[นิยายแนวม.ปลาย] (Updated จบซีรียส์ อัพ 14/05)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [นิยายแนวม.ปลาย] (Updated จบซีรียส์ อัพ 14/05)  (อ่าน 54994 ครั้ง)

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
นี่ ไม่ทันไรแบงค์ก็หวั่นไหวซะแล้ว พูดตรงๆนะตั้งแต่อ่านมาเราไม่ค่อยเห็นแบงค์จะแคร์ท็อปซะเท่าไหร่เลยนะ เหมือนแบงค์ไม่รักท็อป ที่คบกับท็อปก็เหมือนกับเลยตามเลยยังไงก็ไม่รู้ หรือเราคิดไปเองคนเดียวนะ ส่วนตัวแบงค์ปากก็บอกรักท็อปแต่นี่หวั่นไหวซะแล้ว อยากจะบอกเลยเกินว่าถ้าเรารักใครแล้วนะไม่น่าจะหวั่นไหวกับคนอื่นง่ายๆนะ ถึงแม้เค้าคนนั้นจะนิสัยไม่ดีแค่ไหนก็เถอะ

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
นี่ ไม่ทันไรแบงค์ก็หวั่นไหวซะแล้ว พูดตรงๆนะตั้งแต่อ่านมาเราไม่ค่อยเห็นแบงค์จะแคร์ท็อปซะเท่าไหร่เลยนะ เหมือนแบงค์ไม่รักท็อป ที่คบกับท็อปก็เหมือนกับเลยตามเลยยังไงก็ไม่รู้ หรือเราคิดไปเองคนเดียวนะ ส่วนตัวแบงค์ปากก็บอกรักท็อปแต่นี่หวั่นไหวซะแล้ว อยากจะบอกเลยเกินว่าถ้าเรารักใครแล้วนะไม่น่าจะหวั่นไหวกับคนอื่นง่ายๆนะ ถึงแม้เค้าคนนั้นจะนิสัยไม่ดีแค่ไหนก็เถอะ

อยากตอบกระทู้นี้มากๆครับ แต่เดี๋ยวจะกลายเป็นสปอยล์ไป ติดตามไปสักถึงตอนที่ 22 นะครับในนั้นจะมีคำตอบเรื่องนี้ให้ครับ ^^

ปล.เห็นด้วยมากๆ เรื่อง ยังไงถ้าเรารักเขา ต่อให้เขาจะนิสัยไม่ดี เราก็ยังรักเขาอยู่ดีเหมือนกันอิอิ...

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก รอตอนต่อไปแล้วกัน :hao4:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ jamelovelove

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-5
รอๆๆๆๆๆๆๆๆ ต่่อไปนะค่ะ
สนุกกดี๊ดี อ่า
555555555555

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 17
เพื่อนรัก รักเพื่อน


ท็อปกลับบ้านด้วยความรู้สึกผิดหวังและเสียใจที่แบงค์ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการทำให้ ตอนแรกท็อปรู้ดีว่ายังไงแบงค์ก็จะไม่ทิ้งเขาไปไหนและจะต้องอยู่ข้างเขา ถ้าท็อปกับแบงค์ช่วยกันก็จะสามารถหักหน้าของกายได้และทำให้กายไม่ต้องมาตอแยกับพวกเขาอีก แต่พอมาถึงตอนนี้นั้นเขาชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าแบงค์จะอยู่ข้างเขาหรือเปล่า กลายเป็นว่าแบงค์ไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาทำและต่อต้านอย่างมากที่พาเขาเข้ามาพัวพันกับการเดิมพันของท็อป

ท็อปอยากจะอธิบายให้แบงค์เข้าใจแต่แบงค์ไม่ยอมรับฟัง เขายังโกรธตัวเองที่อารมณ์เสียง่ายและทำให้แบงค์เสียใจกับทุกๆเรื่องที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วคนที่เสียใจที่สุดคือเขาเองไม่ใช่ใครอื่นเลย นับตั้งแต่เด็ก ท็อปอยู่แวดล้อมกับครอบครัวที่ใช้ความรุนแรงในบ้าน เขาเกลียดพ่อของตัวเองที่ทำร้ายแม่ แต่ในตอนนั้นเขากลับไม่สามารถช่วยอะไรได้เพราะยังเป็นเพียงเด็กเล็กๆเท่านั้น เขาคิดในใจเสมอว่าเขาจะไม่โตมาเป็นแบบพ่อที่ชอบทำร้ายคนอื่นและทำให้แม่เสียใจ แต่สุดท้ายเมื่อชีวิตเดินเข้ามาถึงจุดเดียวกัน ท็อปเริ่มเข้าใจแล้วว่าหลายครั้งคนเราก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความคิดของตัวเองได้ไวเพียงพอกับสิ่งที่ใจของตัวเองอยากให้เป็น หลายครั้งที่เราแสดงพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่อยากทำออกมา ทุกอย่างจึงกลายเป็นปัญหาไป เขาไม่อยากเจริญรอยตามพ่อแบบนั้นอีก 

แม้ปัจจุบันพ่อของท็อปจะเลิกนิสัยตอนหนุ่มๆไปแล้ว เป็นพ่อที่ทุ่มเททำงานและดูแลท็อปอย่างสุดความสามารถ แต่ความหลังยังคงฝังรากลึกอยู่ในใจของท็อปและยากเกินกว่าที่จะลบเลือนได้ เขาพยายามคิดว่านี่เป็นปัญหาของผู้ใหญ่และทุกคนต่างเลือกทางออกที่ดีทีสุดให้กับตนเองและครอบครัวแต่สำหรับท็อปแล้วไม่ว่าจะเลือกทางไหนครอบครัวก็แตกร้าวมากจนเกินเยียวยาอยู่ดี และชีวิตของเขาต่อจากนี้เขาตั้งใจจะไม่ให้มันกลับไปซ้ำรอยเดิมอย่างที่มันเคยเป็นมา

“ทำไมถึงไม่ยอมฟังเราเลย” เขาพึมพำกับตัวเอง “เรามันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ ที่ทำๆลงไปก็น่าจะเข้าใจว่าเราทั้งรักทั้งหวง ถ้าคนไม่รักไม่หวงจะทำแบบนี้ทำไมกัน”

เขายังคงจมจ่อมอยู่กับความเครียดเรื่องเมื่อตอนเย็น จนอดรนทนไม่ได้จึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าและคว้าชุดนักเรียนของวันพรุ่งนี้ยัดใส่กระเป๋า เลือกตำราเรียนที่ต้องใช้เรียนของวันใหม่จากนั้นจึงรีบขับรถมาที่บ้านของปลาคาร์พที่อยู่ห่างกันไม่ไกลนัก ตอนนี้เขาไม่อยากอยู่คนเดียวเขา เขาอยากได้เพื่อนคู่คิด สำหรับปลาคาร์พแล้วท็อปเป็นเพื่อนที่เขาจะต้อนรับเสมอไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เมื่อท็อปขับรถไปจอดถึงหน้าบ้าน ปลาคาร์พที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่หน้าบ้านก็เห็นเพื่อนขับรถมาจอดพอดี

“อ้าว มึง มาทำไรบ้านกูเนี่ยดึกๆ” เขาร้องทักเมื่อเห็นท็อปจอดรถ รีบใส่รองเท้าและเดินมาเปิดรั้วให้

“กูไม่อยากอยู่คนเดียวว่ะกูเครียด มึงอยู่เป็นเพื่อนกูหน่อยได้ไหม?” ท็อปบอกหน้าหงอยๆ

“อ้าว แล้วนี่พ่อมึงรู้ป่าวเนี่ยว่ามึงมานี่ เดี๋ยวก็โทรไปแจ้งตำรวจเหมือนเมื่อสองสามปีก่อนหรอก ว่ามึงหายไปทั้งคืนไม่บอกเขา” ปลาคาร์พเตือน เป็นห่วงทั้งเพื่อนและอาจารย์สายัณห์

“กูเขียนโน้ตแปะตู้เย็นบอกพ่อไว้แล้วแหละ ยังไงเขาคงไม่สนกูหรอกน่า...แม่มึงล่ะ อยู่รึเปล่า?” ท็อปถามชะโงกหน้าเข้ามามองในบ้าน

“แม่นอนแล้ว ช่วงนี้เขาไม่ค่อยสบาย ก็เลยนอนเร็ว ส่วนพ่อกูไม่อยู่บ้านไปต่างจังหวัดเหมือนเดิม งานราชการ กูก็เลยนั่งอ่านหนังสือเพลินๆ” ปลาคาร์พบอก

“ถ้างั้นมึงไปแดกเหล้ากับกูหน่อยดิวะ” ท็อปออกปากชวน

“ไอ้บ้า มึงเนี่ยนะจะแดกเหล้า หนที่แล้วมึงยังอ้วกแตกแทบหมดตัว คอมึงอ่อนยังกะอะไรดี กูว่า มึงอย่าเลย กูขี้เกียจหามมึงกลับมา”ปลาคาร์พบอกปัด แต่ท็อปยังคงจ้องหน้าเพื่อนเขม็งจนคาร์พรู้สึกเกร็ง

“หนนี้กูขอเหอะ ไปเป็นเพื่อนกูหน่อย กูไม่อยากนั่งกินคนเดียว” ท็อปบอก

“มึงนี่เป็นเอามากว่ะ ตั้งแต่มึงคบกับไอ้แบงค์นี่มึงเหมือนพวกคลั่งรักในหนังโรคจิตชะมัดเลย” คาร์พพูดติดตลกแต่ท็อปไม่ขำด้วย “มึงแดกเหล้าไปก็ไม่ได้ช่วยให้มันดีขึ้นมาหรอก ถึงตอนแดกมึงจะลืมแต่สุดท้ายมึงก็ต้องตื่นมาเจอความจริงอยู่ดี”

“เออ อย่าขัดกูเลย มากับกูก็พอแล้ว” ท็อปพูดตัดบท แล้วกลับไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์

ปลาคาร์พถอนหายใจ แต่ก็จำใจยอมตามเพื่อนไปเพราะทนแรงรบเร้าไม่ได้ “มึงจะไปแดกที่ไหนวะ ในผับเขาไม่ให้เด็กต่ำกว่า 18 เข้าไปนะ”

“กูจะไปกินร้านพี่ยอด ที่อยู่แถวทองหล่อ อย่างน้อยหน้าร้านกูนั่งไม่ได้ กูก็ขอไปนั่งบนห้องพี่เขาก็แล้วกัน” ท็อปบอกแล้วขับออกไปทันที

“มึงนี่ หาเรื่องให้คนอื่นตลอดเลยนะ” ปลาคาร์พพูดส่ายหน้าแบบระอา

ร้านพี่ยอดเป็นกึ่งร้านอาหารกึ่งบาร์ที่จัดเป็นสไตล์ยุค 70 รูปร่างหน้าตาร้านตกแต่งให้เป็นเหมือนโรงฉายภาพยนตร์ รอบร้านตกแต่งด้วยสีที่ค่อนข้างฉูดฉาด หน้าร้านแขวนป้ายตัวใหญ่ๆเก๋ๆ มีหลอดไฟทรงกลมสีต่างๆรอบๆป้ายเหมือนป้ายโรงภาพยนตร์สมัยก่อนว่า “กลางแปลง” ผู้คนต่างมานั่งรับประทานอาหารและดื่มเหล้ากันอย่างเพลิดเพลิน บ้างก็นั่งฟังเพลงบรรเลงสดที่มีวงดนตรีบรรเลงตลอดคืน บ้างก็สนทนากันอย่างออกรสชาติตามประสาคนทำงานมาเสวนาเพื่อคลายเครียดจากภาระที่แบกมาทั้งวัน

ท็อปหันหน้ามองซ้ายขวาหาเจ้าของร้าน โดยปกติแล้วรูปแบบร้านกินดื่มแบบนี้ก็มักไม่ค่อยอนุญาตให้เด็กมัธยมปลายมาเดินป้วนเปี้ยนสักเท่าไร “พี่ครับ” ท็อปถามเด็กเสิร์ฟที่กำลังเดินมาเช็ดโต๊ะที่ว่างอยู่ “พี่ยอดอยู่ที่ร้านไหมครับ?”

“อ๋อ เฮียอยู่ที่ออฟฟิศในร้านค่ะ เดินเข้าไปเลย คงทำบัญชีอยู่” เด็กเสิร์ฟหันหน้ามาบอก

“ขอบคุณครับ”

เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณใกล้ๆกับหลังร้าน จะมีห้องกระจกที่เป็นห้องทำงานของพี่ยอดเพื่อใช้ตรวจรายรับรายจ่ายของแต่ละวัน ท็อปมองเข้าไปเห็นพี่ยอดกำลังนั่งดูโทรศัพท์ก่อนที่จะจดนั่นนี่ลงกระดาษ เขาเดินเข้าไปก็พอดีกับที่พี่ยอดเงยหน้าขึ้นมาเจอแขกรุ่นน้องพอดี

“อ้าว ท็อป คาร์พ พวกมึงมาทำอะไรที่นี่เนี่ย...อย่าบอกนะว่ามาหาเหล้าแดกอีกน่ะ” พี่ยอดทักอย่างร่าเริง

พี่ยอดเป็นชายร่างเล็ก มีเนื้อมีหนังดูท้วมๆ ศีรษะเกือบล้าน แต่หน้าตาก็ดูสะอาดสะอ้าน หน้าตาบอกอารมณ์ร่าเริงตลอดเวลา เป็นสัญลักษณ์ว่าเขาต้อนรับแขกอยู่เสมอตามประสาคนทำมาค้าขาย

“ไอ้ท็อปมันจะมาให้ได้พี่ ผมห้ามมันแล้ว มันไม่ฟัง” คาร์พเริ่มชี้แจง

“อ้าว ก็กูอยากกินนี่หว่า” ท็อปรีบออกตัว “ผมว่าจะมานั่งกินเหล้าร้านพี่สักแป๊บนึงแล้วค่อยกลับบ้านน่ะครับ”

“อะไรวะ เป็นเด็กเป็นเล็ก มึงจะมารีบหัดแดกเหล้าทำไม มีเรื่องอะไรกลุ่มใจนักหนาวะ ทะเลาะกับพ่อมาอีกรึไง” พี่ยอดถาม

“ก็ประมาณนั้นแหละครับพี่” ท็อปตอบ ตีหน้าเครียดใส่ “ผมกินไม่นานหรอกพี่ สักชั่วโมงสองชั่วโมงก็กลับแล้ว”

“แหงดิ มึงกินหมดไปขวดเดียวมึงก็น็อกแล้ว” ปลาคาร์พแซว ท็อปก็ถลึงตาใส่เพื่อน   

“เออๆ มึงก็นั่งกินในนี้แหละ อย่าออกไปข้างนอกละกัน เดี๋ยวถ้าเกิดมีคนมาตรวจว่ากูเอาเหล้าให้พวกมึงกินเดี๋ยวกูซวยไปด้วย พ่อมึงยิ่งไม่ชอบหน้ากูอยู่ ไอ้ท็อป”พี่ยอดบอก แต่ก็ยักคิ้วให้ แล้วยกหูโทรศัพท์ไปสั่งเหล้าจากบาร์ให้ “เอาเหล้ามาขวดนึง น้ำแข็งแล้วเอาโซดามาด้วย น้องเฮียมาขอเหล้ากิน อย่างไวเลยนะ”

“ผมเอาเงินมาด้วยพี่ ไม่ต้องเลี้ยงผมหรอก” ท็อปอีกหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา

“มึงเก็บเงินเอาไว้ซื้อยาแก้แฮงก์เถอะ กูเลี้ยงมึง นี่ถ้ามึงไม่มีปัญหาก็ไม่เคยโผล่มาให้กูเห็นหน้าเลยนะ ไอ้ท็อป”พี่ยอดแซว

“โห่พี่ยอด ก็พี่เปิดร้านตอนเย็นน่ะ ผมกลับดึกมากก็ไม่ได้ นี่ก็หนีพ่อออกมาไม่งั้นไม่ได้ออกมาหรอก” ท็อปให้เหตุผล

“เออ ๆ มึงอยากทำอะไรก็ทำ ตามสบาย เดี๋ยวกูไปหน้าร้านละ ลูกค้าเยอะ ไปช่วยเด็กๆมันเก็บเงินกับเดินเสิร์ฟหน่อย” พี่ยอดบอกแล้วเก็บของ จากนั้นจึงเดินออกจากหองไป สักพักเด็กเสริ์ฟในร้านก็ยกขวดเหล้ามาสองขวดและโซดาอีกหลายขวดกับถังน้ำแข็งเล็กๆมาให้ทั้งคู่ที่นั่งรออยู่ในออฟฟิศของพี่ยอด

“สรุปเมื่อตอนเย็นมึงทะเลาะกับไอ้แบงค์ว่างั้น” ปลาคาร์พถาม ในขณะที่ท็อปกำลังผสมเหล้าให้เขาและตัวเอง

“กูโง่เองแหละ กูไปท้าแข่งจีบแบงค์กับไอ้รุ่นพี่ม.6คนเดิม” ท็อปพูด แล้วยื่นแก้วเหล้ามาให้ปลาคาร์พ

“เอาใหม่ซิ ไอ้คนแข่งแบดกับมึง มันมาตามจีบแบงค์เหมือนกันเนี่ยนะ” ปลาคาร์พพูดอย่างไม่เชื่อหู “อะไรมันจะขนาดนั้นวะ มันตั้งใจมาแหย่มึงหรือเปล่า”

“ไม่หรอก กูแอบได้ยินที่มันคุยกันเมื่อวันก่อน” ท็อปเล่า “ถึงรู้ว่าไอ้กายมันตั้งใจจะจีบแบงค์จริงๆ”

“บรรลัยแล้ว ไอ้แบงค์มันมีอะไรดีวะเนี่ย มีคนมาติดหลายคนละเว้ย” ปลาคาร์พบอก

“มึงก็พูดไป อย่างน้อยหนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนมึงอยู่คนนึง” ท็อปบอกดุ ๆ แล้วกระดกเหล้าเข้าไปอึกใหญ่ “ตั้งแต่กูคบใครมา กูไม่เคยรักใครอย่างที่กูรักแบงค์มันเลยนะเว้ย ทั้งๆที่ผ่านมากูคบผู้หญิงมาตลอดทั้งชีวิตแท้ๆ แต่กลับไม่เคยรู้สึกหลงหัวปักหัวปำขนาดนี้ แบงค์มันเหมือนทำให้กูได้รู้ว่ายังมีคนที่คอยห่วงกู รักกู และสอนให้กูมีเหตุผลแบบที่ผู้หญิงคนอื่นไม่เคยมีให้กูว่ะ เมื่อก่อน กูต้องคอยตามง้อ ตามใจ แต่นี่แบงค์มันสอนกูตลอดว่ากูควรวางตัวยังไง กูรู้สึกว่าแบงค์มันดีกว่าคนอื่นตรงนี้แหละ”

“ไอ้ท็อป มึงทำเหมือนว่าที่ผ่านมากูไม่เคยเตือนมึงอย่างนั้นแหละ” คาร์พพูดเสียงแผ่ว

“มันไม่เหมือนกันว่ะ ระหว่างเพื่อนกับแฟน ใครๆก็ชอบที่หน้าตากู แต่พอมาเจอนิสัยกูจริงๆก็เข็ดขยาดกันหมด มีแต่ไอ้แบงค์เนี่ยแหละที่ไม่เหมือนใคร มันพยายามปฏิเสธกูมาตลอดจนกระทั่งกูตื๊อจนน้องมันยอมคบด้วย” ท็อปยังคงดวดเหล้าเข้าไปหลายอึก ปากก็พรั่งพรูสิ่งที่ตัวเองอยากระบายออกมาเรื่อยๆ จนเวลาผ่านไปกว่าชั่วโมงที่ปลาคาร์พยังคงนั่งฟังเพื่อนพูดออกมาไม่หยุด เขาพยายามไม่ดื่มเหล้าเข้าไปมาก เพราะรู้ว่าตัวเองต้องพาเพื่อนกลับ

“กูถามจริงเหอะ มึงกับไอ้แบงค์มีอะไรกันรึยังวะ?” คาร์พถามขึ้นเมื่อเห็นท็อปหน้าเริ่มแดงและอยู่ในสภาพที่กำลังจะเมา

“มึง..จะ...อยากรู้ไป...ทำไมวะ” ท็อปถามยังคงหยิบเหล้ามาผสมใหม่เรื่อยๆ ส่วนปลาคาร์พยังคงถือแก้วแรกแก้วเดิม

“ก็ แค่ถาม...คนที่มึงไม่เคยได้ มึงไม่เห็นจะแคร์เท่าไร ตอนมึงอยู่ม.3 ตอนที่มึงคบกับยัยพลอย แล้วมึงได้กันตอนนั้น มึงก็แทบบ้าไปเลยนะตอนเลิกกันน่ะ กูเลยสงสัยว่าที่มึงเฮิร์ทขนาดนี้เพราะมึงได้กับเขาแล้วหรือเปล่าน่ะดิ” ปลาคาร์พพูด

ท็อปเงียบ มองหน้าเพื่อน หน้าของเขาแดงเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ “ถ้ากูบอกว่าเคย มึงจะรังเกียจกูไหม?”

“กูจะเกลียดมึงทำซากอะไรวะ ไอ้ท็อป” ปลาคาร์พรีบบอกปัด “ก็แค่มีอะไรกับผู้ชายด้วยกัน”

“อืม กูเคย” เขาตอบเสียงอ่อยๆ สภาพท็อปตอนนี้กำลังอยู่ในสภาพเมาได้ที่ แต่ก็ยังคงรินเหล้าให้ตัวเองต่อไป

“ไอ้ท็อป มึงเลิกแดกได้แล้ว หน้ามึงแดงยังกับทาสีมาแล้วนะเว้ย พอ พอ พอ” ปาคาร์พขัด รีบดึงแก้วออกมามือของท็อป

“อย่าเพิ่งขัดกูดิวะ พี่ยอดอุตส่าห์....เอามาให้....แดกให้หมดจะได้ไม่เสียของ” ท็อปบอก เริ่มแสดงอาการลิ้นเปลี้ยเพราะเมา

“กูนะ โคตรรักไอ้แบงค์มันเลย ถ้ามึงคิดว่ากูรักไอ้พลอยขนาดนั้นนะ กูบอกได้แค่ตอนนี้ กูรักไอ้แบงค์มากกว่ายัยพลอยร้อยเท่า” ท็อปบอก มองหน้าปลาคาร์พดุ ๆ

“เออ ๆ กูเชื่อ กูเชื่อ” ปลาคาร์พพูด เงยหน้ามองดูเวลาที่ผ่านไป จากที่ว่าจะอยู่เพียงชั่วโมงกว่าๆ ตอนนี้ เวลาปาเข้าไปก็จวนจะห้าทุ่มแล้ว

สักพักท็อปเริ่มร้องไห้ฟูมฟายออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “กูไม่น่าไปรักน้องมันเลยไม่งั้นกูก็ไม่ต้องทรมานแบบนี้ กูทั้งโกรธจนอยากจะต่อยหน้าไอ้รุ่นพี่ม.6 นั่น แต่กูก็กลัวว่าปัญหามันจะไม่จบ แบงค์ก็ว่ากูว่าเอาแต่ใช้กำลัง ไม่มีเหตุผล แถมพยายามทำตัวตีจากกูอีก กูทำอะไรก็ผิด” เขาสะอึกสะอื้น “กูทำอะไรก็ไม่ดี มาตั้งแต่ต้น อยู่กับพ่อกับแม่ก็ทำให้เขาทะเลาะกัน กูมันตัวซวย”

“เฮ้ย ท็อปมึงเมามากละ” ปลาคาร์พรีบคว้าแก้วออกจากมือเพื่อน พอแก้วหลุดมือเท่านั้น ท็อปก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำอ้วกกลางพื้นห้องน้ำของพี่ยอดจนเละเทะไม่เป็นท่า “ไอ้ห่าท็อป มึงทำไมไม่อ้วกลงโถ” ปลาคาร์พรีบโวยวาย แล้วประคองเพื่อนที่กำลังจะขย้อนของเก่าออกมาอีกระลอก

ปลาคาร์พจับเพื่อนให้อ้วกออกมาเรื่อยๆจนหมดแรง ส่วนท็อปเมื่อสำรอกเอาทั้งเหล้าทั้งข้าวเย็นที่กินเข้าไปออกมาจนหมดก็นอนหมดแรงข้าวต้มอยู่กับพื้นนอกห้องน้ำ

“ไอ้ห่าท็อป มึงแดกเหล้าแล้วก็อ้วกเหมือนเดิมเลยนะ ทำห้องน้ำกูเลอะอีก” พี่ยอดกลับเข้ามาเห็นสภาพท็อปเมาหลับไม่ได้สติอยู่ที่พื้น พร้อมกลิ่นเหล้าผสมอ้วกคละคลุ้งไปทั้งห้อง ส่วนปลาคาร์พก็นั่งล้างห้องน้ำให้อยู่

“ก็เหมือนเดิมนั่นแหละพี่ ที่มาก็มารอเก็บซากมันกลับเนี่ยแหละ” ปลาคาร์พบอก ถอนใจยาว ๆ

“สรุปมันมีปัญหาอะไรของมันวะ คาร์พ? แดกเหล้าคนเดียวจนจะหมดขวดแล้ว” พี่ยอดถาม

“เรื่องแฟนมันนั่นแหละพี่ เหมือนจะไปชอบคนใหม่ มันเลยเฮิร์ทอยากมานั่งกินเหล้าย้อมใจ” ปลาคาร์พอธิบาย “ผมล้างห้องน้ำให้พี่แล้วนะครับ เดี๋ยวผมจะลากเอาตัวไอ้ท็อปขึ้นแท็กซี่กลับ ส่วนมอเตอร์ไซค์ฝากไว้ที่ร้านพี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยให้มันแวะมาเอา”

“เออ ๆ ดูแลมันหน่อยละกัน พ่อแม่มันไม่ได้ดูมันเท่าไร มึงนี่โคตรจะเป็นเพื่อนแสนประเสริฐเลยนะ ดูแลแม่งทุกอย่างเลย” พี่ยอดบอกตบบ่าคาร์พเบาๆ

ปลาคาร์พจึงพาท็อปที่ยังอยู่ในสภาพคอพับคออ่อน เรียกแท็กซี่กลับบ้าน ตอนแรกแท็กซี่ก็ไม่อยากจะรับพวกเขาไปด้วยเท่าไรนักเพราะกลัวท็อปจะอาเจียนออกมาอีก ตนปลาคาร์พต้องบอกโชเฟอร์ว่าท็อปมันอ้วกออกาเยอะแล้วไม่น่าจะมาอาเจียนในรถอีกแล้ว ถึงได้มีรถแท็กซี่ยอมรับพวกเขาไปด้วย

เมื่อไปถึงบ้าน แม่ของปลาคาร์พยังคงหลับสนิทและไฟที่ห้องนั่งเล่นยังคงเปิดไว้เพราะเขายังไม่ได้ปิดก่อนที่จะออกไปข้างนอกบ้าน เขารีบพาเพื่อนขึ้นไปบนห้องแล้วจัดแจงถอดเสื้อผ้าท็อปออกแล้วใช้ฝักบัวฉีดล้างตัวเพื่อนให้หมดกลิ่นเหล้าและคราบอ้วก ท็อปเหมือนจะรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง แล้วก็ลุกขึ้นมาอ้วกอีก ปลาคาร์พสงสารเพื่อนที่เป็นเอามากขนาดนี้แต่ก็ไม่รู้จะช่วยหาทางออกอย่างไร

ตัวเขานั้นยังคงชอบท็อปและรักเพื่อนสนิทคนนี้มาตลอด เพราะทั้งคู่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาตั้งแต่เด็ก มีอะไรก็แบ่งกันเสมอ ยิ่งท็อปไม่มีแม่เหมือนคนอื่นๆ ทำให้ปลาคาร์พพยายามเล่นกับท็อปเหมือนพี่เหมือนน้อง เพื่อไม่ให้ท็อปรู้สึกว่าขาดความรักความอบอุ่นไป กว่าเขาจะรู้ตัวว่าชอบท็อปก็ปาเข้าไปม.3แล้ว ตั้งแต่ตอนที่ท็อปไปคบกับเพื่อนต่างห้องที่ชื่อพลอย เขารู้สึกหึงและไม่พอใจที่ท็อปหันไปขลุกอยู่กับพลอยมากกว่าอยู่กับเขาเหมือนแต่ก่อน พอได้รู้ว่าพลอยกับท็อปเลิกกัน ตัวเขาเองกลับรู้สึกดีใจเป็นที่สุด แล้วตอนนั้นเขาก็ต้องมานั่งเช็ดอ้วกเพื่อนเหมือนอย่างวันนี้ ช่างเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแต่กลับเป็นวันที่น่าจดจำสำหรับเขา เพราะอย่างน้อยต่อจากนี้ ท็อปกับเขาจะได้กลับมาสนิทกันเหมือนเดิมและไม่มีใครมาขวางอีก

เมื่อคาร์พจัดแจงสระผม ฟอกตัวให้ท็อปเสร็จ (เอาครีมอาบน้่ำราดๆตัวแล้วฉีดฝักบัวใส่) พร้อมกับให้ท็อปอมน้ำยาบ้วนปาก (ท็อปยังคงอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น รู้สึกตัวอยู่บ้างแต่ก็ยังเมาหลับอยู่) เพื่อจะได้ไม่เหม็นกลิ่นอ้วก แต่ก็ทำให้ท็อปสำลักน้ำยาไปหลายรอบกว่าจะเรียบร้อย ปลาคาร์พจึงจัดแจงเช็ดตัวเพื่อนและหาเสื้อนอนของตัวเองให้เพื่อนใส่แล้วลากท็อปไปนอนบนเตียง
ท็อปยังคงเมาหลับแบบคนหมดสติอยู่บนที่นอน แม้จะหายใจออกมามีกลิ่นเหล้าอยู่บ้างแต่เมื่อเทียบกับตอนแรกก็นับว่าดีขึ้นมาก

 “ถ้ากูไม่รักมึง กูคงไม่ทำถึงขนาดนี้หรอก” คาร์พพูดกับตัวเอง มองหน้าท็อปที่หลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ริมฝีปากสีชมพูเผยอน้อยๆ เพราะเจ้าตัวหายใจเอาอากาศเข้าไปในปอดจากทั้งทางปากและจมูก

สภาพของท็อปที่นอนหลับไร้สติ กลิ่นหอมจากตัวหลังจากอาบน้ำ และผิวสีขาวใสของท็อปทำให้ปลาคาร์พเริ่มรู้สึกหวั่นไหว เขาค่อยเขยิบคลานขึ้นบนเตียง แล้วมองหน้าท็อปแบบใกล้ๆดูว่าเจ้าตัวกำลังหลับอยู่หรือไม่ ท็อปกรนออกมาเบาๆเป็นสัญญาณว่าเขากำลังหลับอยู่ ปลาคาร์พมองสำรวจไปทั่วร่างของท็อปที่นอนแผ่อ้าซ่าอยู่บนเตียง เขาค่อยๆก้มตัวลงจุบที่คอของท็อป จากนั้นจึงใช้ใบหน้าของเขาซุกไซร้ที่ต้นคอของเพื่อนสนิท

ท็อปยังคงหลับไม่รู้เรื่อง แต่ตอนนี้หัวใจของปลาคาร์พกำลังเต้นระรัวแรงขึ้น เขารู้สึกตื่นเต้นว่านี่อาจจะเป็นโอกาสของเขาที่ได้อยู่กับท็อปตามลำพังสองคน ท็อปสารภาพออกมาแล้วว่าเขาเคยมีอะไรกับแบงค์มาก่อนหน้านี้ ถ้าอย่างนั้น ถ้าเขาอยากจะมีอะไรกับท็อปบ้าง ท็อปก็คงไม่น่าจะรังเกียจเขาหรอก หนำซ้ำ เขาช่วยท็อปมาตั้งเยอะคืนนี้ ถ้าเขาจะได้อะไรตอบแทนจากท็อปบ้างก็น่าจะเป็นการตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อไม่น้อยทีเดียว

ปลาคาร์พเลิกเสื้อของท็อปขึ้นแล้วระดมจูบตั้งแต่ช่วงต้นคอไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าท้อง สูดกลิ่นกายของท็อปเข้าไปจนเต็มปอด แล้วหันไปโลมเลียอยู่ที่หัวนมสีมพูของท็อป “อา...” เสียงท็อปร้องออกมาเบาๆ เหมือนเขาจะรู้สึกตัว ปลาคาร์พหยุดกิจกรรม แล้วเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อน สังเกตดูว่าท็อปจะตื่นหรือไม่ แต่ท็อปยังคงหลับต่อไป

เมื่อดูดดื่มจนหนำใจแล้วเขาจึงค่อยๆใช้มือดึงกางเกงของท็อปออกมาช้าๆ สายตาเขายังคงจับจ้องที่หน้าของท็อป ใจหนึ่งก็กลัวว่าเพื่อนจะตื่น อีกใจหนึ่งก็อยากจะดำเนินกิจกรรมที่เฝ้ารอมาตลอดกับเพื่อนสนิทคนนี้ เมื่อมองเห็นอวัยวะของเพื่อนออกมานอกกางเกงได้แล้ว เขาจึงค่อยๆถอดกางเกงของท็อปออกอย่างเบามือเพื่อไม่ให้เพื่อนรู้สึกตัว ตอนนี้อวัยวะของท็อปยังคงไม่ได้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพราะประสาททั้งหมดของเขานั้นยังไม่ตื่นตัวดี เจ้าตัวยังคงหลับไม่รู้เรื่อง คาร์พจึงค่อยๆใช้จมูกของเขานั้นซุกไซร้ไปที่พวงสวรรค์ของท็อป กลิ่นหอมจากโคโลญจน์ที่ยังคงติดตัวท็อปอยู่และกลิ่นหอมจากครีมอาบน้ำทำให้รู้สึกถึงความสะอาด ยิ่งทำให้คาร์พอารมณ์แตกซ่าน ท็อปขยับตัวช้า ๆ อยู่ในท่านอนหงายราวกับจะรู้ว่ากำลังจะถูกทำอะไรต่อไป จากนั้นปลาคาร์พจึงบรรจงใช้ปากของตนเองกับอาวุธลับของเพื่อนช้าๆ จนกระทั่งสิ่งนี้พร้อมใช้งาน

“อา..” ท็อปครางออกมาเบาๆ แต่ก็ยังไม่ตื่นเขาร้องออกมาเหมือนคนกำลังละเมอ ตลอดการปฏิบัติกิจกามของเพื่อนสนิท คาร์พบรรจงทำอย่างรักใคร่ เพราะเขารู้ดีว่านี่คือสิ่งที่ทำให้ทั้งเขาและท็อปต่างมีความสุขที่ได้ตอบสนองซึ่งกันและกัน แม้ครั้งนี้ท็อปอาจจะไม่รู้สึกตัวเลยก็ตาม เมื่อปลาคาร์พใช้ปากไปเรื่อยๆสักพักก็เริ่มรู้สึกถึงแรงดีดตุบๆตอบจากท่อนลำของท็อป มือซ้ายของท็อปขยับมาวางไว้บนศีระษะของเขา แต่เจ้าตัวกลับยังไม่ได้ลืมตา “พี่จะ....ออกแล้วนะ...แบงค์” ท็อปพึมพำออกมาทันทีที่ของเหลวพุ่งออกมาเต็มปากของคาร์พ เขายังคงใช้ปากต่อไป จนกระทั่งท่อนเอ็นของท็อปอ่อนลง สักพักดูเหมือนว่าท็อปจะเริ่มรู้สึกตัวมากขึ้น เมื่อเห็นดังนั้น เขาจึงรีบดึงกางเกงของท็อปขึ้นสวมเช่นเดิมแล้วรีบลุกไปเข้าห้องน้ำ

ท็อปงัวเงียลุกขึ้นนั่งบนเตียง รู้สึกมึนหัวตึ๊บไปหมด “นี่เราฝันเหรอวะ?” เขาพูด มองไปรอบๆห้องของคาร์พ “มึนหัวชิบหายเลย ขอน้ำกินหน่อยดิวะเพื่อน” ท็อปร้องบอก สะบัดหัวอย่างมึนๆ จนรู้สึกอยากจะอ้วกอีกรอบ

ปลาคาร์พรีบออกมาจากห้องน้ำ “อ้าว มึงตื่นไหวเหรอวะเนี่ย นึกว่าจะนอนสลบไปยันเช้า”

“กูฝันว่าแบงค์มาอยู่กับกูอะดิ” ท็อปบอก เอามือกุมขมับ

“กูว่ามึงคิดมากไปแล้ว งั้นเดี๋ยวกูลงไปเอาน้ำมาให้นะ มึงนอนไปเถอะ” ปลาคาร์พบอกยิ้มให้ แล้วรีบเดินออกจากห้องไป

ท็อปมองตามเพื่อนไป ฝันเมื่อกี้ที่ท็อปพูดถึง เขาฝันว่าแบงค์มาอยู่ด้วยกันเหมือนตอนอยู่ที่ห้องพยาบาลวันกีฬาสี ทุกอย่างทั้งความรู้สึก และภาพในหัวมันเหมือนกันมาก เหมือนจนเขาแทบจะรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นอีกครั้งจริงๆ เขารู้สึกเหนอะหนะที่หว่างขาของตัวเองจึงก้มลงมองที่เป้ากางเกงของตนอย่างสงสัย เพราะถ้าเขาฝันก็มีโอกาสที่เขาจะฝันเปียกตามประสาวัยรุ่น แต่แล้วเมื่อเปิดดูก็พบว่ามันมีคราบน้ำลายเปียกชุ่มอยู่รอบๆอวัยวะของเขา เขายังคงนึกถึงคำพูดของปลาคาร์พที่บอกเขาอยู่เสมอว่าปลาคาร์พคิดกับเขามากกว่าเพื่อน ....

ในใจได้แต่หวังว่าคงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดว่าปลาคาร์พอาจจะทำบางอย่างกับเขาในตอนที่เขาเมาไม่ได้สติหรือเปล่าหนอ

จบบทที่ 17 (ตอนที่ 18 มาวันจันทร์เหมือนเดิมครับ 09/03/2015)

**อัพเดทหน้าเรื่องของแนะนำตัวละครใน PDF นะครับ** (แอบเอารูปดาราไปจิ้นเป็นแต่ละคน - - ) ขอบคุณที่ติดตาม รักใครเกลียดใครก็เม้นกันตามสบายเลยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-03-2015 23:44:31 โดย akiraakka »

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
แล้วเพื่อนตัวเองก็อดใจไม่ไหว สุดท้ายแล้ว ใจตัวเอง ชนะคำพูดอยู่ดี

รออ่านต่อไปครับ^^

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เห้อ

ท๊อปทำไรเนี้ย

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มันตื้อไปหมด ฮือออ ถ้าแบงค์ท็อปจะได้คู่กันจริงก็รีบหาคู่ให้คาร์ืพเถอะะะะะ

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ไม่ออกความเห็น  :hao4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก

ฝากเรื่องใหม่ที่ผมเขียนอีกเรื่องด้วยนะครับ ทุกท่าน
เรื่อง เพื่อนผมเป็นผู้วิเศษ

พักจากดราม่าหนักของเรื่องนี้ไปอ่านเรื่องสนุกๆแนวแฟนตาซีในนี้บ้าง ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอย่างเหนียวแน่นครับ

รักคนอ่าน ^^ :z1:

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 18
ความรู้สึกของตนเอง
                                   

ทั้งสัปดาห์พี่กายพยายามเข้าหาแบงค์ตลอดเพราะเขาถือว่าท็อปเปิดทางให้เขามาใช้เวลาอยู่กับแบงค์ได้อย่างเต็มที่  ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าพี่กายจะเดินมารับแบงค์ถึงหน้าบ้านแล้วเดินไปโรงเรียนด้วยกัน ช่วงเย็นพี่กายก็จะมาคอยรับแบงค์กลับบ้านด้วยเสมอๆตลอดสัปดาห์ นิสัยของพี่กายเป็นคนอบอุ่นและพึ่งพาได้แทบทุกเรื่อง ความอ่อนโยนของพี่กายทำให้แบงค์ค่อยๆรู้สึกดีกับพี่กายมากขึ้น ไม่ได้มัวแต่คิดจะจับผิดว่าพี่กายทำไมต้องมาเริ่มความสัมพันธ์กับเขา ถึงแม้ว่าในตอนแรกแบงค์จะรู้สึกกระอักกระอ่วนเหมือนกันที่มีรุ่นพี่คนใหม่มาคอยตามแทนพี่ท็อป แต่เมื่อผ่านไปหลายวันเข้าก็เริ่มชินกับพี่กายมากขึ้น

“วันนี้มีการบ้านอะไรจะมาปรึกษาพี่รึเปล่า?” พี่กายถามทุกครั้งที่เจอกันหลังเลิกเรียนเสมอๆ “วันนี้วันศุกร์แล้วด้วย เผื่อว่าถ้าเยอะมากๆพี่จะได้ช่วย”

“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกครับ” แบงค์ตอบ “การบ้านแบงค์ว่าทำเองน่าจะดีกว่า จะได้เป็นการฝึก มัวแต่ถามพี่กายตลอดแบบนี้แบงค์ก็แย่น่ะสิ ไม่ต้องเป็นอันคิดกันพอดี” เขาหัวเราะ

“แบงค์ไม่ถนัดเลขกับวิทยาศาสตร์นี่นา ถ้าพี่ช่วยได้ พี่ก็อยากช่วยแหละ” พี่กายบอก

“วันนี้การบ้านไม่มีอะไรเท่าไร แบงค์เคลียร์ไปจะหมดแล้ว เหลือแค่พวกรายงานที่ต้องทำส่งมากกว่าแต่ก็ยังไม่รีบทำหรอก” เขาเสริม

“งั้นพรุ่งนี้พี่ชวนไปเที่ยวเล่นดีไหม?” พี่กายถามขึ้นมา

“เที่ยวเหรอ พี่กายจะชวนแบงค์ไปไหนล่ะ วันเสาร์นี้...ไม่ได้มีอะไรต้องทำหรอก ถ้าปกติพี่ท็อปก็จะมารับไปเที่ยวบ้าน” แบงค์บอก ภาพของท็อปจอมทะเล้นก็ผุดขึ้นมาให้เขารู้สึกผิดน้อยๆ

“พี่จะชวนไปปั่นจักรยานเล่นที่สวนรถไฟ อยากไปไหม ข้างในมีสวนพฤกษชาติด้วยนะ ร่มรื่นแล้วก็ผ่อนคลายดีด้วย” พี่กายออกปากชวน

“ฟังดูก็น่าสนุกดีนะพี่ แต่ว่า...” ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา แบงค์ไม่ค่อยได้คุยกับพี่ท็อปเท่าไรนัก แม้จะได้เจอกันบ้างในคาบพักหรือตอนเย็นที่เดินสวนกัน ท็อปก็ไม่ได้พยายามจะคุยกับแบงค์เพราะถือว่ายังอยู่ในช่วงที่กายกำลังทำคะแนนอยู่ จึงหลีกเลี่ยงที่จะมาพบเจอแบงค์อย่างแต่ก่อน “แบงค์อยากถามพี่ท็อปก่อน จะได้ไหมครับ?”

“แบงค์อย่าลืมสิว่านี่ยังอยู่ในช่วงอาทิตย์ที่พี่จะได้ดูแลแบงค์นะ จนกว่าจะถึงวันจันทร์ที่พี่จะส่งคืนแบงค์ให้ท็อป” พี่กายบอก

แบงค์นิ่งเงียบ ในใจรู้คำตอบดี “ได้ครับพี่กาย พรุ่งนี้แบงค์จะไป พี่กายมารับแบงค์เหมือนเดิมได้ไหม?” เขาถามอย่างไว้ที

“ได้สิ เดี๋ยวพี่จะมารับเราที่หน้าบ้าน แล้วไปด้วยกันสักราวๆสิบโมงนะ” พี่กายนัดแนะ

“ครับ วันนี้เดี๋ยวเราแยกกันกลับนะครับพี่ พรุ่งนี้เจอกันทีเดียว แบงค์มีธุระนิดหน่อย” แบงค์พูดรีบตัดบท

“อ้าว ทำไมล่ะ ไม่ให้พี่ไปเป็นเพื่อนเหรอ?” พี่กายถาม สีหน้าสงสัย

“ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องเล็กๆน้อยๆ พี่กายกลับไปก่อน ไว้ดึกๆ เราค่อยไลน์คุยกันก็ได้ครับ” แบงค์ตอบ

พี่กายพยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจนัก แล้วทั้งสองจึงแยกกันที่หน้าโรงเรียน แบงค์ก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือของตนเองที่บอกเวลา 17.30 และเดาได้ว่า พี่ท็อปอาจจะอยู่ตีแบดกับพี่คาร์พที่คอร์ดแบดอย่างที่เขาชอบใช้เวลาหลังเลิกเรียน แบงค์จึงรีบวิ่งไปก่อนที่จะคลาดกับพี่ท็อป ในใจนั้นถวิลหาเหลือเกินเพราะเขาไม่ได้คุยกับท็อปแบบจริงๆจังๆมาร่วมอาทิตย์
เมื่อไปถึงก็เป็นตามคาด พี่ท็อปกับพี่คาร์พยังเล่นแบดกันอยู่ที่คอร์ดแบดในโรงยิมอย่างสนุกสนาน แบงค์จึงรีบเดินเข้าไปข้างๆแล้วตะโกนเรียก “พี่ท็อป  พี่ท็อป”

ท็อปและคาร์พหันหน้ามามองตามเสียงเรียก แต่ท็อปกลับไม่ได้แสดงสีหน้าดีใจนักเมื่อเห็นหน้าแบงค์ ปลาคาร์พพยักเพยิดให้ท็อปรีบเดินไปคุยกับรุ่นน้อง ส่วนปลาคาร์พก็เดินไปเข้าห้องน้ำ

“ว่าไงแบงค์ มีธุระอะไรเหรอ?” พี่ท็อปถามน้ำเสียงเรียบเฉย

“แบงค์อยากมาบอกพี่ท็อป ว่าพรุ่งนี้พี่กายจะมาชวนแบงค์ไปเที่ยวเล่นที่สวนรถไฟแถวจัตุจักร” แบงค์บอกเสียงอ่อยๆ “แบงค์จะมาขออนุญาตพี่...”

“ก็ไปสิ ไม่เห็นต้องมาขออนุญาตพี่เลยนี่นา” พี่ท็อปบอกยักคิ้วให้เขาหนึ่งข้างประหนึ่งกำลังสงสัยว่าทำไมต้องมาขออนุญาตจากเขา

“พี่ท็อปจะไม่โกรธแบงค์ใช่ไหม?” แบงค์ถามอีก

ท็อปเบ้ปากน้อยๆ เหมือนกำลังคิดอยู่  ก่อนที่จะพยักหน้าตอบแบงค์กลับมา “พี่ให้กรรมสิทธิ์เต็มที่แล้ว อยากทำอะไรก็ตามสะดวกเลย”

“ถามอีกข้อได้ไหม พี่ท็อป” แบงค์ถามอีก “ตลอดสัปดาห์พี่คิดถึง...แบงค์บ้างไหม?” เขาพูดออกไป เขินกับสิ่งที่ตนเองพูดเหมือนกัน

“จะให้ตอบแบบไหนล่ะ เอาตามตรงหรือว่าเอาตามอย่างที่อยากให้ตอบ” ท็อปพูด ยังคงตีหน้าเรียบเฉยมาให้ ผิดจากที่ท็อปคนเดิมที่เคยเอาแต่จะรุกเร้าแบงค์อยู่เสมอ

“ตามตรงสิ” แบงค์พูด “แต่ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกก็ได้นะ แบงค์ก็แค่อยากเจอพี่ท็อป แต่ละวันเราแทบไม่ได้เจอกันเลย”

ท็อปยิ้มที่มุมปากน้อยๆ ก่อนเอามือลูบหัวแบงค์อย่างเอ็นดูเช่นเดิม “คิดถึงดิ ไม่มีวันไหนที่พี่ไม่คิดถึงเราสักวันหรอก” ท็อปบอกแล้วหันหน้าไปหาปลาคาร์พที่กำลังเดินกลับมาจากเข้าห้องน้ำ “แต่หลังๆนี้ พี่แค่...รู้สึกผิดนิดหน่อยเท่านั้นเอง” สมองของเขานึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนที่เขาเมาและไปนอนอยู่ที่บ้านคาร์พ

“รู้สึกผิดเหรอ? เรื่องอะไรล่ะ? เรื่องเดิม หรือว่าเรื่องใหม่” แบงค์ถามกลับ

“ช่างมันเถอะ อย่าไปคิดมากเลย แล้วอยู่กับฝั่งโน้นเป็นยังไงมั่งล่ะ?” ท็อปถามบ้าง

“พี่กายเขาก็นิสัยดีแหละ” แบงค์บอกข้อมูล พี่ท็อปก็พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ “แต่แบงค์ก็ยังคิดถึงพี่ท็อปของแบงค์อยู่ดี พอไม่มีพี่ท็อปอยู่ใกล้ๆแล้วเหมือนชีวิตขาดอะไรไปก็ไม่รู้” แบงค์บอกความในใจ

ท็อปยิ้มหน้าบานออกมาเมื่อได้ยินสิ่งที่แบงค์สารภาพออกมา

หลังจากที่มีพี่กายเข้ามาทำให้แบงค์รู้แน่ชัดว่า เขาคิดถึงพี่ท็อปมาก แม้พี่กายจะพยายามทำดีกับเขา เอาใจเขามากมาย แต่ว่ามันกลับไม่เหมือนกันกับสิ่งที่เขาคุ้นเคย คือพี่ท็อปที่แสนจะขี้เล่น คอยหยอกเย้ากันอยู่ตลอด แม้จะมีอารมณ์เสียไปบ้าง หรือทะเลาะกันบ้างแต่นั่นก็ไม่ใช่ปัจจัยที่จะทำให้เขาค่อยๆลืมพี่ท็อปไปได้แม้แต่น้อย สิ่งหนึ่งที่เขาอยากได้จากท็อปคือการพยายามวางตัวและควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ให้ไประรานคนอื่นก็แค่นั้น ในครั้งนี้เขาจึงกล้ามากพอที่จะบอกพี่ท็อปได้อย่างเต็มปากว่า เขาคิดถึงพี่ท็อปมากกว่าที่เคย

“หมดอาทิตย์นี้แล้วก็จะเป็นตาพี่ท็อปแล้วนะ อย่าแพ้เขานะพี่ เกมส์ที่พี่ตั้งกติกาเองแบบนี้ มาแพ้เองจะอายเขานะ”

“อ้าวก็แบงค์เป็นกรรมการนี่นา แบบนี้จะให้พี่ต้องติดสินบนรึเปล่าเนี่ย? ถึงจะชนะ” ท็อปถามยิ้มอย่างร่าเริง

แบงค์หัวเราะออกมาเบาๆ “พี่ท็อปยังโอเคอยู่ก็ดีแล้วแหละ แบงค์กลัวว่าพี่จะเครียดเกินไปกับเรื่องเดิมพันพวกนี้ ยังไงแบงค์ยังรักษาสัญญาว่าแบงค์จะอยู่ข้างๆพี่ท็อปนะ....”

“เฮ้ย ไอ้ท็อป คุยเสร็จยังวะ กูจะกลับบ้านแล้ว” เสียงพี่คาร์พตะโกนเรียก เขามองหน้าแบงค์แบบไม่สบอารมณ์นัก

“เออ ๆ เดี๋ยวกูไปแล้ว รอแป็บนึง” ท็อปหันหน้าไปตะโกนบอก “เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ เอ้อ พี่มีโทรศัพท์ใหม่แต่เป็นโทรศัพท์มือถือธรรมดาๆ พ่อพี่ให้ยืมไว้ใช้ติดต่อกันเฉยๆ แบงค์จะโทรหาพี่ที่เบอร์นี้ก็ได้นะ เดี๋ยวพี่ยิงไป พี่จำเบอร์แบงค์ได้”

“อ๋อ ได้สิ งั้นกลับบ้านดีๆนะพี่ท็อป”แบงค์บอก ท็อปหันมายิ้มให้ก่อนที่จะเดินจากมา แต่ทว่าในวินาทีนั้นแบงค์กลับดึงแขนเสื้อของพี่ท็อปเอาไว้อย่างไม่รู้ตัว

“หืม? มีอะไรอีกรึเปล่า” ท็อปหันหน้ามามอง เมื่อเห็นว่าแขนเสื้อตนเองถูกรุ่นน้องดึงไว้

“แบงค์อยากกอดพี่ท็อป...ก่อนกลับบ้านวันนี้ได้ไหม” เขาพูดอ้ำอึ้ง แม้ว่าตัวเขาเองถูกจัดวางให้อยู่กับพี่กายตลอดทั้งอาทิตย์ตามเกมส์ของท็อป แต่ร่างกายของเขาเองนั้นยังคงเรียกร้องหาท็อปอยู่เสมอ  ท็อปหันหน้ามามองรุ่นน้องอย่างเอ็นดู

“อดทนเอาไว้ ไอ้หมาน้อย อีกสองวัน พี่จะให้กอดจนหนำใจเลย สัปดาห์นี้เป็นของพี่กายเขา ไปเรียนรู้คนที่เขารักแบงค์อีกคนหนึ่งก่อน แล้วเมื่อถึงตาของพี่บ้าง แบงค์จะได้รู้ว่าใครกันแน่ที่แบงค์จะเลือก เกมส์นี้จะได้จบเสียที” พี่ท็อปบอก พร้อมกับขยี้หัวแบงค์อย่างรักใคร่ “ขอโทษที่อาจจะทำให้รู้สึกไม่ดี จริง ๆ พี่ก็อยากกอดแบงค์นะ แต่พี่กำลังฝึกที่จะอดทนอดกลั้นให้มากกว่าเดิมอย่างที่แบงค์สอนพี่ อีกสองวันเองนะ รอพี่ได้ไหมล่ะ”

“ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ? แค่กอดเองนะพี่” แบงค์อ้อน “นะ พี่ท็อป แบงค์ไม่อยากให้ตัวเองมีความรู้สึกอะไรมากมายกับพี่กาย ถึงแบงค์จะไม่ใช่คนใจอ่อนนะพี่ แต่ถ้าเจอคนมาทำดีด้วยเยอะๆแบบนั้น จะให้ไม่เขวก็ลำบากใจอยู่นะ”

“เชื่อมั่นในหัวใจตัวเองเถอะแบงค์ ถ้าหัวใจแบงค์เลือกเขา แบงค์จะรู้เอง อย่าสงสารพี่หรืออะไรทั้งนั้น เพราะความรักไม่ใช่การสงสาร อาทิตย์หน้าพี่จะดูแลแบงค์อย่างดี จะได้รู้ว่าพี่พอสู้มันได้บ้างไหม พี่สัญญาว่าพี่จะค่อยๆเปลี่ยนเอานิสัยไม่ดีของตัวเองออกไปเพื่อให้อะไรๆมันดึขึ้น”

“งั้นกูกลับละนะโว้ย พ่อโรมิโอ” ปลาคาร์พตะโกนตอบกลับมาอย่างไม่สบอารมณ์แล้วคว้าเป้เดินออกไปเลย

“คาร์พมันโวยวายแล้ว พี่ไปก่อนนะ” ท็อปบอกแล้วรีบเดินจากมา ปล่อยให้แบงค์ยืนหน้าเศร้ามองพี่ท็อปจากไป

=======================================================

พี่กายขับรถเก๋งมารอรับแบงค์เมื่อถึงเวลานัด วันนี้พี่กายสวมแว่นตากันแดดสะท้อนแสงดูเท่ รับกับใบหน้าคมเข้มของเขา ทรงผมตั้งๆกับเสื้อเชิ้ตสีอ่อนแขนยาวทำให้พี่กายดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไปอีก ในขณะที่แบงค์แต่งตัวง่ายๆด้วยเสื้อเชิตแขนสั้นลายเรียบๆกับกางเกงขายาว เขาหยิบหมวกแก็ปติดมือมาด้วยใบนึงเพราะคิดว่าถ้าไปปั่นจักรยานเที่ยวเล่นกันคงต้องเจอแดดร้อนๆบ้าง

 “โห พี่กายขับรถมาอย่างเท่เลย” แบงค์ร้องทักเมื่อเดินออกมาหน้าบ้าน

“ที่บ้านพี่มีรถอยู่สองคัน คันนี้พ่อพี่ทิ้งไว้ให้ที่บ้านใช้ขับไปทำธุระ ส่วนอีกคันพ่อพี่จะเอาขับไปทำงานประจำน่ะ” พี่กายบอก

“จะไปไหนกันแต่เช้าเลยลูก” แม่แบงค์ร้องถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเดินออกมาหารุ่นพี่ที่หน้าบ้าน เธอกำลังเอาปุ๋ยโรยใส่กระถางต้นไม้ของเธออยู่

“สวัสดีครับคุณแม่” พี่กายไหว้ทักทาย

แม่ของแบงค์ชะโงกหน้ามาดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนเดิมกับที่เห็นอยู่บ่อยๆ “อ้าว ไม่ใช่ท็อปเหรอ? แม่นึกว่าจะไปเที่ยวเล่นกับพี่เขาอย่างเคย” แม่ถามหันหน้ามาคุยกับแบงค์

แบงค์ไม่รู้จะตอบอย่างไร ได้แต่บอกปัดไป “อ๋อ พี่ท็อปเขาไม่ค่อยว่างน่ะครับแม่ เดี๋ยวแนะนำพี่คนนี้ก่อน ชื่อพี่กายอยู่ม.6 เราเคยแข่งแบดมินตันตอนกีฬาสีด้วยกันก็เลยรู้จักกันมาตั้งแต่นั้นมา”

“อ๋อ...แม่ก็เป็นห่วงเจ้าท็อปอยู่ตั้งแต่คืนวันที่เขามาบ้านแล้ว เหมือนจะทะเลาะกับที่บ้านมา ตอนนี้ดีขึ้นรึยังล่ะน่ะ” แม่เปรยขึ้น จนแบงค์รีบถลึงตาบอกแม่ว่าเป็นสัญญาณว่าอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ตอนนี้ได้ไหม?

“ไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ พี่เขาก็สบายดี เดี๋ยววันนี้แบงค์กับพี่กายจะไปสวนรถไฟนะครับแม่ เย็นๆก็คงกลับ แม่จะออกไปทำงานหรือเปล่า” แบงค์ถามพยายามเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่จ๊ะ ตามสบายเลยลูก แม่อยู่ที่บ้านเนี่ยแหละ” แม่บอก

เมื่อลาแม่เรียบร้อยกายและแบงค์จึงรีบขึ้นรถแล้วขับออกไปจากซอยบ้าน “ท็อปเคยมานอนที่บ้านแบงค์ด้วยเหรอ?” ในที่สุดพี่กายก็ถามขึ้นจนได้ แบงค์คิดในใจว่าแม่ไม่น่าจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาเลย

“ก็เคย มาแบบพี่กายนี่แหละ แวะมานั่งคุย นั่งกินข้าว” แบงค์บอก มองรถราที่วิ่งอยู่ด้านนอก

“แสดงว่ามาบ่อย ถึงขนาดแม่แบงค์ถามหาแบบนี้” พี่กายพูด ค่อยๆเร่งคันเร่งแซงรถที่ขับช้าอยู่ด้านหน้า “เข้าทางแม่ซะด้วยแฮะ คู่แข่งคนนี้ประมาทไม่ได้เลย”

“แม่ชอบพี่ท็อปมากเลยนะ ต่อหน้าผู้ใหญ่ พี่ท็อปเขาวางตัวดีมาก มาทีไรก็มาช่วยแม่ทำนั่นนี่ด้วย” แบงค์เสริม ไม่ค่อยอยากพูดถึงพี่ท็อปเท่าไร เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งคิดถึงกลัวตัวเองจะพาลไม่สนุกเอา “ว่าแต่ พี่กายกินอะไรตอนเช้ามารึยังล่ะครับ?”

“กินแล้วแหละ แบงค์ล่ะ กินรึยัง?” พี่กายถาม

“กินมาแล้วล่ะครับ สวนรถไฟที่เราจะไปมันเป็นยังไงเหรอครับ? แบงค์ไม่เคยไปเที่ยวเล่นแถวนั้นมาก่อนเลย”

“ก็เป็นสวนสาธารณะกว้างๆ แต่กว้างมากๆเลยนะ ถ้าไปถึงเดี๋ยวก็จะรู้เองแหละ” พี่กายบอกอย่างร่าเริง

ถ้าเทียบกับวันปกติแล้ววันนี้ถือว่าเป็นวันที่รถค่อนข้างโล่งและสามารถสัญจรไปมาได้ค่อนข้างสะดวกทีเดียว พี่กายค่อยๆขับอย่างไม่รีบร้อนพลางชวนแบงค์คุยเรื่องนั้นนี่ ทั้งเรื่องขำขันและเรื่องสนุกๆตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา พี่กายดูใส่ใจเขาไปเสียทุกเรื่องอย่างไม่น่าเชื่อ คำพูดหลายๆคำที่แบงค์เคยพูดเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนแต่พี่กายกลับจำได้แม่นก็มีหลายครั้ง

เมื่อถึงที่หมายพี่กายจอดรถไว้ที่บริเวณทางเข้าที่มีจุดให้เช่าจักรยานไว้ปั่นเล่น มีทั้งเด็กนักเรียนที่นัดกันมาเดินเล่น พ่อแม่พาลูกเล็กมาพักผ่อนก็มี อากาศวันนี้ไม่ร้อนมาก แม้จะมีแดดแต่ก็มีจุดที่ร่มรื่นให้ได้ผ่อนคลายกันอยู่มากมาย หลังจากที่พี่กายไปลากเอาจักรยานเช่ามาสองคันให้กับแบงค์ทั้งคู่จึงเตรียมที่จะออกปั่นไป พี่กายยังแบกกล้องถ่ายรูปอย่างดีพร้อมขาตั้งเล็กๆ พับใส่เป้เอาไว้ จากนั้นจึงพับแขนเสื้อตัวเองให้อยู่ในท่าที่ถนัดสามารถปั่นจักรยานได้คล่อง

“แบงค์ปั่นจักรยานได้แต่ปั่นได้ไม่แข็งนะพี่กาย” แบงค์รีบบอกเมื่อเห็นขนาดจักรยานที่ค่อนไปทางใหญ่กว่าตัวของเขา

“ไม่เป็นไรหรอก ขับไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เป็นแล้ว พี่ดูแบงค์อยู่ ไม่ปล่อยให้แบงค์ล้มเจ็บตัวหรอก” พี่กายบอกยิ้มๆ ประคองรถให้กับน้อง “เดี๋ยวเราขับไปคู่กัน จะได้ตามกันได้ โอเคไหม?”

“งั้นก็ได้” แบงค์บอกแล้วรีบคร่อมจักรยานอย่างทุลักทุเลก่อนที่จะเริ่มปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ ไปพร้อมๆกับพี่กาย

สายลมที่ระผ่านใบหน้าทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย แม้จะเป็นตอนสายๆและมีแดดบ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกร้อนอบอ้าวมากนัก แบงค์ค่อยๆปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ มองดูทิวทัศน์ต้นไม้และสวนโล่งๆที่เปิดสปริงเกอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับสนามหญ้า วันนี้เป็นวันหยุดจึงเห็นผู้คนมาเดินเล่นกันพอสมควรแต่ไม่ถึงกับหนาตา ยังมีที่ว่างอีกมากและหลายโซนที่พวกเขาจะไปเที่ยวชมได้อย่างเป็นส่วนตัว

“ไง ชอบไหม?” พี่กายถาม ขณะที่ยังคงปั่นไปอยู่ข้างๆกัน

“ชอบมากเลยครับ ไม่ค่อยได้มาสูดอากาศดีๆแบบนี้ตั้งแต่มาอยู่ที่กทม. ขอบคุณที่พามานะครับ” แบงค์บอก ตนเองก็พยายามทรงตัวให้รถจักรยานปั่นไปได้เรื่อยๆจนรู้สึกคล่องขึ้นมาบ้าง

“เดี๋ยวพี่จะพาไปดูอุทยานผีเสื้อ แต่มาทีไรพี่ก็ไม่ค่อยจะได้เห็นหรอกเจ้าผีเสื้อเนี่ย” พี่กายบอกติดตลก

แบงค์ยิ้มไปกับบรรยากาศดีๆและต้นไม้ที่ร่มรื่น จนกระทั่งพี่กายพาเขามาถึงหน้าอาคารสีขาวที่เขียนว่าอุทยานผีเสื้อ เมื่อมองจากภายนอกแล้วเหมือนที่นี่จะเป็นโรงเพาะชำขนาดย่อมๆเพราะมีทั้งดอกไม้นานาชนิดให้เหล่าผีเสื้อผสมเกสรและใช้ชีวิต

“เสียค่าเข้าไหมครับพี่?” แบงค์ถาม ก่อนจะล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกง

“ไม่ต้องเสีย ดูฟรีเลย” พี่กายบอก แล้วดึงเป้ออกมาหยิบกล้อง DSLR ยี่ห้อ Nikon ขึ้นมา เตรียมเลนส์ เพื่อที่จะ ถ่ายภาพรอบๆตัว

“พี่กายใช้กล้องขนาดนี้แสดงว่าถ่ายรูปเก่งแหงๆเลย” แบงค์ถาม มองดูพี่กายหยิบจับกล้องอย่างชำนาญ

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก พี่ชายพี่เขาเล่นกล้องพวกนี้อยู่ พี่ก็แค่พอรู้ ครูพักลักจำมา ถามๆพี่เขาเอา กล้องนี่ก็กล้องพี่เขา กว่าจะขอยืมมาได้แทบจะลงไปกราบกันเลยแหละ” พี่กายบอก

“โห ขนาดนั้นเลยแล้วพี่กายตั้งใจจะเอามาถ่ายอะไรล่ะครับ ถึงต้องลงทุนขอขนาดนั้น” แบงค์ถาม พี่กายจึงรีบยกกล้องขึ้นมาถ่ายแชะตอนแบงค์เผลอ แสงแฟลชสะท้อนเข้าตาทำให้แบงค์ตาลายไปชั่วขณะ

“จะถ่ายใคร...ก็มาถ่ายแบงค์เนี่ยแหละ พี่เอาเลนส์ Fix 50 มม.  เอาไว้ถ่ายคนโดยเฉพาะ สำหรับคนหัดเล่น กล้องใหม่ๆมาด้วย เอามาลองเล่นดู มีแรงบันดาลใจอยู่ใกล้ๆจะได้ลองฝึก” พี่กายบอก ยิ้มให้แบงค์

“อย่าเพิ่งถ่ายสิ ยังไม่ได้ตั้งตัวเลย แบบนี้มีแต่รูปเหวอๆ ไม่เอา ไม่ดี” แบงค์รีบโวยวาย

พี่กายกดดูรูปที่ถ่ายไปเมื่อสักครู่ แล้วก็ขำแบงค์ออกมา “นี่ไง น่ารักดีออกเวลาเห็นรูปเหวอๆ”

“ไหนๆ ขอดูมั่ง....เฮ้ย...พี่กาย น่าเกลียดโคตร ลบเลยๆ” แบงค์ร้องบอก เมื่อเห็นหน้าตัวเองบนกล้อง พี่กายก็หัวเราะไม่หยุด
 
“ขอพี่เก็บไว้ใบนึงละกัน” พี่กายบอกแล้วรีบจูงมือพาแบงค์เข้าไปด้านในของอุทยานผีเสื้อ

ตามอย่างที่คิดไว้ ภายในโรงเรือนเป็นเหมือนสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ มีดอกไม้หลายชนิดที่ปลูกอยู่ด้านใน ไม่ว่าจะเป็นดอกลำโพง ดอกกล้วยไม้พันธ์ธรรมดาๆ ดอกดาวเรือง และสารพัดชนิดปลูกเรียงรายเหมือนป่าน้อยๆภายใน แบงค์มองไปรอบๆ เพื่อหาผีเสื้อให้เจอสักตัวบ้าง เพราะคิดว่าได้ชื่อว่าอุทยานผีเสื้อแล้ว ก็น่าจะมีผีเสื้อให้เห็นมากกว่าที่อื่นเป็นแน่ แต่ยิ่งเดินสำรวจเท่าไรก็ไม่ค่อยจะมี จะเห็นอยู่บ้างก็ตัวสองตัวเท่านั้น ส่วนพี่กายได้แต่คอยถ่ายรูปดอกไม้ และเดินตามหลังแบงค์อยู่เป็นระยะๆ

“พี่กายมาถ่ายรูปด้วยกันเหอะ อย่าปล่อยให้แบงค์โดนถ่ายอยู่คนเดียวเลย ไม่ได้เป็นนายแบบจำเป็นนะ” แบงค์บอก

“เอางั้นเหรอ” พี่กายถาม เงยหน้ามามองแบงค์ “เดี๋ยวพี่กางขาตั้งกล้องก่อน จะได้ถ่ายด้วยกันได้” พี่กายบอกแล้วเปิดเป้เอาอุปกรณ์ออกมา

แบงค์เดินเลาะออกมาจนถึงใกล้ทางออกจะมีกอดอกไม้ทั้งดอกบานชื่น ดอกดาวเรืองและกอดอกไม้หลากสี ปลูกเรียงรายอยู่ใกล้ๆ และที่สำคัญยังมีเหล่าผีเสื้อบินกันอยู่เต็มไปหมด

“โห พี่กาย มาถ่ายรูปกันตรงนี้ดีกว่า ผีเสื้อเยอะมากเลย” แบงค์ร้องบอก พี่กายจึงเดินตามมาติดๆแล้วตั้งมุมกล้องอย่างที่อยากถ่ายเอาไว้

“งั้นเดี๋ยวพี่ตั้งเวลาไว้ นับ ถอยหลัง 5 วินาทีนะ” พี่กายบอกเมื่อตั้งอุปกรณ์เสร็จ แบงค์นั่งยองๆ รออยู่ที่มุมกอดอกไม้ ชูสองนิ้วให้กล้องที่ตั้งเป็นมุมเอาไว้อย่างดี “อยู่นิ่งๆนะ เดี๋ยวพี่ไปถ่ายด้วย”

พี่กายวิ่งเข้ามานั่งกอดคอแบงค์อยู่ข้างๆ ไฟสีแดงกะพริบ วิบ วิบ วิบ บอกวินาทีจนกระทั่งถึงสัญญาณบอกวินาทีสุดท้าย พี่กายถือโอกาสหันหน้ามาหอมแก้มแบงค์ฟอดใหญ่ พอดีกับที่ภาพชัตเตอร์กดติดไว้พอดิบพอดี

แบงค์ตกใจรีบจับแก้มของตัวเองทันที “พี่กาย...อย่าเล่นแบบนี้ดิ”

“โทษที พี่แค่เห็นแก้มแบงค์ใกล้ๆแล้วอยากหอมขึ้นมา ก็เลย...” พี่กายหน้าเสียเพราะแบงค์ทำท่าโมโหขึ้นมาจริงจัง “โกรธพี่เหรอ?” เขาถาม

แบงค์ถอนหายใจยาวๆหนึ่งที แล้วรีบลุกขึ้นยืน ยื่นมือมาให้พี่กายจับเพื่อพยุงกันลุกขึ้น “ไม่เอาแล้วนะพี่กาย หนหลังอย่าทำแบบนี้อีก ไม่งั้นแบงค์ไม่ถ่ายรูปด้วยแล้วนะพี่”

“โอเค พี่สัญญาว่าจะไม่ทำอีก” พี่กายตอบ หน้าเจื่อนๆ “ว่าแต่แบงค์หิวหรือยัง พี่ทำข้าวกล่องมาเผื่อด้วยนะ เราจะได้หาที่ว่างๆนั่งกินกัน”

“กินก็ได้ พี่อุตส่าห์ตั้งใจทำมา จะยอมกินให้ก็แล้วกัน” แบงค์บอกแล้วเดินออกจากอุทยาน “ทางที่ผ่านมาเห็นมีลานกว้าง หาที่นั่งแถวนั้นก็ได้นะพี่”

พี่กายพยักหน้าตอบ แล้วเดินกลับเก็บอุปกรณ์ของตนเองลงเป้เพื่อไปต่อ หน้าหงอยๆเมื่อโดนแบงค์ดุใส่

เขาไม่อยากจะสานสัมพันธ์ทางกายกับคนอื่นอีกนอกจากที่เคยให้พี่ท็อป ใจจริงเขาอยากจะโกรธที่พี่กาย ฉวยโอกาสตอนเขาเผลอ ถึงอย่างไรต่อจากนี้เขาควรไว้ทีบ้างเพื่อไม่ให้พี่กายสามารถรุกเข้ามาแบบนี้ได้อีก ไม่อย่างนั้นตัวเองจะลำบากเพราะถ้าเกิดพี่กายต้องการเขามากกว่านี้ เรื่องถึงหูพี่ท็อปแล้วล่ะก็รายนั้นคงไม่ยอมปล่อยเขาและพี่กายไปง่ายๆแน่ ส่วนหนึ่งที่ยังคงปล่อยให้ตัวเองใช้เวลากับพี่กายก็เพราะยอมทำตามเกมส์ของพี่ท็อปมากกว่าจะทำตามสิ่งที่หัวใจเรียกร้อง...

จบบทที่ 18 (ตอนที่ 19 จะมาอย่างเคยในวันศุกร์ที่ 13 นี้ครับ เวลาเดิม)

** นอกจากเรื่องรุ่นพี่ที่รักเรื่องนี้แล้ว ผมขอฝากทุกท่านเจียดเวลาไปอ่านเรื่องใหม่ของผมเรื่อง เพื่อนผมเป็นผู้วิเศษ กันหน่อยนะคัรบ ไปช่วยกันเจิมนิดนึง เรื่องใหม่จะออกแนวแฟนตาซีหน่อยๆ อาจจะไม่ได้ดราม่าเหมือนเรื่องนี้ ยังไงฝากทุกท่านไว้อีกเรื่องนะครับ ^^**




ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
คนดีๆแบบกายแบงค์ไม่เอาเหรอกก. ต้องชั่วนิดๆแบบพี่ท๊อป.  อิอิอิ

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :pig4: รอลุ้นตอนต่อไปนะ แต่แอบขัดใจกับพฤติกรรมของปลาคาร์พ :m16:

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ไม่ต้องแข่งหรอก ชัดเจนแล้วว่าเลือกท็อปเห็นๆ : P

รออ่านต่อครับผม^^

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ naoai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-5
ตั้งแต่อ่านมา อขากให้แบงค์ร้ายกว่านี้อีกนิดกับน้ำหวานหรือปลาคราฟ แต่ก็เข้าใจอะนะ  :katai1: ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
ตั้งแต่อ่านมา อขากให้แบงค์ร้ายกว่านี้อีกนิดกับน้ำหวานหรือปลาคราฟ แต่ก็เข้าใจอะนะ  :katai1: ขอบคุณครับ

เท่าที่เฝ้าดูมา เเบงค์เป็นเด็กไม่ค่อยแสดงออก(ทางอารมณ์)เท่าไรครับ แถมเป็นรุ่นน้องด้วย ใจจริงเขาคงอยากจะสวนกลับไปบ้างแต่ก็คงเห็นแก่พี่ท็อปด้วยละมั้งครับ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนของพี่ท็อปอีก เลยอยู่เฉยๆดีกว่า ^^

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 19
วันทวงสิทธิ์


วันที่ท็อปรอคอยอย่างใจจดใจจ่อก็มาถึง วันนี้ตอนเย็นเขากับกายจะพบกันอย่างเป็นทางการเพื่อส่งตัวแบงค์ให้กลับมาอยู่กับท็อปเหมือนเดิม ตลอดทั้งอาทิตย์เขารู้สึกน้อยใจทุกครั้งที่เดินผ่านแบงค์และต้องเห็นกายเป็นคนยืนอยู่ข้างๆแทนเขา อีกทั้งยังมีเรื่องของความสัมพันธ์กับปลาคาร์พอีก เขารู้สึกไม่สบายใจนักเมื่อรู้ว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้ฝันไปอย่างที่คิดและปลาคาร์พเป็นคนทำรักให้เขาจริงๆต่างหาก เขาไม่กล้าแม้แต่จะเสี่ยงถามเพื่อนออกไปตรงๆ จึงได้แต่ทำเป็นลืมๆไป แสร้งทำตัวเป็นปกติ ปลาคาร์พดูจะระแวงท็อปเหมือนกันแต่ในเมื่อต่างคนต่างก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา กิจวัตรประจำวันจึงดำเนินต่อไปตามปกติ

“วันนี้มึงก็ต้องกลับไปไหนมาไหนกับไอ้แบงค์เหมือนเดิมแล้วดิ” ปลาคาร์พพูดขึ้นเมื่อทั้งสองกำลังเดินไปที่ห้องสมุดที่ทั้งสองชอบไปเมื่อถึงคาบว่างระหว่างสัปดาห์

“คิดมากน่ามึง มึงเรียนห้องเดียวกับกู กูก็ต้องไปไหนมาไหนกับมึงเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วป่าววะ แค่ตอนเย็นเท่านั้นแหละ”ท็อปบอกไม่สบสายตาเพื่อน “ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกู กูไม่ทิ้งมึงไปไหนหรอก”

ทั้งสองเดินเข้าไปนั่งหลบมุมอ่านหนังสืออยู่ใกล้ๆชั้นหนังสือหมวดหนังสือทั่วไป ท็อปตั้งใจจะมาหาที่งีบหลับตรงมุมลับสายตา ส่วนปลาคาร์พก็จะมานั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆอย่างที่เคยทำ เมื่อถึงที่หมายแล้วท็อปจึงค่อยๆนั่งเหยียดขาพิงกำแพงหลับตางีบ ปลาคาร์พจึงหยิบหนังสือที่น่าสนใจใกล้ๆขึ้นมาอ่านเล่นฆ่าเวลา

เมื่อท็อปเริ่มหลับตาไปสักพัก ก็เริ่มเข้าสู่ภวังค์หลับ เพราะตลอดอาทิตย์ที่แล้วเขาไม่ค่อยจะได้นอนหลับสนิทเท่าไร เพราะมัวแต่มาคิดเรื่องของแบงค์และยังมีเรื่องปลาคาร์พแทรกเข้ามาทำให้เขารู้สึกกังวลว่าจะเข้าหน้าเพื่อนไม่ติด เขาจึงถือโอกาสใช้คาบว่างนี้เป็นเวลาพักผ่อน ปลาคาร์พหันหน้ามามองเพื่อน ริมฝีปากสีชมพูของท็อปเผยอออกน้อยๆทุกครั้งที่เขานอนหลับ ท็อปเป็นคนหายใจเข้าทางปากด้วยเสมอเวลานอนหลับ เป็นสิ่งหนึ่งที่เขาสังเกตเพื่อนมาตลอดเวลาที่ได้มีโอกาสนอนหลับข้างๆกัน ริมฝีปากนี้ที่ปลาคาร์พอยากจะได้ลองลิ้มรสสักครั้ง ริมฝีปากที่เขาปรารถนามาตลอด เขาเขยิบกายเข้าไปใกล้ๆ เพราะเห็นว่าท็อปกำลังหลับสนิท กลิ่นเหงื่อผสมกลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆประจำตัวของท็อปลอยเตะจมูกขึ้นมาทำให้หัวใจของปลาคาร์พเต้นระรัว เขาค่อยๆเขยิบกายเข้ามาใกล้หน้าของท็อปอย่างช้าๆ

“จ๊ะเอ๋” เสียงหวานประธานนักเรียนสาว ร้องทักขึ้น ทำเอาทั้งปลาคาร์พและท็อปที่กำลังหลับอยู่สะดุ้งโหยงขึ้นมาทันที”มาแอบทำอะไรกันสองคนตรงนี้อีกแล้วนะ”

“เฮ้ย...อะไรของหวานเนี่ย อุตส่าห์กำลังหลับได้ที่เลย” ท็อปร้องบอกรีบเอามือเช็ดน้ำลายที่เหมือนกำลังจะไหลออกมาจากปาก

“คาบว่างปกติเธอชอบไปขลุกที่ห้องปกครองนี่นา ไหงวันนี้ถึงโผล่มาห้องสมุดล่ะ?” ปลาคาร์พถามเลิกลั่ก กลัวว่าหวานอาจจะโผล่เข้ามาเห็นเขาตอนพยายามจูบท็อปเมื่อสักครู่นี้

“เรามาตามหาท็อป” เธอพูด เปลี่ยนสีหน้าเป็นจริงจังขึ้นมา

“จะเอาอะไรกับเราอีกล่ะ” ท็อปถาม หรี่สายตา ขมวดคิ้วส่งให้เพื่อน เขาไม่เคยจะไว้ใจหวานเท่าไรนับตั้งแต่เรื่องที่หวานทำกับแบงค์เมื่อหลายเดือนก่อน “จะมาขออะไรแผลงๆล่ะก็ไม่เอาด้วยแล้วนะ”

“เราอยากมาขอโทษ...” เธอตอบพร้อมกับยื่นกล่องข้าวที่ใส่ขนมเค้กช็อกโกแลต อบสดมาให้ “อย่าให้ใครเห็นนะว่าเราเอาเข้ามาในห้องสมุด”

“เฮ้ย...ไม่กิน ไม่ชอบกินเค้ก” ท็อปรีบปฏิเสธทันควันแบบไม่รักษาน้ำใจเพื่อนเลยสักนิด “อีกอย่างมาขอโทษเราเรื่องอะไร”

“ก็คราวก่อนที่ร้านโจ๊ก เราพูดไม่ดีกับท็อปเอาไว้ เราเลยอยากมาไถ่โทษ เราไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ท็อปโกรธ เราแค่ไม่อยากให้คนมองเด็กโรงเรียนเราไม่ดีก็แค่นั้นเอง” หวานบอก “ช่วยรับไว้หน่อยเถอะ เราอุตส่าห์ทำกับมือเลยนะ”

“เราไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีนะ คนมันโมโหก็คือโมโห ไม่เห็นต้องเกี่ยวอะไรกับชื่อเสียงโรงเรียน มันเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลนะหวาน” เขาพูด แล้วหันมามองกล่องขนมอย่างระแวงนิด ๆ “แอบใส่อะไรแปลกๆลงไปรึเปล่า” เขาถาม

“ใส่แต่ใจเท่านั้นแหละ ก้อนนี้ ทำสุดฝีมือเลยล่ะ” หวานบอก “เราก็เคยบอกท็อปตลอดนี่นา ว่าเราคิดยังไงกับท็อป”
ท็อปหันหน้ามามองปลาคาร์พพลางถอนหายใจ ปลาคาร์พทำเป็นก้มลงไปอ่านหนังสือต่อ ยิ้มที่มุมปากน้อยๆ

“อือ เอามาก็ได้” ท็อปบอก ยื่นมือออกมารับ “แน่ใจนะว่ากินแล้วไม่อ้วกออกมา” ท็อปแซว แล้ววางกล่องเค้กลงข้างตัว จากนั้นจึงหันกลับไปเอนตัวพิงผนังต่อ “ไม่มีอะไรแล้วใช่ปะ งั้นเราขอนอนต่อ”

หวานยิ้มหน้าระรื่น เพราะในที่สุดท็อปก็ยอมรับของๆเธอเอาไว้บ้างแล้ว เมื่อเห็นว่าท็อปกลับไปหลับต่อและหวานกำลังเดินจากไป ปลาคาร์พรีบลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงเดินไปหาหวานที่กำลังจะเดินออกจากห้องสมุด เรียกหวานเพื่อรั้งตัวเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินไปไกล

“เดี๋ยวก่อนหวาน เราขอคุยอะไรด้วยหน่อย” ปลาคาร์พทัก

“ได้สิ เรื่องอะไรล่ะ?” หวานถามกลับ หันหน้ามามองเพื่อน

ปลาคาร์พหันหลังเหลียวมาดูว่าท็อปยังคงหลับอยู่ตรงมุมเดิมของห้องสมุดหรือเปล่า “เรามีเรื่องอยากถาม ไม่รู้ว่าหวานพอจะบอกเราได้ไหม?”

“ว่ามาสิถ้าเรารู้ก็จะตอบนะ” หวานบอก มองหน้าคาร์พอย่างสงสัย

“เราอยากรู้ว่าทำไมหวานถึงชอบท็อปขนาดนี้ เราเห็นเธอตามมันมาตั้งแต่อยู่ม.1 แล้วยัน ม.5 เธอก็ยังไม่เลิกตื๊อ เธอก็ไม่ใช่คนหน้าตาขี้เหร่นะหวาน คนมาจียเธอก็ใช่ย่อย เราว่าคนอย่างเธอหาแฟนเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ไอ้ท็อปน่าจะง่ายกว่าไหม?” เขาถามตรงๆ บอกเจตนาของตนเองชัดเจน

“มันเป็นเรื่องความหลังฝังใจมากกว่าน่ะ คาร์พ เราไม่ใช่เป็นคนรักง่ายหน่ายเร็วเหมือนท็อปมันหรอกนะ” หวานเกริ่น “ตอนสมัยที่เราเพิ่งเข้าม.1 ตอนวันปฐมนิเทศน์ถ้าคาร์พจำได้ เขาจะแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆใช่ไหม ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอท็อป” หวานเล่า ส่วนปลาคาร์พก็ยืนนึกถึงเรื่องที่ผ่านมา “ท็อปเขาวิ่งเล่นในโรงเรียนนี้มานานแล้ว ก็เลยรู้มากไปหมด เขาคอยสอนอะไรหลายๆอย่างให้เรา เราเลยค่อนข้างประทับใจ” 

“มีอยู่ครั้งนึงตอนที่เราขึ้นรถเมล์สาย 8 เรากำลังขึ้นรถอยู่แต่รถมันรีบขับออกไปโดยไม่ทันได้ดูว่าเรายังขึ้นไม่เรียบร้อย เราเกือบจะหล่นลงมาจากรถแล้วนะ แต่สงสัยชะตาเรายังไม่ถึงฆาตมั้ง พอดีว่าท็อปอยู่ในรถคันนี้ด้วย แล้วเขาเห็นเราเข้าเลยกระโจนออกมาคว้าแขนเราไว้ได้ทัน หัวใจเราแทบจะหล่นวูบลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม คิดว่าตัวเองกำลังจะตายซะแล้วด้วยซ้ำ แล้วเขาก็ดึงตัวเราเข้ามาในรถ แล้วก็โวยวายด่าโชเฟอร์ใหญ่เลยว่าเกือบทำเราตายแล้ว กระเป๋ารถเมล์เลยไล่พวกเราสองคนลงจากรถเพราะท็อปเหวี่ยงใส่ทั้งกระเป๋ารถเมลล์แล้วก็ด่าใส่คนขับรถเสียๆหายๆเลยแหละ” หวานเล่าให้ฟังถึงความหลัง “วันนั้นเราสองคนเลยมาโรงเรียนสายเลย หลังจากนั้น พ่อท็อปก็เลยออกมอเตอร์ไซค์มาให้ท็อปใช้ขับไปโรงเรียน จะได้ไม่ต้องเสี่ยงขึ้นรถเมลล์ อีกอย่างจากซอยบ้านท็อปมาโรงเรียน ขับมอไซค์เลาะไปตามซอยเล็กๆ น่าจะปลอดภัยกว่าปล่อยให้เขานั่งรถเมลล์ละมั้ง”

“หวานจะบอกว่าเพราะอย่างนี้ ก็เลยปลื้มท็อปมันว่าเขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้ ว่างั้นเหอะ” ปลาคาร์พพูดอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “ยังกะละครแน่ะ”

“ก็ไม่เชิง ตลอดชีวิตที่ผ่านมา เราไม่เคยเจอใครกล้า แล้วก็มีความเป็นตัวของตัวเองแบบท็อปมาก่อน เราว่ามันน่าหลงใหลและมีเสน่ห์ดี” หวานพูดยิ้มๆ “เราเห็นเขาคบคนนั้นคนนี้มาเยอะแล้ว แต่เขาไม่เคยจะสนใจเราสักครั้งเลย เราก็เลยอยากลองพยายามดูบ้าง”

“ดีแล้วล่ะที่ไม่อยู่ในวงโคจรของมันน่ะ” ปลาคาร์พบอก “ก็เห็นๆกันอยู่มันรักง่ายหน่ายไวยิ่งกว่าใช้กระดาษทิชชูอีกนะ ถ้าเธอไปคบมันก็มีหวังเตรียมรอวันโดนทิ้งอยู่ดี ตัวอย่างก็มีออกถมถืด ถึงท็อปมันจะหล่อแต่เข้ากับใครไม่ค่อยได้ง่ายๆหรอกนะ นิสัยมันน่ะ” เชาเสริมอย่างมีเหตุผล

“เรื่องนั้นเราก็รู้ดีนะ แต่เราก็อยากจะลองดูสักตั้งว่าจะทำให้เขารักเราได้มากแค่ไหน ดีกว่าอยู่เฉยๆไปเรื่อยๆ ยิ่งตอนนี้เหมือนท็อปจะไปชอบรุ่นน้องที่ชื่อแบงค์อีก เราเจ็บใจก็ตรงนี้แหละ” หวานพูด ถอนหายใจอย่างคนหมดแรง “มันใช่เรื่องไหมล่ะ ที่จู่ๆท็อปจะไปคบกับผู้ชาย”

ปลาคาร์พเงียบมองหน้าหวานพลางครุ่นคิด “เอางี้ไหมล่ะ เราจะช่วยเธอก็แล้วกัน”

“หืม? ช่วยอะไรเหรอ?” หวานถาม สงสัยข้อเสนอที่เขายื่นให้

“เราจะช่วยให้ท็อปหันมาคบเธอแทนไอ้เด็กแบงค์ ม.4 คนนั้น จะลองดูไหมล่ะ?” เขาพูด

“จริงเหรอ แล้วมันจะได้ผลเหรอ เหมือนท็อปเขาไม่ค่อยจะชอบหน้าเราสักเท่าไรเลย ยิ่งหลังๆมานี้เขายิ่งแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากเจอเรามากๆ เราก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เขาไม่ชอบนักหนา” หวานตัดพ้อ “เราก็ทำดีให้ทุกอย่างแล้วนะ”

“เรารู้จักท็อปมันดีที่สุด เพราะเราอยู่กับมันมาแต่เล็กแต่น้อย นิสัยมัน เรารู้ดีทุกอย่าง ถ้าเธอไว้ใจเรา ก็ทำตามอย่างที่เราบอกทุกอย่างก็แล้วกัน งานนี้อาจจะต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวกันบ้าง แต่ถ้าจะให้ไล่ไอ้เด็กนั่นไปไกลๆก็อาจจะต้องงัดไม้ตายมาสู้ล่ะวะ” ปลาคาร์พบอก

“หมายความว่ายังไง คาร์พ ถึงขั้นเปลืองเนื้อเปลืองตัวเลยเหรอ? จะให้เราทำอะไร?”หวานบอกสีหน้าหวั่นๆ

“อย่าคิดเยอะ ... ยังไงเธอก็ชอบไอ้ท็อปมันเต็มเปาอยู่แล้วนี่ ถ้าต้องโดนถึงเนื้อถึงตัวนิดๆหน่อยๆ เธอคงไม่ถือหรอกมั้ง” คาร์พพูดเยาะ ๆ “ขอบอกนะว่าท็อปมันไม่ใช่ย่อยๆนะเว้ย”

หวานหน้าแดงขึ้นมา “บ้า พูดอะไรเนี่ย คาร์พ ทะลึ่งที่สุดเลย”

“ว่าแต่สนใจจะร่วมมือไหมล่ะ? ถ้าเอาล่ะก็ ไว้มาคุยแผนกันวันหลัง” ปลาคาร์พบอก

“ก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว งั้นเราตกลงก็แล้วกัน แต่ต้องมาปรึกษากันก่อนนะคาร์พวาจะทำอะไรน่ะ ถ้าเราโอเคจะถือว่าเริ่มปฏิบัติการได้นะ” หวานพูด มองเพื่อนอย่างมีความหวัง

“ได้ แล้วแต่ท่านประธานเลยก็แล้วกัน” ปลาคาร์พบอกแล้วจึงแยกกัน หวานก็รีบกลับไปที่ห้องปกครองอย่างเดิม ส่วนเขากลับมาที่มุมเดิมซึ่งตอนนี้ท็อปยังคงนอนหลับพิงเสาสบายใจเฉิบ ปลาคาร์พจึงทรุดกายลงนั่งใกล้ๆ จากนั้นก็หันหน้ามามองเพื่อนที่หลับไม่รู้อิโหน่อิเหน่ถึงชะตากรรมของตนเองที่กำลังจะมาเยือนในไม่ช้า “ขอโทษนะเว้ย ท็อป ยังไงกูก็จะไม่มีวันยกมึงให้ใครไปเหมือนกัน โดยเฉพาะไอ้เด็กม.4นั่น จะแย่งมึงไปจากกูไม่ได้” เขาพึมพำอยู่ในใจ

===============================================

ท็อปจ้องมองนาฬิกาของตัวเองตลอดคาบเรียนสุดท้ายของวัน คาร์พมองพฤติกรรมอยู่ไม่สุขของเพื่อนจนอดนรนทนไม่ได้  ต้องพูดออกมาในที่สุด “นี่มึงจ้องนาฬิกาเป็นรอบที่ร้อยแล้วมั้งเนี่ย ตั้งแต่บ่ายสามมา”

“ก็กูตื่นเต้นนี่หว่า” ท็อปบอก “กูรอคอยวันนี้มาทั้งอาทิตย์ กูก็อยากให้มันเลิกไวๆ”

“มึงก็สนใจแต่ไอ้แบงค์มัน หัดตั้งใจเรียนหน่อยเหอะ มึงจะเกรดตกเพราะเรื่องพวกนี้ไม่ได้นะเว้ย พ่อมึงเอาตายแน่” ปลาคาร์พขู่ เขาไม่พอใจนักยิ่งเห็นท็อปแสดงอาการอย่างออกนอกหน้าว่าจะได้เจอแบงค์แบบนี้

“มึงหึงกูอะดิ ไอ้คาร์พ” ท็อปพูดหันหน้ามามอง ขมวดคิ้วจ้องเข้าไปในดวงตาสีดำของเพื่อนสนิท คาร์พรีบหลบสายตาของท็อป กลืนน้ำลาย แล้วรีบทำเป็นพลิกหน้าหนังสือที่กำลังเปิดดูอยู่ ไม่ตอบอะไร

ท็อปจึงหันกลับไปจดจ่ออยู่กับงานของตัวเอง เมื่อไร้วี่แววการโต้ตอบจากเพื่อน
เมื่อออดดังขึ้นบอกเวลาเลิกเรียน เขารีบเก็บทุกอย่างยัดลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว แล้วเตรียมพุ่งออกจากห้องเรียนราวกับนินจา

“เย็นนี้กูขอไปทำธุระของกูนะเพื่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” ท็อปบอกเมื่อตนเองสะพายกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่งยิ้มแฉ่งหน้าระรื่นมาให้ “มึงมีเบอร์ใหม่กูแล้วนะ โทรมาละกัน” จากนั้นก็รีบวิ่งไปยังโรงอาหารที่เขานัดแบงค์กับกายเอาไว้

ปลาคาร์พมองตามเพื่อนที่วิ่งออกไป พลางถอนหายใจ “มึงก็สนใจแต่ตัวเอง มึงไม่เคยสนใจกูสักนิดว่ากูแคร์มึงแค่ไหนนะ ไอ้ท็อป” เขาพึมพำ

แบงค์แยกตัวกับเพื่อนๆแล้วรีบเดินมารอทั้งพี่กายและพี่คาร์พที่โรงอาหารโล่ง ๆ นักเรียนหลายคนมักใช้ที่นี่เป็นจุดนัดพบเมื่อถึงเวลาเย็นหรือตอนเที่ยง เขาถอดเป้ลงแล้วนั่งรอ มองเหล่านักเรียนเดินผ่านไปมา สายตาก็ไปเจอพี่ท็อปวิ่งห้อมาจากมุมอาคารเรียนแล้วหยุดยืนชะเง้อมองหาว่าแบงค์อยู่ตรงไหน

“พี่ท็อป” แบงค์ยกมือเรียก จนพี่ท็อปหันมาเห็นแล้วรีบเดินมาหา

“คู่แข่งพี่ล่ะ มายัง?” พี่ท็อปถามเมื่อเจอหน้าแบงค์

“เดี๋ยวก็คงมาแล้วแหละพี่ท็อป พี่กายเขาไม่ค่อยผิดเวลาเท่าไรหรอก” แบงค์บอก ท็อปพยักหน้าเชิงรับรู้แล้วนั่งลงข้างๆแบงค์ หันหน้ามาจ้องแบงค์เขม็งแต่กลับไม่พูดอะไร

“เป็นอะไรของพี่เนี่ย มาถึงก็นั่งมองหน้า” แบงค์หันหน้ามามองหน้าพี่ท็อปงงๆ “จะดูสิวเหรอ หรือว่าอะไร?”

“เปล่า พี่แค่ ไม่ได้มองหน้าแบงค์ชัดๆมาตั้งอาทิตย์ ขอมองนานๆได้ไหม? ชดเชยเวลาที่หายไป” พี่ท็อปบอก
แบงค์เอามือผลักหัวพี่ท็อปแบบเขินๆ “บ้าว่ะ พี่ท็อป มาถึงก็เล่นมุขใส่เลย ทีวันก่อนขอกอดยังไม่ยอมให้กอดนะ แบงค์ยังจำได้นะ”

ท็อปหัวเราะร่าอย่างมีความสุข “อะ ให้กอดได้ละ มาดิ” เขาพูด อ้าแขนรอ

“ไม่อยากละ ไม่มีรมณ์” แบงค์พูด เบือนหน้าไปทางอื่น “ตอนนี้เหม็นเหงื่อพี่ท็อป ไม่อยากได้กลิ่น จะอ้วก”

“แน่ะ ทำเป็นพูด” ท็อปแซวแล้วกระโจนเข้าจี้เอวรุ่นน้องแบบไม่ทันตั้งตัว

ทั้งคู่กำลังหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานพอดีกับที่พี่กายเดินเข้ามาหา “เล่นกันสนุกใหญ่เลยนะ” เขาทักขึ้นมา

“อ้าว พี่กายมาแล้วเหรอครับ?” แบงค์ทัก ส่วนท็อปก็เลิกแหย่แบงค์ทันที

“เวลามันผ่านไปไวเหมือนกันเนอะแต่ละวัน” พี่กายบอกมองหน้ารุ่นน้องทั้งสองคน

“แบงค์สนุกมากเลยนะครับ ที่ได้ใช้เวลาอยู่กับพี่กาย แบงค์ไม่เคยมีพี่ชายที่คอยสอนนั่นสอนนี่ ช่วยสอนการบ้าน ช่วยพาไปเที่ยว

ที่นั่นที่นี่ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเยอะเลยจากพี่กาย ขอบคุณมากนะครับพี่กายที่สละเวลามา” แบงค์พูดขอบคุณ

“พี่ต่างหาก ที่ต้องขอบคุณแบงค์ ทุกวันเป็นวันดีของพี่มากๆเลยนะ ได้เที่ยวเล่นกัน ได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน พี่หายเหงาไปได้เยอะเลย นับแต่อาทิตย์นี้ พี่อาจจะเหงาขึ้นมาบ้าง แต่วันจันทร์หน้า เราจะได้มาตัดสินกันอย่างเป็นทางการ ว่าแบงค์จะเลือกยังไง” พี่กายบอก หันหน้ามามองท็อป “ถึงตานายบ้างแล้วนะ ท็อป”

“ผมไม่ยอมแพ้พี่หรอกครับพี่กาย” ท็อปพูด สีหน้าจริงจัง “ของๆผมยังไงก็ต้องเป็นของๆผมวันยังค่ำ” พูดเสร็จท็อปก็คว้ามือแบงค์ไปกุมไว้ เหมือนเด็กหวงของเล่น

กายหัวเราะเบาๆ แล้วหันมายิ้มให้แบงค์ “งั้น พี่ไปก่อนนะ ไว้อีกอาทิตย์นึง เรามาสรุปผลกัน ระหว่างนี้ก็มีปัญหาอะไรก็ยังคุยได้ปกตินะ”

“ครับ พี่กาย” แบงค์ตอบ แล้วพี่กายก็โบกมือลาก่อนจะเดินจากไป

“พี่ท็อปเนี่ยเล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย” แบงค์พูด ชกไหล่พี่ท็อปเบาๆ “ก่อเรื่องให้ตัวเองยังไม่พอแล้วยังมาทำให้แบงค์รู้สึกไม่ดีไปด้วยอีก”

“ทำไมล่ะ ก็มันดันคิดออกตอนนั้นนี่หว่า ใครใช้ให้ไปนั่งกินข้าวอยู่กับเขาล่ะ” ท็อปอ้างเหตุผล

“ทำแบบนี้ก็เหมือนให้ความหวังพี่กายเขาชัดๆเลยนะพี่ น่าสงสารออกนะ” แบงค์บอก

“นั่นไง นั่นไง หมายความว่าแบงค์เลือกพี่แล้วใช่ไหม ?” ท็อปแซว แหย่จมูกแบงค์
แบงค์ยิ้มออกมาน้อยๆ แล้วคว้ามือพี่ท็อปที่กำลังแหย่หน้าของตนเอาไว้ “ก็ไอ้นิสัยแบบนี้เนี่ยแหละ ทำให้หลงจนโงหัวไม่ขึ้นสักที อีกอย่างนะพี่ แบงค์สัญญาอะไรไว้ แบงค์ไม่เคยลืมหรอกนะ คนที่แบงค์รักมีคนเดียว ถึงเขาจะงี่เง่าแต่จริงๆเขาก็เป็นคนดีนะ” เขาบอกเขิน ๆ

“งั้น เย็นนี้จัดเลยไหม ที่รัก คนงี่เง่าคนนี้ไม่ได้ปล่อยมาเป็นอาทิตย์แล้ว” พี่ท็อปพูดเรื่องอย่างว่าออกมาเหมือนกับเป็นเรื่องปกติ

“จะบ้าเรอะ...มาถึงก็พูดเรื่องแบบนี้เลยเนี่ยนะ ฝันไปเหอะ ไปพิจารณาตัวเองมาใหม่ก่อนเลยว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมาก่อเรื่องอะไรไว้มั่ง แล้วค่อยมาว่ากันใหม่” แบงค์บอก จากนั้นจึงสะพายเป้แล้วลุกขึ้นยืน “แบงค์จะกลับบ้านแล้วนะ จะไปส่งไหม?”

“อย่าว่าแต่ไปส่งเลย พี่จะไปนอนบ้านแบงค์ด้วย คืนนี้” ท็อปบอก

“ใครอนุญาตแล้วไม่ทราบ เจ้าของบ้านยังไม่ได้บอกเลยว่าให้มานอน ถือวิสาสะตลอด” แบงค์บอกมองหน้าพี่ท็อป ขมวดคิ้วใส่

“น่านะ ขอนอนกอดทั้งคืนก็ยังดี นะนะ แบงค์นะ” ท็อปบอก เอามือเขย่าแขนเสื้อของแบงค์ ส่งเสียงอ้อนวอน

“รีบไปเอารถมาเลยพี่ท็อป เดี๋ยวนี้” แบงค์ตะโกนใส่ ทำท่าจะชกเข้าที่หน้าอกพี่ท็อป แต่พี่ท็อปก็ไหวตัวหลบไปได้หวุดหวิด

“โอเค ไปเอารถก่อนนะ เดี๋ยวมารับ ไปรอพี่ที่หน้าโรงเรียนเหมือนเดิมเลย” ท็อปบอกแล้วรีบวิ่งไปที่โรงจอดรถของโรงเรียน ด้วยสีหน้ามีความสุขที่สุด
ต่อจากนี้เขาจะได้กลับมาใช้เวลาอยู่ด้วยกันกับคนที่เขารักเหมือนเดิมแล้ว ท็อปคิดแล้วล้วงมือหากุญแจในกระเป๋ากางเกงแล้วรีบไขกุญแจ

ปลาคาร์พยังคงจ้องมองทั้งคู่จากบนอาคาร แม้จะไม่ได้ยินบทสนทนาของบุคคลทั้งสามแต่ดูจากพฤติกรรมแล้ว ท็อปดูจะมีความสุขขึ้นมากโขทีเดียวที่ได้กลับมาอยู่กับแบงค์เหมือนเดิม เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาเบอร์ที่เก็บเอาไว้ แล้วรีบกดโทรออก

“หวาน...เย็นนี้ไปหาอะไรกินกันไหม?” ปลาคาร์พถามทันทีที่ปลายสายตอบรับ

จบบทที่ 19 (บทที่ 20 จะมาในวันจันทร์ที่ 16/03/2015 นะครับ วันนี้แอบมาช้าไปหน่อยโทษทีครับ พอดีไปดูเพื่อนๆร้องเพลงที่จุฬางาน  Art Music Fest เลยกลับมาซะดึกเบย)

** นอกจากเรื่องรุ่นพี่ที่รักเรื่องนี้แล้ว ผมขอฝากทุกท่านเจียดเวลาไปอ่านเรื่องใหม่ของผมเรื่อง เพื่อนผมเป็นผู้วิเศษ กันหน่อยนะคัรบ ไปช่วยกันเจิมนิดนึง เรื่องใหม่จะออกแนวแฟนตาซีหน่อยๆ อาจจะไม่ได้ดราม่าเหมือนเรื่องนี้ ยังไงฝากทุกท่านไว้อีกเรื่องนะครับ ^^**
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2015 19:59:06 โดย akiraakka »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
อีหวานกะอีคาร์พร่วมมือกัน ตายๆๆๆ แบงค์กะท๊อปแย่แน่ๆๆๆ เฮ้อออออ

ออฟไลน์ ขนมถ้วยฟู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เพิ่งเริ่มตามเข้ามาอ่านค่ะ...ลุ้นต่อไปว่าจะเป็นยังไงต่อ อ๊าาาาาา  :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ everlastingly

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1
 :m16: ท๊อปกับแบงค์อาจเลิกลากันอย่างจริงจังได้เลย เมื่อเจอคาร์พกับหวานรวมพลังทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ลุ้นเอาใจช่วยท๊อปกับแบงค์

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
 :angry2: กรูเกลียดเมิง อีปลาคาร์พ อีปลาชโด (แรงส์)  :3125:

ออฟไลน์ akiraakka

  • Deus Deorum (God of Gods)
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
    • เพื่อน(?)ผมเป็นผู้วิเศษ ภาคแรก
บทที่ 20
ฮอร์โมน ชนวนระเบิด
                       
                                             
“อ้าปากดิ เดี๋ยวพี่ป้อนให้” ท็อปบอกเมื่อทั้งสองนั่งดูหนังอยู่ที่บ้านของแบงค์ด้วยกัน ในตอนเย็นวันพุธ ช่วงปลายสัปดาห์ตั้งแต่คืนนี้จนถึงวันเสาร์ แม่ไปสัมมนากับทีมงานธุรกิจของเขา จึงปล่อยให้แบงค์ดูแลความเรียบร้อยต่างๆในบ้านเอง พี่ท็อปเลยฉวยโอกาสนี้ทำแต้มกับแบงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อกันไม่ให้แบงค์เขวไปหวั่นไหวกับพี่กาย

“ไม่เอาแล้ว ไม่อยากกินแล้ว จะดูหนัง” แบงค์บอกปัดมือพี่ท็อปออกไป “พี่ท็อปอย่ากวนดิ เวลาดูหนังอะ นี่มันหนังอาร์ตนะพี่ ต้องใช้สมาธิ”

“โถ่ ก็มันน่าเบื่อนี่นา แบงค์ไม่หาหนังบู๊ๆ มันๆมาดูมั่งล่ะ มีแต่หนังอะไรก็ไม่รู้พี่ดูแล้วจะหลับ” ท็อปบอกแล้วยัดมันฝรั่งทอดกรอบเข้าปากตัวเองแทน

“พี่ก็ดูแต่หนังแบบนั้น ถึงได้รักความรุนแรง” แบงค์บอกดุ ๆ “ดูหนังแบบนี้ ได้ข้อคิดแถมยังจรรโลงจิตใจเราให้อ่อนโยนด้วยนะ”

ท็อปนิ่ง หันหน้ามามองแบงค์เอือมๆ ก่อนจะก้มลงดูนาฬิกาข้อมือของตนเอง “นี่มันจะ สี่ทุ่มแล้วนะ ไปนอนกันเหอะ”

“เดี๋ยวก่อนดิพี่ อีกครึ่งชั่วโมงก็น่าจะจบแล้ว” แบงค์บอก รีบแย้งเพราะเขามักจะดูหนังรวดเดียวจนจบ ไม่ดูแบบค้างๆคาๆ เพราะจะทำให้ไม่ปะติดปะต่อ

ท็อปขยำถุงขนมที่กินจนหมดแล้วปาไปใส่ลงถังขยะที่วางอยู่ใกล้ๆจอทีวีพอดี “สุดยอด ชู้ตแม่นชะมัดเลย” เขาร้องออกมา พยายามเรียกร้องความสนใจจากแบงค์ ส่วนแบงค์ก็หันหน้ามามองพี่ท็อปเบื่อ ๆ แล้วก็เขยิบตัวไปหยิบหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะที่แม่อ่านทิ้งไว้ใกล้ๆโซฟามายื่นให้พี่ท็อป

“เอ้า อ่านรอแบงค์ไปนะ ถ้าพี่เบื่อ” เขายื่นให้ พี่ท็อปก็รับไปแล้วรีบเอนตัวมาหนุนตักแบงค์ทันที ทำท่าจะเปิดอ่าน

“งั้นขอนอนอ่านตรงนี้นะ” พี่ท็อปบอก ส่งยิ้มทะเล้นที่เป็นเอกลักษณ์มาให้

“ไอ้ลิงพี่ท็อป” แบงค์พูด แล้วเอามือไปขยี้แก้มรุ่นพี่ด้วยความหมั่นเขี้ยว “เรียกร้องความสนใจอยู่ได้ ขอดูหนังก่อนอีกสักครึ่งชั่วโมง แป๊บเดียวเอง อดทนหน่อยนะ ลิงท็อป”

“เจ้าหมาน้อยต้องสนใจแต่ลิงท็อปคนเดียวดิ ระหว่างหนังในจอกับหนังสดๆของลิงท็อป ชอบอย่างไหนมากกว่ากันล่ะ” พี่ท็อปพูดหยอก

“ไอ้พี่ท็อป วันๆคิดจะพูดแค่เรื่องเดียวใช่ไหมเนี่ย” แบงค์โวยวาย เอามือตบหน้าผากรุ่นพี่เบาๆ

“โอ๊ย เจ็บนะ ทำแบบนี้เดี๋ยวหน้าผากพี่เหี่ยวหมด” ท็อปร้อง “เดี๋ยวพี่เอาคืนนะ ทำพี่เจ็บอะ”

“กลัวจังเลย แบงค์กลัวแล้ว” แบงค์พูดประชด แล้วท็อปก็ลุกขึ้นฟัดต้นคอแบงค์อย่างเอาเป็นเอาตายบนโซฟาที่นั่งดูหนังกันโดยที่แบงค์ไม่ทันตั้งตัว “เฮ้ย พี่ท็อป ไม่เอาแล้ว จักจี้ ยังดูหนังไม่จบเลย จะดูรู้เรื่องไหมเนี่ยเอาแต่แกล้งแบงค์”

“พี่อั้นมาตั้งอาทิตย์ก่อนแล้วนะ นะ ขึ้นห้องกันเหอะ” ท็อปอ้อนวอน หันมาจ้องหน้าแบงค์แทน

“พี่ท็อป” แบงค์เรียก ถอนหายใจออกมาดังๆ “พี่ท็อปรักแบงค์จริงๆหรือเปล่าเนี่ย ?”

“อ้าวทำไมถามงี้อะ ?” ท็อปถามอย่างงงๆ “ถ้าไม่รักพี่จะมาอยู่กับแบงค์แบบนี้ทำไมล่ะ ?”

“ความรักมันไม่เกี่ยวกับการได้ทำเรื่องอย่างว่าหรอกนะพี่ท็อป มันมีอะไรตั้งเยอะที่เราจะได้เรียนรู้กัน เรื่องพวกนั้นให้มันเป็นเรื่องขนมหวานมากกว่าจะเป็นอาหารจานหลักจะดีกว่าไหม แบงค์กลัวว่าพี่จะรักมันมากกว่าที่จะรักแบงค์จริงๆ” แบงค์บอก

ท็อปสะอึกกับประโยคที่แบงค์พูดออกมา จริงอยู่ที่เขารักแบงค์และก็จริงอีกเหมือนกันที่เขายิ่งอยู่ใกล้แบงค์เหมือนมีแรงดึงดูดให้เขาอยากใกล้ชิดรุ่นน้องคนนี้มากขึ้นๆเรื่อยๆตลอดเวลา เขาจึงค่อยๆผละออกจากรุ่นน้องแล้วกลับไปนั่งตามปกติ

“ขอโทษนะแบงค์ ที่ทำให้รู้สึกไม่ดี” ท็อปพูด

“ถ้าพี่อยากจะทำคะแนนกับแบงค์น่ะ ไม่ต้องมีอะไรกันสักอาทิตย์ได้ไหมล่ะ ? แบงค์อยากรู้ว่าพี่จะทนได้ไหม?” แบงค์พูด “ถ้าพี่รักแบงค์จริง ก็ต้องทนให้ได้”

ท็อปหันหน้ามามองแบงค์อีกครั้งแล้วก็ลุกเดินจะขึ้นไปบนห้อง

“อย่าโกรธแบงค์นะพี่ท็อป” แบงค์พูดไล่หลังไป

“อืม ไม่โกรธๆ พี่ง่วงละ ขอไปนอนเลยก็แล้วกัน” พี่ท็อปตอบแล้วจึงเดินปรี่ขึ้นห้องนอนไป อารมณ์พี่ท็อปเปลี่ยนไวแบบนี้แบงค์รับรู้ได้ทันทีว่าพี่ท็อปต้องงอนเขาอีกแน่ ๆ เมื่อเห็นท่าไม่ดีแบงค์จึงรีบปิดทีวี แล้วปิดไฟห้องนั่งเล่นจากนั้นจึงรีบตามขึ้นไปที่ห้อง เห็นพี่ท็อปนอนเอามือก่ายหน้าผากหลับตาอยู่บนเตียง

แบงค์จึงค่อยๆล้มตัวลงนอนกอดพี่ท็อปข้างๆ “อย่าโกรธแบงค์นะพี่ท็อป” เขาพูดเบาๆ ท็อปหรี่ตาหันมาดูรุ่นน้องที่กอดเขาอยู่ เขาจึงกอดตอบ แนบกายของตนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น

“พี่เข้าใจที่แบงค์พูดหมดแหละ ไม่โกรธหรอก” ท็อปบอก “นอนกอดแบบนี้ก็ได้ อบอุ่นดี แอร์เย็นๆ ได้บรรยากาศด้วย”

“ขอบคุณที่เข้าใจนะ” แบงค์เขยิบกายขึ้นไปจุบริมฝีปากพี่ท็อปเบาๆ “ฝันดีนะครับพี่ท็อป กอดแบงค์แบบนี้ไปนานๆนะ”

“ได้ดิ จะกอดไว้ไม่ปล่อยเลยทั้งคืน” พี่ท็อปบอกส่งยิ้มให้ เขาเอื้อมมือไปปิดไฟ แล้วจึงผล็อยหลับตามรุ่นน้องไปด้วยกัน

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:


เช้าวันต่อมาฝนตกแต่เช้า ทำให้แบงค์ต้องรีบกุลีกุจอหาเสื้อกันฝนที่เก็บไว้ในห้องเก็บของให้ตัวเขาและพี่ท็อป การสอบกลางภาคกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้าและการมาถึงของฝนฟ้าคะนองก็เป็นสัญญาณว่าพวกเขาต้องรีบไปให้ถึงโรงเรียนให้เร็วที่สุดก่อนที่ฝนระลอกใหม่จะตกลงมาทำให้ไปลำบากมากกว่าเดิม

“พี่ท็อปสวมฮู้ดกันฝนก่อนแล้วค่อยสวมหมวกกันน็อกนะ” แบงค์แนะนำในขณะที่ทั้งคู่กำลังจัดแจงชุดเสื้อกันฝนให้กันและกัน

“แบบนี้หมวกพี่ก็เปียกเอาน่ะสิ ต้องเอาฮู้ดสวมทับหลังใส่หมวกกันน็อกจะดีหรือเปล่า?” พี่ท็อปถาม

“แบบนั้นถ้าลมเกิดพัดเปิดเสื้อพี่ขึ้นมาก็จะเปียกลงเสื้อนักเรียนเอานะ ทำแบบแบงค์บอกนั่นแหละดีแล้ว” แบงค์แนะนำ แล้วจับพี่ท็อปใส่ฮู้ดก่อนแล้วสวมหมวกกันน็อกทับ

“ดูมันมองไม่ค่อยถนัดเลย” ท็อปบ่น “ฝนนี่ก็ดันมาตกอะไรก็ไม่รู้เอาตอนนี้”

“พี่ท็อป มันก็ตกตามหน้าของมัน ดีแล้วล่ะ จะได้หายร้อนมั่ง” แบงค์บอก จัดแจงชุดของตัวเองจนเรียบร้อย “ไปกันเถอะ”

“เดี๋ยวๆ” ท็อปห้ามแบงค์ไว้ ก่อนที่แบงค์จะเดินออกจากชายคาบ้าน “ขอหอมก่อนไปเรียนหน่อยดิ”

“อะไรของพี่ท็อปเนี่ย ไม่เอา ไปเร็วๆ” แบงค์บอกปัดๆ แต่พี่ท็อปก็ดึงแบงค์ไปกอด

“ขอหอมหน่อยน้า ขอหอมหน่อย” พี่ท็อปอ้อนเป็นเด็กๆ

“แป๊บนึง” แบงค์หันหน้ามามองพี่ท็อป ขำกับพฤติกรรมงอแงของรุ่นพี่แบบนี้ แล้วจึงดึงเอาหมวกกันน็อกของรุ่นพี่ออก “หมวกมันเกะกะ เอ้า อยากหอมก็เชิญ” เขาบอกก่อนจะยื่นหน้าให้พี่ท็อปหอมเสียฟอดใหญ่

“พลังใจเติมเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์  แล้ว ซูเปอร์ท็อป พร้อมออกปฏิบัติการ” พี่ท็อปพูด พลางทำท่าอวดกล้าม จนแบงค์หัวเราะออกมา

“ทำเป็นเด็กป. 4 ไปได้ ไปกันเหอะพี่ เดี๋ยวถ้าเกิดมันตกหนักกว่านี้ เราจะลำบากเอานะ” แบงค์บอก แล้วทั้งสองคนจึงรีบออกจากบ้าน ค่อยๆขับมอเตอร์ไซค์บึ่งไปที่โรงเรียน

วันนี้โรงเรียนเต็มไปด้วยร่มและชุดกันฝน เพราะจนกระทั่งถึงเวลาสายแล้วฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มันตกเรื่อยๆตลอดวันเป็นสัญญาณว่า ฤดูฝนได้เข้ามาเต็มตัวแล้วหลังจากที่ปล่อยให้ร้อนกันอยู่นาน

 “พี่ท็อป ยังไงเดี๋ยวตอนเย็น ส่งข้อความมาบอกแบงค์หน่อยก็ได้นะ ว่าพี่อยู่ไหน จะได้กลับบ้านด้วยกัน” แบงค์บอก เมื่อทั้งคู่มาถึงโรงจอดรถมอเตอร์ไซค์ของโรงเรียน เด็กนักเรียนคนอื่นๆก็ทยอยกันขับรถเข้ามาจอด

“ได้เลย เดี๋ยวพี่ส่งข้อความไปหา โทษทีที่ส่งไลน์ไปหาไม่ได้ ยังไม่ได้ซื้อโทรศัพท์ใหม่เลย ใช้แต่ซัมซุงฮีโร่เนี่ยแก้ขัดไปก่อน” พี่ท็อปบอก ล็อกคอรถของตัวเอง

“พ่อพี่ท็อปรู้ไหมเนี่ยว่าพี่ท็อปมานอนกับแบงค์ ?” แบงค์ถาม

“ก็คงรู้มั้ง พี่แค่บอกว่าไปนอนบ้านเพื่อน แต่พ่อพี่ไม่สนใจหรอก อย่าคิดมากเลย คืนนี้ก็จะไปนอนอีก แต่เดี๋ยวพี่กะว่าตอนเย็นจะไปเอาเสื้อที่คอนโดก่อนแล้วเดี๋ยวมานอนด้วยนะ” พี่ท็อปบอก ยิ้มให้อย่างร่าเริง

“วันนี้พี่มีเรียนพละยังไงก็อย่าเดินตากฝนนะพี่ ตอนเดินไปเรียนที่โรงยิม ไม่อยากให้พี่เป็นหวัด” แบงค์บอก

“เป็นห่วงพี่เหรอ ?” ท็อปแซว ยักคิ้วหลิ่วตาให้

“ก็ไม่เชิง ถ้าพี่เป็นหวัดแล้วมานอนกับแบงค์อีก ก็ติดหวัดกันแย่น่ะสิ ไม่เอาด้วยหรอก” แบงค์บอก “งั้นเดี๋ยวเย็นๆเจอกันนะพี่ท็อป ไปก่อนละ”

ทั้งคู่จึงแยกจากกัน หัวใจของท็อปนั้นพองโตมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน ในที่สุดแบงค์ก็ได้กลับมาอยู่กับเขาเหมือนเดิมโดยที่ไม่มีกายมาเดินอยู่รอบๆ ยิ่งไปกว่านั้นผลจากการที่แบงค์ถูกทิ้งให้อยู่กับกายเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้แบงค์เริ่มแสดงความรักตอบกลับท็อปมากขึ้นกว่าเดิม เขาสังเกตว่าแบงค์โหยหาตัวเขามากเช่นเดียวกัน แม้ว่าท็อปจะอยากใกล้ชิดน้องมากกว่านี้ แต่เมื่ออีกฝ่ายอยากให้เขาอดกลั้นเอาไว้ เขาก็ตั้งใจที่จะทำตาม เพราะอาทิตย์นี้คืออาทิตย์เดิมพันระหว่างเขาและคู่ปรับ ทั้งด้านกีฬาและหัวใจ

“แหม วันนี้ยิ้มทั้งวันเลยนะมึง” ปลาคาร์พทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนนั่งเหม่อยิ้มอยู่คนเดียว ในคาบเรียนวิชาศิลปะ

“อ้าว คนเราก็ต้องมีอารมณ์ดีกันบ้างดิวะ” ท็อปบอกขณะที่เอาสีน้ำทาๆแผ่นกระดาษร้อยปอนด์ของเขาเป็นรูปทะเล “อีกอย่างนี่มันวิชาศิลปะ ถ้ากูอารมณ์ไม่ดี กูจะลงสีให้สวยได้ไง”

“เออ ไอ้คนอารมณ์ดีในวันฝนตก มึงนี่ท่าจะเพี้ยน” คาร์พแซว แล้วใช้พู่กันทาสีส้มขึ้นมาเขาตั้งใจจะวาดภาพวิวพระอาทิตย์อัสดงโดยใช้แบบที่เป็นรูปพักหน้าจอในโทรศัพท์มือถือ “เมื่อคืนพ่อมึงโทรมาหากู” เขาเสริม

“มาถามว่ากูไปนอนกับมึงรึเปล่างั้นดิ ?” ท็อปถามกลับโดยที่ไม่ละสายตาไปจากรูปของตน

“อืม...แต่กูก็บอกไปนะว่า มึงไม่ได้มานอนด้วย มึงไปนอนกับเพื่อนคนอื่น” คาร์พพูด

“ทำไมเขาไม่โทรหากูเองวะ โทรหามึงทำไม ?” ท็อปบ่นพึมพำ

“เขาก็กลัวลูกชายบังเกิดเกล้าโมโหละมั้ง มึงหัดคุยกับพ่อมึงดีๆมั่งเหอะ สงสารแก แกก็อายุเยอะแล้ว มัวแต่มานั่งคอยตามเช็คเรื่องมึงเหมือนเป็นเด็กประถมก็ไม่ไหวนะเว้ย” ปลาคาร์พเตือนเพื่อน “อย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อ สนใจแต่ไอ้แบงค์น่ะมึงน่ะ เห็นเมียดีกว่าพ่อตลอด”

“พูดมากนะมึง กูจะทำไรก็เรื่องของกูเหอะ” ท็อปบอกอย่างหงุดหงิด “ทีงี้มาทำเป็นห่วง พ่อน่ะ ก่อนหน้านี้ทำอะไรไปมั่งไม่เคยคิด”

“มึงก็สนใจแต่เรื่องในอดีต เรื่องของผู้ใหญ่มึงอย่าไปแคร์เลย สนแค่วันนี้พรุ่งนี้ก็พอแล้ว” คาร์พบอก

ท็อปไม่ตอบ แต่ทำเป็นเพิกเฉยกับสิ่งที่ปลาคาร์พบอก คาร์พมองหน้าเพื่อนที่กำลังจดจ่ออยู่กับการลงสี ในใจครุ่นคิดว่าจะจัดการให้เรื่องทุกอย่างมันจบลงอย่างไรดี ถ้าจะกำจัดแบงค์ออกไปให้พ้นทางก็มีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น



เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ฝนเปลี่ยนฤดูกำลังตกอยู่อย่างเคยทั้งวัน ทำให้อากาศอับชื้นและเหนอะหนะ แถมทั่วทั้งโรงเรียนยังมีน้ำขังตามที่ต่างๆ เด็กที่ไม่ได้พกร่มหรือเสื้อกันฝนมาต่างก็วิ่งฝ่ากันไปเพื่อที่จะกลับบ้าน ท็อปตั้งใจจะนั่งรอแบงค์อยู่ที่ใต้อาคารห้าที่มีห้าหินอ่อนที่เอาไว้นั่งเล่น จึงบอกคาร์พที่กำลังเดินมาด้วยกันกับเขาว่าเขาจะแยกกับคาร์พตรงนี้

“เออ เดี๋ยวมึงกลับบ้านเลยก็ได้นะ กูรอแบงค์กลับบ้านด้วยกัน” ท็อปบอกคาร์พ ที่ยืนเตรียมจะกางร่มอยู่ข้างๆ

“เดี๋ยวนี้มึงไม่ไปช่วยพ่อมึงตรวจงานมั่งเหรอวะ เขาจะได้กลับบ้านไวๆมั่งถ้ามึงไปช่วยน่ะ” คาร์พถามแย้งขึ้นมา “รีบกลับตลอด ไม่รู้พวกมึงสองคนจะรีบกลับไปทำอะไรกันวะ?”

“หลังๆมึงทำไม สอนกูจังเลยวะ เป็นอะไรมากปะเนี่ย ตั้งแต่หลังคืนที่กูเมา กูสังเกตว่ามึงชอบแขวะกูจังเลย” ท็อปพูดเป็นนัยยะ เขาไม่ชอบให้เพื่อนสนิทของเขาพูดจาเหมือนกำลังดุเขาตลอดเวลาเช่นนี้

ปลาคาร์พหลบสายตา รู้สึกระแวงว่าท็อปจะรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปในคืนนั้น “กู...ก็แค่ห่วงมึงนั่นแหละ เออ ช่างมึงละกัน อยากทำอะไรก็ทำ เดี๋ยวกูไปหาแม่ก่อน ว่าจะรอกลับพร้อมกัน”

“งั้นแยกกันตรงนี้นะ เดี๋ยวกูเลาะไปทางใต้ตึก จะได้ไม่เปียก” ท็อปบอกแล้วโบกมือลาเพื่อน แยกทางกันไป

ท็อปเดินหลบเม็ดฝนที่โปรยปรายบ้าง กระเซ็นบ้างจากบนอาคารลงมาสู่พื้นเบื้องล่าง เขาเดินไปตามแนวระเบียงของอาคาร เพื่อที่จะไปยังเป้าหมายของเขา แต่ทว่าทันใดนั้น เขาเห็นหวานกำลังวิ่งฝ่าฝนมาทางเขา เสื้อเปียกไปทั่ว ด้วยอารามที่เธอกำลังวิ่งฝ่าฝนมา พื้นที่ทั้งลื่นและเปียก ทำให้หวานเสียหลักลื่นล้มลงก้นจ้ำเบ้าไปเต็มเปาที่แอ่งน้ำเปียกๆข้างๆ ทำเอากางเกงวอร์มพละของเธอเปียกไปทั่วพอๆกับเสื้อที่เปียกชุ่ม

“โอ๊ย เจ็บ” หวานร้องออกมา เมื่อเธอพยายามขยับตัว ท็อปจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อน

“หวาน เป็นอะไรหรือเปล่า?” เขาถาม รีบยื่นมาไปให้เพื่อนคว้าไว้ดึงตัวเองลุกขึ้น

“อ้าว ท็อปเหรอ?” หวานถาม เงยหน้าขึ้นมามอง “เปียกหมดเลยอะ”

“ใครใช้ให้วิ่งตรงทางเดินลื่นๆตรงนี้ล่ะเนี่ย ฝนก็ตกอยู่นะ วิ่งแบบนี้เดี๋ยวก็ได้หัวแตกกันพอดี” ท็อปบอกพยายามพยุงตัวหวานขึ้นมา เขามองเห็นเสื้อในที่เธอสวมใส่อยู่เพราะตอนนี้เสื้อของเธอเปียกจนสามารถมองทะลุได้

“เรารู้สึกเหมือนจะขาแพลงเข้าแล้วสิ ช่วยพยุงเราไปห้องพยาบาลให้หน่อยได้ไหม ?” หวานร้องขอ ท็อปจึงพยักหน้าแล้วรีบพาเพื่อนค่อยๆเดินไปจนถึงบริเวณหน้าห้องพยาบาล

“อาจารย์ไม่อยู่ว่ะ หวาน น่าจะกลับไปแล้วล่ะมั้ง?” ท็อปบอกชะโงกหน้ามองเข้าไปในห้องกระจกที่คุ้นเคยนี้

“เรามีกุญแจ” หวานบอกแล้วหยิบกุญแจขึ้นมาจากในกระเป๋ากางเกงตัวเอง

“เฮ้ย เธอมีได้ไงเนี่ย ?” ท็อปหันหน้ามาถาม รู้สึกตกใจ

“เราเป็นประธานนักเรียนนะท็อป พวกห้องฉุกเฉินหลักๆอย่างห้องพยาบาลเนี่ย อาจารย์อนุญาตให้เราช่วยถือไว้ เผื่อมีเหตุอะไรฉุกเฉินตอนอาจารย์ไม่อยู่” หวานบอก “เราอยากได้ยานวด กับเดี๋ยวจะตากเสื้อไว้สักแป๊บนึง ในห้องนี้เหมือนจะมีชุดคนไข้ไว้เปลี่ยน เผื่อเราจะยืมไปใส่กลับบ้านก่อน”

“อ๋อ ได้” ท็อปรับปาก มืออีกข้างก็พยุงตัวเพื่อนไว้ ส่วนมือที่เหลือก็ยัดลูกกุญแจเข้าไปแล้วไขเปิดจนออก

เขาเปิดไฟในห้องไว้ แล้วค่อยๆพยุงหวานไปนั่งที่เตียงช้า ๆ หวานก็ร้องเบาๆ ด้วยความเจ็บ ดูเหมือนว่าเธอจะขาแพลงพอสมควรเหมือนกัน

“เราจำได้อยู่นะว่ายานวดกับผ้าพันแผลน่าจะอยู่ในตู้” ท็อปบอกข้อมูลก่อนที่จะเดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ แต่หวานกลับคว้าแขนเขาเอาไว้

“ท็อป เดี๋ยว” หวานเรียก ท็อปจึงหันหน้ามามองเพื่อนอย่างสงสัย “เราอยากให้ท็อปช่วยเราอีกเรื่องได้ไหม ?”

“เรื่องอะไรของหวาน ทายาที่ขาก่อนนี่ไง จะได้หายปวด เดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้จะแย่เอานะ” ท็อปบอก กำลังจะเดินไปอีกรอบแต่หวานก็ยื้อเอาไว้

“ท็อป เราอยากให้ท็อปช่วยให้เรา มีความสุข มากกว่านี้ได้ไหม?” หวานบอก แล้วจับมือของท็อปไปสัมผัสที่ทรวงอกของเธอ
ท็อปรู้สึกตกใจกับสิ่งที่หวานทำ แต่กว่าจะตอบสนองตอบกลับไป หวานก็คว้าแขนอีกข้างหนึ่งของท็อปมาจับหน้าอกของเธอทั้งสองข้างพร้อมๆกัน

“เราต้องการท็อป ต้องการมาตลอด ท็อปจะช่วยเราได้ไหม?” หวานพูดเสียงกระเส่า

ท็อปกลืนน้ำลาย แน่อยู่ว่าตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ปลดปล่อยความต้องการของตนเองออกมาเลย เพราะตั้งใจว่าจะได้มาอยู่กับแบงค์ และได้มีเวลาร่วมกัน แต่แบงค์กลับปฏิเสธที่จะยอมตอบสนองเขาอย่างเคยโดยอ้างเรื่องของเกมส์พนันของท็อปและพี่กาย

หวานปลดเสื้อออกเผยให้เห็นผิวละเอียดสีขาวของเธอ และเสื้อยกทรงชั้นในสีชมพูอ่อน ๆ “หวาน อย่าทำแบบนี้ดีกว่า เราว่าใครมาเห็นจะไม่เหมาะเอานะ”

“ไม่มีใครมาเห็นหรอกน่าท็อป เรื่องนี้จะมีคนรู้ก็แค่เราสองคน อีกอย่าง ห้องนี้มองจากข้างนอกไม่เห็นหรอก ฟิล์มทึบจะตาย เย็นๆแบบนี้ใครๆก็รู้ว่าห้องพยาบาลปิด ไม่มีใครผ่านมาหรอก...” หวานบอกแล้วโอบรอบคอของท็อปเอาไว้

ท็อปค่อยๆสูดกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆและกลิ่นกายของสาวแรกรุ่น จนรู้สึกถึงความฟุ้งซ่านและอารมณ์เด็กหนุ่มที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายใต้เข็มขัดของเขา หวานงับหูท็อปเบาๆ ก่อนจะกระซิบเป็นเชิงไว้ที “เราได้ยินมาว่าท็อปเก่งเรื่องอย่างว่ามาจากแฟนคนเก่าของท็อป เราอยากจะลองสัมผัสสักครั้ง ถือว่าช่วยเพื่อนอย่างเราเถอะนะ”

“หวานแน่ใจนะ” ท็อปถาม เริ่มคล้อยตามไปกับคำเชิญของเพื่อนสาว เขายังรู้สึกมึนงงเหมือนมีมนต์สะกดให้เขาต้องทำตามสิ่งที่หวานต้องการ “เราบอกไว้ก่อนว่า ถ้ามีอะไรกับเราแล้ว หวานจะมาทำตัวเป็นเจ้าของเราไม่ได้นะ รักกับเซ็กส์ มันแยกกัน”

หวานพยักหน้า “ได้สิ แค่เราตอบสนองกันและกันก็พอแล้ว” แล้วหวานก็ระดมไซร้ที่ซอกคอของท็อป
ท็อปค่อยๆปลดตะขอเสื้อในของหวานออก แล้วเริ่มรุกกลับเพื่อนตอบบ้างแล้ว มือทั้งสองของเขากำลังขยุ้มที่ปทุมถันของหวานจนเจ้าตัวต้องร้องออกมาเบาๆอย่างพึงพอใจ “ช่วยจัดการตรงนี้ให้เราด้วยได้ไหม เราอยากมีอะไรกับท็อปมานานแล้ว เรารอคอยเวลานี้มาตลอด ช่วยเราด้วยนะ” หวานบอกก่อนจะค่อยๆ ถอดกางเกงวอร์มของตนเองออกจนเหลือแต่กางเกงในลูกไม้สีชมพูบางเบาจนมองเห็นสิ่งที่เธอซ่อนอยู่ภายใต้ชั้นในนี้

ท็อปหายใจหายคอไม่ทั่วท้อง ฮอร์โมนของเขากำลังสั่งให้เขาทำอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง “หวานพกถุงยางอนามัยมาไหม ?”

“เรื่องถุงยางไม่ต้องไปสนหรอก” หวานบอกแล้วรีบดึงท็อปขึ้นมากอด เธอพยายามจะให้ท็อปซุกไซร้ที่หน้าอกของเธอแทน “ตรงนี้แหละที่เราชอบ”

ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเริ่มบรรเลงกามกิจในห้องพยาบาล ประตูห้องพยาบาลก็เปิดผางออกอย่างแรง จนทั้งสองคนสะดุ้งแล้วรีบผละออกจากกันทันที หวานรีบคว้าเอาเสื้อในและเสื้อพละที่ถอดวางไว้ข้างๆเตียงขึ้นมาปกปิดหน้าอก ส่วนท็อปก็ได้แต่ตกใจเมื่อเห็นว่ามีคนเปิดเข้ามาในห้องพยาบาลพอดี

“อะไรของพี่ท็อป ส่งข้อความเรียกแบงค์ให้มาดูพวกพี่สองคนกำลังมีอะไรกันเนี่ยนะ” แบงค์ตะโกนใส่อย่างหมดความอดทน

“ไม่ใช่นะแบงค์” ท็อปรีบปฏิเสธ เขายอมรับว่าเขาลืมตัวไปจริงๆกับสิ่งที่ทำอยู่เมื่อสักครู่ “พี่แค่พยายามจะพันแผลให้หวาน”

“ท็อป ทำไมท็อปถึงพูดแบบนี้ เมื่อกี้ท็อปยังถามหาถุงยางอยู่เลยนะ” หวานพูดแทรกขึ้นมา ไม่อยากให้ตัวเองเป็นคนผิดอยู่ฝ่ายเดียว

“ชัดเจนที่สุด” แบงค์ตัดบท “ที่พี่ท็อปต้องการก็มีแค่นี้จริงๆ ทั้งๆที่แบงค์คิดมาตลอดว่าพี่ทำทุกอย่างให้แบงค์เพราะความรักแท้ๆ สำหรับพี่ท็อปมันคงไม่มีจริงหรอกไอ้ความรักบ้าบอ” แบงค์บอกตาแดงก่ำ เขากำลังโกรธสุดขีด “เชิญครับ ต่อกันเลย ผมขอกลับบ้านก่อน” แล้วก็รีบปิดประตูห้องพยาบาลเสียงดัง

“เฮ้ย แบงค์ ฟังพี่ก่อน” ท็อปร้องเรียก รีบวิ่งออกจากห้องพยาบาลตามแบงค์ออกไป

จบตอนที่ 20 : (วันนี้มาไว)

~~~~ DRAMA IS GOING ON ~~~~ เอาแล้วไง !!! เจอกับภาพบาดตากันไปเต็มๆเลย !!!
ขอคอมเมนต์สัก 10 คอมเมนต์ครับ ว่าถ้าคุณเป็นแบงค์ จะทำยังไงต่อไปดี?


1) สมมติว่าย้อนกลับไป ทำเป็นว่าไม่เห็นสิ่งทีเ่กิดขึ้นแล้วก็เดินจากไปเงียบๆ
2) เข้าไปโวยวาย ตบตี ต่อยเตะ พี่ท็อปให้หายแค้น
3) จะรออยู่ทำไม ก็ไปร่วมด้วยซะสิ Threesome กันไปเลย โอกาสไม่ได้หาได้ง่ายๆนะ


ตอนต่อไป มาวันศุกร์เหมือนเดิมครับ

** นอกจากนี้ เพื่อนผมเป็นผู้วิเศษเพิ่มตอนใหม่แล้วนะครับ เชิญไปอ่านได้ตามสบายเลยครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-03-2015 20:28:32 โดย akiraakka »

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เลือกข้อ2  อาละวาดให้ดังไปเลย. ถ่ายคลิปไปแฉด้วยว่าทั้งคู่ทำไรกันประจานไปเลย. แล้วไม่สนใจท๊อปอีกเลย
ว่าแต่ใครส่งข้อความไปหาแบงค์อะ อีพี่คาร์พแอบเอาโทรศัพท์พี่ท๊อปไปพิมแน่เลย. มันร้ายมากทั้งอีน้ำหวานกะอีพี่คาร์พ.
พี่ท๊อปท่าจะเคลียร์ยากแล้วละ. เฮ้อออออ สงสารแบงค์

ออฟไลน์ ขนมถ้วยฟู

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 6
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :ling1: :ling1:
ทำไมพี่ท็อปทำแบบนี้ล่ะ  :ling1: :ling1: :ling1: ใจร้ายมากกกกกกก
ถ้าเราเป็ฯแบงค์ เราคงไม่ยอมเหมือนกันค่ะ ไปตบไอ้พี่ท้อปก่อนเลย

แต่หนนี้พี่ท็อปคงแก้ตัวยากแล้วละมั้งคะ ลงมือเองซะด้วย
เดาตอนต่อไปไม่ออกเลย...จะไปต่อกันยังไง
รออ่านอยู่ค่ะ  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
ก้อไม่รู้สินะ  :hao4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด