ครึ่งหลัง
หลังจากทานอาหารที่สุดแสนจะเงียบเชียบมาแล้ว ทั้งหมดก็ย้ายเข้าไปคุยในห้องนั่งเล่น คุณหญิงพยายามดันให้กานต์เก้าได้นั่งใกล้ๆ กับพัฒน์ แต่ลูกชายของเธอก็เอาแต่เกาะติดกับธีร์จนไม่สามารถแยกออกจากกันได้
“ผมจะพาธีร์มาพักที่นี่ระหว่างที่ได้หยุด สามวันน่ะครับ จะนอนสองคืน” พัฒน์บอกกับพ่อ ซึ่งคนเป็นประมุขของบ้านก็พยักหน้ารับรู้
“รบกวนด้วยนะครับ”
“รู้ว่ารบกวนแล้วจะมาทำไม”
“แม่ครับ ให้เกียรติคนรักผมด้วย” พัฒน์ขอร้องนิ่งๆ ซึ่งแม่ของเขาก็หันมามองลูกชายอย่างตัดพ้อ ยิ่งไม่พอใจธีร์ที่ทำให้ลูกกล้าว่าเธอ
แต่ที่สำคัญ เธอตกใจที่ลูกชายของเธอกล้าแนะนำว่าเป็นคนรัก ทำเอาคุณหญิงและกานต์เก้ากำหมัดแน่นอย่างไม่พอใจ
“หนูเก้าจะมาพักบ้านเราสามวัน เพราะคุณกิ่งกับคุณเพชรไปฮันนีมูนต่างประเทศน่ะ ไม่อยากทิ้งไว้คนเดียว นี่ถ้าลูกเข้ามาพบแม่ก่อน ก็คงจะได้พบท่าน” คุณหญิงบอกลูกชายยิ้มๆ
แขกที่ว่านี่เอง ธีร์แอบยิ้มในใจ เรื่องราวมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มันรู้สึกสนุกด้วยซ้ำไป
“ครับ” พัฒน์ก็แค่รับคำไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก
“แม่ขอโทษนะตาพัฒน์ แต่แม่ขอถามแฟนลูกหน่อยนะว่าเป็นลูกเต้าเหล่าใคร ทำไมถึงมารู้จักกับลูกได้” พัฒน์ขมวดคิ้วสงสัยว่าทำไมแม่ถึงถามแบบนั้นยังไม่มีใครบอกเรื่องของธีร์กับแม่อีกหรือ ก่อนจะได้คำตอบจากพ่อที่พยักหน้าน้อยๆ
นั่นก็หมายความว่าแม่ยังไม่รู้ว่าธีร์เป็นลูกชายของเพื่อนแม่ของพัฒน์ ซึ่งคุณหญิงทับทิมก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ที่มักจะไปซื้อเครื่องเพชรแบบใหม่ๆ จากร้านของครอบครัวธีร์เสมอ จนกลายเป็นเพื่อนกับคุณหญิงอรนภาไปโดยปริยาย ออกงานก็เจอกันบ่อยๆ
“ธีร์มันเป็นล่ะ...” ยังไม่ทันที่พัฒน์จะบอกแม่ไป ร่างโปร่งก็คว้างหมับที่แขนแกร่งแล้วบีบเป็นการห้ามว่าไม่ให้พูด ซึ่งธีร์ก็ยิ้มน้อยๆ ส่ายหน้าไปมาเมื่อพัฒน์หันมามองเอาคำตอบ
คุณหญิงทับทิมกับกานต์เก้าเห็นแบบนั้นก็เข้าใจว่าธีร์อายที่จะบอกว่าตัวเองเป็นลูกเต้าเหล่าใคร คิดไปเองว่าธีร์คงจะเป็นลูกของคนธรรมดาๆ ไม่ได้มีฐานะอะไรมากนัก ส่วนการแต่งตัวดีๆ นี่คงจะเกาะลูกชายของเธอล่ะสิท่า คิดแบบนั้นคุณหญิงก็ยิ่งอยากจะแยกธีร์ออกจากลูกชายของตน
ไม่เหมาะสม ไม่เหมาะสมกับพัฒน์เลยสักนิด ทั้งฐานะ และเป็นเพศเดียวกันด้วย เพียงเท่านี้ก็เป็นเหตุผลที่เธอต้องขัดขวางความไม่เหมาะสมนี่แล้ว
“ไม่กล้าพูดหรือจ้ะ ไม่ต้องอายหรอกนะ พูดมาเลยก็ได้”
“ผมไม่มีอะไรจะพูดหรอกครับ ถ้าคุณแม่อยากจะรู้ว่าผมเป็นลูกเต้าเหล่าใคร คุณแม่ก็ยอมรับความรักของพวกเราสิครับ” ธีร์พูดต่อรองด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ฉันไม่อยากรู้หรอกจ้ะ แค่จะพิจารณาดูเท่านั้นว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม!” คุณหญิงทับทิมกระแทกเสียงใส่เชิดๆ ทำเอาร่างโปร่งถึงกับหลุดหัวเราะเบาๆ
“แล้วแบบไหนถึงจะเหมาะสมล่ะครับ”
“ก็ต้องเท่าเทียม ฐานะเดียวกัน หน้าตาดี ทำอาหารเป็น มารยาทดี เรียบร้อย ทุกอย่างที่สะใภ้รัตนมณีโชติควรมี”
“งั้นคุณเก้าทำอาหารเป็นหรือเปล่าครับ” ธีร์ถามถึงผู้หญิงที่นั่งมองพัฒน์ด้วยสายตาที่เคลิบเคลิ้ม
“เป็นสิ ใช่ไหมหนูเก้า” คุณหญิงตอบแทน เพราะคิดว่าลูกสะใภ้ในอุดมคติอย่างกานต์เก้าที่ทั้งสวย เรียบร้อย ต้องทำอาหารเก่งแน่ๆ หารู้ไหมว่า ตัวเองคิดผิด
“อ่ะ เอ่อ เป็นค่ะ” เธอตอบไปอย่างไม่มั่นใจ เพียงเท่านั้นธีร์ก็รู้แล้วว่าหญิงสาวโกหก
“เห็นไหมล่ะ แต่นายเป็นผู้ชาย ฉันอนุโลมให้ก็แล้วกันเรื่องทำอาหาร หน้าตาก็...” คุณหญิงมองใบหน้าขาวใสอย่างพินิจพิจารณา ก็อดชมในใจไม่ได้
แฟนของตาพัฒน์คนนี้ หล่อมากเลยนะเนี่ย ผิวพรรณก็ดี
“ทำไมครับคุณแม่ หน้าตาผมทำไม มันแย่มากเลยหรือครับ”
“เอ่อ ก็...ใช่แล้ว มันแย่มาก” เธอหลบสายตาของร่างผอมโปร่งของธีร์
“หนูเก้ากำลังจะเข้าทำงานในบริษัทของครอบครัวใช่ไหมลูก ถ้ามีปัญหาหรือสงสัยเรื่องอะไรก็ปรึกษาพี่พัฒน์ได้นะคะ” คุณหญิงทับทิมหันไปพูดกับกานต์เก้า
“ได้หรือคะ”
“ได้สิจ้ะ จริงไหมตาพัฒน์”
“ผมไม่ค่อยว่างหรอกครับ ต้องทำงานทีเดียวสองบริษัท แค่เวลาทานข้าวยังลืม” พัฒน์ปฏิเสธด้วยเหตุผลนิ่งๆ
“ตายจริง! แล้วแบบนี้จะได้กินข้าวครบทั้งสามมื้อหรือเปล่า” คุณหญิงเอามือทาบอก
“ครบครับ ได้ธีร์นี่แหละคอยเตือน” ร่างโปร่งหันไปมองหน้าร่างสูงทันทีอย่างแปลกใจ ใครกันแน่ที่เตือนใคร ก่อนจะยกยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นว่าพัฒน์กำลังทำให้เขาดูดีในสายตาของแม่
น่ารักจริงๆ น่าให้รางวัลนะแบบนี้
“ต้องขอบคุณธีร์มากๆ นะลูกที่คอยเตือนลูกชายพ่อให้กินข้าว” พจน์พูดขอบคุณ ทำเอาธีร์รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาที่พ่อของพัฒน์ไม่มีทีท่าว่าจะไม่ต้อนรับเขาเลยสักนิด
“ไม่หรอกครับ บางทีผมก็ลืมบ้าง แต่โชคดีพัฒน์มาทานข้าวเที่ยงด้วยกันตลอด” ธีร์ตอบยิ้มๆ
“แล้วแบบนี้แกไม่เหนื่อยหรือตาพัฒน์ ที่ทำงานคนละที่เลยนี่”
“ผมไม่เหนื่อยหรอกครับพ่อ ถ้าไม่ไปสิเหนื่อย” พัฒน์ตอบ พลางส่งสายตากรุ้มกริ่มมาให้ธีร์ ซึ่งร่างโปร่งก็เบะปากใส่หน่อยๆ
“ทำงานอะไรงั้นหรือ”
“ผมทำงานอยู่ PLEUNG Real Estate น่ะครับ” ธีร์ตอบคุณหญิง แต่ไม่บอกตำแหน่งของตัวเอง ชื่อจริงกับนามสกุลก็ไม่คิดที่จะบอกด้วย
ธีร์มีเหตุผลที่ต้องปิดบังนะ...
“อ้อ! ตำแหน่งไหนล่ะ” ทับทิมถามอย่างวางมาด
“พนักงานธรรมดานี่แหละครับ”
พัฒน์กระตุกยิ้มน้อยๆ ไม่เข้าใจหรอกว่าธีร์ต้องการที่จะทำอะไร แต่ก็รู้สึกได้ว่าคนข้างกายกำลังสนุก สังเกตนิ้วมือที่กระดิกไปมาของเจ้าตัวแล้ว
“แม่กับหนูเก้าจะไปชอปปิ้ง ตาพัฒน์พาแม่ไปหน่อยสิลูก” คุณหญิงขอลูกชาย ซึ่งพัฒน์ก็กำลังจะตอบตกลงแต่คนตัวดีข้างกายก็พูดออกไปก่อน
“พอดีว่าพัฒน์เจ็บขาน่ะครับ ผมเลยอยากจะให้พักผ่อนก่อน ถ้าคุณแม่ไม่รังเกียจให้ผมไปเป็นคนใช้ชั่วคราวก็ได้นะครับ” ธีร์เสนอ ซึ่งคุณหญิงก็มองร่างแกร่งด้วยความเป็นห่วง
“เป็นอะไรมากไหมลูก งั้นตาพัฒน์ก็พักเถอะลูก ส่วนนาย...แน่ใจนะว่าจะไปด้วยจริงๆ” คุณหญิงหันมาถามอย่างไม่ค่อยพอใจ
“แน่ใจครับ รับรองว่าผมจะไม่ทำให้คุณแม่ต้องโมโหหรือไม่สนุกแน่ๆ ผมจะไปช่วยขับรถ ถือของให้เองครับ” ธีร์พูดยิ้มๆ
“เอางั้นก็ได้” คุณหญิงคงจะมีแผนการอยู่ในใจถึงได้ตอบตกลงอย่างง่ายดาย ส่วนกานต์เก้าก็มองพัฒน์อย่างผิดหวังนิดๆ และรู้สึกไม่พอใจที่ทับทิมยอมให้คนรักของพัฒน์ไปด้วย
“ก็ดี พ่อมีเรื่องจะคุยกับแกเหมือนกันตาพัฒน์”
“ครับพ่อ”
“งั้นนายก็ไปเตรียมตัวซะ ฉันกับหนูเก้าก็จะไปแต่งตัวก่อน ให้เวลาสามสิบนาที” คุณหญิงสั่งก่อนจะลุกขึ้น ซึ่งกานต์เก้าก็ลุกตาม ก่อนที่ผู้หญิงต่างวัยทั้งสองจะเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น
พจน์เองก็ทิ้งท้ายว่าให้ลูกชายตามไปพบที่ห้องทำงานของตนด้วย ก่อนจะปล่อยให้พัฒน์กับธีร์นั่งอยู่ที่เดิมกันตามลำพัง
“คิดจะทำอะไร” พัฒน์ถาม
“ก็เอาใจแม่สามีไง” ธีร์ตอบร่างแกร่งยิ้มๆ ทำเอาร่างสูงต้องเขกศีรษะแขกๆ อย่างหมั่นไส้ ทำเอาธีร์มองค้อนแต่ก็ไม่จริงจังนัก เพราะกำลังอารมณ์ดี
“โอ้ย!”
“กูเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเจ็บขา” พัฒน์แขวะ
“กูก็เพิ่งรู้เหมือนกันว่ากูคอยเตือนให้มึงกินข้าว”
ทั้งสองพูดและมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แต่ทั้งหมดก็อยู่ในสายตาของคุณพจน์ที่ยังคงแอบมองลูกชายกับแฟนลูกชายอยู่ด้านหน้าประตู เห็นแบบนั้น คนเป็นพ่อก็สบายใจแล้วล่ะ ลูกชายที่ไม่เคยมีความสุขเลยกลับมีความสุขได้เพราะธีร์ แค่นี้ เขาก็พอใจแล้วล่ะ
คงต้องเตรียมสินสอดให้สมน้ำสมเนื้อแล้วสินะ ดูได้ไม่ยากเลยว่า ไม่นาน คุณหญิงจะต้องยอมรับธีร์เป็นสะใภ้อย่างไร้ข้อกังขาแน่ๆ
“แล้วทำไมไม่บอกว่าเป็นลูกของใคร ตำแหน่งงานอีก”
“กูอยากให้แม่มึงยอมรับที่กูเป็นกู ไม่ใช่เพราะกูเป็นลูกใคร หรือฐานะไหน” สิ้นประโยค พัฒน์ก็ยิ้มออกมาอ่อนโยนกับความคิดของธีร์ที่ตั้งใจจะเอาชนะใจแม่เขาด้วยความเป็นตัวของตัวเอง
คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ต้องเป็นคนนี้ และเพียงคนเดียวเท่านั้น
…
…
…
“เร็วๆ หน่อยสิยะ เดินช้าเป็นเต่าอยู่ได้” คุณหญิงทับทิมเรียกร่างสูงโปร่งของธีร์ที่เดินตามหลังถือของต่างๆ ที่เป็นทั้งของคุณหญิงและของกานต์เก้า
“คร้าบๆ” ธีร์เดินตาม สองมือก็เต็มไปด้วยถุงจากร้านแบรนด์เนมต่างๆ
แต่ธีร์ก็ยังคงทิ้งระยะห่างเอาไว้อยู่ดี มองแม่สามีกับลูกสะใภ้ในอุดมคติอย่างระอา ดูก็รู้ว่าอวยกานต์เก้าเกินเหตุ นอกจากชอปปิ้งแล้ว เธอก็เหมือนจะทำอะไรไม่เป็นอีกเลย
“คุณแม่ชวนมันมาทำไมคะ”
“ก็เอามากลั่นแกล้งไงคะลูก”
“งั้นคุณแม่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะยอมรับนายคนนั้นใช่ไหมคะ”
“ใครจะไปยอมรับให้ลูกชายมีแฟนเป็นผู้ชาย สะใภ้ของรัตนมณีโชติต้องเป็นหนูเท่านั้น เหมาะสมและเพียบพร้อมที่สุดแล้วจ้ะ” คุณหญิงพูดบอกกานต์เก้าอย่างร่าเริง ส่วนหญิงสาวเองก็ยิ้มอย่างพอใจที่ได้ฟังเหตุผล
“ขอบคุณนะคะ คุณแม่คะ เข้าร้านเพชรไหมคะ”
“ก็ดีเหมือนกันนะจ้ะ แม่อยากจะดูเหมือนกันว่าร้านไพพิจิตรของคุณพี่นภาจะมีคอนเล็คชั่นใหม่ออกมาหรือเปล่า”
เธอทั้งสองเดินตรงไปยังร้านเพชรของธีร์ที่ร่างโปร่งเริ่มกลับมาช่วยพี่ชายบริหารหลังจากงานที่บริษัทคงที่แล้ว ธีร์ขมวดคิ้วเครียดเพราะกลัวเจอแม่ของตนที่ร้าน และก็เป็นไปตามนั้น แม่ของธีร์มาที่ร้านนี้ในวันนี้พอดี อะไรมันช่างบังเอิญขนาดนี้นะ
“อย่ายืนเกะกะหน้าร้านสิยะ รีบเข้ามา เอาของวางไว้ตรงนั้นด้วย” ธีร์เดินเอาถุงต่างๆ ไปวางตรงโซฟาหรู ก่อนจะมองสบตากับมารดาของตนที่นั่งคุยกับคุณหญิงในมุมหนึ่งที่มีไว้ให้ลูกค้านั่งเลือกแบบเครื่องเพชร ซึ่งเธอจะทักแล้วแต่ลูกชายของตนก็ทำท่าเหมือนไม่ให้พูด
“มานั่งนี่สิยะ ให้ฉันเดา นายคงไม่เคยเห็นเพชรเยอะๆ แบบนี้ล่ะสิท่า” คุณหญิงเรียกให้ธีร์ไปนั่งข้างๆ ตน ซึ่งเธอก็นั่งตรงกลางระหว่างธีร์และกานต์เก้า
เพชรน่ะหรือ เห็นตั้งแต่เด็กจนเบื่อแล้วครับคุณแม่
“ขอโทษนะคะคุณพี่ คนของน้องไม่ค่อยประสาน่ะค่ะ” รีบออกตัวขอโทษทันทีเพราะกลัวว่าคนอายุมากกว่าอย่างแม่ของธีร์จะไม่พอใจเอา
“ไม่เป็นไรค่ะ ว่าแต่ใครหรือคะ” ธีร์แอบยกนิ้วเยี่ยมให้เพราะแม่ของตนเข้าใจสถานการณ์ได้เองแบบไม่ต้องบอก
“คนรับใช้คนใหม่น่ะค่ะ”
“อ๋อ...หรือคะ” แม่ของธีร์กำลังโกรธ ร่างโปร่งรู้สึกได้ จนเขาต้องส่งสายตาบอกว่าไม่เป็นไร
ใครจะไม่โกรธที่มีคนมาดูถูกลูกชายตัวเองต่อหน้า แม้ว่าจะไม่รู้ก็เถอะ...
“คุณแม่คะ เส้นนี้สวยจังเลยค่ะ แต่ราคานี่สูงมากเลย ช่วงนี้หนูโดนคุณพ่อระงับการใช้เงินน่ะค่ะ เลยซื้อไม่ได้” เธอเอ่ยอย่างหงอยๆ มีจุดประสงค์ให้ทับทิมซื้อให้
“เส้นนี้แม่มีแล้วค่ะ แต่รู้สึกว่ามันหมดแล้วไม่ใช่หรือคะคุณพี่” เงยหน้าถามอรนภา ซึ่งเธอก็ยิ้มพร้อมพยักหน้าน้อยๆ
“ใช่ค่ะ พอดีว่ายังไม่ได้อัพเดทแคตตาล็อกใหม่เลย”
“งั้นหรือคะ เสียดายจัง” กานต์เก้าบ่นอุบอิบ
“ใช่สิ คุณหญิงวันเสาร์นี้ พี่ธินจะจัดงานโชว์เครื่องเพชรน่ะ ว่าจะส่งการ์ดเชิญแต่ว่าการ์ดยังไม่เสร็จเลย พี่เลยชวนปากเปล่าไปก่อน ส่วนการ์ดเชิญจะตามไปที่บ้านอีกทีนะคะ” อรนภาชวน ซึ่งมันทำให้ทับทิมรู้สึกตาแวววาวด้วยความสนใจทันที
เธอเป็นคนชอบเครื่องประดับและตกแต่งบ้านเป็นชีวิตจิตใจ เรื่องแบบนี้ไม่พลาด
“อีกสามวันสินะคะ ได้ค่ะคุณพี่”
“มีไฮไลต์พิเศษด้วยนะคะ เป็นชุดเครื่องเพชรที่ลูกชายคนเล็กออกแบบเองตอนกำลังอกหักน่ะค่ะ ตอนเห็นก็ชอบมาก เลยขอลูกชายเอามาทำน่ะค่ะ แต่จะทำเพียงแค่ 5 ชุดเท่านั้น”
ธีร์ยิ้มกริ่มกับประโยคที่ว่า ออกแบบตอนที่กำลังอกหัก ก็มันจริงล่ะนะ มันเป็นเครื่องเพชรที่ธีร์รู้สึกถึงความล้ำค่า หยาดเพชรที่ดูเหมือนหนดน้ำตา มันทำให้ธีร์คิดถึงวันเหล่านั้นจริงๆ
“ตายจริง อกหักหรือคะ แล้วเป็นยังไงบ้างคะตอนนี้” ถามด้วยความเป็นห่วงอย่างจริงใจ
“ตอนนี้เขาสองคนเข้าใจกันแล้วล่ะค่ะ กำลังเอาใจแม่แฟนอยู่ แต่เหมือนจะเป็นการยาก เพราะยังไงก็ผู้ชายทั้งคู่” คุณหญิงอรนภาเล่ายิ้มๆ ซึ่งธีร์ก็แอบเขินหน่อยๆ ที่ต้องมานั่งฟัง เกือบหลุดโวยวายแล้ว ดีที่ตั้งสติได้
“ผู้ชายทั้งคู่หรือคะ”
“ใช่แล้ว เฮ้อ...ลูกชายทั้งสองของพี่ไปเป็นลูกสะใภ้บ้านอื่นหมดเลย พี่ล่ะเศร้า”
“คุณพี่เศร้าแต่ทำไมถึงยิ้มล่ะค่ะ”
“ที่พี่ยิ้มเพราะพี่มีความสุขที่เห็นลูกมีความสุข บอกตรงๆ ตอนได้ข่าวว่าลูกชายกินไม่ได้นอนไม่หลับ ลมป่วยประสบอุบัติเหตุ คนเป็นพ่อแม่นี่แทบช็อกเลยนะคะ แต่ก็ได้แฟนลูกชายนี่แหละมาดูแลไม่ห่าง”
“ดีใจด้วยนะคะ” ทับทิมยิ้มอย่างจริงใจ
เธอไม่ได้รังเกียจความรักของเพศเดียวกัน แต่พอเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ ก็ยากที่จะทำใจยอมรับได้ แม้จะเป็นการขัดขวางความสุขของลูกก็ตาม แต่เธอก็เคารพการตัดสินใจ ที่พาผู้หญิงมาให้รู้จักก็เผื่อว่าพัฒน์จะมองว่าเป็นความรู้สึกชั่ววูบ อีกเดี๋ยวก็เลิก...
“ขอบคุณนะคะ อ้อ!! ชื่องานเปิดตัวเครื่องเพชรของน้องธีร์ชื่อว่า หยาดน้ำตาแห่งความรัก ทำเพียง ห้าชุดเท่านั้น โดยที่ลูกชายไม่ให้ขายนะคะ ให้โชว์ตามสาขาใหญ่ทั้งห้าเท่านั้น แต่มีอีกชุดหนึ่งที่น้องธีร์ออกแบบตอนที่ความรักสมหวัง ตัวชุดนี้จะวางขายเพียง 23 ชุดเท่านั้นค่ะ อายุของลูกชาย ชื่อว่า ความสุขแห่งความรัก โปรเจคนี้สองพี่น้องช่วยกันทำขึ้นมา ถือว่าเป็นโปรเจคส่งท้ายปีเลยนะคะ” ระหว่างที่เล่าอรนภาก็มอบรอยยิ้มอบอุ่นให้กับลูกชายตลอด แต่คุณหญิงทับทิมกับกานต์เก้าไม่ได้สนใจมากนัก
“น่าสนใจมากๆ ค่ะ หนึ่งในยี่สิบสามน้องต้องเป็นเจ้าของค่ะ ว่าแต่ลูกชายคนเล็กที่อัคนี อภิหชัยบดินทร์ ดึงตัวไปทำงานด้วยใช่ไหมคะ สงสัยจะเป็นคนที่เก่งรอบด้านจริงๆ ขนาดลูกชายของน้องโชคดีแล้วนะคะที่ปฐพีอภิหชัยบดินทร์มาดึงตัวไป แต่ลูกชายคุณพี่น่าอิจฉาว่า เพราะบริษัทนั้นเป็นบริษัทเก่าแก่ที่เปิดมานาน แต่ DINZ เพิ่งเปิดตอนที่คุณอิสระกับคุณหญิงอัญมณีกำเนิดลูกแฝด สงสัยกลัวลูกแย่งงานกันทำนะค่ะ”
“พี่ก็ว่าอย่างนั้น”
“แสดงว่าลูกชายของเราก็น่าจะรู้จักกันสินะคะ” ธีร์ยิ้มกริ่มกับคำถามนี้ รู้จักสิ รู้จักดีเลยด้วย
“ฮะๆ ว่าแต่คุณหญิงสนใจเครื่องเพชรชุดไหนไหม พี่จะได้ให้เด็กๆ ไปเอามาให้”
“ขอน้องดูก่อนนะคะ”
คุณหญิงเลือกดูในแคตตาล็อกต่ออย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนร่างโปร่งที่เงียบมานานก็กลัวว่าคุณหญิงจะเหงา เลยช่วยแนะนำ
“ผมว่าเส้นนี้สวยดีนะครับ น่าจะเหมาะกับคุณแม่” ธีร์ชี้ไปที่ตัวเพชรเส้นหนึ่งที่มีทับทิมสลับกับเพชรเรียงกันสวยงาม
“ไม่ต้องมาแนะนำย่ะ ฉันเลือกเองได้” เธอปฏิเสธอย่างมีฟอร์ม ทั้งๆ ที่ความเป็นจริงเธอก็ชอบเส้นนี้อยู่เหมือนกัน แต่พอธีร์ชี้ เธอก็ไม่อยากจะได้ทันที แอบเสียดายนิดๆ
“ไม่เห็นสวยเลยสักนิด” บ่นอุบอิบอย่างเสียดาย
“ใช่ค่ะคุณแม่ ไม่เห็นจะสวยเลย นายน่ะมันไร้รสนิยม ดูเพชรไม่เป็น เส้นนั้นมันธรรมดาจะตาย ไม่เห็นสวยเลยสักนิด” กานต์เก้ารีบพูดสมทบกับคุณหญิง แต่เป็นประโยคที่ทำเอาคุณหญิงถึงกับหน้าเสีย เพราะเธอชอบเพียงแค่ไม่ยอมรับความจริงเท่านั้น
แอบโกรธที่กานต์เก้าว่าไร้รสนิยม
“โอเคๆครับ ผมไม่แนะนำก็ได้ ถ้าอย่างนั้นผมขอไปรอข้างนอกก็ได้ กลัวคุณแม่จะไม่สบอารมณ์ไปมากกว่านี้” เขาพูดบอกไปแค่นั้นก็ลุกออกจากโซฟาทันที ปล่อยให้แม่สามีกับลูกสะใภ้ในอุดมคติเลือกเครื่องเพชรต่อไป แอบส่งยิ้มให้กับแม่ของตนด้วย ซึ่งเธอก็ส่ายหน้าไปมากับความสนุกของลูกชาย
หวังว่าลูก...จะผ่านไปได้นะคะ
แม่เป็นกำลังใจให้
100%

หลายคนสงสัยว่า พี่ธีร์เจอแบบนี้จะผ่านไปได้ไหม ที่จริงแล้วคุณหญิงแกเป็นคนขี้ใจอ่อน แล้วยิ่งเจอความน่ารักของเจ็มที่ปูทางมาแล้วด้วยนั้น ไม่มีอะไรดราม่าเล้ย!!! แรกๆ ก็ไม่พอใจนั่นแหละ แต่หลังๆ เริ่มรู้จักนิสัยเท่านั้นแหละ อิอิ
พูดคุย ทวงนิยาย รออัพเดทข่าวสารได้ที่แฟนเพจเลยค่า
https://www.facebook.com/sawachiyuki