่างที่อยากทำจนพอใจแล้วถึงได้ยอมปล่อยให้เต๋อเป็นอิสระและเต๋อก็ได้แต่หอบหายใจหนัก ๆ  และยกหลังมือขึ้นขัดถูริมฝีปากของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ท่าทางร้อนรนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ใบหน้าขึ้นสีแดงเรื่อ และแม้ไม่ต้องมองให้ชัดก็รู้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวของเต๋อกำลังสั่น

ถ้าจะบอกว่าไม่รู้จักสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำช่างนัยก็ยอมรับ

และไม่ใช่แค่ยอมรับแต่ช่างวินัยยังรั้งร่างของเต๋อเข้ามากอดเอาไว้อีกครั้งแม้จะถูกผลักไส

กอดเอาไว้แน่น
กอดและลูบทั้งไหล่ทั้งหลังของเต๋อเบา ๆ เพื่อปลอบโยน

เรื่องบ้าอะไรไม่รู้
จะเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่คิดจะอยากนึกหรือสนใจอะไรแล้ว

“เป็นอะไร ทำไมสั่นขนาดนี้ กลัวพี่เหรอ”

เป็นอะไร
เป็นอะไร.............
เป็นเหี้ยอะไร กูจะรู้มั้ย  ไม่รู้หรอกโว้ยยยว่าตัวเองกำลังเป็นอะไรไปแล้ว

ไม่รู้อะไรทั้งนั้น

เต๋อพยายามดิ้นรนอยู่ภายในอ้อมแขนของช่างวินัยอีกครั้ง  แต่มันก็ไร้ผล และยิ่งดิ้นก็ดูเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงลงทุกที

จนกระทั่งเมื่อปลายจมูกโด่งเริ่มซุกไซร้เบา ๆ เข้าที่ซอกคออย่างเอาแต่ใจ คราวนี้ทั้งเหตุผลทั้งความนึกคิดทั้งคำถามและไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม  ที่อยู่ในหัว  ค่อย ๆ จางหายไปอย่างช้า ๆ

แขนทั้งสองข้าง ตกลงข้างตัว
เรี่ยวแรงที่คิดจะต่อต้านไม่หลงเหลือ

เต๋อปล่อยให้ช่างนัยทำอะไรก็ได้ตามต้องการ

ไม่อยากคิดและไม่อยากจะรับรู้อะไรอีก  ไม่ต้องการรับรู้อะไรทั้งนั้น

ไม่อยากรู้แม้กระทั่งว่าร่างกายกำลังถูกทำอะไรอยู่บ้าง

เต๋อไม่ต้องการรับรู้ ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง


TBC.

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เต๋ออย่าโกรธช่างนัยน้าา~ รักกันไว้ดีกว่า.
แง่ม!  :z13:

ออฟไลน์ WASAWATTE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
มาต่อเถอะ
อ๊ากกก เต๋อจะเสร็จช่างนัยป่ะเนี่ย?
 :katai1:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เต๋อรักช่างวินัยมาตั้งแต่เด็กสินะ ส่วนช่างวินัยพึ่งมารู้เอาตอนนี้

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด