บทที่ 20
ฮอร์โมน ชนวนระเบิด “อ้าปากดิ เดี๋ยวพี่ป้อนให้” ท็อปบอกเมื่อทั้งสองนั่งดูหนังอยู่ที่บ้านของแบงค์ด้วยกัน ในตอนเย็นวันพุธ ช่วงปลายสัปดาห์ตั้งแต่คืนนี้จนถึงวันเสาร์ แม่ไปสัมมนากับทีมงานธุรกิจของเขา จึงปล่อยให้แบงค์ดูแลความเรียบร้อยต่างๆในบ้านเอง พี่ท็อปเลยฉวยโอกาสนี้ทำแต้มกับแบงค์อย่างต่อเนื่อง เพื่อกันไม่ให้แบงค์เขวไปหวั่นไหวกับพี่กาย
“ไม่เอาแล้ว ไม่อยากกินแล้ว จะดูหนัง” แบงค์บอกปัดมือพี่ท็อปออกไป “พี่ท็อปอย่ากวนดิ เวลาดูหนังอะ นี่มันหนังอาร์ตนะพี่ ต้องใช้สมาธิ”
“โถ่ ก็มันน่าเบื่อนี่นา แบงค์ไม่หาหนังบู๊ๆ มันๆมาดูมั่งล่ะ มีแต่หนังอะไรก็ไม่รู้พี่ดูแล้วจะหลับ” ท็อปบอกแล้วยัดมันฝรั่งทอดกรอบเข้าปากตัวเองแทน
“พี่ก็ดูแต่หนังแบบนั้น ถึงได้รักความรุนแรง” แบงค์บอกดุ ๆ “ดูหนังแบบนี้ ได้ข้อคิดแถมยังจรรโลงจิตใจเราให้อ่อนโยนด้วยนะ”
ท็อปนิ่ง หันหน้ามามองแบงค์เอือมๆ ก่อนจะก้มลงดูนาฬิกาข้อมือของตนเอง “นี่มันจะ สี่ทุ่มแล้วนะ ไปนอนกันเหอะ”
“เดี๋ยวก่อนดิพี่ อีกครึ่งชั่วโมงก็น่าจะจบแล้ว” แบงค์บอก รีบแย้งเพราะเขามักจะดูหนังรวดเดียวจนจบ ไม่ดูแบบค้างๆคาๆ เพราะจะทำให้ไม่ปะติดปะต่อ
ท็อปขยำถุงขนมที่กินจนหมดแล้วปาไปใส่ลงถังขยะที่วางอยู่ใกล้ๆจอทีวีพอดี “สุดยอด ชู้ตแม่นชะมัดเลย” เขาร้องออกมา พยายามเรียกร้องความสนใจจากแบงค์ ส่วนแบงค์ก็หันหน้ามามองพี่ท็อปเบื่อ ๆ แล้วก็เขยิบตัวไปหยิบหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะที่แม่อ่านทิ้งไว้ใกล้ๆโซฟามายื่นให้พี่ท็อป
“เอ้า อ่านรอแบงค์ไปนะ ถ้าพี่เบื่อ” เขายื่นให้ พี่ท็อปก็รับไปแล้วรีบเอนตัวมาหนุนตักแบงค์ทันที ทำท่าจะเปิดอ่าน
“งั้นขอนอนอ่านตรงนี้นะ” พี่ท็อปบอก ส่งยิ้มทะเล้นที่เป็นเอกลักษณ์มาให้
“ไอ้ลิงพี่ท็อป” แบงค์พูด แล้วเอามือไปขยี้แก้มรุ่นพี่ด้วยความหมั่นเขี้ยว “เรียกร้องความสนใจอยู่ได้ ขอดูหนังก่อนอีกสักครึ่งชั่วโมง แป๊บเดียวเอง อดทนหน่อยนะ ลิงท็อป”
“เจ้าหมาน้อยต้องสนใจแต่ลิงท็อปคนเดียวดิ ระหว่างหนังในจอกับหนังสดๆของลิงท็อป ชอบอย่างไหนมากกว่ากันล่ะ” พี่ท็อปพูดหยอก
“ไอ้พี่ท็อป วันๆคิดจะพูดแค่เรื่องเดียวใช่ไหมเนี่ย” แบงค์โวยวาย เอามือตบหน้าผากรุ่นพี่เบาๆ
“โอ๊ย เจ็บนะ ทำแบบนี้เดี๋ยวหน้าผากพี่เหี่ยวหมด” ท็อปร้อง “เดี๋ยวพี่เอาคืนนะ ทำพี่เจ็บอะ”
“กลัวจังเลย แบงค์กลัวแล้ว” แบงค์พูดประชด แล้วท็อปก็ลุกขึ้นฟัดต้นคอแบงค์อย่างเอาเป็นเอาตายบนโซฟาที่นั่งดูหนังกันโดยที่แบงค์ไม่ทันตั้งตัว “เฮ้ย พี่ท็อป ไม่เอาแล้ว จักจี้ ยังดูหนังไม่จบเลย จะดูรู้เรื่องไหมเนี่ยเอาแต่แกล้งแบงค์”
“พี่อั้นมาตั้งอาทิตย์ก่อนแล้วนะ นะ ขึ้นห้องกันเหอะ” ท็อปอ้อนวอน หันมาจ้องหน้าแบงค์แทน
“พี่ท็อป” แบงค์เรียก ถอนหายใจออกมาดังๆ “พี่ท็อปรักแบงค์จริงๆหรือเปล่าเนี่ย ?”
“อ้าวทำไมถามงี้อะ ?” ท็อปถามอย่างงงๆ “ถ้าไม่รักพี่จะมาอยู่กับแบงค์แบบนี้ทำไมล่ะ ?”
“ความรักมันไม่เกี่ยวกับการได้ทำเรื่องอย่างว่าหรอกนะพี่ท็อป มันมีอะไรตั้งเยอะที่เราจะได้เรียนรู้กัน เรื่องพวกนั้นให้มันเป็นเรื่องขนมหวานมากกว่าจะเป็นอาหารจานหลักจะดีกว่าไหม แบงค์กลัวว่าพี่จะรักมันมากกว่าที่จะรักแบงค์จริงๆ” แบงค์บอก
ท็อปสะอึกกับประโยคที่แบงค์พูดออกมา จริงอยู่ที่เขารักแบงค์และก็จริงอีกเหมือนกันที่เขายิ่งอยู่ใกล้แบงค์เหมือนมีแรงดึงดูดให้เขาอยากใกล้ชิดรุ่นน้องคนนี้มากขึ้นๆเรื่อยๆตลอดเวลา เขาจึงค่อยๆผละออกจากรุ่นน้องแล้วกลับไปนั่งตามปกติ
“ขอโทษนะแบงค์ ที่ทำให้รู้สึกไม่ดี” ท็อปพูด
“ถ้าพี่อยากจะทำคะแนนกับแบงค์น่ะ ไม่ต้องมีอะไรกันสักอาทิตย์ได้ไหมล่ะ ? แบงค์อยากรู้ว่าพี่จะทนได้ไหม?” แบงค์พูด “ถ้าพี่รักแบงค์จริง ก็ต้องทนให้ได้”
ท็อปหันหน้ามามองแบงค์อีกครั้งแล้วก็ลุกเดินจะขึ้นไปบนห้อง
“อย่าโกรธแบงค์นะพี่ท็อป” แบงค์พูดไล่หลังไป
“อืม ไม่โกรธๆ พี่ง่วงละ ขอไปนอนเลยก็แล้วกัน” พี่ท็อปตอบแล้วจึงเดินปรี่ขึ้นห้องนอนไป อารมณ์พี่ท็อปเปลี่ยนไวแบบนี้แบงค์รับรู้ได้ทันทีว่าพี่ท็อปต้องงอนเขาอีกแน่ ๆ เมื่อเห็นท่าไม่ดีแบงค์จึงรีบปิดทีวี แล้วปิดไฟห้องนั่งเล่นจากนั้นจึงรีบตามขึ้นไปที่ห้อง เห็นพี่ท็อปนอนเอามือก่ายหน้าผากหลับตาอยู่บนเตียง
แบงค์จึงค่อยๆล้มตัวลงนอนกอดพี่ท็อปข้างๆ “อย่าโกรธแบงค์นะพี่ท็อป” เขาพูดเบาๆ ท็อปหรี่ตาหันมาดูรุ่นน้องที่กอดเขาอยู่ เขาจึงกอดตอบ แนบกายของตนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
“พี่เข้าใจที่แบงค์พูดหมดแหละ ไม่โกรธหรอก” ท็อปบอก “นอนกอดแบบนี้ก็ได้ อบอุ่นดี แอร์เย็นๆ ได้บรรยากาศด้วย”
“ขอบคุณที่เข้าใจนะ” แบงค์เขยิบกายขึ้นไปจุบริมฝีปากพี่ท็อปเบาๆ “ฝันดีนะครับพี่ท็อป กอดแบงค์แบบนี้ไปนานๆนะ”
“ได้ดิ จะกอดไว้ไม่ปล่อยเลยทั้งคืน” พี่ท็อปบอกส่งยิ้มให้ เขาเอื้อมมือไปปิดไฟ แล้วจึงผล็อยหลับตามรุ่นน้องไปด้วยกัน
เช้าวันต่อมาฝนตกแต่เช้า ทำให้แบงค์ต้องรีบกุลีกุจอหาเสื้อกันฝนที่เก็บไว้ในห้องเก็บของให้ตัวเขาและพี่ท็อป การสอบกลางภาคกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในไม่ช้าและการมาถึงของฝนฟ้าคะนองก็เป็นสัญญาณว่าพวกเขาต้องรีบไปให้ถึงโรงเรียนให้เร็วที่สุดก่อนที่ฝนระลอกใหม่จะตกลงมาทำให้ไปลำบากมากกว่าเดิม
“พี่ท็อปสวมฮู้ดกันฝนก่อนแล้วค่อยสวมหมวกกันน็อกนะ” แบงค์แนะนำในขณะที่ทั้งคู่กำลังจัดแจงชุดเสื้อกันฝนให้กันและกัน
“แบบนี้หมวกพี่ก็เปียกเอาน่ะสิ ต้องเอาฮู้ดสวมทับหลังใส่หมวกกันน็อกจะดีหรือเปล่า?” พี่ท็อปถาม
“แบบนั้นถ้าลมเกิดพัดเปิดเสื้อพี่ขึ้นมาก็จะเปียกลงเสื้อนักเรียนเอานะ ทำแบบแบงค์บอกนั่นแหละดีแล้ว” แบงค์แนะนำ แล้วจับพี่ท็อปใส่ฮู้ดก่อนแล้วสวมหมวกกันน็อกทับ
“ดูมันมองไม่ค่อยถนัดเลย” ท็อปบ่น “ฝนนี่ก็ดันมาตกอะไรก็ไม่รู้เอาตอนนี้”
“พี่ท็อป มันก็ตกตามหน้าของมัน ดีแล้วล่ะ จะได้หายร้อนมั่ง” แบงค์บอก จัดแจงชุดของตัวเองจนเรียบร้อย “ไปกันเถอะ”
“เดี๋ยวๆ” ท็อปห้ามแบงค์ไว้ ก่อนที่แบงค์จะเดินออกจากชายคาบ้าน “ขอหอมก่อนไปเรียนหน่อยดิ”
“อะไรของพี่ท็อปเนี่ย ไม่เอา ไปเร็วๆ” แบงค์บอกปัดๆ แต่พี่ท็อปก็ดึงแบงค์ไปกอด
“ขอหอมหน่อยน้า ขอหอมหน่อย” พี่ท็อปอ้อนเป็นเด็กๆ
“แป๊บนึง” แบงค์หันหน้ามามองพี่ท็อป ขำกับพฤติกรรมงอแงของรุ่นพี่แบบนี้ แล้วจึงดึงเอาหมวกกันน็อกของรุ่นพี่ออก “หมวกมันเกะกะ เอ้า อยากหอมก็เชิญ” เขาบอกก่อนจะยื่นหน้าให้พี่ท็อปหอมเสียฟอดใหญ่
“พลังใจเติมเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แล้ว ซูเปอร์ท็อป พร้อมออกปฏิบัติการ” พี่ท็อปพูด พลางทำท่าอวดกล้าม จนแบงค์หัวเราะออกมา
“ทำเป็นเด็กป. 4 ไปได้ ไปกันเหอะพี่ เดี๋ยวถ้าเกิดมันตกหนักกว่านี้ เราจะลำบากเอานะ” แบงค์บอก แล้วทั้งสองคนจึงรีบออกจากบ้าน ค่อยๆขับมอเตอร์ไซค์บึ่งไปที่โรงเรียน
วันนี้โรงเรียนเต็มไปด้วยร่มและชุดกันฝน เพราะจนกระทั่งถึงเวลาสายแล้วฝนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มันตกเรื่อยๆตลอดวันเป็นสัญญาณว่า ฤดูฝนได้เข้ามาเต็มตัวแล้วหลังจากที่ปล่อยให้ร้อนกันอยู่นาน
“พี่ท็อป ยังไงเดี๋ยวตอนเย็น ส่งข้อความมาบอกแบงค์หน่อยก็ได้นะ ว่าพี่อยู่ไหน จะได้กลับบ้านด้วยกัน” แบงค์บอก เมื่อทั้งคู่มาถึงโรงจอดรถมอเตอร์ไซค์ของโรงเรียน เด็กนักเรียนคนอื่นๆก็ทยอยกันขับรถเข้ามาจอด
“ได้เลย เดี๋ยวพี่ส่งข้อความไปหา โทษทีที่ส่งไลน์ไปหาไม่ได้ ยังไม่ได้ซื้อโทรศัพท์ใหม่เลย ใช้แต่ซัมซุงฮีโร่เนี่ยแก้ขัดไปก่อน” พี่ท็อปบอก ล็อกคอรถของตัวเอง
“พ่อพี่ท็อปรู้ไหมเนี่ยว่าพี่ท็อปมานอนกับแบงค์ ?” แบงค์ถาม
“ก็คงรู้มั้ง พี่แค่บอกว่าไปนอนบ้านเพื่อน แต่พ่อพี่ไม่สนใจหรอก อย่าคิดมากเลย คืนนี้ก็จะไปนอนอีก แต่เดี๋ยวพี่กะว่าตอนเย็นจะไปเอาเสื้อที่คอนโดก่อนแล้วเดี๋ยวมานอนด้วยนะ” พี่ท็อปบอก ยิ้มให้อย่างร่าเริง
“วันนี้พี่มีเรียนพละยังไงก็อย่าเดินตากฝนนะพี่ ตอนเดินไปเรียนที่โรงยิม ไม่อยากให้พี่เป็นหวัด” แบงค์บอก
“เป็นห่วงพี่เหรอ ?” ท็อปแซว ยักคิ้วหลิ่วตาให้
“ก็ไม่เชิง ถ้าพี่เป็นหวัดแล้วมานอนกับแบงค์อีก ก็ติดหวัดกันแย่น่ะสิ ไม่เอาด้วยหรอก” แบงค์บอก “งั้นเดี๋ยวเย็นๆเจอกันนะพี่ท็อป ไปก่อนละ”
ทั้งคู่จึงแยกจากกัน หัวใจของท็อปนั้นพองโตมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อน ในที่สุดแบงค์ก็ได้กลับมาอยู่กับเขาเหมือนเดิมโดยที่ไม่มีกายมาเดินอยู่รอบๆ ยิ่งไปกว่านั้นผลจากการที่แบงค์ถูกทิ้งให้อยู่กับกายเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้แบงค์เริ่มแสดงความรักตอบกลับท็อปมากขึ้นกว่าเดิม เขาสังเกตว่าแบงค์โหยหาตัวเขามากเช่นเดียวกัน แม้ว่าท็อปจะอยากใกล้ชิดน้องมากกว่านี้ แต่เมื่ออีกฝ่ายอยากให้เขาอดกลั้นเอาไว้ เขาก็ตั้งใจที่จะทำตาม เพราะอาทิตย์นี้คืออาทิตย์เดิมพันระหว่างเขาและคู่ปรับ ทั้งด้านกีฬาและหัวใจ
“แหม วันนี้ยิ้มทั้งวันเลยนะมึง” ปลาคาร์พทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนนั่งเหม่อยิ้มอยู่คนเดียว ในคาบเรียนวิชาศิลปะ
“อ้าว คนเราก็ต้องมีอารมณ์ดีกันบ้างดิวะ” ท็อปบอกขณะที่เอาสีน้ำทาๆแผ่นกระดาษร้อยปอนด์ของเขาเป็นรูปทะเล “อีกอย่างนี่มันวิชาศิลปะ ถ้ากูอารมณ์ไม่ดี กูจะลงสีให้สวยได้ไง”
“เออ ไอ้คนอารมณ์ดีในวันฝนตก มึงนี่ท่าจะเพี้ยน” คาร์พแซว แล้วใช้พู่กันทาสีส้มขึ้นมาเขาตั้งใจจะวาดภาพวิวพระอาทิตย์อัสดงโดยใช้แบบที่เป็นรูปพักหน้าจอในโทรศัพท์มือถือ “เมื่อคืนพ่อมึงโทรมาหากู” เขาเสริม
“มาถามว่ากูไปนอนกับมึงรึเปล่างั้นดิ ?” ท็อปถามกลับโดยที่ไม่ละสายตาไปจากรูปของตน
“อืม...แต่กูก็บอกไปนะว่า มึงไม่ได้มานอนด้วย มึงไปนอนกับเพื่อนคนอื่น” คาร์พพูด
“ทำไมเขาไม่โทรหากูเองวะ โทรหามึงทำไม ?” ท็อปบ่นพึมพำ
“เขาก็กลัวลูกชายบังเกิดเกล้าโมโหละมั้ง มึงหัดคุยกับพ่อมึงดีๆมั่งเหอะ สงสารแก แกก็อายุเยอะแล้ว มัวแต่มานั่งคอยตามเช็คเรื่องมึงเหมือนเป็นเด็กประถมก็ไม่ไหวนะเว้ย” ปลาคาร์พเตือนเพื่อน “อย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อ สนใจแต่ไอ้แบงค์น่ะมึงน่ะ เห็นเมียดีกว่าพ่อตลอด”
“พูดมากนะมึง กูจะทำไรก็เรื่องของกูเหอะ” ท็อปบอกอย่างหงุดหงิด “ทีงี้มาทำเป็นห่วง พ่อน่ะ ก่อนหน้านี้ทำอะไรไปมั่งไม่เคยคิด”
“มึงก็สนใจแต่เรื่องในอดีต เรื่องของผู้ใหญ่มึงอย่าไปแคร์เลย สนแค่วันนี้พรุ่งนี้ก็พอแล้ว” คาร์พบอก
ท็อปไม่ตอบ แต่ทำเป็นเพิกเฉยกับสิ่งที่ปลาคาร์พบอก คาร์พมองหน้าเพื่อนที่กำลังจดจ่ออยู่กับการลงสี ในใจครุ่นคิดว่าจะจัดการให้เรื่องทุกอย่างมันจบลงอย่างไรดี ถ้าจะกำจัดแบงค์ออกไปให้พ้นทางก็มีเพียงวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน ฝนเปลี่ยนฤดูกำลังตกอยู่อย่างเคยทั้งวัน ทำให้อากาศอับชื้นและเหนอะหนะ แถมทั่วทั้งโรงเรียนยังมีน้ำขังตามที่ต่างๆ เด็กที่ไม่ได้พกร่มหรือเสื้อกันฝนมาต่างก็วิ่งฝ่ากันไปเพื่อที่จะกลับบ้าน ท็อปตั้งใจจะนั่งรอแบงค์อยู่ที่ใต้อาคารห้าที่มีห้าหินอ่อนที่เอาไว้นั่งเล่น จึงบอกคาร์พที่กำลังเดินมาด้วยกันกับเขาว่าเขาจะแยกกับคาร์พตรงนี้
“เออ เดี๋ยวมึงกลับบ้านเลยก็ได้นะ กูรอแบงค์กลับบ้านด้วยกัน” ท็อปบอกคาร์พ ที่ยืนเตรียมจะกางร่มอยู่ข้างๆ
“เดี๋ยวนี้มึงไม่ไปช่วยพ่อมึงตรวจงานมั่งเหรอวะ เขาจะได้กลับบ้านไวๆมั่งถ้ามึงไปช่วยน่ะ” คาร์พถามแย้งขึ้นมา “รีบกลับตลอด ไม่รู้พวกมึงสองคนจะรีบกลับไปทำอะไรกันวะ?”
“หลังๆมึงทำไม สอนกูจังเลยวะ เป็นอะไรมากปะเนี่ย
ตั้งแต่หลังคืนที่กูเมา กูสังเกตว่ามึงชอบแขวะกูจังเลย” ท็อปพูดเป็นนัยยะ เขาไม่ชอบให้เพื่อนสนิทของเขาพูดจาเหมือนกำลังดุเขาตลอดเวลาเช่นนี้
ปลาคาร์พหลบสายตา รู้สึกระแวงว่าท็อปจะรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปในคืนนั้น “กู...ก็แค่ห่วงมึงนั่นแหละ เออ ช่างมึงละกัน อยากทำอะไรก็ทำ เดี๋ยวกูไปหาแม่ก่อน ว่าจะรอกลับพร้อมกัน”
“งั้นแยกกันตรงนี้นะ เดี๋ยวกูเลาะไปทางใต้ตึก จะได้ไม่เปียก” ท็อปบอกแล้วโบกมือลาเพื่อน แยกทางกันไป
ท็อปเดินหลบเม็ดฝนที่โปรยปรายบ้าง กระเซ็นบ้างจากบนอาคารลงมาสู่พื้นเบื้องล่าง เขาเดินไปตามแนวระเบียงของอาคาร เพื่อที่จะไปยังเป้าหมายของเขา แต่ทว่าทันใดนั้น เขาเห็นหวานกำลังวิ่งฝ่าฝนมาทางเขา เสื้อเปียกไปทั่ว ด้วยอารามที่เธอกำลังวิ่งฝ่าฝนมา พื้นที่ทั้งลื่นและเปียก ทำให้หวานเสียหลักลื่นล้มลงก้นจ้ำเบ้าไปเต็มเปาที่แอ่งน้ำเปียกๆข้างๆ ทำเอากางเกงวอร์มพละของเธอเปียกไปทั่วพอๆกับเสื้อที่เปียกชุ่ม
“โอ๊ย เจ็บ” หวานร้องออกมา เมื่อเธอพยายามขยับตัว ท็อปจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อน
“หวาน เป็นอะไรหรือเปล่า?” เขาถาม รีบยื่นมาไปให้เพื่อนคว้าไว้ดึงตัวเองลุกขึ้น
“อ้าว ท็อปเหรอ?” หวานถาม เงยหน้าขึ้นมามอง “เปียกหมดเลยอะ”
“ใครใช้ให้วิ่งตรงทางเดินลื่นๆตรงนี้ล่ะเนี่ย ฝนก็ตกอยู่นะ วิ่งแบบนี้เดี๋ยวก็ได้หัวแตกกันพอดี” ท็อปบอกพยายามพยุงตัวหวานขึ้นมา เขามองเห็นเสื้อในที่เธอสวมใส่อยู่เพราะตอนนี้เสื้อของเธอเปียกจนสามารถมองทะลุได้
“เรารู้สึกเหมือนจะขาแพลงเข้าแล้วสิ ช่วยพยุงเราไปห้องพยาบาลให้หน่อยได้ไหม ?” หวานร้องขอ ท็อปจึงพยักหน้าแล้วรีบพาเพื่อนค่อยๆเดินไปจนถึงบริเวณหน้าห้องพยาบาล
“อาจารย์ไม่อยู่ว่ะ หวาน น่าจะกลับไปแล้วล่ะมั้ง?” ท็อปบอกชะโงกหน้ามองเข้าไปในห้องกระจกที่คุ้นเคยนี้
“เรามีกุญแจ” หวานบอกแล้วหยิบกุญแจขึ้นมาจากในกระเป๋ากางเกงตัวเอง
“เฮ้ย เธอมีได้ไงเนี่ย ?” ท็อปหันหน้ามาถาม รู้สึกตกใจ
“เราเป็นประธานนักเรียนนะท็อป พวกห้องฉุกเฉินหลักๆอย่างห้องพยาบาลเนี่ย อาจารย์อนุญาตให้เราช่วยถือไว้ เผื่อมีเหตุอะไรฉุกเฉินตอนอาจารย์ไม่อยู่” หวานบอก “เราอยากได้ยานวด กับเดี๋ยวจะตากเสื้อไว้สักแป๊บนึง ในห้องนี้เหมือนจะมีชุดคนไข้ไว้เปลี่ยน เผื่อเราจะยืมไปใส่กลับบ้านก่อน”
“อ๋อ ได้” ท็อปรับปาก มืออีกข้างก็พยุงตัวเพื่อนไว้ ส่วนมือที่เหลือก็ยัดลูกกุญแจเข้าไปแล้วไขเปิดจนออก
เขาเปิดไฟในห้องไว้ แล้วค่อยๆพยุงหวานไปนั่งที่เตียงช้า ๆ หวานก็ร้องเบาๆ ด้วยความเจ็บ ดูเหมือนว่าเธอจะขาแพลงพอสมควรเหมือนกัน
“เราจำได้อยู่นะว่ายานวดกับผ้าพันแผลน่าจะอยู่ในตู้” ท็อปบอกข้อมูลก่อนที่จะเดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ แต่หวานกลับคว้าแขนเขาเอาไว้
“ท็อป เดี๋ยว” หวานเรียก ท็อปจึงหันหน้ามามองเพื่อนอย่างสงสัย “เราอยากให้ท็อปช่วยเราอีกเรื่องได้ไหม ?”
“เรื่องอะไรของหวาน ทายาที่ขาก่อนนี่ไง จะได้หายปวด เดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้จะแย่เอานะ” ท็อปบอก กำลังจะเดินไปอีกรอบแต่หวานก็ยื้อเอาไว้
“ท็อป เราอยากให้ท็อปช่วยให้เรา มีความสุข มากกว่านี้ได้ไหม?” หวานบอก แล้วจับมือของท็อปไปสัมผัสที่ทรวงอกของเธอ
ท็อปรู้สึกตกใจกับสิ่งที่หวานทำ แต่กว่าจะตอบสนองตอบกลับไป หวานก็คว้าแขนอีกข้างหนึ่งของท็อปมาจับหน้าอกของเธอทั้งสองข้างพร้อมๆกัน
“เราต้องการท็อป ต้องการมาตลอด ท็อปจะช่วยเราได้ไหม?” หวานพูดเสียงกระเส่า
ท็อปกลืนน้ำลาย แน่อยู่ว่าตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาไม่ได้ปลดปล่อยความต้องการของตนเองออกมาเลย เพราะตั้งใจว่าจะได้มาอยู่กับแบงค์ และได้มีเวลาร่วมกัน แต่แบงค์กลับปฏิเสธที่จะยอมตอบสนองเขาอย่างเคยโดยอ้างเรื่องของเกมส์พนันของท็อปและพี่กาย
หวานปลดเสื้อออกเผยให้เห็นผิวละเอียดสีขาวของเธอ และเสื้อยกทรงชั้นในสีชมพูอ่อน ๆ “หวาน อย่าทำแบบนี้ดีกว่า เราว่าใครมาเห็นจะไม่เหมาะเอานะ”
“ไม่มีใครมาเห็นหรอกน่าท็อป เรื่องนี้จะมีคนรู้ก็แค่เราสองคน อีกอย่าง ห้องนี้มองจากข้างนอกไม่เห็นหรอก ฟิล์มทึบจะตาย เย็นๆแบบนี้ใครๆก็รู้ว่าห้องพยาบาลปิด ไม่มีใครผ่านมาหรอก...” หวานบอกแล้วโอบรอบคอของท็อปเอาไว้
ท็อปค่อยๆสูดกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆและกลิ่นกายของสาวแรกรุ่น จนรู้สึกถึงความฟุ้งซ่านและอารมณ์เด็กหนุ่มที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายใต้เข็มขัดของเขา หวานงับหูท็อปเบาๆ ก่อนจะกระซิบเป็นเชิงไว้ที “เราได้ยินมาว่าท็อปเก่งเรื่องอย่างว่ามาจากแฟนคนเก่าของท็อป เราอยากจะลองสัมผัสสักครั้ง ถือว่าช่วยเพื่อนอย่างเราเถอะนะ”
“หวานแน่ใจนะ” ท็อปถาม เริ่มคล้อยตามไปกับคำเชิญของเพื่อนสาว เขายังรู้สึกมึนงงเหมือนมีมนต์สะกดให้เขาต้องทำตามสิ่งที่หวานต้องการ “เราบอกไว้ก่อนว่า ถ้ามีอะไรกับเราแล้ว หวานจะมาทำตัวเป็นเจ้าของเราไม่ได้นะ
รักกับเซ็กส์ มันแยกกัน”
หวานพยักหน้า “ได้สิ แค่เราตอบสนองกันและกันก็พอแล้ว” แล้วหวานก็ระดมไซร้ที่ซอกคอของท็อป
ท็อปค่อยๆปลดตะขอเสื้อในของหวานออก แล้วเริ่มรุกกลับเพื่อนตอบบ้างแล้ว มือทั้งสองของเขากำลังขยุ้มที่ปทุมถันของหวานจนเจ้าตัวต้องร้องออกมาเบาๆอย่างพึงพอใจ “ช่วยจัดการตรงนี้ให้เราด้วยได้ไหม เราอยากมีอะไรกับท็อปมานานแล้ว เรารอคอยเวลานี้มาตลอด ช่วยเราด้วยนะ” หวานบอกก่อนจะค่อยๆ ถอดกางเกงวอร์มของตนเองออกจนเหลือแต่กางเกงในลูกไม้สีชมพูบางเบาจนมองเห็นสิ่งที่เธอซ่อนอยู่ภายใต้ชั้นในนี้
ท็อปหายใจหายคอไม่ทั่วท้อง ฮอร์โมนของเขากำลังสั่งให้เขาทำอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง “หวานพกถุงยางอนามัยมาไหม ?”
“เรื่องถุงยางไม่ต้องไปสนหรอก” หวานบอกแล้วรีบดึงท็อปขึ้นมากอด เธอพยายามจะให้ท็อปซุกไซร้ที่หน้าอกของเธอแทน “ตรงนี้แหละที่เราชอบ”
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังเริ่มบรรเลงกามกิจในห้องพยาบาล ประตูห้องพยาบาลก็เปิดผางออกอย่างแรง จนทั้งสองคนสะดุ้งแล้วรีบผละออกจากกันทันที หวานรีบคว้าเอาเสื้อในและเสื้อพละที่ถอดวางไว้ข้างๆเตียงขึ้นมาปกปิดหน้าอก ส่วนท็อปก็ได้แต่ตกใจเมื่อเห็นว่ามีคนเปิดเข้ามาในห้องพยาบาลพอดี
“อะไรของพี่ท็อป ส่งข้อความเรียกแบงค์ให้มาดูพวกพี่สองคนกำลังมีอะไรกันเนี่ยนะ” แบงค์ตะโกนใส่อย่างหมดความอดทน
“ไม่ใช่นะแบงค์” ท็อปรีบปฏิเสธ เขายอมรับว่าเขาลืมตัวไปจริงๆกับสิ่งที่ทำอยู่เมื่อสักครู่ “พี่แค่พยายามจะพันแผลให้หวาน”
“ท็อป ทำไมท็อปถึงพูดแบบนี้ เมื่อกี้ท็อปยังถามหาถุงยางอยู่เลยนะ” หวานพูดแทรกขึ้นมา ไม่อยากให้ตัวเองเป็นคนผิดอยู่ฝ่ายเดียว
“ชัดเจนที่สุด” แบงค์ตัดบท “ที่พี่ท็อปต้องการก็มีแค่นี้จริงๆ ทั้งๆที่แบงค์คิดมาตลอดว่าพี่ทำทุกอย่างให้แบงค์เพราะความรักแท้ๆ สำหรับพี่ท็อปมันคงไม่มีจริงหรอกไอ้ความรักบ้าบอ” แบงค์บอกตาแดงก่ำ เขากำลังโกรธสุดขีด “เชิญครับ ต่อกันเลย ผมขอกลับบ้านก่อน” แล้วก็รีบปิดประตูห้องพยาบาลเสียงดัง
“เฮ้ย แบงค์ ฟังพี่ก่อน” ท็อปร้องเรียก รีบวิ่งออกจากห้องพยาบาลตามแบงค์ออกไป
จบตอนที่ 20 : (วันนี้มาไว) ~~~~ DRAMA IS GOING ON ~~~~ เอาแล้วไง !!! เจอกับภาพบาดตากันไปเต็มๆเลย !!!
ขอคอมเมนต์สัก 10 คอมเมนต์ครับ ว่าถ้าคุณเป็นแบงค์ จะทำยังไงต่อไปดี?
1) สมมติว่าย้อนกลับไป ทำเป็นว่าไม่เห็นสิ่งทีเ่กิดขึ้นแล้วก็เดินจากไปเงียบๆ
2) เข้าไปโวยวาย ตบตี ต่อยเตะ พี่ท็อปให้หายแค้น
3) จะรออยู่ทำไม ก็ไปร่วมด้วยซะสิ Threesome กันไปเลย โอกาสไม่ได้หาได้ง่ายๆนะตอนต่อไป มาวันศุกร์เหมือนเดิมครับ** นอกจากนี้ เพื่อนผมเป็นผู้วิเศษเพิ่มตอนใหม่แล้วนะครับ เชิญไปอ่านได้ตามสบายเลยครับ