[เรื่องสั้น จบในตอน] รักเกิดในตลาดสด : พิเศษ ++ 7 ++ 24/07/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น จบในตอน] รักเกิดในตลาดสด : พิเศษ ++ 7 ++ 24/07/58  (อ่าน 49951 ครั้ง)

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
พูดกันให้เข้าใจก็ดีแบบนี้แหละเนาะพี่อ้น น้องต๋อม :m25:

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อิจฉาในพรหมลิขิตของ จงรัก ภักดี , ต๋อมกับพี่อ้นก้อน่ารักดีครับ คงไม่พาพี่อ้นติดไพ่นะ

ขอบคุณครับ รอคู่อื่นต่อนะครับ

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อ่านตอนแรก ก็สงสารพี่อ้นที่ถูกทิ้ง แต่ก็คิดว่า มันก็ดีกว่าคบกันต่อไปกับคนที่หมดรักเราแล้วนะ
ส่วนน้องต๋อม ที่ได้แต่เก็บความรู้สึกเอาไว้ หวาดหวั่นไปหมด เพราะมีความหลังฝังใจ ก็น่าสงสารมาก ๆ
พี่อ้น คงจะรับรู้ความรู้สึกของน้องมาตลอดอยู่แล้ว ถึงได้รู้สึกผิด รู้สึกว่าตัวเองฉวยโอกาสกับน้อง
ไม่ต่างจากสิ่งที่น้องต๋อมก็รู้สึกผิดเช่นกัน ดีใจที่ในที่สุดทั้งคู่ก็สามารถก้าวผ่านมาได้
ได้มีความรักครั้งใหม่ที่สุขสมหวังร่วมกันสักที จุดนี้ ต้องยกความดีให้พี่อ้น ที่เปิดอกพูดกับน้องต๋อมนะ
ตอนแถมหว๊านหวาน  :-[  พี่อ้นเป็นแฟนที่ดีจริง ๆ  ช่างดูแล เข้าอกเข้าใจนิสัยน้องอย่างดีเลย
แถมปิดท้ายด้วยคำกล่อมนอนบอกรักแสนหวาน สำหรับน้องต๋อมคนเดียว  โรแมนติกมาก  :m3:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คุณจิคะ (บิดตัว) ..คุณจิวางแผนที่จะต่อเรื่องมนต์รักแดนบาดาลบ้างหรือเปล่าคะ?? ตอนนี้กำลังสนุกเลยเชียว อยากอ่านต่อจังค่ะ แอร๊ย~ ขออนุญาตถามนะค้าา.. :impress:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
So  sweet

เสียงดังจากมือถือที่ตั้งปลุกกรีดร้องแทรกเข้ามาในโสตประสาท  ลืมตาขึ้นช้า ๆ  แล้วผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ ไล่ความง่วงงุน  หาวหวอด  ดึงผ้าห่มที่คุลมตัวออกห่าง  ลุกเดินเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา  เดินออกมาหยิบผ้าเช็ดตัวคาดเอวแล้วถอดกางเกงขาสั้น  เดินตรงไปที่หน้าต่างแล้วเปิดแง้มออกจ้องลงไปที่ถนนด้านล่าง  แสงไฟจากรถยนต์ของพ่อค้าแม่ค้าสาดส่องไปมาบนถนน  มีทั้งเด็กเข็นผัก  รถเข็นของขายเยอะแยะไปหมด 

ผมเช่าตึกแถวของตลาดใหญ่ข้างร้านทอง  เปิดร้านขายหนังสือ  1  คูหา  ไม่ได้ตั้งอยู่ในรัศมีของการมองเห็น  ลูกค้าที่เคยมาซื้อเท่านั้นที่จะรู้จัก  หน้าร้านเป็นแผงหนังสือ  ด้านในมีตู้หนังสือการ์ตูน  นิยายให้เช่าตั้งอยู่จนเต็มพื้นที่ในร้าน  เมื่อก่อนผมทำงานประจำที่บริษัทซื้อ  ขาย  ซ่อมคอมพิวเตอร์  รายได้ก็ดี  แต่ไม่มีอิสระ  ออกมาอยู่บ้านได้  2  เดือนก็เช่าตึกเปิดร้านขาย เช่าหนังสือ  ไม่ใช่คนที่รักการอ่าน  แต่บังเอิญพี่สาวเป็นพวกชอบสะสมนิยายและการ์ตูน  มันเต็มบ้านไปหมดแม่ก็เลยจะโละขายร้านรับซื้อของเก่า  พี่สาวเลยขอให้ผมช่วยทำให้มันกลายเป็นของมีค่าโดยการเปิดเป็นร้านเช่าหนังสือ  รายได้ส่วนใหญ่ก็ได้จากหนังสือพิมพ์บ้าง  นิตยสารบ้าง  ส่วนหนังสือที่ให้เช่าก็มีลูกค้าที่อยู่ในวัยมัธยมทั้งนั้น ไม่สนิทกับใคร   ผมไม่อยากให้เด็กคนไหนรู้สึกว่าตัวเองพิเศษกว่าลูกค้าธรรมดา  ผมอายุ  25  ใช้ชีวิตผ่านอะไรมาไม่น้อย  ไม่ไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าใครใช้สายตาแบบไหนจ้องมองผม  และใคร..ที่ผมมักจะคอยจับจ้องไม่คลาดสายตา หัวใจเต้นตึกตักกับแสงไฟจากรถโฟล์คที่สาดเข้ามา  จำง่ายเพราะมันเป็นแสงที่สาดออกมาแค่วงแคบ ๆ นั่งคุกเข่ากับพื้นเอาคางเกยกับขอบหน้าต่างเพ่งมองผ่านกระจกรถฝั่งข้างคนขับ  จับจ้องหน้าเล็กเรียวคอพับคออ่อนกับการต้องตื่นแต่เช้า  ถนนหน้าร้านผมเป็นเส้นบังคับที่รถพ่อค้าแม่ค้าในตลาดทุกคันต้องวิ่งผ่าน  แต่ขากลับต้องวิ่งไปทางท้ายตลาดอย่างเดียว  เพราะแบบนั้นผมถึงต้องรีบตื่นแต่เช้ามานั่งจ้อง..เห็นแค่เสี้ยวหน้าก็ยังดี  ยิ้มบางมองส่งจนรถวิ่งหายเข้าไปในตลาด  ส่งความรู้สึกดีผ่านดวงตาที่ทำได้แค่มอง  มือกำแน่นข่มความอยากเป็นเจ้าของ..หัวใจของใครบางคนที่ไม่เคยรับรู้ว่าผม..แอบชอบ

ผมเห็นหน้าใสครั้งแรกเมื่ออาทิตย์ก่อน  วันนั้นผมนัดดื่มกับเพื่อนที่ทำงานเก่า  กลับสว่างเวลาเดียวกับพวกพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งร้าน  เดินเข้า 7-11  ซื้อน้ำเปล่ามาดื่ม  เดินออกมาก็เปิดขวดยกแตะริมฝีปาก  หางตาเหลือบเห็นรำโฟล์คคลาสสิคก็เลยมองเก็บรายละเอียด  ค่อย ๆ ลดขวดน้ำลงข้างตัวแล้วมองความสวยของรถที่แล่นมาช้า ๆ  ขวดน้ำที่ยกขึ้นดื่มเกือบจะหลุดจากมือเมื่อดวงตาสะดุดเข้ากับหน้าเรียวที่เกยคางบนแขนพาดขอบประตูรถ  หลับตาพริ้มรับลมเย็นจากข้างนอกรถ  ริมฝีปากคลี่ยิ้มเหมือนถูกใจกับอากาศที่มาจากธรรมชาติ  เพียงแค่นั้น..ผมก็เก็บมาเพ้อทันที

เป็น  1  อาทิตย์ที่ผมเหมือนคนบ้า  ผมพยายามตามหาโดยไม่ให้กระทบกับการเปิดร้าน  เดินมองหาจนเกือบจะพลิกตลาด  พอเจอแล้วกลับทำอะไรไม่ถูก  ได้แต่ยืนมองน้องขายของด้วยหน้าตาสดใส   หัวใจเต้นรัวจนเหมือนจะหลุดออกมานอกอก  ผมแอบมองน้องขายของอยู่หลายวันจนเริ่มจะไม่ตื่นเต้น  แต่ก็ยังไม่หาญกล้าพอจะเข้าไปอุดหนุน  นึกภาพไม่ออกว่าจะทำหน้ายังไงถ้าน้องเงยหน้ามายิ้มให้ผมคนเดียว  ไม่อยากเป็นบ้าหน้าร้านขายขนมปัง สังขยา   ข้อมูลผมมีเพียงแค่  น้องชื่อ ‘ธัน’ตอนเช้าน้องจะนั่งรถมาพร้อมแม่  ขายขนมปัง สังขยา  แซนด์วิชหลายหน้าช่วยแม่อยู่ในตลาด  เดินกลับมาขึ้นวินมอ’ไซค์ท้ายซอยตอน  7  โมงเช้าเพื่อแต่งตัวไปโรงเรียน

ยิ้มบางกับหน้าเรียวที่ลอยเข้ามาในหัว  ลุกขึ้นยืน  ปิดหน้าต่างแล้วแต่งตัวลงมาข้างล่าง  ดึงประตูเปิดร้านตอน  6  โมงเช้า  รับหนังสือพิมพ์กับพวกนิตยสารที่มาเวลานี้เสมอ  เช็คของตามบิลกับคนส่งของ  หมุนตัวจะกลับเข้ามาหยิบเงินในร้านก็หยุดการเคลื่อนไหวเพราะคนที่เดินอยู่ตรงฟุตบาทถนนอีกฝั่ง..

เด็กหนุ่มหน้าเรียวเล็ก  ตากลมสีน้ำตาลมองถนนตลอดเวลา  จมูกโด่งเป็นสัน  ริมฝีปากสีอ่อน  ผิวขาวละเอียด  ผมค่อนข้างยาวกว่าเด็กนักเรียนทั่วไปพลิ้วไปตามแรงลมและจังหวะการก้าวเดิน  มองตามจนแผ่นหลังบางเดินไปจนถึงปากซอย  รีบวิ่งเข้าร้านแล้วหยิบเงินส่งให้คนส่งหนังสือพิมพ์  คว้า  KSR  สีเหลืองที่เพิ่งซื้อต่อจากเพื่อนขี่ตามไปจนถึงปากซอย  เหลียวซ้ายมองขวาหาน้องธัน  ถามวินมอ’ไซค์ถึงได้รู้ว่าเทศบาลทำถนนท้ายตลาด  รถจะต้องวิ่งผ่านทางหน้าตลาดจนกว่าถนนจะซ่อมเสร็จ  พยักหน้ารับรู้แล้วเก็บความดีใจเอาไว้  ขี่มอ’ไซค์กลับร้านแล้วนั่งเฝ้าร้านตามปกติ  ยิ้มกับตัวเองว่าผมโชคดีมากที่ท้ายตลาดปิดซ่อมถนน  ช่วงนี้น้องก็ต้องเดินผ่านหน้าร้านผมทุกวัน

เปิดร้าน  ขายหนังสือ  ตีหน้าเฉยให้เด็กนักเรียนที่เข้ามาเช่าหนังสือหวังผลอย่างอื่นจนร้านปิด  ปิดร้านเสร็จก็ออกมาหาอะไรกินในหน้าปากซอย  ยิ้มทักรุ่นน้องที่เดินมากับเด็กหนุ่มหน้าหวาน  หยุดยืนคุยกันพักใหญ่ถึงได้รู้ว่า..เป็นแฟนกัน

“ปีไหนแล้ววะอ้น?”  เอ่ยถามร่นน้องที่กำลังแย่งของในมือแฟนมาช่วยถือ  คิ้วขมวดมุ่นกับท่าทางและการสื่อสารของอ้น  ไม่เจอกันแค่  2  ปี  ดูมันพูดเก่งแล้วก็พูดมากขึ้นเยอะ

“ปี  3  ครับพี่เต  ตอนนี้ยังทำงานที่เดิมเหรอครับ?”  ส่ายหน้าแล้วบอกว่าเปิดร้านเช่าหนังสืออยู่ตรงตึกแถวของตลาด  ข้างร้านทอง  อ้นพยักหน้าแล้วขอตัวพาน้องกลับไปส่งบ้าน  พยักหน้ารับแล้วรับไหว้น้องต๋อมแฟนมัน  ยิ้มตอบรอยยิ้มหวานแล้วเดินหันหลังกลับร้าน  อาบน้ำเสร็จก็บอกปัดเพื่อนที่โทรหาชวนไปเมาข้างนอก  พยายามข่มตานอน  พลิกว้าย  ตะแคงขวา..ยังไงก็ไม่ยอมหลับ  หยิบมือถือมาเปิดเพลงฟัง  สวมหูฟังแล้วนอนฟังเพลงไปจนเคลิ้มหลับ

ตื่นขึ้นมาก็เกือบจะเลยเวลาที่น้องนั่งรถมากับแม่ตอนเช้า  รีบเปิดหน้าต่างมาดูก็เห็นรถเข้ามาพอดี  จ้องมองอยู่เงียบ ๆ ด้วยหัวใจเต้นแรง  ยิ้มบางแล้วเดินเข้าห้องน้ำ  อาบน้ำ  โกนหนวด  แต่งตัวธรรมดากะเวลาให้พอดีกับที่น้องจะต้องเดินออกมาขึ้นมอ’ไซค์รับจ้างหน้าปากซอย  ดึงประตูเหล็กเปิดร้านให้คนส่งหนังสือพิมพ์  รับของเสร็จก็หันมองน้องไปด้วย  หัวใจเต้นตึกตักเมื่อเห็นความขาวละเอียดเดินมาแต่ไกล  ยืนดึงเวลาเช็คของอยู่หน้าร้านรอให้น้องเดินผ่าน  จ่ายเงินเสร็จก็ยืนรอให้คนส่งหนังสือพิมพ์ทวนจำนวนเงินที่ส่งให้  ตามองข้ามถนนจับจ้องหน้าเรียวด้านข้างที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้น  หันบอกคนส่งหนังสือพิมพ์ให้มาส่งช้ากว่าเดิมประมาณ  10  นาที  คนส่งหนังสือพิมพ์พยักหน้ารับอย่างว่าง่าย  มองส่งแผ่นหลังบางจนลับตาก็เดินเข้าร้าน  เปิดร้าน  เช่าหนังสือตามปกติ

เช้าวันนี้ผมก็ตื่นเวลาเดิม  เปิดหน้าต่างมาแอบมองคนน่ารักก่อนจะอาบน้ำแต่งตัว  รอเวลาที่นัดกับคนส่งหนังสือพิมพ์  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วดึงประตูเหล็กขึ้น  ดวงตามองไปฝั่งตรงข้ามถนน  สบตากับตากลมที่เงยจากถนนมามองพอดี  มองตอบเพียงเสี้ยววินาทีแล้วเปิดประตูหน้าร้าน  เดินออกมารับหนังสือพิมพ์เหมือนไม่ได้มองหรือสนใจน้องเป็นพิเศษ  พยายามบังคับระดับสายตาให้อยู่แค่กองหนังสือและใบส่งของ  เดินเข้าร้านหยิบเงินมาให้คนส่งหนังสือพิมพ์ก่อนจะเบือนมองหน้าเรียวที่หันหลังมามองพอดี

ยิ้มบางกับตัวเองที่น้องเริ่มจะสังเกตเห็น  นั่งเอนหลังพิงพนัก  ยิ้มน้อย ๆ ทั้งวันด้วยความอิ่มในอก  ปิดร้านเร็วกว่าปกติเพราะมีนัดออกไปดื่มข้างนอก  เข้าร้านได้ก็สั่ง  กิน  ดื่มจนเกือบเที่ยงคืนก็ขอตัวกลับ  ทิ้งเงินไว้ให้เพื่อนแล้วขับรถกลับมาที่ร้าน  เลี่ยงการมีสัมพันธ์ข้ามคืนกับคนแปลกหน้า 

เพราะตอนนี้..ผมกำลังมีความรัก

กลับถึงร้านก็เข้ามาอาบน้ำ  นอนทั้งที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้า  ตื่นขึ้นมาควานหาผ้าห่ม  สะดุ้งกับแสงที่ลอดเข้มาจากหน้าต่างแยงตา  คว้ามือถือมาดูเวลาแล้วใจหาย  มันเลยเวลาประจำที่นัดกับคนส่ง นสพ.มาเกือบครึ่ง ชม.แล้ว  ถอนหายใจยาวเพราะเสียดายที่วันนี้คงไม่ได้เห็นหน้าน้องแล้ว  หันกลับมากดไล่หาเบอร์คนส่งหนังสือพิมพ์แล้วรีบโทรออก

“ผมส่ง  7-11  หน้าปากซอยก่อนครับ  เห็นพี่ยังไม่เปิดร้าน..”  ถอนหายใจยาว ๆ แล้วบอกให้วิ่งย้อนเข้ามาส่งด้วย  เดี๋ยวจะลงไปเปิดร้าน  ล้างหน้าแล้วหยิบเสื้อยืดมาสวม  ใส่กางเกงบอลลงมาเปิดร้าน  หยิบไม้กวาดมากวาดรอคนส่งหนังสือพิมพ์มาส่ง  รับของเสร็จก็หมุนป้ายที่แขวนตรงลูกบิดเป็น  ‘close’  เดินขึ้นมาอาบน้ำแล้วแต่งตัวลงมานั่งเฝ้าร้าน  กลางวันก็กินมาม่าคัพ  ปิดร้านเสร็จก็ออกมาหาอะไรกินตอนเย็นเหมือนทุกวัน  วันนี้ผมเจอน้องธันมาซื้อก๋วยเตี๋ยวด้วย  มองเพลินจนแม่ค้าข้าวมันไก่เรียกเก็บเงิน  ยื่นเงินให้แล้วก็หันมามองน้องต่อ..

สบตาสีน้ำตาลที่หันมามองหน้าผมพอดี  มองประกายสดใสในดวงตาสีน้ำตาลกลมตอบไม่วางตา  น้องเป็นฝ่ายเบือนหนี  มองส่งแผ่นหลังบางเดินลับไปกับผู้คนที่ออกมาเดินหาอะไรกินตอนหัวค่ำ  ยิ้มกว้างกับรอยยิ้มและหน้าเขินของน้องไปตลอดทางจนถึงร้าน  แปรงฟันเสร็จก็ปิดมือถือ  เบื่อจะต้องออกไปดื่มกับเพื่อนข้างนอก  เช้าผมก็ตื่นเวลาเดิม  เปิดหน้าต่างแอบมองหน้าเรียวที่ต้องนั่งรถมากับแม่ทุกวัน  วันนี้น้องมองมาที่ประตูร้านผม  ไม่ว่าจะมองเพราะอะไร..ผมก็เข้าข้างตัวเองไปแล้วเรียบร้อย

 ลุกขึ้นปิดหน้าต่างแล้วเก็บความดีใจที่แสดงออกทางสีหน้าเอาไว้    รีบอาบน้ำล้างหน้า  หยิบเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์ขาดหัวเข่ามาสวม  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วดึงประตูเหล็กขึ้น ตาจับจ้องน้องที่เดินมาตรงข้ามร้านพอดี  เปิดประตูออกมาช้า ๆ  ตามองน้องไม่กะพริบ  น้องยืนนิ่งตรงฟุตบาทมองผมหันมารับหนังสือจากคนส่งหนังสือพิมพ์  ผมเงยสบตากลมที่มองผมตลอดเวลา  รับหนังสือเสร็จผมก็ยืนนิ่งมองน้องตอบ  น้องหลบตาแล้วก้มหน้าเดินไปหน้าปากซอย  ผมรีบยกหนังสือมาเก็บในร้านแล้วค้นลิ้นชักหากุญแจมอ’ไซค์    เสียงกระดิ่งกุ๋งกริ๋งดังหน้าร้านผมรีบบอกว่าร้านปิดแล้ว  เที่ยงค่อยมาใหม่   แต่เสียงนุ่มที่เอ่ยรับคำมันทำให้ผมต้อง..หยุดมือที่กำลังรื้อลิ้นชักในทันที

“ขอโทษครับ..นึกว่าร้านเปิดเสียอีก”  เงยหน้ามองหน้าใสที่กำลังจะหันหลังกลับ  รีบเดินออกจากโต๊ะคิดเงินแล้วใช้มือดันประตูทันน้องที่กำลังจะดึงเปิดพอดี  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วมองตากลมสีน้ำตาลผ่านกระจกใสของประตู  น้องค่อย ๆ เลื่อนสายตาจากที่จับขึ้นมาสบตาผมผ่านกระจก  ผมเลื่อนมือลงมาจับป้ายหน้าร้านเปลี่ยนเป็น ‘close’  น้องปล่อยมือจากที่จับโดยไม่ละสายตาจากดวงตาผม ขยับชิดแผ่นหลังบางจนชิดอกตัวเอง  เอื้อมมือโอบเอวให้ถอยหลังก่อนจะดึงประตูเหล็กปิดลงมามากกว่าครึ่ง  น้องเกร็งจนผมรู้สึกได้  ค่อย ๆ สวมกอดจากด้านหลังช้า ๆ แล้วกระซิบข้างหูเบา ๆ
 
“พี่นึกว่ากลับบ้านไปแล้ว..”  น้องหดคอหนีลมอุ่นจากริมฝีปากแล้วเบี่ยงตัวออกหมุนตัวกลับมามองหน้าผม  มองดวงตากลมที่สะท้อนภาพตัวผมอยู่ในนั้น..ลดสายตาลงมามองริมฝีปากสีอ่อนที่กำลังเม้มแก้เขิน

“..ผมจะซื้อสตาร์ซอคเกอร์”   ยิ้มน้อย ๆ แล้วพยักหน้ารับ  หมุนตัวเดินไปหยิบของที่น้องอยากซื้อแล้วหันกลับมาเผชิญหน้า  ยื่นหนังสือส่งให้แล้วยื้อไว้แข่งกับแรงดึงน้อยนิดที่พยายามดึงสตาร์ซอคเกอร์  ยิ้มบางแล้วยอมปล่อยหนังสือให้น้องถือโดยดี  หน้าเรียวขึ้นสีเรื่อ  มือเล็กจับหนังสือมากอดแน่น  น้องผ่อนลมหายใจออกแล้วเลยมองหน้าผม  เอ่ยถามเสียงเบา..

“ร้านปิดกี่โมงครับ?”  ยิ้มอ่อนโยนกับการชวนคุยแล้วเลี่ยงตอบคำถาม  ชี้นิ้วไปที่หน้าร้าน  น้องหันมองผมก็เดินเข้าประชิด  กอดไว้หลวม ๆ แล้วก้มหอมใบหูสีชมพูอ่อน  กระซิบเบาบอกเวลาเปิดที่น้องไม่ได้ถาม  ‘8  โมงครับ..’  มือเรียวปล่อยสตาร์ซอคเกอร์ตกลงพื้นแล้วดึงขึ้นมาปิดหู  หอมหลังมือแล้วกระซิบบอกเวลาปิดร้าน  ‘ปิดทุ่มตรงครับ’  เบี่ยงตัวน้องหันหน้ามาหาแล้วก้มจรดริมฝีปากที่หน้าผากเนียน  กระซิบอีกครั้ง..  ‘’ให้เช่าการ์ตูนกับนิยาย’  เว้นวรรคไว้ก่อนจะกระซิบที่แก้มเสียงแผ่ว  ‘..อยู่หลังร้านครับ’  น้องกลั้นหายใจแล้วหลับตาแน่น  ยิ้มบางแล้วค่อย ๆ ลากริมฝีปากมาจูบที่ริมฝีปากสีอ่อนบางเบา..

“พี่ชื่อ  ‘เต’  แอบมองธันมาตั้งนานแล้ว..”  น้องก้มหน้าหลบริมฝีปากผมแล้วดันหน้าผมออกห่าง  สบตาสีน้ำตาลกลมแล้วยิ้มอ่อนโยนส่งให้
“มีแฟน..รึยัง?”  หน้าแดงก่ำกะพริบตาปริบ  ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปาก  ผมก้มลงควานหาริมฝีปากที่เม้มแน่น  แตะแผ่วแล้วผละจาก  น้องลืมตามอง  ผมปล่อยให้น้องตัดสินใจว่าจะรับจูบที่กำลังจะโถมเข้าใส่  หรือจะเลือกผลักออกให้ห่างตัว โชคเข้าข้างผม..น้องเลือกอย่างแรก

สัมผัสริมฝีปากสีอ่อนเชื่องช้า  แตะไล้แผ่วเบาไปตามรูปริมฝีปาก  กดย้ำจูบให้ลึกล้ำมากขึ้นแล้วค่อยสอดปลายลิ้นควานชิมความหวานจากริมฝีปากบาง  ลมอุ่นจากปลายจมูกน้องขาดห้วงเพราะหายใจไม่ทัน  มือเรียวขยำเสื้อแน่น  สอดจับมือที่ขยำเสื้อมากุมไว้หลวม ๆ อีกข้างสวมกอดแล้วดันไล่จนหลังน้องชิดผนังร้าน  ละมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด  ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดดึงความสนใจ..ผมอยากแสดงความเป็นเจ้าของน้องมากกว่านี้

ละริมฝีปากนาบจูบตามซอกคอ  หน้าอก  ไล้เลียปลายลิ้นแตะแผ่วที่ยอดอกสีชมพูอ่อน  ดูดเม้มผิวเนื้อจนเป็นสีกุหลาบไปทั่วหน้าอก  ก้มกดจุบเนื้อนูนโป่งผ่านเป้ากางเกง  น้องถดสะโพกหนีริมฝีปากพัลวัน  ก่อนผมจะไปไกลกว่านี้  มือเรียวก็ดึงแขนผมให้ลุกขึ้นยืน  น้องโถมตัวเข้ามากอดผมแน่น   ดันไหล่เล็กออกซุกปลายจมูกและริมฝีปากเข้าสูดกลิ่นหอมอ่อนจากผิวเนียน 

ประคองหน้าน้องขึ้นแล้วกำลังจะฉกจูบที่ริมฝีปากบาง  ชะงักกับตากลมที่มีน้ำตารื้น  หัวใจเต้นช้าลง  ความอยากเป็นเจ้าของหดหายเกือบติดลบ  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วแตะหน้าผากตัวเองกับหน้าผากเนียน  หลับตาแน่นข่มใจไม่ให้ล่วงเกินน้องมากกว่านี้  หัวใจผมเต้นดังจนกลัวว่าน้องจะได้ยิน  สวมกอดกลับเบามือ  กดปลายจมูกลงกับกระหม่อมบาง..ระงับอารมณ์ดิบที่กำลังก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง

ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วสูดลมเข้าลึก ๆ ดันไหล่น้องออกแล้วรีบก้มเก็บเสื้อน้องมาสวมให้  กลัดกระดุมรวดเร็วแล้วรีบดึงน้องเข้ามากอด  มือเรียวลูบหลังผมช้า ๆ  เหมือนจะขอบคุณที่ผมยอมหยุด  ดันไหล่น้องออกแล้วหันข้างให้น้อง  ลูบหน้าตัวเองแรง ๆ แล้วหันกลับมายิ้มกว้างให้คนที่เม้มปากแน่นจ้องผมไม่วางตา

“ทานข้าวเช้ารึยังครับ หาอะไรทานกันไหม?”  น้องพยักหน้าแล้วก้มหน้าเดินหนีไปทางประตูร้าน  ถอนหายใจไล่ความเสียดายที่กำลังจะเสียโอกาสได้อยู่กัน  2  ต่อ  2  ดึงประตูเหล็กขึ้นแล้วเปิดประตูร้านอ้อยอิ่ง  น้องก้มหน้ากลั้นยิ้มแล้วผลักไหล่ผมห่างประตู  มองมือเรียวกำลังจะดันเปิด  น้องหยุดส่งแรงผลักประตูแล้วหันมามองหน้าผมช้า ๆ

“ผมไม่มีแฟน..อยากได้เจ้าของร้านหนังสือมาเป็นแฟนอยู่เหมือนกัน  พี่รู้จักเขาไหม?”  อึ้งกับคำที่น้องบอก  แล้วรีบเดินตามแผ่นหลังที่ก้มหน้ายืนรอหน้าร้าน  ปิดร้านแล้วเดินคู่กันกลับไปทางตลาดสด คำถามที่น้องถามก่อนออกจากร้านดังก้องไปมาในหู  อยากจะตอบเลยก็กลัวน้องจะเขินหนัก  รอให้น้องลดความอายลงอีกนิด  ผมค่อยย้ำให้น้องหน้าแดงถึงหูอีกรอบ.. ก่อนจะเข้าตลาดผมก็ดึงแขนเรียวเขามาหา  กระซิบเบาให้ได้ยินแค่  2  คน..






“พี่บอกเจ้าของร้านหนังสือแล้วนะ..เขาสั่งให้มาบอกธันด้วย..ยินดีรับใช้..ทุกอย่างครับ”


END.

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3

แถม


ขี่มอ’ไซค์ฝ่าลมหนาวไปรับน้องมานั่งเป็นเพื่อนที่ร้านเหมือนทุกวัน  ชะลอความเร็วเมื่อถึงเขตโรงเรียน  กวาดสายตามองหาหน้าเรียว  ตัวบาง  ผิวละเอียด  พอเห็นน้องยืนซื้อลูกชิ้นปิ้งก็เข้าไปจอดเทียบข้างหลัง  ล้วงมือถืออกมาโทร  น้องที่กำลังเปิดกระเป๋าหยิบเงินส่งแม่ค้าถึงกับรีบลน  อมยิ้มมองด้านหลังที่ส่งเงินให้แม่ค้าแล้วนิ่งฟังเสียงที่รับโทรศัพท์ผม

“ครับ..พี่เต..พี่เตได้ยินธันไหม?  เดี๋ยวธันหาที่ยืนใหม่นะครับ  สัญญาณมันกวนกันแน่เลย”  ยิ้มกว้างให้น้องที่กำลังรวบถุงลุกชิ้นกับกระเป๋าเงินไว้ด้วยกัน  เอื้อมมือแตะแขนแล้วยิ้มกว้างให้หน้าเหรอหราของน้อง

“แกล้งธันเหรอ?!”  ปากต่อว่าแต่หน้ายิ้มมีความสุข  ยื่นมือรับกระเป๋าน้องมาสะพายแทน  น้องคร่อมซ้อนแล้วกลับร้านพร้อมผม  ทันทีที่ผมจอดน้องก็เอื้อมมือลอดแขนมาบิดกุญแจปิดเครื่อง  เหลือบมือมือเรียวแล้วก้อด..ใจเต้นแรงไม่ได้  ผมไฟลุกทุกครั้งที่น้องเข้ามาใกล้  มัน..ห้ามยากด้วยสิ  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วเดินตามน้องที่เข้าร้านไปหยิบจานมาใส่ลูกชิ้น  ปลดเป้ที่ไหล่ออกแล้ววางไว้ที่โต๊ะกินข้าวหลังร้าน  มองต้นคอที่โผล่พ้นคอเสื้อ  ไล่สายตาลงมามองแขนเรียว  สะโพกเล็ก  น่องสวยไร้ไขมัน..

“ไปนั่งกินข้างนอกนะครับ..พี่เต” รีบเงยหน้ามองตากลมที่จ้องหน้าผมอยู่  พยักหน้าแล้วรีบเดินนำออกมาหน้าร้าน  เดินเข้าไปนั่งในเคาน์เตอร์  จัดเก้าอี้น้องให้น้องเข้ามานั่งด้วย ไม่นานลูกค้าก็ทยอยเดินเข้ามาเช่าการ์ตูนกับนิยายในร้าน  เพื่อนน้องหลายคนก็เป็นลูกค้าที่ร้านผม  ยิ้มให้เพื่อนน้องที่แซวว่าสนิทกับผมตอนไหน? เจ้าตัวยักไหล่ไม่ตอบ  ปากบางเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ย ๆ   ตากลมจับจ้องรายชื่อเพื่อน  นิ้วเรียวแตะสันหนังสือไล่ตามรายการที่ยืมไป

“เรื่องนี้หายไปไหน?  มึงเอามาคืนวันนี้เลย  บ้านอยู่แค่นี้อย่ามาทำเนียนบ้านไกล  ไปเอายาก  แล้วจะไม่คืน  ไอ้เหี้ย”  กลั้นยิ้มกับการทวงหนังสือของน้องกับเพื่อน  หน้าตาดีเลยทำให้คำหยาบโลนมันดูไม่รุนแรงเลยแม้แต่น้อย ผมให้น้องเป็นคนรับคืนและเขียนเช่าหนังสือเองทั้งหมด  ผมมีหน้าที่เก็บและหยิบเงินทอนอย่างเดียว

หลายครั้งที่ถูกมองด้วยสายตาสงสัยจากคนอื่น  ผมใช้ดวงตาที่มองกัน  การสัมผัสนิดหน่อยแทนคำตอบว่าผมกับเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนี้..เราเป็นอะไรกัน  ไม่ยากที่จะเดาออกว่าผมกับน้องกำลังคบกันอยู่  และไม่ยาก..ที่จะทำให้ลูกค้าหลายคนเลิกหวังกับผม

ใกล้เวลาปิดร้านผมก็ลุกเอาหนังสือที่ลูกค้าคืนเก็บเข้าชั้น  น้องดึงลิ้นชักเก็บเงินออกมาแล้วหยิบเงินซื้อข้าวเย็นมารอผม  ละมือที่กำลังจัดหนังสือแล้วพาน้องซ้อนมอ’ไซค์ออกมาหาอะไรกินตอนเย็น  โทรบอกแม่น้องว่าวันนี้ผมพาน้องกินข้าวเย็นก่อนแล้วจะพาไปส่งที่บ้าน  นั่งกินข้าวมันไก่  ต่อด้วยเกาเหลาเย็นตาโฟพิเศษอีกคนละชามก็เดินซื้อขนมก่อนจะกลับร้าน

ถึงร้านน้องก็เดินตัวปลิววิ่งเข้าห้องน้ำ  ผมวางขนมไว้ที่เคาน์เตอร์แล้วดึงประตูเหล็กลดลงมากกว่าครึ่ง  ล็อคประตู  ปิดไฟที่เคาน์เตอร์และหน้าร้าน  เหลือไฟจากทางขึ้นชั้นบนไว้แค่ดวงเดียว  เดินไปจัดหนังสือต่อ  ไม่นานน้องก็เดินมาหา  เงยหน้ามองน้องเช็ดมือที่กางเกง  อดไม่ได้ที่จะมองเป้ากางเกง..ผมรู้ว่ามันดูลามก  แต่ผมก็ห้ามสายตาตัวเองไม่ได้  เบือนหน้ากลับมามองหนังสือแล้วหยิบขึ้นใส่ชั้นจนเสร็จ  หันมองมือสวยที่กำลังช่วยหยิบหนังสือเก็บที่ชั้น  ยิ้มน้อย ๆ แล้วจับมือน้องไว้หลวม ๆ

“ไม่เป็นไรครับ  พี่จัดเอง”  น้องทำหน้ามุ่ยแล้วนั่งขัดสมาธิเท้าคางมองผมจัดหนังสือ  หัวใจเต้นตึกตักกับดวงตากลมที่มองผมอยู่ตลอด  จับหนังสือเล่มสุดท้ายเข้าชั้นหนังสือ  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ เลื่อนสายตาหันมองตากลมที่ยังคงมองหน้าด้านข้างผมไม่วางตา  ทันทีที่ผมหันสบน้องก็หลบวูบ  แก้มใสขึ้นสี  มือที่เท้าคางลดมาวางราบกับพื้นข้างตัว  ตากลมกะพริบปริบ  ริมฝีปากเม้มช้า ๆ แล้วพยายามเบี่ยงตัวเอี้ยวหลบการมองของผม เอื้อมมือคว้าแขนไว้  ดึงเข้ามาแล้วกดปลายจมูกหอมที่แก้มใส  ระริมฝีปากพรมจูบไปทั่ว  ก้มควานหาริมฝีปากบาง  แตะปลายลิ้นที่ริมฝีปากล้าง  จูบเม้มเนื้อด้านในแล้วค่อย ๆ แทรกปลายลิ้นเข้าเกี่ยวกระหวัด  แขนรวบน้องเข้ามากอด  เบียดเข้าหาไออุ่น  มือสอดลูบไล้ผิวลื่นมือ  ละมือที่กอดน้องมาปลดกระดุมเสื้อนักเรียน  เสียงครางอืออาจากน้องยิ่งทำให้สำนึกรู้ผิดชอบผมมันเลือนรางลง จากที่เคยจูบก่อนส่งกลับบ้าน  วันนี้อารมณ์ผมมันเตลิดมากกว่านั้น..ละริมฝีปากจากปลายลิ้นอุ่น  เลียไล้  ตวัดลิ้นดูดชิมผิวเนื้อนุ่มไปทั่ว  มือถอดเสื้อน้องออก  ขยับเข้าหาตุ่มสีอ่อนบนหน้าอก  แตะแผ่วเชื่องช้า  เสียงเต้นตึกตักดังก้องอยู่ในอกข้างซ้ายน้อง  มือเล็กปล่อยแขนผมแล้วเลื่อนขึ้นสอดมือตามเส้นผม  เสียงนุ่มเอ่ยเรียกชื่อผมแผ่วเบา..

“อึก..พี่เต..”  ลมหายใจผมมันขาด ๆ หาย ๆ  หัวใจเต้นดังคับอกก้องไปถึงในหัว  สมองไม่รับรู้เรื่องอื่น..นอกจากสั่งให้ทำตามการสนองตอบของร่างกายเรา  ปลดเข็มขัดและกระดุม  รูดซิปกางเกงลงจนสุดก่อนจะซุกหน้าสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของกลิ่นตัวน้อง  จูบความโป่งนูนผ่านกางเกงผ้าเนื้อดี  เลียเน้นน้ำหนักปลายลิ้นตามความยาว  ใจเต้นรัวกับส่วนหัวที่โผล่พ้นออกมาจากขอบเอวกางเกง  สัมผัสช่องเล็ก ๆ ส่วนปลายที่โผล่พ้นช้า ๆ  ด้วยปลายลิ้น  น้องสำลักอากาศเสียงหวาน

“อ๊ะ!”  สะโพกเล็กยกขึ้นตามหาปลายลิ้นที่แตะเลยไปที่ไรขนอ่อนแถวใต้สะดือ  มือจับขอบกางเกงถอดออกจากตัวน้อง  ก้มต่ำระจูบลากปลายลิ้นแตะลงตามผิวเนื้ออ่อน  จูบผะแผ่วที่ช่องทางอุ่น  เสียงครางต่ำของน้องดังขึ้นเรื่อย ๆ ตามจังหวะการจูบของผม  ดันขาขึ้นแล้วตวัดปลายลิ้นดูดต้นขาด้านใน น้องดันไหล่ผมออกแล้วปล่อยน้ำสีขาวข้นออกมาจนเลอะหน้าท้องไปหมด

ขยับตัวขึ้นถอดกางเกงตัวเองออก  ประคองหน้าเรียวที่มีน้ำตารื้นขึ้นมาจูบ  ‘พี่เต..ธันขอโทษ  ทั้งที่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็..อย่าเบื่อธันนะ..’  ส่ายหน้าตอบแล้วก้มจูบริมฝีปากบาง..

“ให้พี่เห็น..ทุกอย่างของธัน  เป็นของพี่คนเดียวนะ..”   ตากลมไหวระริกหลับตาลงช้า ๆ แล้วเผยอริมฝีปากรับจูบผม  ปลายลิ้นเกาะเกี่ยว  แลกสัมผัสอุ่นจากฝ่ามือ  ขยับสะโพกเอาความแข็งขืนของตัวเองแตะที่น้ำขาวข้นของน้องช้า ๆ ละมือกวาดน้ำรักมาป้ายจนทั่วโดยไม่ละริมฝีปากห่างจากปลายลิ้นอุ่น ประคองน้องขึ้นนั่งตักแล้วจับความต้องการตั้งตรง  มือคอยจับท้ายทอยบังคับรับริมฝีปากและปลายลิ้น  อีกข้างละมาจับสะโพกน้องให้นั่งลงช้า ๆ  ความอุ่นและคับแน่นค่อย ๆ บีบรัดส่วนหัวทีละน้อย  น้องกัดริมฝีปากผมเมื่อผมเด้งเอวขึ้นจนความยาวเข้าไปจนสุด  ครางยาวใส่ริมฝีปากบาง  มือลูบผิวลื่น  หายใจหอบต่ำ  ลืมตามองหน้าเรียวที่อยู่ตรงหน้า  ใจเต้นถี่กับภาพน้องที่ผมไม่เคยเห็น  ทั้งสีหน้าที่บ่งบอกความต้องการ  น้ำตาที่รื้นอยู่ตลอด..แยกไม่ออกว่าเจ็บหรือรู้สึกอย่างอื่นมากกว่ากัน

แสงไฟที่ลอดเข้ามาทำให้เรามองตากันได้ชัด  เห็นความต้องการจากความรู้สึกข้างในกำลังพุ่งพล่าน  จับสะโพกน้องยกขึ้น  รับความเสียวที่ช่องทางเล็กบีบรัดจนต้องครางปล่อยอารมณ์  น้องนิ่วหน้าแล้วซบหน้ากับหน้าผากผม  ก้มควานหาริมฝีปากแล้วขยับบั้นเอวเข้าหาช่องทางที่กำลังตอดถี่ยิบ

เสียงนุ่มครางแข่งกับเสียงหอบต่ำของผม  มือเล็กบีบหัวไหล่แน่น  จับน้องพลิกหันหลังแทรกท่อนร้อนเบียดเข้าหาช่องทางคับแคบ  กอดเอวไว้ข้างหนึ่ง  อีกข้างวางทาบหลังมือที่จับตู้หนังสือพยุงตัวไว้แน่น  ประคองหน้าหันกลับมารับจูบแล้วขยับสะโพกสวนกับการเกร็งสะโพกรับความยาวของผม  แรงตอดและบีบรัดทุกทางเข้าถาโถมใส่เหมือนไซโคลน  แรงขยับขย่มรับของเราส่งให้หนังสือบนชั้นร่วงกราวเหมือนฝนตก  อารมณ์ดิบที่คุอยู่ทำให้ไม่รู้สึกถึงสันหนังสือที่หล่นกระแทกหัวไหล่  ความซ่านพุ่งเข้ามาในอก  ความเสียวแล่นปราดไปทั้งตัว  ผมจับสะโพกเล็กกดลงมาเต็มแรงและปลดปล่อยออกมาจนหมด  น้องละมือที่จิกไหล่มารูดรั้งข้อมือเร็ว  ผมดันน้องออกแล้วครอบริมฝีปากรับธารรักที่น้องปลดปล่อยออกมา

“ซืดดด..พี่เต”  เสียงทุ้มครางต่ำ  มือขยำเส้นผมแน่น  ความแข็งขืนกระตุกเกร็งคับปาก  ผมปล่อยให้น้ำรักของน้องไหลระมุมปากเพราะไม่สามารถกลืนลินลงไปได้หมด  น้องถอนความต้องการออกแล้วรีบเอามือเช็ดช่วยทำความสะอาด

“พี่เตกลืนไปทำไม?..บ้วนปากเร็ว”  ยิ้มแล้วพยักหน้ารับ  ค่อย ๆ พยุงน้องเข้าห้องน้ำล้างตัว  ผมล้างหน้าบ้วนปากเสร็จก็ดึงน้องมานั่งตัก  น้องยืนยันจะกลับบ้านและไม่ต้องกังวลเรื่องร่างกายน้อง

“ไปส่งธันกลับบ้านนะครับ  แม่ต้องสงสัยแน่ถ้าธันไม่กลับบ้านอ่ะ  ไม่ต้องห่วงนะครับ  ธันไม่เป็นไร..”  ถอนหายใจยาวแล้วส่ายหน้าตอบ  น้องหน้าเสียแล้วกอดผมแน่นขึ้น  ลูบหลังปลอบเบา ๆ แล้วกดโทรบอกแม่น้องว่าน้องไม่สบาย  ผมให้กินยาและอยากให้น้องนอนที่ร้านด้วยกัน  แม่เงียบไปนาน  ผมพร้อมจะบอกความจริงและยืดอกรับเพราะผมรักน้อง

“ฝากน้องด้วยเต  รุ่งนี้พากลับบ้านด้วยนะ  เช้าแม่ต้องไปขายของไม่มีใครอยู่บ้าน”  ตอบรับแล้ววางหู  อุ้มน้องที่ซบหน้ากับไหล่ขึ้นไปนอน  หายาให้กินเสร็จก็ดึงเข้ามากอดกล่อม

“พี่รักธัน”  กระซิบข้างหูตลอดเวลาให้น้องมั่นใจ  มันอาจจะเร็วในสายตาคนอื่น  แต่สำหรับผม..ระยะเวลาไม่จำเป็นสำหรับการรักใครสักคน..






รักของผม..ใช้หัวใจล้วน ๆ  ครับ


END.




fan fic  So  sweet  By jiki

ช่วงบ่ายๆก่อนเย็นของวันที่3มค. วันนี้เป็นวันหยุดเชยครับ พอดีว่าผมกับพี่เตกลับมาจากการเที่ยวบ้านญาติๆต่างจังหวัดก่อนคนอื่น แบบว่าไม่อยากเจอรถติดวันสุดท้ายน่ะ แล้วทีนี้พี่เค้าเห็นว่าอยู่ว่างๆก็เลยเปิดร้านแก้เหงา เผื่อใครจะมาเช่าหนังสือไปอ่าน แล้วก็ชวนผมมาเฝ้าร้านด้วย ผมก็กะว่าจะมาเจอพี่เขา(ไม่เจอหลายวันผมคิดถึงครับ) แล้วก็หาการ์ตูนอ่านไปในตัว(อันนี้ผลพลอยได้) แต่กลายเป็นว่า ตอนนี้เราแอบทำอะไรกันบางอย่าง ทั้งๆที่หน้าร้านก็แขวนป้ายเปิดอยู่เลย

"ไม่เป็นไรหรอก วันนี้คนเงียบจะตาย ไม่มีใครรู้หรอก"

"แต่ว่า..." ผมอิดออดได้สักพักก็ต้องยอมตามใจพี่เขา ทรุดลงหลังเคานเตอร์ ปล่อยพี่เขาจัดแจงท่าทางผมแล้วเอาอุปกรณ์มาเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย

'นี่มันวางแผนล่วงหน้ามาแล้วนี่!!!'บางสิ่งบางอย่างถูกสอดลึกเข้ามาในร่างกาย ทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว แต่ก็อดสะดุ้งไม่ได้

"อะไรกัน สะดุ้งตัวกระตุกเชียว เสียวเหรอ" เสียงทุ้มของพี่เค้าถาม ถึงตำแหน่งของผมในตอนนี้จะทำให้หันไปมองหน้าพี่เค้าไม่ได้ แต่จากน้ำเสียง พี่เค้าคงจะยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่แน่ๆล่ะ!!!

"ปะ เปล่าครับ อึก" ได้ยินเสียงพี่เขากลั้วหัวเราะ พลางว่า เปล่า แต่เสียงสั่นเชียว ผมได้แต่ปล่อยให้พี่เขาทำตามความต้องการไปเรื่อยๆ โดยที่ผมไม่อาจต่อต้านได้

บางอย่างมันสอดลึกเข้ามา ลึกเข้ามา จนเมื่อใกล้จะสุดทาง ผมกำมือเข้าหากันแน่น กลัวเจ็บเมื่อมันชนเข้ากับปลายทาง  แต่มันก็ไม่ได้กระแทกรุนแรงอย่างที่กลัว ทว่าการกดลงเข้าหาผนังที่ที่รายล้อม ซ้าย ขวา บน ล่าง มันก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่าง รู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองมันสั่น เกรงที่จะหายใจเข้า กลัวที่จะผ่อนลมหายใจออก

"อย่าขยับสิธัน พี่มองไม่เห็น ให้พี่มองให้ชัดๆหน่อย...นะ" เสียงทุ้มเอ่ยขอร้อง ขัดกับการกระทำที่ฉุดรั้ง จับขยับ กดตรึงตัวผมให้เป็นไปในทิศทางที่ต้องการ การสกัดกั้นเสียงของตัวเองมันไม่ง่ายเลยครับ โดยเฉพาะเวลาที่เราหายใจไม่เป็นจังหวะอย่างนี้ เมื่อเรามองไม่เห็นว่า พี่เขากำลังทำอะไร ประสาทรับรู้ส่วนอื่นยิ่งตื่นตัว รับสัมผัสทดแทน แต่มันยิ่ง...ทำให้ผมปั่นป่วน บางสิ่งบางอย่างที่กดถูกอยู่ในช่องทางนั้นหลายครั้ง ค่อยๆเคลื่อนตัวออก แล้วก็สอดกลับมาอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าบางอย่างมันไม่เหมือนเดิม มันก็หมุนวน ปลุกปั่นจน..ผม

"อุ๊บ" คว้ามือปิดปากตัวเองแทบไม่ทัน

"เป็นอะไรล่ะ อย่าตบปากตัวเองแรงอย่างงี้สิ" พี่เขาเอื้อมคว้ามือผมออก แล้วก็หมุนวนสิ่งที่ค้างคาอยู่ต่อไป เมื่อพี่เขายังรั้งมือผมไว้ การกักกั้นเสียงมันก็ไม่ดีเท่าที่ควร

"อือ อื้อ~"

"พรึบ!!!" " หวัดดีพี่ " เสียงลูกค้าคนหนึ่งเปิดเข้ามาในร้าน ผมมสะดุ้งสุดตัว หยุดเสียงร้องของตัวเองพร้อมกับที่พี่หยุดการกระทำไว้ชั่วครู่ กล่าวสวัสดีลูกค้าแล้วกลับมาสานต่อการกระทำนั้นใหม่!!!! ผมไม่รู้ว่า ใครเข้ามา จากตำแหน่งที่ผมอยู่ ผมเห็นเพียงกองหนังสือนิยายใต้โต๊ะเท่านั้น แต่คนที่มาที่นี่ส่วนมากก็เป็นคนในละแวกตลาด ซึ่งย่อมคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับผมและครอบครัว แม้คลองสายตาผมจะไม่รับรู้เงาของใครสักคน แต่ผมก็ไม่อาจมั่นใจได้ ผมภาวนาให้เขาไม่เห็นกิจกรรมข้างหลังเคานเตอร์นี่
 
"เขามองไปทางอื่นน่ะ ไม่เห็นหรอก แถมยังใส่หูฟังอยู่ด้วย" เสียงพี่เขาก้มมาบอกผม ผมพยายามมองไปตามเสียง แต่มุมนี้มันมองไม่เห็นอะไรเลยสักอย่างจริงๆ แล้วพี่เตก็ลงมือปฏิบัติการต่อไป พี่เขายึดมือผมไว้ ผมไม่กล้าสะบัดตัวหนี กลัวผลที่ตามมาครับ
 
มีลูกค้าอยู่ในร้าน แทนที่พี่เขาจะหยุด กลับยิ่งแกล้ง การสอดใส่และการปลุกปั่นยังไม่เลิกรา ผมพยายามกลั้นเสียงไว้ ขบเม้มริมฝีปากจนเจ็บ แต่เสียงลมหายใจนี่ ผมกลั้นไม่ได้จริง จนในที่สุด...

"อ๊ะ อืม~อื้ออออ" ผมกลั้นเสียงไม่ไหวแล้ว ถึงพี่เขาจะบอกว่า ลูกค้าใส่หูฟังมา แต่เสียงมันน่าอายนี่นา พี่เขาได้ยินเสียงผมก็ยิ่งลงมือหนักขึ้นๆ ผมก็ยิ่งรู้สึกดี จนไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะส่งเสียงยังไงออกไปบ้าง

"ตุ้บ" ผมสะดุ้งอีกครั้ง พี่เขาลูบหัวบอกเสียงเบาว่า ลูกค้าเอาหนังสือมาวาง รอแป๊บนึง อย่าขยับล่ะ ผมไม่กล้าขยับหรอกครับ กลัวเค้าเห็นว่าพวกผมทำอะไรกัน จนสแกนหนังสือ จัดลงถุง ส่งให้ลูกค้าเสร็จ พี่ก็บอกขอบคุณเบาๆ แต่ว่าลูกค้าคนนี้ก็ยังไม่ออกไป

"พี่เต" เสียงลูกค้าคงนี้คุ้นจัง เหมือน

"หืม อะไรเหรอ ตรี" พี่ตรี พี่ไอ้น้องโฟร์!!!!!!!!!!!!!!!

"ถึงผมจะใส่หูฟัง แต่ผมไม่ได้เปิดเพลงนะ"(OoO)

"ได้ยินเสียงน้องเค้าชัดแจ๋วเลย" (O{}O)

"แต่ผมว่าพี่เก็บไว้ฟังคนเดียวดีกว่านะ แบบ เสียงน้องเค้ามัน...สุดๆอ่ะ ผมว่าผมไปหาแฟนก่อนดีกว่า ไปล่ะพี่" (O[ ]O)

"กึง"

"ชิ!!! ปล่อยให้ไอ้ตรีได้ยินซะได้" โห พี่เตทำมาชิ มาเชอะ

"พี่เต!!!" ผมทนไม่ไหวแล้ว ยังตัวออกมาทุบต้นขาแน่นๆตรงหน้า ทุบๆ

"อ้าว ธัน ลุกมาทำไม ดีนะ มะกี้เอาไม้ออกแล้วอ่ะ" พี่เขาเอื้อมมือมาจะกดหัวผมลงที่เดิม

"ไม่เอา ไม่ทำแล้ว" โมโห มะกี้ทำไมไมยอมหยุด ผมอายนะ

"ทำไมล่ะ ไม่ให้พี่แคะหูต่อแล้วเหรอ ยังเหลืออีกข้างนึงนะ"

"ไม่เอาอ่ะ ก็บอกแล้วว่าอาย ยังให้คนอื่นมารู้ มาเห็นอีก" ก็มันน่าอายนี่ โตแล้วยังมานั่งหนุนตักให้คนอื่นแคะหูให้อย่างงี้ แล้วพอมันเคลิ้ม ผมมักทำตัวแปลกๆอีก ไม่ชอบเลย มันเหมือนแมวหง่าว!!!

"พี่ว่า ตรีเค้าไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร เค้าไม่เห็นหน้าธันหรอก เคานเตอร์ออกจะสูง" ทำมาพูดๆ "แล้วพี่ก็ไม่ยอมให้ใครเห็นหน้าแบบนี้ของธันด้วย"

"หน้าแบบไหนล่ะ"

"หน้าเคลิ้ม~ " เหมือนผมได้ยินเสียงหน้าตัวเองระเบิดบึ้ม!

"พี่!!!!"

"555 เอาล่ะๆ เดี๋ยวพี่แขวนป้ายปิดร้าน แล้ว ค่อยแคะหูต่อละกัน จะได้ไม่มีใครเข้ามา ...." แล้วพี่เตก็ได้ง้อผมต่อยาวเลยครับ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันดีๆที่ผมพอแบ่งปันให้ได้ แต่นอกเหนือจากนี้ ผมขออุบไว้ละกันนะ ผมอายครับ (-/////-)

จบ.

แถมๆ
ระหว่างทางขี่มอ'ไซค์กลับบ้าน นึกหวนไปถึงเหตุการณ์ในร้านหนังสือ เสียงทุ้มก็บ่นลอยไปกับสายลม
"แฟนพี่เต เสียงแม่ง...น่าฟัดฉิบหาย" ความรู้สึกบางอย่างมันตีรวนขึ้นมาเล็ก แต่ก็พอใช้เป็นข้ออ้างให้กับตัวเองได้ "ไปหาเฮียปิงดีกว่า" ยกยิ้มอารมณ์ดีCBR  1000  สีดำลดความเร็ว หักเลี้ยว ก่อนเร่งความเร็วหายไปในซอยใกล้ๆตลาด

.........................................................


กอดดดดค่าาาาาาาา
เรื่องนี้จิได้ใบสั่งมาค่ะ  เลยได้พล็อตประมาณนี้  เคลมเร็วอะไรแบบนี้ค่ะ >////<  ขอบคุณ jiki สำหรับแฟนฟิคน่ารัก ๆ ด้วยค่ะ
คุณ BlueCherries  นอกจากจะได้ใจแม่ยายและขาไพ่แล้ว  ยังเป็นขวัญใจจิด้วยค่ะ  จิเคยเขียนตอนพิเศษวันเด็กคู่นี้ด้วยค่ะ  อันนั้นพี่อ้นแกล้งน้อง  น้องร้องไห้ยกใหญ่  โวยวาย  น่าสงสารมาก  จิชอบบบบ55555   แต่หาไม่เจอค่ะ  ไม่ม่ใครเก็บให้ด้วยค่ะ  อดอ่านโดยจำยอม TT
คุณ Noo_Patchy  ตอบโต้ด้วยอีโมกอดหลาย ๆ ตัวค่ะ ^^
คุณ Mouse2U  อ่านคอมเม้นท์ของคุณแล้วจิยิ้มเลย  ถ้าเตงได้อ่านตอนพิเศษที่จิเขียนไว้เตงจะต้องชังพี่อ้นยิ่งกว่านี้  มันแกล้งน้องค่ะ  น้องร้องไห้  ตีอกชกตัว  น่าสงสารที่สุด(แต่จิโคตรชอบอ่ะ)  ไม่ใีใครเก็บไว้ให้เลยค่ะแม้แต่จิเอง  อดอ่านเลยค่ะ  สวนตอนต่อไปของมนต์รักเงือกหนุ่ม(เปลี่ยนชื่อตอนไหน?!)จิยังไม่มีโครงการจะต่อเลยค่ะ  เขียนทิ้งไว้  3  บรรทัดต่อจากตอนนั้น  มันสื่อไปทางไหนไม่ได้เลยค่ะ  รอก่อนเนอะ ^^
คุณ nekko  คู่นี้ต้องใช้ภาษากายค่ะ  น้องถนัดมากกว่า ^^
คุณ KKKwanGGG จงรักภักดีเขาจมน้ำตามาก่อนค่ะ  ควรแล้วที่เขาจะได้รักกันให้เราอิจฉาสักที  คู่หลังนี่มีแววว่าจะติดไพ่ล่ะค่ะพี่อ้นของเรา  เพราะไปส่งไปรับทีไรต้องเจอขาไพ่ตลอดดดดดด
คุณ PURE LOVE  ชอบเม้นท์คุณจังค่ะ  ยาว  ละเอียด  ใส่ใจทุกรายละเอียดของตัวละคร  ถ้าเตงได้อ่านตอนพิเศษที่จิเคยเขียนให้คู่นี้  เตงต้องชังพี่อ้นแน่ ๆ ค่ะ  มันใจร้าย  มันแกล้งน้องให้ร้องไห้ด้วย  แต่ไม่มีให้อ่านนะคะ  หาไม่เจอค่ะ ^^
บวกขอบคุณที่ติดตามนะคะ 
  :กอด1: :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :z3:

อยากอ่านตอนพิเศษของพี่อ้นเลย โฮฮฮฮ เสียดายไม่มีคนเก็บไว้ T T

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4
 :jul1: :jul1: :jul1: เอาอีกๆๆจัดมาอีกก

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อยากจะบอกพี่เตว่า ..เราเห็นด้วยที่ว่า 'เรื่องความรักไม่มีคำว่าเร็วเกินไป' ของพี่น่ะค่ะ แต่ที่เราคิดว่ามันเร็วเกินไปก็ตอนที่พี่สารภาพกับน้องปุ๊บ แล้วจะกินน้องเลยเนี่ยแหละ ว้ากกกก!!! เรื่องนี้ของเถียงขาดใจเลยค่ะว่า 'เร็วเกินไปจริงๆ' แต่ก็ยังดีที่พี่เตยุบหนอได้ตามที่น้องร้องขอ นับถือน้ำใจพี่เตมากค่ะ ณ จุดๆ นี้ 

..ว่าแต่ บริการบอกเวลาเปิด-ปิดร้านแบบนี้ยังมีอีกไหมค้าา.. อยากได้บ้างจังเล้ยย ^^ ถ้าเราเป็นน้องธันตอนนั้นนะคะ เราคงจะระเบิดตัวเองตายไปแน่แล้วว คือพี่เตกระซิบบอกเวลาได้สยิวว~ สุดๆ เลยค่ะ แต่ก็สยิวไม่เท่ากับฟิค 'แคะหู' หรอกนะคะ :freeze: อายจังเลย แบบว่าเราคิดไปไกลแล้วค่าา ><

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
พี่เตรุกน้องเร็วมากๆๆๆๆๆๆ คุยกันครั้งแรกก็เกือบจะจับน้องกินซะแล้ว :z1:

 :กอด1: :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
แหม ท้ายเรื่องนี่คืออาราย... ที่แท้ก็ปั่นหูกันนี่เอง ทำเอาเราคิดลึก (ยืนยันว่าไม่ได้หื่นนะ อิอิ)

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ตามอ่านหลายตอนเลย แต่จิตใจมุ่งมั่นอยู่แต่พี่มั่นกับน้องแดง จิทำเราร้องไห้ละน้ำตาตก  :mew4:
พอมาอ่านตอนได้พบกันใหม่นี่ปลื้มปริ่มจริงๆ

กอดจิจ้า  :กอด1:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
สนุกครับ ชอบมากพี่เตก็ไวเกินคุยกันวันแรกก็จะจับธันกดซะแล้ว   รอคู่ที่เหลือนะครับ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
:call: .. อยากอ่านต่อแล้วจ้า ^^

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
Love  lock


แอร์เย็นเฉียบส่งกลิ่นน้ำยาถูพื้นและกลิ่นสเปรย์ปรับอากาศลอยคละคลุ้งในห้องสมุดกว้างของโรงเรียนมัธยม  เด็กหนุ่มที่เพิ่งจบ  ป.ตรี  บรรณารักษ์หมาด ๆ ยืนยิ้มบางให้สถานที่ที่มีแต่หนังสือทรงคุณค่ากับการศึกษา  ยกมือไหว้ขอบคุณผู้อำนวยการที่ให้โอกาสตนได้มาฝึกสอนเพิ่มประสบการณ์การสอนหลังจากสอบมาตรฐานวิชาชีพครู  9  มาตรฐานผ่านแล้ว  ก้าวเท้าเหยียบย่างเดินเข้ามาดูชั้นหนังสือ  ดวงตาสีน้ำตาลกวาดมองหนังสือเล่มหนาที่เรียงรายอยู่บนชั้น  รอยยิ้มจุดประดับหน้าใส  ยิ้มบางทักทายเด็กนักเรียนที่นั่งอยู่ตามทางเดินซอกเล็กระหว่างชั้นหนังสือ  เสียงซุบซิบดังแว่วเข้าหู

“บรรณารักษ์คนใหม่รึเปล่าอ่ะ?”  อมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงเล็กของเด็กนักเรียนหญิง ม.ต้นที่เพิ่งเดินผ่านคุยถึงตน

“ไม่น่านะแก..น่าจะพี่ใครมารับน้องที่เรียนที่นี่มากกว่า”  ริมฝีปากสวยหุบยิ้มฉับ  คิ้วเรียวขมวดมุ่น  เท้าหยุดเดิน  แต่ไม่ทันหันหลังกลับไปแนะนำตัวก็ต้องรับโทรศัพท์ที่โทรเข้าเสียก่อน   มือนุ่มหยิบมือถือที่สั่นอยู่กระเป๋ากางเกง  ถอนหายใจยาวแล้วกดรับอย่างเสียไม่ได้

“ครับแม่  มาถึงตั้งนานแล้ว  อยู่ในห้องสมุดครับ  ดีครับแม่..รินทร์ชอบ”  เท้าก้าวเดินไปตามทาง  ตาสวยมองหนังสือตามชั้น  นิ้วเรียวแตะไล้สันหนังสือทีละเล่ม  ริมฝีปากเอื้อนเอ่ยคุยกับมารดา  สะดุดกับหนังสือเล่มที่ยื่นออกมาล้ำหน้าหนังสือเล่มอื่นในชั้นเดียวกัน  ออกแรงดันหนังสือให้อยู่ระดับเดียวกัน  แต่ด้วยแรงดันที่มากไปหน่อยเลยส่งให้หนังสือร่วงลงไปตามแรงโน้มถ่วง

“โอ้ย!  อะไรวะ?!”  เสียงแหบห้าวดังขึ้นหลังจากหนังสือเล่มหนาร่วงหล่น  นรินทร์อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าตนจะซุ่มซ่ามดันหนังสือหล่นใส่หัวใคร  เดินรุดอ้อมชั้นหนังสือตั้งใจจะขอโทษที่ทำหนังสือหล่นใส่  ยืนนิ่งอยู่กับที่  กะพริบตาปริบกับภาพเด็กหนุ่มกางเกงดำที่กึ่งนั่งกึ่งลุกอยู่หน้าชั้นหนังสือ  มือใหญ่แตะหน้าผาก  มีหนังสือเล่มหนากางพาดอยู่ตรงหน้าอก  ดวงตาสีนิลของเด็กหนุ่มคนนั้นตวัดมองสบตาสีน้ำตาลของตน  ปลายสายจากมารดายังดังแว่ว  เรียกสติให้นรินทร์ต้องรีบกล่าวคำขอโทษ

“ขอโทษครับ..พี่ไม่ได้ตั้งใจ”  พูดเสร็จก็หันรีหันขวางกับเสียงจากลำโพงที่เรียกชื่อตน

“ครูนรินทร์  มาพบ ผู้อำนวยการที่เคาน์เตอร์รับยืม – คืนหนังสือด้วยค่ะ”  เบือนหน้าจากลำโพงติดเพดานมามองเด็กหนุ่มเจ้าของดวงตาสีนิล  สบตากันนิ่งจนครูบรรณารักษ์ต้องเป็นฝ่ายหลบ  มือเรียวกำโทรศัพท์มือถือไว้แน่นด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วนในอกบอกไม่ถูก  เท้าก้าวเดินกลับทางเดิม  ในหัวมีดวงตาสีนิลกับหน้าหล่อของเด็ก ม.ปลายที่เพิ่งจะถูกหนังสือหล่นใส่หัวตามติด  สะบัดหัวไล่ภาพนั้นทิ้ง  สาวท้าวตรงไปที่เคาน์เตอร์หนังสือ

แต่หัวใจกลับร้องขอให้หันกลับไปมองหาเจ้าของดวงตาสีนิลอีกครั้ง..

เม้มปากแน่นไม่ยอมทำตาม  ก้มหน้าเดินไปจนถึงเคาน์เตอร์โดยไม่หันหลังมอง  ปล่อยให้เจ้าของดวงตาสีนิลที่เพิ่งถูกหนังสือหล่นใส่หัว..

ยืนมองส่งแผ่นหลังบางของครูบรรณารักษ์จนลับตา


**************************

แสงสีส้มสาดทอทั่วสนามฟุตบอล  ยิ้มมุมปากส่งให้เพื่อนร่วมทีมที่ยื้อแย่งลูกกลม ๆ ในสนาม  เดินออกมาหยิบเสื้อขึ้นมาสะบัดแล้วพาดบ่า  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ  แล้วกระชับเป้ในมือแน่น  เดินตรงมาล้างหน้าที่ก๊อกน้ำตรงข้างสนาม  เบียดเข้าไปเอาไหล่ชนคนที่ก้มล้างหน้าที่ก๊อกจนเซ  ก้มหน้าอ้าปากรับน้ำที่เปิดค้างไว้  ส่ายหน้าไปมาให้น้ำล้างคราบเหงื่อ    ลูบน้ำออกจากหน้าแรง ๆ  ดึงเสื้อที่พาดไหล่ของเพื่อนในทีมมาเช็ดหน้า  เสียงโวยวายมาพร้อมสงครามแย่งเสื้อคืนเล็ก ๆ  หัวเราะขำเสียงดังก่อนจะโยนเสื้อคืน  หันมาส่องดูความเรียบร้อย  แล้วรีบแต่งตัว  โบกมือลาเพื่อนแล้วตรงไปที่หน้าห้องสมุด  มองนาฬิกาแล้วรีบเดินเข้าไปให้ทันก่อนห้องสมุดจะปิด

ผลักประตูเข้า  รับแอร์เย็นกระทบผิว  ดวงตาจับจ้องเคาน์เตอร์ด้านหน้าสุด  สบตาเพื่อนในห้องที่เป็นสมาชิกชมรมห้องสมุดที่มีเวรรับยืม - คืนหนังสือ  พยักหน้าส่งสัญญาณให้มันเดินออกจากเคาน์เตอร์  ลดกระเป๋าเป้ลงก่อนจะโยนเข้าไปข้างในเคาน์เตอร์  มือแตะ  กระโดดขึ้นนั่งแล้วเหวี่ยงขาลงแตะพื้น  ยิ้มมุมปากให้เพื่อนที่กำลังคืนหนังสือกับเจ้าหน้าที่อีกฝั่ง  ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากบอกให้มันเงียบไว้  เพื่อนพยักหน้าแล้วเสไปมองที่อื่นเมื่อเจ้าหน้าที่เงยหน้าขึ้นมอง

“เรียบร้อยครับ”  เสียงทุ้มเอ่ยบอกเพื่อนที่คืนหนังสือ  หันหลังให้แล้วรีบนั่งลงกับเก้าอี้สวมรอยแทนเพื่อนที่เป็นเวร  เสียงเก็บหนังสือดังจากข้างหลังต่อเนื่อง  ยกยิ้มกับความไม่ช่างสังเกตของอาจารย์บรรณารักษ์  ค่อย ๆ หันหลังแอบมองท่าทางที่ผม..ใจเต้นทุกครั้งที่ได้เห็น

มือเรียวข้างหนึ่งจับปากกาในมือเคาะโต๊ะเบา ๆ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่น  อีกข้างวางบนกองหนังสือกระดิกนิ้วชี้เคาะเป็นจังหวะเดียวกับปากกา  หัวทุยเอียงมองหนังสือตรงหน้า  เดาได้เลยว่าหน้าใสข้างหน้าจะต้องทำหน้างงแบบน่ารักสุดขีดอยู่แน่  ๆ   เลิกคิ้วมองแผ่นหลังบางที่หมุนหันมามองทางผม  คลี่ยิ้มให้ตาสวยที่เบิกกว้าง  ริมฝีปากสีอ่อนสั่นนิด ๆ ก่อนจะเม้มแน่น  อาจารย์หันรีหันขวางมองหาเพื่อนที่เป็นเวร

“กลับบ้านไปแล้วครับ  มันรีบกลับไปช่วยแม่เตรียมของขายน่ะครับ..ผมเลยมารับเวรแทนมัน”  หน้าใสกลอกตาไปมาเหมือนไม่เชื่อถือ  แต่ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั่นก็เลือกจะไม่เอ่ยถามอะไรต่อ  ยิ้มน้อย ๆ  ให้แผ่นหลังที่หมุนตัวหนีผมอีกครั้ง  เอนหลังพิงพนักเก้าอี้  มือสองข้างวางที่พักแขน  ตาเริ่มจับจ้องมือที่จับหนังสือในกองวางทับกันไปมา  ก้มหน้ากลั้นยิ้มกับหนังสือที่ร่วงลงมาที่พื้นเพราะกองหนังสือตรงหน้าอาจารย์ที่มันเริ่มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

“เฮ้ย!..”  เสียงทุ้มสบถออกมาเบา ๆ แต่มันก็ดังพอให้ผมได้ยิน  เหลือบมองหนังสือที่อยู่ตรงเท้าอาจารย์  ไล่สายตาขึ้นมองกลุ่มผมหนาที่ยังคงนิ่งเฉย  ภายใต้หน้ากากนิ่งเฉย..คือความเกร็งจนทำอะไรไม่ถูกต่างหาก  ยิ้มบางแล้วขยับตัว  เสียงเก้าอี้ดังเอี๊ยดอ๊าดทำให้แผ่นหลังตรงหน้าผมสะดุ้งนิด ๆ 

ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  เดินเข้าหาแค่  2 ก้าว..ผมก็รู้สึกถึงไออุ่นของอาจารย์บรรณารักษ์  ก้มตัวลงหยิบสันหนังสือขึ้นมา  ยื่นมือไปข้างหน้าช้า ๆ แล้ววางหนังสือข้างมือนุ่มที่กำลังกำแน่น  อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าเข้าไปใกล้หูที่เริ่มจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ  ในหัวคิดคำที่ต้องเอ่ยปากอย่างปัจจุบันทันด่วน  เห็นปกหนังสือแล้วยิ้มมุมปากทันที..

“..เล่มนี้ปกมันจะฉีกแล้วครับอาจารย์”  เสียงกระซิบมันทำให้ใบหูที่ผมเห็นมันเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มจนอดยิ้มกว้างไม่ไหว  อาจารย์ย่นคอห่อไหล่แล้วทำท่าจะขยับหนี  ผมรีบเอามืออีกข้างตะปบเคาน์เตอร์ไว้กันหนี  แขนสัมผัสความอุ่นที่อยู่ในแขนเสื้อเชิ้ตสีอ่อนของอาจารย์  เลือดสูบฉีดแรงจนหัวใจเต้นตึกตักเสียงดัง  ขยับแขนดึงเข้ามาให้เหลือพื้นที่ไม่มากนัก  คนในวงแขนห่อไหล่จนต้องเอามือที่กำแน่นบนกองหนังสือมากอดอก  เบือนจากหน้าใสที่ก้มต่ำมามองความเคลื่อนไหวจากในห้องสมุด  ตาจ้องเขม็งมองเด็กที่กำลังจะเดินมาคืนหนังสือท่าทางกล้า ๆ กลัว ๆ

“วางไว้..”  ผมเอ่ยปากบอกสั้น ๆ แล้วมองส่งเด็กพวกนั้นจนหายจากประตูห้องสมุด  หันกลับมาสบตาสีน้ำตาลอ่อนที่มองผมพอดี  เจ้าของตาสวยเบือนหนีก่อนจะหันหลังให้  เลิกคิ้วกับการกอดอกแน่นฝ่ากรงแขนของผมออกไปง่ายดาย  พุ่งตัวออกไปขวางไม่ให้อาจารย์เดินหนีออกจากเคาน์เตอร์ได้เหมือนที่อาจารย์มักจะทำเวลาเจอกับสถานการณ์คับขันจากผม

อกรับสัมผัสจากหน้าผากที่ชนเบา ๆ มือคว้าลมเพราะแขนเรียวดึงหนีไว้ทันพอดี  มองตาสวยที่เงยขึ้นมาสบเพียงนิด  ขยับเท้าก้าวเข้าหาในขณะที่เจ้าของตาสวยเดินถอยหลังหนี  ผมจะไม่ปล่อยให้หนีได้อีก..เพราะถ้าผมไม่รุกจนถึงขั้นสุดท้ายในวันนี้

ผมจะหาโอกาสจากที่ไหนได้อีก..ในเมื่ออีกไม่กี่อาทิตย์ผมก็จะจบจากที่นี่แล้ว

อาจารย์หันหลังหยิบกระเป๋าโยนออกนอกเคาน์เตอร์  เบิกตากว้างกับท่าทางที่อาจารย์กำลังจะทำเหมือนที่ผมทำตอนโดดเข้ามาไม่มีผิด  โดดเข้าคว้าเอวได้ทันหวุดหวิด  ใจเต้นแรงกับการดิ้นหนี  ผมไม่เคยรุกหนักใส่ขนาดนี้..มันก็ไม่แปลกที่อาจารย์จะตกใจ  ออกแรงกอดแน่นขึ้นแล้วทิ้งตัวนั่งกับพื้น  กัดฟันก้มหน้าหลบมือที่ทั้งทุบทั้งตีตามตัวผม  ลดแขนลงแล้วซุกตัวกอดแน่นขึ้น  ปากก็พูดไปด้วย.. 

“โอ้ย..ตีผมจริงเหรอเนี่ย?!  เจ็บนะครับ”  อาจารย์หยุดมือที่กำลังทุบแล้วเปลี่ยนเป็นจับเสื้อผมดึงออกแทน  คลายแรงกอดแล้วละมือที่โอบแน่นมาประคองหน้าเล็กที่กำลังตกใจ  มือเรียวปัดทิ้งแล้วผลักผมให้หงายหลัง  คว้าน่องที่กำลังจะเหวี่ยงให้พ้นจากเคาน์เตอร์เต็มแรง  อาจารย์ตกใจสุดขีด  ร้องโวยวายดังลั่น

“อย่านะ!  อย่า..อย่าทำอะไรผมนะ  ปล่อยขา!  ปล่อย!”  อมยิ้มแล้วตวัดแขนรัดไว้แน่น  ทำหน้าหื่นตาพราวใส่  อาจารย์เห็นแล้วถึงกับปั้นหน้าไม่ถูก  กลั้นยิ้มมองคนในอ้อมแขนหลับตาแน่น  เม้มปากแล้วก้มหน้าเอาหัวก้มหนี  ยิ้มบางแล้วกอดไว้แน่นขึ้น  บังคับหัวใจไม่ให้เต้นเสียงดังเพราะความตื่นเต้น..

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใกล้..ขนาดนี้

“ปล่อยก่อน..”  เสียงทุ้มเอ่ยปากบอกที่หัวไหล่  ผมเลิกคิ้วแล้วเอียงหน้ามองหน้าใสที่กำลังขึ้นสีเรื่อ  ยิ้มมุมปากแล้วทำหน้าเจ้าชู้ใส่  อาจารย์เห็นหน้าเจ้าชู้แล้วกัดปากล่างแน่น   ดวงตานี่ดุขึ้นมาเลย  มือที่ดันหน้าอกผมเปลี่ยนมาทุบดัง ‘ปึ๊ก’  อดหัวเราะกับท่าทางน่ารักไม่ไหวเลยหลุดขำออกมา  ผล..ผมโดนอาจารย์ทั้งทุบทั้งกัด

“เจ็บจริงนะเนี่ย!  โอ้ยยย ฮ่าๆๆๆๆ”  เอี้ยวตัวหนีฟันขาวที่พยายามจะกัดที่ไหล่  พอเอามือดันไหล่..อาจารย์ก็จับแขนผมแน่นแล้วหันมาฝังเขี้ยวที่แขนทันที..จะไวเกินไปแล้ว!

เกร็งแขนปล่อยให้กัด   ฉกปลายจมูกหอมที่หน้าผาก  รับรู้ถึงแรงกดจากการฝังเขี้ยวลดลงอย่างเห็นได้ชัด  นิ่งมองตาสวยที่จ้องหน้าผม  คลี่ยิ้มอ่อนโยนส่งให้..แก้มยิ่งแดงแข่งกับใบหู   อาจารย์นรินทร์เบือนหน้าหนีแล้วเอามือถูหน้าผากตัวเองเบา ๆ   ผม..ยิ้มกว้างแล้วก็เอานิ้วสะกิดที่ไหล่  พออาจารย์หันมาก็แกล้งเอามือมาถูหน้าผากตัวเองบ้าง

“..อะ..ไอ้บ้า”  ด่าผมเสร็จก็เอามือมาจับแขนบังคับไม่ให้ผมเอามือมาถูหน้าผากแซว  พอผมยอมเอามือลงคนหน้าใสก็เปลี่ยนเป้าหมายเอามือมาถูหน้าผากผมจนหน้าหงาย  ขำด้วยดึงมือขึ้นมาป้องไปด้วย  จับไปผลักมาก็หยุดเล่น  กระชับมือที่กุมมือเรียวของอาจารย์ไว้เบา ๆ   มองหน้าใสแก้มแดงแล้วก็อดยิ้มกว้างไม่ได้  ตาสีน้ำตาลเงยขึ้นมาสบ  พอเห็นยิ้มกว้างของผมก็ก้มหน้าหนีงุด ๆ แถมจะดึงมือกลับอีก  ขืนไว้แล้วดึงขึ้นมาหอม  ตาก็จ้องหน้าใสไว้ตลอด

“ทำไมเจ้าชู้แบบนี้หา?!”  ยิ้มกว้างอีกรอบแล้วจับมืออาจารย์ไว้ไม่ยอมปล่อย  เดินออกจากเคาน์เตอร์ตามแรงลาก  คว้ากระเป๋าตัวเองสะพายไว้แล้วก็หยิบกระเป๋าอาจารย์ติดมือมาด้วย  จับมือไปจนถึงหน้าประตูก็ปล่อยให้อาจารย์ปิดล็อคห้องสมุด  อยากกุมมือต่อแต่มันไม่เหมาะ  ผมรู้ว่าอาจารย์เองก็ลำบากใจเรื่องนี้ไม่น้อยถึงไม่ยอมรับรู้ว่าผมชอบสักที

ความเป็นลูกศิษย์กับอาจารย์มันค้ำคออยู่

จริงอยู่ที่อาจารย์ไม่มีหน้าที่สอนหนังสือ  แต่การเป็นอาจารย์บรรณารักษ์ที่มีหน้าที่ดูแลหนังสือ  คอยแนะนำเรื่องการยืม – คืนและการใช้ห้องสมุดมันก็ขึ้นชื่อว่าสอนเหมือนกัน  แต่ผมกำลังจะจบ ม.6 แล้ว  กำลังจะกลายเป็นนิสิตที่สามารถจะเป็นแฟนกับใครก็ได้  ไม่มีข้อยกเว้น..แม้แต่อาจารย์บรรณารักษ์  เดินประกบไม่ห่าง  ไม่สนมือเรียวที่พยายามผลักผมให้เดินห่าง ๆ เมื่อเด็กนักเรียนที่ยังอยู่ในโรงเรียนหันมามองผมกับอาจารย์

“นี่!  เฮ้อออ..อย่าทำให้ลำบากใจได้ไหม.. ‘นครา’ “  ส่ายหน้าตอบคำขอนั้น  เพราะผมทำให้มาเยอะแล้ว  ผมจะทำตามใจตัวเองนับตั้งแต่วินาทีนี้  แต่ในความเอาแต่ใจ..ผมก็จะนึกถึงสถานะความเป็นครูของเขาด้วย  เจอกันครึ่งทาง!

“เธอจะไปไหน?  ตั้งใจจะทำอะไรนครา?!  อย่านะ”  ไม่ตอบและไม่ฟัง  เบี่ยงหนีมือเรียวที่ตั้งการ์ดป้องกันไม่ให้ผมโดดขึ้นรถ  ตีหน้าซื่อนั่งที่นั่งข้างคนขับทันทีที่อาจารย์กดปลดล็อคสัญญาณกันขโมย  โยนกระเป๋าตัวเองกับของเขาไว้รวมกันที่เบาะหลัง  คาดเบลท์แล้วหยิบแผ่นซีดีในรถมาดูไม่สนใจเสียงโวยวายข้างหู

“ทำไมดื้อแบบนี้!  โอ้ยยย  ปวดหัวโว้ย!”  เลิกคิ้วแล้วทำจ้องแผ่นเพลงที่อยู่ในมือ  เอื้อมมือคว้าประตูปิดไม่สนใจหน้าใสที่กำลังหงุดหงิดอยู่นอกรถ  ไม่นานอาจารย์ก็ขึ้นมานั่งที่คนขับ  ปล่อยให้ขับออกมาจนพ้นรั้วโรงเรียน  ความเงียบปกคลุมอยู่จนถึงทางแยกที่จะออกถนนเส้นหลัก..

“บ้านเธออยู่ไหนนครา..”  วางแผ่นซีดีไว้ที่เดิมแล้วหันมองหน้าใสที่รอฟังทางกลับบ้านผม  ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะตอบเสียงเบา

“เลี้ยวซ้าย  ขับตรงไปจนถึงทางแยกแล้วเลี้ยวซ้ายอีกที  เข้าหมู่บ้านสุขใจ  บ้านหลังที่  3 ซ้ายมือ”  อาจารย์ขมวดคิ้วกับประโยคต้นก่อนจะอ้าปากพะงาบกับประโยคสุดท้าย  ยิ้มมุมปากแล้วเอามือดันคางช่วยก่อนแมลงวันจะบินเข้าปาก  อาจารย์สะบัดหน้าหนีแล้วจับพวงมาลัยรถ  ตาสวยจ้องไปข้างหน้า  ผมเองก็จ้อง..จ้องหน้าอาจารย์..เรานิ่งอยู่กลางถนนร่วม  10  นาที  ล้อรถของอาจารย์ก็ยอมหมุนไปในทิศที่ผมบอกทาง  อาจารย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่  ผมเลยเอ่ยปากบอกให้สบายใจ

“ผมแค่อยากไปส่งที่บ้านเท่านั้น  ส่งถึงบ้านเสร็จก็กลับ  เดี๋ยวโทรให้น้องมารับหน้าบ้านอาจารย์ครับ”  ตาสวยตวัดมองเพียงเสี้ยวก่อนจะเบือนไปมองถนน  บอกไม่ถูกเลยกับสายตาแบบนี้  มันเหมือนงอนที่ผมไม่บอกว่าจะขออยู่ต่ออีกหน่อย  หรือไม่ก็ขอเข้าบ้านอะไรแบบนี้น่ะ  การกระทำผมมันไวเท่าความคิด  ส่งนิ้วไปจิ้ม ๆ ที่แก้มเนียน

“อยากให้เข้าบ้านเหรอครับ..อยากให้ไปเหรอ?”  มือเรียวละจากพวงมาลัยข้างหนึ่งมาปัดมือผมทิ้ง  จากที่แกล้งแค่มือข้างเดียวก็เอาอีกข้างมาช่วยแกล้งด้วย  ริมฝีปากบางกลั้นยิ้ม  ‘อย่านะ!  เดี๋ยวลงข้างทาง  อย่าสิ!
ฮ่าๆๆๆๆ’  ดึงมือที่คอยปัดออกก่อนจะประคองหน้าไว้แล้วกดปลายจมูกที่แก้มด้วยความมันเขี้ยว  หน้าใสเอียงหลบแต่ก็หัวเราะอยู่ตลอด  ผละจากแก้มใส  เลื่อนสายตาขึ้นมองขนตาหนาเป็นแพที่อยู่ตรงหน้า  อาจารย์เหลือบมามองนิดหนึ่งก่อนจะหันไปมองถนนข้างหน้า  แสงอาทิตย์เริ่มจะลาลับขอบฟ้าพร้อมเราที่กำลังจะถึงหน้าบ้านอาจารย์

“มองอะไร?”  ยิ้มบางกับคำถามที่อาจารย์เอ่ยปากถาม  รู้อยู่แล้วว่าทำไมผมต้องมอง  เราสนใจใครเราก็ต้องมองคนนั้นมากกว่าปกติ  ชอบใครก็ต้องสนใจมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว  บีบแก้มใส  2-3  ทีแล้วปล่อย  อาจารย์อมยิ้มแล้วก้มหน้าเม้มปากแก้เขิน  หันกลับมามองถนนทางเข้าบ้านอาจารย์  พอล้อหยุดหมุนผมก็นั่งตัวตรง..

“..ลงไปเปิดรั้วให้ที..ตั๋ม”  กะพริบตาปริบกับเสียงที่เรียกชื่อเล่นผม  พยักหน้า  เดินลงจากรถ  ล่องลอยกับเสียงทุ้มที่รู้ด้วยว่านั่นคือชื่อเล่นผม  ..‘ตั๋ม’..อยากให้เรียกทุกวัน  ลากประตูเหล็กเปิดแล้วยืนเฉยรอให้อาจารย์ขับเข้าบ้าน  ยังคงยืนนิ่งรอให้อาจารย์เดินมาบอก..ว่าจะให้ผมกลับจริง ๆ หรือเลือกจะให้ผมเข้าบ้านก่อน  หัวใจเต้นตึกตักลุ้นกับการตัดสินใจของอาจารย์  มองทุกก้าวที่เดินตรงเข้ามาหาผม  ไล่สายตาขึ้นสบตาสวยที่มองผมอยู่เหมือนกัน..

“กลับไปได้แล้ว..”  แทบจะกลั้นใจตาย  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ เก็บสีหน้าไม่ให้รู้ว่าผมกำลัง..เสียใจ  เบือนหน้าไปมองถนนแล้วล้วงมือถือออกมากดหาน้องชายตัวเอง  พอมันรับผมก็หันหลังให้อาจารย์  บอกปลายสายให้มารับหน้าบ้านอาจารย์  มันบอกรอก่อนเพราะมันอยู่กับแฟนมัน

“เออ..กี่โมงก็ได้  เดี๋ยวกูเดินไปรอหน้าเซเว่นปากทาง  เออ”  ก้าวเท้าเดินออกมาจากตรงนั้น  เปิดประตูเล็กแล้วเดินออกมาตามถนน  หย่อนมือถือลงในกระเป๋ากางเกงแล้วเดินมาเรื่อย ๆ  ไม่นานก็ถูกมือเรียวคว้าแขนรั้งไว้  ยิ้มมุมปากแต่ก็ยังไม่หันมอง

“..เธอลืมกระเป๋าน่ะตั๋ม”  ..อยากจะโดดเอาหัวโขกกำแพง!  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ  หันหลังมองกระเป๋าสลับกับหน้าใสที่ไม่มีอาการอะไรเลย  ยื่นมือหยิบกระเป๋ามาสะพายไหล่  พอผมรับกระเป๋าอาจารย์ก็หันหลังเดินเข้าบ้าน  ยิ้มมุมปากแล้วอ้าปากตะโกนเสียงดังลั่น

“ผมชอบรินทร์!  ตั้งแต่เจอครั้งแรกก็ชอบแล้ว!  อยาก..”  อาจารย์หันหลังมามองผมทันที  ตากลมเบิกกว้างกับเสียงดังก้องซอยของผม  มือเรียวปรี่เข้ามากอดคอไว้ข้างอีกข้างตะปบปิดปากรวดเร็วทันคำว่า ‘อยากได้มาเป็นแฟน’ พอดี 

“ทำอะไรของเธอ!  โอ้ยยย อย่าพูดนะ!”  เสียงทุ้มบ่นข้างหู  อมยิ้มแล้วขืนตัวไม่ยอมเดินไปตามแรงที่ดันให้กลับเข้าบ้าน  อาจารย์ฟึดฟัดอยู่พักใหญ่  พอเห็นว่าผมไม่ยอมหยุดแน่ถึงได้เอ่ยขอเสียงเบา

“ขอร้องล่ะ  เงียบนะ”  เหลือบมองแล้วพยักหน้ารับ  อาจารย์กำลังจะดึงมือออกผมก็รีบบอก

“ถ้าให้เข้าบ้านผมจะเงียบ..ตกลงไหม?”  หน้าใสทำหน้าปลดปลงแล้วพยักหน้ารับทำคอตก  ยิ้มกว้างแล้วจับมือที่ตะปบปิดปากมาหอม  กอดเอวพาเดินกลับเข้าบ้าน  อาจารย์เงยหน้ามามองก่อนจะทำคอตกอีกหนแล้วยกมือขึ้นทำท่ายอมแพ้   หัวเราะแล้วเขย่าแขนเล่น  อาจารย์ดึงมือที่โอบเอวออกก่อนจะเดินคู่กันธรรมดา  เข้าบ้านได้ผมก็มองไปรอบ ๆ ในบ้านมีแต่ชั้นหนังสือ  เฟอร์นิเจอร์อย่างอื่นแทบจะไม่มี  ผมยืนหมุนตัวไปมาเพราะมันไม่มีโต๊ะ  เก้าอี้รับแขก  อาจารย์เดินออกมาพร้อมน้ำแก้วหนึ่ง

รับน้ำมาถือแล้วเดินตามอาจารย์ออกมานั่งชิงช้าหน้าบ้าน  จิบน้ำแก้เก้อเพราะตั้งแต่นั่งอาจารย์ก็เอาแต่เงียบ  ถือแก้วน้ำไว้แล้วมองหน้าใสที่จ้องกำแพงบ้านตัวเองแทนการพูดคุยกับผม  นั่งอยู่อย่างนั้นจนเริ่มจะมืด  ลดสายตาตัวเองที่เอาแต่มองคนไม่เคยมองตอบ  หันมามองมือถือที่สั่นอยู่ในกางเกง  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ  ก่อนจะล้วงออกมากดรับ

“อืม..มึงล่ะอยู่ไหน?”  เลี่ยงจะบอกปลายสายว่าผมอยู่ที่ไหนแล้วถามมันกลับ  เหลือบมองหน้าใสที่กำลังมองผม  สบตาคู่นั้นนิ่ง  น้องชายผมบอกว่ากำลังขี่มอไซค์มารับหน้าเซเว่นปากซอยที่ผมนัดไว้ตอนแรก  อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึง  ผมเงียบแทนคำตอบมันก็เลยวางสาย  เก็บมือถือเข้ากระเป๋าแล้วจ้องตาสวยที่มองผมตลอดตั้งแต่ผมรับโทรศัพท์  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วยื่นมือคว้ามืออาจารย์มากุมแน่น  มือเรียวที่ผมคว้าสั่นนิด ๆ แต่ก็ยอมให้ผมจับ  สบตาวูบไหวของอาจารย์แล้วเอ่ยปากบอกเสียงเรียบ..ทั้งที่ผมตื่นเต้นจนเหงื่อผุดเต็มฝ่ามือ

“..ผมไม่อยากพูดมาก  ผมชอบรินทร์  อยากเป็นคนพิเศษ..ขอคำตอบวันนี้ด้วย..”  ริมฝีปากสีอ่อนอ้าค้าง  วางแก้วน้ำที่ถือไว้ลงกับพื้นแล้วจับมือของอาจารย์อีกข้างมารวมในฝ่ามือเย็นเฉียบทั้ง  2  ข้างของตัวเอง  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ ไล่ความตื่นเต้นและความประหม่า  อาจารย์กะพริบตา  2 – 3  ครั้งแล้วเบือนไปอีกทาง   กลืนน้ำลายเหนียวเมื่อเห็นว่าอาจารย์ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ตามด้วยประโยคยาวที่สุดที่ผมเคยได้ยินมา

“เอาอะไรมาพูด?  เธอรู้รึเปล่าว่านี่มันเป็นแค่ความหลงใหลชั่วครู่ชั่วยาม  เธอยังเด็กและไม่มีวุฒิภาวะ  ตัดสินใจทุกอย่างด้วยอารมณ์เป็นที่ตั้ง  ยังไม่รู้จักความรักดีพอด้วยซ้ำ  อย่าให้อารมณ์ของเธอมาอยู่เหนือความผิดชอบชั่วดีนครา  ครูรู้ว่าเธอประทับใจครู  แต่นี่มันไม่ใช่ความรัก  เชื่อเถอะว่า..”  ลดสายตาจากดวงตาสวยลงมามองริมฝีปากบางที่พร่ำบอกให้ผมคิดดูให้ดี  ยิ่งมองยิ่งน่ารัก  ปล่อยมือแล้วโน้มตัวเท้าแขนคร่อม  ยื่นหน้าเข้าหาตากลมโตที่เบิกกว้างเพราะตกใจสุดขีด  แตะริมฝีปากที่ริมฝีปากล่างที่อ้าพะงาบ  จูบเบา ๆ แล้วหลับตารับสัมผัสที่กำลังซึมลึกลงมาเรื่อย ๆ ไล่จากริมฝีปาก..ถึงก้อนเนื้อเต้นตึกตักที่เรียกว่า.. ‘หัวใจ’

ขยับริมฝีปากจูบผะแผ่ว  ปลายจมูกแลกลมหายใจกลิ่นมินต์ของอาจารย์  มือเรียวดันอกผมออกเบา ๆ ริมฝีปากจำต้องผละออกมาอย่างน่าเสียดาย  ตาสวยหลุบมองต่ำ  ข้ามฝั่งมานั่งเบียด  ประคองหน้าชมพูไว้  เกลี่ยปลายนิ้วเช็ดเบาที่ริมฝีปาก 

“ผมไม่เด็กแล้ว  เรื่องแค่นี้ผมรู้อยู่แล้วว่ามันเป็นความหลง  ประทับใจ  หรือ..รัก”  ตาสวยเบือนขึ้นมาสบ  ประกายวูบไหวที่กำลังสับสนฉายชัด  ตอกย้ำความชอบของตัวเองผ่านริมฝีปากที่ยื่นเข้าแตะไล้แผ่วเบาอีกครั้ง 

“..ให้โอกาสเด็กที่กำลังโตคนนี้เถอะ  คบกับผมนะ”  อาจารย์นิ่วหน้ากับคำขอของผม  ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาปะทะแก้มผมก้อนโต  ผละออกมามองให้เต็มตา  นิ่งจ้องรอคำตอบที่ผมคาดหวัง..

“..ตกลง..ใช่ไหม?”  เอ่ยปากกดดันแล้วยิ้มกว้างกับท่าทางคอตกที่ได้เห็น  กอดไว้แน่นแล้วหอมแก้มอีกหลายฟอดให้ชื่นใจ  อาจารย์ดันอกเบา ๆ แล้วลุกเดินออกมาจากชิงช้า  เดินตามไม่ห่าง  ยื่นมือกาวคว้าจับมือมากุม  ตาสวยตวัดมองมือที่ถูกกุมนิดหนึ่งแล้วเงยขึ้นมาสบตาผม  เท้าเปล่าของอาจารย์หยุดเดิน  ปลายเท้าที่ตรงไปข้างหน้าหมุนเข้ามาหาผม  ยืนตัวแข็งเมื่ออาจารย์เดินเข้ามา..เอียงหูฟังหน้าอกข้างซ้ายของผม

กลืนน้ำลายเหนียวลงคอยากเย็น  ปลายจมูกได้กลิ่นแชมพูหอมลอยกระทบ  ผ่อนลมหายใจช้า ๆ ระงับความตื่นเต้น  นานเกือบ  10  นาทีอาจารย์ก็เงยหน้าขึ้นมามอง  ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอ่อนโยน..

“ครู..ไม่รู้ว่าเธอจะโกหกหรือเปล่า?  แต่..เราดูกันไปก่อนก็ได้  จนกว่าเธอจะแน่ใจว่าครูเป็นคนที่ใช่”  กะพริบตาปริบไล่ความตื้นตันที่กำลังพุ่งขึ้นมาทางสีหน้า  ริมฝีปากอดไม่ได้ที่จะ..ยิ้ม  แต่ก็ต้องหุบยิ้มเพราะประโยคดักทาง

“ระหว่างนี้ผมคงให้ได้มากสุดก็แค่จูบ..”  ยิ้มค้างแล้วรีบพยักหน้ารับ  อะไรที่ยื่นมาให้ผมก็ต้องรีบคว้าไว้ทั้งนั้นล่ะ  เอาน่า..อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ได้ยินสรรพนามที่เปลี่ยนไปแล้ว  จาก  ‘ครู’  เป็น  ‘ผม’  อีกหน่อยก็คงเป็นชื่อเล่น  ค่อยเป็นค่อยไป  กระชับมือเรียวก่อนจะถอนหายใจด้วยความเซ็งกับมือถือที่น้องโทรเข้า  อยากอ้อนขออยู่ต่ออีกหน่อย..แต่คำตอบมันต้องไม่อนุญาตอยู่แล้ว  ก้มกระซิบที่แก้มว่าไม่ต้องส่ง  รินทร์ย่นคอหลบแล้วยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบา ๆ

ปล่อยมือช้า ๆ แล้วก้าวถอยหลังมองหน้าใส  ตาสวย  ที่เพิ่งจะตอบตกลงเป็นเจ้าของหัวใจร่วมกันกับผมเมื่อครู่  คลี่ยิ้มอ่อนโยนแล้วโบกมือให้  รินทร์ยิ้มบางตอบแล้วยกมือโบกตอบน้อย ๆ  บอกเสียงดังว่าถึงบ้านแล้วจะโทรหา  คิ้วเรียวขมวดมุ่นแต่ก็พยักหน้ารับโดยดี

ความดีใจพองคับอก  เดินตัวลอยออกจากรั้วบ้านสีทอง  ยิ้มหน้าบานไปหาน้องชายที่ตบยุงหน้าเซเว่นหน้าปากซอยรออยู่นานแล้ว  ถึงบ้านแล้วก็รีบอาบน้ำ  ทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วหยิบมือถือมากดโทรออกเบอร์ที่โทรอยู่ประจำ  รอไม่นานปลายสายก็รับ..

“สวัสดีครับ..สวัสดีครับ........”  นอนฟังเสียงนุ่มของรินทร์แล้วหลับตาพริ้ม  วันนี้เสียงอ่อนโยนกว่าทุกวัน

“.....ถ้าไม่พูดจะวางสายแล้วนะ….”  ประโยคเดิมที่ฟังประจำก็ยังมีเส้นเสียงทุ้มน่าฟังกว่าทุกวัน  ปกติผมจะปล่อยให้รินทร์วางสาย  แต่วันนี้มันไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว  ในเมื่อผมเพิ่งจะได้หัวใจรินทร์มาอยู่ในมือเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วนี่เอง

“ตั๋มเองครับ  ถึงบ้านแล้วนะ  แล้วก็อาบน้ำแล้ว”  เอ่ยปากบอกเสียงใส  ซ่อนความตื้นตันไว้ไม่มิด  รินทร์นิ่งไปนานก่อนจะหัวเราะหึลงคอ  ยิ้มกว้างกับหน้าจอเพราะประโยคที่รินทร์ตะโกนถามเสียงดุ  ขำก๊ากแทนคำตอบไม่สนใจว่ารินทร์จะงอนรึเปล่า

“แกนี่เองที่โทรมาทุกวันแล้วไม่ยอมพูดอ่ะ!  โรคจิตหรือไงหา?!  ...จริง ๆ เลย!”...






ก็คนมันแอบชอบมันก็อยากฟังเสียง..รู้น่าว่าโกรธไม่จริงหรอก.

END.

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3

แถม
.
.
หลังจากถูกคุกคามทางกายและทางใจจนต้องรับรักที่ถูกยัดเยียดจากเด็ก ม.6  ผมกับตั๋มเราคบกันได้  1  เดือนกับอีก  8  วันพอดี  วันนี้อากาศดี  เจ้าตัวยุ่งขอให้ผมไปหาที่ร้าน  ที่บ้านตั๋มขายมะพร้าวขูดในตลาดสดครับ  ขับรถวนหาที่จอดรถได้ก็เดินเตร่หาขนมกับน้ำไปฝากคนเฝ้าแผงด้วย  ได้วุ้นสีรุ้งกับน้ำเก๊กฮวยติดมือมาแล้วก็เดินไปหาที่แผง

ยืนนิ่งสะกดความหงุดหงิดทันทีที่เห็นตั๋มเดินอยู่ในแผง

กล้ามเนื้อสวยที่เป็นของผมกำลังเผยสู้สายตาคนอื่น  เหงื่อผุดพราวทั่วตัว  มือหนาที่คอยจับมือผมกำลังยกเข่งมะพร้าวผ่าซีกขึ้นไหล่  กล้ามเนื้อหน้าท้องขึ้นเป็นลูก..ดึงดูดสายตาคนที่เดินผ่านไปมาให้เหลียวมอง  แค่หน้าตาตั๋มผมก็ลำบากใจกับการวางตัวไม่ให้หึงมากพออยู่แล้ว  นี่ยังจะถอดเสื้อโชว์หุ่นอีก..

ไม่ไหวแล้ว!

เดินตรงเข้าไปหา  ไม่สนยิ้มกว้างทักทายของตั๋มที่ส่งมาให้ผม  โยนวุ้นสีรุ้งที่อุตส่าห์ซื้อมากับเก๊กฮวยไว้แถวนั้น  คว้าเข่งที่อยู่บนไหล่ให้ลงมาวางที่พื้น  ตั๋มทำหน้าเหรอหรากับท่าทางหงุดหงิดที่กำลังคว้าเสื้อที่พาดกับพนักเก้าอี้ขึ้นมาสะบัด  ตาสีนิลกะพริบปริบปล่อยให้ผมสวมเสื้อให้โดยดี  ถึงมันจะแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว  แต่สายตาที่ยังคงจับจ้องมันก็ยังคงไม่ยอมละสายตาไปไหนอยู่ดี  หงุดหงิด..หงุดหงิด!

กัดปากล่างกับหน้าหล่อที่มองผมนิ่งด้วยความไม่เข้าใจ  หงุดหงิดจนต้องหันขวับตวัดหางตามองตอบสายตาที่แอบมองมันไม่เกรงใจผม  พอเจอความไม่พอใจของผมสายตาพวกนั้นก็เลิกสนใจตั๋ม  เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกับความไม่สนใจตัวเองของเด็กมหา’ลัยหมาด ๆ

“เข้าไปนั่งในร้าน  ไม่ต้องออกมา!”  ตั๋มเลิกคิ้วแล้วพยักหน้ารับคำแบบงง ๆ  เดินช้าไม่ได้อย่างใจจนผมต้องผลักหลังช่วย  ยืนหมุนไปมาเพราะความโมโหกำลังมีอิทธิพลกับสติและสมอง  ตั๋มเดินมาจับแขนผมให้เดินตามมาข้างนั่งในด้วยกัน  ตาสีดำสนิทมองตาผมนิ่งแล้วเอ่ยปากถาม

“หงุดหงิดอะไรครับ?  ข้างนอกร้อนเหรอ?”  ไม่พูดเปล่า  ตั๋มยกพัดลมมาเป่าจนผมปลิว  สบตาสวยที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่แล้วถอนหายใจยาว  ส่ายหน้าตอบแล้วหมุนพัดลมไปให้ตั๋มแทน

เอ่ยปากบอกไปตามตรงแล้วอมยิ้มกับหน้าหล่อที่ดีใจจนเขินเมื่อได้ฟังประโยคที่ผมบอก..

“ไม่ได้ร้อน..แต่หึง..อย่าถอดเสื้ออีกนะ  ผมหึง”......





เพิ่งรู้ว่าคนอย่างตั๋ม..มันก็มียางกับเขาด้วยเหมือนกัน555

...........................................   

แถมอีกนิด
.
.
แดดเริ่มลดความร้อนเพราะพระอาทิตย์กำลังจะหมดเวลาทำงาน   นั่งตากพัดลมในร้านโดยมีเจ้าของร้านอยู่ข้าง ๆ  นั่งเท้าคางมองผมตลอดเวลา  ก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ไม่ใส่ใจกับดวงตาสีนิลพราวระยับที่เพียรส่งความหวานมาให้   ขยับตัวเบี่ยงหนีทีไรก็ถูกมือใหญ่จับให้กลับมานั่งที่เดิม  หน้าร้อนผ่าวแต่ก็ยังคงเพ่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ เม้มปากล่างแน่นแล้วกลอกตาไปมา  กัดปากล่างแน่นขึ้น  กลั้นยิ้มก่อนจะทนไม่ไหว..หันหน้ามามองตาคมเจ้าชู้ที่ยิ้มรออยู่

“ไปไหนก็ไป  ไปสิ~  คนจะอ่านหนังสือพิมพ์   จ้องแบบนี้จะอ่านได้ยังไง?!...จริงๆ เลย!”  ตั๋มจับมือผมแล้วยิ้มกว้าง  มือใหญ่ดึงหนังสือพิมพ์มาพับแล้วโยนไปข้าง ๆ  หน้าคมยื่นเข้ามา  ผมหดคอหนี  ตาพราวขยับเข้าใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ  ผมกะพริบตาปริบเหลียวมองรอบตัว  กลัวคนอื่นเห็นก็กลัว  กลัวใจมันก็กลัว  จริงอยู่ที่ตลาดกั้นแบ่งบริเวณร้านด้วยการตีไม้อัดปิดด้านข้างให้  แต่ถ้ายืดตัวมองเข้ามาดี ๆ มันก็เห็นข้างในแผงได้เหมือนกัน  ตัดสินใจวินาทีสุดท้ายที่จมูกโด่งของมันกำลังจะถึงแก้มผม..ผลักหน้าหงายไปเลย

“โอ้ยยย  มือหนักจัง”  มือหนาจับมือผมที่ผลักหน้าไว้แน่น  เสียงทุ้มบ่นว่าผมมือหนัก  แต่ดวงตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มมันฟ้องว่าที่ผมผลัก..ไม่เจ็บเลยสักนิด!  ดึงมือออกมันก็จับไว้แน่นไม่ปล่อย  เม้มปากแน่นเบือนหน้าหนีตาสวยยิ้มได้ของตั๋มไปมองหน้าร้าน  กะพริบตาปริบกับลูกค้าที่เดินข้าร้านมาพอดี  ดึงมืออกแล้วพยักพเยิดให้มองหน้าร้าน  เจ้าของดวงตาสีนิลมองตามก่อนจะหันมาอมยิ้มจนตาหยีให้ผม  เบือนหน้าหนีซ่อนเขินหันหลังให้ทันที

เสียงตั๋มถามลูกค้าว่าซื้อกี่กิโลผมถึงได้หายใจหายคอสะดวก  ดึงลิ้นชักเงินออกมานับรอเพราะใกล้เวลาตลาดจะวายแล้ว   เงยหน้ามองตั๋มที่ยังคงง่วนกับการขายมะพร้าวขูดให้ลูกค้าที่แวะเวียนมาอุดหนุน   

“รินทร์ ผมขอเงินทอน  50  บาทด้วยครับ”  พยักหน้าแล้วหยิบแบงค์  50  ส่งให้  เม้มปากแล้วเบือนหน้าหนีดวงตาสีนิลที่มองหน้าผมไม่วางตา ผมแพ้ดวงตาเจ้าชู้แบบนี้ของตั๋ม  สบตาทีไร   ใจเต้นตึกตัก  มือไม้เย็นไปหมดทุกที  หมดจากลูกค้าคนนี้แล้วตั๋มก็บอกผมให้ผมช่วยนับเงินในลิ้นชักให้หน่อย  นับเงินที่เหลือช้า ๆ แล้วทวนอีกรอบก่อนจะรวบเงินมาถือ  เดินมาหยิบกระเป๋าคาดเอวที่เจ้าตัวถอดวางไว้ที่โต๊ะมาเปิดแล้วเอาเงินทอนใส่ในช่องใหญ่ไว้  เดินมาช่วยหยิบถุงพลาสติกมาเก็บที่  อมยิ้มแล้วหมุนตัวไปมาเพราะเจ้าของร้านยกเก้าอี้มาเดินวนรอบตัวผมก่อนจะเอาเก้าอี้ไปเก็บในแผง  หัวเราะเสียงดังขำกับการป่วนของตั๋ม

“ทำอะไร? ฮ่าๆๆๆ”  ปล่อยให้ตั๋มจับมือผมยกสูงเหนือศีรษะ  ก่อนจะจับหมุนเหมือนเต้นรำตอนหยับทัพพีมาเก็บ  ริมฝีปากสีแดงเข้มฮัมเพลงหงุงหงิง  เอนหลังพิงอกหนา  มือประสานแน่น  หลับตารับปลายจมูกโด่งที่แตะแผ่วตรงแก้มพอดี  กะพริบตาปริบแล้วปล่อยให้ตั๋มยิ้มกว้างโดยที่ผม..ทำอะไรไม่ถูก  มือใหญ่ปล่อยมือผมช้า ๆ แล้วผละออกมาเก็บของต่อ  ยกมือขึ้นลูบแก้มเบา ๆ แล้วคอยเบี่ยงหนีหน้าหล่อที่คอยยื่นเข้ามาแกล้งจะหอมตรงโน้นตรงนี้  กลั้นหัวเราะกับการเต้นไปรอบ ๆ ตัวผมพร้อมเพลงเดิมที่เขาร้องตอนจับผมหมุน

“เล่นอะไรของเธอ  ฮ่าๆๆๆๆ”  ตั๋มยิ้มกว้างแล้วยื่นมือโอบรอบเอวผม  เสียงทุ้มยังคงร้องเพลงเดิมต่อจากท่อนที่ร้องค้างไว้   มือใหญ่จับมือผมแน่นแล้วโยกไปมา  ขาก้าวถอยหลังตามแรงนำ  ปล่อยยิ้มกว้างประดับหน้าตัวเอง  หลังชนผนังไม้อัดหลังร้าน  จนต้องปีนนั่งบนโต๊ะเพราะผมขยับหนีไม่ได้แล้ว  ตั๋มปล่อยมือผมเอื้อมไปดึงปลั๊กไฟในร้านให้มืด  แต่ผมกลับมองเห็นหน้าหล่อของเด็กหนุ่มนิสิตคณะวิศวเคมีหมาด ๆ ชัดเจน   ฝ่ามือเย็นของตั๋มลูบแก้มผมเบามือ  ดวงตาสีนิลเหมือนคืนเดือนมืดที่มีประกายดวงดาวพราวระยับจับจ้องใบหน้าผมไม่วางตา 

กะพริบตาเรียกสติ  ริมฝีปากที่ยิ้มกว้างเปลี่ยนมาเป็นยิ้มบาง  ความเขินถูกซ่อนไว้กับความมืดที่เริ่มโรยตัวมาปกคุลมรอบตัว  ตั๋มขยับเข้ามาชิดแทรกตัวเข้ามาระหว่างขาผม  ปลายจมูกโด่งกดหอมปลายคางผมเบา ๆ ก่อนจะผละออกมากระซิบ

“ผมรักรินทร์”  ริมฝีปากผมคลี่ยิ้มอย่างห้ามไม่ได้  ก้มหน้าเอาหน้าผากซบที่ซอกคอหนา  อดหัวเราะเพราะความดีใจที่ตั๋มกระซิบบอกรักไม่ไหวเลยขำแก้เขิน  เจ้าของดวงตาสีนิลก้มมองแล้วประคองหน้าผมขึ้นมาหอมแก้มอีกฟอดใหญ่  ผมยิ่งหัวเราะเสียงใสกลบเกลื่อน  เพราะมัน..เขินมาก

“โกหก.. ฮ่าๆๆ”  ยิ้มหล่อมาพร้อมการดึงมือผมที่ประสานบนตักมาคล้องคอตั๋มเอาไว้   ยิ้มที่ยังค้างของผมถูกริมฝีปากของตั๋มแตะลงมาเบา ๆ  กะพริบตาถี่แล้วหลุดขำพรืด  ตั๋มหน้าตึงจ้องหน้าผมกลับ  ตาสวยจ้องตาสลับริมฝีปากที่เอาแต่หัวเราะของผม  ยิ่งขำมากเท่าไหร่ตาสวยยิ่งส่งประกายระยับมากขึ้นเท่านั้น  ปลายจมูกโด่งพ่นลมหายใจยาวยอมแพ้ผมที่ขำไม่หยุด  ริมฝีปากสีเข้มคลี่ยิ้มอ่อนโยนก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาจูบปลายจมูกผมแผ่วเบา

“ผมรู้หรอกว่าขำแก้เขิน..งั้นก็ขำเยอะ ๆ  นะครับอาจารย์นรินทร์”  ลมขำถูกสูบกลับเข้าที่เดิม  สะอึกกับความจริงที่ถูกมองออกอย่าง..ทะลุปรุโปร่ง  สบดวงตาสีดำสนิทวิบวับที่มีภาพหน้าผมสะท้อนอยู่   ความร้อนจากภายในกำลังปะทุออกมาทางผิวหน้าอย่างช้า ๆ  มือที่คล้องคอเริ่มลดลงมาดันไหล่หนาที่กำลังจะโน้มหน้าเข้ามาจูบผม  แต่ผมก็ถูกประโยคนั้นบั่นทอนกำลังของข้อมือที่จะผลักไหล่ตั๋มออก..คำนั้นคำเดียว 
 
“เพราะ..ผมรักคุณจริง ๆ”  หน้าคมที่น้าเข้ามาใกล้หยุดการเคลื่อนไหวแค่เพียงฝ่ามือคั่น  หลุบตามองริมฝีปากได้รูปที่ลอยเด่นตรงหน้า  ลมหายใจได้กลิ่นความหอมที่ผมบอกไม่ถูก  อธิบายไม่ได้..มันเป็นกลิ่นของตั๋ม  เป็นกลิ่นลมหายใจหอมอ่อน ๆ ของตั๋มที่ไม่เหมือนใคร  ไล่สายตาขึ้นสบตาพราวที่ผมหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้สบ  ความใกล้และลมหายใจหอมดึงดูดให้ผม..ยื่นริมฝีปากเข้าไปหา

แค่สัมผัสนุ่มนิ่มของริมฝีปากตั๋มผมก็สะดุ้งสุดตัวเหมือนถูกน้ำร้อนลวก  ตกใจที่ตัวเอง..กล้า..เริ่มจูบก่อน  ดึงมือที่กำลังจะเลื่อนคล้องคอตั๋มลงมาประสานกันแน่น  เบี่ยงหันข้างช้า ๆ หนีดวงตาเจ้าชู้ที่ตอนนี้เหมือนตกอยู่ในภวังค์  กระโดดลงจากโต๊ะแล้วเดินดุ่มออกจากแผงมะพร้าวขูดทันที  บิดมือตัวเองจนเจ็บไปหมด  ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ วิ่งตามผมยิ่งรู้สึก..เขินหนัก

“..รอด้วยครับ..”  ก้มหน้าก้มตาเดิน  มือหนายื่นมาจะกุมมือผมก็รีบดึงขึ้นมาจับแก้มตัวเองไว้ทั้ง  2  ข้าง  ตั๋มขวางไว้ผมก็เดินเลี่ยง  มันกางแขนไม่ให้หนี  ยืนหมุนไปหมุนมากลางถนน  โชคดีที่ในตลาดตอนนี้ไม่มีพ่อค้าแม่ค้าเพราะตลาดวายไปแล้ว  ไม่อย่างนั้นตั๋มคงไม่กล้าแบบนี้แน่  ตกใจกับแขนแกร่งที่รวบกอดแล้วลากเข้าไปในแผงมะพร้าวน้ำหอมแถวนั้น  เบี่ยงหนีริมฝีปากที่ฉกจูบ  ยิ่งดิ้นยิ่งเหมือนเข้าทาง  ดันไหล่มันก็ไม่ยอมถอย  หน้าถูกมือเย็นประคองให้รับจูบ  ผ่อนลมหายใจช้า ๆ ขยับปากจูบตอบเบา ๆ ให้รู้ว่า..ผมไม่หนีแล้ว 

นานจนผมเริ่มจะหายใจเองไม่ได้  ดันคางมันออกแล้วเบี่ยงหน้ารับอากาศเข้าปอดแรง ๆ  ทำไมถึงได้แรงดีจูบทนแบบนี้ก็ไม่รู้  ตั๋มจับไหล่ผมให้หันมามองตา  สบตามันแล้วก็ถอนหายใจยอมแพ้บ้าง  เบือนหน้าหนีแล้วยกมือขึ้น  2  ข้างยอมแพ้ก่อนจะเอ่ยปากรับรู้

“เข้าใจแล้ว..เชื่อแล้ว”  เหลือบมองยิ้มกว้างของเด็กมหาลัยแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้..

คบเด็กมันก็ดีไปอย่าง  หัวใจได้ทำงานหนักตลอด  เลือดสูบฉีดดีเสียจนคิดว่า  ถ้าแรงกว่านี้อีกนิด..ผมคงเป็นลม

หน้าคมก้มกระซิบข้างหูส่งให้ผมหัวเราะเสียงดังอย่างห้ามไม่อยู่   ไม่ใช่เพราะประโยคแรกที่บอกให้ผมหัวใจพองฟูเพราะผมเป็นคนพิเศษ  แต่เป็นประโยคหลังที่บอกที่มาของการคนพิเศษต่างหากที่ทำผมขำจนตัวโยน

‘พิเศษตรงที่ไม่แก่  และไม่ตาย  ..เพราะรินทร์ของผม




..กินเด็ก...เป็นอมตะ!’


…………………………….
 
กอดรวบ!  บวกบวก!
ขออภัยที่หายไปนะคะ  มีแต่งานทั้งนั้นค่ะตอนนี้  จะยุ่งแบบนี้ไปอีกระยะนะคะ 
ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายที่มีแล้วค่ะ  ที่ขาดอีก  4  ตอนก็ยังต้องการนะคะ
1. เอ้ต๊อบ
2. แฟนเก่าเอ้กับน้องรัยจ้างเป็นแฟน
3. น้องขายสังฆภัณฑ์กับเด็กซอยเดียวกัน
4. น้องบนบานเจ้าพ่อกับรุ่นพี่ที่โรงเรียน
ต่อจากตอนล่าสุด  จิจะทยอยลงตอนพิเศษที่มีในมือจนหมดแล้วจะลงตอนสุดท้ายปิดตลาดนะคะ(จะพยายามเขียนนะคะ TT)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :กอด1:

ฮืออออออ กอดตอบ

หวังว่าจะมีสาวๆใจบุญที่เซฟนิยายไว้ผ่านมาแถวนี้บ้างนะคะ  :hao5:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อาจารย์รินทร์น่ารักเชียวค่ะมีการหัวเราะกลบเกลื่อนอาการเขินด้วยน้าา >///< .. นี่ถ้าเกิดวันนั้นตั๋มไม่สารภาพรักเนี่ย ป่านนี้รินทร์ก็คงจะไม่ได้เป็นอมตะเหมือนทุกวันนี้หรอกนะค้าา :laugh:

ปล. เรายังไม่อยากให้ตลาดปิดทำการเลยล่ะค่าา แต่ว่า..มันคงจะเป็นไปไม่ได้สินะค้าา กระซิกๆ :hao5:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
คบเด็กก็ดีอย่างนี้เนาะรินทร์ o18

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
แหมะ กำลังยิ้มเขินเลย พอตั๋มพูดจบนี่ฮาทันที :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตอนล่าสุดนี่ดูเหมือนจะทิ้งห่างจากตอนก่อนๆมากจริงๆ (ในเรื่องของระยะเวลา)
ดีใจที่คนเขียนเข้ามาอัพอีกค่ะ (กระซิบว่าหลังๆมานี้เข้ามาดูตลอดว่ามีเรื่องใหม่มารึยัง ฮา)
ไม่น่าเชื่อเลยอ่ะ ว่าเรื่องใกล้จะหมดซะแล้ว
อยากได้แผนภาพความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตอนจัง สารภาพว่าตอนอ่านนึกได้บ้างว่ามีตัวเอกของเรื่องนั้นไปโผล่เรื่องนี้
แต่นึกภาพรวมไม่ออก แบบว่าคนนั้นเป็นพี่ของคนนี้แล้วเป็นแฟนคนโน้นอะไรงี้
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
หูย รักแรกพบหรือนี่ พี่รินทร์น่ารักจัง ชอบบบ :-[
คิดอะไร รู้สึกยังไง แสดงออกชัดเจนหมดเลยนะพี่รินทร์
ยิ่งถูกแกล้งพี่รินทร์ก็ยิ่งน่ารักอย่างนี้น่ะสิ ตั๋มถึงได้ขยันแกล้งนัก
แหม่ แต่ตั๋ม ก็รุกหนักจริง ๆ อ่ะนะ ไม่แปลกที่พี่รินทร์จะกังวล
ในเมื่อยังอยู่ฐานะครูกับลูกศิษย์กันอยู่ แต่ก็ดี ที่ตั๋มก็คำนึงถึงจุดนี้อยู่
แล้วก็เข้าใจตั๋มน่ะนะ ในเมื่อใกล้เรียนจบแล้ว ก็ต้องใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่า
และเพื่อสานต่อไปในอนาคตด้วย จริงใจซะอย่าง ยังไงพี่รินทร์ก็รับรู้ัได้อยู่แล้ว
พี่รินทร์ เงียบ ๆ ขี้อาย ไม่ค่อยกล้าแสดงออก แต่เวลาหึงนี่ใช้ได้เลยนะ 555
ดีแล้ว ๆ มีแฟนเด็ก แถมยังหล่อล่ำ นิสัยดีอย่างตั๋ม ก็ต้องหึง ต้องหวงเป็นธรรมดา
ยิ่งหึง แล้วบอกเจ้าตัวออกไปตรง ๆ ว่าหึงเนี่ย น่ารักมาก คนถูกหึงดีใจตัวลอยแล้ว
มีแฟนเด็กมันก็กระชุ่มกระชวยหัวใจอย่างนี้แหละเน้อ  :m3:
 

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
อาจารย์น่ารักมากกกกกกกกกกก
เขินตัวบิดเป็นเพื่อนอาจารย์  :-[

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เป็นตอนพิเศษของคู่นี้ค่ะ 
สื่อรักผ่านเพลง : ต่อ กานต์
 



รักแบบเรา


มือเรียวสวยจับปากกาขีดเขียนตัวหนังสือลงในสมุด  ดวงตาคมจับจ้องหนังสือที่วางข้างตัวก่อนจะหันมาขีดเขียนคำตอบลงในสมุด   คิ้วเข้มขมวดมุ่นกับหนังสือ  มือเรียวพลิกกระดาษย้อนกลับไปอีกหน้าที่เคยจดจ้อง  มืออีกข้างที่จับปากกาเคาะลงบนสมุดแล้วเพ่งมองตัวหนังสือที่เขียนลงไปเป็นคำตอบ  ดวงตาคมเงยขึ้นมาสบแล้วยิ้มกว้างให้ผม

“ต่อช่วยสอนการบ้านหน่อย..ผมไม่แน่ใจว่าข้อนี้ผมตอบถูกรึเปล่า”  ยิ้มบางแล้วหยิบที่เขี่ยบุหรี่มาบดบุหรี่ที่เหลือมากกว่าครึ่งที่ยังไม่ได้สูดควันเข้าปอด  กานต์ขยับตัวให้ผมนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน  ยิ้มมุมปากตอบดวงตาล่าเหยื่อ  อ้อมไปด้านหลัง  เท้าแขนคร่อมไว้ข้างหนึ่ง 

“เอาจากตรงไหนมาตอบ..”  มือเรียวพลิกหน้ากระดาษย้อนกลับไปกลับมา  โยกหัวตามจังหวะการเปิดหน้าหนังสือ  ถ่วงเวลาให้ผมยืนใกล้ ๆ โดยที่ไม่มีคำตอบว่าเอาคำตอบจากตรงไหนมาตอบในสุมด   ยิ้มบางแล้วจับไหล่หนาให้พลิกกลับมาสบตา

“การบ้านตรงนี้ไม่เสร็จ..ก็อย่าหวัง....อย่างอื่น”  ดวงตาล่าเหยื่อฉายประกายพอใจ  ยิ้มตอบผมแล้วกระชากคอเสื้อผมลงมากดจูบที่ริมฝีปาก   หรี่ตามองแล้วจับเก้าอี้หมุนกลับไปให้เด็ก  ม.6  เผชิญหน้ากับการบ้านที่มีกำหนดส่งวันจันทร์  เดินกลับมานั่งบนขอบหน้าต่าง   มือข้างหนึ่งถือที่เขี่ยบุหรี่  อีกข้างคีบบุหรี่ติดนิ้ว  เหม่อมองถนนที่มีรถวิ่งยามค่ำคืน  ควันสีขาวจาง ๆ ลอยคว้างกลางอากาศ  เป่าควันเพิ่มเข้าไปไล่ควันชุดเดิม  สูบบุหรี่จนเกือบหมดมวนที่สาม  เด็กเกรียนก็เดินเข้ามากอดจากด้านหลัง  หันไปให้ปลายจมูกโด่งหอมแก้ม  ดวงตาล่าเหยื่อมองตาผมนิ่ง  ดึงบุหรี่ในมือออกพร้อมกับที่เขี่ยบุหรี่  ยิ้มมุมปากแล้วลุกขึ้นยืน  เดินเข้าไปในห้องแล้วเปิดสมุดการบ้านที่ทำเสร็จแล้ว  ปิดสมุดพร้อมกับเสียงปิดประตูระเบียง  เด็กเกรียนยิ้มกว้างแล้วเดินเข้ามาประชิดตัว 

“ทำการบ้านเสร็จแล้ว..ผมจะได้รางวัลอะไรครับพี่”  ส่ายหน้ายิ้ม ๆ แล้วดันกองหนังสือกับสมุดไปอยู่ริมสุด  ขยับขึ้นไปนั่งบนโต๊ะ  ประคองหน้าหล่อไว้แล้วสบดวงตาล่าเหยื่อ   เด็กเกรียนยิ้มกว้าง  ขยับเข้ามาคร่อมผมไว้  ริมฝีปากแตะกันเบา ๆ  แทรกปลายลิ้นเข้าไปดูดดุนกลืนกินความหวาน  มือเรียวสอดเข้ามาในเสื้อผมแล้วลูบหน้าท้องแกร่ง  เกร็งตัวเมื่อปลายนิ้วกานต์สะกิดผ่านตุ่มแข็งบนหน้าอก  กานต์ดึงเสื้อผมขึ้นพ้นหัวแล้วกดจูบที่ซอกคอ  เท้าแขนไปด้านหลังเมื่อเด็กเกรียนลากปลายลิ้นลงมาตามร่องอก  กานต์เหลือบขึ้นมามองแล้วจูบเบา ๆ ที่ตุ่มแข็ง..ที่ละข้าง

“อือออ”  ความนุ่มจากริมฝีปากและปลายลิ้นที่สัมผัสทำให้ผมเผลอครางต่ำ  ดึงกานต์ขึ้นมาจูบแลกลิ้นอีกครั้ง  ผมดึงเสื้อกานต์ออกแล้วบดจูบแลกลิ้นพันพัว  กางเกงถูกมือเรียวถอดออกพร้อมกับกางเกงของเจ้าตัวที่กองกับพื้นในเวลาไล่เลี่ยกัน  ปลายลิ้นอุ่นลากต่ำลงมาที่หน้าท้องแข็งของผม  กดหัวทุยให้สัมผัสกับท่อนแข็งที่ดุนดันกางเกง  กานต์เลียท่อนแข็งผ่านกางเกงในจนชุ่มน้ำลาย  จับไหล่หนาแล้วบีบแน่นขึ้นเมื่อลิ้นร้อนแตะเบา ๆ ตรงส่วนหัวที่พ้นจากขอบกางเกงใน  กลืนน้ำลายเหนียวลงคอแล้วประคองหน้าหล่อที่อยู่ตรงท่อนร้อนของตัวเองมาถาม..

“..ที่นี่เหรอ?”  กานต์ยิ้มแล้วใช้ลิ้นเลียซ้ำลงไปที่เดิมแทนคำตอบ  วันนี้ผมกับกานต์จะเมคเลิฟกันบนโต๊ะครับ   เด็กเกรียนดึงกางเกงในผมออกพร้อมกับการลงลิ้นเลียท่อนแข็งร้อนของผมไปตามความยาว  กานต์ช้อนขาด้านในผมขึ้นแล้วกดจูบร้อนแรงลงตามผิวเนื้ออ่อน  มือเรียวดันให้ผมนอนราบลงบนโต๊ะ  แล้วจับท่อนแข็งชักให้สลับกับจูบเน้นตรงเส้นประสาท  มืออีกข้างเลื่อนนิ้ววนตรงทางเข้าแล้วกดเข้ามาด้านใน  จาก  1 เพิ่มเป็น  2  ผมหายใจสั้น ๆ ข่มความเจ็บและความเสียวที่ท่อนแข็ง  มือยังคงชักแต่เลื่อนหน้าลงมาตรงทางเข้าที่มีนิ้วคาอยู่  2  นิ้ว  กานหมุนนิ้วแล้วลงลิ้นรอบช่องทางเพื่อเพิ่มความหล่อลื่น...ผมแทบคลั่ง

“อาห์..เข้ามาเลย”  ประคองหน้าหล่อขึ้นมากระซิบบอกที่ริมฝีปาก  แทรกปลายลิ้นเข้าไปดูดดุนกลืนกินความหวานที่กานต์มี  ชันเข่าขึ้นเมื่อนิ้วของกานต์ถอนออกและมีแท่งขนาดใหญ่มาแทนที่  น้ำหล่อลื่นจากส่วนปลายของกานต์ถูเข้ากับทางเข้าผมเบา ๆ  ดันสะโพกเข้ามาพร้อมกับการบี้เส้นปลายประสาทผม  อ้าปากเอาอากาศเข้าปอดแล้วก้มดูดซอกคอขาวของกานต์ผ่อนความเจ็บ 

“ซี๊ดดด..”  เสียงครางจากริมฝีปากนุ่มดังไม่ขาด  ทันทีที่ความยาวของกานเข้ามาจนสุด  มันก็กระแทกจุดเสียวผมจนต้องแหงนหน้าครางหวิว

“อึ๊ห์..ซืดดดด”  กานต์ขยับสะโพกแล้วจับหน้าผมให้สบตา  หอบหายใจหนักก่อนจะยกขาขึ้นมาบนโต๊ะ  กานต์จับสะโพกผมแน่นขึ้นแล้วดึงเข้าหาตัว  แรงกระแทกจากความยาวของเด็ก  ม.6  พุ่งเข้าหาจุดเสียวจนผมต้องขยับรับจังหวะนั้น  ปลายลิ้นเกาะเกี่ยว  ดวงตาล่าเหยื่อจ้องมาจนผมละลาย 

“ใกล้แล้วกานต์..อาห์”  เกี่ยวขาเข้ากับเอวหนา  กอดคอแน่นขึ้นก่อนจะคว้าหน้าหล่อมาบดจูบแล้วขึ้นสวรรค์ไปก่อน  กานต์ดูดลิ้นผมแรงขึ้น  จับสะโพกผมดึงเข้าหาตัวในจังหวะสุดท้ายก่อนจะครางใส่ลิ้นผม

“อือออออ”  ท่อนแข็งที่คาอยู่ในตัวผมกระตุกถี่  พอ ๆ กับแท่งร้อนของผมที่บดเบียดหน้าท้องแข็งเป็นลูกด้านหน้า  จูบซับความชื้นให้รอจนลมหายใจกานต์เป็นปกติ  ขยับก้นออกจากท่อนแข็งช้า  ๆ แล้วหย่อนขาแตะพื้น  กอดเนื้อแน่น ๆ แล้วประคองหน้ามาจูบ  เดินนำไปที่เตียงก่อนจะล้มลงไปนอนกอดก่ายบนฟูกหนา  พยุงตัวขึ้นโดยที่ริมฝีปากยังแนบชิด  ลูบหน้าอกแล้วบีบตุ่มแข็งสู้มือเบา ๆ  กานต์บิดตัวครางหวิว  ผมไล้นิ้วไปวนที่น้ำรักของตัวเองตรงหน้าท้องกานต์  กวาดมาทั้งหมดแล้วดันนิ้วชี้ที่เปื้อนน้ำรักเข้าไปในชองทางแน่นของกานต์ 

“ต่อเบา!..อืออ”  กานต์ร้องประท้วงเมื่อผมดันเข้าไปที่เดียวมิดนิ้ว  หมุนวนก่อนจะเพิ่มนิ้วกลางเข้าไปอีกนิ้ว  ควานหาจุดกระสันแล้วบดปลายนิ้วทันที  กานต์สะดุ้งแล้วซบหน้ากับไหล่ผม  ก้มลงมองหน้าแดง  ตาปรือปรอยแล้วบดจูบเข้าหา..อยากฟัดให้ตัวแดงกว่านี้

“ซี๊ดดดด..ต่อ  เข้ามาเถอะ..ไม่อยากแตกกับนิ้ว”  จับท่อนร้อนของตัวเองมาจ่อแถวโคนนิ้ว  ดึงนิ้วออกก็ดันท่อนแข็งเข้าไปทันที  กานต์หน้าบูดเบี้ยวเกร็งรับความใหญ่ของผม  ดันเข้าไปทีละนิด  มือก็คอยปรนเปรอดึงความสนใจให้  พอสุดความยาวผมก็แช่ไว้รอให้กานต์พร้อม  ก้มลงไปจูบแลกลิ้นจนกานต์เป็นฝ่ายขยับสะโพกเข้าหา  ผมขยับออกกานต์ก็ถดก้นหนี  ผมพุ่งเข้าใส่กานต์ก็กระแทกเข้าหา  จับขาด้านในยกขึ้นพาดบ่าแล้วกระแทกแรงตามอารมณ์  กานต์ปัดมือที่ผมจับน้องชายออกแล้วขยับมือเอง 

“อีกนิดต่อ..ซี๊ดดดด  เสียว  อ๊ะห์”  กานต์เร่งข้อมือตัวเองแล้วปลดปล่อยน้ำขุ่นข้นสีขาวใส่หน้าอกผม  ก้มลงจูบกานต์ผมก็ถึงสวรรค์อีกครั้ง  ปล่อยน้ำรักใส่ช่องทางแคบจนหมดกระสุน  พลิกตัวนอนหงายข้าง ๆ กานต์  เอื้อมจับมือเรียวขึ้นมากดไว้ตรงหน้าอกตัวเอง  ปรับลมหายใจและจังหวะการเต้นของหัวใจจนปกติ  หันไปมองหน้าด้านข้างของเด็กเกรียนที่หลับไปเรียบร้อย  ลุกไปเข้าห้องน้ำล้างตัว  เดินออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวชุบน้ำ  เช็ดตัวให้เสร็จก็จับใส่กางเกง  ทาแป้งตามข้อพับให้แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ  กานต์พลิกตัวเข้าหาอ้อมกอดผมเหมือนเคยตัว  เคลิ้ม ๆ ใกล้จะหลับผมก็กระซิบบอกเด็กเกรียนในฝัน..

“พรุ่งนี้พี่ไปส่งที่โรงเรียนนะกานต์.. อย่าตื่นสาย”  กานต์ตอบผมอือออแล้วกอดแน่นขึ้น  หอมหัวเกรียนแล้วหลับลงไปพร้อมกัน..แต่ก่อนผมจะเข้าสู่นิทราก็ได้ยินเสียงเด็ก  ม.6  ที่กุมหัวใจผมไว้ทั้งดวงกระซิบแซวข้างหู

“..ต่อกินเด็ก..”  ขมวดคิ้วมุ่นแล้วแค่นเสียงลอดไรฟันตอบเด็กเกรียนให้เหลับฝันดี..







“มึงก็ชอบเล็มหญ้าแก่..ไอ้เกรียน!”



END.

กอด ๆ บวก ๆ ค่าาาาาา
เพิ่งกลับจากงานนอกมาค่ะ  ร้อนอะไรขนาดนี้  เข้ามานั่งตากแอร์เลยแอบมาลงตอนพิเศษที่มีด้วยค่ะ
อ่านเล่นวันเสาร์ อาทิตย์เนอะ
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^
 :กอด1: :กอด1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2015 17:12:45 โดย jira »

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
รักคุณจิที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เล็มหญ้าแก่ที่มันต้องเคี้ยวนานๆ ชุ่มคอหวานแบบนี้นี่เอง
อ่านรวมอาจารย์รินทร์ด้วย
หวานๆๆๆๆๆ
เค้าชอบบบบบบบบบบ
บวกและเป็ดขอบคุณ
 :hao7:

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
การบ้านเยอะแค่ไหนก็ยอมเนาะกานต์ :z1:

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
บร๊ะ หาคำใดมาบอกไม่ได้เลย เขินสุด

สลงสลับกันบ้างให้หอมหวาน :o8:

ฮาประโยคสุดท้ายอีกแล้ว

บรรยากาศกำลังโรแมนติกเลย o13

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ต่อกานต์ คู่นี้ยังแซ่บเหมือนเดิมเลย  :impress2:
จะเป็นต่อกินเด็ก หรือจะเป็นกานต์เล็มหญ้าแก่
จะแบบไหน ก็ทำคนอ่านนั่งซับเลือดกำเดาเหมือนกันนั่นแหละ  :m25:
รักกันได้สะใจดีแท้ 555

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ขอกอดกลับไปแน่นๆ เลยนะค้าา..^^
:กอด1:

ถึงกับเลือดโชกกกก~ แต่ว่าฟินดีเหลือเกินค่า เด็กก็คือเด็กนั่นล่ะน้าา ดูสินั่น สลบไปก่อนพี่ต่ออีกนะคะน้องกานต์~ :laugh:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด