จดหมายฉบับที่ 26✉โหยหา(เทม) “....พี่นัท...พี่นัท...”ผมเหม่อเรียกชื่อของพี่นัทออกมาระหว่างที่เดินกลับเข้ามาในห้องตัวเองหลังจากเลิกงานแล้ว
คืนแรกที่ไม่มีพี่นัทมันเหมือนกับห้องผมที่เคยอบอวนไปด้วยความสุขเมื่อมีพี่นัทคอยทำหน้าแดง น่ารักอยู่ข้างๆผมเสมอแต่ตอนนี้มันกลับเงียบเหงาจนผมรู้สึกว่าห้องของตัวเองมันมืดลงได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ห้องนอนที่ผมนอนเป็นประจำมันกลับไม่เหมือนเดิม
ทั้งๆที่ผมเคยนอนคนเดียวมาไม่รู้กี่ปีต่อกีปีแต่พอมีพี่นัทมานอนด้วยแค่ไม่กี่คืนมันกลับทำให้ผมไม่สามารถกลับไปนอนคนเดียวได้อีกแล้ว...
เตียง6ฟุตธรรมดาที่เคยอบอุ่นทุกครั้งที่ได้นอนกอดพี่นัทมันกลับหนาวเย็นจนผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะได้ความอบอุ่นนั้นกลับคืนมาอีกครั้งนึง
ผมรู้ว่าพี่นัทคงจะไม่พอใจแน่นๆถ้าผมคิดจะลาออกแล้วกลับไปอยู่ที่ชลบุรี...ดังนั้นผมเลยต้องอดทนอยู่แบบนี้
แต่ทุกครั้งที่มองของภายในห้องผมก็รู้สึกคิดถึงพี่นัททุกที
ห้องครัวที่พี่นัทเคยใช้อยู่เป็นประจำ....พี่เขามักจะถามผมวันนี้จะกินอะไรเป็นพิเศษไหม?...ด้วยใบหน้าที่มีความสุขทุกครั้งที่เข้าครัว...ตอนนี้ในห้องครัวผมเลยมีอุปกรณ์สำหรับทำครัวอยู่เกือบครบทุกอย่าง....แต่ตอนนี้...
คนที่จะใช้พวกมันกลับไม่อยู่ซะแล้ว
โซฟาตัวเดิมที่ผมมักจะนั่งดูโทรทัศน์กับพี่นัทเวลาว่างๆไม่ก็นั่งมองพี่นัทเวลาหอบงานมาทำจากที่บริษัท...มันเหมือนเป็นความสุขเล็กๆที่ได้เพียงแค่นั่งมองอยู่ข้างๆผมก็มีความสุขมากๆแล้ว
ตลอดเวลาที่ผมคบกับพี่นัท....พวกเราไม่ได้ออกไปเดทเหมือนกับที่คู่รักคู่อื่นๆทำแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกไม่ดีอะไรเพราะเพียงแค่พี่เขายังอยู่ข้างๆผมไม่ว่าอยู่ที่ไหนมันก็เป็นเดทสำหรับผมทั้งนั้น
ตุบ!
“...พี่นัท”ผมล้มตัวลงบนเตียงเมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว...ไม่ว่าผมจะทำอะไรพี่นัทก็มักจะเข้ามาอยู่ในความคิดผมอยู่เสมอ
ผมหลับไปโดยที่ในหัวมีแต่ภาพของพี่นัทที่เคยนอนอยู่ข้างๆจนเผลอหลับไปด้วยความรู้สึกเหงาที่ไม่เคยมีมาก่อน
วันแต่ละวันกว่าจะผ่านมันไปได้ช่างลำบากมากเหลือเกิน...
ไม่มีแล้วคำพูดอรุณสวัสดิ์ที่ผมาเคยได้รับ...
ไม่มีแล้วการเดินทางไปบริษัทพร้อมๆกับพี่นัท...
ไม่มีแล้วใบหน้าแดงๆตอนที่ผมหยอดคำหวาน...
ไม่มีแล้วอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นที่ผมมักจะซุกอยู่ที่ไหล่ของพี่นัท...
ไม่มีแล้วจูบแสนหวานที่ผมได้สัมผัสมันอยู่ในทุกๆวัน
ตอนนี้ผมไม่มีอะไรเลย....แค่ไม่มีพี่นัท...
มันเหมือนกับความสุขของผมมันหายไป
ตั้งแต่วันที่พี่นัทกลับไปชลบุรีผมก็เขียนจดหมายส่งไปให้ทุกวันแม้ว่าจะถูกคนในห้องแซวมากขนาดไหนก็ตาม...รวมทั้งค่าส่งจดหมายที่ต้องจ่ายทุกวันแต่ผมไม่สนเรื่องเล็กน้อยหรอกผมอยากจะให้พี่นัทรู้ว่าผมรู้สึกยังไงแล้วอยากรู้ด้วยว่าพี่นัทรู้สึกแบบเดียวกันไหม?
และแล้วไม่กี่วันต่อมาผมก็ได้รับจดหมายจากพี่นัท...ความรู้สึกเหมือนมีน้ำรดลงในหัวใจที่แห้งผากของผมอย่างช้าๆ
ความสุขที่หายไปมันเริ่มกลับมาอีกครั้งเพียงแค่พี่นัทตอบจดหมายผม...ข้อความที่ดูจะยาวขึ้นนิดหน่อยทำให้ผมยิ้มออกมาตลอดการอ่านแต่ยิ่งยิ้มมากเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ามันไม่พอ
แค่ได้อ่านมันไม่พอ...
‘เทม...ดีใจที่เขียนจดหมายมาหาที่นะ...พี่เองก็รู้สึกไม่ต่างจากเทมหรอก...เทมทำอะไรพี่กันนะทำไมพี่ถึงได้คิดถึงแต่เรื่องของเทมแบบนี้...คิดถึงเทมมากๆเหมือนกัน...จะให้พี่ไปมีใครได้ล่ะในเมื่อพี่...เป็นของเทมคนเดียวนี่นา...รักเหมือนกัน
วรนัตร’
ทุกตัวอักษรที่พี่นัทเขียนผมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่ถูกถ่ายทอดมาได้อย่างชัดเจน...ความกังวลของผมที่กลัวว่าพี่นัทจะไปมีคนอื่นมันหายไปเมื่อพี่นัทย้ำถึงตัวตนของพี่เขากับผม
“พี่เป็นของผม...ของผมคนเดียว”
ในวันต่อๆมาผมก็ต้องดีใจเมื่อได้รับจดหมายจากพี่เขาทุกวันเหมือนกับที่ผมส่งไปให้พี่เขาทุกวัน...ผมคิดได้ไหมนะว่าพี่นัทเขาก็คิดถึงผมมากเหมือนกับที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้
อยากกอด
อยากจูบ
อยากสัมผัส
อยากทำทุกอย่างเพื่อยืนยันว่าพี่เขายังอยู่ข้างๆผม
จดหมายหลายต่อหลายฉบับที่ถูกส่งมาผมจะวางไว้ที่ข้างๆเตียงนอนเพื่อจะได้อ่านทวนทุกฉบับก่อนนอน...พอทำแบบนี้แล้วมันเหมือนกับมีพี่นัทคอยอยู่ข้างๆ
คอยให้กำลังใจบอกว่าผมทำได้
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมนอนลงบนเตียงก่อนจะหยิบซองจดหมายมาค่อยๆเปิดอ่านอีกครั้งนึง...แม้ว่าจะรู้สึกเหงาแต่อย่างน้อยผมก็ยังมีกำลังใจที่จะต่อสู้กับมัน
‘เทม...เทม...เทม...เทม...พี่เองก็เหมือนกันไม่รู้ว่นกี่ครั้งที่เผลอเรียกชื่อเทมออกมาแบบนั้น...พี่อยากเจอเทมนะแต่ถ้าการที่พี่ทำแบบนั้นแล้วทำให้เทมเสียงานพี่ก็ไม่เอาด้วยหรอก...พี่คิดถึง...ทุกสัมผัสของเทมนะ...รัก...รัก...พี่ก็รักเทมมากเหมือนกัน
วรนัตร’
จดหมายฉบับนี้ทำเอาผมอยากจะขับรถไปที่ชลบุรีซะเดี๋ยวนั้นเลย...
พี่คิดถึง...ทุกสัมผัสของเทมนะ
ประโยคนี้ถ้าพี่มาพูดกับผมตรงๆบอกได้เลยว่าพี่ไม่มีทางรอดผมแน่ๆ...
ยิ่งได้รู้จักมากขึ้นเท่าไหร่ผมก็เหมือนจะยิ่งตกลงไปในหลุมที่พี่เขาขุดเอาไว้...บางคนบอกว่าเมื่อเรารู้จักกันไปนานๆบางทีความรู้อาจเปลี่ยนไปแต่กลับผมยิ่งนานวันมันมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ...ยิ่งรักมากขึ้นในทุกๆวันและจะรักมากขึ้นเรื่อยๆด้วย
“...แค่นี้ผมก็หลงพี่จะตายอยู่แล้วนะ”ผมพึมพำด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่สับสนเต็มไปหมด...อยากเจอ
อยากสัมผัส
ผมจะทนไปได้อีกนานแค่ไหน
นี่มันยังไม่ถึงอาทิตย์เลย
ความอดทนผมมันจะสั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?
‘เทม...พี่ไม่เคยรำคาญเทมหรอกนะ...ดีใจที่เทมส่งจดหมายมาหาพี่ทุกวันแบบนี้มันทำให้พี่มีความสุขมากและรู้ว่าพี่ไม่ได้อยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อนแต่ถ้าเทมงานยุ่งๆก็ไม่ต้องส่งมาทุกวันก็ได้นะพี่ไม่เป็นไรหรอก...เทมรักษาสุขภาพด้วยนะ...ถึงจะเหงาแต่พี่ไม่เป็นไร...รักเทมนะ
วรนัตร’
“...รักพี่เหมือนกัน”ผมพึมพำเมื่ออ่านจดหมายที่พึ่งได้รับเมื่อวานจบ
จดหมายฉบับนี้ทำให้ผมตัดสินใจว่าเสาร์อาทิตย์นี้ผมจะไปหาพี่นัทที่ชลบุรี...ไม่ว่าพี่นัทจะห้ามหรือไม่ยอมยังไงผมก็ไม่สนมันแล้ว
ผมคิดถึงจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!!
ผมไม่เคยคิดถึงใครได้ขนาดนี้!!
ผมไม่รู้ว่าพี่นัททำหน้ายังไงตอนที่เขียนจดหมายฉบับนี้แต่เท่าที่ผมอ่านผมสัมผัสได้ว่าพี่นัทเหงามากขนาดไหน...แต่ถึงจะเหงาพี่เขาก็ไม่เคยบอกให้ผมทิ้งงานไปหาเลยสักครั้ง
พี่เขามักจะนึกถึงผมก่อนตัวเองเสมอ
มันเป็นนิสัยนึงที่ผมเป็นค่อยข้างเป็นห่วง...พี่เขามักจะเก็บความรู้สึกเก่งถ้าผมไม่เข้าไปถามตรงๆหรืออ้อนๆหน่อยผมก็ไม่มีทางที่จะรู้เลย
ถ้าผมได้เจอพี่เขา...
ผมจะดึงพี่นัทเข้ามากอดแล้วก็ฟัดๆๆๆๆๆๆ
จะฟัดจนกว่าจะหายคิดถึง...ตลอด2วันที่อยู่กับพี่เขาผมจะไม่ให้พี่นัทออกไปไหนเลยจะกอดทั้งวันทั้งคืนจะตามติดจนกว่าพี่เขาจะเอ่ยปากไล่ผมเลย
“เมื่อไหร่จะถึงวันเสาร์เนี่ย!!...”ผมพึมพำโดยที่อยากให้เวลามันเดินเร็วขึ้นอีกหน่อย
“...ไม่สิ!...ไปวันศุกร์ก็ได้นี่นา!!”ผมบอกกับตัวเองที่พึ่งนึกความคิดดีๆขึ้นมา
จริงด้วย!...ถ้าเลิกงานแล้วไปหาพี่นัทเลยผมก็จะมีเวลาอยู่กับพี่นัทมากขึ้นอีก
เยี่ยมเลยธีราทร...ความคิดเยี่ยมจริงๆ
“วันศุกร์...พรุ่งนี้นี่นา!!”ผมสะดุ้งทันทีเมื่อรู้ตัว
เกือบอาทิตย์ที่ผมเหม่อจนแทบไม่รู้วันเวลา...พอคิดว่าพรุ่งนี้ก็จะได้เจอพี่นัทแล้ว...
ตึก ตัก ตึก ตัก
“...อ่า!...รู้แล้วน่า...พรุ่งนี้เดี๋ยวก็ได้เจอแล้ว”ผมจับหัวใจข้างซ้ายของตัวเองเบาๆก่อนจะพึมพำด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขที่ผุดขึ้นมาครั้งแรกตั้งแต่ที่พี่นัทกลับไป
“จริงด้วย...เก็บเสื้อผ้าๆ...”ผมเด้งตัวลุกจากเตียงก่อนจะเดินไปหากระเป๋าเป้เพื่อเก็บเสื้อผ้าที่จะไปค้างบ้านพี่นัท....ถ้าผมจัดกระเป๋าไปเลยพรุ่งนี้ก็ไม่ต้องเสียเวลากลับมาที่ห้อง
แปลว่าจะได้เจอกับพี่นัทเร็วขึ้นแถมได้อยู่ด้วยกันนานขึ้นอีกด้วย
ผมรีบเดินไปหาเป้แล้วเดินกลับมาที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเริ่มหยิบชุดนอนกับเสื้อผ้าอีก2ชุดพับลงในกระเป๋าเป้อย่างเป็นระเบียบ
“...อย่างอื่นคงไม่ต้องมั้ง”ผมพึมพำอย่างใช้ความคิด
ที่เหลือค่อยไปยืมพี่นัทเอาละกัน
ครื่นนนน ~
ครื่นนนนน ~
“...หื้อ?”ผมหันไปมองต้นเสียงอย่างงงๆ
เสียงสั่นเมื่อกี๊...
“...อยู่ไหนเนี่ย?”ผมเดินหาโทรศัพท์ที่อยู่ไหนก็ไม่รู้ได้ยินแต่เสียงสั่นเท่านั้นเอง
ครื่นนนน~
ครื่นนนนน ~
“อ๊ะ!...อยู่นี่เอง”ผมพึมพำเมื่อเจอโทรศัพท์ตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่ม
089-xxxxxxx
“....ใครน่ะ?”ผมมองเบอร์ที่โทรเข้ามางงๆ
เบอร์ไม่คุ้นเลยด้วย
หรือว่าจะมีเพื่อนผมคนไหนเปลี่ยนเบอร์กันนะ?
ปิ๊บ!
“...ครับ?”ผมตัดสินใจกดรับสายในที่สุด
(.......)
“.......”ปลายสายเงียบไม่ยอมพูดอะไรขึ้นมาทำเอาผมรู้สึกอารมณ์เสียนิดๆ
โทรมาแล้วไม่พูดหมายความว่ายังไง?
“ถ้าไม่พูดผมวางนะครับ”ผมบอกด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
(...ดะ...เดี๋ยว...เทม...คือ...)
“....!!!”ผมสะดุ้งทันทีที่เสียงปลายสายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆแถมยังติดขัดอีกด้วยแต่มันจะเป็นยังไงก็ช่างเถอะ
เสียงที่ผมได้ยินนี่มัน....
ตึก ตัก ตึก ตัก
ไม่จริงน่า
พี่เขาจะรู้เบอร์ผมได้ยังไง???...
ผมไม่เคยให้เบอร์พี่เขาไปเลยนี่นา!!!
(...เอ่อ...เทม...พี่เองนะ...ยังอยู่ไหม?)พี่นัทพูดขึ้นอีกครั้ง
“...พี่นัท...ทำไมละ?...พี่...พี่...พี่มีเบอร์ผม?...มีได้ยังไง?...แล้วทำไมๆ...”ตอนนี้เป็นผมเองที่พูดติดขัดจนอยากจะตบหัวตัวเองสักทีจริงๆ
(..พี่มีมานานแล้วล่ะ...ตั้งแต่ตอนที่เรานัดเจอกันครั้งที่แล้ว...)พี่นัทพูดขึ้นผมก็นึกออกทันทีเลยล่ะ...วันนั้นผมโทรเข้าไปเบอร์ร้านแปลว่าพี่นัทต้องขอเบอร์ผมไว้ซินะ
“งั้นทำถึงพึ่งโทรมาละครับ”ผมถามด้วยน้ำเสียงงอนๆ
บอกตรงๆเลยผมลืมไปเลยว่าสามารถคุยกับพี่นัททางโทรศัพท์ได้
ให้ตายเถอะ...ถ้ารู้ตัวเร็วกว่านี้ผมก็คงโทรไปหาพี่เขาเช้า กลางวัน เย็นเลยล่ะ...แถมก่อนนอนผมจะโทรไปกล่อมพี่นัทจนกว่าจะนอนเลย
โอ๊ยย...แค่คิดก็สุขสุดๆ
(ขอโทษนะเทม...พี่เองก็พึ่งนึกได้เหมือนกัน)
“ครับ...ผมเองก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน...จริงสิพรุ่งนี้ผมจะไปหาพี่นะครับ”ผมบอกพี่นัทด้วยน้ำเสียงดีใจที่พรุ่งนี้จะได้ไปเจอพี่เขาแล้ว
(พรุ่งนี้?...วันศุกร์นี่นา?...ไม่ทำงานเหรอเทม?)พี่นัทถามผมด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ...ถ้าผมโดดงานไปคงโดนพี่โกรธแน่ๆเลย
“โหย~...ผมไปตอนเลิกงานครับพี่”ผมบอไปทันที
(เลิกงาน...มันดึกแล้วนะเทม...เดินทางตอนกลางคืนมันอันตรายนะ)พี่นัทบอกด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงจนหัวใจผมมันพองโตขึ้นมา
แค่ได้ยินเสียงพี่ผมก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาแล้วล่ะครับ
“ไม่ต้องห่วงครับ...ผมจะระมัดระวังให้มากๆเพราะงั้นพี่นัทต้องรอผมด้วยนะครับไม่เกินทุ่มสิบห้าผมไปถึงหน้าบ้านพี่แน่นอนครับ”ผมบอกพี่นัท
(งั้นก็ตามใจ...พี่จะรอนะ)
“ผมคิดถึงพี่จัง”ผมบอกออกไป
(...พี่เองก็คิดถึงเทม)พี่นัทตอบกลับมาทันที
“...พรุ่งนี้เราจะได้เจอกันแล้วนะครับ”
(...นั่นสิ...วันนี้ก็ไปนอนเถอะ...ฝันดีนะเทม)
“ครับ...ฝันถึงผมนะพี่นัท”ผมแกล้งหยอดไปสักหน่อย
(บ้า!)
ติ๊ด!
“ฮะฮะฮะ...”ผมนอนแผ่ลงบนเตียงด้วยเสียงหัวเราะที่มีความสุขในรอบอาทิตย์
พี่นัทยังน่ารักอยู่เสมอ...ไม่สิ...น่ารักขึ้นเรื่อยๆเลยล่ะ
“อ่า~...ต้องเมมเบอร์พี่นัทไว้ก่อน”ผมมพึมพำก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วจัดการเมมเบอร์พี่นัทไว้ก่อนจะหลับไปพร้อมกับโทรศัพท์มือถือที่โชว์เบอร์ที่โทรมาล่าสุดว่า...
‘พี่นัทสุดที่รัก’
........................................................................................
สวัสดีคะ
มาต่อหลังสอบเสร็จค่า
ตอนนี้เราลังเลอยู่สักพักใหญ่ๆเลยว่าจะแต่งยังไงดีนะตอนแรกเรากะจะให้โผล่มาตอนที่เทมรับโทรศัพท์เลยแต่คิดไปคิดมาอยากแต่ให้เทมที่เป็นพวกอารมณ์ดีและมีความสุขเสมอมีช่วงอารมณ์ที่หดหู่แบบนี้บ้างเลยตัดสินใจแต่งออกมาเป็นแบบนี้แหละคะ
อ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้างเอ่ย?...มีตรงไหนติชมกันได้นะ
ตอนหน้าพี่นัทและเทมจะได้เจอกันแล้ว...มารอลุ้นกันว่าจะเป็นยังไงต่อไป

อยากมีสปอยแบบนี่เรื่องอื่นทำบ้างแต่ยังไม่ได้แต่เลยไม่รู้จะสปอยยังไงดี
ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และกำลังใจมีให้นะคะ
ชอบอ่านคอมเม้นท์ยาวๆมากเลยไม่รู้เป็นอะไร...นั่งอ่านวนไปวนมาตั้งหลายรอบ
ขอบคุณจริงๆนะคะ

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าไม่นานเกินรอแน่นอนคะ
nicedog
♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ♫ ♪ ♪ ღ