“บ้านมึง..หมายถึงบ้านเกิดมึงน่ะ เป็นยังไง?” มันยิ้มบางแล้วเบือนหน้าไปมองบ่อปลาผม มองริมฝีปากสีแดงของมันแล้วหลับตานึกภาพตาม
“เราอยู่ชานเมืองหลวง อาศัยในบ้านหลังใหญ่ที่มีคนสนิทกับแม่บ้านอยู่เป็นเพื่อน พ่อของเราเป็นคนดูแลจัดการทุกอย่างทั้งในบ้านและนอกบ้าน บ้านเราหลังค่อนข้างใหญ่นะ เราอยู่ชั้นบนสุด มองลงมาก็มีสวนสวยอยู่ข้างล่าง หญ้าเขียวเหมือนตรงนี้ มีสระกว้างอยู่ตรงกลาง แต่เราว่าบ่อปลาแบบนี้ก็ดี..กลับไปเราจะเปลี่ยนเป็นบ่อปลา แม่เราเป็นคนไทย สอนให้เราพูดภาษาไทย รู้วัฒนธรรมและประเพณีหลายอย่าง..” มันหันมาสบตาผมแล้วพูดต่อ
“ที่บ้านเรามีทะเลทราย เคยขี่อูฐหรือไม่?..ไม่สิ อย่างเธอต้องขี่ม้าในทะเลทราย มันสนุกมาก..” ผมยิ้มตอบมันแล้วกระชับมือ..
“เรียกชื่อกูบ้างก็ได้ ถ้าไม่อยากเรียกชื่อเล่นก็เรียกชื่อจริง ชื่อกูไม่ยาวหรอก ‘โกสินทร์’ น่ะ” มันมองตาผมนิ่งแล้วยิ้มตอบ
“โกสินทร์..ตอนนี้เราทำงานใช้หนี้ไปได้เท่าไหร่แล้ว? ยังคงค้างอีกเท่าไหร่?” ขมวดคิ้วมุ่นกับคำถามเรื่องค่าแรงที่มันต้องทำงานใช้หนี้
“ทำไมไอ้แขก?! มึงอยากกลับบ้านมึงมึงก็กลับไป พ่อกูบอกแล้วว่าจนกว่ามึงจะกลับ นั่นแปลว่าค่าเสียหายของมึงมันจะหมดทันทีที่มึงกลับ!” ดึงมือออกมันก็จับไว้ แววตาขอโทษของมันส่งมาให้ผมจนต้องหันหนี ถอนหายใจไล่ความหงุดหงิดแล้วหันไปสั่งมัน
“นวดไป!” มันยิ้มบางใส่มือผมแล้วนวดเบา ๆ ผมเบือนหน้าไปมองบ่อปลา เบี่ยงหลบแสงสะท้อนที่ตกกระทบมาใส่หน้าพอดี เหลือบมองตามันแล้วก็..เริ่มสงสาร มันคงอยากอยู่บ้านมันมากกว่า ฟังแล้วมันอยู่บ้านไม่ลำบากเลยสักนิด
“มึงจะกลับเมื่อไหร่..ภูริช” มันไม่ตอบเอาแต่นวดมือผม มองสันจมูกโด่งของมันนิ่ง จู่ ๆ มันก็เงยหน้าขึ้นมาสบตา สะดุ้งแต่ก็ไม่หลบ กะพริบตาแล้วมองตอบ มันถามผมแล้วปล่อยมือที่นวดมือผม..
“ที่มือหายชารึยัง?..ตรงนี้..ชารึเปล่า?” พยักหน้ากับคำถามแรก ผมไม่ค่อยชาที่ปลายมือแล้ว แต่กลั้นหายใจเมื่อมือนุ่มของมือยื่นมาตรงหน้า เกร็งหน้าเมื่อปลายนิ้วมันค่อย ๆ แตะไล้ตั้งแต่แก้ม..ไปจนถึงริมฝีปากผม เบี่ยงตัวหลบแล้วลุกขึ้นยืน ก้าวขาได้ครึ่งก้าวมันก็คว้ามือไว้..
“เราต้องกลับแล้วโกสินทร์..” หยุดขาตัวเองแล้วหันกลับไปมองหน้ามัน ภูริชเงยหน้ามาสบตาผมแล้วยิ้มบาง
“ถ้าเราอยู่นานกว่านี้..ที่นี่จะกลายเป็นสุสาน” ขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำว่า ‘สุสาน’ จากปากมัน อ้าปากจะถามมันก็ลุกขึ้นยืนแล้วกอดผมเบา ๆ คำถามที่ผมจะถามมันถูกดวงตาสีน้ำตาลของมันสูบไปจนหมด..ทุกคำ
“เรามีความสุขมากที่ได้อยู่กับทุกคนที่นี่..ได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ ขอบคุณมาก” ผมไม่เข้าใจ มันนึกจะไปมันก็ไปงั้นเหรอ? แล้วไอ้สุสานนี่หมายความว่ายังไง? ไอ้บอดมันจะตามมาเก็บมันแล้วฆ่าพวกเรายกโกดังเหรอ? คิดว่าทำได้ง่าย ๆ รึไงวะ?!
“เรารู้ว่าคนที่โกดังปลาเก่งและกล้าแค่ไหน เพราะแบบนี้เราถึงต้องไป เราอยู่นานมากเท่าไหร่ที่นี่ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น พวกชุดดำรู้ที่อยู่เราแล้ว เมื่อกลางวันเราจัดการมันไป 2 คนตอนที่อยู่บ่อทราย ศพของมันถูกเก็บไปแล้วไม่ต้องห่วง แต่ตอนนี้..” มือผมเย็นเฉียบเมื่ออ่านคำพูดต่อไปจากสายตามัน พวกไอ้บอดมันรู้แล้วว่าภูริชอยู่ที่นี่ มันจะต้องมาจับและจะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่..
เลือดในกายพุ่งพล่าน..อยากยิงคนดูสักครั้งว่ะ!
มันเลิกคิ้วสูงใส่หน้ากระเหี้ยนกระหือรือของผม ก่อนจะโบกมือห้ามเป็นพัลวัน ‘อย่าได้คิดอย่างนั้นโกสินทร์..ชีวิตเธอยังอีกยาวไกล อย่าทำเหมือนเล่นขายของ’ ขมวดคิ้วอีกครั้งแล้วอ้าปากจะเถียงมันก็ยกมือมาปิดปากผมแน่น กอดผมไว้ทั้งตัวแล้วดึงมาหลบหลังต้นไม้ มองไปทิศที่มันกำลังจ้องก็เห็นคน 3 คนย่องเข้าบ้านผมไป
“คนของมัน..เงียบนะ ไปโกดังเก็บปลากันเถอะ มืดแบบนี้เธอนำทางที” พยักหน้าแล้วเดินนำมันไปเงียบ ๆ เร่งฝีเท้าให้ถึงโกดังเก็บปลาให้เร็วที่สุด โดยไม่รู้เลยว่า..ภูริชไม่ได้ตามผมมาด้วย มองซ้ายมองขวาแล้วย่องเข้าโกดังปลา เข้าไปได้ก็หันหลังมองหาภูริช..ไม่มี กำลังจะก้าวขาออกไปพ่อก้คว้าแขนดึงเข้าไปหลังลังปลาที่กองพะเนินอยู่ กระซิบถามผมข้างหูเบา ๆ ..
“มีคนแปลกหน้าบุกเข้ามา ลูกน้องพ่อโดนยิงไป 2 คนแถวทางเข้า ต้นไม่เป็นไรนะลูก..แล้วภูริชล่ะ?” ส่ายหน้าตอบพ่อแล้วจับแขนพ่อไว้แน่น
“ภูริชมันบอกว่าพวกนี้เป็นพวกที่กำลังตามตัวมันอยู่ เมื่อกลางวันมันมาที่บ่อทรายแต่ภูริชมันเก็บไปแล้ว ตอนนี้..มันมากี่คนพ่อ?!” พ่อส่ายหน้าตอบผมก่อนจะดึงมือผมให้ตามมาหยิบปืนไว้ป้องกันตัว ผมหยิบ .357 เพราะผมเคยมือที่สุดแล้ว กวาดกระสุนใส่กระเป๋ากางเกง โชคดีที่วันนี้ไม่หยิบกางเกงบอลมาใส่นอน ไม่งั้นคงต้องเอากระสุนใส่ถุงพลาสติกแล้วห้อยข้อมือแหง นึกขอบคุณพ่อที่ไม่ยอมให้พวกลูกน้องผมมานอนค้างที่บ้านผมหรือในโกดัง พ่อไม่อยากให้มันเคยตัวติดนิสัยไม่กลับบ้านน่ะ
ย่องเดินออกข้างหลังตามพ่อกับลูกน้องพ่อออกไปตามหาไอ้แขกถังแตก เห็นเงาตะคุ่มแถวหน้าบ้านลูกน้องพ่อก็ยกปืนขึ้นส่อง พ่อรีบดึงมือมันแล้วให้รอดูไปก่อน หัวใจเต้นโครมครามเมื่อเห็นมีคนล้มลงตรงหน้าบ้านผมคนหนึ่งและอีก 2 คนก็ค่อย ๆ ล้มตาม ไม่ถึง 5 นาทีก็มีเงาตะคุ่มเดินออกมาจากข้างบ้านและตามต้นไม้ที่ผมปลูกให้เป็นศิลปะ มือเย็นเฉียบเมื่อคิดไปไกลว่า 1 ในคนที่ล้มอาจจะเป็นไอ้แขกถังแตกก็ได้ แล้วปล่อยไปแบบนี้..นานเข้ามันอาจจะเสียเลือดจนตายก็ได้ พ่อจับไหล่ผมแน่นเพราะผมสั่นจนควบคุมตัวเองไม่ได้ จนเงาตะคุ่มที่ยืนเป็นกลุ่มจัดการลากคนที่ล้มผ่านแสงสว่างตรงทางเดินถึงได้เห็นว่าคนกลุ่มที่เป็นฝ่ายเก็บใส่ชุดคลุมสีดำ ทรงมันเหมือนที่ภูริชใส่ตอนแรกที่เจอกัน ของภูริชเป็นสีขาว แต่คนพวกนี้เป็นสีดำ และคนที่เดินออกมาให้เห็นถัดมาก็ไม่ใช่ใคร..เป็นคนที่ผมกลัวที่สุดว่ามันอาจจะตายก็ได้
“ภูริช!” ผมตะโกนเรียกชื่อมันแล้วโผล่ออกมาจากที่ซ่อน พ่อคว้าแขนผม ผมสะบัดทิ้งแล้วรีบเดินมาหามัน มันหันมามองผมแล้วรีบเดินมาจับมือจับแขนผม 2 มือที่นวดมือผมประคองหน้าผม มองตาไล่สำรวจร่องรอยแผลหรือรอยขีดข่วนบนตัวผมแล้วดึงผมเข้ามากอดเบา ๆ มันขอบคุณอัลเลาะห์แล้วกอดผมแน่นขึ้น กอดมันตอบเบา ๆ แล้วถาม
“มึงไม่เป็นไรนะ..มึงเจ็บตรงไหนรึเปล่าไอ้แขกถังแตก” มันดึงไหล่ผมออกมามองตาแล้วยิ้มบาง ส่ายหน้าแล้วหมุนตัวให้ผมดูว่ามันไม่เป็นไร ยืนมองตามันนิ่ง คนรอบตัวมันเดินอ้อมมายืนข้างหลังมันเป็นแถว ดูก็รู้ว่ามันเป็นคนสำคัญ มันมองหน้าผมแล้วเดินเข้ามาใกล้ หลุบตาลงมองคอเสื้อมัน ผมรู้ว่ามันจะพูดอะไร..มันต้องไปแล้ว ผมจะไม่ได้เจอมัน..อีกแล้ว
ภูริชย่อตัวลงจนหน้าผมกับมันอยู่ระดับเดียวกัน ผมมองตามันด้วยความรู้สึกของคนที่กำลังจะเสียของเล่น เอ้ย! ของที่ตัวเองรัก ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้อาลัยมันนัก ไม่รู้..จริง ๆ
“เราจะกลับมา..จะกลับมาเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย สัญญากับเราได้หรือไม่โกสินทร์ ว่าจะรอเรา” อดหรี่ตาจับผิดมันไม่ได้.
“ให้รอ..รออะไร? ค่าเสียหายที่เหลือ? หรือจะกลับมาทำงานใช้หนี้ที่ยังค้างอยู่ หรืออะไร?..ไอ้ผิดรู” เสียงขำพรืดดังมาจากคนที่ยืนอยู่หัวแถว เหลือบมองมันก็รีบตีหน้าขรึม ไอ้แขกถังแตกมันยิ้มกว้างแล้วขยี้มะเหงกใส่กบาลผม
“เราสั่งให้รอก็ต้องรอ อย่ามีใคร อย่ายกหัวใจของเธอให้ใคร..รอจนกว่าเราจะกลับมาขอหัวใจของเธอ ตอนนี้เธอได้หัวใจของเราแล้ว..ได้โปรด..รับปากเราว่าจะรอเรา..โกสินทร์” มองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของมันแล้วกะพริบตาปริบ เน่าก็เน่าแต่ผมก็อยากได้ยินอีก หัวใจเหรอ? ไอ้นี่นอกจากจะบ้าแล้วยังตกหลุมรักคนง่ายอีกต่างหาก สูดลมหายใจเข้าปอดแล้วบอกมัน
“มึงให้กูรอแต่กูไม่มีหลักประกันอะไรซักอย่างว่ากูจะรอเก้อรึเปล่า? แล้วมึงตกหลุมรักคนง่ายเหมือนเดินตกท่อแบบนี้เดี่ยวมึงก็ลืมกู..” หน้าคมของมันนิ่งมองหน้าผม ผมพูดกับมันโดยไม่หลบตา ระยะเวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมงมันไม่ยั่งยืนพอจะให้ผมเชื่อในหัวใจที่มันบอกว่าให้ผมมาแล้ว ทุกอย่างอยู่ที่ตัวมันทั้งหมด..ว่าจะทำให้ผมรัก หรือลืมได้ในเวลาไม่นาน
“กูไม่รอ มึงมาเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ไป..กลับไปทำอะไรของมึงให้เรียบร้อย แล้วค่อยว่ากันไอ้ผิดรู” มันยิ้มบางแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ผมไม่หลบการเข้าหานั้น มองปลายจมูกที่กดลงมาที่แก้มตัวเอง ไล่สายตาขึ้นไปมองแพขนตาสีดำสนิทของมันก่อนจะสบตาสีน้ำตาลในระยะประชิด แววตาเชื่อมที่ส่งมาทำให้หัวใจผมเต้นเสียงดังกลบความอายที่คนอื่นกำลังมองได้มิด
“เรารักโกสินทร์..เป็นความรักอย่างไม่ต้องสงสัย” หลับตารับสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มที่แตะลงมาเบา ๆ ที่ริมฝีปากผม ก่อนจะผละออกอย่างอ้อยอิ่ง มันจับมือผมไว้แล้วยิ้มอ่อนโยน หันไปก้อมหัวให้พ่อผมแล้วบอกเสียงดังฟังชัด
“ขอบคุณมากที่ให้เราได้พักอาศัย เราจะกลับมาทำตามประเพณีที่คนไทยต้องกระทำเมื่อต้องมาสู่ขอโกสินทร์” ตาเหลือกลานมองหน้าจริงจังของมัน พ่อมึงตายเหอะ! แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากบอกมันก็ก้มมาจูบลาผมอีกที รีบบอกก่อนมันจะปล่อยมือ
“กูไม่ชอบให้ใครหันหลังให้ จะไปก็ไปไม่ต้องลากู” แรงกอดของมันโอบล้อมผมไว้ชั่วครู่ก่อนจะกระซิบบอก
“เราจะรีบมา” หลับตาเก็บสัมผัสอบอุ่นไว้จนแรงกอดนั้นจางหาย บอกมันเสียงดังถึงระยะเวลาที่ผมมักจะหลงลืมมันไปได้หากนานเกินช่วงเวลานี้
“ถ้ากูจบ ม.ปลายแล้วมึงยังไม่มา..ก็หายไปจากชีวิตกูได้เลย ไม่ต้องกลับมา” ไม่มีเสียงตอบรับจากมัน แต่เสียงฝีเท้ามั่นคงของมันทำให้ผมรู้ว่ามันรับรู้เงื่อนเวลาของผมแล้ว ตอนนี้ผมอยู่ ม.6 ตอนนี้ปิดเทอม 1 มันเหลือเวลาเท่าไหร่ก็ไปบวกลบเอาเอง
หลังจากมันกลับไปผมก็ทำตัวเหมือนไม่เคยมีมันเข้ามาในชีวิตมาก่อน พวกไอ้บาสตอนแรก ๆก็ถามหาแล้วก็บ่นถึง แต่พอเปิดเทอมก็เงียบกันไป จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันก่อนจะสอบมันก็รื้อฟื้นเรื่องภูริชขึ้นมาอีกครั้ง
“พี่ดูข่าวต่างประเทศรึเปล่า? ผมเห็นพี่ภูออกทีวีด้วยพี่ จับกบฏอ่ะ กลับไปจะไปเสริชเน็ตดูรายละเอียดข่าว..” มันพล่ามข้างหูผมก็ไม่ได้สนใจฟัง ผมไม่เคยได้รับการติดต่อจากมัน และไม่สนใจจะรับรู้ข่าวอะไรจากคนอื่นด้วย แม้แต่กับพี่หมัด คนสนิทของมันที่ต้องมาสั่งปลาที่บ้านผมไปกินที่บ้านที่เมืองมันโน่น ผมก็ไม่ฟัง..
ผมอยากฟังจากปากมันเอง..ทุกเรื่อง
สอบวันสุดท้ายเสร็จผมก็กลับบ้านตามปกติ ผมสังหรณ์มาหลายวันแล้วว่าเดี๋ยวมันต้องโผล่หัวมา ไม่ผิดจากที่คิดไว้แม้แต่น้อยเมื่อลานจอดรถผมมีรถยนต์แปลก ๆ 3-4 คันมาจอดที่บ้าน ก้มหัวทักทายคนติดตามของมันที่ค้อมตัวต่ำเคารพผม เดินเข้าบ้านก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคย พ่อผมลุกจากเก้าอี้แล้วเดินออกจากห้องปล่อยให้ผมอยู่กับมันตามลำพัง
แผ่นหลังกว้างของมันค่อย ๆ หันกลับมามองผม ดวงตาสีน้ำตาลคู่เดิมมองผมนิ่ง ความรู้สึกทั้งหมดมันสื่อมาให้ผมผ่านดวงตาของมัน มองทุกก้าวที่มันก้าวเข้ามาหา ปล่อยกระเป๋าตกพื้นทันทีที่อ้อมกอดของมันโอบกอดผม
“คิดถึง..” ผมเองก็คิดถึงคำอื่นไม่ออกเหมือนกัน หลับตารับสัมผัสจากริมฝีปากนุ่มของมันที่พรมจูบผมทั่วหน้า มันอ้าปากจะพูดผมก็ปิดปากมันด้วยจูบของตัวเอง ผมกอดมันจนหายคิดถึงมันก็พาผมมานั่งรับลมที่สวนศิลปะหน้าบ้านผม ฟังเรื่องชีวิตรันทดหดหู่ของมันไปด้วยกินข้าวไปด้วย จับใจความได้ว่า..
โคตรพ่อมันเป็นสุลต่าน มันเองเป็นเจ้าชาย แล้วน้องพ่อแม่งอยากได้อำนาจก็จะก่อกบฏ มันเองก็กลับไปปราบกบฏหลังจากปิ้งความน่ารักของผมที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้ อามันยอมหยุดความโลภเพราะมันบอกจะยกตำแหน่งรัชทายาทให้หลาน เพราะตัวมันเองคงไม่มีทายาทเอาไว้สืบสกุล ฟังได้แค่นี้ผมก็ให้มันหยุด วางจานข้าวลงแล้วดึงมือมันเข้าห้อง..
เรื่องราวต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องที่พวกคุณควรใช้วิจารณญาณ และใช้จินตนาการกันให้จงหนักเอาเองนะ..
ผมรู้แค่ 2 อย่าง คือ 1. ผมรักมันมันรักผม ส่วนอีกเรื่องน่ะเหรอ หึหึ.. อิสลามอย่าง ‘ผิดรู’ สามารถรักผู้ชายได้เพราะมีแม่เป็นคนไทยและนับถือพุทธครับ เหตุผลช่างเหนือคำบรรยายมาก พอหลังผมแตะที่นอนเจ้าชายจากแดนไกลก็กระซิบข้างหูถึงเรื่องที่ผมต้องตาเหลือกลาน..
“โกสินทร์..ชื่อของเราน่ะ มันแปลว่า ‘แผ่นดิน’ ต่างหาก.. รู้หรือไม่ว่าการปดเราซึ่งเป็นถึงสุลต่านมีโทษหนักเช่นไร?
เจ้าโดนหนักแน่วันนี้ หึหึ”
อึก..ช่วยกูด้วยยยยยยยยยยย
END.
แถม
.
.
.
พอหลังผมแตะที่นอนเจ้าชายจากแดนไกลก็กระซิบข้างหูถึงเรื่องที่ผมต้องตาเหลือกลาน..
“โกสินทร์..ชื่อของเราน่ะ มันแปลว่า ‘แผ่นดิน’ ต่างหาก.. รู้หรือไม่ว่าการปดเราซึ่งเป็นถึงสุลต่านมีโทษหนักเช่นไร?
เจ้าโดนหนักแน่วันนี้ หึหึ” กลืนน้ำลายเหนียวลงคอแล้วคิดในใจดังลั่น ‘อึก..ช่วยกูด้วยยยยยยยยยยย’ ร้องไปงั้น ใครมันจะมาช่วยวะ? ใครจะกล้าขวางสุลต่านแห่งอีเรีย อย่าคิดว่าผมไม่ตกใจที่รู้ว่ามันเป็นเจ้าชาย แต่จะให้สาวแตก ปลาบปลื้มที่มีแฟนเป็นเจ้าชายมาช่วยยกลังปลาให้ตั้งหลายชั่วโมงก็กระไร พี่หมัดมันพราวด์ลี่พรีเซนท์นายมันชิบหายวายวอดอยู่แล้ว แต่ผมไม่อยากฟัง..
ผมอยากฟังทุกเรื่องจากปากมันเอง..เคยบอกแล้วนี่?!
ยิ้มเจื่อนรับปลายจมูกที่กดลงมาที่แก้มซ้าย สูดลมหายใจเข้าปอดเต็มที่เมื่อต้องรับโทษที่ปดเรื่องความหมายของชื่อที่หลอกมันเอาไว้ แต่เรื่องเล็กน้อยแค่นี้..
แม่ง..ไม่ใจเลยว่ะ!
ริมฝีปากสีแดงที่จูบลงมาที่ริมฝีปากล่างผมเบา ๆ ไม่ทำให้เคลิบเคลิ้ม ลิ้นดันกระพุ้งแก้มเพราะความหงุดหงิดเล็ก ๆ ภูริชผละออกมามองหน้าด้านข้างที่เบี่ยงหลบจูบของผมแล้วหัวเราะเบา ๆ ที่แก้มผม ไล้ปลายจมูกไปตามโครงหน้าก่อนจะหอมที่ใบหูผมฟอดใหญ่
“ยังเป็นเด็กอยู่เลยนะโกสินทร์” ขมวดคิ้วแล้วหันไปสบตาสีน้ำตาลอ่อนที่มองผมอยู่ก่อน แววตาอ่อนโยนของคนเป็นผู้ใหญ่นี่อบอุ่นดีเหมือนกันแฮะ ยิ้มบางแล้วถอนหายใจยาว ยื่นหน้ากดปลายจมูกตัวเองลงกับแก้มใสของสุลต่านแห่งอีเรีย ภูริชยิ้มกว้างแล้วก้มลงจูบริมฝีปากผมเบา ๆ ก่อนจะไล้ปลายลิ้นชิมริมฝีปากผมทั้งบนและล่างสลับกันอย่างอ่อนโยน ฝ่ามือร้อนสัมผัสผมทั่วทั้งตัวก่อนจะสอดเข้ามาในเสื้อนักเรียน ผมยิ้มกับริมฝีปากที่ยังชิดกันแล้วจับมือมันมาปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก
ปลายนิ้วเรียวแกะกระดุมผมออกแล้วดึงเสื้อผมออกจากตัว ริมฝีปากนุ่มผละออกจากริมฝีปากผมแล้วบดจูบไปทั่วทั้งซอกคอจนถึงหน้าอก ไม่มีส่วนไหนที่ภูริชไม่ได้แตะปลายลิ้นชิม แอ่นอกรับปลายลิ้นร้อนที่สัมผัสยอดอก ครางต่ำกับความสุขที่สุลต่านปรนเปรอให้ ยกก้นให้ถูริชถอดกางเกงผมให้ง่ายขึ้น มันผละออกเพื่อมองสำรวจผม
เห็นสายตามันแล้วไม่อยากจะบอกพวกคุณเลย..กูโคตรแมนเลยสินะ
มันยิ้มบางให้ผมก่อนจะถอดเสื้อผ้ามันออกบ้าง แผ่นอกแกร่งรับกับกล้ามเนื้อสมส่วนทั่วทั้งตัว ไรขนสวยตั้งแต่ใต้สะดือลงมาทำให้ผมอยากเห็นปลายทางที่อยู่ในกางเกงในสีขาวของมัน มองตาสีน้ำตาลอ่อนที่มองตาผมไม่กะพริบแล้วหลับตาลงเมื่อภูริชก้มหน้าลงมาจูบผม มือนุ่มลูบไล้ผมทุกสัดส่วน โอบกอดแผ่นหลังแกร่งเข้าหาตัวเมื่อฝ่ามือร้อนสัมผัสท่อนแข็งของผม ภูริชขยับสะโพกตัวเองเข้าหาผมจนก้นผมสัมผัสความต้องการที่ดันผ่านกางเกงเนื้อบางของมัน ยิ่งมันจงใจกดส่วนหัวเข้ามาที่ช่องทางร้อนของผมมันยิ่ง..เสียว
ดันหน้ามันออกมามองตาก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้มันบ้าง ภูริชยิ้มกว้างตอบผมแล้วกอดผมแน่นขึ้น แยกขาออกแล้วเลื่อนมือล้วงจับความต้องการของมันผ่านกางเกงใน ส่วนหัวที่โผล่พ้นกางเกงในสู้ปลายนิ้วผมเต็มที่ มองตาสีน้ำตาลและริมฝีปากสีแดงที่เผยอครางเมื่อผมบดปลายนิ้วหยอกล้อกับส่วนปลายคนน้ำเหนียวไหลเปรอะมือ
“ซืดดด” หายใจหอบหนักเมื่อเสียงครางของมันทำให้ความดิบในตัวผมพุ่งพล่าน กดเจ้าชายสักครั้งจะเป็นไงวะ?!
...ได้แค่คิดว่ะ เพราะมันถอดกางเกงในตัวเองทิ้งแล้วหันมาจับผมดูดปากอย่างแรง จับความต้องการของมันเองมาถูที่ก้นผมจนเลอะเทอะไปหมด แต่แม่ง..เซ็กซี่ฉิบหาย
ดันตัวมันให้ลุกขึ้นพร้อมกับตัวผมที่ขยับถอยหลังจนพิงกับหัวเตียง มันจับขาผมยกขึ้นแล้วแทรกตัวเข้ามาจนไม่มีช่องว่าง แล้วจับสะโพกผมยกขึ้น จับความต้องการของตัวเองรอรับช่องทางร้อนของผมที่มันคอยกำกับให้ค่อย ๆ หย่อนลงมาหาช้า ๆ ผมเห็นความใหญ่ของมันแล้วก็ต้องลืมความอายไปชั่วขณะ ถ่มน้ำล้ายตัวเองลงบนฝ่ามือแล้วป้ายที่ท่อนแข็งของมันก่อนจะเป็นคนควบคุมการทิ้งน้ำหนักเอง
แหงนหน้ากัดกรามแน่นเมื่อส่วนหัวของมันผลุบเข้าไปในตัวผมเรียบร้อยแล้ว เหงื่อไหลท่วมทั้งที่แอร์ในห้องทำงานตามปกติ น้ำลายของผมกับภูริชช่วยกันหล่อลื่นจนความของมันเข้ามาจนสุด ผมก้มหน้าลงมาจูบมันบรรเทาความเจ็บและปล่อยให้ร่างกายพร้อมก่อนจะส่งสัญญาณบอกมันด้วยการตอดถี่ยิบ ภูริชหัวเราะแต่ผมเสียวหนัก แม่งกะแทกเข้าจุดเสียวผมเต็มรักเหอะ
“ซี๊ดดด เสียวว่ะ เร็วเหอะ เดี๋ยวกูเจ็บไม่ให้ต่อนะผิดรู” มันยิ้มกว้างก่อนจะจับหน้าผมรับจูบหวาน บั้นท้ายของมันทำงานหนักหน่วงบวกกับหน้าตาที่เก็บกลั้นอารมณ์ไม่ไหว ผมรับความสุขที่มันมอบให้เต็มที่แล้วปลดปล่อยก่อนเวลาอันควรในฝ่ามือนุ่มของมัน แล้วมันก็ปลดปล่อยตามผมมาในเวลาไม่ต่างกันนัก ผมดันหน้าท้องมันออกก่อนมันจะปล่อยได้ทันพอดี ปรับลมหายใจให้เป็นปกติก่อนจะให้มันพยุงมาล้างตัว ล้มตัวลงนอนก็บอกให้มันเอาเสื้อผ้าผมใส่ตระกร้าให้เรียบร้อยค่อยมานอนกอดผม
เสียงสุลต่านกระซิบบอกรักผม หลอกหลอนจนถึงในฝัน ฝันที่เหมือนจริงมาก..
ผมใส่ผ้าโพกหัวสีขาว มีที่คาดสีดำคาดกันผ้าปลิวอีกชั้นหนึ่ง มีผ้าปิดหน้าสีน้ำตาลอ่อนปิดกันทรายเข้าจมูก ขี่ม้าอยู่ในทะเลทรายสีทอง โดยมีคนที่กุมบังเหียนม้านั่งตัวติดกันกับผม ผมหันไปมองแล้วยิ้มกว้างให้คนคนนั้น ยื่นมือไปเปิดผ้าที่มันคาดปิดหน้าแล้วยื่นปลายจมูกไปหอมที่ปลายคางมน ดวงตาสีน้ำตาลของคนคนนั้นมองผมแล้วส่งยิ้มกว้างคืนมาให้ ประคองหน้าผมมาจูบเนิ่นานก่อนจะพาขี่ม้ากลับไปที่บ้านหลังใหญ่..เหมือนวังมากกว่า
ผมว่ามันคงเป็นฝันบอกอนาคตน่ะ..
อนาคตอันใกล้ของผมกับสุลต่านแห่งอีเรียไงครับ..
END.
กอด ๆ บวก ๆ ค่ะ
เอาผิดรูมาส่งค่ะ เกิน 20,000 อักษร ตัดแบ่งได้ 3 ท่อนค่ะ วันนี้ผู้ใหญ่ที่ทำงานไม่อยู่ รู้สึกเป็นอิสระมากค่ะ
คุณ PoP~Pu กอดกันๆ จิดีใจที่คุณชอบเรื่องนี้นะคะ จิก็ชอบค่ะ เกือบไม่ได้เอามาลงค่ะถ้าไม่มีนักอ่านใจดีที่เก็บเรื่องนี้ไว้อ่านเล่น ไม่ว่าจะเป็น พี่ love2y คุณ @rnon และคุณ ΩPRESTOΩ (คนสุดท้ายนี่น่ารักมาก เก็บแฟนฟิคไว้ด้วย ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ) ไฟล์ของจิเองเก็บไว้แบบกระท่อนกระแท่นมวาก น่าขายหน้าที่สวดดดดด........คิดถึงนะคะ ^^
คุณ nekko ใช่ค่ะ เจอแบบนี้ต้องยอมเป็นบ้าแน่ๆ แล้วก็...บ้ากันได้น่ารักดีแท้ๆ เลย
วันนี้ไปกินข้าวนอกบ้านมาค่ะ แบบ เห็นผู้ชายตัวสูงๆ ยืนดูดบุหรี่หน้า 7-11 โอ้โห..เท่ เถื่อน หยาบมาก น่าจิ้นมาก ๆ อาห์..ขนลุกพรึ่บพรั่บเลยทีเดียว
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและติดตามนะคะ