(เรื่องสั้น) Chain: พันธนาการ... (จบบริบูรณ์)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: (เรื่องสั้น) Chain: พันธนาการ... (จบบริบูรณ์)  (อ่าน 2964 ครั้ง)

ออฟไลน์ Imflector

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 14:11:33 โดย Imflector »

ออฟไลน์ Imflector

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: (เรื่องสั้น) พันธนาการ...
«ตอบ #1 เมื่อ03-02-2015 01:25:42 »

ขอฝากเรื่องสั้นเรื่องนี้ด้วยนะครับ มีข้อสงสัยติชมอะไรก็คอมเม้นต์ได้เลยนะครับ

ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ^_^


__________


พันธนาการ......






"นายกลัวอะไรหรือ?"

คำถามของเชนยังคงดังก้องอยู่ในหัวของผมแม้เวลาจะผ่านมาเป็นเวลาร่วมสัปดาห์แล้วก็ตาม

นั่นสินะ เรากลัวอะไรกัน?

ผมเฝ้าถามตัวเองมาโดยตลอดว่าเพราะอะไรทำให้ผมไม่ตัดสินใจก้าวเดินต่อไป อาจเป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมพบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้กับตัวด้วยกระมัง

เหตุการณ์... ของการมีแฟนเป็นเพศเดียวกัน...

เชนขอคบกับผมในคืนหนึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อน แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็ตาม แต่ตัวผมก็ไม่ได้รู้สึกปฏิเสธความรู้สึกของเขาแต่อย่างใด ที่จริงเขาไม่ใช่คนแรกที่พูดคำนี้กับผม เพียงแต่เขาเป็นคนแรกที่พูดกับผมแล้วเป็นผู้ชายด้วยกันเท่านั้นเอง

***

เชนเป็นเพื่อนร่วมชั้นของผมตั้งแต่ที่มีการย้ายห้องตอนม.4

เนื่องจากมีการเลือกสายเรียนที่ต่างกันออกไปทำให้เพื่อนๆของผมต้องแยกห้องไปเรียนในสายของตนเองด้วยความจำเป็น แม้โรงเรียนของเราจะไม่ใช่โรงเรียนชายล้วนแต่ปริมาณนักเรียนชายกลับมากกว่านักเรียนหญิงอย่าเทียบกันไม่ติด อาจจะเป็นเพราะว่าโรงเรียนของเราเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนมาก่อนและเพิ่งเปิดรับนักเรียนหญิงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เลยทำให้จำนวนของนักเรียนชายและนักเรียนหญิงยังไม่ลงตัวนัก

เชน เป็นคนที่ฉายแววฉลาดตั้งแต่ที่ผมพบเขา เนื่องจากการสอบวัดระดับประเมินผลในวันแรกของชั้นม.4 ทำให้ผมได้รู้ถึงความห่างชั้นของระดับความรู้ของผมกับเขาอย่างชัดเจน เขาได้คะแนน95จาก100 ขณะที่ผมทำได้เพียง60คะแนน

อาจเป็นเพราะเหตุผลนี้ที่ทำให้ผมและเพื่อนสร้างระยะห่างที่มองไม่เห็นกั้นพวกเราเอาไว้กับคนที่มีความต่างจากพวกเรา ผมมองว่าคนที่ฉลาดนั้นจะตั้งใจทำคะแนนเพื่อแข่งขันกันเพื่อเป็นที่1และเพื่อการนับถือจากคนรอบข้าง แต่ผมได้มารู้ภายหลังว่าเชนนั้นต่างออกไปจากคนอื่น




วันหนึ่งที่ผมเข้าห้องน้ำกับพวกเพื่อนๆและมีคนเกิดความคิดจะจดโพยเข้าไปในการสอบเก็บคะแนนวิชาคณิตศาสตร์เนื่องจากคืนก่อนสอบมัวแต่เล่นเกมส์จนไม่ได้อ่านหนังสือ

"ถ้าต้องโกงด้วยการลอกโพยเข้าห้อง สู้มั่วแล้วได้คะแนนห่วยดีกว่า สอบซ่อมทีหลังก็ได้ ไม่แฟร์กับคนอื่นที่เขาตั้งใจอ่านกันมาแทบตายหรือเปล่าวะ?" ผมพูดกับมันตามตรงแม้ว่าเราจะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ผมก็ไม่สนใจ เพราะถ้าโดนจับได้เรื่องโพยมีแต่จะเสียไม่คุ้มได้ ซึ่งจากคำพูดของผมคงทำให้เจ้าตัวโกรธน่าดูแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ทว่าสีหน้าของเขากลับบอกทุกอย่างได้เกือบทั้งหมด

แล้วก็เป็นจริงดังที่คาด เขาถูกอาจารย์จับได้และถูกเรียกไปคุยเรื่องการแจ้งผู้ปกครองหลังเลิกเรียน แต่ในขณะที่ผมทำเวรทำความสะอาดอยู่หลังเลิกเรียนนั้น อาจารย์ก็ได้เข้ามาหาผมและเรียกผมให้ไปที่ห้องอาจารย์ด้วยอีกคน

เขาได้บอกอาจารย์ว่าผมเป็นคนแนะนำเขาให้จดโพยเข้าห้องสอบและยืนยันว่าเขามีพยานเป็นเพื่อนเขาที่ไปเข้าห้องน้ำด้วยกันทำให้ผมได้แต่โกรธจนพูดอะไรไม่ออก

ในขณะที่ผมยังคงตะลึงงันในคำพูดของมันนั้น เสียงๆหนึ่งก็พูดขึ้นแทรกกลางวงสนทนาระหว่างพวกเราอย่างไม่มีที่มาที่ไป

"เขาไม่ได้พูดครับอาจารย์ ผมอยู่ในห้องน้ำด้วยตอนนั้น เขาช่วยพูดห้ามด้วยซ้ำแต่เจ้าตัวเขาไม่ฟังเอง"

เชน คนที่เป็นหัวหน้าห้องได้เข้ามาช่วยผมได้ทันเวลา อาจจะเพราะเขาต้องเข้ามาส่งรายงานที่ต้องรวบรวมจากคนทั้งห้องมาให้อาจารย์พอดี เลยทำให้เขาเข้ามาแทรกระหว่างการสอบสวนนี้ได้อย่างถูกที่ถูกเวลา

บรรยากาศภายนอกของห้องพักอาจารย์นั้นช่างเงียบสงบแตกต่างกับความรู้สึกภายในจิตใจของผมเป็นอย่างมาก

ผมรู้ตัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะไม่เกิดขึ้นถ้าผมไม่พูดเหมือนสั่งสอนให้เขาโกรธ แต่ผมก็ไม่อยากให้เขาต้องทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควรจนอาจส่งผลกับอนาคตของตัวเขาเองได้ แต่มาคิดได้เอาตอนนี้ก็ดูจะไม่มีประโยชน์อะไร

อาจเนื่องจากคำพูดของคนลอกโพยกับหัวหน้าห้องนั้นได้รับความเชื่อถือต่างกันอย่างคาดไม่ติด ทำให้ผมรอดตัวมาได้อย่าฉิวเฉียด ตัวผมในเวลานั้นได้แต่โกรธและตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ถ้าเชนไม่ได้เข้ามาช่วยไว้ ผมก็ไม่รู้ว่าผมจะโดนหางเลขอะไรไปด้วย

ผมกับเชนเดินออกจากห้องพักอาจารย์กันเงียบๆเพื่อกลับห้องเรียน เชนดูเป็นคนเงียบๆจนผมไม่รู้เลยว่าควรจะทำตัวอย่างไรเมื่ออยู่ใกล้ๆเขา

"เขาไม่ใช่เพื่อนของนายหรือไง ถึงได้ไปพูดแบบนั้นให้อาจารย์ฟัง" เชนเป็นฝ่ายถามผมก่อนระหว่างที่พวกเราเดินกลับมาเอากระเป๋าที่ห้องเรียน

"ตอนนั้นไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว"

ผมได้แต่พูดตอบโต้กลับไปโดยไม่ได้หันไปมองผู้ชายที่ช่วยผมที่เดินตามมาเลยว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไร

รอบๆตัวของเราทั้งสองคนนั้นมีเพียงความเงียบงันราวกับเป็นดินแดนอื่นที่เราไม่คุ้นเคย ผมเดินนำหน้าเขากลับห้องเรียนด้วยอารมณ์ขุ่นมัว เสียงฝีเท้าของเชนนั้นยังคงเดินไล่หลังผมมาอย่างไม่ลดละทว่าเบาจนแทบจะได้ยินเสียงหายใจและเสียงหัวใจของเขาที่เต้นอยู่





"อย่าคิดว่าตัวเองวิเศษกว่าใครนักนะมึง มึงก็ใช่ว่าดีกว่ากูสักเท่าไหร่"

หลังจากที่ผมเก็บของเตรียมกลับบ้าน ไอ้คนลอกโพยมันก็มาคอยดักผมกับเชนก่อนที่ผมจะได้ออกจากตึกเรียนเสียอีก

มันกับพวกมันอีกสองคนดึงพวกผมเข้าไปหลังตึกราวกับว่านัดแนะกันไว้แล้วเป็นอย่างดี เพื่อนของมันทั้งสองคนนั้นตัวใหญ่พอๆกับมันแต่ผมแทบไม่เคยเห็นหน้าพวกมันมาก่อน อาจจะเป็นเด็กใหม่ที่ย้ายเข้ามาตอนม.4ก็เป็นได้

"กูกับมึงมีเรื่องต้องจัดการกันให้เสร็จ คนอื่นไม่เกี่ยว ถ้ามึงไม่อยากโดนไปด้วย" มันพูดใส่เชนที่ยืนข้างๆผมโดยไม่ใส่ใจผมที่อยู่ตรงหน้า

"มึงนี่มันโง่นะ มึงรู้ไหมว่าทำไมมันถึงช่วยมึง มันจ้องจะแดกมึงหน่ะสิ!" มันพูดเสียงดังก่อนมองไปทางเชน มันกระตุกยิ้มขำเยอะเย้ยอย่างออกหน้าออกตา

โครม!

เมื่อรู้ตัวอีกที เจ้าของคำพูดก็โดนต่อยจากคนข้างๆผมอย่างจังก่อนที่มันจะรู้ตัวเสียอีก เชนมองมันด้วยสายตาอาฆาตเหมือนสัตว์ป่าที่กำลังโมโหอยู่

"มึง! อาจารย์เดินมาตรวจตึกแล้วรีบไปก่อนไป!"ก่อนที่เหตุการณ์จะรุนแรงไปมากกว่านี้ เพื่อนของมันก็ตระโกนก่อนดึงตัวคนที่ลงไปฟุบกับพื้นด้วยแรงหมัดขึ้นมาก่อนวิ่งออกไปโดยที่ทิ้งผมกับเชนยืนอยู่โดยไม่ขยับตัว

ผมไม่กล้าสบตาเชน ผมไม่รู้ว่าเขายังอยู่ในอารมณ์แบบไหน คงเป็นการดีที่สุดที่ผมควรจะเงียบไม่พูดอะไร เชนยังคงจ้องไปทางทิศที่พวกมันเคยอยู่โดยไม่หันกลับมามองผมที่ยืนอยู่ข้างหลังแม้แต่หางตา

เมื่อพวกเราเดินออกมาจากโรงเรียน ผมกับเชนก็เดินออกมาโดยที่ไม่มีใครชวนใครคุยก่อนเลย

ต้นไม้สูงใหญ่ข้างทางกลับบ้านของพวกเราปลิวไสวไปตามแรงลมจนก่อให้เกิดเสียงที่ทำให้ใจของผมรู้สึกสงบขึ้น ผมมองแผ่นหลังของคนตัวสูงกว่าตรงหน้าที่กว้างจนผมรู้สึกว่ามันแทบจะบังผมได้ทั้งตัวด้วยสายตาเป็นห่วง ตั้งแต่ที่เชนต่อยมันไปแล้วนั้น เขาก็ได้แต่เงียบและไม่พูดอะไรเลยสักคำ ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดอยู่แล้วหรือเป็นเพราะอารมณ์ที่ไม่สงบในใจของเขาที่ทำให้เขายังคนเงียบเสียงอยู่จนถึงตอนนี้กันแน่



หลังจากที่ผมกับเชนเดินกลับบ้านกันโดยไม่พูดอะไร เชนก็ชวนให้ผมค้างบ้านของเขาโดยไม่ถามความเห็นของผมสักคำ

อาจจะเป็นผมเองที่รู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ด้วยกระมังจึงทำให้ผมไม่ต่อต้านเขาแม้จะไม่ค่อยเต็มใจนักก็ตาม หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จแล้ว เชนก็ส่งชุดใหม่ให้ผมแล้วบอกว่าให้ออกไปข้างนอกกับเขาราวกับเป็นคำสั่ง

เชนพาผมมาที่ร้านเหล้าเล็กๆบรรยากาศดีที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านของเขามากนัก เขายังคงเงียบเหมือนตอนออกมาจากโรงเรียนทำให้ผมคิดได้ว่า ตั้งแต่เรียนกับเชนมาตั้งแต่ต้นเทอมนั้น ผมกับเขาก็แทบจะยังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ

ผมนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมควรชวนเขาคุยด้วยเรื่องอะไร ทั้งเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องความชอบนั้น ผมก็แทบไม่รู้เรื่องอะไรของเขาเลยสักอย่าง

***

"นายหุงข้าวเป็นด้วยหรือ? เก่งจังเลยแฮะ"

นี่คือประโยคที่ผมจำได้ว่าคุยกับเชนครั้งแรก

ตอนที่เราไปเข้าค่ายกันตอนม.3ผมเคยอยู่เต๊นท์ใกล้กันกับเขา แม้จะอยู่กันคนละห้อง แต่เนื่องจากตอนม.ต้นนั้นแทบจะไม่มีใครย้ายเข้ามาใหม่เลยตั้งแต่ม.1 ทำให้คนที่เรียนรุ่นเดียวกันต่างคุ้นหน้ากันได้ไม่ยาก อีกทั้งตัวเชนเองก็เป็นคนเดียวที่ย้ายมาตอนม.2อีกด้วย

"เราเคยออกเที่ยวไปตามรถไฟกับพ่อหน่ะ อยากหยุดที่ไหนก็พักที่นั่น เราตั้งแคมป์ไปเรื่อยกับพ่อเรา เขาเคยสอนให้เราหุงข้าว เราก็เลยพอจะมีความรู้บ้าง"

ผมได้แต่ตกใจกับคนตรงหน้าที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินวัย จะมีเด็กม.ต้นสักกี่คนที่เคยตั้งแคมป์นอนข้างนอกกัน ณ เวลานั้น ผมจึงคิดว่าเขาเท่ห์อย่างบอกไม่ถูก

"เราจำไม่ได้เลยว่านายอยู่ห้องไหน นายชื่ออะไรหรือ?"ผมถามชื่อเขาด้วยความสนอกสนใจ

"เราชื่อเชน ยินดีที่ได้รู้จัก" เขาพูดก่อนค่อยๆคลี่ยิ้มออกช้าๆ

"......!"

เสียงจากเพื่อนร่วมเต๊นท์ของผมดังขึ้นเรียกความสนใจให้ผมหันไปมอง

"เราต้องไปหล่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะ" หลังจากที่ผมได้ยินเสียงเพื่อนตะโกนเรียกไล่หลังมา ผมก็บอกลาเชนก่อนยกมือขึ้นลาอย่างเร็วๆ

นั่นเป็นความทรงจำเดียวที่ผมจำได้เกี่ยวกับเรา...

***

"เค้าจะให้เราเข้าได้หรือ? พวกเราอายุยังไม่ถึงนะ"

ผมถามเชนที่ดึงมือผมเข้าร้านด้วยความสงสัย เขาจับมือผมตั้งแต่ออกมาจากบ้านของเขาโดยไม่ปล่อยจนมาถึงร้าน ผมไม่รู้ว่าเขาลืมหรือจงใจกันแน่ที่เขาจับมือผม แต่ผมก็ไม่ได้ถามอะไรเขา

ผม... ไม่คิดจะถามเขาเลย...

"อย่าส่งเสียงดัง ตามเรามา" เชนกระซิบบอกผมข้างๆหูก่อนดึงตัวผมเข้าไปที่ซอยเล็กๆข้างร้าน เขาดึงผมเข้าไปที่ด้านหลังซึ่งมีประตูที่เหมือนประตูของพนักงานอยู่ ก่อนจะเข้าไปและพาผมไปหาที่นั่ง

"บ้านนายอยู่ไหนหรือ?" เชนถามหลังจากที่เขาสั่งเบียร์เสร็จ เขามองมาทางผมอย่างตั้งใจด้วยความอยากรู้อยากเห็น

"เอ่อ... บ้านเราอยู่..."

ก่อนที่ผมจะตอบคำถามเสร็จ โทรศัพท์ของผมก็สั่นเตือนขึ้น เมื่อผมยกขึ้นมาจึงเห็นว่าแม่โทรเข้าหาผม ผมมัวแต่ยุ่งจนไม่ได้โทรบอกแม่ว่าผมจะมาค้างบ้านเพื่อน

"แม่จะไปสนามบินหล่ะนะ ไม่มาส่งแม่หรือ?"แม่เอ่ยถามผม

ผมลืมไปเลยว่าวันนี้แม่จะบินไปทำงานที่อเมริกา แต่เพราะแม่บินไปกลับบ่อยจนผมชิน ทำให้ผมแทบไม่ตื่นเต้นอะไรกับการออกนอกประเทศของแม่ผมครั้งนี้

ตอนแรกผมนึกว่าจะโดนโวยเนื่องจากไม่กลับบ้าน แต่จริงๆแล้ว แม่คงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมยังไม่ถึงบ้าน เพราะผมเห็นแม่ลากกระเป๋าเดินทางออกไปทำงานด้วยตอนเช้า หลังจากทำงานเสร็จ แม่คงไม่ได้แวะกลับมาบ้านจึงไม่รู้ว่าผมไม่อยู่บ้าน

"ผมไม่ค่อยสบายหน่ะแม่ วันนี้เลยว่าจะนอนพัก ขอโทษด้วยนะแม่ที่ไม่ได้ไปส่ง"

ผมโกหกออกไป ถ้าแม่ยิ่งคุยกับผมเยอะ แม่คงได้ยินเสียงเพลงจากร้านเหล้าเป็นแน่

"ไม่เป็นไรๆ แม่ไม่อยู่ก็ดูแลสุขภาพด้วยนะลูก มีอะไรก็โทรบอกพ่อนะ แม่บอกเขาไว้แล้ว" แม่ผมพูด ถึงแม้แม่กับพ่อของผมจะแยกกันอยู่ แต่ทั้งสองคนก็ยังคงติดต่อกันอยู่เสมอ การหย่าร้างกันของพวกเขาแทบจะไม่ทำให้ผมรู้สึกขาดความอบอุ่นเลยด้วยซ้ำ

หลังจากที่ผมวางสาย สายตาผมก็เคลื่อนมาเห็นสายตาของคนฝั่งตรงข้าม เขาจ้องมาทางผมโดยที่มือหนึ่งกำลังถือแก้วส่งของเหลวสีเหลืองทองเข้าปากอยู่ก่อนจะลดมือลงและพูดกับผม

"คนขี้โกหก..."

เขาพูดกับผมด้วยรอยยิ้มขำๆราวกับเด็กๆ

"ครับ... พ่อคนไม่เคยทำอะไรผิด" ผมพูดสวนกลับใส่เขา ทั้งๆที่ตัวเขาเองเพิ่งจะต่อยคนไปเมื่อตอนเย็นแท้ๆยังกล้ามาเหน็บแนมผมอีก

เขายิ้มก่อนค่อยๆหน้าแดงไม่รู้ว่าเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือเพราะคำเยอะเย้ยของผมกันแน่

"เรื่องที่มันพูดอาจจะจริงก็ได้นะ..."

ผมส่งสายตาสงสัยในสิ่งที่มันพูด และมันก็พูดต่อราวกับจะรู้ว่าผมสงสัยเรื่องอะไร

"เรื่องที่มันพูดว่า... เราจ้องจะ... สอยนายหน่ะ..."

แม้ว่าเชนจะเปลี่ยนคำพูดไปเล็กน้อยจากของเดิม แต่คำพูดนั้นก็ทำให้ผมรู้สึกเขินไม่แพ้กัน

ผมรู้สึกตกใจผสมกับประหลาดใจ ตัวผมเองนั้นไม่รู้ว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเขา แม้เขาจะเข้ามาช่วยผมถึงสองครั้งในวันเดียว แต่การจะให้บอกว่าผมชอบเขาไหม ถ้าในฐานะเพื่อนนั้นผมก็โอเค แต่ถ้าในฐานะอื่นนั้น... ผมไม่รู้จริงๆ

"เรามีข้อเสนอ... เรามาลองคบกันดูไหม... ถ้ามันไม่โอเค เราจะไม่บังคับอะไรนายอีก"เชนยื่นข้อเสนอให้ผม

เห็นได้ชัดว่าตัวเขานั้นก็ตื่นกลัวไม่แพ้กัน ผมค่อยๆก้มหน้าลงและคิดไต่ตรองข้อเสนอที่ผมเพิ่งได้รับ แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไร ผมก็ไม่รู้ซึ่งคำตอบที่ถูกต้องเลยจริงๆ...



"นายกลัวอะไรหรือ?"



เชนถามผมด้วยถ้อยคำจริงจังราวกับจะหาคำตอบจากผม โดยที่ผมนั้น... ไม่สามารถให้คำตอบได้เลย





ในช่วงม.2นั้น เชนค่อนข้างดังในหมู่คนในชั้นเรียนเดียวกันพอสมควร

แม้ผมจะไม่ค่อยได้สนใจใครเท่าไหร่ผมก็ยังเคยได้ยินเรื่องของเขามาผ่านๆบ้าง เชนย้ายเข้ามาเรียนกลางคันตอนม.2ทั้งๆที่เด็กส่วนมากจะเลื่อนชั้นมาจากม.1และโรงเรียนเรานั้นไม่มีนโยบายรับเด็กเข้ามาเรียนกลางเทอม เมื่อเชนย้ายเข้ามาจึงทำให้มีข่าวลือต่างๆเกิดขึ้นมากมาย

ทั้งเรื่องพ่อแม่ของเขาเสียชีวิต หรือเรื่องที่เขาทำผู้หญิงท้อง ซึ่งในกรณีหลังผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้เลย เพราะเด็กในช่วงอายุนี้ ถ้าทำเรื่องแบบนั้น คงจะเป็นเด็กที่ไวไฟไปหน่อยกระมัง แต่ถึงแม้จะมีข่าวลือแปลกๆเกี่ยวกับเขาออกมา เชนก็ยังโด่งดังในหมู่นักเรียนหญิงรุ่นพี่ของโรงเรียนเราเช่นกัน ทั้งด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาและความสูงที่ดูจะสูงเกินเด็กวัยเดียวกัน รวมทั้งบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่และผลการเรียนที่ดีเยี่ยม จึงทำให้ใครๆคงจะเผลอหลงเสน่ห์เขาได้ไม่ยาก อีกทั้งยังผลการเรียนที่ดีมากของเขายังทำให้ข่าวลือแย่ๆเกี่ยวกับเขายังค่อยๆจางลงและหายไปในที่สุดอีกด้วย



แสงไฟจากไฟให้ทางตลอดทางเดินกลับบ้านนั้นดูจะสว่างมากเกินไปจากความเป็นจริง

ถึงแม้ว่าระยะทางจะร้านไปจนถึงบ้านของเชนนั้นไม่ไกลกันมาก แต่ในเวลานี้ผมคิดว่าแม้เดินเท่าไหร่ผมก็ไม่สามารถไปถึงบ้านของเขาได้สักที

เมื่อพวกผมดื่มเบียร์กันไปจนหมดแล้ว ผมกับเชนก็เดินกลับบ้านกันด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพวกผมต่างคนต่างเงียบตั้งแต่ที่เชนขอผมคบกัน พวกเราสองคนจึงตั้งหน้าตั้งตาดื่มเบียร์กันโดยไม่ได้พูดคุยกันอีก มันจึงส่งผลให้พวกผมกึ่งๆเมามาตลอดทาง เมื่อพวกผมมาถึงเตียง เราสองคนก็ล้มตัวลงนอนแทบจะพร้อมๆกัน

หลังจากล้มตัวลงบนเตียง ตาของผมก็ค่อยๆลืมขึ้นมองคนตรงหน้าทั้งๆที่ยังนอนล้มอยู่ในท่าทางเดิม

เชนหลับตาพริ้มก่อนค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้งสบตากับผม สายตาของเขาดูเศร้าหมองลงจนผมรู้สึกได้ เขาค่อยๆคลี่ยิ้มบางๆให้ผมด้วยสายตาที่เศร้าหมอง

"เราเป็นเด็กกำพร้าหน่ะ พ่อแม่ของเราเสียกันหมดแล้ว..." เชนค่อยๆคลี่ปากพูดขึ้น

"แม่เราเสียตั้งแต่เรา5ขวบ พ่อเราเสียตอนเราจะขึ้นม.2 เพราะงั้นเราเลยย้ายโรงเรียนมาอยู่โรงเรียนนี้ พอดีว่าลุงเราทำงานอยู่ที่นี่หน่ะ นี่ก็เป็นบ้านเก่าของพ่อเราตั้งแต่ตอนที่แม่เสีย ถ้านั่นจะตอบคำถามที่นายสงสัยได้หน่ะนะ"

เชนพูดออกมาราวกับว่าเป็นเรื่องของคนอื่น เขาพูดด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย พูดราวกับว่าจะสารภาพผิด ผมก็นึกแปลกใจว่าทำไมผมไม่เห็นใครภายในบ้านเลยตั้งแต่ผมมาถึง ผมคิดว่าพ่อแม่ของเขาออกไปข้างนอกเสียอีก

"ขอโทษนะ... ที่ทำให้นายต้องมาเล่าเรื่องนี้ให้เราฟัง..."ผมพูด

น้ำตาของผมค่อยๆซึมออกมาจากดวงตาโดยไม่รู้ตัว เชนค่อยๆยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่หางตาของผมช้าๆ ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

"เราก็ขอโทษนะ... ที่ทำให้นายต้องร้องไห้..."

เชนค่อยๆดึงตัวของผมเข้าไปกอดช้าๆ ผมเอามือของผมโอบเอวของเขาก่อนที่ผมจะเลื่อนมือยกสูงขึ้นเพื่อลูบเบาๆที่หลังของเขาช้าๆ

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมรู้สึกว่าตัวของเชนสั่นเบาๆราวกับสะอื้นอยู่ แต่ผมก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเขาร้องไห้อยู่หรือไม่ เพราะผมไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจนนัก

เราทั้งสองค่อยๆหลับลงช้าๆ... ราวกับว่า... เวลารอบๆตัวของเรานั้น... ไม่เคยมีตัวตนอยู่มาก่อน...

***

หลังจากที่พวกเราตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เชนก็พาผมไปนั่งดื่มกาแฟกับเขาที่ระเบียงหลังบ้าน เนื่องจากวันนี้เป็นวันเสาร์ อีกทั้งที่บ้านผมก็ไม่มีคนอยู่ ผมจึงไม่มีความจำเป็นใดๆในการที่จะรีบกลับบ้าน

หลังบ้านของเชนนั้นเป็นสวนขนาดพอๆกับตัวบ้าน บริเวณสนามหญ้านั้นน่าจะมากพอให้เด็กสักคนสองคนมาวิ่งเล่นได้ด้วยซ้ำ

สวนนั้นตกแต่งด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน น่าจะเพราะเขาและพ่อเคยได้เดินทางไปทั่ว จึงไม่แปลกที่เขาจะได้รับพืชพรรณต่างชนิดมาปลูกในบ้าน เพราะแบบนั้นสวนหลังบ้านของเขาจึงดูร่มรื่นและแปลกประหลาดไปด้วยในเวลาเดียวกัน

"เราดูแลต้นไม้พวกนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เมื่อก่อนลุงเราก็ช่วยดูแลบ้างตอนที่เรากับพ่อไม่อยู่บ้าน แต่ตอนนี้มีแต่เราที่คอยดูแลพวกมัน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหนเหมือนกัน นายว่าสวยไหมหล่ะ?"

เชนพูดกับผมราวกับถามความเห็นและบอกความรู้สึกไปด้วย ผมแทบจินตนาการไม่ออกเลยว่า ถ้าเป็นตัวผมจะดูแลมันได้ดีแค่ไหน ทั้งๆที่ตอนที่พ่อแม่เขาจากไปนั้น เขาก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กม.2คนหนึ่งเท่านั้น

สวนทั้งสวนนี้ถูกตัดแต่งหญ้าบางๆราวกับจะให้เด็กคนหนึ่งวิ่งเล่นและทำเรื่องซุกซน เชนคงจะมีความทรงจำดีๆเกี่ยวกับพ่อและแม่ของเขาที่นี่อยู่มากพอสมควร

แต่ในเวลาเดียวกันเมื่อเกิดเรื่องขึ้น สวนแห่งนี้ก็ราวกับจะเปลี่ยนไปราวกับเป็นขุมนรกที่ตอกย้ำถึงความสุขที่เขาเคยได้รับเช่นกัน

ผมนับถือเขาจริงๆที่ยังคงรักษาสถานที่นี้ไว้ได้ ไม่ว่ามันจะทำให้เขาเจ็บปวดมากเพียงไหนก็ตาม

ในตอนนั้น... ผมแทบจะจินตนาการถึงความเจ็บปวดของเขา... ไม่ออกเลย...

__________
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 13:42:43 โดย Imflector »

ออฟไลน์ Imflector

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: (เรื่องสั้น) พันธนาการ...
«ตอบ #2 เมื่อ03-02-2015 01:26:47 »

ผมและเชนใช้เวลาด้วยกันตลอดวันหยุด

เราแทบจะไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากอยู่ในบ้านและสวนหลังบ้านของเขา เราหาอะไรเล่นกันตลอดเวลา ทั้งนอนอ่านหนังสือกันที่สนามหญ้า ช่วยกันปลูกและรถน้ำต้นไม้ ทำอาหารมากินกันในสวน

ในช่วงกลางคืนเราทั้งสองคนยังนั่งร้องเพลงกันด้วยความเพลิดเพลิน เชนเล่นกีต้าร์ ส่วนผมก็ร้องเพลงคลอตามด้วยท่วงทำนองที่ถูกบ้างผิดบ้าง แต่อย่างน้อยพวกเราก็มีความสุขกัน

แค่เห็นเชนมีความสุข... ผมเองก็พลอยมีความสุขตามไปด้วย...



ในช่วงที่ผมอยู่กับเชนนั้น เพื่อนของผมจะคอยส่งข้อความมาถามทุกข์สุขของผมโดยตลอด

หายไปไหนทำไมถึงไม่ค่อยตอบข้อความเลย?

พวกเขาส่งข้อความมาหาผมเรื่อยๆจนผมไม่รู้จะตอบพวกเขาไปอย่างไร

แต่แปลกนะ... ที่ไม่มีใครคิดจะโทรมาหาผมเลยสักครั้ง...

ผมปิดโทรศัพท์มือถือทันทีหลังจากที่ได้เห็นข้อความสุดท้ายจากพวกเขา



ในบ้านของเชนนั้นมีหนังสืออยู่หลากหลายประเภท ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เชนเล่าให้ผมฟังว่าพ่อของเขาไม่ค่อยจะชอบซื้อของฝากมากเท่าไหร่ สิ่งที่พ่อของเชนชอบสะสมจากการเดินทางก็มีเพียงเมล็ดพันธุ์ของพืชชนิดต่างๆและหนังสือเท่านั้น

ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกเมื่อผมอยู่กับเชนอย่างไร เมื่อผมอยู่กับเขาผมรู้สึกได้ถึงความรู้สึกแปลกประหลาด

อบอุ่น... แต่ก็โดดเดี่ยว...

มีความสุข... แต่กลับแปลกแยก...

ไม่มีกำแพงกั้นเราสองคน... แต่กลับรู้สึกไม่คุ้นเคย...



"นายโกหกใช่ไหม? ที่บอกว่าอยู่ในห้องน้ำด้วยตอนนั้นหน่ะ?..."ผมถามเชนขณะที่เรากำลังทานอาหารที่เราทั้งสองคนทำเองกับมือบนโต๊ะในห้องอาหาร

"รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่หน่ะ?"

เชนถามยิ้มๆ

"ก็ตั้งแต่แรกหน่ะแหละ..."ผมตอบ

ถ้าเขาอยู่ในห้องน้ำด้วยตอนนั้น มันก็ไม่มีทางเลยที่ผมจะไม่รู้...

เพราะผมเอง... ก็คอยมองเขาอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน...

เราทั้งสองนั่งกินอาหารกันต่อไปโดยที่เก็บเรื่องที่พวกเรารู้เอาไว้ใจโดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

***

"วันนี้นายก็ต้องกลับแล้วสินะ?"เชนถามผมเมื่อเราสองคนตื่นขึ้นมาในตอนเช้า เชนเหม่อมองขึ้นไปบนเพดานเช่นเดียวกันกับผม ผมได้แต่นิ่งเงียบไม่ตอบอะไร

เราลงมาทำอาหารกินกันในสวนตั้งแต่เช้าเพื่อไม่ให้เราเสียเวลาในวันสุดท้ายไปเปล่าๆ

ผมและเชนนอนเล่นกันบนผืนหญ้าในสวนหลังจากทานอาหารเสร็จ เชนหนุนหัวเขาให้สูงขึ้นบนหน้าท้องของผม ผมใช้มือของผมลูบหัวเขาเล่นในขณะที่เขานั้นอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเล่มบาง

ผมสามารถบอกได้เลยว่าตอนนี้... ผมมีความสุขมากจริงๆ...

เชนค่อยๆปิดหนังสือเบาๆก่อนวางมันไว้ข้างตัว เขาหลับตาช้าๆก่อนเอื้อมมือมาจับมือผมที่ลูบหัวเขาอยู่ เขาลูบไล้ไปทั่วฝ่ามือผมช้าๆอย่างอ่อนโยน

"เรามีความสุขมากนะ... ที่ได้อยู่กับนายแบบนี้... เราอยากอยู่กับนายแบบนี้... ตลอดไปเลย..."

เชนพูดบอกผมช้าๆแต่กลับอบอุ่นในหัวใจ

ผมมองฟ้าที่สูงขึ้นไปเบื้องบน พยายามมองหาจุดสิ้นสุดของขอบฟ้าเหนือศรีษะ

เมื่อยามเย็นมาถึง เวลาของพวกเราก็หมดลง อีกเพียงไม่กี่ชั่วโมง พวกเราก็จะได้ไปเจอกันที่โรงเรียนเหมือนที่เคยเป็น แต่สถานะของพวกเราสองคนอาจจะเปลี่ยนไปเป็นอีกแบบหนึ่ง

แบบที่สังคมอาจไม่ยอมรับ...

แบบที่ไม่เหมือนกับคนส่วนใหญ่...

แบบที่พวกเราอยากให้เป็น...



เชนมาส่งผมที่หน้าประตูบ้าน ผมตั้งใจจะเดินให้ช้าลงเพื่อให้เวลานี้จบลงให้ช้าที่สุด

"แล้วเจอกันนะ"

เชนกล่าวลาผม ก่อนที่ผมจะนั่งรถออกไปจากบ้านเขา



ผมได้แต่มองเขาที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ในขณะที่สายตาของเขาก็มองมาที่ผมตลอดเช่นกัน

เมื่อวันจันทร์มาถึง ผมก็ไปเรียนตามปรกติ ผมตื่นขึ้นมาเร็วกว่าทุกครั้งแม้ว่าจะไม่มีแม่คอยปลุก ผมนอนไม่ค่อยหลับ และคอยแต่จะให้ถึงเวลารุ่งสางเร็วๆ

ในห้องเรียนนั้นไม่มีใครอยู่เลย คงเพราะว่าเช้าเกินไปกระมัง เมื่อผมเข้ามาในโรงเรียน ผมเห็นเด็กนักเรียนเดินเข้ามาเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

สายตาของผมมองเหม่อไปที่โต๊ะของเชน เก้าอี้ถูกยกลงแล้ว แต่ไม่มีทีท่าว่าจะมีคนนั่งแต่อย่างไร

เชน... มาเร็วๆสิ...

ผมคิดในใจ

"มาเร็วจัง..."เสียงนุ่มๆดังขึ้นจากประตูทางด้านหลังของผม ผมละสายตาไปทางต้นเสียง

เชนเดินเข้าห้องมาพร้อมกับแจกันดอกไม้ในมือ

"ขอโทษนะที่เข้ามาช้า... พอดีเอาแจกันไปเปลี่ยนน้ำหน่ะ..."

เชนพูดตอบผมด้วยรอยยิ้ม



เวลาทั้งสัปดาห์นี้ดูจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า สิ่งที่ทำให้ผมผ่านเวลาไปในแต่ละวันได้นั้นก็คือการคอยมองแผ่นหลังกว้างของเชน ไม่ว่าเขาจะขยับตัวไปทางไหน ผมเป็นต้องคอยมองจ้องมันตลอดเวลา

ผมเรียนไปด้วยจิตใจที่เหม่อลอยไปทั้งสัปดาห์ ให้หัวของผมคิดถึงแต่คำถามที่เชนถามผม

พวกเราควรจะคบกันไหม?...

เมื่อถึงเวลาทานอาหารกลางวัน ผมก็นั่งกับเพื่อนๆเหมือนกับปรกติ เชนนั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะตรงข้ามกับผมเพียงคนเดียว ผมไม่เคยเห็นเขานั่งกินข้าวกับใครเลย

ทั้งๆที่เราอยู่ใกล้กันแค่นี้...

แต่เหมือนกับว่าเราอยู่กันคนละโลก...



"เลิกมองแต่ไอ้เชนได้แล้ว มึงไปอยู่กับมันตลอดเสาร์อาทิตย์เลยไม่ใช่หรือ?"เพื่อนผมถามขึ้น

"มีคนเห็นพวกมึงสองคนไปนั่งกินเหล้ากันสองคน นี่ใช่ไหมที่ทำให้มึงไม่ตอบข้อความพวกกูเลย..."มันยังคงถามต่อไม่หยุด ผมได้แต่นิ่งเงียบไม่พูดอะไรตอบพวกมันกลับไป

"พวกมึงนี่ยังไงกัน? มีอะไรก็เล่าให้พวกกูฟังบ้างก็ได้นะ ตอนพวกกูโทรไปก็ปิดเครื่องตลอด..."

ไม่ไช่ว่าพวกมันไม่โทรหา...

แต่เพราะผมปิดเครื่องตลอดสินะ...

"กูขอบคุณพวกมึงมากนะที่เป็นห่วงกู แต่กูเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน..."ผมตอบกลับ พวกมันดูมีสีหน้าที่หนักใจขึ้นพร้อมๆกัน

กู... ขอเวลาอีกหน่อยแล้วกัน...



ผมและเชนได้ทำแลปคู่กันในวิชาเคมี เนื่องจากการสุ่มจับสลากแบ่งคู่ เราสองคนยิ้มให้กันเล็กๆเมื่อสายตาของพวกเราหันมาสบกัน

ผมและเชนไม่ได้คุยอะไรกันเป็นพิเศษ เราคุยกันในเรื่องของงานที่เราต้องทดลองเท่านั้น แม้เราจะไม่ได้คุยกันมากกว่าแต่เมื่อก่อน แต่เราก็ไม่มีท่าทางห่างเหินกันเหมือนแต่ก่อน

เราสองคนกลับบ้านพร้อมๆกันเหมือนกับนัดกันไว้ เชนยืนรอผมที่เก็บของใส่กระเป๋า เขายืนรอผมอยู่หน้าห้องเพราะผมออกมาจากห้องคนสุดท้าย

เราใช้ทางเดินเล็กๆด้านหลังโรงเรียนออกมา แม้ว่าจะยังไม่เย็นมาก แต่ประตูทางด้านหลังกลับมีคนเดินกลับกันอย่างบางตา ผมและเชนมองตากันตลอดเวลาที่เดินออกมาจากประตู

ผมถึงบ้านเชนในขณะที่ฟ้ายังไม่มืดมาก เราสองคนเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนที่จะออกจากบ้านเขาไปที่ห้างสรรพสินค้าเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขามากนัก

ผมใส่เสื้อตัวใหญ่ของเชน เสื้อของเขาใหญ่จนชายเสื้อแทบจะคลุมไปถึงเข่าของผม

"นายตัวเล็ก... ใส่เสื้อเราไป... ยิ่งดูตัวเล็กเข้าไปอีก..."

เชนพูดกับผมเมื่อเห็นผมใส่เสื้อของเขา



"ดูสองคนนั้นสิ..."

เราสองคนได้ยินคนพูดตามหลังเรา เมื่อผมเหลือบตาไปเห็น ผมก็เห็นว่าเขาชี้ชวนกันมองเราสองคน แม้ว่าพวกเขาจะหันหน้าหนีทันทีเมื่อผมหันไปดู แต่ผมก็สัมผัสได้ว่าพวกเขาพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพวกเรา

เชนมีสีหน้าลำบากใจไม่แพ้กันเมื่อได้ยินคนพวกนั้นพูด เขาทำได้เพียงหันมายิ้มให้ผมน้อยๆ ก่อนจะลูบหัวของผมเบาๆ

เราซื้ออาหารสดมาทำกันเองที่บ้าน เชนเป็นคนที่ทำอาหารเก่งจนผมแปลกใจ เขาทำอาหารให้ผมกินตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ตัวผมทำได้เพียงช่วยหยิบจับอะไรไม่กี่อย่าง เมื่อผมจะตัดหั่นอะไร เชนก็จะรีบมาหยิบมีดในมือผมไปทำทันที

"ไม่ต้องทำหรอก... เดี๋ยวบาดมือ..."

เขาพูดกับผมทุกครั้งที่ผมทำด้วยรอยยิ้ม





"เราอยากให้มาอยู่ด้วยกันที่นี่..."

เชยพูดเปรยขึ้นในขณะที่เรากำลังทานอาหาร แม้ว่าถ้อยคำที่เขาพูดจะดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่มันกลับแฝงไปด้วยความต้องการที่จริงใจ

ผมตอบตกลง

แม้ว่าผมจะกลับไปอยู่ที่บ้านคนเดียว อะไรๆมันก็คงไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก...

หลังจากที่เราทานอาหารเสร็จ เราก็ไปนั่งเล่นกันที่สวนหลังบ้าน ผมนอนบนตักของเชนที่กำลังเล่นกีต้าห์ด้วยท่วงทำนองที่เชื่องช้าแต่กลับจับใจ

ผมร้องเพลงคลอไปตามท่วงทำนองที่เชนสร้างขึ้น ผมเปล่งเสียงเป็นเนื้อเพลงเรื่อยเปื่อยที่ไม่เคยได้ยิน หยิบเนื้อร้องของเพลงนั้นมาใส่เพลงนี้ เพื่อสร้างเพลงใหม่ที่มีแต่พวกเราสองคนที่รู้จัก

บางครั้งเชนก็ปล่อยมือที่ดีดกีต้าห์อยู่เอื้อมมาจับใบหน้าของผม ผมลูบเล่นขึ้นลงที่แขนแกร่งของเขาเป็นการตอบกลับเบาๆ เชนค่อยๆวางกีต้าห์ของเขาลงก่อนจะนอนโดยนำหัวของเขามานอนติดกับหัวของผม

เชนฮัมเพลงเบาๆเป็นท่วงทำนองแทนเครื่องดนตรี ผมร้องเพลงตามคนข้างตัวไปอย่างไม่รอช้า

ไม่มีเพลงอะไรในโลกนี้เลยที่เราสองคนจะไม่รู้จัก

ผมสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเชน ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นสิ่งที่ถูกหรือผิด

สิ่งใดที่เรียกว่าถูก?... สิ่งที่คนส่วนใหญ่เป็นหรือ?...

สิ่งใดที่เรียกว่าผิด?... สิ่งที่คนส่วนน้อยเป็น... จำเป็นต้องผิดด้วยหรือ...

ผมค่อยๆหลับลงไปโดยจมความคิดพวกนั้นเข้าไว้ในร่างกาย ผมแค่อยากจะหลับตาลงไปพร้อมๆกับเขา

ผมแค่อยากเป็นแบบนี้ตลอดไป...

ผมอยากอยู่ด้วยกันเพียงแค่สองคนแบบนี้... ตลอดไป...





เชนเองดูสับสนกับเรื่องระหว่างเราไม่แพ้ผม ผมและเขาไม่รู้เลยว่าเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนคนอื่นเราควรทำตัวอย่างไร แม้ว่าพวกเราจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดเวลาที่อยู่บ้านของเชน แต่เมื่อเราอยู่โรงเรียน ความสัมพันธ์ของเขาและผมกลับดูต่างกันออกไป

ผมและเชนไม่เคยมีอะไรเกินเลยไปมากกว่าการกอด เขาไม่เคยทำอะไรผมมากเกินไปกว่านั้น แม้ว่าตัวผมนั้นจะรู้สึกมีความสุขมากแค่ไหน แต่ผมเองก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรเช่นกัน

"ยิ้มอะไรคนเดียวหน่ะ?"เพื่อนผมถามขณะที่พวกเรานั่งกินอาหารกลางวันด้วยกัน

ผมได้แต่หุบยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

"ช่วงนี้มึงดูไปอยู่กับไอ้เชนบ่อยขึ้นนะ..."เพื่อนผมพูดก่อนหันมามองหน้าผม

มันมองด้วยสายตาเหม่อลอยราวกับไม่อยากจะตัดสินอะไรในตัวผม ผมพยักหน้าตอบรับก่อนก้มหน้าลงทานอาหารในจานของตัวเอง

"ทำอะไรๆให้มันชัดเจนเถอะ... ไอ้เชนมันก็คงรอมึงอยู่เหมือนกัน..."

เพื่อนผมพูดจบประโยคก่อนจะเสหน้าไปมองทางเชนที่นั่งอยู่ที่อีกโต๊ะหนึ่ง




วันนี้ผมกับเชนไม่ได้กลับด้วยกัน ผมเดินออกจากห้องเรียนก่อนใครเมื่อเสียงกริ่งเลิกเรียนดังขึ้น

ผมเดินเล่นไปทั่วโรงเรียนอย่างไร้จุดหมาย ผมต้องการใช้เวลาในการคิดอะไรบางอย่างให้ละเอียดถี่ถ้วน

เท้าของผมนำผมเดินไปเรื่อยเปื่อยจนมาหยุดลงที่หน้าสนามเด็กเล่นหน้าโรงเรียน ผมนั่งลงบนชิงช้าตัวเล็กก่อนไกวมันไปมาเบาๆ เด็กตัวเล็กๆนั่งเล่นกันไปมา บางคนก็วิ่งไล่กัน บางคนก็นั่งเล่นดินทรายตรงหน้า ปั้นมันขึ้นมาเป็นรูปร่างต่างๆ

ผมซึมซับบรรยากาศตรงหน้าไว้ในใจก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ





"ทำไมวันนี้ไม่รอกลับพร้อมกันหล่ะ?..."

เชนถามผมทันทีเมื่อเขาเห็นผมยืนอยู่หน้าบ้านของเขา

......

"เชน... เราได้คำตอบแล้วนะ..."

ผมพูดเบาๆให้ตรงหน้าได้ยิน คำพูดที่ผมตระเตรียมมาทั้งหมดมันดูจะเอ่ยออกมายากไปหมด ผมแทบจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าผมควรจะพูดอะไรก่อนหลังดี

...

"เรา... คบกับเชนไม่ได้หรอกนะ..."

ผมเอ่ยคำพูดที่เอ่ยยากแสนยากเย็นออกมา แม้มันจะยากสักแค่ไหน แต่ผมก็ต้องพูดมันออกไป

เพื่อผม... และเพื่อตัวเขาเองด้วย...

"งั้นหรือ?... เป็นเราไม่ได้จริงๆสินะ..."เชนพูดเบาๆก่อนก้มหน้าลงมองพื้นเบื้องล่าง

น้ำตาของคนตัวสูงค่อยๆหยดลงสู่พื้นช้าๆ

น้ำตาของผมก็เช่นกัน... ที่มันร่วงลงสู่พื้น...

"เราคบกับเชนไม่ได้... เพราะสิ่งที่เชนต้องการไม่ใช่แบบนั้น..."

ผมพูด

"เชนแค่เหงาเท่านั้น... เราแค่เป็นคนที่อยู่ด้วยกันในเวลาที่ถูกเท่านั้น..."

ผมร้องไห้โฮออกมาอย่างไร้การควบคุม

สิ่งที่เชนต้องการไม่ใช่คนรัก... แต่สิ่งที่เชนต้องการคือคนที่รักเขาต่างหาก...

"สิ่งที่เชนต้องการตอนนี้คือเพื่อนต่างหาก... เพื่อนที่พร้อมจะอยู่กับเชน...เท่านั้นเอง..."

ผมค่อยๆเอ่ยคำพูดที่คั่งค้างในใจทั้งน้ำตา

ผมคิดว่ามันจะดีกับเราทั้งคู่...

ถ้าเราสองคน... เป็นแค่เพื่อนกัน...

เชนมองหน้าผมด้วยสายตาที่อ่อนโยน ก่อนที่จะสวมกอดผมเข้าสู่อ้อมอกของเขาอย่างแผ่วเบา

"ขอบคุณมากนะ... ขอบคุณจริงๆ..."

ผมเข้าใจเขามากกว่าใคร...

และเขาก็เข้าใจสิ่งที่ผมต้องการจะบอกเช่นกัน...

พวกเราสวมกอดกันยาวนานราวกับว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่พวกเราจะกอดกัน ในสถานะครึ่งๆกลางๆแบบนี้ได้...





ท้องฟ้าดูจะค่อยๆเปลี่ยนสีเข้มข้นเมื่อเวลาในยามเย็นมาถึง ผมเหม่อมองท้องฟ้าลีหม่นตรงหน้าดวงแววตาที่ว่างเปล่า ไม่ใช่ความรู้สึกมีความสุข แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกทุกข์ใจเช่นกัน

"ไอ้เชน! เล่นบอลด้วยกันไหม?!"เพื่อนของผมตระโกนบอกเชนที่เพิ่งจะออกมาจากตึกเรียนด้วยน้ำเสียงแจ่มใส

"อื้อ!..."เชนตอบก่อนที่จะวิ่งลงไปในสนาม พวกเพื่อนของผมและเชนผลัดกันแย่งลูกบอลกันไปมาราวกับเด็กๆ

เชนในตอนนี้เต็มไปด้วยใบหน้าที่สดใส ใบหน้าที่ใครๆไม่เคยเห็นนอกจากผม ถึงแม้จะไม่เหมือนกันสักทีเดียว แต่ผมก็รู้สึกดีใจที่เขาร่าเริงขึ้น

และไม่ดูเศร้าเหมือนแต่ก่อน...



"พวกกูกลับก่อนนะ แล้วเจอกันพวกมึง..."เพื่อนๆของผมโบกมือลามาทางอัฒจันทร์ที่ผมและเชนนั่งอยู่ข้างๆกัน เราสองคนโบกมือลาพวกเขาเบาๆ

ผมและเชนเหม่อมองขึ้นไปบนฟ้าเบื้องบนโดยที่ไม่มีใครพูดอะไร

เชนค่อยๆเอื้อมมือของเขามาจับมือของผมเบาๆราวกับเป็นสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตของเขา...

ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของผมกับเชนในตอนนี้คืออะไร...

ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเราจะพัฒนาไปได้มากกว่านี้ไหม...

ผมไม่สามารถรู้ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร...

แต่ตอนนี้ผมรู้แค่ว่า...

ผมมีความสุขทุกครั้งที่ผมเห็นเชนยิ้ม...





Finn.






Link ของเรื่องสั้นอื่นๆ:

(เรื่องสั้น : Re-post ) Me ,You and Us: ผม เขา และเราคืนนั้น (จบบริบูรณ์)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=50929.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-12-2015 13:44:42 โดย Imflector »

ออฟไลน์ maykiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอบคุณนะคะ ขอให้เชนมีความสุขแบบนี้ไปอีกนานๆ

ออฟไลน์ whitelavenders

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
จริงๆความสัมพันธ์ในรูปแบบนี้ก็ยั่งยืนดีนะคะ น้องทั้งสองคนทำถูกแล้วล่ะค่ะ ในเมื่อยังไม่มั่นใจก็ควรให้เวลากันก่อน ให้รู้ว่าทั้งคู่ควรจะอยู่ในสถานะไหน ถ้ามันใช่เดี๋ยวมันก็พัฒนาเองแหละเนาะ แต่ถ้าไม่เราก็จะได้เพื่อนที่สำคัญที่สุดเพิ่มมาคนหนึ่ง

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
อ่านแล้วหน่วง ๆ สงสารเชน

ออฟไลน์ มะปรางเปรี้ยว

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด