✉ จดหมายฉบับที่ 11✉ตื่นสาย! ลืมของ! แต่มีความสุข!!วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากๆเลยครับ
ผมนายธีราทรหรือเทมเองครับ...หลังจากที่ผมได้คุยกับพี่นัทจนเกือบเต็มอิ่ม...ความจริงผมไม่ได้รู้สึกงอนหรือโกรธอะไรพี่เขาหรอกนะ...ผมแค่อยากแกล้งเท่านั้นเองหลังจากที่ผมรู้ว่าพี่นัทเป็นห่วงผมไม่ได้ไล่ผม
ทำให้ผมมีความสุขมากๆจนไม่สามารถบรรยายเป็นคำพูดได้เลยล่ะ...ถึงพี่นัทจะพูดด้วยท่าทางและน้ำเสียงนิ่งๆแต่ผมคิดว่าภายในพี่เขาต้องเป็นคนที่ทั้งอ่อนโยน...ใจดีและเอาใจใส่คนอื่นแน่นอน
เพียงแค่แสดงออกไม่เก่งเท่านั้นเอง
น่าเสียดายที่พี่ไม้เข้ามาขัดผมซะก่อนไม่งั้นผมคงได้อยู่กับพี่นัทนานกว่านี้แล้วล่ะ
วันนี้พอเลิกงานทั้งๆที่ตั้งใจจะรอพี่นัทจะได้รู้ที่อยู่สักหน่อยแต่กลับโดนเพื่อนพีชลากให้ไปกินข้าวด้วยกันซะงั้น...ผมทั้งขัดขืนทั้งบอกเหตุผลแต่ก็ไม่ได้รับการอนุมัติจากไอ้พีช...ถึงขนาดนี้คงไม่ต้องสุภาพกันแล้วมั้ง
สุดท้ายผมก็ต้องมากินข้าวเย็นเป็นเพื่อนพีชกว่าจะได้กลับห้องก็ปาไป6โมงกว่าแล้ว
"...อยากเจอพี่นัทจัง"ผมพึมพำในขณะที่เดินมาถึงหน้าห้องของตัวเอง
"จริงสิ...พี่นัทบอกว่าส่งจดหมายมาให้นี่นา"ผมพึมพำแล้วเปิดดูกล่องรับจดหมาย
"....."ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นซองจดหมายสีเขียวอ่อนอยู่ภายใน...ผมหยิบมันก่อนจะเดินเข้าไปในห้องของตัวเอง
ผมตัดสินใจที่จะอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนค่อยเปิดจอดหมายของพี่นัทอ่าน....ถ้าพี่นัทอยู่ห้องข้างๆก็ดีสิ...ถ้าเป็นแบบนั้นผมจะไปหาทุกวันซื้อข้าวเช้าไปให้
ตอนกลางวันก็ออกไปกินด้วยกันส่วนตอนเย็นก็กลับมาทำอะไรง่ายๆกินกันสองคน
"...อ่า...คิดอะไรบ้าๆห๊ะไอ้เทม!!"ผมเอามือขยี้หัวตัวเองแรงๆทีนึงก่อนจะปิดน้ำจากฝักบัวแล้วพันผ้าเช็ดตัวที่เอวเดินออกมาข้างนอก...ผมใช้เวลาไม่นานในการแต่งตัวก่อนจะล้มตัวนอนลงบนเตียงโดยที่ไม่ลืมหยิบจดหมายที่พี่นัทส่งมาให้
ผมแกะซองอย่างช้าก่อนจะหยิบกระดาษภายในออกมาแล้วไล่สายตาอ่านข้อความในจดหมาย
'สวัสดีเทม...วันนี้พี่มีเรื่องน่าตกใจมาบอกด้วย...เทมเคยบอกว่าทำงานอยู่ที่บริษัทxxxใช่ไหม?...พี่ถูกย้ายงานให้ไปทำที่นั่น2เดือนน่ะ...เราคงจะได้เจอกันที่นั่นสินะ...รู้สึกตื่นเต้นจัง
วรนัตร '
ข้อความที่เขียนก็มีแค่นั้น...
"ผมกำลังจะเป็นบ้าเพราะพี่แล้วนะ...จะทำให้ผมหลงไปถึงขนาดไหนกัน..."ผมหลับตาแล้วยกมือก่ายหน้าผากเบาๆ
ความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายในนี้ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าจะปะทุออกมา...ผมไม่อยากจะเชื่อว่าผมจะมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้ชาย...แถมยังมีอายุมากกว่าตัวเองอีกต่างหาก
ผมแน่ใจในความรู้สึกตัวเองตั้งแต่ที่เห็นหน้าพี่นัทครั้งแรกแล้ว
ผมไม่เคยใจเต้นแรงขนาดนี้กับใคร
ผมไม่เคยโหยหาใครมากเท่านี้
ผมไม่เคยคิดถึงใครจนจะเป็นบ้าแบบนี้
และผมไม่เคยอยากสัมผัสใครแบบนี้มาก่อน
พี่นัทเป็นครั้งแรกของหลายๆความรู้สึกที่เกิดขึ้น
และยังเป็นคนแรกที่ทำให้ผมเป็นได้ขนาดนี้
แค่ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงหัวใจมันโหวงๆ...ไม่อยากแม้กระทั้งขยับร่างกาย
ตอนนี้ผมรู้ตัวแล้ว...
ไม่สิต้องบอกว่ารู้ตั้งแต่ตอนที่ได้รับโน้ตใบเล็กนั่นแล้ว...
ผมชอบพี่นัท
ผมหลงพี่นัท
และผม...รักพี่นัท
ผมหลับไปพร้อมกับความคิดมากมายในหัว...แต่ถึงจะมีหลายเรื่องให้คิดแต่ก็มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่อยู่ในความคิดผม
'พี่นัท'
................................................
...............................
..............
....
.
เช้าวันต่อมาผมตื่นสายนิดหน่อยเลยต้องรีบทั้งอาบน้ำและรีดผ้า...ปกติผมจะรีดผ้าตอนกลางคืนแต่เมื่อวานในหัวมีแต่เรื่องพี่นัทเต็มไปหมดเลยทำให้ลืมไปซะสนิท
ตอนนี้ผมเลยต้องมายืนรีดผ้าทั้งๆที่ตอนนี้7โมงจะครึ่งแล้ว
ตอนแรกผมวางแผนไว้แล้วนะว่าจะไปถึงที่บริษัทเช้าๆเพื่อเตรียมกาแฟให้พี่นัท...พอพี่นัทมาถึงผมจะได้เป็นคนแรกที่ได้เจอ ได้ทักและได้พูดคุย
เนื่องจากวันนี้ผมไม่มีงานอะไรเร่งด่วนผมกะจะไปอยู่ที่ห้องพี่เขาทั้งวันเลย
แต่พอมาคิดอีกทีพี่เขาก็ต้องทำงานถ้าผมอยู่ด้วยคงจะรบกวนสมาธิพี่เขาเปล่าๆ....จะให้ทำไงล่ะก็อยากอยู่ข้างๆให้นานที่สุดนี่นา
ก่อนจะได้เจอก็เฝ้าคอยแต่จดหมายของพี่นัทจนจะเป็นบ้าพอเจอแล้วก็ดันจะทำตัวเป็นโรคจิตอีก...หรือเป็นสโตกเกอร์ดีล่ะ?
“...พี่นัท”ผมพึมพำชื่อพี่เขาในขณะที่เริ่มสวมเสื้ออุ่นๆที่พึ่งรีดเสร็จใหม่ๆด้วยความเร็วก่อนจะตามด้วยกางเกงขายาว...
ตอนนี้ผมต้องสะบัดเรื่องพี่นัททิ้งไปก่อนไม่งั้นผมได้สายแน่ๆถ้าเอาแต่เหม่อคิดมโนไปเรื่อยแบบนี้น่ะเพราะยังไงตอนนี้ผมก็คงไม่สารถทำตามแผนที่วางไว้ได้แล้วล่ะ...พี่นัทคงจะถึงที่บริษัทแล้วแน่ๆเลย...เท่าที่สังเกตพี่เขาดูจะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบค่อนข้างสูง
“โธ่เว้ย!...ลืมกระเป๋าเงิน!!”ผมบ่นออกตอนที่กำลังจะเปิดประตูห้องแต่ดันนึกได้ว่าลืมกระเป๋าเงินไว้ที่ห้องนอน...ผมรีบวิ่งเข้าไปเอาแล้วสำรวจตัวเองอีกรอบว่าไม่ลืมอะไรแล้วก่อนจะรีบออกจากห้องไปแล้วตรงไปเข้าลิฟท์
ตึ๋ง!
ทันทีที่เสียงลิฟท์ดังขึ้นผมก็แทบจะวิ่งออกมาก่อนจะตรงไปยังที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ผม...ที่จอดมอเตอร์ไซค์ที่คอนโดผมจะอยู่ชั้นล่างสุดโดยแบ่งเป็นสัดส่วนแยกทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์หรือแม้แต่จักรยาน
ผมรีบวิ่งข้ามทางออกของที่จอดรถแล้วตรงไปยังมอเตอร์ไซค์ตัวเอง...พอจะหยิบกุญแจที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็...
“หายไปไหน!!!”ผมตะโกนขึ้นอย่างร้อนรนแล้วควักดูทีละกระเป๋า....จนแล้วจดรอดก็หาไม่เจอสักที...ผมใช้เวลานึกอยู่สักพักนึง...
“โธ่เว้ย!...อยู่บนห้อง!!”ผมบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องอีกครั้ง...ผมหันไปมองทางซ้ายก็เห็นรถเก๋งคันสีเงินกำลังขับมาผมเลยยืนรอให้ไปก่อน
แต่...
“....??”ผมมองรถเก๋งคันสีเงินอย่างงงๆ...แทนที่จะขับออกไปดันมาหยุดอยู่ข้างหน้าผมซะงั้น...ผมมองไม่เห็นคนในรถด้วยเพราะติดฟิล์มสีดำไว้
ไม่นานนักความสงสัยผมก็หายไปแต่แทนที่ด้วยความตะลึงหลังจากที่กระจกรถฝั่งคนขับหรือข้างที่ผมยืนอยู่นั่นแหละเลื่อนลงมาจนเห็นคนที่นั่งอยู่ข้างใน
“พี่นัท!!”ผมอุทานอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
นี่ผมฝันอยู่เหรอ?
ทำไมพี่นัทมาอยู่นี่ล่ะ?
มารับผม...?
คิดได้เนอะไอ้เทม...พี่เขาจะรู้ว่าแกอยู่นี่ได้ไงเล่า!!!
“อย่ามัวแต่ทำหน้างง...รีบขึ้นมาสิจะสายแล้วนะ”พี่นัทที่นั่งอยู่ในรถส่งเสียงเรียกสติผมกลับมาด้วยสายตาตำหนินิดๆผมเลยได้แต่พยักหน้าแล้ววิ่งอ้อมไปขึ้นอีกข้างของรถ...หลังจากที่ผมขึ้นมาพี่นัทก็ขับรถออกไปทันทีระหว่างทางมีแต่ความเงียบและผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอะไรก่อนดี
ตอนนี้ความเครียดจากการเร่งรีบเมื่อสักครู่นี้ได้อันตทารหายไปตั้งแต่ได้เห็นหน้าพี่นัทแล้ว...อารมณ์ฉุนเฉียวเมื่อกี๊มันกลายเป็นความดีใจและปราบปลื้มที่ได้มาทำงานพร้อมกับพี่นัทแบบนี้...พอมาคิดดูอย่างมีสติอีกทีเหตุผลเดียวที่พี่นัทมาถึงก็ที่นี่ก็คงจะเป็น...
“พี่พักที่นี่เหรอครับ?”ผมถามออกไปตามความคิด
ก็มันไม่น่าจะมีเหตุผลอื่นแล้วนี่นา
“..ใช่...ไม่คิดว่าคุณก็จะพักที่นี่ด้วยนะ”พี่นัทตอบผมโดยที่สายตายังมองไปที่ถนนอยู่
‘คุณ’
พี่นัทเรียกผมว่าคุณเหรอ?
“พี่นัท....อย่าพูดสุภาพแบบนั้นกับผมได้ไหม?...ฟังดูห่างเหินยังไงไม่รู้”ผมบอกพี่นัทด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ...ผมไม่ชอบให้มาพูดสุภาพแบบนี้เลย
มันไม่ใช่
มันไม่ใช่จริงๆ
“...ที่บริษัทถ้าพี่พูดแบบนี้มันจะดีกว่านะ”พี่นัทให้ตุผล
“ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่บริษัทสักหน่อย”ผมตอบกลับไปทันที
“....”แล้วพี่นัทก็นึ่งไม่ตอบอะไรผมกลับมา
“ถ้างั้นพี่ต้องเรียกผมว่าเทมและแทนตัวเองว่าพี่ตอนเราอยู่กันสองคนได้ไหมครับ?”ผมหันไปทางพี่นัทแล้วขยับหน้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆจนได้กลิ่นหอมๆของแป้งเด็กที่ลอยมาจากแก้มขาวๆนั่น
น่าฟัดชะมัด!
เอี๊ยดด!!
“เฮ้ย...!!”ผมอุทานทันทีที่พี่นัทเยียบเบรกมิดจนหัวผมเกือบทิ่มดีนะที่ไม่มีรถตามมาน่ะ
“..ทะ...ทำบ้าอะไรของคุณน่ะ!!!”พี่นัทหันมาตะโกนใส่ผมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำรามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง...เป็นภาพที่น่ารักซะจริงๆ
พี่นัทไม่ได้เป็นผู้ชายที่สวยเหมือนพวกที่ตัวเล็กตาโตๆแบ๊วๆพวกนั้นแต่ด้วยโครงหน้าที่ดูมีเสน่ห์จมูกโด่งนิดหน่อยดวงตาสีน้ำตาลเรียวๆ...มันอาจเรียกไม่ได้ว่าน่ารักในมุมของใครหลายๆคนแต่สำหรับพี่นัทเขาน่ารัก
น่ารักมากจนผมไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
ถ้าถามว่าน่ารักตรงไหนก็คงตอบได้แค่ว่าน่ารักไปหมดทุกที...ดวงหน้าที่น้ำตาลเข้มตามแบบฉบับคนไทยที่เบิกกว้างขึ้นเล็กในตอนนี้ ริมฝีปากสวยได้ได้รูปที่กำลังพึมพำคำด่าอะไรสักอย่างและแก้มแดงๆที่เหมือนลูกมะเขือเทศช่างน่ากิน เอ้ย น่าฟัดจริงๆ
“ทำอะไรเหรอครับ?”ผมถามด้วยรอยยิ้ม
“ก็เล่นขยับมาใกล้ขนาดนั้นนี่นา”พี่นัทตอบผมโดยที่ใบหน้ายังเป็นสีแดงอยู่
“ก็ผมกลัวพี่นัทไม่ได้ยินนี่นา”ผมตอบไปทันที
“...อยู่กันแค่นี้จะไม่ได้ยินไงยังไงล่ะ”พี่นัทเขาพึมพำแล้วเริ่มขับรถต่ออีกครั้ง
น่ารักจริงๆด้วย
“....”ผมนั่งเงียบๆแล้วเอนตัวพึงเบาะก่อนจะเอียงข้างนิดเพื่อมองใบหน้าของพี่นัทอย่างละเอียด...ผมอยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้
ผมไม่สนว่าจะไปสายหรืออะไรแต่ผมอยากอยู่แบบนี้....ได้ใช้เวลาร่วมกับพี่นัทมากขึ้น
แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว
“...จะจ้องพี่อีกนานไหมเทม?”เสียงของพี่นัทดังขึ้นมาขัดความคิดผม...พี่เขาไม่ได้มองมาทางนี้แต่น้ำเสียงที่พูดกับคิ้วที่ขมวดนั่นคงจะรู้แล้วสิว่าผมจ้องอยู่
ก็นะ...ผมเล่นจ้องไม่วางตาเลยนี่
“...อยากจ้องตลอดไปเลย”ผมหยอดพี่เขาไปสักหน่อย
“.....บ้า!”
“...!!!”ผมเบิกตาขึ้นนิดๆกับท่าทางและคำพูดของพี่นัท
‘บ้า!’
‘บ้า!’
‘บ้า!’
ด่าผมแล้วหน้าแดงด้วยน้ำเสียงแบบนั้น...
ใครมันจะไปโกรธลงครับพี่!!!
ผมรู้สึกเหมือนอะไรบางอย่างในตัวผมกำลังถูกปลุกขึ้นมา
อ่า....ถ้าผมไม่หยุดความคิดตัวเองไว้ผมต้องคว้าตัวพี่เขามาจูบลงโทษสักทีสองทีแน่ๆเลย
อดทนไว้ไอ้เทม!!
ผมพยายามทำสมาธิ...ในไม่ช้าผมก็กลับมาเป็นปกติ
แอบเห็นนว่าพี่นัทเหล่มองผมอยู่น่ะ
น่ารักจริง
ผมน่ะนั่งยิ้มแป้นเลยครับตอนนี้
“พี่ครับ...ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม?”ผมตัดสินใจพูดอะไรออกมาเพื่อทำลสยความเงียบและเป็นการเก็บข้อมูลไปด้วยในตัว
“...อืม”
“พี่พักอยู่ชั้นไหนครับ?”ผมถามทันทีที่ได้รับการอนุญาต
“..14”
ตึก ตัก ตึก ตัก
คำตอบของพี่นัททำให้หัวใจที่เริ่มสงบกลับมาเต้นรัวอีกครั้ง
พี่นัทพักชั้นเดียวกับผม!!!!
อยากจะตะโกนให้ดังลั่นรถถ้าไม่ติดที่ว่าคนข้างๆเป็นพี่นัทล่ะก็นะ
“...เอ่อ...แล้วห้องเลยอะไรเหรอครับ?....ถ้าไม่ตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ”ผมเอ่ยถามออกไป
ความจริงผมอยากรู้นะแต่ก็เข้าใจ...ถึงจะติดต่อกันทางจดหมายแต่พึ่งมาเจอกันแค่วันเดียวจะให้มาบอกเรื่องส่วนตัวพวกนี้มันก็คงไม่ใช่ง่ายๆ
“...04”
“อะไรนะครับ!”ผมถามอีกครั้งเพราะเสียงที่พี่นัทตอบมามันเบามากจริงๆ
“1404!!...ดังพอไหมเทม?!!”
ชัดเลยครับ!
1404
1404!
ห้องผม1403
1404กับ1403
1403กับ1404
ก็ข้างๆกันนี้!!!!
“จริงเหรอครับ!!”ผมหันไปถามพี่นัทด้วยเสียงอันดันกับใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
มันเป็นพรมลิขิต!
สวรรค์ชักพา!
โชคชะตาบันดาลให้!
จะอะไรก็ช่างผมขอขอบคุณครับบบ!!!
ผมมีความสุขที่สุดเลยโว้ยยยยย!!!
“ใช่...ทำไม?...มีอะไรกับห้องพี่เหรอ?”พี่เขาถามผมด้วยความสงสัย
“ผมเองก็อยู่ชั้นนั้นเหมือนกัน...จริงสิขากลับพี่ต้องให้ผมกลับด้วยนะผมไม่ได้เอารถมา”ผมบอกพี่เขาอ้อมๆแล้วเปลี่ยนเรื่องสะเลย
อยากอุบไว้ก่อน...เดี๋ยวค่อยบอกทีหลัง
“ได้สิ...แต่ตอนเย็นพี่ของแวะซุปเปอร์ก่อนถึงคอนโดหน่อยนะ”
“ไม่มีปัญหาครับ”...ถ้าได้อยู่กับพี่นานขึ้นจะไปไหนผมก็ไม่หวั่น
อ่า....วันนี้ช่างเป็นวันที่ดีอะไรแบบนี้นะ
ดีจังเลยที่ผมตื่นสาย!
ดีจังเลยที่ลืมกุญแจรถ!!
ดีที่สุดที่ได้เจอพี่นัท!!!
................................................................................
มาอัพต่อแล้วค่ะ
ขอโทษมาช้านะค่ะพอดีออกไปทำธุระกับครอบครัวมาค่ะ

จากนี้เราจะมาอัพอาทิตย์ละ2ครั้งแบบเต็มตอนนะค่ะ
ดูจากคอมเม้นท์ส่วนมากอยากให้มาลงแบบเต็มตอนเราก็จะเอาตามนี้นะค่ะ
ส่วนวันที่มาอัพคงจะเป็นวันพุธไม่ก็วันพฤหัสกับวันเสาร์ไม่ก็วันอาทิตย์ค่ะ

ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์เลยนะค่ะ
ตอนหน้าจะเจอกับความเขินของพี่นัทและคำขอร้องของเทม

ช่วยติดตามกันด้วยนะค่ะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ