✉ จดหมายฉบับที่ 4✉ ยินดีที่ได้รู้จักหลายวันต่อมาของนายวรนัตรยังคงเหมือมเดิม...ไม่สิอาจจะมีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิมก็ได้...ถึงผมจะทำหน้านิ่งๆพร้อมกับพิมพ์บัญชีลงในคอมพิวเตอร์แต่ภายในใจนั้นกับกระสับกระส่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อวันก่อนที่ผมได้ตัดสินใจว่าจะตอบจดหมายนั่นกลับ...ผมก็ต้องมานั่งคิดนั่งเขียนอยู่เกือบทั้งวันจนไม่เป็นอันทำงาน...ทั้งๆที่มันไม่น่าจะมีความสำคัญถึงขนาดนั้นแท้ๆ
ใช่....ไม่น่าจะสำคัญถึงขนาดต้องลองเขียนด้วยดินสอก่อนตั้งหลายแผ่นก่อนจะนำมาดูอีกครั้งว่าแผ่นไหนเขียนได้ดีที่สุดก็ทำเอาหมดไปค่อนวันแล้วแถมยังต้องมานั่งคัดลายมือลงบนจดหมายทั้งๆที่ไม่จำเป็นเลยสักนิดเดียว
คงมีต้นไม้หลายต้นในวันนั้นที่ต้องร้องไห้เพราะผมใช้มันไปอย่างไร้ค่าเพียงแค่ไม่อยากให้มีรอยลบบนกระดาษเพราะมันจะดูเหมือนว่าตัวเองนั้นตั้งใจและทุ่มเทกับมันแค่ไหน...แค่เขียนผิดตัวเดียวผมก็ต้องมานั่งเขียนใหม่ตั้งแต่ต้น
เท่านั้นยังไม่พอ...ไอ้ข้อความเหมือนจะสั่งสอนที่ผมเขียนไปนั่นคืออะไร?!
ความจริงผมไม่ได้ตั้งใจเลยนะที่จะเขียนไปแบบนั้นแต่มันไม่รู้ว่าจะเขียนยังไงนี่นา...นั่นเป็นข้อความที่ได้ถูกคัดเลือกมาจากข้อความต่างๆที่ผมเขียนไว้แล้ว
อยากจะรู้ว่าเขียนอะไรบ้างเหรอ?
เอ่อ...ไม่ดีมั้ง
ก็ได้ๆ...งั้นแค่สองสามแผ่นพอนะ
‘ สวัสดีครับ...ความจริงไม่ต้องขอบคุณผมก็ได้นะครับเพราะผมเต็มใจที่จะทำแบบนี้เอง....ยังไงก็ขอบคุณที่อุตส่าเขียนจดหมายมาขอบคุณนะครับ...’
‘ ดีใจที่คุณได้รับจดหมายคืนแล้วนะครับ...ผมเองก็คิดว่าเป็นจดหมายสำคัญแปลว่าผมตัดสินใจถูกที่ส่งคืนไป...ขอบคุณที่ตอบกลับมาให้รู้นะครับ’
‘ คงคิดไม่ผิดที่ตัดสินใจส่งจดหมายคืนคุณ...หวังว่าคุณคงไม่ส่งผผิดอีกนะครับ...ที่คุณบอกว่าอยากรู้จักผมงั้นผมคงต้องบอกว่ายินดีที่ได้รู้จักใช่ไหม?’
ประมาณนี้แหละ...มันค่อนข้างน่าอายมากถึงมากที่สุดที่วันๆไม่ยอมทำงานเอาแต่นั่งเขียนจดหมายแถมแต่ละแผ่นมันช่าง....เอาเป็นว่ามันผ่านไปแล้วละกัน
ผมได้ไปส่งจดหมายในวันเสาร์เพราะวันอื่นผมเลิกงาน5โมง...และตอนที่ไปรษณีย์ผมก็ต้องเจอกับคำถามเดิมที่ยังงงไม่หาย...
ครั้งนี้ผมได้ยินว่าส่งแบบลงทะเบียนอะไรนี่แหละเลยลองแบบนี้ดู...เท่าที่จำได้ครั้งที่แล้วผมไม่ได้ส่งแบบนี้ใช่ไหม?...แถมครั้งนี้ยังถูกกว่าอีก
สรุปแล้วมันต่างกันยังไงผมก็ไม่รู้หรอก...เอาเป็นว่าส่งไปได้เรียบร้อยล่ะกัน
“...คงต้องรอสินะ”ผมพึมพำขึ้นหลังจากพิมพ์บัญชีลงคอมพิวเตอร์เสร็จแล้วบัญชีนึง
...รอ??
แล้วผมจะไปรอทำไมล่ะ...ทำอย่างกับว่า...
ผมรอจดหมายจากเขาน่ะสิ...!!!
คุณใส่อะไรมากับจดหมายใช่ไหมเนี่ย...คุณธีราทร ภูมิทักษา!!!
ทำไมเผลอทีไรเป็นต้องนึกถึงชื่อนี้ทุกทีนะ!
ผมปิดคอมพิวเตอร์ก่อนจะเดินกลับบ้านเหมือนปกติ...วันนี้ผมกะจะทำกับข้าวกินเองที่บ้านเพราะวันนี้เป็นวันศุกร์พอดีพรุ่งนี้ผมจะได้มีเวลาพัก...
หลังจากแวะซื้อของที่ตลาดเสร็จก็เดินตรงกับบ้าน....หลายวันมานี้เกิดอะไรแปลกๆขึ้นกับผมโดยไม่รู้ตัว...พอมารู้อีกทีก็ไม่รู้จะแก้นิสัยนี้ยังไงแล้ว
‘สั่น…’
ใช่...มือผมจะสั่นทุกครั้งที่เปิดดูกล่องรับจดหมายหน้าบ้านแม้ว่ามันจะว่างเปล่าก็ตามทีเถอะ...วันนี้ก็เช่นกัน...เมื่อหยุดอยู่หน้ากล่องรับจดหมายใจผมก็เต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุแถมมือยังสั่นสุดๆด้วย
แกร็ก!
“....!”ผมมองของข้างในด้วยความรู้สึกปนเปกันไปหมดจนผมเองก็ไม่เข้าใจแต่ที่รู้ๆคือความรู้สึกนึงที่เด่นชัดขึ้นมาจนผมไม่รอช้าที่จะหยิบซองจดหมายนั้นแล้วรีบเดินเข้าบ้านในทันที
‘ดีใจที่เขาตอบกลับ’
ผมนั่งลงที่โซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วหันไปวางกระเป๋าไว้ข้างๆก่อนจะหันกลับมามองจดหมายซองสีฟ้าในมือ....ลงทุนไปซื้อซองสีฟ้ามาเลยเหรอ?
ผมยิ้มนิดๆกับความคิดของตัวเองก่อนจะสะบัดหัวไปมา
ชักบ้าไปใหญ่ล่ะ!
เขาอาจจะมีอยู่แล้วก็ได้ใครจะไปรู้
อย่าคิดเองเออเองสินัท!
ผมบอกตัวเองแล้วเริ่มลงมือแกะจดหมายในมือ ในไม่ช้ากระดาษที่อยู่ภายในก็ปรากฏต่อหน้าผม...
‘สีฟ้า’
หมายถึงกระดาษข้างในน่ะนะ...ครั้งที่แล้วยังเป็นแค่กระดาษรายงานสีขาวธรรมดาๆอยู่เลยแต่มันก็เรียกรอยยิ้มผมได้ล่ะนะ...ผมสัมผัสถึงความใส่ใจผ่านมาทางจดหมาย
ก่อนที่จะฟุ้งซ่านมากไปกว่านี้ผมควรเริ่มอ่านสักที...
‘ สวัสดีครับคุณวรนัตรผมดีใจมากที่คุณตอบจดหมายผมกลับมา...ก่อนอื่นคงต้องบอกว่า ‘ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ’ ผมอยากแนะนำตัวเองให้คุณรู้จักก่อนนะครับ ผมชื่อ ธีราทร ภูมิทักษา เรียกผมว่าเทมก็ได้...ตอนนี้ผมอายุ23ครับทำงานเป็นโปรแกมเมอร์อยู่ที่บริษัทxxxครับ...ผมหวังว่าคุณจะตอบจดหมายของผมอีกนะครับ
ธีราทร ’
หลังจากที่ผมได้อ่านจดหมายฉบับนี้ผมก็ได้เริ่มติดต่อกับนาย ธีราทร ภูมิทักษาหรือเทมนั่นแหละ...ผมไม่ใช่พวกชอบเขียนจดหมายอะไรนักแต่ผมกลับต้องมานักตอบจดหมายที่ส่งมาให้อย่างสม่ำเสมอตลอดหลายอาทิตย์ที่ผ่านมาแต่ผมก็ส่งกลับไปแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้นอย่างที่บอกไปว่าผมเลิกงานเย็นแล้วผมก็ไม่อยากเดินออกมาส่งตอนกลางวันด้วย...แต่ความจริงก็คือผมไม่รู้จะเขียนอะไรมากมายนัก
แต่ดูเหมือนน้องเทม(?)จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากเลยล่ะ
ก็ดูจดหมายแต่ละฉบับบที่ส่งมาให้สิ...
‘ สัวสดีครับคุณนัท(ผมขอเรียกแบบนี้ได้ไหมครับ)...หรือผมควรเรียกว่าพี่นัท...ไม่คิดว่าคุณจะอายุมากกว่าผมขนาดนี้นะแต่ไม่มีปัญหาไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ผมก็ยังอยากที่จะทำความรู้จักกับคุณอยู่ดี...คุณเขียนมาว่าทำงานเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีสุดยอดเลยนะครับผมก็เคยคิดที่จะเรียนบัญชีเหมือนกันแต่พอได้ลองไปเปิดบ้านของคณะบัญชีที่ม.xxxนะผมก็รู้สึกได้ว่าผมมาอยู่ที่ดาวอื่นรึเปล่า....ไม่ว่าพวกพี่เขาจะพูดหรือให้ลองทำบัญชีดูผมรู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่างเลยล่ะ555+สุดท้ายผมก็มาเรียนโปรแกรมเมอร์เนี่ยแหละ...ดีใจจังที่ได้คุยกับคุณ
ธีราทร ’
ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรระเบิดบนผิวแก้มผมเมื่ออ่านประโยคสุดท้ายจบ...อย่าได้ถามเลยว่าทำไมตอนนี้ขอให้หัวใจผมเต้นเบาลงหน่อยเถอะ...ความจริงก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะอายุน้อยกว่าขนาดนี้หรอกนะหรือความจริงอาจเป็นผมเองที่อายุมากไปตัวอักษรแต่ละตัวอักษรที่เขาเขียนมันทำให้ผมยิ้มแทบทุกครั้งไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม
ทั้งๆที่ไม่เคยได้เจอกัน
เรียกว่าคนรู้จักจะได้ไหมนะ...เอาเป็นว่าคนรู้จักทางจดหมายละกัน
หลังจากนั้นผมก็เขียนจดหมายตอบเขาไปแต่ผมไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรดีก็เลยได้แค่ข้อความสั้นๆเพียงไม่กี่บรรทัดเท่านั้นแต่ผมก็พยายามแล้วนะแล้วความพยายามที่สุดของผมคือประโยคสุดท้ายนั่นแหละหวังว่าเขาจะเข้าใจมันนะ...จะมีใครเห็นไหมเนี่ยว่าเหมือนมีควันออกจากหน้าผมตอนที่เขียนประโยคนั่นน่ะ!
ไม่นานผมก็ได้รับจดหมายตอบกลับมาอีกเช่นเคย...พอผมลองไปค้นหาพวกการส่งไปรษณีย์ดูผมก็ได้รู้อะไรต่างๆเพิ่มมากมายอย่างเช่นการส่งแบบด่วนพิเศษหรือEMSถึงจะแพงหน่อยแต่จะเร็วมากเหมือนกับที่เทมส่งแบบEMSมาให้ผมทุกครั้ง
ในเมื่อเขาส่งแบบนี้มาให้ผมก็ควรจะส่งไปแบบเดียวกันถึงจะเท่าเทียมสินะ?
‘ สวัสดีครับพี่นัท...ผมตัดสินใจว่าจะเรียกคุณว่าพี่ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป...มันดูเหมือนว่าเราสนิทกันมากขึ้นเลยพอผมเรียกพี่แบบนี้...ที่พี่เขียนว่าดีใจเหมือนกันผมขอเข้าข้างตัวเองได้ไหมว่าหมายถึงดีใจที่ได้คุยกับผมเหมือนกันน่ะ...พี่ไม่รู้หรอกว่าผมดีใจแค่ไหนที่เห็นประโยคสุดท้ายนั่น...พอได้คุยกับพี่ผมรู้สึกเหมือนผมกำลังจะประสาทที่นั่งยิ้มไปเวลาที่เขียนจดหมายตอบพี่น่ะ...พี่รู้ไหมว่าที่ทำงานผมหาว่าผมกำลังติดสาวอยู่...ความจริงผมกำลังติดพี่อยู่ต่างหาก(ล้อเล่นครับ55+)...วันนี้ผมมีประชุมด้วยล่ะอยากบอกว่าผมไม่ได้ฟังเลย...ไม่ได้ขี้เกียจนะพี่แต่พูดกันแต่เรื่องเดิมๆตลอดมันก็น่าเบื่อน่ะครับ...อีกไม่นานก็จะวันตรุษจีนแล้วพี่มีแต๊ะเอียให้ผมไหมครับ?...ล้อเล่นนะพี่ผมไม่ได้อยากให้เงินหรอกครับ...ไว้ผมจะเขียนไปหาอีกนะพี่นัท
ธีราทร ’
ฉ่า!
โปรดอย่าถามว่าเกิดอะไรขึ้น...ตอนนี้หน้าผมคงร้อนจนสามารถทอดปลาได้แล้วล่ะไม่เห็นต้องเขียนมาถามอีกครั้งเลยนี่ใครมันจะไปกล้าตอบเล่า
จดหมายนี่ทำให้ผมได้รู้ว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่นั่งยิ้มไปเขียนไป...เทมก็เป็นเหมือนกัน
นั่นสินะ...อีกไม่นานก็จะถึงวันตรุษจีนแล้วนี่นา
ใกล้ได้เวลาไปหาซื้อของเตรียมไหว้แล้วสิ...การที่ผมอยู่คนเดียวทำให้เวาลาทำอาหารอะไรก็จะจัดเป็นอย่างละนิดละหน่อยเพราะผมอยู่คนเดียวแล้วอาหารพวกนั้นก็อยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ด้วย
แต๊ะเอียเหรอ?
จะว่าไปผมยังไม่เคยให้ใครเลยนี่นา...ก็ไม่มีเด็กรู้จักที่ไหนนี่นา
เด็กเหรอ...กับเทมนี่จะเรียกว่าเด็กคงไม่ได้แล้วมั้ง?
ไม่อยากได้เงิน...งั้นหาอย่างอื่นให้ก็ละกัน
“...ค่อยไปปหาวันเสาร์ละกัน”ผมพึมพำก่อนจะนอนหลับไปพร้อมรอยยิ้ม
และอีกไม่กี่วันต่อมาผมก็ต้องประหลาดใจที่มีจดหมายจากเทมส่งมาอีกฉบับทั้งๆที่ผมยังไม่ได้ตอบจดหมายเขาเลย...พอผมเปิดอ่านดูก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
‘ สวัสดีครับพี่นัท...พี่คงสงสัยใช่ไหมว่าทำไมพี่ยังไม่ทันส่งตอบผมกลับมาผมก็ส่งจดหมายมาให้พี่อีกแล้ว...ความจริงคือมันมีเรื่องที่ผมพึ่งรู้และผมต้องบอกพี่ให้ได้อยู่น่ะ...คือตั้งแต่วันที่9-15กุมภาพันธ์นี้ผมต้องไปเที่ยวกับพี่ไม้ที่เป็นหัวหน้าผมครับ...ไปกันทั้งแผนกเลยครับผมเลยคิดว่าผมคงไม่ได้ตอบจดหมายที่พี่ส่งมาให้แน่ๆก็เลยส่งมาอีกฉบับเผื่อพี่จะคิดถึงผม(ว่าไปนั่น)...ไว้ผมกลับมาแล้วจะเล่าให้ฟังจะครับว่าผมไปทำอะไรมาบ้าง...ผมรู้สึกเหงานิดหน่อยแฮะที่จะไม่ได้อ่านจดหมายที่พี่ส่งมา...อาทิตย์นึงเลยนะครับนานจริงๆเลย...ผมล่ะไม่อยากไปเลยแต่ถูกบังคับว่าต้องไปเลยปฏิเสธไม่ได้...หวังว่าพอผมกลับมาจะได้อ่านจดหมายตอบของพี่นะครับ
ธีราทร ’
“ใครจะไปคิดถึงกันเล่า...”ผมพึมพำระหว่างที่อ่านจดหมายถ้ามีใครผ่านมาคงจะเห็นได้ชัดเลยล่ะว่าแก้มตนเองแดงแค่ไหน
“ได้อ่านอยู่แล้วล่ะ....แถมยังได้ของอย่างอื่นด้วยนะ”ผมบอกกับจดหมายแล้วคลี่ยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเตรียมตัวไปหาซื้อของให้เทมที่ห้างวันนี้
................................................
“กลับก่อนนะครับพี่ๆเพื่อนๆ”ธีราทรบอกกับทุกคนในห้องก่อนจะเดินออกมา
“เฮ้ยๆ...เดี๋ยวสิเทมวันนี้ไม่ไปดื่มด้วยกันเหรอไอ้วิวมันเป็นคนเลี้ยงเลยนะ”พีชรีบตะโกนแล้ววิ่งมารั้งผมไว้และทำหน้าประมาณว่า
งานนี้ห้ามพลาด!!
แต่หน้าเสียดายที่ผมคงต้องพลาดซะแล้ว
“วันนี้ไม่ได้จริงๆไว้วันอื่นเถอะ...วันนี้รีบจริงๆขอตัวก่อนนะ”ผมบอกพร้อมกับดึงแขนให้หลุดออกจากการจับกุมนั่นแล้วรีบวิ่งออกจากบริษัทอย่างรวดเร็ว
วันนี้ไม่ได้จริงๆ
ก็วันนี้น่าจะเป็นวันที่จดหมายน่าจะมาถึงผมนี่นา
ความจริงควรจะมาถึงตั้งแต่เมื่อวานแล้วแต่กลับไม่มีแปลว่าเขาคงจะส่งแบบลงทะเบียนไม่ใช่EMSเหมือนที่ผมส่งให้...เพราะงั้นยังไงๆวันนี้ผมต้องได้จดหมาย
ผมอุตส่าแนะนำตัวพร้อมอายุไปแล้วนะแปลว่าอย่างน้อยเขาก็ต้องบอกชื่ออายุให้ผมรู้แน่ๆ
ว่าแต่เขาจะชื่อเล่นว่าอะไรนะ
อยากรู้จัง
ผมรีบออกจากลิฟท์แล้ววิ่งไปดูกล่องรับจดหมายที่หน้าห้องทันทีเมื่อเห็นซองจดหมายสีเขียวอ่อนอยู่ภายในก็ทำเอาผมยิ้มซะจนแก้มแทบปริ
ครั้งก่อนผมลงทุนไปซื้อซองจดหมายกับกระดาษใหม่เลยนะ...จะได้ดูดีขึ้นไงแต่ไม่คิดว่าเขาก็จะทำแบบเดียวกันกับผม
แปลว่าเขาก็ใส่ใจผมเหมือนที่ผมใส่ใจเขาใช่ไหม?
“...หรือเขาอาจมีอยู่แล้วก็ได้”พอนึกขึ้นได้ก็ทำเอาหุบยิ้มโดยอัตโนมัติ
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม...ทั้งๆที่ปกติผมไม่ค่อยชอบเรียกร้องความสนใจใครแต่กลับเขาผมกลับอยากอ้อนซะอย่างนั้น...ท่าจะบ้าไปแล้วแน่ๆ
ผมกลับเข้าไปในห้องแล้วเปิดอ่านข้อความในจดหมายนั้นอย่างไม่รีรอ...
‘ สวัสดีครับเทม ผมชื่อ วรนัตร รัตรนเทวา...เรียกว่านัทก็ได้...ผมอายุ30แล้วตอนนี้ทำงานเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีอยู่ที่บริษัทxux...ผมพูดไม่ค่อยเก่งเลยไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรลงไปดีแต่ผมก็ดีใจที่คุณตอบกลับมาเช่นกัน
วรนัตร ’
ข้อความสั้นๆที่ทำเอาผมถึงกับกลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่
“เขาดีใจที่เราตอบกลับโว้ยยยยย!!!”ผมตะโกนออกมาดังๆแล้ววิ่งรอบห้องไปพร้อมกัน
ตอนนี้ผมไม่อายหรอก
ไม่อายสักนิด!
ก็ตอนนี้ผมอยากจะหาอะไรมาระบายไม่งั้นผมคงได้สลบไปพร้อมรอยยิ้มแน่ๆเลย
คุณนัทหรือจะเรียกว่าพี่นัทดีล่ะ
ถึงเขาจะอายุมากกว่าผมแต่ผมก็ไม่สนหรอก...อยากรู้จักมากกว่านี้จัง
แต่เท่าที่เห็นเขาคงจะพูดไม่เก่งจริงๆนั่นแหละ...หรืออาจจะแค่เขียนไม่เก่งก็ได้
ก็ดูสิ...จดหมายผมเขียนไปตั้งเยอะตอบกลับมาไม่เคยเกิน4บรรทัด
‘ สวีสดีครับเทม...จะเรียกแบบไหนก็แล้วแต่เลยผมไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้มากนักแต่ก็ไม่คิดว่าคุณจะอายุน้อยขนาดนั้นเหมือนกัน...การทำบัญชีมันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก...มันอาจไม่ใช่สิ่งที่คุณถนัดก็ได้เหมือนกับที่คุณสามารถสร้างโปรแกรมใหม่ๆได้แต่ผมทำไม่เป็นเลย...ดีใจเหมือนกัน
วรนัตร ’
...แต่ผมก็ดีใจนะที่ผมได้จดหมายจากเขา
เขามักจะเขียนข้อความสั้นๆแต่ผมว่ามันค่อยๆยาวขึ้นทีละนิดๆนะแปลว่าเขาพยายามที่จะเขียนมันเพื่อผมใช่ไหม?
พอคิดได้แบบนั้นก็ยิ่งทำให้ผมหน้าบานขึ้นอย่างช่วยไม่ได้และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่ค่อนข้างใส่ใจคนอื่นอยู่พอสมควรไม่ใช่คนขี้ประจบและก็ไม่ได้เป็นพวกชอบอวดเก่ง
ผมชมเขาไปและเขาก็ตอบกลับมาอย่างถ่อมตัวแถมยังดูเหมือนจะชมผมด้วยสิ
แต่ไอ้ประโยคสุดท้ายนั่นน่ะ
‘ดีใจเหมือนกัน’
“อ่า...คุณหมายถึงดีใจที่ได้คุยกับผมใช่ไหมครับพี่นัท”ผมแหงนหน้ามองเพดานห้องแล้วพึมพำออกมาเบาๆด้วยรอยยิ้ม
ผมคิดเข้าข้างตัวเองได้ใช่ไหม?
ตัดสินใจแล้วว่าต่อจากนนี้จะเรียกเขาว่าพี่นัทจะได้เป็นการเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีด้วย
วันรุ่งขึ้นผมก็เขียนจดหมายและออกไปส่งช่วงพักกลางวันเหมือนเดิม...พวกพี่ๆเพื่อนๆก็แซวผมกันใหญ่เลยประมาณว่านั่งเขียนจดหมายนี่มันต้องยิ้มไปด้วยเหรอ?
อันนี้ผมเองก็อยากจะรู้เหมือนกันแหละ
ความจริงผมก็ไม่รู้จะเขียนอะไรเหมือนกันเลยพูดถึงเทศกาลที่ใกล้เข้ามาอย่างตรุษจีนไหนๆก็ไหนๆเลยลองขอแต๊ะเอียดูซะเลย...แต่ผมไม่ได้อยากได้จริงๆหรอก
ถ้าเลือกได้ก็อยากให้มาเจอกันมากกว่า...แต่ผมเองก็รู้ว่ามันยังเร็วเกินไป
พวกเราพึ่งเริ่มทำความรู้จักกันไม่นานเอาจริงๆก็ยังไม่ถึงเดือนเลยด้วยซ้ำ
ทำไมผมถึงรู้สึกแบบนี้กันนะ...พี่นัท
และแล้ววันต่อมาก็ทำเอาผมเครียดไปเลย....ทางบริษัทมีโปรแกรมให้แต่ละแผนกไปพักค้างคืนเพื่อพักผ่อนครั้งนี้ก็ถึงตาของแผนกผม
เอาตรงๆนะไม่ได้อยากไปเลย
ผมอยากอยู่รอรับจดหมายจากพี่นัทมากกว่านี่!
แถมไปตั้งอาทิตย์...ผมขาดใจตายแน่ๆเลย
ผมพยายามบอกที่แผนกว่าไม่ไปมีธุระที่สำคัญมาก ส่งผลให้พี่ไม้ออกโรงมาบังคับ(อ้อนวอน)ให้ผมไปด้วยตัวเอง
สุดท้ายผมก็ต้องไปอย่างขัดไม่ได้หลังจากเลิกงานผมก็เลยต้องมานั่งเขียนจดหมายถึงพี่นัทอีกฉบับนึงเพื่อบอกให้เขารู้จะได้ไม่คิดว่าผมจะตัดการติดต่ออะไรเขาเลย
ถ้าเป็นไปได้อยากให้พี่นัทส่งจดหมายมาให้ผมทุกวันจัง
คงจะมีความสุขน่าดู
ตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ไปเที่ยวผมอยากจะให้ถึงวันกลับเร็วๆ...ผมเหงา...ผมเบื่อ...ผมอารมณ์ไม่ดี...ไม่รู้สิ...ขนาดตัวผมเองยังไม่รู้เลย
แต่ที่รู้แน่ๆคือผมคิดถึงพี่นัท
คิดถึงจนจะบ้าอยู่แล้ว!!
แล้วพี่นัทล่ะจะคิดแบบเดียวกันไหม?
..................................................................................................
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์นะค่ะ
ทุกคำติชมเราจะเอาไปแก้ไขค่ะ
พี่นัทกับเทมอีกไม่นานคงจะได้เจอกันแล้ว?

ยังไงก็สุขสันต์วันตรุษจีนล่วงหน้านะค่ะ
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
จู้หนี่ซุ่นลี่และจู้หนินปู้ปู้เกาเซิง
กันถ้วนหน้านะค่ะ
ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ

nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪