[นิยายแนวม.ปลาย] (Updated จบซีรียส์ อัพ 14/05)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายแนวม.ปลาย] (Updated จบซีรียส์ อัพ 14/05)  (อ่าน 55001 ครั้ง)

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 21
ความรักของเราทั้งห้า


แบงค์กำลังรอข้อความที่พี่ท็อปส่งมาบอกสถานที่นัดพบกันในตอนเย็น เขา เกมส์ เปิ้ลและเกด กำลังนั่งคุยกันเรื่องงานกลุ่มที่ต้องออกไปสัมภาษณ์ชาวต่างชาติตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆแล้วมารายงานหน้าชั้น

“ช่วงนี้ฝนมันต้องตกทุกวันแน่ๆ จะไปเดินวัดพระแก้วคงไม่สะดวกหรือเปล่า?” เปิ้ลถามขึ้นมา เมื่อทุกคนกำลังคิดหาสถานที่ที่ดีที่สุด “ไปก็ไม่สะดวก ถ้าฝนตกคนก็ไม่มาเดินอีกนะ”

“งั้นลองไปเที่ยวแหล่งที่มันมีฝรั่งเยอะๆ แล้วร่มๆดูไหมล่ะ” เกมส์ออกความเห็น

“มันมีด้วยเหรอวะ ที่แบบไหนกัน ?” เกดถามกลับ

“ก็อย่างเช่น ตามห้างไง” เกมส์บอก

“สรุปแกจะไปเดินห้างปะเนี่ย” เปิ้ลแซว “ไม่ได้ไปหาฝรั่งแล้วมั้ง”

ปี๊บๆ ๆๆ (เสียงข้อความใหม่เข้าโทรศัพท์)

แบงค์รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เพราะเขารู้ว่าพี่ท็อปจะต้องส่งข้อความมาบอกเขา

<พี่รออยู่ในห้องพยาบาลนะครับ>

“ไม่ใช่เบอร์พี่ท็อปนี่นา หรือว่ายืมเอาเบอร์คนอื่นมาส่งให้” แบงค์พึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นข้อความที่ได้รับ “แล้วไปทำอะไรในห้องพยายาล อย่าบอกนะว่าจะทำอย่างเดิม”

“เอ้า ว่าไง แบงค์ แกไม่ออกความเห็นอะไรเลยนะ” เกดถาม

“คือพวกแกก็สรุปมาแล้วกัน เดี๋ยวเราไปก่อน ฝนมันตกไม่หยุด จะกลับบ้านช้าเอา” แบงค์รีบลาทุกคนแล้วเก็บกระเป๋าเดินลงจากอาคาร เพื่อตรงปรี่ไปห้องพยาบาล

เมื่อไปถึงที่ห้องพยาบาล บริเวณรอบๆนี้ไม่มีคนอยู่เลย เนื่องจากห้องพยาบาลทำเป็นห้องกระจกโดยมีฟิล์มสีดำทึบปิดเพื่อกันแสงและสายตาของเหล่านักเรียนที่สอดรู้สอดเห็นเอาไว้ เขามองเห็นรางๆว่ามีคนอยู่ในห้องพยาบาลอยู่สองคน แม้ว่าจะมองจากข้างนอกลำบากเพราะเป็นฟิล์มกระจกทึบ แต่ก็เขาก็ค่อยๆเอาหน้าแนบและจ้องมอง จึงได้เห็นว่าพี่ท็อปกำลังเอาหน้าซุกไซร้ที่หน้าอกของพี่หวานที่ดูเพลิดเพลินกันสุดๆ แบงค์รู้สึกตกใจไม่น้อยกับภาพทีเกิดขึ้น ทั้งมือและปากสั่น ทำอะไรไม่ถูก ทำไมสิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าจึงเป็นภาพนี้ ทำไมพี่ท็อปถึงมาอยู่กับพี่หวานในห้องนี้ มันเกิดอะไรขึ้น กว่าที่เขาจะควบคุมตัวเองได้ เมื่อเห็นดังนั้นคาตา จึงไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายอะไรเพิ่มอีกแล้ว เขาจึงผลักประตูห้องพยาบาลเข้าไปทันที ก่อนจะตะโกนเสียงดังจนทั้งคู่กระเจิงไปคนละทิศละทาง

“อะไรของพี่ท็อป ส่งข้อความเรียกแบงค์ให้มาดูพวกพี่สองคนกำลังมีอะไรกันเนี่ยนะ” แบงค์ตะโกนใส่อย่างหมดความอดทน

“ไม่ใช่นะแบงค์” ท็อปรีบปฏิเสธ เขายอมรับว่าเขาลืมตัวไปจริงๆกับสิ่งที่ทำอยู่เมื่อสักครู่ “พี่แค่พยายามจะพันแผลให้หวาน”

“ท็อป ทำไมถึงพูดแบบนี้ เมื่อกี้ท็อปยังถามหาถุงยางอยู่เลยนะ” หวานพูดแทรกขึ้นมา ไม่อยากถูกทำให้ตัวเองเป็นคนผิดอยู่ฝ่ายเดียว

“ชัดเจนที่สุด” แบงค์ตัดบท “ที่พี่ท็อปต้องการก็มีแค่นี้จริงๆ ทั้งๆที่แบงค์คิดมาตลอดว่าพี่ทำทุกอย่างให้แบงค์เพราะความรักแท้ๆ สำหรับพี่ท็อปมันคงไม่มีจริงหรอกไอ้ความรักบ้าบอ” แบงค์บอกตาแดงก่ำ เขากำลังโกรธสุดขีด “เชิญครับ ต่อกันเลย ผมขอกลับบ้านก่อน” แล้วก็รีบปิดประตูห้องพยาบาลเสียงดัง

“เฮ้ย แบงค์ ฟังพี่ก่อน” ท็อปร้อง รีบวิ่งออกจากห้องพยาบาลตามแบงค์ออกไป

แบงค์เดินอาดๆ ไปตามระเบียง ความโกรธและโทสะที่เขาไม่เคยได้พลุ่งพล่านใส่ใครมาก่อน เตรียมที่จะระเบิดราวกับเป็นขีปนาวุธ พี่ท็อปทำแบบนี้ทำไม สารพันปัญหา 108 ผุดขึ้นมาในหัวของเขา พี่ท็อปต้องการอะไรกันแน่ถึงทำแบบนี้กับเขา

“แบงค์ ฟังพี่ก่อน” ท็อปตะโกน ตอนนี้เขา ตกใจตัวเองมากเหมือนกันกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปโดยไม่รู้ตัว ถึงจะรู้สำนึกว่ากำลังทำอะไรอยู่แต่กลับเหมือนว่ามันไม่ใช่ตัวเขาเลยที่ลงมือกระทำ เขาคว้าแขนของแบงค์เอาไว้จนได้ แต่แบงค์ก็รีบสะบัดแขนออกอย่างแรง

“อย่ามาจับตัวแบงค์ พี่ท็อป ไปไกลๆแบงค์ให้มากที่สุด ก่อนที่พี่จะเจ็บตัว” แบงค์ตะคอกใส่ โชคดีที่เวลานี้นักเรียนกลับบ้านกันไปมากแล้ว ไม่อย่างนั้นคงจะได้เห็นไทยมุงกันขนานใหญ่ทีเดียว

“แบงค์มันไม่ใช่อย่างที่แบงค์คิดนะ พี่ไม่ได้...”

“อย่าพูดอะไรออกมาอีกแม้แต่คำเดียวนะ พี่ท็อป” แบงค์ตะโกนใส่ตัดบท “ไม่งั้นพี่ท็อปได้เจอดีแน่”

“ฟังพี่ก่อนสิ แบงค์ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะ...” ท็อปคว้าแขนของแบงค์เอาไว้ เมื่อแบงค์พยายามจะหันหลังเดินกลับออกไป

“ไม่ได้ตั้งใจ ส่งข้อความมาบอกแบงค์ว่าอยู่ที่ห้องพยาบาลเนี่ยนะ ไม่ได้ตั้งใจตรงไหน?”เขาตะคอก หมดความอดทน แต่พี่ท็อปก็พยายามยื้อยุดเขาไว้ เขากำหมัดแน่นแล้วชกเข้าไปเต็มๆที่แก้มซ้ายของท็อปจนท็อปล้มหงายลงไปกองกับพื้น ท็อปเห็นดาวยิบยับ พร้อมเลือดออกที่มุมปากเพราะแรงชกทำให้ปากและฟันไปบดกันจนเกิดแผล

“โอ๊ย” ท็อปร้อง รีบเอามือแตะที่มุมปาก เงยหน้าขึ้นมามองคนรักที่กำลังอาละวาด

“พอกันที กับความรักจอมปลอมของพี่ท็อป ไอ้บ้ากาม อยากทำอะไรก็เชิญ แต่ต่อจากนี้ไม่ต้องมาเจอกันอีก”  แบงค์ก้มลงไปกระชากคอเสื้อพี่ท็อป ท็อปยังคงเอามือขวากุมหน้าของตัวเองเอาไว้ รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ด แต่เขาไม่แปลกใจถ้าเกิดแบงค์จะโกรธเขาขนาดนี้

“อย่าเพิ่งโกรธพี่สิ พี่ขอโทษ ฟังพี่ก่อน”พี่ท็อปพยายามอธิบาย คว้ามือของแบงค์เอาไว้ แต่อะดรินาลีนของแบงค์กำลังหลั่งออกมาเพราะความโกรธที่เกิดขึ้น

“บอกแล้วว่าอย่าพูด” เขาหมายจะชกหน้าท็อปให้เจ็บไปข้างนึง แต่ปลาคาร์พก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ พุ่งเข้ามาต่อยหน้าแบงค์เข้าเต็มๆที่จมูก จนแบงค์ล้มลงไปกองกับพื้นอีกคน เลือดกำเดาไหลพลั่กๆออกมาไม่หยุด

“มึงทำอะไรเพื่อนกูวะเนี่ย” ปลาคาร์พโวยวาย รีบพยุงตัวท็อปขึ้น ส่วนท็อปก็พยายามวิ่งไปหาแบงค์ที่เอามือกุมจมูกและหน้าของตัวเองอยู่ เลือดไหลออกมาไม่หยุด “มึงมาต่อยเพื่อนกูทำไมเนี่ย”

“เฮ้ย ไอ้คาร์พ มึงทำอะไรลงไปเนี่ย!!” ท็อปร้องออกมา ไม่ทันที่จะได้ห้ามเพื่อน

แบงค์ไม่ตอบ แต่มองหน้าทั้งคู่อย่างโกรธแค้น น้ำตาไหลด้วยความเจ็บ พลางเอามือบีบดั้งจมูกของตัวเองเพื่อห้ามเลือด ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย พี่กายก็กำลังเดินลงมาจากตึกพร้อมเพื่อนอีกสองสามคน เข้ามาเห็นสภาพของแบงค์ที่นั่งกองอยู่กับพื้นที่หน้าบันไดทางลงพอดี เลือดไหลเปรอะลงมาเป็นหยดๆจากจมูกเต็มเสื้อไปหมด

“เฮ้ย ใครทำอะไรแบงค์เนี่ย” กายอุทานแล้วรีบวางกระเป๋านักเรียนของเขาลงทันทีแล้วรีบมาประคองน้อง “เลือดไหลไม่หยุดเลย เงยหน้าเอาไว้ แบงค์”

“พี่กาย” แบงค์ร้องทักอย่างอ่อนแรง ปวดระบมไปหมด

ท็อปรีบวิ่งไปดูอาการของแบงค์ แต่แบงค์ไม่พูดตอบ ทั้งน้ำตาและเลือดไหลพรั่งพรูออกมา

“เจ็บไหม แบงค์ พี่ขอโทษ” ท็อปร้องออกมา รีบเข้ามาดูอาการของคนรักอย่างกังวล สีหน้าตื่นตระหนก ส่วนแบงค์ก็เอามือปัดป้องตัวเองเต็มที่ ทั้งถีบทั้งต่อย แสดงอาการอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการพี่ท็อปอีกแล้ว

“นี่มันอะไรกันวะ” พี่กายตะโกนใส่ท็อป “พวกมึงทำเหี้ยอะไรกันเนี่ย ถึงกับต้องทำน้องจนเลือดตกยางออก มึงต่อยน้องเหรอ”

ปลาคาร์พรีบลากท็อปออกมา แต่ท็อปไม่ยอม จะเข้ามาดูอาการแบงค์ให้ได้ “เดี๋ยวพี่ต้องไปเอาน้ำแข็งมาประคบให้แบงค์เลือดหยุดไหลก่อน” ท็อปพยายามเข้ามาหาแบงค์ โดยลืมความเจ็บที่เกิดขึ้นกับตัวเองไปสนิทก่อนจะหันมาตะคอกใส่เพื่อน “มึงต่อยแบงค์ทำไมวะ ไอ้คาร์พ ปล่อยกู”

“ก็กูเห็นมันต่อยมึงอยู่ ก็เลยมาช่วยมึง กูผิดเหรอ?” ปลาคาร์พโวยวาย

“มึงทำเกินไป ไอ้สัตว์” ท็อปด่าด้วยความโกรธ ในขณะที่หวานที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เดินมาดูสถานการณ์ อาการขาแพลงเมื่อสักครู่นี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง

“ต่อยตีกันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ?” หวานอุทานออกมาเมื่อเห็นทั้งสภาพแบงค์และท็อป

“ขาหายแพลงแล้วเหรอ?” ท็อปหันหน้าไปถามหวาน อย่างแปลกใจ

หวานมองทุกคนอย่างเลิกลั่ก “เราไม่ได้....เจ็บมาก” เธอพูดเบาๆ รู้สึกผิดขึ้นมาทันที

“พวกมึงทำเหี้ยอะไรกัน ทำไมถึงต้องใช้กำลังกันขนาดนี้” พี่กายตะโกนเสียงดังจนคนรอบบริเวณหันมามอง เพื่อนที่มาด้วยกันกับพี่กายต่างก็ยืนมองสถานการณ์ด้วยความตกใจ “แบงค์ไปกับพี่ เดี๋ยวพี่พาไปห้องพยาบาล”

“ไม่  พี่กาย แบงค์ไม่ไปห้องพยาบาล” แบงค์รีบบอก แต่มือก็ยังบีบจมูกไว้แน่น เลยฟังดูไม่ค่อยได้ศัพท์เท่าไรนัก

“ไม่ไปห้องพยาบาลแล้วจะเอาอะไรเช็ดแผล” พี่กายท้วง

“พี่กายครับ” ท็อปพูดแทรก “ผมขอดูแลแบงค์เอง พี่กลับไปก่อนก็ได้นะครับ สัปดา...”ท็อปรีบพูดแทรกขึ้นมา รีบเดินมาจะประคองตัวแบงค์ออกไป

“อย่ามาแตะตัวแบงค์” แบงค์ตะคอกกลับ สะบัดแขนด้วยสีหน้ารังเกียจที่สุดที่เขาเคยทำมาในชีวิต “พี่ไปเอากับพี่หวานต่อเหอะ  แบงค์ไม่อยากเป็นก้างขวางคอพวกพี่ อีกอย่าง เกมส์ของพี่ท็อปนะ แบงค์ขอยกเลิกทุกอย่างเป็นโมฆะให้หมด ถือว่าเราไม่เคยรู้จักกันเลยนับตั้งแต่วันนี้ไปก็แล้วกัน”

“อะไรอะแบงค์ ฟังพี่ก่อนดิ มันไม่ใช่อย่างทีแบงค์คิดเลยนะ” พี่ท็อปพยายามอธิบาย เหมือนกำลังจะร้องไห้ออกมา

“ไม่ใช่อย่างที่คิด...เต็มๆตาขนาดนี้ ยังบอกว่าไม่ใช่อีกเหรอ พอเหอะพี่ท็อป พี่ท็อปมาคบแบงค์ก็แค่ใช้แบงค์เป็นที่บำบัดความใคร่ของพี่ ตอนนี้พี่มีที่ลงใหม่แล้วก็เชิญเหอะ แบงค์ทนพี่ท็อปเพราะว่ารักพี่มาตลอด สัญญาว่าจะอยู่ข้างๆกันตลอดไป แล้วนี่คืออะไร คนรักกันเขาตอบแทนกันแบบนี้เหรอ จบกันเถอะพี่ท็อป” แบงค์บอกเสียงห้วน แต่น้ำตายังคงไหลออกมา เลือดหยดโตหยดออกจากจมูก

“ไม่ดิแบงค์ พี่ไม่ได้ตั้งใจให้อะไรมันเป็นแบบนี้เลยนะ” พี่ท็อปบอก น้ำตาไหลออกมาด้วยอีกคน “พี่ไม่ได้อยากเลิกกับแบงค์เลยนะ”

“ไปดีกว่าแบงค์ เลิกต่อล้อต่อเถียงเถอะ เลือดออกมากขนาดนี้ไปโรงพยาบาลเลยดีกว่า เดี๋ยวพี่เรียกแท็กซี่ไป พี่ไปส่งพาไปหาหมอด้วยกันเลย” พี่กายขัดจังหวะ

“เดี๋ยวดิแบงค์ คุยกับพี่ให้รู้เรื่องกอ่น” พี่ท็อปร้องออกมา

“ไอ้สัตว์ แบงค์กำลังจะเลือดหมดตัวตายเพราะมึงนั่นแหละ ไอ้ท็อป มึงเคยคิดไหมว่าน้องเขาต้องทนกับพฤติกรรมของมึงมาขนาดไหน ดีแล้วล่ะ ทีนี้มันก็จะได้เห็นชัดๆกันสักที มึงรีบไปไกลๆตีนกูเลย เดี๋ยวกูกลับมากูฟ้องพ่อมึงแน่” พี่กายหันหน้ามาตะคอกใส่ท็อปด้วยความโมโห เพราะพี่กายไม่ชอบการใช้กำลังตัดสินปัญหาเลยสักนิดเดียว แล้วยิ่งเห็นคนที่รักเจ็บยิ่งทำให้เขาปวดใจเป็นร้อยเท่า “หวาน แกก็ด้วย พี่จะฟ้องคุณป้าแน่ ว่าพฤติกรรมแกเป็นแบบนี้ ไม่ต้องเป็นแล้วประธานนักรงนักเรียน”

“พี่กาย” หวานร้องออกมา หน้าเหมือนจะร้องไห้ “หนูไม่ได้ตั้งใจจะให้มันลงเอยแบบนี้นะ หนูแค่จัด...”

“ชู่ว์” ปลาคาร์พทำเสียงบอกให้หวานหยุดพูด “พี่รีบพาน้องไปส่งโรงพยาบาลเหอะ เดี๋ยวทางนี้ผมดูแลเอง”

“แบงค์” ท็อปเรียก เสียงสั่นเครือ แต่ไร้วี่แววการตอบรับจากแบงค์ พี่กายและเพื่อนๆรีบพาตัวแบงค์ไปขึ้นรถแท็กซี่ที่หน้าโรงเรียน ยังดีที่ตอนนี้ฝนซาลงไปบ้างจึงพยายามหาที่ร่มเลาะไปได้พอสมควร

ท็อปพยายามวิ่งตามแต่เพื่อนพี่กายก็ผลักท็อปให้กระเด็นออกไป ไม่ให้เข้ามาใกล้ ส่วนปลาคาร์พก็รีบฉุดเพื่อนรักของตนเข้าที่ร่ม เพราะท็อปพยายามจะวิ่งไปหาแบงค์ให้ได้ จนกระทั่งแบงค์ขึ้นรถแท็กซี่จากไปโดยไม่หันมามองเขาอีกเลย เมื่อหาที่ระบายลงไม่ได้ เขาจึงซัดเข้าไปที่หน้าของคาร์พเป็นการแก้แค้นคืน แต่ปลาคาร์พไวกว่า ไหวตัวหลบทัน

“มึงจะหลบกูทำไมไอ้คาร์พ มึงมาให้กูชกหน้ามึงดีๆเลย มึงไปต่อยน้องทำไม กูไม่ได้ขอให้มึงมาช่วยสักหน่อย”

“กูเป็นห่วงมึง กูช่วยมึง นี่กูเลวมากเลยใช่ไหมวะ” คาร์พโวยวาย

“หวานก็เหมือนกัน ทำไมทำแบบนี้กับเรา ? แล้วทำไมจู่ๆแบงค์ถึงโผล่มาที่ห้องพยาบาลได้ยังไง ? มันเรื่องอะไรกันแน่ มันเป็นแผนของหวานหรือเปล่า หรืออะไรกันแน่ เล่นเหี้ยอะไรกันวะ” ท็อปโวยวาย ทรุดลงกับพื้น กุมหัวตัวเอง ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด

“เรา...ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้” หวานหันหน้าไปมองปลาคาร์พอย่างกังวล ไม่รู้จะสรรหาคำพูดอะไรออกมาดี “สถานการณ์มันพาไป”

“มึงไปด่าหวานก็ไม่ถูกนะ ไอ้ท็อป มึงเป็นผู้ชาย มึงไปทำเขา เขาก็เสียหาย แบบนี้แล้วมึงยังไปหาว่าเขาเป็นคนผิดอีกเหรอวะ” ปลาคาร์พตะคอก หวานน้ำตาซึมอยากจะร้องไห้ออกมาบ้าง เธอไม่คิดเลยว่า แผนที่พวกเขาคิดกันมันจะเลยเถิดออกไปจนเป็นแบบนี้ “มึงต้องรับผิดชอบ”

“กูไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น” ท็อปบอกห้วนๆ แล้วเดินกลับไปคว้าเป้ของตัวเองในห้องพยาบาลแล้วเดินกลับออกมาอย่างรวดเร็ว

 “ใครมาขวางกูไม่ให้ไปหาแบงค์อีก กูซัดไม่ยั้งแน่” ท็อปขู่เมื่อเห็นคาร์พตั้งท่าจะพูดอะไรออกมาอีก

“ไอ้ท็อป มึงมันจะเหี้ยเกินไปแล้วนะเว้ย มึงเป็นคนก่อเรื่องพวกนี้ขึ้นมาหมดเลยนะ ถ้ามึงยั้งใจตัวเองเป็นสักนิด มันจะเกิดแบบนี้ไหม มึงไม่เคยยั้งตัวเองแม้แต่นิดเดียว พอเกิดปัญหามึงก็ดีแต่โทษว่าคนอื่นผิด มึงเคยโทษตัวเองบ้างไหม? ถ้ามึงไม่เห็นแก่คนอื่นก็หัดเห็นแก่ตัวเองบ้างเหอะ” ปลาคาร์พพยายามพูดด้วยเหตุผล

“กูไม่อยากอธิบาย กูก็เป็นของกูยังงี้ มึงรับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาเป็นเพื่อนกู” ท็อปบอกยื่นหน้ามาตะคอกใส่

“ไอ้ท็อป กูบอกมึงมาตลอดว่ากูรักมึง มึงเคยเห็นกูมั่งไหม กูทำเพื่อมึงไปเท่าไรบ้างแล้วที่ผ่านมา มึงมีปัญหากูเคยทิ้งมึงเหรอถามหน่อย” ปลาคาร์พบอกกลับ ขมวดคิ้ว ริมฝีปากสั่นเพราะเขาก็กำลังระงับความโกรธอยู่เช่นกัน

ท็อปไม่พูด แต่ด้วยโทสะที่ยังเดือดพล่านเขากระชากคอเสื้อของปลาคาร์พ แต่ปลาคาร์พไม่ตอบโต้ “กูไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้วตอนนี้ ทุกอย่างในชีวิตกูมันพังเละไม่เป็นท่าไปหมดแล้ว โลกทั้งใบของกูมันถูกทำลายไปแล้ว มึงเข้าใจไหม ถ้ามึงรักกู มึงช่วยอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้กูอยู่คนเดียวสักพักเป็นพอ”

ปลาคาร์พหยุดชี้แจงต่อ ได้แต่จ้องมองเข้าไปในดวงตาของท็อป หนนี้ไม่เหมือนกับหนก่อนๆที่ท็อปเคยเสียใจในเรื่องความรัก ปลาคาร์พสัมผัสได้ถึงความเกลียดและความโกรธ ความผิดหวัง เสียใจ อยู่ในดวงตาคู่นี้ แล้วท็อปจึงปล่อยมือแล้วรีบเดินฝ่าฝนออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามองทั้งคู่อีก

“เรื่องมันบานปลายไปใหญ่แล้ว เราไม่คิดว่าถึงขนาดพี่กายต้องมารับรู้เรื่องนี้ด้วย” หวานบอกเธอร้องไห้ออกมาด้วยความกังวล

“เราจะทำยังไงกันต่อดีล่ะ ปลาคาร์พ แบบนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆแล้วนะ ท็อปจะเกลียดเราไปจนตายเลยล่ะ เพราเราเป็นสาเหตุทั้งหมดของเรื่องไปแล้ว”

“ช่างมันเหอะ หวาน” ปลาคาร์พปลอบ “อย่าไปคิดมาก ยังไงท็อปมันก็ผิดเต็มๆ เธอยังอ้างกับคนอื่นได้ว่า เธอขาเจ็บอยู่แล้วท็อปก็ฉวยโอกาสกับเธอ ยังไงเป็นผู้หญิงมันหาวิธีโบ้ยลงผู้ชายได้อยู่แล้วแหละ ใครๆก็รู้จักนิสัยไอ้ท็อป ไม่มีใครเข้าข้างมันหรอก เหลือก็แค่เรื่องถึงหูอาจารย์สายัณห์เท่านั้นแหละ”

“แย่แน่ๆเลย แค่คิดเราก็กลัวแล้ว นี่เรากำลังเอาตำแหน่งประธานนักเรียนมาเดิมพันกับอะไรเนี่ย แย่ที่สุดเลย ทำไมเราไม่คิดหน้าคิดหลังก่อนนะ” หวานบอกเช็ดน้ำตาออก

ปลาคาร์พยิ้มน้อยๆที่มุมปาก ยังไงตอนนี้สำหรับปลาคาร์พ ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน ท็อปไม่มีเพื่อนคนอื่นที่จะคอยรับฟังเหมือนเขา  สุดท้ายแล้วท็อปก็ต้องกลับมาหาเขาอยู่ดี ส่วนเด็กม.4 อย่างแบงค์ก็คงเกลียดท็อปไปเลยตามอย่างที่เขาคิดไว้ เพราะเห็นท็อปไปนัวเนียผู้หญิงในสภาพนั้น คงรับไมได้เหมือนกันที่จะกลับมามีความสัมพันธ์ด้วย ตอนนี้ที่เหลือที่ต้องจัดการก็คืออารมณ์ของท็อปว่าจะไปในทิศทางไหน แล้วเขาจะเข้าหาท็อปได้อย่างไร แต่ตอนนี้คงต้องปล่อยให้ท็อปลดดีกรีความโกรธลงไปด้วยตัวเอง

ท็อปรีบวิ่งไปที่มอเตอร์ไซค์ของตัวเองที่จอดไว้ เสื้อกันฝนของแบงค์และเขายังคงถูกวางพับไว้อย่างดีใต้เบาะ เขาได้แต่ยืนมอง ไม่นำมันออกมาสวม แต่ไม่ทันที่เขาจะได้ออกรถ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“ท็อป อยู่ไหนแล้วลูก มาหาพ่อที่ห้องพักครูหน่อยซิ” เสียงอาจารย์สายัณห์โทรเข้ามาหาเขา

“พ่อมีอะไรรึเปล่า ผมมีธุระ” ท็อปบอกห้วนๆ

“ธุระอะไร ฝนก็ตกแบบนี้ มาช่วยพ่อทำเอกสารก่อน ไม่อยากได้ค่าขนมเดือนนี้หรือไง รีบมาไวๆ” พ่อรบเร้า

“วันนี้ท็อปมีธุระจริงๆครับ พ่อ ไว้วันหลังจะมาช่วยก็แล้วกัน” ท็อปบอกกำลังจะตัดสายแต่ปลายสายก็ยังเรียกเขาอยู่

“ท็อปไม่ได้กลับมานอนบ้านหลายวันแล้วนะลูก ... มีปัญหาอะไรหรือเปล่า  หรือพ่อไปทำอะไรให้ลูกไม่พอใจอีก?” พ่อถามกลับ ทั้งคู่เวลาอยู่ต่อหน้ากันมักจะไม่ได้ค่อยได้คุยกันตามประสาพ่อลูกสักเท่าไร จึงใช้โทรศัพท์เป็นตัวสื่อสารแทน

“เปล่าครับ ท็อปมีธุระจริงๆ ไว้ค่อยคุยนะครับพ่อ วันนี้ท็อปอาจจะกลับดึกหน่อย แค่นี้ก่อนครับ” ท็อปบอกรีบตัดสาย แล้วเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกง

“เดี๋ยวก่อน ท็อป ท็อป” อาจารย์สายัณห์ร้องเรียก แม้จะรู้ว่าท็อปได้ตัดสายโทรศัพท์ไปแล้ว เขายังคงนั่งมองรูปท็อปสมัยอยู่ประถมยืนยิ้มแฉ่งถือไม้แบดมินตันอันเล็กๆด้วยความร่าเริง ที่วางไว้ใกล้ๆ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะบนโต๊ะทำงานของเขา พลางถอนหายใจ เขายังรู้สึกผิดอยู่เสมอที่ทำไม่ดีกับภรรยาของตน ในวัยเด็กช่วงที่พี่ท็อปถูกแยกจากแม่ใหม่ๆ เขากลายเป็นเด็กซึมเศร้าและมีพฤติกรรมชอบความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะดูแลเอาใจด้วยวิธีไหน ท็อปก็ปฏิเสธพ่อและร้องหาแม่มาตลอด

นับตั้งแต่พ่อต้องดูแลท็อปโดยลำพังเขาจึงเลิกพฤติกรรมเจ้าชู้ประตูดินและให้ความสำคัญกับการอยู่ดูแลลูกและเข้าใจอย่างชัดเจนว่าการเลี้ยงดูลูกให้โตขึ้นมาได้นั้นมันยากเย็นแค่ไหน นิภาผู้เป็นแม่ของท็อปคงต้องพยายามอย่างมากที่จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยเฉพาะการดูแลลูกชายคนเดียวคนนี้ในวัยเด็ก แต่ในเมื่อทุกอย่างได้ถูกตัดสินในชั้นศาลไปหมดแล้ว พ่อของท็อปจึงต้องพยายามเปลี่ยนแปลงทุกอย่างและทำทุกวิถีทางเพื่อให้ท็อปได้สิ่งที่ดีที่สุด เมื่อท็อปมีปลาคาร์พเป็นเพื่อน นิสัยของเขาจึงค่อยๆสงบลง แม้ว่าจะอายุเท่ากันแต่ปลาคาร์พมีความใจเย็นมากกว่าเหมือนเป็นพี่คอยดูแลท็อปอยู่ไม่ห่าง และทั้งสองคนนี้จึงกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด ท็อปเริ่มว่านอนสอนง่ายมากขึ้นและค่อยๆลืมเรื่องราวอันเจ็บปวดในวัยเด็ก
รูปท็อปรูปนี้ของพ่อเตือนใจเขาเสมอว่าไม่มีสิ่งอื่นใดแล้วที่จะสำคัญมากเท่ากับลูกชายสุดที่รักของเขาคนนี้

ส่วนท็อปเมื่อสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ได้ก็รีบบึ่งไปตามรถแท็กซี่ เผื่อจะได้รู้ว่าแบงค์ไปอยู่ที่โรงพยาบาลไหน เขาปฏิญาณไว้ในใจแล้วว่า

“พี่ผิดไปแล้ว ให้อภัยพี่เถอะนะ”

จบบทที่ 21 ตอนต่อไปมาวันจันทร์เหมือนเดิมครับ
(อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเมนต์ให้กำลังหน่อยนะครับ T^T)



** นอกจากนี้ เพื่อนผมเป็นผู้วิเศษเพิ่มตอนใหม่แล้วนะครับ เชิญไปอ่านได้ตามสบายเลยครับ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีปลาคาร์พเลวที่สุด. ชั่วมากๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
คาร์ฟแอบมาเหนือเฆม มองดีๆ กำจัดหวานทางอ้อมได้ไปในตัวด้วย

เหลือแค่ท็อปแล้วแหละ จะเคลียร์ยังไงให้ลงตัว ส่วนแบงค์...เหยื่อดีๆ นี่เอง

รออ่านต่อครับ^^

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ขนมถ้วยฟู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :m15: :monkeysad: ตอนนี้พีกมากกกกกกกกกกกกก .....
ตัวละครที่เคยเชียร์อย่างพี่ปลาคาร์พกลายเป็นเผยสันดานออกมาซะเต็มที่เลย
..... พี่ท็อปจะเอาไงต่อดีเนี่ย .....  :sad11: :monkeysad:

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 22
สายฝนและคำอ้อนวอน


เมื่อไปถึงโรงพยาบาล แบงค์ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากอาการเลือดไหลไม่หยุดด้วยการประคบเย็นให้เลือดแข็งตัว พี่กายรีบจัดแจงทุกอย่างให้เรียบร้อยโดยที่แบงค์นั่งรออยู่ที่รถเข็นพร้อมนางพยาบาลที่คอยดูแลอยู่ข้าง ๆ เพื่อรอหมอมาดูอาการ

“เลือดยังไม่หยุดไหลอีกเหรอเนี่ย?” นางพยาบาลทักขึ้นเมื่อประคบเย็นมาหลายนาทีแล้วแต่เลือดของแบงค์ยังคงไหลออกมาเรื่อย ๆ “หนูเคยเลือดไหลไม่หยุดแบบนี้บ้างไหม?”

แบงค์พยักหน้าช้าๆ เพราะเขายังอยู่ในสภาพที่ต้องเงยหน้าอยู่ตลอดเวลาเลยทำให้พูดออกมาลำบาก “ผมเคยโดนรถเฉี่ยวครั้งนึงตอนอยู่เหนือ ตอนนั้นแค่หัวแตกแต่ก็นอนโรงพยาบาลหลายวันเหมือนกันครับ เพราะเลือดไหลไม่หยุด”

“หนูมีแนวโน้มจะเป็นคนเกล็ดเลือดต่ำนะ” นางพยาบาลบอกสีหน้าเครียด “เดี๋ยวอาจจะต้องให้คุณหมอวินิจฉัยแล้วพาไปเจาะเลือดตรวจดู ว่ามีอาการรุนแรงแค่ไหน”

“เป็นยังไงบ้างครับ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว น้องผมเลือดหยุดไหลรึยังครับ?” พี่กายถามเมื่อเดินกลับมาหลังจากติดต่อเรื่องเอกสารกับทะเบียนเสร็จเรียบร้อย

“เลือดยังไหลไม่หยุดเลย เดี๋ยวรบกวนน้องรออยู่ตรงนี้สักแป๊บนึง ช่วยพี่เข็นพาน้องคนนี้เขาไปพบแพทย์กับพี่นะคะ จะได้เอาทะเบียนที่ขึ้นเสร็จไปด้วยเลย” นางพยาบาลบอก แล้วปล่อยให้แบงค์จับถุงเจลเย็นประคบตนเอง

“เรื่องมันเป็นไงมาไงเนี่ยแบงค์ ถึงโดนเขาต่อยจนจมูกเกือบหักแบบนี้” พี่กายถามขึ้นเมื่อสบโอกาส

“แบงค์ไม่อยากพูดถึงมันเลย พี่กาย ขอแบงค์อยู่เงียบๆดีกว่า” แบงค์บอก

“คุณเจนภพ รัชตะไพบูลย์ค่ะ” เสียงพยาบาลที่หน้าห้องตรวจเรียกขึ้นมา พร้อมกับพี่พยาบาลคนเดิมเดินกลับมารับ “น้องจะรอเพื่อนข้างนอกหรือจะเข้าไปด้วยกัน? พี่เห็นว่าผู้ปกครองน้องไม่ได้มาด้วย เผื่อว่าจะได้ฟังคุณหมออธิบายอาการแทน” พี่พยาบาลถาม

“ไปด้วยก็ได้ครับ ผมก็อยากรู้ว่าทำไม เขาเลือดไหลออกมาไม่หยุดมากขนาดนี้” พี่กายบอก “จะให้พี่ช่วยโทรไปบอกแม่แบงค์ไหม?”

“ไม่เอานะพี่กาย แม่แบงค์ไปสัมมนาที่ชลบุรีอยู่ แบงค์ไม่อยากให้แม่เป็นห่วง เดี๋ยววันอาทิตย์แม่ก็กลับมาแล้ว” แบงค์ค้าน พี่กายพยักหน้าเป็นเชิงรับทราบแล้วเข็นน้องเข้าไปพบคุณหมอ

เมื่อคุณหมอได้ตรวจโพรงจมูกและให้แบงค์ปล่อยมือจากจมูกที่จับไว้ แม้เลือดจะไม่ไหลออกมามากเท่าตอนแรกแต่ก็ยังซึมและไหลออกมาเรื่อย ๆ คุณหมอจึงค่อยๆกดตามสันจมูกแบงค์เบาๆ เพื่อดูสภาพกระดูกอ่อนว่ามีการกระทบกระเทือนตรงไหนบ้างไหมจนเป็นสาเหตุให้เลือดไหลไม่หยุดแบบนี้

“หนูปวดสันจมูกไหมเวลาหมอจับ” หมอถาม แล้วส่องไฟดูในโพรงจมูกเพิ่มเติม

“ไม่ครับ ปกติ แต่ปวดที่ตัวจมูกมากกว่าครับ” แบงค์ตอบ เลือดยังคงหยดลงออกจากจมูกอีกรอบ นางพยาบาลจึงหาสำลีและกระดาษทิชชูมาให้ซับเลือดไว้

“งั้นแสดงว่าดั้งไม่น่าหัก แต่ก็น่าจะลองเอ็กซเรย์ดูนะว่ามีอะไรกระเทือนหรือเปล่า หนูมีประวัติเรื่องเลือดไหลไม่หยุดแบบนี้บ้างไหม?” หมอถามข้อมูลเพิ่มพลางจดสองสามอย่างลงสมุดระเบียน

“ก็เคยมีหัวแตกแล้วต้องนอนโรงพยาบาลนานๆเพราะเลือดไม่หยุดนี่เหมือนกันครับตอนเด็กๆ แต่ส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยได้เป็นแผลอะไรเท่าไรก็เลยไม่ได้ตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล” แบงค์อธิบาย

“งั้นตรวจเลือดด้วย หมอกลัวว่าหนุ่มจะเป็นฮีโมฟีเลียหรือเปล่า เลือดไหลไม่หยุดขนาดนี้” หมอบอก “แต่เท่าที่ฟังๆมาหนุ่มจะเลือดไหลไม่หยุดเฉพาะตอนที่มีแผลใช่ไหม ? ก็น่าจะไม่รุนแรงมาก อาจจะแค่เกล็ดเลือดต่ำเท่านั้น”

“ถ้าเป็นโรคนี้รุนแรงมันจะทำไมเหรอครับหมอ?” แบงค์ถาม

“ก็ประมาณว่าเลือดสามารถออกทั้งในร่างกายและนอกร่างกายได้เองโดยที่ไม่มีสาเหตุ คนที่เป็นโรคนี้ก็มีที่เลือดออกในสมองเองแล้วเสียชีวิตก็มี ถ้าถามหมอว่าอันตรายไหม? ถ้ารุนแรงจริงๆก็อันตรายแต่ถ้าไม่ได้เป็นถึงขนาดนั้น เกิดมีแผลใหญ่ๆทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด คนไข้ก็ต้องมาฉีดสารที่ร่างกายขาด เพราะปกติเวลาร่างกายเรามีเลือดออกจะมีสารที่เป็นแฟ็คเตอร์สร้างลิ่มเลือดเพื่อหยุดเลือดอยู่ในเลือด คนเป็นฮีโมฟีเลียมักจะขาดตัวใดตัวหนึ่งคือแฟ็กเตอร์ 8 กับ 9 ถ้าตัวไหนเธอขาดก็ต้องฉีดแฟ็กเตอร์ตัวนั้นเพิ่มเข้าไปเพื่อให้ร่างกายมีแฟ็กเตอร์ไปสร้างลิ่มเลือดขึ้นมานั่นแหละ และที่สำคัญโรคนี้ไม่มีวันหายขาด มันอยู่ในพันธุกรรมมาตั้งแต่เกิด และพบในผู้ชายเท่านั้น ส่วนผู้หญิงเป็นเพียงพาหะที่ทำให้รุ่นลูกเป็นต่อไปด้วยนะ”

“ฟังดู...น่ากลัวจังเลยครับหมอ แบบนี้ก็ต้องระวังไม่ให้เป็นแผลเลยน่ะสิครับ” พี่กายพูดขึ้นมาเมื่อฟังคำวินิจฉัยเหล่านี้

“อย่าเพิ่งตัดสินไป หมอยังไม่ได้เอาเลือดไปตรวจเลย แค่อธิบายให้ฟังเฉยๆ ว่าโรคแบบนี้มันก็มีนะ แต่คนเป็นน้อยมาก ถ้าหนุ่มเจอแจ็คพ็อตเป็นขึ้นมาจริงๆ ก็ต้องระมัดระวังเรื่องแผลเลือดออกให้มากๆเลย” หมอบอก “งั้นเดี๋ยวให้ไปตรวจเลือดนะ หมอจะส่งเลือดให้แล็ปตรวจ สักวันเสาร์ก็มาดูผลว่าเป็นยังไง ตอนนี้เหมือนอาการจะค่อยๆดีขึ้นแล้ว ยังไงก็ประคบเย็นไปเรื่อยๆก่อน หมอจะสั่งยาไว้ให้” หมอบอกยิ้มๆ

“ครับ ขอบคุณมากครับ” แบงค์บอกแล้วไหว้หมอ ก่อนจะถูกพี่พยาบาลรับช่วงต่อจากพี่กายเข็นไปเอ็กซเรย์และตรวจเลือด

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว กับเลือดที่ยังหยดอยู่บ้าง คุณหมอจึงเรียกแบงค์เข้าไปคุยอีกครั้งเมื่อดูฟิล์มเอ็กซ์เรย์และพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ จะมีก็แต่เรื่องเลือดซึ่งต้องรอแล็ปตรวจละเอียด วันเสาร์เท่านั้นถึงจะได้รู้ว่าเขามีอาการของโรคที่ว่านั่นหรือไม่
“หิวข้าวรึยัง?” พี่กายถาม ในขณะที่ทั้งคู่ออกมาจากโรงพยาบาลราวๆ สามทุ่มแล้ว ฝนยังคงตกอยู่พรำๆ แม้จะไม่หนักมาก แต่ก็ทำเอาน้ำท่วมซอย รถแท็กซี่เคลื่อนตัวอย่างช้าๆเพราะรถที่ติดอยู่

“แบงค์ไม่หิวเลยครับพี่” แบงค์บอกเสียงหงอย ๆ

“ยังทำใจไม่ได้เหรอ? หืม?” พี่กายถามหันหน้ามามองรุ่นน้องอย่างเป็นห่วง แบงค์ค่อยๆพยักหน้า น้ำตาค่อยๆรื้นขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเองแหละ พี่ก็อยู่ข้างๆแล้ว จะได้ไม่ต้องคิดมาก”

“แล้วคืนนี้พี่กายจะกลับยังไงล่ะครับ ?” แบงค์ถามยังคงเอากระดาษทิชชูซับจมูกอยู่

“ไม่กลับครับ พี่จะอยู่เป็นเพื่อน ยังไงให้มันผ่านคืนนี้ไปก่อน พรุ่งนี้เช้าพี่ค่อยวิ่งกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านตอนเช้าก็ได้ ถ้าแบงค์ไหวก็ไปโรงเรียนด้วยกัน ถ้าไม่ไหวก็นอนพักผ่อนไปสักวันก็ได้”

“กวนพี่กายอีกแล้ว ขอบคุณมากนะครับพี่” แบงค์บอกสำนึกในบุญคุณของพี่กายจับใจ “ถ้าไม่ได้พี่กายนี่แบงค์แย่แหงๆเลย”

“ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยพี่ก็ทำให้แบงค์รู้ว่าพี่น่ะ พึ่งพาได้นะ” พี่กายบอกยิ้มๆ “งั้นเย็นนี้ในบ้านมีของสดไหม?”

“พวกผัก เนื้ออะไรแบบนี้น่ะเหรอครับ?” แบงค์ถาม

“อือ ใช่ พี่จะดูว่ามีอะไรพอทำเป็นข้าวเย็นให้กินได้บ้าง” พี่กายบอก

“ก็มีอยู่นะครับ แต่พี่กายทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอเนี่ย” แบงค์ถามกลับ รู้สึกประหลาดใจ “คนอะไรความสามารถเยอะจัง”

“ทำกับข้าวนี่เป็นเรื่องปกติของบ้านพี่นะ แม่พี่สอนให้ทุกคนต้องทำกับข้าวเป็น พี่โดนใช้ให้ช่วยงานในบ้านตั้งแต่อยู่ป.1 เลย เริ่มจากทำอะไรเล็กๆน้อยๆก่อนแล้วก็ทำมากขึ้น ๆ เพราแม่พี่เคยเป็นแม่ครัวในโรงแรมมาก่อน ที่บ้านพี่เลยมีเมนูแปลกๆที่แม่คิดให้กินอยู่เรื่อยๆเลย” พี่กายอธิบาย

“โห...สุดยอด น่าอิจฉาจังเลย แบบนี้ไม่อ้วนกันแย่เหรอพี่” แบงค์ถามอย่างตื่นเต้น

“อ้วนไหม ตอนเด็กๆพี่นะอ้วนเป็นหมีเลยแหละ พอมาเรียนม.ปลายก็หมั่นออกกีฬา ยกเวท ว่ายน้ำ เล่นแบด วิ่งทุกเช้า ตอนนี้ผ่านมาสามปีก็หุ่นเท่านี้แหละ ผอมแล้วก็มีกล้ามด้วยนะ” พี่กายบอก ยักคิ้วให้

เมื่อแท็กซี่มาจอดถึงหน้าบ้าน แบงค์จึงรีบพาพี่กายเข้ามาในบ้าน เพื่อไม่ให้โดนฝนกันมากมาย ทันทีที่พี่กายเข้ามาในบ้านก็รีบเดินตรงเข้าไปในครัวแล้วรื้อเอาผักกาด เต้าหู้กับของที่พอจะทำเป็นแกงจืดง่ายๆออกมา

“เดี๋ยวแบงค์ช่วยนะ พี่กาย” แบงค์เดินตามเข้ามาในครัวในขณะที่เห็นพี่กายกำลังหาอุปกรณ์ทำครัวต่าง ๆ

“อือ เอาสิ ถ้าแบงค์ไหว เลือดไม่ออกแล้วใช่ไหม?” พี่กายถามกลับ

แบงค์ชี้ไปที่กระดาษทิชชูที่ยัดจมูกเอาไว้ “แบงค์ทำแบบนี้แล้ว ตอนนี้มันไม่น่าจะซึมออกมาแล้วล่ะ”

“โอเคเลย งั้นเดี๋ยวหุงข้าวให้พี่นะ ส่วนอย่างอื่น พี่จัดการเอง” พี่กายบอก ส่วนแบงค์ก็พยักหน้ารับ

พี่กายเป็นคนทำอาหารได้คล่องแคล่วมาก เพราะแบงค์สังเกตจากการใช้มีดของพี่กายและการเตรียมข้าวของสำหรับทำอาหาร แม้จะเป็นแกงจืดเต้าหู้ธรรมดาๆ ไข่ทอดใส่แครอทกับหมูสับที่ดูว่าใครๆก็ทำได้ง่าย ๆแต่กลิ่นหอมอวลของการปรุงและความว่องไวในการจัดเตรียมก็ถือว่าพี่กายดูชำนาญไม่น้อย

“พี่อยากรู้ ว่าแบงค์รักท็อปจริงๆหรือเปล่า?” พี่กายถามขึ้นมาในขณะที่เอาซุปหมูก้อนไปต้มในน้ำเดือด “พี่สังเกตว่าแบงค์ชอบทำตัวห่างเหินเหมือนไม่สนิทสนมกันกับท็อปมากมายอะไรกันเลย”

แบงค์ถอนหายใจ การพูดถึงพี่ท็อปในเวลานี้เหมือนกับการเอามีดกรีดลงกลางหัวใจของเขา “พี่กาย....ทำไมถึงถามเรื่องพี่ท็อปอีกล่ะ แบงค์บอกแล้วไงว่าไม่อยากจะตอบ”

“ขอโทษนะที่พี่ถาม พี่แค่อยากจะช่วยให้แบงค์เคลียร์ความรู้สึกตัวเอง บางทีการพูดออกมาบ้างมันก็ดีกว่าการเก็บเอาไว้ แล้วจมจ่อมอยู่กับความทุกข์ ยังไงถ้าแบงค์เล่ามาได้ก็เล่ามาเถอะ” พี่กายบอกหันหน้ามามองแบงค์ที่กำลังจะหาที่ตวงข้าวมาเทใส่หม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่วางตั้งอยู่ใกล้ๆ

“ความรักมันคืออะไร แบงค์ก็ไม่ค่อยเข้าใจมากมายหรอกครับพี่กาย ที่ผ่านมาพี่ท็อปเขาดีกับแบงค์ แม้ว่าตอนแรกที่เราเจอกันอาจจะไม่ใช่เรื่องดีๆที่น่าจดจำ แต่ว่าพี่ท็อปเขาก็พยายามพิสูจน์ตัวเองว่าพี่เขาอาจจะรักแบงค์จริงๆ แต่ความรักของแบงค์กับความรักของพี่ท็อปอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ แบงค์เห็นว่าในเมื่อพี่เขาดีกับเราขนาดนี้ เราก็ควรจะรักพี่เขาตอบจริงไหมล่ะครับ? อีกอย่างแบงค์แสดงออกไม่ค่อยเก่ง แค่พี่เขาขอให้บอกรักตอบแบงค์ยังไม่กล้าเลย แถมต้องคอยหลบๆซ่อนๆเพราะพอมีเรื่องพ่อพี่ท็อปเข้ามาเอี่ยวด้วยแบงค์ยิ่งไม่กล้าแสดงออกอะไรมาก กลัวจะทำให้พี่เขามีปัญหาเพราะเรื่องระหว่างเรา” แบงค์บอก

“อืม ก็คงเป็นความรู้สึกดีๆที่มีให้กันสินะ” พี่กายเสริม แล้วจึงนำเนื้อหมูสับละเอียดลงไปต้ม

“ถึงแบงค์จะบอกพี่ท็อปตลอดว่า แบงค์รักพี่ท็อป แต่ก็รู้ว่าจริงๆแล้ว มันก็แค่คำพูดที่รู้ว่าคนฟังอยากฟังก็เลยเหมือนพูดส่งๆ ออกไป มันยังไม่ใช่ความรู้สึกจริงๆที่ออกมาจากข้างใน แบงค์ถึงบอกว่าความรักของแบงค์ที่ให้กับพี่ท็อปมันอาจจะไม่มากเท่ากับที่พี่ท็อปให้แบงค์มาก็ได้ แบงค์เพิ่งมารู้สึกว่าตัวเองคิดถึงพี่ท็อปจริงๆจังๆก็ตั้งแต่พี่กายเข้ามาเนี่ยแหละ ขอโทษนะครับที่อาจจะทำให้รู้สึกไม่ดี พอพี่ท็อปออกปากจะให้พี่แข่งกับเขา แล้วแบงค์ต้องเลือกระหว่างพี่กายและพี่ท็อป แบงค์ไม่อยากจะเลือกใครเลยด้วยซ้ำตั้งแต่แรก แบงค์ไม่ชอบปัญหา ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มากลายเป็นปัญหาชีวิต และรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นของเล่นของพี่ท็อปมากขึ้น ๆ มากกว่าจะเป็นคนที่พี่เขารัก
แต่พอไม่มีพี่เขาอยู่จริงๆ แบงค์ถึงรู้ว่า แบงค์คิดถึงพี่เขาอย่างที่ตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งหัวใจและร่างกายเริ่มเรียกร้องหาพี่ท็อป เหมือนอะไรบางอย่างในชีวิตขาดหายไป ถึงจะมีพี่กายเข้ามาทำให้ไม่เหงาอยู่บ้าง แต่มันก็ยังรู้สึกว่ามันแทนกันไม่ได้ และเริ่มเข้าใจแล้วล่ะว่าสิ่งที่แบงค์รู้สึกมันไม่ใช่แค่ความผูกพัน แต่มันคือความรักนั่นแหละที่ค่อยๆก่อตัวขึ้นมาอย่างช้า ๆ แบงค์ไม่ใช่คนรักใครง่ายและยิ่งคนที่เคยทำไม่ดีด้วยตั้งแต่แรกแบบพี่ท็อป มันยากจริงๆที่จะเปลี่ยนความรู้สึกเหล่านั้นมาเป็นความรัก” แบงค์อธิบาย ตาก็มองดูพี่กายทำอาหารมือเป็นระวิง

“แบงค์ยังเด็กอยู่ ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมาก ไม่ต้องรีบร้อนหรอก” พี่กายตอบยิ้มๆ แล้วใส่เต้าหู้ลงไปในขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะยกลงจากเตา

“พี่กายฟังแบงค์เล่าแบบนี้แล้ว ยังจะชอบแบงค์อยู่ไหม?” แบงค์ถามกลัวคำตอบจับใจ

“ชอบสิ” พี่กายบอกตรงๆ “มันทำให้เห็นว่าแบงค์ไม่ได้รักใครแบบฉาบฉวย แบงค์ค่อยๆให้เวลากับมัน ให้ความผูกพันซึมซับเข้ามาเรื่อยๆ จนพัฒนาเป็นความรู้สึกแบบตอนนี้กับท็อป พี่บอกได้เลยว่านี่แหละคือความรักล่ะ”

แบงค์นิ่งเงียบ น้ำตารื้นออกมาจนต้องแอบเช็ด

“มันเลยยิ่งเจ็บมากสินะ พอมาเจออะไรแบบนี้ ในวันที่ความรู้สึกเหล่านั้นถูกเติมจนเต็ม ท็อปเหมือนเหยือกน้ำที่พร้อมจะเทใส่แก้วของแบงค์ และแบงค์ก็ค่อยๆรับน้ำนั้นมาเรื่อยๆจนตอนนี้พี่ว่ามันคงเต็มล้นปรี่เลยล่ะกับความรู้สึกที่แบงค์มีให้ท็อป พี่อยากขอโทษที่เข้ามาเอี่ยวกับความสัมพันธ์ของแบงค์กับท็อปนะ พี่ไม่น่าตื๊อเลย เหมือนไปก่อความแตกแยกให้กับความสัมพันธ์ของพวกเรา” พี่กายบอก “พี่เริ่มสนใจแบงค์หลังจากแข่งแบดมินตันแล้ว ว่าเราสองคนมีความสัมพันธ์อะไรกันยังไงแล้วก็สืบรู้ว่าเราสองคนน่าจะเป็นแฟนกัน พี่ก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อว่าท็อปมันจะมาชอบผู้ชาย พี่เห็นมันมาตั้งแต่เข้าม.1 ใครๆก็รู้จักลูกอาจารย์สายัณห์ นิสัยแสบๆ แต่ดันเรียนเก่งกับกีฬาโดดเด่นแถมป๊อบปูล่าร์ เลยพาลเอาสาวๆหลงกันหัวปักหัวปำ พี่เลยสนใจอยากจะลองรู้จักแบงค์ดูบ้างว่าอะไรทำให้ท็อปเปลี่ยนไป จนตอนนี้พี่เข้าใจแล้วล่ะ ว่าทำไม”

แบงค์ระเบิดโฮออกมา เอามือเช็ดตาเหมือนเด็กร้องไห้ ความรู้สึกที่อัดอั้นมาตั้งแต่ตอนเย็นนั้นหลั่งไหลพรั่งพรูออกมา เขาสะอื้นไห้เสียงดังอย่างควบคุมไม่ได้ “ขอโทษนะครับพี่กาย แบงค์ไม่อยากพูดถึงพี่ท็อปอีกแล้ว ทุกอย่างมันจบไปแล้ว สิ่งที่แบงค์มีให้พี่ท็อปตอนนี้มันคือของจริง แต่กับสิ่งที่พี่ท็อปทำให้แบงค์มันคือภาพลวงตา พี่เขาก็แค่เห็นแบงค์เป็นของเล่น คงไม่ได้รักแบงค์จริงๆอย่างที่พี่เขาเอาแต่พร่ำบอก พี่เขาก็แค่เห็นแบงค์เป็นเหมือนลูกไก่ในกำมือ อยากจะทำอะไรก็ได้ อยากจะขยำขยี้ให้ตายคามือยังไงก็ได้....” แบงค์บอก สะอื้นให้ไม่หยุดจนพี่กายต้องเขามากอดเอาไว้

“พี่ขอโทษจริงๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้น” พี่กายบอก กอดแบงค์แน่น แต่แบงค์ไม่ได้กอดพี่กายตอบ พยายามเช็ดน้ำตากับน้ำมูกผสมเลือดลงกระดาษทิชชู

“พี่กายไม่เกี่ยวหรอกครับ ดีแล้วแหละที่พี่กายมา ไม่อย่างนั้น แบงค์ก็คงไม่รู้หรอกว่าลับหลังแบงค์พี่เขาทำอะไรลงไปบ้าง ต่อหน้าพี่เขาอาจจะทำดีกับแบงค์แต่ลับหลังแบงค์ก็ไม่รู้ว่าพี่เขาเป็นคนยังไงอยู่ดี” เขาบอกยังร้องไห้ออกมาไม่หยุด

“ร้องไห้ออกมาเลย ร้องออกมาให้พอนะ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องร้องอีกแล้ว” พี่กายพูดเบาๆเสียงสั่นเครือเพราะสงสารน้องเหลือเกิน

“ที่สำคัญ พี่กายครับ ก่อนหน้านี้แบงค์ยังพูดว่ารักพี่ท็อปได้ไม่สนิทใจเท่าไร แต่พอพี่กายเข้ามามันทำให้แบงค์รู้ใจตัวเองมากขึ้นว่าแบงค์รักพี่ท็อปมาก ทั้งๆที่แต่แรกไม่รู้ใจตัวเองขนาดนี้แต่วันนี้รู้เลยว่ามันเจ็บมาก รู้เลยว่าแบงค์รักพี่เขาจริงๆ ไม่ใช่แค่พูดส่งเดชออกไปให้อะไรมันจบเหมือนที่ผ่านๆมา ความรักนี่มันเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง” เขาร้องไห้อย่างสะอึกสะอึ้นเสียงดัง กดหน้าลงกับหน้าอกของพี่กาย  น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ

พี่กายได้แต่กอดน้องเอาไว้ ในใจของเขาก็รู้สึกปวดร้าวอยู่เช่นเดียวกัน แน่นอนว่าเวลาอันสั้นที่ผ่านมาอาจจะไม่ได้ทำให้เขารักแบงค์ได้มากถึงขนาดที่ท็อปกับแบงค์มีให้กัน แต่ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่า เขามองความรักในแบบที่พี่คนหนึ่งจะสามารถมีให้น้องได้ แม้แบงค์จะไม่สามารถรักเขาตอบได้ในตอนนี้ แต่นับจากนี้ไปเขาตั้งใจว่าจะดูแลแบงค์เองไม่ให้เผชิญกับความเจ็บปวดแบบนี้อีก

เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ทั้งแบงค์และพี่กายชะโงกออกมาดูจากทางกระจก เพราะตกใจว่าใครมาหาในยามค่ำแบบนี้ แบงค์รีบปาดน้ำตาแล้วเดินไปที่ม่านเพื่อส่องดูว่าผู้มาเยือนเป็นใคร

ด้านนอกฝนยังตกอยู่พรำๆ แสงไฟจากรั้วส่องให้เห็นเด็กผู้ชายสวมเสื้อกันฝนจอดมอเตอร์ไซค์คันเดิมที่คอยมารับเขาเสมอๆทุกเช้า ส่วนเจ้าของรถก็เอาแต่รัวกระหน่ำนิ้วกดที่อ๊อดจนดังลั่นบ้าน

“แบงค์ แบงค์ ออกมาหาพี่หน่อย พี่อยากจะคุยด้วย แบงค์ ออกมาหาพี่หน่อย” เสียงท็อปตะโกนข้ามรั้วมาเสียงดัง

“พี่ท็อปมาแล้ว พี่กาย” แบงค์บอกแล้วรีบเดินกลับไปหาพี่กายที่ยืนส่องดูจากม่านอีกฟากของห้อง “แบงค์ไม่อยากคุยกับพี่เขาแล้ว พี่กาย ทำยังไงดี”

พี่กายหันหน้ามองแบงค์ที แล้วหันหน้าไปมองนอกหน้าต่างที ท็อปยังคงทำท่าชะเง้อเพื่อดูว่าแบงค์อยู่ที่บ้านหรือไม่ ฝนที่ยังตกกระหน่ำหนักขึ้นนั้นทำให้เขาเริ่มหนาวสั่น และจามออกมาเป็นระยะๆ แต่ก็ยังไม่หยุดตะโกน

“แบงค์ได้ยินพี่ไหม? แบงค์ พี่อยากให้เราออกมาเคลียร์กันก่อน เปิดประตูให้พี่หน่อย” พี่ท็อปยังไม่ลดละความพยายาม

“เดี๋ยวพี่จะออกไปรับหน้าเอง แบงค์รออยู่ในบ้านก็แล้วกันนะ” พี่กายบอก

“พี่กายอย่าทำอะไรพี่ท็อปนะพี่ ปล่อยพี่เขาไป แบงค์ไม่อยากให้ปัญหามันเรื้อรังอีกแล้วให้มันจบตรงนี้วันนี้ไปเลย” แบงค์บอกน้ำตายังคงไหลออกมาเรื่อยๆ

พี่กายหยักหน้าแล้วเปิดประตูออกไปเผชิญหน้ากับท็อป พี่กายเดินออกมายืนที่ระเบียงแต่ยังอยู่ในชายคาบ้านเพื่อไม่ให้ตัวเองโดนฝนตรง ๆ

“พี่กาย...” ท็อปอุทานเมื่อเห็นหน้ารุ่นพี่

“มึงมาทำไมวะ ไอ้ท็อป แบงค์หลับไปแล้ว มึงทำน้องเจ็บขนาดนี้แล้วยังมีหน้ามาถามหาน้องอีกเหรอ?” กายฉะใส่ส่งเสียงดังจนกลบเสียงฝน

“พี่กาย ผมอยากจะคุยกับแบงค์ ผมไหว้ล่ะพี่ ให้ผมเข้าไปได้ไหม” ท็อปอ้อนวอน “ผมไม่อยากให้อะไรมันจบแบบนี้”

“มันจบไปแล้วล่ะท็อป มึงไม่ได้ยินที่แบงค์เขาบอกมึงเหรอ ว่าไม่อยากเจอหน้ามึงแล้วน่ะ พี่ว่ามึงกลับไปเหอะ ต่อจากนี้ก็ถือเสียว่าแค่เป็นคนเคยรู้จักกันก็พอ” พี่กายโต้กลับ

“พี่ครับ ผมขอร้องล่ะ ให้ผมได้คุยกับแบงค์เถอะ ไม่งั้นคืนนี้ผมนอนไม่หลับแน่ๆ” พี่ท็อปบอกน้ำตาไหลออกมาปะปนกับน้ำฝนที่ไหลหยดลงมาเช่นกัน แล้วจามออกมาเสียงดังอีกรอบ

“นั่นมันปัญหาของมึงแล้วล่ะท็อป น้องมันบอกเองว่าไม่อยากยุ่งกับมึงตั้งแต่ตอนที่เจอภาพบาดตาแล้ว กูถามหน่อยเหอะ มึงทำแบบนี้กับแบงค์ได้ยังไง เนี่ยเหรอ ความรัก ที่มึงบอกน้องนักหนา มึงแสดงออกความรักด้วยวิธีแบบนี้เหรอ?”

“ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับพี่ ผมรู้ว่ามันอาจจะฟังดูงี่เง่า แต่ผมไม่ตั้งใจจะให้มันเป็นแบบนี้นะครับ” พี่ท็อปบอก รู้สึกข้อแก้ตัวของตัวเองนั้นฟังไม่ขึ้นเอาเสียเลย

“ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลยว่ะ ท็อป มึงกลับบ้านไปเหอะ เรื่องของมึงกับแบงค์มันจบไปแล้ว มึงรู้ไว้ซะด้วยนะ ว่ากูก็ไม่อยากเห็นหน้ามึงอีกเหมือนกัน มึงเหี้ยเกินคำบรรยายกูจริงๆ รอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อน กูจะไปฟ้องอาจารย์สายัณห์ เอาให้มึงเจ็บมากกว่าที่ทำกับแบงค์ร้อยเท่า” พี่กาย ตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น

“พี่จะต่อยจะชกผมก็ได้ แต่ผมขอคุยกับแบงค์เถอะนะครับพี่ ผมอยากขอโทษ ผมไมได้ตั้งใจ ผมรักน้องจริงๆนะครับพี่ ผมไหว้ล่ะพี่ ให้ผมเข้าไปหาน้องนะครับพี่” พี่ท็อปอ้อนวอน น้ำตาพรั่งพรูด้วยความเสียใจ “ผมรู้ดีว่าผมมันเหี้ย ผมมันเลว แต่ผมทำใจไม่ได้จริงๆถ้าต่อจากนี้แบงค์จะไม่อยู่กับผมแล้ว พี่ช่วยผมหน่อยเถอะ”

“ไอ้สัตว์ พูดไม่รู้เรื่องใช่ไหม?” พี่กายพูด ทำท่าจะพุ่งลงไปจากระเบียงแล้วเดินไปที่ประตูรั้ว แต่แบงค์ที่เห็นสถานการณ์และแอบฟังอยู่ตลอดก็รีบเปิดประตูออกมาคว้าแขนพี่กายไว้

“พอเหอะ พี่กาย อย่าไปทำอะไรพี่ท็อปเลย” แบงค์ร้องบอก ท็อปตะโกนลั่นด้วยความดีใจเมื่อเห็นแบงค์ออกมาในที่สุด

“แบงค์ เปิดประตูให้พี่หน่อย พี่อยากจะขอโทษ พี่ผิดไปแล้ว จะโกรธจะด่าพี่ยังไงก็ได้ แต่อย่าทิ้งพี่เลยนะแบงค์” ท็อปเขย่าประตูรั้วราวกับจะดึงมันให้หลุดออกจากราง

พี่กายส่ายหน้าให้แบงค์ราวกับเป็นสัญญาณว่าอย่าไปต่อล้อต่อเถียงอะไรกับพี่ท็อปอีก แบงค์ถอนหายใจช้าๆ จากนั้นจึงคว้าเอาร่มที่วางอยู่แล้วกางเดินออกมาหา ท็อปยิ้มดีใจเมื่อเห็นแบงค์เดินมาหาเขาในที่สุด

“พี่ท็อป...” แบงค์เรียก มองหน้าเขาอย่างอาลัย “ให้มันจบลงตรงนี้เถอะนะพี่” แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา “แบงค์พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว แบงค์ขอโทษที่แบงค์ทำตามคำขอพี่ท็อปไม่ได้จริงๆ”

“อย่าดิแบงค์ อย่าทิ้งพี่ไปแบบนี้ แล้วต่อจากนี้พี่จะอยู่กับใครล่ะแบงค์ ใครจะคอยอยู่ข้างๆพี่ คอยสอนพี่ คอยเตือนพี่” พี่ท็อปร้องไห้ ทั้งจามทั้งน้ำตา น้ำมูก พรั่งพรูออกมา

“พี่ท็อปยังมีเพื่อน มีพี่คาร์พ มีพ่อ ที่อยู่ข้างๆนะ อย่าลืมพวกเขาสิ ที่ผ่านมาให้มันเหมือนฝันไปเถอะนะ ถึงเวลาที่พวกเราทั้งสองคนต้องตื่นกันสักที” แบงค์บอก

“ไม่ พี่ไม่อยากตื่น ยังไงพี่ก็ต้องให้แบงค์อยู่กับพี่เหมือนเดิม เราจะต้องไม่เลิกกัน” ท็อปตะคอกทั้งโมโหทั้งโกรธจนหน้าแดง

แบงค์เอื้อมมือไป อยากจะไปจับแก้มพี่ท็อปอย่างที่เขามักจะทำเวลาอยู่ด้วยกันสองคน แต่ก็ยั้งมือเอาไว้ เพราะรู้ตัวดีว่าต่อจากนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคงต้องหยุดไว้ “พี่ท็อปกลับไปเถอะ แบงค์บอกแล้วไงว่าอย่าตากฝน เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

“ไม่เอานะ แบงค์ อย่าทำแบบนี้กับพี่ดิ พี่ขอโทษ พี่ผิดไปแล้ว ไม่เอาแล้ว พี่ไม่ได้ตั้งใจ เขาหลอกให้เราทะเลาะกันนะแบงค์” พี่ท็อปร้องบอกออกมา

“หลอกอะไร ยังไงมันก็อยู่ที่พี่ท็อปอยู่ดี ถ้าพี่ท็อปรู้จักยั้งใจตัวเอง มันก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก แสดงว่าเราสองคนอาจจะยังรักกันไม่มากพอ มันมาได้ไกลแค่นี้แหละพี่ท็อป” แบงค์พูดเบาๆ น้ำเสียงราบเรียบ แล้วก็จามออกมาด้วยอีกคน เพราะยืนโดนไอฝน เลือดกำเดาก็พุ่งออกมาอีกครั้ง

“แบงค์ พอเถอะ ไม่ต้องคุยอะไรกับมันแล้ว เข้าบ้านเลย” พี่กายเดินฝ่าฝนออกมาพาแบงค์เข้าบ้าน

“แบงค์ ทำไมแบงค์เลือดออกเยอะแบบนี้ล่ะ ? แบงค์ เปิดประตูให้พี่ก่อน พี่กายครับ เปิดประตูให้ผมก่อน พี่กาย เปิดสิวะ” พี่ท็อปโวยวายกระชากประตุเหล็กเสียงดังลั่น

“มึงกลับบ้านไปเลยนะ แบงค์เป็นแบบนี้ก็เพราะมึง รู้ไว้ซะด้วย แบงค์น่ะมีโอกาสเลือดไหลไม่...”

“พอเหอะพี่กาย” แบงค์รีบบอก “ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้ว มันจบแล้ว” น้ำตาของเขายังไหลในขณะที่มือกุมดั้งจมูกเอาไว้

“ทำไม แบงค์เป็นอะไร แบงค์ ตอบพี่มาก่อนดิ แบงค์เปิดประตูเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่เปิดพี่จะปีนเข้าไปแล้วนะ” พี่ท็อปร้องบอกมา

“กูให้เวลามึง 5 นาที ถ้ามึงไม่ไป กูจะโทรเรียกตำรวจว่ามึงบุกรุกยามวิกาล มึงรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ กูไม่ได้พูดเล่นนะ”พี่กายชี้หน้าท็อป แล้วรีบพาแบงค์เข้าไปในบ้าน ปิดประตูลั่น

“แบงค์...อย่าทำแบบนี้สิแบงค์ บอกพี่มาก่อน แบงค์....” ท็อปได้แต่ยืนตะโกนจนแทบจะสิ้นเสียง ฝนตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆราวกับพายุเข้า รู้สึกผิดจนแทบอยากจะตายไปเสียตรงนี้เลย ทั้งหัวใจของเขาสูญสลายไปแทบทั้งหมด ในหัวเต็มไปด้วยคำถาม เขาจะอยู่อย่างไรต่อไป พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป วันที่ไม่มีแบงค์จะมาถึงแล้วเหรอ แล้วต่อจากนี้ชีวิตของเขาจะมีเรี่ยวแรงมาจากไหนได้เมื่อแหล่งกำลังใจของเขาได้ตัดใจจากเขาไปแล้ว

แบงค์ทรุดลงที่หน้าประตูเมื่อพี่กายพาเข้ามาในบ้าน ร้องไห้ไม่หยุดเหมือนกับคนเสียสติ จนพี่กายต้องปลอบ “พี่กายอย่าเอาเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อพี่ท็อปนะ เรื่องพี่หวานด้วย แค่นี้ทุกอย่างมันก็แย่มากพออยู่แล้ว”

“อืม พี่ก็ขู่มันไปอย่างนั้นแหละ” พี่กายบอก “สงสัยคืนนี้คงไม่มีอารมณ์กินข้าวแล้วมั้ง” เขามองดูรุ่นน้องที่ยังคงนั่งร้องไห้อยู่แล้วหันไปดูกับข้าวร้อนๆที่ตนเองเพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ

แบงค์ส่ายหน้า นั่งกอดเข่าร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดัง “พอแล้ว ร้องไห้จนน้ำตากับเลือดออกจะหมดตัวแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่าแล้วกินยานอนเลยนะ ไม่ต้องเสียใจแล้ว ยังมีเวลาอีกเยอะ วันนี้เจออะไรๆมาเยอะแล้ว ไปเถอะ” พี่กายบอกแล้วค่อยๆพยุงร่างของน้องขึ้นมา

แบงค์ไม่ตอบอะไรได้แต่ร้องไห้จนจวนจะหมดแรง

 :m15: :monkeysad: :m15:

จบบทที่ 22 ตอนที่ 23 พบกันใหม่วันศุกร์ครับ
(ขอเม้นกันมั่งนะครับเป็ฯกำลังใจว่าเพื่อนยังตามๆกันอยู่ T^T)


ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้ออออออ.  ไม่รู้จะสงสารใครดี.  หน่วงงงงงงง  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ขนมถ้วยฟู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รออ่านต่ออยู่นะคะ o22

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 23
เพื่อน ปะทะ เพื่อน


เช้าวันต่อมา ท็อปรีบอาบน้ำแต่งตัวมาโรงเรียนแต่เช้าเพื่อมาดักรอแบงค์ที่หน้าโรงเรียน เพราะเขาคิดว่าคืนนี้พี่กายคงต้องอยู่ดูแลแบงค์ตลอดทั้งคืนเป็นแน่ ถ้าหากไปหาตอนเช้าที่บ้านอีกก็คงไม่มีโอกาสได้เจอน้องแบบตัวต่อตัวแน่นอน คงโดนพี่กายไล่ตะเพิดออกมาอีกเช่นเคย ทั้งคืนเขานอนไม่หลับเลย ได้แต่เศร้าและมึนงงกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น เขาพยายามจับต้นชนปลายให้ถูกว่าในไม่กี่นาทีตอนอยู่ห้องพยาบาลและระเบียงทางเดิน เหมือนทุกอย่างมันผ่านไปไวมากจนเขาไม่ทันได้ตั้งตัว

ส่วนหนึ่งเขายอมรับผิดเรื่องที่คิดจะมีอะไรกับหวาน เขายอมรับว่าเขาควบคุมตัวเองไม่ได้ในเวลานั้น เหมือนราวกับมีมนตร์สะกดให้เขาต้องทำตามที่หวานบอกสำหรับท็อปหวานเป็นเด็กสาวหน้าตาดี ผิวสะอาดสะอ้านคนหนึ่ง แต่ที่ท็อปไม่คิดจะคบหวานก็เพราะว่าเขาอยากให้ความสัมพันธ์หยุดอยู่แค่เป็นเพื่อนกันเท่านั้นดีกว่า เขารู้จักตัวเองดีและเขาไม่อยากให้หวานมาอยู่ในวังวนของตนเอง นิสัยของหวานเป็นคนไม่ยอมคนบวกกับท็อปที่เป็นคนอารมณ์ร้อน คบกันคงได้ไม่ไกล เขาจึงพยายามปิดกั้นโอกาสเหล่านี้จากเพื่อนเรื่อยมา

แล้วใครเป็นคนส่งข้อความให้กับแบงค์ให้มาหาที่ห้องพยาบาล ... เรื่องนี้หวานน่าจะมีคำตอบให้เขา เพราะไม่มีใครรู้ว่าหวานและเขาอยู่ในห้องพยาบาล วิธีเดียวที่จะสามารถรู้ได้ก็คือเช็คเบอร์โทรศัพท์ที่ส่งข้อความมา แต่ว่าตอนนี้แบงค์ไม่ฟังเขาเลยและปัญหานี้กำลังจะหมดโอกาสได้รับการแก้ไข

“จะไปไหนแต่เช้า นี่ยังไม่หกโมงครึ่งเลยนะลูก” พ่อของท็อปร้องทักขึ้นเมื่อลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำ

“ผมมีธุระครับ ต้องรีบไปโรงเรียน” ท็อปบอกก่อนจะสวมรองเท้าและคว้าเป้

“หมู่นี้พ่อไม่ค่อยเห็นลูกกับเจนภพเลย เลิกคบกันไปแล้วเหรอ” พ่อถามขึ้นมา ทำเอาท็อปตกใจกับสิ่งที่พ่อพูด

“ทำไมอะ? พ่อจะถามทำไม? เรื่องที่เกิดขึ้นหนก่อนมันยังไม่พออีกเหรอพ่อ หรือว่าพ่อจะหาเรื่องท็อปอีก?” ท็อปบอกลุกขึ้นยืน หันหน้ามามองพ่ออย่างไม่พอใจนัก

“อย่าเพิ่งเข้าใจพ่อผิดสิ เรื่องนั้นพ่อบอกแล้วว่าพ่อขอโทษ พวกลูกยังเด็ก อีกหน่อยก็คิดได้ ว่าอะไรดีไม่ดี ตอนนี้มันยังเป็นวัยเรียนรู้ พ่อก็เลย...ถามดู เผื่อลูกจะเปิดใจกับพ่อบ้าง” พ่อของท็อปบอก

“พ่อไม่ต้องรู้ดีกว่าครับ ท็อปขอตัวไปก่อน ช่วงนี้ท็อปยังวุ่นตอนเย็น พ่อไม่มีธุระอะไรพิเศษก็ไม่ต้องตามผมนะ เดี๋ยวก็กลับมาเอง” ท็อปตัดบท แล้วสะพายเป้เปิดประตูออกมา

อาจารย์สายัณห์ได้แต่ยืนมองลูกชายที่หุนหันเดินออกไป ยิ่งโตขึ้นนับวันท็อปยิ่งตีตัวออกจากพ่อมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าตอนนี้นิภายังอยู่ด้วย เธอคงช่วยเขาได้สารพัดเลย อาจารย์สายัณห์คิดได้แต่ปล่อยตัวเองให้อยู่ในห้วงคำนึง


หลังจากที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกมาจอดในโรงเรียน ท็อปก็รีบเดินหาแบงค์ที่โรงอาหาร เพราะแบงค์จะชอบมานั่งกินข้าวตอนเช้าที่โรงอาหารแบบนี้ทุกวัน และอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม แต่รอนานเท่าไรแบงค์ก็ยังไม่มาสักที จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบ 8 โมง เกมส์ก็เดินมาที่โต๊ะอย่างเคยเพราะเป็นที่นัดประจำของเขาทั้งคู่ก่อนที่จะไปเข้าแถวด้วยกันในตอนเช้า

“อ้าว พี่ท็อป มารอแบงค์เหรอครับพี่?” เกมส์ทักเมื่อเห็นท็อป นั่งมองอยู่

“อือ พี่มารอแบงค์ แปลกจัง ทำไมวันนี้แบงค์มาช้าผิดปกติ” ท็อปบอกอย่างร้อนใจ

“พี่ไม่ลองโทรไปหามันล่ะ จะได้รู้ว่าทำไมมันมาช้าแบบนี้” เกมส์ออกความเห็น

“แบงค์ปิดโทรศัพท์” พี่ท็อปพูดสั้นๆ “พี่เลยติดต่อเขาไม่ได้ อยากรู้เหมือนกันว่าวันนี้จะมาโรงเรียนไหม”

“แล้ว....พี่คนนั้นกับพี่ เป็นยังไงมั่ง? ตั้งแต่วันนั้นที่พวกพี่ท้าแข่งกัน ผมบอกพี่เลยว่าแบงค์มันไม่ชอบเอามากเลยนะครับ” เกมส์ชวนคุย เมื่อท็อปกลับไปนั่งเงียบ

“พี่รู้แล้วว่าแบงค์โกรธ แต่ถ้าอยากจะให้พี่กายไม่มายุ่งกับพวกเราอีกก็ต้องมีวิธีเด็ดขาด พี่คิดได้แค่นั้นจริงๆตอนนั้น ไม่คิดว่าจะให้เลยเถิดมาถึงขนาดนี้หรอก” ท็อปบอกเสียงอ่อยๆ

“แบงค์มันรักพี่ท็อปนะพี่ ผมอยู่ด้วยกันกับมันตลอด ผมรู้ดี ถึงมันจะไม่ค่อยแสดงออกก็เถอะ มันก็ดูไม่ค่อยสบายใจเท่าไรหรอกที่มีพี่กายมาเทียวไปเทียวมาด้วย บรรยากาศตอนมันอยู่กับพี่กับอยู่กับพี่กาย มันคนละเรื่องเลยแหละ” เกมส์เสริม ทำให้ท็อปใจชื้นขึ้นมาบ้าง

“ขอบใจมากว่ะ เกมส์ ถึงแบงค์จะเป็นยังไง รักใคร พี่ก็ยังชอบเขาอยู่ดี ถ้ายังไงแบงค์มาแล้วก็โทรมาหาพี่หน่อยก็ได้ ไม่ก็สายๆ เดี๋ยวพี่จะแวะไปหาที่ห้อง จะได้เจอตัวเลย” ท็อปบอก

“สู้ๆนะครับพี่ ผมไม่อยากเห็นแบงค์มันซึมๆแบบนี้เท่าไร ต้องคอยปลุกมันเรื่อย มันชอบเหม่อมากระยะหลังๆ” เกมส์บอกด้วยสีหน้าเป็นห่วง

ท็อปพยักหน้า ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์สั่นเข้าบอกสัญญาณว่ามีคนโทรเข้ามา

<ไอ้คาร์พ>

“แม่งโทรมาอะไรแต่เช้าวะ” ท็อปบ่นเมื่อเห็นชื่อของเพื่อนขึ้นโชว์หราในโทรศัพท์ “มีอะไรวะ แต่เช้าเลย”

“เปล่า กูแค่จะถามมึงว่า มึงโอเคขึ้นรึยัง?” เสียงปลายสายขึ้นมา

“ยังไม่โอเคว่ะ กูยังโกรธมึงอยู่” ท็อปตอบตรงๆแบบไม่รักษาน้ำใจ

“มึงอยู่ไหน กูจะไปหา” ปลาคาร์พถามขึ้นมา

“เดี๋ยวมึงก็เจอกูที่ห้องเรียนอยู่ดี จะมาหากูทำไมวะ กูยุ่งๆอยู่เช้านี้” ท็อปตอบกลับ เสียงไม่พอใจนัก “แค่นี้นะ”

“เฮ้ย  อย่าเพิ่งตัดสายกูดิวะ” ปลาคาร์พตะโกน แต่ก็ไม่ทัน ท็อปได้ตัดสายของเขาไปเรียบร้อยแล้ว

ก่อนอื่นเช้านี้เขาต้องเคลียร์เรื่องนี้กับหวานให้ได้ก่อนเช่นเดียวกัน ในเมื่อทุกอย่างฟังดูเหมือนกับถูกจัดฉากให้เกิดขึ้น เขาต้องการคำตอบจากหวานว่าหวานเป็นคนสั่งให้ใครส่งข้อความมาหาแบงค์หรือเปล่า ท็อปไม่โกรธที่หวานคิดจะมีอะไรกับเขาเมื่อวาน ทุกอย่างมันชี้ชัดลงไปอยู่แล้วว่าถ้าเขายับยั้งชั่งใจตัวเองได้ก็คงไม่มีเรื่องแบบเมื่อวานเกิดขึ้นแน่นอน เขาแค่อยากจะรู้ว่าทุกอย่างมันคือการแกล้งเขากับแบงค์ให้แตกคอกันจริงหรอไม่ อย่างน้อยเขาก็จะเอาเรื่องนี้ไปของ้อแบงค์ให้กลับมาคืนดีกับเขาให้ได้
เขารีบเดินไปที่ห้องปกครองที่เป็นห้องประจำที่ประธานนักเรียนมีโต๊ะทำงานของตัวเอง หวานจะนั่งอยู่ที่นี่เสมอๆทุกเช้าก่อนที่ช่วงสายจะไปประจำที่หน้าประชาสัมพันธ์ที่เป็นทางเข้าโรงเรียนเพื่อดักจับนักเรียนที่มาโรงเรียนสาย

เมื่อไปถึงห้องปกครอง มีเพียงอาจารย์ปรีชาเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่

“อาจารย์ครับ หวานล่ะครับ” เขาทักขึ้นทันทีที่เขามาในห้อง

“หทัยรัตน์วันนี้เขาโทรบอกครูว่าเขาไม่ค่อยสบาย คงไม่ได้มาเรียน” อาจารย์ปรีชาบอกพลางขยับแว่นมองคนถาม

“อะไรนะครับ ทำไมต้องเป็นวันนี้ล่ะเนี่ย” ท็อปตกใจเมื่อรู้ข่าวจากอาจารย์

“ทำไม? ท็อปมีอะไรคุยกับเขาหรือเปล่าล่ะ ถ้ามีเรื่องด่วนจะโทรคุยกับเขาก็ได้นี่” อาจารย์แนะนำ

“อ๋อ ไม่เป็นไรครับ” ท็อปตอบ แล้วขอตัวออกมา

ท็อปเดินอย่างหัวเสียขึ้นอาคารไปวางกระเป๋าที่ห้องประจำชั้น เขาไม่อยากคิดว่าหวานตั้งใจจะหลบหน้าเขาโดยการไม่มาโรงเรียนแบบนี้ ถ้าเกิดเป็นอิหรอบนี้ เขาจะหาคำตอบที่เขาอยากรู้ได้อย่างไร เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอีกครั้งกดไปหาเบอร์ของแบงค์แล้วลองโทรออกดูแต่ปลายสายยังคงแจ้งว่าโทรศัพท์ไม่ได้เปิดเครื่อง

“อะไรกันนักกันหนาวะ ติดต่อใครก็ไม่ได้ คุยกับใครก็ไม่ได้เลยสักคน” เขาบ่นอย่างโมโห

เมื่อถึงเวลาเข้าเรียนหลังจากเคารพธงชาติเสร็จเรียบร้อย ท็อปรีบเดินออกจากห้องเรียนมุ่งหน้าตรงไปยังห้องเรียนประจำชั้น ม.4/5 ของแบงค์ เพื่อไปตามง้อ เขาเดินฝ่ากลุ่มนักเรียนหลายกลุ่มที่กำลังแยกย้ายกันไปตามชั้นเรียนต่างๆ โชคดีที่เรื่องราวเมื่อวานเหมือนจะไม่ได้รู้กันในหมู่นักเรียนเสียเท่าไร เพราะไม่มีข่าวเรื่องเขาทะเลาะกันให้ได้ยินนักไม่เหมือนตอนที่มีคลิปวิดิโอถูกปล่อยเมื่อหนก่อนที่ทุกคนได้มีโอกาสเห็นพร้อมๆกัน

“พี่ท็อปมาหาแบงค์เหรอ” เปิ้ลร้องทักขึ้นมาเมื่อเห็นพี่ท็อปเดินด้อมๆมองๆอยู่หน้าห้อง เธอเพิ่งจะไปเข้าห้องน้ำกลับมาพอดี เลยเจอกับพี่ท็อปเข้า

“ใช่ แบงค์มารึยัง? ไปเรียกมาคุยกับพี่ให้หน่อยสิ” ท็อปบอก

“สงสัยวันนี้คงไม่มาแล้วมั้งพี่ เกมส์เขาบอกว่ามีรุ่นพี่ม.6 เดินมาบอกอาจารย์ว่า เจนภพไม่มาโรงเรียนวันนี้ เพราะเขาไม่สบายหนักมาก” เปิ้ลเสริม

“แบงค์ไม่สบายเหรอ? เป็นอะไรมากหรือเปล่า?” ท็อปถาม เริ่มรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา เมื่อคืนเขาพาแบงค์ออกมายืนคุยตากฝนด้วย แบงค์อาจจะเป็นหวัดขึ้นมาก็ได้ ตัวเขาตอนนี้มีอาการแค่น้ำมูกไหลและเจ็บคอนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดปวดหัวตัวร้อน

“ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่ แต่พี่ม.6 คนนั้นเขาก็บอกว่า เดี๋ยวสักวันสองวันก็คงหาย วันนี้วันศุกร์แล้วด้วย คงได้มีเวลาพักแหละ ว่าแต่แบงค์ไม่ได้บอกพี่เองเหรอ ? ทำไมให้พี่ม.6 คนนั้นมาบอกแทนล่ะ?” เปิ้ลย้อนถามเมื่อเรียบเรียงเรื่องราวเสร็จเรียบร้อย

“อ๋อ ไม่มีอะไรน่ะ งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ” ท็อปบอกแล้วรีบเดินลงบันไดมา

ตอนนี้ใจของเขาอยู่ไม่เป็นสุขเอาเสียแล้ว ทันทีที่เขารู้ว่าแบงค์ไม่สบายหนัก เขาควรจะต้องไปอยู่ดูอาการแบงค์ไม่ใช่มานั่งอยู่ที่โรงเรียนแบบนี้ ยิ่งที่บ้านแบงค์ตอนนี้ไม่มีใครและพี่กายน่าจะมาโรงเรียนและปล่อยให้แบงค์นอนพักผ่อนอยู่บ้าน นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะได้เข้าไปคุยกับแบงค์ที่บ้าน เขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปแน่นอน

ท็อปรีบกระโจนกลับไปที่ห้องเรียนก็เจอกับปลาคาร์พที่นั่งรออยู่ที่โต๊ะแล้ว ท็อปไม่มองหน้าเพื่อนแต่รีบคว้ากระเป๋านักเรียนขึ้นสะพายทันที

“เฮ้ย มึงจะสะพายกระเป๋าไปไหน คาบนี้เราเรียนที่ห้องนี้นะเว้ย” ปลาคาร์พร้องทักเมื่อเห็นเพื่อนสะพายกระเป๋าอย่างรีบร้อน
ท็อปไม่ตอบ แล้วรีบเดินออกจากห้อง ท่ามกลางสายตาเพื่อนๆในชั้นเรียน

“มึงอย่าทำตัวเละเทะนักดิ ทำไมมึงมีปัญหากับไอ้เรื่องนี้เยอะจังวะ ไอ้ท็อป” ปลาคาร์พตะโกนใส่ท็อป จนห้องทั้งห้องจากที่ทุกคนคุยกันอยู่เสียงดังจนต้องเงียบแล้วหันมามองทั้งสองคนแทน

ท็อปหันหลังมามองเพื่อนอย่างไม่พอใจ “มึงหยุดพูดเหอะ ไอ้คาร์พ มึงนั่นแหละตัวดี กูต้องมานั่งร้อนใจแบบนี้ก็เพราะเรื่องที่มึงทำเมื่อวาน” ท็อปว่ากลับด้วยความเดือดดาล

“นี่มึงจะตัดเพื่อนกับกูจริงๆใช่ไหมกับไอ้เรื่องงี่เง่าแค่นี้” ปลาคาร์พตะโกนกลับ พร้อมกับลุกขึ้นยืน

ท็อปวางกระเป๋าลง แล้วเดินอาดๆมองหน้าเพื่อนอย่างหาเรื่อง “ทำไม ? ทำไมกูจะตัดมึงไมได้ ในเมื่อมึงเป็นคนทำลายทุกอย่างในชีวิตกูเสียยับป่นปี้ขนาดนี้”

“มึงเห็นมันดีกว่าเพื่อนที่อยู่กับมึงมาตั้งแต่เด็กอย่างงั้นเหรอวะ แม่งสิ่งดีๆที่กูทำให้มึงมาตลอดชีวิตกูมันไม่เคยมีค่าเลยใช่ไหม?” ปลาคาร์พบอก พูดด้วยความน้อยใจแต่เสียงโวยวายของเขาก็ฟังชัดเจนทุกคำ

ท็อปนิ่งเงียบ หน้าแดงด้วยความโกรธ ใจหนึ่งเขาก็ยอมรับว่าคาร์พเป็นเพื่อนที่ดีของเขาที่สุด คอยอยู่ข้างเขาเสมอ แต่เรื่องเมื่อวานที่ทำให้แบงค์เจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลมันก็เป็นอีกเรื่องที่เขายังรับไม่ได้

“กูยังรับไม่ได้ว่ะ เข้าใจไหม ไอ้คาร์พ มึงทำน้องเจ็บ มันก็เหมือนทำกูเจ็บไปด้วย” ท็อปบอก

“ไอ้สัตว์ มึงเคยสนใจวันที่กูเจ็บมั่งหรือเปล่าวะ? มึงสนใจแต่ไอ้แบงค์ คำก็ไอ้แบงค์ สองคำก็ไอ้แบงค์ ไอ้คาร์พเพื่อนรักมึงไปอยู่ไหนแล้ววะ มึงเอากูไปอยู่ตรงไหนในหัวใจมึงกันแน่” ปลาคาร์พโวยวาย

“เฮ้ย พวกแกคุยกันดีๆก็ได้” ส้มโอบอก ตอนนี้ทุกคนกำลังเฝ้าดูทั้งสองคนทะเลาะกันด้วยความเป็นห่วง “เป็นเพื่อนกันอย่าทะเลาะกันดิวะ”

ปลาคาร์พหันไปมองส้มโอแล้วจึงหันกลับมาถามท็อป “มึงจะไปไหน?”

“กูไม่เรียนแล้ววันนี้กูไม่มีอารมณ์ กูจะไปหาน้อง” ท็อปบอกห้วนๆแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นมาอีกครั้ง

“มึงทำตัวแบบนี้อีกแล้วนะท็อป มันใช่เรื่องไหมที่มึงจะโดดเรียนไปเพราะเรื่องแบบนี้” ปลาคาร์พเตือน

“เรื่องของกูว่ะ อย่าเสือก” แล้วท็อปก็รีบเดินอาดๆ ออกจากห้องไป ส่วนปลาคาร์พก็รีบเดินออกจากโต๊ะ ไล่ท็อปมาติดๆ เพื่อนๆทั้งห้อง ต้องรีบออกมาดูสถานการณ์ตามทั้งคู่ที่หน้าระเบียงบริเวณหน้าห้อง เมื่อปลาคาร์พคว้าแขนของท็อปได้ทัน ก็รีบรั้งไม่ให้เพื่อนไป

“ถ้ามึงไป กูจะฟ้องพ่อมึงว่ามึงโดดเรียน” คาร์พขู่ “กูเตือนมึงแล้วนะ ไอ้ท็อป อย่าหาว่ากูเสือกเลย”

“มึงอย่ามายุ่งกับกูได้ไหมวะ กูขอเหอะ” ท็อปบอก “มึงเป็นเพื่อนที่ดีของกู แต่ตอนนี้กูยังโกรธมึงอยู่ ให้กูหายโกรธมึงก่อนแล้วค่อยมาคุยกันใหม่ละกัน”

“กูไม่ให้มึงไป ไอ้ท็อป มึงไปก็ไม่มีประโยชน์ แบงค์มันไม่เอามึงแล้ว มึงก็เห็นอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น” ปลาคาร์พบอกกระชากแขนท็อปที่พยายามสะบัดตัวออกจากแรงรั้งของเพื่อน

“ไอ้สัตว์ นี่ปากมึงเหรอวะ ถ้ามึงไม่คิดจะช่วยกูก็อย่าขวางกู” ท็อปโวยวาย ตอนนี้ทั้งสองคนสัมผัสได้ถึงความโกรธที่กำลังก้าวไปจนถึงขีดสุด

“กูจะขวาง กูไม่ให้มึงไป มึงต้องอยู่กับกูที่นี่” ปลาคาร์พบอก แล้วท็อปจึงชกหน้าคาร์พสวนกลับไปด้วยความโมโห ปลาคาร์พล้มลงกับพื้น ท็อปยืนจังก้ามองเพื่อนด้วยความโกรธ ปลาคาร์พตอนนี้ต่างก็เดือดดาลขึ้นมาเช่นเดียวกันจึงลุกขึ้นมาแล้วต่อยสวน
กลับไป ทั้งสองคนมะรุมมะตุ้มฟัดต่อยกันนัวอยู่ที่หน้าระเบียงจนเพื่อนๆในห้องต้องรีบออกมาห้ามกันยกใหญ่ ท็อปกระชากคอเสื้อปลาคาร์พจนกระดุมแทบหลุดส่วนปลาคาร์พก็ซัดต่อยรัวๆไปที่หน้าของเพื่อนสนิท

“เฮ้ย ไอ้ท็อปกับไอ้คาร์พมันต่อยกันแล้ว” ส้มโอโวยวาย แล้วเพื่อนผู้ชายในห้องอีกสองสามคน ก็พยายามแยกท็อปกับปลาคาร์พออกจากกัน แต่ตอนนี้พลังของทั้งคู่นั้นเยอะเสียจนคนห้ามฉุดไม่อยู่ ทั้งคู่ยังพยายามที่จะต่อยกันให้ได้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย สารพัดท่วงท่า

“พอๆ พวกมึงจะต่อยกันทำเหี้ยอะไรเนี่ย เพื่อนกันนะโว้ย” โจ้ เด็กหนุ่มใส่แว่นที่รั้งตัวท็อปเอาไว้พูดเสียงดังเพื่อเรียกสติของเพื่อนทั้งสองคน แต่ก็ไม่มีท่าว่าจะทำให้ทั้งคู่เย็นใจลงได้

“ไอ้คาร์พ เพราะมึงคนเดียว มึงทำให้น้องเจ็บ กูจะต่อยมึงให้เจ็บเหมือนอย่างที่มึงทำกับน้อง” ท็อปตะโกนใส่

“เออ ไอ้ท็อป มึงก็ดีแต่ปาก กูทำให้มึงขนาดนี้แต่มึงก็มาทำแบบนี้กับกู” ปลาคาร์พเถียงสู้ ดิ้นสุดชีวิตจากแขนของเพื่อนที่ห้ามเขาเอาไว้

ทั้งคู่ดิ้นหลุดจากพันธนาการของเพื่อนแล้วพุ่งใส่กันอีก ทั้งหมัด ทั้งชก และเตะ ใส่กันไม่ยั้ง อะดรินาลีนกำลังหลั่งออกมาด้วยความบ้าคลั่ง แม้ว่าปลาคาร์พจะตัวสูงกว่าแต่ว่าท็อปค่อนข้างจะเคลื่อนไหวได้คล่องตัวกว่า จึงหาช่องว่างซัดสวนปลาคาร์พได้ไม่ยาก ส่วนปลาคาร์พก็ใช้ความได้เปรียบที่ตัวสูงกว่าท็อปหน่อยนึงกันตัวเองเอาไว้แล้วเลือกซัดใส่เฉพาะหน้าของเพื่อนแทน

“ใครก็ได้ไปเรียกพ่อไอ้ท็อปมาหน่อย อาจารย์ปรีชาก็ได้ ไม่งั้นมันไม่เลิกทะเลาะกันแน่” บอยร้องบอกเมื่อเห็นเพื่อนไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

โชคเหมือนจะเข้าข้างเพื่อนๆในห้องที่กำลังยื้อตัวเพื่อนทั้งสองคนอยู่ให้วุ่น เมื่ออาจารย์ประจำวิชาที่สอนสังคมคาบนี้เดินมาพร้อมกับอาจารย์สายัณห์พอดี เมื่อพ่อเห็นลูกตัวเองกำลังซัดกันนัวกับเพื่อนสนิทก็รีบพุ่งตรงเข้ามาทันที

“นักเรียนทำอะไรกัน !! ทำไมมาทะเลาะวิวาทกันแบบนี้” พ่อของท็อปตะคอกใส่

ท็อปที่กำลังคว้าคอเสื้อของปลาคาร์พได้พอดีถึงกับต้องรีบปล่อยมือออก ทั้งคาร์พและท็อปเหมือนได้สติจากเสียงที่คุ้นเคย หันหน้ามามองอาจารย์สายัณห์ด้วยความตกใจ

“มีอะไรทำไมถึงมาต่อยกันเอง ท็อปกับคาร์พ ตามพ่อไปห้องปกครองเดี๋ยวนี้” อาจารย์สายัณห์บอก

ท็อปกับคาร์พหันหน้ามามองกัน สูดหายใจฟืดฟาดเพื่อยั้งอารมณ์ สายตาที่มองกันยังคงโมโหและพร้อมที่จะซัดกันใหม่ อาจารย์สายัณห์มองหน้าลูกชายของตนอย่างโมโหเช่นเดียวกันที่เห็นพฤติกรรมที่ไม่น่าพอใจแบบนี้ แต่ท็อปก็ไม่ได้ดูมีสีหน้าสำนึกผิด ก่อนจะกัดฟันกรอด แล้วคว้าเป้เดินตามพ่อไปที่ห้องปกครองพร้อมๆกับปลาคาร์พ

จบตอนที่ 23 - - ตอนที่ 24 มาต่อวันจันทร์เหมือนเดิมครับ


เพื่อนผมเป็นผู้วิเศษก็อัพเเล้วนะคัรบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2015 09:19:16 โดย akiraakka »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
เฮ้อออออ.

...เริ่มสงสารคนอ่าน ดูทรมานใจกันจุงเบย T^T ....(อีก 9 ตอนก็จบแล้วครับ ช่วยอดทนหน่อยนะ)

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
Re: [นิยายแนวม.ปลาย]--27/03/2015)
«ตอบ #135 เมื่อ28-03-2015 01:26:56 »

โอ้ยยยย หงุดหงิดแทน เข้าใจจิตใจของทุกตัวละครเลยว่า ทำไปทำไม เพราะอะไร ปรบมือให้ผู้แต่ง ผมอ่านแล้วขึ้น 5555

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
ยังไมาไ่ด้อ่านแต่ขอเม้นก่อน
คือตกใจมากกับที่คนเขียนบอกมีไฟล์ .pdf ไว้ให้อ่านด้วย
คือ...มีคนเขียนใจดีสุดๆแบบนี้ด้วย อึ้งแพร่บ...

ปลื้มค่ะ 55555555

สู้ๆนะ จะไปอ่านล่ะ

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
ยังไมาไ่ด้อ่านแต่ขอเม้นก่อน
คือตกใจมากกับที่คนเขียนบอกมีไฟล์ .pdf ไว้ให้อ่านด้วย
คือ...มีคนเขียนใจดีสุดๆแบบนี้ด้วย อึ้งแพร่บ...

ปลื้มค่ะ 55555555

สู้ๆนะ จะไปอ่านล่ะ

ขอบคุณครับ นี่คือคอมเมนต์ที่ผมรอคอยมาตลอด 23 บท 555+
ขอกราบงามๆที่สละเวลาอันมีค่ามาสนใจอ่านเรื่องราวของผมคับ
:man1: :กอด1:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :pig4:    :L1:  สู้ๆค่ะคนเขียน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: อึดอัดแทนท๊อป สงสารแบงค์ แต่ยังโกรธท๊อปมากมายเรื่องในห้องพยาบาลกับหวาน
จะลุ้นให้คืนดีกันเร็วๆ คนอ่านก็ไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก เฮ้อออออออออออ
แต่ก่อนอื่นคงต้องกำจัดคาร์พไปให้พ้นๆ ก่อน ท่าทางไอ้คาร์พไม่ยอมปล่อยให้ท๊อปกับแบงค์มีความสุขกันง่ายแน่ๆ

ออฟไลน์ AuyAaiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อิปลาคาร์พออกฤทธิ์อีกละ เห็นนางเงียบๆ นางเเรดนะคะ

ออฟไลน์ Jomkwancrazy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กรี๊ดดดดดดดดด สมัครสมาชิกเพื่อที่จะคอมเม้นเลยนะคะเนี่ย
คือตอนแรกหานิยายอ่านก็จะดูเรื่องที่มีคนอ่านเยอะๆ แต่อ่านไปอ่านมาก็เบื่อ
พอเห็นนิยายเรื่องนี้คนอ่านน้อย เกือบจะไม่อ่านแล้วค่ะ แต่ก็ลองกดอ่านดู
ปรากฎว่า สนุกมากกกกกกกกกกกกกกก ดราม่าได้ใจ ชอบมากค่ะ
แต่งได้ดีมากเลย งื้ออ ไม่รู้จะพูดไง 555 คือมันดี
คนแต่งก็ใจดี มีการทำไฟล์ให้อ่านด้วย ชอบอะค่าาา
จะติดตามเรื่อยๆนะคะ ตอนนี้อ่านถึงตอนปัจจุบันแล้ว มาต่อไวๆหน่อยค่าาา ค้างมาก
เดี๋ยวจะไปอ่านอีกเรื่องที่คุณแต่งนะค้า

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
กรี๊ดดดดดดดดด สมัครสมาชิกเพื่อที่จะคอมเม้นเลยนะคะเนี่ย
คือตอนแรกหานิยายอ่านก็จะดูเรื่องที่มีคนอ่านเยอะๆ แต่อ่านไปอ่านมาก็เบื่อ
พอเห็นนิยายเรื่องนี้คนอ่านน้อย เกือบจะไม่อ่านแล้วค่ะ แต่ก็ลองกดอ่านดู
ปรากฎว่า สนุกมากกกกกกกกกกกกกกก ดราม่าได้ใจ ชอบมากค่ะ
แต่งได้ดีมากเลย งื้ออ ไม่รู้จะพูดไง 555 คือมันดี
คนแต่งก็ใจดี มีการทำไฟล์ให้อ่านด้วย ชอบอะค่าาา
จะติดตามเรื่อยๆนะคะ ตอนนี้อ่านถึงตอนปัจจุบันแล้ว มาต่อไวๆหน่อยค่าาา ค้างมาก
เดี๋ยวจะไปอ่านอีกเรื่องที่คุณแต่งนะค้า

ขอบพระคุณเป็นล้นพ้นเลยครับ คอมเมนต์นี้เป็นคอมเมนต์ดีๆที่ต่อชีวิตคนเขียนไปได้อีกไกล 555
ถึงแม้ตัวเรื่องผมจะเขียนจบไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงทยอยอัพเดทสัปดาห์ละ 2 ตอน(อีก 9 ตอนจบ) ให้ทุกท่านได้อ่านกัน
ทำให้ผมอยากจะเขียนเรื่องใหม่ๆ ออกมาให้ทุกท่านได้จิ้นกันเข้าไปอีก สำหรับผมเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่ผมคิดว่า
ค่อนข้างประสบความสำเร็จแล้วครับ ผมไม่ได้ต้องการคนอ่านเยอะหรือท็อปฮิตติดชาร์ท แค่มีคนเข้าใจสิ่งที่มันเกิดขึ้นแล้วคอยเฝ้าดูและเอาใจช่วยทุกตัวละครได้ก็เป็นความสุขของผมแล้วครับ

เห็นเพื่อนๆคอมเมนต์กันในแต่ละตอนทำให้ผมยิ่งรู้สึกว่าทุกคนเอาใจช่วยทุกตัวละครอยู่ ปลื้มจริงๆครับ
เห็นบางคอมเมนต์บอกว่า "เข้าใจเหตุผลของทุกตัวละครว่าทำไปทำไม แตก็อดรู้สึกเกลียด/เอาใจช่วย/สงสารไม่ได้"
นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะสื่อเหมือนกันว่า จริงๆชีวิตคนเราบางทีสิ่งทีเ่ราคิดว่าถูกต้องอาจจะไม่ถูกในความคิดคนอื่นก็ได้
หรือในทางกลับกันสิ่งที่คนอื่นคิดกันว่าถูกสำหรับเราอาจจะไม่ยอมรับมันก็ได้ ตัวเนื้อเรื่องทำให้ทุกคนสัมผัสได้ขนาดนี้
ทำให้ผมรู้สึกเลยว่า ทุกๆคนเป็นเพื่อนของ ท็อป แบงค์ ปลาคาร์พ หวาน กาย จริงๆครับ

เรื่องการอัพ ผมอัพตามเวลาที่บอกเลยครับ จันทร์กับศุกร์ ตอน 22.30 มาแน่นอนครับ ไม่เคยเบี้ยว
ตอนนี้ก็ได้แต่นั่งรอลุ้นให้เรื่องทั้งหมดจบ แล้วพาทุกคนไปยังโลกใหม่ของผมอีกเรื่องแทน

ขอบคุณอีกครั้งครับ  :o12: :o12: :man1: :impress2:

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 24
ความในใจของพ่อ


อาจารย์ปรีชามองสภาพนักเรียนชายทั้งสองคนที่มีทั้งรอยเขียวช้ำ เสื้อผ้ายับยุ่ง นั่งหันหน้ากันไปคนละทิศละทาง  ท็อปนั่งกอดอกสั่นขาอย่างเคยที่เขาชอบทำเวลาไม่พอใจอะไรมากๆ ส่วนพี่คาร์พก็นั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา อาจารย์รัชนีกรแม่ของคาร์พหันหน้ามองอาจารย์สายัณห์ด้วยความรู้สึกแปลกใจว่าทำไมลูกชายของเขาทั้งสองคนนั้นที่ปกติ สนิทกันราวกับเป็นฝาแฝด ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด มาลงเอยด้วยการต่อยกันจนหน้าเขียวแบบนี้

“เล่าให้พ่อฟังหน่อยซิ ทั้งสองคนเลย เรื่องมันเป็นมายังไง ทำไมถึงมาต่อยกันเองได้” อาจารย์สายัณห์เริ่มถาม

“ไม่มีอะไรครับพ่อ ก็แค่ความเห็นไม่ตรงกันนิดหน่อย” ท็อปบอก หายใจฟืดฟาด

“เอางี้ดีกว่า ใครเริ่มก่อน?” อาจารย์ปรีชาถาม เปลี่ยนหัวข้อเรื่อง

ทั้งสองคนเงียบ ไม่ตอบ “จะให้ครูเดาหรือว่าจะบอกมาดีๆ” อาจารย์ถามย้ำ

“ปลาคาร์พบอกแม่มาเร็วๆ อาจารย์ทุกคนรอฟังคำตอบอยู่ อย่าดื้อ” อาจารย์รัชนีกรส่งเสียงดุลูกชาย “มันเสียเวลาพ่อแม่ทำงานกันนะ”

ในช่วงเวลานี้ท็อปกับปลาคาร์พหันหน้ามามองกัน เหมือนจะให้อีกฝ่ายยอมรับในความผิดของตัวเอง

“ผมเป็นคนเริ่มก่อน” ทั้งสองคนแย่งกันพูด

“อะไรของพวกเธอ ใครเริ่มก่อนกันแน่” อาจารย์ปรีชาถาม

“ผมเริ่มก่อนครับ ผมพูดแหย่ท็อปจนมันขึ้น มันก็เลยมาชกหน้าผม” ปลาคาร์พบอก

ท็อปนิ่งเงียบ กอดอก ไม่พูดไม่จา “อ้าวแล้วไหนเมื่อกี้ท็อปบอกว่าท็อปเริ่มก่อน” พ่อถามเขา

“ถ้าพ่อถามว่าใครเริ่มชกก่อน ผมก็จะบอกว่าผมเริ่มก่อน แต่ถ้าพ่อถามว่าใครยั่วโมโหผมก่อน ก็ตามอย่างที่คาร์พมันบอกพ่อนั่นแหละ” ท็อปบอก

อาจารย์ทั้งสามคนมองหน้ากัน ไม่คิดว่าลูกชายของตนจะมีพฤติกรรมอย่างนี้ จากที่เป็นเด็กดีมาตลอดตั้งแต่อยู่ม.1 กลับมาก่อเรื่องต่อยตีตอนอยู่ ม.5 เป็นอะไรที่ไม่คาดคิดจริงๆ

“แล้วคาร์พไปแหย่ท็อปทำไมลูก ? ทำไมไม่คุยกันดีๆ ปกติเห็นเล่นกันตลอด ไม่เคยเห็นมีเรื่องต่อยตีกันเลยนะ” แม่ของคาร์พถาม

“ท็อปมันจะโดดเรียนครับแม่ ผมห้ามมันก็ไม่ฟัง” ปลาคาร์พพูดความจริงออกมาในที่สุด “แล้วแบบนี้จะคิดว่าผมผิดหรือเปล่าล่ะครับ?”

“อ้าวไหงทำแบบนี้ล่ะ ลูก เมื่อเช้าพ่อก็ถามดีๆว่าลูกเป็นอะไรก็ไม่บอกพ่อ แล้วมาถึงโรงเรียนก็จะมาโดดเรียนมันไม่ถูกต้องนะท็อปนะ” อาจารย์สายัณห์ดุลูกชาย

“ผมรู้ว่ามันผิด แต่ผมจำเป็น” ท็อปบอกหันหน้าไปมองพ่อเขม็ง

“มันมีเรื่องจำเป็นอะไรถึงกับต้องโดดเรียน ท็อป หน้าที่เธอตอนนี้คือตั้งใจเรียน นี่ก็จะสอบอยู่ไม่กี่วันแล้วนะ” อาจารย์ปรีชาถามบ้าง

“ผมขอไม่อธิบายได้ไหม ? พ่อจะลงโทษผมยังไงก็ตามใจ แต่ผมจะไม่เล่าอะไรเด็ดขาด” ท็อปบอกเสียงแข็ง

“ถ้าไม่บอก วันนี้มันก็ไม่จบนะลูก บอกๆพ่อเขาไปเถอะ มีอะไรผู้ใหญ่จะได้ช่วยกันแก้ไข” แม่ของคาร์พบอกเสียงอ่อน เพราะรู้ว่าท็อปยังคงมีอารมณ์โมโหเจืออยู่ในน้ำเสียง

“ผมบอกไปก็ช่วยอะไรผมไม่ได้หรอก พ่อก็รู้ อาจารย์ปรีชาก็น่าจะรู้ดี ผมขอล่ะ ผมไม่อยากเล่าให้มันมีปัญหาที่นี่อีก” ท็อปบอก
ทั้งพ่อของท็อปและอาจารย์ปรีชาหันมามองหน้ากัน เหมือนจะรู้ว่าท็อปหมายถึงอะไร ทั้งคู่นึกถึงหนก่อนที่ท็อปเข้ามาในห้องนี้พร้อมๆกับ กายและแบงค์ ที่ทำให้ทั้งสองคนรับรู้ถึงความสัมพันธ์ของลูกชายและรุ่นน้อง

“ได้ ... พ่อเข้าใจแล้ว” พ่อของท็อปพูดออกมาในที่สุด “ปีนี้ลูกมีเรื่องที่ต้องเข้าห้องปกครอง สองครั้งแล้วนะ พ่อไม่อยากให้มันมีครั้งที่สามอีก ส่วนปลาคาร์พวันนี้พ่อฝากดูท็อปด้วยอย่าให้มันหนีเรียนอีก เย็นนี้มาเจอพ่อที่ห้องพักครูด้วย เรามีเรื่องต้องคุยกันตัวต่อตัวอีกเยอะเลย”

“โห่ พ่อ แค่วันนี้ทั้งวันผมก็ไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนแล้วนะ ตอนเย็นพ่อจะให้ท็อปไปนั่งแหง่วอยู่กับพ่ออีกเหรอ? เข้าใจท็อปหน่อยเหอะ” ท็อปโอดครวญ

“ไม่ต้องเลย วันนี้พ่อขอ เราต้องคุยกันตามประสาพ่อลูกบ้างละ เพราะนับวันท็อปยิ่งดื้อขึ้นๆ อีกอย่าง ขอโทษเพื่อนซะ คาร์พเขาหวังดี เขาถึงห้ามไม่ให้ลูกโดดเรียน แล้วไปต่อยเขาทำไม แล้วดูสภาพแต่ละคนตอนนี้ซิ เจ็บไหมน่ะ? ทั้งคู่เลย” พ่อท็อปดุ

“กูขอโทษ” ท็อปพูดขึ้นมาในที่สุด แต่ก็ยังไม่มองหน้าปลาคาร์พ

“พูดจาให้มันดีๆหน่อย นี่ต่อหน้าผู้ใหญ่นะ” อาจารย์สายัณห์ดุ ตอนนี้อาจารย์ปรีชามอบสิทธิอำนาจในการตักเตือนให้เต็มที่ทั้งในฐานะอาจารย์และพ่อแท้ๆ

ผมขอโทษครับ คุณธีรภัทร” ท็อปบอก น้ำเสียงประชดนิดๆ “ต่อไปผมจะไม่ต่อยคุณอีกแล้ว”

“ขอโทษแบบนี้อย่าพูดเลยดีกว่าหว่ะ ไอ้ท็อป” ปลาคาร์พพูดอย่างหัวเสีย

“แล้วจะเอายังไงวะ กูก็อุตส่าห์บอกมึงแล้วว่ากูยังไม่หายโกรธ มึงก็แหย่กูอยู่ได้” ท็อปโวยวายกลับ จนผู้ใหญ่ต้องห้ามกันอีก

“พอๆๆ ทั้งคู่นั่นแหละ” อาจารย์ปรีชาเบรคทั้งสองคน “จับมือกันเดี๋ยวนี้เลย อยู่กันมาเหมือนพี่เหมือนน้องกันตั้งแต่เล็ก จะมาแตกคอกันตอนโตเพื่ออะไร เพื่อนดีๆมีไว้ให้ดูแลกัน ไม่ใช่ให้มาหาเรื่องกัน”

ท็อปยื่นมือมาให้คาร์พ พลางพยักหน้าแล้วถอนหายใจ ปลาคาร์พจึงยื่นมือออกไปจับตอบ มองหน้าเพื่อนอย่างไร้อารมณ์

“ต่อจากนี้อย่าทะเลาะกันอีกนะ มีอะไรก็คุยกันดีๆ อย่าใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล แม่เข้าใจว่าวัยรุ่นฮอร์โมนมันพลุ่งพล่านแต่อย่าทะเลาะกันเอง แม่ไม่ชอบเลยเห็นลูกๆตีกันเนี่ย” อาจารย์รัชนีกรสอน

“ครับแม่ นี่ก็ใกล้จะพักเที่ยงแล้วเหลือเรียนอีกคาบเดียว พวกผมไปก่อนก็แล้วกันครับ” ปลาคาร์พบอกแล้วรีบลุกขึ้นจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยแล้วเตรียมเดินออกมา

“เอาท็อปไปด้วยกันสิลูก” แม่บอก ปลาคาร์พหันมามองเพื่อนที่กำลังหยิบเป้ขึ้นมาสะพาย

“เดี๋ยวมันก็ตามมาเองแหละครับ” เขาบอกแล้วรีบเดินออกไป

ท็อปไหว้อาจารย์ทั้งสามคน “ตอนเย็นอย่าลืมนะ พ่อรออยู่ วันนี้ต้องกลับบ้านกับพ่อ ห้ามหนีไปไหนเด็ดขาด”

ท็อปถอนหายใจแล้วเดินตามเพื่อนสนิทออกมา ทั้งคู่เดินเว้นระยะห่างกัน ยังไม่ยอมคุยกันอยู่ดี แต่ท็อปก็ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้คงต้องอยู่เรียนจนเลิก กว่าเขาจะได้ไปหาแบงค์วันนี้ก็คงเย็นมาก และพี่กายคงถือโอกาสไปหาอีกเช่นเคยเขาก็คงไม่มีทางที่จะได้ปรับความเข้าใจกับแบงค์อย่างแน่นอน

“กูถามจริงเหอะ” ปลาคาร์พโพล่งออกมา เพราะรู้ว่าท็อปกำลังเดินตามหลังมา “แบงค์มันมีดีตรงไหนวะ มึงถึงหลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ กูไม่เข้าใจว่ะ”

“กูว่ากูเล่าให้มึงฟังไปหมดแล้วนะตอนกูไปแดกเหล้าที่ร้านพี่ยอด มึงจำไม่ได้เหรอไง? หรือมึงจำได้แต่เรื่องอื่นที่มึงทำตอนกูหลับ” ท็อปแขวะ จี้จุดปลาคาร์พอย่างจัง เขาอึ้งชะงักงันไป หยุดเดินแล้วหันหน้ามามองท็อปอย่างตกใจ

“มึง...หมายความว่าไง”

“ก็หมายความอย่างที่พูด” ท็อปพูด หยุดมองหน้าเพื่อนสนิทของตนเองด้วย

“มึงรู้ตัวเหรอ?” เขาถามกลับ

ท็อปยักคิ้วตอบเป็นคำตอบแทนคำพูด แล้วรีบเดินผ่านเพื่อนที่ยังคงยืนอึ้งอยู่ “เฮ้ย เดี๋ยวก่อน แล้วทำไมมึงไม่บอกกูแต่แรกวะ”
 
“กูไม่อยากให้มึงรู้สึกไม่ดีกับกู อีกอย่างกูก็รักมึงเหมือนกัน แค่มันยังก้าวข้ามคำว่าเพื่อนไปไม่ได้ ยิ่งกูรู้ว่ามึงแอบชอบกูมาตลอดแบบนี้กูยิ่งไม่รู้จะทำยังไงดีว่ะ มึงเป็นเพื่อนรักกู จะให้กูเลิกคบมึงไปเลยเพราะเรื่องแบบนี้ กูว่ามันก็ไม่ใช่หรือเปล่าวะ คือ....ถ้ามึงอยากได้นักมึงก็ขอกูดีๆก็ดิวะ ?” ท็อปบอก

“ไอ้เชี่ย มึงพูดอย่างกับว่า ขอเรื่องแบบนี้ มันเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกับขอยืมเงินเพื่อนงั้นแหละ” ปลาคาร์พบอก

“กูบอกแล้ว ว่ากูไม่อยากทำมึงเจ็บ มึงเป็นเพื่อนรักกูนั่นแหละดีแล้ว กูอยากให้มึงไปรักคนอื่นที่ดีกว่ากูเหอะ กูรู้ว่ายังมีคนดีๆอีกเยอะที่ชอบมึง อย่ามาจมปลักอยู่กับคนนิสัยไม่ดีอย่างกูเลย” ท็อปบอก

“มึงไม่รู้จักความรักอีกเหรอวะ เวลามึงรักใคร มันห้ามไม่ได้หรอก เหมือนมึงปวดเยี่ยว มึงก็ต้องไปเยี่ยว มึงจะอั้นเยี่ยวไปเพื่ออะไร” ปลาคาร์พบอก

“ไอ้สัตว์ มึงเปรียบซะกูเห็นภาพเลย” ท็อปบอกหัวเราะออกมา

“ยังไงกูขอโทษนะเพื่อน” ปลาคาร์พบอก “กูจะไม่ห้ามมึงแล้ว ต่อจากนี้ มึงอยากทำอะไรก็ตามสบาย แค่ให้มึงรู้อย่างเดียวก็พอว่ากูรักมึง อะไรที่ทำให้มึงมีความสุขกูจะทำ”

“เออ...ดี กูก็ขอโทษที่ต่อยมึงก่อน กูผิดเองที่วู่วาม” ท็อปบอก

“ว่าแต่...มึงเจ็บไหม เหมือนหน้ามึงเขียวๆนะ โคตรเจ็บมือเลยตอนต่อยมึงอะ กูนึกว่ากรามมึงจะหักซะแล้ว” ปลาคาร์พถาม

“เจ็บสัตว์ๆอะ แรงต่อยมึงนี่ทำเอากูเกือบน็อกเห็นดาวเลย แม่ง” ท็อปบอก กุมแก้มตัวเอง

“แล้วที่มึงบอกว่า ถ้ากูอยากได้....ให้ขอมึงดีๆนี่จริงป่าววะ?” ปลาคาร์พถาม สายตาเป็นประกาย

“เฮ้ย ตอนนี้เนี่ยนะ กลางวันแสกๆ มึงจะบ้าเหรอ? กูไม่มีอารมณ์ตอนนี้” ท็อปตกใจกับคำถามของเพื่อนจนร้องออกมา

ปลาคาร์พตบหัวเพื่อนตอนทีเผลอ “ไอ้บ้า กูล้อเล่น ... ไปเหอะ กลับไปที่ห้องกัน” แล้วกอดคอเพื่อนรักเดินไปห้องเรียน อย่างน้อยในใจของเขาก็รู้สึกปลดปล่อยไปได้อีกเปลาะ ที่ท็อปไม่ได้รังเกียจที่เขาทำแบบนั้น

 :z10: :z10: :z10: :z10: :z10:

หลังเลิกเรียน ท็อปต้องมานั่งแกร่วอยู่กับพ่อในห้องพักครู ช่วยตรวจการบ้านนักเรียนกับลงคะแนนเหมือนอย่างทีเคยทำเป็นปกติ แต่ครั้งนี้เขาสังเกตว่าพ่อเงยหน้ามามองเขาบ่อยครั้งมากกว่าที่เคย

“พ่อเป็นอะไรรึเปล่า ? มองหน้าผมเป็นระยะๆเนี่ย กลัวว่าผมจะทุบคอมทิ้งแล้วกระโดดลงจากหน้าต่างเหรอ?” ท็อปถามเมื่อหันไปสบตากับพ่อพอดี

อาจารย์สายัณห์หัวเราะออกมา “เปล่า พ่อแค่รู้สึกว่า โตมาลูกนี่หน้าตาหล่อเหมือนสมัยพ่อหนุ่มๆเลยนะ”

ท็อปยิ้มเขินๆที่จู่ๆพ่อก็พูดหัวข้อแบบนี้ออกมา “อ้าว ก็พ่อเป็นพ่อท็อปนี่ จะให้ผมไปหน้าเหมือนใครล่ะ ก็ต้องหน้าเหมือนพ่อนั่นแหละ”

“ยังจำตอนที่พ่อพาไปหัดตีแบดตอนสมัยอยู่ประถมได้ไหม?” พ่อบอกหยิบรูปท็อปที่วางอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ให้ดู

“โห พ่อ ยังเก็บมาวางไว้อยู่ตรงนี้อีกเหรอ? นานมากแล้วนะ” ท็อปบอกแล้วลุกมาดูรูปในกรอบ

“อ้าว ลูกชายพ่อมีคนเดียว ต่อให้ลูกโตแค่ไหน ลูกก็ยังตัวเล็กแบบนี้เสมอในสายตาของพ่ออยู่ดี” พ่ออมยิ้ม แล้วรับรูปกลับไปวางไว้ที่เดิม

“ท็อปขอโทษนะครับพ่อ ที่ทำให้วุ่นวายใจอยู่เรื่อย หลายเรื่องเลย” ท็อปบอก รู้สึกผิดขึ้นมา “ไม่รู้ว่าหลังๆนี้ผมเป็นอะไร เหมือนเห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด คอยแต่จะใช้อารมณ์ทุกที”

“เลือดพ่อมันแรงน่ะ” อาจารย์สายัณห์บอก “พ่อไม่อยากให้ลูกเดินตามรอยอดีตของพ่ออย่างที่พ่อเคยพลาด ตอนสมัยพ่ออายุเท่าท็อป พ่อก็ต่อยตีกับคนอื่นบ่อยๆ ไหนจะเรื่องชู้สาวอีกสารพัด ลูกยังดีกว่าพ่อเยอะถ้าเปรียบกันแล้ว พ่อเลยเข้าใจว่าทำไมท็อปถึงเริ่มมีนิสัยแบบนี้ แต่ถึงยังไงพ่อก็อยากสอนให้ลูกรู้จักคิดถึงตัวเองกับคนอื่นก่อน ทำอะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง เวลาเรารับผลลัพธ์มัน คนที่เสียใจที่สุดก็คือตัวท็อปเองนะลูก”

“ครับ...”ท็อปกลืนน้ำลาย “ท็อปจะพยายามไม่ทำให้พ่อผิดหวังอีก”

“พ่อถึงถามเมื่อเช้าไง ว่าลูกมีปัญหาอะไรรึเปล่า ต่อให้ลูกจะทำอะไร เป็นยังไง รักใคร ชอบใคร พ่อไม่ห้าม แต่พ่ออยากให้ลูกเรียนรู้ทุกอย่าง ตอนนี้ลูกยังเด็ก ประสบการณ์ยังน้อย อีกหน่อยโตขึ้นไปลูกจะเข้าใจที่พ่อบอก เรื่องรักๆใคร่ๆ จะชอบเพศไหนอะไรยังไงพ่อไม่ห้ามแล้ว ต่อไปนี้ให้จำไว้  จงเรียนรู้ว่าอะไรดีอะไรไม่ควร ประสบการณ์ไหนพลาดไปก็จำไว้ คราวหน้าจะได้ไม่พลาดอีก พ่อพลาดมาเยอะ พ่อไม่อยากเห็นลูกต้องมาเดินทับรอยตัวพ่อเอง รู้ไหม?” พ่อของท็อปบอก

“ขอบคุณที่คอยเตือนผมนะครับพ่อ ท็อปจะพยายามเป็นเด็กดี ต่อจากนี้จะไม่ให้พ่อกังวลอีก” ท็อปบอก

“เข้าใจก็ดีแล้วล่ะ พ่อรักลูกมากกว่าอะไรทั้งหมดในโลกนี้ เรื่องอดีตที่ผิดพลาดไปพ่อก็อยากขอโทษลูกที่มันเป็นแบบนี้ ท็อปไม่เสียใจใช่ไหมที่เราต้องอยู่ด้วยกันสองคน” พ่อถาม พลางขยับแว่น แต่แอบเช็ดน้ำตาที่รื้นออกมา

“ไม่หรอกครับพ่อ ผมเข้าใจว่าพ่อกับแม่มีเหตุผลส่วนตัวที่ผมเข้าใจไม่ได้ในตอนนั้น ยังไงผมก็ดีใจที่ได้อยู่กับพ่อ ถึงจะยังคิดถึงแม่บ้างแต่ผมโตมากับพ่อที่คอยสอนผม ให้สิ่งดีๆกับผมอยู่ตลอด ผมไม่เสียใจหรอกครับ” ท็อปบอก

“งั้นก็ดีแล้ว ช่วยพ่ออีกหน่อยละกัน เหลืออีกสามห้อง ของห้อง 1 ห้อง 3 แล้วก็ห้อง 6 นะ เอาไปกรอกคะแนนให้พ่อด้วย พ่อตรวจไปหมดละ เดี๋ยวพ่อขอตรวจอีกสามสี่ห้องทีเหลือก่อน วันหลังจะได้มากรอกคะแนนกันอีก” พ่อบอก ยิ้มเยาะ

“โหยพ่อ มันเยอะเกินไปแล้วนะ กะไม่ให้ท็อปกลับบ้านเลยเหรอ ? ท็อปบอกพ่อแล้วไงว่าเย็นนี้มีธุระ พ่อก็ไม่ฟังผมเลย” ท็อปโอดครวญ

“เอ้า ว่ามา ถ้าธุระของท็อปมันมีเหตุผลมากพอ พ่อจะให้ไป เห็นพูดอยู่ตั้งแต่เช้าแล้วว่าตอนเย็นมีธุระ พ่อก็อยากรู้เหมือนกันว่าธุระของท็อปมันอะไรกัน?” พ่อถาม แล้วเอนกายลงกับพนักพิงเก้าอี้ มองหน้าลูกชายอย่างเต็มตา

ท็อปได้แต่ยืนเกาหัว อ้ำอึ้ง ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี

“จะให้ผมสรุปหรือจะเล่ายังไงดีล่ะ คือเรื่องมันยาวมากน่ะพ่อ สรุปแล้วผมกับแบงค์ผิดใจกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แล้วแบงค์เขาโมโหแล้วต่อยผม แต่ปลาคาร์พมันเข้ามาช่วยผมเลยต่อยน้องเข้าไปจนเลือดกำเดาไหล ส่งโรงพยาบาลไปเมื่อวาน ตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงผมยังไม่รู้เลย จะไปหาที่บ้านก็มีรุ่นพี่ม.6 อีกคนเขาดักทางอยู่ เขาไม่ชอบหน้าผม ตอนนี้ก็เลยเป็นปัญหาคาราคาซังของผมอยู่เนี่ยแหละ” ท็อปสรุปสั้นๆ

“นี่ลูกไปต่อยตีกันมาอีกแล้วเหรอเนี่ย” พ่อของท็อปทำหน้าตกใจเมื่อได้ยินเรื่องที่ลูกชายตัวดีเล่า “เกิดขึ้นเมื่อไร”

“เมื่อวานตอนเย็น คนเลยไม่ค่อยรู้กันมาก เพราะตอนนั้นมันห้าโมงกว่าแล้ว คนกลับบ้านไปเยอะแล้ว เลือดน้องออกเยอะมากครับพ่อ ผมจะไปช่วยแต่น้องก็ไม่ยอม เขาโกรธผม” ท็อปบอกเสียงเศร้า

“วัยรุ่นหนอวัยรุ่น” พ่อพึมพำพลางถอนหายใจ “แล้วนี่พ่อแม่เขารู้รึยังเนี่ย เขาจะมาเอาเรื่องท็อปไหม ไปทำลูกเขาเจ็บขนาดนั้น”

“ผมไม่รู้อะไรเลยครับพ่อ ตอนนี้ท็อปก็รอฟังข่าวแต่น้องก็ไม่มาโรงเรียน ก็เลยว่าจะโดดไปหาเนี่ยแหละ แต่คาร์พมันห้ามไว้ซะก่อน โทรไปก็ปิดเครื่อง เพื่อนเขาก็ไม่รู้ ไม่มีใครติดต่อได้เลย” ท็อปเสริม

เสียงฟ้าร้องจากนอกหน้าต่างกำลังบอกว่าฝนกำลังจะเริ่มตกในไม่ช้า ท็อปหันหน้าไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังในห้องพักครูบอกเวลาทุ่มกว่า ๆ

“มันเย็นมากแล้วอะครับ พ่อ วันนี้ท็อปขอพ่อวันนึงได้ไหมครับ ท็อปจะไม่ขออะไรอีก แค่วันนี้วันเดียว” ท็อปอ้อนวอน

“ก็ได้ พ่อยกให้วันนึง แต่วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ โดดเรียน ชกต่อยกับเพื่อนกับคนนั้นคนนี้ไปทั่ว ปลาคาร์พน่ะเขาเหมือนพี่เรานะ ถึงจะเรียนรุ่นเดียวกันแต่เขาก็ดูแลลูกเหมือนน้อง เหมือนคนในครอบครัวมาตลอด อย่าไปทำเขา มีอะไรก็คุยกันดีๆ โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” พ่อย้ำอีก

“ขอบคุณครับพ่อ” ท็อปร้องออกมาอย่างดีใจก่อนจะรีบเดินไปเก็บของใส่เป้ของตัวเอง

“มีเงินเติมน้ำมันรถหรือเปล่า?” พ่อถามอีก ท็อปพยักหน้ารับ แล้วสะพายเป้พร้อมออกเดินทาง “ฝนมันใกล้จะตกแล้ว รีบไปแล้วรีบกลับนะลูก อย่าขับรถเร็ว มันอันตราย ฝนตก ถนนลื่น พ่อเป็นห่วง”

“ครับ เดี๋ยวท็อปจะรีบกลับ แต่ถ้าฝนมันตกหนักมากๆ ผมอาจจะขอนอนค้างที่นั่นเลย เดี๋ยวผมจะโทรบอกพ่ออีกที จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”

พ่อพยักหน้าตอบ จ้องมองลูกชายเปิดประตู แล้วเดินออกจากห้องไป


จบบทที่ 24 นะครับ ... ตอนที่ 25 จะมาอัพให้อ่านวันศุกร์เวลาเดิม เช่นเคยครับ

** ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ดีๆนะครับ ประทับใจมาก จนอยากจะลงทีเดียวรวด 32 ตอนให้อ่านจนจบไปให้หมดเลยทีเดียว 555-- **ทุกคอมเมนต์ของท่าน ต่อลมหายใจให้ผมได้ครับ ขอบคุณมากครับ
 :heaven :heaven :heaven :heaven :heaven

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
งะไปง้อสำเร็จไหมนะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
มันจะดีนะ ลงทีเดียวจนจบเลยน่ะ 555555

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :hao4:  ก็ไม่รู้สินะ

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
Beloved Senior (Updated บทที่ 24 --30/03/2015)
«ตอบ #148 เมื่อ01-04-2015 00:24:42 »

ถ้าท็อปรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของคราฟ ท็อปยังจะให้อภัยไหมนะ

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
มันจะดีนะ ลงทีเดียวจนจบเลยน่ะ 555555

 :pig4: :pig4: :pig4:

งั้นเดี๋ยวศุกร์นี้จัดไปเลยครับ สอง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด