[เรื่องสั้น จบในตอน] รักเกิดในตลาดสด : พิเศษ ++ 7 ++ 24/07/58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น จบในตอน] รักเกิดในตลาดสด : พิเศษ ++ 7 ++ 24/07/58  (อ่าน 49955 ครั้ง)

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
สลับกันบ้างจะได้เร่าร้อนสองเท่า ฟินไปไกล  :heaven

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อืม ต่อ กับ กานต์ ก็ยังน่ารักและร้อนแรงไม่เปลี่ยนเลย

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เป็นตอนพิเศษของคู่นี้ค่ะ 
หลุมรักแกงเขียวหวาน : น็อต  ติ๊ก
 



รักแบบเรา]



อากาศร้อนของบ่ายวันเสาร์อบอ้าวเหมือนฝนกำลังจะตกปกคุมทั่วทั้งตลาดสด  หันไปมองหน้าใสแก้มสีชมพูอ่อนเพราะอากาศที่ร้อนในตอนนี้  เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวที่ปลายจมูกโด่ง   เหลือบมองเหงื่อที่ไหลลงมาจากปอยผมระลงข้างแก้ม  เอื้อมมือเช็ดให้เบา ๆ  ติ๊กหันมาทำตาโตใส่ก่อนจะหันหน้าหนีไม่ให้ผมเห็นแก้มที่ขึ้นสียิ่งกว่าเดิม  อมยิ้มแล้วก้มกระซิบถามข้างหู..

“เท่าไหร่แล้ว?..”  ติ๊กสะดุ้งกับเสียงกระซิบแล้วเม้มปากแน่นขึ้น  ตอบเสียงดุขู่ผมว่า  ‘3  ล้านเข้าไปแล้วพี่น็อต  ถามตลอดแต่ไม่เคยจ่ายสักบาท..’  ชะโงกหน้าไปมองหน้าให้ชัด ๆ ติ๊กก็เบือนหน้าหนี  หัวเราะขำเจ้าตัวก็ยกมือขึ้นมาปิดหู  ดึงมือเรียวที่ปิดหูออกแล้วเลื่อนมือมาจับไหล่เล็กให้หันมาสบตา  พ่อค้าขายแกงถุงของผมขืนตัวไว้ก่อนจะยอมหันมาสบตา..

“เมื่อไหร่จะยอมให้แม่พี่มาจ่ายให้แม่ติ๊กล่ะ..แม่พี่เขารออยู่นะ”  พ่อค้าหน้าชมพูเปลี่ยนเป็นแดงจัดก่อนจะพองลมเข้าปากแก้เขิน  เบี่ยงไหล่หลบแล้วเสไปหยิบถุงแกงเขียวหวานมาจิ้มนิ้วลงเบา ๆ 

“จ่ายให้แม่ทำไมเล่า~  คนเสียหายไม่ใช่แม่นี่..”  ยิ้มบางกับแก้มที่ยังคงป่องเพราะเจ้าตัวยังไม่เลิกเขิน  ริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่เคยได้ชิมกลั้นยิ้มเพราะผมเอานิ้วตัวเองไปช่วยจิ้มแกงเขียวหวานในมือด้วยอีกแรง  ดึงถุงออกจากมือแล้ววางกองรวมข้างหน้าร้าน  ดึงมือเรียวให้นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน  มองขนตาหนาเป็นแพ  และดวงตาสีดำด้วยความรู้สึกทั้งรักทั้งหลง  ติ๊กหลุบตาลงมองมือตัวเองแล้วค่อย ๆ เบือนหนีไปมองหน้าปากซอย  เขินทีไรต้องหลบตาไปจ้องปากซอยตลอด..น่ารักเท่าโลก

ยืนช่วยน้องขายแกงถุงจนหมดแผงก็เก็บของขึ้นรถ  ไปส่งน้องที่บ้านเสร็จก็ฝากท้องทานข้าวเย็นด้วยเหมือนทุกวัน  เดินเข้าไปหาแม่น้องแล้วขอ..

“แม่ครับ  คืนนี้ผมขอให้น้องไปช่วยที่ร้านนะครับ  แล้วตอนเช้าผมจะพามาส่งแล้วค่อยออกไปขายแกงถุงด้วยกันครับ”  แม่ยิ้มแล้วหันมามองหน้าน้อง  ติ๊กยิ้มกว้างแล้วเดินเข้าไปกอดเอวแม่  อ้อนขอไปกับผมคืนนี้  แม่ยิ้มแล้วพยักหน้าอนุญาต  ติ๊กเดินขึ้นบ้านไปอาบน้ำ  เปลี่ยนเสื้อผ้า  ผมเดินมากับแม่แล้วนั่งคุยกันที่สนามหน้าบ้านรอน้องแต่งตัว

“น็อต..รักน้องจริงเหรอลูก?”  ผมยิ้มอ่อนโยนเมื่อแม่ถามคำถามนี้กับผมเป็นครั้งที่  3  ครั้งแรกถามย้ำเมื่อผมสารภาพว่าผมรักลูกชายคนโตของแม่จนโงหัวไม่ขึ้น  ครั้งที่  2  เมื่อผมอยากอยู่กับน้องตลอดเวลาจนทนไม่ไหว  บอกแม่น้องว่าถ้าน้องเรียบจบเมื่อไหร่ผมก็จะให้ผู้ใหญ่ทางผมมาขอให้เป็นเรืองเป็นราว  และครั้งนี้..ซึ่งเป็นครั้งที่  3   ยื่นมือจับมือแม่มากุมแล้วบอกเสียงมั่นคง 

“ยิ่งกว่ารักครับ..ผมจะดูแลน้องเหมือนที่แม่ดูแล  ผมจะขยันไม่ให้น้องต้องลำบาก  อะไรที่เป็นความสุขของน้อง..ผมจะทำ  และจะทำให้ดีที่สุดด้วยครับ”  แม่ยิ้มบางแล้วดึงผมเข้ามากอด  ยกมือขึ้นกระชับกอดแม่แล้วลูบหลังเบา ๆ  ผมคิดอย่างที่ผมพูดจริง ๆ ครับ   ทุกครั้งที่ผมคิดเรื่องอนาคตของผม  ต้องมีน้องเข้าไปอยู่ในนั้นด้วยเสมอ  ผมพาครอบครัวผมมาเจอกับครอบครัวน้องแล้วครับ  ตั้งแต่วันที่น้องยอมเป็นแฟนนั่นล่ะ  แม่กับพ่อผมดูมีความสุขที่ผมจะเลิกทำตัวลอยไปลอยมาสักที   แล้วก็ปลื้มน้องที่รู้จักช่วยพ่อแม่ขายของตั้งแต่ยังเด็กเอามาก ๆ เลยด้วย 

แม่คลายแรงกอดแล้วดันไหล่ผมออกมาสบตา  รอยยิ้มเอ็นดูส่งมาให้ผมแล้วบีบไหล่ผมเบา ๆ

“น็อต..แม่ฝากน้องด้วยนะ”  ยิ้มกว้างแล้วพยักหน้ารับ  ติ๊กเดินลงมาแม่ก็รีบลุกขึ้นยืน  หันมาบอกน้องว่าอย่าดื้อกับผม  แล้วก็อย่านอนดึก  ผมกับน้องเดินออกมาจากบ้านแล้วขึ้นรถผม  ขับพาน้องไปหาแม่ผมที่บ้านก่อน  ผมพาน้องเข้าไปหาแม่แล้วเดินแยกขึ้นมาอาบน้ำ  แต่งตัวเสร็จก็รีบลงมาโอบไหล่น้องไปขึ้นรถแล้วขับไปร้าน  พนักงานในร้านยกมือไหว้ผมกับน้อง  ทุกคนรู้จักน้องครับ 

“ติ๊กนั่งรอพี่ในเคาน์เตอร์นี้ก่อนนะ  พี่ไปดูเหล้าข้างหลังก่อน”  รับแก้วน้ำเปล่าจากมือพนักงานส่งให้น้องแล้วเดินเข้ามาเช็คเหล้ากับมิกเซอร์หลังร้าน  แวะเข้าครัวดูความเรียบร้อยก่อนจะเดินย้อนมาหาน้อง   มองติ๊กนั่งหมุนเกาอี้เล่น  มือเรียวถือแก้วน้ำ  ยกขึ้นมาจิบเป็นระยะจนน้ำในแก้วหมด  หันรีหันขวางก่อนจะวางแก้วไว้ที่เคาน์เตอร์  กอดอกมองพนักงานจัดร้าน  เบือนหน้าไปมองนักดนตรีที่ขึ้นมาเซ็ทเสียงบนเวที  พอปลายจมูกโด่งถอนหายใจยาวแล้วกวาดตามองหาใครสักคนผมถึงจะเดินออกมา

ทันทีที่น้องเห็นผม  แววตาเรียบเฉยกลับทอประกายสดใส  ริมฝีปากสีชมพูคลี่ยิ้มหวาน  มือเรียวที่ยกขึ้นกอดอกยื่นมือให้ผมจับ  น้องออกแรงดึงมือผมเข้ามาหาตัว  โอบไหล่เล็กแล้วก้มลงหอมไรผมและขมับชื้น  น้องเบี่ยงหน้าหนีปลายจมูกแล้วซุกตัวเข้ามากอดผมไว้แน่น  ก้มลงฟังเสียงอู้อี้ที่ดังแข่งกับเสียงร้องห่วยแตกของนักดนตรี..

“คิดตังค์เพิ่มนะพี่น็อต..หมดตัวไม่รู้ด้วย”  ยิ้มกว้างกับประโยคคิดตังค์แก้เขินแล้วก้มลงกดปลายจมูกตัวเองกับสันจมูกโด่งของน้อง  เจ้าตัวหัวเราะคิกแล้วยกมือเรียวขึ้นลูบจมูกตัวเอง  ยิ้มใส่ตาแล้วก้มบอกน้องให้ไปนั่งรอที่ห้องพักผมชั้นบนสุด  น้องพยักหน้าแล้วดึงแขนผมให้อยู่ด้วยกันก่อน  ยิ้ม ๆ แล้วดึงน้องให้ลุกจากเก้าอี้  หย่อนก้นนั่งลงเรียบร้อยก็จับแขนเรียวส่งสัญญาณให้นั่งตักผม

“555+พี่น็อตหมดตัวแน่วันนี้5555”  น้องหัวเราะเสียงดังแล้วปีนขึ้นนั่งตัก  จับมือผมมากอดเอวตัวเองไว้แล้วโยกตัวตามจังหวะเพลง  อมยิ้มแล้วกระชับกอดเอวบาง  หอมหัวไหล่และดูความเรียบร้อยไปด้วย  ทักทายแขกที่ตรงเข้ามายื่นแก้วเหล้าให้  น้องหันมามองปรามไม่ให้ดื่มหนัก  ยิ้มให้น้องแล้วกระชับแรงกอดมากขึ้น 

“เดี๋ยวนี้ไม่มีเวลานั่งคุยกับพวกเราแล้วนะครับคุณน็อต”  เพื่อนของเพื่อนแซวผมหลังจากรับแก้วเหล้าของมันมาจิบ  ยิ้ม ๆ แล้วจับหน้าน้องหันมาหอมโชว์..น้องคือสาเหตุที่ผมไม่ให้เวลากับคนอื่นครับ  เพื่อนมันก็ฮาตอบแล้วเดินกลับโต๊ะ  นั่งกอดหอมไหล่แน่นจนเกือบเที่ยงคืนก็พาน้องไปนอนที่ห้องพักข้างบน

“ติ๊กจะอาบน้ำก่อนนอนก็ได้นะ  ผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าพี่ใช้ได้ทุกตัวครับ”  น้องพยักหน้าแล้วเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าผม  ยิ้มแล้วกดล็อคประตูให้  เดินลงมาข้างล่าง  นั่งเคลียร์บิลและส่งลูกค้าจนหมด  เก็บร้านและเช็คสต๊อคของ  ปิดร้านเรียบร้อยก็เดินขึ้นมาหาน้อง  มองนาฬิกา..ตี  3  พอดี  ป่านนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว  ไขกุญแจห้องเบา ๆ ปิดประตูให้เกิดเสียงน้อยที่สุดแล้วกดล็อคเบามือ  แล้วเดินฝ่าความมืดเข้าไปในห้อง  ยืนอยู่เฉย ๆ ปรับสายตาพักใหญ่ก็เปิดตู้เสื้อผ้า  หยิบเสื้อยืดกับกางเกงนอนขายาวออกมาแล้วตรงไปห้องน้ำ  อาบน้ำ  แปรงฟันแล้วแต่งตัวให้เรียบร้อย  เดินออกจากห้องน้ำแล้วหย่อนก้นลงบนเตียง  ยกมือจับผมน้องมาทัดหู  แล้วเลื่อนมือลูบแก้มใส   น้องขยับตัวหนีมือพลิกหันหลังให้  ผมยิ้มบางให้แผ่นหลังเล็กแล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ วาดแขนกอดน้อง

“อืมมม  มาแล้วเหรอ?..”  น้องพึมพำเบา ๆ แล้วพลิกกลับมาซุกหน้าที่ซอกคอผม  ขยับให้น้องกอดได้สะดวกแล้วโอบไหล่เล็ก  ลูบเบา ๆ ให้หลับต่อ  น้องพ่นลมหายใจยาวเพราะความสบายก่อนจะกะพริบตาปริบ  ขนตาเป็นแพขยับที่คอผมจนอดรู้สึกจั๊กกะจี้ไม่ได้  ขยับตัวออกแล้วดันหัวน้องออกห่างซอกคอแล้ววางลงบนหมอน  เจ้าตัวเงยหน้ามองผมผ่านความมืด  ก้มลงมองหน้าน้องแล้วหอมแก้มเนียน

“หนุนหมอนดีกว่า..ติ๊กจะได้ไม่เมื่อย”  น้องถอนหายใจยาวแล้วส่ายหน้าตอบ  ยิ้มกว้างให้น้องแล้วจูบที่ริมฝีปากนิ่มเบา ๆ  ผละออกมาแล้วตั้งใจจะดึงน้องมากอดแล้วลูบหลังกล่อมให้หลับ  แต่ภาพน้องยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากตัวเองเหมือนนึกว่ากำลังฝันทำให้ผมไม่อยากให้น้องหลับ..เหมือนตอนแรกที่เดินเข้าห้องมา

ดึงมือเรียวออกช้า ๆ แล้วยื่นริมฝีปากเข้าไปแตะใหม่  ผละออกมามองดวงตาสีดำที่ค่อย ๆ หลับลงอีกครั้งเมื่อผมก้มลงไปสัมผัสริมฝีปากนิ่ม  ลมหายใจกลิ่นมิ้นท์ของน้องดึงดูดให้ผมเข้าไปแลกลมหายใจที่มีกลิ่นเดียวกัน  ปลายลิ้นเลาะชิมเนื้อริมฝีปากนุ่มแล้วค่อย ๆ แทรกเข้าไปดูดความหวานที่มากกว่าริมฝีปาก

“อือ..”  เสียงน้องครางเบา ๆ ยิ่งยั่วให้ผมอยากกินอย่างอื่นของน้อง  ละจากปลายลิ้นอุ่นออกมาจูบปลายคางมน  ดูดชิมซอกคอขาวเบา ๆ ดึงเสื้อที่ใหญ่ว่าตัวน้องขึ้นแล้วเลื่อนตัวลงตวัดปลายลิ้นเลียชิมเนื้ออุ่นทุกอณูผิว  น้องบิดตัวเมื่อปลายลิ้นผมลากผ่านยอดอกช้า ๆ  เสียงครางหวิวดังออกมาจากริมฝีปากนุ่ม..ผมอยากได้ยินมากกว่านี้

“อึ๊..พี่น็อต..”  ปลายเล็บสั้นจิกลงที่ไหล่ผมปลดปล่อยอารมณ์  จูบที่ตุ่มเล็กทั้ง  2  ข้างแล้วตวัดเลียจนสีเข้มขึ้น  น้องแอ่นหน้าอกขึ้นสู้ปลายลิ้นผม  เลื่อนมือลงไปจับความต้องการของน้องที่โป่งนูนดันกางเกงจนขึ้นรูป  คนข้างล่างผมสะดุ้งก่อนจะถูกผมดึงความสนใจด้วยปลายลิ้นที่ละเลงยอดอก

“..พี่น็อต..ฮะห์..อย่าแกล้งติ๊ก”  ยันตัวขึ้นจูบริมฝีปากสีชมพูแล้วกวาดปลายลิ้นเอาความหวานตรงหน้ามาชิมจนน้องหายใจไม่ทัน  จูบแก้มใสจนถึงใบหูเล็ก..

“ติ๊ก..เป็นของพี่น็อตนะ..”  น้องนิ่งไปก่อนจะจับหน้าผมมาสบตา  นิ่งมองตาน้อง  ถ้าน้องไม่เต็มใจผมก็พร้อมจะหยุด..แล้วค่อยไปเข้าห้องน้ำทีหลัง

“..ต้องไม่ทำให้ติ๊กเจ็บนะ..ไม่งั้น..จะคิดตังค์เพิ่มด้วย”  ยิ้มกว้างแล้วก้มลงจูบยิ้มของน้อง  ริมฝีปากสีชมพูจูบตอบก่อนจะวาดแขนขึ้นโอบรอบคอผม  ลูบผิวลื่นมือไปทุกสัดส่วน  ดึงเสื้อน้องออกจากตัวก่อนจะลงลิ้นชิมทุกส่วนในร่างกายน้อง..อย่างที่อยากทำมาตลอด

“ถอดให้หน่อยครับ”  ดึงมือน้องมาจับที่เอวกางเกงตัวเองแล้วกระซิบบอก  น้องทุบหลังผมก่อนจะกอดคอผมแน่นกว่าเดิม  ดึงกางเกงตัวเองออกพร้อม ๆ กางเกงน้อง  ติ๊กกอดผมแน่นขึ้นเพราะกลัวผมจะเห็นอะไร ๆ ที่มันเริ่มใหญ่ขึ้นเมื่อเจอท่อนแข็งของผมเบียดเบา ๆ  ควานหาริมฝีปากน้องมาแลกจูบ  เลื่อนมือลงไปจับรวบเข้ามาให้เต็มมือแล้วขยับข้อมือช้า ๆ น้องครางใส่ริมฝีปากผมไม่ขาดจนผมอยากจะให้น้องรู้สึกดียิ่งกว่านี้

“อ๊ะ..ซืดดด”  บดปลายนิ้วใส่เส้นเล็ก ๆ ที่ขึงอยู่ระหว่างส่วนหัวกับส่วนยาวของน้อง  ไล้ริมฝีปากเลียชิมตั้งแต่เนื้อริมฝีปากล่างจนถึงหน้าท้อง  เงยหน้าขึ้นสบตาสีดำแล้วลากปลายลิ้นเลียตามความยาว  น้องแหงนหน้าขึ้นแล้วทิ้งตัวลงนอน  หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามอารมณ์ที่พุ่งสูง  ครอบปากลงแล้วเลียตวัดเนื้อแข็งร้อนในโพรงปาก   น้องจิกผ้าปูเตียงแน่น  ถอนปากออกแล้วลงลิ้นเลียเน้นเส้นปลายประสาท  จับชักให้เบา ๆ  แล้วเลียนิ้วกลางตัวเองก่อนจะแทรกนิ้วเข้าไปในช่องทางร้อน  น้องสะดุ้งแล้วบอกผมทันทีว่าเจ็บ  ยันตัวขึ้นจูบปลอบแล้วดูดดุนยอดอกสลับกับขยับข้อมือจนน้องเริ่มกลับมาแข็งขึ้นอีกครั้ง  ส่งนิ้วกลางเข้าไปช้า ๆ จนสุดนิ้ว  เพิ่มนิ้วชี้เข้าไปอีกนิ้วแล้วดึงความสนใจน้องเหมือนเดิม  ควานนิ้วหมุนรอบ ๆ จนน้ำเหนียวส่วนปลายท่อของน้องไหลออกมาเปรอะมือ  ช่องทางร้อนตอดนิ้วตุบ ๆ ส่งให้ท่อนแข็งของผมปวดตามไปด้วย

ค่อย ๆ ดึงนิ้วออกแล้วจ่อความแข็งขืนของตัวเองเข้าไปทีละนิด  ก้มลงจูบริมฝีปากนิ่ม  หายใจหอบหนักเมื่อความยาวเข้าไปจนสุด  ผละริมฝีปากออกมาจากปากน้องแล้วจูบซับน้ำตาให้ 

“รัก..ติ๊กรักพี่น็อต”  คำรักของน้องแล่นเข้ามาในสมองจนถึงหัวใจอย่างช้า ๆ  ตระกองกอดไว้แนบอกแล้วหอมไปทั่วหน้า  จูบริมฝีปากนุ่มแล้วกระซิบกลับว่ารักมากกว่า  ทั้งรักทั้งหลงจนไม่มีหัวใจจะเหลือให้ใคร  น้องยิ้มกว้างกับริมฝีปากผมแล้วชันเข่าขึ้นรับความยาวให้เข้าไปให้ลึกกว่าเดิม   ขยับสะโพกเข้าออกนุ่มนวล  ฝ่ามือประคองหน้ารับจูบ  ปลายลิ้นเกี่ยวพันดูดดื่ม  เสียงครางกระเส่าของน้องดังขึ้นเรื่อย ๆ จนผมทนไม่ไหว  ผละจากริมฝีปากนุ่มมาจับสะโพกน้องแล้วดึงเข้าหาตัว  เพิ่มแรงกระแทกขึ้น  เร่งจังหวะเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ..จนเตียงเหล็กส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังแข่งเสียงครางของน้องและเสียงหอบหนักของตัวเอง

“อื้ออออ  พี่น็อต..”  น้องจิกแขนผมเต็มแรงก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักใส่มือที่คอยนำให้จนเปรอะ  ผมนิ่วหน้ากับแรงตอดรัดจากน้อง  ขยับสะโพกตัวเองในจังหวะสุดท้าย..ปลดปล่อยใส่ข้างในตัวน้อง..ตามไปติด ๆ   นิ่งกอดน้องจนลมหายใจกลับมาเป็นปกติแล้วกอดน้องแน่น  อุ้มมาอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อีกรอบก่อนจะพาน้องมานอนกอดกล่อมให้หลับ




ก่อนจะหลับก็คำนวนราคาค่าเสียหายน้องไปด้วย  บวกกันไปคูณกันมาก็น่าจะอยู่ที่ราว ๆ  15  ล้าน..








หมดตัวก็ยอมล่ะวะงานนี้!



END.

กอดรวบ บวกเรียบ
จิยังคงยุ่งอยู่มากมายค่ะ  ขอบคุณทุกความเห็นที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ  ส่วนที่ถามเรื่องแผนผัง..จิก็เกินจะทำให้ค่ะ  จำได้ไม่หมดด้วยอ่าาาาาา
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
 :กอด1: :กอด1: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 14:45:43 โดย jira »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
น้องติ๊กน่าร๊ากกก~ :m3: ชอบเวลาที่น้องเขินจังเลยค่ะ เอะอะเป็นต้องมองไปหน้าปากซอยตลอดเลย ฮ่าๆ แถมแก้มก็ป่องๆ จนอยากจะจับมาฟัดทั้งซ้ายทั้งขวาเลยเชียว ฮึ่ย~ หมั่นเขี้ยวจริงๆ เลย .. ส่วนพี่น็อตแค่ 15 ล้าน เราว่ายังไม่พอหรอกค่ะ เพราะตราบใดที่พี่ยังไม่ได้แต่งงานกับน้อง เราว่ายอดเงินและดอกเบี้ยคงจะพุ่งสูงขึ้นๆ จนฉุดไม่อยู่เลยเชียวล่ะค่าา~ ><'

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
ยอดพุ่งไม่หยุดแน่ๆๆพี่น็อต  :z1:

 :กอด1: :L2: :pig4:


ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
อยากกินแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายจัง  :heaven
พี่น๊อต เท่ห์จังเลย เข้าตามตรอก ออกทางประตู แสดงความจริงใจชัดเจนอย่างนี้
มีหรือคุณแม่จะไม่เอ็นดู และไว้ใจให้พี่น็อตดูแลแก้วตาดวงใจของท่านนะ
น้องติ๊ก น่ารักมากกกกก ช่างออดอ้อน น่ากอดจังเลย
พี่น็อต อ่อนโยนกับน้องดีจัง แหม แต่สิบห้าล้านเนี่ย อย่าเพิ่งหมดตัวนะพี่น็อต
เพราะคาดว่า ค่าเสียหายของน้องติ๊ก คงเก็บจากพี่น็อตได้แบบชั่วชีวิตเชียวละ 555
 

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น้องติ๊ก กับ พี่น็อต น่ารักมากครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เป็นตอนพิเศษของคู่นี้ค่ะ 
จากวังหลวงอีเรีย  ถึงแผงขายปลาตลาดสด ::  ผิดรู  โกสินทร์
 



ลอยกระทง!

ยืนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนประดับด้วยดาวระยับทั่วท้องฟ้า  หลับตารับลมหนาวที่โอบล้อมรอบตัว  กลางวันร้อนแดดแผดเผาแสบผิว  กลางคืนกลับหนาวจนบางวันเกือบจะติดลบ  มันน่าพิศวงฉิบหาย!  หันหลังมองประตูที่เปิดออก  ยิ้มบางให้เจ้าของดวงตาสีน้ำตาลอ่อน  ยืนนิ่งให้ริมฝีปากสีแดงธรรมชาติแตะแผ่วที่ริมฝีปาก

“มีอะไรจะให้เราดูหืม?”  ลืมตาสบตาสวยแล้วยกยิ้มมุมปาก  ถอยห่างจากอ้อมแขนที่กำลังจะรวบกอดแล้วเดินนำออกมาจากห้อง  ขายาวก้าวตาม  เร่งฝีเท้าหนียิ่งได้ยินเสียงชายชุดคลุมสวบสาบก้าวตามรวดเร็ว  หัวเราะเสียงดังแล้วผลักไหล่หนาออกพ้นตัว 

“ตามมาอย่างเดียวเป็นไหมไอ้แขกถังแตก555”  แขนแกร่งรัดแน่นแล้วหรี่ตามองยิ้มกว้างของผม  ก่อนจะพยักหน้าแล้วปล่อยเป็นอิสระ  มือใหญ่สอดจับแล้วเดินตามแรงจูงที่ผมพามาที่สระน้ำกว้างหน้าบ้านมัน  ปล่อยมือใหญ่แล้วเดินมาในสวนกว้าง  นั่งลงควานมือล้วงหยิบของที่ผมแอบทำไว้ตั้งแต่เมื่อกลางวัน

มันคือสิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์ประเทศนี้ไม่มีวันเคยเห็น  ยกเว้นมันจะเปิดเน็ตดู   ยิ้มมุมปากแล้ววางของบนฝ่ามือ  เดินกลับมาหาคนตัวใหญ่ที่ยืนเอามือไขว้หลังมองผมอยู่

“นี่คือ?..”  หัวเราะหึกับคำถามของมัน  เบือนสายตามามองสิ่งที่ผมอุตส่าห์ทำ  ฐานทำมาจากก้านบัวที่ตัดเป็นท่อนแล้วเอาเชือกมาผูกให้ติดกันอย่างแน่นหนา  ประดับด้วยใบมะพร้าวที่จับมาขดเป็นก้นหอยแล้วเอาตะปูเข็มกดยึดแทนที่ใบตองของหายาก  นั่งหลังขดหลังแข็งไม่รับแขกตั้งแต่เที่ยงวัน  ให้พี่หมัดช่วยหาของ  ไม่ต้องข่มขู่เหมือนลูกน้องที่บ้าน  เด็กรับใช้คนบ้านนี้กลัวผมอย่างกับอะไรดี  รอบนอกก็ตัดใบพลูด่างมาปะปิดให้ดูดี  ตรงกลางก็เอาดอกไม้ในสวนที่มันขึ้นมาเด็ด ๆ ใส่  แล้วให้พี่หมัดหาธูปเทียนให้  แค่นี้ก็ได้ ‘ของ’ มาอวดมันแล้ว
       
“วันนี้เป็นวันที่บ้านเกิดเราถือเป็นวันที่ต้องขอขมาธรรมชาติ  เคยป่าว?  เดี๋ยวพี่สอนให้..”  เอ่ยปากถามคนตรงหน้าที่กำลังขมวดคิ้วที่ยาวเลยหางตาเป็นปมสงสัยกับของในมือผม  หน้าคมส่ายหน้าบอกว่า  ‘ไม่เคย’  ยกยิ้มร้ายแล้วพยักหน้ารับรู้  เดินหมุนตัวหันหลังมาที่สระน้ำใหญ่  ยื่นของให้มันถือแล้วทาบมือทับมือใหญ่อีกที  ยกขึ้นแตะตรงหน้าผากมันแล้วบอกเสียงจริงจัง

“ขอขมาแม่น้ำที่เราได้อาศัยดื่มกินและใช้ประโยชน์มาทั้งชีวิต  ขอลอยเคราะห์ที่เรากำลังจะเผชิญ   แล้วอยากได้อะไรก็ขอ”  ดวงตาสีน้ำตาลมองตอบแล้วพยักหน้าเข้าใจ   ตาสวยมองตาผมแล้วขยับเข้าใกล้  ลมอุ่นเป่ารดปลายจมูก  มองตาคู่นั้นแล้วอธิษฐานในใจ  ขอขมาแม่คงคาแล้วขอลอยเคราะห์ลอยโศกไปกับน้ำด้วย  นิ่งมองหน้าคมที่กำลังอธิษฐาน  ยิ้มน้อย ๆ เมื่อมันขยับมือยกของขึ้นแตะหน้าผาก  พาของที่อยู่ในมือมันมาที่สระน้ำใหญ่  ปล่อยมือแล้วบอกเสียงนิ่ง

“การจะขอขมาแม่คงคาแล้วให้ท่านรับรู้มันต้องลงไปลอย 'กระทง'  ในน้ำแล้วตอนปล่อยกระทงจากมือก็ย้ำคำที่เราขอสิ่งอันเป็นมงคล  มันถึงจะสัมฤทธิ์ผล”  ตีหน้าตายแล้วพยักพเยิดมองไปในสระที่มีทั้งดอกบัวและสัตว์น้ำนานาชนิดที่ผมชอบอยู่ในนั้น  กลั้นยิ้มแล้วสบตานิ่งเมื่อองค์สุลต่านค่อย ๆ เยื้องย่างกายลงไปในสระน้ำ  ชุดคลุมที่ยาวถึงเข่าค่อย ๆ ถูกน้ำซึมซับไปทะละน้อยตามย่างก้าวที่เดินลงสู้น้ำใสในสระ

“ปล่อยได้แล้วหรือยัง?”  พยักหน้าแล้วทำทียกมือขึ้นไหว้เหนือหัว  มองสุลต่านเดินขึ้นจากน้ำแล้วหมุนตัวเดินไปในสวน  ตรงไปที่พุ่มไม้เดิม  ล้วงหยิบถุงพลาสติกที่มีประทัด  ไฟแช็ค  กับหนังสติ๊กอยู่ข้างในถุง  เดินย้อนกลับมาแล้วหยิบของในถุงออกมา  ส่งประทัดกับไฟแช็คให้สุลต่านถือ

“เมื่อกี้เป็นการขมาและบูชาแม่คงคา  อันนี้เป็นการบูชาท้องฟ้าที่ให้ฝนชโลมแผ่นดินเราบ้าง”  ตาสวยจับจ้องประทัดกับไฟแช็ค  ผมยิ้มร้ายแล้วหยิบประทัดในมือสุลต่านมา  1  อัน  จับยัดใส่หนังสติ๊กแล้วง้างรอ  หันมาบอกให้คนถือไฟแช็ครีบจุดไฟติดชนวนอย่างด่วน

“จุดที่ชนวนให้ที  แล้วดูนะ  เพราะเดี๋ยวมึงต้องทำบ้าง”  คิ้วเรียวยาวไม่หยุดขมวด  แต่ดวงตาสวยจริงจังกลับจับจ้องทุกการกระทำของผม  หน้าเฉยแล้วดีดประทัดออกไปในสระกว้าง  ยิ้มกว้างกับเสียง ‘ปัง!’ ที่ระเบิดบนผืนน้ำพอดี  กลิ่นดินปืนมันชวนให้คิดถึงบ้านชะมัด  หันหน้ากลับมามองสุลต่านแล้วส่งหนังสติ๊กให้

“ตามึง”  สุลต่านรับหนังสติ๊กจากมือผมแล้วลองจับลองง้างอยู่  2-3  หนก็เข้าที่เข้าทาง  ยื่นประทัดลูกใหญ่ให้แล้วเตรียมจุดชนวนด้วยหวังดี  ยิ้มกว้างกับการยิงที่แม่นยำของมัน  ลงกลางสระเป๊ะ  สะกิดให้หันเป้าหมายไปที่กลางสวนบ้าง  แน่นอนว่าลูกที่สองจัดตรงกลางพุ่มกุหลาบ  ลูกที่  3  ผมจัดที่ให้ตรงยอดต้นไม้  ถัดมาก็ตรงระเบียงบ้าน  ไม่สนใจว่าคนในบ้านมันที่ไม่เคยรับรู้ประเพณีบ้านผมจะแตกตื่นแค่ไหน..

ไม่เคยก็เคยซะ..ปีหน้าพวกมึงจะได้ชิน!

หมดจากจุดประทัดบูชาท้องฟ้าผมก็หันมาหลอกมันให้มันจุดไฟเย็นที่เหลือในถุงพลาสติก..บูชาแม่ธรณี55555  สั่งให้มันนั่งลงแล้วจุดไฟเย็น   แสงสีสวยที่พวยพุ่งออกจากปลายไม้ค่อย ๆ สว่างสวยดึงดูดทุกสายตาให้มายืนล้อมวงดูความงดงามของมัน  ผมส่งไฟเย็นที่มีในถุงให้เด็ก ๆ เล่นต่อ  องค์สุลต่านยิ้มบางให้ผมก่อนจะประคองเอวให้เดินกลับเข้าบ้านที่ใหญ่โตจนผมอดไม่ได้ที่จะเรียกว่า ‘วัง’ 

“ขอบคุณมากโกสินทร์ที่ให้เราได้ทำการบูชาและขอขมาธรรมชาติร่วมกับเจ้า  แต่..”  หางตาขวากระตุกยิกแปลก ๆ

“แม่เราเคยสอนให้เราลอยกระทง  แน่นอนว่า..ไม่ใช่แบบที่เจ้าสอน”  ยิ้มแกน ๆ แล้วตีหน้าตายเดินหันหลัง  กะเข้าห้องแล้วกูก็รอดละ  สะดุ้งกับข้อมือที่ถูกยึดไว้  หันมองยิ้มเย็นที่ฉาบไว้ทั่วหน้าองค์สุลต่าน  กลืนน้ำลายเหนียวกับคำพูดที่ประกาสกลางห้องนอน..

“..รู้หรือไม่  ว่าการปดเราซึ่งเป็นถึงสุลต่านมีโทษหนักเช่นไร?  หืม..โกสินทร์”   ยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าประชิดตัว  ไล่สายตาจากริมฝีปากสีแดงตรงหน้าขึ้นไปสบตาฉ่ำที่จับจ้องริมฝีปากผมนิ่ง..

“แล้วรู้หรือไม่..เราซึ่งป็นถึงผู้ครองหัวใจองค์สุลต่าน  มีสิทธิ์ลงโทษสถานหนักท่านได้เช่นกัน  สุลต่านแห่งอีเรีย..”  ยิ้มพราวใส่ตาแล้วปล่อยให้ค่ำคืนลอยกระทงบูชาแม่คงคาผ่านไปกับเสียงลมหายใจหอบหนักและเสียงครางต่ำของเรา..

ลอยกระทงในอีเรีย  กับคนรักที่เป็นผู้ปกครองอีเรีย

..ดินแดนในทะเลทรายสีทอง






เป็นอีกหนึ่งวัน  กับอีกหนึ่งเทศกาลที่ผมกับสุลต่านทำร่วมกันครับ !


END.

.................................

กอดๆๆๆๆ บวกๆๆๆๆๆๆๆ
เพิ่งผ่านงานประเมินมาตรฐานของสำนักงานไป  จิก็ต่อด้วยมหกรรมกีฬาค่ะ  วันนี้จะไปแข่งวอลเล่ย์(อีกแล้ว)ค่ะ  มีแข่งตอนเที่ยง  เอามาลงแล้วค่อยไปเนอะ ^^
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ
 :กอด1: :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ไม่เคยเลยสักครั้งเหมือนกันนะคะที่โกสินทร์จะหลอกองค์สุลต่านได้แนบเนียน คราวที่แล้วก็เรื่องความหมายของชื่อ มาคราวนี้สุลต่านก็ยังจับไต๋โกสินทร์ได้อยู่ดีนั่นล่ะน้า~ :laugh: แต่รวมสามเทศกาลไว้ในวันเดียวกันแบบนี้ก็เป็นวันที่พิเศษสุดๆ สำหรับทั้งสองคนดีนะคะ ไม่จำเป็นต้องให้เหมือนกับใครเขานี่เน้ออ~ :heaven ..

ครีเอทมากเลยค่ะโกสินทร์!

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
โกสินทร์ขี้แกล้งแต่โดนเอาคืนตลอดๆ :laugh:

 :กอด1: :L2: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักมากครับ โกสินทร์ ก็ยังเกรียนและกวนเหมือนเดิม

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
ยังคงกวนเหมือนเดิมนะโกสินทร์  :laugh:

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
ชอบทุกเรื่องทุกตอน o13

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เป็นตอนพิเศษของคู่นี้ค่ะ 
พันธนาการหัวใจ  ด้วยสายใยรักจาก..แผงทุเรียน : โก๋  ต้อม
 


ความร้อนอบอ้าวของปลายฤดูร้อนทำให้ชาวบ้านร้านตลาดดูหงุดหงิดง่าย  ไม่เว้นแม้แต่ผมที่เป็นคนใจเย็นเสมอ  นั่งตากพัดลมอยู่ในแผงกับผู้ชายหน้าขาวปากแดงแผงตรงข้าม  ตั้งแต่เริ่มเปิดใจยอมรับการผูกมัดของมัน  ผมกับโก๋ก็ตัวติดกันตลอดเวลา  แรก ๆ ผมไม่ชิน  จะว่าไป..ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ชินครับ

“ไม่กลับร้านเหรอ?”  เอ่ยปากถามคนที่นั่งเบียดผมแย่งพัดลมหลับตาพริ้ม..แถมซบผมอย่างไม่อายสายตาผู้คนชาวตลาดที่สอดส่องมองเด็กหนุ่มเพื่อนร่วมตลาดที่รักกันม๊ากมาก  โก๋ส่ายหัวกับซอกคอผมแล้วเบือนหน้ามากระซิบตอบที่ซอกคอแผ่วเบา

“ไม่อยากกลับอ่ะ  อยากนั่งตากพัดลมตรงนี้อ่ะต้อม”  ย่นคอหลบมันก็ตามมาซุกซบ  รำคาญ  แต่ก็นะ..ผมแพ้โหมดนี้ของมันครับ  เมื่อก่อนมันกวนตีน  ปากหมา  ไม่เคยเป็นมิตรกับผมเลยซักครั้ง  พอโดนระเบิดทุเรียนไปคราวนั้นผมถึงได้รู้ว่า..มันเป็นการแสดงความชอบของไอ้โก๋  ชอบใครก็แกล้งคนนั้น  ยังกะเด็ก ๆ  ถอนหายใจยาวแล้วขยับตัวนั่งให้สบายเพราะกว่าผมจะเก็บร้านก็อีก  2  ชั่วโมง

“วันนี้..ไปกินข้าวเย็นบ้านโก๋นะ  ที่บ้านโก๋ไม่มีใครอยู่เลยอ่ะ  กินข้าวคนเดียวมา  3  วันแล้วด้วย”  ขมวดคิ้วแล้วผลักหัวมันออก 

“แล้วกินอะไรมื้อเย็นบ้างป่าวมึงอ่ะ?”  มันทำปากยื่นแล้วก้มหน้ามองกระเป๋าเสื้อผม  เสียงตอบเหมือนน้อยใจกับสถานะแฟน  เพราะผมไม่เคยใส่ใจกับปากท้องและชีวิตความเป็นอยู่ของมัน

“กินข้าวกับแกงอ่ะ  กินได้นิดเดียวก็หยุด   เหงา  กินไม่ลง..”  สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเบือนหน้าไปมองพัดลมแทนหน้างอง้ำของมัน  ปากแดงยื่นกับท่าทางการพูดง๊องแง๊งของมัน..โคตรน่ารักครับ  ชายเสื้อผมถูกมันกระตุกเรียกอยู่  3-4  ครั้ง  ปรับสีหน้าให้ปกติแล้วหันไปหามัน  ยิ้มบางแล้วบอกให้มันดีใจเพราะเย็นนี้ผมจะไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนมัน

“เดี๋ยวเย็นนี้ไปกินข้าวด้วย  แต่โก๋ต้องเลี้ยงเรานะ”  หน้างอค่อย ๆ ยิ้มกว้างสดใสมาให้ผม  ยิ้มกว้างตอบมันแล้วไล่ให้มันกลับแผงบ้าง  ร้านมันขายแทบไม่ได้เลยครับ  ส่วนมากที่ขายได้เพราะผมเดินไปส่งมันขายนั่นล่ะ  ถึงได้มีรายได้เข้าร้านบ้าง  อะไรของมันก็ไม่รู้ครับ

“งั้นเดี๋ยวโก๋มาช่วยเก็บร้านนะ  อย่าเก็บคนเดียวนะ  รอโก๋ก่อน”  ถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับคำ  มองแผ่นหลังที่วิ่งแน่บกลับร้านแล้วอมยิ้มกับตัวเอง  นั่งหลับตารับความเย็นจากพัดลมจนเผลอหลับไปจริง ๆ ลืมตาตื่นเพราะเมื่อยคอ  หลับบนเก้าอี้พับน่ะครับ  มองโก๋ที่กำลังเก็บร้านให้ผม  ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้วช่วยโก๋เก็บร้าน  เร่งมือเมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้อง   เก็บเงินเข้ากระเป๋าเสร็จก็วิ่งไปซื้อแกงที่ซอยข้าวแกง  ได้แกงถุงร้านของเพื่อนที่โรงเรียนมา  2-3  อย่าง  มันเองก็เก็บร้านใหญ่เลยเหมือนกัน 

“เอาไปกินเลย  เราให้..เอาไปเถอะ  เราจะเก็บร้านแล้ว”  ยื่นเงินให้มันก็ไม่รับ  เราก็เลยขอบคุณมันแทน  พี่ชายที่มาช่วยมันขายของก็ยิ้มให้ผมกับโก๋  เท่ดีครับ  วิ่งออกมาจากซอยข้าวแกงก็แวะซื้อตะโก้เจ้าประจำมา  3  แพค  โก๋ได้ลูกชุบมา  3  เผือกกวนอีก  2    รีบจ่ายตังค์แล้ววิ่งฝ่าละอองฝนขึ้นรถโก๋  เหลือบมองคนหน้าขาวปากแดงเอามือมาบังฝนให้แล้วอดอมยิ้มไม่ได้  ถึงมันจะช่วยบังหยาดฝนได้ไม่มากนัก  แต่มันก็ได้ใจผมไปเต็มเข่ง  วิ่งมาถึงรถมันก็เปิดประตูฝั่งผมให้เข้าไปนั่งก่อน  มันถึงจะวิ่งไปนั่งที่คนขับ  ดึงคอเสื้อขึ้นมาเช็ดหน้าแล้วหันไปมองหน้าโก๋  ยิ้มบางกับท่าทางอารมณ์ดีที่เย็นนี้มีผมนั่งกินข้าวเย็นพร้อมกัน

“ต้อมหยิบผ้าขนหนูในกระเป๋าโก๋ให้หน่อยครับ..”  เอี้ยวตัวไปมองเบาะหลังแล้วโน้มตัวไปค้นกระเป๋า  หยิบผ้าขนหนูส่งให้ก็เห็นว่ามันมองผมอยู่ก่อน  โก๋ยิ้มตอบผมแล้วรีบเอาผ้าเช็ดหน้าลวก ๆ แล้ววางไว้บนตัก  ยิ้มให้มันแล้วขยับมานั่งให้สบาย ๆ  ไม่ถึง  15  นาทีก็เข้าบ้านมันแล้วครับ  มันวิ่งฝ่าฝนไปเปิดรั้วแล้ววิ่งกลับมาขับรถเข้าบ้าน  รวบถุงกับข้าวเอาไว้เองเพราะมันทำมาเยอะแล้ว  มันแย่งถุงผมก็บอกมัน

“เราถือได้  ไปเตรียมจานไป  เดี๋ยวพวกนี้เราถือเอง”  มันยิ้มกว้างแล้วยื่นหน้ามาหอมขมับผมดังฟอดใหญ่  มองแผ่นหลังที่กระวีกระวาดเปิดประตูบ้านแล้วยกมือขึ้นลูบแถวไรผม   ยิ้มบางกับฝ่ามือตัวเองแล้วรีบลงจากรถตามมันเข้าบ้านไป  วางกับข้าวกับขนมไว้บนโต๊ะแล้วช่วยมันขนจานกับน้ำ  แกะกับข้าวมันก็แย่งผมแกะ  หยิบถุงไหนมันก็รีบมาแย่ง  หัวเราะกันไปกินข้าวกันไป  กินเสร็จผมก็เก็บกวาดจานมากองรวมกัน  กำลังจะยกไปล้างโก๋ก็ดึงมือให้นั่งลง  แกะลุกชุบมายื่นให้ชิม  ยิ้มให้มันแล้วยื่นมืออกไปรับมากินเอง  ลูกต่อมามันไม่ยอมให้กินเองผมก็ปล่อย

“อร่อยเนอะ  โก๋ชอบที่เป็นรูปฟักทอง  มันน่ารักดี  ต้อมชอบลูกไหน?”  มองลูกชุบรูปผลไม้หลากสายพันธุ์ที่นอนนิ่งอยู่ในแพคแล้วตัดสินใจไม่ถูก  เงยหน้ามายิ้มให้มันแล้วบอกว่าชอบฟักทองเหมือนมันนั่นล่ะ  ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้มกว้างแล้วดึงหน้าผมมาจูบที่แก้ม  กอดผมไว้ทั้งตัวแล้วหอมหัวผมอีกฟอดใหญ่  ผละออกมามองตาผมแล้วบอก.. 

“นั่งไปเถอะ..โก๋ล้างจานเอง”  ยิ้มบางแล้วหยิบลูกชุบรูปฟักทองมาใส่ปาก  กินจนหมดแพคก็เก็บกวาด  ที่ยังไม่ได้กินก็เข้าตู้เย็น  เดินไปดูคนล้างจานแล้วยืนอมยิ้มมองมันขะมักเขม้นกับการล้างจาน  เดินไปยืนข้าง ๆ แล้วช่วยเก็บจาน  ล้างมือเสร็จก็เช็ดมือที่ชายเสื้อมัน 

“คุณครับ..มันสกปรกมั้ยเนี่ย?”  หัวเราะเสียงดังตอบแล้วเบี่ยงหลบอ้อมแขนที่วาดตัวผมเข้าหาอกมัน  เสียงหัวเราะของโก๋ดังอยู่บนหัวพร้อมกับปลายจมูกที่กดลงบนแก้มผมเบา ๆ เงยหน้ายิ้มกว้างตอบแล้วหลับตารับสัมผัสเย็นที่ปลายจมูก  ลืมตาขึ้นมาสบแล้วยิ้มอ่อนโยนตอบรอยยิ้มอบอุ่นที่ส่งมาให้  โก๋ก้มลงมาจุ๊บปากผมเบา ๆ แล้วจูงมือเดินออกมานั่งเล่นที่โซฟาหน้าทีวี  โก๋นั่งแต่บังคับให้ผมนอนหนุนตัก  ยิ้มแล้วยอมล้มตัวหนุนตักแข็ง ๆ โดยดี  เราไม่ได้เปิดทีวีดูครับ  เพราะฝนตกหนักแล้วฟ้าก็ร้องตลอดเวลา  ผมกลัวฟ้าผ่า  ถึงแม้ว่า..การที่ผมหนุนตักโก๋มันอาจจะเป็นสายล่อให้ฟ้าผ่ามากกวาการเปิดทีวีก็เถอะ  นอนหลับตาปล่อยให้โก๋ลูบผมเล่น  ฟังเสียงฝนตกจนฝนเงียบ  เพลินกับปลายนิ้วเย็น ๆ จนเกือบจะหลับก็นึกขึ้นได้

“กี่โมงแล้วโก๋  ลืมบอกแม่ว่ามากินข้าวเย็นบ้านโก๋  ป่านนี้รอกินข้าวแย่แล้ว”  ลุกนั่งแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมา  เงยหน้ามองรอบกายที่ปกคลุมด้วยความมืดก่อนจะจ้องดูเวลาที่หน้าจอ  ทุ่มพอดี  กดโทรออกแล้วบอกแม่ว่ากินข้าวบ้านโก๋เรียบร้อยแล้ว  ให้กินข้าวได้เลยไม่ต้องรอ ยังไม่ทันจะพูดจบโก๋ก็กระซิบบอกผมข้างหูเบา ๆ

‘คืนนี้ค้างที่นี่นะต้อม..อยู่เป็นเพื่อนโก๋นะ’  นั่งตัวแข็งเมื่อฟังประโยคขอร้องของโก๋จบ  เสียงแม่ถามอยู่ในโทรศัพท์ว่าผมจะกลับกี่โมง  มือเย็นสอดเข้ามากอดเอวผมแล้วเกยคางรอคำตอบ  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเม้มปากแน่น  คิดหาคำตอบในใจนานจนแม่ถามว่าผมยังถือสายอยู่รึเปล่าถึงได้กลั้นใจบอกแม่..

“วันนี้ต้อมค้างกับโก๋นะแม่  บ้านมันไม่มีใครอยู่เลย  ครับ  ครับ  สวัสดีครับ”  วางหูจากแม่แล้วนั่งนิ่งให้ริมฝีปากสีแดงจูบที่ใบหู  เสียงกระซิบขอบคุณจากโก๋ดังอยู่แถวนั้น  ใจเต้นไม่เป็นส่ำเมื่อริมฝีปากสีแดงจัดของมันจูบระลงมาแถวแก้ม  หัวใจเต้นโครมครามจนกลัวโก๋จะได้ยิน..น่าขายหน้าชะมัด

“มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนมั้ย?  เหนียวตัว  จะอาบน้ำ..”  กลั้นใจลุกพรวดแล้วก้าวห่างออกมา   3  ก้าว  เบือนหน้าหนีแล้วถามหาเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนตอนอาบน้ำเสร็จ  หมุนตัวไปมาเมื่อหางตาเหลือบเห็นโก๋ลุกขึ้นยืน  สะดุ้งกับฝ่ามืออุ่นที่แตะแขนเบา ๆ ก่อนจะลูบไปตามท่อนแขนแล้วโอบผมไว้หลวม ๆ หลังสัมผัสกับแผ่นอกแกร่ง  อุ่นจนร้อน  กลั้นหายใจเมื่อริมฝีปากนุ่มจูบลงที่ขมับผมอีกครั้ง  จับแขนผมให้หันมาหา  ฝ่ามือเย็นประคองหน้าผมให้หันมารับจูบร้อน

“กะ  โก๋..เดี๋ยว  เดี๋ยวก่อน..”  ริมฝีปากผมที่เบี่ยงหนีถูกควานหามาปิดเสียงประท้วงจนได้  มือที่ประคองหน้าเลื่อนมาจับท้ายทอยให้มันจูบผมได้ถนัดมากขึ้น  ปลายลิ้นอุ่นแตะลงบนริมฝีปากล่างผมเบา ๆ หัวใจเต้นแรงกลบเสียงรอบกาย  มันกอดผมไว้หลวม ๆ ก้าวขาถอยหลังกลับมาที่โซฟาช้า ๆ เดินตามเงอะงะงุ่มง่าม  2  มือขยำเสื้อมันจนเจ็บ  เสียงริมฝีปากสัมผัสผมดังน่าอายดังก้องอยู่ในหัว  ริมฝีปากชาไปหมดเมื่อโก๋ถอนปากออกมาจูบที่ปลายคาง  หายใจหอบหนักเมื่อฝ่ามือเย็นลูบเข้ามาในเสื้อ  ไล้ปลายนิ้วตามแนวกระดูกสันหลังช้า ๆ  จนเลยมาถึงท้ายทอย 

“หายใจ..”  ริมีปากสีแดงกระซิบบอกผมที่ริมฝีปากบนก่อนจะประกบปิดเสียง  ปล่อยให้ผมหัดหายใจทางจมูกเองจนผสานเข้ากันได้กับลมหายใจของมันเอง  มือเย็นที่ท้ายทอยโน้มหน้าผมให้ก้มลงมารับจูบจากโก๋ให้มากขึ้น  มืออีกข้างเลื่อนมาจับมือผมที่ขยำเสื้อมันออก  แล้ววางมือผมให้คล้องคอมันไว้ทั้ง  2  ข้าง  ฉกปลายลิ้นเลาะเล็มชิมเนื้อริมฝีปากผมจนพอใจ  ก่อนจะสอดเข้ามาควานหาปลายลิ้นผมไปชิม  มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยผม  มืออีกข้างโอบเอวผมให้แนบชิดจนไม่มีช่องว่างให้สิ่งใดแทรกได้  เสื้อผมถูกเลิกขึ้นมาจนถึงคอก่อนมันจะผละออกดึงเสื้ออกจนพ้นหัว  ไม่ทันได้ตกใจริมฝีปากนุ่มก็เข้าประชิด  ลมหายใจกับลิ้นอุ่นทำผมมึนงงอีกครั้ง 

เอนหลังลงราบกับโซฟาโดยที่ริมฝีปากของเรายังคงประทับติดฝ่ามือเย็นสัมผัสไปตามเนื้อตัวผม  เน้นหนักที่หน้าอกและตุ่มไตที่แข็งสู้มืออย่างไม่ไว้หน้าเจ้าของ   สะดุ้งกับปลายนิ้วที่คลึงยอดอก  พอจะดึงมือที่คลึงยอดอกออก  มือมันอีกข้างก็ป้วนเปี้ยนแถวเป้ากางเกง  จับ ๆ บีบ ๆ นวด ๆ จนน้องชายผมมันแข็งปั๋ง  ริมฝีปากกระกบแน่นขึ้น  ลิ้นเกาะเกี่ยวดูดดื่มจนผมต้องยอมแพ้

“ปิดไฟก่อนนะครับ”  มันผละออกแล้วบอกรวดเร็ว  ผมยังไม่ทันจะลุกนั่งหรือเรียกสติมันก็กลับมาคร่อมจูบ  บดเบียด  เค้นคลึงจนผมต้องแอ่นตัวตามหาริมฝีปากที่เหมือนจะผละออกจากยอดอก  เสียงครางของตัวเองถูกเสียงฝนข้างนอกที่กำลังโปรยปรายให้ความชุ่มชื้นกลบอีกครั้ง  กางเกงและกางเกงในถูกถอดออกตอนที่แอ่นหน้าอกอีกข้างรับริมฝีปากและลิ้นอุ่น  ร้อนไปทุกที่ที่ปลายลิ้นลากผ่าน  ปลายนิ้วชี้แตะลากจากหน้าท้องจนถึงส่วนปลายที่มีน้ำเหนียวน่าอายของผมช้า ๆ วนปลายนิ้วที่ท่อปล่อยน้ำเสียของร่างกายแล้วกดลงตรงกลางเบา ๆ เสียวจนต้องครางใส่ปลายลิ้นที่ยังประกบอยู่  โก๋แทรกตัวเข้ามาจนท่อนแข็งของมันกดโดนช่องทางร้อนของผม  ปลายนิ้วบี้ที่เส้นประสาท  สะโพกกดเน้นจนช่องทางร้อนของผมมันอึดอัดไปหมด 

“ให้โก๋ทำนะ..”  โก๋ผละมากระซิบบอกผมข้างหู  หายใจหนักหน่วง  ไม่ตอบคำขอเรื่องที่โก๋จะทำ  หลับตาแน่นเมื่อโก๋ลงลิ้นหนักที่หน้าท้องก่อนจะแตะเลียน้ำเหนียวส่วนปลายของผมไปชิม  เสียงริมฝีปากนุ่มครอบครองความต้องการของผมดังจนตัวเองอาย  2  มือปะป่ายหาที่ยึดเมื่อโก๋กินความต้องการของผมไปจนสุดความยาว  เด้งเอวสวนริมฝีปากที่โยกเข้าโยกออกอย่างลืมตัว  อ้าปากเลียปลายนิ้วที่โก๋ส่งเข้ามาอย่างไม่อาย 

“เจ็บนิดเดียวนะครับ”  มันพูดเสร็จก็ดันนิ้วเข้ามาในช่องทางร้อนของผม  ค่อย ๆ ส่งมันเข้ามาจนหมดนิ้วชี้  ริมฝีปากแดงยังคงวุ่นวายอยู่กับความต้องการของผมที่ยังคงเรียกร้องการปลดปล่อยอยู่ในริมฝีปากมัน  พอผมเริ่มไม่เจ็บมันก็ดูดความต้องการผมแรงขึ้นพร้อมกับส่งนิ้วกลางเข้ามาอีกนิ้ว  ทำแบบนี้ไปจนนิ้วมันอยู่ในตัวผมครบ  3  นิ้ว  น้ำหล่อลื่นของผมถูกมันชิมจนผมจวนจะถึงสวรรค์

“อาห์..ขอเข้าไปนะ”  มันผละริมฝีปากออกจากความต้องการของผม  แล้วยันตัวขึ้นมากระซิบที่ข้างหู  พรมจูบทั่วหน้าผมก่อนจะดึงนิ้วออกแล้วถอดเสื้อผ้ารวดเร็ว  หันหลังให้ผมแป๊บเดียวแล้วกลับมาพร้อมความแข็งขืนขนาดไม่ธรรมดาที่บอกถึงความต้องการของเจ้าตัว  มองโก๋ฉีกซองป้องกันแล้วสวมช้า ๆ ด้วยความรู้สึกเสียวแปลบปลาบที่ช่องทางร้อนของตัวเอง  ถ้าโดนเข้าไป..เลือดไม่ท่วมเลยเหรอนี่?

โก๋ยิ้มให้ก่อนจะลูบแก้มผม  ขยับเข้ามาแทรกตัวท่าเดิมแล้วจูบแผ่วเบาและเพิ่มความร้อนแรงด้วยปลายลิ้นร้อนตามแรงอารมณ์  โก๋จับต้นขาผมขึ้นพาดกับซอกคอ  ใช้ศอกพยุงตัวเองมองโก๋บีบเจลสีใสลงฝ่ามือจนเต็มก่อนจะละเลงท่อนแข็งของตัวเองและป้ายลงที่ช่องทางร้อนของผมเอง  หายใจหอบหนักเมื่อนิ้วที่เปื้อนเจลเลื่อนขึ้นมาจับความต้องการที่นอนหดของผมให้สู้มืออีกครั้ง  เอนหลังนอนราบแล้วโน้มคอคนข้างบนมาจูบ  อย่างน้อยผมก็ไม่ต้องเห็นสายตาที่กำลังจะกินผมอยู่ตอนนี้

ขยับก้นถดหนีเมื่อแท่งร้อนจ่ออยู่ตรงทางเข้า  โก๋ประคองหน้าผมขึ้นมาจูบแล้วผละออกมาสบตา  ดวงตาอ่อนโยนมองผมนิ่งนานเหมือนรอให้ผมเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะยอมให้เข้าไปหรือจะ..ไว้วันหลัง  ถอนหายใจยาวแล้วหลุบตามองหน้าอกแกร่งตรงหน้า  ถึงเลี่ยงวันนี้ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าวันอื่นจะเลี่ยงได้ไปตลอด  ตราบใดที่ผมกับโก๋ยังรักกัน  เหตุแบบที่เกิดอยู่ตอนนี้มันก็ต้องเกิดอยู่ดี  ผ่อนคลายกล้ามเนื้อตัวเองแล้วหลับตารับทุกอย่างของโก๋   น้ำหนักตัวที่กดลงมาและจูบอบอุ่นทำให้ผมไม่ค่อยกลัวมากเท่าไหร่

มือเย็นจับความต้องการของผมรูดขึ้นลงช้า ๆ จูบหวานดูดดุนยอดอกสลับกับเลื้อยขึ้นมาบดริมฝีปากผมเป็นระยะ  แท่งร้อนดันเข้ามาช้า ๆ ความเย็นและความลื่นของเจลช่วยให้ผมไม่เจ็บมากนัก  บางที..อาจจะเพราะโก๋ขยายช่องทางของผมไว้ก่อนก็ได้  อะไรก็เถอะ..ขอบคุณที่มันไม่ค่อยเจ็บมากเหมือนที่ผมกลัว

“..แน่นจัง..”  หายใจรวยริน  หน้าร้อนผ่าวกับเสียงกระซิบข้างหูของโก๋  ความยาวของมันเข้ามาจนรู้สึกถึงขนหยาบแถวหน้าท้องของมัน  ผมถูกมือเย็นประคองหน้าให้รับสัมผัสอ่อนโยนจากริมฝีปาก  ปลายลิ้นลากไล้วนชิมเนื้อริมฝีปากจนต้องเผยอรับเรียวลิ้นเข้ามาเกี่ยวพัน  มือเย็นจับมือผมมาประสานนิ้วแนบแน่น  สะโพกหนาขยับเชื่องช้า  รับความยาวที่เข้ามาจนความรู้สึกเจ็บอึดอัดเริ่มจางหาย  ความยาวของโก๋ดันเข้ามาชนจุดที่ผมต้องสะดุ้งเฮือก

“ตรงนี้เหรอ?”  หายใจหอบหนักเมื่อมันไม่ถามเปล่า  โก๋ดันความยาวของมันเข้ามาที่เดิมก่อนจะเพิ่มความแรงจนผมต้องแหงนหน้าครางไม่เป็นภาษา  ยกสะโพกรับความแรงที่เพิ่มตามอารมณ์  เลือดสูบฉีกแรง  หัวใจเต้นโครมครามเหมือนจะหลุดออกมานอกอก  เด้งสะโพกสวนความยาวจนคนข้างบนกลั้นเสียงครางไม่ไหว

“ซืดดด..อ่ะห์  ไม่ไหวแล้วต้อม”  ทันทีที่เสียงแหบพร่าบอก  ผมก็ปลดปล่อยน้ำรักใส่หน้าท้องโก๋จนเปรอะไปหมด  โก๋จับสะโพกผมแน่นแล้วกระหน่ำแรงเข้ามาไม่ยั้งจนเจ้าตัวซบหน้ากับซอกคอผม  ปลายจมูกโด่งลากไล้มาจนถึงปลายจมูกผม  นิ่งอยู่แบบนั้นจนปรับลมหายใจเป็นปกติ  สบตาเชื่อมแล้วมองจนริมฝีปากแดงแตะลงริมฝีปากผม  จูบนุ่มนวลเนิ่นนานก่อนจะถอนความต้องการออกช้า ๆ ตระกองกอดแล้วกดหน้าลงกับหน้าอกผม  ความเหนื่อยจากกิจกรรมทางกายส่งให้ผมหลับสนิทบนโซฟา  หน้าอกมีโก๋ซบฟังเสียงหัวใจ  ฝ่ามือผมก็มีมือเย็นของโก๋เกาะกุม  รู้สึกตัวตื่นเมื่อแผ่นหลังสัมผัสเตียงนุ่มในห้องนอนโก๋

“นอนไปก่อนนะ  เดี่ยวโก๋เช็ดตัวให้”  ลืมตามามองก่อนจะยิ้มบางตอบโก๋  หลับตาให้โก๋ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตามเนื้อตัวให้  ก่อนจะกอดตอบอ้อมกอดอ่อนโยนของโก๋

กอดตอบ..คนรัก








และหลับสนิทที่สุดในรอบปี..


END.

บวก ๆ กอด ๆ ค่าาาา
ร่างกายสะบักสะบอมมากค่ะกีฬาปีนี้  จิไม่ได้แก่นะคะ  แต่มัน..มันทำไมมันย่ำแย่ขนาดนี้ก็ไม่รู้อ่าาา TT
 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
คู่นี้ต้องให้คำนิยามว่า 'โก๋-ต้อม เปลือกทุเรียนสื่อรัก' เลยนะคะเนี่ย :laugh: ถ้าไม่เป็นเพราะพลังลมปราณของทุเรียนในวันนั้น ทั้งสองคนก็คงจะไม่ได้ลงเอยกันเสียทีหรอกเน้อ~ ><

ส่วนบุคลิกของโก๋นอกเวลา ตึงๆ ตึง  ตึ่ง ตะลึง ตึงๆ กับต้อมเนี่ยน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินค่ะ~ เพราะเดี๋ยวก็ซบ เดี๋ยวก็ออดก็อ้อน จนต้อมที่เคยใจแข็งดั่งหินผา(?) ต้องอ่อนลงยวบยาบอย่างกับขี้ผึ้งถูกไฟลนเลยเชียว :-[ น่าหยิกขนาดนี้ใครทนได้ก็ทนไป แต่ต้อมบอกเลยค่ะว่า 'ต้อมจะไม่ทน~' :laugh3:

ใช่หรือเปล่าคะต้อม~ >.<

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
คุณโก๋ดูอ่อนโยน น่ารักกับน้องต้อมมากๆๆ :katai2-1:

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อืม โก๋ ก็มีมุมขี้อ้อนน่ารักเหมือนกันนะเนี่ย ..... ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
น้องโก๋อ่อนโยนมากเลย  :o8:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เป็นตอนพิเศษของคู่นี้ค่ะ 
คุณหนูมะเขือเทศ : พี่หนุ่ม  น้องต๋อง
 



แสงแดดแรกของเช้าวันเสาร์ส่องกระทบกระจกหน้าต่าง  ลืมตาตื่นแล้วลุกขึ้นนั่ง  เหม่อมองสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียง  ’จิ๊บ ๆ’นอกหน้าต่างแล้วยิ้มบางกับภาพที่เห็น  นกตัวเล็ก ๆ บินจากกิ่งไม้หนึ่งไปอีกกิ่งอย่างมีความสุข  เปิดหน้าต่างรับไอเย็นจากฝนทิ้งความชื้นไว้ตั้งแต่เมื่อคืนเข้าเต็มปอด  ยิ้มให้ทุกสิ่งบนโลกแล้วหมุนตัวไปทางห้องน้ำ  เดินเข้าไปจัดการล้างหน้าแปรงฟัน  อาบน้ำ  ส่องดูสิวที่คางแล้วยกยิ้มกับหน้ากระจก

“หายแล้ว”  เดินออกมาแต่งตัวแล้วลงมาข้างล่าง  ดิ่งเข้าครัวหยิบกล่องแซนด์วิชที่ทำกับแม่ในครัวเมื่อเย็นวานออกมาเวฟ  ระหว่างรอก็เดินย้อนกลับไปตักข้าวกิน  ยืนหมุนตัวไปมาในครัวแล้วหยิบกล่องลายหมีพูห์ออกมาวางคู่กับกล่องใสธรรมดา  ถ้าให้เลือกผมก็ตัดสินใจได้ทันทีว่า..ต้องน้องพูห์!  แต่ถ้าใส่ไปแล้ว  พี่หนุ่มอาจจะขำที่ผมเป็นแฟนคลับวอลล์ดิสนีก็ได้  ถอนหายใจแล้วหยิบกล่องหมีพูห์ออกมา..เก็บเข้าตู้  ใช้กล่องใสแทน..

ก็ผมอายนี่!

จัดแซนด์วิชลงกล่องแล้วเดินไปเปิดเอาน้ำเก๊กฮวยกับเต้าหู้นมสดมาใส่กระเป๋าเก็บความเย็นให้เรียบร้อย  เสียงรถยนต์แล่นเข้าบ้านทำให้ผมต้องวิ่งไปชะโงกหน้าดูตรงหน้าต่าง  พี่หนุ่มลงจากรถมาไหว้แม่ผมที่ยืนรดน้ำต้นไม้อยู่หน้าบ้าน  รีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำในครัวส่องกระจก  หมุนซ้ายขวาแล้วรีบเทแป้งใส่ฝ่ามือ  ถูมือเกลี่ยแป้งในมือจนเหลือแป้งติดนิดเดียว  มองกระจกใหม่แล้วผัดเข้าไปที่หน้า  ส่องดูว่ามันเนียนทั่วกันแล้วรีบเดินออกมาหยิบกล่องกับกระเป๋ามื้อกลางวันไปหาพี่หนุ่ม

“พี่หนุ่มหวัดดี..”  ส่งเสียงทักทายพี่หนุ่มที่นั่งรอผมตรงโซฟา  แม่หันมาทำตาดุใส่ผมแล้วหันกลับไปยิ้มให้พี่หนุ่ม

“ทำใจนะหนุ่ม  น้องมันไม่รู้จักโตซะที  แทนที่จะวางของก่อนแล้วค่อยไหว้  ดันไหว้ทั้งที่ของอยู่เต็มมือ”  พี่หนุ่มที่ลุกมาช่วยรับของจากมือผมไปถือยิ้มบางให้แม่  ‘ไม่เป็นไรครับ’  มองพี่หนุ่มที่ตอบแม่เคลิ้ม  ตาคมกริบ  จมูกโด่ง  ปากบางคลี่ยิ้มอ่อนโยน  พี่หนุ่มก้มมามองผมแล้วยิ้มกว้าง  ยิ้มเขิน ๆ ตอบแล้วเสไปหยิบแว่นมาสวม..แก้เขิน

“เย็นผมจะแวะเข้าตลาดก่อนมาส่งน้องที่บ้านครับ  แม่จะให้ผมซื้ออะไรเข้ามาทำกับข้าวมื้อเย็นครับ”  แม่ยิ้มแล้วส่ายหน้าตอบ  ผมเลยบอกพี่หนุ่มว่าเดี๋ยวพ่อมารับแม่ไปธุระด้วยกัน  กลับดึก ๆ เย็นเราต้องหาอะไรกินกันเอง  พี่หนุ่มพยักหน้ารับรู้แล้วหันไปขอตัวพาผมออกไปข้างนอก  แม่ยิ้มอนุญาตแล้วให้ผมเข้าไปหยิบร่มคันใหญ่ติดรถไปด้วย 

วันนี้ผมกับพี่หนุ่มจะไปดูประกวดพรรณไม้ที่สวนสาธารณะใหญ่ประจำจังหวัดครับ  ในงานมีร้านมาขายต้นไม้เยอะแยะ  แล้วเราก็ตั้งใจจะไปนั่งกินข้าวเที่ยงกันที่นั่นด้วย  ขึ้นรถเสร็จพี่หนุ่มก็ขับพาไปที่สวน  มือใหญ่เลื่อนมาจับมือไปกุม  เบือนหน้าไปมองทิวทัศน์ข้างทาง  ปล่อยให้มือขวาตัวเองอยู่ในมืออุ่นไปจนถึงสวน  พี่หนุ่มหิ้วกระเป๋าใสเก๊กฮวยกับเต้าหู้นมสด  ผมหอบกล่องแซนด์วิชไว้กับอก  ล้วงกระเป๋าหยิบกล้องถ่ายรูปมาสะพายไหล่    ยืนรอพี่หนุ่มที่เดินไปหยิบเสื่อจากท้ายรถ    ยิ้มให้มืออุ่นที่แตะแขนให้เดินเข้างานไปพร้อมกัน  พี่หนุ่มรวบของทั้งหมดเดินไปฝากไว้ที่จุดรับฝากของ  เราซื้อตั๋วหน้าทางเข้างานแล้วเดินชมความสวยของกล้วยไม้โซนแรกที่อวดความงามจนผมกับพี่หนุ่มเก็บภาพกันจนเพลิน  ได้กล้วยไม้สกุลช้างมา  3  ต้น  ไม่แพงด้วยครับ  เดินดูกล้วยไม้เพลินจนเกือบเที่ยง  พี่หนุ่มก็บอกให้กินข้าวก่อนค่อยดูโซนที่เหลือ

เดินย้อนกลับออกมาแล้วให้พนักงานปั๊มตราที่แขนไว้เผื่อเราจะกลับเข้าไปดูอีกรอบ  จะได้ไม่ต้องเสียเงินอีก  เลือกมุมที่ห่างคนอื่นหน่อยแล้วปูเสื่อ  นั่งลงบนเสื่อแล้วหยิบกล่องแซนด์วิชมาวาง  เปิดฝากล่องแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาคม

“ต๋องทำแซนด์วิชมา..กินให้หมดด้วย”  พี่หนุ่มยิ้มบางแล้วพยักหน้า  หยิบชิ้นแรกส่งให้แล้วนั่งจ้องคนตาคมที่กินตุ้ย ๆ  อมยิ้มเมื่อพี่หนุ่มยื่นมือมาขอชิ้นที่  2  เรานั่งกินกันจนหมดกล่อง   พี่หนุ่ม  5  ผม  2  ตามด้วยเต้าหู้นมสดคนละ  2  ถ้วย  ตบท้ายด้วยน้ำเก๊กฮวย  นั่งลูบท้องตัวเองแล้วหันมองซ้ายขวา  คนอื่นที่นั่งอยู่ใกล้สุดตอนนี้หายกันไปหมดแล้ว  สะดุ้งสุดตัวกับน้ำหนักที่หน้าตักตัวเอง   พี่หนุ่มล้มตัวนอนหนุนตักแล้วทิ้งแขนลงข้างตัว  กะพริบตาปริบมองตาคมที่จ้องหน้าผม  เบือนไปมองสระกว้างด้านข้างแล้วยกมือขึ้นกอดอก

“กินแล้วนอนไม่ดีนะครับ..เดี๋ยวกรดไหลย้อนนะ”  พึมพำบอกคนที่นอนหนุนตักเบา ๆ  หัวใจย้ายไปเต้นที่ตักเสียงดังโครมครามจนกลัวว่าคนตาคมอาจจะได้ยิน  มืออุ่นดึงแขนที่กอดอกของผมออก   แล้วคว้ามือผมมาแนบแก้ม  หัวใจย้ายไปเต้นที่มือทันที  หน้าร้อนผ่าวลามไปถึงคอ  ขืนมือไว้แต่ก็ก็สู้แรงคนนอนตักไม่ได้   ปล่อยให้มือตัวเองสัมผัสแก้มสากจนกว่าคนนอนหนุนตักจะยอมตื่น  แอบเหลือบมองมือตัวองที่แตะแก้มสากแล้ว..เบือนหน้าซ่อนยิ้ม  เขินก็เขิน  แต่จะดึงออกตอนนี้ก็เสียดาย   เบือนไปมองมือตัวเองที่ถูกมือใหญ่กระชับแน่นขึ้น  คนหลับยิ้มกว้างทั้งที่ยังหลับตานิ่ง 

ผมรู้สึกว่าเลือดสูบฉีดไปเลี้ยงหน้าผมแรงขึ้น  ความร้อนลุกลามจากหน้าไปถึงมือข้างที่พี่หนุ่มกุมอยู่อย่างห้ามไม่ได้  เสหยิบแว่นสายตาออกมาสวมแล้วนั่งนิ่งเป็นหุ่น  เบือนหน้าไปมองเป็ด  3-4  ตัวที่เล่นน้ำในสระแทน  พี่หนุ่มนอนรับลมเย็นพักใหญ่ก็ลืมตาตื่น  ลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องหน้าด้านข้างของผมนิ่ง  ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าพี่หนุ่มทำหน้ายังไง..ยิ้มอยู่แน่ ๆ ครับ  ขยับแว่นแล้วรีบหันกลับมาเก็บของ  ก้มหน้าก้มตาเก็บทุกอย่างมายัดใส่ตักพี่หนุ่ม  ลุกพรวดพราดแล้วเดินนำลิ่วไปที่รถ  พี่หนุ่มวิ่งตามมาแล้วเก็บของใส่รถ  ยืนพิงรถรอไม่ถึง  5  นาที  พี่หนุ่มก็เดินมาแตะแขนให้ไปเดินดูต้นไม้กันต่อ  ก้มหน้าก้มตาขยับแว่นแก้เขินจนไปถึงโซนไม้ประดับ  พี่หนุ่มดึงมือให้ดูกุหลาบในร้านแรก  โห..สวยมากครับ  สีแดงเข้ม  กลีบอิ่ม  ใบเขียวจัดแล้วก็ลื่นมือมาก  หันไปมองหน้าพี่หนุ่มแล้วรีบบอกให้ซื้อไปปลูกที่สวนหน้าบ้านทันที   พี่หนุ่มหิ้วต้นกุหลาบเดินตามผมที่วิ่งเข้าร้านโน้น  ถ่ายรูปร้านนี้  แบบไม่ปริปากบ่นสักคำ  แถมยิ้มกว้างส่งให้ตลอดเวลาด้วยครับ  กว่าจะรู้ตัวว่าหายจากการเขินก็คือซื้อแก้วมังกรในโซนสุดท้ายมาเรียบร้อยแล้ว  วันนี้ประทับใจมากเลยครับ  ได้เห็นต้นไม้แปลก ๆ เยอะแยะเลย  แล้วที่สำคัญนะ..ผมได้หม้อข้าวหม้อแกงลิงมิแรนด้ามา  3  ต้นครับ  มันมีถุงดักแมลงใหญ่มากอ่ะ   เห็นแล้วฮาดีก็เลยซื้อไว้ 

“เร็วมากเลย  นี่  5  โมงเย็นแล้วอ่ะ  พี่หนุ่มแวะตลาดซื้อกับข้าวถุงไปกินกันนะครับ  แล้วก็แวะเอาหม้อข้าวหม้อแกงลิงไปฝากฟ่งด้วย”  ขับถึงตลาดก็  5  โมงครึ่ง  พี่หนุ่มหยิบต้นไม้ของผมแล้วถือไปให้ไอ้ฟ่งที่เขียงหมู  ยืนโม้กันนิดหน่อยก็ออกมาซื้อกับข้าวถุง  ได้แกงเขียวหวานกับลาบหมูมาอย่างละถุง  ผมเดินย้อนมาสั่งยำที่ร้านประจำแล้วชวนพี่หนุ่มไปหาไอ้โก๋ที่แผงผลไม้  ตั้งแต่หนุ่มแผงตรงข้ามยอมคบด้วย  มันก็ไม่เคยอยู่ที่แผงตัวเองเลยสักครั้งครับ

อุดหนุนชมพู่กับลิ้นจี่ที่ร้านแฟนมันเสร็จก็เดินย้อนกลับมารับยำที่สั่งไว้  ขึ้นรถกลับมาถึงบ้านผม  6  โมงครึ่ง  พี่หนุ่มช่วยขนของลงจากรถ  ผมยืนจัดการอุ่นกับข้าวที่ซื้อมา  ส่วนพี่หนุ่มเดินไปปลูกกุหลาบที่ซื้อมาเมื่อกลางวันที่สวนหน้าบ้านผม  อุ่นกับข้าว  ล้างชมพู่แล้วเข้าตู้เย็นเสร็จก็ถือน้ำออกไปให้คนสวนกิน

“พี่ลงทั้งหมดเลยนะครับ  ฝากรดน้ำให้ด้วย”  ยิ้มกว้างแล้วพยักหน้ารับคำ  นั่งรับลมเป็นเพื่อนพี่หนุ่มจนเหงื่อพี่หนุ่มแห้งก็เข้าบ้าน  เดินไปเปิดไฟในบ้านแล้วชวนพี่หนุ่มเข้าไปกินข้าวในครัว  กินอิ่มก็เดินออกไปนั่งย่อยหลังบ้าน  หย่อนก้นนั่งที่ชิงช้าหลังบ้าน  พี่หนุ่มก็มายืนข้างหลังแล้วไกวชิงช้าให้ 

“ที่โรงเรียนเป็นไงบ้างครับ  พี่จำได้ว่าเดือนหน้าจะมีกีฬาสี..”  พยักหน้ารับแล้วเล่าให้ฟังว่าผมเล่นบาสให้สีตัวเอง  ต้องตั้งใจเล่นเพราะจบกีฬาสีแล้ว  โค้ชทีมโรงเรียนจะบอกชื่อนักกีฬาเด่น ๆ แต่ละสีที่เล่นเข้าตา  แล้วคัดเข้าทีมบาสโรงเรียนไว้แทนที่รุ่นพี่ที่จะจบไป

“ต๋องอยากเป็นตัวจริงอ่ะพี่หนุ่ม  อยากเล่นกับทีมจากที่อื่น”  หันไปบอกพี่หนุ่มที่ยืนไกวอยู่ข้างหลัง  พี่หนุ่มยิ้มโชว์ฟันขาวผ่านความมืดมาให้  ผมอยากเล่นกับทีมจากโรงเรียนเอกชนที่โรงเรียนเราแพ้ให้เมื่อครั้งที่แล้วครับ  ทีมนี้มันเก่งยกทีม  เล่นเข้าขาแล้วก็เก่งทุกตัวเลย   สาวแท้สาวเทียมโรงเรียนผมพลิกลิ้นไปเชียร์ทีมตรงข้ามกันหมด  นักบาสโรงเรียนผมเสียความรู้สึกกันน่าดู  ผมด้วยครับ.. 

“เข้าบ้านกันครับต๋อง  ดึกแล้ว”  พี่หนุ่มจับชิงช้าให้หยุดแล้วก้มกระซิบชวนเข้าบ้าน  แก้มสัมผัสกับลมหายใจอุ่นที่เป่ารดเบา ๆ   เด้งตัวลุกทันทีแล้วเดินลิ่วเข้าบ้านไม่รอพี่หนุ่ม  พ้นประตูก็ยกมือขึ้นลูบแถมแก้มที่ยังอุ่นอยู่..

“มือไวไม่พอ..ยังจมูกไวอีก”  พึมพำบ่นเบา ๆ แล้วบังคับหัวใจตัวเองไม่ให้เต้นแรงเมื่อพี่หนุ่มเดินตามเข้ามาในบ้าน  มืออุ่นคว้าแขนผมแล้วออกแรงดึงนิดเดียว..ผมก็หมุนตัวมาเผชิญกับตาคมคู่นั้น  ดวงตาสวยจ้องมองประกายในตาผมก่อนจะไล่สายตาไปมองทุกส่วนบนใบหน้าผมช้า ๆ  ระเรื่อยจนถึง..ริมฝีปาก  มืออุ่นเลื่อนจากเอวผมมาหยิบแว่นสายตาแล้วถอดออกช้า ๆ ก่อนจะวางไว้ที่โต๊ะวางโทรศัพท์บ้าน  กลั้นหายใจเมื่อดวงตาคู่นั้นเคลื่อนเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ  ถ้าผมไม่เบี่ยงหลบตอนนี้..ต้องถูกจูบแน่  จูบจากริมฝีปากบาง  อุ่น  นุ่มของคนตรงหน้า..ที่เคยสัมผัสมาแล้ว  ในหัวมีภาพตัวเองถูกฉกจูบเมื่อ  2  อาทิตย์ก่อน  ตามมาด้วยภาพอีกภาพที่เพิ่งจะเกิดไปเมื่อวันก่อนโผล่เข้ามาซ้อน  ความร้อนจากอากาศนอกบ้านส่งผลกระทบกับร่างกายผมที่ตกอยู่ในอ้อมแขนพี่หนุ่มโดยตรง  แก้มร้อนผ่าวลามไปถึงใบหู  ในขณะที่ภาพผมถูกจูบลอยเข้ามาให้เคลิ้มตาม  ก็มีอีกเสียงของตัวเองกำลังตะโกนเตือนว่า  ถึงจะเคยถูกจูบมาแล้ว  มันก็ไม่จำเป็นต้องยอมอีกนี่!  กะพริบตาปริบจนขนตาไล้กับปลายจมูกพี่หนุ่ม  ลมหายใจร้อนกำลังแย่งอากาศผมหายใจ   ก้มหน้าลงหนีริมฝีปากที่กำลังจะทาบทับลงมา

“.......”  ไม่มีบทสนทนาใดนอกจากการกอดแน่นขึ้นของพี่หนุ่ม  หลับตาปี๋เมื่อริมฝีปากของตัวเองถูกเนื้อนุ่มอุ่นสัมผัสบางเบา  เบี่ยงหน้าหนีก็ถูกผิวเนื้ออุ่นนั้นตามมาแตะไล้ที่ริมฝีปากล่าง  ริมฝีปากนุ่มของพี่หนุ่มจูบชิมเนื้อริมฝีปากผมเหมือนเอาขนนกมาไล้เล่น  อ่อนโยน  นุ่มนวล..จนต้องปล่อยให้ลมหายใจของตัวเองผสานไปกับคนตรงหน้า  ขยำเสื้อแน่นเมื่อรับรู้ถึงปลายลิ้นที่แตะเลียริมฝีปากตัวเอง  พี่หนุ่มประคองหน้าผมให้เงยรับจูบที่ลึกล้ำมากกว่าเดิม  ปลายลิ้นร้อนฉกเข้ามาดูดรัดปลายลิ้นผมจนหายใจหอบถี่แย่งอากาศหายใจเข้าปอดให้มมากที่สุด  หัวใจเต้นโครมคราม  เลือดที่สูบฉีดเลี้ยงใบหน้าทำงานอย่างหนัก  พี่หนุ่มกอดผมแน่นขึ้น  ริมฝีปากอุ่นขบเม้มริมฝีปากผม  ปลายลิ้นตวัดรัดเกี่ยวจนในหัวขาวโพลน 

ก้าวขาตามแรงนำไปปิดไฟห้องนั่งเล่น  ลืมตามองก็เห็นแต่ความมืด  มีเพียงแสงไฟจากหลอดนีออนนอกรั้วบ้านที่ส่องสว่าง  ครางต่ำกับปลายลิ้นร้อนที่ดึงเอาปลายลิ้นผมเข้าไปดูดชิมในอานาจักรของตัวเอง   พี่หนุ่มอุ้มผมขึ้นทั้งที่ริมฝีปากเรายังสัมผัสกันอยู่  ผมได้แต่หอบหายใจกับ..กอดคอแน่นขึ้นเท่านั้น 

แผ่นหลังเปลือยเปล่าของตัวเองแตะกับที่นอนนุ่ม  ไม่รู้ว่าตัวเองถูกถอดเสื้อไปตอนไหน  รู้แต่ว่า..ริมฝีปากผมไม่ห่างจากพี่หนุ่มเลยแม้เสี้ยววินาที  คนตาคมผละจากริมฝีปากผม  ระจูบเรื่อยลงมาแตะที่ปลายคาง  ซอกคอ  ขบเม้มที่หน้าอก  เลียลิ้นหนักที่ยอดอกจนผมต้องแอ่นตัวตามปลายลิ้น  สองมือที่กอดคอเลื่อนมือมาขยำผมหนาของพี่หนุ่มตามแรงอารมณ์  หอบหนักกับปลายลิ้นที่ลากต่ำแถวสะดือ  เกร็งตัวรับมืออุ่นที่ขยำก้นผมอย่างคนมันเขี้ยว 

“อึ๊..อย่าบีบสิ”  พี่หนุ่มยันตัวขึ้นมาจูบปิดเสียงประท้วงของผม  ครางอืออากับริมฝีปากบาง  บิดเร่ากับฝ่ามืออุ่นที่ลูบความแข็งขืนของตัวเองผ่านกางเกงใน  หลับตาแน่นเมื่อพี่หนุ่มควักน้องชายที่โผล่หัวพ้นขอบกางเกงในให้ออกมารับอากาศภายนอก  สะดุ้งสุดตัวเมื่อส่วนหัวรับความอุ่นร้อนจากโพรงปากแทนที่จะเป็นฝ่ามือ  ปลายลิ้นฉกตวัดเลียเส้นประสาทพร้อมกับขยับโยกขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ  เด้งเอวสวนความอุ่นของโพรงปาก..

“อย่าเกร็งนะต๋อง..”  ลืมตามองพี่หนุ่มที่ถอนริมฝีปากออกมาบอกว่าอย่าเกร็ง  ไม่ทันได้ถามว่าไม่ให้เกร็งเรื่องอะไร..ผมก็หัวหมุนติ้วอีกครั้ง  ชันเข่ายกสะโพกรับริมฝีปากที่เร่งจังหวะ  อ้าปากรับอากาศเมื่อนิ้วของพี่หนุ่มป้วนเปี้ยนแถวช่องทางด้านหลังของผม  หอบถี่รับนิ้วที่ดันเข้ามาทีละนิด  ความต้องการของตัวเองกลับเริ่มหดลงเพราะความเจ็บที่ช่องทางได้รับ  กัดฟันรับนิ้วพี่หนุ่มที่ดันเข้ามาจนสุด  พี่หนุ่มหยุดดันนิ้วเข้ามาแล้วหันมาใช้ปากกับความต้องการของผมอีกครั้ง  อึกอัดกับข้างหลัง  แต่ข้างหน้าที่ถูกปลุกเร้าเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองเหมือนเดิม  พอผมเพลินกับริมฝีปากที่ปรนเปรอข้างหน้า  พี่นุ่มก็เริ่มดันนิ้วเพิ่มเข้ามาอีก  จาก  1  เป็น  2  จาก  2  เป็น  ...3  ข้างหลังผมคับแน่นตึงไปหมด  แต่ข้างหน้าก็อยากได้รับการปลดปล่อยเต็มที  น้ำเหนียวหล่อลื่นของตัวเองไหลออกมาจนพี่หนุ่มรับรู้

“พี่รักต๋องนะ..รักต๋องคนเดียว”  หายใจรวยรินก่อนจะลืมตามองตาพี่หนุ่ม  ยิ้มบางแล้วประคองหน้าพี่หนุ่มขึ้นมาจูบ..ส่งผ่านความรู้สึกของผม  พี่หนุ่มจูบอ่อนโยนตอบก่อนจะค่อย ๆ ถอนนิ้วที่คาอยู่ข้างหลังออกช้า ๆ โล่งได้ไม่ถึง  3  วินาทีก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อต้องรับความใหญ่ของพี่หนุ่ม  ถดก้นหนีพี่หนุ่มก็ดันตาม  กัดฟันกรอดจับหน้าพี่หนุ่มบดจูบดึงความสนใจจากช่องทางที่กำลังถูกขยายจนเหมือนจะฉีก  มือพี่หนุ่มข้างหนึ่งสอดนิ้วเข้ามาในปากผมแล้วกวาดน้ำลายไปบดคลึงยอดอกผม  มืออีกข้างจับความต้องการของผมมาบีบนวดเบา ๆ   ปลายลิ้นดูดดุนกลืนกินความหวานจากโพรงปากผม  สะโพกดันเข้ามาทีละน้อย..จนความยาวของพี่หนุ่มเข้ามาจนสุดลำ 

“อือ..แน่น”  มันแน่นมันจุกจนผมต้องเอ่ยปากบอก  พี่หนุ่มหอบถี่แล้วแหงนหน้าขึ้นพร้อมกับสะโพกที่ดันเข้ามาให้ลึกกว่าเดิม  ข้างในมันเสียวแปลบปลาบเมื่อความยาวของพี่หนุ่มกระแทกเข้ามาโดนอะไรสักอย่างในตัวผม  แอ่นรับความยาวของพี่หนุ่มแล้วครางต่ำออกมาไม่รู้ตัว  พี่หนุ่มจับขาผมดันขึ้นจนเข่าชิดคางตัวเอง   ดึงท่อนร้อนออกจนเกือบหลุดแล้วกระแทกใส่เข้ามาจนผมร้องเสียงหลง 

“อ๊า!  อึก..อือออ”  พี่หนุ่มโน้มตัวลงมาประกบปากปิดเสียงร้องของผม  บั้นเอวทำงานเป็นจังหวะมั่นคง   ขยับสะโพกรับความความยาวนั้นจนร่างกายจะทนไม่ไหว  ข้างในผมตอดรัดท่อนร้อนจนพี่หนุ่มต้องหยุด  จับพลิกหันหลังแล้วดันเข้ามาใหม่ช้า ๆ  รับความรู้สึกจนความยาวเข้ามาจนสุด  ผมกอดหมอนแน่นแล้วซุกหน้ากลั้นเสียงครางของตัวเอง  มืออุ่นของพี่หนุ่มเลื่อนมาจับความต้องการของผมรูดรั้งรับกับจังหวะการกระแทกจากด้านหลัง  แยกขาออกกว้างขึ้นเมื่อความยาวของพี่หนุ่มกดถูกความต้องการภายในตัวผม  แหงนหน้าครางต่ำก่อนจะบอกเมื่อผมกำลังจะถึงสวรค์

“ไม่ไหว..ไป..จะไปแล้ว  อ๊ะ!”  พี่หนุ่มดันเข้ามาจนสุดแล้วกดเน้น ๆ  2 -3  ครั้งผมก็ปลดปล่อยน้ำรักใส่มือหนา  ขาทรุดฮวบแปะกับน่องตัวเอง  ปล่อยให้พี่หนุ่มกระแทกเข้ามาข้างในจนตัวกระตุก  จังหวะสุดท้ายพี่หนุ่มถอนออกแล้วจับผมนอนหงาย  ก้มจูบปากผมแล้วรูดรังความยาวรัวเร็ว..ปลดปล่อยใส่ฝ่ามือที่มีน้ำรักของผมเปรอะอยู่ก่อน  พี่หนุ่มหยุดจูบผมแต่ยังคงแตะริมฝีปากไว้ที่ปากผมนิ่ง  มือยังคงรูดรั้งน้ำรักออก  ผมค่อย ๆ ขยับริมฝีปากจูบริมฝีปากนุ่มเบา ๆ  แตะปลายลิ้นเลียริมฝีปากนุ่มจนพี่หนุ่มปรับลมหายใจเป็นปกติ  ดวงตาคมมองตาผมแล้วจูบตอบ   มืออุ่นดึงมือผมไปจับท่อนร้อนที่กำลังผงาดง้ำอีกครั้ง   หายใจถี่เมื่อพี่หนุ่มจับมือผมกำแท่งร้อนขยับรูดเชื่องช้า  มือหนาอีกข้างป้ายน้ำรักของเราลงลูบช่องทางร้อนของผม  ชันเข่ารับความแข็งขืนที่กำลังจดจ่ออยู่ตรงทางเข้า  ดื่มด่ำกับความสุขจนเสร็จสมอีกครั้ง  นอนบนอกหนาฟังเสียงหัวใจเต้นเร็วของพี่หนุ่ม  หลับตารับจูบที่หน้าผาก  ปลายจมูก  และที่ริมฝีปากเบา ๆ กอดคอแน่นเมื่อพี่หนุ่มอุ้มไปล้างตัวในห้องน้ำ  เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วกินยาแก้อักเสบและยาแก้ไข้  หลับใหลในอ้อมกอดอุ่น

ผมไม่รู้ว่าต่อไป..ผมกับพี่หนุ่มจะคบกัน  หรือจะเป็นแฟนกันจนถึงเมื่อไหร่..

ผมไม่เชื่อเรื่องรักกันตลอดไป  ผมไม่ศรัทธากับคำว่า  ‘นิรันดร์’

แต่ผมเชื่อและรับรู้อย่างเดียวครับ..

“พี่รักต๋อง”  ...









..เท่านี้ก็เพียงพอกับรักของเราแล้วครับ..




END.

กอดดดดค่าาาา บวกๆด้วยยยยย
จิก็งานเยอะเหมือนเคยค่ะ  ชินเสียแล้ว(ถอนหายใจ)
ตอนนี้พี่หนุ่มลืมให้น้องกินข้าวเย็นก่อนนะจ๊ะ  ต๋องแอบถึก5555
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
แอร๊ย >.< น้องต๋องน่าร๊ากกกก แถมยังเป็นสาวกหมีพูห์เสียด้วยน้าา น่าเอ็นดูเสียจริงเลยเชียว~ ส่วนพี่หนุ่มก็หวานกับน้องต๋องมากๆ เลยเน้อ~ >\\\\\\\\\\< ที่สำคัญยังทำอะไรกันก็ไม่รู้ด้วยน่ะค่ะ ว๊ายๆ เราใสๆ ค่ะ ไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ นะคะเนี่ย :hao7: ..

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
แหม่ พี่หนุ่มนี่เร็วเชียวนะ น้องไม่เคยยังเบิ้ลอีก  :m25:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักดีครับ พี่หนุ่มกับต๋อง ..... ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4

ออฟไลน์ nekko

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +422/-4
น่ารักเสมอคู่นี้ :-[

 :กอด1: :L2: :pig4:

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
เป็นตอนพิเศษของคู่นี้ค่ะ 
กระป๋องเบียร์  รอยรัก  และฝ่ามืออุ่น : อ้น  ต๋อม
 



หยิบไม้กวาดกวาดเศษผงและเปลือกถั่วลิสงคั่วที่ปลิวอยู่ตามพื้นให้สะอาด  หาวหวอดกับการทำความสะอาดบ้านผิดเวลา  วันนี้แม่กับขาไพ่เลิกเร็วกว่าทุกวัน  นั่นเพราะเหล่าขาไพ่ต้องพาลูกไปเที่ยว  ปีหนึ่งก็พาไปเที่ยวแล้วก็ทำกิจกรรมกับลูกสักหนหนึ่ง..วันนี้วันเด็กครับ  แม่ผมขึ้นห้องไปอาบน้ำนอนแล้ว  แต่ก่อนจะนอนแม่ก็สั่งให้ผมเก็บกวาดบ้านให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปนอกบ้าน

“เก็บกวาดเสร็จก็ไปอาบน้ำแต่งตัวรอพี่เค้านะต๋อม  อย่าให้พี่อ้นเค้ามารอ  แล้วอย่าลืมหยิบเงินในลิ้นชักติดตัวไปด้วย  อย่าให้พี่เค้าออกฝ่ายเดียว..กลับบ้านก็อย่าดึกนัก”  ผมได้แต่พยักหน้ารับคำแล้วจับไม้กวาดมากวาดพื้นต่อ 

อย่างที่ได้ยิน..

วันนี้วันเด็ก  คนมีแฟนเด็กก็คงอยากพาแฟนไปเที่ยวบ้าง  ผมไม่รู้ว่าพี่อ้นจะพาไปไหน  ตั้งแต่คบเป็นแฟนกันวันนั้น  เราก็แทบไม่ได้ออกไปเที่ยวที่ไหนด้วยกันเลย  พี่อ้นเรียนหนักขึ้น  ผมเองก็มีเตรียมสอบโอเน็ต  เอเน็ต  แกทแพทอีกเยอะไปหมด  เจอกันส่วนมากก็บ้านไอ้วัฒน์  บ้านพี่อ้น  หรือไม่ก็บ้านผม  เกือบได้ไปดูหนังด้วยกัน  แต่ผมก็เป็นฝ่ายผิดนัดพี่อ้นเพราะที่บ้านผมต้องการเด็กดูต้นทางที่ไว้ใจได้ นั่นก็คือ..ผม

ผ่อนลมหายใจทิ้งยาว ๆ แล้วรีบเอาไม้กวาดไปเก็บที่  ขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินลงมาเปิดลิ้นชักหยิบแบงค์สีเทาติดตัวไป  2  ใบ  ใส่กระเป๋าเงินเรียบร้อยก็ล้วงมือถือออกมาดูเวลา  ใกล้เวลาที่พี่อ้นบอกแล้ว  เดินออกไปชะเง้อคอหน้าบ้านแล้วรีบเดินเข้ามาปิดหน้าต่าง  วิ่งขึ้นไปเคาะประตูบอกแม่ว่ากำลังจะไปแล้ว  แม่ส่งเสียงอือออตอบผมก็เดินลงมานั่งที่โซฟารอพี่อ้น  มองนาฬิกาสลับชะเง้อมองหน้าบ้านไปด้วย  เลยเวลานัดมาเกือบ  20  นาทีแล้ว  ผมผุดลุกผุดนั่งไม่รู้กี่รอบ  เดินออกมาหน้าบ้าน  เดินวนไปวนมาที่สนามหน้าบ้านตัวเอง  พยายามข่มใจตัวเองไม่ให้โทรหาพี่อ้น  บางทีพี่อ้นอาจจะมีธุระด่วนอะไรก็ได้  ผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ แล้วหันมองรั้วบ้านที่มีแต่ความว่างเปล่า

เม้มปากแล้วหันกลับเข้าบ้าน  ดึงประตูปิดช้า ๆ พร้อมความกังวลที่กำลังแล่นริ้วเข้ามาในจิตใจ  เพราะผมกับพี่อ้นต่างคนต่างเรียนหนักทั้งคู่  เวลาที่เคยใช้ด้วยกันช่วงเสาร์-อาทิตย์มันก็เริ่มจะลดลง  ผมรู้ว่าเรียนแพทย์มันยาก  แล้วยิ่งตอนนี้พี่อ้นปี  4  ขึ้นปี  5  ยิ่งหนักกว่าเดิม  เพราะต้องเรียนแล้วก็ต้องฝึกงานกับผู้ป่วยจริงด้วย  หนักไปกว่านั้น  ผมเองก็เตรียมสอบนั่นนี่โน่นเยอะแยะ  ผมไม่ใช่คนหัวดีที่จะคาดหวังกับคณะดี ๆ แล้วเอาคะแนนไปแลกมาได้ง่ายดายเหมือนคนอื่น  และที่สำคัญ..ผมเป็นคนพูดไม่เก่ง  โดยเฉพาะกับพี่อ้น  ผมพูดไม่เก่งเลยสักนิด 

เรา..เริ่มจะห่างกันออกไปทีละน้อย  ถูกเวลาและความยุ่งกับภาระหน้าที่สับขาหลอกให้ห่างกันไปเรื่อย ๆ โดยที่เราทำไม่สนใจกับระยะห่างนั้น  ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอก  ว่าในระยะหลังมานี้เราคุยกันน้อยลง  เจอกันนับครั้งได้  เวลาคุยโทรศัพท์ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร  ได้แต่เงียบรอให้พี่อ้นเปิดปากชวนคุย  เพราะแบบนั้น..พี่อ้นถึงได้อยากออกไปเที่ยวที่ไหนกัน  2  คนบ้าง 

การผิดเวลาของพี่อ้นทำให้ผมปล่อยความฟุ้งซ่านเข้ามาวุ่นวายในสมอง  พี่อ้นหล่อ  พี่อ้นนิสัยดี  มีครบทุกอย่างจนเพอร์เฟค  แน่นอน..คนที่อยากได้พี่อ้นต้องไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว  ที่มหา’ลัย  ในคณะ  นอกคณะ  เพื่อนของเพื่อน  และใครอีกหลายคนที่ผมไม่รู้จัก  พยายามวิ่งเข้าหาพี่อ้น  ผมพยายามไม่ใส่ใจ  แต่ก็ไม่วายมีมาเข้าหูให้ต้องระแวงอยู่บ่อยครั้ง  ผมเชื่อใจพี่อ้นเหมือนที่พี่อ้นให้เกียรติผมเสมอ  แต่ตอนนี้..ณ  เวลาที่ผมห่างกับพี่อ้น  ในเวลาที่พี่อ้น..ลืมนัดผม 

พี่อ้นมีใครที่พี่อ้นต้องใช้เวลาด้วยหรือเปล่า?
 
กลืนก้อนความเครียดที่กำลังจะเข้ามาทับถมหัวใจแล้วหยิบมือถือกดหาพี่อ้น  ผมไม่ควรเอาแต่คิดในสิ่งที่มันอาจจะเป็นไปไม่ได้  หรือถ้ามันเป็นไปแล้ว  ผมก็ควรจะรับรู้และยอมรับมันด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง  ไม่ใช่คิดมากฟุ้งซ่านไปคนเดียวเหมือนที่เคยทำอยู่ประจำ 

เม้มปากแน่นกับเสียงสัญญาณที่บอกผมว่าให้ติดต่อกลับมาใหม่  พอกดโทรอีกครั้ง..สายไม่ว่าง  กลืนน้ำลายลงคอแล้วทิ้งระยะไว้พักหนึ่งก่อนจะกดอีกครั้ง  พี่อ้นปิดเครื่อง..หัวใจเต้นถี่  หายใจแรงข่มความน้อยใจที่กำลังจะท้นออกมาทางตา  เกิดอะไรขึ้นกับนัดที่พี่อ้นเป็นคนเอ่ยปากนัดเอง  ทำไม..ถึงติดต่อไม่ได้?  พี่อ้น..ผมไม่รู้..ไม่รู้อะไรเลย  กลั้นก้อนสะอื้นที่มารวมอยู่ที่คอหอย  กะพริบตาถี่กดน้ำตาที่รื้นจนกระบอกตาร้อนไปหมด  อ้าปากรับลมเข้าปอด  เงยหน้ามองนาฬิกาก่อนจะกัดฟันแน่ข่มไม่ให้น้ำตาไหลออกมาจริง ๆ

เลยเวลามา  1  ชั่วโมงกับอีก  5  นาที

ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ   ริมฝีปากสั่นจนควบคุมไม่ได้  หน้าชาไปหมด  ปล่อยมือถือตกข้างตัวแล้วเอนหลังพิงโซฟาช้า ๆ กะพริบตาถี่พอ ๆ กับอัตราการเต้นของหัวใจ  ก้อนสะอื้นที่กลืนลงไปเมื่อครู่กำลังตีขึ้นมา..ผมปล่อยให้มันออกมาจนได้

“อึก..ฮึก”  แต่น้ำตาที่รื้นยังไม่ทันร่วง  เสียงรถยนต์ก็แล่นมาจอดหน้าบ้านพอดี  ข่มแรงสะอื้นที่ไหลออกมาไม่หยุดแล้วยกมือลูบหน้าแรง ๆ  เบือนมองมือถือที่สั่นแล้วกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ  คิ้วขมวดมุ่นก่อนจะกดรับเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย..

“น้องต๋อมนี่พี่วุฒินะครับ  มือถือไอ้อ้นเงินหมดน่ะ  พี่กำลังจะไปหามันพอดีเลยอาสาแวะรับต๋อมมาด้วยกันเลย  พี่จอดหน้าบ้านแล้วนะ”  เงินหมด..แล้วต้องปิดเครื่อง?  แล้ว..ทำไมไม่มารับผมเอง?  ผม..น้อยใจเกินกว่าจะเดินออกไปขึ้นรถพี่วุฒิที่อุตส่าห์มารับผมแทนพี่อ้น  แต่คนนอกอย่างพี่วุฒิที่มีน้ำใจแวะมารับผมไปให้พี่อ้นจะรู้สึกยังไงถ้าผมไม่ยอมมาด้วย  ตบหน้าตัวเองแรง ๆ 2-3  ทีแล้วลุกขึ้นยืน  ก้าวเท้าเดินออกจากบ้านขึ้นรถไปกับพี่วุฒิ ยกมือไหว้แล้วคาดเบลท์

“ช่วงนี้พี่เรียนหนักกันน่ะต๋อม  ไอ้อ้นมันก็เหนื่อย  ไหนจะเข้าหวอด  ไหนจะเรียนอีก  พวกเพื่อนพี่บางคนถึงกับน็อคไปนอนให้น้ำเกลือเลยก็มี555”  ยิ้มแห้ง ๆ แล้วเบือนออกไปมองข้างทาง  พี่วุฒิขับพาผมมาที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำของจังหวัดใกล้ ๆ  ห่างจากบ้านผมแค่ครึ่งชั่วโมงเองครับ  ที่นี่ทำสวนสัตว์ด้วย  แต่มีสัตว์ไม่กี่อย่างถ้าเทียบกับสวนสัตว์ใหญ่ ๆ  ลงจากรถก็ลงมายืนข้างพี่วุฒิที่กำลังโทรหาพี่อ้น

“เออ  ถึงแล้ว    เออเดี๋ยวกูพาเข้าไปเอง”  ความน้อยใจพุ่งเสียบกลางอก  หายใจเข้าไม่ถึงปอดทันทีที่ได้ยินพี่วุฒิบอกว่าจะพาผมเข้าไปหาเอง พี่วุฒิหันมามองผมด้วยสีหน้า..สงสาร  ‘เดี๋ยวอ้นมันตามมาทีหลังครับ  เราเข้าไปข้างในกันก่อนดีกว่า  เพื่อนพี่กับไอ้วัฒน์มันรออยู่ข้างในกันน่ะต๋อม’  ยิ้มบางตอบพี่วุฒิแล้วก้มหน้ากัดฟันไม่ให้ปากสั่น  เม้มปากกัดเนื้อริมฝีปากล่างจนเจ็บ  กลืนก้อนสะอื้นที่กำลังจะมา  รีบเงยหน้ามายิ้มให้พี่วุฒิแล้วเดินตามไปห่าง ๆ  รีบเดินเข้าไปซื้อบัตรเองก็ถูกมือพี่วุฒิจับไว้ไม่ให้ออกตังค์เอง  ดึงมือแล้วเบี่ยงตัวออกไปยืนรอข้าง ๆ กวาดตามองผู้ใหญ่ที่พาเด็ก ๆ มาเที่ยววันเด็ก  ทุกคนมีความสุข  มีรอยยิ้มกันหมด..

ผม..ก็ควรจะเป็นอย่างนั้นด้วย  ไม่ใช่เหรอ?

ก้มหน้าลงมองพื้นคอนกรีต  ในอกมันหนักอึ้งเหมือนมีหินก้อนใหญ่ยัดอยู่ข้างใน  ผมไม่รู้ว่าทำไมพี่อ้นถึงเลือกให้คนอื่นมารับและพาผมเดินเที่ยว  ผมไม่รู้..ว่าทำไม  เพราะอะไร..  ก้าวตามไม่กี่ก้าวผมก็หยุดเดิน  ถ้าพี่อ้นจะไม่มา  ก็ไม่ควรรบกวนเวลาของคนอื่นให้ต้องมาเสียเปล่าเพราะผมไปด้วยแบบนี้  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วล้วงมือถือกดโทรหาพี่อ้น  คราวนี้สายว่างแล้ว  รอไม่นานปลายสายก็กดรับ

“น้องต๋อมนี่พี่พงษ์นะครับ  พี่กับพี่อ้นกำลังไปครับ  รออยู่กับพี่วุฒิก่อนนะครับ  สวัสดีครับ”  ผมรู้สึกแย่ที่พี่อ้นไม่รับเอง  แต่พอได้ยินว่ากำลังมา  ผมก็ลืมความรู้สึกแย่เมื่อครู่ทันที  ลดมือถือลง  หย่อนไว้ก้นกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปหาพี่วุฒิที่ยืนรออยู่  เดินตามผู้คนมากมายที่มาเที่ยวเข้าไปเรื่อย ๆ จนถึงจุดที่มีรถรางวิ่งชมรอบ ๆ  ไอ้วัฒน์โบกมือผมก็ยิ้มทักมันกลับ  ยืนตัวลีบกับบรรยากาศของคู่รักรอบกาย

ทุกคนมากับแฟน..ยกเว้น..ผม

พี่วุฒิเดินเข้าไปหาพี่โบว์  ผมเลยยืนเก้อ ๆ อยู่คนเดียว  ไอ้วัฒน์ขยับเข้ามากอดคอแล้วพาเดินไปรอคิวขึ้นรถราง  ขืนตัวไว้เผื่อพี่อ้นมาถึงตอนอยู่บนรถราง  ผมไม่อยากให้พี่อ้นมายืนรอเหมือนที่ผมรอ  ผมรู้..ว่ามันเป็นยังไง  ยิ้มบางส่งให้คนอื่นที่ทยอยขึ้นรถราง  ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ แล้วหมุนตัวมองหาที่นั่ง  เดินออกมาแถวทางเข้าที่เพิ่งจะเดินเข้ามาแล้วยืนพิงเสาป้ายแผนผัง  คนเยอะจนไม่มีที่จะให้นั่ง  อย่าว่าแต่จะนั่ง  ผมยืนยังแทบไม่มีพื้นที่ให้ยืน  เบือนหน้าไม่สบตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา  ล้วงหยิบมือถืออกมากด ๆ แล้วดีดหลังเดินไปอยู่อีกมุมเลี่ยงการเปิดโอกาสให้คนที่กำลังจะเดินเข้ามาหา  เลิกคิ้วมองหน้าจอที่สว่างวาบ  กดรับโทรศัพท์ไอ้วัฒน์ที่โทรเข้ามา

“อยู่ตรงทางเข้า..เหรอ?  อืม”  บอกมันว่าผมยืนอยู่ตรงทางเข้า  มันรีบบอกให้มาที่จุดขึ้นรถราง  พี่อ้นกับพี่พงษ์มาแล้ว  ผม..ไม่รู้สิ  ผมรู้สึกว่าวันนี้ไม่ใช่วันของผมกับพี่อ้น  เรา..คลาดกันตลอด  ยิ้มบางกับมือถือ  เพื่อนโทรมาบอกว่าแฟนอยู่ที่ไหน  แฟน..ไม่เคยสนใจว่าผมจะอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้  มันเป็นสัญญาณอะไรหรือเปล่า?  ผมได้แต่ยกยิ้มมุมปากแล้วพยายามทำใจให้สบาย 

ในเมื่อผมได้พี่อ้นมาเพราะร่างกาย  ไม่ใช่เพราะความรัก  มันก็ไม่แปลก..ถ้าพี่อ้นจะเลิกรัก  เมื่อร่างกายผมมันไม่มีอะไรให้พี่อ้นอยากค้นหาอีกแล้ว

เดินไหลไปตามคนจนถึงที่ขึ้นรถราง  ผมไม่รู้ว่าถ้าคนไม่เยอะจนต้องเดินเบียดกันไปแบบนี้..ผมจะมีแรงเดินเองไปจนถึงหรือเปล่า?  กวาดตามองหาพี่อ้น  สายตาผมหยุดที่ผู้ชายตัวสูง  หน้าหล่อ  จมูกโด่ง  ตาสวยแบบที่ใครเห็นก็ต้องมองเหลียวหลัง  พี่อ้นยืนกับพี่พงษ์  ข้าง ๆ พี่อ้นมีผู้หญิงยืนกดมือถือเล่นอยู่  คำถามวิ่งเข้ามาในหัวไม่ยอมหยุด..ใคร?  ใจผมมันถูกความไม่เชื่อใจกัดกร่อนจนเหลือไม่ถึงครึ่งดวงด้วยซ้ำ  เบือนหน้าหนีเมื่อผู้หญิงคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองพี่อ้น  ขาผมมันก้าวไม่ออกไปเสียดื้อ ๆ

“ต๋อม!  ทางนี้ครับ”  แค่นยิ้มให้พี่พงษ์ที่อุตส่าห์เห็นผม  พี่อ้นหันมามองแล้วยืดตัวขึ้น  มือที่ล้วงกระเป๋ากางเกงดึงออกมาปล่อยข้างตัว  ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า..สายตาพี่อ้นมันไม่มีโฟกัสที่ผมเหมือนเมื่อก่อน  ตาสวยคู่นั้นมองไปทุกที่..ที่ไม่ใช่ผม  ฝืนเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วยกมือไหว้พี่พงษ์กับพี่อ้น

“มาถึงนานแล้วเหรอต๋อม  โทษที  พวกพี่มีรายงานที่ไม่ค่อยเข้าตาอาจารย์น่ะ  เลยอยู่ช่วยกันนานไปหน่อย”  ผมพยักหน้าเข้าใจ  อดเหลือบมองพี่อ้นที่ยืนเงียบไม่ได้  ตาคู่นั้นสบตาผมนิดเดียวก่อนจะหันมองเพื่อนผู้หญิงที่มาด้วยกัน  เสียงพี่พงษ์แนะนำให้รู้จัก 

“ต๋อม  นี่พี่ไหม  ไหมนี่น้องต๋อม”  ผมได้แต่ยิ้มบางส่งให้พี่ไหม  พี่ไหมหน้าตาน่ารัก  ตัวเล็ก ๆ น่ารักน่ากอด  มีลักยิ้มด้วย  พี่ไหมยิ้มตอบแล้วเอ่ยปากชวนนั่งรถราง  ผมเงยหน้ามองพี่อ้นที่พยักหน้ารับแล้วเลยไปมองหารถราง  ผม..เจ็บจี๊ด ๆ ในอก  ก้มหน้าผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ แล้วคิดเข้าข้างพี่อ้น  พี่อ้นอาจจะไม่ได้บอกเพื่อนทุกคนว่าผมเป็นแฟน  คงกลัวจะถูกมองเป็นตัวประหลาดเลยไม่ค่อยคุยกับผม  กะพริบตาถี่ไล่ความน้อยใจแล้วขยับตัวถอยออกมายืนข้างพี่พงษ์  ยิ้มสดใสส่งให้พี่ ๆ แล้วเบือนหน้าหนีไปมองรอบตัว

รถรางเที่ยวที่พี่วุฒิกับคนอื่นวิ่งเข้ามาเทียบ  คนลงจากรถพี่พงษ์ก็หันมาพยักหน้าชวนผมขึ้นไปด้วยกัน  พี่อ้นไม่ได้พูดอะไรแต่เดินขึ้นไปนั่งก่อนใครเพื่อน  ผมก้าวตามก็โดนพี่ไหมเบียดขึ้นไปก่อน  พี่ไหมขึ้นไปแล้วนั่งลงข้าง ๆ พี่อ้น  แปล๊บในอกเมื่อเห็นพี่อ้นขยับที่ให้พี่ไหมนั่งชิดอีกนิด  ขาก้าวไม่ออก  มัน..อะไร?

“ต๋อม  ขึ้นเลยครับ”  พี่พงษ์บอกแล้วเดินขึ้นรถราง  กัดฟันแน่น  นิ่วหน้ากับท่าทางสบาย ๆ ของพี่อ้นที่มองข้างทาง  ฝืนผ่อนลมหายใจแล้วก้มหน้าก้มตาขึ้นรถ  เลือกจะนั่งข้างพี่พงษ์ที่กันที่ว่างให้ผมนั่งด้วยกัน  ในอกอัดแน่นด้วยความน้อยใจ  ในหัวมีแต่ความไม่เข้าใจอยู่เต็มไปหมด  มือกำแน่น  หน้าก้มต่ำมองได้แต่เส้นเลือดที่ปูดโปนที่หลังมือตัวเอง  เสียงมัคคุเทศก์แนะนำสถานที่รถเคลื่อนผ่าน  พี่พงษ์สะกิดให้ดูกวางแม่กับลูกที่อยู่ข้างทาง  ผมเงยหน้ามองตามแล้วฝืนยิ้ม  มองเลยไปที่พี่อ้น  มือใหญ่กอดอกไว้ข้าง  อีกข้างพาดไว้ที่ขอบหน้าต่าง  ตาสวยมองไปทั่ว  ริมฝีปากคลี่ยิ้มเมื่อเห็นยีราฟคอยาวหมุนตัวมาทางตัวเอง

“ไหมดูดิ  มาทางนี้แล้ว555”  เสียงทุ้มหัวเราะอารมณ์ดี  ถ้าเป็นเมื่อ  2-3  อาทิตย์ก่อน  ผมคงจะหัวเราะตาม  แต่ตอนนี้  เสียงสดใสของพี่อ้น  คง..ไม่ได้มีให้ผมคนเดียว..อีกแล้ว   สูดลมหายใจเข้าลึก  ๆ  เบือนไปมองอีกฟาก  เพ่งมองฝูงสัตว์ที่อยู่ไกล ๆ พยายามกดลมหายใจเข้าไปเลี้ยงปอด  ไม่ให้ลมหายใจตัวเองกลายเป็น..เสียงสะอื้น

สะกดสายตาตัวเองให้มองแต่วิวทิวทัศน์  คนข้าง ๆ ขยับตัวเพราะรถใกล้จะถึงจุดรับส่งคนแล้ว  สูดลมหายใจเข้าปอดอีกครั้งแล้วลุกขึ้นเดินตามคนอื่นลงไปจากรถ  คราวนี้ผมเลือกจะไม่มองหาพี่อ้น  ไม่อยากเห็น..อะไรอีกแล้ว  ลงไปก็ก้มหน้ายืนอยู่ข้างหลังพี่พงษ์  เสียงพี่ ๆ คุยกันว่าจะไปดูโชว์จระเข้ต่อ  ก้มหน้าก้มตาเดินตามพี่พงษ์ไปเรื่อย ๆ  ตาไม่รักดีดันเหลือบเห็นส้นรองเท้าที่คุ้นเคย  พี่อ้นเดินอยู่เยื้อง ๆ กับพี่พงษ์  เม้มปากล่างแล้วไล่สายตามองขึ้นไปจนถึงท้ายทอยพี่อ้น 

ใจหายวูบกับสายตาที่มองตรงไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว  ริมฝีปากสีแดงธรรมชาติเอ่ยปากคุยกับเพื่อน  ยิ้ม  หัวเราะ  ดูมีความสุข..จนผมอดรู้สึกหวั่นในอกไม่ไหว  หลุบตามองปลายเท้าที่เดินตามคนอื่น  ถ้าเป็นตอนที่ผมยังแอบรักพี่อ้นข้างเดียว  ผมคงเก็บรอยยิ้มที่พี่อ้นยิ้มกับคนอื่นไปนอนฝัน  แต่ผมผ่านจุดนั้นมาแล้ว   ผมได้รักของพี่อ้น  และได้รับรอยยิ้มที่มีให้ผมคนเดียวมาแล้ว..จะให้ผมวนกลับมายืนจุดที่เคยยืน  แล้วสามารถทำใจให้ปลดปลง  ยิ้มและรับได้อย่างหน้าชื่นตาบาน 

ผม..ไม่ได้เก่งขนาดนั้น

ถ้าไม่เห็นว่าตรงนี้มีผมมีตัวตนอยู่ตรงนี้ด้วย  หายไปเลย..คงจะดีกว่า  กัดริมฝีปากล่างจนเจ็บแล้วถอยหลังออกมาให้ห่าง  พี่พงษ์หันหลังมาเห็นพอดี  ผมแค่นยิ้มแล้วบอกให้พี่ ๆ ไปกันได้เลย  ผมปวดห้องน้ำ  ขอไปห้องน้ำก่อน

“ไปเถอะครับ  ผมปวดท้อง  ขอไปห้องน้ำก่อน”  น้ำเสียงที่ผมพูดวันนี้มันเหมือนคนป่วย  เสียงมันเบาโหวง  ไร้น้ำหนัก  ผม..ไม่เหลือความมั่นใจอะไรอีกแล้ว  ก้มหน้าเดินหนีออกมา   ใจมันชาหนึบจนไม่รู้จะบอกยังไง  คนโง่ที่สุดมันดูยังรู้เลย  ว่าพี่อ้นไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมแล้ว  ปวดในอกลามมาถึงกระบอกตา  นิ่วหน้ากับความเจ็บที่กำลังลามไปทั่วร่างกาย  เรียนหนักผมก็เข้าใจ  เหนื่อยกับงานผมก็เข้าใจ  แล้วกับท่าทางที่ดูออกง่าย ๆ แบบนั้น..ทำไมผมจะไม่เข้าใจ

อ้าปากรับอากาศให้เข้ามาไล่ก้อนสะอื้น  สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ พยายามกลืนมันลงไป  แต่..หัวใจผมมันกำลังเจ็บ  และความเจ็บที่ผมกำลังเผชิญ  มันมากพอจะส่งให้สมองและร่างกายยอมแพ้  สาวเท้าเร็วขึ้นเดินไปตามป้ายทางออก  ในอกจุกจนเจ็บไปหมด  กัดริมฝีปากล่างแน่นกลั้นสะอื้น  ตาพร่ามองแทบไม่เห็นทาง  ยิ่งเห็นคนที่เดินจูงมือกันมายิ่งทำให้ผม..ทวีความเจ็บเพราะแผลในอกมันปริฉีกมากยิ่งขึ้น

ปล่อยก้อนสะอื้นที่ดันอยู่ตรงคอหอยออกมา  ผมสะอื้นฮักไม่กี่ที  กระบอกตาร้อนผ่าวก็กลั่นน้ำตาผมให้ไหลพราก..ไม่อายใคร  เม้มปากแน่นกลั้นสะอื้นก้อนโตที่จ่ออยู่ตรงคอหอย  ยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวก ๆ เพราะมองไม่เห็นทาง  ขาก้าวฉับเดินออกประตูทางออก  ตรงดิ่งไปที่คิวรถตู้  ข้อมือถูกรั้งจากด้านหลัง  ร่างกายตอบสนองอัตโนมัติ  ผมสะบัดทิ้งไม่หันไปมอง  เจ้าของแรงดึงข้อมือวิ่งดักข้างหน้าแล้วจับไหล่ผมให้หยุดเดิน  ลมหายใจขาดห้วงสบตาสวยที่วันนี้ทั้งวันไม่เคยมีผมสะท้อนอยู่  ริมฝีปากสั่นจนต้องกัดฟันกรอด  เขม้นมองหน้าหล่อที่ซีดเผือดของพี่อ้น  น้ำตาผมยังคงหลั่งไหลออกมาไม่หยุด

“ต๋อม..”  เสียงทุ้มครางชื่อผมเสียงแผ่ว  น้ำเสียง..เสียใจที่เห็นว่าผมกำลัง..ร้องไห้  เบือนหน้าหนีแล้วแค่นยิ้มขื่น

“พี่ไม่ต้องทำแบบนี้กับผม  แค่บอกว่าตรงนี้ของพี่ไม่มีผมแล้ว  แค่บอกกันดี ๆ ผมก็เข้าใจ!..”  ตบหน้าอกตัวเองแรง ๆ แล้วกลั้นสะอื้น  ตั้งใจจะพูดต่อว่า..ไม่ต้องขอเลิกผมก็พร้อมจะถอยให้  อย่าทำเย็นชาแบบนี้กับผม  ตั้งใจจะพูดแล้ว  แต่ความเสียใจที่มากขึ้นมันปิดการสื่อสารผมไปหมด  ได้แต่ปล่อยเสียงสะอื้นกับน้ำตาพรั่งพรูออกมาแทนคำพูด..เพียงอย่างเดียว

.
.
.

ออฟไลน์ jira

  • ปัญญาไม่ค่อยมี หน้าตาดีไปวันๆ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 890
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1324/-3
“อึก  ฮึก..ฮึก..ฮึก..”  ดึงมือตัวเองออกมาจากฝ่ามือเย็นเฉียบของพี่อ้น  ยกขึ้นมาทั้ง  2  ข้าง  กดข้อมือด้านในปิดทางไหลของน้ำตาเอาไว้  พี่อ้นกัดกรามดังกรอดแล้วดึงผมเข้ามากอดไว้จนขยับไม่ได้  เสียงพี่อ้นหันไปตวาดเพื่อนดังลั่นที่จอดรถ

“กูไม่เล่นแล้ว   พวกมึงเห็นมั้ยว่าน้องร้องไห้!  กูยอมแพ้  กูทำส่งเอง  รายงานเหี้ยอะไรก็ช่าง!”  สะอื้นหนักกับแรงกอดที่เพิ่มขึ้น  มือเย็นลูบแขนผมแรง ๆ ปลอบไม่ให้ผมเสียใจเบี่ยงหนีพี่อ้นก็ตามกอดไม่ยอมปล่อย  พี่อ้นกอดแล้วพาผมเดินมาที่รถ  สะอื้นกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล  ขืนตัวหนีแล้วหันไปที่คิวรถตู้  พี่อ้นกอดไว้ทั้งตัว  เสียงทุ้มกระซิบขอโทษข้างหู

“พี่อ้นขอโทษ  พี่อ้นอธิบายได้ครับ  ขอพี่อ้นพูดก่อน..อย่าหันหลังให้พี่อ้นนะครับ  ต๋อม..พี่อ้นขอโทษ”  เสียงทุ่มกระซิบข้างหูขอโทษไม่หยุด  ริมฝีปากนุ่มจูบใบหูพร่ำขอให้ผมฟังก่อน  เจ็บใจ..ที่ผมไม่เคยปฏิเสธคำขอของพี่อ้นได้เลยสักครั้ง  หลับตาปล่อยหยาดหยดของความเสียใจให้รินหลั่ง  คลายแรงขืนตัวแล้วเดินแรงกอดตามพี่อ้นไปที่รถ  ประตูหลังถูกดึงเปิด  มือเย็นแตะส่งผมให้เข้าไปนั่งข้างใน  ผมขยับหนีมานั่งชิดประตูอีกฝั่ง  พี่อ้นขยับเข้ามานั่งจนชิดก่อนจะสอดแขนใต้เข่ายกผมให้นั่งตัก  ดิ้นจนหัวโขกพี่อ้นไปหลายครั้งพี่อ้นก็ยังกอดไว้แน่น  ดันไหล่หนาไม่ให้ริมฝีปากสีแดงธรรมชาติที่เคยได้จูบประทับรอยที่แก้ม  หอบหนักแล้วหยุดดิ้น  พี่อ้นมองตาผมไม่กะพริบก่อนจะบอกผมเสียงเบา

“เมื่อวานซืนพี่ต้องทำรายงานกลุ่มส่งอาจารย์  พี่ก็แบ่งงานให้เพื่อนรีบทำให้เสร็จเพราะวันนี้พี่อยากเที่ยวกับต๋อม  ไม่อยากให้เราต้องห่างกันมากกว่าเดิม  เพื่อนมันแซวว่าห่างกันนานขนาดนี้ต๋อมไม่เปลี่ยนใจไปแล้วเหรอ?  พี่ไม่พอใจเลยตัดรำคาญว่าต๋อมรักพี่  ไม่มีทางเปลี่ยนใจง่าย ๆ หรอก  ไม่ว่ายังไงต๋อมก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจไม่รักพี่”  สะอื้นฮักแล้วเบือนหน้าหนีดวงตาที่กำลังตัดพ้อตรงหน้า  พี่อ้นกอดผมแน่นขึ้นแล้วซุกหน้ากับซอกคอผม

“มันท้าพี่พนันกัน   ถ้าเจอต๋อมวันนี้ให้พี่ทำเฉย ๆ ใส่แล้วให้ไอ้ไหมมายืนกันให้  พี่จะได้ไม่กล้าทำผิดข้อตกลงแอบส่งสายตาให้ต๋อม  ถ้าต๋อมอยู่จนครบวันพวกมันจะทำกันเองไม่ให้พี่แตะเลย  แต่ถ้าวันนี้ต๋อมอยู่ไม่ครบวันเพราะทนไม่ไหว..พี่ต้องทำคนเดียว”  กัดเนื้อในริมฝีปากเมื่อพี่อ้นพูดจบ  กลั้นหายใจกับมืออุ่นที่เลื่อนจากกอดขึ้นมาประคองหน้า  ขืนไว้ก็สู้แรงจากฝ่ามือไม่ไหว  เบือนไปมองเบาะรถ  ปล่อยให้ปลายจมูกรับลมอุ่นของพี่อ้น  เม้มปากกับความรู้สึกที่กำลังถูกจ้อง  ทนไม่ไหวก็เบือนมามองหน้าพี่อ้นที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง  สบตาสวยของพี่อ้นที่มีน้ำตารื้นอยู่  ไล่สายตาลงมามองริมฝีปากที่กระซิบบอกผมถึงเรื่องราวต่อจากนั้น   

“พี่มั่นใจ..ถึงได้รับพนัน  แต่พี่ไม่ได้คิดเผื่อว่า..ถ้าต๋อมไม่รัก  ต๋อมไม่เชื่อใจขึ้นมาจริง ๆ พี่จะทำยังไง”  นิ่วหน้ากับหยาดน้ำสีใสที่ร่วงผล็อยจากตาสวยของพี่อ้น  ใจผมมันหล่นตามน้ำตาของพี่อ้นไปติด ๆ ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาพี่อ้นให้ป้อย ๆ  พี่อ้นหลับตาปล่อยให้น้ำตาไหลเหมือนที่ผมทำ  ลนลานดึงพี่อ้นเข้ามากอด..

“ไม่ร้องนะ..ไม่ร้อง  หยะ..อย่าร้องนะ  ฮึก..ผมรักพี่  ห้ามคิดว่าผมไม่รัก  อึก..ไม่ให้คิดนะ”  พี่อ้นกอดผมแน่นขึ้นร้องไห้ไม่มีเสียงกับไหล่ผม  ผมเอง..ก็ปล่อยโฮกอดพี่อ้นแน่นเหมือนกัน  นี่เป็นครั้งแรกที่เราทะเลาะกัน  เป็นครั้งแรกที่ผมขึ้นเสียงใส่  และเดินหนีโดยไม่ถามอะไรก่อน  ตัดสินใจทุกอย่างด้วยสายตาและความรู้สึกของตัวเองฝ่ายเดียว  พี่อ้นลูบหลังผมเบา ๆ  ดันไหล่ผมออกมาเกลี่ยปลายนิ้วเช็ดคราบน้ำตาให้  สะอื้นฮักแล้วยกมือขึ้นลูบแก้มพี่อ้น  ปลายจมูกโด่งสูดน้ำมูกแล้วยื่นหน้าผากมาแตะกับหน้าผากผม  ตาสวยหลับลงก่อนจะกระซิบขอโทษ

“พี่ขอโทษครับ  พี่มั่นใจมากถึงได้ทำอะไรแบบนั้น  พี่ขอโทษที่ไม่คิดถึงต๋อม..ว่าจะรู้สึกยังไง  ไม่ทันเอาใจต๋อมมาใส่ใจตัวเอง  ขอโทษที่ไม่รอบคอบกว่านี้  ขอโทษที่เอาความรู้สึกต๋อมมาพนันงี่เง่าแบบนั้น  พี่อ้นขอโทษครับ”  ส่ายหน้าอาปลายจมูกเกลี่ยปลายจมูกโด่งของพี่อ้นเบา ๆ

“...ไม่เป็นไร..  ผมก็ขอโทษ  ขอโทษที่ขึ้นเสียง  ขอโทษที่ไม่เชื่อใจพี่อ้น  แต่ผมทนไม่ได้จริง ๆ..พี่อ้นไม่เคยเป็นแบบนี้  ไม่เคยเมินขนาดนี้  ไม่เคย..สนใจคนอื่นมากกว่าผมแบบนี้..ฮึก..”  พอนึกถึงความเฉยที่เพิ่งเคยเจอ  บ่อน้ำตาผมก็ทำท่าจะแตกขึ้นมาอีกรอบ  ร้อนถึงพี่อ้นต้องรีบกดริมฝีปากจูบที่เปลือกตาไม่ให้ผมร้อง  กลั้นสะอื้นแล้วซุกหน้าโผเข้ากอดคอพี่อ้น  กดหน้าลงกับไหล่แล้วนิ่งฟังเสียงทุ้ม..

“ให้วันนี้เป็นบทเรียนของเรานะครับ  พี่กับต๋อมต้องคุยกันมากกว่านี้  เชื่อใจ  มั่นใจกันมากว่านี้  เราเริ่มกันได้ไม่ดีนัก..ถึงทำให้ต๋อมไม่มั่นใจกับรักที่พี่มีให้  แต่ตั้งแต่วินาทีนี้..”  พี่อ้นดันไหล่ผมออกมาแล้วประคองหน้าให้สบตาพี่อ้น

“ขอให้มั่นใจว่าพี่รักต๋อมคนเดียว  มีต๋อมคนเดียว  ข้างในนี้จะมีต๋อมคนเดียวตลอดเวลา..ขอให้ต๋อมเชื่อว่าพี่มั่นคงกับต๋อมเสมอ..”  เม้มปากล่างแน่นแล้วพยักหน้ารับคำนั้นมาใส่ใจทันที  ‘ครับ..ครับ’  ปล่อยให้ริมฝีปากสวยพรมจูบทั่วหน้า  ลืมตาขึ้นสบแล้วหลับลงอีกครั้ง  ริมฝีปากเผยอรับรอยจูบที่ประทับลงมาผะแผ่ว  จูบตอบแผ่วเบา  กอดคอแน่นซึมซับความอ่อนโยนที่ผมเป็นเจ้าของคนเดียว

สะดุ้งกับเสียงเคาะกระจกข้างนอก  ซุกหน้ากับไหล่พี่อ้น..ไม่หันไปมองว่าใครเคาะ  พี่อ้นหอมขมับผมแล้วขยับตัวดันประตูเปิดออกนิดหนึ่ง

“มีไร?!”  เสียงพี่อ้นถามคนที่เคาะ  เพื่อนพี่อ้นบอกเสียงหงอย..

“อ้น..พวกกูขอโทษ  น้องต๋อม..พี่ขอโทษนะครับ  รายงานของพี่อ้นเดี๋ยวพวกพี่ทำกันเองครับ  พี่ขอโทษจริง ๆ ครับน้องต๋อม”  ผละออกมาแล้วหันมองพี่วุฒิกับพี่พงษ์นิดหน่อย  ก่อนจะหันกลับไปซบหน้าลงกับไหล่พี่อ้นเหมือนเดิม  ผมไม่รู้ว่าจะยกโทษยังไง อารมณ์ผมตอนนี้ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับคนพวกนี้  พี่อ้นปิดประตูแล้วก้มหอมแก้มผมอีกฟอดใหญ่  เรามองตากันนิ่งก่อนจะสัมผัสริมฝีปากกันเบา ๆ  ผละออกให้พี่อ้นขยับตัวไปออกนั่งที่คนขับ  ผมเองก็คลานไปนั่งข้างหน้า  ขับออกมาไม่นานพี่อ้นก็พาผมมานั่งกินข้าวเย็นที่ร้านหรูแถวนั้น  กินข้าวเสร็จก็ขับกลับบ้านมาส่งผมที่บ้าน

พี่อ้นมีเข้าหวอดเลยอยู่กับผมไม่ได้  ยิ้มแล้วกอดพี่อ้นไว้หลวม ๆ  เงยหน้ารับริมฝีปากที่แตะลงมาที่แก้ม  เอียงหนาตามการดุนดันของปลายจมูกโด่ง  แตะหน้าผากแนบก่อนจะผละออกมาสบตาสวย  ยิ้มบางแล้วประคองหน้าพี่อ้นไว้..

“ผมจะเชื่อและมั่นใจกับรักเราให้มากกว่านี้  จะพูด..จะกล้าถามให้มากกว่านี้  ผมขอโทษที่ขึ้นเสียง  ขอโทษที่ตัดสินใจเองคนเดียว  ขอโทษครับ”  พี่อ้นยิ้มบางแล้วก้มจูบริมฝีปากผมเบา ๆ ..สวมกอดเบามือ  หลับตารับความอ่อนโยนและความอุ่นที่มันกำลังแทรกลงมาในใจ  พี่อ้นดันผมออกมาหอมอีกฟอดก่อนจะขึ้นรถขับไปเข้าหวอดที่โรงพยาบาลพร้อมเพื่อนคนอื่น ๆ     

ผมกับพี่อ้นเรายังต้องเรียนรู้  และต้องอาศัยความเชื่อใจกันให้มากกว่านี้  ด้วยเวลาที่ไม่มีให้กันเหมือนคู่อื่น  และสังคมที่กว้างขึ้น  เราต้องสร้างความมั่นใจและก่อความเชื่อใจให้แข็งแรงกว่านี้

อาศัยแค่ระยะเวลาอย่างเดียวมันไม่พอหรอก  มันต้องใช้หัวใจเรา  2  คนด้วย  แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน  คือ  คนรอบข้างของเราทั้งคู่..







เอาใจช่วยให้ผมกับพี่อ้นรักกันไปนาน ๆ ด้วยนะครับ.


END.


……………………….


แถม
.
.
เด็กหนุ่มรูปร่างสูง  หน้าหล่อคมก้าวฉับขึ้นไปตามทางเดินของโรงพยาบาล  เสียงพื้นรองเท้ากระทบกับกระเบื้องดังก้อง  เรียกความสนใจให้เพื่อนที่ร่วมเข้าหวอดต้องชะโงกหน้าออกมามอง  โผล่หัวสบตาดุดันแล้วรีบผลุบกลับเข้ามาข้างใน  เสียงรองเท้าหยุดหน้าห้องก่อนประตูเปิดพาร่างกายสมส่วนตามเข้ามาในห้อง

มือใหญ่ของคนที่เพิ่งเข้ามาฟาดลงบนศีรษะเพื่อนร่วมหวอดดัง  ‘เพี๊ยะ’  รายตัวจนครับทุกคน  จะเว้นไว้ก็เพื่อนผู้หญิงที่ไม่ได้รับเสียงนั้นบนหัว  แต่ได้รับการมองด้วยหางตาให้รู้สึกผิดในอกแทน  ทุกคนในห้องเงียบกริบ  ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจเท่านั้น  ตบหัวเรียงตัวแล้วก็รู้สึกดีขึ้น  อ้นเปิดปากพูดเป็นคำแรกหลังจากอารมณ์ที่คุกรุ่นถูกระบายออกด้วยแรงที่ได้ตบหัวเพื่อน

“กูอยากกระทืบพวกมึงซะด้วยซ้ำ  ดีที่น้องไม่โกรธกูจนต้องเลิกกัน  อย่ายุแล้วอย่าท้ากูแบบนี้อีก!  คราวนี้กูมั่นใจว่าน้องไม่มีทางโกรธกูเพราะเรารักกันมาก  กูเลยรับพนันกับพวกมึง  กูพลาดที่ไม่ทันคิดเผื่อไปถึงเรื่องที่เกิดเหมือนเมื่อกลางวัน  ..ถ้ากูง้อน้องไม่ได้..พวกมึงก็อย่าหวังจะมีความสุข!  เล่นอะไรเหี้ย ๆ”  เพื่อนก้มหน้าก้มตาสำนึกผิด 

อ้นถอนหายใจยาวแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้อง  เพื่อนถึงได้เดินตามออกมาเป็นกลุ่ม..

เสียงบ่นพึมพำดังตามหลังอ้นเป็นหมีกินผึ้ง..




“คราวหน้ากูก็ยุอีก  น้องมันน่าแกล้ง  ใช่มั้ยไอ้พงษ์  ไอ้ไหม  ฮึฮึ”



END.


Fanfic  By คุณ  jiki


บ่ายสามยามสงบของวันหยุดยาว ปีใหม่นี้ผมไม่ได้ไปเที่ยวไหนหรอกครับ อ่านหนังสือชดเชยช่วงเวลาที่เอาไปหยุดตอนนี้ท่วมเสียหมด ทั้งรายงาน ทั้งเตรียมสอบย่อย ตารางเรียนที่เปลี่ยนทำให้วุ่นวายกันไปหลายจังหวัดเลย โรงเรียนผมด้วยแหละ

ดังนั้น พวกนักเรียนใฝ่ดีอย่างพวกผม ใครไม่ไปไหนก็นัดกันมาอ่านหนังสือที่บ้านวัฒน์กัน (เจ้าของบ้านเค้าโอเคครับ ส่วนพี่เจ้าของบ้าน พี่วุธ ตอนนี้นอนแฮ้งค์จากการฉลองข้ามปีกันข้ามคืน แบบ เรียนหนักกันมา ยังไงก็ขอฉลองวันเทศกาลเค้าบ้าง เดี๋ยวน้องปีใหม่เสียใจ เค้าว่างี้ เลยนอนเป็นศพเรียงกันอยู่ที่ห้องนอนชั้นบน) ผมยึดมุมหนึ่งในห้องนั่งเล่นอ่านหนังสือไปตามเรื่อง มาร์คจุดสำคัญที่น่าจะออกสอบ ติ๊ก ติ๊กไปเรื่อยๆ

"อ่านไร ต๋อม" หันไปก็เจอพี่อ้น แปลกใจที่พี่เขามานะครับ

"เห็น วัฒน์ว่า ต๋อมมา พี่เลยแวะเข้ามาหา" มองซ้ายมองขวา ไม่เห็นวัฒน์. ไม่มีใครอยู่ในห้องเลยครับ หายไปกันหมด "พี่มาถึง วัฒน์ก็เปิดประตูให้แล้วเดินหน้าง่วงไปข้างบนแล้ว เห็นบอกว่าจะงีบหน่อย สงสัยวุธกินเหล้าเสียงดัง เลยนอนไม่พอมั้ง" อันนี้เห็นจะจริงครับ

"ต๋อม ก็พักสักหน่อยไม่ดีเหรอ เคร่งเครียดไปไม่ดีมั้ง" พี่เขาจับผมนอนลงกับตัก นวดหู นวดหัวให้ รู้สึกดีจริงๆเลยครับ มืออุ่นๆของพี่เขาให้ความรู้สึกดีที่สุดเลย สักพักพี่เขาก็ลุกไป กับมาพร้อมถืออะไรบางอย่างมาด้วย รอยยิ้มแปลกๆของพี่เขา...ไม่น่าไว้วางใจเลยครับ ผมว่ามันดูแปลกๆ

"ต๋อม. ไว้ใจพี่นะ"

ใครคิดว่าพี่อ้นเป็นสุภาพบุรุษ คุณคิดผิด พี่เขา เจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ แถมยังชอบแกล้งผมเป็นที่สุดเลย

....

"อืม อึก อือออออ อื้ม. พี่อ้น. อย่าแรง"

"ขอโทษที พี่ไม่ชินเท่าไหร่ จะค่อยๆนะ"

"อ๊ะ พี่ อย่าหมุนแรงอย่างนั้น มัน เสียว"

สอง พี่น้องเจ้าของบ้าน ที่เพิ่งตื่นยืนค้างอยู่ตรงบันได มองหน้าสื่อสารกันทางสาย เสียงเดินเบาลงมาจากข้างบน คนเป็นเพื่อนเอ่ยปากจะถาม เจ้าของบ้านคนพี่รีบเอานิ้วจุ๊ปาก สงสัญญาณให้เงียบ ยืนสุมหัวฟังเสียง

"มันทำอะไรกันในบ้านกูวะ" บ่นเบา เพื่อนที่ตามลงมาทีหลังอีกคนสะกิดกันให้ไปแอบดู

ค่อยๆโผล่หัวออกไปมองไอ้สองคนที่ทำกิจกรรมบางอย่างอยู่ในห้องนั่งเล่น เห็น
.
.
.
.
"พวกมึงทำไรกันวะ" ว่าที่คุณหมอสะดุ้ง มือกระตุกผิดจังหวะ สร้างความเจ็บน้อยๆให้ร่างบางทันที

"โอ๊ย!!!"

"ขอโทษ ต๋อม เจ็บไม๊" หันไปทางต้นเหตุ " เฮ้ย พวกมึงน่ะ มาทำกูตกใจทำไมวะ อันตรายนะมึง"

"ก็พวกกูไม่แน่ใจว่ามึงทำไรกันน่ะ"

"กู-แคะ-หู-ให้-น้อง-อยู่-ไอ้-เชี่ย"

กลุ่มก่อความรำคาญหน้าเจื่อน สุมหัวเข้าหากัน " ก็แม่งทำเสียงยังกะ...กันอยู่"

"ต๋อมเจ็บไม๊ ไหนพี่ดูสิ"

"ไม่เป็นไรครับพี่อ้น แค่ตกใจมากกว่า" แล้วก็ถูกร่างสูงกว่า พลิกซ้าย พลิกขวาสำรวจไปเรื่อยๆ

"แล้วไอ้ทิมไปไหนล่ะ ต๋อม" วัฒน์ถามหาเพื่อนติวอีกคน

"กู อยู่นี่" เสียงสั่นดังมาทางบานมุ้งลวดเชื่อมกับสวน ก่อนที่ ทิมจะโผล่หน้ามาโดยมีหนังสือบังหน้าไว้เสียครึ่ง แต่มันลืมบังหูของมันที่แดงจัด! "ไอ้ต๋อมมันครางซะกูไม่กล้าโผล่หัวออกไปเลย"

เสียงพี่วุธดังบอก เห็นป่ะ กูไม่ได้คิดมากไปเองซะหน่อย พี่อ้นเถียงกลับ ใครไม่รู้พูดเสริม เสียงดังโวยวาย

ส่วนผมได้แต่เกาหัวแกรกๆ

'ก็แค่แคะหู มันทำไมเหรอ?'

.
.
.
.
.
"เฮ้ย อ้น มึงเป็นหมอประเภทไหนวะ แคะหู ปกติเห็นพวกหมอๆเค้าห้ามแคะนี่" วุฒิเก็บความสงสัยไว้ไม่ได้จนต้องถาม

"กูแค่อยากสวีทกับน้อง มีไรป่ะ"

วุฒิได้แต่เดินหูแดงๆออกไป



จบ

กอด ๆ บวก ๆ ค่าาาา
นั่งค้นงานเก่าเอามาเป็นข้อมูลทำงานปัจจุบัน  ดีใจมากที่เจอเวิร์ดนี้พร้อมแฟนฟิค(ขอบคุณจิกิค่าาา)  เอามาลงให้อ่าน  ตอนหน้าจะเป็นตอนพิเศษสุดท้ายที่มีในมือ  และก็จะเป็นตอนจบปิดตลาด(ยังไม่เสร็จค่ะ)  อ่านตอนนี้แล้วอยากตบหัวอ้นให้เต็มข้อ  ถ้ามึงไม่เริ่มก็ไม่มีใครว่าหรอกเชี่ย(อินแฮง555)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :pig4:

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
โอ้ยหน่วง เเต่ดีนะที่จบดี เกือบละเกือบน้ำตาคลอตาม
ยิ่งเรียนหมอเวลายิ่งน้อย ดีนะยังจบดีเหมือนเดิม

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่อ้นกับผองเพื่อนร่วมมือกันแกล้งน้องต๋อมแรงเกินไปจริงๆ ค่ะ เห็นแก่ความสนุกและผลประโยชน์กันอย่างเดียวเลย เราไม่ปฏิเสธหรอกนะคะว่าน้องต๋อมก็น่าแกล้งจริงๆ >< แต่จะทำอะไรก็ควรอยู่ในขอบเขตกันหน่อย คิดถึงใจเขาใจเราบ้าง

ยิ่งโดยเฉพาะน้องที่เป็นฝ่าย 'หลงรักพี่อ้นข้างเดียวมาตลอด' ย่อมจะต้องรู้สึกหวั่นไหวมากกกกกกเป็นธรรมดา กังวลไปสารพัดว่าเหมือนกับเราไม่เป็นที่ต้องการของเขาแล้วหรือเปล่า? และยังจะอะไรต่อมิอะไรอีกตั้งมากมาย ฯลฯ กับเรื่องแค่นี้ไม่คิดเลยนะคะเนี่ยว่าพี่อ้นจะลืม :ruready น่ายุให้น้องต๋อมโกรธนานๆ เสียจริงเลยเชียวน้าา..

แต่น้องต๋อมน่ารักเสมอเลยนะคะ ^^ ไม่โกรธพี่อ้นแถมยังกล่าวโทษว่าตัวเองก็มีส่วนผิดที่ไม่คิดเชื่อใจอีกต่างหาก น่าเอ็นดูเหลือเกิน
ค่าาา..ตัวเล็ก~ :man1:

ปล. ถ้าคราวหน้าทุกคนยังคิดที่จะทำแบบนี้กันอยู่อีกระวังตัวไว้บ้างก็ดีเหมือนกันนะคะ หึหึ ชิ้ง~ !!! o18

ปล.2 รอตอนหน้านะค้าา..^^ /ปาดน้ำตาที่เสียไปพร้อมๆ กับน้องต๋อม :sad11:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด