บทที่ 52 มาแล้วครับ เมื่อทุกอย่างกลับมา Happy เปิดเทอม ม.5 เทอม 2 นี้ แทนกำลังจะได้เจอสิ่งใหม่ และตัวละครใหม่ ต้าร์ มาแล้วครับผม^^
มาชมกันต่อเลยครับ
***********
Chapter 52แสงแดดยามเช้าที่ส่องเข้าผ่านหน้าต่าง ปลุกให้ผมตื่นขึ้น เช่นเดียวกับทุกวันที่ผมอยู่ในห้องของแทน นอกจากแสงแดดแล้ว กลิ่นอาหารบางๆ กับเสียงตะหลิวที่กำลังกระทบกับกะทะ ปลุกให้ผมบิดขี้เกียจลุกขึ้นมาหาต้นทางที่ห้องครัว
“หอมจังครับ” ผมกอดที่รักของผมที่กำลังผัดข้าวอยู่
“ไปแปรงฟัน ล้างหน้าก่อนนะ เดี๋ยวมาทานกัน” แฟนผมใส่ผ้ากันเปื้อนตัวเดียวนี่ น่ารักจัง ผมเลยต้องหอมแก้มสักฟอดให้สมกับความน่ารักของแฟนผมสักหน่อย
ข้าวผัดแฮมที่มีผักชิ้นเล็กๆ หั่นผสมหลากสี เป็นอีกเมนูที่ทานหมดแล้วต้องขอเติมทุกที...จริงๆ ก็ทุกอย่างที่แทนทำให้ทาน อร่อยหมดแหละครับ
“วันนี้ทำการบ้านด้วยนะ เปิดเทอมมา เราเห็นนะ ว่าบิ๊กยังไม่ทำการบ้านเลย” โธ่ๆๆ พึ่งจะเปิดเทอมไปอาทิตย์เดียว เดี๋ยวค่อยทำก็ได้
“ไปดูหนังก่อน แล้วกลับมาทำ” ผมต่อรองด้วยรอยยิ้มแบบเด็กน้อย แต่สายตากับสีหน้าแทนที่ตอบกลับมานั้น
“ครับๆ ไปทำการบ้านกันนะครับ ไม่งอนนะครับ โอ๋เอ๋ๆๆ” ถ้าแทนฟ้อนเล็บผมได้ คงจัดไปแล้วแหง่ๆ
แทนยังคงเป็นติวเตอร์ส่วนตัวผมที่น่ารัก และผมดีใจที่ได้กลับมาฟังแทนบ่นหูชา ตลอดเวลาที่ทำการบ้านด้วยกัน สิ่งที่แทนต้องคอยบ่นกับผมตลอดคือ
“ที่เรียนไปเทอมแรก ต้องสอนใหม่หมดนะเนี่ย” ก็เราอยู่คนเดียวอะ ไม่มีแทนติวให้นะ
“รู้เปล่าว่าไม่มีแทนสอนหนังสือเรา เราคงเรียนไม่จบหรอก” ผมพองแก้ม ปากจู๋ หลังพูดจบ แล้วแทนก็หอมแก้ม
“ขยันๆ หน่อยซิครับ ไม่ยากเกินไปหรอก” แทนลุกขึ้นมากอดผมจากข้างหลัง แล้วเอาหน้าวางไว้ที่ไหล่ผม
“เราคงเรียนไม่จบแน่ๆ ถ้าไม่ได้แทนเป็นแฟน” ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ นะ
“ทำต่อได้แล้ว อีกวิชาเดียวก็เสร็จแล้วนะ” แฟนผมส่งจูบกลางศีรษะเกลี้ยงๆ ของผม
ทีนี้ละ แรงมาเต็ม ทำเสร็จในชั่วโมงเดียวแบบผ่านตลอดได้เลย ทันทีที่ทำเสร็จ ผมรีบไปขอรางวัลจากที่รักผมทันที แต่รางวัลที่แฟนจะให้เนี่ย ไม่ง่ายจริงๆ
“ตรวจการบ้านแป็ปนะครับ” แทนยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเปิดสมุดการบ้านผมดูทีละจุด ผมนี่นั่งนิ่งเหมือนเด็กรอคุณครูเลยทีเดียว หลังจากใช้เวลาอยู่สักครู่ใหญ่ๆ แทนส่งสมุดการบ้านคืนให้ผมด้วยสีหน้าแอบผิดหวังนิดๆ
“เสียใจ ทำถูกหมดซะด้วย” แทนกัดปากยิ้มๆ คงอยากแกล้งผมละซิ เสียใจละซิ อดแกล้งเลยใช่ม๊าๆๆ อิๆ ถ้างั้น ผมขอรางวัลแรกจากแฟนผมทันที ผมวางสมุดการบ้านลงโต๊ะทำงาน แล้วพุ่งไปกอดแทน ดึงตัวออกจากเก้าอี้ไปลงเตียงนอนทันที
“จะไปดูหนังไม่ใช่เหรอครับ” แทนอยู่ล่าง ผมอยู่บน คิดว่าจะเบรคผมได้เหรอ
“ไปดูครับ แต่ขอ...เล่นหนังส่วนตัวกับแฟนก่อนได้ไหมครับ” ใบหน้าเขินๆ ที่อาจมองไม่ชัดเพราะสีผิวกาแฟอ่อนๆ ของแทน แต่ผมก็รู้ว่าตอนนี้แก้มสองของแฟนผม กำลังแดงระเรื่อเพราะเขินผมอยู่
“ทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา คืนละสองรอบทุกคืนเลยนะ เรา...” ผมกดริมฝีปากแล้วส่งลิ้นเข้าไปทักทายลิ้นของแทน
“ไม่ชอบเหรอครับ” แทนไม่ตอบอะไร เอาแต่เขินหลบหน้าผม
“ก็...ทำไปซิ เราจะขัดขืนอะไรได้” เสียงเล็กเสียงน้อยของแทน ยิ่งทำให้ผม
ลุยเลยละกันนะครับ เดี๋ยวเสร็จสักยกแล้ว ไปดูหนังกันนะครับ
………………..
หลังจากดูหนังเสร็จ มื้อเย็นบิ๊กชวนผมไปทานที่ร้านเฮียจิ๋วที่บิ๊กเล่นดนตรีให้ประจำ แน่นอนว่าไบรท์ก็ต้องมาด้วย เพราะเพื่อนๆ บิ๊ก ให้การต้อนรับผมกับไบรท์อบอุ่นมาก
“ชนๆๆ” เสียงตั้มชูแก้วให้ทุกคนชนกัน
“ดื่มให้เมียประธานกุมารทอง เฮ้” ผมละเขินแทบมุดใต้โต๊ะเลยทีเดียว
“ดีมากพวกมึง ฮาๆๆ” บิ๊กดูจะชอบใจมาก แต่นั้นยิ่งทำให้ผมเขินอย่างบอกไม่ถูก
“แทนๆ ที่โรงเรียนแทน ยังมีสาวๆ แนะนำให้เรารู้จักบ้างได้ปะ” โจถามผมแบบนี้ ผมกำลังนึกอยู่ แต่ว่า
“กูแนะนำนะ หาแบบแฟนกูสักคนดีกว่า ดีกว่าเยอะ ฮาๆ” ที่โต๊ะอาหารวันนี้ ก็ไม่มีเครื่องดื่มมึนเมานะ แต่ดูบิ๊กจะร่าเริงยังกับดื่มมาแล้วชัดๆ
“ไม่เอาๆ กูกับไอ้ตั้มอุตส่าห์ดีใจ มึงมีแฟนผู้ชายทั้งคน ตัดคู่แข่งแย่งจีบผู้หญิงจากพวกกูได้ทั้งที โอกาสทองชัดๆ” ผมแอบหลุดขำที่โจให้เหตุผล โดยมีตั้มพยักหน้าสมทบเหตุผลนี้เช่นกัน
“มึงพลาดของดีแล้วเพื่อน” บิ๊กดึงผมให้นั่งชิดมากขึ้น แล้วเอียงหัวซบผม ก่อนจะชูแก้วขึ้นฟ้า เสร็จแล้วหันมาหอมแก้มผมอีกที เสียงโห่ฮาของทุกคนที่เหลือในวง ทำให้บิ๊กกอดผมแน่นกว่าเดิม
“แล้วคู่นี้ละ นั่งซะห่าง เดี๋ยวสู้คู่คุณชายบิ๊กไม่ได้นะเว้ยไอ้แชมป์” แชมป์ดูจะเฉยๆ ไม่ตอบอะไรไปมากกว่า
“ของแบนี้เก็บไว้สองคนก็พอ จริงไหมครับ” ไบรท์พยายามเขยิบเข้าไปหา แต่โดนแชมป์กระแทกไหล่ให้ออกไป
“มาชิดทำไม ร้อน” ไบรท์ยังพยายามชิดกับแชมป์ต่อไป แต่แชมป์ทำหน้าดุใสจนผมกับที่เหลือ หัวเราะกัน
“ก็เรา...” แชมป์รีบยกนิ้วเบรคสิ่งที่ไบรท์จะพูด จนไบรท์ได้แต่ทำหน้าเขินๆ แล้วชิงหอมแก้มแชมป์แบบรวดเร็ว
“ไอ้ไบรท์บ้า!!!” สิ้นเสียงนี้ ไบรท์ล็อคตัวแชมป์ไว้ทันที แล้วแชมป์ก็ไม่ขัดขืนอะไร เพราะสายตาทุกคู่กดดันมา
“ยอมก็ได้” ผมเห็นใบหน้าดีใจที่ชนะของไบรท์แบบชัดๆ ก็วันนี้แหละ
ในขณะที่ทุกคนกำลังเฮฮากันอยู่ บิ๊กหันมามองผมแบบไม่วางสายตา ทำยังไงก็ไม่เลิกจ้องผมซะที จนผมแอบไม่มั่นใจว่าทำไมบิ๊กต้องมองนานขนาดนี้
“เรามีอะไรติดหน้าเปล่า” ผมเริ่มพูดก่อน บิ๊กไม่ตอบอะไร
“เราแค่อยากชดเชยเวลาที่เราไม่ได้เห็นแทน” คำตอบบิ๊กมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมาก
“ก็ไม่ได้ไปไหนแล้วนี่” บิ๊กค่อยๆ เอามือกดศีรษะผมให้ให้ชิดไหล่ของบิ๊กมากขึ้น
“เราจะไม่ให้เรื่องอะไรก็ตาม มาทำให้เราเสียเวลาที่จะได้รักแทนอีกต่อไป เพราะเราคิดไม่ออกว่า ถ้าเราไม่มีแทน เราจะอยู่ยังไง” ผมคลี่ยิ้มให้กว้างขึ้นอีกนิด แล้วบอกบิ๊กว่า
“ทุกวินาทีที่กำลังเดินไปข้างหน้า เราจะไม่ไปไหนจากบิ๊กเหมือนกัน สัญญาครับ”บิ๊กไม่ตอบอะไรนอกจากอมยิ้มไม่หยุด ก่อนจะตักอาหารป้อนผม ท่ามกลางบรรยากาศที่เพื่อนๆ กำลังผลัดกันสนุกสนานในแต่ละประเด็นที่คิดกันออกต่อไป
นาฬิกาชีวิตของผม คงมีแค่บิ๊กที่ทำให้มันเดินต่อไปนั่นละ
………………..
เปิดเทอมมาเดือนนึงเต็มๆ ทั้งผมกับบิ๊ก ต่างก็ยุ่งพอกัน ชมรมดนตรีตั้งบิ๊กเป็นรองประธานคนใหม่ ในขณะที่ตำแหน่งกัปตันทีมบาสฯ ของโรงเรียน ก็ไม่ใช่งานที่ง่ายนัก มันพ่วงความรับผิดชอบไว้มากจนแทบจะเรียนไม่ทันอยู่แล้ว
“เราอยากให้แทนลงสมัครรองประธานนักเรียน” คนที่บอกผมคือ บอย หัวหน้าห้องหนึ่ง ผู้ชายแว่นหนา ตาตี่ คิ้วหนา ท้วมเล็กๆ ถอดแว่นแล้วดูดีทันที รองประธานนักเรียนฝ่ายวิชาการที่บรรดารุ่นพี่ รุ่นน้อง ต่างยกให้เป็นตัวเต็งลงสมัครประธานนักเรียน
“ฝ่ายอะไรอะบอย เรากลัวทำไม่ได้นะ" ผมถามบอยให้แน่ใจ เพราะถ้ามันเป็นตำแหน่ง...
“ไม่ใช่ฝ่าย รองประธานนักเรียน เบอร์สองต่อจากเรานี่แหละ” ผมตะลึงเล็กๆ แล้วนึกออกว่า
“บอย เราว่าแม็คห้อง 2 ไม่ก็ แอนดี้ห้องเรา เหมาะกว่านะ” บอยตบโต๊ะเบาๆ แล้วชี้มาที่ผม
“กัปตันทีมบาสฯ แชมป์ประเทศปีล่าสุด เกรด 4.0 ทุกเทอม รอยยิ้มที่ทุกคนคุ้นเคย พูดเพราะชนิดห้อง 5 ยังต้องพูดเพราะด้วย” ผมยิ้มแหย่ๆ แบบ เวอร์ไปนะบอย
“เราไม่มั่นใจนะ ว่าทำได้เปล่า” บอยจับมือผมสองข้างแน่นๆ สายตามุ่งมั่นมากแบบเอาจริง
“แทน ลงสมัครกับเรานะๆๆๆ” ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เอาซะเลย ผมเลยให้คำตอบกับบอยไปว่า...
“คิดดูก่อนอะ เรายังไม่รู้เลยว่าจะทำได้ไหม” ผมพูดกับไบรท์หลังจากเล่าสิ่งบอยมาคุย ในขณะที่ไบรท์มาเป็นเพื่อนกับผมที่มาเข้าเล่มรายงานการซ้อมน้อง ม.ต้น
“แต่เราว่าแทนน่าจะทำได้นะ” ผมชูเล่มรายงานใส่หน้าไบรท์แบบชัดเจน
“นี่ลองคิดดูนะ แค่คุมซ้อม ม.ต้น ไหนจะต้องไปแข่ง ไบรท์ก็คงนึกออกว่าเรียนแทบจะไม่ทันแล้ว” ผมกับไบรท์เดินข้ามถนนไปร้านขนมปังปิ้งเจ้าโปรด
“นมชมพูแก้ว ช็อกโกเล็ตเย็นแก้วครับ” ผมสั่งเครื่องดื่มผ่านช่องสั่งของหน้าร้าน
“เราว่ามีคนนึงให้คำตอบได้แน่นอน” ผมหันไปมองไบรท์แบบงงๆ พร้อมกับส่งแก้วนมเย็น
“แฟนนายไง” บิ๊กเหรอ...ก็ น่าสนใจนะ แต่จะใช่เหรอ...
“เราไปก่อนนะ แชมป์มาถึงละ บายๆ” ผมโบกมือที่ถือแก้วให้ไบรท์ที่เดินไปหาแชมป์ตามที่นัดไว้
ถามบิ๊กเหรอ...ก็ไม่เลวนะ งั้น คุยตอนทานข้าวเย็นละกัน
………………..
แยกกับไบรท์เสร็จ ผมเดินข้ามถนนกลับไปศูนย์หนังสือจุฬาฯ แต่ผมคิดเรื่องใหญ่ที่พึ่งเจอมาเพลินจนลืมไปว่า
"ปิ๊น" เสียงแตรที่ดังขึ้น ทำให้ผมหันซ้ายไปเจอมอไซค์คันนึง กำลังจะชนผม ผมตกใจจนล้ม แล้วมอไซค์คันที่บีบแตรใส่ผมก็จอดพร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน ก่อนจะขึ้นขาตั้ง แล้ววิ่งมาหาผม
"เจ็บตรงไหนเปล่าครับ" คนขับมอไซค์ในชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงิน ลงมาดูพยุงผมให้ลุกขึ้น แล้วเก็บกระเป๋า สมุดรายงาน พาผมเข้าฟุตบาท ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปเข็นมอไซค์มาจอดข้างๆ ผม
“เจ็บตรงไหนไหมครับ หาหมอไหมครับ” คนขับมอไซค์ถอดหมวกกันน็อคเต็มใบออกมาวางบนถังน้ำมัน ก่อนจะเสยผมให้เรียบร้อย แล้วดูตามตัวผม
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ระวังเอง ลืมดูตอนข้ามถนน ขอโทษด้วยครับ” ผมโค้งตัวขอโทษความสะเพร่าตัวเอง
“รอผมตรงนี้แป็ปนะ เดี๋ยวผมมานะ” เจ้าของรถกลับขึ้นคร่อม แล้วสวมหมวกลงไปโดยไม่รัดสายรัดคาง ก่อนจะขับย้อนศรเข้าคณะทันตะ แล้วไม่ถึงสองนาทีต่อมา ก็วิ่งกลับมาผมพร้อมกับถือหมวกกันน็อคด้วย
“มาแล้วครับ แน่ใจว่าไม่เจ็บตรงไหนนะ” ผมพยักหน้ายืนยัน แต่คนขับมอไซค์ก็ยังมองผมไม่วาง แล้วยิ้มกว้างๆ ให้ผม
“ถ้างั้น เดี๋ยวเราซื้อช็อกโกเล็ตเย็นที่กระจายอยู่พื้นถนนให้นะครับ” ผมพึ่งรู้สึกตัวว่า มือตัวเองไม่ได้ถือแก้วเครื่องดื่มที่ซื้อมาเมื่อครู่
“ไม่เป็นไรๆๆ เราว่า เราควรเป็นฝ่ายเลี้ยงขอโทษมากกว่านะ” ผมยิ้มแหย่ๆ ในขณะที่อีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้มที่ไม่ยิงฟัน แต่ใครเห็นก็คงหลงรักเอาได้
ผมจะเดินข้ามถนนกลับไปที่ร้าน แต่หนุ่มกางเกงน้ำเงินคนนี้รีบชิงเดินนำมาดูรถก่อนจะหันมาพยักหน้าให้สัญญาณข้ามถนน แล้วผมเดินตามหลังไป ก่อนจะเดินนำไปที่ร้าน แต่หนุ่มกางเกงน้ำเงินเดินเข้าร้านจองที่นั่งเสร็จสรรพ ผมเลยเข้าไปนั่งด้วย
“เราอยากทานขนมปังพอดี ทานด้วยกันนะครับ” ผมพยักหน้างงๆ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“พี่ครับ แยมส้มสองแผ่น สังขยาแดงสองแผ่น เนย น้ำตาลสองแผ่น ละก็ ช็อคโกเล็ตเย็นสองแก้วครับ” ผมไม่ได้เป็นคนสั่ง แต่อีกฝ่ายจัดแจงให้เรียบร้อย
“เราเลี้ยงนะ คือ ถือว่าไถ่โทษที่เราข้ามถนนไม่ดู...” ผมจะเรียกชื่อ แต่ผมไม่รู้จักนี่ เลยคาประโยคนี้ที่คำว่า”ดู”
“พีรพัฒน์ครับ ชื่อเล่นว่าตาร์” หนุ่มกางเกงน้ำเงินที่ผมสะเพร่าจนเกือบโดนชนบอกชื่อผมละ รอยยิ้มแค่ริมฝีปากของเจ้าตัวกับสายตาที่มองผม ดูเหมือนเราไม่ได้รู้จักกันเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลย
“ภัทรครับ ชื่อเล่นแทน” ต้าร์พยักหน้าให้ผมเล็กน้อยด้วยรอยยิ้มแบบเดิม
“ขอโทษนะคะ ใช่พี่ต้าร์ปะคะ” ผมงงเล็กน้อย ที่มีเด็กผู้หญิงกลุ่มเล็กๆ ยืนมองเหมือนมึดารานั่งอยู่ในร้าน และอีกสามคนที่เดินมาทักต้าร์ถึงโต๊ะแบบนี้
“ครับ สวัสดีครับ” ต้าร์ตอบคำถามเด็กผู้หญิงมัธยมกลุ่มที่เดินมาหาที่โต๊ะด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกแบบที่พูดกับผม
“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ” ต้าร์พยักหน้า ก่อนจะยื่นมือขอมือถือจากน้องคนแรก แล้วต้าร์ก็ถ่ายเซลฟี่กับน้องเค้าด้วยมือถือของน้องผู้หญิงที่มาขอถ่ายรูปแบบทีละเครื่อง ถ่ายด้วยคนละสองรูป รูปแรกจะยิ้มแบบปกติ ส่วนรูปที่สอง ต้าร์จะชวนให้ทำหน้าแบบแลบลิ้นเล่นกล้อง
“ขอบคุณนะคะ” ต้าร์พยักหน้าด้วยยิ้มอย่างไม่รำคาญ
ขนมปังกับเครื่องดื่มก็ตามมาเสริฟ แต่ผมรู้สึกได้ว่า สายตาของนักเรียน นักศึกษา ทั้งที่นั่งทานในร้าน อยู่นอกร้าน ต่างมองต้าร์อยู่เหมือนต้าร์เป็นดาราดัง...หรือผมนั่งอยู่กับดาราจริงๆ นั่นทำให้ผมเกร็งไปทานไป จนบรรยากาศระหว่างผมกับต้าร์ดูจะเงียบๆ
“คือ...ทำไมมีคนมองต้าร์เยอะแบบนี้อะ” ต้าร์จิ้มขนมปังชิ้นสุดท้ายเข้าปากขณะฟังคำถามผม
“ก็ คนของประชาชนอะครับ แต่เราดีใจที่แทนไม่รู้จักเรานะ” ต้าร์ยิ้มกว้างหลังจากตอบคำถามผมเสร็จ
“ถ้าแทนเจอเราครั้งหน้า ทักเราด้วยนะ เราจำได้แน่นอน” ผมยิ้มให้เป็นการยืนยัน
“แป็ปนะครับ” ต้าร์หยิบมือถือตัวเองออกมารับสาย
“โอเคครับ อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันครับ” ต้าร์ตอบปลายสายแค่นี้ ก่อนจะวางสายไป แล้วควักกระเป๋าสตางค์ออกมาจากกระเป๋าคาดหน้าอก
“เราเลี้ยงนะครับ” ต้าร์พูดจบแล้วเดินไปจ่ายเงินมื้อนี้เรียบร้อย แล้วกลับมาหยิบหมวกกันน็อค ในขณะผมเก็บกระเป๋าเดินตามออกมา
“แทนจะไปไหนต่อไหม เราไปส่งนะ” ต้าร์ถามผมหลังจากที่เราทั้งคู่ออกมายืนหน้าร้านแล้ว
“ไม่เป็นไรนะ ละก็...” ผมยื่นเงินค่าขนมปังมื้อนี้ครึ่งนึงให้ ต้าร์มองเงินในมือผม ก่อนจะยิ้มให้
“เราเลี้ยงนะครับ...เพื่อนใหม่” ต้าร์ยิ้มให้ ก่อนจะโบกมือลาผม แล้วเดินกลับเข้าไปคณะทันตะ
ผมยืนอยู่ฟุตบาทหน้าร้าน จนเห็นมอไซค์คันใหญ่ของต้าร์ขับออกมา ต้าร์จอดข้างๆ ผมก่อนจะเปิดกระจกหมวกกันน็อค แล้วบอกกับผมว่า
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ แล้วเจอกันใหม่นะ” ต้าร์ปิดกระจกหมวกกันน็อคลง ก่อนจะพาพาหนะสองล้อคันใหญ่ออกขับออกไปช้าๆ ทิ้งไว้แค่เสียงท่อที่ผมพอจะได้ยินไกลๆ บ้าง
ผมลืมเรื่องที่เก็บมาคิดตั้งแต่อยู่โรงเรียนไปซะสนิท แต่ที่ข้ามถนนเมื่อกี้...นี่เราเหมอแรงไปหน่อยนะ
**********
บทที่ 53 จะเป็นการพบกันครั้งแรกอย่างเป็นทางการของแทนกับต้าร์ ที่บิ๊กเองก็มีหึงเล็กๆ (เล็กน้อยจริงๆ) และเราจะได้รู้จักต้าร์ ซึ่งจะเป็นตัวละครสำคัญอีกตัวตั้งแต่บทนี้ไปจนถึงจบเรื่องครับผม
บทที่ 53 เจอกันประมาณวันพฤหัสฯ บ่ายๆ ครับผม
ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ^^