บทที่ 39 มาแล้วครับ รอยร้าวเกิดขึ้นแล้ว และบางจุดก็เริ่มแตกแล้วด้วยครับ บอกได้แค่ บิ๊กงานเข้า และจะเข้าต่อไปไม่หยุดในบทถัดไปจากนี้ครับ
มาดูกันต่อเลยครับ^^
***********
Chapter 39ผมแทบไม่อยากทำการบ้าน ไม่อยากทำไรเลย กลับมาจากเลี้ยงฉลองแทนกับไบรท์แล้ว อาบน้ำเสร็จ ผมพุ่งไปที่เตียงทันที จนแทนเองก็ต้องเดินมาดูว่าผมไม่สบายหรือเปล่า ตอนนี้ผมนอนกอดหมอน หน้าคว่ำ รักหมอนมากเป็นพิเศษสุดๆ
“กินเยอะไปเปล่าเนี่ย” แทนพยายามเขย่าให้ผมพลิกตัวมา
“เปล่าๆๆ มันง่วงอะ ดีนะ ไม่มีการบ้านต้องทำ” ผมพลิกตัวกลับมา แล้วขยับไปนอนตักของแทน
“จริงนะ เดี๋ยวเราลุกไปเช็ค ถ้ามีนะ จะลากมาทำเลย” ผมยักคิ้วแถมให้ ก่อนที่แทนจะลุกไปตรวจกระเป๋าผม
“ไม่มีจริงด้วย” เสียงแทนตะโกนมา ก่อนที่ตัวจะเดินกลับมาห้องนอนหลังจากตรวจกระเป๋าผมเสร็จ
“เห็นไหมๆๆ งั้นนอนเถอะ” ผมดึงแทนมากอดลงเตียง คร่อม แล้วจักจี้ซะเลย แต่...โทรศัพท์ดัง เวลานี้หนึ่งในสี่ตัวผมมันมีเรื่องหรือไง ผมผละจากแทนเดินไปหา iPhone ผมที่โต๊ะทำงานนอกห้องนอน เบอร์ใครวะ...
“ฮัลโหล สวัสดีครับ” ผมทักทายตามมารยาทที่ดีก่อน
“บิ๊กใช่มะคะ” เสียงคุ้นมาก เหมือนคุยมาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา...หรือว่า...
“เออ นั่นใครครับ” จริงๆ ผมรู้แล้วแหละว่าน่าจะเป็นแก้ว แต่...ผมขอแกล้งทำเป็นไม่รู้ละกัน
“แก้วไงคะ” ผมเตรียมคำถามต่อไปไว้แล้ว
“แล้ว ได้เบอร์มาตอนไหนละครับ” ผมไม่อยากคิดเลยว่า เมื่อเย็นนี้ แก้วทำอะไรกับมือถือผม
“ก็ จะโทรมาขอบคุณที่ให้ยืมมือถืออะ ก็ โทรหาตั้มเสร็จ เลยบันทึกเบอร์ไว้ เห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทตั้ม จะได้ไว้ถามพฤติกรรมตั้มได้ไง” น้ำเสียงสดใสกับเหตุผลของแก้ว ทำให้ผมตอบอะไรต่อไม่ถูก
“ก็ เล็กน้อยนะ เดี๋ยวเราไปนอนก่อนละกันนะ บายครับ” ผมรีบวาง แล้วกลับไปทิ้งตัวข้างๆ แทน
“เป็นไรเปล่าครับ” แทนคงมองออกว่าสีหน้าผมแอบไม่ปกติ ผมยิ้มให้ แล้วซุกที่ตักแทนเหมือนเดิม
“ไม่เป็นไรครับ เราง่วงแล้ว นอนเถอะ นะๆ” ผมขยับตัวไปที่หมอน แล้ววางมือถือไว้ข้างๆ หัวเตียง ก่อนที่แทนจะดับไฟลง แล้วผมก็ให้อกเป็นหมอนหนุนของแทนอย่างที่ทุกคืนนอนด้วยกัน
ผมควรรีบตัดไฟแต่ต้นลมกับเรื่องนี้ซินะ...
………………..
เช้าก่อนเข้าห้อง ผมรีบไปส่งแทนเช้าหน่อย เพราะผมอยากไปพูดกับตั้มเรื่องแก้ว แต่ผมก็มาเช้าไป เพราะตอนนี้ตั้มยังมาไม่ถึงเลย นั่นยิ่งทำให้ผมยิ่งกังวลมากขึ้น
“ไอ้บิ๊ก เป็นไรชองมึงวะ” โจเอาขวดน้ำเคาะหัวผม
“กูมีเรื่องต้องคุยกับไอ้ตั้มมัน” โจหยิบมือถือมาดู ก่อนจะส่งข้อความไปในกลุ่ม
“ตั้มมันบอกกำลังเดินมาห้อง มึงนี่ใจร้อนวะ” โจเดินไปหาเพื่อนอีกกลุ่มที่มุมห้อง ในขณะที่ผมไปรอที่หน้าห้อง สักครู่ ตั้มก็มาถึง
“มึงหากูเหรอ” ตั้มกำลังเก็บของที่โต๊ะ
“ออกไปคุยกับกูนอกห้องหน่อย” ตั้มพยักหน้าสักครู่ ส่วนผมออกไปรอหน้าห้องแล้ว
“มีเรื่องไรวะบิ๊ก” ตั้มเดินมากอดไหล่ผมขณะที่ยืนมองวิวจากระเบียงหน้าห้อง
“เมื่อวานแก้วโทรหามึงด้วยมือถือกูเปล่า” ตั้มถึงกับงงไปสักครู่
“มึงเจอแก้ว” ผมพยักหน้าให้กับคำถามตั้ม
“เค้าบอกว่ามือถือแบตหมด เลยยืมมือถือกูโทรหามึง” ตั้มมองผมด้วยสีหน้าที่ผมก็รู้สึกไม่ชอบนัก
“ไม่ได้โทร แต่มึงเจอแก้วได้ไง” น้ำเสียงตั้มเร่งคำถามเดิมให้ผมตอบ
“เมื่อวานกูเลือกของให้แฟนอยู่ที่พารากอน แล้วแก้วเดินมาทัก แล้วขอยืมมือถือกูโทรหามึง” สายตาของตั้มทำให้ผมอึดอัดขึ้นมา ก่อนจะนิ่งไปสักครู่
“เมื่อวานกูนัดกับแก้วไว้เรียบร้อยทั้งสถานที่และเวลา และไม่ได้เจอที่พารากอนด้วย” ตั้มเริ่มไม่มองหน้าผม
“กูบอกอะไรอย่างนะบิ๊ก กูจริงจังกับแก้วมาก” กูรู้ละ ทำไมมึงมองกูแบบนี้
“มึงไม่ไว้ใจกู?” ผมถามกลับตรงๆ ตั้มหันกลับมาพยักหน้าด้วยสีหน้าตึงเครียด
“กูไว้ใจมึง เพราะมึงเป็นเพื่อนกู” แล้วทำไมกูเล่าเรื่องนี้ มึงต้องทำหน้าเครียดใส่กูละ
“ถ้าไว้ใจกู ทำไมต้องมึงต้องเครียดใส่กูแบบนี้ละ” เหมือนตั้มกำลังจะระเบิดใส่ผม
“กูเกลียดสายตามึงที่มองแก้วตอนกูแนะนำให้มึงรู้จัก แล้วพอกูฟังเรื่องนี้ กูยิ่งรู้สึกมึงเจตนาไม่ดีกับแฟนกู” ผมเอามือวางบ่าไว้
“ก็เพราะกูเห็นมึงเป็นเพื่อน กูเลยมาถามมึง และบริสุทธิ์ใจพอที่จะบอกว่า กูไม่คิดอะไรกับแฟนมึงแน่นอน” ตั้มถอนหายใจสักครู่ ผมปล่อยมือลง
“แก้วเป็นผู้หญิงสวย มีเสน่ห์มาก มึงดูแลดีๆ ละกัน กูมีของกูแล้ว และกูรักมากด้วย” ผมทิ้งท้ายไว้ก่อนจะกลับเข้าห้องเพื่อรอสัญญาณกริ่งเรียกรวมเคารพธงชาติ
เรื่องนี้ท่าจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ซะแล้ว ผมต้องรีบทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่ทุกอย่างจะไปกันใหญ่
………………..
การซ้อมบาสฯ สำหรับรอบชิงชนะเลิศ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนหน้า เป็นไปอย่างเข้มข้น โค้ชกับพี่เจมส์ ติวเข้มจุดอ่อนเราทุกจุด ไม่ว่าจะการเคลื่อนที่ การส่งบอล และความแข็งแรงของร่างกาย และผลการแข่งอีกคู่ออกมาแล้ว โรงเรียนที่เป็นเต็งสอง คือคู่ชิงชนะเลิศกับเรา
“จะเป็นแชมป์นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ” ไบรท์ถึงกับบ่นหลังจากเอาน้ำราดตัวเมื่อซ้อมเสร็จแล้ว
“ใช่ซิ ได้ข่าวว่าเป็นแชมป์ไม่ง่ายนะ เพราะแฟนแชมป์แถวนี้ พยายามเหลือเกิน” ไบรท์เอาขวดน้ำเคาะหัวผม
“มุขหรือนี่ แหม่ๆๆ หมายถึงที่หนึ่งเว้ย” รู้แล้ว ก็เล่นบ้าง อะไรบ้างไง แล้วจู่ๆ ไบรท์ก็วิ่งไปเลย ผมมองไปทางที่ไบรท์วิ่งไป นั่นไง พูดถึงแชมป์ ก็มาจริงๆ
“แทนสวัสดี” ผมรับทักของแชมป์ที่ตะโกนมาทักผม
“วันนี้มารับแฟนเหรอคร๊าบ” แชมป์พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม และยื่นเกลือแร่ให้ไบรท์
“ดื่มดิ เหงื่อท่วมขนาดนี้” ไบรท์รับไปดื่มด้วยความดีใจ
“โอ้ยๆๆ สำลักความรักแถวนี้ ไปดีกว่า” ผมได้ทีขอเอาคืนไบรท์บ้าง
“เดี๋ยวไอ้บ้าพลังมารับแล้วแหละ เห็นวันนี้คุยกับอาจารย์ห้องดนตรีอยู่” ผมพยักหน้าโอเค
แชมป์กับไบรท์กลับกันไปละ ผมเช็ดเหงื่อ เปลี่ยนเสื้อ แล้วลงไปรอบิ๊กที่ข้างสนามบอลเหมือนเดิม รออยู่จนฟ้าเริ่มมืด บิ๊กก็ขับน้องถ่านมาจอดเรียบร้อย
“ขอโทษด้วยๆ วันนี้คุยกับอาจารย์นานไปหน่อย” บิ๊กเปิดกระจกหมวกทักทาย
“หิวแล้วๆ พาไปหม่ำเลยๆ” ผมใส่หมวกกันน็อคแล้วซ้อนท้าย
วันนี้ผมกับแทน ต่างมีการบ้านต้องไปทำกันยาวคืนนี้ KFC เลยกลายเป็นมื้อช่วยชีวิต ของวันนี้ ผมหิวมาก จนแทนหัวเราะที่ผมกินจนเลอะทั้งมือทั้งรอบปาก
“วันนี้ไปทำไรมา หิวขนาดนี้อะ” บิ๊กหยุดด้วยการดูดนิ้วสักครู่
“เช้าทะเลาะกับไอ้ตั้ม บ่ายสอบเก็บคะแนน เย็นคุยเรื่องงานจัดวงดนตรีของงานโรงเรียนอีก” หนักอยู่
“แล้วทะเลากับเพื่อนทำไมอะ” คำถามนี้ทำเอาบิ๊กถอนหายใจ
“เข้าใจอะไรกันผิดนิดหน่อยแหละ แต่เราไม่ได้ทำ เราก็ไม่อยากอธิบายมากว่าทำไม ยังไง ให้เวลามันตอบเองดีกว่า” บิ๊กหยิบเบอร์เกอร์มาเริ่มทานต่อ หลังจากทานไก่ไปสามชิ้นแล้ว
“ถ้าเราทำอะไรชัดเจน บริสุทธิ์ใจ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นแหละ อย่าคิดมากนะครับ” บิ๊กยิ้มกว้างขึ้น ก่อนจะทานต่อไป แล้วมือถือบิ๊กก็ดังขึ้น บิ๊กวางเบอร์เกอร์ แล้วดูดนิ้วสักนิด ก่อนจะหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋านักเรียน แล้วมองมาที่ผม
“แป็ปนะ เดี๋ยวมานะครับ” บิ๊กเดินไปที่อ่างล่างมือของร้าน แล้วใช้ไหล่หนีบมือถือ ก่อนจะล้างมือ แล้วเดินออกไปคุยนอกร้าน
ปกติ บิ๊กจะคุยมือถือต่อหน้าผมตลอด สายนี้คงจำเป็นจริงๆมั่ง...
………………..
โทรศัพท์เบอร์ที่โทรมาหาเนี่ย ผมคุยตรงหน้าแทนไม่ได้จริงๆ แก้วโทรหาผมอีกแล้ว...
“สวัสดีครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมอยากตัดบทวาง แต่เกิดมีเรื่องอะไรต้องช่วยจริงๆ เดี๋ยวจะไม่ดีซะเปล่า
“แก้วรอตั้มมาหาอะคะ แต่ป่านนี้ตั้มยังไม่มาเลย และตอนนี้แก้วหา Taxi กลับบ้านไม่ได้เลยคะ” ไอ้ตั้ม ทำไมมึงแมร่งไม่ไปส่งแฟนมึงวะ
“เออ ผมก็ไม่สะดวกอะครับ เดี๋ยวผมโทรหาตั้มให้นะครับ” ผมหางทางออกให้กับเธออยู่
“โทรแล้วคะ แต่ตั้มไม่รับสายเลย” เดี๋ยวโทรให้นะครับ
“งั้น ถือสายรอครู่ โทรหาให้นะครับ” ผมกดสลับหน้าจอไปสมุดโทรศัพท์ แล้วโทรหาไอ้ตั้ม
“ฮัลโหล ไอ้ตั้ม มึงไปหาแฟนมึงเปล่า” ตั้มรับสายละ
“กูไปหามาแล้ว กลับบ้านแล้ว มีอะไรวะ ช่วงนี้ยุ่งเรื่องแฟนกูจัง” เอาละ ไอ้นิสัยพาลของมึงเนี่ย
“แฟนมึงโทรหากู บอกว่ามึงยังไม่ไปหาเค้า เนี่ย โทรมาหากูเนี่ย จะรวมสายให้นะ” พอผมดึงมือถือออกมาเพื่อต่อสายรวมกัน แก้ววางสายไปแล้ว
“แก้ววางสายแล้ววะ มึงโทรหาแฟนมึงหน่อย กู...” ผมยังไม่ทันพูดจบ
“แก้วมีเบอร์มึงได้ไง...” ไอ้ตั้มใช้เสียงเริ่มตวาดใส่ผม
“กูไม่รู้ แต่กูไม่ได้ให้” ผมพยายามสะกดอารมณ์
“แปลกนะ...ทำไมกูไม่รู้สึกเชื่อมึงเลยวะ เดี๋ยวกูโทรหาแก้วเอง กูขอย้ำมึงนะบิ๊ก...อย่า...ยุ่ง...กับ...ของ...กู” ตั้มวางสายไป ผมหัวเสียแทบอยากปา iPhone ผมลงพื้นสุดๆ
ผมเดินกลับเข้าไปนั่งกินเบอร์เกอร์ที่เหลืออยู่ โดยมีแทนนั่งมองผมอยู่ ผมไม่รู้ว่านานแค่ไหน ที่ผมเคี้ยวเบอร์เกอร์นี้ไปเรื่อยๆ จนเศษผัก ขนมปัง ร่วงทีละเล็ก ทีละน้อย จนเลอะทั้งจานไปหมด
“เป็นไรเปล่า บิ๊ก” แฟนผมทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นตั้งแต่ผมเดินกลับมานั่งทานต่อ
“งานเข้า นิดหน่อย เลยอารมณ์ไม่ดี” ผมตอบโดยไม่ได้มองหน้าของแทน
“มองเราหน่อยซิ หน้าบูดไม่หล่อเลยนะ” เสียงอ้อนๆ ของแทน ทำให้ผมหลุดยิ้มออกมาได้
“ไม่ว่าใครจะไม่เข้าใจ ไม่รักบิ๊ก แต่เรารักนะครับ” ได้ยินแบบนี้แล้ว ใจผมแทบจะพองโตเลยทีเดียวแหละ ผมวางเบอร์เกอร์ที่เหลือลงจาน แล้วจับมือแทนไว้
“เรากำลังรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังมีเรื่องที่แก้ไม่ตก” แทนลูบศีรษะเกลี้ยงๆ ที่พึ่งโกนเหลือเบอร์หนึ่งไปหมาดๆ
“ถ้าเราไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็นอย่างนั้น ไม่ช้าก็เร็ว ความจริงจะพิสูจน์ให้เราเองนะครับ...กินให้หมดนะครับ เดี๋ยวแฟนผอมไป” ผมยิ้มกัดริมฝีปาก ก่อนจะรีบกินเบอร์เกอร์ที่เหลือให้หมด
“เอาไอติมไหมครับ เดี๋ยวไปซื้อให้” ผมพยักหน้า ก่อนที่แทนจะลุกไปซื้อไอติมให้
ผมทานเบอร์เกอร์ที่เหลือหมดละ แล้วตั้มก็ LINE มาหาผม ข้อความที่มันส่งมา อ่านแล้ว ทำให้ผมแทบไม่อยากคุยอะไรกับมันอีกเลย
“มึงโกหก!!!! แก้วถึงบ้านเมื่อกี้ โทรมาหากูแล้ว มือถือเค้าแบตหมด ไม่ได้โทรหามึง หรือมีเบอร์มึงด้วย” ผมไม่รู้จะนิยามว่าเพื่อนผมตาบอด หรือผู้หญิงคนนี้มันร้ายกาจกันแน่
“กูไม่ได้ยุ่งกับแก้ว แก้วนั่นแหละที่ยุ่งกับกู และถ้ามึงไม่อยากให้กูยุ่ง มึงควรเป็นฝ่ายบอกแก้วนะ” ผมพิมพ์ตอบกลับไปอย่างมีอารมณ์
“ถ้ามึงยังโทรหาแก้วอีก กูจะถือว่ามึงไม่ใช่เพื่อนกูอีก จำไว้!!!” ผมปิดจอ แล้ววางมือถือลงโต๊ะแรงจนเสียงดังทั้งร้าน แทนที่ถือไอติมโคนอยู่ รีบวิ่งกลับมาที่โต๊ะหาผม
“เป็นอะไรครับ ไม่เครียดนะ” แฟนผมยื่นไอติมโคนให้ แต่ไม่ให้ผมถือ
“เลียซิครับ ถือให้นะ อย่าเครียดด้วย ไม่หล่อเลยๆๆๆ” เสียงอ้อนๆ ของแฟนผม สยบเรื่องไม่สบอารณ์ผมได้ดี ผมค่อยๆ ทานไอติมที่แทนถืออยู่ให้
“ขอบคุณที่อยู่ข้างๆ บิ๊กนะ” แฟนผมยิ้มและพยักหน้า ก่อนจะแอบจิ้มไอติมใส่ปลายจมูกผมนิดๆ แล้วยื่นให้ผมทานต่อจนหมด
ผมควรทำไงดีกับเรื่องนี้....หรือผมควรเป็นฝ่ายพูดกับแก้วให้หยุดสิ่งที่กำลังทำกับผมนี้
………………..
วันรุ่งขึ้น ตั้มขอสลับที่นั่งกับแชมป์ ปกติเวลานั่งเรียน โจจะนั่งกับแชมป์ ผมจะนั่งกับตั้ม พอถึงพักเที่ยง ตั้มก็ไม่มาร่วมวงกินข้าวกับผม โจ และแชมป์ สิ่งที่ตั้มทำ สร้างความมึนงงให้กับเพื่อนผมที่เหลืออีกสองคนมาก จนตอนเลิกเรียน โจจัดการล็อคตัวไอ้ตั้มไว้ ส่วนแชมป์ก็ล็อคตัวผมไว้ แล้วพาขึ้นไปดาดฟ้าตึกเรียน
“พวกมึงสองคนเป็นอะไรกัน” โจเปิดประเด็นก่อน ในขณะที่ผมกำลังเผชิญหน้ากับตั้มอยู่ โดยมีแชมป์คุมเชิงอีกที แต่ผมกับตั้มก็ไม่ยอมพูดกันซะที
“พวกเราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย อย่าทำแบบนี้ ไอ้ตั้ม มึงพูดก่อน” น้ำเสียงแชมป์บอกถึงความเด็ดขาด ก่อนที่ตั้มจะถอนหายใจยาวช้าๆ และแววตาที่พร้อมจะซัดผมได้ทุกเมื่อ
“กูถามมึงนะไอ้บิ๊ก ทำไมมึงหม้อไม่เลิกแบบนี้วะ” ผมเริ่มหมดความอดทนเช่นกัน
“มึงไปถามแฟนมึงซิ ว่าทำแบบนี้กับกูทำไม กูไม่คิดจะสนใจผู้หญิงของมึงด้วยซ้ำ” ตั้มส่ายหัวพร้อมรอยยิ้มที่ไม่พอใจเท่าไหร่นัก
“แฟนกูไม่โกหก มึงนั่นแหละ โกหกกู!!!” ผมเริ่มไม่อยากพูดอะไร ได้แต่กำหมัด แล้วคิดว่าทำไงดี ให้ตั้มมันตาสว่างบ้าง
“ตั้ม มึงตั้งสติ แล้วคิดตามกูสักนิดนะ ผู้หญิงมึงทุกคน กูเคยแย่งมึงไหม หรือกูตีท้ายครัวมึงเปล่า...”แต่ยังไม่ทันจะพูดต่อ
“คนอื่นๆ ไม่เคย แต่คนนี้ ยังไงมึงก็ทำให้กูเห็นแล้วว่า มึงตีท้ายครัวกู” ตั้มจะพุ่งใส่ผม โจรีบคว้าไว้
“หยุด!!! ตั้ม มึงหยุด ถ้ามึงยังพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ กูจะอัดมึงจริงๆ” โจทั้งรั้งและผลักอกกลับ แล้วหันมาถามผมต่อ
“บิ๊ก มึงเล่าก่อน มึงไปมีเรื่องอะไรกับแฟนไอ้ตั้มมัน....ส่วนไอ้ตั้ม มึงห้ามพูด จนกว่าบิ๊กจะเล่าจบ...แชมป์ มึงช่วยกูเรียบเรียงด้วยนะ” โจเริ่มเด็ดขาดใส่ผม
“วันก่อน แก้วเจอกูที่พารากอนตอนกูเลือกของ แก้วบอกว่ามือถือแบตหมด นัดไอ้ตั้มไว้ ขอยืมโทรไป แล้วตอนดึกวันเดียวกัน แก้วโทรหากูว่าขอบคุณที่ให้ยืมมือถือ พอกูมาถามตั้ม แมร่งก็บอกว่าแฟนมันไม่ได้ไปพารากอน ไม่ได้โทรหากู แล้วพอวันต่อมาแฟนตัวดีมึง...” ผมเริ่มโมโห แต่ตั้มพูดแทรกกลับ
“ให้เกียรติแฟนกูด้วย แฟนกูมีตัวตน ไม่ใช่อยู่ในไหรอวันเน่าแบบที่มึงเก็บอยู่” ผมโถมตัวอัดใส่ตั้มลงไปกองกับพื้นทันที
“อย่า...พูด...ถึง...แฟน...กู...แบบ...นี้” แม้นแต่โจก็โดนผมผลักกระเด็น ตั้มโดนผมคร่อม แล้วชกไปเจ็ดหมัด ซ้ายที ขวาที ตามคำพูดที่ผมพูด
แชมป์กับโจรีบแยกผมออกมา ตั้มตอนนี้เละไปเรียบร้อย หมัดผมทำมันหน้าช้ำ เลือดกลบปากเต็มๆ ตอนนี้โจดึงตั้มเอาไว้ ในขณะที่ตั้มจะพุ่งมาต่อยผมให้ได้ ส่วนแชมป์ก็ดึงผมเอาไว้อยู่
“ปล่อยกูไอ้โจ กูจะกระทืบไอ้เพื่อนหน้าตัวเมีย” ตั้มตะโกนสุดเสียงใส่ผม
“มึงมันโง่ ผู้หญิงหลอกมึง มึงก็เชื่อ มึงเห็นผู้หญิงดีกว่าเพื่อนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ หา!!!” โจพยายามดึงผมสุดแรง
“ไอ้โจ!!! มึงรีบพาไอ้ตั้มไปเก็บเลยนะ กูจะดึงไอ้บิ๊กไม่ไหวแล้ว” ทุกคนในกลุ่มรู้กันดีว่า ถ้าผมหลุด ไม่มีใครรอดกันแน่นอน โจรีบดึงไอ้ตั้มออก ตั้มสะบัดโจ แล้วเดินไปประตูทางลงดาดฟ้า ก่อนจะหันมาชี้หน้าผม
“นี่คือครั้งสุดท้าย อย่ายุ่งกับแก้ว เพราะแค่นี้ กูไม่อยากนับมึงเป็นเพื่อนแล้ว” ตั้มกระแทกประตูสุดแรงเกิดลงไป ทิ้งให้ผม โจ และแชมป์ อยู่ที่ดาดฟ้า ส่วนแชมป์ก็ปล่อยผม แล้วทิ้งตัวลงนั่งอย่างโล่งอก
“บิ๊ก กูว่าเราต้องมีเรื่องคุยกันจริงๆ วะ” โจเดินมาตบไหล่ผม แล้วไปดึงแชมป์ลุกขึ้นมายืน
ผมอยากจะบ้าตาย....บ้าที่สุด....
………………..
“กูว่ามันก็แปลกๆ นะ แต่มึงแมร่งก็กิติศัพท์เรื่องผู้หญิงแรงอยู่ ไม่แปลกที่ตั้มมันจะโกรธมึง” โจให้ความเห็นหลังจากฟังเรื่องฝั่งผมทั้งหมดแล้ว
“กูว่าผู้หญิงที่ชื่อแก้ว ไรนั่น นางมารร้ายวะ” แชมป์สรุปหลังจากฟังจบแล้ว
“กูเอาจู๋กูเป็นประกันเลย กูไม่ได้คิดอะไรกับหญิงมัน และกูไม่อยากใกล้หญิงมันตั้งแต่เจอด้วยซ้ำ” ผมแทบจะระเบิดอารมณ์ใส่เพื่อนผู้รับฟังสองคนนี้
“พรุ่งนี้กูจะจัดที่ให้ใหม่ มึงนั่งกับแชมป์ไปนะ ห่างๆ กันสักพัก กูจะคิดวิธีเคลียร์ให้” นานๆ กูจะเห็นไอ้โจมีสาระกับเค้าซะที
“กูขออยู่ตรงนี้เงียบๆ คนเดียวก่อนนะ ขอบใจพวกมึงมาก เออ แชมป์ เดี๋ยวกูไปเอาน้องถ่านที่บ้านมึงทีหลังนะ มึงกลับก่อนเลย” สองแขนผมตบไหล่มัน ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะลงจากดาดฟ้าตึกไป
หลังจากผมเล่าให้โจกับแชมป์ฟังไปแล้ว ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมแทบจะหมดแรงไปทำอะไรทั้งสิ้น นาทีนี้ผมอยากร้องไห้...ผมไม่เคยคิดว่าจะมีวันที่ผมต้องทะเลาะกับเพื่อนแบบนี้ ผมถอดแว่นเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่กี่หยด แต่มันเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก
“ที่รักครับ วันนี้กลับห้องเองนะ งานเข้ามากๆ เลย” ผมโทรบอกแฟนก่อน
“เป็นอะไรเปล่าครับ รีบกลับมานะครับ เดี๋ยวทำข้าวเย็นให้ทานนะ สู้ๆ นะครับ ถ้าคิดไม่ออก กลับมาปรึกษากันนะ” ผมพอจะยิ้มออกบ้าง กำลังใจเล็กๆ ที่ผมมีตอนนี้ คือแฟนผมจริงๆ
“จะรีบกลับไปนะครับ รักนะ” แทนก็ “รักมากกว่า” ก่อนวางสายผมไป
ผมจะไม่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้หลอกเพื่อนผม และสร้างปัญหาให้ผมแบบนี้อีก
“แก้วครับ ตอนนี้ว่างไหมครับ” ผมโทรหาแก้วด้วยตัวเอง
“ว่างนะ บิ๊กมีอะไรให้แก้วช่วยไหมคะ” ผมเกลียดเสียงใสๆ ที่ทำเป็นไม่รู้เรื่องในสิ่งที่ตัวเองทำจริงๆ
“หกโมงเย็น เจอกันที่ร้าน Sushi Den ที่สยาม 1 ได้ไหมครับ” ผมต้องหาที่คุยก่อน
“ได้เลย อยากทานซูชิพอดีเลย เจอกันนะคะ” ผมวางสายลง โดยไม่บอกลาอะไร ในมือผมกำ iPhone ตัวเองแน่นจนแทบจะบีบเครื่องให้บุบคาที่ได้เลย
ถ้าวันนี้ผมเคลียร์กับผู้หญิงคนนี้ไม่รู้เรื่อง อย่าหาว่าผมใจร้ายแล้วกัน
**********
บทที่ 40 จะเป็นจุดเริ่มต้นรอยร้าวของแทนกับบิ๊ก ที่แรงจนทำให้แทนไม่อยากเจอหน้าบิ๊ก รวมถึงเป็นจุดแตกหักที่ตั้มจะไม่ไว้หน้าบิ๊ก ถึงขั้นทำให้ชีวิตบิ๊กในโรงเรียนปั่นป่วน อยู่ก็ไม่เป็นสุขกันเลยทีเดียว
บทที่ 40 เจอกันวันพุธดึกๆ หรืออาจวันพฤหัสฯ ดึกๆ นะครับ (ตารางงานไม่แน่นอนอยู่ครับ)
ขอบคุณสำหรับการติตดามครับผม^^