กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 15/11/59 [สเปฯ-3] P.132
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 15/11/59 [สเปฯ-3] P.132  (อ่าน 1474149 ครั้ง)

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1530 เมื่อ17-07-2015 21:27:43 »

 :sad4: ทำไมยังไม่มาาาา

ออฟไลน์ โซดาหวาน

  • ชอบเกาหลี , คลั่ง วาย ~ , ♥ รักประเทศไทย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1531 เมื่อ17-07-2015 23:23:52 »

แวะมาบอกว่า.....คิดถึงงงงงแล้ววววน๊าาาา :m11:

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1532 เมื่อ17-07-2015 23:27:27 »

คืนนี้ก็ไม่มาสินะเอสแคปปป รอออออต่อไปปป :ling1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-07-2015 23:32:00 โดย New_Tai »

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1533 เมื่อ18-07-2015 06:51:27 »

เมื่อไหร่จะมาอ่ะะะะ   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ Erh

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1534 เมื่อ18-07-2015 20:43:42 »

เข้ามายืนรอเอสแคปตาปริบๆค่ะ  :mew2:

ออฟไลน์ eium

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1535 เมื่อ18-07-2015 20:55:22 »

10วันแล้วน้าาาาา :sad4:

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1536 เมื่อ18-07-2015 22:04:44 »

 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1537 เมื่อ18-07-2015 22:06:23 »

 :sad11: เฝ้ารอต่อไป

ออฟไลน์ nutty2554

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 199
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1538 เมื่อ19-07-2015 15:52:48 »

ยังไม่ได้คอมเม้นตอนล่าสุด...แต่อยากบอกว่าคิดถึงแคปมาก

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1539 เมื่อ19-07-2015 16:25:13 »

 :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
« ตอบ #1539 เมื่อ: 19-07-2015 16:25:13 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1540 เมื่อ19-07-2015 18:41:47 »

 :call: จงมา จงมา จงมา

ออฟไลน์ โซดาหวาน

  • ชอบเกาหลี , คลั่ง วาย ~ , ♥ รักประเทศไทย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +102/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1541 เมื่อ19-07-2015 20:00:03 »

คิดถึง คิดถึงงงงงงงง :ling1:

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1542 เมื่อ20-07-2015 08:35:12 »

เมื่อไหร่เอสแคปจะมาาาา :katai1:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1543 เมื่อ20-07-2015 08:42:48 »

อยากอ่านจุงเบย อยากอ่านจุงเบย

ออฟไลน์ sodawan1

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 363
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1544 เมื่อ20-07-2015 11:13:18 »

รออออออออ :z3:

ออฟไลน์ Nummon

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1545 เมื่อ20-07-2015 17:04:03 »

คิดถึงเอสกับแคปแล้วววววว :mew2:
อยากกินกาแฟ ฮี่ๆ
 :katai1: :z3: :z13: :katai4:

ออฟไลน์ Teaw_HC+MJ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 46
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1546 เมื่อ20-07-2015 19:49:41 »

รออยู่นะคะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

สนุกมากกก ฮือออออ

ออฟไลน์ Spelling_B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1547 เมื่อ20-07-2015 21:17:33 »

รออยู่นะคะ :ling1:

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 08/07/58 [....XXI....]
«ตอบ #1548 เมื่อ20-07-2015 21:53:48 »

รอๆๆๆ คืนนี้จะมาไหมอ่ะะะ :katai5:

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1549 เมื่อ20-07-2015 22:03:11 »


https://www.youtube.com/v/O0RuKBFfD4w



[XXII]





หลังจากนั้นหนึ่งเดือน...

ปลายฝนต้นหนาวยังคงเป็นเช้าที่อากาศสดใสเช่นเคย ไม้ประดับสีเขียวที่แขวนอยู่ริมระเบียงโยกไหวไปด้วยกระแสลมเอื่อยๆ หยดน้ำค้างใสกริ๊กบนผิวใบพลูด่างสะท้อนแสงจนแสบตาเมื่อยามเช้ามาเยือน

“นึกอะไรของมึงวะ ลุกมาออกกำลังกายแต่เช้าอีกแล้ว..” ปอเดินงัวเงียหาวหวอดออกมาจากห้อง เห็นเพื่อนตัวเองตั้งอกตั้งใจซิทอัพอยูที่พื้นหน้าทีวี ขณะที่แคปเหลือบมองนิดๆแต่ไม่ได้สนใจจะตอบ เขายกตัวอัพขึ้นหนึ่งร้อยครั้งพอดี จากนั้นพลิกตัวกลับเปลี่ยนท่าเป็นวิดพื้น

“ไหนลองใช้มือข้างเดียวด้วยซิ..” ปอนั่งยอง ๆ ลงมาเชียร์มองแคปยิ้ม ๆ

“ยุ่ง ไอ้หมาปอมึงไปไกล ๆ เลยไป จิ๊!”

“นึกยังไงของมึงวะ ร้อยวันพันปีจริงๆ” ปอลุกขึ้นเดินบ่นอุบอิบเข้าครัวไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำผลไม้แบบกล่องแช่เย็นออกมาเทใส่แก้วแล้วดื่ม หันไปมองที่แคปอีกหน คราวนี้มันเปลี่ยนท่าเป็นใช้สองขาวางยึดอยู่บนโซฟาแล้ววิดกับพื้นด้านล่าง ยกระดับความยากขึ้นไปอีก

“ใช้นิ้วเดียวสิวะไอ้แคป แน่จริงมึงใช้แค่นิ้วเดียว เร็วๆ”ปอแกล้งเร่ง

“ไอ้สัสปออย่ามาพูดมากกูยิ่งเหนื่อย เอามาเผื่อกูด้วยเร็วเข้า..” แคปร้องด่าก่อนสั่งให้ปอเทมาให้ตัวเองด้วยหนึ่งแก้ว เขาสองคนชอบดื่มน้ำผลไม้เย็น ๆ หลังจากตื่นนอนทำให้ร่างกายสดชื่น

“นี่กูถามจริง มึงนึกยังไงเกิดฟิตอะไรขึ้นมาวะเนี่ย..” ปอเลือกหยิบน้ำผลไม้แบบกล่องโยนส่งไปให้แทนแบบแก้ว แคปที่เสร็จจากการวิดพื้นครบสามสิบครั้งกึ่งนั่งกึ่งนอนเลื้อยอยู่บนพื้นหอบแฮ่กๆด้วยความเหนื่อย

“วันนี้กูต้องฟิตเว้ย เดี๋ยวจะต้องใช้พลังเยอะ ต้องออกกำลังกายให้ชินเอาไว้ก่อน..”แคปตอบออกมาด้วยสีหน้าเรียบ ๆ แต่ในใจนี่นึกหวั่นๆ ความจริงเขาเตรียมใจมาหนึ่งเดือนแล้วมันก็ใช่ แต่อย่างว่าพอถึงวันนี้ขึ้นมาจริง ๆ ยิ่งตื่นเต้นหนัก อย่าคิดว่าเขาจะผิดสัญญาลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น ถึงไม่อยากจะทำแต่เมื่อได้เอ่ยปากออกไปแล้วมีแต่จะต้องทำให้ดีที่สุด

เลยต้องมานั่งฟิตอยู่แบบนี้ไง

“มึงจะไปไหนวะ มีเรื่องกับใครป่ะเนี่ย..” ปอที่ได้ยินแคปตอบออกมาแค่นั้นยิ่งทำหน้าสงสัย รู้ว่าแคปมันบอกออกมาไม่หมดแน่ ๆ เขายิ่งอยากรู้ กำลังว่าจะเปิดการ์ตูนเช้าดูแล้วแต่กลับนึกบางอย่างขึ้นมาได้  จะว่าไปสองสามวันมานี่แคปมันหงุดหงิดง่าย ทำหน้าตาเหมือนคนคิดมากพอถามก็บอกว่าไม่มีอะไร ชอบตื่นมาออกกำลังกายเป็นประจำ

“ทำหน้าอะไรของมึงไอ้หมาปอ มาออกกับกูด้วยมา ดูการ์ตูนไปด้วยแข่งกันซิทอัพไปด้วยเอาป่ะวะ มึงดูนี่นมกูตั้งเต้าฟิตเลยนะเว้ย..” แคปยักคิ้วชี้ให้ปอดูหน้าอกมัดเล็กๆของตัวเอง ปอเหล่ตามองไอคนที่ทำหน้าตาภูมิอกภูมิใจกับหน้าอกหน้าท้องของมันมาก

“โนๆ กูโหนขอบหน้าต่างมาแล้วตะกี้..” เขาหมายถึงตอนตื่นนอนเขาจะโหนบาร์หน้าต่างเป็นประจำ เพราะงั้นกล้ามเนื้อไม่มีเละไม่มีย้วยแน่ ๆ เห็นแบบนี้พวกเขาดูแลตัวเองกันดีพอสมควร แต่นึกสงสัยที่แคปมันทำท่าทางเอาจริงเอาจังเสียจนน่ากลัว

“อะไรในห้อง มึงอ่ะเหรอ” แคปเปลี่ยนมาวิดพื้นแบบใหม่ ตะแคงข้าง เขาชอบเล่นท่ายากๆมันก็รู้สึกแปลกใหม่และท้าทายดี ปอมองแล้วส่ายหัวในความเกรียนของเพื่อนตัวเอง

“มึงดูหน้าท้องกูดิ สวยเหี้ยๆเลย” แคปบอกอีกยิ้ม ๆ ปอมองตามแล้วส่ายหัวอีกรอบ

“เดี๋ยวมึงเข้าไปเก็บหมอนเก็บผ้าห่มออกจากเตียงกูด้วยนะ เดี๋ยวเกิดไอ้เอสกลับมากูขี้เกียจอธิบาย”

“อธิบายเหี้ยไร” แคปทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ไม่เข้าใจสิ่งที่ปอกำลังสื่อความหมาย ปอจึงชี้นิ้วใส่   “เหอะ ถ้าแฟนมึงหึงเหมือนชาวบ้านชาวช่องกูก็พอจะทำใจรับได้นะ แต่นี่มึงก็รู้ใช่ไหมแฟนมึง ถ้าเห็นว่าเมื่อคืนเราสองคนใช้เตียงเดียวกันมันจะเตะกูติดฝาแน่ ๆ”

“นี่มึงอย่าเน้นนักได้ป่ะวะ อะไรก็แฟนๆๆๆกูไม่อยากได้ยินคำนี้เลยให้ตายเหอะ”

“อ้าวก็มันจริง”

“ถึงมันจริงกูก็ไม่อยากได้ยินอยู่ดี แล้วที่สำคัญกูจะไม่ไปเก็บด้วยหมอนผ้าห่มในห้องมึงอ่ะ..” แคปเชิดหน้าบอกไม่ ปอหันขวับมามอง

“ทำไมวะ”

“เดี๋ยวมันมาถึงกูจะให้มันเข้าไปเก็บออกมาให้กูไง”

“ไอ้หมาบ้าแคป มึงอยากให้กูโดนตีนมันเรอะ..” ปอหันซ้ายหันขวาขึ้นมาทันที นึกหวั่นใจแบบสุดๆ ไม่ใช่อะไรนะ เมื่อคืนเอสมันถูกตามตัวกลับบ้านเห็นว่าเช้านี้จะมีประชุมใหญ่เรื่องสำคัญ เพราะงั้นก่อนจะออกไปมันเลยฝากฝังเขาเอาไว้ดิบดีว่าให้ไปส่ง ไปรอและไปรับแฟนมันที่สถานีดีเจอะไรนั่น กำชับทุกอย่างว่าให้พากลับห้องมาให้เรียบร้อยถ้าไม่รับปากเจ้านายในอนาคตอย่างมันจะพิจารณาเรื่องเลขาใหม่อีกครั้ง เขาก็รีบรับปากเลยสิ แต่ถึงมันไม่บอกก็คงต้องหาเรื่องออกไปส่งอยู่แล้ว เจ้าแคปมันเลิกงานตีหนึ่งกว่า ๆ ก่อนถึงห้องก็แวะกินก๋วยเตี๋ยวข้างทางด้วยกัน พอขึ้นมาอาบน้ำอาบท่ากันเสร็จแคปมันหอบหมอนหอบผ้าห่มเข้ามายึดเตียงเขาแล้วหลับปุ๋ยไปเลย

“มึงอย่าบ้าเลยไอ้แคป เข้าไปเก็บหมอนผ้าห่มมึงออกมาให้เรียบร้อย ไม่อย่างนั้นกูจะไปลากออกมาโยนทิ้งเอง”

“ม่ายยยยอ่ะ กูขี้เกียจ เดี๋ยวรอมันมากูจะให้มันเข้าไปเก็บให้” แคปยังคงยืนยันคำเดิมลากเสียงบอกไม่  เขาไม่ได้ดูหน้าเพื่อนตัวเองเล๊ยว่าปอมันหน้ามู่ทู่แค่ไหน  หลังออกกำลังกายเสร็จแล้วลุกเข้ามาเบียดตัวนั่งลงข้างปอ อีกคนขยับแทบไม่ทัน  ตัวแคปมีแต่เหงื่อ

“หาเรื่องใส่หัวกูจริง ๆ นะมึง เดี๋ยวคอยดูมันจะอาละวาดใส่กูแน่ๆเหอะ” ปอบ่นอุบ แคปไม่สนใจคว้าหมอนเข้ามากอดไว้ที่ตักจากนั้นกดเปลี่ยนช่อง วันนี้ไม่อยากดูการ์ตูนแล้ว สนใจข่าวมากกว่า

“แล้วนัดกับมันกี่โมงอ่ะ”

“ไม่รู้กูลืมไปแล้ว”

“อะไรของมึงวะแคป” ปอหันมาทำหน้าเหวอใส่ แคปส่ายหัวบอกลืมจริง

“มึงนี่มันแย่เลย กูส่งสารไอ้เอสฉิบหายเลยว่ะ ได้มึงเป็นแฟนซวยสุดของมันแล้ว”

“ไอ้สัสปอ มึงต้องสงสารกูสิจะไปสงสารมึงทำไมห๊ะ!”

“สงสารมึงเรื่องอะไร มีไรน่าสงสารวะ กูว่ามึงมันโชคดีที่สุดของโชคแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”

“โชคดีเหี้ยไร มึงลองมาเป็นกูดูไหม คำว่าโชคดีที่มีแฟนเป็นมันมึงจะไม่อยากหยิบมาใช้เลยเหอะ” วันนี้ครบรอบหนึ่งเดือนที่เขากับเอสสัญญากันไว้ กูจะต้องโดนเอาแล้วแน่ ๆ แบบนี้ยังคิดว่ากูโชคดีอยู่อีกเรอะ ถ้ามึงลองมารู้ความจริงข้อนี้ดูสิไอ้เพื่อนบ้า ถ้ามึงลองมารู้ว่าที่กูเตรียมตัวเตรียมร่างกายตื่นขึ้นมาออกกำลังแต่เช้าไว้ทุกๆวันนี่เพื่อให้ตัวเองรองรับแรงมันไหว แล้วมึงจะหนาว ถึงตอนนั้นมึงยังจะพูดว่ากูโชคดีอีกไหมห๊ะ ไอ้หมาปอ!....นี่คือทั้งหมดที่แคปอยากจะพูดออกมาเสียเหลือเกิน แต่เรื่องแบบนี้มันศักดิ์ศรีพูดกันยาก เพราะงั้นเขาจึงนั่งกัดฟันกรอดๆเงียบไว้ จนปอต้องหันมอง

“ทำหน้าอะไรของมึง...”

เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้นพอดี ดึงความสนใจของสองคนออกจากห้วงความคิดและข่าวจากจอทีวีตรงหน้า

“ไอ้อาร์มาแล้วมั้ง” วันนี้นัดกันไว้อาร์กับปอมันจะออกไปไหนด้วยกันสักแห่ง แคปหันข้ามไหล่ตัวเองไปดูคนตัวเล็กที่เพิ่งก้าวเข้ามา

“อ่ะ กูซื้อมาฝากมึงว่ะแคป” อาร์เข้ามานั่งลงที่ตักแคปแรงมาก จนคนรับน้ำหนักตัวต้องร้องอุ๊กออกมาเสียงหลง มือเล็กยื่นหมากฝรั่งรสที่แคปชอบออกมาส่งให้

“อะไรเนี่ยตัวมึงเหนียวจังมีแต่เหงื่อ” อาร์ทำหน้าแหยงๆ แคปผลักออกแทบไม่ทัน

“แม่งมึงอ้วนขึ้นนะไอ้อาร์ ลุกๆกูหนักเหี้ยๆเลย ไปนั่งตักไอ้ปอโน่นไป”

“ไม่เอาอ่ะ กูอยากแกล้งมึง ตัวเหนียวก็ช่างกูนั่งตักมึงได้” อาร์ขืนตัวเองไว้ไม่ยอมย้ายลงจากตักแคป

“กูหนักเหี้ย”แคปบ่น

“อะไรกันล่ะ กูตัวเบาๆเองหนักแค่ห้าสิบกว่าๆ ทีเมื่อก่อนมึงยังให้กูขี่หลังเลย”

“ขี่หลังกับนั่งตักมันเหมือนกันไหมล่ะ นั่งดีๆเร็วเข้าไอ้ปอมึงมาเอามันออกไปดิ๊” แคปหันไปขอความช่วยเหลือแต่ปอทำเพียงแค่ไหวไหล่

“เอองั้นเปลี่ยนเป็นขี่หลังแทน” อาร์จะตะกายไปด้านหลัง แคปเอี้ยวตัวหลบแทบไม่ทันสองคนฟัดกันอยู่บนโซฟาจนปอนึกขำ อาร์กับแคปหยอกกัดกันแบบนี้ประจำ จนกระทั่งแคปจับมันนั่งแบบดีๆได้ เจ้าอาร์ถึงค่อยล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมา

“เมื่อคืนกูฟังมึงจัดรายการด้วยล่ะ อะไรของมึงวะเปิดแต่เพลงอกหัก ฟังแต่ล่ะครั้งกูพาลเศร้าจะร้องไห้ตลอด พวกผู้หญิงเขาฟังอะไรกันทำไมเรตติ้งถึงดีแบบนั้นมึงดูนี่ นี่ๆๆๆๆ” หัวข้อข่าวออนไลน์ในจอมือถือขนาดใหญ่ของมัน แคปผลักออกไม่อยากสนใจ

“ต้องเน้นเรื่องอกหักหรือไงรายการมันถึงจะดัง” อาร์พูดลอย ๆ ขึ้นมาแคปเหลือบมอง

“ก็ตีมรายการมันเป็นแบบนั้นนี่หว่า มึงไปดูข้อความที่ส่งเข้าแฟนเพจดิ มีแต่ดราม่าน้ำตาแตกทั้งนั้น แล้วทีนี้เพลงที่จะเปิดควบคู่ไปกับรายการมันเลยต้องส่งให้แต่ละตอนที่พูดคุยกันเศร้าแซดยิ่งขึ้นไงวะ”

“แล้วใครเป็นคนเลือกเพลง”

“ถ้าเป็นเมื่อคืนก็ไอ้แบงค์ไง มันจัดการเซ็ทไว้ให้จนเรียบร้อยอ่ะ กูไปถึงพูดๆๆแล้วก็เปิดเพลงอย่างเดียว”

“มันชอบมึง กูรู้”

“ไอ้สัส พูดเห้ไรเงียบปากไว้บ้าง”แคปหันไปดุคนที่จู่ๆก็พูดเรื่องเพี้ยนๆออกมา

“กูพูดเรื่องจริง”อาร์หันไปยืนยันคำพูดของตัวเอง

“เป็นเรื่องที่มึงคิดไปเองว่าจริง ยังยืนยันไม่ได้ว่าจริงหรือไม่จริงเพราะงั้นทางที่ดีไม่ต้องพูด กูต้องทำงานกับมันอีกนาน ถ้าสิ่งที่มึงคิดไม่ได้ออกมาจากปากมันเองกูจะถือว่าไม่รู้ไม่เห็น”

“แล้วมึงคิดยังไง”

“กูไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น

“แน่นะ”

“..........” แคปหันไปมองใส่แบบดุ ๆ เขาไม่อยากพูดมาก บอกไม่แล้วก็คือไม่แค่นั้นจบ เจ้าอาร์จอมเซ้าซี้ก็ยังทำหน้าไม่ยอมแพ้อยู่ดี แคปไม่เข้าใจมันจะซักไซ้อะไรของมันนักหนา

“เออได้แบบนั้นก็ดี”

“หิวยัง พูดมากๆมึงหิวแล้วใช่ไหม” ปอเดินเข้ามาถามใกล้ๆ อาร์ยกข้อมือขึ้นดูแล้วพยักหน้าปอจึงถามแคปว่าอยากกินอะไร

“ไอ้ปอมึงว่าไอ้เด็กเวรนั่นมันชอบไอ้แคปป่ะวะ มึงบอกกูมาซิ” อาร์ชิงพูดกับปอแทรกขึ้นมาจนแคปที่นั่งอยู่ต้องโบกลงที่หัวหรึ่งทีแล้วทำตาดุใส่บอกให้หยุด

“กูก็แค่อยากรู้”

“ไม่ต้องอยากรู้ หยุด”

“แต่ว่า...”

“ไอ้เด็กนั่นมันมีเมียแล้ว มึงอย่าพูดเรื่องไม่เข้าท่าขึ้นมาอีก”

“แต่ว่า..

“ไม่มีผู้ชายคนไหนจะมานิยมหน้าตาแบบกูหรอกมึงจำเอาไว้มีแต่ไอ้บ้าเอสนั่นแหละที่มันบ้าคิดแปลกๆกับกูอยู่แค่คนเดียว”

“จะว่าไปมันก็จริง มึงเองก็แมนไม่เห็นจะออกสาวแตกตรงไหนเลย”

“กูผู้ชายทั้งแท่งไอ้เหี้ย สาวแตกบ้านมึงสิ กูชายแท้ร้อยเปอร์เซนต์อาจมีบางอย่างผิดพลาดไปบ้างแต่กูคอนเฟิร์มตรงนี้เลยว่า กูก็ผู้ชายธรรมดาๆคนนึงเหมือนพวกมึงนั่นแหละ”

“พอๆๆเลิกเถียงกัน หน้าตาแบบนี้ไม่มีคนเอาหรอกแคปกูบอกแค่นี้จบไหม” ปอตัดจบด้วยการเชยคางแคปให้หันมาแล้วเบะปากใส่บอกว่ามึงน่ะขี้เหร่มาก แคปฟาดผั๊วะไปแรง ๆ หนึ่งที

“ตกลงเอาไง พวกมึงสองตัวจะกินอะไรกันเนี่ย”

“วันนี้กูขอไข่ลวกสิบฟองเลยนะ” แคปชูมือสิบนิ้วทำหน้ายิ้มเผล่

“ห๊ะ! มึงจะแดกอะไรตั้งสิบฟองวะไอ้แคป!! จะไปใช้พลังงานที่ไหนเหี้ย กินอะไรขนาดนั้น” อาร์ร้องแว๊ดขึ้นมาแคปรีบเอามืออุดปากมันแทบไม่ทัน

“ไอ้สัส ร้องเสียงดังทำไมห๊ะ”

“ก็มึงอ่ะแม่ง สิบฟองเป็นบ้าเรอะ”

“นั่นสิวะแคป ปกติมึงสองฟองก็อ้วนจะตายห่าแล้ววันนี้ให้กูทำสิบฟองเกิดบ้าอะไรขึ้นมา”

“เอาน่าอย่าถามมาก กูบอกให้ทำก็ทำมาเหอะ”

“........” ปอกับอาร์มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ปอนี้หงิดๆอยู่ในใจนานแล้ว ไอ้วิธีการออกกำลังกายของมันนั่นอีก แคปมันต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆ นัดตีกับใครชัวร์ๆ คู่ปรับมันคงเป็นยักษ์

“นี่มึงนัดตีกับ....

“กูก็แค่ต้องการพลังงานเอาไว้ใช้สู้กับไอ้ตัวอันตรายที่เดี๋ยวมันก็จะมาแล้ว พวกมึงคิดเหี้ยไรไปถึงไหนวะห๊ะ กูบอกสิบฟองมึงก็ทำมาจบไหมแค่นั้น”

“.......” ปอยังยืนอึ้ง เขากับเจ้าอาร์หันมองกันเลิ่กลั่ก

“สิบฟอง รีบๆเลยหิวแล้ว”

“เออ งั้นก็กินให้หมดนะมึง” ปอว่าใส่เสียงขุ่นเดินเข้าครัว หลังจากนั้นราว ๆ สิบห้านาทีอาหารทุกอย่างก็เสร็จ สามคนเอาจานของตัวเองมานั่งกินนอนกินอยู่หน้าทีวี แคปกับปอสนใจการ์ตูนขณะที่เจ้าอาร์ก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์มือถือยิกๆ

พรึ่บ!!

“เหี้ยอะไร!” จู่ ๆ อาร์เอารีโมทขึ้นมาปิดทีวีดับพรึ่บ แคปกับปอร้องขึ้นมาพร้อมกัน

“พวกมึงดูนี่ ๆๆๆๆ”   อาร์ทำเสียงตื่นเต้นยื่นมือถือตัวเองมาแล้วชี้ๆๆบอกให้แคปกับปอมาดู

“อะไรของมึงวะไอ้อาร์”

“ก็นี่ไง หัวข้อข่าวธุรกิจลงเมื่อเช้านี่เอง มีรูปไอ้เอสด้วยนี่ก็ท่านเจ้าสัวรัชชาพ่อมันไงส่วนนี่คุณนายหลิวคุณแม่คนสวยของมัน ตายๆๆกูมีเพื่อนเป็นคนดังตั้งแต่เมื่อไหร่วะเนี่ย”

“เหย รูปเมื่อเช้านี่หว่าข่าวออกเร็วจัง มันมีประชุมอะไรของมันวะทำไมถึงมีบรรดาสื่อเข้าไปได้ด้วย”

“แฟนมึงหล่อว่ะแคปดูดิ กินขาดทุกๆคนเลยนะ”

“ไอ้สัส ข้างๆมันมีแต่คนมีอายุมันก็ต้องหล่อกว่าแน่อยู่แล้ว” แคปตบหัวอาร์ฉาดใหญ่ เพ่งมองดูในจอดี ๆ คงมีงานเปิดตัวอะไรสักอย่าง เอสกับคุณพ่อของเขารวมถึงคุณแม่และพี่สาวไปกันครบทุกคน

“นี่แม่มันเหรอวะ สวยเหอะ ทะมัดทะแมงต้องเก่งแน่ ๆ เลย” ปอหันมาถาม แคปเองก็ไม่เคยเห็นตัวจริงหรอกแต่ก็เคยเห็นตอนนั้นกลับบ้านแล้วเฮียเต้ชี้ให้ดูจากหนังสือพิมพ์

“พี่มันก็สวย สวยมากๆเลย”แคปว่าต่อชี้รูปพี่แอมป์ที่ยืนอยู่ข้างคุณแม่ของเอสให้ดู อาร์กับปอนี่ถึงกับอ้าปาก “ดูดีทั้งตระกูลเลยมึง” หลังจากนั้นเจ้าอาร์ก็สรุปหัวข้อข่าวแบบสั้น ๆ แต่พูดไม่จบเสียทีออกมาให้อีกสองคนฟัง แคปกับปอฟังจนเบื่อจะหันไปเปิดทีวีดูต่อแต่อาร์มันทำตาเขียวใส่บอกให้ฟังจนจบ

“ธนาคารรัชชา รัชชาเคมีภัณฑ์ รัชชาคอนสตรั๊คชั่น รัชชาเทรดดิ้ง รัชชาเทเลคอม เวชภัณฑ์รัชชา โรงงานผลิตเหล็กรัชชา นิคมอุตสาหกรรมรัชชา รัชชาฟาร์ม ไร่รัชชา รัชชาโภคภัณฑ์ รัชชา....”

“โอ๊ยยยย  พอๆๆๆ ไอ้อาร์มึงจะสาธยายเวอร์มากไปแล้ว รัชชาอะไรของมึงนักหนาเยอะแยะขนาดนั้นห๊ะ!” แคปเบรกเพื่อนตัวเองไว้ก่อน มันจะร่ายยาวเกินไปแล้ว เขานี่ถึงกับส่ายหัว

“อ้าว ก็มีอยู่จริงๆนี่หว่า ธุรกิจในเครือของอัครรัชชากรุ๊ป ใครๆก็รู้กันทั้งนั้นนี่ไงเขาเขียนไว้ยาวมากเลยเหอะ”

“ถึงรู้มึงก็ไม่ควรจะเอามาพูด ห้ามพูด!”แคปดุนิดๆแถมหมอนหนักๆหนึ่งใบเขวี้ยงใส่หัวเล็กๆของไอ้คนที่กำลังจ้อ อาร์จึงทำตาประหลับประเหลือกใส่ “ทำไมกูจะพูดไม่ได้วะ หนังสือพิมพ์ลงหัวข้อข่าวธุรกิจอยู่บ่อย ๆ ยิ่งรู้ว่าแฟนเพื่อนกูเป็นถึงลูกชายเจ้าสัวใหญ่ขนาดนั้นกูยิ่งต้องติดตามใกล้ชิดเลย นี่เลยดูๆสดๆร้อน ๆ ข่าวเพิ่งลงเมื่อวาน รัชชาคอนสตรั๊คชั่นเพิ่งเซ็นสัญญากับคู่ค้าญี่ปุ่นเรื่องคอนโดใหญ่ที่มีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน มึงคิดดูตารางวาละสองล้านตายไหมกูถาม กี่ห้องกูอยากจะรู้”

“เออว่ะ แค่พื้นที่หนึ่งตารางวากูยังไม่มีปัญญาจะไปยืน แพงเหี้ยๆสร้างไว้ให้ใครอยู่วะ เทวดาป่ะ”ปอเสริมเข้าไปอีกสองคนหัวชนกันก้มดูข้อความในข่าวออนไลน์ แคปหันไปจิกตามองเหวี่ยง ๆ เทวดาบ้านมึงสิ

“ไอ้ปอ ก่อนที่มึงจะถามว่าสร้างให้ใครเข้าไปอยู่ตอนนี้ช่วยสนใจรายชื่อคณะกรรมการที่รับผิดชอบโครงการนี้กันเถอะ มึงดูนี่อ่ะ นี่..” อาร์ทำท่าพูดกับปอที่นั่งอยู่ด้วยกัน แต่เสียงเล็กดังเหลือเกิน ดังจนแคปที่นั่งเซ็งยิ่งพาลเซ็งเข้าไปอีก

“ไหนๆชี้ดิ๊”ปอใช้สายตาหาแต่รายชื่อยาวมากหาไม่เจอ

“นี่ไงอันดับสองเลยมึง ลงไปดูทำไมด้านล่างเล่า  คุณเอสเธอร์ อัครรัชชานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ ช่วยบอกกูทีว่านี่ไม่ใช่ไอ้เหี้ยเอสแฟนไอ้แคปเพื่อนเรา มึงบอกกูทีว่านี่คือมันที่อยู่ปีสองเหมือนพวกเราใช่ป่ะวะมึงบอกกูทีปอ ช่วยตบหน้ากูด้วย..”

เพี๊ยะ!!

“ใช่เลย นั่นแหละชื่อมัน” ปอทำหน้าโง่ๆขณะที่ตบหน้าอาร์จนหัวเงิบไปแล้วเรียบร้อย รายนั้นเซ่อไปเลย

“ไอ้สัส! มึงจะรุนแรงไปไหนเหี้ยนี่ จริงจังเป็นบ้าเลย กูก็แค่บอกให้มึงตบเรียกสติ เล่นตบกูจนหน้าหันแบบนี้สติกูกระเจิงแล้วห่า” ปอหัวเราะขำจนตัวงอเบียดเข้ามาหาแคปเพราะหนีจากฝ่ามือเล็กของไอ้อาร์ที่กระหน่ำลงมาแล้ว

“ไอ้สัส เล่นแรงกูเจ็บ”อาร์โวยวาย

“ขอโทษๆ หยอกเล่นหรอกน่า” ปอบอกยอมแพ้ อาร์จึงชี้หน้าคาดโทษเข้าไปอีก

“เดี๋ยวเหอะมึง”

“พอเหอะเลิกดูเรื่องของมันได้แล้ว วันนี้หน้าที่ใครล้างจานวะกูหรือว่ามึง” แคปถามปอ รายนั้นเหลือบมองแล้วบอกว่าเป็นตัวมันเองแคปเลยสบายไป ปอลุกขึ้นเก็บจานไปไว้ที่ครัวเตรียมจะล้าง มองดูเวลาเห็นว่าจวนจะเที่ยงอยู่แล้ว

“แคป มึงไม่เข้าไปอาบน้ำล่ะวะ นัดกับมันเอาไว้กี่โมง มันจะเข้ามารับมึงใช่ไหม”

“เดี๋ยวค่อยไป”

“อะไรเนี่ยอย่าบอกนะว่าไอ้เอสจะมารับมึงไปเดท เมื่อคืนมันไม่ได้ค้างที่นี่อ่อ?” อาร์ที่ไม่รู้เรื่องถามขึ้นหน้าตาตื่นๆ แคปหันไปจิกตาใส่แรง ๆ

“อย่าปากมากไอ้อาร์ ไม่ใช่เดทเหี้ยไรทั้งนั้น”

“แล้วเมื่อคืน...

“เมื่อคืนมันก็ไปงานไอ้ที่มึงอ่านอยู่นั่นไง เพราะงั้นกูก็เลยสบาย อิสระเสรี ที่สุดของความสุข เมื่อไม่มีมันอยู่กวนใจ” แคปทำท่ากางแขนแล้วเงยหน้ารับลมเย็น ๆ จากแอร์ อาร์ที่นั่งข้าง ๆ หมั่นไส้จึงแกล้วเอามือกดลำคอล็อคลูกกระเดือกแคปเล่น คนถูกทำร้องลั่นดิ้นๆๆๆ ปอที่ล้างจานอยู่หัวเราะหลังจากนั้นเขาเดินมาไล่แคปเข้าไปอาบน้ำจนได้

“คิดอะไรของมึง แค่กูไล่เข้าไปอาบน้ำคิดมากถึงขนาดคิ้วยุ่งผูกเป็นโบว์เลยหรือไงวะ”

“ยุ่ง เรื่องของกูเหอะ” แคปว่าแล้วลุกขึ้น เขวี้ยงหมอนที่ถือไว้ยัดใส่อกไอ้อาร์

“เดี๋ยวกูออกมา” แคปว่า

“แต่งตัวหล่อๆนะมึง แฟนจะมารับไปเดททั้งทีอย่าทำให้เขาผิดหวังซะล่ะ”

“หึหึ หล่อแน่ ๆ มึงไม่ต้องเป็นห่วงไปหร๊อกกก..” แคปยิ้มเหี้ยม คำพูดคำจาแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์จนปอกับอาร์ต้องหันมองกัน และแล้วสิบห้านาทีหลังจากนั้นเขาก็เดินออกมาพร้อมกับชุดที่เรียกง่ายๆว่า ชุดไปเตะบอล

“มึงแต่งตัวเหี้ยอะไรแคป ใส่ชุดนี้ออกมาทำไมเนี่ยไหนว่าจะไปเดทกับแฟนมึงไง แล้วทำไมถึงเป็นชุดนี้ล่ะ” ปอที่เห็นก่อนเป็นคนแรกร้องถามขึ้น เขาทำหน้าแปลกใจเมื่อมองเห็นชุดของมัน รู้อยู่แล้วว่าเอสมันเป็นคนเนี๊ยบแค่ไหน แล้ววันนี้ที่นัดกันจะไปเดท อะไรทำให้เพื่อนของเขาเลือกชุดแบบนี้ออกมาใส่

“นี่มึงแน่ใจเหรอจะใส่ตัวนี้จริงๆน่ะ” อาร์เสริมขึ้นอีก ไล่สายตามองแคปตั้งแต่หัวจรดเท้า

“เออ ทำไมล่ะ” แคปก้มมองเสื้อยืดนักบอลแขนกุดสีส้มคาดดำของตัวเองที่ตอนนี้มันเปลี่ยนเป็นส้มจืดๆสาเหตุเพราะความเก่า คอแหลมยืดๆและชายย้วยมากพร้อมกับกางเกงกีฬาตัวเก่งลายเดียวกันกับเสื้อ

“ไอ้ปอรองเท้าฟองน้ำแบบคีบของมึงอยู่ไหนวะ เอามาให้กูยืมหน่อยซิ” แคปเปิดตู้รองเท้าส่องหาดู เขาไม่เห็นรองเท้าแตะคู่ที่ปอมันเอาไว้ใส่เวลาเดินลงไปซื้อของดึกๆที่ด้านล่าง

“อยู่ในครัวน่ะ ห้องซักล้าง” แคปเดินไปหยิบแตะที่ถามถึงออกมาเตรียมไว้ ปอกับอาร์นั่งส่ายหัวระอาใจกับความพยายามของเพื่อนตัวเอง ความจริงแคปมันแต่งตัวดีนะแต่วันนี้ท่าทางไอ้เอสลำบากไม่ใช่น้อยแล้ว

“แคป เข้าไปเปลี่ยนมาใหม่ไป” ปอสุดจะทนเมื่อแคปเดินมาเบียดตัวนั่งลงข้าง ๆ เขาบ่ายหน้าไล่บอกเพื่อนตัวเองไปเปลี่ยนชุดออกมาใหม่ ไม่ใช่อะไรหรอกมันอยากใส่ชุดนักบอลก็ใส่ได้แต่จะเลือกตัวที่มันดูใหม่ดูสีสดกว่านี้จะได้ไหม นี่คงไปขุดไอ้ชุดที่ไม่ได้ใช้งานมาเป็นสองสามปีแล้วแน่ ๆ เผลอๆชุดนี้ตั้งแต่สมัยมอปลายเลยด้วยซ้ำ

“ไม่เอา กูจะใส่ชุดนี้อ่ะ” แคปเบะปากไม่สน เขานั่งเฉย อาร์จึงเอาขาเขี่ยๆบอกให้ไปเปลี่ยนเหอะ มันดูไม่เหมาะต่อเหตุผลทั้งปวงจริง ๆ

“มึงแกล้งมันใช่ไหมไอ้แคป มึงตั้งใจจะแกล้งมันโดยการแต่งตัวเชยแหลกแหวกโค้งบ้านนอกบ้านนาแบบนี้น่ะใช่ไหม ใส่ชุดกีฬาไปเดทที่โรงแรมหรูกับลูกชายเจ้าสัวรัชชา แบบนี้เหรอที่มึงต้องการ”

“ไอ้สัส ใครเขาจะไปคิดแบบนั้นคนเห็นกูกับมันนั่งด้วยกันก็ต้องคิดว่าเป็นเพื่อนอยู่แล้ว ใครจะไปคิดเรื่องมากแบบพวกมึงกันเล่า”

“แต่อย่างน้อยมึงควรให้เกียรติมันบ้าง มันบอกให้มึงเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อวานกูได้ยินนะ” อันนี้ปอพูดขึ้น

“เรื่องของกูเหอะ”

“มึงตั้งใจแกล้งมัน”อาร์เสริมเข้าไปอีก

“เปล๊า กูไม่ได้แกล้ง” แคปยักไหล่ตอบเสียงสูงโกหกหน้าตาเฉย ขนาดตัวเองยังตกใจกับความเนียน อาร์กับปอมองหน้ากันแล้วพร้อมใจกันส่ายหัว แคปเลื่อนสายตามองเวลา ในตอนนั้นเองที่โทรศัพท์มือถือของเขาดังขึ้นพอดี พอเห็นว่าเป็นใครแคปแสยะยิ้มร้ายใส่หน้าจอทันที

“หมายเลขที่ท่านเรียก ยังไม่เปิดใช้บริการค่ะ..” แคปดัดเสียงกรอกลงไปในสาย คนฟังปลายทางอึ้งไปนิดๆ แต่ไอ้เสียง ‘ค่ะ’ ที่ท้ายประโยคทำเอาเอสปวดหัวจนเบ้าตาแทบจะหลุด แคปมันเพี้ยน ยิ่งใกล้วันที่พวกเขานัดกันมันยิ่งเพี้ยนหนัก กระทั่งถึงวันนี้ เพี้ยนสุดขีดของมันจะเป็นแบบไหนเขาเองก็รอดูอยู่

(กูถึงแล้วเปิดประตูให้ด้วย)

“ไม่เปิด แน่จริงมึงเปิดเข้ามาเอง” แคปท้า พูดแล้วหรี่ตารอฟังคำตอบ

(จะเอาแบบนั้น)

“อืม มึงทำได้ไหมล่ะ”

(ได้สิ เดี๋ยวโทรเรียกช่างมางัดประตูแป๊ป มึงวางสายไปก่อนนะเมีย)

ติ๊ด-

“ห๊ะ!  เฮ้ยๆๆๆๆๆ” แคปเรียกเอาไว้ไม่ทัน เขากระโดดโหยงขึ้นจากโซฟาถลาไปเปิดประตูผั๊วะออกอย่างแรง เจอเอสยืนล้วงกระเป๋าแสยะยิ้มร้ายกาจอยู่

“หึหึ..”

“ไอ้สัส!” แคปถลึงตาใส่ กัดฟันกรอดๆโดนมันเล่นอีกจนได้ เดินย่ำเท้าปึงๆเข้าห้อง

“เหยดดดดเข้ มึงจะหล่อไปไหนสัส แค่ไปเดทกับเพื่อนกูมึงต้องแต่งตัวหล่อขนาดนี้เรอะ..” เอสเดินเข้ามานั่งลงข้างปอ อาร์ที่มองจนคอแทบหัก เขาหันสามร้อยหกสิบองศาตั้งแต่เอสเดินเข้าประตูมา ตาค้างกับเสื้อผ้าและการแต่งตัวของผู้มาเยือนถึงกับอุทานหลุดปาก

“หล่อเหรอ นี่ธรรมดานะ” เอสไหวไหล่บอกเรียบ ๆ แคปเบะปากใส่มองดูมันตั้งแต่เท้าจรดหัว แหวะ! เซทผมขึ้นทำซากอ้อยมึงเหรอ กะอิแค่เดท ก็ไม่พ้นกินข้าวชกมวยหรอกว๊าใส่มาทำไมเสื้อผ้าหรูหราแบบนั้นนับวันจะเหมือนอาฟี่เข้าไปทุกที

“กินไรมายังวะมึง..” ปอทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดี เดินไปเอาน้ำมาวางไว้ให้ เอสพยักหน้าบอกขอบใจ แคปรีบฉวยแก้วนั้นขึ้นมาดื่มพรวดๆๆจนหมดแทน

“ไอ้แคปมึงแม่ง” ปอทำหน้าดุใส่

“ก็กูหิว”

“หิวเหี้ยไรมึงเพิ่งกิน”

“มึงลำเอียงนี่ มันเองก็มาค้างที่นี่ตลอดอยู่แล้วทำไมต้องไปเทคแคร์มันด้วยล่ะ”

“วันนี้ต้องเทคแคร์เป็นพิเศษ”

“เพราะอะไร”

“เพราะวันนี้กูจะรับมันเป็นเพื่อนเขยอย่างเป็นทางการเว้ยฮิ้ววววววววววววว..” ทั้งปอทั้งอาร์หัวเราะร่าขึ้นพร้อมกัน แคปหน้าแดงเถือกขณะที่เอสนั่งอมยิ้มขำๆ เขาหันมองคนข้างๆแล้วคว้ามือแคปมาจับไว้ที่ตักตัวเอง

“หิวยัง ออกไปกันเลยไหมวะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นเบา ๆ เอาให้ได้ยินกันแค่สองคน แคปส่ายหัวบอกยังจะดึงมือออกแต่เอสบอกไม่อนุญาต แคปจึงจิกตากร้าวใส่เหลือบมองเพื่อนตัวดีสองคนที่ตอนนี้ทำท่าดูทีวีแต่หูผึ่งแบบสุดๆทำอะไรไม่ได้คว้าเอาหมอนอิงมาบดบังฝ่ามือที่ถูกกอบกุมของตัวเองไว้

“แต่กูหิวแล้ว เมื่อเช้ากินเบรคตอนสิบโมงหลังจากนั้นยังไม่ได้กินอะไรเลยนะ เลิกประชุมก็รอมากินพร้อมมึงเนี่ย”

“เรื่องของมึงเหอะ อยากปล่อยให้หิวเอง”


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
« ตอบ #1549 เมื่อ: 20-07-2015 22:03:11 »





ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1550 เมื่อ20-07-2015 22:03:35 »




“เรื่องของมึงเหอะ อยากปล่อยให้หิวเอง”

“ก็ทำงานนี่ กลับมาแฟนก็ต้องดูแลไม่ใช่หรือไง”

“มึงเงียบปากไอ้สัส..”แคปตาเหลือก

“พูดไม่เพราะเลย ไม่น่ารัก”

“เอ๊ะกูบอกให้มึงเงียบ! หุบปากแล้วนั่งอยู่เฉย ๆ ห้ามพูดคำว่าน่ารักขึ้นมาอีกเข้าใจไหมห๊ะ!!”

“ก็จริง มึงพูดกับกูดีๆมีอะไรกูให้หมดอ่ะ”

“กูเชื่อมึงหรอก น่ารำคาญ”

“หึหึ..” เอสอมยิ้มแล้วส่ายหัว เขาเชื่อมันเลยเถียงเฉยๆโดยไม่บังคับเคยชนะมันไหมเขาอยากรู้ กลายเป็นคนกลัวเมียน่าสงสารตัวเองชะมัด

“เข้าไปเก็บผ้าห่มให้หน่อยอยู่ห้องให้ปออ่ะ อ้อมีหมอนกูด้วยนะ” แคปสะกิดบอกทำหน้าทำตาลอย ๆ ราวกับลองใจรอฟังว่ามันจะโกรธไหม

“เมื่อคืนนอนห้องนั้นเหรอ”

“รู้แล้วยังจะถาม” เอสหันมองหน้าปอทันที รายนั้นส่งยิ้มแห้ง ๆ แต่เจอสายตาคมกริบจ้องแบบไม่ยอมวางเหมือนกับมันกำลังล้วงลึกความรู้สึกบางอย่าง ปอนี่อยากจะจับไอ้แคปมาฟาดกะโหลกมันให้ร้าวนัก หาเรื่องให้เขาจริง ๆ

“มะ..มันมานอนเองนะเว้ย กูก็ไปรับมันตามปกติเหอะ พอถึงห้องกูอาบน้ำเสร็จออกมาเห็นมันนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงกูแล้ว ว่าจะไปนอนที่ห้องมันแทนก็กลัวมึงจะกลับมากลางดึกเดี๋ยวเกิดคิดว่ากูเป็นมันเรื่องจะยิ่งแย่เข้าไปใหญ่”

“มึงทำดีมากปอ” หลังจากปอร่ายยาวคำแก้ตัวที่ไม่รู้ไปผุดได้มาจากไหน คำตอบจากริมฝีปากเอสช่างเรียบง่ายเหลือเกิน แคปนั่งขำกับคำแก้ตัวของเพื่อนตัวเอง แต่ที่ขำหนักยิ่งกว่าคือท่าทางตื่นตกใจของไอ้เอสที่สะดุ้งขึ้นมานิดๆตอนที่ปอพูดเรื่องเปลี่ยนห้องกันนอนแล้วมันจะกอดผิดตัว แคปกำลังนั่งอมยิ้มกับความคิดของตัวเองหัวแทบเงิบเมื่อเจอเอสผลักใส่แรงๆหนึ่งที

“แต่คนที่ทำไม่ดีก็คือมึง ห้องตัวเองมีไม่นอน”

“มึงจะมาพูดอะไรเรื่องนี้ อย่างมึงห้องตัวเองมีก็ไม่นอนเหมือนกันน่ะแหละ”

“ปากดีนัก” เอสเอามือบีบปากแคปแรง ๆ บอกอย่าพูดให้มันมากนัก จะว่าไปเขารำคาญมันเหมือนกันนะ วันๆมีแต่พูด  “ดูการ์ตูนไปเลยไป”

“เรื่องของกู!” แคปจับรีโมทฟาดใส่อาร์ที่นั่งไม่รู้เรื่อง ดีนะที่อีกคนรับทันไม่งั้นมีหัวโนกันแน่ ๆ

“อันธพาลไอ้แคปแม่ง”

“จิ๊” แคปจิ๊ปากไม่สนใจ เอาหมอนอีกใบมานั่งกอดดูทีวีต่อ

“ไอ้ปอ กูคุยกับคุณพ่อไว้แล้วนะเรื่องงานของมึง ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปมึงเข้าทำงานพร้อมกูทุกเช้าวันเสาร์ ศึกษางานเอาไว้ก่อนจบแล้วจะได้เข้ารับตำแหน่งได้เลย เรื่องเงินเดือนคุณนาคินจะเป็นคนจัดการให้ ถ้ามึงว่างวันไหนก็เข้าไปถ่ายรูปทำประวัติไว้ที่สำนักงานใหญ่ก็แล้วกัน” เอสถือโอกาสคุยเรื่องนี้กับปอ เขาล้วงเอานามบัตรเขาขึ้นมาจากกระเป๋าสตางค์ หยิบปากกาที่อยู่บนโต๊ะเซ็นต์ข้อความบางอย่างลงไปที่ด้านหลัง จากนั้นยื่นส่งให้ปอ

“โหยยยไอ้ปอมึงแม่งโคตรน่าอิจฉา ว่าแต่มึงจะเอาเพื่อนกูไปทำงานเลขาจริงดิ..” อาร์ยื่นหัวเข้าไปดูการ์ดสีทองหรูใบนั้นด้วยกันก่อนที่ปอจะเก็บมันเข้ากระเป๋าตังค์ตัวเอง

“อือ” เอสพยักหน้าตอบเรียบ ๆ

“แล้วไม่คิดจะจ้างกูบ้างหรือไง”

“ไว้มึงเรียนจบก่อนสิ ที่นั่นรู้สึกจะเปิดรับสมัครพนักงานทุกปี ถึงเวลานั้นคนที่จะคัดเลือกมึงว่าผ่านหรือไม่ผ่านอาจจะเป็นไอ้ปอนี่ก็ได้นะ”

“เฮ้ยจริงดิไอ้เอส มึงพูดจริงๆเหรอวะ”

“........” เอสไม่ตอบคำถามอาร์ เขาหันมามองแคปที่นั่งดูทีวีไม่ได้สนใจอีกฝั่งที่คุยกันอยู่เลย เขาคว้าเอามือเล็กมาจับไว้ใหม่ แคปหันไปมองหน้า

“เข้าไปแต่งตัวดิ เดี๋ยวออกไปกันแล้ว”

“แต่งเสร็จแล้วไงจะแต่งเหี้ยไรอีก” แคปว่าหน้าซื่อ ก้มมองชุดกีฬาของตัวเองอย่างภูมิอกภูมิใจ

“ไปชุดนี้เนี่ยนะ..” เอสถามย้ำ เขาพิจารณาชุดที่แคปใส่ด้วยความรวดเร็ว

“อืม ไปได้ป่ะล่ะ..” แคปหรี่ตาลองใจ รอฟังคำตอบของมันเต็มที่ ขณะที่คนถูกถามกลับนิ่งไปไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“หึ..ถ้าไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะเว้ย ข้อตกลงทั้งหมดของเราเป็นอันยกเลิก...ทุกอย่าง!” แคปยิ้มกรุ้มกริ่มทำท่าราวกับคนเป็นต่อเขาเน้นคำว่า ทุกอย่าง ช้าๆชัดๆ  เอสเห็นใบหน้าแบบนั้นของแคปแล้วรอยยิ้มพิฆาตถูกจุดขึ้นที่มุมปากหยักทันที  เสียงทุ้มเหี้ยมเกรียมค่อย ๆ ถูกปล่อยออกมาราวกับคนที่เพิ่งนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้

“ไปได้สิครับเมีย ชุดไหนกูก็ไปกับมึงทั้งนั้น ต่อให้มึงแก้ผ้าเดินกูก็ยังจะเดินอยู่ข้างมึงเลย”

“ไอ้สัสเอส ใครมันจะบ้าไปแก้ผ้าเดินล่ะวะห๊ะ!” แคปเปลี่ยนสีหน้าแว๊ดขึ้นมาทันที รีบผลักไหล่เอสออกอย่างแรงก่อนลุกพรวดขึ้น อาร์กับปอที่นั่งอยู่ตกอกตกใจ

“อ้าวใครจะไปรู้ล่ะ ใครสักคนแถวนี้อาจจะอยากแกล้งกูก็ได้นี่...”

“เหอะทำเป็นรู้ดี น้องหมาแสนรู้เหรอมึงน่ะ..”

“ขี้เกียจพูดแล้ว ถ้าจะไปชุดนี้ก็ลุกเหอะ” ว่าแล้วเขาก็ลุกเลย ก่อนจะดันๆหลังแล้วบอกให้เดินนำออกไป แคปยังไม่ลืมสวมรองเท้าแตะแบบคีบของปอติดเท้าไปด้วย เอสรีบดึงเอาไว้แล้วชี้บอกให้เปลี่ยนออกเลย

“ทำไม กูอยากใส่แบบนี้” แคปตีหน้าเซ่อๆ

“แบบนี้ไว้ใส่วันหลัง วันนี้ใส่ไม่ได้ นี่กูอุตส่าห์ไม่สนใจกางเกงขากว้างๆของมึงแล้วนะ แต่ถ้ารองเท้ายังจะลากแตะไปคือโน เป็นไปไม่ได้”

“เพราะอะไร”แคปถามขึ้นมาทันที

“เปลี่ยนออกแคป ใส่รองเท้ากีฬาซะ..” เอสไม่ได้ตอบว่าเพราะอะไร เขาก็แค่สั่ง

“ก็ทำไมล่ะ แค่กินข้าวไม่ใช่หรือไง..”แคปเองก็ไม่ยอมลงง่ายๆเหมือนกัน

“จะเปลี่ยนไม่เปลี่ยน..” เอสจริงจังขึ้นมาอีก เขาก้าวเข้าหาทำท่าจะยื่นมือใหญ่เข้ามาล็อคต้นคอ แคปรีบถลึงตาด่าแทบไม่ทัน เขาเอียงตัวหลบนิดๆ

“ถ้าไม่อยากให้กูทำ ต้องเปลี่ยน เร็วเข้าคู่ไหนก็ได้หยิบออกมา”

“ก็แล้วจะทำไมล่ะวะมึงบอกกูก่อนดิ”

“เดี๋ยวมึงก็รู้เอง”

“ไอ้...”

“จะเปลี่ยนไหม..” เอสทำหน้าดุขึ้นเป็นสามเท่า แคปเห็นเรื่องยุ่งยากอยู่ตรงหน้าแล้วเขาไม่อยากจะหาเรื่องต่อ ผลักไอ้คนออกคำสั่งให้ถอยหลังไปหนึ่งก้าว

“จิ๊!” เสียงเล็กสบถอย่างเสียไม่ได้หน้ายุ่ง หยิบรองเท้ากีฬาคู่เก่งแบบหุ้มข้อสีขาวคาดแดงออกมา ร่างสูงใหญ่ยืนพิงกรอบประตูดูจนแน่ใจ”

“พอใจยัง..” แคปกระแทกเสียงใส่  สวมรองเท้าเสร็จประชดโดยการยกเท้าขึ้นมาให้มันดูแบบใกล้ ๆ เอสรีบใช้ขาเขาเองเตะออกคืน กว่าสองคนจะออกจากห้องไปได้เพื่อนอย่างปอกับอาร์ลุ้นจนตัวโก่งกลัวพวกมันจะตีกันตายเสียก่อน

“มึงว่าสองคนนี้มันแปลกๆไหมวะไอ้ปอ มันคบกันแบบไหนวะตีกันเสมอต้นเสมอปลายดีจริง ๆ จะหวานเหมือนคู่อื่นเขาบ้างไหมเนี่ย”

“กูกะว่าอยู่” ปอพยักหน้าเห็นด้วย ในใจแวปหนึ่งดันคิดถึงเรื่องที่ว่าสองสามวันมานี่แคปบ้าออกกำลัง ยิ่งเมื่อเช้ามันยังสั่งไข่ลวกสิบฟองกินหมดอีกต่างหาก ถ้าเขาเดาไม่ผิดเรื่องใช้พลังงานเยอะๆอาจจะเกี่ยวข้องกับไอ้เอสก็เป็นได้..

“แล้วกิจกรรมอะไรวะที่ต้องกินไข่ตั้งสิบฟองก่อนออกไปทำ” ปอบ่นพึมพำขึ้น นั่งนึกไปคนเดียวแต่ทว่าอาร์เองก็ได้ยิน

“มึงกำลังคิดเหมือนกูเลยใช่ป่ะวะไอ้ปอ”

“ไม่รู้ดิ คงใช่มั้ง”

“ไอ้สัส ลามกนะมึง”

“อ้าว....


.

.


“จะไปไหนของมึงขับรถเร็วเป็นบ้า” ออกมาได้สักพักแคปที่นั่งตัวเกร็งอยู่ถามขึ้น เอสยังทำหน้าระรื่นขับต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้ลดความเร็วลงสักนิด ช่วงบ่ายดวงอาทิตย์กำลังเคลื่อนจากกลางท้องฟ้าสู่ทิศตะวันตกหากแต่แสงแดดตอนนี้แรงจัดดีมาก

“หิวข้าว”

“หิวมึงก็จอดสิวะ จะไปกินที่ไหนถึงต้องออกมานอกเมืองขนาดนี้”

“พัทยา ไกลหน่อยกูถึงต้องเร่งไง”

“ตายๆถ้ามึงจะไปภูเก็ตกูไม่ต้องเหาะไปกับมึงเรอะ”

“แบบนั้นต้องเหาะแน่ เพราะกูคงขึ้นเครื่องบินไม่ขับรถหรอกเมื่อย” แคปหันไปเหลือกตาใส่ไอ้คนที่นั่งอารมณ์ดีขับรถกินลมชมแดดของมันไปเรื่อย ๆ เถียงกันไปมีลงไม้ลงมือบ้างจนกระทั่งรถมาจอดลงที่สวนอาหารแห่งหนึ่ง เข้าซอยมาไกลพอสมควรจากริมถนนสายหลักพัทยาใต้

“ชอบไหม บรรยากาศที่นี่..” เอสยกเบรคมือขึ้นพลางกดเซฟตี้เบลท์ออก แคปหันมองไปที่อาคารสูงด้านข้าง

รีสอร์ท?

“พามาทำไมที่นี่..” แคปถามโดยที่ยังไม่หันไปมอง เขารู้อยู่เต็มอกวันนี้คือวันที่สัญญากันไว้ แต่ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะยอมเสียเวลาพาเขามากินไกลถึงที่นี่ คุณเข้าใจความหายของคำว่า กิน ใช่ไหม

“กินข้าวไง”

“กินข้าว?” แคปหันไปเลิกคิ้วถามทวนคำ ให้เขาเชื่อมันเรอะ

“ใช่ กินอะไรเบา ๆ กันก่อน เดินเล่นนิดหน่อยจากนั้นขึ้นไปโดดนั่นด้วยกัน กินข้าวเย็นเดินเที่ยวห้างดูหนังฟังเพลง หรืออะไรก็ได้ที่มึงชอบ”

“...........” แคปอึ้งไปกับสิ่งที่ออกมาจากริมฝีปากคม ขณะที่เอสยังคงจ้องกลับดวงตากลมที่จ้องมองเขาอยู่ ถ้อยคำนับร้อย ความหมายนับพัน สิ่งที่ต้องการจะสื่อ เอสถ่ายทอดออกมาในดวงตาคู่นี้ทั้งหมด เขาคิดว่าแคปอ่านแล้วคงจะเข้าใจ

“เดทแรกของเราไง เดทที่สมบูรณ์มึงรู้ใช่ไหมว่าจะเริ่มด้วยอะไรและจบท้ายที่ตรงไหน”เสียงทุ้มตอกย้ำกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังคิด แคปหน้าร้อนผ่าวๆจนเหมือนกับว่าจะทำอะไรไม่ถูก เขาหันซ้ายหันขวาก่อนออกแรงผลักไหล่อีกคนแรง ๆ คนเอสกระเด็นไปติดริมประตู

พลั่ก!!

“ไหนว่ามึงหิวอย่ามาพล่ามมาก หิวก็รีบลงไปแดก” แคปว่าปึงปังแก้เขิน เปิดผั๊วะประตูลงไปไม่รีรอเอสขำเขารีบเดินตาม

“ไอ้สัสมึงแม่งจะพามาโดดบันจี้จั๊มก็ไม่บอกตั้งแต่แรกให้กูใส่กางเกงแบบนี้เนี่ยนะเย็นไข่เหี้ยๆเลยล่ะมึง”

“กูก็ถามมึงแล้วนะ บอกแล้วด้วยซ้ำว่าให้เข้าไปเปลี่ยน นี่ยังดีใช่ไหมที่ใส่รองเท้ากีฬามาเกิดลากแตะแล้วมึงได้ถอดรองเท้าโดดแน่ แบบนั้นจะทำให้มึงเจ็บขานะ”

“ทำเป็นรู้ดี..” แคปว่าใส่ ยู่ปากนิดๆความจริงกลุ้มใจสุดๆเลยมากกว่าเขาไม่ชอบความสูงเท่าไหร่ ถึงภายนอกจะลุย ๆ ดูเหมือนไม่กลัวอะไรแต่พอเอาเข้าจริงก็อดหวั่นใจไม่ได้

เดทเหี้ยไรวะแทนที่จะพากูไปทำอะไรหวานซึ้งโรแมนติกไอ้ห่าเสือกจะพากูมาโดดตึกสาบานรักหัวมึงรึไงก๊านนนนนนน....แคปบ่นในใจไปเรื่อยคนเดียว จนกระทั่งมานั่งชิลกันอยู่ที่สวนอาหารบรรยากาศสบาย ๆ เอสสั่งอะไรเบา ๆ มาทาน เป็นจำพวกสลัดและห้ามไม่ให้แคปกินเยอะเพราะเขากลัวแคปจะอ้วกตอนโดด

“กูรู้หรอกน่า..” แคปว่าพลางจิ้มผักสลัดอวกาศเข้าปาก องุ่นไร้เมล็ดพวงเล็กๆถูกจิ้มกินๆจนหมด

“ข้างบนมีของที่ระลึกขายเดี๋ยวเดินขึ้นไปดูกัน”

“อ้าวไม่นั่งกระเช้าอ่ะ”

“อันนั้นไว้นั่งตอนขึ้นไปโดด เดินขึ้นบันไดนั้นกัน” เอสคว้าเอามือแคปพาเดินไปแต่อย่าคิดว่าจะได้จับ คนเยอะแยะแคปมันก็แค่หลบๆเดินตามอยู่ด้านหลัง เอสส่ายหัวแล้วก็ขำกับความเขินอายแบบแปลกๆของมัน พวกเขาสองคนเดินเล่นดูโน่นนี่กันจนพอใจ

“อยากได้อะไรไหม..” สุดท้ายเอสก็คว้าเอามือเล็กเข้ามาจับไว้จนได้ แคปยอมจำนนต่อสถานการณ์เพราะว่ามองซ้ายมองขวาแล้วปลอดคนในละแวกนี้

“บ้านพร้อมที่ดินริมทะเลเป็นไง..” เขาชี้ไปไกลๆตรงโน้นเพื่อให้อีกคนมองตาม สุดลูกหูลูกตาจากเนินตรงนี้บ้าริมทะเลหลังสวยตั้งตระหง่านให้เห็นเต็ม ๆ ตา แคปก็ว่าไปเรื่อย

“เอาที่ไหนดี กระบี่ พังงา พีพีหรือว่าสิมิลันดีกว่ากันล่ะ หรือมึงชอบแถวๆภาคตะวันออกตราดก็สวยนะแต่ถ้าให้ใกล้ ๆ หน่อย ปราณบุรีก็ไม่เลวนักหรอก”

“ไอ้สัส” แคปหันไปด่าตาเขียว เขาก็แค่พูดขึ้นมาเล่น ๆ มันทำท่าเสียจริงจัง พูดแล้วก็นึกขึ้นมาได้บ้านมันเป็นถึงเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมริมทะเลเลยด้วยซ้ำเรื่องแค่นี้คงขี้ประติ๋วมาก แคปอยากตบปากตัวเองจริง ๆ

“แต่ตอนนี้ต้องขอติดไว้ก่อน ทำงานเมื่อไหร่กูให้เลย”

“มึงจะบ้าเรอะ กูพูดเล่นมึงเข้าใจไหมว่ากูพูดเล่น”

“หึ..แล้วคิดว่ากูพูดจริงหรือไง อย่ามาหลงตัวเองกูจะไปซื้อให้มึงทำไมวะ พูดเล่นเหมือนกันเหอะ” เอสพูดแล้วยิ้มเหล่ตาลอบมองคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้มันชักมืออกจากฝ่ามือเขาแล้วเรียบร้อย

“เออขอบใจไอ้สัส มึงจริงใจเป็นบ้ากูมันหลงตัวเองจริง ๆ ”

“หึหึ” เอสส่ายหัวแล้วยิ้มบาง ๆ กับคำพูดประชดประชันของอีกคน เขาดึงแขนเล็กให้เดินตาม พอแดดร่มลมตกทั้งสองคนก็เดินกันลงมาจนถึงฐานด้านหน้า ทำเรื่องซื้อบัตรลงชื่อลงรายละเอียดต่าง ๆ เสร็จแล้วก็ลองทดสอบบรรดาพวกอุปกรณ์ มีสองคิวก่อนหน้าพวกเขาที่ขึ้นกระเช้าไปกันแล้ว แคปมองซ้ายมองขวาดูชุดที่ค่อนข้างไม่เรียบร้อยของตัวเองจะเอาเสื้อบอลยัดในกางเกงก็ใช่เรื่องเขาจึงถอดออกแม่งเลย เอสตาเขียวอื๋อขึ้นมา

“ทำเหี้ยไรของมึงแคป” เสียงทุ้มลอดไรฟันออกมา เขาจับแขนแคปดึงออกมาคุย

“อะไรเล่าก็มันรกอ่ะ เดี๋ยวตอนโดดมันจะเกะกะใช่ไหมล่ะ”

“มึงก็เอาชายเสื้อยัดใส่ไว้ในกางเกงสิวะ”

“เรื่องอะไร แบบนั้นไม่เท่เลย เดี๋ยวเขาจะมีอัดคลิปไว้ด้วยกูจะแอคท่าเท่ๆโดดแบบสง่างามโฉบตัวลงไปเลยมึงคอยดู”

“ใส่เสื้อ!” เอสบอกอีกรอบ จับเสื้อแคปยัดให้

“ไม่ใส่!” แคปถลึงตาบอก ไม่ยอมมันเหมือนกัน สองคนเถียงกันอยู่นานจนพนักงานเข้ามาเรียกให้ขึ้นกระเช้า

“แคป!” เอสเรียกขึ้นมาอีกแคปไม่สนแล้วเดินตามพนักงานไปขึ้นกระเช้าหน้าตาอารมณ์ดีสุดๆแตกต่างจากไอ้คนเดินตามที่กัดฟันกรอดๆเพราะแคปมันเดินโชว์ผิวขาวอมชมพูเนื้อแน่นตึงเปรี๊ยะ

“คอยดู กูจะทำโทษมึงคืนนี้” แคปหันมามองตาขวาง มันพูดเรื่องทำโทษขึ้นมาทำไม กะอิแค่ไม่พอใจเรื่องที่เขาถอดเสื้อ

“โทษฐานอ้อยกูจนเกินเหตุ”

“ไอ้สัสเงียบปากมึงเลย..” แคปลืมตัวผลักมันจนกระเด็นชิดขอบกระเช้าจนโยก แต่คนที่ตกใจแทนที่จะเป็นเอสคนถูกผลัก กลับเป็นเจ้าแคปแค่กระเช้าเหวี่ยงนิดเดียวหน้าซีดเผือด เอสจับพิรุธได้เขาจึงหัวเราะ

“ป๊อดเหรอมึง..” ยิ่งว่ายิ่งแกล้งจับสองแขนเล็กแล้วทำท่าจะผลักลง แคปร้องจ๊ากตีอกชกตัวมันแบบไม่มียั้ง เอสหัวเราะอะไรจะมีความสุขเท่ากับการได้แกล้งคนตรงหน้า

“ไอ้สัส!” แคปร้องด่าอย่างโกรธเลย

“ก็มึงป๊อดอ่ะ ดูหน้าดิ..” เอสยังแหย่ไม่ยอมเลิก แคปกัดปากจ้องหน้าไอ้คนที่ยืนยิ้มเยาะเขาอยู่ก่อนจะตั้งหลักได้ เขาพลูลมหายใจตบผั๊วะๆลงที่อกตัวเองเรียกสติและกำลังใจ

“เหอะ ชิลว่ะกูไม่เคยกลัวอยู่แล้ว..” แคปเบะปากทำหน้าไม่กลัวใส่เอสมองอย่างขำ กระเช้าขึ้นมาถึงจุดโดด พนักงานจัดการสวมเซฟตี้ตรงข้อเท้าให้ ดูแลตรวจสอบความแน่นหนา เอสกับแคปเลือกโดดแบบสวมรองเท้าด้วยเพราะงั้นแคปมันถึงรู้ตอนนี้ว่าทำไมเอสถึงบังคับให้ใส่รองเท้ากีฬาก่อนมา เขาชูสองนิ้วยิ้มร่าทำหน้ารื่นเริงสุดขีดตอนที่เอสยื่นโทรศัพท์ให้พนักงานถ่ายรูปพวกเขาไว้ให้  วิวด้านหลังเป็นท้องฟ้ากว้างติดชายทะเลมาด้วยนิดๆ เสียงแชะๆๆๆดังรัวขึ้นขณะที่แคปเปลี่ยนไปสามท่าแล้วเอสยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมจะมีก็แต่วงแขนใหญ่ที่กอดคอแคปเอาไว้ อดไม่ได้ที่จะยิ้มไปกับความร่าเริงของมัน

“ประจำที่เลยครับ..” เสียงพนักงานบอก เอสขยับลุกขึ้นเดินออกมายืนอยู่ที่จุดโรยตัว

“มาดิวะ..” มือใหญ่ดึงแคปให้ขยับไปยืนข้าง ๆ เจ้าแคปจากตอนแรกทำหน้าตาอวดดีร่าเริงอยู่เลยตอนนี้จู่ ๆ หน้าซีดเผือดขึ้นมาซะงั้น มันทำหน้าทำตาเหมือนคนจะร้องไห้ด้วยซ้ำ

“ไหนว่าจะโพสท่าดีๆไปฝากไอ้อาร์ไม่ใช่หรือไง..” เอสกระซิบ แคปหันมองตาเขียวขุ่น “ยุ่ง!”

“หึ ไม่ต้องกลัวหรอกกูอยู่ข้าง ๆ ถ้ามีอะไรก็ไปด้วยกันเลย พร้อมไหม..” เขายื่นปลายเท้าออกไปครึ่งนึงอยู่ในท่าเตรียมพร้อม พยักหน้าบอกแคปให้ทำตาม

“ไอ้สัส” แคปเสียงสั่นด่าทอออกไปอีก หัวใจดวงเล็กสั่นไหวขึ้นมาเพราะความสูงที่พยายามจะทำเป็นมองไม่เห็น เอสเห็นแบบนั้นถึงกับขำจนต้องส่ายหัว เขาเอื้อมมือโอบเอวเล็กของแคปกระชับไว้ มันเป็นการกระโดดแบบโดดคู่

“พร้อมนะครับ ผมบันทึกภาพแล้วนะ..” เสียงพนักงานดังมาอีกขณะที่เอสขยับตัวเขาทั้งคู่ออกไปอีกนิดแคปหรี่ตามองลงไปที่สระน้ำด้านล่างหัวใจวูบวาบขึ้นมาอีก ตายกูตาย พนักงานเข้ามาแตะไหล่

“เหี้ย กูกลัว~” แคปเสียงสั่นเทิ้ม หันไปสวมกอดเอสไว้เต็มวงแขน คนถูกกอดถึงกับตกตะลึง แต่ยังไม่ทันจะทำพูดอะไรตอบกลับไปด้วยซ้ำพนักงานให้สัญญาณบอกถึงเวลาโดดได้แล้ว ตอนนั้นเองที่เอสทิ้งตัวลงแล้วพาแคปโดดพุ่งลงมาจากจุดโดดสูงประมาณตึกยี่สิบชั้นได้ เสียงเล็กแตกพร่าร้องแหกปากดังลั่นอยู่ข้างกกหูขณะที่สองแขนของมันกอดรัดร่างกายสูงใหญ่ของอีกคนไว้จนแนบแน่น วินาทีที่รวดเร็วผ่านพ้นไปสองคนที่ถูกมัดติดกันลงมาห้อยต่องแต่งด้วยแรงเหวี่ยงอยู่เหนือสระน้ำแค่นิดเดียวเท่านั้น แคปยังคงซุกหน้าอยู่กับอกแกร่งแน่นจนคนเห็นที่ด้านล่างยังยิ้มด้วยความเอ็นดูกับภาพที่เห็น

“เรียบร้อยแล้วครับเดี๋ยวขออนุญาตปลดเซฟตี้เลยนะ..” เสียงแว่วอื้ออึงดังที่ข้างหู รู้ตัวอีกทีคือกลับมายืนได้ตามปกติขณะที่ไอ้เจ้าแคปนั่งหมดอาลัยตายอยู่ที่พื้น เอสโยนเสื้อคลุมหัวมันบอกให้ใส่กลับไว้คืน

“มึงนึกอะไรตอนที่เราร่วงลงมาวะ..” เอสหันไปถาม เขาขยับเข้าไปนวดไหล่ให้เจอแคปหันมามองตาขวาง

“นึกว่ากูจะเลิกกับมึงทันทีถ้ากูรอดจากการโดดครั้งนี้ได้น่ะเซ่!” แคปตอบออกมาแทบจะไม่ต้องคิดเอสได้ยินแบบนั้นหันมองตาเขียว แคปถึงกับหัวเราะร่วนที่แกล้งอีกคนได้บ้าง พอแคปลุกขึ้นมาได้สองคนก็เดินเถียงกันไปจนถึงที่รอรับใบรับรองพร้อมกับรับภาพถ่ายคลิปวีดีโอที่พนักงานถ่ายไว้ให้

“ตายห่าทำไมภาพมันเรทแบบนี้วะ..” แคปรีบรับภาพของตัวเองทั้งหมดมาถือไว้มองซ้ายมองขวากลัวคนจะเห็นพนักงานมองแล้วยังขำ เขาเห็นกันจนหมดไปแล้วเหอะ

“ก็เพราะมึงถอดเสื้อไง ใครเขาทำกัน..” คนฟังหันไปทำตาเขียวใส่ ก็เขาอยากแมนนี่หว่าถอดเสื้อโดดเคยเห็นในคลิปที่ไหนสักแห่ง แล้วเสื้อมันก็เกะกะด้วย ถอดเลยสิ แล้วก็ได้ภาพติดเรทมาแบบนี้เลย

“มึงแม่งไม่พากูทำท่าสวยๆเล๊ยยย มัวแต่กอดกูอยู่ได้..” แคปมองรูปตัวเองอีกครั้งแล้วบ่นขึ้น เอสมองดูบ้างเขาก็แค่ส่ายหัวเอือมระอากับคนบางคน

“ใครกอดใครมึงดูให้มันดี ๆ” นิ้วใหญ่เคาะลงบนรูป

“บ้าดิ เพราะมึงตัวใหญ่ไม่ใช่ไงกูก็แค่เกาะเอาไว้บังลมหรอก”

“หึหึ ช่างพูดออกมาได้ว่ะแคป”

“เดี๋ยววันหลังมาใหม่กูจะเตรียมชุดที่พร้อมกว่านี้แล้วก็จะเตรียมทำท่าสวยๆด้วย ไหนดูซินี่มันใบอะไรกันวะ..” แคปพูดไปเรื่อย ๆ แล้วดูใบอะไรสักอย่างในมือตัวเอง เขากับเอสมีคนล่ะใบ

“นี่คือใบทะเบียนสมรสไง มันเหมือนอยู่นะ..” เอสว่าขำๆ ชูใบเกียรติบัตรว่าโดดสำเร็จอะไรสักอย่างให้แคปดู เขาสองคนไปทำเรื่องสุดเสียวกันมาเรียบร้อย

“ทะเบียนสมรสหัวมึงสิ!  นี่ๆกูพอใจอันนี้มากกว่าเดี๋ยวคอยดูนะไอ้อาร์มันต้องอิจฉาแล้วให้ไอ้ปอพามันมาโดดมั่งแน่ ๆ” แคปรีวีดีโอที่อยู่ในโทรศัพท์มือถือของตัวเองดูอีกครั้ง

“เออ จะให้ดูดีป่ะวะ แล้วทำไมก่อนโดดกูถึงหันไปกอดมึงแน่นขนาดนั้นด้วย ตอนนั้นกูคิดเหี้ยไร ไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย”

“หึหึ ให้มันดูเหอะแล้วมึงก็บอกมันไปสิว่ามันเสียวแค่ไหนตอนที่โดดลงมาน่ะ”

“โคตรเสียวอ่ะ”

“ไม่เห็นจะเสียวเล๊ย เดี๋ยวมีเรื่องเสียวกว่านี้อีก ดึกๆรอทำ กูจะพามึงขึ้นไปเสียวถึงขอบสวรรค์เลย”

“ไอ้สัส! ปากหมาไม่มีใครเกิน เชิญมึงไปเสียวคนเดียวเหอะ ไอ้โรคจิต..” เอสหัวเราะร่า เขาสัญญากับแคปว่าถ้ามีโอกาสเรียนจบเดี๋ยวพาไปโดดที่นิวซีแลนด์ดินแดนบันจี้จั๊มป์

“มึงมันขาโดดของแท้ รู้ดีไปหมดทุกอย่าง ถึงตอนนั้นกูไม่ไปกับมึง”

“ไม่ไปลองดูดิ ถ้ามึงไม่ไปกูจะพาสาวๆไปโดดด้วยแทน”

“แบบนั้นกูจะฆ่ามึง”

“เหอะ ขำว่ะแคป...”


.

.


เย็นย่ำของวันนั้น แสงอาทิตย์ดับมอดลงไปพร้อมกับปลายขอบฟ้าสีทองสวยตัดกับขอบน้ำทะเลสีเข้มค่อยๆมืดมิดลง ดินเนอร์มื้อเย็นใต้ต้นลีลาวดีใหญ่กับเทียนหอบแท่งอวบอ้วนที่ถูกจุดวางอยู่บนโต๊ะสี่เหลี่ยมเล็กๆ  สายลมโชยเอื่อยประคองกลีบดอกไม้สีขาวที่ร่วงโรยหล่นจากขั้วลงสู่พื้นทราย แคปใช้มือรองรับมาได้หนึ่งดอก เขาสองคนนั่งอยู่เคียงข้างกัน

“ถ้าเปรียบผู้หญิงเป็นดอกไม้สวยแล้วผู้ชายอย่างเราจะถูกเปรียบเป็นอะไรวะ..”แคปพูดขึ้นลอย ๆ หมุนดอกไม้ขาวในมือเล่น เอสเหลือบมองหลังจากยกแก้วไวน์สีแดงขึ้นจิบ

“มึงอยากเป็นอะไรล่ะ คนสวนดีไหม ชอบไม่ใช่เหรอไปพรวนดินใส่ปุ๋ยให้ดอกไม้น่ะ”

“ไอ้สัสกูเรียนเกษตรกูต้องมีหน้าที่ดูแลแปลงดอกไม้พืชผลให้สวยสิวะ ถ้าผู้หญิงเป็นดอกไม้กูก็จะเป็นหมู่ภมรที่บินเข้ามาดอมดมดอกไม้สวยงาม ดูดชิมความหอมหวานของเกสร”

“รวมถึงผสมพันธุ์ด้วยใช่ไหมแบบนั้นรึเปล่า”

“เออแบบนั้นแหละ ก็นะถ้าดอกไม้มันสวยถูกใจกูก็ย่อมจะอยากได้เก็บเอาไว้เป็นของส่วนตัวสิวะ”

“อ๋อเหรอ มึงคิดแบบนั้นสินะ” เอสแสยะยิ้มเหี้ยม เขาวางช้อนส้อมตัวเองลงทันที กำลังกินข้าวอร่อย ๆ จู่ ๆ แคปมันพูดเรื่องอะไรขึ้นมา มือใหญ่ยกแก้วทรงสูงขึ้นจิบเครื่องดื่มสีสดอีกรอบ

“อ้าวก็กูเป็นผู้ชาย คิดแบบนี้แล้วมันจะผิดตรงไหน แล้วมึงอ่ะบอกมาซิเปรียบตัวเองเป็นอะไร”

“กูจะเป็นอะไรได้ กูก็เป็นผึ้งตัวผู้ ส่วนมึงก็เป็นผึ้งตัวเมีย เอากันอยู่บนยอดเกสรดอกไม้สวยของมึงไง”

“ไอ้คนปากเสีย มึงพูดจาอะไรหัดดูสถานที่บ้าง..” แคปยื่นมือไปปิดปากมันไว้ไม่ทันได้แต่ยื่นหน้าไปด่าแบบให้เบาที่สุด กลัวโต๊ะอื่นๆจะได้ยินไปด้วยขณะที่เอสไม่สนใจอะไรเขาก็แค่ไหวไหล่

“ถ้าเรียนจบแล้ว มึงจะทำงานอะไรวะแคป..” เสียงทุ้มที่จู่ ๆ ถามขึ้นดึงให้แคปละสายตาออกจากดอกไม้ในมือ เขาวางมันลงข้างแก้วไวน์สีสวย

“ไม่รู้ดิ ทำสวนมั้ง”

“เอาดีๆ” เอสทำหน้าจริงจังรอฟังคำตอบ แคปคว้าเอาส้อมมาจิ้มบางอย่างบนโต๊ะเข้าปาก

“ยังไม่รู้เลย คิดว่าอาจจะทำงานดีเจไปก่อนหาเงินทุนสักก้อนเปิดร้านอะไรบางอย่างขึ้นมาล่ะมั้งนะ”

“ร้านอะไร มึงอยากขายอะไร”

“ยังไม่รู้ ยังไม่ได้คิด กูชอบธรรมชาติบางทีอาจจะไปทำไร่ทำสวนเปิดฟาร์มอะไรแบบนั้นก็ได้ ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน”

“ไม่คิดอยากเป็นพนักงานกินเงินเดือน?”

“แบบนั้นไม่ค่อยชอบ อะไรเนี่ยแล้วมึงมาถามกูทำไม กับคนที่มีทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมแบบมึงคงไม่ต้องมาคิดเรื่องหลังจากเรียนจบเหมือนพวกกูหรอกน่า”

“ไม่คิดอยากทำงานให้กับรัชชากรุ๊ปเหรอ?”

“ไม่เลย..” แคปตอบออกมาทันทีไม่ต้องคิดใดๆ เอสถึงกับเลิกคิ้วรอฟังคำตอบต่อจากนั้น ร้อยทั้งร้อยในประเทศนี้ไม่มีใครปฏิเสธงานที่รัชชากรุ๊ปมอบให้ งานดีเงินถึง ดูแลทั้งครอบครัว นี่คือจุดแข็งที่สุดของรัชชากรุ๊ปในการดูแลสวัสดิการพนักงาน แต่แคปกลับตอบว่าไม่อย่างไม่คิดที่จะลังเล

“สิ่งที่กูกลัวที่สุดหลังจากที่เราคบกันแล้วก็คือเรื่องชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของบ้านมึง ยิ่งมึงรวยมากดังมากกูยิ่งต้องทิ้งระยะห่าง ไม่อยากถูกคนมองว่าที่ยอมคบกันเพราะเรื่องผลประโยชน์อะไรแบบนั้น แล้วที่สำคัญ ถ้าหากเราเลิกกันกูจะได้เดินออกไปจากชีวิตมึงได้แบบสบายใจด้วย เพราะงั้น  โอ๊ย!!! กัดกูทำไมอีกห๊ะ!” กำลังร่ายเหตุผลให้ฟังอยู่ดี ๆ แคปร้องลั่นขึ้นเป็นเพราะโดนเอสคว้ามือเล็กเอาไปกัดใส่คำเบ้อเริ่ม

“ถ้าไม่กัดก็จะพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก..” เอสดึงมือแคปมาจับไว้ที่ใต้โต๊ะ แคปหันไปทำตาดุใส่ นี่เป็นครั้งแรกที่แคปพูดเรื่องนี้

“ไม่พอใจก็กัดกู ไม่ได้ดั่งใจก็ล็อคคอกูเข้าไปดูดปาก กูว่ามึงมันซาดิสต์ว่ะไอ้เอส เคยมีใครบอกมึงป่ะวะ”

“ไม่เคย กูไม่เคยทำเรื่องอะไรแบบนี้กับใคร”

“เหอะ กูเชื่อมึงหรอก” แคปแค่นเสียงแล้วส่ายหัว เอสหันไปเหล่มองพร้อมๆกับดึงมือแคปที่อยู่บนตักเคลื่อนต่ำลงไปอีก

“ไอ้สัส! มึงทำเหี้ยอะไร!!” แคปแว๊ดขึ้นมาพอรู้ตัวว่ามือกำลังถูกอยู่กับอะไรเขาตาเหลือกขึ้นทันที

“เป็นแบบนี้กับมึงคนเดียว จับดู..” เอสว่าแล้วจับฝ่ามือเล็กกุมเข้าเป้าเขาแบบเต็มมือ แคปสะดุ้งโหยงเพราะไอ้น้องชายมันสู้มือเขาสุดฤทธิ์ไม่อยากจินตนาการว่าถ้าออกมานอกร่มผ้าแล้วมันจะผงาดเต็มตัวแค่ไหน

“มึงมันโรคจิต ที่สุดของความลามกโคตรกามว่ะแม่งกูไม่เคยเห็นใครเป็นแบบมึงเลยให้ตายเหอะ”

“ทนไม่ไหวแล้วว่ะ นอนแถวนี้ไม่ได้? ทำไมต้องกลับไปนอนถึงห้องมึงด้วยวะ อีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงกูต้องเหาะรถไปเลยนะเนี่ย”

“ทุเรศ ลามก บอกไว้ก่อนถ้าไม่ใช่ห้องกูกูไม่ทำ”

“ห้องกูได้ป่ะ สะดวกกว่านะ”

“ไม่เอา กูบอกไอ้ปอไว้แล้วว่าวันนี้จะกลับ”

“โทรบอกใหม่”

“มึงแม่งเอาแต่ใจ กูยอมมากแค่ไหนแล้ว”

“........”

“ไม่รู้อ่ะวันนี้กูจะนอนห้องกู” แคปยืนยันหน้ายุ่ง เอสเอามือขึ้นมาสอดเข้าท้ายทอยเล็กเล่น

“แต่ครั้งแรกของพวกเรา มึงนอนที่ห้องกูนะแคป”

“.........” คราวนี้เป็นแคปที่นิ่งไปเหมือนกำลังคิดหนักเรื่องอะไรสักอย่าง เอสกระชับมือเขาบีบให้แน่นขึ้นไปอีก “เอาแบบไหน อยากนอนที่ห้องมึง?”

“อืม กูชินที่นั่นมากกว่า”

“โอเคตามใจเอาแบบนั้นก็ได้แต่มึงต้องระวังเสียงมึงด้วย”

“กูรู้อยู่แล้วล่ะ มีฝีมือแค่ไหนกันเชียววะ กูจะเผลอร้องสักแอะไหมหรอก อิโถ่ววว”

“หึหึ อย่ามาพูดให้ขำเลยแคป กูจะคอยดูว่ามึงจะไม่ร้องจริงดิ”

“ไม่มีทาง!!”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2015 22:54:34 โดย coffeeQbread »

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1551 เมื่อ20-07-2015 22:04:07 »




“ไม่มีทาง!!”

แคปดึงมือตัวเองออกมาแรง ๆ เขาหันมองอีกคนแล้วกระแทกเสียงตอบ ขณะที่เอสหันมามองหน้าคนข้าง ๆ แล้วก็นึกขำ เขาจำได้ขึ้นใจวันที่ได้ตัวมันครั้งแรก เสียงครางของมันที่ดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ที่ริมหูเล่นเอาเขาติดใจมาจนถึงทุกวันนี้ 

“อ้อ บอกไว้อีกอย่างเดี๋ยวถึงห้องกูแล้วมีข้อตกลงบางอย่างจะบอกไว้ก่อนด้วย ถ้ามึงทำไม่ได้ทุกอย่างคือจบ วันนี้จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น”

“อะไร? นี่มึงคิดเรื่องของเราไว้ขนาดนั้นเลย?”

“ก็แน่สิวะ เรื่องสำคัญแบบนี้ไม่ให้กูคิดมากมึงจะให้กูชิลเหรอ ชีวิตกูจะต้องเปลี่ยนเลยนะเว้ยกูต้องคิดนานหน่อยไม่ใช่นึกอยากจะเอาก็เอาๆๆๆๆได้แบบมึงนี่ ปัญญาอ่อนใครจะไปคิดน้อยๆแบบมึง”

“รู้ได้ไงว่ากูคิดน้อย” ดวงตาคมกริบหรี่ถาม

“กูว่ามึงไม่ได้คิดเลยเหอะ”

“คิดไปจนถึงอนาคตโน่นแหละไม่งั้นไม่ขอเอามึงเหมือนกัน ชีวิตกูต้องเปลี่ยนไปทั้งชีวิตมึงรู้รึเปล่า”

“เออเนาะชีวิตกูไม่เปลี่ยนใช่ไหม ได้กับมึงนี่ชีวิตกูดี๊ดีงั้นสิ” แคปหันไปทำหน้าเบะปากประชดใส่แบบแรดๆ เอสหมั่นเขี้ยวท่าทางแบบนั้นของมันนัก เขาบิดจมูกรั้นเบา ๆ หนึ่งที

“เดี๋ยวกูจับจูบแม่ง อย่ามาทำหน้าอ้อยกูแบบนี้อีกนะ”

“ปากดีนักเรียกเก็บตังค์เร็ว ๆ กว่าจะถึงห้องมึงกับกูจะได้เอากันกี่ทุ่มคืนนี้”แคปแว๊ดขึ้นมาเอสได้ยินถึงกับตกใจ ช็อกไปนิดๆไม่คิดว่าจะได้ยินคำเหล่านี้จากปากของมัน

“นี่มึงพูดเองนะ อะไรเนี่ยเซอไพรส์ชะมัด”

“เซอไพรส์หัวมึงสิ กูเตรียมใจมาเดือนนึงแล้วไม่เห็นจะเซอไพรส์ตรงไหน ลูกผู้ชายอย่างกูไม่เคยผิดคำพูดเว้ย มึงคอยดูแล้วกันคนอย่างกูลองรับปากไปแล้วต้องทำได้ดีด้วยไม่ใช่ทำได้เลเวลปกติ”

“โห่วว อัพเลเวลไว้รอแล้วว่างั้นเถอะ”

“กูซะอย่าง...”

“หึ....” ปากหยักแสยะยิ้มแคปส่ายหัวไม่อยากสนใจแล้วเขายกแก้วไวน์สีสวยขึ้นมาจิบบ้าง   หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงกว่าๆรถยนต์คันสวยเลี้ยวโฉบเข้ามาจอดตัวลงที่ช่องจอดรถประจำของคอนโดระดับกลางริมถนนสายหลักแห่งหนึ่ง แคปวางโทรศัพท์ลงหลังคุยสายกับปอเสร็จ

“มันบอกว่าคืนนี้กลับดึก เผลอๆไปนอนค้างห้องไอ้อาร์”

“เพื่อนมึงนี่รู้งานดีจริงๆว่ะ” เอสเอ่ยยิ้ม ๆ แคปหันไปมองแล้วนึกอยากฟาดปากมันนัก รอยยิ้มร้ายกาจเจ้าเล่ห์แบบนั้นเขาล่ะเกลียดมันจริงๆ

“ลงเหอะ” แคปว่าพลางปลดสายเบลท์ออกกำลังจะก้าวลงแต่เจอมือใหญ่ดึงไหล่เล็กไว้ก่อน

“อ่ะ....!!”

“เอากันในนี้เลยได้ไหมวะแคป” รวดเร็วยิ่งกว่าคำพูดคือมือใหญ่และเย็นที่เลื่อนเข้าไปล็อคต้นคอเล็กไว้ได้เรียบร้อย แคปตกใจตาโตเพราะถูกจู่โจมไม่ทันได้ตั้งตัว

เพี๊ยะ!

“ไอ้สัส! ปากหมานะมึงพูดเชี่ยไรคิดมั่ง” แคปมือไวมากเหมือนกันตบใส่ที่ปากคนพูด ถึงไม่ได้แรงมากแต่ก็ไม่ได้เบา เอสรีบคว้าข้อมือขาวเอาไว้ ทำตาดุ

“ชอบความรุนแรงด้วยเหรอ หื้ม..”

“ไอ้สัส ไม่เอา!” แคปฝืนตัวไว้จนหน้าสั่น ขณะที่เอสโถมลำตัวเอียงเข้ามามากขึ้นไปอีก ถึงมันจะดูเก้ๆกังๆและไม่ถนัดเพราะมีที่วางแขนคั่นกลางอยู่แต่แคปก็โดนต้อนเข้าในอ้อมอกแกร่งแบบเต็ม ๆ

“ทำในนี้แหละ ครั้งที่สองของเราเอากันในรถเลยก็ดี”

“อ่ะ!!  ไม่เอาปล่อยกูพูดเหี้ยอะไร ปล่อยๆๆๆๆๆๆๆอื๊ออออ” แคปทั้งดิ้นทั้งถีบขณะที่ใบหน้าคมเข้มกลับพ่นรอยยิ้มขำกับท่าทีต่อต้านของคนในอ้อมกอด เขาก็แค่สุขใจเวลาที่แกล้งแคปมันได้ อยากทำให้ร้องไห้หนักๆเลยด้วยซ้ำ

“นี่มึงแกล้งกูอีกแล้วใช่ไหม ไอ้สัสมึงมันแย่มากๆ เห็นกูเป็นตัวอะไรชอบแกล้งกูดีนักไอ้คนชั่วร้าย ไอ้โรคจิต ไอ้ๆๆๆๆปล่อยกู๊ววววว ปล่อยยยยยยย ปล่อยกูสิวะ ผั๊วะ!!”  ยิ่งเห็นว่าอีกคนยิ้มเยาะเขาแบบไหนแคปยิ่งโมโห  บ้าชะมัด เอสมันชอบหาเรื่องให้เขาโกรธของจริง แคปกัดปากดิ้นสุดแรง สุดท้ายโมโหหนักฟาดผั๊วะลงเต็มรัก แผ่นหลังเอสถึงกับสะเทือน ใบหน้าคมเบ้บอกเจ็บๆ ยอมแล้ว

“มึงมันน่ารำคาญนัก ลงได้แล้วไอ้เหี้ย! กูหนัก!!” เมื่อคนตัวใหญ่ยอมละลำตัวออก สุดท้ายแคปก็ปึงปังเดินลงจากรถ เอสรีบคว้าเอาโทรศัพท์ที่วางไว้หน้ารถแล้วเดินตามล็อคลำคอเล็กเข้ามากอดแล้วเดินไปด้วยกัน แคปหันไปถลึงตาใส่แต่ก็ยอมให้กอดคอเดิน ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นสองคนก็เข้ามายืนมองหน้ากันอยู่คนล่ะมุมของลิฟต์

“ยิ้มเหี้ยไร” แคปกระชากเสียงขุ่นใส่ เขาอุตส่าห์ทำเป็นมองไม่เห็นมาหลายนาทีแล้วอดไม่ได้ที่จะถามขึ้น เอสมันไม่ได้มองธรรมดาด้วยนะ มันเล่นไล่สายตามองแล้วยิ้ม ยิ้มแล้วมอง นัยน์ตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มกวนตีนกวาดมองเขาจนทั่วตัวทั่วร่างกันเลย แคปนี่ยืนกัดหันกรอดๆๆ พอจ้องมากๆเจอมันเลียริมฝีปากยั่วใส่อีก แคปสุดจะโมโห

“ไอ้โรคจิต!” ทำอะไรมันไม่ได้ ด่าได้อย่างเดียว แล้วเท่านั้นไม่พอด่าแล้วคนด่าก็จะบ้าเอง เพราะไอ้คนถูกด่ามันหน้ามึนยืนยิ้มร่าหน้าบานอยู่นั่นแหละ

“กูถามว่ามึงยิ้มเหี้ยไร มองกูแล้วก็ยิ้มประสาทมากไหมกูถามกำลังอารมณ์ดีๆเลยพาลจะหมดอารมณ์ มึงแม่ง”

“หมดอารมณ์จริงดิ” เสียงทุ้มพร่าถามขึ้นทันควัน เขาว่าจบก้าวเข้าหาประชิดตัวบางกักแคปไว้ในอ้อมอก สองแขนเท้าไว้กับผนังจนแผ่นหลังเล็กไร้หนทางจะหนีขณะที่หน้าขาใหญ่เบียดแทรกเข้ามากดให้เรียวขาที่เล็กกว่าขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้

“ทำบ้าอะไรของมึงห๊ะ!” แคปตกใจกับการกระทำสุดอุกอาตของมัน ในลิฟต์ที่มีกล้องวงจรปิดติดอยู่แท้ ๆ มันเป็นคอนโดขนาดไม่ใหญ่โตอะไรเพราะงั้นจึงเป็นลิฟต์รวมมีกล้องวงจรปิดติดไว้ มือเล็กรีบผลักไหล่หนาให้ถอยออกแต่อีกคนก็แค่เงยหน้ามองที่เพดานพอเห็นว่ากล้องอยู่ที่ตำแหน่งไหนเขาก็แค่ใช้ลำตัวบังมุมกล้องเอาไว้ ก็แค่นั้น

“ไอ้สัส!” แคปด่าอีก ผลักอกมันแรง ๆ น่าเสียดายไม่เขยื้อนเลยแม้แต่น้อย แคปจ้องหน้ามันเอสเองก็จ้องตอบสองคนจ้องกันไม่มีใครยอมลง จนกระทั่งมือใหญ่เลื่อนลงมาคว้าฝ่ามือเล็ก

“ไอ้สัส!” แคปด่าตาเหลือก ตกใจสุดขีดก็เพราะว่ามันไม่ได้จับมือเขาไว้แบบธรรมดาเล่นเอามือเขาเข้าไปจับที่เป้ามันอีกแล้ว แคปสะดุ้งโหยงเมื่อได้รู้ว่าไอ้เจ้าเอสน้อยมันตื่นตัวอีกครั้ง

“ไอ้โรคจิตมึงถอยออกไปเลยนะ..” เขาดันตัวมันออก

“ไม่เห็นหรอก ตัวกูบังอยู่”เอสบอกเรียบๆใบหน้าคมเคลื่อนเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นไปอีก แคปเริ่มทำอะไรไม่ถูกกัดฟันกรอดๆ

“ไอ้สัส เดี๋ยวก็จะถึงห้องแล้ว ขอร้องล่ะมึงช่วยทนอีกสักนิดได้ไหม ทำแบบนี้ถ้ามีใครดูอยู่กูตายห่าแน่ ๆ เลยนะ”

“ก็บอกว่าไม่มีใครเห็นไงล่ะ”

“ก็แล้วถ้ามีล่ะวะ!” แคปตะโกนขึ้นมาสุดเสียง เจอเอสเอามือบีบปากเล็กจนจู๋

“แคป กูไม่ไหวแล้วนะเว้ย อย่าด่าได้ป่ะ ยิ่งด่าอารมณ์กูยิ่งขึ้นมึงดูดิ คิดว่ากูอยากไม่เป็นเหรอ..” เมื่ออารมณ์ดิบถูกกระชากออกมาจากจุดดำมืดที่สุดด้วยคำตะคอกด่า ผู้ชายอย่างเขาจะทนต่อกลิ่นยั่วยวนและร่างกายของคนที่เขาต้องการได้นานแค่ไหนกัน เอสใช้สายตามองต่ำลงที่เป้าตัวเองนั่นทำให้แคปต้องมาองตามมันอย่างช่วยไม่ได้ พอนึกได้ว่าตัวเองมองตามมันลงมาทำไมแล้วพาลหงุดหงิด

ติ๊ง~

โชคดีจริง ๆ ที่ลิฟต์วิ่งมาถึงชั้นที่ต้องการได้เร็ว แคปผลักไอ้คนที่มันกักตัวเขาไว้ออกแล้วเดินทึ้งหัวหน้าบูดบู้อกจากลิฟต์  “ฮึ่ยยยยย..” เขาทาบการ์ดก่อนผลักบานประตูเข้าไป หันมามองไอ้คนที่กำลังเดินอมยิ้มอารมณ์ดีตามมาแล้วยิ่งหงุดหงิดเป็นสองเท่า

“ไปอาบน้ำเลยไอ้สัส เอาลูกชายมึงลงให้เรียบร้อยด้วยนะ อย่าให้ต้องมาเดือดร้อนคนอื่นมากนัก..” แคปเข้าไปคว้าเอาผ้าเช็ดตัวออกมาโยนใส่หัวมันแรงๆ เอสรับเอาไว้แล้วเลิกคิ้วถาม

“.........”

“อะไร! จะมีปัญหาอะไรอีก” แคปเห็นคนที่ยืนจ้องตัวเองทำหน้าสงสัยก็โมโหขึ้นอีก

“เข้าไปอาบด้วยกัน..” เอสบอกขึ้น เขาก้าวเข้ามาฉวยเอาข้อมือเล็กไว้

“ไม่เอา” แคปชิงว่าขึ้นทันที ใบหน้าเล็กยุ่งเหยิงบิดมือตัวเองออกอย่างแรงจนเอสต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าวมองดูคนที่ตั้งท่าจะว่าจะด่าเขาอีก

“กะ...กูมีบางอย่างต้องทำเดี๋ยวมึงอาบข้างในกูจะใช้ห้องน้ำด้านนอก ไว้ค่อยออกมาเจอกัน” พอเห็นเอสตั้งท่าเอาจริงแบบนั้น แคปเองก็ต้องถอยเหมือนกัน

“........”สายตาคมกริบจ้องคนตรงข้ามนิ่งงัน

“ยะ..อย่ามาเรื่องมาก กูเองก็มีเรื่องที่กูต้องคิดหลายอย่างเดี๋ยวมึงออกมาก็รู้เอง ขอเวลากูหน่อย”

“กูให้เวลามึงมาเดือนนึงแล้วแคป”

“อีกสามสิบนาทีมึงต้องทนให้ได้ ต่างคนต่างแยกกันอาบแล้วค่อยออกมาเจอกัน” ต่างคนต่างจ้องหน้ากันวัดใจ จนเอสต้องเป็นฝ่ายถอนหายใจแรง ๆ

“ก็ได้ แต่อย่ามาลวดลายกับกูนะแคป ถ้าหนีกูจะเอามึงมาฟัดบนรถต่อหน้าธารกำนันเลยคอยดู”

“มึงใช้คำได้เชยมาก”

“........”

“จะจริงจังไปไหนเล่า!  กูไม่หนีหรอกน่า..” เพราะว่าหน้าคนฟังเครียดขึงขึ้นมาแคปเห็นแบบนั้นแล้วนึกอยากจะเข้าไปฟาดมันสักครั้งนัก คิดได้ไงว่าเขาจะเล่นตุกติก นัดแล้วคนอย่างแคปไม่เคยผิดคำพูดครับบอกเลย

“ยี่สิบนาที กูให้ได้แค่นั้น..” เอสบอกออกมาเรียบๆ สายตาคมกริบยังจริงจังจนน่ากลัว

“ชิ..” แคปหน้ายุ่งสบถในคอออกมาก่อนมองตามเรือนร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้าห้องเขาไปแล้ว พอเสียงปิดประตูห้องอาบน้ำด้านในดังออกมาแรง ๆ เหมือนมันจะทำสัญญาณบอกให้เขารู้ แคปรีบวิ่งเข้าห้องปอคว้าเอาผ้าเช็ดตัวที่ทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนถลาเข้าไปอาบน้ำที่ห้องเล็กแบบติดเทอร์โบ แค่ห้านาทีไม่ต้องล้างอะไรมากมายหรอกสบู่ก็ไม่ต้องถูช่างแม่ง มีอีกหลายอย่างที่ต้องเตรียมพร้อม แคปรีบพันผ้าเช็ดตัววิ่งออกมาด้านนอก

ขณะที่ทางฝ่ายเอสยังผิวปากอารมณ์ดีฮัมท่วงทำนองเพลงฝรั่งที่เขาชอบอยู่ภายใต้ฝักบัวเย็นฉ่ำ มือใหญ่ลูบครีมอาบน้ำกลิ่นหอมไปทั่วทั้งผิวกาย เส้นผมสีดำคลับนิ่มสวยถูกหยดน้ำเกาะพราวไม่ต่างจากแผงอกแข็งแรงที่ดูแกร่งกร้าน สมส่วนไร้ที่ติ รูปร่างของเขาที่สาว ๆทั่วมหาลัยต่างกล่าวถึง


                    “หูยยยยหล่อว่ะ รูปร่างดีเว่อร์ แบดบอยสุดๆ เนื้อคู่ชัดๆ”


ถ้อยคำคุ้นหูที่ได้ยินอยู่เป็นประจำ หึหึ  เอาล่ะวะ..วันนี้ที่รอคอยในที่สุดก็มาถึงเสียทีต่อไปมีเมียผู้ชายเป็นตัวเป็นตนสาวๆที่ไหนจะมาชื่นชมแบบนี้อีกบ้าง....มือหน้าหมุนปิดฝักบัว ท่อนขาแข็งแรงก้าวออกมาจากห้องกระจกที่กั้นไว้สำหรับอาบน้ำก่อนคว้าเอาผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดมาพันท่อนล่างไว้ สะบัดเส้นผมไล่ละอองน้ำที่ยังตกค้าง ทุกอย่างสำหรับตอนนี้โอเคมากๆ เขามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ นึกถึงว่าป่านนี้คนด้านนอกจะทำอะไรแบบไหนอยู่

“หึ...” ริมฝีปากหยักยกยิ้มพออกพอใจ เมื่อนึกถึงว่าคนอย่างแคปไม่มีทางยอมเขาได้แบบง่าย ๆ คืนนี้ต้องมีเจ็บตัวกันอยู่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเวลามันตีเขาหรือพ่นคำด่าออกมาราวกับว่าเป็นการปลุกสัญชาตญาณอารมณ์ดิบของเขาให้ขึ้นมาจากหลุมดำสนิทที่มีอยู่ในตัวมากกว่า ซึ่งเรื่องนั้นแคปไม่มีวันรู้

ทันทีที่เดินพ้นออกจาห้องน้ำมากลิ่นเทียนหอมแบบห้องทำสปาลอยเข้ามาแตะจมูก ไฟในห้องถูกเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อนๆหรี่ขึ้นแล้ว บรรยากาศรอบตัวที่ว่าดีแล้วมันยังไม่เท่ากับคนที่นั่งรอเขาอยู่ที่ปลายเตียง เปลือยท่อนบนขณะที่สวมใส่ไว้แต่บ็อคเซอร์รัดรูปแค่ตัวเดียว

แคปมันกำลังจะทำให้เขาเป็นบ้าแน่ ๆ ไม่ใช่อะไรหรอกนะ คุณอย่าคิดว่ามันนั่งมองแล้วทำหน้าเชิญชวนเขาอยู่เพราะว่าตอนนี้มันนั่งหันหลังให้ตาจ้องทีวี ที่สำคัญไอ้สิ่งที่อยู่ในทีวีดันเป็นหนังแบบนี้...

“ฮ.อ๊ า ซี๊ดส์ อ๊ะ อ๊าา ฮ.อึ๊กก อื๊อออ ฮ้าา สุดยอดดด ที่รักขา เร็วๆเลยแรงอีก ขอแรงอีกซอยอีกรัวๆเลยโอ๊ยจะไปแล้ว ฮ๊าา อ๊าส์ๆๆๆ.....”

ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวนั่งลงที่ด้านหลัง เขาเอนตัวพิงกับพนักหัวเตียงไว้ยืดขาไปสะกิดเรียก แต่แคปมันตั้งอกตั้งใจดูดีมาก เอสจึงปล่อยให้ดูไปก่อน เขาเข้าใจบางทีคนเราก็ต้องสร้างอารมณ์ร่วมขึ้นมาเองเหมือนกัน สายตาคมกริบเบนไปที่จอภาพขนาดใหญ่ มันเป็นหนังรักชายหญิงกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอย่างถึงพริกถึงขิง อย่าถามว่าทำไมต้องเป็นหนังชายหญิง เขาเองก็เหมือนกับมันจะให้มานั่งดูชายกับชายทำอะไรกันมันยังไม่ใช่อ่ะ เรือนร่างผู้ชายที่เขาต้องการมีแค่คนเดียวจะให้ไปดูคนอื่นถูกทำมันยังไงบอกไม่ถูก เอสก็นังดูไปเรื่อยๆสักพักกำลังจะเปลี่ยนคู่จอทีวีพลันดับวูบลง

พรึ่บ!!

แคปลุกพรวดขึ้นจากปลายเตียงหันมายืนจ้องหน้าคนที่นอนจ้องเขาอยู่ด้วยสายตากรุ้มกริ่ม รู้สึกอายเล็กน้อยแต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน ยังมีหลายอย่างที่เขาต้องทำ เขาโยนรีโมททิ้งอย่างไม่ไยดี

“เตรียมตัวดีมาก จุดเทียนหอม หรี่ไฟรอ ที่สำคัญชุดที่มึงใส่อยู่ตอนนี้เร้าอารมณ์กูดีจริงๆแคป..” เสียงทุ้มแหบพร่าว่ายิ้ม ๆ  ขณะที่แคปไล่สายตามองไปที่คนเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนดี ๆ อีกครั้ง ลูกชายมันตื่นแล้วแน่นอนที่สุดดันจนผ้าเช็ดตัวพุ่งออกมาขนาดนั้น แค่มันดูหนังโป๊กับเขาเมื่อกี้หรือแค่มันเห็นเขานั่งถอดทุกๆอย่างรอ อันนี้ยังยืนยันไม่ได้แต่อย่างน้อยเขาก็ยังสวมบ็อคเซอร์ล่ะวะ

“.............” เอสเลิกคิ้วสูงมองคนที่ยืนจ้องหน้าเขาอยู่ แคปมันทำท่าเหมือนมีบางอย่างอยากจะพูด

“มีข้อตกลงก่อนทำ”

“ว่า.....”

แคปเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้ากระชากลิ้นชักเล็กๆที่อยู่ด้านในออกมาเทบางอย่างสาดพรวดลงบนที่นอนเอสที่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่ถึงกับลุกขึ้นนั่งดูจนตาโต

“อะไรของมึงวะแคป” เอสถามหน้าตาตื่น

“ถุงยางไง” แคปตอบเรียบ ๆ

“ก็รู้ว่าถุงยาง แต่อะไรมันจะเยอะแยะแบบนี้วะ มึงจะให้กูใช้วันเดียวหมดนี่น่ะเรอะ”

“มึงฝันเอาสิไอ้สัส เลือกออกมา!” แคปกระแทกเสียงสั่ง ขณะที่เอสมองลงมาในสิ่งที่มันเทออกมาให้ ถุงยางสีสันต่าง ๆ มากมายหลายสิบแบบทั้งกล่องทั้งไม่กล่อง คิดว่าน่าจะเป็นของสะสม เพราะเท่าที่ดูๆก็นาจะมีของจากต่างประเทศรวมๆอยู่ด้วยเยอะเหมือนกัน

“ไปเอามาจากไหนนักหนาเนี่ย สะสมของแปลกๆนะชอบทางนี้เหรอเรา”

“เรื่องของกูเหอะ หยิบออกมาเสียที”

“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากใช้..”เอสส่ายหัว เขาเอาสองมือสอดหนุนศีรษะตัวเองทำท่าจะเอนตัวนอนลง แคปรีบก้าวเข้าไปดึงแขนมันไว้ก่อน

“ไม่ได้ มึงต้องใช้ เลือกออกมาให้กู” แคปทำหน้าตาจริงจังจนเอสนิ่งไปพักนึง จากนั้นเขาคว้าเอามาแบบมั่วๆตัดรำคาญ

“อันเดียว?!” แคปถาม

“..........” เอสมองหน้าแต่ยังไม่ได้ตอบ สองคนจ้องกันและกัน

“เรื่องของมึง ตามใจ..” แคปกำลังจะรวบถุงยางที่เทออกมาใส่กล่องไว้คืน แต่เอสเอามือตะปบกองไว้ก่อน

“ลิมิตเท่าไหร่” เสียงทุ้มถามออกมา ดวงตาสีดำสนิทจ้องนิ่ง

“..........”

“แคป”

“สาม”

ทันทีที่คำว่าสามหลุดจากปากเอสใช้ความรวดเร็วคว้าหมับท่อนแขนเล็กกระชากครั้งเดียวแคปถลาขึ้นมานั่งคร่อมลงที่ตักเขาทันที

“ไอ้สัสกูตกใจ เดี๋ยวเก็บของก่อนสิ”

“ไม่รอแล้วเดี๋ยวลูกชายกูหลับก่อน มัวแต่คุยหมดอารมณ์” เอสเอาเท้าเขี่ยของที่แคปมันบอกจะเก็บครั้งเดียวหล่นกรูลงที่พื้น

“หมดอารมณ์ก็ไม่ต้องทำ มึงอยากหลับก็นอนไปเลย”

“อย่ามายั่วกูนะ รู้อยู่แล้วว่ากูรออะไรยังจะมาลีลามากเรื่อง แล้วไอ้ถุงยางนี่ก็เหมือนกัน ไม่ใช้กูบอกเลย”

“ไอ้สัสไม่ใช้กูไม่ทำ”

“ทำไม”

“กูไม่ไว้ใจมึงไม่รู้ไปนอนกับใครหน้าไหนมาบ้าง”

“อย่ามาดูถูกกันแคป คนสุดท้ายที่กูนอนด้วยก็คือคนที่กูบอกจะคบด้วยสามเดือนที่แล้ว มึงคนเดียว! หรือว่ามึงไม่ไว้ใจตัวเองแล้วมาพาลกูอย่าบอกนะว่าแอบไปเอากับใครหน้าไหน”

เพี๊ยะ!

“ปากหมาสัส”

“ก็แล้วพูดทำไมล่ะ”

“นี่เราจะทะเลาะกันใช่ไหม”

“เออเอาไหมล่ะแบบนั้นน่ะ”

“ปากดีนักนะมึง”

“อื๊ออออ....”

สุดท้ายโดนเอสล็อคคอแล้วกดลงไปรับจูบหนักหน่วงอีกเหมือนเดิม แคปร้องอื้อๆๆอยู่นานจนสุดท้ายเขายอมถอนริมฝีปากออกมาเสียงดูดมุมปากเล็กดังจ๊วบ แคปฟาดผั๊วะลงแบบไม่มียั้ง

“เพี๊ยะ! ไอ้สัส โรคจิต”

“ชู่วว นิ่ง ๆ จะเริ่มแล้ว” เอสคว้าเอาข้อมือขาวไว้ได้ เขาใช้สายตาคมกริบล็อคดวงตากลมโตของแคปไว้ด้วยนัยน์ตาที่เว้าวอน แคปนิ่งเงียบไปขณะที่ฝ่ามือใหญ่เลื่อนเข้ามาประคองใบหน้าเล็กให้โน้มเข้ามารับจูบดูดื่มจากเขา เสียงริมฝีปากบดขยี้ดังเล็ดลอดออกมาจากห้องที่มีแสงสีส้มรำไร ชายผ้าม่านโบกปลิวด้วยสายลมแห่งความโหยหาและการรอคอย ทุกๆอย่างกำลังเริ่มต้นขึ้นราวกับลมพายุที่เย็นฉ่ำกำลังพัดพาสายฝนสาดเทเข้ามาในเกลียวคลื่นแห่งอารมณ์เสน่หา สองร่างเปลือยเปล่าตระคองกอดกันอยู่บนเตียงกว้าง

แต่ทว่า...

มันดูเหมือนมีบางอย่างผิดพลาดอยู่...

“ช้าๆหน่อยไอ้สัส มึงจะมูมมามไปไหนห๊ะ!” แคปด่าขึ้นมา เอียงคอหลบจูบที่พัวพัน 

“มึงลองมาเป็นอย่างกูดูแล้วจะรู้ว่าทำไมกูถึงต้องมูมมามแบบนี้ คนอดทนมาตั้งสามเดือนมึงจะให้กูค่อยๆละเลียดกินแบบนั้นไม่ไหวหรอกนะ..” เอสเองก็พูดทั้งที่ยังระดมจูบลงไปอยู่ไม่มีหยุด  คนปัดป้องก็ปัดไป เขาซุกไซ้อย่างเดียว

“ไอ้คนปากดี มึงมันบ้าไปแล้ว อ๊ากกกก อย่ากัดกูนะบอกไว้ก่อนเลย”

“ยังไม่ได้กัดเลย นี่แค่จูบ”

“แค่จูบก็เหมือนกัน มึงห้ามทำสิวะ”

“ห้ามจูบแล้วจะเอากันได้ยังไงเสียบอย่างเดียวแบบนั้นเรอะ?” เอสนึกโมโหเงยหน้าขึ้นมาถาม แคปอ้ำอึ้งพูดต่อไม่ออก

“อ่ะ...อึกก...ไอ้สัส!” นึกอะไรไม่ได้ก็ด่าคำนี้ไว้ก่อน

“อย่ามาพูดมาก มึงเก็บเสียงไว้ร้องครางอย่างเดียวจบ เรื่องอื่นกูจัดการเองนอนหลับตานิ่ง ๆ ทำตัวเป็นท่อนไม้ไปเลยก็ได้”

“.........” แคปนิ่งเงียบไปนึกตามคำพูดมันอยู่ มันว่าเขาเป็นท่อนไม้รึ หนอยยยยไอ้สัสกูไม่ใช่ท่อนไม้ว๊อยยยยยเสียศักดิ์ศรีกูเป็นบ้า ท่อนไม้บ้านมึงสิรูปร่างสวยงามแบบกูมึงเรียกท่อนไม้ สันขวานเดี๋ยวกูจะเอากิ่งไม้กลางลำต้นยัดปากมึงเลยคอยดู พอนึกได้แบบนั้นแคปพลิกตัวขึ้นได้ในทันที เอสงงเป็นไก่ตาแตกเขากำลังจะจูบลงที่สองเต้าชูช่อล่อหน้าล่อตาเขาแล้ว อารามไม่ทันได้ตั้งตัวเจอมันพลิกกลับซะอย่างนั้น ตอนนี้แคปจึงอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบคร่อมเอวหนาเอาไว้อยู่

“อะไร มึงจะขย่มกูเหรอ...” เอสมองแล้วถามขึ้นยิ้ม ๆ เพราะเห็นว่าแคปกำลังใช้สายตาโลมเลียตัวเขาอยู่ เช่นกัน

“กูไม่ใช่ท่อนไม้!” แคปว่าจริงจัง

“เรอะ...ไม่ใช่จริงดิ”

“กูบอกว่ากูไม่ใช่ท่อนไม้!!” แคปย้ำขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง ขณะที่เอสยังแสยะรอยยิ้ม  “ถ้าไม่ใช่ท่อนไม้แล้วมึงเป็นอะไร”

“.....อึ่กก....”

“ตอบไม่ได้งั้นก็เป็นท่อนไม้ไปนะ”

“กูจะเอามึง..”เสียงเล็กแตกพร่าว่าจริงจัง เอสเลิกคิ้วนิดๆ

“ขำว่ะแคป ต่อเลยมา..” เขาว่าแล้วดึงแขนเล็กลงมาแคปรีบเอามือยันหน้าอกแข็งแรงนั่นไว้ “ครั้งที่แล้วมึงได้กูแล้วครั้งนี้มึงต้องให้กูเอาสิ” แคปต่อรองอีก

“มึงรู้อยู่แล้วว่ากูจะตอบยังไง อย่ามาเรื่องมากก้มลงมาต่อกันเลย...”

“ไม่เอา!”เสียงเล็กร้องลั่น

“แคป” เอสขยับตัวขึ้นมานั่งพิงหลังเข้ากับพนักเตียงดี ๆ สองมือลูบต้นขาอ่อนขาวเนียนของคนที่นั่งคร่อมหน้าท้องเขาอยู่

“กูไม่ใช่ท่อนไม้ กูไม่อยู่ข้างล่าง แล้วกูก็ไม่ใช่ผู้หญิงของมึงด้วย”

“..........” คราวนี้เอสถึงกับชะงักไปกับคำพูดแบบนั้น สองคนยังคงจ้องหน้ากันชั่วขณะ จนในที่สุดใบหน้าคมพยักเบา ๆ

“โอเคมึงไม่อยากอยู่ข้างล่าง ไม่อยากทำตัวเหมือนท่อนไม้ ไม่ยอมเป็นแบบผู้หญิง เพราะงั้นมีทางเดียว..”

“อะไร”

“มึงคิดสิ”

“กูกำลังคิด”

“คิดออกหรือยัง”

“.........”

“แคป?”

“กูจะขึ้นเอง กูจะเป็นคาวบอย”

“.....!!!!.....” ใจเอสเต้นดังโครมใหญ่จนแทบจะหลุดออกมากองอยู่ข้างนอก เขาอ้าปากค้างกับคำพูดตรงไปตรงมาของคนที่นั่งคร่อมเขาอยู่ตอนนี้

“อะ..โอเค  มึงอยากเป็นคาวบอย”

“มึงอยู่เฉยๆ ทุกอย่างกูจัดการเองได้” แคปว่าพร้อมผลักเอสให้นอนลงดี ๆ แต่อีกคนก็แค่ขอดูเชิง เอสยังกึ่งนั่งกึ่งนอนเอนตัวมองดูคนที่กำลังซุกไซ้ลงมาแถวซอกคอกับลาดไหล่เขาอยู่ คณะที่แคปหลับหูหลับตาลุยสุดฤทธิ์ ถึงไม่เคยทำกับผู้ชายมาก่อนประสบการณ์มีแค่ครั้งเดียวคือกับมันก่อนหน้านี้แต่แคปเองก็ไม่ใช่ว่าบริสุทธิ์ไร้เดียงสาหรอก แหม่ เรื่องแบบนี้มันต้องมีประสบการณ์มาก่อนแล้วทั้งนั้น แต่โดนกอดกับเป็นฝ่ายกอดเองนี่ก็ต่างกันอยู่ เขาไม่ชอบถูกกอดมีความรู้สึกเหมือนตกเป็นรอง เพราะอย่างนั้นเขาคิดว่าเปิดเกมส์อย่างเป็นทางการครั้งแรกเขาต้องเป็นฝ่ายทำ ถึงตอนสุดท้ายแล้วใครจะเป็นฝ่ายได้เข้าเส้นชัยก็ต้องลองดูกันสักตั้ง เขาฟิตมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ร่างกายแข็งแรงขนาดนี้ไอ้สัสเอสพลิกกลับไม่ได้ง่ายๆแน่นอน แคปนึกไปก็ไล่สัมผัสริมฝีปากแตะจูบลงทั่วถ้วนบริเวณหน้าอกหนาแข็งแกร่ง

“แคป...” เสียงทุ้มพร่าเรียกแผ่วเบา มือใหญ่สอดเข้าที่กลุ่มผมนุ่มดันหัวแคปให้เลื่อนลงจากแถวหน้าอกเขาที่มันวนเล่นวนดูดอยู่นานแล้ว เอสรู้สึกดีเพราะความเสียวกระสันแต่ยังคงเอนตัวสบาย ๆยกขายันที่นอนไว้หนึ่งข้างมองอีกคนที่กำลังละเลงปลายลิ้นเล็ก ๆ ไล้เลียลงไปชอนไชอยู่แถว ๆ ไรขนอ่อนที่หน้าท้องแข็งแรง เขาออกแรงดันศีรษะมันให้ต่ำลงไปอีกนิด เด้งสะโพกสวนขึ้นมาเต็มที่หวังว่าไอ้คนที่มันกำลังทำเขาบ้าสุดท้ายแล้วจะใช้ริมฝีปากนุ่มเข้าครอบครองกายแกร่งที่ผงาดเต็มอัตราศึกได้เสียที
แต่เปล่าเลย..แคปมันยังคงแกล้งวนเวียนเล่นอยู่แถวนั้นก่อนเลื่อนริมฝีปากขึ้นมาดูดดุนที่ยอดอก

พลั่ก!

ไวเหมือนโกหกเมื่อคนถูกสัมผัสเกินที่จะทนเขาจับสองไหล่เล็กแล้วพลิกตัวขึ้นอย่างง่ายดาย บัดนี้คนที่อยู่ในอ้อมกอดเขากลายเป็นคนที่บอกว่าจะผันตัวเองไปเป็นคาวบอย

“กะ...กู....” แคปพยายามที่จะพูดแต่ไม่รู้ทำไมถึงพูดไม่ออก

“คาวบอยไว้รอบสอง รอบแรกเดี๋ยวกูจัดการเองก่อน..” เสียงทุ้มพร่าออกคำสั่งเรียบ ๆแต่ดุดันแคปอ้าปากเงยหน้ามองตาโต

“ห๊ะ!” ใบหน้าเล็กซีดเผือด

“อย่าเสียวให้ดังนักล่ะ เกรงใจห้องข้าง ๆ มึงด้วยก็แล้วกัน...” เอสว่าแล้วซุกริมฝีปากลงดูดหนักๆที่ซอกคอขาวเนียนหนึ่งทีเป็นการประเดิมเจิมเชื้อไฟแห่งราคะ แคปร้องจ๊ากขึ้นมาฟาดฝ่ามือใส่ลงที่ต้นแขนแกร่ง

“กูไม่มีทางร้องหรอกมึงคอยดูเลยไอ้สัส!” ในที่สุดแคปคนเดิมก็กลับมาเสียที เอสลอบยิ้ม เงยหน้ามองคนที่นอนหน้าบูดบู้บ่นมุบมิบ เอื้อมมือไปบิดแก้มมันหนึ่งทีแล้วให้สัญญาณบอกจะเริ่มแล้ว แคปจิ๊ปากอย่างเสียไม่ได้หลับหูหับตาลง

และบัดนี้...ห้วงอารมณ์เสน่หาร้อนถูกจุดขึ้นแล้ว เปลวเพลิงสีฟ้าสดแผดเผาให้ห้องทั้งห้องกลายเป็นร้อนรุ่ม สองร่างกอดก่ายไม่มีใครยอมกันง่ายๆอยู่บนเตียงหนานุ่ม มือใหญ่เค้นคลึงสะโพกสวยขณะที่ริมฝีปากและเรียวลิ้นร้อนฉ่าเกี่ยวกระหวัดดูดดุนกันไม่ยอมหยุด ดวงตาคมกริบลอบมองเมื่อเขาไล่ริมฝีปากต่ำลงมา ร่างกายที่ดูสมส่วน กล้ามเนื้อได้รูปมัดเล็กที่ดูแกร่งกร้านสวยงามยั่วยวนใจได้อย่างน่าประหลาด ต้นคอที่โค้งลงมารับกับลาดไหล่เนียนสวย รวมถึงแผ่นหลังได้รูปยาวเป็นเส้นโค้งลงมาจรดสะโพกที่ตึงแน่นได้รูป ไร้ข้อตำหนิทั้ง ๆ ที่ไม่เคยระมัดระวังตัวเลยแท้ ๆ แต่ผิวพรรณกลับเนียนนุ่มหมดจรดเต่งตึง ยิ่งดูยิ่งเย้ายวนนัก ขนาดเขาที่ไม่เคยนิยมเรือนร่างผู้ชายมาก่อนยังอดไม่ได้ที่จะชื่นชม

“ยั่วกูขึ้นจริง ๆ นะแคป...” เสียงทุ้มต่ำพึมพำขึ้นเหมือนคนไร้สติ มือหนาบรรจงบีบคลึงสัมผัสผิวเนียนไปทั่วถ้วนทั้งเนื้อทั้งตัว ริมฝีปากไล่จุมพิตขบเม้มสร้างรอยสีแดงจางๆตีตราแสดงความเป็นเจ้าของลงทุกตารางนิ้ว หน้ามืดไปกับเรือนร่างที่เขากำลังจะเข้าครอบครอง

“อ่ะ! ไอ้สัสกูบอกว่าอย่ากัดไงห๊ะ..” แคปร้องออกมาเกือบทุกๆครั้งที่โดนดูด ขณะที่คนทำแอบหัวเราะเบา ๆ กับท่าทีผวากอดทุกครั้งที่โดนเขาสัมผัส

“หึ ไหนว่าจะไม่ร้องไง”

“กูร้องเพราะกูเจ็บหรอกไอ้สัส ไม่ใช่ร้องเพราะความเสียวเหี้ยไรสักหน่อย”

“จริงดิ..” เอสพูดจบก้มลงฝังเขี้ยวใส่เนินนมมันแรง ๆ หนึ่งที่แคปร้องจ๊ากขึ้นมาอีกครั้ง

“โอ๊ย!! กูเจ็บมึงบ้าไหมไอ้โรคจิต!”



ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1552 เมื่อ20-07-2015 22:04:39 »


https://www.youtube.com/v/O0RuKBFfD4w



“โอ๊ย!! กูเจ็บมึงบ้าไหมไอ้โรคจิต!”

รสจูบที่ทำให้ร่างบอบบางกว่าอ่อนระทวย จุมพิตที่แตกต่างจากทุกๆครั้งที่อีกฝ่ายเคยทำ แคปรู้สึกและสัมผัสมันได้ด้วยหัวใจ ราวกับแผ่นหนังที่ถูกกรอกลับมาฉายซ้ำอีก สัมผัสที่นานมาแล้วครั้งหนึ่งเขาเคยได้รับ คลับคล้ายคลับคลาว่าความอ่อนโยนแบบนี้เคยแตะต้องผิวกายที่ตรงไหน บัดนี้มันวนกลับมาฉายซ้ำอีกครั้ง เป็นคนๆเดิมที่กำลังบรรจงมอบความรู้สึกอ่อนโยนร้อนรุ่มให้เขาอยู่

“อ๊ะ...” แคปหลุดเสียงออกมานิดๆพอรู้สึกตัวได้ต้องรีบหุบปากลงอย่างเร็ว เสียงร้องน่าเกลียดแบบนี้ออกมาจากปากผู้ชายอย่างเขาได้อย่างไรกันนึกแล้วยิ่งโมโห มองเห็นคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาจูบเขาทั้งเนื้อทั้งตัว สัมผัสเร่าร้อนระคนอ่อนหวานที่กำลังถูกบรรจงทำมิอาจปฏิเสธได้เลยว่ามันทำให้เขามีความสุขล้นจนแทบขาดใจ ร่างกายแข็งแกร่งผึ่งผายจากด้านบนขยับลงมานอนตะแคงข้างกัน มือหนาจับไหล่เล็กให้เอียงตัวโดยที่เขาเข้าซ้อนทางด้านหลัง เอสก้มลงแตะริมฝีปากแผ่วกับลาดไหล่เนียนค่อยๆไล่ไปตามเรียวแขนสวยที่เกร็งขึ้นน้อย ๆ เพราะรสสัมผัสที่ถูกจู่โจมอยู่นานสองนาน

“กูจะรอฟังว่ามึงจะไม่ร้องได้จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า..” คนว่าพลิกตัวขึ้นมาด้านบนอีกครั้ง สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแววเสน่หายั่วยุอารมณ์คนฟังให้เพริดกระเจิง แคปกลั้นเสียงครางไว้ได้เขาเบะปากใส่อย่างลองดี สองมือจิกต้นแขนแกร่งไว้แน่นแล้วขยับริมฝีปากพูดแบบไร้เสียง “ไม่-มี-ทาง” ขณะที่ในใจเฝ้านึกภาวนาไม่ให้ตัวเองร้องคำว่าเสียวว๊อยยยออกมา เพราะขนาดแค่การเล้าโลมของมันเขายังเสียวจนแทบขาดใจ ถึงตอนที่มันลงมือจริงเขาคงต้องจิกเท้าเกร็งขาเพื่อนกลั้นเสียงน่าละอายให้ได้ถึงที่สุด แคปหลุบสายตาลงมองเมื่อเห็นคนที่เพิ่งพูดจากับเขาอยู่เคลื่อนตัวลงต่ำบนกึ่งกลางร่างกายเขาแล้ว หัวใจพลันเต้นโครมครามขึ้นมาเมื่อจู่ ๆ ท่อนขาเล็กถูกมือแข็งแรงดันให้แยกห่างออกจากกัน  ดวงตาคมกริบจับจ้องแน่นิ่งอยู่ที่ลูกชายคนดีของเขายาวไปจนถึงช่องทางด้านหลัง

“ไอ้สัส อย่ามองนะ!” แคปแว๊ดขึ้นมาหน้าร้อนฉ่า ถึงห้องจะมืดสลัวแต่แน่นอนว่าแสงไฟหรี่สีส้มอ่อนยังคงถูกเปิดเอาไว้ ใบหน้านวลเนียนแดงก่ำไปด้วยพิษของสัมผัสร้าย แคปดิ้นแถกพยายามจะหุบเรียวขาเข้าหากัน อายจนไม่รู้จะทำอย่างไรเมื่อเห็นว่าสายตาคมกลับทอดนิ่งมองสิ่งที่เขาโคตรจะหวงแหนมากที่สุดในชีวิตด้วยดวงตาที่หลงใหล

“ทำไมล่ะ..” เสียงทุ้มพร่าตอบมาแค่นั้น เขาไม่ใช่แค่ไม่ยอมให้แคปหุบขาอย่างที่ตั้งใจ แต่มือสองข้างกลับจับแยกให้กว้างขึ้นไปอีก กว้างขึ้นจนเขาสามารถเชยชมปราการด่านสุดท้ายที่อีกไม่กี่นาทีจะต้องถูกเขาเข้าครอบครองแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการกลืนกินตัวเขาเข้าไป

“อ๊ะ ไอ้สัส มึงมันบ้า!” แคปร้องออกมาอีกครั้ง เอสละสายตาออกมาพร้อมกับขยับลำตัวขึ้นมาจูบแลกลิ้นกันใหม่ ฝ่ามือใหญ่เลื่อนเข้าไปสัมผัสรูดรั้งให้เจ้าของมันได้กระตุกทุกครั้งที่เขารูดสาวจนอารมณ์กระเจิง

“อื๊อ...อึกก”

“ชอบใช่ไหม น้ำมึงทำมือกูเปียกไปหมดแล้ว..” เอสถอนริมฝีปากลงมาแตะจูบไล่ต่ำเป็นรอบที่สอง ต่ำลงและต่ำลงมาเรื่อย ๆ สะโพกเล็กบิดเกร็งด้วยความซ่านเสียว แคปจิกมือเข้ากับผ้าปูที่นอนนุ่มจนยับย่น ริมฝีปากร้ายที่ไล่คบเม้มสร้างหลักฐานรอยรักจูบแล้วดูดดุนเบาๆลงไปถึงส่วนที่สำคัญ ท่อนแขนแข็งแกร่งสอดเข้าที่ข้อพับขาวเนียนก่อนก้มบรรจงลงครอบครองแก่นกายที่ชูชันให้แคปได้สะดุ้งเฮือกกับรสสัมผัสที่ครอบบีบลงมา มันดีจนเขาต้องหลับตาพริ้มใช้ความรู้สึกต่อความรู้สึกรับรู้ เขาไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามองว่าอีกคนกำลังคิดจะทำบ้าอะไรต่อแล้ว เพราะว่าฤทธิ์ของความต้องการ ราคะและเสน่หา ทุกๆอย่างฉุดอารมณ์ผิดชอบชั่วดีฉีกทิ้งออกไปทั้งหมดสิ้น เสียงทุ้มแผ่วหวานดังครางเครือออกมาตามอารมณ์ความรู้สึก ปลายลิ้นร้ายกาจดูดดุนรูดรั้งขยับริมฝีปากที่ครอบครองจนคนถูกกระทำหน้าร้อนฉ่าตัวบิดเกร็งสองมือจิกลงที่เรือนผมนุ่มดำสนิทของคนที่กำลังตั้งอกตั้งใจตักตวงความหอมหวานจากร่างกายเขาอยู่  เพื่อระบายความเสียวซ่านของตัวเอง

“ไม่…ไหว….แล้ว….ไอ้…สัส...อืออออ” แคปพูดครางเครือแทบไม่เป็นภาษาขณะที่เอสยิ่งแกล้งเร่งจังหวะการครอบครอง เขารู้สึกได้ว่าแก่นกายเล็กร้อนผ่าวจนจะลวก เร่งอารมณ์ปรารถนาของคนได้เก่งนัก ออรัลด้วยการใช้ปากไม่ใช่ว่าไม่เคยทำกันมาก่อนแต่คราวนี้มันไม่เหมือนทุกๆครั้งแคปตัวเกร็งหายใจไม่ทั่วท้องมือเท้าจิกจนต้องรั้งร่างกายอีกคนไว้เพื่อระบายความอัดอั้น

“ทำ…เลย…ได้…ไหม...ไอ้...เหี้ย...อื้อออ~” เสียงกัดฟันพูดไม่เป็นภาษาดังต่อเนื่องมาอีก เอสเหมือนได้ยินคำอนุญาตจากสวรรค์ ปลายนิ้วแข็งแรงกรีดไล้ตรงรอยแยกของกลีบเนื้อนุ่มที่ช่องทางด้านหลัง แคปผวากอดสะดุ้งเฮือกขณะที่คนทำฉวยโอกาสใช้ช่วงเวลาและโอกาสนั้นกดปลายนิ้วจมลึกเข้าไป

“โอ๊ย!!!ไอ้โรคจิต กูหลุดไปได้วันนี้กูจะฆ่ามึงเลยมึงคอยดูนะไอ้เหี้ย ฮือๆๆๆๆๆ” แคปดิ้นต่อไม่ไหวเมื่อเอสเลื่อนตัวขึ้นมากอดเขาไว้แน่น ความอ่อนโยนช่างสวนทางกับปลายนิ้วแข็งแกร่งที่จู่โจมส่วนล่างต่อไม่ยอมหยุด แคปร้องครางฮือๆซุกหน้าลงกับอกกัดฟันอดทน ไม่ใช่ว่าร้องไห้แต่ร้องเพราะว่าเจ็บ เจ็บจนสุดที่จะทน เอสจับใบหน้าเล็กขึ้นมารับจูบปลอบขวัญ เขารู้ว่าเจ็บรู้ว่าอึดอัดแต่ถ้าเขาไม่ขยายส่วนนี้ไว้ก่อนอะไรๆมันจะเข้าไปไม่ได้ ถึงตอนนั้นยิ่งจะเจ็บกว่าเก่าไม่รู้กี่เท่า

“โอ๊ย!!!!ไอ้สัสพอเหอะพอกูไม่ไหวแล้วเหี้ย กูขอล่ะ พอแค่นี้ได้ไหม ตายแน่ ๆ กูต้องตายแน่ ๆ ตูดกูฉีกแล้ว เรื่องระดับชาติปัญหาระดับประเทศฮือๆๆๆๆ ทำไมต้องเป็นกูที่โดนทำด้วยวะ กูจะตายไหมกูถามมึงหน่อย กูจะตายวันนี้เลยใช่ไหม....”

เสียงด่าทอยังดังต่อไม่ขาดปาก เอสอดทนฟังคนที่กอดคอเขาไว้ตัวเกร็งแน่นจิกปลายเท้าแล้วสบถด่า เขารอจนทุกๆอย่างเข้าที่ในที่สุดเพิ่มนิ้วที่สองสอดแทรกลงไปคราวนี้เป็นแคปที่หลับตาพริ้มกัดฟันกรอดเสียงลอดออกมาจนเขาได้ยิน สัญชาตญาณของคนจะรู้ได้เองว่าควรจะผ่อนคลายช่องทางส่วนนั้นแบบไหน เขาก้มลงไปจูบปากมันอีกครั้งช่วยลดดีกรีความเจ็บและความเสียวซ่านลงให้ แต่ยอมรับเลยว่าตัวเองก็แทบจะไม่ไหวแล้วเช่นกันยิ่งเห็นท่าทางครางเครือด้วยความเจ็บปวดแบบนั้นของคนในอ้อมกอดที่เปลือยเปล่า ผิวเนื้อที่สัมผัสกันและกันอยู่ นิ้วแกร่งเริ่มขยับเข้าออกวนหาจุดกระสันเสียว ทันทีที่เขาคิดว่าเจอและน่าจะใช่แคปจะสะดุ้งผวาขึ้นมาแทบทุกครั้ง จากความคับแคบแปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนนุ่มยืดหยุ่น เขาใช้ความไวถอนนิ้วออกแล้วดึงไหล่เล็กให้ลุกขึ้นมา จากนั้นพลิกตัวแคปให้นอนคว่ำหน้าลงตัว ขยับลำตัวเข้าด้านหลังดึงสะโพกเนียนสวยให้ลอยเด่น แคปที่กำลังงุนงงอยู่ถึงกับตาค้างเมื่อสิ่งที่สะท้อนออกมาจากกระจกเงาบานที่ส่องอยู่ข้างเตียงสะท้อนภาพของร่างกายสูงใหญ่กำลังโน้นตัวลงมาทาบทับแผ่นหลังของเขาลงมา ในตอนนั้นเองที่มีบางสิ่งบางอย่างใหญ่โตอลังการกำลังสอดแทรกเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างดุดัน แคปผวาเฮือกใหญ่ มือสองข้างกำจิกที่นอนหนานุ่มพร้อมกับส่งเสียงร้องที่กลั้นเอาไว้ไม่ไหวอีกแล้วออกมา

“โอ๊ยยยย ไอ้เหี้ยเอสกูเจ็บบบบบบบบ แม่งเอ๊ยยยยกูเจ็บสาสสสสสสส”

“โทษที...กูไม่ไหวแล้วแคป” เอสโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบอยู่ข้างหู แคปหางตาซึมด้วยความเจ็บร้าวจากสิ่งแปลกปลอมที่สอดแทรกเข้ามา  “กูต้องการมึงแทบจะคลั่งตายอยู่แล้ว...” เสียงทุ้มต่ำว่าจบเขาเริ่มขยับตัวเพื่อจะส่งเจ้าลูกชายตัวใหญ่ของมันเข้ามาให้จมมิด แคปจิกหมอนยังไม่ทันใจทุบกำปั้นฟาดผั๊วะๆระบายความเจ็บร้าวลงที่เตียง ใบหน้าเล็กเบ้ออกมาเจ็บจนนึกอยากจะร้องไห้ แต่รับรู้ถึงแรงขยับของคนที่กอดเขาอยู่ มันเริ่มเร็วขึ้นคล่องขึ้นและในตอนนั้นเองที่แคปกลับรับรู้ได้ว่าช่องท้องวาบโหวงความรู้สึกขาวโพลนเหมือนดังได้ล่องลอยขึ้นสวรรค์ ความสุขที่เหมือนกับในตอนนั้น เขารับจังหวะจากคนที่คุมเกมส์ สะโพกสอบกระหน่ำรัวเข้ามาไม่หยุดเสียงครางเครือด้วยความเสียวซ่านกระสันของสองร่างดังไปทั่วทั้งห้องเล็กๆ กลิ่นลาเวนเดอร์จากเทียนหอมล่องลอยอบอวล เม็ดเหงื่อผุดพรายออกมาจากใบหน้าคม ซุ่มเสียงครางต่ำระบายปลดปล่อยเรือนกายสวยโยกรับกับจุดเชื่อมต่อที่ร้อนลวกเสียดสีราวกับเปลวเพลิงที่แผดเผา เนื้อกระทบเนื้อ พั่บๆๆดังลั่น แคปครางอู้วไม่สนใจใครหน้าไหนอีกแล้ว จังหวะทุกอย่างถูกเร่งเร้าให้เคลื่อนเข้าสู่จุดสูงสุดของมัน ร่างกายแข็งแกร่งเปลี่ยนท่วงท่าแต่ยังคงความเร็วของสะโพกไม่มีตก มือเล็กจิกแน่นเหงื่อกามไหลตกลงทั่วทั้งแผ่นหลังทั้งๆที่ห้องทั้งห้องเปิดแอร์เย็นเฉียบ สุดท้ายเมื่อทุกอย่างเข้าสู่จุดสูงสุดแห่งห้วงอารมณ์ฝ่ามือหนาเอื้อมสอดจากด้านหลังเข้าไปสัมผัสแก่นกายเล็กที่ชูชันพร้อมรับการปลดปล่อยเอสจับแล้วรูดรั้งบวกกับความดุดันที่ล่วงล้ำบุกรุกอยู่ที่ส่วนล่างถี่รัวไม่ยอมหยุด มือใหญ่อีกข้างที่ลูบไล้นวดคลึงบั้นท้ายอวบอิ่มอย่างนุ่มนวลเพื่อให้อีกคนผ่อนคลาย แคปเกร็งตัวจนสุดเมื่อทุกๆอย่างถูกดึงขึ้นไปสูงสุดจนแทบจะแตะเส้นขอบฟ้า ต่างคนต่างรู้สึกได้ตามสัญชาตญาณว่าอีกคนกำลังจะไปไม่รอช้า เอสเร่งจังหวะจากที่เร็วอยู่แล้วกระหน่ำซัดความดุดันแข็งแรงใส่เข้าไปอีก

“ซี๊ดดด อืมมม อ๊าา..ไอ้ฉิบหายกูเสียวเหี้ยๆเลย อื๊ออออออออ เร็วอีก เร็วๆกูจะฆ่ามึง กูไม่ไหวแล้วโอ๊ยกูเสียวววว เตียงกูหักแน่ๆเตียงกูหักแล้วแรงๆสิวะ อ๊าา โอ๊ยย  อ๊าสสสสสสสส”  ตายไหมกูวันนี้ นี่คือสิ่งที่แคปนึกได้

“หึหึ ชอบล่ะสิครางไม่ลืมหูลืมตาเลยนะมึง” เอสพูดเสียงเยาะเย้ยเต็มที่ก็ใครกันล่ะปากบอกไม่มีทางร้องไม่ร้องแน่ ๆ แล้วเมื่อกี้คืออะไรครางดังจนทะลุไปสามห้องแล้วยังไม่รู้ตัวอีก

“ซี๊ดดโอ๊ยยยกูไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว อ๊าา อย่าหยุดนะมึงกูจะฆ่ามึง เหยียบคอมึงให้จมลงตรงนี้เลยคอยดูเร็วๆ กูบอกให้เร็วเร๊ว!!” เอสน้อมรับคำสั่งเขากระแทกกระทั้นจนเตียงทั้งหลังสั่นคลอน

“เตียงกูหักแล้วไอ้เหี้ย เตียงกูจะหักแล้ว เตียงหักเตียงหักแน่ ๆ หักวันนี้แล้ว โอ๊ยยยยยกูเสียววววว๊อยยยยยย..”

“ไปพร้อมกูแคป..”

“ซี๊ดดดกูไม่ไหวแล้วจริงๆเอส อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊าา อ้าา  อ่าา....” เอสซอยถี่ยิบจนถึงวินาทีสุดท้าย เขาปล่อยมือออกจากกายร้อนของอีกคนเมื่อแก่นกายร้อนฉ่าของแคปพ่นหยาดน้ำขาวขุ่นพุ่งออกมาจนเต็มรักไม่ต่างจากเขาที่อัดฉีดธารน้ำสีขาวขุ่นร้อนลงไปในตัวอีกฝ่ายจนล้นไหลออกเยิ้มออกมาด้านนอก ร่างกายสูงใหญ่หอบจนตัวโยนไม่ต่างจากคนหมดเรี่ยวหมดแรงด้านล่าง แผงอกแกร่งกระเพื่อมขึ้นลงทาบทับลงไปที่แผ่นหลังเล็ก ฝ่ามือใหญ่เลื่อนเข้าไปกุมหลังมือเล็กทั้งที่ยังนอนทาบทับกันอยู่

“มึงไม่ได้ใช้ถุงยาง ไอ้คนชั่ว!” น้ำเสียงแคปช่างเหมือนคนเบะปากร้องไห้หนักๆนัก แต่มันไม่ได้ร้องหรอก เสียงอ่อนระโหยแบบนั้นเอง ถึงแบบนั้นก็ยังอยากจะด่า

“........”

“ลุกออกไปเลยตัวหนักฉิบหาย” แคปจะขยับกายแต่อีกคนยิ่งสอดมือกอดรัดไว้ไม่ยอมปล่อย เมื่อความอยากหมดไปความเจ็บและแสบที่ช่องทางคับแคบก็แล่นริ้วเข้ามา เอสยังไม่ยอมถอดถอนเรือนกายใหญ่โตของมันออก ยังฝังค้างอยู่แบบนั้น

“เอาออกจากตัวกูสิวะ” แคปพยายามจะหันไปบอกหากแต่อีกคนเอาแต่ระบายลมหายใจรวยรดอยู่แถว ๆ ซอกคอริมหูแล้วไล่ลงมาจรดริมฝีปากแผ่วเบาลงที่แผ่นหลัง

“ไม่มีทาง” ทันทีที่จบคำพูด สะโพกสอบขยับช้าๆเนิบ ๆ ขึ้นอีกครั้ง แคปที่นอนหมดแรงตาโตขึ้นมาราวกับรู่ชะตากรรม

“มะ...มึง” เขาหันไปมองไอ้คนที่ซบแผ่นหลังเขาอยู่ มันอมยิ้มนิดๆ ทิ้งตัวลงด้านข้างขณะที่มือกอดเอวเขาให้ขยับตะแคงไปด้วย

“กูไม่อิ่มง่าย ๆ บอกเลย”

“ห๊ะ...

“พรุ่งนี้มึงได้เปลี่ยนเตียงแน่ ๆ รู้ไว้แค่นั้น”

“.....!!!.....”

แล้วคืนนั้นก็ดำเนินต่อไปอีกสองรอบกว่าแคปจะได้เป็นคาวบอยสมใจ เอยอมให้ในรอบที่สาม

“กูไม่ไหวแล้วไอ้เหี้ย” เสียงแหบระโหยโรยแรงเอ่ยขึ้น ตอนนี้เขาถูกมันจับนั่งคร่อมตัวมันอยู่ เอสใช้สองมือนวดเฟ้นสะโพกกลมกลึงเล่น ดวงตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเล็กสีระเรื่อที่บัดนี้กลายเป็นคนของเขาโดยสมบูรณ์

“ร้องมากเสียงแหบเลยนะมึง”เขายื่นมือเข้ามาเสยเส้นผมที่ปรกลงมาระใบหน้าออกให้ ก่อนเลื่อนเข้ามาลูบแก้มเนียนเล่นแต่เจอแคปปัดออก

“ช่วยไม่ได้ กูเสียวสัส”

“หึหึ...”

ผั๊วะ!

“อย่ามาหัวเราะกูนะ!”

“ยกก้นขึ้นเร็ว แข็งอีกแล้วว่ะแม่ง มึงขึ้นนะคราวนี้”

“กูบอกว่ากูไม่ไหวแล้วมึงไม่ได้ฟังกันเลยดิห๊ะ”

“เออน่า...

เข็มวินาทียังคงเดินหน้าต่อไป ขณะที่เตียงหลังใหญ่สั่นสะท้าน ใบพลูด่างสีเขียวริมระเบียงสูงเกาะพราวไปด้วยหยาดน้ำค้างยามดึก ชั่วเวลาหนึ่งได้ผ่านพ้นไป ร่างขาวบางภายใต้ผ้าห่มนวมผืนหนานอนหลับใหลไม่ได้สติขณะที่อีกคนลุกขึ้นจากเตียงกว้างสวมใส่บ็อคเซ่อร์แบบรัดรูปก่อนคว้าเอากล่องบุหรี่กับไฟแช็คเลื่อนประตูระเบียงออกมายืนอยู่ในความมืด..กลุ่มควันสีขาวหม่นลอยคละคลุ้ง หากแต่ภายในหัวใจไม่ได้หมองหม่นตาม เอสทอดสายตาและอารมณ์ไปในจุดที่ไกลแสนไกล ทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผ่านมาเรื่องราวระหว่างเขากับแคป สามเดือนกว่า ๆ ที่เขากับมันรู้จักกัน คนที่เป็นทั้งศัตรู คู่อริ สุดท้ายกลับจบลงที่คำว่าผัวเมีย บุหรี่มวนที่สองถูกจุดขึ้นอีกเรียวนิ้วแข็งแกร่งคีบมันออกมาจากริมฝีปาก ไฟสีส้มดวงเล็กๆจากยอดตึกสูงชันที่ไหนสักแห่งกระพริบสลัว สายตาอ่อนโยนโฟกัสอยู่ที่ตรงนั้น

ครืดดดดด

เสียงบานประตูที่ด้านหลังเลื่อนออก ทำเอาคนที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดสะดุ้งตกใจ เขาหันกลับมามอง

“กูมีข้อตกลง” แคปที่อยู่ในชุดไม่ต่างจากเขายืนจ้องหน้าอยู่ระหว่างประตูบานนั้น เงาจากผนังอิฐริมระเบียงที่ทาบทับทำให้เขาไม่สามารถมองเห็นดวงหน้าที่ชัดเจนได้ ความรู้สึกอบอุ่นเกิดขึ้นในอกเมื่อมือใหญ่เลื่อนเข้าไปคว้าจับข้อมือเล็กแล้วดึงให้ออกมายืนหันหน้าเข้าหากันโดยที่เอสใช้ด้านหลังพิงขอบระเบียงสูง

“สูบบุหรี่ทำไม” แคปมองแล้วถาม เอสยกมือข้างที่คีบมวนไว้ขึ้นมาให้ดู เขาจ้องใบหน้าเล็กแน่นิ่งก่อนแสยะรอยยิ้มออกมาหากแต่ไม่ได้พูดอะไร

“กลุ้มใจ?” แคปถามขึ้นอีก คราวนี้คนฟังถึงกับเลิกคิ้ว

“ทำไมต้องกลุ้มใจ” เขาถามกลับเรียบๆ

แคปยักไหล่ไม่รู้จะตอบคำถามของมันว่าอย่างไรดี คนสูบบุหรี่ถ้าไม่กลุ้มใจเกินเหตุก็สบายใจอารมณ์ดีสูบเพราะติดมีอยู่แค่นั้น

“คิดอะไรไปถึงไหนน่ะหื้ม..” เขาดึงแคปให้ชิดเข้ามาอีก ใช้มือข้างที่คีบบุหรี่ไว้สอดเข้าไปในกลุ่มผมนุ่มหนาก่อนล็อคเข้าที่ต้นคอขาวเหมือนอย่างทุกครั้ง ริมฝีปากหยักจะโน้มเข้ามาจูบแต่แคปดันไหล่เอาไว้

“ตรงนี้ไม่ได้..”

“นิดเดียว..” เอสแตะจูบรวดเร็วเข้าที่มุมปากเล็กก่อนละใบหน้าคมออกมาแล้วดึงมือแคปบอกให้ก้าวมายืนอยู่ข้างกัน สองคนประสานลมหายใจไปกับความเงียบและความมืดเท้าสองแขนเข้ากับขอบระเบียงทอดสายตาไปในที่ๆไกลแสนไกล

“ไหนว่ามีข้อตกลง มันคืออะไร” เอสพ่นควันกลุ่มหนึ่งออกมาด้วยท่าทีสบาย ๆ ก่อนหันมาถามคนข้าง ๆ แคปนิ่งไปนิดๆชั่งใจแล้วหันมาสบสายตา

“เรื่องของเราสองคน...”

“ใช่ เรื่องของเราสองคน แล้วมันคือเรื่องอะไร” เอสว่า

“ก็เรื่องของเราไง กูกับมึงได้กันแล้วยังต้องให้กูพูดมากทำไมอีก”

“เรื่องนั้นน่ะรู้อยู่แล้วล่ะ แล้วอะไรที่มึงต้องการจะบอก”

“มึงบอกออกมาก่อน”

“บอกอะไรแคป กูบอกตอนไหนว่ามีเรื่องจะบอก”

“เอ๊ะ กูบอกให้บอกมึงก็บอกออกมาสิวะ มึงได้กูแล้วมีอะไรจะพูดรีบพูดออกมาให้หมดเลย”

“........”

“อย่ามาทำเป็นยืนเฉย เราสองคนนอนด้วยกันแล้วขนาดกูยังมีเรื่องต้องบอกกับมึงไว้ก่อนเพราะฉะนั้นมึงเองก็ต้องมีเรื่องราวบอกกับกูเหมือนกัน”

“เรื่องเกี่ยวกับอะไรวะแคป กูงงนะเนี่ย”

“........” พูดกันไม่เข้าใจแคปยืนจ้องตาแม่งเลย เอสเองก็จ้องตอบพยายามจะทำความเข้าใจความหายของมันที่ต้องการจะสื่อ

“นึกออกหรือยังมึงมีเรื่องอะไรอยากบอกกับกูพูดมาตอนนี้ให้หมด”

“เข้าใจล่ะ..” เอสพยักหน้าเพิ่งเก็ตตอนที่มันบอกล่าสุดนี่แหละ

“รออยู่นี่เดี๋ยวออกมา” เขาวางมือลงที่ไหล่เล็กเบา ๆ ก่อนเดินหายเข้าไปด้านในครู่เดียวเท่านั้นก็เดินออกมา

“อะไร?” แคปมองสำรวจ นึกสงสัยว่ามันเข้าไปทำอะไร

“เปล่า เอสพิงขอบระเบียงสูงไว้อย่างเดิม เขาทอดสายตามองไปในที่ไกล ๆ

“บอกมาได้หรือยังเรื่องของมึง”

“มึงบอกก่อนก็ได้นะ”

“ไม่ได้! มึงต้องเป็นฝ่ายพูดก่อน กูจะพิจารณาว่าเรื่องของมึงกูรับได้ไหม ถ้ารับไม่ได้มึงไม่ผ่าน เรื่องของกูจะได้ไม่ต้องพูดให้เสียเวลา”

“อะไรเนี่ย จริงจังขนาดนั้น” เอสอัดบุหรี่เข้าปอดเบา ๆ ไปหนึ่งอึก ปล่อยควันสีขาวลอยคลุ้ง สายลมเอื่อย ๆ พัดผ่านเข้ามาเว้นผมสีอ่อนที่ตกระใบหน้าขาวถูกเขาใช้มือข้างที่คีบบุหรี่ไว้ปัดออกให้

“จริงจัง ตรงๆมาเลยเปิดใจของมึงซะ”

“โอเคงั้นฟังดีๆ กูเป็นคนเบื่อง่าย ยิ่งได้แล้วยิ่งไม่ค่อยสนใจ แต่ไหนแต่ไรคนที่กูได้ตัวไม่เกินสองเดือนทุกอย่างคือจบแล้วเลิกทันที เพราะงั้นที่ผ่านมาถือว่ามึงเป็นคนแรกที่แหกกฏของกูได้ ซ้ำยังเป็นผู้ชายด้วย บอกไว้ก่อนเลยว่ากูก็ยังเป็นแบบนี้ คนเดิมที่เคยรังแกมึงแบบไหนกูก็ยังคงทำแบบนั้น นอนกับกูแล้วอย่ามาคิดว่ากูจะดูแลเทคแคร์ดียิ่งกว่าเก่า กูวันนี้ก็ยังคงเป็นกูคนเดิมคนเดียวกับเมื่อวานและวันก่อนๆ เข้าใจสิ่งที่กูต้องการจะสื่อใช่ไหม..อย่าคิดมากเรื่องหญิงชายไม่ต้องเอาเข้ามาเกี่ยว จะแปลกอะไรถ้ากูรู้สึกดีด้วย บอกไว้เลยถ้ากูจะรักถึงมึงเป็นผู้ชายกูก็รัก

“.......!!!!!.........”

แคปยืนอึ้งฟังคนที่ร่ายคำพูดยาวเหยียดออกมาจากปาก ไม่น่าเชื่อว่าคนที่ไม่ค่อยจะพูดอะไรมากมายกลับสามารถพูดความในใจออกมาได้มากขนาดนี้ แล้วยังไอ้คำว่ารักอะไรของมันนั่นอีก บางทีมันอาจจะพูดผิด ไม่ก็เขาหูเฝื่อนไป

“แคป?”

“อืม กูเข้าใจ แบบนั้นก็ดี กูไม่ต้องคาดหวังอะไรเลยจากมึง เคยเป็นแบบไหนก็เป็นเหมือนเดิม ยิ่งได้แล้วยิ่งไม่ค่อยจะสน อย่างนั้นสินะ”

“ทางที่ดีอย่าได้คาดหวัง กูเป็นแค่ผู้ชายแข็งกระด้างคนนึง ที่ใช้การกระทำสื่อสารมากกว่าคำพูด”

“โอเคถ้างั้นมาฟังของกูกันบ้าง”

“ว่ามา..”

“นับจากวันนี้...มึงเป็นของกู ยิ่งได้แล้วกูยิ่งหวง มึงทำใจไว้ด้วย”

“......!!!!!!........” คราวนี้กลับเป็นเอสที่ยืนอึ้งไปกับถ้อยคำที่ได้ยิน

“กูเป็นคนหวงของ ขี้หึง รักแรงเกลียดแรง มึงเป็นของกูแล้วต้องรักกูแค่คนเดียวห้ามนอกใจเด็ดขาด บอกไว้ตรงนี้เลยว่าถ้ามีเรื่องมือที่สามเข้ามาให้กูลำบากใจแม้แต่ครั้งเดียว ทุกอย่างระหว่างเราคือจบไปเลย เรื่องเดียวเท่านั้นที่กูยอมรับไม่ได้ อดีตไม่สำคัญปัจจุบันคือกู จบ!”

“............”

“มึงเข้าใจที่พูดใช่ไหม”

“...........” ดวงตาคมกริบละออกจากดวงหน้าเล็กมองทอดออกไปในที่ๆแสนไกล หากแต่ไม่ยอมเอ่ยถ้อยคำอะไรต่อ ดับบุหรี่ที่เกือบจะหมดมวนลง แคปจึงยื่นซองที่ตั้งอยู่ฝั่งด้านนี้ส่งให้อีก

“กูจะเลิกสูบแล้วล่ะ เมื่อกี้คือมวนสุดท้าย”

“ทำไม..”แคปทำสีหน้าแปลกใจมองเสี้ยวหน้าของคนที่ยืนทอดสายตาออกไป ขณะที่เอสค่อย ๆ หันกลับมามอง

“คิดเอาสิว่าทำไม..” มือหนาคว้าเอาทั้งกล่องทั้งไฟแช็คทิ้งลงที่ถังขยะเล็ก  “สิ่งที่มึงพูดกูไม่สัญญาว่าจะทำให้ได้ ปัจจุบันคือมึงนั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องมือที่สามอาจจะไม่ได้มาจากแค่ทางกูฝ่ายเดียว ถ้าหากปัญหานี้มาจากทางด้านมึงล่ะ จะทำไง”

“กูคบใครคบทีล่ะคน”

“กูเองก็เหมือนกัน”

“แต่ว่ากู....

“ทุกอย่างอ่ะแคป เราอย่าไปกะเกณฑ์เลยนะ ทำวันต่อวันของเราให้มีความสุขไปด้วยกันดีกว่า ถ้าหากว่ามีปัญหาก็จับมือสู้ด้วยกัน อนาคตมันจะไปแน่นอนได้ยังไงกูไม่สามารถให้สัญญาได้ ลูกผู้ชายมันต้องวัดกันที่การกระทำสิวะ มึงเป็นแบบเดิมกูเองก็เป็นคนเดิม...” เอสดึงไหล่เล็กให้หันมาหาเขาดี ๆ สองคนจ้องตากัน ถ้อยคำนับร้อยพันความหมายถูกถ่ายทอดลงในดวงตาสองคู่นี้ราวกับเป็นคำสัญญาบนยอดตึกสูง

“ฟังดี ๆ มีอย่างเดียวเท่านั้นที่จะทำให้กูปล่อยมือจากมึงได้ วันไหนที่มึงแสดงออกว่าไม่รักกูแล้วนั่นแหละ..”

“เอ๊ะ  แต่กู....” แคปคิ้วมุ่นลงทันที เขาทำหน้านึกๆว่าตัวเองเคยบอกว่ารักมันไปตอนไหนวะ ก็แค่ความรู้สึกทีเลยเถิดมากไปหน่อย ก็แค่ความพลาดพลั้งที่เริ่มเปลี่ยนเป็นความตั้งใจ

คำว่ารัก?

“กูไม่เคยบอกคำนั้นกับมึงสักหน่อยเหอะ แล้วกูจะไปพูดคำว่าไม่รักออกมาได้ยังไงกันวะ”

“หึหึ..” เอสยิ้มกรุ่น เขาเลื่อนมือขึ้นมาปลดสร้อยเส้นเล็กที่เขาใส่ไว้ติดตัวเสมอออกมาร้อยเข้ากับของสิ่งหนึ่งที่เพิ่งเดินไปหยิบออกมาเมื่อตะกี้

เกียร์รุ่นสีทองอันเล็กๆ

เอสขยับเข้าไปใกล้แล้วคล้องสร้อยเส้นนั้นลงที่ลำคอของแคป คนที่ยืนแน่นิ่งราวกับรูปปั้นหินสลักเพราะคำพูดที่สะท้อนก้องอยู่ภายในใจจากไอ้พวกเพื่อนๆที่เคยว่ากันไว้ เกียร์อยู่ที่ใดใจอยู่ที่นั่น ถ้าหากไม่ใช่คนที่รักจริง ๆ จะไม่มีทางได้มาครองอย่างแน่นอน เอสสวมให้เสร็จเลื่อนมือเข้ามาจับดูที่ตัวเกียร์ซึ่งบัดนี้เลขรหัสที่แสดงตัวตนของเขาถูกแขวนอยู่บนลำคอของคนที่เขาตัดสินใจจะคบด้วยนับจากวันและเวลานี้


“วันไหนไม่รักกันแล้ว มึงค่อยคืนให้กู..”


.

.

.

.

.

.


“งั้นคืนให้วันนี้เลย...อ่ะ ถอดแบบไหนเนี่ย..” แคปทำท่าจะถอดจริงจังจนเอสยืนนิ่งอึ้งไป หัวใจหล่นวูบลงมาถึงตาตุ่มยอมรับตรงๆเลยว่าความรู้สึกร่วงหล่นลงมาแบบจริงจังมากๆ เขายังยืนนิ่งค้างอยู่แบบนั้นขณะที่แคปค่อยๆเงยหน้ามองเขาดี ๆ สองคนจึงจ้องตากันอีกรอบแต่คราวนี่กลับเป็นสองความหมายที่แตกต่าง ดวงตาคมกริบที่แฝงไปด้วยความน้อยใจตัดพ้อและต่อว่าขณะที่ดวงตาขี้เล่นของแคปที่กรุ้มกริ่มไปด้วยแววแห่งความขบขัน เล่นกับความรู้สึกของคนรู้ทั้งรู้ว่ามันแย่มากจริง ๆ แต่ช่วยไม่ได้วันนี้เอสมันทำเขาเจ็บหนักระบมไปหลายรอบเพราะงั้นขอเอาคืนสักดอกหน่อยก็แล้วกัน


.

.

.

.

.

.




“คืนเกียร์ไม่คืนใจมึงเคยได้ยินไหมล่ะ หึหึ”


“กวนตีนว่ะแคป ปากดีแบบนี้ต่ออีกสักรอบนะแล้วค่อยนอน” เอสยิ้มเหี้ยมทันทีที่ได้ยินรูปประโยคที่ถูกต่อให้สมบูรณ์ เขานึกหมั่นเขี้ยวมันจนนึกอยากจะจับกินแม่งตรงนี้ และเพราะว่าแคปมันขี้เล่นกวนตีนแบบนี้เขาถึงได้รู้สึกรัก

รัก?

ดวงตาคมทอดมองออกไปในที่ๆไกลสุดลูกหูลูกตา ดวงไฟส้มจากยอดตึกสูงชันที่ไหนสักแห่งทอแสงเป็นประกาย คำตอบอยู่ที่นั่น ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าหัวใจของเขาได้ถูกเติมเต็ม

“ไม่อ๊าววว มึงแม่งชอบรังแกกูจริงๆ ชั่วร้าย..” แคปวิ่งหน้าหราหลบฝ่ามือใหญ่ที่จะรั้งตัวเขาไว้ถลากระโดดขึ้นเตียง ขณะที่เอสกระโจนตามลงมา ผ้าห่มผืนโตถูกสะบัดออกอย่างไร้เยื่อไยไม่ต่างไปจากหมอนและหมอนข้าง

“เดทของเราวันนี้ขาดอยู่อย่างเดียวว่ะแคป”

“อะไร”

“เหลือขอมึงแต่งงาน..หึ กูขำ~”

“ไอ้สัส!” คนด่าหน้าร้อนฉ่า ฟังแล้วแทบร้องไห้ ขณะที่เอสกลับหัวเราะร่าขึ้นมาอีกครั้ง พูดแล้วก็ขำกับความคิดตัวเอง 

“คาปูชิโน่อร่อยที่สุด”

“อ๊ากกกกกกก เอสเพรสโซ่อย่างมึงโคตรจะจืดชืดเลย รสชาติห่วยแตก!!”

“หืม??”


เรื่องราวหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างคงไม่ต้องให้นึก~~








Tbc.

ฮึ่มมม เค้าก็เขียนเอ็นซีเป็นเหมือนกันนะเออ 5555( มินใสๆเด๊ะ~)  เขียนเอ็นซีมาแต่ละเรื่องคนล่ะอารมณ์กันทุกเรื่องเลย สำหรับคู่นี้เขียนยากมากจริงๆ ค่ะ มินพยายามเลี่ยงไม่เขียนตั้งแต่เขาได้กันครั้งแรก ถึงตอนที่ยี่สิบสองคงเลี่ยงไม่ได้อีกแล้ว จะจบภาคหนึ่งแล้วนะ สำหรับภาคนี้ก็ง่ายๆชิลๆไป คาดว่าภาคสองจะดราม่ากับเอ็นซีมาตลอดแน่ ๆ เพราะวัยทำงานแล้วค่ะจะทำอะไรก็ย่อมทำได้  แต่ว่าจะออกมาในรูปแบบไหนคอยตามมาอ่านกันนะคะ นิยายเรื่องนี้เขียนง่ายค่ะสบายๆ ว่างเมื่อไหร่ก็ค่อยมาเขียนไม่ต้องรีบร้อนลง เพราะงั้นมินมีความสุขมากอารมณ์ดี นักอ่านก็อ่านให้มีความสุขนะคะ

ขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ทิ้งเอาไว้ให้กันค่ะ  ขอบคุณที่คิดถึงกันเสมอ ขอบคุณที่คอยตามคอยเรียก รบกวนช่วยเอ็นดูเอสแคปต่อไปด้วย

ขอบคุณทุกท่านมากๆ

ปล.1 อาฟี่กับเฮียโก้ไม่ใช่เรื่องผิดศีลธรรมที่มินคิดจะเขียนหรอกค่ะ  เรื่องที่คิดไว้ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ถ้าเขียนออกมาได้จริงๆรบกวนตามไปอ่านกันด้วยนะคะ

ปล.2 เก็บไว้อ่านหลายวันนะคะ นักอ่านมินรอเก่งอยู่แล้วตอนหน้ารออีกนะ



ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1553 เมื่อ20-07-2015 22:07:28 »

 :a5:


“คาปูชิโน่อร่อยที่สุด” บางทีก็อยากลองชิมบ้าง *โดนพี่เอสกระทืบ*  :hao6:

ปล. อิจฉาแคปได้มั้ย พี่เอสรักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2015 01:14:40 โดย OrangeCaramel »

ออฟไลน์ Spelling_B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1554 เมื่อ20-07-2015 22:12:14 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด มาแล้ว :z3:

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1555 เมื่อ20-07-2015 22:14:16 »

อ้ากกกก. คาวบอยแคป

 :heaven 

แคปน่ารักมากๆเลยค่ะ ตลกแคปที่เตรียมตัวทุกอย่างมาดีแต่ลืมขยายช่องทางของตัวเอง 555
เอสเปรสโซ่แก้วนี้ค่อยๆจิบไปนานๆนะ เรื่องดราม่าเราว่ายังไงก็ได้แต่คู่นี้มันไม่เหมาะกับดราม่าจริงๆนั่นแหละ
แอคชั่นตุ้บตั้บเข้าท่ากว่าเยอะ  :mew1:  ขอบคุณมากๆค่ะยังไงก็รออ่านต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2015 15:43:47 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ Apple_matinie

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1556 เมื่อ20-07-2015 22:35:55 »

 :pig4:

ออฟไลน์ New_Tai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1557 เมื่อ20-07-2015 22:54:56 »

กรี้สสสสเอสแคปมาแล้วววว

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1558 เมื่อ20-07-2015 22:55:39 »

ตายๆ เป็นเอ็นซีที่ลุ้นขนาดว่าแคปคนดีมันจะไม่ทำล่ม

ออฟไลน์ mookiie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 70
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) 20/07/58 [....XXII....]
«ตอบ #1559 เมื่อ20-07-2015 23:02:42 »

ในที่สุดดดด >____<

อยากบอกว่าสิ่งหนึ่งที่ประทับใจตลอดเวลาที่ตามอ่านมาคือ
คนเขียนมาอัพสม่ำเสมอและมาแบบยาววววตลอดๆ ได้ใจจริงๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด