✉ จดหมายฉบับที่ 14✉ เดทแรก?หลังจากที่พี่นัทบอกฝันดีผม...ผมก็ยิ้มหน้าบ้านก่อนจะวิ่งเข้ามาในห้องของตัวเองแล้วมองหาห้องที่คาดว่าจะเก็บเสียงได้ดีที่สุด
‘ห้องนอน’
เมื่อผมคิดได้ผมก็ปรี่เข้าไปในห้องพร้อมกับปิดประตูให้สนิทก่อนจะ...
“อ๊ากกกกกก!!!”ผมตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความอัดอั้นที่มี
“อ๊ากกกกกกกกกกกก!!!!”ผมคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นบ้าแล้วจริงๆแม้แต่ตอนนี้ปากผมมันยังหยุดยิ้มไม่ได้เลย
แค่นึกถึงพี่พี่นัทผมก็...
“อ๊ากกกกกก!!!...น่ารักๆๆๆๆ.....พี่นัทน่ารักเกินไปแล้ว!!”ผมกระโดดลงบนเตียงแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาเพื่อระบายอารมณ์ที่กำลังจะพุ่งขึ้นสูงเรื่อยโดยไม่มีท่าทีที่จะดับลงง่ายๆ
วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขที่สดในชีวิตตั้งแต่ผมเกิดมา!
ผมขอประกาศไว้ ณ ที่นี้เลย!!!
มันจะมีวันไหนที่จะดีไปมากกว่านี้อีกล่ะ!
วันนี้ผมได้เจอพี่นัทในตอนเช้า
วันนี้ผมได้นั่งรถพี่นัทไปทำงาน
วันนี้ผมได้ขยับเข้าไปใกล้ๆแก้มขาวกลิ่นหอมๆนั่น
วันนี้ผมได้เห็นพี่นัทเขินหน้าแดง
แถมผมยังได้กระซิบข้างๆหูพี่นัทเป็นครั้งแรกด้วย
เท่านั้นยังไม่พอท่าทางน่ารักๆอย่างการเม้มปากนั่นช่างยั่วอารมณ์ผมดีเหลือเกินแต่ผมก็ต้องข่มใจไว้...แต่ยังไงก็ขอสักหน่อยก่อนจะทนไม่ไหวก็เลยฟัดแก้มเนียนๆนั่นไปสักทีแต่ไม่คิดว่าอาการเขินของพี่นัทจะถึงขนาดขว้างกุญแจรถใส่ผม
แต่ไม่โดนหรอกนะ...ผมรู้ว่าพี่นัทจงใจขว้างไม่ให้โดน(555+)
หลังจากนั้นผมก็ไปง้อพี่นัทถึงห้องทำงานก่อนจะได้ฟัดแก้มขาวๆนั่นอีกรอบ
สุขใจสุดๆเลยขอบอก!!
ผมว่านับวันผมยิ่งจะกลายเป็นโรคจิตแฮะ
ตอนเลิกงานผมก็ต้องรู้สึกหึง...
ใช่ผมยอมรับเลยว่าไม่ใช่แค่โกรธแต่ผมหึงด้วยอารมณ์ปนแปกันไปหมดจนผมไม่เข้าใจเอาง่ายๆก็คือผมหวงพี่นัท!!
แค่เห็นพี่นัทยืนคุยอยู่กับพี่ไม้ผมก็แทบบ้าแล้วแต่ดูพี่นัทเหมือนจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าทำให้ผมเป็นบ้าได้ขนาดไหน!
มันน่าจับมาลงโทษซะให้เข็ดจริงๆ
แต่อารมณ์ทุกอย่างของผมก็หายไปเพียงเพราะสัมผัสเบาๆที่ใบหน้าพร้อมกับประโยคที่เหมือนกับมีลูกศรรูปหัวใจมาปักอกเข้าอย่างจัง!!
‘เทม...ถึงคนอื่นจะเรียกพี่ว่าพี่นัทเหมือนที่เทมเรียกแต่คนเดียวที่พี่แทนตัวเองแบบนี้และเรียกชื่อด้วยความสนิทมีแค่เทมคนเดียวนะ’ถือเป็นประโยคที่ทำให้ผมน๊อคไปเลยล่ะ...ทั้งรอยยิ้มทั้งเสียงหัวเราะที่ผมไม่เคยเห็นใครทำแล้วสดใสเท่าพี่นัทมาก่อน
แบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่ารักบังตา
ผมเลยอดไม่ได้ที่จะจูบขมับพี่เขาซ้ำๆก่อนจะเลื่อนลงมาถึงแก้มเนียนนุ่มนั่นอย่างหลงใหล...ผมอยากจะอยู่แบบนั้นตลอดไปสัมผัสที่ได้รับมันทำให้สันชาติญาณผมถูกปลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ
ใช่...ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายคนไหนก็ต้องมีกันทั้งนั้นแหละ
อารมณ์ทางเพศน่ะ!
“อ่า~...ยิ้มก็ดูดีทำกับข้าวก็อร่อย...แบบนี้ผมก็หลงแย่สิครับ”ผมนนั่งกุมหน้าผากของตัวเองอยู่บนเตียงโดยที่ในใจตอนนี้ลอยไปอยู่ห้องข้างๆแล้ว
แถมเสื้อผ้าที่พี่นัทใส่ออกมาต้อนรับผมก็เหมือนกับภรรยาที่ออกมาต้อนรับสามียังไงยังนั้นเลยนี่ถ้ามีประโยคคำถามอีกสักหน่อยนะ
ผมจะไม่ทนพูดตรงๆเลย
ประโยคคำถามอะไรงั้นเหรอ?
ก็แบบ...
‘จะกินข้าวก่อนหรืออาบน้ำก่อนดีล่ะเทม...หรือว่าจะ...กินพี่?’
“อ๊ากกกกก!!....คิดบ้าอะไรของแกเนี่ยะไอ้เทม!!!”ผมตะโกนลั่นแล้วเริ่มทึ้งหัวตัวเองเมื่อนึกถึงเสียงพี่นัทพูดประโยนนั้น
ให้ตายเถอะ...ถ้าเป็นจริงผมก็ไม่สนมันหรอกนะพวกข้าวเย็นหรืออาบน้ำน่ะ
“ห๊ะ!...ไอ้บ้าเทม...นี่แกเป็นหนักขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยะ!!”บอกด่าตัวเองเมื่อสายตาของตัวเองเลื่อนมาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงของตนที่ตอนนี้สิ่งที่อยู่ภายในเริ่มขยายตัวขึ้นจนผมรู้สึกอึดอัดมากอย่างบอกไม่ถูก
จะว่าไปตั้งแต่ตอนที่ผมติดต่อกับพี่นัทผมก็แทบจะไม่ได้ไปเที่ยวหญิงหรือแม้แต่ช่วยตัวเองเลยนี่นา...จะรู้สึกขึ้นมาก็คงไม่แปลกอะไรใช่ไหม?
ผมค่อยๆปลดซิปกางเกงผมลง...น้องชายที่อัดอั้นอยู่ภายในผงาดขึ้นมาอย่างหน้าอาย...แค่นึกถึงพี่นัทก็เป็นได้ซะขนาดนี้แล้วเหรอ
“...อื้ออ~...”ผมค่อยใช้มือตัวเองรูดแก่นก่อนเบาๆก่อนจะค่อยๆเพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“อ่า!...พี่นัท...อึ้ก!...อื้อออ~...”ผมขยับมือตัวเองเรื่อยๆโดยที่ในหัวคิดถึงแก้มขาวที่เนียนนุ่มนั่น...ต้นคอขาวเนียนกับหัวไหล่สุดเซ็กซี่ที่เผยออกมาจากเสื้อคอกว้างที่พี่นัทใส่ให้เห็นวันนี้...แถมยังกางเกงขาสั้นที่เผยต้นขาขาวที่น่าสัมผัสเป็นที่สุดจนผมต้องกลืนน้ำลายไปหลายรอบ
อยากจะถามเหลือเกินว่าพี่เขาไม่ได้จงใจยั่วผมใช่ไหม?
“อื้ม!...อ่า!...พี่นัท...พี่นัท...อื้ออ!...”ผมขยับมือตัววเองเร็วขึ้นๆโดยที่ในหัวมีแต่หน้าพี่นัททั้งตอนหน้าแดง...เม้มริมฝีปากบางนั่น
และก็...
‘เทม’
“อึก!...อ่าาา~...ซี๊ดดด~...พี่นัท!!!..”ผมกระตุกตัวแล้วรูดเร็วๆสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยออกมาเต็มมือของตัวเอง
นี่ผมเสร็จได้เพียงแค่นึกถึงพี่นัทตอนเรียกชื่อ?!!
“โอ้ย!!...แล้วครั้งต่อไปที่พี่นัทเรียกจะทำยังไงฟระเนี่ยะ!!!”ผมตะโกนออกมาอย่าเหลืออด
พี่นัทยั่วยวนเกินไป!
น่าสัมผัสเกินไป!
นี่ผมจะอดกลั้นได้ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน!!
แต่ยังไงผมก็ไม่อยากจะบังคับหรือขืนใจพี่นัท
ถ้าพี่นัทไม่ได้เต็มใจผมก็จะไม่ทำ
การที่มีความสุขอยู่ฝ่ายเดียวมันเป็นเรื่องที่ผมไม่ชอบมากที่สุด
“โธ่เว้ย....!!”ผมสถบออกมาก่อนจะลุกไปอาบน้ำแล้วล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนเพลียถึงผมจะรู้สึกแย่ที่ตัวเองมาทำอะไรแบบนี้ข้างห้องพี่นัทแต่ยังไงวันนี้ผมก็มีความสุขมากที่สุด
นี่ผมอาจจะใช้โชคของทั้งชีวิตหมดไปแล้วรึเปล่านะ
สติผมค่อยๆหลับไปพร้อมๆกับคำพึมพำที่ส่งไปถึงห้องข้างๆ
“ฝันดีครับพี่นัท”
.......................................................
.....................................
................
....
.
วันต่อมาผมก็ได้ไปทำงานพร้อมกับพี่นัท...ได้กลับบ้านพร้อมกับพี่นัทเป็นแบบนี้มาจนถึงวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดของทางบริษัทผมเลยอดไปทำงานพร้อมกับพี่นัทเลย
ถ้าผมได้ไปทำงานพร้อมพี่นัทจะให้ผมทำงานทุกวันก็ยังได้
แต่ละวันผ่านไปอย่างมีความสุข...ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ไปกินข้าวเย็นที่บ้านพี่อีกเลยก็เถอะ
พี่นัทไม่ชวนแล้วผมจะกล้าขอได้ยังไงล่ะ...แค่พี่เขาไปส่งแถมยังรับกลับด้วยก็เกรงใจพี่เขาจะแย่แล้ว
รู้สึกว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดแรกตั้งแต่พี่นัทย้ายมาทำงานนี่นา
“พาไปเที่ยวดีกว่า...”ผมพึมพำแล้วเด้งตัวขึ้นจากเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
“เดทกับพี่นัท~...หื้ม~..ฮือ~...เดทแรกับพี่นัท~...อ่า~...”ผมยืนร้องเพลงพลางเลือกชุดที่คาดว่าจะแต่งออกมาแล้วหล่อที่สุดในตู้
ผมเป็นพวกที่ไม่ค่อยสนใจแฟชั่น...พวกเสื้อผ้านอกจากชุดทำงานแล้วก็มีแค่พวกเสื้อคอวีหรือคอปกเท่านั้นแหละกางเกงก็ขายาวไม่ก็สามส่วน
วันนี้ผมเลือกที่จะใส่เสื้อคอปกสีน้ำเงินกับกางเกงขาสามส่วนสีดำ...พอหมุนดูตัวเองในกระจกจนพอใจแล้วผมก็หันไปมองนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลา11โมงแล้ว
ก่อนเดินออกจากห้องผมก็ไม่ลืมที่จะสำรวจว่าลืมของอะไหมจะได้ไม่เสียหน้าต่อหน้าพี่นัท...เมื่อเช็กว่าทุกอย่างพร้อมแล้วผมก็เดินออกมาจากห้องแล้วหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องข้างๆหมายเลข1404ซึ่งก็คือห้องของพี่นัทนั่นเอง
“สู้สิเทม!!...แค่ชวนไปเที่ยวเท่านั้นเอง”ผมบอกกับตัวเองก่อนจะ...
กิ๋งก่อง!
กดกริ่งหน้าห้องของพี่นัทด้วยใจเต้นรัว
อยู่ๆความมั่นใจที่มีก็เริ่มลดลงจนถูกแทนที่ด้วยความกังวล
แอ๊ดดด~
“อ้าว!...นึกว่าใคร...เทมเองเหรอ?”เสียงของพี่นัทดังขึ้นพร้อมกับประตูที่ถูกเปิดออกกว้าง
“...”ผมเบิกตาอย่างตกใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
พี่นัท...ที่อยู่ในชุดที่ดูยังไงก็เรียกได้ว่าชุดนอน?...เสื้อกล้ามสีขาวย้วยๆที่แค่ก้มก็มองเห็นยอดอกเม็ดสีชมพูสวยกับผิวขาวเรียบเนียนราวกับไม่เคยได้แตะต้องแดด
เอื้อก!
ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างอย่าลำบากเมื่อเลื่อนสายตาลงไปที่กางเกงบ๊อกเซอร์แสนสั้นลายทางหลากสีสัน...ขึ้นชื่อว่าบ๊อกเซอร์คงไม่มีขายาวหรอก
กางเกงขาสั้น(มาก)ที่เผยขาเรียวยาวให้ปรากฏต่อสายตาผมจนอดไม่ได้ที่จะจ้องต้นขาพี่เขาที่กำลังยั่วยวนผมอยู่
กางเกงขาสั้นนี่ใส่เหมือนไม่ได้ใส่...เหมือนใส่กางเกงในมากกว่า
เรียกได้ว่าก็สั้นพอๆกันนั่นแหละ
แต่แบบนี้ก็อาหารตาของผมเลยล่ะ
“เทม?...มีอะไรรึเปล่า?”พี่นัทถามผมที่เอาแต่จ้องต้นขาเรียวขาวหน้าสัมผัสของตัวเองอยู่
“อ่อ...สวัสดีครับ...ผมมารบกวนพี่รึเปล่า?”ผมผละสายตาออกจาต้นขาที่แสนเย้ายวนแล้วเงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่เขาที่มองมาทางผมอย่างงงๆ
“หื้อ...ก็...นิดหน่อย....แล้วมีอะไรล่ะเทม?”พี่นัทลังเลก่อนจะตอบผมแต่คำตอบของพี่เขาทำเอาผมใจแป้วไปเลย
พี่นัทเขาไม่ว่าง
“เหรอครับ...งั้นก็ไม่เป็นไรครับ...ขอโทษที่รบกวน”ผมบอกพี่นัทด้วยน้ำเสี้ยงเศร้าๆก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินกลับห้อง
หมับ!
“ดะ...เดี๋ยวสิ...ตกลงมีอะไรเหรอเทม?...บอกพี่มาก่อนสิ”สัมผัสของแขนที่ถูกรั้งกับเสียงของพี่นัททำให้ผมหันกับไปหาพี่เขาอีกครั้ง
พี่นัทมองผมด้วยสายตาที่เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
นี่ผมทำให้พี่เขาเป็นห่วงอีกแล้วเหรอ?
“ไม่มีอะไรหรอกครับ...ผมแค่จะมาชวนพี่นัทไปเที่ยวเท่านั้นเห็นว่าพี่พึ่งมาแถวนี้ครั้งแรก”ผมอธิบายด้วยท่าทางเศร้าๆ
สงสัยวันนี้คงต้องอยู่คนเดียวทั้งวันแล้วล่ะสิ
แต่ก็ยังดีที่ได้เห็นหน้าพี่นัทแบบนี้
“เอ่อ...พี่ต้องขอโทษด้วย...พอดีมีบัญชีที่ยังทำไม่เสร็จอยู่อีกหลายตัว”พี่นัทอธิบายให้ผมฟัง...น้ำเสียงของพี่เขาฟังดูเหมือนกำลังเสียใจเลย
“ไม่เป็นไรครับ...ผมเข้าใจ...งั้นผมขอกลับก่อนนะครับ”ผมเอ่ยลาพี่นัทแล้วหมุนตัวเพื่อจะกลับห้องของตัวเองจริงๆสักที
หมับ!
“...??”แรงดึงที่แขนทำให้ผมต้องหันกลับไปมองหน้าพี่นัทอย่างงงๆอีกครั้ง
“.......ไหม?”พี่นัทก้มหน้าลงแล้วพึทพำอะไรบางอย่างออกมาซึ่งผมไม่ได้ยิน
“อะไรนะครับ?”ผมถามย้ำอีกครั้งนึง
“จะ...จะเข้ามาในห้องพี่ก่อนไหม?”พี่นัทเงยหน้าขึ้นแล้วพูดเสียงดังฟังชัดด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างหน้าสัมผัส
พี่นัททำตัวน่ารักแบบนี้อีกแล้ว
หื้อ...?
เมื่อกี๊พี่นัทถามว่าไงนะ
“จะ...จะเข้ามาในห้องพี่ก่อนไหม?”
“จะ...จะเข้ามาในห้องพี่ก่อนไหม?”
พี่นัทชวนผมเข้าห้อง!!!!
ผมรีบหันไปมองพี่นัทอย่างไม่เชื่อสายตา
หัวใจผมตอนนี้กำลังเต้นเร็วขึ้นด้วยความดีใจและตื่นเต้น
“....”พี่นัทเม้มปากแน่นแล้วจ้องผมอย่างแน่วแน่
“ไม่รบกวนพี่เหรอครับ?”ผมถามออกไปตามตรง
ถึงแม้จะอยากตกลงขนาดไหนแต่ผมก็ไม่อยากจะรบกวนเวลาทำงานของพี่เขาหรอก
ผมรู้ว่าการทำบัญชีต้องใช้สมาธิมากเพราะงั้นไม่ควรที่ผมจะไปรบกวนพี่เขาในตอนนี้
“....ไม่เลย”พี่นัทตอบแล้วส่ายหัวดิ๊กๆอย่างน่ารักจนผมเผลอยิ้มตามกับท่าทางแบบนั้น...ท่าทางเหมือนเด็กๆ…น่ารัก
ในเมื่อพี่เปิดทางให้ขนาดนี้ผมก็ขอทำตามใจบ้างนะครับ...
พี่นัท!!
“งั้นก็ขอรบกวนด้วยนะครับ”ผมบอกพี่นัทด้วยรอยยิ้ม
พี่เขาพยักหน้าสองสามทีก่อนจะเปิดประตูออกกว้างให้ผมเดินเข้าไปภายใน...ทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิมกับวันก่อนที่ผมมายกเว้นห้องรับแขกที่ปกติจะมีทีวี โซฟา2-3ตัวกับโต๊ะญี่ปุ่นแต่ตอนนี้กลับมาโน๊ตบุ๊คที่ถูกเสียบสายต่อเข้ากับปลั๊กไฟวางเปิดหน้าเด็กท๊อปอยู่แถมรอบๆก็เต็มไปด้วยเอกสารมากมายและยังมีสมุดกับปากที่ถูกวางไว้ข้างๆด้วย
แปลว่ากำลังนั่งทำงานอยู่สินะ
“อ่ะ...นี่น้ำเลม่อนโซดาพี่พึ่งทำเมื่อเช้าลองชิมดูสิ”พี่นัทเดินมาทางผมพร้อมกับแก้วน้ำที่ภายในเป็นสีเหลืองอ่อนดูซ่าๆและมีชิ้นเลม่อนหั่นประดับไว้ที่ข้างแก้ว
“ขอคุณครับ...พี่ครับ...ผมไม่รบกวนแน่ใช่ไหมครับ?”ผมรับแก้วน้ำเลม่อนโซดามาแล้วถามพี่เขาอีกครั้งหนึ่
“ไม่เลย...แต่ถ้าเทมเบื่ออยากจะกลับห้องพี่ก็ไม่ว่าหรอกนะ”พี่นัทบอกผมยิ้มๆ
“ไม่ใช่นะครับ...ผมแค่คิดว่าจะเป็นการรบกวน...ผมอยากอยู่กับพี่นะ...ถึงกลับไปห้องผมก็ต้องอยู่คนเดียวอยู่ดี”ผมส่ายหน้าแล้วอธิบายให้พี่นัทเข้าใจ
พี่นัทต้องเข้าใจผิดว่าผมไม่อยากอยู่กับพี่เขาแน่ๆเลย
ผมอยากอยู่กับพี่เขาจะตายไป
อยากอยู่นานๆเลยด้วย
“งั้นก็เลิกถามได้แล้ว....นั่งที่โซฟาสิจะไปหาหนังสือที่ตู้อ่านเล่นก็ได้นะ...พี่ขอทำงานอีกสักพักแล้วจะไปทำอะไรให้กิน”พี่นัทบอกผมแล้วชี้ไปทางชั้นหนังสือที่อยู่ข้างๆทีวีก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างล่างโซฟาท่ามกลางเอกสารมากมายและโน๊ตบุ๊ค
“....”ผมนั่งลงพร้อมกับยกแก้วเลม่อนโซดาขึ้นมาดูด...สัมผัสของความเปรี้ยวของเลม่อเข้ากับความซ่าของโซดาได้เป็นอย่างดี...เป็นเครื่องดื่มที่ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาจริงๆ
ทำอะไรก็อร่อยไปหมดเลยแฮะ
ผมยิ้มกับความคิดของตัวเองแล้วมองหน้าด้านข้างของพี่นัทตอนทำงาน...ดูเหมือนพี่เขาจะเข้าโหมดทำงานเต็มตัวแล้วล่ะ...
ผมมองท่าทางเวลาทำงานของพี่นัทไปอย่างลืมเวลา...พี่เขาช่างมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือจริงๆทุกท่าทางทุกกริยามันช่างน่าดึงดูดอยู่เสมอแม้แต่ตอนนี้สีหน้าจริงจังเวลาทำงานคิ้วที่ขมวดน้อยๆช่างดูน่ารักแววตาที่จดจ่อกับเอกสารและริมฝีปากที่พึมพำตามข้อความนั้นเบาๆ
น่าดูไปหมด...พี่นัทดูจะไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมีอิทธิพลกับผมมากแค่ไหนแถมยังไม่ระวังตัวเลยด้วย...มีอย่างที่ไหนที่ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นที่พอนั่งลงแล้วก้มลงหน่อยๆก็เห็นไปถึงไหนต่อไหนแถมกางเกงที่สั้นอยู่แล้วพอนั่งลงก็หดสั้นขึ้นไปอีกจนเห็นขอบกางเกงในสีขาวโผล่ออกมา
ที่มันนรกสำหรับผมชัดๆ
“...อดทนไว้ๆ”ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ
ผมส่ายหน้าแรงๆสองสามทีแล้วลุกขึ้นไปหาหนังสือที่น่าสนใจก่อนจะหยิบมานั่งอ่านที่โซฟาตัวเดิม
บรรยากาศเงียบๆที่ชวนให้อบอุ่นหัวใจค่อยๆดำเนินไปอย่างช้าๆโดยที่ทั้งคู่ๆค่อยมีสายใยที่ผูกกันแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ผมเงยหน้ามองดูนาฬิกาข้อมือตัวเองก่อนจะพบว่าเวลาผ่านไปกว่า4ชั่วโมงแล้วที่ผมยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องพี่นัทตอนนี้บ่าย3กว่าแล้ว
“...”ผมหันไปมองพี่นัทที่ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างลืมเวลา...ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
ตอนนี้ผมมีความสุข...มีมากจนบางทีก็รู้สึกกลัว
ถ้ามันเป็นแค่ความฝันแล้วผมต้องตื่นขึ้นมาในโลกของความเป็นจริงโดยที่ไม่มีพี่นัท...ถึงตอนนั้นผมคงจะรู้สึกแย่มากแน่ๆ
ผมปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปเรื่อยๆโดยที่ผมใช้เวลาทั้งหมดไปกับการนั่งมองพี่นัทราวกับจะจดจำทุกรายละเอียดของคนตรงหน้า
“อื้ม...เกือบเสร็จแล้ว...อ๊ะ...5โมงกว่า!!”พี่นัทยืดตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนเงยขึ้นไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังบนทีวีแล้วอุทานออกมาอย่างตกใจ
“เทม?!”พี่เขาหันมามองผมที่นั่งมองอยู่อย่างสงสัย
“ครับ?”ผมตอบรับพี่เขาด้วยรอยยิ้ม
“ทำไมไม่บอกพี่ล่ะ...นี่มันเลยเวลากินข้าวกลางวันไปแล้วนะถ้าเป็นโรคกระเพาะขึ้นมาจะทำไง!!”พี่นัทยืนขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับคำบ่นแววตาของพี่นัทแสดงความห่วงใยผมออกมาอย่างชัดเจนจนผมรู้สึกดีมาก
“ไม่ต้องมายิ้มเลยนะ!!”พี่นัทพูดต่อ...ผมเลยจำเป็นต้องหุบยิ้มทันที
“ถ้าผมเป็นโรคกระเพาะตอนนี้ก็ดีสิครับ”ผมเอ่ยด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“ทำไมล่ะ?”
“ผมจะได้เห็นท่าทางของพี่นัทที่เป็นห่วงผมแบบนี้ไง”ผมบอกแล้วเงยหน้าจ้องเข้าไปในดวงตาของพี่นัทที่สั่นระริก
“...บ้า!...ใครจะห่วงกัน!...เดี๋ยวพี่ไปทำข้าวให้รอก่อนนะ”พี่นัทบอกผมแล้วเดินเข้าห้องครัวไปอย่างรีบร้อน...แต่ถึงจะรีบยังไงก็ไม่รอดสายตาผมไปได้หรอก
ใบหน้าแดงๆนั่น
ผมเห็นชัดเลยล่ะครับ
“หึ...ท่าทางแกจะหลงหัวปักหัวปำเลยล่ะไอ้เทม”ผมพึมพำกับตัวเองด้วยรอยยิ้มกว้าง
ท่าทางตอนเขินแบบนั้นเป็นข้อพิสูจได้เลยว่าพี่นัทเองก็ต้องรู้สึกหวั่นไหวกับผมบ้างแหละ...ปกติพี่นัทจะเป็นคนที่วางตัวดีนิ่งๆและใช้เหตุผลเสมอทุกๆครั้งที่ต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น
ผมดีใจที่เป็นคนเดียวที่เห็นท่าทางแบบนี้ของเขา
มื้อกลางวันควบเย็นของผมกับพี่นัทเป็นอาหารง่ายที่มีคุณค่าทางจิตใจอย่างมาก...มีทั้งกะหล่ำปลีผัดน้ำปลา...ต้มข่าไก่แล้วก็ปลาทอด
เป็นอีกมื้อที่ผมยิ้มไปกินไปเพราะมีพี่นัทนั่งกินอยู่ข้างแบบนี้...หลังจากที่ผมช่วยเก็บล้างเสร็จพี่นัทก็เดินออกมาส่งผมที่ประตูหน้าห้อง
“เจอกันวันจัทร์นะเทม”พี่นัทบอกลาผม
“พรุ่งนี้ผมมาหาไม่ได้เหรอครับ?”ผมถามพี่นัทด้วยน้พเสียงอ้อนๆ
“...”พี่นัทเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยก่อนจะกลับไปเป็นปกติแล้วเม้มริมฝีปากแน่น
ผมละกลัวปากจะแตกจริงๆถ้าเม้มมากๆแบบนี้
เวลาผมหยอดคำหวานพี่นัทมักจะแสดงท่าทางน่ารักๆแบบนี้เสมอมันเลยอดไม่ได้ที่จะแกล้ง...ก็อยากทำตัวน่ารักทำไมล่ะ
“ว่าไงครับพี่นัท?”ผมแกล้งถามย้ำอีกครั้งด้วยรอยยิ้ม
“อืม...”พี่นัทตอบผมเสียงเบาแล้วก้มหน้าลง
“ 'อืม'...อะไรครับ?”ขอแหย่อีกหน่อยเถอะแล้วผมจะเลิกแล้วจริงๆ
“พรุ่งนี้ผมจะทำคุ๊กกี๊อยากมาก็มา!...เด็กบ้าเอ้ย!!”
ปัง!
พี่นัทตะโกนใส่ผมด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจัดก่อนจะปิดประตูห้องใส่ผมดังปัง!
“ฮะฮะฮะ...”ผมหัวเราะกับท่าทางน่ารักๆของพี่นัทก่อนจะเดินกลับห้องของตัวเองไปในที่สุด...
วันนี้เป็นอีกวันที่ผมยิ้มออกแม้จะไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน
แค่ได้อยู่กับพี่ผมก็มีความสุขแล้ว
“อ่า...พี่ให้ผมกินยาเสน่ห์รึเปล่าครับ?....ทำไมในหัวผมถึงมีแต่เรื่องของพี่ล่ะ”
...............................................................................................
สวัสดีค่ะ
มาอัพตอนต่อไปแล้วนะ
อ่านตอนนี้จบแล้วเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย?
ตอนนี้เป็นแค่เดทแบบอ่อนๆค่ะ
ใกล้ถึงตอนที่ทั้งคู่จะได้เป็นแฟนกันแล้วล่ะ
รอติดตามด้วยนะค่ะ
มีคนถามมาว่าเรื่องนี้จะมีคู่รองไหม?
ต้องขอบอกว่าไม่มีค่ะ...แค่คู่เดียวเราก็แต่ยากแล้วยังเป็นมือใหม่อยู่ด้วย
ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจที่คอนติดตามเรื่องนี้นะคะ
ตอนหน้าพบกับ 'พี่นัทร้องไห้' จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นรอติดตามด้วยนะคะ
เรื่องนนี้กะจะแต่งไม่เกิน30ตอน+ตอนพิเศษอีกนิดหน่อยคะ
คิดว่าถ้าให้ยืดมากไปมันจะดูไม่ค่อยสนุกแล้วเลยกะไว้แค่30ตอนพอ
เร็วๆนี้เราจะเปิดนิยายเรื่องใหม่ช่วยติดตามด้วยนะคะ
การเปิดเรื่องใหม่จะไม่กระทบเวลาการอัพนิยายเรื่องนี้แน่นอนคะ
ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ
ืืnicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ