❥Close Friend :: เพื่อนสนิท ||เรื่องเล่าระหว่างทาง 8 ||P.45||12-12-59||
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❥Close Friend :: เพื่อนสนิท ||เรื่องเล่าระหว่างทาง 8 ||P.45||12-12-59||  (อ่าน 249715 ครั้ง)

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
รอคอยจะได้พบกัน  ยังจะมางอนกันอีก ใช้เวลาที่มีให้มีความสุขที่สุด  ตักตวงไว้ยามไกลอีกรอบ ขอบคุณมูเจที่มาต่อให้ค่ะ

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
โธ่ ต๊ะเจ็บตัวฟรีเลย ไม้ฉากขี้หึงมากกกกกกกก

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
เจอกันทีไรต้องได้งอนกันก่อนทุกทีสิหน่าาา  :katai1:
แต่ง้อกันได้ก็โอเชช o13

ออฟไลน์ maytarapat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 351
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-4
ไม้ฉากหึงได้น่ากลัวมาก
แต่ก็ง้อได้น่ารักมากเหมือนกัน
คิดถึงเรื่องนี้ อยากอ่านอีก

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
เดี๋ยวเค้ามาอัพพต่อนะฮับบบ : )

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
|| Close Friends Special :: เรื่องเล่าระหว่างทาง 4  ||ปั้นสิบ.
เจอกันพร้อมหน้า.
 

“ไม้ .. อืออ พะ พอ พอ ได้แล้ว”
ผมพยายามจะใช้แรงที่มีอยู่ตอนนี้ ผลักเจ้าหมาป่าไม้ฉากให้ออกไปจากตัวผม
แต่มีหรอครับ หมาป่าหิวโซอย่างมันจะยอมหยุด
 
“ก็ใครมันพูดว่าเจอหน้ากันให้จัดหนักๆได้ไงละ”

“อ๊ะ.. อย่าจับตรงนั้นดิวะ แล้วก็ อื้มม .. กะ กู กูพูดตอนไหน”

มือไม้ฉากจับไปทั่วแล้วครับ นอกจจะไม่หยุดแล้วมันยิ่งจับนั้นจับนี้เข้าไปใหญ่เลยละ
 
“มึงพูดทุกตอนที่คุยกัน มองหน้ากันแบบนี้สายตามึงก็บอกกู ว่าไม้ฉากครับ จัดหนักๆเลยนะครับ
เนี้ยยๆ ตามึงกำลังส่งสายตามาบอกกูแบบนี้จริงๆ”

จากที่มันวุ่นวายอยู่แถวๆหน้าท้องผม ตอนนี้มันขยับตัวขึ้นมา
ประสานสายตากับผม แล้วยังมาโมเมหาว่าผมส่งสายตาอ่อยมันอีก
 
“โอ้ยยไอ้บ้า กูไม่ได้ส่งสายตาแบบนั้น ตากูตอนนี้มันบอกมึงว่า กูง่วงงงง!”
ผมผลักไม้ฉากออกไปจากตัวผมสำเร็จละครับ ตอนนี้มันล้มตัวมานอนอยู่ข้างๆผม ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด
 
“ครับๆไม่ทำไรแล้วนะ นี้มันเช้าละ แล้วก็โน้น  มองไปที่เตียงโน้นสิ มีคนแอบดูเราอยู่”
ไม้ฉากชี้มือไปที่เตียงเด็กข้างๆที่นอนผม ซึ่งเจ้าเหนือได้โดนพ่อไม้ฉากย้ายไปนอนตั้งแต่เมื่อคืน
คือ เตียงเด็กนี้ไนซ์มันซื้อมาไว้ให้นะครับ ผมตั้งใจจะประกอบเตียงในวันหยุดนี้
เวลาผมทำขนม จะได้เอาเจ้าเหนือใส่เตียงเด็กไว้ได้ แต่ตั้งใจเอาเตียงไว้ในห้องนั่งเล่นข้างนอกโน้นครับ
ไม่ได้ตั้งใจจะเอามาไว้ในห้องนอน เพราะยังไงๆผมก็อยากให้เจ้าเหนือนอนบนเตียงใหญ่กับผม
 
“เหนือตื่นนอนแล้ว แต่กูยังไม่ได้นอนเลยนะ มึงลุกไปเลย  ไปจัดการอุ้มน้องเหนือออกมาเลย กูไม่ไหวแล้ว ไม่มีแรงแล้ว”
ผมงอแงๆ ให้ไม้ฉากไปอุ้มน้องเหนือ ซึ่งตอนนี้กำลังนอนเล่นคนเดียวอยู่บนที่นอน
 

“ครับๆ ปั้นจะอาบน้ำก่อนไหม หรือจะนอนเลย”

ไม้ฉากดึงผมเข้าไปหอมแก้มแรงๆ เน้นเลยว่า แรงง!!
แก้มกูพังพอดี ,, ไอ้บ้าเอ้ยยยยย!!!
แล้วมันก็ลุกขึ้นเดินไปอุ้มน้องเหนือ
 
“จะนอนเลยอะ เดี๋ยวขอนอนสัก 30 นาทีนะ ไม้เลี้ยงเหนือไปก่อนเลยนะครับ เดี๋ยวจะลุกไปช่วย”
พูดเสร็จผมก็ดึงผ้าห่มมาห่ม ก่อนจะนอนหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า
 
จะไม่เหนื่อยล้าได้ยังไงละครับ ,, เมื่อคืนพอผมอาบน้ำเดินเข้ามาหาไม้ฉากที่เล่นกับเหนือบนเตียง
ไม้ฉากก็อ้อนๆผมแป๊บหนึ่ง แล้วบอกให้ผมออกไปทานข้าวกับพี่มิ้วข้างนอก ไม้ฉากจะเอาน้องเหนือเข้านอนเอง
ผมก็เลยเดินออกมานั่งทานข้าวกับพี่มิ้ว แล้วก็นั่งคุยนั่งเล่นกับพี่มิ้วต่อ
จนผ่านไปหลายชั่วโมงเหมือนกัน ผมเห็นว่ามันนานมากเกินไป ทำไมไม้ฉากไม่ออกมาซะที
เลยเดินเข้าไปหาที่ห้อง ซึ่งพี่มิ้วเองก็ขอตัวเดินเข้าไปนอนพักที่ห้องนอนคุมะ
พอเข้าห้องนอนมาก็เจอกับเตียงเด็กวางไว้ข้างๆเตียง และเจ้าเหนือได้นอนหลับไปแล้ว
แต่พ่อไม้ฉากมันไปไหนวะ??
 
ตอนนั้นผมก็คิดแค่ว่ามันคงเข้าไปอาบน้ำละมั้ง   ซึ่งผมก็กำลังคิดอยู่เลยว่าจะเปิดคอมทำงานดีไหม?
แต่ไม้ฉากเดินออกจากห้องน้ำมาพอดี แล้วมันก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรเลยครับ
จับผมเข้าไปกอด ก่อนจะ .......นั้นแหละครับ จนถึงเช้า TT’
กี่ชั่วโมงละ ถามใจมันดูสิครับ!
 
ผมนอนหลับไปนานมากเลยครับ ตื่นมาอีกทีเพราะไม้ฉากเอามือน้องเหนือมาจับๆที่หน้าผม

“ลุงปั้นครับ ตื่นเถอะครับ”
ไม่พูดเฉยๆนะ เอามามาตบๆ แปะๆ ที่หน้าผม แล้วก็เรียกชื่อผมซ้ำๆไปมา
ตอนแรกเฉยๆครับ หลังๆเริ่มหงุดหงิด 555
ไม่ได้หงุดหงิดน้องเหนือนะ หงุดหงิดตัวพ่อนี้แหละครับ
ไอ้แรงที่แปะๆโดนหน้าผมเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ คงไม่ใช่แรงเจ้าเหนือแล้วละ
แรงพ่อมันแน่ๆ !!
 
“นอกจากจะทำให้ตัวกูช้ำไปทั้งตัวแล้ว นี้ยังจะมาตบหน้ากูอีกหรือไงครับ”
ผมลืมตาขึ้นมายิ้มให้น้องเหนือ ก่อนจะหันไปมองหน้าพ่อไม้ฉากที่หัวเราะชอบใจที่ผมตื่นมาตอบโต้มันได้
 
“ไปกินข้าวเถอะนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี”
พูดจบแล้วก็ยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ผม พร้อมๆกับดึงแขนผมให้ลุกจากที่นอน
ผมก็ได้นอนพักมาบ้างแล้ว เลยยอมลุกไปอาบน้ำแต่งตัวอย่างโดยดี ไม่มีงอแงใดๆ (หร๊า)
 
พอผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาทานข้าว ซึ่งตอนนี้ไม้ฉากกำลังนอนเล่นกับเจ้าเหนือที่หน้าทีวี

“พี่มิ้วไปไหนอะไม้?”
ผมนั่งทานข้าวที่ไม้ฉากเตรียมไว้ให้ ก่อนจะถามหาพี่มิ้ว
 
“เห็นบอกว่าจะไปทำงานนะ เย็นๆคงแวะมา”
อืมมม พี่มิ้วก็มีงานจะต้องทำนี้เนอะ มาอยู่บ้านผมบ่อยจนผมลืมไปแล้วว่าพี่มิ้วมีบ้าน มีงานทำเหมือนกัน 5555+
 
ผมก็นั่งทานข้าวไปเรื่อยๆ สลับกับนั่งมองดูสองพ่อลูกนอนเล่นกันไปด้วย
จนผมทานข้าวอิ่มและเก็บจานไปล้างเรียบร้อยแล้ว กำลังจะลงมานั่งโซฟาข้างๆที่ไม้ฉากนอน
เสียงมือถือไม้ฉากก็ดังขึ้นมา
ไม้ฉากหยิบมือถือขึ้นมาดู ก่อนจะหันมาบอกผมว่า ...

“พิมโทรมานะ”

ผมก็พยักหน้าให้ ก่อนจะอุ้มน้องเหนือมาเล่นบนตักผม แล้วก็นั่งฟังไม้ฉากคุยกับพิม
(มันเป็นลำโพงไว้นะครับ)
 
“ว่าไงพิม” ปากมันก็พูดทักพิมไป แต่มือก็เริ่มจะต่อสายเครื่องเกมส์เข้ากับทีวีแล้วละครับ
 
“พี่ไม้กลับมากรุงเทพหรอคะ” เสียงของพิมดูตกใจ จนไม้ฉากหยุดต่อสายเกมส์ แล้วหันมามองหน้าผม
 
“อืมใช่ ,, รู้ได้ไงละเรา พี่ไม่ได้โทรบอกเราเลยนะ”
พอไม้ฉากพูดมาแบบนี้ ,, ผมรู้สึกใจหวิวๆยังไงไม่รู้ละครับ
 
“พิมมาเยี่ยมพัชนะคะ แต่พัชไม่ยอมให้เยี่ยม พิมเลยโทรหาแม่ จะชวนแม่ออกมาทานข้าว
แต่พ่อเป็นคนรับสาย พ่อถามว่ามากับพี่ไม้หรอ พิมก็บอกว่าเปล่า พิมมาคนเดียว
พ่อเลยถามว่าไม้ไปไหน มันกลับมาจากใต้แล้วไม่ใช่หรอ  พิมเลยลองโทรมาถามพี่ไม้ดูนะคะ”

พอฟังจบ ไม้ฉากทำสีหน้าแบบโคตรเซ็งอะครับ
 
“อืมม แล้วจะกลับเชียงใหม่เมื่อไหร่ เอาเหนือมาฝากปั้นไว้แบบนี้มันไปเรียนไม่ได้นะ”
ไม้ฉากไม่ได้พูดถึงพ่อแม่ของพิมแต่ถามพิมกลับไปว่าจะกลับเชียงใหม่เมื่อไหร่แทน
แต่เหมือนพิมจะไม่ทันได้ฟัง เพราะพิมตอบกลับมา ทำให้ไม้ฉากถึงกับหยุดชะงักการต่อเครื่องเล่นเกมส์
 
“พี่ไม้คะ พ่อจะพูดสายด้วยคะ”
และไม่ทันที่ไม้ฉากจะตอบรับอะไรกับพิม เสียงปลายสายก็เปลี่ยนเป็นเสียงผู้ชายแทน....
 
“ไงละเรา กลับจากใต้ไม่คิดจะไหว้พ่อไหว้อาบ้างหรือไง”
เสียงของพ่อน้องพิม,, ดูเรียบๆ แต่ก็เหมือนแฝงอะไรไว้หลายๆอย่าง
 
“ผมแวะมาหาปั้นสิบก่อนนะครับ แล้วกะว่าใกล้ๆจะลงใต้ค่อยโทรไปบอกพ่อ”
โอ้ยย แล้วนี้ก็ตอบกลับไปซะไม่กลัวอะไรเลย!!
 
“อ่ออออ วันนี้ว่างไหมละเรา พาเหนือมาหาอาหน่อยสิ อยากจะเห็นหน้าหลาน
ไม่ได้มองหน้าชัดๆเลย แล้วจะพาปั้นสิบมาด้วยก็ได้นะ”

ไม้ฉากหันมาถามผมเหมือนจะปรึกษา ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไง
ก็ได้แต่พยักหน้าให้มัน แล้วบอกกับมันเบาๆว่า “แล้วแต่มึงเลย”
 
“ได้ครับ  คงไปถึงเย็นๆนะครับ เพราะต้องเตรียมของให้เหนือก่อน”
ไม้ฉากยังนั่งมองหน้าผม  สายตามันเหมือนจะถามผมให้แน่ใจว่า..  จะไปจริงๆงั้นหรอ?
จะให้ปฏิเสธยังไงละครับ ก็โทรมาตามขนาดนี้แล้วนิ
ถ้าพวกผมไม่ไป ,, ผมก็เชื่อว่าเย็นนี้ที่คอนโดผมต้องได้ต้อนรับแขกจากโคราชแน่ๆ
 
หลังจากไม้ฉากวางสายจากพ่อพิมไปแล้ว ,, มันยังคงนั่งนิ่งๆไม่ได้พูดอะไร
จนผมเริ่มกลัว .. กลัวความนิ่งเงียบของมัน
ไม่รู้ว่าเวลาที่มันนิ่งไปแบบนี้ ,, มันกำลังคิดที่จะทำอะไร?
 
“ไม้ .. ไม้ครับ”
ผมเอื้อมมือไปจับไหล่ไม้ฉากไว้ แล้วเรียกมันซ้ำๆอยู่หลายครั้ง
จนมันหันมายิ้มบางๆให้ผม
 
“อืมม ไปเก็บของกันเถอะ”
ไม้ฉากเอื้อมมือมาอุ้มน้องเหนือออกไปจากตักผม .. ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง
ยิ้มจากไม้ฉากเมื่อกี้ .. มันจะแฝงความรู้สึกอะไรไว้บ้างนะ?




-------------------------------------------------------------------
หลังจากหายไปรักษาตัวอยู่นาน ตอนนี้กลับมาแล้วนะคะ
คืนนี้เอามาฝากก่อนนิดหน่อยนะ ฉบับเต็มจะตามมาพรุ่งนี้นะค่าา : )
คิดถึงกันอยู่ใช่ไหม? ยังไม่ลืมกันใช่ไหม?
TT เค้าสัญญา ,, ว่าเค้าจะไม่หายไปอีกแล้ว

แล้วพรุ่งนี้มาต่อจนจบนะคะ ... ฝันดีค่าาา

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไม่ชอบพ่อแม่ไม้ฉาก พ่อแม่พิม มีเล่ห์เหลี่ยม เชื่อถือไม่ได้ โกหกหลอกลวง
เป็นผู้ใหญ่ที่ทำตัวแย่  ทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจ ลูกตัวเองและปั้นสิบ
จริงๆ มีสิทธิ์อะไร ที่ทำร้ายปั้นสิบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2016 15:31:26 โดย ทฟเืนสรฟ »

ออฟไลน์ penneeamoon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 259
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอบคุณและดีใจมากเลยที่ได้อ่านต่อ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ
จะรอค่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
หูย.....เมื่อไรจะปล่อยไม้กับปั้นไปนะ



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
นับถือในเด็กสองคนนี้
ขนาดเจอความร้ายของผู้ใหญ่เลวๆ
ยังหยุดสองคนนี้ไม่ได้

ไม้+ปั้น
ข้าน้อยคารวะ
ในความรักที่ไม่มีสั่นคลอน

ออฟไลน์ REDMOON

  • only me by alone
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ตาม ๆ มาอ่าน  สงสารปั้น ไม้

พ่อไม้ โหดเกิ๊นไหมอ่ะ

รอ ๆ อ่านต่อนะค่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
สวัสดีค่าา
วันนี้เจมาทักทายดึกๆเลย ,,
เจมีเรื่องมาแจ้งให้ทราบก่อนเนอะ

1. นิยายเรื่อง My Tutor และ Close Friends จะยังไม่มีการอัพเดทต่อนะคะ
เพราะมันอยู่ในระหว่างกำลังจะจัดรวมเล่ม ซึ่งตอนนี้รอแค่ปก
และมันมีปัญหาตรงที่ว่าคนที่รับเอารูปปกไปทำขนาด ไปแบ่งทำปกหน้าหลังปกนั้นสันปกนั้น
เจติดต่อเค้าไม่ได้เลย เค้าขาดการติดต่อไปเลย ซึ่งงานที่เค้ารับจากเจไปนั้นทั้งหมด 5 ปก
มันเลยทำให้การสั่งตีพิมพ์ต้องชะงักลงไป.
หรือถ้าจะอัพเดทต่อยังไงเจจะมาแจ้งให้ทราบนะคะ
(ไฟล์ที่เสร็จแล้วทำเป็น pdf จะก๊อปมาลงเพจเลยก็ได้ แต่ตัวอักษรมันเด้ง
ต้องมานั่งแก้เป็นตัวๆไป ส่วนไฟล์ .docx นั้นเจไม่ได้เก็บไว้ในคอมที่ใช้ในช่วงนี้)
 
2. เพจนี้อาจจะเงียบลงอีกครั้ง เพราะเจต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกรอบ
ครั้งก่อนเจผ่าเนื้องอกในมดลูกออกไปแล้ว ตอนแรกคิดว่าผลผ่าตัดน่าจะโอเค
แต่จากการนัดดูอาการมาตลอดหลายเดือน
หมอให้ผ่าเอารังไข่ออก และต้องเข้ารับการตรวจการนอนหลับ หรือ Sleep Lap
 
ซึ่งคงไม่ได้อัพเดท หรือลงนิยายได้แบบที่บอกไว้
ต้องขอโทษทุกๆคนนะคะ ที่ทำให้รอกันุ
และขอบคุณหลายๆท่านที่ inbox มาให้กำลังใจด้วยนะคะ
ยังไงก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง และมีความสุขทุกคนน๊า
 
 
ด้วยรักและคิดถึง
- มายเนมอีส -
 
ปล. ลงนิยายในสต๊อคเพิ่มไว้ 1 เรื่องน๊า : )

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
|| Close Friends Special :: เรื่องเล่าระหว่างทาง 4  ||ปั้นสิบ.
เจอกันพร้อมหน้า. (ต่อ)



กว่าเราจะเก็บของเสร็จก็เกือบบ่ายโมง ไม้ฉากยังคงทำสีหน้านิ่งเฉย ซึ่งผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่

“ไม้ .. ขับไหวปะ ให้ปั้นขับให้เอาไหม?”
ผมถามไม้ฉากที่ตอนนี้มันกำลังเอากระเป๋าเสื้อผ้า และรถเข็นของน้องเหนือใส่หลังรถ

“ไม่เป็นไรไม้ขับได้อยู่แล้ว ปั้นนั่งอุ้มเหนือไปแหละดีแล้ว เมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเลยไม่ใช่หรอไง”
ตอนแรกก็สงสารมันนะครับ นี้คิดไปไกลเลยว่ามันคงกำลังเคลียด เดี๋ยวไม่มีสมาธิขับรถ
แต่ดูจากคำตอบของมันและท่าทางที่ส่งยิ้มแล้วขยิบตามาให้แล้วนั้น …. เชิญมึงขับรถไปเลยครับ!!!!!!

ไม้ฉากยืนมองหน้าผมอยู่นิ่งๆแบบนั้น ก่อนจะเอื้อมมือมาขยี้หัวผมเล่น

“มึงโอเคใช่ไหม”
จริงๆกูควรถามมึงมากกว่ามั้ย?

“อย่าห่วงเลย กูปั้นสิบนะเว้ยย ,, ถึกยิ่งกว่าควายอะ”

“55555 เออดีๆ ด่าตัวเองได้ด้วยเว้ยยแฟนกูเนี้ย”

ไม้ฉากเดินหัวเราะออกไป ก่อนจะขึ้นไปประจำตำแหน่งคนขับ ผมก็เลยได้แต่ยืนเอ๋อแบบนั้นละครับ
นี้สรุปมันไม่ได้เครียดเลยใช่ไหม? แล้วผมด่าตัวเองทำไม - -‘ สมองไปหมดแล้วไอ้ปั้นเอ้ยยยย

ผมรีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง ก่อนจะจัดให้น้องเหนือนั่งตักของผม ไม่ลืมของเล่นของน้องเหนือด้วยอีก 2-3 ชิ้น

“โอเคละนะ ,, ไม่ลืมไรแล้วใช่ป่าว?”
ไม้ฉากหันมาถามผมอีกครั้ง ผมเลยได้แต่พยักหน้าตอบกลับไป
ไม่กล้าตอบอะไรตอนนี้ละครับ กลัวตอบอะไรตลกๆออกไป แล้วมันจะขำใส่ผมอีก
พอมันเห็นว่าผมคงไม่ตอบมันแน่ๆแล้ว มันเลยหันไปพูดหยอกล้อเล่นกับน้องเหนือแทน

“ไปหาคุณปู่คุณตากันนะครับน้องเหนือ”
เจ้าตัวเล็กที่นั่งเล่นบนตักผม พอเห็นว่าพ่อเอามือมาจิ้มๆแก้มก็ยิ้ม แล้วหัวเราะชอบใจใหญ่เลยครับ

ไม้ฉากยิ้มให้ผมกับน้องเหนืออีกครั้ง ก่อนจะขับรถออกจากคอนโดไป
ระยะทางจากกรุงเทพไปโคราชนั้น จริงๆมันไม่ได้ไกลมากหรอกครับ
แต่ครั้งนี้ ,, เหมือนทั้งผมและไม้ฉากพยายามที่อยากจะแวะนั้นแวะนี้กันไปตลอดทาง
ไม่อยากไปถึงรีสอร์ทนั้นเลย TT

“ปั้น .. เดี๋ยวไม้คงไม่ได้แวะระหว่างทางแล้วนะ ตอนนี้มันจะเย็นแล้ว และก็เหนือเริ่มงอแงแล้วละ
คงอึดอัดที่นั่งบนรถนานๆ เราตรงไปบ้านพิมเลยละกันน”

“อืมม “

ผมตอบได้แค่นั้นแหละครับ จะให้ตอบว่าไม่เอา ก็คงไม่ได้ใช่ไหมละ มาขนาดนี้แล้ว

ตอนที่ไม้ฉากขับรถเข้ามาในรั้วของรีสอร์ท ,,
ภาพต่างๆมันไหลเข้ามาในความคิดของผมตั้งมากมาย
ทำไมวะ ,, ทำไมลืมไม่ได้ซะที!!!

“ปั้น ,, ปั้นโอเคป่าววะ”
ไม้ฉากเขย่าที่ไหล่ผมเบาๆ
ตอนนี้รถจอดที่หน้าบ้านของพิมแล้ว

“อืออ โอเคดิวะ”
ผมทำได้แต่หันไปยิ้มให้ไม้ฉาก ก่อนจะอุ้มน้องเหนือที่หลับสนิทขึ้นบนบ่า

“เอาเหนือมาให้ไม้อุ้มเถอะมา  ตัวหนักขนาดนั้นปั้นคงจะเมื่อยแย่แล้ว”
พอไม้ฉากพูดจบมันก็เดินอ้อมมาเปิดประตูฝั่งที่ผมนั่ง แล้วอุ้มน้องเหนือไป

“ถ้าเหตุการณ์มันไม่ดี มึงกลับกรุงเทพไปก่อนเลยนะ
เข้าใจไหมปั้น ไม่ต้องห่วงกู  ห่วงตัวมึงให้มากๆ”

ไม้ฉากบอกกับผม พร้อมๆกับยื่นกุญแจรถให้

“มาด้วยกัน กลับพร้อมกันดีกว่า ต่อให้หนักยังไง กูก็ไม่ปล่อยมือมึงอีกแล้ว
กูกลัวพ่อมึงมากนะไม้ แต่กูกลัวชีวิตที่ไม่มีมึงมากกว่า”

ผมจับมือไม้ฉากไว้ ก่อนจะกระชับมือคู่นั้นให้แน่นขึ้น

“รักมึงนะ”

“เกือบหวานแล้วละ ถ้าไม่พูดมึงเนี้ยย”

“กลับไปห้องของเราก่อนละกันนะ จะหวานให้มึงเลี่ยนตายเลย”

ไม้ฉากยิ้มให้ผม ก่อนจะก้มลงมาจุ๊บที่หน้าผากผมเบาๆ

“ไปกันเถอะ”

“อืมม”

ผมเดินตามไม้ฉากเข้ามาในบ้าน ,, ถามว่ากลัวไหม?
ก็กลัวนะ แต่ไม่ได้กลัวว่าจะโดนทำร้ายจนตาย ต่อให้พ่อไม้ฉากเกลียดผมมากแค่ไหนก็ตามเถอะ
เค้าคงไม่ฆ่าผมหรอก  และป๊าม๊าผมก็คงไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายลูกชายของเค้าได้เหมือนกัน

“มาถึงกันแล้วหรอ แล้วนั้นหลับมาเชียวนะ”
พ่อของน้องพิมเอ่ยทักทายไม้ฉาก

“สวัสดีครับ เหนือเล่นมาตลอดทางเลยครับ เพิ่งจะหลับก่อนเข้าบ้านได้ไม่นาน”
ไม้ฉากส่งน้องเหนือให้พิม ก่อนจะยกมือไหว้พ่อของน้องพิม

“แล้วนั้นปั้นสิบเพื่อนไม้หรอ”

“สวัสดีครับ ผมปั้นสิบครับ”

ผมรีบยกมือไหว้สวัสดี ก่อนจะแนะนำตัวกับพ่อของน้องพิม

“ใช่ครับ นี้ปั้นสิบ แฟนของไม้เองครับ”
ไม้!!! โอ้ยยยย มึงบอกเค้าออกไปไม่ดูเลยว่าตอนนี้ทุกคนทำสีหน้ายังไง
พ่อแม่ของน้องพิมทำสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด ส่วนน้องพิมก็ได้แต่ยิ้มกลับมาให้ผม

“อ่ออคนนี้เองสินะ  หน้าตาดีนะเรา ไม่สนใจผู้หญิงบ้างหรอ”
ตอนนี้ไม้ฉากดึงแขนผมให้เดินไปนั่งที่โซฟา ส่วนน้องพิมพาเหนือเข้าไปนอนในห้อง

“ก็ไม่นะครับ”
จะให้ตอบยังไงละครับ - -‘  ก็แฟนผมนั่งจับมือผมอยู่ข้างๆเนี้ยย จะให้ไปสนใจผู้หญิงที่ไหนอีกกก!

“คุณอาครับ นี้แฟนผมนะครับ จะให้เค้านอกใจผมไปมองผู้หญิงที่ไหนอีกละครับ
ปั้นสิบไม่มองใครนอกจากผมแล้วละครับ ขนาดว่าแยกกันเรียนคนละจังหวัดมันยังรักยังรอแค่ผมเลย
จริงไหมปั้น?”

เห้ยยย นี้แฟนกูจริงๆใช่ไหมมม????
ไม้ฉากทำให้ทั้งห้องกลายเป็นห้องที่เงียบลงอีกครั้ง
คุณพ่อของพิมเริ่มมีสีหน้าไม่พอใจ ส่วนคุณแม่ของพิมก็ทำสีหน้าเศร้าตลอดเวลา

“งั้นนั่งพักกันไปก่อนนะ อีกสักพักก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วละ”

“ผมพาปั้นสิบไปพักก่อนนะครับ ผมใช้เรือนข้างๆตึกใหญ่ได้ใช่ไหมครับ มีแขกเข้าพักหรือป่าว?”

“พักบนบ้านใหญ่ก็ได้ ห้องรับแขกก็มี”

“ผมขอพักแยกไปดีกว่าครับ พอดีเดี๋ยวเพื่อนๆจะตามมาเที่ยวด้วยอีก 2-3 คน”

เพื่อน? ใครวะ? ทำไมไม่รู้เรื่องเลย - -'

“ก็ตามใจไม้ฉากละกัน พ่อขอตัวก่อนนะ เจอกันตอนมื้อเย็น”

“แล้วเจอกันครับคุณลุง”

พ่อของน้องพิมที่กำลังเดินออกจากห้องไปถึงกับหยุดเดินทันที ที่ได้ยินไม้ฉากเรียกว่า “ลุง”
ทั้งๆที่พ่อน้องพิมแทนตัวเองว่า“พ่อ” กับไม้ฉาก
แต่ไม้ฉากมันไม่ได้สนใจหรอกครับ มันพาผมเข้าไปห้องนอนของพิม

“เป็นไงบ้างละเรา อยู่เชียงใหม่หน้าตาสดชื่น กลับมานี้หน้าทุกข์โศกเชียวนะ”
ไม้ฉากเดินไปนั่งเล่นที่ระเบียง ก่อนจะหันมาทักทายพิม

“บ้านนี้มันน่าอยู่ที่ไหนละ อยากกลับเชียงใหม่แย่แล้ว ขาดเรียนหลายวันแล้วด้วย”
น้องพิมที่กำลังเล่นมือถืออยู่หันมาบอกไม้ฉาก

“อืออนะ เก็บของใส่กระเป๋าเตรียมให้พร้อมไว้ตลอดละกัน เราอาจจะได้กลับไวกว่าเดิม
และอาจจะได้กลับแบบกะทันหัน”

“พี่ปั้น นี้ใช่พี่ไม้จริงๆปะเนี้ย ทำไมดูพูดอะไรแปลกๆ ตั้งแต่ในห้องรับแขกกับพ่อแม่เมื่อกี้แล้ว”

น้องพิมหันมาถามผม ,, อย่าว่าแต่พิมเลยที่คิดว่าไม้มันแปลก ผมยังอึ้งอยู่เนี้ย

“พวกเราควรทำไงกันต่อไปดีละ ยอมให้เค้าบังคับไปตลอดแบบนี้
หรือเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองดี”

ไม้ฉากนั่งตรงขอบระเบียงห้องของพิม เอามือกอดอกแล้วหันมาถามพวกผม
ท่านั่งของมันตอนนี้โคตรหล่อเลยครับ คนบ้าอะไรวะ!!! หล่อแม่งงงงได้ตลอดเวลา
(ใช่เวลาอวดแฟนไหม????)

“แล้วพวกเราเลือกอะไรกันได้ด้วยหรอคะพี่”

“จริงๆแล้ว .... พวกเราเลือกทางเดินได้ตั้งนานแล้วละ
เพียงแต่พี่ไม่กล้าเลือกตั้งแต่แรกเท่านั้นเอง”

ไม้ฉากพูดไปก็จ้องหน้าผมไปด้วย แววตาที่แสนเศร้าของมันทำให้ผมนึกกลัวขึ้นมา
กลัวมันคิดจะทำอะไรบ้าๆ กลัวจริงๆว่าการตัดสินใจของมันในครั้งนี้จะทำให้มันกับผมต้องไกลกันอีก

“ไม่ใช่แค่มึงหรอกที่ไม่กล้าเลือก พวกเราทั้ง 3 คนไม่มีทางเลือกอะไรมากกว่า อดทนรอเวลาเหมือนที่ผ่านมาดีแล้ว
อีกแค่ปีกว่าเอง เราจะได้เดินในทางที่เราเลือก”

“มึงคิดแบบนั้นจริงๆหรอปั้น? มึงคิดว่าเค้าจะปล่อยพวกเราหรอ?”

“เค้าไม่ปล่อยเราหรอกพี่ปั้น... เค้าไม่มีวันปล่อยให้เราเลือกทางเดินของเราเองแน่ๆ”

แสดงว่าที่ผ่านมาทั้งไม้ฉากและน้องพิมต่างก็คิดมาตลอดว่าคงหลุดออกจากเส้นทางที่พ่อแม่เลือกให้ไม่ได้
แล้วทำไม.... ถึงยอมแต่งงานยอมมาอยู่ด้วยกันละ?
โอ้ยยยปั้นสิบ มันใช่เวลามาคิดเล็กคิดน้อยคิดระแวงไหมวะเนี้ยยย!!!!

พวกเราต่างเงียบและต่างก็จมอยู่กับความคิดของตัวเอง
จนกระทั่งมีคนมาเคาะประตูเรียกให้พวกเราไปทานข้าว

ไม้ฉากเดินเข้ามาโอบกอดผมไว้ เป็นกอดเบาๆที่เหมือนเรียกกำลังใจ
ผมเงยหน้าไปมองหน้าไม้ฉาก และก็คงทำได้แค่ยิ้ม ,, ยิ้มให้เหมือนที่เคย

“สู้ๆ”

“อืมม”


ส่วนน้องพิมนั้นออกจากห้องไปตั้งแต่ตอนที่ไม้ฉากมันเดินเข้ามากอดผมละครับ
พอผมกับไม้ฉากออกมาก็เจอกับพ่อแม่ของไม้ฉาก และไม้ที ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารรออยู่แล้ว

“สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่”
ไม้ฉากปล่อยมือที่จับมือผมไว้ออกก่อนจะยกมือไหว้พ่อแม่ ผมก็ยกมือไหว้ท่านทั้งสองตาม
ถึงท่านจะไม่มองหน้าผมเลยก็ตาม TT

“ไงเรา,, สูงขึ้นอีกแล้วนะ”
ไม้ฉากเดินไปจับหัวไม้ที ที่นั่งทานข้าวอยู่ข้างๆแม่
แต่ไม้ทีสะบัดตัวออกจากมือของไม้ฉาก

“อืม” ไม้ทีตอบรับกลับมาแค่นั้นแหละครับ
แต่สีหน้าของไม้ฉากนี้คือแบบ ,, อึ้งมากกก!

มันคงตกใจกับการกระทำของน้องมัน ที่ดูจะหมางเมินอย่างเห็นได้ชัด
ไม้ทีมองหน้าผมเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด

“นั่งเถอะ เลยเวลาทานข้าวมานานแล้ว”
พ่อของน้องพิมบอกให้พวกผมรีบนั่ง ก่อนที่มื้อค่ำวันนั้นจะผ่านไปด้วยความอึดอัด
ไม่มีการพูดคุยอะไรเลย มีแต่เสียงช้อนที่กระทบกับจาน
และดูเหมือนทุกๆคนจะทานข้าวได้น้อยมาก และถ้าผมไม่คิดมากไป
ไม้ทีมองหน้าผมเกือบตลอดเวลาที่อยู่บนโต๊ะอาหาร


“ไม้มาคุยกับพ่อหน่อย”
ระหว่างที่ไม้ฉากโอบไหล่ผมไว้ตอนเดินกลับเข้าไปในห้องพิม พ่อของไม้ฉากก็เรียกไม้ฉาก

“ครับ” ไม้ฉากมันก็พยักหน้ารับรู้นะครับ แต่ไม่ยอมปล่อยมือที่โอบผม และไม่เดินตามพ่อไปที่ห้องนั่งเล่น

“ไม้ฉากมาห้องนี้ แค่คนเดียว!”
นั้นไง ,, เสียงออกคำสั่งนั้นมาอีกแล้ว

“ถ้าไม้หายไปนานกว่า 1 ชั่วโมง กลับกรุงเทพไปได้เลยนะ
หรือให้โทรหายูโรว่ามันมาถึงไหนแล้ว ให้ไปอยู่กับพวกมันรอ
แล้วไม้จะรีบตามไป “

ไม้ฉากก้มลงมากระซิบข้างๆหูผม  หน้าตาของมันตอนนี้นิ่งมากครับ นิ่งจนผมเองก็เดาไม่ได้ว่ามันคิดอะไรอยู่

“ไม่มีอะไรเลวร้ายกว่าที่ผ่านมาแล้วละ ไปเหอะพ่อรอนานแล้ว”
มันอ้อยอิ่งๆไม่ยอมเดินเข้าไปในห้อง จนพ่อมันต้องตะโกนเรียกอีกครั้งมันถึงยอมเดินเข้าไป
พอไม้ฉากเดินเข้าไปในห้องรับแขกแล้ว ผมก็เลยเดินมาหาพิมที่ห้อง แต่ยังไม่ทันเข้าไปในห้องเลยครับ
ได้ยินเสียงแม่พิม และเสียงแม่ไม้ฉากกำลังรุมบ่นพิม
ผมว่า.... ผมไม่ควรเข้าไปในเวลานี้นะ

ผมเลยออกมาเดินเล่นที่หน้าบ้านแทน ไหนๆยูโรก็กำลังมา
มาเดินเล่นรอมันแทนละกัน

“ทำไมพี่ปั้นเป็นแบบนี้ละครับ”
เสียงของไม้ทีเอ่ยถามผมขึ้นมา และตัวไม้ทีเองก็เดินลงจากบ้านมาหาผม

“เป็นแบบไหนอะ โหววนี้สูงขึ้นเยอะเลยนะ ป.6 ละใช่ไหม?”

“ม.1 แล้ว”

ไม้ทียืนกอดอกมองหน้าผม ซึ่งท่าแบบนี้โคตรเหมือนพี่ชายมึงเลยครับน้องที

“ทำบ้านคนอื่นวุ่นวายแล้วมีความสุขหรอ”

นั่นไง คำถามน่าปวดหัว เห้อออ ใครไปใส่ไฟอะไรมาแน่ๆ

“ทำยังไงอะ พี่ก็ไม่ได้ยุ่งกับบ้านของทีเลยนะ”

“ก็ยุ่งกับพี่ไม้ทำไม คนอื่นมีตั้งเยอะทำไมไม่ไปชอบ”

ไม้ทีตอบกลับมาด้วยเสียงที่ดังจนคล้ายๆว่ากำลังตะโกนใส่ผม

“เราสามารถชอบคนอื่นนอกเหนือจากใจเราบอกว่าชอบด้วยหรอ”

“อะไร พูดอะไรของพี่วะ ตอบมาดีๆดิ”

หึ ,, ผมมองดูเด็กน้อยตรงหน้าที่ทำหน้าหงุดหงิดเหมือนเวลาไม่ได้ของเล่นที่ตัวเองอยากได้

“ทีชอบหุ่นยนต์ใช่ไหม”

“อืมม ใช่ ถามทำไมวะ แล้วคำตอบมันเกี่ยวกับที่ทีถามพี่ปะ”

“ถ้าสมมติว่าทีชอบหุ่นยนต์ตัวหนึ่งมากๆ แล้วแม่จะซื้ออีกตัวให้ โดยที่ตัวนั้นทีไม่ชอบเลย
ทีจะเอาไหม?”

“ไม่เอาดิใครจะบ้าเอาตัวที่ตัวเองไม่ชอบมาเล่นละ”

“ก็นั้นไง ,, พี่ก็เหมือนกัน พี่ชอบไม้ฉาก ต่อให้คนทั้งโลกบอกให้พี่ไปชอบผู้หญิงหรือผู้ชายคนอื่นพี่ก็คงทำไม่ได้
เพราะคนๆเดียวที่พี่รัก คือ ไม้ฉาก”

พอไม้ทีได้ยินคำตอบจากผม หน้าตาที่ดูหงุดหงิดเมื่อกี้มันเหมือนจะเพิ่มเลเวลเป็นทำหน้ารังเกียจผมแทนละครับ

“แต่พี่เป็นผู้ชายมาชอบผู้ชายด้วยกันทำไม”

“แล้วใครเป็นคนกำหนดว่าไม่ได้”

“มันวิปริต”

“มีแต่คนที่ไม่มองโลกกว้างๆแบบทีเท่านั้นแหละคิด พี่กับไม้ปกติดีทุกอย่าง
การที่พี่รักกัน พากันเรียน พากันทำงานไม่ได้เรียกว่าวิปริต
แต่คนที่คิดอกุศล คิดแยกคนรักกันออกจากกันนั้นต่างหากที่ผิด”

“พี่จะด่าว่าพ่อแม่ผมหรอ”

“พี่ไม่กล้าด่าหรอก พี่แค่บอก วันนี้ทีคงไม่เข้าใจ แต่สักวันทีรักใครสักคนขึ้นมา
ทีจะเข้าใจเองว่าทำไมพี่กับไม้ถึงรักกันและทำแบบนี้”

“ทีไม่มีวันเข้าใจหรอก ทีรู้แค่ว่าพี่ปั้นกำลังทำให้ชีวิตของทีเลวร้ายลงทุกที
และพี่ไม้ก็เป็นพี่ชายที่เห็นแก่ตัวที่สุด คิดแต่ความรู้สึกตัวเองไม่คิดถึงที ไม่คิดถึงแม่ที่ต้องทนฟังพ่อ ฟังปู่กับย่าด่าทุกวัน
พวกพี่สองคนมันเห็นแก่ตัว”

ทีตะโกนใส่หน้าผมอย่างดัง ก่อนจะวิ่งหนีไป

คือ เห็นแก่ตัว?
พวกกูเนี้ยนะ ,, ไม้ทีเว้ยยย มึงมาฟังชีวิตกูก่อนดีไหมม ที่ผ่านมากูเจ็บกูทนมาแค่ไหนน
เว้ยยยย !! หงุดหงิดเป็นบ้า!!


ผมยืนเตะดิน เตะก้อนหินระบายอารมณ์อยู่หน้าบ้านของพิมไปเรื่อยๆ
จนได้ยินเสียงโวยวายจากข้างในดังออกมา

“ไม้ฉาก”
ผมนึกห่วงไม้ฉากขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบ้านไป
ก็เห็นว่าแม่ไม้ฉากกำลังดึงแขนพ่อของไม้ฉากไว้
และพิมก็กำลังประคองตัวไม้ฉากให้ลุกขึ้นยืน


ภาพๆนี้ทำผมเจ็บแปลกๆ มัน .... มันเหมือนกับว่า ....
ที่ตรงนั้นมันควรเป็นผมไหม?
คนที่ประคองไม้ฉากมันควรเป็นผม ไม่ใช่พิม.

“พ่อจะตีผมอีกกี่ร้อยพันครั้ง ผมก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ
ถ้าพ่อไม่ให้ผมหย่ากับพิมในตอนนี้ ผมก็จะไม่ใช้นามสกุลของพ่อ
ทุกวันนี้ผมไม่ได้รับอะไรจากพ่อเลย เงินค่าเรียน ค่ากินอยู่ผมก็ไม่เคยได้
ผมลำบากแค่ไหน ผมต้องอดมื้อกินมื้อยังไง พ่อเคยรู้บ้างไหม?”

ไม้ฉากพูดไปก็ร้องไห้ไปด้วย ตอนนี้ทั้งพ่อแม่พิม พ่อแม่ไม้ฉาก ยืนมองพิมที่ร้องไห้และซบอกไม้ฉาก
ส่วนไม้ฉากก็ใช้มือข้างนึงจับหัวพิมไว้ ให้พิมซบลงและร้องไห้ที่อกของไม้ฉาก

เจ็บ ทำไมรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว

“ผมต้องหาเงินส่งพิมเรียน ต้องหาเงินค่านมค่าเลี้ยงเหนือ
นี้หรอครับสิ่งที่พวกพ่อแม่ต้องการ
อยากให้ผมแต่งงานกับพิม ผมก็ทำให้แล้ว
แต่ทำไมยังทำเหมือนพวกผมไม่ใช่ลูกอีกละ
ตัวผมอดได้ไม่มีปัญหาหรอก แต่พิมละ พิมเป็นผู้หญิงอายุแค่นี้
ทำไมคุณลุงคุณน้าถึงไม่ใส่ใจไม่ส่งเงินให้ลูกบ้างละครับ
พิมตกเลือดเกือบตาย ทำไมไม่ไปดูพิมกันบ้าง
พวกผมผิดตรงไหนหรอครับ บอกผมสิ พวกผมผิดตรงไหน?”

ไม้ฉากกอดพิมแน่นขึ้นแล้วก็ร้องไห้ออกมา มันร้องไห้หนักมากเท่าที่ผมเคยเห็น
มันคงอึดอัดและเหนื่อยมากแล้วแน่ๆ
เพราะผมหรือป่าว?

ในตอนนั้นบอกตรงๆครับ ผมคิดเห็นแก่ตัวเยอะมาก
ทั้งอิจฉาพิม ทั้งอยากยืนตรงที่พิมยืน
ทั้งโทษตัวเองที่ทำให้ไม้ฉากเป็นแบบนี้

แต่ทำไม .. ในตอนนั้นผมไม่คิดเดินจากไม้ฉากไป?
แต่ทำไม.. ผมยังอยากจะจับมือไม้ฉากไว้เหมือนเคย.



“ทำไมแกไม่โทรมาขอร้อง โทรมาขอโทษพวกเราละ
พวกแกทำผิด พวกแกทำให้เราต้องขายหน้าคนทั้งจังหวัด
พวกแกทำแต่เรื่องเสื่อมเสีย เพราะพวกแกทำตัวเองทั้งนั้น
ส่งเสียให้เรียนดีๆ หาแต่สิ่งดีๆให้ ไม่ใช่พวกแกเองหรอกหรอที่เลือกเส้นทางนั้น
คนหนึ่งก็ท้องก่อนแต่ง อีกคนก็ชอบผู้ชายเป็นเกย์เป็นพวกตุ๊ดแต๋ว
ถ้าพวกแกทำตามที่ฉันบอก พวกแกจะลำบากแบบนี้หรือไง”

พ่อของพิมเป็นคนพูดครับ พิมผละออกจากกอดของไม้ฉากแล้วเดินไปเผชิญหน้ากับพ่อของตัวเอง

“แล้วพ่อเคยถามไหมคะว่าทำไมพิมถึงทำแบบนี้?
แล้วไม่ใช่พ่ออีกงั้นหรอคะที่ทำให้พัชต้องติดคุก  ถ้าพ่อไม่รักพิมไม่ต้องการพิม
ทำไมพ่อไม่ปล่อยให้พิมอยู่บ้านพัชละ พ่อไปลากพิมกลับมาทำไม
พ่อคิดว่าพิมอยากอยู่ที่นี้งั้นหรอ บ้านที่เหมือนกับป่าช้า บ้านที่ไม่มีแม้แต่คำว่าอบอุ่น
พ่ออยากให้พิมมีชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นแบบแม่งั้นหรอคะ”


เพี๊ยะ!! เสียงพ่อของพิมตบหน้าพิมอย่างแรง
แรงจนทำให้พิมถึงกับล้มลงไปนั่งพับพื้น

“มึงไม่มีสิทธิ์ชี้หน้าด่ากูแบบนี้นะ มึงดีมากนักหรือไง
เพราะแม่มึงให้ท้ายมาตลอดใช่ไหม ถึงได้ทำตัวเลวๆแบบนี้
ท้องแล้วยังไงละ มีปัญญาเลี้ยงลูกไหม
เข้าใจหัวอกพ่อแม่หรือยังที่เค้าต้องหาเงินเลี้ยงดูลูก เจ็บปวดแค่ไหนก็หยุดพักไม่ได้
ต้องทำงานต้องหาเงินเพราะลูกต้องกินนม  ตอนนี้แกเข้าใจความเจ็บปวดนี้หรือยัง”

ผมอดทนยืนฟังต่อไปไม่ไหวแล้วครับ พ่อแม่พิมและพ่อแม่ไม้ฉากพูดในสิ่งที่เห็นแก่ตัวมากเกินไป

“คุณอาเลี้ยงลูกให้เป็นแค่สมบัติส่วนตัวหรอครับ”
ผมเอ่ยปากพูดขึ้นมา ห้องทั้งห้องก็เงียบลง และทุกๆคนก็หันมามองหน้าผม

“ลูกไม่ใช่สมบัติ ไม่ใช่สิ่งของที่คุณอาจะมาบังคับให้เค้าเป็นแบบนั้นแบบนี้
ถ้าคุณอาอยากสอนให้พิมรู้ซึ้งถึงความเหน็ดเหนื่อยของคำว่าแม่ ทำไมคุณอาไม่ทำให้เห็นละครับ
ปล่อยให้พิมกับไม้ฉากดูแลกันเองมาหลายเดือนแบบนี้ ไม่คิดว่าพิมกับไม้ฉากมันจะอดข้าว หรือคิดฆ่าตัวตายบ้างหรอ
นี้หรอสิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่เค้าทำกัน  ผมว่าพิมกับไม้ฉากยังเป็นพ่อเป็นแม่ได้ดีกว่าที่คุณอาเป็นซะอีก”

ตอนนั้นปากผมพูดไปโดยที่ไม่ได้กลัวเลยว่าจะโดนพ่อไม้ฉากหรือพ่อพิมทำร้าย

“ไอ้ปั้น! ถ้าไม่ใช่เพราะมึง บ้านกูก็ไม่แย่ลงแบบนี้หรอก
เป็นตุ๊ดแล้วยังเสือกมารักมาหลอกลูกกูอีก ป๊าม๊ามึงเครียดแค่ไหนมึงรู้บ้างไหม
เค้าแค่ไม่มาด่ามึง แต่เค้าบอกให้กูแยกลูกกูให้ห่างจากมึง
ด่าคนอื่นแบบนี้ ไม่กลับไปด่าป๊าม๊าที่บ้านบ้างละ”

ผมไม่เคยคิดเลยครับคำพูดที่แย่ๆแบบนี้จะมาจากปากของพ่อไม้ฉาก
พ่อไม้ฉากในความทรงจำผม เป็นพ่อที่ใจดีมากๆ
เรียกผมว่า น้องปั้นๆ ตลอด หน้าตายิ้มแย้มตลอดเวลา
แต่พ่อไม้ฉากในวันนี้มีแต่พูดคำหยาบคาย หน้าตาก็บึ้งตึงตลอด

“พ่อจะด่าปั้นทำไมละ บ้านปั้นก็บ้านปั้นสิไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังคุยตอนนี้”
ไม้ฉากเดินมาบังตัวผมไว้ เพราะมันเห็นว่าพ่อมันเริ่มเดินมาทางผม

“ถ้าแกบอกว่าจะขอหย่าจากพิมในตอนนี้ ทั้งๆที่สัญญาไว้ 2 ปี
ฉันบอกแกเลยว่าฉันไม่มีวันยอม”

“ถ้าพ่อไม่ยอมให้ผมหย่าก่อน 2 ปี พ่อก็ต้องส่งเสียพิม หรือให้พิมกลับมาอยู่ที่นี้
พิมไปลำบากแบบนั้นไม่ได้ พิมต้องเรียน และเหนือต้องมีชีวิตที่ดีกว่านั้น”

“จะขอเงินจากพวกฉันแกก็กราบแล้วขอร้องสิ เก่งแต่ปากแบบนี้มันใช่นิสัยตำรวจไหม”

“พี่ไม้ ไม่เอา ไม่ต้องทำ พิมไม่เรียนแล้วก็ได้ พิมหางานทำส่งลูกเอง อีกแค่ปีเดียวพัชก็ออกมาแล้วพี่
ทนลำบากอีกไม่นาน เราก็มีความสุขกันแล้ว”

“แล้วคิดว่าพัชจะยอมรับได้หรอ”

พ่อของพิมหันไปถามพิม

“พ่ออย่าบอกนะว่าที่พัชไม่ยอมให้พิมเยี่ยมเป็นเพราะพ่อ”
พิมร้องไห้หนักมากครับตอนนี้ แม่ของพิมก็ได้แต่ยืนมองพิมร้องไห้ ทำท่าเหมือนจะเข้าไปกอดแต่ก็ไม่เข้าไป
ส่วนแม่ของไม้ฉากก็ยืนกอดไม้ทีไว้แน่นเลยครับ ตอนนี้ไม้ทีจ้องหน้าผมเหมือนจะฆ่าผมให้ได้เลย

“กลับบ้านเรากันเถอะไม้”
ผมพูดแล้วก็เงยหน้าไปมองไม้ฉาก ที่ยืนโอบตัวผมไว้

“อืมม กลับบ้านนะ”
ไม้ฉากยิ้มให้ผม ถึงแม้มันจะยังร้องไห้ก็ตาม

< มีต่อข้างล่าง >

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
< ต่อ >


ผมเดินเข้าไปประคองพิมให้ลุกขึ้นยืน ส่วนไม้ฉากก็หันไปมองหน้าพ่อของมัน

“งั้นพวกผมก็ลาตรงนี้เลยนะครับ  พวกพ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณ พวกผมทราบดี
แต่จากวันนี้ไปพวกผมจะเลือกทางเดินของตัวเอง
จะด่าว่ายังไงก็ได้เพราะพวกผมไม่ได้มีดีอะไรในสายตาของพวกคุณอยู่แล้ว แต่ขออย่างเดียว... อย่ามายุ่งกับพวกผมอีก”

พูดจบไม้ฉากก็รีบพาผมกับพิมเข้ามาในห้อง ก่อนที่ไม้ฉากจะไปรับเหนือจากแม่บ้านที่เข้ามาเลี้ยงเหนือให้
ข้างนอกผมยังได้ยินเสียงพ่อไม้ฉากกับพ่อพิมโวยวายเสียงดัง

“พวกเราทำถูกแล้วใช่ไหม”
พิมถามไม้ฉากกับผม .. มือพิมตอนนี้สั่นไปหมดรวมทั้งตัวของพิมด้วย
ผมเลยเดินเข้าไปจับมือพิมไว้...

“ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าสิ่งที่เราทำมันถูกหรือผิด แต่สิ่งที่พี่รู้คือจากนี้ไปพวกเราเป็นเจ้าของชีวิตของเราเอง”
ไม้ฉากเดินเข้ามายืนข้างๆผม ก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่ไหล่ผมไว้
แรงบีบกระชับที่ไหล่ทำให้ผมอุ่นใจได้ว่า .. ไม่ว่าทางข้างหน้าจะแย่จะเลวร้ายยังไง
ไม้ฉากก็คงไม่มีวันทิ้งผมไว้คนเดียวอีกแล้ว.


ตอนที่ผม , ไม้ฉาก และพิมออกจากห้องมานั้น พ่อพิมกับพ่อไม้ฉากไม่ได้อยู่ในห้องรับแขกแล้ว
เหลือแต่แม่ของพิมที่ยังนั่งอยู่

“แม่ .... “
เสียงพิมเริ่มสั่นอีกครั้ง
แม่ของพิมลุกขึ้นยืน ก่อนจะเดินมาใกล้ๆพิมและดึงพิมเข้าไปกอด

“แม่ขอโทษนะพิมที่แม่ช่วยอะไรพิมไม่ได้  หนีไปอยู่ที่อื่นดีแล้วลูก
ไปสร้างชีวิตของลูกเองให้ได้ เดือดร้อนยังไงติดต่อแม่มาได้ตลอดนะ”

แม่ของพิมยัดซองสีน้ำตาลเล็กๆใส่กระเป๋าของพิม ก่อนจะหันมาจับแก้มน้องเหนือ

“ยายขอโทษนะลูกนะ”
พูดได้แค่นั้นแม่ของพิมก็รีบเดินออกไปจากห้องรับแขก
พิมร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ ไม้ฉากก็ได้แต่เอื้อมมือไปจับแขนพิมไว้เป็นเชิงปลอบใจ
ก่อนจะเดินนำให้พวกผมเดินตามออกไปที่รถ

“ปั้นโทรบอกยูโรให้เจอกันที่คอนโดเลย”
ตอนนี้รถเคลื่อนตัวออกจากรีสอร์ทแล้ว ไม่มีใครตามพวกเรามา
และไม่มีเสียงโทรศัพท์ดังตามแบบครั้งก่อนๆ

ผมโทรหายูโรตามที่ไม้ฉากบอก และหลังจากนั้นบนรถก็มีแต่เสียงเพลงเบาๆจากวิทยุ
และเสียงของน้องเหนือที่กำลังงอแงจะนอนหลับ.

เรานั่งกันมาเงียบๆ จนเข้าเขตกรุงเทพ
พิมก็เป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดขึ้นมา

“พิมว่าจะกลับเชียงใหม่พรุ่งนี้เช้า  พี่ไม้จะกลับพร้อมกันไหมคะ”

“พี่จะจัดการธุระที่กรุงเทพอีกวันสองวัน แล้วจะขึ้นไป พิมเอาเหนือไว้นี้ก่อนก็ได้ ขึ้นไปจัดการเรื่องเรียนให้เรียบร้อย
เรื่องอื่นๆไม่ต้องกังวลอะไร พี่จะดูแลพิมเหมือนที่เคยดูแลมาตลอด”

พิมเหมือนจะร้องไห้ ตอบมาด้วยเสียงสะอื้นพร้อมๆกับยื่นซองสีน้ำตาลมาให้ไม้ฉาก
ไม้ฉากมันขับรถอยู่เลยไม่ได้เอื้อมมือมารับ พิมเลยยัดซองน้ำตาลนั้นมาที่ผม

“พี่ไม้เป็นคนจัดสรรเงินส่วนนี้ให้พิมด้วยนะคะ”

“ไม่เอา,, ปั้นคืนเงินให้พิมไป”

คือกูไม่ได้เอามา พิมมันยัดใส่มือกู ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยย TT

“พิมเอาเงินพี่ไม้มาตั้งเยอะแล้ว พี่ไม้จัดสรรเงินส่วนนี้ให้พิมกับลูกด้วยนะพี่”
พิมยังคงยืนยันคำเดิม ไม้ฉากเอ่ยปากจะพูดต่อ แต่รถก็เข้ามาจอดในคอนโดเรียบร้อยแล้ว

“เออนี้ เอาไว้ค่อยคุยกันไหมเราไปพักกันก่อนเถอะ สงสารน้องเหนือเดินทางทั้งวันเลย”
ผมเป็นคนพูดเองครับ เพราะพอไม้ฉากจอดรถเสร็จมันดึงซองเงินในมือผมไปถือแล้วหันไปจะยื่นให้พิม
แต่พิมก็ก้มหน้าซบกับตัวน้องเหนือที่พิมอุ้มไว้ไม่ยอมมองหน้าไม้ฉาก
คงจะยื้อยุดกันไปอีกนาน .. พักกันเถอะครับ - -‘

ไม้ฉากถอนหายใจออกมาก่อนจะเปิดประตูรถและถือกระเป๋าของพิม และของผม

“ปั้นพาพิมกับเหนือไปบนห้องเถอะเดี๋ยวไม้ขนของขึ้นไปเอง”
ผมก็ได้แต่พยักหน้าก่อนจะพาพิมและเหนือขึ้นมาบนห้อง

“นอนห้องนี้นะพิม เตียงของเหนืออยู่นั้นไง วางลูกลงที่เตียงนั้นเลย
ส่วนพิมก็ไปอาบน้ำเถอะ เครียดมาทั้งวันแล้ว”

ผมบอกพิม พร้อมๆกับยื่นผ้าขนหนูให้
พิมร้องไห้ออกมาอีกรอบก่อนจะดึงผมเข้าไปกอด

“พี่ปั้น,, ฮึกกก ฮือออ พิมขอโทษ พิมขอโทษที่ทำให้พี่ต้องเดือดร้อนแบบนี้”

ผมก็ทำได้แค่ปลอบโยนเด็กสาวตรงหน้า
เห้อออ พิมอายุน้อยกว่าผมไม่มากเท่าไหร่แต่ต้องเจอเรื่องราวในชีวิตที่เรียกว่าแย่โคตรๆ
ทนกันไหวได้ยังไงน๊า

“ไม่เป็นไร เชื่อในตัวไม้ฉากเถอะมันต้องพาพวกเราไปเจอทางออกที่ดีได้แน่ๆ”

“พี่ปั้นเชื่อแบบนั้นจริงๆหรอ”

“พี่เชื่อในทุกสิ่งที่ไม้ตัดสินใจ พี่เชื่อนคนที่พี่รัก และพี่ก็เชื่อในตัวพี่เองด้วย
อดทนหน่อยนะพิม ไม่รักตัวเองไม่เห็นแก่ตัวเองไม่เปนไร นึกถึงลูกไว้มากๆ”

“อืมมม พี่ปั้นตัวหอมแบบนี้นี้เองพี่ไม้ถึงหลง”

อยู่ๆพิมก็หอมตรงอกผม จนผมหัวเราะกับเสียงหอมดังๆของพิม

“รู้แล้วใช่ไหมทำไมพี่หลงปั้น แต่ปล่อยแฟนพี่ก่อนเหอะพี่หวง”
ไม้ฉากดึงตัวผมเข้าไปกอด ก่อนจะส่งกระเป๋าเสื้อผ้าให้พิม

“หื้ออ หวงอะไรขนาดนั้นคะ”

“นอนซะนะไม่ต้องคิดมาก ฝันดีนะพิม”
พิมส่งยิ้มมาให้พวกผม ก่อนที่ไม้ฉากจะพาผมเดินออกจากห้องนอนออกมา

“เข้าห้องเรากันเถอะ”

พูดจบมันก็ผลักผมเข้าไปในห้องคุมะ ก่อนจะรีบเดินไปปิดไฟข้างนอกแล้วเดินตามมาในห้อง

“ปั้นเชื่อในตัวไม้จริงๆใช่ไหม?”
มันเดินเข้ามากอดผมจากด้านหลัง ผมเลยจับมือของไม้ฉากที่กอดเอวผมไว้

“เชื่อดิไม่เชื่อจะยืนอยู่ตรงนี้หรือไง?”

“แต่ไม้จนนะ เงินเดือนตำรวจไม่พอใช้เลย”

พูดไปก็เอาหน้ามาซุกที่ซอกคอผม

“ปั้นรวย ขายขนมรวยแล้ว”

“กระปุกละกี่สิบบาทจะรวยได้ไง  ลำบากด้วยกันไหวไหม”

“แย่กว่านี้ก็ยังไหว อดทนหน่อยเนอะ พ่อแม่เค้าไม่ทิ้งเราหรอก”

“หรออ.. ไม่ทิ้งจริงๆหรอ”

เสียงของไม้ฉากเงียบไป จนผมต้องพลิกตัวไปมองหน้าไม้ฉาก

“อยู่กับปั้น .. จะอ่อนแอก็ได้นะ จะร้องไห้แค่ไหนก็ได้
เพราะไม้เป็นแฟนปั้น เพราะไม้ก็เป็นแค่เด็กผู้ชายคนหนึ่ง
เราเป็นทั้งเพื่อน ทั้งแฟน ทั้งพี่ ทั้งน้อง และตอนนี้เราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน
จะฝืนตัวเองให้เข้มแข็งทำไม อยากร้องไห้ก็ร้องกับปั้น รู้ไหมคุณตำรวจ”

พอผมพูดจบ ไม้ฉากก็เอาหน้ามาซบลงที่ไหล่ของผม ก่อนจะร้องไห้ออกมา
ผมทำได้แค่ตบหลังไม้ฉากเบาๆ เป็นการปลอบใจ
ป่านนี้คนที่อยู่อีกห้องก็คงนอนกอดลูกชายและร้องไห้อยู่แน่ๆ


พวกเราทั้ง 3 คน ตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกแล้วใช่ไหม?
ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับว่า .. เชือกเส้นนี้มันกำลังผูกปมแน่นขึ้นเรื่อยๆ
และในที่สุดแล้ว ใครจะเป็นคนแก้ปมนั้นกัน?


-------------------------------------------

เอามาฝากไว้ก่อนเจเข้า รพ. วันจันทร์นี้นะคะ
มีคำผิดพลาดยังไงต้องขอโทษด้วยจริงๆ

ในส่วนของพาทนี้จริงๆแล้วก็แค่อยากจะสื่อให้เห็นถึงเส้นทางที่พวกเค้า 3 คนกำลังจะเลือกเดิน
มันจะไปต่อได้ดีไหม หรือจะแย่ลง
และในตอนนี้ปั้นสิบยังมั่นคงอยู่ไหม? ทำไมถึงมีเรื่องคิดในใจมากมาย
อยากให้ลองอ่านแล้วลองคิดว่าเราเป็นปั้นสิบดู

เราจะยังไหวจริงๆไหม? กับรักครั้งนี้ที่มองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย.

ปล. จริงๆนิยายจบไปตั้งนานแล้วนะคะ
ในส่วนนี้เป็นแค่ภาคต่อเฉยๆ
อาจจะดูยืดเยื้อและน่าเบื่อสำหรับบางท่าน
เอาเนอะ.. นิยายเจก็เดินแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว >/////<
ยังไงฝากไม้ฉากปั้นสิบไว้ในใจทุกๆคนเหมือนเดิมน๊าาา '

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
พ่อแม่ไม้ พ่อแม่ปั้น ทำแต่ความต้องการของตัวเอง
ไม่สนใจปัญหาที่เกิดจากการไม่ดูดำดูดีจากการที่บังคับให้แต่งงานกัน
ปล่อยให้ลูกทนทุกข์กับการใช้ชีวิตเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
ค่าเล่าเรียน ค่านมของเหนือ หลานของพวกตัวเอง
ทั้งที่รู้ว่าเงินเดือนตำรวจน้อยนิดแค่ไหน
เป็นพ่อแม่ที่เห็นแก่ตัวมากๆ

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
สงสาร ผ่านมันไปให้ได้นะ  :o12:

ออฟไลน์ am_am

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 468
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สงสารมาก ๆ พ่อแม่พวกนั้น จิตใจทำด้วยอะไร
นี่ทำให้คิดมากเลยว่า ที่เลี้ยงลูกมานี่
เพื่อส่งเสริมหน้าตาตัวเองใช่มั๊ย ดีแล้วที่เดินออกมา
ให้เค้าอยู่มีความสุขกับสังคมของเค้าไป
คนในครอบครัวที่อยู่ด้วยกัน มีค่าน้อยกว่าคนนอก
สู้ ๆ นะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้ เราต้องไปได้สิ ไปได้ดีด้วย  :กอด1:

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
ดูเหมือนประหนึ่งจะขัดขืน
แต่อีกนัยหนึ่งคล้ายจะยินยอม

ไม้ฉากหมดแรงฮึดสู้..เมื่อไหร่
เมื่อนั้น..ก็ถึงเวลาแพ้

ปั้นสิบเป็นได้แค่คนดู
มิได้มีส่วนในการตัดสินผลแต่อย่างใด

พ่อๆแม่ๆ กำลังรอวันนั้นอยู่
และหวังว่าวันนั้น..คงไม่มาถึง

หรือถ้าถึง..ทุกอย่าง จบ
ก้มหน้าเลียน้ำตากันได้เลย
หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
เราค่อนข้างงงกับความสัมพันธ์ของจานสีพู่กัน เหมือนสองคนนี้จะมีซัมติง แล้วตอนหลังจานสีก็ไปรักกับอุ้มแล้วพู่กันล่ะ?
ส่วนไม้ฉากกับปั้น จะจบแฮปปี้รึเปล่าคะ พ่อกับแม่ของทั้งพิมและไม้ฉากจะคิดได้ไหมคะ ไม่ได้อยากให้คนเขียนสปอยนะคือเราอยากตัดสินใจว่าจะอ่านตาอดีไหม นี่เราก็อ่านข้ามๆมาตลอด คือมันไม่เข้าใจ หลายเรื่อง ความรุ่สึกของจานสีกับอุ้ม มันเร็วแปลกๆเหมือนตัดเรื่องพู่กันออกเลย ไหนจะเรื่องกินยานอนหลับของพู่กันอีก คือพู่กันรักจานสีที่เป็นแฝด ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน แต่จานสีพึ่งมีพี่อุ้มเป็นรักแรก ส่วนไม้ฉากกับปั้น เราสงสารปั้นมากๆอ่านจนถึงตอนล่าสุดยังสงสาร โดนกดดันทุกทาง เรื่องที่ไม่ตัวเองไม่น่าจะผิดก็โดนเปลีายนให้ผิดได้ เอาง่ายๆว่าปั้นมันผิดเสมอออ เราชอบนิยายหน่วงๆนะ แต่ก็ยังอยากให้เป็นนิยาย ใครทำอะไรเราก็อยากให้ได้รับอย่างนั้น เราชอบเรื่องนี้ในตอนแรกๆแต่พอหลังจากจานสีโดนข่มขืนจริงๆเราอ่านข้ามมากๆ แต่มันก็คาใจ คือจะหายิยายที่เราชอบและตั้งใจอ่านแต่แรกจริงๆมันหายาก เราติดใจเรื่องนี้มาก ก็เลยอยากถามตอนจบคุณนักเขียนแบบที่เราเกริ่นถามไปตอนแรก เพราะเราไม่ชอบแนว bad end เท่าไหร่ค่ะ เราไม่ได้ขอให้คุณนักเขียนเปลี่ยนแนวพล๊อตเรื่องเพื่อให้ตรงใจเรานะคะ  เราเคารพการตัดสินใจของคุณค่ะ เพียงอยากทราบจุดจบของเรื่องอย่างที่ถามไว้ในทีรก ขอความกรุณาคุณนักเขียนค่ะ

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
เราค่อนข้างงงกับความสัมพันธ์ของจานสีพู่กัน เหมือนสองคนนี้จะมีซัมติง แล้วตอนหลังจานสีก็ไปรักกับอุ้มแล้วพู่กันล่ะ?
ส่วนไม้ฉากกับปั้น จะจบแฮปปี้รึเปล่าคะ พ่อกับแม่ของทั้งพิมและไม้ฉากจะคิดได้ไหมคะ ไม่ได้อยากให้คนเขียนสปอยนะคือเราอยากตัดสินใจว่าจะอ่านตาอดีไหม นี่เราก็อ่านข้ามๆมาตลอด คือมันไม่เข้าใจ หลายเรื่อง ความรุ่สึกของจานสีกับอุ้ม มันเร็วแปลกๆเหมือนตัดเรื่องพู่กันออกเลย ไหนจะเรื่องกินยานอนหลับของพู่กันอีก คือพู่กันรักจานสีที่เป็นแฝด ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน แต่จานสีพึ่งมีพี่อุ้มเป็นรักแรก ส่วนไม้ฉากกับปั้น เราสงสารปั้นมากๆอ่านจนถึงตอนล่าสุดยังสงสาร โดนกดดันทุกทาง เรื่องที่ไม่ตัวเองไม่น่าจะผิดก็โดนเปลีายนให้ผิดได้ เอาง่ายๆว่าปั้นมันผิดเสมอออ เราชอบนิยายหน่วงๆนะ แต่ก็ยังอยากให้เป็นนิยาย ใครทำอะไรเราก็อยากให้ได้รับอย่างนั้น เราชอบเรื่องนี้ในตอนแรกๆแต่พอหลังจากจานสีโดนข่มขืนจริงๆเราอ่านข้ามมากๆ แต่มันก็คาใจ คือจะหายิยายที่เราชอบและตั้งใจอ่านแต่แรกจริงๆมันหายาก เราติดใจเรื่องนี้มาก ก็เลยอยากถามตอนจบคุณนักเขียนแบบที่เราเกริ่นถามไปตอนแรก เพราะเราไม่ชอบแนว bad end เท่าไหร่ค่ะ เราไม่ได้ขอให้คุณนักเขียนเปลี่ยนแนวพล๊อตเรื่องเพื่อให้ตรงใจเรานะคะ  เราเคารพการตัดสินใจของคุณค่ะ เพียงอยากทราบจุดจบของเรื่องอย่างที่ถามไว้ในทีรก ขอความกรุณาคุณนักเขียนค่ะ

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์นะคะ  ถ้าอยากรู้ว่าจบแบบไหน inbox ในเพจหรือข้อความมาถามได้เลยคะ
เรายังไม่อยากพิมพ์บอกไปเนอะ เผื่อบางคนอยากลุ้น นิยายเรื่องนี่พิมพ์จบแล้ว ไม่มีการแก้ไขเพื่อเปลี่ยนแนวทางพล็อตแน่นอน
ส่วนเรื่องของแฝด มีเป็นเรื่องแยกประมาณ 12 ตอนคะ จะอธิบายในนั้นทั้งหมด ^^
ต้องขอโทษด้วยนะคะ ช่วงนี้อัพช้ามากเพราะเราเข้าผ่าตัดมานะ นั่งนานๆแล้วมันกดทับแผล แต่สัญญาว่าจะลงให้จบในพาทของเรื่องเล่าแน่นอนคะ :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-09-2016 11:39:00 โดย moujay »

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
|| Close Friends Special :: เรื่องเล่าระหว่างทาง 5  ||

…………………….. ไม้ฉาก.




หลังจากเมื่อคืนที่เรากลับจากโคราชกันแล้ว
ต่างคนต่างนอนหลับไปด้วยความเพลียและตกอยู่ในความคิดของตัวเอง
ตื่นเช้ามาในวันนี้เลยทำให้รู้สึกเหมือนไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่นัก ในสมองคิดแต่อะไรไม่รู้เต็มไปหมด


“พี่ไม้ๆ”

เสียงพิมเรียกชื่อผมดังมาจากห้องนอนใหญ่
ผมเลยปิดเตาไฟที่กำลังทำกับข้าวอยู่แล้วเดินเข้าไปดู

“มีอะไรพิม”

“พิมจะกลับเชียงใหม่วันนี้นะ  ใกล้สอบแล้วไม่อยากขาดเรียน”

“อืมม เอาเหนือไว้นี้แหละเดี๋ยวพี่เอาเหนือกลับเอง”

“แล้วพี่จะไปใต้อีกไหม”

พิมที่เก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเสร็จแล้วหันมาถามผม ซึ่งตอนนี้ผมกำลังเดินไปอุ้มเหนือออกมาจากที่นอน

“ไปอยู่อีก 2 อาทิตย์นะ เดี๋ยวช่วงนี้พี่จะให้พี่มิ้วช่วยหาคนเลี้ยงให้ก่อน แล้วพี่จะพากลับทีเดียว
พิมกลับไปทำเรื่องเรียนให้เรียบร้อย แล้วอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”

พิมพยักหน้าตอบเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปจิ้มแก้มน้องเหนือ

“พี่ไม้ว่า ,, สิ่งที่เราทำมันถูกหรือผิดคะ”
ผมได้แต่ส่งยิ้มบางๆให้น้องสาวตรงหน้า ก่อนจะเอื้อมมือมาลูบหัวของพิมเบาๆ

“ไม่รู้สิว่าผิดหรือถูก  รู้แค่ว่าพี่จะทำให้มันดีที่สุด ทั้งเรื่องของพิม และของปั้น”

“จริงด้วย แล้วนี้พี่ปั้นไปไหนแล้วละคะ พิมยึดห้องนอนพี่ปั้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

พูดเสร็จพิมหันไปมองหาปั้นสิบที่ห้องครัว

“ปั้นมีเรียนเช้านะ พี่ไปส่งที่มหาลัยแต่เช้าแล้วละ ออกไปทานข้าวเถอะ จะไปขึ้นเครื่องกี่โมง”

“เดี๋ยวอีกสักพักจะไปแล้ว แต่พี่ไม้ไม่ต้องไปส่งพิมหรอกนะ พิมไปเองได้”

“อืม ถึงแล้วไงก็โทรบอกพี่ด้วย เงินที่แม่ให้มาก็ไปเอาเข้าบัญชีไว้ ตอนนี้ก็ใช้เงินที่พี่ไปเหมือนเดิม”

“พี่ไม้จะพอใช้หรอ เงินเบี้ยเลี้ยง เงินเดือนพี่ก็ยังไม่มากนะ”

จริงอยู่ที่เงินเดือนผมยังไม่มากเท่าไหร่ จะหมุนเงินให้พอใช้แต่ละเดือนก็แทบจะแย่แล้วละครับ
แต่ดีหน่อยที่พี่ๆตำรวจด้วยกันเอ็นดูผม เรียกใช้งานและให้ค่าตอบแทนมาบ้าง
ทำให้ผมพอจะมีเงินมาหมุนมาดูแลพิมกับเหนือ แต่มันก็ไม่ได้มีเหลือมากพอที่จะเก็บได้

“ไม่เป็นไร พี่ยังหาเลี้ยงเราได้อยู่ รีบกินข้าวซะ จะได้รีบกลับเชียงใหม่”
พิมคงรู้ว่าคุยกับผมเรื่องเงินต่อไป ผมก็คงไม่รับเงินของพิมแน่ๆ
พิมเลยเดินไปทานข้าว และปล่อยให้หน้าที่อาบน้ำแต่งตัวของเหนือเป็นของผม

“แม่ไปเรียนก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวเจอกันนะ”
 พิมก้มลงมาหอมแก้มของเจ้าเหนือ ก่อนจะยกมือไหว้ผม

“รักษาสุขภาพนะพี่ไม้ แล้วเดี๋ยวเจอกัน”

“อืมม ดูแลตัวเองด้วยละ มีอะไรด่วนก็โทรมา”

“อยู่กับแฟนไปเถอะค่า น้องไม่อยากกวน 555 เอาเจ้าเหนือไว้กวนแล้วพี่ปั้นกับพี่ไม้จะมีเวลาสวีตกันหรอออ”

“หึ อย่ามารู้มากนะ ไปได้แล้ว”

“ไปแล้วนะคะ บ๊ายๆคะพี่ไม้ แม่ไปแล้วนะเหนือ รักลูกนะครับ”

พิมหยิกแก้มเหนืออีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
แล้วผมละ ,, ทำอะไรต่อดี?


ระหว่างที่กำลังยืนคิดอยู่ว่าจะทำอะไรต่อดีนั้น เสียงโทรศัพท์ในห้องก็ดังขึ้นมา
ผมเลยเดินเข้าไปรับสาย เพราะคิดว่าคนทีโทรเข้าห้องก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน คงเป็นปั้นสิบนั้นแหละ

“สวัสดีครับ”

“ไม้ทำไมไม่เปิดเครื่อง”

เสียงของปั้นสิบทักขึ้นมาอย่างหงุดหงิด จริงๆมันไม่อยากลุกไปเรียนหรอกครับ
มันงอแงบอกว่าลุกไม่ไหว แต่ผมไม่อยากให้มันขาดเรียนเลยได้บังคับกันไปเรียนจนได้

“สงสัยแบตหมดมั้ง แล้วเลิกเรียนละหรอ”

“มีอีกวิชาอะ เลิกประมาณบ่ายสอง จะมารับไหมเนี้ย”

นึกภาพมันออกเลย ต้องทำปากยื่นๆงอนๆแน่ๆ

“ไปสิครับ เมื่อเช้าไปส่ง แล้วใครจะไม่ไปรับละ”

“อืมม มาไวๆอะ อยากนอน”

“แล้วไปหงุดหงิดอะไรมา บอกหน่อยสิ”

“ป่าวไม่ได้หงุดหงิด แล้วเดี๋ยวตอนบ่ายรีบๆมานะ ปั้นไปเรียนละ”

“โอเค ตั้งใจเรียนละ”

“ครับ”


พอปั้นสิบวางสายไปแล้ว ผมเลยปล่อยให้น้องเหนือนั่งเล่นของเล่นรอที่หน้าทีวี
ส่วนผมก็รีบวิ่งไปชงนมมาให้น้องเหนือ
พอเหนือได้นมก็ล้มตัวนอนกินนม และเล่นคนเดียวไปเรื่อยๆ
เหนือเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย ไม่ค่อยงอแง เว้นแต่ว่าจะหิว และอยากให้เล่นด้วยเท่านั้นถึงจะร้องไห้งอแงใส่
ระหว่างที่เหนือนอนกินนมนั้น ผมก็ไปเอาโทรศัพท์ออกมาชาร์ตแบต และเตรียมกระเป๋าเพื่อเตรียมไปรับปั้นสิบตอนบ่าย



พอถึงเวลาไปรับปั้นสิบ ผมก็พาเหนือลงมาที่รถ  เอากระเป๋าของเหนือใส่รถเสร็จแล้ว
ก็หันมาจัดการให้เหนือนอนใน Car seat เสร็จแล้วผมก็กดโทรไปหาปั้นสิบ

“ฮัลโหล ,, ไม้ออกมาจากคอนโดแล้วนะ ปั้นอยู่ตรงไหน”

“ที่เดิมที่มาส่งเมื่อเช้าอะ  ขับรถดีๆละ”

“ครับ เดี๋ยวเจอกันนะ”

ผมขับรถมาประมาณ 20 นาทีก็มาถึงมหาลัยของปั้นสิบ ซึ่งปั้นสิบมายืนรออยู่แล้ว

“หิวอะ”
พอขึ้นรถได้เจ้าตัวเล็กก็รีบเอาหัวมาซบไหล่ผมทันที

“แล้วยังไม่ทานอะไรอีกหรอ”

“ยังเลย วันนี้เวลาพักมันน้อยเลยกินแค่แซนวิสไป”

“เดี๋ยวพาไปกินข้าว แล้วไปซื้อของเข้าห้องด้วยเลยละกัน”

ปั้นสิบพยักหน้า ก่อนจะหันมาถามถึงพิม เพราะปั้นสิบหันไปมองเบาะหลังก็เห็นแต่น้องเหนือที่นอนหลับอยู่บน Car seat

“พิมไปไหนแล้วละ”

 “พิมกลับไปเรียนแล้ว เดี๋ยวว่าจะโทรนัดพี่มิ้วมาเจอซะหน่อย อยากให้พี่มิ้วหาพี่เลี้ยงเด็กให้”

“ไม่ต้องหรอก ปั้นก็เลี้ยงได้ ไม้ก็อยู่นี้จะต้องจ้างคนเลี้ยงทำไมอีกละ”

“พรุ่งนี้ไม้จะต้องกลับใต้แล้ว อีก 2 อาทิตย์ถึงจะได้กลับมา ปั้นจะเลี้ยงไหวได้ไง”

พอปั้นสิบได้ยินว่าผมจะกลับใต้ มันก็เผลอทำหน้าบึ้งๆ และกัดปากตัวเอง
จนผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปจับที่ปากของปั้นสิบ เดี๋ยวก็กัดจนปากแตกหรอกไอ้เตี้ยเอ้ยย

“ไม้ไปทำหน้าที่ของไม้ไงครับ แล้วจะรีบกลับมาหานะ”

“จะเหมือนเดิมใช่ไหม”

“เหมือนเดิมคืออะไรอะ”

“ก็หายเงียบไป ไม่โทรหาไม่ติดต่อมาไง”

ตอนนี้ปั้นสิบนั่งกอดอกและหันไปมองนอกหน้าต่างเรียบร้อยแล้ว
รู้ไว้เลยว่าท่านี้คืองอนในระดับหนึ่งแล้ว 555

“ติดต่อสิครับ  ไม่ทำให้แฟนต้องรอหรอกนะ”

“หึหึ จะคอยดู”

“หัวเราะแบบนี้สยองวะ 555 ไหนยิ้มให้ดูหน่อยดิ”

“ไม่ยิ้มเว้ยย”

พูดจบก็ปัดมือผมที่หยิกแก้มของมันออก
ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรต่อ แต่ก็แกล้งมันไปเรื่อยให้มันด่าให้มันโวยวายไปจนกลับถึงห้อง






……………………………………………





“นอนห้องใหญ่นะ” ปั้นสิบบอกกับผม ก่อนจะเดินอุ้มน้องเหนือเข้าห้องนอนไป
ผมเอาของที่ซื้อมาไปใส่ตู้เย็น ก่อนจะเดินตามเข้าไปดู
ก็เห็นว่าปั้นสิบอาบน้ำให้น้องเหนือเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังแต่งตัวให้เหนืออยู่บนเตียง

“หิวอะไรอีกไหม?”
ผมเดินไปนั่งข้างๆปั้นสิบ  ก่อนจะเอื้อมมือรั้งตัวปั้นสิบให้นั่งบนตักของผม

“ไม่หิวแล้วละ อิ่มมากๆ  เออ,,  ไม้แล้วนมของเหนือละชงมายัง จะหลับแล้วดูดิ”
ผมหันไปดูก็เห็นว่าน้องเหนือง่วงและเริ่มงอแงแล้ว

“เดี๋ยวไม้จัดการเอง ปั้นไปอาบน้ำเถอะ คืนนี้ทำขนมไหม?”
ผมถามไปเพราะเห็นรายการออเดอร์ที่ปั้นจดแปะไว้ที่หน้าตู้เย็น

“ทำสิ พรุ่งนี้ต้องไปส่งตามออเดอร์ด้วย งั้นเดี๋ยวปั้นไปอาบน้ำละออกไปเตรียมของก่อนดีกว่า”

“เดี๋ยวไม้ไปช่วยนะ”

ปั้นสิบพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำ

ตอนที่ผมกำลังพาน้องเหนือนอนอยู่ ปั้นสิบก็แต่งตัวเสร็จแล้วและเดินออกจากห้องไปทำขนมแล้ว
พอเอาน้องเหนือลงนอนในเตียงเรียบร้อยแล้วผมก็ออกไปช่วยปั้นสิบทำขนมต่อ
แต่ปั้นสิบทำใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือแค่รอขนมที่กำลังอบรอบสุดท้ายอยู่

“นอนแล้วหรอ”
ปั้นสิบหันมาถามผม ตอนนี้มันกำลังนั่งแปะสติ๊กเกอร์ตราขนมลงบนกระปุก

“อืมม งอแงขึ้นทุกวัน พรุ่งนี้ปั้นเอานอนไหวไหม”

“ไหวสิ คงงอแงกับไม้แค่นั้นแหละมั้ง อยู่กับปั้นไม่งอแงนะ”

“จริงหรอ ทำไมใครอยู่กับไม้ก็งอแงหมดเลยนะ”

“ใครงอแงอีกละ พิมหรอ?”

“ไม่ใช่หรอก อีกคนอะงอแงเก่งมากๆ”

คราวนี้ปั้นสิบคงรู้แล้วละว่าผมหมายถึงมัน มันเลยหันมามองผมพร้อมๆกับเอานิ้วชี้หน้าผม

“เดี๋ยวเหอะ ไม่งอแงด้วยแล้วจะร้องไห้”

“ทำได้หรอไม่งอแงกับไม้อะ  หื้ออ ไหนตอบมาสิ”

ปั้นสิบไม่ตอบว่าอะไร ก่อนจะลุกไปเอาขนมออกจากเตาอบ และเตรียมแพ๊คส่งลูกค้า

ผมเลยเดินเข้ามาอาบน้ำ และจัดเตรียมกระเป๋าสำหรับวันพรุ่งนี้
พอเดินออกจากห้องนอนมาก็เห็นว่าปั้นสิบทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
กำลังนั่งกินขนมอยู่บนโต๊ะในห้องครัว

“อร่อยไหม”

“อร่อยดิ ปั้นทำนะอร่อยทั้งนั้นแหละ”

“ขอชิมหน่อย”

ผมเดินเข้าไปยืนตรงระหว่างขาของปั้นสิบ ก่อนจะดึงตัวปั้นสิบให้เข้ามาชิดกับอกของผม

“เดี๋ยวปั้นตกโต๊ะ อย่าดึงดิ”

ปั้นสิบยกมือมาดันอกผมไว้ ยิ่งมันดิ้นผมก็อยากจะแกล้ง

“อย่าดิ้นดิ กินขนมแป๊บเดียวเอง”
ปั้นสิบเลยรีบเอาขนมใส่ปากผม ก่อนจะถามขึ้นมาเสียงเหวี่ยงๆ

“ปล่อยดิวะ จะตกแล้ว”
ผมได้แต่ยิ้มชอบใจที่มันทำหน้าหงุดหงิดใส่ผม ก่อนจะจับขาของปั้นสิบให้มากอดเอวผมไว้

“ก็เอาขามากอดไว้แบบนี้ดิ รับรองไม่ตก”
พูดจบผมก็โน้มตัวเข้าไปหาปั้นสิบ จนช่วงล่างของเราเบียดกัน เจ้าตัวเล็กคงรู้แล้วละว่าโดนผมแกล้งแน่ๆ

“ถ้าจะทำก็ทำบนเตียง บนโต๊ะมันแข็งปวดหลัง”
ดูความปากดีของมันสิ ,, อ่อยอะไรเบอร์นั้นครับแฟน

“รู้ได้ไงว่าปวดหลัง ลองมาแล้วหรอ”
ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้วว่าปั้นสิบทำหน้ายังไง ผมก้มลงไปจูบไซร้ซอกคอขาวๆของปั้นสิบ
เจ้าตัวก็ไม่ได้ปัดป้องอะไร แค่เลื่อนมือจากที่ดันอกผมไว้ มากอดรอบคอผมแทบ
(อ่อยอะไรเบอร์นั้นลูกชาย - -)

“ไม่เคยลองหรอก แค่ชอบอะไรที่มันนุ่มๆมากกว่า”
พูดเสร็จก็ยกยิ้มมุมปากส่งมาให้ผม ก่อนจะรั้งคอผมลงไปจูบ

“ไปในห้องนะ”
ปั้นสิบกระซิบกับผมอีกครั้ง
แฟนอ้อนมาขนาดนี้แล้ว จะรอช้าทำไมละครับ






เช้าวันต่อมา



“ปั้นลุกไหวไหม ,, เช้าแล้วนะ”
หลังจากที่ผมอุ้มปั้นสิบเข้าห้องมาแล้วนั้น ก็จัดการปราบเด็กปากดีไป 5555
จริงๆก็เพิ่งได้ปล่อยให้เจ้าตัวเล็กได้นอนหลับไปไม่กี่ชั่วโมงนี้เอง


“หื้ออ จะไปแล้วหรอ” ปั้นสิบถามผมก่อนจะเอาตัวมุดๆเข้ากับผ้าห่ม

“อีกสักพักนะ แต่พี่มิ้วจะมาเลี้ยงเหนือแล้ว  ปั้นลุกไปอาบน้ำไหวไหม”

“อือออ ไหว”

ปั้นสิบตอบ ก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่ง

“โอ้ยย , , ไม่ไหวแล้วได้ปะวะ เจ็บงะ”
มือหนึ่งก็จับสะโพกตัวเองไว้ อีกมือก็ยันตัวเองไว้ไม่ให้ล้มลงไปนอนอีกครั้ง

“555 สมน้ำหน้านี้แหละปากดีไงเมื่อคืน ปั้นบอกว่าไงนะ เอาอีก หรือไงนี้แหละ ไม้เลยจัดให้ไง”
ผมเดินไปประคองปั้นสิบให้ลุกขึ้นยืน แต่เจ้าตัวหันมามองผมพร้อมๆกับกัดปากไว้แน่นเลย
ทำไมเดี๋ยวนี้ชอบกัดปากวะ - -‘

“ปั้นพูดหรอ? แน่ใจนะ แต่ปั้นได้ยินไม้พูดว่าอีกรอบนะ อีกรอบนะมากว่าปะ”

“อ้าวหรอไม้พูดหรอ เอางี้ก็ทั้งสองฝ่ายแหละเนอะ มาๆเดี๋ยวพาไปอาบน้ำ 55555”

ผมพูดไปก็ขำไปกับท่าทางโกรธๆของปั้นสิบ จริงๆผมนี้แหละที่แกล้งมันจนเช้า
โถ่ววว ก็คนมันคิดถึงแฟนนะครับ ทำไงได้ละแฟนน่ารักขนาดนี้ : )



พอปั้นสิบอาบน้ำและเดินออกมาแต่งตัวเสร็จ ผมก็พาไปนั่งทานข้าวที่ห้องครัว
ก่อนที่ผมจะมาปลุกน้องเหนือให้ตื่นนอน จริงๆอยากจะปล่อยให้นอนไปเลย
แต่กลัวน้องเหนือทานนมไม่เป็นเวลา เลยต้องปลุกขึ้นมาเหมือนทุกวัน


“ไม้ๆ เอาเหนือมาให้ปั้นอุ้มมา แล้วไม้เอาโอวัลตินให้กินหน่อย”
ปั้นสิบส่งเสียงมาอ้อนผม  ก่อนจะส่งยิ้มมาให้
เจอแฟนอ้อนแบบนี้มีแต่ยอมกับยอมครับ
ผมจัดแจงส่งเจ้าเหนือให้ปั้นแล้วไปชงโอวัลตินมาให้ปั้นสิบดื่ม


ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร พี่มิ้วก็มาถึงที่ห้องพอดี

“นี้ฉันขนของมาจนแม่ถามว่าจะไม่กลับแล้วใช่ไหมบ้านนะ”

“555 บอกแม่ไปสิพี่มิ้วว่าหนีตามผู้ชาย”

“แม่ฉันคงดีใจที่บอกแบบนั้น ไหนละหลานฉันนะ”

พอพี่มิ้ววางของเรียบร้อยแล้วก็มาอุ้มน้องเหนือไปจากปั้นสิบ ก่อนจะบอกให้พวกผมรีบๆทานเพราะเดี๋ยวรถจะติด
หลังจากทานมื้อเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาที่ผมจะต้องกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองแล้วละครับ

“ไม่ต้องไปส่งหรอกอยู่นี้แหละ เดี๋ยวไม้จะเป็นห่วงปั้นอีกว่ากลับถึงห้องหรือยัง”
ผมบอกกับปั้นสิบ ที่มันเตรียมตัวจะออกไปส่งผม

“อยากไป” ปั้นสิบเอื้อมมือมาดึงชายเสื้อผมไว้ ก่อนจะก้มหน้าลงไปไม่กล้าสบตากับผม

“เดี๋ยวตอนไม้กลับมาแล้วค่อยไปรับนะ ไปแค่ 2 อาทิตย์เองเดี๋ยวก็มาแล้ว”

“อืออ กลับมาไวๆนะ แล้วโทรมาหาด้วย”

สุดท้ายก็ทนเข้มแข็งไม่ไหว ปั้นสิบโผเข้ามากอดผม ก่อนจะพูดสั่งให้ผมโทรมารายงานตัวบ่อยๆ

“รักปั้นนะ เดี๋ยวจะรีบกลับมา”
แต่มันถึงเวลาที่ต้องไป ผมก็ตัดใจผละตัวปั้นสิบออกจากอกผม แล้วส่งยิ้มให้ปั้นสิบอีกครั้ง

“รักมึงนะ”
ดูความโรแมนติคของปั้นสิบสิครับ บอกรักฮาร์ดคอร์ดมาก

“อืออ”
ผมหยิบกระเป๋าและเดินออกจากห้องปั้นสิบมา รู้ว่าคนในห้องต้องร้องไห้แน่ๆ
แต่อีกแค่ 2 อาทิตย์ก็กลับมาแล้วนะ .. รอกันก่อนนะครับ





มีต่อข้างล่าง >>>>>>

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996



…………………….. ปั้นสิบ.





“นี้จะร้องไห้ทำไม มันไปทำงานนะเว้ย”

“ก็รู้ไงว่าไปทำงาน ก็คนมันคิดถึงอะ”

ผมหันไปโวยวายใส่พี่มิ้ว ที่ตอนนี้บ่นๆผมที่ผมนั่งร้องไห้ตั้งแต่ไม้ฉากเดินออกจากห้องไป

“ทำเหมือนไม่เคยห่างกัน แกห่างกันมากี่สิบรอบละครับ น่าจะชินนะ”
ผมไม่อยากเถียงพี่มิ้วครับ ,, เพราะรู้ว่ายังไงตัวเองก็เถียงแพ้แน่ๆ เลยล้มตัวลงนอนข้างๆน้องเหนือที่นั่งเล่นของเล่นอยู่

“แล้วพี่มิ้วหาคนเลี้ยงได้ยังอะ”

“ยังไม่ได้เลย แต่พี่จะดูเองแหละแค่ 2 อาทิตย์เอง”

“ปั้นไม่ว่างเลยอะพี่มิ้ว จะสอบแล้ว”

อาทิตย์หน้าผมมีสอบย่อยเยอะมากๆ เพราะอีกอาทิตย์ถัดไปจะสอบ Final แล้ว

“เดี๋ยวพี่ดูให้ แกก็อ่านหนังสือของแกไปนั้นแหละ เหนือมันก็ไม่กวนอะไรนี้นา”

“อืมม “

ผมหันไปมองน้องเหนือที่นอนเล่นคนเดียวอยู่
จริงๆเหนือมันก็ไม่กวนไม่งอแงหรอก เอาวะ ,, แค่ 2 อาทิตย์เองไหวอยู่แล้วละ



........ แต่ทุกสิ่งมันก็ไม่ได้เป็นตามแบบที่คิดไว้เลยครับ
หลังจากที่ไม้ฉากออกจากห้องไปแล้ว ผมก็นอนเล่นสักพัก ก่อนจะลุกมาอาบน้ำและแต่งตัวเพื่อไปเรียน
พี่มิ้วก็อยู่เลี้ยงเหนือที่ห้อง ส่วนไนซ์มันก็โทรมาบอกว่าจะเข้ามาหาหลังจากถ่ายละครเสร็จแล้ว
ระหว่างที่กำลังเรียนวิชาสุดท้ายของวัน พี่มิ้วก็โทรเข้ามาหาผม

“ว่าไงพี่มิ้ว”

“แกจะเลิกเรียนยังวะปั้น”

เสียงเจ้าเหนือร้องไห้?? สงสัยเพิ่งตื่น หรือกำลังจะนอนหรือป่าวนะ??

“ใกล้แล้วละพี่ อีกประมาณ 10 นาทีได้มั้ง มีอะไรหรือป่าวครับ”

“ก็เจ้าเหนือดิไม่ยอมนอนเลยวะ ร้องไห้งอแงตั้งแต่บ่ายแล้ว ยังไงแกเลิกเรียนแล้วรีบกลับมาที่ห้องนะเว้ย”

“โอเคพี่ เดี๋ยวไงผมจะรีบกลับ ฝากเหนือด้วยนะ”

“อืออ”

เห้ออ เจ้าเหนือเอ้ยย ปกติก็ติดพี่มิ้วนี้หว่า ทำไมวันนี้ร้องไห้งอแงแบบนี้วะ?



พอเลิกเรียนเสร็จผมก็รีบกลับห้องทันทีเลยครับ พวกเพื่อนๆก็จะชวนไปติว แต่ผมก็ปฏิเสธไป
กลับมาถึงห้องก็เจอเจ้าเหนือที่ร้องไห้จนหน้าแดงไปหมด สะอื้นอยู่กับอกพี่มิ้ว


“ทำไมเป็นแบบนี้ละพี่มิ้ว”
ผมเอื้อมมือไปรับเหนือมาอุ้ม ก่อนจะค่อยๆลูบหลังปลอบให้เหนือหยุดร้องไห้

“ไม่รู้วะ จะวางกับเตียงก็ไม่ยอม ต้องอุ้มไว้ตลอดเลย ทั้งๆที่ง่วงมากละนะแต่ก็ไม่ยอมนอน”

“ไม่สบายหรือป่าวพี่”

“ตัวไม่ร้อนนะปั้น สงสัยคิดถึงแม่มันละมั้ง”

อืมมคงจะจริงๆแหละ แม่ก็กลับไปเรียน ส่วนพ่อก็กลับไปทำงาน
ไม้ฉากโทรมารายงานตัวแล้วครับว่าถึงกรมแล้วและกำลังเดินทางกลับภาคใต้
ถ้าโทรหาได้จะรีบโทร แต่ถ้าโทรไม่ได้ก็เอาไว้จะรีบกลับมาหา
ซึ่งเอาจริงๆผมก็ยอมรับได้หมดแหละว่ามันจะโทรมาหรือไม่โทร
เพราะปกติเราก็ไม่ได้คุยกันบ่อยๆอยู่แล้ว และเพื่อความปลอดภัยของมันด้วย
อดทนแค่ 2 อาทิตย์ ,, แค่นี้สบายมาก ^_^



“อ้าววนั้นหลับไปแล้วนี้”
เจ้าเหนือหลับไปกับอกของผม ,, นี้จะอ้อนหรือยังไงกันห๊าเจ้าเหนือ 

“รู้งานจริงๆเลยว่าควรจะอ้อนใคร พาหลานเข้าไปนอนบนเตียงใหญ่นั้นแหละ
ปั้นก็นอนข้างๆหลานไปเลยพักผ่อน  แล้วคืนนี้ค่อยลุกมาอ่านหนังสือ”

ผมได้แต่พยักหน้ารับกับคำที่พี่มิ้วสั่ง ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องนอน
แล้ววางเจ้าเหนือลงบนเตียง พอห่างจากอกผมเท่านั้นแหละเหนือก็ร้องไห้
ผมเลยรีบลงไปนอนข้างๆก่อนจะโอบกอดเจ้าเหนือไว้อีกครั้ง
ซึ่งได้ผลครับ เจ้าเหนือนอนหลับไปทั้งๆที่มือยังดึงเสื้อผมไว้
ผมได้แต่นอนมองเจ้าเหนือที่นอนหลับอยู่แบบนั้น ,,

“เด็กนี้ดีเนอะ ไม่ต้องมาเหนื่อยกับปัญหาอะไร .. เป็นกำลังใจให้พี่ปั้น กับพ่อแม่ด้วยนะครับ”
ผมนอนหลับไปกับเจ้าเหนือ มาตื่นอีกทีก็ตอนที่พี่มิ้วเข้ามาปลุกให้ไปอาบน้ำ และออกมาทานข้าว
ซึ่งเจ้าเหนือตื่นมาร้องไห้หลังจากที่ผมทานข้าวใกล้จะอิ่มแล้ว

“ทานข้าวให้อิ่มเถอะ พี่เข้าไปอุ้มเอง”
พี่มิ้วเดินเข้าไปอุ้มเจ้าเหนือ ก่อนจะเดินออกมานอกห้อง
เหนือก็ยังคงร้องไห้ไม่หยุด จนผมต้องรีบวางช้อนละรีบดื่มน้ำ ก่อนจะเข้าไปอุ้มเหนือมาแนบอกอีกครั้ง

“โอ๋ๆไม่ร้องไห้นะครับคนเก่ง พี่ปั้นอยู่นี้แล้ว”
เจ้าเหนือหยุดร้องไห้ทันที แต่ก็ยังสะอื้นอยู่เล็กน้อย

“เอาละสิ ,, ติดมือพี่ปั้นแล้วแบบนี้จะอยู่ยากนะเว้ย”
พี่มิ้วเก็บจานไปล้างก่อนจะบ่นขึ้นมา

“คงไม่หรอกพี่ แค่วันนี้พ่อไม้มันกลับไปทำงานนั้นแหละคงคิดถึงพ่อ พรุ่งนี้ก็อยู่กับพี่มิ้วได้แล้ว”

“ขอให้มันจริงเถอะแก เพราะถ้าติดมือแกขึ้นมานะ แกจะวางจะปล่อยไม่ได้เลย”

ในตอนนั้นผมก็ได้แต่ส่ายหน้าให้กับคำพูดของพี่มิ้ว เพราะไม่คิดว่าเหนือจะติดมือผมขนาดนั้น


พอวันต่อมา และต่อๆมา เหนือก็ยังร้องไห้ไม่หยุด ถ้าไม่ใช่ผมอุ้มเหนือก็จะไม่หลับ
ทำให้ผมต้องรีบไปเรียนและรีบกลับห้องมาอุ้มเหนือ


“นี้แกไหวปะว่ะ อ่านหนังสือก็ยังต้องอุ้มเหนือไว้แนบอกแบบนั้นอะ”
จริงอย่างที่พี่มิ้วพูดครับ ,, ผมวางเหนือไม่ได้ พอวางไว้บนเตียงเหนือจะร้องไห้ทันที
ต้องให้ผมอุ้มแนบอกไว้ตลอด หรือถ้าเหนือหลับแล้วผมต้องนอนอยู่ข้างๆเหนือถึงจะไม่ตื่นมาร้องไห้
เรื่องทำขนมส่งออเดอร์ พี่มิ้วรับผิดชอบทำแทนให้
แต่เรื่องสอบนี้สิที่มันลำบากผมมากๆ เพราะผมไม่ชอบนอนอ่านหนังสือบนเตียง
มันจะทำให้ง่วงและจำในสิ่งที่อ่านไม่ได้
แต่ผมทิ้งเจ้าเหนือไม่ได้ ก็เลยต้องยกหนังสือมานอนอ่านบนเตียง

“ไหวแหละมั้ง แต่พรุ่งนี้ผมกลับไวไม่ได้นะ เพราะมีติวต่อเลิกตั้งสองทุ่ม จะเอาไงอะพี่มิ้ว”

“ไนซ์มันบอกจะมาอยู่ด้วยแต่เช้าอะ มีผู้ชายมาอุ้มแล้วเหนือคงไม่งอแงหรอกมั้ง”

“อืมมยังไงฝากหน่อยนะพี่ เพราะวิชาพรุ่งนี้ผมไม่ถนัดเลยต้องเข้าติวกับเพื่อนๆ”

“ไม่มีปัญหา แกตั้งใจติวเถอะ นี้จะอ่านต่อไหมหรือจะนอนพัก พี่ว่าแกควรนอนนะ หน้าตาแกบอกเลยว่าไม่ไหว”

ไม่ไหวจริงๆครับ นอนวันละ 1-2 ชั่วโมงเอง เหนือตื่นบ่อยมากและจะงอแงทุกครั้งด้วย

“อ่านจบบทนี้จะนอนแล้วครับพี่มิ้ว”

“รีบๆนอนละ พี่ออกไปทำขนมแล้วจะนอนหน้าทีวีเลยน่ะ คืนนี้มีนิยายที่จะอ่านหลายเรื่อง”

“ครับ ,, ฝันดีนะพี่มิ้ว”


เห้อออ .. เหนื่อยจังเลย TT
ป่านนี้ไม้ฉากจะทำอะไรอยู่นะ โทรมาล่าสุดบอกว่าจะฝึกหนักแล้วเพราะอีกไม่กี่วันจะจบหลักสูตรอบรม
ส่วนพิมกำลังเรียนหนักมากๆ ต้องไปติวเตรียมสอบแอดมิดชั่นเข้ามหาลัยอีก แต่ก็ยังโทรมาหาลูกทุกวันไม่เคยขาด
ต่างคนต่างกำลังรับผิดชอบกับชีวิตและทางเดินของตัวเอง ,, เอาวะปั้น.. สู้ๆเว้ยย!!!!


วันต่อมาผมก็ไปเรียนและอยู่ติวกับเพื่อน พี่มิ้วไม่ได้โทรมาตามผมให้กลับห้อง
แสดงว่าเจ้าเหนือคงเข้ากับไนซ์ได้ และไม่งอแงเหมือนวันก่อนๆ
เลยอยู่นั่งติวกับเพื่อนจนสี่ทุ่มถึงกลับห้อง

พอกลับมาถึงห้องก็ได้ยินเสียงน้องเหนือร้องไห้ดังออกมา

“เห้ยยนี้ร้องทั้งวันเลยหรอ”
ผมรีบวิ่งเข้าไปอุ้มน้องเหนือจากไนซ์ทันที

“เออดิ ร้องสะอื้น บางทีก็ไม่ร้องแต่ไม่ยอมนอน กูไม่รู้จะทำไงแล้วเนี้ย นมก็ไม่กิน”
ไนซ์บ่นๆก่อนจะยื่นขวดนมในมือมาให้ผม

“ไม่สบายแน่ๆเลยพี่มิ้ว เป็นแบบนี้มาอาทิตย์หนึ่งแล้วนะ จะว่าติดมือปั้นก็ไม่น่าใช่”

“แกก็ดูดิ ยอมนอนกินนม แล้วหยุดร้องไห้ละนั้นอะ แกจะให้คิดว่ายังไง”

พี่มิ้วเห็นว่านมที่เหนือกินใกล้จะหมดเลยเดินไปชงนมมาเพิ่มอีก

“อ้าวน้องเหนือทำไมเป็นแบบนี้ละลูก ทำแบบนี้พี่ปั้นจะไปทำอะไรได้ละ”
เจ้าเหนือคงคิดว่าผมเล่นด้วย ก็ส่งยิ้มทะเล้นๆกลับมาให้
เจ้าเด็กน้อยยย ,, ทำไมไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้ละครับ พี่ปั้นจะร้องไห้ TT


อาทิตย์ที่ผ่านมาแค่สอบเก็บคะแนน แต่อาทิตย์ที่ถึงนี้สิมันคือ Final
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับที่จะเลี้ยงเด็กไปด้วยและอ่านหนังสือไปด้วย


“ปั้นไปอ่านในห้องคุมะป่ะ เดี๋ยวพี่กับไนซ์จะเอาเหนือมาเล่นหน้าทีวี
แล้วปั้นก็เดินเข้าๆออกๆมาให้เหนือมันเห็นหน้าหน่อยละกัน”

ผมเดินเข้าไปอ่านหนังสือในห้องคุมะ แต่ก็อ่านได้ไม่นาน เหนือก็เริ่มร้องไห้อีกครั้ง
ผมพยายามทนอ่านหนังสือต่อไป และทำเป็นไม่ได้ยินเสียงร้องไห้ของเหนือ
จนสุดท้ายความอดทนของผมก็หมดลง ผมปิดหนังสือและเดินออกมาอุ้มเหนือที่นอนร้องไห้อยู่ตรงเบาะหน้าทีวี

“พี่ปั้นไม่อ่านแล้วครับ ไปนอนเล่นในห้องกันนะ”
เหนือสะอื้นไม่หยุด มือก็ดึงเสื้อผมไว้ไม่ยอมปล่อย

“เห้ออปั้นเอ้ย แกจะอ่านหนังสือจบไหมวะเนี้ย ให้พี่เอากลับไปเลี้ยงที่บ้านไหม แกจะได้อ่านหนังสือได้”

“ไม่เป็นไรพี่ เอากลับไปก็ร้องไห้ไม่หยุดอยู่ดี เดี๋ยวผมเข้าไปนั่งอ่านในห้องนอนก็ได้ครับ”

พี่มิ้วพยักหน้า ก่อนจะตบบ่าผมเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ
ส่วนไนซ์ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ช่วยยกที่นอนและของเล่นเหนือมาไว้ในห้องนอนให้ผม
ก่อนจะขอตัวไปถ่ายละครและบอกว่าคงไม่ได้เข้ามาอีกสักระยะ ช่วงนี้ละครใกล้ปิดกล้อง


ด้วยภาวะที่ผมนอนน้อยติดๆกันมาเกือบสองอาทิตย์ และวิชาที่สอบผ่านไปนั้นผมทำได้ไม่ดีนัก
ทำให้ผมเริ่มเครียด และเริ่มหงุดหงิด
วันนี้เหนือก็ยังร้องไห้งอแงอีกเหมือนเคย แต่ผมไม่มีเวลามาโอ๋แบบทุกที
พรุ่งนี้สอบตัวสุดท้ายและเป็นวิชาที่ยากที่สุดด้วย
ผมเลยมานั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องครัว และใส่หูฟังเพลงไปด้วย เพื่อจะได้มีสมาธิอ่านหนังสือ
แต่เหนือก็ร้องไห้ดังเข้ามาตลอด ทำให้ผมเผลอตวาดน้องเหนือไป


“เห้ยย ร้องอะไรมากมายวะ ไม่มีเวลาจะมาอุ้มตลอดหรอกนะ”
จากที่เหนือร้องไห้อยู่แล้วมาได้ยินเสียงผมดังใส่อีก ยิ่งทำให้เหนือร้องไห้หนักไปกว่าเดิม
พี่มิ้วคงเห็นว่าผมอารมณ์ไม่ดีมากๆ เลยรีบพาเหนือเข้าไปหลบในห้องนอนใหญ่
ทิ้งให้ผมนั่งหงุดหงิดและโกรธทุกๆอย่างรอบๆตัวไปคนเดียว
อารมณ์ผมตอนนั้นคือผมอึดอัด ผมเหนื่อย ผมอยากระบายให้คนอื่นฟังบ้างว่าผมเป็นยังไง
ผมเลยกดโทรศัพท์ไปหายูโร ทันทีที่ยูโรรับสายผมก็บ่นให้มันฟัง

“ทำไมวะ ,, ทำไมกูต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้ด้วย
งานก็เยอะ สอบก็จะสอบ  เหนือแม่งก็ร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้
แล้วจะให้กูไปทำอะไรได้บ้างละ สอบก็ไม่ได้ งานก็ยังไม่เสร็จ
ทำไมไม้ไม่เอาไปไว้เชียงใหม่ให้คนเลี้ยงแบบทุกทีว่ะ
เอาไว้ให้กูเลี้ยงแบบนี้ กูก็ทำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ”

เว้ยย ยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิด!!

“มึงสงบสติได้ยัง อยู่ๆก็โทรมาบ่นใส่กูแบบนี้เนี้ยกูจะรู้อะไรกับมึงไหม
แต่ที่ฟังๆมาก็เป็นเพราะไม้ฉาก กับครอบครัวมันอีกสินะ”

ยูโรพูดออกมาอย่างช้าๆเหมือนไม่ได้แปลกใจอะไรในสิ่งที่ผมบ่นออกไป

“อืมม” ผมก็ตอบได้แค่นั้น ก็ผมหงุดหงิดเพราะไม้ฉากจริงๆ
ณ ตอนนั้นมันเหมือนกับว่าทำไมต้องทิ้งเหนือให้ผมเลี้ยง ทำไมต้องเป็นผมที่มารับภาระนี้ไว้

“ทำไงได้ละพวกมึงเลือกแบบนี้แล้ว มึงเลือกจะยอมรับในสิ่งนั้นไปแล้วจะบ่นให้ได้อะไรขึ้นมาว่ะ
ทำไมไม่บอกไม้มันไปว่ามึงเลี้ยงไม่ได้ มึงไม่กล้าพูดเพราะกลัวมันไม่รักมึงงั้นหรอ?”

เออ ,, เหมือนพูดแทงใจดำ แต่ผมก็ไม่ได้คิดแบบนั้นนะ
ผมแค่อยากให้เหนืออยู่ด้วยเพราะอยากช่วยแบ่งเบาปัญหาของไม้ฉากเฉยๆ

“มึงจะมาบ่นนั้นบ่นนี้ให้ได้อะไรขึ้นมาในเมื่อเด็กมันอยู่กับมึง
ให้พี่มิ้วพาไปเดินเล่นพาไปนั้นไปนี้ดิ เห็นอะไรสวยๆหน่อยก็ลืมเรื่องร้องไห้ไปได้แล้ว
นี้มึงเอาไว้ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆเด็กมันก็อึดอัดดิวะ”

“อืมม กูเผลอตวาดใส่เหนือไปแล้วอะมึง”

“นี้มึงโตแต่ตัวหรอ ทำอะไรไม่ได้พาลใส่เด็กหรอวะปั้น ป่านนี้ไม่ร้องไห้ตายห่าไปแล้วหรอไง
ไปดูหลานเลยมึง  ทำใจเย็นๆ คุยกับหลานดีๆ มึงเอาแต่คิดว่ามันน่ารำคาญ มึงก็ยิ่งหงุดหงิด
ทำใจเย็นๆไปเถอะนะ แล้วนี้ไม้จะกลับเมื่อไหร่”

“มะรืนก็มาแล้ว”

“เออ ทนไปอีกไม่กี่วันพ่อมันกลับมา ขี้คร้านมึงนั้นแหละจะร้องไห้หาหลาน 
 ไปโอ๋หลานแล้วก็ทำหัวให้เย็นแล้วมาอ่านหนังสือต่อ เข้าใจไหม”

ดุชิบหายย ติดนิสัยเปามาแน่ๆ

“ครับ เข้าใจละครับ”

“เออดีมาก กูไปอ่านหนังสือต่อละไอ้เชี้ย เครียดชิบหาย”

มันพูดเสร็จก็กดวางสายไป สรุปมันก็เครียดเรื่องสอบเหมือนกัน 55555


ผมนั่งสงบสติตัวเองสักพัก ก็รีบลุกเข้าไปโอ๋เจ้าตัวเล็กในห้อง
ซึ่งตอนนี้นอนหลับไปแล้ว

“อ้าวนอนได้แล้วหรอพี่มิ้ว”

“อืมม ร้องไห้สะอื้นไม่หยุด พี่ไม่รู้จะทำไงเลยเอาเสื้อนอนของปั้นมาให้เหนือกอด
ก็เนี้ยยอมนอนหลับแล้วแต่กอดผ้าไว้ไม่ปล่อยเลย”

ผมมองดูเจ้าตัวเล็กที่นอนหลับไป แต่ยังสะอื้นอยู่เล็กน้อยและมีน้ำตายังคลออยู่

“พี่ปั้นขอโทษนะครับ”
ผมก้มลงไปหอมหน้าผากของเจ้าเหนือเบาๆ ก่อนจะเดินออกมานั่งอ่านหนังสือที่ห้องครัวต่อ
พี่มิ้วเดินตามเข้ามานั่งคุยกับผมด้วย


“เป็นไงละเข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ไหม เลี้ยงลูกมันไม่ใช่เรื่องง่าย
มันถึงไม่ผิดไงที่เค้าจะหวังกับพวกแกไว้มาก”

“เหนื่อยสุดๆเลยพี่มิ้ว ไม่คิดด้วยว่าเหนือจะติดปั้นขนาดนี้
ถ้าไม่ติดว่าจะสอบนะปั้นจะไม่บ่นเลย นี้ก็รู้สึกแย่ๆไปโวยวายใส่เด็กแบบนั้น”

“ทุกคนมีมุมที่จะล้าจะเหนื่อยด้วยกันทั้งนั้นแหละ อย่าคิดมากรีบอ่านหนังสือเถอะ
พี่จะเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนเหนือเอง”

พี่มิ้วพูดจบก็ลุกไปดื่มน้ำ และก็เดินเข้าห้องนอนไป



ป๊า ม๊า ,, เลี้ยงปั้นมาตั้งหลายสิบปี ป๊ากับม๊าจะเหนื่อยมากแค่ไหนนะ?
แล้วตอนนี้ป๊ากับม๊าจะเสียใจบ้างไหมที่ปั้นไม่ได้เป็นอย่างที่ป๊ากับม๊าหวังไว้เลย?

เห้อออ … ไม้ฉาก พวกเราจะข้ามผ่านเรื่องราวพวกนี้ไปได้ไหมวะ?
เลี้ยงเด็กคนหนึ่งมันไม่ง่ายเลยนะเว้ย แต่ทำไม้กับพิมเลี้ยงมาได้จนถึงทุกวันนี้
ไม้คงจะเหนื่อยมากเลยสินะ ,, ไหนจะหาเงินส่งพิมเรียน หาเงินค่าเลี้ยงเหนืออีก
และพอถึงเวลาที่พัชกลับมาแล้ว .. ไม้จะยอมปล่อยเหนือให้ไปกับพัชได้จริงๆหรือป่าว??
เพราะขนาดเหนือมาอยู่กับปั้นไม่นาน ปั้นยังไม่อยากคืนเหนือให้พิมเลย
แล้วนี้กูคิดมากทำไมวะเนี้ยยย - -‘
พรุ่งนี้สอบนะเว้ยยยยย !!!!
ไม่เอาละ ไม่คิดอะไรทั้งนั้น .. วางมันให้หมด ตอนนี้ต้องคิดแต่เรื่องสอบ สอบ สอบและสอบ .
เพราะหลังสอบเสร็จไม้ฉากจะกลับมาหาแล้ว >//////<



----------------------------------------
มีคำผิดยังไงขออภัยด้วยนะคะ : )
อย่าไปว่าปั้นมันเลย มันก็คนทั่วๆไปนั้นแหละมีทั้งมุมที่ดี และมุมที่อ่อนไหว
เป็นกำลังใจให้เด็กๆด้วยน๊า '

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไม้ฉาก คิดแบบนี้ดีมากกกกก ตัดตัวเองออกมาจากพ่อแม่
ไม่ให้พ่อแม่มายุ่ง ถูกที่สุด
พ่อแม่ที่เผด็จการ เอาแต่ความต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว
ไม่คิดถึงความสุขของลูก เอาแต่แคร์สังคมภายนอก
คนนอกเขามาทุกข์ด้วยไหม สุดท้ายไม่มีความสุขทุกคน
ดูท่า พ่อไม้ฉาก ไม่กลัวอันตรายที่ลูกไปเป็นตำรวจภาคใต้
คงคิดว่าสร้างความอับอายให้
อยู่ทางนั้น ให้มันลำบากสุดๆ ตายๆไป ซะก็ดีมั้ง
เสียว กลัวไม้ฉากมีอันตรายจริงๆ
ไร้ท อย่าจบแบบดราม่านะ
ปั้น คงไม่มีความสุขไปตลอดชีวิต
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16
หรือว่าจะต้องรอ
จนน้องเหนือโตเป็นหนุ่ม
ถึงจะได้สมหวังกันทุกคน

ตอนนั้นคนบางคนคงจะแก่ตาย
ไปบ้างซักคนสองคน
หรือหมดทุกคน..หมดคนสร้างปัญหา

แน่ใจนะ
ว่าจะให้รอถึงวันนั้น
จริงๆ

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
มีคำเปิดใจ Closefriends ในหน้าแรกนะคะ :)

ออฟไลน์ broke-back

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5947
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-16

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
|| Close Friends Special :: เรื่องเล่าระหว่างทาง 6  ||
 
.................. ปั้นสิบ

 
 



และแล้วการสอบที่แสนสาหัสก็จบลงไป
ได้เวลาหยุดพักผ่อนซะที แต่ก็ได้หยุดแค่ 2 อาทิตย์เองครับ
หลังจากสอบเสร็จแล้วพวกแฟรงค์ชวนไปฉลองที่บ้านพี่เจ แต่ผมไปไม่ได้
เพราะมีภารกิจต้องกลับไปง้อเด็กน้อย .. ก็น้องเหนือยังไงละ : )
 
“น้องเหนือครับ พี่ปั้นกลับมาแล้ว”
ทันทีที่ถึงห้อง ผมรีบตรงดิ่งเข้าไปในห้องนอนใหญ่ ซึ่งคาดว่าเจ้าเหนือต้องนอนเล่นในห้องแน่ๆ
แต่ในห้องกลับไม่มีใครอยู่เลย ผมเดินมาในห้องคุมะ ก็ไม่เจอใคร...
พี่มิ้วพาเหนือไปไหนกันนะ? ห้องก็ไม่ล๊อคอีกต่างหาก
หรือว่าพวกไนซ์กับต๊ะมา?
สงสัยพากันไปเล่นที่ชั้นสระว่ายน้ำแน่ๆแหละ
 


ผมเลยเดินเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมานั่งเล่นมือถือรอ
จนเวลาผ่านไปเกือบๆจะ 2 ทุ่มละพี่มิ้วก็ยังไม่กลับมา
อืมมมม... มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้วปะวะ?
 
ผมกดโทรไปหาพี่มิ้ว.. แต่เสียงมือถือพี่มิ้วก็ดังอยู่ใกล้ๆ
โธ่เอ้ยยยพี่มิ้ว.. ไม่เอามือถือไปอีกแล้ว
นี้อีกเรื่องที่จะบ่นพี่มิ้ว.. เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยชอบพกมือถือ
ทีเมื่อก่อนนะทักตอนไหนตอบทันทีเลย .. เดี๋ยวนี้รอไปเกือบครึ่งวันกว่าพี่มิ้วจะอ่านจะตอบ
ในเมื่อโทรหาพี่มิ้วไม่ติด ผมเลยเลือกกดโทรไปหาไนซ์ แต่เป็นพี่ป๊อกกี้ ผู้จัดการของไนซ์รับสาย บอกว่าไนซ์ติดถ่ายงานอยู่
อ้าวว.. ไนซ์ไม่ได้มา แล้วพี่มิ้วพาเหนือออกไปกับใครวะ?
 
 
ผมนั่งรอต่อไปจบเกือบ 3 ทุ่มพี่มิ้วกับเหนือก็กลับมา

“พี่มิ้ว พาเหนือไป..... ม๊า!!!!”

แต่ที่ทำให้ผมตกใจกว่าเดิมคือ.... ม๊าผมก็มาด้วย
 
 
“บ่นเก่งจริงๆเลยนะแก มาช่วยฉันถือของหน่อย” พี่มิ้วเรียกให้ผมไปช่วยถือของ
จากที่ยืน งงๆ ว่าม๊ามาได้ไง ผมก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยพี่มิ้วเอาของไปเก็บที่ห้องครัว
ส่วนม๊าผมอุ้มน้องเหนือไปนั่งเล่นที่โซฟาหน้าทีวี
 
“ม๊ามาเมื่อไหร่” ผมกระซิบถามพี่มิ้ว ที่ตอนนี้กำลังแยกของไปเก็บใส่ตู้เย็น
 
“มาตั้งแต่เช้าแล้วละ แกออกไปสอบได้สักพักม๊าแกก็มา”
 
“แล้วว่าไงบ้างไหม”
ผมยังร้อนๆหนาวๆไม่หายเลย
อย่างที่ทราบกันคือป๊ากับม๊าผมก็ไม่ได้เห็นด้วยเรื่องที่ผมกับไม้ฉากจะคบกัน
และเรื่องที่โคราชวันนั้นผมว่าพ่อแม่ไม้ฉากก็น่าจะโทรไปฟ้องป๊ากับม๊าผมเรียบร้อยแล้ว
 
“ไม่นะ” พี่มิ้วตอบมาแบบนั้นแต่หน้านี้คนละอารมณ์มาก
 
พอจัดของใส่ตู้เสร็จ พี่มิ้วก็จะล้างขวดนม ผมว่าจะอยู่ช่วยแต่พี่มิ้วไล่ให้ผมไปนั่งคุยกับม๊า
 
“ไปคุยกับม๊าเถอะ”
ไล่กันขนาดนี้... แล้วบอกว่าม๊าไม่ว่าไรเลยใครจะเชื่อละพี่มิ้ว TT
ผมยืนทำใจอยู่สักพักก็ตัดสินใจเดินมานั่งกับม๊าที่โซฟา พอเจ้าเหนือเห็นผมก็ร้องไห้และยื่นมือมาให้ผมอุ้ม
ผมเลยอุ้มน้องเหนือมาจากม๊า ซึ่งม๊าก็ไม่ได้ขัดอะไร ยื่นน้องเหนือส่งมาให้ผม
 
 
“ท่าทางจะติดปั้นจริงๆสินะ”
ผมหันไปมองหน้าม๊าอีกครั้ง.. ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายๆเดือนที่ผมได้มองหน้าม๊าชัดๆแบบนี้
 
“ติดไม้มากกว่าครับ นี้คงคิดถึงพ่อไม้นั้นแหละเลยติดให้ปั้นอุ้ม”
ผมตอบออกไป ก่อนจะจับน้องเหนือให้นอนซบบนอกดีๆ
ตอนนี้น้องเหนือคงเริ่มง่วงนอนแล้วละครับ เอามือขยี้ตาบ้างละ เอามือเข้าปากบ้างละ
 
“ก็แปลว่าเจอกันบ่อยงั้นสินะ” นั้นไง.. คำถามแบบนี้มาอีกแล้ว เห้อออออ อยากร้องไห้จริงๆ
 
“ไม่ได้เจอกันบ่อยหรอกครับม๊า จริงๆปั้นกับไม้ก็เพิ่งกลับมาคุยกันอีกครั้งได้ไม่นาน แล้วก็มีเหตุสุดวิสัยนิดหน่อยนะ ปั้นเลยได้มาช่วยเลี้ยงน้องเหนือแค่นั้นเอง”
 
“ปกติเหนืออยู่กับใครละ ปั้นเอามาเลี้ยงไว้แบบนี้ไม่กระทบกับเวลาเรียนหรอ มีอย่างที่ไหนม๊าก็มีไม่บอกให้ม๊ามาช่วยเลี้ยง  ไปรบกวนพี่มิ้วเค้าทำไมอีก เรานี้ไปสร้างความเดือดร้อนพี่มิ้วเค้าหลายเรื่องละนะ”

ม๊าบ่นออกมาแต่ก็ไม่ได้มีท่าทีจริงจังอะไรมาก เพราะตอนนี้ม๊าก็หยิบขวดนมจากพี่มิ้วมายื่นให้ผม
 
“เดี๋ยวค่อยให้นมครับม๊า  อาบน้ำให้ก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะได้นอนหลับยาวๆเลย”
ม๊าพยักหน้าให้ผม ก่อนจะวางขวดนมลงโต๊ะข้างๆโซฟา และหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาป๊า
ผมเลยขอตัวพาเหนือเข้ามาอาบน้ำแต่งตัว และเอาเข้านอนในห้อง
 
สักพักม๊าก็เดินตามเข้ามาในห้องนอน ก่อนจะไปหยุดดูรูปที่ผมแปะไว้ตรงผนังห้อง
รูปผมกับไม้ฉาก.. แล้วก็มีโพสอิทข้อความที่ผมกับไม้ฉากชอบเขียนมาแปะไว้ให้กันอ่านอีก
เอิ่มมมม มมม.. ม๊า TT’
ผมไม่ได้ปิดบังม๊าเรื่องที่ผมชอบไม้ฉากก็จริงอยู่..
แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้ม๊าได้อ่านข้อความในใจของผมกับไม้ฉากสักเท่าไหร่
ผมยอมรับว่าผมยังแคร์ความรู้สึกของม๊ากับป๊าอยู่ ....
 
ม๊าหยุดยืนดูรูปที่ผนังสักพักก็เดินมานั่งข้างๆผม
 
“เอานอนยากไหม?”
ม๊าพูดเสร็จก็เอื้อมมือไปลูบหน้าของเจ้าเหนือเบาๆ
เจ้าเหนือที่ยังไม่ได้นอนหลับ ก็ยิ้มออกมาอย่างชอบใจที่มีคนมาเล่นด้วย
ถึงแม้ตาใกล้จะปิดเต็มที่แล้วก็ตาม ยิ้มจนน้ำนมไหลออกมาเปื้อนแก้มและไหลลงไปเปื้อนคอ
ผมก็ได้แต่รีบซับน้ำนมที่เปื้อนให้น้องเหนือ ก่อนจะนั่งเงียบๆฟังเสียงม๊ากล่อมน้องเหนือนอน
 
เวลาผ่านไปไม่นาน.. น้องเหนือก็หลับสนิทและน่าจะนอนหลับสนิทที่สุดในรอบๆหลายวันที่ผ่านมา
ผมจัดการอุ้มน้องเหนือไปนอนในเตียง  ที่ไม้ฉากต่อไว้ให้
พอหันกลับมาก็เห็นว่าม๊านั่งมองผมอยู่ .....
 
“มานั่งนี้สิปั้น” ม๊าเอามือตบๆตรงที่นอนข้างๆที่ม๊านั่ง ผมเลยไปนั่งข้างๆม๊า
 
“ตอนที่ปั้นยังเด็ก ปั้นเลี้ยงยากกว่าเหนืออีกรู้ไหม?”
ม๊าเอื้อมมือมาลูบผมของผมอย่างแผ่วเบา ม๊าพูดไปก็ยิ้มไปด้วย
 
“ร้องไห้จนพี่เลี้ยงที่จ้างมายอมแพ้ลาออกกันไปตั้งมากมาย สุดท้ายป๊าเลยบอกให้ม๊าหยุดทำงาน
แล้วไปเลี้ยงปั้นอย่างเดียว หลังจากนั้นมา ปั้นก็ไม่ร้องไห้ตอนนอนอีกเลย
แต่ม๊าต้องกอดปั้นไว้ตลอด ต้องให้มือโดนตัวปั้นไว้สักนิดก็ยังดี ปั้นก็จะนอนหลับได้นานมากเลยละ”
 
“ม๊าคงเหนื่อยกับเด็กดื้อแบบปั้นมากเลยสินะครับ”

ม๊าส่ายหน้าไปมา ก่อนจะใช้ทั้งสองมือประคองหน้าผมไว้
 
“ม๊าไม่เคยเหนื่อยกับปั้นเลยรู้ไหม   เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่เล็กจนโต ปั้นไม่เคยทำให้ม๊าเสียใจเลยไงละ”
ม๊าพูดไปก็เริ่มร้องไห้ไปด้วย ผมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่เริ่มจะไหลล้นจากดวงตาคู่สวยของม๊า
 
“ถึงปั้นจะคบกับไม้ฉาก ทั้งๆที่ม๊าเคยขอไว้นะหรอครับ”
ม๊าไม่ได้ตอบว่าอะไร แต่ดึงตัวผมเข้าไปกอด
ม๊ากอดผมไว้ แล้วลูบหลังผม เหมือนทุกครั้งที่ม๊าโอบกอดผมตั้งแต่เด็กจนโต
 
“ไม่ว่าปั้นจะเป็นอะไร ม๊ากับป๊าไม่เคยเสียใจเลย  ปั้นจะรักใคร ม๊าก็จะรักด้วย
ถ้านั้นคือเส้นทางที่ปั้นเลือกแล้วถึงม๊าจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ม๊าก็จะอยู่ข้างๆปั้นเสมอ
มีอะไรก็บอกม๊านะลูก เชื่อม๊าเถอะนะ ไม่มีใครรักและหวังดีกับลูกเท่าป๊ากับม๊าแล้ว”

ผมในตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่ต้องการความรักจากม๊าจริงๆ
ผมกอดม๊าแน่นกว่าเดิม และร้องไห้ออกมา
ผมเหนื่อย... ผมอยากได้คนเข้าใจ... ผมอยากได้อ้อมกอดจากใครสักคน
และวันนี้ผมรู้แล้วว่าอ้อมกอดจากม๊า... มันคือสิ่งที่ผมต้องการ.
 
 
มันนานแค่ไหนแล้วนะ... ที่ผมไม่ได้รู้สึกถึงความอบอุ่นแบบนี้
อ้อมกอดที่ทำให้ผมสบายใจทุกครั้งที่ได้รับมัน.
 
 
 
ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของม๊าทำให้ผมที่เหนื่อยกับการเรียนและการเลี้ยงน้องเหนือมาหลายอาทิตย์
ผล็อยหลับไปกับอ้อมกอด และเสียงกระซิบแผ่วเบาของม๊า
 
“ไม่ว่าม๊าจะทำอะไรก็ตาม.. ม๊าทำเพราะม๊ารักและหวังดีกับลูกนะครับ”
 
 
 
 
 
 
 
“ปั้นๆ”
หื้อออ เสียงใครว่ะ?
อยากลืมตาตื่นมาดู แต่ตามันหนักๆ แล้วก็ปวดเมื่อยไปหมดแล้ว
 
“ปั้นสิบบบบบบบ!!!!!”
 
 
เสียงไม้ฉาก!!?
 
 
 
 
ผมรีบเด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะลืมตามองคนตรงหน้า..
 
ไม้ฉาก!!
 
 
 
“ไม้....”
ไม้ฉากยืนยิ้มทำหน้าหล่อๆให้ผม ..
มันเป็นคนที่ยิ้มแล้วโลกสดใสครับ ( โลกของผมคนเดียวครับ 5555)
 
“ไม้กลับมาแล้วนะครับ”
ไม้ฉากยื่นมือมาหยิกแก้มผม จากหยิกเบาๆก็เพิ่มแรงเป็นหยิกแรงมากขึ้น
จนผมต้องรีบสะบัดหน้าหนี แต่ยิ่งสะบัดหน้ายิ่งเจ็บครับ
 
“โอ้ยยย ปะ ปล่อย.. เจ็บเว้ย”
ผมดึงมือของไม้ฉากออกได้แล้ว ก็รีบลูบแก้มตัวเองทันที
คนบ้าอะไรวะชอบหยิกแก้ม.. เจอกี่ทีๆก็หยิกแก้มตลอดเลย
เดี๋ยวไปลดน้ำหนักเอาแก้มออกดีกว่า - -
 
“แล้วเหนือไปไหนละ” ไม้ฉากมองไปรอบๆห้อง ก่อนจะหยุดสายตามามองที่ผม
 
 
อืมม.. เหนือ?
 
 
เห้ยย.. เมื่อวานม๊ามานี้หว่า!!!
 
 
 
 
 
“ม๊า!!!”
ผมรีบลุกออกไปดูนอกห้องนอน แต่ก็ไม่เห็นม๊า และไม่เห็นพี่มิ้วเหมือนกัน
 
“ม๊าทำไมหรอปั้น?” ไม้ฉากเดินมาดึงตัวผมไว้ ก่อนจะโอบกอดตัวผมไว้
 
“เมื่อวานม๊ามานะสิ แล้วนี้หายไปไหนกันหมดแล้วละ พี่มิ้วละ ไม้เจอพี่มิ้วไหม?”
 
“ไม้เดินเข้ามาก็ไม่เห็นใครแล้ว ห้องก็ไม่ล๊อคด้วย”

คราวนี้ไม้ฉากเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่อีกรอบ ก่อนจะเดินออกมาด้วยหน้าเครียดๆ
 
“เตียงนอนเหนือ เสื้อผ้าของเหนือก็ไม่มี”
เห้ยย.. เกิดอะไรขึ้นวะ?
ของๆเหนือหายไปไหน? แล้วน้องเหนือไปไหนแล้วละ?
 
“ไม่ว่าม๊าจะทำอะไรก็ตาม.. ม๊าทำเพราะม๊ารักและหวังดีกับลูกนะครับ”
คำสุดท้ายที่ผมได้ยินม๊าพูดก่อนจะหลับไปดังขึ้นมาในหัวของผม
ม๊าทำอะไร???
 
 
 
ผมรีบวิ่งไปหยิบมือถือที่ผมวางไว้ข้างๆทีวีมากดโทรหาม๊าทันที
รอไม่นานม๊าก็กดรับสาย พร้อมๆกับเสียงร้องไห้ของน้องเหนือดังแทรกเข้ามา
 
 
“ม๊าอยู่ไหน”
 
“นี้น้องปั้น ทำไมไม่ทักม๊าดีๆละครับ ตื่นนอนนานหรือยัง?”
 
“ม๊า.. ม๊าเอาเหนือไปไหน”

เสียงน้องเหนือร้องไห้ดังออกมา ทำให้ผมเริ่มใจไม่ค่อยดีเท่าไหร่
คงเพราะรู้ฤทธิ์น้องเหนือดีว่าเวลาร้องไห้และไม่เห็นหน้าผม น้องเหนือจะร้องไม่หยุด และไม่ยอมกินนม ไม่ยอมนอน
 
“พามาบ้านมิ้ว ตอนนี้กำลังจะกลับคอนโด” ม๊าตอบกลับมาและม๊าก็หันไปปลอบเจ้าเหนือ
 
“แล้วม๊าเอาที่นอนของเหนือไปทำไม เสื้อผ้าของเหนืออีก” ผมยังคงไม่วางใจเรื่องนี้เท่าไหร่
ผมกลัวม๊าจะทำอะไรลงไปเพราะคำว่าหวังดีกับผม...
ถึงจะรู้ว่าสิ่งที่ม๊าทำไปมันดีกับผมจริงๆนั้นแหละ... แต่ผมก็กลัวอยู่ดี.
 
 
“เดี๋ยวกลับไปคุยที่ห้อง ไม้ฉากมาถึงแล้วใช่ไหม”
หื้อออ.. ม๊าเริ่มน่ากลัวแล้วนะ ม๊ารู้ได้ไงว่าไม้ฉากจะกลับมาวันนี้
 
“ครับ.. มาถึงแล้ว แต่ว่าม๊ารู้ได้ไง”
 
“ปั้นไปอาบน้ำเก็บกระเป๋าเถอะ เดี๋ยวม๊าจะพาไปเชียงใหม่”
 
“เชียงใหม่? ไปทำไมอะครับ”

ตอนนี้ผมหันไปมองหน้าไม้ฉาก ซึ่งมันก็ขมวดคิ้วทำหน้า งง ไม่ต่างจากผม
 
“ค่อยคุยกันบนรถ ตอนนี้ไปอาบน้ำและเก็บเสื้อผ้าตามที่ม๊าสั่งเถอะ”
พูดจบม๊าก็ตัดสายวางไป ผมได้แต่นั่งมองหน้าไม้ฉากอย่าง งงๆ แบบนั้น
 
 
จนไม้ฉากมาดึงตัวผมเข้าไปกอดนั้นแหละ ผมถึงรู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้
 
“ร้องไห้ทำไมคนเก่ง.. ม๊าว่าไงบ้าง”
อ้าวว นี้ผมร้องไห้ทำไมวะ?
ผมรีบเช็ดน้ำตา และผละตัวออกจากอ้อมกอดของไม้ฉาก
 
“ม๊าบอกจะพาไปเชียงใหม่อะไม้ ... ม๊ากำลังจะทำอะไรวะ? ปั้นกลัว. . กลัวม๊าจับปั้นกับไม้แยกจากกันอีก”
 
“ไม่ต้องกลัวหรอก ถึงใครจะจับไม้กับปั้นแยกกันอีกกี่สิบกี่ร้อยครั้ง ไม้ก็จะหาทางดึงปั้นกลับมาอยู่กับไม้อีก
ตอนนี้ทำตามที่ม๊าสั่งก่อนเถอะ”
 
“สัญญาก่อนดิ ว่าจะไม่ทิ้ง ไม่คิดคนเดียว ไม่ตัดสินใจคนเดียวเหมือนครั้งก่อน”

ครั้งก่อน ไม้ฉากตัดสินใจไปกับพิม... เพราะป๊าผมพูดให้ไม้ฉากให้โอกาสผมได้เจอคนที่ดีกว่า
ผมกลัวไม้จะคิดเองตัดสินใจเอง.. และทิ้งผมอีก
ผมในตอนนี้... ไม่อยากมีชีวิตที่ไม่มีไม้ฉากอีกแล้ว.
 
 
“สัญญา... ไม่ว่ายังไงก็จะคุยกันทุกเรื่อง คิดทุกอย่างด้วยกัน ตัดสินใจทุกอย่างด้วยกัน”
และคำสัญญาของไม้ฉากก็จบลงด้วยปากร้อนๆที่ประกบลงมาสัมผัสกับปากผมเบาๆ
 
“มัดจำก่อน ถ้าสบายใจเรื่องม๊าเมื่อไหร่.. เดี๋ยวมาทวงความคิดถึงนะครับ”
หมาป่าก็คือหมาป่าครับ..... กำลังเครียดๆ วกกลับมาเรื่องนี้จนได้สินะ.
 
“ทวงไวๆนะ เพราะคิดถึงมากๆ”
ผมตอบไม้ฉากกลับไป ก่อนจะรีบลุกขึ้นยืนแล้วเข้าไปอาบน้ำ
เพราะดูจากสายตาไม้ฉากแล้ว ถ้าผมยังนั่งอ้อยอิ่งให้ไม้ฉากกอด...
คงไม่พ้นว่าผมคงต้องแสดงความคิดถึงมากๆให้ไม้ฉากรับรู้แน่ๆ
 
 
 
หลังจากที่ผมอาบน้ำและเก็บเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ออกมานั่งเล่นกับไม้ฉากที่หน้าทีวี
สักพักพี่มิ้วกับม๊าและน้องเหนือก็เดินเข้ามาในห้อง
 
“สวัสดีครับ” ไม้ฉากยกมือไหว้ม๊า และเอื้อมมือไปรับน้องเหนือมาอุ้ม
น้องเหนือที่พอได้ยินเสียงของพ่อไม้  รีบโยนของเล่นในมือลงพื้น แล้วยื่นมือมาให้พ่อไม้ฉากอุ้มทันที
พี่มิ้วคงทนความหมั่นเขี้ยวไม่ไหว เผลอตีขาแน่นๆของน้องเหนือไปหลายทีเลยครับ (ตีเบาๆนะไม่ได้ตีแรง)
 
“กลับมาถึงก็ตรงมาที่นี้เลยสินะ โทรบอกพ่อแม่เราบ้างหรือยังว่ากลับมาจากใต้แล้วนะ
เค้าเป็นห่วง กินไม่ได้นอนไม่หลับกันอยู่นะ ยังไงโทรไปบอกบ้านโน้นเค้าบ้างละ”

ม๊าบอกกับไม้ฉาก ถึงน้ำเสียงม๊าจะดูดุไปบ้าง แต่สายตาที่ม๊ามองไม้ฉากก็ยังเป็นสายตาอ่อนโยน
เหมือนที่เคยมองไม้ฉากมาตลอดหลายสิบปี
 
“โทรไปบอกบ้านคุณตา บ้านคุณปู่ และบอกไม้ทีเรียบร้อยแล้วครับ”
นั้นคืออีกเรื่องที่ผมเพิ่งรู้... ไม้ฉากยังโทรหาคุณปู่คุณตาไม่เคยขาด
อันนี้ไม้มาเล่าให้ฟังที่หลังว่า.. ต่อให้พ่อแม่ตัดขาดกับมันแล้ว แต่พวกคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายก็ยังคงเป็นห่วงมัน
มันเลยต้องโทรไปบอกเค้า โทรไปหาพวกเค้าอยู่ ยังไงๆมันก็ตัดกันไม่ได้อยู่แล้วละ
อันนี้ผมเห็นด้วยนะ.. เพราะใจจริงๆพวกผมก็ไม่ได้อยากตัดพ่อตัดแม่แบบที่พ่อแม่ของไม้ฉากพูดอยู่แล้ว
 
“อืมม ดีแล้วละ งั้นเดี๋ยวเดินทางเลยไหม กว่าจะถึงเชียงใหม่จะดึกนะ”
ตอนนี้ผมกับไม้ฉากได้แต่มองหน้ากัน ก่อนที่ไม้ฉากจะเอื้อมมือมาโอบบ่าผมไว้หลวมๆ
 
“ครับ” ไม้ฉากตอบกลับไป ก่อนจะยื่นน้องเหนือให้ผมอุ้ม
แล้วไม้ฉากก็ไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของผม และของไม้ฉากขึ้นมาถือ
 
 
 
เราเดินตามม๊ากับพี่มิ้วมาเงียบๆ มีเสียงไม้ฉากแหย่น้องเหนือเล่นเป็นระยะๆ
จนเดินมาถึงชั้นจอดรถ ที่รถตู้ของที่บ้านผมจอดรออยู่แล้ว
พี่มิ้วเดินเข้าไปนั่งข้างหลัง ก่อนจะเอื้อมมือมาอุ้มน้องเหนือให้ไปนั่ง car seat ข้างๆพี่มิ้ว
ก่อนที่ผมกับไม้ฉากจะเข้าไปนั่งในรถ ม๊าก็จับแขนของผมไว้
 
“ปั้นสิบ, ไม้ฉาก  ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรก็ตาม ถึงม๊าอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกลูกคิด
ให้นึกถึงม๊านะ โทรหาม๊าได้ทุกเวลา”

ไม้ฉากยกมือไหว้ขอบคุณม๊า ซึ่งม๊าก็เอื้อมมือไปจับมือของไม้ฉากไว้
 
“ไม่ต้องไปอบรมที่ใต้อีกแล้วนะไม้ ทำงานตามหน้าที่ของเราก็พอ อยู่เวรก็อยู่พอดีๆอย่าไปรับหน้าที่เกินตัว
ไม้ยังมีพิมมีเหนือที่ต้องดูแลถ้าล้มซะคนหนึ่งมันจะล้มกันหมด แล้วก็.. ฝากปั้นสิบด้วย
ปั้นอาจจะงอแง งอนเก่ง แต่ปั้นก็โตพอและมีพร้อมจะอยู่เคียงข้างไม้ ซึ่งตรงนี้ไม้คงรู้ดีกว่าม๊าจริงไหม?”

ไม้ฉากยิ้มให้ม๊า ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผมไว้
 
“ขอบคุณครับม๊า.. ไม้เคยปล่อยมือนี้ไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว และไม้ก็รู้ว่าไม้อยู่ไม่ได้เลยถ้าไม่มีปั้น
ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไงไม้จะไม่ปล่อยมือนี้อีกแล้ว หรือถ้าจะปล่อยก็คงเป็นเพราะปั้นเค้าอยากปล่อยมือไม้นั้นแหละครับ”

ฟังคนข้างๆพูดแล้วก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ใครที่อยากจับมือมาตลอด
เดี๋ยวเหอะ!!! ทดไว้ในใจก่น เดี๋ยวค่อยไปด่าเอาทีหลัง ตอนนี้ต่อหน้าม๊าต้องสงบไว้ก่อน
 
“ปั้นก็เหมือนกันนะลูก.. มันไม่ใช่แค่คน 2 คนรักกันแบบคู่อื่นๆ แต่ทั้งไม้และปั้นยังมีหลายสิ่งที่ต้องแบกรับไว้อีก  ผ่านมันไปให้ได้ ถึงบทสุดท้ายมันอาจจะไม่เป็นอย่างใจหวัง.. แต่ปั้นกับไม้รู้ไว้นะลูก ยังมีป๊ามีม๊าที่รักและพร้อมจะกอดลูกๆเสมอ”
ตอนนี้ผมยอมปล่อยมือของไม้ฉากออก แล้วโผเข้าไปกอดม๊าอีกครั้ง
ซึ่งอ้อมกอดของม๊ายังเป็นอ้อมกอดที่อบอุ่น และปลอดภัยที่สุดสำหรับผมเสมอ.
 
“ปั้นรักม๊านะครับ”
ม๊าหอมแก้มผมอีกหลายครั้ง ก่อนจะรีบบอกให้ผมขึ้นรถ
 
“แล้วม๊าไม่ไปด้วยกันหรอ?”
พอผมขึ้นรถไปแล้วก็หันมาถามม๊า ที่ยืนอยู่ข้างๆไม่ยอมขึ้นมานั่งบนรถ
 
“ม๊าต้องไปธุระอีกหลายที่ ไม้กับปั้นไปพักผ่อนที่เชียงใหม่เถอะ ใกล้ๆเปิดเทอมก็รีบกลับมานะปั้นสิบ
อย่าลืมหน้าที่ของตัวเอง รู้ไหมครับ”
 
“ทราบแล้วครับม๊า”
ผมหันไปยิ้มอ้อนม๊าอีกครั้ง
 
“เดินทางกันโดยสวัสดิภาพนะ ถึงแล้วโทรหาม๊าด้วย”
 
“ครับผม.. เออม๊า อย่าไปขโมยทีชเชอร์กลับบ้านละ”

ม๊าเอื้อมมือมาตีไหล่ผมเบาๆ โทษฐานที่รู้ทันม๊า ก่อนจะปิดประตูรถให้ผม และยืนโบกมือให้พวกผม
จนรถตู้ออกมาจนพ้นคอนโดนั้นแหละ พี่มิ้วถึงถอนหายใจออกมา
 
 
 
“เห้ออออ!!!”
ไม้ฉากตัวดี จอมแกล้งพี่มิ้วก็หันไปมองหน้าพี่มิ้ว
 
“หายใจแบบนี้หมดตัวพอดี ผอมลงแล้วมั้งพี่มิ้ว”
พี่มิ้วคงชินกับปากของไม้ฉากอยู่แล้ว เลยหันมาแจกขนมเพี๊ยะเข้าไปเต็มๆกลางหลังของไม้ฉากทันที
 
“ม๊าแกโคตรน่ากลัวเลยไอ้ปั้น.. มาแบบนิ่งๆ แต่เป็นนิ่งแบบเผด็จการ”
ผมกับไม้ฉากขยับตัวนั่งหันไปมองหน้าพี่มิ้ว  ซึ่งไม้ฉากก็ไม่รู้ว่าจะมือไวอะไรขนาดนั้น มาดึงตัวผมไปนั่งติดกับมัน
แล้วมือก็โอบเอวผมไว้ ไม่ได้เกรงใจสายตาคนขับรถจากที่บ้านผมเลย - -‘
 
“ทำไมอะพี่มิ้ว เล่าหน่อยดิ”
ไหนๆก็คงดึงมือของไม้ฉากไม่ออกแล้วแน่ๆ ผมเลยปล่อยเลยตามเลยครับ  กอดก็กอดไปเถอะ
(แกดึงออกหรือยัง? ถึงรู้ว่าดึงไม่ได้อะ... ห๊ะ???)
 
“ก็พอแกหลับใช่ไหม.. ม๊าแกก็ออกมาหาพี่ แล้วเค้นถามพี่ทุกๆเรื่อง
ย้ำนะ .. ทุกเรื่องที่พี่รู้ ทั้งเรื่องแก เรื่องไม้ฉาก เรื่องพิม พี่ก็ต้องเล่าอะ
สายตาม๊าแกโคตรกดดันพี่เลยอะ พอพี่เล่าจบม๊าแกก็ขอเบอร์พิมจากพี่ไป
พอได้เบอร์พิมไปแล้ว ม๊าแกก็ออกไปข้างนอกไม่เข้ามาอีกเลย
พี่ก็ไม่รู้จะทำไง เข้าไปปลุกแกๆก็ไม่ตื่น พอมาตอนเช้าม๊าแกก็โผล่มาพร้อมๆกับให้พี่เก็บของเหนือทุกชิ้น
พี่ก็ถามว่าม๊าจะทำอะไรคะ ม๊าแกบอกว่าจะพาเหนือไปส่งหาพิม เค้าโทรคุยกับพิมแล้ว
และก็นี้แหละตอนนี้ก็นั่งรถไปเชียงใหม่กับพวกแก.. ฉัน งง มากอะ ฉันไม่ได้ว่างงานขนาดนี้นะเว้ยแก
แต่ฉันก็ขึ้นรถมากับพวกแกทำไมวะ โอ้ยยย พูดแล้วจะร้องไห้”

เจ๊มิ้วยังคงนั่งบ่นต่อไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายพี่มิ้วก็หลับไป
 
 
ผมกับไม้ฉากยังนั่งเงียบๆ ปล่อยให้ต่างคนต่างได้คิด
แต่มือของเรายังจับกันไว้ไม่ปล่อย ...
 
จนกระทั่งไม้ฉากดึงตัวผมเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะเลื่อนมือขึ้นมาโอบเอวผมแทนการจับมือ
 
“ปั้นว่าม๊าของปั้นกำลังจะทำอะไรหรือเปล่า”
มันเป็นสิ่งที่ผมกำลังคิดจริงๆครับ ผมไม่รู้ว่าม๊ากำลังจะทำอะไร และม๊าพูดมานั้นหมายความว่ายังไงบ้าง
มันเหมือนจะดี .. แต่ผมก็ยังกลัวว่าเรื่องราวต่างๆจะแย่ไปกว่าเดิม
 
“ไม่รู้สิไม้.. แต่ปั้นว่าม๊าคงไม่ทำอะไรหรอก เพราะก่อนขึ้นรถม๊าก็ไม่ได้ด่าว่าอะไรเรานินา”
 
“เห้อออนั้นสิ แต่ไม่ชอบแบบนี้เลยนะจริงๆ มันอึดอัดไงไม่รู้ กลัวม๊าจะพรากปั้นไปจากไม้อีกอะ”

ไม้ฉากพูดจบก็ดึงตัวผมเข้าไปกอด จากที่นั่งเบาะรถอยู่ดีๆ ผมแทบจะเกยไปนั่งตักมันอยู่แล้ว
 
“ก่อนขึ้นรถม๊าก็บอกไม้แล้วไม่ใช่หรอว่าฝากปั้นด้วย อย่างน้อยๆปั้นก็รู้แล้วละว่าม๊าไม่ได้บอกให้ปั้นกับไม้เลิกกัน  แต่ม๊าคิดจะทำอะไรต่อนั้นปั้นไม่รู้”
เจ้าคนตัวสูงใหญ่ ก้มหน้าลงมาซุกไซร้ที่ซอกคอของผม ปากก็บ่นอะไรไปเรื่อย
ฟังออกบ้าง ฟังไม่ออกบ้าง .. สุดท้ายก็ล้มตัวลงนอนตักผม
 
ผมเอื้อมเอามือไปลูบหัวของไม้ฉาก ที่ตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่ที่ตักของผม
คงเหนื่อยสินะ.. ไปอบรมที่ใต้เพิ่งกลับมาถึงก็มาเจอเรื่องชวนให้เครียดอีก
ผมไม่รู้หรอกว่าม๊ากำลังจะทำอะไร    ผมรู้แค่ว่า......
 
“ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกก็ตาม  ยังไง ปั้นก็รักไม้อยู่แล้วละ”
 

 
 
 
 
 
พวกเราเดินทางมาถึงเชียงใหม่กันตอนสี่ทุ่ม
เราแวะพักที่โรงแรมในตัวเมืองก่อน และที่นั่นผมก็ได้เจอคะน้า เลน่อน และน้องพิม
 
“พี่ไม้ พี่ปั้นสวัสดีค่ะ  อ้าว พี่มิ้ว .. สวัสดีค่ะ”
พิมหันไปเห็นพี่มิ้วกำลังอุ้มน้องเหนือลงจากรถ ก็เดินเข้ามาอุ้มน้องเหนือจากพี่มิ้ว
และขอตัวพาน้องเหนือไปนอนในห้องพัก
เลน่อนเดินเข้ามาช่วยไม้ฉากขนกระเป๋า  ส่วนคะน้านั้นไม่พลาดที่จะเดินเข้ามาแซะเพื่อนตัวเล็กและบอบ บางอย่างผม
 
“ไงค่ะคุณชายปั้น..เกลียดมึงจริงๆเลย กลับมาดีกันคราวนี้อย่าทิ้งกันไปง่ายๆอีกละ กูละกลัวความคิดพวกมึงจริงๆเลย  แค่รักกันแค่นั้นก็น่าจะพอละ คิดเยอะกันไปทำไม”
คะน้าบ่นๆไปด้วย แต่ก็ดึงผมเข้าไปกอดรัดแล้วเหวี่ยงตัวผมไปมา
จนผมต้องบอกให้มันหยุด มันถึงเปลี่ยนมาหยิกแก้มผมแทน ...
สงสัยต้องเอาแก้มออกแล้วละ มีแต่คนมาหยิกมาดึงตลอดเลย TT
 
“เข้าห้องไปพักกันเถอะ ห้องของพิมกับน้องเหนือและพี่มิ้วอยู่ 517 นะคะ ส่วนห้องของคุณปั้นกับคุณไม้นั้นอยู่ 516  ฝั่งตรงข้ามกันเลย เชิญค่ะ”
คะน้าพาพี่มิ้วไปส่งที่ห้อง  ก่อนจะแวะมาทักทายผมกับไม้ฉากที่ห้องพัก
 
“มีอะไรก็โทรหาพวกกูได้ตลอดนะ”
พอพูดจบก็ชวนเลน่อนกลับ ก่อนจะบอกว่าพรุ่งนี้จะมารับไปส่งที่แม่ริมตอนสายๆ
หลังจากพวกเพื่อนๆกลับไปแล้ว ไม้ฉากก็เริ่มต้นรื้อกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อเตรียมชุดนอน
 
“ไปอาบน้ำก่อนเลยก็ได้ เดี๋ยวไม้เตรียมของให้”
ถ้าไม้ฉากสั่งมาขนาดนี้ คิดว่าขัดได้ไหมละครับ?
ถึงจะเดินเข้าไปช่วยรื้อกระเป๋าเอง เดี๋ยวก็โดนขู่เหมือนตอนไปกระบี่แน่ๆ  ฉะนั้น.. ผมควรไปอาบน้ำครับ 5555+
 
พอพวกเราอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จแล้ว กำลังจะเข้านอน .. อยู่ๆก็มีคนมาเคาะประตูหน้าห้อง
ไม้ฉากเลยเดินไปดู ก็เห็นว่าเป็นพิมที่มาเคาะประตูห้อง
 
“มีอะไรหรือป่าวพิม”   ไม้ฉากเปิดประตูให้พิมเดินเข้ามาในห้อง
ซึ่งผมเองก็ลุกขึ้นมาเปิดไฟ แล้วขยับให้พิมมานั่งด้วยกันบนเตียง แต่พิมเลือกจะนั่งเก้าอี้ข้างๆทีวีแทน
 
“คือพิมจะมาขอบคุณพี่ปั้นกับม๊าของพี่ปั้นนะคะ”
 
“ม๊าของพี่หรอ? มีอะไรอะ”

ไม้ฉากกับผมมองหน้ากันแบบ งงๆ แต่ก็ไม่เกินจากที่คิดไว้เท่าไหร่
ม๊าผมต้องทำอะไรอยู่แล้วละไม่งั้นไม่ให้ผมมาที่เชียงใหม่ด้วยแน่ๆ
 
“ม๊าของพี่ปั้นให้คนซื้อของใช้ของน้องเหนือมาให้ที่บ้านพัก แล้วก็หาคนเลี้ยงเด็กมาให้
เป็นคนจากศูนย์เลี้ยงเด็ก เค้าจะมาดูแลเหนือให้ตั้งแต่เช้าแล้วเย็นก็กลับ ใส่ชุดพยาบาลด้วยละ”

พอพูดถึงตรงนี้.. พิมก็เริ่มร้องไห้ออกมา จนผมอดไม่ได้ที่จะต้องเดินเข้าไปดึงพิมมากอดไว้
 
“ม๊าพี่ปั้นดีกับพิมและลูกมาก ทั้งๆที่พิมเป็นคนพรากความสุขของพี่ปั้นมาแท้ๆ
ขอบคุณนะพี่ปั้น ... พิมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าชาตินี้พิมจะชดใช้ให้พี่ปั้นได้ยังไง
ยิ่งพี่กับครอบครัวพี่ดีกับพิมกับลูกมากเท่าไหร่ พิมก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนที่แย่มาก...
ฮึกกก ฮือออ  พิมมันแย่จริงๆ”

ผมไม่รู้จะหาคำใดๆมาปลอบน้องพิม เพราะยิ่งผมพูดมันก็คงจะยิ่งทำให้พิมร้องไห้
ผมเลยเลือกที่จะกอดพิมไว้ และตบหลังเบาๆเพื่อปลอบโยนพิม
 
ไม้ฉากส่งยิ้มมาให้ผม.. แต่รอยยิ้มของไม้ฉากก็คงมีเรื่องที่ต้องให้คิดมากเหมือนกัน
ไม้ฉากไม่อยากพึ่งพาใคร และไม่อยากให้ใครมาเดือดร้อนด้วย
การที่ม๊าผมยื่นมือเข้ามาช่วยแบบนี้ มันยิ่งทำให้ไม้ฉากคิดมากแน่นอน.
 
 
กว่าจะปลอบน้องพิมให้หยุดร้องไห้ เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบๆตี 2
 
“ไปนอนได้แล้วพิม พรุ่งนี้ต้องกลับบ้านกันแต่เช้า แล้วคนที่จะมาเลี้ยงลูกให้จะมาวันไหนละ”
ไม้ฉากยื่นผ้าขนหนูให้น้องพิมเช็ดหน้า ก่อนจะดึงตัวผมออกมาให้ห่างจากน้องพิม
 
“มาพรุ่งนี้ค่ะ แต่พิมบอกให้เค้ามาสายๆหน่อย”
 
“งั้นไปนอนนะ แล้วพรุ่งนี้เช้าเจอกัน ไม่ต้องคิดอะไรมาก เชื่อในสิ่งที่พี่กับปั้นทำก็พอ”

พอพูดจบไม้ฉากก็หันมามองหน้าผม
“เพราะไม่ว่าม๊าของปั้นจะทำอะไรลงไป พี่ก็ยังเชื่อว่าม๊าของปั้นคิดมาดีแล้ว และเค้าคงไม่ทำให้ปั้นต้องร้องไห้เสียใจเหมือนที่พ่อแม่ของเราทำแน่นอน .. ปั้นว่าจริงไหม?”
ผมได้แต่ส่งยิ้มไปแทนคำตอบ เพราะผมก็เชื่อว่าม๊าจะไม่ทำให้ผมเสียใจแน่นอน
 
กลายเป็นว่าคืนแรกที่เราได้นอนด้วยกัน.. เราทั้งคู่กลับจมอยู่ในความคิดของตัวเอง.
 
 
 

ออฟไลน์ moujay

  • ◕‿◕mynameis
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 621
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Mynameis/1394215804239996
>>> ต่อ.




ตื่นเช้ามาเลยเพลียๆเพราะนอนไม่ค่อยหลับ.. แต่ก็ทำให้คะน้ามันแซวว่าไม่ได้นอนเพราะทำอย่างอื่น
พี่ไม้ฉากสุดหล่อก็ดันไปรับมุขคะน้า .. กลายเป็นว่าผมโดนแซวทั้งวัน
หึ.. แค่หอม หรือกู๊ดไนท์คิสพี่ไม้แกยังไม่ทำเลยย่ะ!!!!
 
 
เรามาถึงบ้านพักตำรวจแม่ริมกันตอนสิบโมง คุณพยาบาลจากศูนย์มารออยู่ที่หน้าบ้านแล้ว
พิมเลยอุ้มน้องเหนือเดินเข้าไปหา  สักพักพี่มิ้ว คะน้า เดินเข้าไปสบทบกับน้องพิม
ไม้ฉาก เลน่อนขนที่นอน ของเล่น และเสื้อผ้าน้องเหนือเข้าไปเก็บในบ้าน
ส่วนผมยังอยู่ที่รถตู้กับคุณลุงคนขับรถจากที่บ้านของผมเอง
 
“ม๊ากำลังทำอะไร .. ลุงรู้ไหม?”
ผมอดที่จะถามคุณลุงไม่ได้ เพราะคุณลุงทำงานกับที่บ้านผมมานาน นานจนเกือบจะเท่าอายุของผมเลยก็ว่าได้
 
“ลุงไม่รู้เหมือนกันครับ คุณนายสั่งแค่ให้ตามรับใช้ดูแลคุณปั้นจนกว่าจะกลับกรุงเทพ”
 
“แล้วลุงไปนอนที่ไหนมา เมื่อคืนปั้นนึกว่าลุงกลับไปแล้วซะอีก”
 
“ลุงไปนอนบ้านญาติมานะครับ คุณปั้นไม่ต้องกังวลอะไรหรอกครับ คุณนายท่านทำไปทุกอย่างเพราะรักและหวังดีกับคุณปั้นทั้งนั้นแหละ”
 
“ปั้นก็หวังแบบนั้นเหมือนกัน”

 


วันนั้นเราก็เลยวุ่นวายกับการจัดห้องนอนให้น้องพิมกับน้องเหนือใหม่
เพราะแปลนบ้านพักของตำรวจ มันมีแค่ห้องนอนเดียวและมีห้องโถงใหญ่
ส่วนหลังบ้านจะเป็นห้องน้ำและระเบียงที่ทำเป็นห้องครัว
 
“กั้นห้องนอนให้ไม้ด้วยดีไหมวะ” หลังจากจัดห้องให้พิมเสร็จแล้ว เลน่อนก็พูดออกมา
เพราะมันรู้ว่าไม้ฉากนอนโซฟามาตลอด
 
“กั้นแล้วจะนั่งดูทีวีตรงไหน?” คะน้ามองไปรอบๆก่อนจะถามขึ้นมา
 
“ก็แค่ซื้อฟูกนอนใหม่ แล้วเอาตู้เสื้อผ้ามากั้นปิดเป็นที่นอนให้มันก็ได้ จะให้มันนอนโซฟาตลอดหรือไง
ปวดหลังแย่”

เลน่อนพูดจบก็หยิบมือถือมาเปิดดูรูปที่นอน ก่อนจะวาดออกแบบทำห้องให้ไม้ฉาก
คะน้าก็นึกสนุกไปด้วย เดินไปวัดมุมตรงนั้นทีตรงนี้ที จนพวกผมที่นั่งอยู่ถึงกับหัวเราะออกมา
เพราะช่างออกแบบเริ่มตีกันเอง
 
“นั้นเค้าจะทำที่นอนให้ตัวเอง หรือจะทำให้ไม้ฉากกันแน่” พี่มิ้วก็ยังอดที่จะแซวออกมาไม่ได้
เพราะไม้ฉากยังคงนั่งดูข่าวไปอย่างเงียบๆ มีแต่คะน้าเลน่อนที่จ้องจะจัดการนั้นนี้ให้ตั้งแต่มาถึง
 
“ไม้คิดว่าไงละ” ผมเอื้อมมือไปตีแขนไม้ฉาก ที่มันเริ่มจะซุกซนดึงตัวผมเข้าไปนั่งชิดกับอกของมันอีกแล้ว
 
“ไม่ต้องคิดหรอกนะ เชื่อดิว่าคะน้าคงได้คำสั่งจากม๊าของปั้นนั้นแหละ
นั่งเฉยๆไปเถอะ เดี๋ยวก็มีห้องนอนสบายๆนอน”

ไม้ฉากตอบมาแบบไม่คิดอะไรมาก แต่ผมนี้สิคิดไปเยอะแล้ว ว่าม๊าลงทุนทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?
 
“ขอโทรหาม๊าหน่อยได้ไหม” ผมพูดจบก็ขยับตัวออกจากไม้ฉากไปหยิบมือถือมาโทร
แต่โทรติดต่อม๊าไม่ได้เลย เดี๋ยวค่อยโทรใหม่ก็ได้ละมั้ง
 
น้องพิม น้องเหนือและคุณพยาบาลยังนั่งอยู่ในห้องนอน ซึ่งคงกำลังให้น้องเหนือกับคุณพยาบาลทำความคุ้นเคยกันอยู่
พี่มิ้ว คงเริ่มเบื่อที่จะนั่งเฉยๆ เลยหันมาชวนผมกับไม้ฉากออกไปเที่ยวแม่ริมกัน
ไม้ฉากปิดทีวีและหันไปชวนคะน้ากับเลน่อน แต่ 2 คนนั้นปฏิเสธเพราะกำลังสนุกกับการเลือกดูของในมือถือ
 
“ไปเลยๆ เดี๋ยวค่อยกลับมาเย็นๆ กูกับน่อนจะออกไปสั่งที่นอน” คะน้าโบกมือไล่พวกผม
ซึ่งก็ไม่อยากเข้าไปถามหรอกนะว่าเอาเงินมาจากไหน
เพราะตอนนี้เริมรู้แล้วละว่าไอ้คำที่ม๊าบอกก่อนขึ้นรถตู้มาเชียงใหม่ มันหมายถึงอะไร
 
 
เราออกจากบ้านพักของไม้ฉากมาตอนบ่าย 3 เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว จะไปเที่ยวที่ไหนก็ไม่ทันแน่ๆ
พี่มิ้วเลยให้คุณลุงขับรถพาเข้าไปในเมืองแทน และแวะซื้อของกินกลับมาทานด้วยกันที่บ้านพักของไม้ฉาก
 
ขณะที่กำลังเลือกซื้อของกินกันที่กาดหลวง น้องพิมก็โทรมาหาไม้ฉาก
สีหน้าของไม้ฉากมีความเครียดเกิดขึ้นอีกแล้ว.. สายจากน้องพิมครั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
พี่มิ้วก็คงรับรู้ได้ถึงน้ำเสียงของไม้ฉากในตอนที่คุยโทรศัพท์ เลยชวนผมให้รีบซื้อของจะได้รีบกลับบ้านพักกัน
 
ตลอดเวลาที่นั่งรถมาบ้านพัก ไม้ฉากไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย ผมก็ไม่อยากไปเซ้าซี้อะไรมากด้วย
เลยทำได้แค่นั่งจับมือไม้ฉากไว้ จนถึงบ้านพักของไม้ฉากที่แม่ริมนั้นแหละ
 
“พี่ไม้”
ทันทีที่รถตู้จอดลงที่หน้าบ้านพัก น้องพิมก็เดินเข้าหาไม้ฉาก ก่อนจะโผเข้ากอดไม้ฉากทันที
เจ็บเนอะ... อืมม นั้นแหละมันก็เจ็บจี๊ดๆนิดหน่อยที่เห็นไม้ฉากกับพิมกอดกัน
 
 
“เข้าบ้านแล้วค่อยพูด” ไม้ฉากหันมาสบตาผมเล็กน้อย ก่อนจะพาพิมกลับเข้าไปในบ้าน
ผมกับพี่มิ้วก็ทำได้แค่หิ้วของเดินตามเข้าไปในบ้าน
ตอนนี้คะน้ากับเลน่อนไม่อยู่แล้ว ส่วนน้องเหนือคาดว่าจะอยู่ในห้องนอนกับคุณพยาบาล
 
“เอาละ.. พูดมาสิว่าพ่อโทรมาว่าไงบ้าง”
ไม้ฉากยื่นกระดาษทิชชู่ให้พิม ก่อนจะยืนพิงขอบประตูแล้วเอามือกอดอกไว้รอฟังพิมพูด
 
“พ่อโทรบอกว่า กล้าเดินออกจากบ้านแล้วก็อย่ามาใช้เงินของที่บ้านอีก พ่อเค้าจับได้ว่าแม่ยังส่งเงินให้พิมใช้ตลอด   ฮึกก ฮืออ.. พิมขอโทษที่ไม่เชื่อพี่ไม้ แต่บางทีพิมต้องใช้เงินซื้อหนังสือ ซื้อของใช้ในการเรียน ของๆเหนืออีก   พิมไม่กล้าขอพี่ไม้ ... พิมก็เลย ฮึกกก ... โทรไปขอแม่”
ไม้ฉากได้ยินแบบนั้นถึงกับเอามือกุมขมับ และคิดว่ามันคงโกรธจนพูดอะไรไม่ออกแน่ๆ
เพราะมันย้ำกับพิมมาตลอดว่าอย่าขอเงินแม่ใช้
 
“พูดต่อ” เสียงไม้ฉากเริ่มดุขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พิมถึงกับสะดุ้งและร้องไห้หนักกว่าเดิม
ผมจะเดินเข้าไปปลอบพิม แต่ก็ต้องชะงักกับสายตาของไม้ฉากที่มองมา เลยทำให้ผมทำได้แค่ส่งกำลังใจให้พิมห่างๆ
พี่มิ้วเดินแยกเข้าไปนั่งในห้องนอนกับน้องเหนือแล้ว  พี่มิ้วบอกว่าไม่ชอบไม้ฉากสายดาร์ค มันน่ากลัวเกินไป
 
“พ่อรู้ก็เลยตีแม่... ตอนนี้แม่อยู่โรงพยาบาลแต่พิมโทรหาแม่แล้ว แม่บอกไม่เป็นอะไรมากอีก 2 – 3 วันก็กลับบ้านได้แล้วค่ะ  พ่อย้ำอีกรอบว่าอย่าติดต่อไปที่บ้านโน้นอีก ถ้าจะไปคือเราต้องเข้าไปขอโทษพ่อแม่กันทั้งคู่ ... แล้ว เอ่ออ .. เรื่องที่ ที่ ..”
พิมหันมามองหน้าผมแล้วก็หยุดพูดไป..  พอผมจะอ้าปากถาม ไม้ฉากดันสั่งให้พิมพูดต่อ
 
“พูดให้จบ”
 
“เรื่องที่เราจะหย่ากันตอนครบ 2 ปีให้ถือว่าพ่อไม่เคยพูด”
 
“สรุปจะไม่มีการหย่าใช่ไหม? พ่อหมายถึงแบบนั้นใช่ไหม”
ไม้ฉากถามพิมกลับไป
ซึ่งพิมก็นั่งตัวสั่นเพราะความกลัวไม้ฉาก ... เป็นใครก็กลัวครับ ขนาดผมรู้จักมันมาสิบกว่าปียังกลัวเลย
 
“เอาละนะ จะพูดครั้งนี้ครั้งเดียวเลย ทั้งพิมแล้วก็ปั้นด้วย ... หลังจากวันนี้ไปไม้ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ไม่ว่าจะเงินจากแม่ของพิม หรือจากม๊าของปั้น .. ที่ม๊าของปั้นให้มาตอนนี้ ไม้ก็ขอบคุณมากๆ แต่จากนี้ไป ถ้ายังรักกัน และยังคิดว่าเราจะอดทนไปด้วยกันได้ ให้เชื่อไม้ เชื่อมั่นในตัวไม้ ว่าไม้จะดูแลและพาทุกคนไปให้ถึงวันนั้น ไม้รู้ว่าเงินเดือนไม้มันน้อยไม่พอทำให้ใครสุขสบายได้ แต่อดทนด้วยกันหน่อย อีกแค่ปีเดียว ไม่นานหรอกนะ.. พวกเราจะมีทางเดินเป็นของตัวเองแล้ว ให้ไม้ได้พิสูจน์ให้พ่อแม่หรือใครๆเห็นว่าไม้ดูแลปั้นได้ ไม้ดูแลน้องสาวแบบพิมได้.... เชื่อใจกันหน่อย”
ไม้ฉากพูดจบก็เดินออกนอกบ้านไป ซึ่งสวนทางกับคะน้าและเลน่อนที่กำลังเดินนำคนงานขนของเข้ามาในบ้าน
 
“ไม้ฉากเป็นไรวะ เหมือนร้องไห้”
คะน้าเดินเข้าถามผม ก่อนจะรีบหุบปากลงทันทีเพราะเห็นว่าน้องพิมก็ร้องไห้และผมเองก็ร้องไห้เช่นกัน’
 
 
นั้นสินะ.. เราต้องเชื่อในตัวไม้ฉาก.
ผมเองเชื่อเสมอว่าไม้ฉากต้องพาพวกเราไปถึงในวันนั้นได้
และผมเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งไม่ได้ต้องการเงินทองหรือการดูแลมากมายจากไม้ฉาก
ส่วนพิมเองผมก็เข้าใจ ไหนจะลูก ไหนจะค่าใช้จ่ายในการเรียน ยังไงๆพิมก็ต้องเกรงใจไม้ฉากอยู่แล้วละ
ยิ่งพิมต้องเห็นไม้ฉากรับเข้าเวรเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในบ้าน พิมก็คงรู้ว่าไม้ต้องอดทนมากแค่ไหน.....
อีกแค่ 1 ปีนิดๆพวกเราจะผ่านฝันร้ายในครั้งนี้แล้ว.... ขออย่ามีอะไรมาทำให้พวกเราเจ็บช้ำกันไปมากกว่านี้เลย.


---------------------------------------------------------
พาทของเรื่องเล่ามี 15 ตอนนะคะ : )
ในพาทนี้มีความอึดอัดใจของไม้ฉากก่อตัวขึ้นเล็กน้อย
เหมือนคนที่กำลังพิสูจน์ตัวเองว่าสามารถดูแลน้องสาวและคนรักได้
แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าน้องสาวก็ไปขอเงินที่บ้าน และแม่ของคนรักก็ยังยื่นมือมาช่วยอีก
สิ่งที่ตัวเองลงทุนลงแรงทำไป..เลยเหมือนสูญเปล่า
ทั้งๆที่อยากให้คนรักและน้องสาวมั่นใจในตัวเองว่าตัวเองสามารถพาคนทั้งคู่ก้าวผ่านปัญหาไปได้นั้น
เลยทำให้แอบผิดหวังเล็กๆ ,,

ยังไงก็ส่งกำลังใจให้ไม้ฉากปั้นสิบด้วยนะคะ : )
ใครเล่นทวิตเตอร์อย่าลืมติด #ไม้ฉากปั้นสิบ และ #closefriends กันด้วยน๊าาา
แล้วเดี๋ยวเจอกันตอนหน้าจ๊า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด