บทที่ 10
ผิดคาด“แน่ใจนะพี่ท็อปว่าเอาอยู่” แบงค์ถามขึ้นเมื่อนั่งดูพี่ท็อปวอร์มเดาะลูกขนไก่ด้วยความชำนาญ
“แน่นอนอยู่แล้ว น้องรัก พี่มั่นใจยังไงก็มักจะได้อย่างนั้นแหละ” พี่ท็อปตอบหันหน้ามามองแบงค์แบบกวนๆ “กลัวว่าพี่จะชนะแล้วได้รางวัลจากแบงค์ล่ะสิ?”
“ถ้าพี่ทำได้ ก็ทำเลย” แบงค์แซว “ว่าแต่พี่รู้จักคู่แข่งของพี่ที่ต้องเล่นด้วยหรือเปล่า?”
“อ่า...ส่วนใหญ่ก็รู้จักเผินๆ” ท็อปบอกหันหน้าไปมองฝั่งตรงข้ามสนามที่กลุ่มนักกีฬากำลังเตรียมตัวกันอยู่ “จำชื่อได้ไม่หมดหรอก แค่เคยเห็นหน้า ส่วนใหญ่ก็หน้าเดิมๆนั่นแหละ?”
“ขอให้นักกีฬาแบดมินตันชาย ม.ปลาย ทุกสีมารายงานตัวที่กองอำนวยการด้วยค่ะ ประกาศ ขอให้นักกีฬาแบดมินตันชายม.ปลาย ทุกสีมารายงานตัวที่กองอำนวยการด้วยค่ะ” เสียงประกาศออกไมค์ดังขึ้นทั่วสนาม
ท็อปจึงแยกตัวไปที่กองอำนวยการ ส่วนเพื่อนๆก็นั่งรออยู่ข้างสนามเช่นเดิม ฟังผลว่าสีชมพูจะได้แข่งกับสีอะไรเป็นสีแรก และเมื่อดูเหมือนว่าผลจะออกมา ท็อปจึงรีบกลับมาบอกทุกคน
“พี่ต้องเจอกับสีม่วงก่อน” พี่ท็อปรีบเดินมาบอก “เดี๋ยวจะเริ่มแข่งคู่สีชมพูกับสีม่วงเป็นสีแรก”
“สู้ๆ นะคะพี่ท็อป ชนะสีม่วงให้ได้นะ” เปิ้ลเชียร์ “พวกหนูจะเชียร์พี่ท็อปอยู่ข้างสนามนะคะ”
ท็อปยิ้มให้พร้อมชูนิ้วโป้งเป็นสัญญาณว่า ยังไงก็ไว้ใจฝีมือได้เลย
เมื่อเสียงนกหวีดเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขันดังขึ้น พี่ท็อปแข่งขันกับสีม่วงเป็นสีแรก สีม่วงเป็นรุ่นพี่ม.6 ซึ่งดูหน่วยก้านแล้วก็น่าจะมีฝีมืออยู่พอตัว เหล่ากองเชียร์และแบงค์ต่างก็ลุ้นกันตัวโก่งว่า พี่ท็อปจะสามารถเอาชนะสีม่วงได้ไหม เริ่มเกมส์สีชมพูเป็นฝ่ายเสิร์ฟ และเน้นเกมส์บุก พี่ท็อปเป็นขาพลังเยอะ ทุกครั้งที่มีโอกาสพี่ท็อปจะตบอัดลงเส้นแบบไม่ยั้ง ฝ่ายสีม่วงเองก็เป็นฝ่ายรับที่ดี ตีโต้กลับมาเป็นระยะๆ แต่ด้วยความที่พี่ท็อปนั้นหลอกตีให้ตกช่วงใกล้เส้นออกตลอด เลยเหมือนจะล่อให้คู่แข่งต้องคอยวิ่งไล่รับลูกอยู่ตลอด ต้องยอมรับว่าสายตาในการกะการตีลูกแต่ละครั้งของพี่ท็อปค่อนข้างแม่นยำมาก เพราะในองศานั้นถ้าคู่แข่งไม่ตบลูกขึ้นมาก็มีโอกาสเสียคะแนนให้พี่ท็อปได้ง่าย และเมื่อคู่แข่งตบลูกข้ามฝั่งได้ก็จะเจอพี่ท็อปหยอดข้างเน็ทก็ไม่สามารถวิ่งกลับมารับได้ทันอีก จบเซ็ตแรกที่สีชมพูชนะที่ 21 – 11
กองเชียร์สีชมพูก็ร้องเฮลั่นสนามเมื่อสีชมพูชนะอีกรอบ ทั้งแบงค์ เกด เปิ้ลที่แม้จะอยู่สีม่วงต่างก็เฮลั่นไปด้วยเมื่อพี่ท็อปชนะเซ็ตแรก สาวๆต่างสี ที่เข้ามาเชียร์พี่ท็อปต่างก็เฮลั่นด้วยความดีใจ เขายิ้มแฉ่ง แล้วเดินไปจับมือกับสีม่วงที่ก็หัวเราะให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเองในเซ็ตนี้ บรรยากาศสนุกๆและตื่นเต้นในการเชียร์กีฬาแบบนี้สำหรับแบงค์เองก็ไม่ค่อยได้สัมผัสเท่าไร
เซ็ตที่สอง พี่ท็อปก็ยังคงกระหยิ่มยิ้มย่องกับชัยชนะของตนเองในเซ็ตที่ผ่านมา สีม่วงเริ่มเสิร์ฟบ้างและเป็นฝ่ายที่รุกเกมส์เข้ามา ถ้าเกมส์นี้พี่ท็อปยังคงเล่นมุขเดิม คาดว่าทีมสีม่วงน่าจะเดาทางออกแล้ว และพี่ท็อปน่าจะใช้เทคนิคใหม่ๆในการรุกกลับ ทีมสีม่วงบุกด้วยการตบไม่ยั้งไปทั้งทางซ้ายและขวา เพื่อหลอกล่อให้พี่ท็อปวิ่งบ้างแต่ด้วยความที่เป็นคนตัวสูง และขายาว พี่ท็อปก็ยังสามารถยึดพื้นที่สนามเอาไว้ได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายเน้นตบล้วน เมื่อตบมาก็ต้องตบตอบ เพราะหากรับด้วยการตีโต้แบบธรรมดา อีกฝ่ายก็จะสามารถมีโอกาสหยอดลูกหน้าเน็ทใช้เทคนิคเลียนแบบพี่ท็อปได้ พี่ท็อปจึงต้องใช้ลูกตบตีคืน
เกมส์ดำเนินไปด้วยสีชมพูสูสีกับสีม่วงที่ 15 – 14 เกมส์เซ็ตที่สองนี้ทำเอากองเชียร์ลุ้นกันเหงื่อตกเหมือนกัน เพราะคู่แข่งสีม่วงนั้น เริ่มเดาเทคนิคของพี่ท็อปออกและเน้นโต้กลับให้พี่ท็อปต้องออกแรงแขนมากขึ้นจากการโต้กัน แบงค์สังเกตหน้าของพี่ท็อปทีค่อยๆเป็นสีชมพูระเรื่อมากขึ้น ด้วยความที่เป็นคนขาว แบงค์จำได้เสมอว่า เมื่อพี่ท็อปออกแรงมากขึ้นและเหนื่อยมากขึ้น (จากการที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองในกิจกรรมต่างๆ) หน้าพี่ท็อปจะแดงขึ้น ๆ เหงื่อที่ผุดออกมาทำให้รู้ว่า พี่ท็อปเริ่มจะถูกตีเป็นฝ่ายถูกรุกบ้างแล้ว และแม้ว่าจะยังครองเกมส์ได้ แต่ฝ่ายสีม่วงดูท่าว่าจะอึดพอสมควร
ทันใดนั้นสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ในช่วงที่พี่ท็อปกำลังกระโจนออกไปรับลูกตบที่กำลังจะลอยไปโดนเส้นสนาม ข้อเท้าของพี่ท็อปเกิดพลิกขึ้นมากะทันหัน ทำเอาเจ้าตัวล้มทั้งยืน ทำเอากองเชียร์ลุกฮือด้วยความตกใจ พี่ท็อปฟุบลงไปกับสนามด้วยสีหน้าเจ็บปวดสุดๆ เพราะข้อเท้าพลิก กรรมการเป่านกหวีดขอเวลานอกทันที เมื่อเห็นนักกีฬาบาดเจ็บ ก่อนที่แบงค์จะรีบวิ่งข้าไปหาพี่ท็อป พี่คาร์พที่เหมือนโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้กับพี่หวานก็รีบเข้าไปดูอาการเพื่อนที่นอนร้องโอดโอยอยู่
“นิ่งๆไว้ก่อน ท็อป” พี่คาร์พพูด ส่วนพี่หวานก็รีบจัดแจงให้น้องนักเรียนชายที่ยืนอยู่ข้างสนามเข้ามาเพื่อช่วยพยุงพี่ท็อปอีกแรง
“โอ๊ย ดูท่ามันจะพลิกหนักว่ะเพื่อน” พี่ท็อปบอก เมื่อพี่คาร์พพยุงปีกของพี่ท็อปขึ้น “พลาดไปหน่อย เหมือนพี้นรองเท้ามันลื่น เลย ...โอ๊ย” เขาร้อง เมื่อพยายามจะเดินออกข้างสนามและเผลอกดน้ำหนักลงที่เท้าขวาข้างทีเจ็บ
ฝ่ายปฐมพยายาบาลเบื้องต้นรีบเข้ามาเช็คอาการของพี่ท็อปที่ข้างสนาม โดยมีพี่หวานคอยยืนให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ กองเชียร์ต่างๆก็พูดคุยกันเสียงดัง แม้แต่คู่แข่งสีม่วงเองก็รีบเดินมาดูอาการของพี่ท็อปด้วย
“เป็นไรมากรึเปล่า น้อง?” รุ่นพี่ม.6 นักกีฬาสีม่วงถามขึ้น
“ขาพลิกน่ะครับ โอ๊ย ตรงนั้นมันเจ็บ อย่าจับแรงสิครับ” พี่ท็อปร้องบอกครูพยาบาลที่เข้ามาจับขาดูอาการ
“ดูท่าว่าจะแข่งต่อไม่ได้แล้วล่ะนะ ต้องพักแล้ว” ครูห้องพยาบาลบอก ก่อนจะเอาผ้ากอชมาพันขาพี่ท็อปเอาไว้ไม่ให้เขยื้อนมาก
“อ้าว แล้วการแข่งขันที่เหลือล่ะครับครู แบบนี้มันค้างๆ คาๆ ยังไงผมก็ต้องจบเกมส์ของผมให้ได้” ท็อปบอก พยายามลุกขึ้นยืน
“อีกอย่างผมต้องชนะเท่านั้น” ท็อปบอกเสียงแน่วแน่ก่อนที่จะหันหน้ามาสบตากับแบงค์ที่ได้แต่ยืนมุงอยู่เงียบๆ
“ยืนยังจะยืนไม่ได้เลย อัครวินท์ ครูว่าพักเถอะ เดี๋ยวต้องลองถามกรรมการว่าครึ่งที่เหลือจะเอายังไงต่อ” ครูพยาบาลบอกดุๆ ก่อนที่จะเดินไปหาอาจารย์สันติที่เป็นกรรมการในแมทช์นี้ให้
“โห่ แย่เลยอะ อดแหงเลย” ท็อปบ่นพึมพำ สีหน้าหงุดหงิด
“อดอะไรวะ?” ปลาคาร์พถามเพื่อน
“อ๋อ เปล่า ๆ ก็อดชนะไง” ท็อปพูด หัวเราะกลบเกลื่อน
“เจ็บมากไหมพี่ท็อป ดูพี่จะเล่นจริงจังมากไปหน่อยนะ แค่กีฬาสีเอง” แบงค์บอก พลางจับบ่าพี่ท็อปเบาๆ
“อ่าว ก็ดันมีของรางวัลมาล่อใจนี่นา จะให้ทำเล่นๆได้ไง” พี่ท็อปบอก ยังมีหน้ามายิ้มทะเล้นใส่ ส่วนปลาคาร์พก็มองไปที่แบงค์อย่างสงสัยในความหมายของบทสนทนา
อาจารย์สันติรีบเดินมาดูอาการท็อปเพิ่มเติมก่อนที่จะปรึกษาเหล่านักกีฬา “มีคนจะเล่นแทนอัครวินท์หรือเปล่าล่ะ? สีชมพูน่ะ มันเป็นเหตุสุดวิสัย น่าจะอนุโลมให้ได้ ทางสีม่วงเองก็อยากให้การแข่งขันมันดูแฟร์ๆด้วย เพราะสีม่วงก็สนุกที่ได้เล่นกับเจ้าอัครวินท์ เลยอยากให้มีคนเปลี่ยนตัวมาเล่นแทนดีกว่า อย่างน้อยถ้าเซ็ตนี้สีชมพูกินขาด สีชมพูก็ชนะไป แต่รอบๆต่อไป คิดว่าอัครวินท์คงเล่นไมได้ เพราะน่าจะหายเจ็บไม่ทัน ปีนี้ อาจจะต้องให้คนอื่นมาเล่นแทนไปก่อน”
“ผมว่าผมน่าจะยังเล่นต่อได้นะครับ อาจารย์” ท็อปโอดครวญ เจ็บใจตัวเองหน่อย ๆ ที่มาพลาดล้มเอาผิดเวลาแบบนี้
“อย่าเสี่ยงเลย ถ้ากล้ามเนื้อฉีก เธอจะมีปัญหาหนักกว่านี้นะ” ครูพยาบาลบอก “สีชมพูว่ายังไงกันมีคนแข่งแทนไหม? มีตัวสำรองไว้หรือเปล่า”
“ตอนนี้สีชมพู 15 ต่อ 14 ถ้าจะเอาชนะ เราก็เหลืออีกแค่ 6 แต้มเท่านั้น ถ้าชนะในเซ็ทนี้ได้ รวมกับคะแนนเก่าที่ท็อปชนะในเซ็ตก่อน สีชมพูก็จะชนะแล้วได้เข้ารอบต่อไปนะ” หวานบอกข้อมูล เมื่อมองดูกระดานขานคะแนน
“งั้น เดี๋ยว ผม จะลองเล่นแทนเอง” แบงค์บอก
“หา !!!” เพื่อนๆรอบๆข้างที่ยืนอยู่รอบๆอุทานพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย
“ไม่ไหวมั้งแบงค์ หนก่อนที่เราเล่นกัน แบงค์ก็เหนื่อยน่าดูอยู่นะ มันจะเหนื่อยไปหรือเปล่า” พี่คาร์พพูดด้วยน้ำเสียงไม่อยากเชื่อใจผู้อาสาตัว
“ของแบบนี้ต้องลองครับ คนที่ฝึกๆกันมาก็มีแต่รุ่นม.ต้นนี่นา แถมรุ่นม.ปลายพี่ท็อปไม่ได้ฝึกตัวสำรองเอาไว้ด้วย” แบงค์พูด ท็อปมองหน้าแบงค์อย่างหวั่น ๆ
“แบงค์ พี่ว่า อย่าเลยเถอะ อีกฝ่ายเขาก็เล่นเก่งมากนะ พลาดเอาจะมานอน ขาแพลงแบบพี่มันจะไม่ดีนะ” ท็อปบอกเขาไม่ค่อยอยากให้แบงค์เข้าสมรภูมินี้เท่าไรนัก เพราะมันแบกรับความหวังของสีเอาไว้ด้วย ถ้าหากแบงค์ทำพลาด ก็อาจจะถูกคนเกลียดเอาก็ได้
“พี่ลงเล่นเองดีกว่า อย่างน้อยพี่ก็ฝึกเป็นลูกมือกับท็อปมันตลอด” พี่คาร์พอาสา “แบงค์ดูแลท็อปเหอะ พี่จะลุยเอง”
“แต่พี่คาร์พเพิ่งแข่งบาสมาหยกๆนะครับพี่ มันจะไม่เหนื่อยเกินไปเหรอ ไหนอาจจะมีโปรแกรมแข่งที่มันซ้อนกันอีกนะ” แบงค์บอก “แบงค์ขอลงเถอะครับ อย่างน้อย ก็จะได้พิสูจน์ตัวเอง”
ปลาคาร์พมองหน้าแบงค์แบบจ้องๆ ก่อนจะยื่นไม้แบดของท็อปให้ “เอ้า ลองดูละกัน”
ท็อปหน้าเหวอเมื่อเพื่อนออกปาก “เฮ้ย จริงดิ !! แบงค์ เอาจริงดิ”
“แบงค์แกอย่าฝืนนะเว้ย” เกดบอก สีหน้าเป็นห่วง “นี่ไม่ได้แข่งเล่นๆกันละนะ”
แบงค์ได้แต่พยักหน้า รู้สึกกดดันขึ้นมาทันที ในมือกำไม้แบดไว้แน่น คู่แข่งฝ่ายสีม่วงเลิกคิ้วให้ มองหน้าแบงค์อย่างฉงน ๆ
เมื่ออาจารย์สันติให้สัญญาณในการเริ่มแข่งขัน การแข่งขันคู่สีชมพูและสีม่วงจึงดำเนินต่อไปด้วยความตื่นเต้นของเหล่ากองเชียร์ที่มีการสลับตัวแข่งขันกันเกิดขึ้นเป็นกรณีพิเศษ ท็อปกลืนน้ำลายรู้สึกผิดน้อยๆที่สุดท้ายแบงค์ต้องเป็นคนแบกรับภาระนี้ไว้แทนเขา ส่วนปลาคาร์พเองก็มองน้องไม่วางตา รู้สึกไม่มั่นใจแต่ก็ต้องปล่อยไปตามคำขอ
แบงค์พยายามคุมสติในการเล่นครั้งนี้อย่างมาก เพราะว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะไม่ยอมออมมือให้ รุ่นพี่ม.6 สีม่วงคนนั้นส่งยิ้มอย่างมีเลศนัยมาให้ก่อนที่จะเริ่มเสิร์ฟด้วยลูกตบทันที เมื่อลูกตบลอยข้ามฝั่งมา แบงค์จึงพยายามกะแล้วตบโต้กลับไป แต่ว่าฝีมืออันเหนือชั้นของคู่แข่งทำให้ภายในไม่กี่นาที จากสีชมพูที่นำอยู่กลับกลายเป็นสีม่วงที่นำขึ้นมาแทน จนกระทั่งสุดท้ายสีม่วงก็ได้ชัยชนะของเซ็ตที่สองไปโดยปริยาย
แบงค์เดินคอตกกลับมาท่ามกลางเสียงเชียร์อันดีใจของสีม่วงที่ตีเสมอเซ็ตได้เท่ากัน ปลาคาร์พและท็อปก็ไม่ได้จะตำหนิแบงค์เพราะเท่าที่พยายามน้องก็ทำมาได้เต็มที่แล้ว อีกอย่างคู่แข่งมีความเป็นมืออาชีพมากกว่า คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อควรจะเป็นท็อปมากกว่าตัวสำรองที่ไม่เคยฝึกซ้อมเลย
เมื่อจบเซ็ตนี้ไปแล้ว ทางคณะกรรมการจึงปรึกษากันแล้วขอสรุปให้สีม่วงชนะไปเลยโดยไม่ต้องแข่งเซ็ต 3 เนื่องจากเหตุผลที่นักกีฬาของสีชมพูไม่มีตัวสำรองแทน ซึ่งเป็นสิ่งที่ท็อปคาดคะเนผิดด้วยความผยองในความสามารถ เขาจึงไม่ได้เตรียมตัวสำรองไว้และตั้งใจจะเก็บชัยชนะจากรายการนี้เช่นที่เคยทำมาตลอดแต่ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น และสีชมพูต้องตกรอบไปโดยปริยายในการแข่งขันของปีนี้ พี่ท็อปดูมีสีหน้าเจ็บใจเป็นที่สุด ทั้งยังโมโหโวยวายใส่คนรอบข้างไปทั่ว เมื่อผลการสรุปการแข่งขันจบลง
==============================
“เชี่ยเอ๊ย แม่งกูไม่น่าขาพลิกเลย ให้ตาย โคตรเสียดายเลย ไม่น่าเลย” ท็อปโอดครวญ ก่นสบถด้วยความเดือดดาลอยู่ในห้องพยาบาล ตัวแบงค์เองก็รู้สึกเสียใจที่ช่วยอะไรไมได้เลย แถมกู้หน้าให้พี่ท็อปก็ไม่ได้ แต่ทั้งกองเชียร์และคนรอบข้างต่างก็ไม่มีใครตำหนิแบงค์เลย เพราะเห็นว่าทุกอย่างเป็นเรื่องสุดวิสัย และการออกตัวสู้กับสีม่วงของแบงค์นั้นถูกนับว่ากล้าหาญ แม้ว่าจะรู้ว่าตนเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่ก็สู้จนวินาทีสุดท้าย
“แบงค์ขอโทษที่ทำให้พี่ท็อปผิดหวัง” แบงค์บอก หันหน้าไปมองพี่ท็อปตาละห้อย ตอนนี้ ทั้งเกด เปิ้ล และท็อป ก็ไปดูการแข่งกิจกรรมเข้าจังหวะ ส่วนปลาคาร์พก็ไปเตรียมแข่งขันในช่วงบ่ายต่อ ทั้งสองจึงได้แต่นั่งอยู่ในห้องพยาบาลกันตามลำพัง
ท็อปที่กำลังเดือดดาลอยู่เมื่อเห็นสีหน้าหงอยของแบงค์ จึงค่อยๆสงบอารมณ์ลง
“อย่าคิดมากน่า พี่ผิดเองแหละที่พลาดเอง มันไม่ใช่เรื่องของแบงค์เลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก” พี่ท็อปบอกเอามือลูบหัวน้องเบาๆ
“คิดว่าทุกคนคงหวังจะให้สีชมพูได้เหรียญทองจากพี่ท็อปเหมือนทุกปี แต่ปีนี้ก็อดไปแล้วแน่นอน 1 เหรียญ” แบงค์พึมพำ
ท็อปหัวเราะ หึ หึ ในลำคอ “ช่างมันปะไร ได้มาสามสี่ปีแล้ว ปีนี้ก็แบ่งคนอื่นมั่งก็แล้วกัน” ท็อปบอกแล้วค่อยๆเอนตัวกับหมอนที่พิงอยู่ที่หัวเตียง “พี่เสียดายรางวัลมากกว่า อยู่ตรงหน้าแท้ๆ แต่กลับ คว้า มาไม่ได้” ท็อปพูดหันหน้ามามองแบงค์
แบงค์หันหน้ามองพี่ท็อปตอบเขิน ๆ ก่อนจะเขยิบตัวขึ้นมานั่งด้วยบนเตียง “งั้นวันนี้ให้ฟรี 1 วัน ตอบแทนที่เชื่อใจในตัวแบงค์ เป็นรางวัลพิเศษละกัน”
“จริงดิ?” ท็อปถาม สีหน้าดีใจเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ขึ้นมาทันที
แบงค์ชะโงกหน้ามองรอบๆห้องเห็นว่าไม่มีใครอยู่ในห้องพยาบาล อีกทั้งตอนนี้ทั้งครูพยาบาลเองกับพวกนักเรียนอื่นๆ ต่างๆก็ไปรวมๆกันอยู่ตามจุดแข่งขันต่างๆในโรงเรียนกันทั้งหมด แบงค์ค่อยๆบรรจงขยับกายเข้าไปใกล้ๆท็อป ก่อนจะบรรจงจุบลงบนริมผีปากของพี่ท็อป ก่อนที่ทั้งสองจะค่อยๆแลกเปลี่ยรสสัมผัสแห่งลิ้นกันอย่างดูดดื่ม ท็อปนั้น ค่อยๆจับใบหน้าของแบงค์อย่างอ่อนโยน แบงค์ค่อยๆใช้มือของตนลูบไล้ไปที่หน้าอกของท็อปแล้วลดระดับต่ำลงเรื่อยๆอย่างช้าๆ ก่อนจะใช้มือล้วงเข้าไปในกางเกงวอร์มกีฬาที่ท็อปสวมอยู่ จากนั้นท็อปจึงใช้ใบหน้าของตนไซร้เข้าที่ซอกคอของแบงค์ ในขณะที่มือของแบงค์ก็กำลังทำหน้าที่ ท็อปร้องออกมาเบาๆด้วยความพึงพอใจ “พี่อยากใกล้ชิดแบงค์มากกว่านี้ได้ไหม?” ท็อปกระซิบเบาๆ “แค่นี้มันยังไม่พอ” ก่อนที่จะประกบปากของเขามาอีกครั้ง
“พี่ท็อปจะขอมากกว่านี้เหรอ ?” แบงค์ถาม ก่อนจะหอมแก้มพี่ท็อป กลิ่นกายของพี่ท็อปมันช่างหอมจรุงใจเสียเหลือเกิน “ที่นี่มันห้องพยาบาลนะ แล้วก็มีกระจกที่ข้างนอกพอจะมองเห็นเข้ามาได้อยู่นะ ถึงจะปิดฟิล์มทึบก็เถอะ เสี่ยงโดนเห็นนะพี่ ขอใช้ปากให้แทนได้ไหม?” แบงค์ต่อรอง ท็อปพยักหน้าก่อนที่จะใช้มือของเขาบรรจงจับหัวของแบงค์ให้เข้าใกล้ๆท่อนลำของเขาช้าๆ ก่อนที่ทั้งริมฝีปากจะดูดกลืนไปกับรสสัมผัสของอาวุธอุ่นๆที่ท็อปยื่นให้ ท็อปครางออกมาเบาๆด้วยความสุข และหายใจถี่ขึ้น ๆ พร้อมๆกับที่เขาพยุงหัวของแบงค์ให้ขยับไปตามความต้องการของเขา “ใกล้...ใกล้แล้ว...” ท็อปค่อยๆ พูดพลางกลั้นหายใจเกร็งหน้าท้อง แบงค์สัมผัสได้ถึงแรงดีดตอดตุบๆในปาก เมื่อน้องชายของพี่ท็อปพร้อมแล้วที่จะปลดปล่อยความรักออกมา “จะ..ออกแล้ว”
เมื่อสิ้นพยางค์สุดท้าย สิ่งที่เขาเก็บมาทั้งอาทิตย์เพื่อรอโอกาสจะได้ใช้เมื่อรับรางวัลจากคนรักของเขาก็ได้พรั่งพรูออมาเสียจนล้นออกจากปากแบงค์จนแทบสำลัก แต่เขาก็พยายามควบคุมลมหายใจและกลืนมันเข้าไปจนหมด ยิ่งพี่ท็อปเองคอยกดหัวเขาตลอดการทำ ยิ่งทำให้แบงค์เองก็ลำบากเหลือเกินในการที่จะเงยหน้ามาหายใจ
ท็อปเอนกายลงที่หมอนอย่างหมดแรง “หมดแรงเลย” เขาพูด
“พี่ท็อปอะ กดหัวแบงค์เยอะไป จะหายใจไม่ทันตายเอานะ” แบงค์บ่น หยิบทิชชูมาเช็ดริมฝีปาก
ท็อปกระโจนกายลุกขึ้นมาหอมแก้มแบงค์ฟอดใหญ่ “โทษที พี่จดจ่อมากไปหน่อย เดี๋ยวคราวหน้าเอาใหม่นะ”
เสียงประตูห้องพยาบาลเปิด ท็อปรีบจับมังกรหลับของเขาเข้ากางเกงทันทีก่อนที่ผู้มาเยือนจะเห็นว่าเขาสองคนทำอะไรกันในห้องพยาบาล
“อัครวินท์ เดี๋ยวครูเอายานวดให้เราไปไว้ใช้ที่บ้าน” ครูพยาบาลบอก ก่อนจะหันมามองทั้งสองคนด้วยสีหน้าแปลกๆ “ทำไมดูเหนื่อยๆกันจังสองคน? อัครวินท์หน้าเธอแดงมากเหมือนกับเพิ่งไปวิ่งมางั้นแหละ”
“อ๋อ....” พี่ท็อปตีสีหน้าเลิกลั่ก “อากาศในห้องมันร้อนมากกว่าครับ..... จารย์ เดี๋ยวผมว่า ผมจะลองเดินไปที่สนามบาส จะไปดูวิทวัสเขาเล่นบาสครับ” ท็อปปดเรื่องหน้าแดง ทุกครั้งที่เขาออกแรงหรือเหนื่อย หน้าของเขาจะแดงเป็นสัญญาณของการที่เลือดขึ้นมาเลี้ยงศีรษะมากเกินไป
“งั้นก็ค่อยๆเดินนะ อย่าไปลงน้ำหนักข้างนั้นแรงละกัน” อาจารย์บอกก่อนที่จะหยิบยานวดมาให้ “ฝากเจนภพดูแลรุ่นพี่เธอด้วยล่ะ”
“พร้อมจะไปรึยัง?” แบงค์หันหน้าไปถามพี่ท็อป
“ยังเหนื่อยอยู่เลย...แต่ก็ยังไปไหวนะ” พี่ท็อปตอบ หันมายิ้มให้
แบงค์จึงค่อยๆ พยุงตัวพี่ท็อปที่แสนจะตัวหนักขึ้นมาเพื่อที่จะเดินไปข้างนอกด้วยกัน
“แบงค์ พี่ขอโทษนะที่ต้องทำให้ลำบาก กลายเป็นคนง่อยเลยเรา” ท็อปบอก เกาะบ่ารุ่นน้องไว้แน่น พลางกระเผลกเดินไปด้วยกัน
“ทุกอย่างที่ทำก็เพราะรักพี่นั่นแหละ....ถ้าไม่ดูแลกันจะให้ดูแลใครล่ะ” แบงค์บอก ท็อปยิ้มตอบ หน้าแดงเพราะเขินกับคำพูดของรุ่นน้อง เขาเอามือไปบีบจมูกแบงค์เบาๆด้วยความรักใคร่ จากนั้นทั้งคู่ก็เดินไปเรื่อยจนถึงสนามบาส
โดยหารู้ไม่ว่า....
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น หวาน ประธานนักเรียนตัวแสบที่เฝ้าอยู่หน้าห้องพยาบาล เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนพูดทุกคำพูด ด้วยความที่เธอเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ เพื่อรอให้ความจริงระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้กระจ่างชัด ... ก็จวนถึงเวลาที่หลายๆคนจะได้รับรู้กันสักที
และเธอจะไม่ยอมเด็ดขาดที่จะให้มีคนมาพรากสิ่งที่เธอเห็นว่าสำคัญที่สุดไปจากเธอ
จบบที่ 10 (อัพเดทบทที่ 11 ในวันจันทร์ที่ 16/02/2015 นี้เวลาเดิมครับ)
**หมายเหตุ ตอนนี้อาจจะติดเรทไปนิดนึง (ใครรับไมไ่ด้ต้องขออภัยอย่างสูงนะครับ )ฉลองให้เข้ากับการฉายภาพยนตร์เรื่อง Fifty Shades of Grey ที่ผมจะไปดูวันวาเลนไทน์นี้ 5555+ ขอให้ทุกท่านใช้วันวาเลนไทน์นี้ไปกับคนรักให้มีความสุขนะครับ ใครยังไม่มีแฟนก็ขอให้หาได้ไวๆ ใครมีแล้วก็รักกันไปนานๆ . .. ขอบคุณที่ติดตามและรักท็อปแบงค์นะครับ ไว้วันจันทร์มาอัพเดทเหมือนเดิมครับ