++เพื่อน(เรียน)พิเศษ (END) : Special Chapter "30" (Part 2 // หน้า 36)++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ (END) : Special Chapter "30" (Part 2 // หน้า 36)++  (อ่าน 326007 ครั้ง)

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
อีแม่แทนนี้เกิดสมัยพระเจ้าเหาเหรอ. หัวโบราณสุดๆ ลูกจะฆ่าตัวตายแล้วยังไม่ยอมอีก เฮ้อออ

เพราะยังไม่ถึงจุดสำคัญครับ^^"

ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
มาต่อให้จบไวๆเถอะค้างเหลือเกิน :katai4:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ลุ้นจิกหมอนมากค่ะ แต่เห็นด้วยกับบิ้ก สามเดือนนี้ต้องทำให้ดีที่สุด ต้องทำได้ สู้ๆนะ ยิ่กกะแทน และคนเขียนด้วยค่าา :mew1:

ออฟไลน์ pepperpro

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
บิ๊กสู้ๆนะ ทนอีกหน่อย นายกับแทนจะต้องเป็นคู่ที่มีความสุขมากๆคู่นึงแน่นอน เรามั่นใจ

ไรเตอร์เองก็สู้ๆนะครับ เอาใจช่วย และรอติดตามเหมือนเดิม

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 72 ++
«ตอบ #994 เมื่อ12-03-2016 03:55:18 »

ทำเสร็จพอดี เลยลงให้อ่านกันต่อเลยครับ บทที่ 72 ขอผ่อนคลายความตึงเครียดในบทที่ผ่านๆ มา กันสักหน่อย

แต่เรื่องหนักๆ ของคู่นี้ ยังไม่จบลงนะครับ บทที่ 74 เรื่องที่หนักที่สุดกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว แต่เรื่องที่หนักที่สุด ก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้ทุกอย่าง Happy Ending เช่นกันครับ

มาชมกันต่อเลยครับ^^

**********

Chapter 72

แสงสลัวๆ ในร้านของเฮียจิ๋วที่ผมกับเพื่อนๆ มาเล่นดนตรีเป็นประจำตอนนี้ อะไรๆ ก็กลับมาครบแล้ว อารมณ์ในการร้องเพลง คนสำคัญที่กำลังดูผมเล่นอย่างแทน เพิ่มเติมคือเพื่อนอย่างไบรท์กับต้าร์ที่นั่งโต๊ะเดียวกับแทน ในขณะที่วงผมกำลังร้องเพลงให้กับทุกคนในร้านกัน ผมเห็นถึงบางโต๊ะที่รู้สึกได้ว่า เค้ากำลังมีความสุข ไม่ว่าจะเพื่อนทั้งก๊วน มากับแฟน บางโต๊ะก็มาคนเดียว บางทีเค้าอาจจะเครียด อกหัก หรืออยากอยู่คนเดียว และโต๊ะที่ผมมองบ่อยที่สุด ก็คงเป็นโต๊ะแฟนผม แววตาแห่งความสุขที่แทนมีตอนนี้ ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะเอาแต่ร้องเพลงรักบ่อยมากขึ้น รวมถึงสนุกไปกับเวลาที่อยู่บนเวทีให้เต็มที่มากขึ้นเช่นกัน

“มาแล้วครับ” ผมกอดแทนจากด้านหลังทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ เสียงโห่เบาๆ จากเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะผมทุกคนตามมาอัตโนมัติทันที

“แหม่ๆ ตั้งแต่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันนี่ หวานเลี่ยนวะมึง” ผมชูนิ้วกลางให้ตั้มเป็นการขอบคุณที่ชม

“กูรักของกู จบปะ” เสียงฮาเบาๆ ของทั้งโต๊ะทำให้ผมเห็นว่าแทนก็เขินอยู่ พอแทนเห็นสภาพเหงื่อที่หัว หน้า คอ และเสื้อยืดที่เปียกอยู่ แทนแกะผ้าเย็นซับหน้าให้ผม สายตาผมจ้องใบหน้าแทนไว้ แล้วอดไม่ได้ที่จะคิดถึงบางเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้นไปไม่นานนี้

“เป็นไรเปล่า ทำหน้าเหมือนคิดมากเลย” แทนทักผมขึ้นมา ทำให้ผมรู้ว่าผมเก็บความรู้สึกไม่สนิทจนหลุดออกมาผ่านสีหน้าเรียบร้อย

“เปล่าๆ เหนื่อยอะ ร้องเพลงตั้งสี่ชั่วโมง ข้าวก็ยังไม่กิน อีกนิดนึงจะให้อุ้มลงจากเวทีละ” แทนยังคงเช็ดหน้ากับคอผมต่อไป

“สะอาดแล้ว กินข้าวนะครับ” แน่นอนว่าแฟนผมเก็บของอร่อยๆ ที่ผมชอบไว้ให้หมดแล้ว ระหว่างที่ผมเล่น ทั้งแฟนผม ไบรท์ ต้าร์ ทานอิ่มไปล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

“บิ๊ก ตอนนี้มึงนอนไหนวะ บ้านมึง บ้านแทน หรือคอนโด” ต้าร์ถามขึ้นมาขณะที่ผมกำลังกินอยู่

“วนเอาวะมึง พ่อกับแม่แทนให้เข้าออกได้ตามสบาย” ฟังดูเป็นเรื่องที่ดีใช่ไหมละ แต่จริงๆ ยังไม่ได้เล่าว่ามันมีอะไรซ่อนไว้อยู่
 
“เร็วเนอะ เผลอแป็ปเดียว พวกเราทุกคนจบ ม.ปลายกันหมดแล้ว มหาลัยยังไม่รู้เลยว่าจะได้ไปเรียนที่ไหนกัน เครียดวะ ยังไม่มีที่เรียน” ไอ้ตั้มบ่นขึ้นมากลางวงในขณะที่กำลังกินข้าวอยู่ แชมป์กับไบรท์ยกมือขึ้นทันที

“อะไรของมึงวะคู่นี้” ตั้มยกแก้วเบียร์ขึ้นมาจิบพร้อมกับถาม

“มีที่เรียนแล้วไง” แล้วโจกับต้าร์ก็ยกมือด้วย ตั้มหันมาทางผมกับแทน

“เออ กูลืมบอกเลยว่า กูติดโค้วต้าวิทย์ฯ กีฬา” ใช่แล้ว ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้บอกเพื่อนๆ รวมถึงแฟนผมด้วย แน่ละ รอยยิ้มแฟนผมถึงไม่กว้าง แต่ก็อมยิ้มอย่างมีความสุขมาก

“แล้ว..ไม่เจอกันนาน ลืมถามเลยว่า ตกลงแทนได้ที่เรียนเปล่า” เราเคยมีฝันร่วมกันไว้ว่า อยากเรียนมหาลัยเดียวกัน แต่จริงๆ แทนได้ที่เรียนผมก็ดีใจแล้วแหละ

“เราติดสอบตรงนิติศาสตร์...ที่เดียวกับบิ๊กอะ” โอ็ย ดีใจอะ มันทำให้ผมพุ่งมาหอมแก้มแฟนผมทันที แต่...ผมโดนอะไรบางอย่างฉุดไว้ให้หยุดตรงนั้น

“เดี๋ยวมึงก็มีที่เรียน เหลือแอดฯ กลางอีกนะมึง” โจตบไหล่ปลอบตั้ม

“แล้วต้าร์ละ” แทนเป็นคนตั้งคำถามนี้ ต้าร์วางแก้วลง

“คงเอกชนอะ ไม่งั้นเราทำงานไม่ได้แน่ๆ ยินดีด้วยกับทุกคนนะครับ” ต้าร์ยกแก้วชูขึ้น แล้วทุกคนชนแก้วกัน

“ไว้จบแล้วต้องกลับมาชนแก้วให้ครบทุกคนนะครับ” ผมบอกกับทุกคนหลังจากขนแก้วกันเสร็จ

ผมดีใจที่แทนกับผมได้เรียนมหาลัยที่เดียวกัน แต่มันคงได้แค่ดีใจ เพราะมัน...คงไม่เกิดขึ้นจริง

……………….

สองอาทิตย์แล้ว...ที่บิ๊กกลับมาอยู่ข้างผม บิ๊กเข้าออกบ้านผมได้อิสระ ไม่ว่าคุณยายอยู่หรือไม่ บิ๊กก็ได้รับการตอนรับดีจากพ่อกับแม่ของผม บิ๊กกับผมใช้เวลาหลังปิดเทอมในการเช็คผลสอบทั้งหมด บิ๊กมีสอบตกอยู่วิชาหนึ่ง ผมเลยต้องจัดแจงติวให้บิ๊ก ซึ่งเรียบร้อย บิ๊กสอบผ่านแล้ว ปรับเกรดใหม่เรียบร้อย

“คุณน้าครับ ผมขออนุญาตพาแทนไปเที่ยวสักสัปดาห์ได้ไหมครับ” บิ๊กเอยขึ้นหลังทานมื้อเย็นกันเสร็จ

“ที่ไหน ยังไง” พ่อของแทนถามคำถามนี้กับบิ๊ก

“น่าจะภูเก็ตครับ ไม่นั่งเครื่องก็ขับรถไปเอาครับ” ปกติ บรรยากาศในมื้ออาหารระหว่างบิ๊กกับพ่อ แม่ ของผม ก็ออกแนวถามคำตอบคำอยู่แล้ว ผมกล้วว่า...

“อืม ไปกันวันไหนละ” แม่ผมถามขึ้นมา

“วันจันทร์หน้าครับ กลับวันอาทิตย์” บิ๊กตอบคำถามแม่ผมเสร็จ ผมไม่เห็นสีหน้าพ่อกับแม่ต้องคิดอะไรก่อนนานๆ แบบที่ควรจะเป็น ก่อนที่พ่อจะถามต่อว่า

“เตรียมไรพร้อมยังละ ที่พัก เดินทาง” บิ๊กพยักหน้าหนึ่งที ก่อนจะตอบว่า

“มาขออนุญาตก่อนจะไปจองทั้งหมดนี่ละครับ” คุณพ่อผมเช็ดปากหลังจากจิบไวน์แดงปิดท้ายเสร็จ แล้วหันไปมองหน้าแม่ผม ก่อนจะกลับมาบอกว่า

“ตกลง ดูแลตัวเองดีๆ ด้วยละ” พ่อผมดีดนิ้วเรียกแม่บ้านมา

“ขอแก้วไวน์อีกใบ” หลังจากได้แก้วมาแล้ว พ่อผมรินไวน์แดงแล้วส่งให้บิ๊ก

“ขอบคุณที่ดีกับลูกชายฉันเสมอมา” พ่อผมชูแก้วขึ้น บิ๊กจับขาแก้วแล้วโค้งคำนับเล็กๆ ก่อนจะชนแก้วกับพ่อผม
 
“หมดแก้ว” พ่อผมกระดกทีเดียวหมด บิ๊กเองก็กระดกทีเดียวหมดเช่นกัน

“ฉันไปพักผ่อนละ” พ่อผมลุกออกไปก่อน

“บิ๊กขึ้นห้องไปก่อนนะ แม่มีอะไรจะคุยกับแทนก่อนสักครู่” บิ๊กพยักหน้าเสร็จ ลุกออกไปก่อน ตอนนี้เหลือแค่ผมกับแม่ที่อยู่ที่โต๊ะอาหาร

“แม่อยากพูดตรงๆ กับเรา อย่าโกรธแม่นะ” ผมทำใจมาสักพักแล้วว่า สิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ความเต็มใจของแม่ผมแน่นอน แต่ผมจะฟังว่าแม่ผมจะพูดอะไรกับผม

“แม่อยากให้ลูกเห็นแก่อนาคตตัวเอง เราจะอยู่ยังไงเมื่อเราแก่ตัวลง เราจะอยู่ยังไงเมื่ออายุมากขึ้น ถ้าแทนอยู่ด้วยกันแบบนั้นกับบิ๊ก จะอยู่ยังไงเมื่อแก่ตัวลงไปทั้งคู่ แม่รู้ว่าลูกกับบิ๊กคบกันแบบไหน ตั้งแต่แม่รู้ว่าแทนมีความสัมพันธ์แบบนี้กับคนอื่น พ่อกับแม่ไม่สบายใจสักวัน มันมีแต่ความกลัวไปหมด แม่ขอร้องได้ไหม แม่ถอยให้แทนหนึ่งก้าวแล้ว แม่ขอให้แทนปรับตัวแล้วถอยออกจากบิ๊กได้ไหม แม่จะให้เวลาเราสองคนค่อยๆ ถอยออกจากความฝัน ลูกต้องเข้าใจนะ ชีวิตจริงเรากับบิ๊ก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีอะไรมากกว่า ความฉาบฉวยที่ลูกรู้สึกอยู่ตอนนี้” ผมรู้สึกว่านี่คือคำพูดที่ดีที่สุดของแม่ผมในตลอดเวลาที่ผ่านมา

“แม่ครับ บิ๊กไม่เคยฉาบฉวยกับความรู้สึกของผมเลย เค้าตรงไปตรงมาเสมอ ชอบก็ชอบ รักก็คือรัก ไม่ชอบก็คือไม่ชอบ เค้าเข้มแข็งในสิ่งที่ผมไม่มีทางกล้าทำ เค้าทำให้ผมรู้จักว่าความรักจริงๆ คืออะไร ผมไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงครับ แต่ทุกอย่างในโลกนี้มันไม่มีคำว่ามั่นคง ผมแค่หวังว่า อนาคต ผมจะได้ทำในสิ่งที่ผมรักและอยากทำ ได้อยู่กับคนที่ผมจะดูแลเค้าได้ และเค้าดูแลผมได้ แม่อยากให้ผมถอยออก แต่ผมจะขอว่า ผมขอเวลาพิสูจน์ได้ไหมครับ ว่าผมกับบิ๊ก สามารถโตไปด้วยกันได้” แม่ผมถอนหายใจหลังจากผมพูดจบ

“แม่ไปพักผ่อนละ หวังว่าลูกจะเข้าใจในสิ่งที่พ่อกับแม่เลือกแล้วว่าดีสำหรับเรานะ ถึงจะใช้เวลา พ่อกับแม่ก็จะรอ” แม่ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปช้าๆ โดยไม่มองกลับมา

ผมจะใช้เวลาเหมือนกันครับ เวลาที่จะทำให้พ่อกับแม่รู้ว่า ความรักแบบที่ผมเลือก ก็มีอนาคตได้เหมือนกัน

……………….

วันเที่ยวก็มาถึง ผมตัดสินใจยึดวันเที่ยวออกไปจาก 7 วันเป็น 10-11 วัน แทน โดยที่ผมจะขับรถไปพักที่ชุมพรก่อนสักสองวัน แล้วไปภูเก็ตในวันที่สามถึงวันที่ 7 แล้วขากลับไปพักหัวหินอีกสักสองวัน ก่อนจะกลับมากทม. เพื่อให้ผมขับรถสบายๆ พาแทนนั่งกินลมชมวิวได้แบบไม่ต้องรีบร้อนอะไร

“เดินทางดีๆ นะ ขับรถดีๆ นะหลานบิ๊ก” คุณยายแทนที่แวะมาเมื่อวานนี้ เป็นคนแรกที่ส่งผมกับแทนขึ้นรถ

“ถึงที่พักก็โทรบอกแม่ด้วยนะ ส่วนบิ๊กก็ขับรถดีๆ ละ มันไกลอยู่” ผมพยักหน้ารับทราบในสิ่งที่คุณแม่แทนย้ำเตือนผม กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของผมกับแทนมีแม่บ้านหิ้วมาใส่ท้ายน้องแพนด้าที่ผมเปิดไว้

พาหนะคันประจำของผม Toyota 86 สีขาว ฝากระโปรงหน้ากับฝาท้ายคาร์บอนสีดำ ปีกหลังแบบ GT-Wings สีดำ รวมกับหลังคาสีดำ ทำให้รถคันนี้มีชื่อเล่นว่าแพนด้า ผมมองแทนผ่านแว่นกันแดด Tom Ford สีชา ในขณะที่แทนก็ใส่ Rayban กรอบทองสีเขียวแมงทับที่ผมพึ่งซื้อให้ ทำให้แทนน่ารักอย่างบอกไม่ถูก แน่นอนว่าแทนคอยป้อนน้ำกับขนมให้ผมทานระหว่างทาง มือมันไม่ว่าง ขวาจับพวงมาลัย ซ้ายต้องเข้าเกียร์ ผมเลยขับลากเกียร์ยาวๆ ในบางจังหวะ จะได้ว่างจับมือแฟนผมบ้าง

“แฟนเราขับรถใจเย็นขึ้นเยอะอะ” ผมยักคิ้วสงสัยว่าผมก็ขับตามปกติในแบบผมขับนะ

“เราไปเรื่อยๆ ไม่ได้รีบนะ หรืออยากให้ซิ่ง จะได้คุ้นใช่ม๊า” แทนไม่ตอบอะไร ผมมองไม่เห็นสายตาของแทน เพราะแว่นกันแดดบังอยู่ แต่ไม่ตอบอะไรแบบนี้ก็...

ผมกระทืบคันเร่งลากรอบเครื่องแล้วค่อยๆ ไล่เกียร์ขึ้นไปเรื่อยๆ จากที่วิ่งเรื่อยๆ แถว 90-100 KM/H ตอนนี้ไปถึง 140-160 KM/H เรียบร้อย ผมมุดรถทุกคันที่เหลือช่องเล็กช่องน้อยให้ผม บางช่วงที่เป็นรถบรรทุกพ่วง ผมต้องเพิ่มคันเร่งลงไปอีกเพื่อฉีกให้พ้นไวขึ้น เสียงลม เสียงระเบิดของท่อ และเสียงยางในบางช่วง ประสานกันจนพอบอกกับเพื่อนร่วมทางได้ว่า ผมกำลังขับแบบไม่ธรรมดาอยู่ แล้วพอช่วงข้างหน้ารถเยอะแล้ว ผมก็ชะลอกับมาขับแถว 80 KM/H เหมือนเดิม

“โอเคยังครับ” ผมหันกลับไปยิ้มให้แทนอีกที พอผมหันกลับไปมองถนนเหมือนเดิม ผมรู้สึกได้ว่าแทนพุ่งมาหอมแก้มผม

“รู้ไหมว่าเรามั่นใจ ปลอดภัย ต่อให้บิ๊กขับเร็วกว่านี้ เราก็มั่นใจ” ผมบอกไม่ถูก แต่มันทำให้ผมอมยิ้มเล็กๆ
 
“เราจะขับรถให้แทนนั่งจนกว่าจะไม่มีแรงนะ” คำสัญญาผมได้รับการตอบรับด้วยจุมพิตเล็กๆ ที่ประทับแก้มผม

เราทั้งคู่ออกเดินทางตอนเก้าโมงเช้า มาถึงโรงแรมในชุมพรเกือบบ่ายสามได้ แน่นอนว่าพอถึงที่พัก สิ่งที่ผมทำคือ ผลักแทนลงเตียง ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด แล้วอุ้มแตงเข้าไปอาบน้ำด้วยกัน ตอนผมนอนกับแทนที่บ้าน ผมไม่ได้ทำอะไรแทนเลย ไม่อยากให้เสียงลอดหรือดูไม่ดีอะไร มากสุดแค่อาบน้ำด้วยกัน นอนกอดจูบกันเฉยๆ

เมื่อร่างกายเราทั้งคู่สะอาดแล้ว ผมจัดเต็มบนเตียงกับแทนทุกท่าที่ผมสามารถควบคุมได้บนเตียงนอนที่นิ่ม เด้งไปมาได้ขนาดนี้ ร่างกายของผมตอบสนองการทำรักกับแทนเหมือนสัตว์ป่าที่ไม่ได้ทานอาหารมาหลายเดือน ในขณะที่แทนเองก็ตอบสนองผมผ่านเสียงร้องที่ดัง เล็บมือที่จิกกับกรีดแผ่นหลังผม ใบหน้าเปื้อนยิ้มพร้อมเสียงที่บอกถึงความพอใจ ทำให้ผมยิ่งเร่งจังหวะกับอัดเข้าให้ลึกเต็มแรงที่สุดไปเรื่อยๆ มันเหนื่อยไม่แพ้กับตอนผมต้องขึ้นชกมวยใต้ดิน แต่ผมก็ไม่หวั่น ผมรู้สึกว่าตลอดทริปนี้ ผมจะทำแบบชนิดนับสองมือก็ไม่พอให้ดู

“ตื่นได้แล้วครับ” ผมงัวเงียตื่นขึ้นช้าๆ แสงอาทิตย์ที่ส่องระเบียงห้องตอนนี้ บอกว่าเป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว

แทนที่ใส่แค่กางเกงในบรีฟสีน้ำเงินของ Groovin ตัวเดียวตอนนี้ มันทำให้ผมอยากกินแทนทั้งตัวแบบรอบบ่ายอีกที แทนตีไหล่ผมเบาๆ ก่อนจะบอกว่า

“อาบน้ำ แต่งตัวไปทานมื้อเย็นได้แล้วครับ แล้วก็ บิ๊กน้อยสงบก่อนไปกินข้าวด้วยนะ ชี้หน้าเราอยู่อะ”

ห้องนอนของโรงแรมที่ผมจอง เป็นบ้านหลังเล็กติดชายหาด ระเบียงห้องเปิดออกไปจะเห็นวิวทะเลทันที ในขณะที่ห้องอาบน้ำ ก็เปิดโล่งได้ ผมใส่เสื้อกล้ามคว้านข้าง กางเกงวอร์มขาสั้น ในขณะที่แทนใส่เสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้นเข้ารูป กางเกงค่อนข้างสั้นนิดนึง มันน่ารักมากอย่างบอกไม่ถูกทีเดียว

มื้อนี้ผมทานห้องอาหารริมหาดของโรงแรม ราคาสูงพอสมควร แต่ผมแอบหมดแรงกับกิจกรรมรักกับแทนเมื่อบ่าย จะให้ขับรถออกไปหาร้านทาน ก็คงจะยังไงอยู่ ผมสั่งค็อกเทลผลไม้แก้วใหญ่มากให้แทน ในขณะที่ผมขอจิบเบียร์เย็นๆ ขวดประมาณหนึ่ง อาหารบนโต๊ะทั้งสเต็ก ซีฟู๊ด รวมกันประมาณห้าจาน หมดลงค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะผมที่แทนจะคอยป้อนให้ผมเวลาผมวางมือไว้บนโต๊ะนิ่งๆ เพื่อเป็นการบอกให้แฟนผมต้องป้อนให้

“เพื่อความรักเราทั้งคู่” ผมชูแก้วเบียร์ขึ้น แทนชูแก้วค็อกเทลมาชนแก้วกับผม

“รู้เปล่าว่าโต๊ะอื่นเค้ามองเราอยู่” แน่นอนว่าไม่ใช่แค่แทนป้อนให้ผม ผมก็ป้อนให้แทนเหมือนกันแหละ และเช็ดปากให้แทนหลังทานเสร็จด้วยมือผมเอง

“เค้าอิจฉาเราครับ เราทั้งคู่หวานกัน” ผมโคตรมีความสุขเลยตอนนี้ เบียร์ที่จิบตอนนี้มันเลยอร่อยคอมากขึ้นทันที

“เรารู้สึกเหมือนพึ่งคบกับแทนเมื่อวานอย่างบอกไม่ถูก” แทนบีบจมูกผมเบาๆ

“พึ่งดื่มก็เมาแล้ว ไม่ไหวนะเนี่ย” ยังไม่เมาซะหน่อย

“สุราไม่เคยทำให้เราเมาเท่ากับ เมารักแทนนี่แหละ” เสี่ยวดีมะ แน่นอน มันเสี่ยวจนแฟนผมทำหน้าไม่ถูกเลย

“ไปเดินชายหาดไหม” ผมเรียกจดยอดค่าอาหารสำหรับจ่ายตอนเช็คเอาท์ แล้วถือขวดเบียร์เดินไปกับแทนด้วย

ชายหาดสงบเงียบที่เดินลงมาจากบริเวณของรีสอร์ท มีแสงไฟดวงใหญ่ๆ ที่ส่องมาเพื่อความปลอดภัยของผู้พัก แน่นอนว่าตอนนี้น้ำลงแล้ว เท้าของเราทั้งคู่จึงได้สัมผัสกับทรายนิ่มๆ ผมโอบเอวแทนเอาไว้ ในขณะที่มือซ้ายถือขวดเบียร์อยู่

“แต่ก่อนเราเคยกลัวไม่มีใครรักเรา แต่ตอนนี้เรากลัวการจากลามากกว่า” ผมเอยขึ้นขณะยืนมองทะเลข้างๆ แทน

“เราทุกคนเจอกันต้องมีวันจากลา เราอยู่กับปัจจุบัน” แทนเองคอเอาศีรษะมาพิงท่อนแขนของผม มือซ้ายของผมจับมือขวาของแทน แล้วผมก็ดื่มเบียร์ที่อยู่ก้นขวดให้หมด

“เราจะไม่จากแทนไปไหนอีก ไม่อยากจากไปไหนอีก” ผมคิดเรื่องที่คุณแม่แทนบอกผมแล้ว ทำให้ผมอึดอัดมาก

“ตอนนี้เราก็ได้อยู่ด้วยกันนะ” ผมทิ้งขวดเบียร์ลงแล้วดึงแทนมากอดแน่นๆ

“สัญญาไ้ด้ไหม แทนจะไม่ทิ้งเราไปไหนอีก” ผมกลัว กลัวเวลาที่มีน้อยนิดทั้งหมดนี้จะหมดลงไป

“สัญญาครับ ทุกสิ่งของเรา ให้บิ๊กตั้งแต่วันแรกที่ยืมดินสอในห้องเรียนแล้ว” ผมทนไม่ไหวแล้ว

“แม่แทนบอกว่าอีกสามเดือนจะพาแทนไปเรียนอเมริกา” ผมกอดแทนให้แน่นขึ้น น้ำตาลูกผู้ชายของผมมันไหลออกมาเพราะความอึดอัดในใจที่ผมเก็บมาตลอด

แทนค่อยๆ ถอยออกจากอ้อมกอดผม รอยยิ้มกับสายตาที่แทนมีให้ผมตอนนี้ ไม่มีทีท่าความกังวลอะไร มือทั้งสองของแทนค่อยๆ ปาดน้ำตาที่เริ่มอาบแก้มผมเบาๆ แล้วกอดผมแน่นๆ อีกที

“ถ้าแม่เราอยากให้ไปเรียนที่นั้นจริงๆ เราก็ไม่ไปหรอก ถ้าเราต้องไป บิ๊กก็ต้องไปกับเรา อีกอย่างนะ ยังมีเวลาอีกนานที่เราจะอยู่ด้วยกัน” ผมกลับรู้สึกว่าแฟนผมแค่พูดให้ผมสบายใจเฉยๆ

“ถ้าบิ๊กกลัวว่าแม่เราจะทำอะไรรุนแรงอีก ไม่ต้องห่วงนะ อย่างน้อย คุณยายก็เป็นแม่ยกเรื่องของเราอยู่ ถ้าแม่เราจะทำอะไรที่ไม่โอเค คุณยายก็ไม่ยอมแน่ๆ ละก็ เราว่าพ่อกับแม่เรายอมอ่อนลงแล้วนะ ไม่งั้นไม่บอกบิ๊กดีๆ แล้วให้เวลาได้อยู่กับเราแบบนี้หรอก” มันก็จริง

ทันทีที่ผมจะอ้าปากพูดความคิดที่น่ากังวลของผม แทนประกบริมฝีปากผมเอาไว้ทันที สัมผัสของริมฝีปากที่เราทั้งสองกำลังสัมผัสอยู่ ทิ้งความกังวลผมในส่วนลึกออกไปจนหมด

ขอให้ชายหาด แสงจันทร์ ทะเล ช่วยอวยพรให้ความรักของผมทั้งสองคนด้วยนะครับ

************

ไม่ได้เขียนเร็วเท่ากับช่วง 30 บทแรกมานานมากแล้วครับ มองไปมองมา ลงนิยายเรื่องนี้เกินปี เสร็จช้าที่คิดไปสามเดือนได้...(เพราะตัวเองแท้ๆ)

เหลืออีก 8 บท (หรืออาจน้อยกว่านั้น) ตอนพิเศษวางไว้สองตอน ทำเสร็จแล้วหนึ่งตอน เหลืออีกตอน

ถ้าไม่ผิดพลาดอะไร ก่อนพฤษภาคม น่าจะลงหมดแน่ๆ ละครับ ส่วนบทที่ 73 น่าจะได้อ่านเร็ว เพราะบิ๊กกับแทนยังอยู่ในช่วงหวานก่อนเจอของจริงในบทที่ 74 จนไปหวานอีกทีสองบทสุดท้ายก่อนจบนี่แหละครับ

ขอบคุณคนอ่านอีกหลายๆ ครั้งครับผม^^

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ลุ้นๆๆ ติดตามอยู่นะคะ  :mew1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :serius2:

อ่านกี่ทีก็แบบ

บิีกโครตโชคดีมากๆๆๆๆๆๆๆ ที่ได้แทนเป็นแฟน

ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้ถอยไปแล้วมั้ง orz

**

จะไปเรียนที่ไหนก็ลากบิ๊กไปด้วยนะ ;p ฟีลลิ่งว่าแทนคิดแล้วทำได้จริง เจ๋ง :katai2-1:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
รอฟังข่าว บิ้กกะแทนอยู่น้าา

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
รอฟังข่าว บิ้กกะแทนอยู่น้าา

กำลังเขียนอยู่นะครับ ช่วงนี้ทำงานหลักจนแทบไม่เหลือเวลานอนเลยครับT_T

จะรีบมาลงในวันสองนี้นะครับ^^""

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 73 ++
«ตอบ #999 เมื่อ06-05-2016 04:06:24 »

หายไปสองเดือนกว่าๆ

ขออภัยอย่างยิ่งเลยครับ ใครที่ไม่ตามอ่านเพราะผมมาช้า ผมขออภัยจริงๆ ครับ ชีวิตผมมีความรับผิดชอบเพิ่มขึ้นหลายอย่างมาก ใจได้แต่อยากเขียน บางทีก็เขียนไม่ออก เพราะนึกไม่ออกว่าจะเรียบเรียงสิงที่อยู่ในหัวยังไงให้ออกมาตามที่คิด แต่ที่แน่ๆ เหลืออีก 6-7 บทสุดท้าย ปิดเรื่องละครับ

ผ่านบทที่ 73 ไป จะเป็นจุดหักเหสำคัญที่สุดที่ทำให้ทุกอย่างเดินไปถึงตอนจบได้ครับ และต่อไปจากนี้ เรื่องหนักสุดของชีวิตแทนกำลังจะเกิดขึ้นแน่นอนครับ

มาอ่านกันต่อครับ^^

***********

Chapter 73

ดวงตาของผมเปิดขึ้นเมื่อแสงสลัวส่องเข้าตามา สองวันที่ชุมพรผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่สี่ทุ่มจนถึงตีสอง ผมไม่ปล่อยให้แทนได้นอนเฉยๆ ผมรู้สึกตัวเองหลุดจากความเป็นคนจนกลายเป็นสัตว์ป่า แทนโดนผมกระหน่ำความกระหายจนผมไม่แน่ใจว่าหนักไปไหม ร่างกายของแทนที่มีแค่ผ้าห่มคลุมตัวตอนนี้ ยังคงหลับสนิทจนเหมือนหลับลึกอยู่

ผมใส่กางเกงในให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินออกไปรับอากาศยามเช้า ชายหาดที่ผมกับแทนได้กอดกันเมื่อคืน ตอนนี้ดูโล่งมาก ผมบิดขี้เกียจไปมาเล็กน้อย ที่จริงแอบหมดแรงกับเมื่อคืนพอสมควร วันนี้ต้องเดินทางเข้าภูเก็ตแล้ว ผมกลับไปจู่โจมแทนที่กำลังหลับอยู่ ผมซุกไซร้ซอกคอของแทน ก่อนจะลากริมฝีปากสัมผัสเบาๆ ที่หน้าอกกับหัวนมของแทนเบาๆ สักครู่ต่อมา แทนรู้สึกตัวเรียบร้อย

“Morning ครับ” ผมรีบพุ่งมาทักทายในขณะที่ตัวผมคร่อมทับแทนไว้ไม่ให้ไปไหน

“แกล้งเราอีกแล้ว” ผมเอาปลายจมูกผมชนกับจมูกแทน ก่อนจะดูดปากแฟนผมแบบไม่สนใจเรื่องกลิ่นหรือขี้ฟัน แบบที่แฟนผมชอบเบรคไว้ ถ้าไม่ให้ผมจูบ ผมจะกดไว้แบบนี้แหละ

“ชอบกินขี้ฟันเราเหรอ ไม่ปล่อยเราไปแปรงฟันก่อนทุกที” แบบนี้ต้องจูบอีกที

“อร่อยดี จะกินทุกเช้า โอเคนะ” แทนไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้มอ่อนๆ กับหลบสายตาผม

สักครู่ต่อมา เราทั้งคู่อยู่หน้ากระจก แปรงฟัน ล้างหน้า ก่อนจะใส่ชุดที่ไปกินมื้อเย็นเพื่อไปทานมื้อเช้าของโรงแรม หลังจากได้โต๊ะแล้ว เราทั้งคู่ทยอยไปตักสิ่งที่อยากทานมาจน...

“นี่กะไม่เหลือท้องกินมื้อเที่ยงเหรอ” แทนเห็นผมตักสารพัดสิ่งมากองเต็มโต๊ะแล้ว คงคิดว่าผมกินอิ่มยาวแน่ๆ

“บำรุงหน่อยซิ เที่ยวอีกยาวนะ เดี๋ยวน้องไม่แข็งแรง” แทนทำหน้ามองบนใส่ผมซะงั้น

“ลามก” แฟนผมพูดแบบนี้ได้ไงอะ ปกติไม่เคยว่าไรเลยนะ

“แล้วชอบไหมละ” แทนไม่ตอบ แต่พยักหน้า แล้วตักข้าวต้มเข้าปากทันทีโดยไม่มองผม

“ถ้างั้น ทานไส้กรอกไหม อร่อยน๊า” ผมหั่นไส้กรอกให้เป็นคำๆ แล้วป้อนให้แทนถึงปาก

“อร่อยไม่เท่าไส้กรอกที่เราเคยทาน” แทนพูดเร็วมาก แต่ผมแกล้งไม่ได้ยิน แต่ก็อดไม่ยิ้มไม่ได้ซะงั้น

หลังจากทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว มันไม่อิ่มจริงๆ ด้วย แต่อดใจไว้ก่อน ถ้าผมทำอีกสักยกก่อนขับรถ ผมอาจมีหลับในขณะขับรถเอาได้ การเดินทางไปภูเก็ตวันนี้ค่อนข้างโล่งกว่าที่ผมคิด ถนนโล่งพอสมควร แต่ที่แน่ๆ แทนหลับหัวพิงหน้าต่างไปเรียบร้อย ผมเลยขับช้าๆ เรื่อยๆ เพราะไม่อยากให้แทนตื่น

“เข้าห้องน้ำไหม” ผมจอดแวะปั้มเติมน้ำมันกับปลุกแทนไปล้างหน้าในตัว

“เราหลับไปนานเปล่า” ผมหอมหน้าผากของแทนหนึ่งที

“ไม่นานหรอก ตั้งแต่ออกจากโรงแรมแหละ นี่ปั้มสุดท้ายก่อนข้ามสะพานสารสินเข้าเกาะภูเก็ตละ” แทนพยักหน้าก่อนจะปลดเข็มขัด แล้วลงไปบิดขี้เกียจสักนิด ส่วนผมถอยรถออกจากหน้า 7-11 ในปั้มเพื่อไปเติมน้ำมัน เติมเสร็จขยับรถกลับไปจอดที่เดิม ก่อนจะลงไปเข้าห้องน้ำ แล้วไปเจอแทนที่เดินเลือกของกินใน 7-11 เกือบเต็มตระกร้า จนผมไม่แน่ใจว่า กลับไปรอบนี้ เราทั้งคู่จะน้ำหนักขึ้นกันแค่ไหน

“บิ๊ก จะถึงสะพานสารสินยังอะ” ผมดูตำแหน่งของ GPS ใน Maps นำทางของ iPhone สักครู่

“ก็อีกไม่ไกลนะ” ผมขึ้นเกียร์เร่งหนีรถบรรทุกคันหน้าให้พ้น

“ถึงสะพานแล้ว อธิฐานสิ่งที่หวัง แล้วกลั้นหายใจจนกว่าจะข้ามพ้นสะพานนะ เค้าว่าสิ่งที่ขอจะเป็นจริง” จริงอะ

“เหรอ สะพานยาวนะ ขับเร็วๆ ได้ใช่ปะ” ถ้าให้ผมกลั้นหายใจขับ 60-80 KM/H ผมคงขาดใจตายก่อนแหง่ๆ

“ก็ได้นะ เค้าไม่ได้บอกว่าต้องขับเร็ว ขับช้า” โอเค เดี๋ยวซิ่งอย่างไวเลย

พอไปถึงสะพานสารสินแล้ว ผมมองไกลๆ รถข้างหน้าไม่ค่อยมี ถ้าจะอัดเต็มก็ไม่น่าอันตรายมากนัก ผมหันไปมองแทนรอบหนึ่งก่อนเพื่อให้สัญญาณว่า ผมกำลังจะอัดเต็มละนะ ทันทีที่หน้ารถเข้าสะพาน ผมเริ่มกลั้นหายใจ แล้วดึงเกียร์ลงหนึ่งเกียร์ลากรอบแล้วตบขึ้นทันที ตอนนี้ผมใช้ความเร็วบนสะพานไปถึง 180 KM/H ซึ่งพอสำหรับการขับแล้วไล่มุดรถที่วิ่งบนสะพาน และเพียงอึดใจเดียว ผมใช้ช่วง 50 เมตรสุดท้ายของสะพานเริ่มดึงเกียร์ลงให้ต่ำ พร้อมกับถอนคันเร่งปล่อยไหลไปเรื่อยๆ กดเบรกหนักๆ ไปที และปล่อยให้ความเร็วของรถไหลลงช้าๆ ไปเรื่อยๆ

“โอเคไหมครับ” ผมมั่นใจว่าแฟนผมไม่ได้กลั้นหายใจจนหน้าเขียวซะก่อน

“สบายๆ เสียวบิ๊กขับมุดมากกว่าอีก” เราออกจะขับปลอดภัย กลัวได้ไง

“บิ๊กขออะไรไปเหรอ” ผมคิดว่าจะ...

“แทนบอกก่อนซิ” ผมอยากรู้ของแทน แต่ผมไม่บอกแทนหรอกว่าผมขออะไรไป

“ขี้โกงอะ ไม่บอกมั่ง ไว้วันเกิดบิ๊กจะเฉลยให้ฟังละกัน” โหย ไรอะ

“ไรอะ บอกดิๆๆๆ” แทนแกะป็อกกี้ใส่ปากผมก่อนจะหันไปมองวิวนอกหน้าต่างโดยไม่สนใจผม งั้น...ไว้วันเกิดเรา เดี๋ยวบอกแทนดีกว่า

……………….

ภูเก็ตเป็นเกาะที่ขับรถค่อนข้างยาก ถนนค่อนข้างแคบ มุมหลอกตาให้เกิดอุบัติเหตุค่อนข้างมาก แต่ก็สนุกสำหรับการเล่นไลน์ถนนตามประสาคนติดซิ่งอย่างผม แต่ผมพาแฟนมา ก็เลยต้องขับเรียบร้อยสักหน่อย หลังจากทานข้าวเที่ยงแล้วที่พักที่ผมเลือกสำหรับทริปนี้เป็นโรงแรมที่ติดริมผา มีตุ๊กตาหมีเป็นของประดับทั้งโรงแรม ห้องพักที่ผมเลือก ระเบียงเป็นหญ้าเทียมให้เดินเท้าเปล่ากันได้ด้วย

“วิวสวยเนอะ” ผมเดินมากอดข้างหลังแทนที่กำลังยืนมองวิวจากระเบียง

“ใช่ สวยจนเราอยากให้บิ๊กกับเราอยู่มองด้วยกันทุกปี” ผมเอียงแก้มไปชิดกับแทน

“งั้น เราจะมาดูใหม่ที่นี่ทุกปี ตรงนี้ ห้องนี้ จนกว่าโรงแรมจะเจ๊งนั้นแหละ” ผมมั่นใจว่าเราจะได้มายืนตรงนี้ด้วยกันตลอดไป

“ไม่อยากกลับไปเลย อยากอยู่แบบนี้ เบี้ยวเรื่องไปเมกาไปเลยยิ่งดี” แทนเอยขึ้นมา ก่อนจะหันมากอดผม

“อุ้มเข้าไปหน่อย เราอยากเกาะไว้แบบนี้อะ” หาเรื่องให้ผมออกแรงซะแล้ว

แล้วคิดว่าผมจะปล่อยแฟนผมลงง่ายๆ เหรอ เสร็จผมซิครับ

“ตื่นได้แล้วๆ” ผมงัวเงียลืมตาขึ้นมา หลังจากแทนเสร็จผมไปสองรอบติดๆ

“กี่โมงแล้ว” ผมรู้สึกว่ามันน่าจะค่ำแล้วแหละ

“ทุ่มนึงแล้ว” มิน่า หิวข้าวอย่างบอกไม่ถูก

“งั้น ล้างหน้าแป็ปนะ” ผมลุกไปล้างหน้าให้เรียบร้อย และคิดอยู่ว่า จะพาแทนไปทานข้าวที่ไหนดี และผมก็นึกออกแบบทันทีว่า 

ผมรบกวนพี่ที่หน้าประชาสัมพันธ์ของโรงแรม ช่วยหารถมอไซค์เช่าให้หน่อย แล้วผมก็ได้ Yamaha Fino สีขาวมาคันนึง การขับมอไซค์แบบเกียร์ออโต้ เหมือนจะง่าย แต่ผมไม่คุ้นเอาซะเลย แต่มันให้อารมณ์สนิทกับคนที่ซ้อนท้ายได้มากกว่าการขี่น้องถ่านคันประจำจริงๆ แทนที่นั่งหลังดูร้านว่าจะไปกิน

“ให้ขวดเดียวนะ” ผมพยักหน้ารับทราบหลังจากที่ได้ร้านสำหรับมื้อเย็น สั่งเสร็จ ผมก็...ขอสักขวดละกัน

“ก็อยากอะ เดี๋ยวคืนนี้ดื่มต่อ น้อยนิด แต่อร่อย” แทนมองบนใส่ผมเลยอะ

“จะไปเรียนวิทย์ฯกีฬา ต้องดูแลสุขภาพนะ มาดื่มแบบนี้ไม่ได้นะรู้ไหม” นั่นไง...ก็แค่มาเที่ยวนะครับ ผมส่งสายตาน่ารัก กระพริบตาอ้อนไปหา แทนจะมองบนต่อก็ไม่สน

“เราคิดไรออกด้วยแหละ กะว่ากลับไปจะลองดู” ผมเกริ่นอะไร งงๆ ให้แทนฟัง

“เราจะไปบอกแม่เรา ว่าให้ไปสู่ขอแทนไว้ก่อน” ผมไม่คิดเล่นๆ นะ ทำจริงด้วย

“เพี้ยนแล้ว แม่เราไม่ยอมหรอก” แทนยังฟังไม่จบเลยๆๆ

“ถ้าผู้ใหญ่คุยกัน มันอาจจะดีกว่าเด็กอย่างเราคุยกับแม่ของแทนก็ได้ อีกอย่าง แม่เราโอเคแน่ๆ ถ้าจะให้แทนเป็น...” ผมเขินอะ ที่จะบอกว่า

“เป็นสะใภ้บ้านเราอะ” ดูแก่แดดชิบ แต่ผมอยากให้เป็นตอนนี้ด้วยซ้ำ กลับกทม. พรุ่งนี้เลยก็ยังได้
 
“อันที่จริง เราก็ไม่รู้หรอกว่าทำไงถึงจะทำให้เรื่องของเราไม่จบลงที่ แทนต้องไปอเมริกา แล้วเราไม่เจอหน้ากันอีก ที่เราคิด ก็แค่หวังว่า คงเป็นทางหนึ่งที่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน” ผมวางขวดเบียร์ลง แล้วจับมือแทนไว้ ผมไม่พูดอะไรนอกจากมองแทนนิ่งๆ แล้วดึงสองมือแทนขึ้นมาหอมหนึ่งที

“ไม่รู้จะพูดไรอีก แต่เอาว่า กลับไปแล้ว เดี๋ยวจะให้แม่มาขอนะ” แทนไม่ตอบอะไร แต่ผมรู้สึกได้ว่าแฟนผมยิ้มอยู่

หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จ แทนไม่ยอมให้ผมขับมอไซค์กลับเอง ทั้งที่ผมดื่มแค่ขวดเดียว ผมเลยไปเดินรอบๆ แถวนั้นเพื่อให้แทนแน่ใจว่า ผมไม่เมาแน่นอน (ขวดเดียวไม่สะดุ้งไรเลยนะ) แถวที่ผมทานมื้อเย็น เป็นตลาดนัดกลางคืนย่อมๆ จึงเดินฆ่าเวลาได้เรื่อยๆ แต่...

“บิ๊กๆ วาดรูปไหมคู่ไหม” แทนชี้ไปที่ซุ้มศิลปินท่านนึงที่มีภาพวาดแนวการ์ตูนวางเป็นตัวอย่างอยู่

“เอาดิ” ผมจูงมือแทนไปเลย

“พี่ครับ วาดรูปคิดเท่าไหร่ครับผม” ผมถามราคาพี่ศิลปินที่กำลังว่างอยู่ตอนนี้

“1500 ครับ วาดไม่นานนะครับ” ผมตกลงทันที

“รูปเดียวคนละรูปใช่ไหม” ผมตอบทันทีเลยว่า

"ไม่ใช่ครับ รูปคู่ผมกับแฟนผมครับ" แทนดูจะเขินที่ผมตอบ แต่พี่จิตรกรกลับยิ้ม พยักหน้า แล้วยกดินสอเล็งผมทั้งคู่ แล้วถามผมว่า

"เราทั้งคู่คบกันนานยังครับ" ผมคิดว่าพี่เค้าคงคิดอะไรก่อนวาดอยู่ หลังจากผมกับแทนมองหน้ากันสักครู่
 
"สามปีครับ" แทนเป็นคนตอบคำถามนี้ แล้วพี่จิตรกรก็พยักหน้า ก่อนจะบอกผมว่า

"นั่งจับมือกัน แล้วเอียงคอซบกันเล็กน้อยนะ พี่ว่ามันดูน่ารักดี" โอเค จัดให้ครับ

ตลอดเวลา 45 นาทีที่ตั้งท่าให้วาดรูป ผมรู้สึกได้ว่า ท่าจับมือให้วาดรูป เป็นเป้าสายตาสำหรับใครหลายคนอยู่พอสมควร ผมรู้สึกภูมิใจอย่างบอกไม่ถูก บางคนก็แอบถ่ายรูปคู่ผม ส่วนใหญ่จะเป็นเกย์ที่ดูสาวหน่อย รวมถึงกลุ่มเกย์จากจีนที่มาเที่ยว แต่ผมกับแทนก็ยังคงนั่งนิ่งๆ จับมือ เอียงคอให้วาดกันต่อไป จนเวลาผ่านไปสักครู่ พอจะให้มือรู้สึกชุ่มเหงื่อเล็กๆ

“เสร็จละครับน้อง” ทันทีที่เราทั้งคู่เห็นภาพวาด ผมแทบอยากให้เงินมากว่านั้น มันเป็นภาพการ์ตูนที่ ผมดูเข้ม แทนดูหวาน พื้นหลังเป็นโซฟา อารมณ์อีกนิดก็ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะแล้วแหละ ทั้งผมกับแทนต่างก็ยกนิ้วโป้งชอบรูปนี้แบบไม่ได้มองหน้ากันก่อน

แทนนั่งซ้อนท้ายผมกลับโรงแรม โดยที่ภาพวาดถูกม้วนใส่กระบอกไว้อย่างดี ผมขับ Fino คันน้อยช้าๆ ท่ามกลางบางช่วงของเส้นทางที่เหมือนเมืองที่หลับลงไปแล้ว แต่บางมุมก็ยังไม่หลับ แถมคึกคักเหมือนพึ่งเริ่มต้นด้วยซ้ำ บิ๊กเองก็แอบขับวนๆ อ้อมๆ ก่อนกลับโรงแรมเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ สักเล็กน้อยก่อน

“ตลกดีอะ” แทนที่อาบน้ำเสร็จแล้วกำลังนั่งดูรูปอยู่บนเตียง ส่วนผมก็พึ่งอาบเสร็จหมาดๆ

“น่ารักออก ดูดิ วาดเราดูหวานๆ วาดแทนดูเข้ม ตกลงใครเป็นสามี ภรรยากันเนี่ย” ผมโดดขึ้นเตียงมากอดแทนจากด้านหลัง

“จะนอนแล้วนะ ทำอะไรก่อนนอนดี” ผมปลดผ้าชนหนูที่พันตัวออก ส่วนแทนไม่ตอบอะไร นอกจากค่อยๆ ม้วนรูปเก็บลงกระบอก แต่แทนก็ยังไม่ยอมหันมาซะที

“นับ 3 นะ ถ้าไม่หันจะ...” แทนหันมาประกบริมฝีปากเอาไว้ก่อนผมพูดจบ

“อยู่ในอุ้งมือแบบนี้ จะหนีไปไหนได้ละ” ถูกต้องครับ หนีไม่ได้แล้ว

กิจกรรมประจำวันก่อนนอนที่มีแค่แทนเท่านั้นที่ผมยินดีจะทำด้วยก็เริ่มต้น ถึงเตียงจะนิ่มไปนิดก็เถอะ...

……………….

หลังจากกลับมาจากเที่ยวยาวแล้ว ผมกลับมาบ้านที่ขอนแก่น เพราะไม่ได้อยู่กับคุณยายนานแล้ว สงกรานต์ที่ผ่านมา บิ๊กกับเพื่อนๆ ทุกคนก็ขึ้นมาเล่นน้ำด้วยกันที่โคราช ก่อนที่ทั้งผมกับบิ๊กและเพื่อนๆ แวะกลับไป กทม. เพื่อเคลียร์เรื่องรับตรงมหาวิทยาลัย แล้วผมก็กลับมาขอนแก่นคนเดียว

“คุณยายครับ วันเกิดบิ๊กปีนี้ ขอใช้บ้านคุณยายเลี้ยงวันเกิดนะครับ” ผมเอยขึ้นขณะที่กำลังช่วยคุณยายตัดกิ่งไม้เลื้อยในสวนรอบบ้าน

“ได้ซิ วันไหนละ ยายจะได้ทำกับข้าวไว้ให้” คุณยายกำลังเล็งกิ่งแก่ที่จะตัดออก

“20 นี้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะไปจ่ายตลาดในเมืองซื้อของนะครับ” ผมวางกรรไกรแล้วเริ่มกวาดเศษกิ่งไม้

“ให้เจ้ากบพาหลานไปตลาดนะ นั่งรถยายไปจ่ายตลาดก็ได้” ผมพยักหน้ารับทราบ ก่อนจะช่วยกวาดเศษกิ่งไม้ที่เหลือ ในหัวก็คิดอยู่ว่าจะทำอะไรให้บิ๊กทานดี ที่แน่ๆ เค้กวันเกิดปีนี้คงซื้อเอาดีกว่า เพราะไม่สะดวกจะทำเท่าไหร่

“ฮัลโหล มะรืนนี้มาบ้านเราได้เปล่า” ผมโทรหาบิ๊กหลังจากช่วยคุณยายเสร็จ แล้วกลับขึ้นมาบนห้องนอนตัวเอง

“ตอนนี้ก็ยังได้ครับ” คำตอบเวอร์ๆ แบบบิ๊ก ทำให้ผมยิ้มได้เสมอ

“20 นี้มาบ้านเราที่ขอนแก่นนะ ก่อนบ่ายได้ไหมครับ” กะว่าเดี๋ยวพาบิ๊กไปทำบุญวัดที่ครอบครัวผมไปทำประจำ

“โผล่ไปแต่เช้าเลยดีกว่า ขับรถแป็ปเดียวก็ถึงแล้วนะ” รู้ว่าแป็ปเดียว แต่ไม่ต้องรีบนะ

“คร๊าบ ขับรถดีๆ ห้ามซิ่งด้วย รักนะครับ” เวลาบิ๊กขับรถคนเดียว รู้นะว่าจะเร็วขนาดไหน

“รักแทนที่สุดครับ เจอกันนะครับ” ผมวางสายลงด้วยรอยยิ้ม เวลาเราห่างกัน สิ่งที่ผมชอบคิดถึงคือ

ตอนนี้บิ๊กจะยิ้มอยู่ไหม มีความสุขไหม เจออะไรดีๆ ทำอะไรก็ราบรื่นไหม...ผมอยากอยู่ข้างๆ บิ๊กเสมอนะ

หลังจากผมวางสายแทนไปเสร็จ ผมรีบเอาน้องแพนด้าไปเช็คสภาพให้เรียบร้อย เพราะช่วงที่ผ่านมาใช้เดินทางต่างจังหวัดซะเยอะ แล้วผมก็คิดออกแวะไปซื้อพวกขนม ของกินที่แทนชอบมาเก็บไว้ กะว่าจะไปอยู่ด้วยสักอาทิตย์ซะหน่อย อารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก และพอกลับมาถึงบ้าน

“แม่หวัดดีครับ” ผมแทบคุยนับครั้งได้กับแม่ในช่วงสามสี่เดือนหลังที่ผ่านมา ผมแอบดีใจที่เห็นแม่นั่งสบายๆ ไม่มีกองแฟ้มล้อมรอบโต๊ะรับแขกแบบที่ผมเห็นจนชินตา

“เอารถไปซ่อมเหรอ” ผมพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะไปนั่งข้างๆ แล้วกอดแม่สักที

“เมื่อไหร่แม่จะมีเวลาอยู่ด้วยเยอะๆ บ้างครับ” ผมพูดจากความรู้สึกตัวเองจริงๆ นะ แม่ผมทำหน้างงๆ ว่าผมมาไม้ไหนกันแน่

“มาแบบนี้จะขออะไรแม่ละ” ไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย แต่แม่ทักมางี้ ก็พูดเลยดีกว่า

“แม่ครับ ถ้าบิ๊กอยากขอแฟนแต่งงานตอนนี้จะได้ไหมครับ” ผมคิดไว้ว่า พอบอกไป แม่ผมต้องทำหน้าแปลกๆ แล้วก็ทำหน้าแปลกๆ ใส่ผมจริงๆ

“งั้น ตอบแม่มาก่อนว่า ช่วงที่ผ่านมา ทำไมกินเหล้าหนักมาก แถมเสื้อผ้าบางชุดลูกมีคราบเลือดด้วย ลูกไปทำไรมา” ถ้าให้ผมตอบคำถามก่อน แม่ก็ต้องตอบของผมก่อน

“ตอบคำถามบิ๊กก่อนได้ปะครับ นะๆๆ” แม่ผมแค่พยักหน้า แล้วชี้นิ้วขึ้นมานัยฯ ว่าให้ผมตอบคำถามบ้าง

“ช่วงเทอมสุดท้ายที่ผ่านมา แม่ของแทนเค้าเจอผมนอนกับแทนอยู่ คือ แม่เค้าไม่โอเคเรื่องที่ผมคบลูกเค้า ทีนี้ อะไรๆ ก็แย่จนแทนขอเลิก ตอนนั้นผมเลย...ผมขอโทษครับแม่ แต่ผมทำไรไม่ถูกจริงๆ” แม่ผมลูบศีรษะผมช้าๆ ก่อนจะบอกว่า

“รู้ไหม แม่เสียใจมากตอนที่เห็นบิ๊กเป็นแบบนั้น แล้วแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะบิ๊กไม่ยอมเล่า ถ้าแม่บังคับถาม แม่ก็รู้สึกเหมือนกำลังซ้ำเติมสิ่งที่ลูกเสียใจอยู่ แม่อยากบอกว่า ไม่ว่าบิ๊กจะเจออะไรมา ไม่ว่าแม่จะทำอะไรอยู่ แม่จะรีบมาหาทันที เพราะลูกคือของขวัญชิ้นเดียวที่แม่มีในชีวิตนี้ ถ้าบิ๊กเป็นอะไรไป แม่ก็คงอยู่ไม่ได้เช่นกัน” ผมกอดแม่แน่นๆ อีกที รู้สึกโกรธตัวเองที่ชอบคิดว่าแม่ไม่รักเราเอาซะเลย

“บิ๊กอยากให้แม่ไปขอแทนเอาไว้ คือ...แม่แทนจะพาแทนไปเรียนเมืองนอก แล้วไม่ให้กลับมาอีก บิ๊กคิดไม่ออกแล้วว่าจะทำไงดี เลยคิดว่าวิธีนี้น่าจะโอเคสุดแล้ว” ผมรู้สึกตัวเองไร้เดียงสาโคตรๆ ที่คิดวิธีนี้ออกมา

“ฟังแม่นะบิ๊ก บิ๊กยังไม่ต้องไปขอแทนหมั้นหมายแต่งงานอะไรหรอก พาแม่ไปหาครอบครัวแทนได้ไหมละ” ผมรู้สึกตกใจว่า แม่จะเอาจริงเหรอ ครอบครัวของแทนน่ากลัวจะตาย

“ตอนบิ๊กพาแทนมาบ้าน แม่ก็รู้แล้วว่าคนๆ นี้พิเศษเกินกว่าเพื่อนลูกแน่ๆ” ผมงงว่าทำไมแม่รู้ละ

“แม่ไม่เคยเห็นบิ๊กมองใครด้วยแววตาแบบนั้น ลูกยังไม่เคยมองแม่ด้วยสายตานั้นเลย แม่ไม่เคยคิดเรื่องว่า ลูกต้องรักผู้หญิงหรืออะไรนะ แม่รู้ว่าแม่ไม่เคยดูแลบิ๊กดีอย่างแม่คนอื่นที่ดูแลลูก แม่เห็นแทนเป็นเด็กสุภาพ ไม่มีอะไรแอบแฝงกับบิ๊ก แม่ก็ดีใจแล้วว่า ถ้าคนๆ นี้ จะทำให้บิ๊กมีความสุขได้ แม่ก็สบายใจแล้วเหมือนกัน” ผมรู้สึกตัวเองแย่อย่างบอกไม่ถูกเลย

“แม่ครับ บิ๊กขอโทษนะครับ” แม่ผมกอดผมแน่นๆ

“ลูกไม่เคยทำอะไรผิดสำหรับแม่ แม่ต่างหากที่ต้องขอโทษที่ดูแลบิ๊กไม่ดีพอ” ผมได้แต่พยักหน้าในอ้อมกอดของแม่ผม

“แม่พอจะรู้ว่าบ้านของแทนเป็นไง ไว้หาจังหวะดีๆ แม่จะเข้าไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่ของแทนให้เอง” ผมรู้สึกผิดที่คิดว่าแม่ไม่เคยรักผมเลย ผมเผลอร้องไห้ตอนไหนก็ไม่รู้

“แม่รู้ไหม แทนเป็นผู้ชายคนเดียวที่บิ๊กรู้สึกพิเศษแบบนั้น ลูกชายแม่ไม่ได้เป็นตุ๊ดเป็นเกย์นะครับ” ผมกลัวแม่ฝืนใจเรื่องเพศสภาพผมนะ

“ลูกจะเป็นอะไร แม่รับได้หมด ขอให้ลูกอยู่ได้ เป็นคนดี แม่โอเคหมดนะ” ผมกอดแม่แน่นๆ ต่อไม่ปล่อย

“แม่ครับ หลังวันเกิดผม ผมจะนัดแม่มาเจอครอบครัวแทนนะครับ” แม่ผมตอบแค่ลูบศีรษะผมเบาๆ

บิ๊กรักแม่นะครับ ขอโทษแม่ที่ทำอะไรไม่ดีกับแม่ไว้เยอะด้วยนะครับ

……………….

พรุ่งนี้แล้วซินะ วันเกิดปีที่ 18 ของบิ๊ก ผมคิดเมนูกับหาเค้กได้เรียบร้อยแล้ว ตักบาตร ทานมื้อเช้าเสร็จ คุณยายมีธุระต้องไปหาหมอก่อน ผมเองก็กลัวตลาดจะวายซะก่อน เลยต้องงัดวิชาพื้นฐานของเด็กต่างจังหวัดต้องทำได้ นั้นคือการขับมอไซค์ไปเอง โดยมอไซค์ Wave คันที่ผมจะขับไป เป็นรถของอากบ คนขับรถของคุณยายผมเอง

“คุณแทนรอไอ้กบมันกลับมาก่อน เดี๋ยวค่อยไปตลาดก็ได้คะ” น้าจำเนียรดูจะไม่เห็นด้วยที่ผมจะไปจ่ายตลาดด้วยการขับมอไซค์ไปเอง

“ผมขับไม่เร็ว ขับระวังนะครับ” แต่น้าจำเนียรยังคงส่ายหน้าไม่โอเค

“คุณแทนแทบไม่ได้แตะรถเครื่องนะคะ น้ากลัวคุณแทนขับไม่แข็งนะ” แต่ชีวิตผมอยู่กับสองล้อความเร็วสูงตลอดนะครับ

“น้าต้องได้ซ้อนท้ายมอไซค์บิ๊ก ขานั้นขับซิ่งจนเสียวเลยแหละครับ ผมไปแป็ปเดียวนะ โทรสั่งของหมดแล้วด้วย นะครับๆ นะๆๆ” น้าจำเนียรดูจะไม่ยอม แต่ก็ไปหยิบหมวกกันน็อคมาให้

ผมค่อยๆ ขับออกจากบ้านไป พอถึงถนนใหญ่ ก็รอจังหวะให้ขัวร์แล้วค่อยขับไปชิดซ้ายฝั่งถนน เพราะผมไม่ขับเร็วมาก บ้านผมกับตัวเมืองอาจจะใช้เวลาเล็กน้อยถ้าผมค่อยๆ ไปช้าๆ มองดูเวลาก็รู้สึกว่าถ้าค่อยๆ คลานไปแบบนี้ อาจไปถึงตลาดสายเอาได้

เอาจริงๆ พ่อกับแม่ผม ไม่เคยให้ผมขับมอไซค์ไปไหนมาไหนเลย แต่ผมก็หัดไว้ เพราะคิดว่าถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินอะไร ก็ยังเดินทางไปจัดการธุระด้วยตัวเองได้แน่ๆ ผมขับมอไซค์ผ่านโรงเรียนเก่าสมัยผมเรียนประถมกับมัธยมต้น ซึ่งเป็นโรงเรียนดังประจำจังหวัด งั้นผมก็ใกล้เข้าตัวเมืองแล้วแหละ

ผมติดไฟแดงเป็นคันแรกของแยก ข้ามแยกนี้ไป อีกไม่กี่โลก็จะเข้าตัวเมืองแล้ว ต้องขับระวังๆ เพราะรถในเมืองคงเยอะอยู่

เขียวแล้ว............!!!

************

ผมอยากขอบคุณคนอ่านทุกคนไว้ตรงนี้เล็กน้อย นิยายเรื่องนี้ใช้เวลาเกินปี นานเกินกว่าแผนผมที่วางไว้อยู่พอสมควร เขียนเก็บไว้ยาวมาก ก็ยังไม่พอกับการลงให้ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ผมเองก็มีภาระให้รับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมเองแบ่งเวลามาทำไม่ได้

ถึงคนอ่านจะไม่เยอะ ไม่ได้นิยมเท่าเรื่องอื่นๆ แต่ผมก็ดีใจที่มีคนตามอ่านมันอยู่เสมอมาครับ และมีไอเดียสำหรับเรื่องถัดๆ ไปไว้แล้ว

หวังว่าจะมีเวลาทำ+ทำแล้วได้รับการติดตามด้วยดีไม่แพ้เรื่องแรกของตัวเองครับ^^

รักคนอ่าน+จะรีบทำบทที่เหลือให้เสร็จนะครับ

ขอบคุณครับ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 73 ++
« ตอบ #999 เมื่อ: 06-05-2016 04:06:24 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Jessiebier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า เราคนนึงที่จะติดตามอ่านไปตลอด :mew4: :mew1:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ไม่ใช่ แทนเกิดอุบัติเหตุรถพุ่งมาชนแทนนะ :katai1:
พ่อแม่แทน คงไม่เคยเจอการสูญเสีย เคยแต่บังคับควบคุมได้ เลยบ้าอำนาจซะ
รอ   :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ ทั้งคนเขียน บิ้กและแทน  :mew1:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
ไม่ใช่ แทนเกิดอุบัติเหตุรถพุ่งมาชนแทนนะ :katai1:
พ่อแม่แทน คงไม่เคยเจอการสูญเสีย เคยแต่บังคับควบคุมได้ เลยบ้าอำนาจซะ
รอ   :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

รอติดตามต่อไปครับ^^

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ ทั้งคนเขียน บิ้กและแทน  :mew1:

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า เราคนนึงที่จะติดตามอ่านไปตลอด :mew4: :mew1:

ขอบคุณครับผม บทถัดจากนี้อีก 3-4 บท จะยากโหดๆ กับคนเขียนครับ^^"

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 74 ++
«ตอบ #1005 เมื่อ09-05-2016 04:22:24 »

พอจะมีเวลาปั่นรวดเดียวให้เสร็จ เลยเอามาลงต่อเลยครับ

สามสี่บทต่อจากนี้ เป็นงานยากสำหรับผมมากครับ ความรู้สึกบางอย่างตอนพิมพ์ไม่ว่าจะต้นฉบับเก่า หรือจะมาแปลงเป็นอันใหม่ตอนนี้ นี่คือช่วงที่ผมเขียนแล้วจะกระทบอารมณ์ตัวเองมากที่สุด

แต่ก็เขียนออกมาได้รวดเดียวตามเวลาที่พอมีให้ทำ ฉะนั้น อ่านต่อกันเลยครับ^^

 ***********

Chapter 74

บนถนนพหลโยธินเวลาหัวค่ำตอนนี้ มี Toyota 86 สีขาวคันหนึ่ง กำลังวิ่งอย่างไม่สนใจเพื่อนร่วมถนน ทุกช่องไม่ว่าจะกว้างหรือแคบ รวมถึงรถที่กำลังจะกลับ ก็โดนผมบีบแตรใส่ยาวๆ พร้อมกระพริบไฟว่าอย่าออกมา แขนขวาผมกำพวงมาลัยไว้แน่น พอกับแขนซ้ายที่ทั้งกำพวงมาลัยสลับกับสับเกียร์ไปมา เท้าขวาที่ต้องคุมทั้งคันเร่งและเบรคให้สัมพันธ์กับเท้าซ้ายที่เหยียบคลัชท์ ทุกอย่างผสานกันจนแทบจะเกินกว่าโสตประสาทผมรับไหวแล้ว

“คุณบิ๊กใช่ไหมคะ นี่น้าจำเนียรเองนะคะ ค่อยๆ ฟังดีๆ นะคะ คุณแทนถูกรถฝ่าไฟแดงชนมอไซค์ที่คุณแทนจะขี่ไปตลาด ตอนนี้คุณแทนอาการไม่ดีเลย คุณบิ๊กรีบมานะคะ คุณแทนอยู่โรงพยาบาลขอนแก่น”

ผมตอบอะไรไม่ออก ทุกอย่างจุกอยู่ในลำคอไปหมด ภาพที่ผมมองถนนตอนนี้ เป็นภาพที่เกินกว่าโสตประสาททุกส่วนผมจะรับไหว น้ำตาผมไหล ผมอยากตะโกนดังๆ ว่าไม่ใช่เรื่องจริง เข็มความเร็ว เข็มบอกความดันห้องเครื่อง เข็มบอกแรงอัดเทอร์โบ อุณหภูมิห้องเครื่อง กลิ่นไหม้ของยาง กลิ่นการเผาไหม้ของเครื่องที่เริ่มทำงานไม่ทันจนต้องปล่อยผ่านช่องแอร์ ทั้งหมดเข้าสู่จุดที่ใกล้จะเกินกำลังของรถคันนี้

“95 เต็มถังครับ เร็วๆ ครับพี่ ผมมีเรื่องด่วนต้องไป” ผมจอดเติมน้ำมัน ก่อนจะเอาหัวกระแทกพวงมาลัยด้วยความรู้สึกเหนื่อยถึงเหนื่อยมาก พอน้ำมันเต็มถัง ผมขอตั้งสติให้ตัวเองสักนิด ติดเครื่องแล้วเดินเบาช้าๆ คลานรถออกจากปั้มน้ำมันไปตั้งหลักบนถนนให้เรียบร้อย แล้วจอดข้างทางเซ็ทแผนที่ไปโรงพยาบาล แต่ก่อนจะเดินทางต่อ

“ฮัลโหล น้าจำเนียรสวัสดีครับ ผมบิ๊กนะครับ ตอนนี้ผมเข้าเขตโคราชแล้ว แทนเป็นไงบ้างครับ” ผมพยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ปกติที่สุดเท่าที่จะได้

“ตอนนี้คุณแทนยังอยู่ในห้องผ่าตัดอยู่ คุณยาย คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง ก็มารอตั้งแต่บ่ายแล้วคะ” เสียงน้าจำเนียรสัมผัสได้ว่ากำลังร้องไห้อยู่

“หมอว่าไงบ้างไหมครับ” ผมขอให้เป็นข่าวดีว่าอาการจะไม่หนักเกินไปกว่าที่ผมกลัว

“คุณแทนแขนซ้ายกับขาซ้ายหัก ซี่โครงฝั่งซ้ายทั้งหมดหัก ฮือๆๆๆ” ผมพยายามกลั้นไม่ให้ตัวเองคิดอะไรแย่ๆ ไปกว่านี้

“คุณหมอบอกว่ากระดูกสันหลังคุณแทนเคลื่อนกับร้าว มีเลือดคั่งในสมอง ฮือๆๆๆ คุณบิ๊กรีบมานะคะ ฮือๆๆๆๆ” มือซ้ายผมที่ถือโทรศัพท์อยู่ตอนนี้ มันสั่นไปหมด หูผมที่ใส่หูฟังไร้สายไว้ข้างขวา รู้สึกอื้อจนไม่ตอบสนองอะไรแล้ว

“ผมจะรีบไปให้เร็วที่สุดนะครับ” ผมวางสายลง แล้วเปิดแผนที่ เอา iPhone ล็อคกับที่วางโทรศัพท์ตรงกระจกหน้ารถไว้

“โว๊ยๆๆๆๆ ฮือๆๆๆๆๆ” ผมทั้งตะโกนและทุบพวงมาลัยรถไปมาเหมือนคนบ้า ก่อนจะถอดแว่นตาออก ฟุบหน้าลงบนพวงมาลัยแล้วร้องไห้ด้วยความอัดอั้นที่ไม่อยากเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง

อีกไม่กี่ชั่วโมงจะเป็นวันเกิดผม อีกไม่กี่วันต่อจากนี้ คุณแม่ผมจะมาเจรจากับครอบครัวของแทนให้ อีกไม่กี่เดือนจากนี้ เราทั้งคู่หวังว่าจะได้เรียนใกล้ๆ กัน ในมหาวิทยาลัยที่เราสอบติดที่เดียวกันทั้งคู่ และต่อไปจากนี้ที่ผมจะไม่ยอมไปไหนจากแทนอีก

ความตายกำลังจะพรากแทนไปจากผม...

ตั้งสติซิไอ้บิ๊ก ตั้งสติ ผมบอกตัวเองให้หยุดร้องไห้ สองแขนของผมเช็ดน้ำตาให้เรียบร้อย แล้วหยิบแว่นตากลับมาใส่ให้เรียบร้อย ผมจับพวงมาลัยใหม่อีกครั้ง กดสตาร์ทเครื่องใหม่ รอจังหวะที่ออกตัวได้ แล้วกดล้อฟรียัดเกียร์สองออกตัวไป

อดทนไว้นะแทน อย่าเป็นอะไรเด็ดขาดนะ...

……………….

สามทุ่มตรง ผมขับมาถึงโรงพยาบาลขอนแก่น เหงื่อที่ชุ่มเสื้อของผม เป็นผลจากการปิดแอร์ขับรถตลอดทาง เหงื่อในมือตอนนี้ ทำเอาถุงมือที่ใส่ขับรถส่งกลิ่นอับออกมาได้ ผมจอดรถให้เรียบร้อย ก่อนจะวิ่งไปถามประชาสัมพันธ์ ก่อนจะวิ่งไปที่ห้องผ่าตัดที่ตอนนี้ครอบครัวของแทนอยู่ครบกันทุกคน

“คุณน้าสวัสดีครับ คุณยายสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คุณพ่อ คุณแม่ของแทน และคุณยายที่กำลังนั่งเช็ดน้ำตาอยู่

“มาทำไม” นี่คือคำแรกที่คุณแม่ของแทนพูดกับผม ก่อนจะพุ่งมาผลักผม

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ เวลานี้ยังมีอารมณ์หาเรื่องทะเลาะอีกเหรอ” เสียงคุณยายของแทนตวาดดังขึ้น

"ลูกฉันขี่มอไซค์ออกไปซื้อของมาทำให้แกกิน ถ้าแกไม่มาหาแทน แทนก็ไม่ต้องออกไปซื้อของให้แก แกรู้ไหมว่าแกฆ่าลูกชายฉัน ถ้าแทนเป็นไรไป ฉันจะส่งแกกับโคตรเหง้าทั้งหมดแกลงนรกให้หมด!!!" ผมรู้สึกตัวเองชากับสิ่งที่แม่แทนกล่าวโทษผมทั้งหมด นาทีนี้ อะไรที่โทษว่าผมเป็นสาเหตุ ผมก็คิดว่าผมคือสาเหตุที่ทำให้แทนเป็นอะไรไปเช่นกัน

"เลิกบ้าได้ยังห๊า!!!" เสียงคุณยายตวาดขึ้นมาอีกครั้ง คุณยายของแทนลุกขึ้นตบหน้าคุณแม่ของแทนหนึ่งที มันแรงมากสำหรับคนมีอายุที่จะออกแรงทำ ก่อนที่คุณพ่อของแทนจะรีบมาประคองคุณแม่ของแทน

"คุณแม่ครับ ให้ไอ้เด็กนี่มาทำไม ผมกำลังจะเสียลูกชายก็เพราะมัน คุณแม่ยังไปเรียกมันมาทำไม...กูประกาศไว้ตรงนี้เลย ลูกกูเป็นไรไป กูจะเอาเลือดล้างตีนแน่นอน!!!" ผมอยากตายไปซะตอนนี้ แล้วแลกกับแทนฟื้นขึ้นมาเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้นได้ไหม

คุณยายของแทนกระทืบไม้เท้าลงพื้นแรงมากจนทุกอย่างเงียบลงทันที ผมเห็นคุณยายสั่นจนน่ากลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับหญิงชราคนนี้

"ฉันนี่แหละที่ผิดเอง ฉันไม่ได้พาหลานไปตลาดตามเวลาที่บอกไว้ ฉันปล่อยให้หลานของฉันออกไปตัวคนเดียว เธอสองคนฆ่าฉันซิ ฉันเป็นคุณยายที่ฆ่าหลานตัวเองทางอ้อม พวกเธอสองคนโทษผิดคนแล้ว..." คุณยายของแทนนั่งลงเก้าอี้รอคนไข้ที่อยู่หน้าห้องผ่าตัดช้าๆ น้ำตาของคุณยายแทน ยิ่งทำให้ผมแทบอดทนเข้มแข็งต่อไม่ได้

"ฉันกำลังจะไม่เหลือใครแล้ว ช่วยสงสารคนแก่ๆ อย่างฉันด้วยการอย่าใจแคบกับคนอื่นได้ไหม ฉันขอร้องละ" ประโยคที่คุณยายของแทนพูดออกมา สะกดให้ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต้องหยุดนิ่ง คุณพ่อกับคุณแม่ของแทนสงบลงทันที ก่อนจะนั่งลงไม่ห่างกันมากนัก

"เดินทางมายังไง" คำถามแรกของคุณแม่แทนที่ถามผมเอยขึ้น

"ขับรถมาครับ" ผมไปหาเก้าอี้แถวนั้นนั่งแล้วตอบคำถาม

"คืนนี้เธอไปค้างที่บ้านนะ" ผมไหว้ขอบคุณคุณแม่ของแทนที่ยอมพูดดีๆ กับผม

"ถ้าขับรถมาเหนื่อย เดี๋ยวนั่งรถตู้ที่บ้านกลับได้นะ คืนนี้มีคนของที่บ้านเฝ้าให้" คุณพ่อของเอยขึ้นมาบ้าง ผมยกมือไหว้ขอบคุณเช่นกัน

"ผมขออนุญาตคุณน้าทั้งสองกับคุณยายได้ไหม ผมอยากเฝ้าแทนจนกว่าแทนจะตื่นขึ้นมา ได้ไหมครับ" ไม่มีคำตอบอะไรนอกจากการพยักหน้าของคุณพ่อของแทนกับคุณยายของแทน

"ผมขออนุญาตถามเหตุการณ์ได้ไหมครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับแทน" คำถามของผมดูจะไม่มีใครอยากตอบออกมา

"แทนโดนรถกระบะส่งของฝ่าไฟแดงพุ่งชนมอไซค์ที่สี่แยกก่อนเข้าเมือง" น้ำเสียงของคุณแม่แทนที่เล่าออกมา เหมือนไม่อยากพูดเรื่องนี้ซ้ำออกมาอีก

"แทนเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่บ่ายๆ แทนไม่ได้พกกระเป๋าตังค์ออกมา เราทุกคนเลยพึ่งรู้ว่ามีเรื่องกับแทน อีกอย่างก็เสียเวลาหาเลือดสำหรับผ่าตัดอยู่นานอยู่" คุณพ่อของแทนพูดต่อจากคุณแม่ของแทน

"ผมเชื่อว่าแทนจะไม่เป็นอะไรครับ" ผมพูดออกไปเพราะผมรู้สึกแบบนั้น....คุณยายของแทนพยักหน้า ในขณะที่คุณพ่อกับคุณแม่ของแทนไม่ตอบรับอะไร

ผมขอให้ประตูห้องผ่าตัดเปิดออกมา แล้วแทนปลอดภัย จะแลกด้วยอะไร ผมยอมทั้งหมด

……………….

ตีหนึ่งตรง ประตูห้องผ่าตัดเปิดออกพร้อมกับเตียงของแทนที่เข็นออกมา พยาบาลรีบเข้ามาห้ามทุกคนที่กำลังกรูเข้าไปที่เตียงของแทนที่เข็นออกมา แทนอยู่ในสภาพนอนคว่ำ มีผ้าพันไว้รอบศีรษะ สอดท่อช่วยหายใจที่เข็นมาพร้อมกับถังอ็อกซิเจนและสารพัดถุงที่ระโยงระยางตามมา

“ขอเชิญญาติของคนไข้ทางนี้ครับ” เสียงเรียกของคุณหมอ ทั้งคุณยายกับคุณพ่อ คุณแม่ของแทน เดินไปหา ส่วนผมยืนฟังอยู่ข้างหลังอีกที

“คนไข้มีกระดูกสันหลังเคลื่อนกับร้าวตั้งแต่กลางหลังลงไปถึงสะโพก ซีโครงที่หักมีทิ่มปอดไปบ้าง จัดการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว แต่ที่น่าห่วงสุดตอนนี้คือสมอง เพราะด้านหลังของศีรษะคนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนหนักที่สุด ตลอดช่วงที่ผ่าตัด การตอบสนองของสมองกับหัวใจค่อนข้างน่าเป็นห่วงพอสมควร ตอนนี้คงต้องให้คนไข้อยู่ห้อง ICU เพื่อเฝ้าดูอาการกันต่อไปนะครับ" คุณหมอขอตัวหลังจากเล่าอาการเสร็จ

"หลานฉันจะหายไหมคะคุณหมอ" คุณยายของแทนถามขึ้นก่อนที่คุณหมอจะเดินไป

"ถ้าคนไข้สู้ น่าจะผ่านไปได้ครับ ตอนนี้เราต้องเฝ้าอาการกันเป็นรายชั่วโมง ขอให้ญาติพักผ่อนนะครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ" คุณหมอเจ้าของไข้ของแทนขอตัวไปดูแลแทนต่อ

หลังจากย้ายแทนเข้าห้อง ICU ผมกับครอบครัวของแทน ได้รับอนุญาตให้เยี่ยมผ่านการมองผ่านกระจก ผมพยายามกลั้นอารมณ์ตัวเองเอาไว้ แทนกำลังนอนคว่ำ​ โดยที่มีหน้ากากช่วยหายใจ สายและท่อต่างๆ เต็มไปหมดจนผมแทบไม่เชื่อว่า อัตราการเต้นของหัวใจที่ค่อนข้างต่ำ เสียงหายใจที่ดูติดขัด...ผมทำใจแทบไม่ได้ที่เห็นคนรรักอยู่ในสภาพนี้จริงๆ

"ผมขอเฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลนะครับ คุณยายกับคุณน้าไปพักผ่อนก่อนก็ได้นะครับ" ผมขออนุญาตตครอบครัวของแทนหลังจากเดินออกมาจากห้อง ICU แล้ว ซึ่งทั้งหมดก็ยินดีให้ผมเฝ้าแทนตลอดคืนนี้

หลังจากผมอยู่คนเดียวแล้ว ผมกลับเข้าไปในห้อง มองแทนผ่านกระจกบริเวณที่ให้ญาติเยี่ยมได้ ผมกำมือแน่น น้ำตาที่ผมพยายามเก็บไว้ไหลออกมาอย่างไม่อายอะไรทั้งสิ้นแล้ว

"ตื่นขึ้นมาได้ไหมแทน เรารับไม่ลงจริงๆ อย่าทิ้งเราไปแบบนี้" ผมพูดออกเสียงเบาๆ หวังว่าจะแทนจะสัมผัสได้ว่าผมมาอยู่ตรงนี้แล้ว

โทรศัพท์ผมดังขึ้น...ตั้ม FaceTime มาหา ผมเดินออกไปรับข้างนอก

"สุขสันต์วันเกิดเว้ยๆๆๆ" ภาพที่ผมเห็นในจอคือเพื่อนผมทุกคน ทั้งตั้ม​ โจ แชมป์

"มึงอยู่ไหนวะ ทำไมบรรยากาศมันแปลกๆ" ไอ้ตั้มทักทันทีหลังจากเห็นว่าผมไม่ได้อยู่ที่ๆ น่าจะอยู่ในตอนนี้ ผมไม่รู้จะตอบอะไร ได้แต่นิ่งเงียบ เพราะทุกอย่างที่ผมเจอมา มันจุกในคอจนผมพูดไม่ออกสักคำ

ผมไม่ตอบอะไร นอกจากเริ่มร้องไห้ออกมาแทน ผมได้ยินแค่เสียงเพื่อนๆ ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับผมซ้ำไปซ้ำมา

"พวกมึง...กูไม่ไหวแล้ว..." ผมไม่รู้จะเริ่มยังไงดี

"เกิดอะไรขึ้น มึงค่อยๆ เล่า ใจเย็นๆ" แชมป์ที่อยู่ในกล้องชัดสุดเป็นคนพูดกับผมตอนนี้

"ตอนนี้กูอยู่โรงพยาบาลขอนแก่น แทนโดนรถชนอาการสาหัสตั้งแต่สายๆ แทนพึ่งจะผ่าตัดเสร็จ กู ฮือๆๆๆๆ" ผมไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วจริงๆ

"มึงมาคุยกับพวกกูก่อน มึงต้องตั้งสติดีๆ ก่อน" เสียงตะโกนของโจ ทำให้ผมหันกล้องหน้า iPhone กลับมาคุยกับเพื่อนๆ ต่อ

"ไม่ร้องไห้นะเว้ย มึงร้องจนตาแดงแล้ว พวกกูจะไปหามึงตอนเช้า โอเคนะ" ผมพยักหน้าทั้งที่ทุกอย่างมันไม่โอเคกับผมเลย

"พวกมึง กูกลัว กูกลัวแทนจะจากกูไปจริงๆ กูรับไม่ได้เลย กูไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องจริง ฮือๆ" สิ่งที่ผมเห็นตอนนี้ คือรอยยิ้มให้กำลังใจของเพื่อนผมทุกคนที่อยู่ในจอ

"แทนเป็นคนดี แทนต้องรอดแน่นอน" โจพูดอย่างใจเย็น ผมไม่อยากให้เพื่อนๆ เป็นห่วงไปมากกว่านี้ ผมยิ้มให้กับเพื่อนๆ ก่อนจะบอกว่า

"ขอบคุณพวกมึงที่อวยพรวันเกิดกูนะ กูขอเฝ้าแทนต่อนะ" ทุกคนพยักหน้าและโบกมือบายๆ ให้ ก่อนที่ผมจะวางสายไป

ถ้าวันนี้วันเกิดผม ขอของขวัญเป็นแทนตื่นขึ้นมาอย่างปลอดภัยได้ไหม จะแลกด้วยอะไร ผมยอมหมดแล้ว..

อย่าพรากหัวใจผมไปได้ไหม....

……………….

ผมไม่รู้ตัวเองหลับไปตอนไหน แต่พอรู้สีกตัวอีกที ก็หกโมงเช้าแล้ว ผมลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้อง ICU เป็นอันดับแรก แทนยังคงหายใจอย่างอ่อนแรง หัวใจที่เต้นแค่ 40-45 ครั้ง/วินาที ยังเป็นอาการที่ทรงตัวหลังจากการผ่าตัดมา

"เช้าแล้วนะ เราไปล้างหน้าสักครู่นะครับ" ผมพยายามยิ้ม แล้วพูดออกเสียงเผื่อหวังว่าแทนจะได้ยินบ้าง

หลังจากผมล้างหน้า แปรงฟัน ผมออกไปหาชุดใส่บาตรพระ แล้วใส่บาตรแถวหน้าโรงพยาบาลให้ใจสงบ ขอพรให้แทนปลอดภัย ก่อนจะกลับมาเฝ้าหน้าห้อง ICU เหมือนเดิม สภาพผมที่แทบตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากคนอดนอน แต่ผมก็ไม่รู้สึกอะไรสักนิด ได้แต่ปล่อยเวลาให้กับคนที่เดินเข้าเดินออกห้อง ICU ผ่านหน้าผ่านตาผมไปตอนนี้ ไม่ใช่คนที่วิ่งมาอย่างเร่งด่วนอะไร เพราะผมกลัวว่าคนไข้ที่กำลังต้องการให้ช่วยเหลืออย่างฉุกเฉิน จะเป็นคนรักของผม

“สวัสดีครับคุณยาย สวัสดีครับคุณน้า” ผมไหว้ทักทายคุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ของแทน ที่มาถึงตอนเจ็ดโมงเช้า

“เมื่อคืนเป็นไงบ้าง มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง” คุณยายถามผมเป็นคำถามแรก

“ไม่มีอะไรครับ แทนยังอาการทรงๆ ครับ” คุณยายของแทนใช้สองมือที่หยาบกร้านจับต้นแขนทั้งสองผมไว้ ก่อนจะพิจารณาใบหน้าอย่างตั้งใจ

“หลานบิ๊กไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ” ผมไหว้ขอบคุณคุณยายหนึ่งที ก่อนจะบอกว่า

“ไม่เป็นไรครับ ผมจะอยู่จนกว่าแทนจะปลอดภัย จนกว่าแทนจะฟื้นขึ้นมาเท่านั้น” คุณยายของแทนตบไหล่ผมเบาๆ

“อะ นี่กุญแจโรงแรมใกล้ๆ กับโรงพยาบาล ฉันเปิดไว้ให้ไปนอนพักหรือจะอาบน้ำแต่งตัวใหม่ก่อน เดี๋ยวฉันจะเฝ้าเอง” คุณพ่อของแทนส่งกุญแจห้องของโรงแรมให้ผม

“เอาเสื้อผ้ามาไหม ถ้าไม่มีจะได้ให้เลขาฉันจัดให้” ผมดูกุญแจโรงแรมเป็นโรงแรมหรูในตัวเมืองที่ไม่ห่างกันจริงๆ

“อยู่หลังรถครับ ที่จริง ผมอยู่ได้นะครับ” ผมไม่อยากไปจากตรงนี้จริงๆ

“หลานพักผ่อนบ้างนะ อาบน้ำอาบท่าสักนิดก็ยังดีนะ” ผมคงไม่ขัดคุณยายของแทน จึงไหว้ขอตัวสักครู่

โรงแรมที่พักกับโรงพยาบาลขับรถห่างกันไม่ไกลมาก ยามของโรงแรมให้ผมจอดรถไว้แถวหน้าทางเข้าล็อบบี้โรงแรมไว้ได้เลย ก่อนที่ผมจะเข้าไปอาบน้ำในห้อง ผมถือโอกาสนี้ชาร์จ iPhone กับ Apple Watch ไปในตัว ก่อนที่จะอาบน้ำกับโกนหนวดเล็กน้อย ตลอดเวลาที่อาบน้ำ ผมขอให้ระหว่างนี้ไม่เกิดอะไรขึ้นกับแทน ผมขอให้ผมกลับไปแล้วได้รับข่าวดีว่าแทนปลอดภัย

“ฮัลโหลครับ” ผมรีบออกมารับโทรศัพท์หลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังตอนพึ่งอาบน้ำเสร็จ

“เฮียโบ้สวัสดีครับ” ผมตอบทันทีที่ได้ยินเสียงสวัสดีจากต้นสายที่โทรหาผม

“เฮียกำลังขับรถไปหานะ เพื่อนๆ แกทุกคนมาครบหมด อยู่ในรถเฮียครบหมดเนี่ย เข้มแข็งนะเว้ยน้องชาย” ผมรู้สึกไม่ดีที่ต้องรบกวนพี่ชายที่ผมเคารพคนนี้

“เฮียไม่ต้องมาหรอกครับ เฮียปิดร้านขาดรายได้กันพอดี” ผมเอาผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดหัวขณะที่กำลังคุยสายไปด้วย ในขณะที่ผมได้ยินเสียงเพื่อนๆ ประสานเสียงพร้อมกันตอนรับสายเฮียโบ้ว่า “บิ๊กสู้เว้ย แทนสู้เว้ย”

“ปิดแค่สองสามวันเอง เฮียก็อยากพักบ้าง เอางี้ เดี๋ยวให้คุยกับเพื่อนๆ แกนะ” เฮียส่งโทรศัพท์ให้กับไอ้ตั้ม

“มึงใจเย็นๆ นะ กูเข้าโคราชแล้ว อีกไม่นานน่าจะไปถึง มึงอย่าคิดมากนะเว้ย แทนต้องปลอดภัยแน่ๆ” ผมพยายามทำเสียงให้ปกติ ก่อนจะเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา

“กูขอบใจพวกมึงที่ไม่ทิ้งกูนะ” ผมดีใจที่เวลาที่ผมมองไม่เห็นทางไหน ผมมีเพื่อนทั้งหมดนี้อยู่ข้างๆ

“เชื่อกู ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง แล้วเจอกันเว้ย” ผมวางสายลง แล้วรีบเช็ดตัวให้เรียบร้อย แต่งตัวชุดใหม่ แล้วรีบกลับไปที่โรงพยาบาล

“คุณบิ๊กครับ คุณบิ๊ก” เสียงใครสักคนเรียกผมตอนที่ผมกำลังเดินไปที่รถ ผมหันไปมองอีกทีเป็นผู้ชายในชุดซาฟารีวิ่งมาหาผม

“คุณผู้หญิงให้เอารถมารับคุณบิ๊กครับ เชิญทางนี้เลยครับ” ผมพยักหน้ารับทราบก่อนจะเดินตามไปที่ Mercedes-Benz E-Class คันที่จอดไม่ห่างจากรถผมเท่าไหร่

ที่โรงพยาบาล ผมกลับไปที่ห้อง ICU อีกครั้ง คุณพ่อ คุณแม่ และคุณยายของบิ๊กพึ่งออกมาจากห้อง ICU ผมขอตัวเข้าไปดูแทนว่าอาการเป็นอย่างไรบ้าง ภาพที่ผมเห็นแทนยังนอนอยู่ในสภาพไม่ได้สติแบบอาการสาหัส ยังทำให้ผมได้แต่เจ็บใจตัวเองที่ไม่มีปัญญาช่วยอะไรคนรักของผมได้เลย

“บิ๊กกลับไปอาบน้ำแต่งตัวมารอแทนตื่นนะ ตื่นขึ้นมานะครับ ตื่นมาบอกรักกัน ตื่นกลับมา...ฮือๆๆ” ผมเอาหัวโขกกระจกเบาๆ กำปั้นมือขวาทุบลงบนกระจกเบาๆ หนึ่งที ผมไม่เคยอยากร้องไห้หนักเท่านี้มาก่อนเลย แต่นาทีนี้ ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ

“ขอร้อง...อย่าทิ้งกันไปนะ ฮือๆๆๆ” ผมไม่รู้แทนจะได้ยินไหม แต่ผมรู้สึกแทบขาดใจเหมือนโลกนี้แตกเป็นเสี่ยงๆ ไปแล้ว

กลับมาให้ได้นะแทน...กลับมานะครับ

************

บทนี้ผมเกือบเขียนไม่รอดเพราะอารมณ์ตัวเองนิดหน่อยครับ แต่บทถัดไปจะยากกว่าบทนี้อีก ทุกอย่างจะยิ่งกว่านี้และหนักกว่านี้อีกครับ

ผมจะพยายามเขียนให้ได้+ใช้เวลาไม่นาน+ออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะเรียบเรียงใหม่ได้ครับผม

ขอบคุณคนอ่าน+รักคนอ่านทุกท่านครับ^^



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2016 03:16:09 โดย zipboy »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
 :hao5: อ่านไป น้ำตาไหลไป เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ
แทนอยู่ผิดที่ ผิดเวลา สงสารบิ๊ก แทน  :hao5:
รอแทนฟื้นมาไวๆ อย่างมีความจำเหมือนเดิม :mew6:
ทรมาน เจ็บช้ำ ทุกข์ กันมาเยอะแล้ว
สงสัยชีวิตคนขับรถผ่าไฟแดง จะเป็นอย่างไร ? :katai1:
เมื่อแม่พ่อของแทน เป็นแบบนี้
รอ  :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
ตอนบิ้กรับทอสับ เฮียโบ้ น้ำตาไหลเลย :hao5:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อุตส่าห์ไปทำใจ บิ้วท์อารมณ์

มาอ่านอีกที ยังไงก็สงสารคู่นี้เอามากๆเลย T T

ยังไงแทนก็ต้องฟื้น

แต่ฟื้นแล้ว...... จะเป็นปกติไหม? ด้านร่างกายไม่เท่าไหร่ แต่จิตใจ......


 :ling1: :ling1: แมร่ม





ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 75 ++
«ตอบ #1011 เมื่อ14-05-2016 05:28:59 »

รู้สึกทำไมตัวเองไม่ทำงานไวแบบนี้ในบทที่ผ่านๆ มา แต่เอาเป็นว่า เขียนเสร็จเอามาลงให้ต่อครับ ทำอารมณ์อยู่พักใหญ่กว่าจะเขียนเสร็จ ว่าแล้วมาดูกันต่อดีกว่าครับ

**********

Chapter 75

ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้เวลามันผ่านไปเร็วแค่ไหน แต่ทุกวินาทีที่ผมหายใจตอนนี้ เหมือนผมกำลังตกนรกแบบหาทางออกไม่ได้ ความเงียบของห้อง ICU ที่ตัดกับเสียงบอกสถานะชีวิตของแทนในตอนนี้ ทุกเสียงของเครื่องยังชีพที่แทนกำลังใช้อยู่ตอนนี้ เหมือนระเบิดเวลาที่พร้อมจะทำงานได้ตลอดทุกนาทีที่แทนไม่สู้แล้ว ผมเดินเข้าออกห้อง ICU อยู่พักใหญ่ จนเก้าโมงเช้า คุณหมอที่ดูแลแทนก็มาถึง

“จากการประเมินเบื้องต้น ตอนนี้อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย คนไข้อาจมีภาวะหัวใจวายหรือสมองตายได้ทุกเมื่อ ตอนนี้ทำได้แค่รักษาไปตามอาการไปเรื่อยๆ เหลือแค่ว่าคนไข้จะสู้กับมันมากแค่ไหนด้วยครับ ยังไงแล้ว เราต้องติดตามอาการตลอดทุกชั่วโมงเหมือนเดิมครับ” หลังจากคุณหมอออกไปแล้ว คุณพ่อกับคุณแม่ของแทนไปจัดการเรื่องคดี ส่วนคุณยายเองรู้สึกไม่ค่อยสบายจากความเครียด น้าจำเนียรจึงพาคุณยายกลับไปพักผ่อนที่บ้าน ผมยังคงเฝ้าอยู่ที่ ICU เหมือนเดิม

“บิ๊ก” เสียงเรียกของเฮียโบ้ทำให้ผมต้องหันกลับไป ผมวิ่งไปกอดพี่ชายที่ผมเคารพคนนี้ทันที เพื่อนๆ ผมทั้งหมด ทั้งตั้ม โจ แชมป์ ไบรท์ ต่างก็ล้อมกอดผมเอาไว้

“มึงต้องสู้นะ แทนต้องปลอดภัยแน่นอน” ตั้มย้ำผมเหมือนเดิม

"มึงอยากให้พวกกูช่วยอะไรบอกเลยนะ พวกกูลุย" โจ ขอบใจวะ

"แทนเป็นคนดี ต้องผ่านไปได้แน่ๆ เข้มแข็งมากๆ นะมึง" ขอบใจวะแชมป์

"แทนต้องฟื้นแน่ๆ มันจะผ่านไปแน่นอน" ไบรท์...กูก็หวังอย่างนั้นเหมือนกัน

"ขอบคุณเฮีย ขอบใจพวกมึงนะ กูทำอะไรไม่ถูกเลย รู้ไหม กูไม่อยากให้แทนนอนในสภาพนั้น ทำไมไม่เป็นกู ทำไมต้องเป็นแทนที่อยู่ในสภาพนั้นวะ ฮือๆๆ" ผมอึดอัด ผมทนไม่ไหวที่จะมองดูคนรักผมอยู่ในสภาพนี้

"มึงยังไม่กินอะไรเลยใช่ไหม" ผมไม่ตอบคำถามของโจ

"เฮียว่ามันยังไม่กิน มึงกินข้าวก่อน เดี๋ยวอย่างอื่นว่ากัน" ขอบคุณครับเฮีย แต่ผมกินไม่ลงจริงๆ

"ผมกินไม่ลงครับ" ฝ่ามือหนาๆ ของเฮียพุ่งมาขยี้ศีรษะผมแรงๆ ก่อนจะกอดไหล่ผมด้วยแขนข้างนั้น แล้วดึงผมออกมาจากห้อง ICU

เฮียจับผมนั่งเก้าอี้หน้าห้อง ICU ก่อนทีเพื่อนๆ จะส่งถุง McDonal's ให้ผมถุงใหม่ ข้างในมี Big Mc / นัตเก็ต / พายสัปปะรด

"ตั้งแต่มึงเป็นเพื่อนพวกกู กูจำได้ว่าหมดนี่ มึงชอบกิน" ตั้ม...มึงจำได้เสมอจริงๆ

"มึงต้องกินให้อิ่ม ไม่งั้นมึงจะไม่มีแรงดูแลแทนนะ จะกินดีๆ หรือจะให้พวกกูจับยัดปาก" โจ...มึงอย่าเล่นบทโหดกับกูตอนนี้ซิวะ

"เดี๋ยวกูกับไบรท์ไป 7-11 ซื้อน้ำกับนมมาฝากมึงนะ" ผมพยักหน้าโอเค ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไป

ผมค่อยๆ ทานอาหารทั้งหมดด้วยความรู้สึกในปากที่แทบไม่รับรสอะไรเลย แต่ผมกินลงขึ้นเพราะทุกคนรอบตัวผมทำเพื่อผมขนาดนี้แล้ว ถ้าแทนรู้ว่าผมไม่ยอมทาน แทนคงไม่สบายใจเช่นกัน

ผมสู้แล้ว แทนสู้ด้วยนะครับ

……………….

ทุ่งดอกทานตะวันที่สวยงามตอนนี้ มีผมกับแทนกำลังจูงมือเดินชมกันอยู่ในเวลานี้ รอยยิ้มของแทนตอนนี้ กำลังมีความสุขที่ได้ชื่นชมดอกทานตะวันที่กำลังชูดอกสู้กับแสงแดดในยามสาย ผมกำลังถ่ายรูปให้กับแทนที่ยืนท่ามกลางดอกทานตะวัน แต่ในฉบับพลันที่ผมมองแทนผ่านเลนส์กล้องนั้น เสี้ยววินาทีที่ผมกระพริบตา เหมือนมีบางสิ่ง พุ่งเข้าชนร่างของแทนและทุ่งดอกทานตะวันนั้นอย่างรุนแรง

"เกิดไรขึ้นครับ" ผมตื่นขึ้นมาเพราะเสียงคนวิ่งผ่านเข้าห้อง ICU อย่างเร่งรีบ...ผมพึ่งส่งเฮียโบ้ไปพักที่โรงแรมที่คุณแม่แทนเปิดห้องไว้ให้ เพราะผมอยากเฝ้าต่อ ผมเผลอหลับไปตอนไหนกัน? แล้วในห้อง ICU เกิดอะไรขึ้น?

"เกิดอะไรขึ้นครับ" ผมดักพยาบาลท่านหนึ่งที่พึ่งออกมาจากห้อง ICU

"ญาติคนไข้คุณภัทร ใช่ไหมคะ" ผมรีบพยักหน้าทันที

"ตอนนี้คนไข้หัวใจหยุดเต้น ความดันเลือดตก กำลังปั้มหัวใจอย่างเร่งด่วนนะคะ" ผมรีบพุ่งเข้าไปในห้อง ICU แต่โดนพยาบาลห้ามเอาไว้

"ญาติรอข้างนอกนะคะ" พยาบาลท่านที่แจ้งข่าวห้ามไว้ก่อนจะกลับเข้าไปในห้อง ICU ต่อไป

เสียงช็อตไฟฟ้าของเครื่องปั้มหัวใจได้ยินมาถึงหน้าห้อง ICU พร้อมเสียงกระแทกของร่างแทน ยิ่งทำให้จิตใจผมที่แหลกสลายแล้วเหมือนโดนเหยียบให้ละเอียดยิ่งขึ้น ผมร้องไห้โฮนำก่อนทุกอย่าง ผมคิดแต่เรื่องแง่ร้ายว่าแทนกำลังจะตาย แทนกำลังจะตาย แฟนผมกำลังจะตาย

"อย่าทิ้งกันไปแบบนี้ซิ" ผมทิ้งตัวนั่งกอดเข่าใกล้ๆ กับประตูหน้าห้อง ICU หัวเข่ากางเกงยีนส์เริ่มเปียกคราบน้ำตาจากความกลัวของผม ยิ่งได้ยิ่งเสียงปั้มหัวใจมากครั้งเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผมรู้สึกกลัวมากเท่านั้น จนกระทั้งเสียงทุกอย่างเงียบลง

"คุณหมอครับ เป็นไงบ้างครับ" ผมรีบพุ่งเข้าไปถามคุณหมอที่ดูแทน ซึ่งพึ่งเดินออกมาจากห้อง ICU มาได้สักครู่

"ตอนนี้คนไข้ยังไม่พ้นขีดอันตราย คงต้องเฝ้าดูอาการต่อไปแบบนี้ก่อน หากผ่านสองสามวันนี้ไปได้ ก็น่าจะพ้นขีดอันตราย ขึ้นอยู่กับคนไข้ล้วนๆ แล้วครับ ยังไงแล้ว หมอเองก็จะพยายามสุดความสามารถเช่นกันครับ" เมื่อคุณหมอเดินกลับออกไป ผมกลับไปนั่งที่เก้าอี้หน้าห้อง ICU ด้วยความรู้สึกหมดหวังอย่างบอกไม่ถูก

"มึงไม่เป็นไรนะ" บิ๊กเดินมานั่งข้างๆ กอดไหล่ผมไว้ ผมไม่ตอบอะไร เพื่อนๆ ผมทุกคนรวมถึงเฮียโบ้รวมกันอยู่ตรงหน้าผม ผมถอดแว่นตาปล่อยความอ่อนแอในใจผมออกมาอีกครั้ง มือซ้ายผมปิดตาเอาไว้หวังว่าจะไม่ให้น้ำตาไหลออกมามากไปกว่านี้

“พวกกูขอโทษที่ปล่อยมึงไว้คนเดียว...” ผมยกมือข้างขวาที่ถือแว่นตาเบรคแชมป์ไว้ เพราะทุกคนไปเก็บของที่โรงแรมกันระหว่างที่ผมเฝ้าแทน พวกมึงไม่ผิด อย่าคิดมากซิวะ

“วันนี้วันเกิดกู วันนี้กูไม่อยากได้อะไร ถ้าอะไรก็ตามที่ทำให้แทนกลับมาได้ บอกมาเลย กูให้ได้หมดจริงๆ ฮือๆๆๆ” ถ้าถามว่าความทุกข์ที่สาหัสที่สุดคืออะไร ก็คงเป็นเรื่องที่ผมได้แต่ยืนมองแฟนผมสู้กับความเป็นความตายคนเดียวแบบนี้

“ถ้ามึงร้องไห้แล้วดีขึ้น พวกกูจะไม่ไปไหนจนกว่ามึงจะลุกขึ้น ถ้ามันหนักจนมึงระบายไม่หมด พวกกูจะร้องไห้เป็นเพื่อนมึง แต่ทั้งหมดอะ เก็บไว้ตอนที่ทุกอย่างมันจบแบบทำอะไรไม่ได้แล้วจริงๆ ได้ไหมวะ” เสียงขึงขังปนสะอื้นของไอ้โจ ทำให้ผมต้องเงยหน้ามองมัน

“มึงไม่ใช่คนแบบนี้ มึงต้องสู้ กูเชื่อว่าแทนนอนอยู่ แต่รู้ว่ามึงมาหาแล้ว มึงต้องเข้มแข็งให้เค้าสบายใจด้วย กูเชื่อว่าเค้าต้องกลับมา” ผมลุกขึ้นกอดไอ้โจ ผมไม่เคยเห็นมันร้องไห้ให้กับเรื่องอะไร มันออกแนวเรื่อยๆ สนุกสนานได้ทุกสถาณการณ์ด้วยซ้ำ กูขอโทษพวกมึงทุกคน...

ขอบใจเฮีย ขอบใจพวกมึง ขอบใจที่ไม่เคยทิ้งกูไปไหน

……………….

เข้าวันที่สองที่แทนยังอยู่ในสภาพเป็นตายเท่ากัน ผมรู้สึกสู้ความล้าของร่างกายตัวเองไม่ไหว แต่จะให้กลับไปนอนที่โรงแรมผมก็ทำไม่ลง วันสำคัญของผมที่พึ่งผ่านไป คือฝันร้ายที่เป็นจริงในชีวิตผม ผมเคยคิดว่า การที่ผมจีบทิ้งจีบขว้าง ฟันแล้วทิ้ง ได้แล้วเมิน จะทำให้อนาคต ถ้าผมรักใครจริงๆ กรรมที่ผมก่อไว้จะทำให้ผมต้องเสียคนที่ผมรักไป...

นาทีนี้ ทุกบาปกรรมที่ผมนึกออก ผมโทษตัวเองว่านั้นคือสาเหตุที่ทำให้แทนอยู่ในสภาพนี้ ผมอยากอ้อนวอนขอโอกาสสักครั้ง แล้วผมจะไม่ทำชั่วอีก ผมอยากได้แฟนผมคืนมา ผมอยากได้แฟนผมคืนมา

“หลานบิ๊ก” คุณยายแทน...ดึกแล้วนะครับ ผมลุกขึ้นไหว้สวัสดีทั้งที่มีน้ำตาซึมๆ ออกมาจากความคิดฟุ่งซ่านของผมเมื่อสักครู่นี้

“คุณยายไม่นอนละครับ นี่ดึกมากแล้ว ผมเฝ้าไหว้ครับ” คุณยายกับผมนั่งลงที่เก้าอี้หน้าห้อง ICU เช่นเดิม ก่อนที่น้าจำเนียรจะส่งตระกร้าสานมาให้คุณยายของแทน

“ยายทำข้าวเหนียวหมูปิ้ง น้ำส้ม มาให้หลานทานแก้หิวเวลานี้ หลานบิ๊กไม่กินไม่นอน ยายก็ไม่สบายใจนะ” ผมไหว้ขอบคุณในความเป็นห่วง ก่อนจะเริ่มลงมือทานข้าวเหนียวหมูปิ้งที่ห่อใบตองอย่างดี คุณยายทำมาให้ผมสองห่อใหญ่ๆ ซึ่งทานหมดก็คงอิ่มยาวอยู่

“วันนี้ยายนั่งสวดมนต์ทั้งวัน ยายได้ยินอาการเมื่อกลางวัน ยายได้แต่นั่งขอพรพระให้รักษาแทนเอาไว้” ผมไม่รู้จะพูดอะไรให้คุณยายของแทนรู้สึกดีขึ้น แต่สายตาของคุณยายดูมีความหวังมากกว่าความรู้สึกในใจผมด้วยซ้ำ
 
“กินให้อิ่มนะหลานบิ๊ก เดี๋ยวยายคงกลับไปนอนพักซะหน่อย ถ้าหลานไม่ไหว กลับโรงแรมไปนอนพักก่อนก็ได้นะ” ผมพยักหน้าทานต่อ ข้าวเหนียวหมูปิ้งที่คุณยายของแทนทำมาให้ ทำให้ผมเกือบร้องไห้อีกแล้ว รสชาติของมัน เหมือนกับที่แทนเคยทำให้ผมทานในวันหนึ่งที่เรายังอยู่ด้วยกัน

หลังจากผมทานเสร็จ คุณยายกับน้าจำเนียรกลับไปบ้าน เพื่อนๆ ผมก็กลับไปนอนพักโรงแรมเดียวกับผมตั้งแต่หัวค่ำแล้ว เวลาหลังเที่ยงคืนตอนนี้ ถ้าจิตใจผมเป็นปกติ มันเงียบสนิทเหมือนดูหนังผีอยู่ แต่ในเวลานี้ ผมไม่รู้สึกกลัวอะไรมากกว่าความอยู่รอดของแทน น้ำตาผมยังไหลออกมาเรื่อยๆ ทั้งที่มันควรจะหมดแรงร้องไห้ได้แล้ว ผมปิดตาลง เอนหลังนิดๆ กะว่าจะหลับเอาแรงสักนิด แต่ผ่านไปสักครู่ก็ลืมตาขึ้นเหมือนเดิม

“Marlboro แดงกล่องนึงครับ” ผมเดินไป 7-11 ที่ห่างจากโรงพยาบาล

ผมเดินกลับโรงพยาบาลพร้อมกับการสูบบุหรี่ให้หายเครียด แต่ยังไม่ทันจะหมดม้วนแรก ผมโยนบุหรี่ที่เกือบจะหมดลงพื้นแล้วเหยียบดับมันให้เรียบร้อย คำพูดที่แทนเคยบอกให้ผมเลิกสูบฯ ฉายซ้ำสั้นๆ แต่ทำให้ผมเก็บความรู้สึกไม่ไหวอีกแล้ว ตั้งแต่กินข้าวเหนียวหมูปิ้งจนถึงบุหรี่ม้วนนี้ ทุกอย่างทำให้ผมนึกถึงแทนไปหมด ผมรีบวิ่งกลับไปโรงพยาบาลโดยทันที

ผมกลับมานั่งหน้าห้อง ICU อีกครั้ง...หอบเหนื่อยจากการวิ่งให้เร็วที่สุดกลับมาเฝ้า ผมนั่งลงที่เก้าอี้หน้าห้อง ICU อีกครั้ง ร้องไห้รอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ผมหลุดจากความรู้สึกนี้ไม่ได้ ผมคิดแต่เรื่องแย่ๆ คิดว่าแทนกำลังจะตายมากกว่าจะรอด ผมลุกขึ้นวิ่งเอาหัวโขกผนังหนึ่งทีแรงๆ แล้วทุบกำแพงรัวๆ แรงๆ ผมเครียดจนทิ้งตัวลงไปนอนตะแคงร้องไห้ที่พื้นคนเดียว ก่อนจะลุกมานั่งกอดเข่าหลังพิงผนังคนเดียวตรงนั้น

“มึงโอเคเปล่า”

เสียงเรียกใครอะ...ผมลืมตาขึ้นมา ไม่แน่ใจตอนนี้กี่โมงแล้ว แต่เป็นโจที่สะกิดผมที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่เดิม ผมลุกขึ้นถอดแว่น ขยี้ตาไล่ความเหนื่อยล้าออกไป Apple Watch ที่ข้อมือบอกว่าตอนนี้ตีห้าห้าสิบห้า

“กูรู้สึกไม่ดี กูเลยออกมาหามึงว่ามึงอยู่คนเดียวโอเคหรือเปล่า”  ผมพยักหน้ากับโบกมือบอกมันว่าไม่เป็นไร ก่อนจะกลับไปนั่งที่เก้าอี้หน้าห้อง ICU เหมือนเดิม

“แมร่งแย่มากวะ กูกลัว กลัวว่าถ้าเสียแทนไปจริงๆ กูจะใช้ชีวิตต่อไม่ได้อีก มึงรู้เปล่าโจ ตอนกูต้องเลิกกับแทนเพราะเรื่องที่บ้านเค้า ไม่เคยมีคืนไหนที่กูนอนหลับ กูทำทุกอย่างที่คิดว่าทำให้กูนอนหลับ เหล้าก็แดก ออกกำลังกายทั้งคืนอยู่คนเดียว เข้ากรงต่อยมวยก็หวังให้เจอคู่แข่งน็อคกูตายตรงนั้น หาคนเอาด้วยหลายคน พอทำเสร็จ กูยิ่งไม่มีความสุข ยิ่งตอนที่กูเห็นแทนกำลังจะคบกับคนอื่นที่พ่อแม่เค้าหาให้ กูยิ่งรับไม่ได้วะ มาตอนนี้ แทนกำลัง...” ถ้าดวงตาของผมประท้วงได้ว่ามันเหนื่อย มันคงหลุดจากเบ้าตาเพราะผมร้องไห้จนนับไม่ถ้วนแล้ว

“ไปใส่บาตรกับกูไหม เค้าว่าเวลาคนไม่สบายใจ ให้ทำบุญจะดีเอง” โจลุกขึ้นแล้วส่งมือรอดึงผมลุกจากเก้าอี้ พอผมจับมือมัน มันดึงผมไปกอด

“มึงมีกู มีไอ้ตั้ม ไอ้แชมป์ แม่มึง เฮียโบ้ และอีกหลายๆ คน ที่เค้ารักมึงมากๆ นะ ถ้าแทนคือโลกทั้งใบของมึง มึงก็เป็นโลกทั้งใบของทุกคนเหมือนกัน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้มึงเดินต่อไปให้ได้ สัญญาได้ไหมวะ” ผมกอดโจให้แน่นขึ้น แล้วยืมไหล่มันร้องไห้ ก่อนจะพยักหน้าสัญญา

หลังจากนั้น โจเปลี่ยนมากอดไหล่ผม แล้วพาไปห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้เรียบร้อย ก่อนจะพาไปใส่บาตร แล้วแวะ 7-11 หาซื้ออะไรกินเป็นมื้อเช้ากับผม รอเวลาที่เปิดให้เยี่ยมอีกครั้ง

ขอบใจที่พวกมึงไม่เคยทิ้งกูนะ กูจะแข็งแรงให้ได้ถ้าสิ่งที่กูไม่ต้องการให้เกิด เป็นเรื่องจริงที่กูต้องยอมรับ

……………….

ผมแวะกลับไปอาบน้ำ ชาร์จแบตเตอรี่ทุกสิ่งอย่าง แล้วนอนไปครึ่งวัน ก่อนจะกลับมาโรงพยาบาลตอนบ่ายโมง โดยเพื่อนๆ ผมทั้งหมดรวมเฮียโบ้ แวะมาเฝ้าให้ ผมตื่นขึ้นมาอ่านข้อความก็พบว่า พ่อกับแม่ของแทนมาคุยกับคุณหมอรอบเช้า ก่อนจะกลับไปเคลียร์เรื่องคดีต่อ ซึ่งเพื่อนๆ ผมกับเฮียโบ้ ลงความเห็นว่าพ่อกับแม่ของแทน ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย เลยไม่แปลกใจที่ผมโดนพ่อกับแม่ของแทนยำซะเละในช่วงที่ผ่านมา

ภาพที่ผมเห็นตอนนี้ แทนยังนอนไม่ได้สติท่ามกลางสารพัดท่อและเครื่องยังชีพทั้งหมด ที่สถานะชีพต่างๆ ยังเข้าขั้นต้องเฝ้าระวังต่อไป บางช่วงร่างกายของแทนกระตุกเพราะหายใจไม่สะดวก ความดันกับชีพจรของแทนอาจหายไปบ้าง แต่ก็กลับมาอยู่ในระดับเดิมได้ และผมก็ได้คุยกับคุณหมอถึงสถาณการณ์ล่าสุดของแทน ว่าถ้าอยู่พ้นวันนี้ได้ โอกาสกลับมาดีขึ้นน่าจะพอมีบ้างแล้ว เพราะอาการบวมของสมองลดลงไปบ้างแล้ว

“คุณหมอครับ ถ้าสมมุติแทนพ้นขีดอันตรายได้ เค้าจะกลับมาปกติไหมครับ” ผมถามคุณหมอเจ้าของไข้ที่แวะมาดูอาการตอนรอบบ่าย

“หมอยังตอบไม่ได้แบบชัวร์ๆ นะครับ แต่ถ้าคนไข้พ้นขีดอันตรายได้ ก็สามารถรักษาไปเรื่อยๆ จนกลับมาปกติได้นะครับ ขึ้นอยู่กับใจของคนไข้ และใจของญาติๆ ด้วยนะครับ” ผมพยักหน้ารับทราบ

“หมอเห็นเราเฝ้าอยู่ตั้งสองวันเต็มๆ คนไข้จะต้องฟื้นเพราะกำลังใจเพื่อนอย่างเราแน่นอน หมอเชื่อนะครับ” ผมไหว้ขอบคุณคุณหมออีกครั้ง

“ช่วยแฟนผมให้กลับมาให้ได้นะครับ” หมอนิ่งไปสักครู่ก่อนจะวางมือบนไหล่ผม

“หมอจะทำสุดความสามารถนะครับ” ผมไหว้ขอบคุณอีกครั้งก่อนที่คุณหมอเจ้าของไข้ของแทนจะเดินออกไป

ผมกลับไปมองแทนผ่านกระจกเหมือนเดิม ไม่รู้นานแค่ไหน แต่ผมยืนนิ่งอยู่นานมาก น่าจะเกินสองชั่วโมงไปแล้วมั่ง ที่ผมยืนมองแทนผ่านกระจกแบบนี้ ผมอยากสัมผัสมือของแทน แต่ตอนนี้แทนต้องอยู่ในสภาพปลอดเชื้อเท่านั้น ผมตัดสินใจพูดให้เสียงดังขึ้น เพราะคิดว่าแทนน่าจะได้ยินในสิ่งที่ผมพูด

“เราจะรอแทนแบบนี้ จนกว่าแทนจะหายดี จนกว่าแทนจะฟื้นขึ้นมา ถ้าฟื้นขึ้นมาแล้วแทนเป็นอะไรไป เราจะดูแลแทนตลอดไป ไม่กลัวลำบาก ไม่กลัวทุกอย่าง ขอให้แทนมั่นใจว่าเราจะไม่ทิ้งไปไหน ฉะนั้น....” ผมเช็ดน้ำตาที่ไหลซึมออกมา แล้วพูดดังๆ ออกไปว่า

“แทนอย่าทิ้งเราไปนะ”

“ติ๊ด........”

************

ยังคงขอบคุณคนที่ยังติดตามกันอยู่เสมอครับ ช่วงนี้ต้องทำอารมณ์ไม่ให้หลุดเข้าการเขียนเรื่องนี้ แล้วไปทำให้อารมณ์ชีวิตจริงหลุดเศร้าเหมือนกันครับ

แต่หลังจากบทที่ 76 ไป อะไรดีๆ จะเริ่มมา และจบที่บทที่ 80 (หรือก่อนนั้น) แบบ Happy ทุกตัวละครแน่นอนครับ^^

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-05-2016 03:23:42 โดย zipboy »

ออฟไลน์ lovewannabe

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 371
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
หน่วงมาก
ถ้าแม่พ่อ แทนขอให้แทนฟื้น แล้วจะให้คบกับบิ๊ก
แทนรับรู้ แล้วรู้สึกตัวนะ

ออฟไลน์ toung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ขอให้แทนหายป่วยเร็วๆนะ :m15: :m15:
ตอนต่อไปมาเร็วๆนะครับ

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
Re: ++เพื่อน(เรียน)พิเศษ : บทที่ 76++
«ตอบ #1016 เมื่อ15-05-2016 16:09:25 »

เขียนเสร็จพอดี...งั้นลงเลยละกันครับผม

ถอนหายใจให้ตัวเองไปเยอะกว่าเขียนผ่านบทนี้ได้ ต่อไปจากนี้ อะไรๆ ที่สำคัญกับอนาคตอีก 1-2 จุด จะเกิดขึ้นก่อนจบละครับ

เชิญชมครับผม^^

************

Chapter 76

“ติ๊ด........” ผมตกใจจนต้องมองว่าเกิดอะไรขึ้น

สัญญาณชีพจรของแทนเหลือ 0 ไปแล้ว หน้ากากช่วยหายใจของแทนมีการสำลักเลือดจนเต็มหน้ากาก ผมช็อคกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ในขณะเดียวกัน พยาบาลกลุ่มใหญ่ก็วิ่งเข้ามาในห้อง ICU อย่างรวดเร็วเช่นกัน

“ญาติออกไปก่อนนะคะ...ตามคุณหมอมาเดียวนี้ คนไข้หัวใจล้มเหลว”

ผมถูกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าสะกดให้ขาตายตรงนั้น ม่านรอบเตียงแบบขุ่นถูกรูดปิดรอบเตียงของแทนเอาไว้ ผมรู้แค่ได้ยินเสียงเครื่องปั้มหัวใจแบบไฟฟ้าที่ปั้มจนร่างของแทนดีดขึ้นจากเตียงอย่างรุนแรง มันซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า สลับกับการปั้มหัวใจด้วยมือ เสียงโวยวายไปมาที่ผมพอจับใจความได้ตอนนีคือ “คนไข้ยังไม่มีสัญญาณชีพจร”

“ตื่นขึ้นมาซิ อย่าทิ้งเราไป ขอร้องละ อย่าทิ้งเราไปแบบนี้ ฮือๆๆๆๆ” ผมตะโกนสุดเสียงแบบไม่สนใจอะไรแล้ว

“มึงออกมาก่อน ใจเย็นๆ ซิวะ” ผมโดนไอ้ตั้มกับแชมป์ดึงร่างผมเพื่อลากออกจากห้อง ICU แต่ผมไม่สนใจ ผมสะบัดกลับไปเกาะกระจก สองมือผมทุบกระจกในขณะที่หลังกระจก พยาบาลกับหมอที่พึ่งวิ่งมาถึง กำลังปลุกชีพของแทนให้กลับมาต่อไป

“บิ๊กรักแทน ได้ยินไหม บิ๊กรักแทน ชีวิตเรามีแค่แทน อย่าทิ้งเราไป ขอร้อง อย่าทิ้งเราไป ฮือๆๆๆ “ ผมตะโกนสุดเสียงโดยไม่สนใจอะไรแล้ว ตั้มกับเพื่อนๆ และเฮียโบ้ ช่วยกันคนละไม้คนมือลากผมออกมา

“กลับมาซิแทน กลับมาซิ โธ่เว้ย!!! ฮือๆๆๆ” ขาทั้งสองกับร่างผมโดนทุกคนลากออกมา จนผมโดนลากออกมาถึงหน้าห้อง ICU ผมโดนเฮียโบ้โยนผมลงพื้น พอผมลุกขึ้น เฮียโบ้ตบหน้าผมหนึ่งทีแรงๆ

“สงบสติอารมณ์ซิวะ มึงใจเย็นซิวะ” ผมได้แต่พยักหน้าทั้งน้ำตา

“เฮียรู้ไหมแฟนผมกำลังจะตาย” เฮียกอดผมทันทีที่ผมพูดจบ ปล่อยความรู้สึกนี้ลงบนอกเสื้อของเฮีย

“แกต้องมีสติและใจนิ่งๆ แกคิดว่าแฟนแกจะสบายใจเหรอที่มึงเป็นแบบนี้ ไม่เลย เค้าก็ทำหน้าที่ของเค้าอยู่ ที่เหลือก็ต้องอยู่ที่โชคแล้ว มึงเป็นคนโชคดี และเรื่องนี้มึงต้องโชคดีแน่ๆ แต่เฮียขอให้แกใจเย็นๆ ก่อน ได้ไหม” ผมพยักหน้าเข้าใจในสิ่งที่เฮียจะบอกผม
 
“ไอ้บิ๊ก หมอออกมาแล้ว” ตั้มทักขึ้นมา เราทุกคนวิ่งไปหาคุณหมอที่พึ่งออกมาในสภาพที่ดูเหนื่อยไม่แพ้พวกผม

“หมอขอคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ของคนไข้หน่อยครับ ใครพอจะติดต่อได้บ้างครับ” ผมรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาคุณแม่ของแทน

“คุณน้าครับ คุณหมอต้องการให้มาฟังอาการของแทนตอนนี้ครับ ครับ สวัสดีครับ” คุณพ่อกับคุณแม่ของแทนกำลังแวะเข้าไปโรงพยาบาลหลังจากไปจัดการงานกับจัดการเรื่องคดีของคู่กรณีอยู่

“คุณหมอครับ แฟนผมเป็นไงบ้างครับ” คุณหมอบอกผมแค่ว่า

“หมอขอบอกกับคุณพ่อกับคุณแม่ของคนไข้ก่อนนะครับ” ผมพยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่คุณหมอจะเดินจากไป

ไม่นานนักหลังจากคุณหมอเดินผ่านไป ร่างของแทนถูกเข็นออกมาจากห้อง ICU พร้อมอุปกรณ์ยังชีพอื่นๆ ผมได้แต่มองความเป็นความตายของคนรักอย่างช่วยอะไรไม่ได้

“มึงใจเย็นๆ หมออาจจะต้องรักษาแทนเพิ่มอีก” ผมไม่ได้ฟังอะไรที่แชมป์บอกผม ผมลุกขึ้นวิ่งตามหลังไปว่าพยาบาลจะเข็นแทนไปไหนอีก แล้วผมก็ไปถึงได้แค่ลิฟท์ เพราะแค่เตียงกับอุปกรณ์ยังชีพของแทนรวมพยาบาล ก็เต็มลิฟท์แล้ว

ประตูลิฟท์ปิดลง ผมหันหลังเดินกลับไปที่ห้อง ICU ผมไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว...ผมอยากตายตอนนี้ ถ้ามันแลกให้คนที่รักผมฟื้นได้เลย ขาผมตอนนี้ไม่รู้สึกอะไร ผมหมดแรง ผมจอดนั่งเก้าอี้แถวๆ นั้น ก่อนจะถอดแว่นตาออกวางไว้ข้างๆ สองมือของผมปิดหน้าเอาไว้ ได้แต่ร้องไห้เจ็บปวดเหมือนตกนรกทั้งเป็นแบบนี้

ทำไมต้องเป็นแทนด้วย แฟนผมไปทำอะไรให้ ทำไม...

……………….

ที่หน้าห้องคุณหมอ ผมรออยู่หน้าห้องสักพักใหญ่ๆ หลังจากที่คุณพ่อ คุณแม่ คุณยายของแทน เข้าไปได้สักครู่ใหญ่ๆ พอทั้งหมดออกมา สีหน้าของคุณพ่อกับคุณแม่แทนแย่มาก ดวงตาของคุณแม่แทนมีคราบน้ำตา ในขณะที่คุณยายนั่งรถเข็นออกมาปฐมพยาบาลเพราะเป็นลมไปแล้ว ผมเองก็ไม่กล้าถามว่าคุณหมอคุยอะไรกับคุณพ่อ คุณแม่ของแทน

“คุณน้าครับ เกิดอะไรขึ้นกับแทนเหรอครับ” ผมรวบรวมความกล้าถามขณะที่เดินตามหลังคุณพ่อกับคุณแม่ของแทน

“ไม่ใช่ธุระของเธอ” นี่คือคำตอบที่คุณพ่อของแทนตอบกับผม มันทำให้ผมแทบจะหยุดเดินตรงนั้นทันที แต่คุณแม่ของแทนหยุดเดิน และบอกคู่ชีวิตข้างๆ ว่าให้รอสักครู่ แล้วหันกลับมาหาผม

“แทนต้องผ่าตัดใหม่อีกรอบ มีเลือดออกจากสมอง ฉันพึ่งไปเซ็นอนุญาตให้ผ่าตัดมาเมื่อสักครู่นี้” ผมรู้สึกช็อค กลืนน้ำลายไม่ลง

มือของแม่แทนพุ่งตบหน้าผมล้มลงไป พอผมลุกขึ้นมา แม่ของแทนพุ่งมากระชากเสื้อผม ใบหน้าของผู้หญิงที่เปี่ยมด้วยความน่าเกรงขามที่ผมรู้จัก กำลังร้องไห้ไม่ต่างจากที่ผมเป็นมาตลอดสองวันที่ผ่านมา

“ตั้งแต่แกอยู่กับลูกฉัน มีแต่เรื่องแย่ๆ แกมันตัวซวยทำให้ลูกฉันต้องเป็นแบบนี้ ฉันจะฆ่าแกแน่ๆ ถ้าลูกฉันเป็นอะไรไป” คุณพ่อของแทนรีบมาดึงคู่ชีวิตตัวเองออกมา ผมรู้สึกเห็นด้วยทุกอย่างที่แม่แทนพูดกับผม พอคุณแม่ของแทนสลัดหลุดจากการดึงของคุณพ่อของแทนได้ ฝ่ามือของคุณแม่แทนตบเข้าหน้าผมเต็มๆ อีกที

“หยุดเดี๋ยวนะ!!!” เสียงของเฮียโบ้ตะโกนมาก่อนจะวิ่งมาประคองผม ส่วนเพื่อนๆ ผมทุกคนล้อมผมไว้เป็นการ์ดอีกที

“คุณน้าครับ ทำแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรนะครับ เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเหตุสุดวิสัยนะครับ” ไบรท์เอยขึ้นก่อน

“คุณเป็นแม่ประสาห่าอะไรครับ คนรักของลูกคุณเสียสละทุกอย่างเฝ้าตลอดทั้งวันไม่เคยท้อ แต่คุณทำอะไรนอกจากเรื่องโทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะน้องผม” เฮียโบ้บันดาลโทสะตำหนิคุณแม่ของแทน

“พวกมึงทุกตัวก็ต้องตายเหมือนกัน เพราะพวกมึง ลูกกูต้องเป็นแบบนี้ จบเรื่องนี้จำไว้นะ กูไม่เอาพวกมึงทุกคนไว้แน่ๆ!!!” คุณแม่ของแทนหันกลับไปเดินต่อไป โดยมีคุณพ่อของแทนประคองเดินไป

“ผมเลยไม่แปลกใจที่แทนจะมีความสุขเพราะอยู่กับเพื่อนผม เพราะคุณไม่เคยให้ความสุขอะไรกับแทน” ผมดึงไอ้ตั้มเอาไว้ เพราะผมไม่อยากให้ไปหาเรื่องกับคุณแม่ของแทน

“อย่าปากดีให้มาก เพราะไม่งั้นอายุแกจะไม่ยืน” คุณพ่อของแทนวางอาฆาตไว้ก่อนจะประคองคุณแม่ของแทนเดินหายลับไป ส่วนผมได้รับการประคองไปนั่งให้ดีๆ

“เชี่ย ปากมึงช้ำวะ สัส!!!” โจที่เห็นแผลคนแรกลุกขึ้นจะไปเอาเรื่อง ผมดึงแขนมันไว้แล้วส่ายหน้าว่าอย่าทำ

“เค้าพูดถูกวะทุกคน เพราะกู ทำให้ชีวิตของแทนเป็นแบบนี้ กูมันหายนะของชีวิตเค้า...” ผมรู้สึกเห็นด้วยทุกคำพูดของคุณแม่แทน
“สัส ที่มึงสู้มาแทบตายคือห่าไรวะ ถ้าเพื่อนกูใจเสาะแบบนี้ กูไม่น่าเสียแรงคบเลยวะ” แชมป์ผลักอกผมแรงๆ จนไบรท์ต้องมาดึงไว้

“มึงฟังเฮียนะ มึงไม่ผิด ชีวิตแทนดีขึ้นเพราะมึงมาเยอะแล้ว อย่าไปสนใจคำพูดแม่แบบนั้นเลยวะ เฮียสงสารแทนที่มีพ่อแม่ห่วยๆ แบบนั้นวะ” มือของเฮียลูบหัวผมต่อไป

“พวกเราจะอยู่จนกว่าแทนฟื้นเป็นเพื่อนมึง นานแค่ไหนก็สู้วะ มึงอะ ห้ามพูดไรโง่ๆ แบบเมื่อกี้อีกนะเว้ย” โจตบไหล่ผมเบาๆ

ผมมองเห็นสายตาที่มุ่งมั่นของทุกคนแล้ว ผมจะศรัทธาว่าแทนต้องหายเช่นกัน ขอบใจพวกมึง ขอบคุณเฮีย....

สองชั่วโมงหลังจากที่แทนเข้าห้องผ่าตัด แทนกลับมาเข้าห้อง ICU อีกครั้ง ผมมองแทนผ่านกระจกทั้งกั้นไว้ตอนนี้ ใบหน้าของแฟนผมหลับสนิท มีแผลขีดข่วนบนหน้าเล็กน้อย ผมพยายามเพ่งให้ชัดที่สุด เผื่อนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมจะได้เห็นหน้าคนรักของผมใกล้ๆ แบบนี้...ไม่ซิ มันต้องไม่ใช่ครั้งสุดท้าย...

“หมออยากให้เรากลับไปพักผ่อนนะครับ หมอคิดว่าหลังจากผ่าตัดรอบนี้ ถ้าพ้นคืนนี้แล้วไม่มีภาวะช็อคอะไร อาการของคนไข้น่าจะดีขึ้นแน่นอน” คุณหมอเดินมาพูดข้างๆ หลังจากแวะมาตรวจอาการของแทนแล้ว

“ผมกลัว...” คุณหมอยิ้มและส่ายหน้าเบาๆ ด้วยรอยยิ้ม

“พรุ่งนี้กลับมาใหม่นะครับ เราต้องพักผ่อนก่อน เชื่อหมอนะครับ หมอรับปากว่าจะช่วยเต็มที่ หมอคิดว่าพ้นคืนนี้ไป ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรก ข่าวดีจะมีแน่นอนครับ” ผมไหว้ขอบคุณคุณหมออีกครั้ง

“ผมจะทำตามที่หมอบอกนะครับ” แล้วคุณหมอก็ยืนถุงยาให้ผม มันเป็นวิตามินรวมเต็มถุง ที่หน้าถุงเขียนวิธีการทาน และตบท้ายถุงว่า “สู้ๆ ครับ”

คุณหมอเดินจากไปพร้อมรอยยิ้ม ผมหันกลับไปมองแทนที่ยังคงหลับอยู่ แล้วบอกเบาๆ ผ่านกระจกแค่ว่า

“เราจะกลับไปพักผ่อนตามที่หมอบอกนะ พรุ่งนี้แทนตื่นขึ้นมาคุยกับเรานะครับ”

……………….

ผมนอนอยู่ในห้องของโรงแรมที่คุณพ่อ คุณแม่ของแทนเปิดไว้ให้ ส่วนเฮียโบ้กับเพื่อนๆ ผม เปิดไว้อีกชั้นหนึ่ง คืนนี้ตั้มมานอนเป็นเพื่อนผมข้างๆ เราทั้งคู่หลับสนิทกันเต็มที่ ความเหนื่อยที่ฝังใน ทำให้จิตใจที่ผมพยายามคิดถึงเรื่องของแทน ก็สู้ความล้าภายในร่างกายไม่ได้อยู่ดี

“นายๆ”

“ยืมดินสอสักแท่งได้ปะ เราลืมเอามา”

“เลิกแล้วเดี๋ยวคืนนะ”

ผมตื่นขึ้นมาหลังจากภาพนี้เล่นอยู่ในหัวผม มันคือครั้งแรกที่ผมได้เจอกับแทน ผมนั่งเรียนพิเศษข้างๆ คนนี้ จนวันนี้ เค้ากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผมไปแล้ว ผมตื่นนอนตอนหกโมงครึ่ง ในขณะที่ตั้มยังหลับสนิทอยู่ ผมไปอาบน้ำ แต่งตัว ก่อนจะปลุกตั้มให้อาบน้ำ แต่งตัว โดยเฮียโบ้เองก็มาเคาะประตูกะปลุกผมไปทานข้าวเช้าเหมือนกัน หลังจากทานเสร็จแล้ว รวมทานวิตามินที่คุณหมอฝากไว้ด้วย ก็ไปที่โรงพยาบาลต่อเหมือนเดิม

“น้าจำเนียรสวัสดีครับ” น้าจำเนียรมารอผมตรงประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล

“ข่าวดีคะคุณบิ๊ก เมื่อสักครู่คุณแทนได้ย้ายออกจาก ICU แล้วคะ” เพื่อนๆ ผมกับเฮียโบ้ เฮกันดังทันที พอได้เลขห้องพักที่แทนย้ายไปพักฟื้นแล้ว ผมรีบวิ่งไปที่ตึกผู้ป่วยในทันที

ผมมาถึงห้องที่แทนนอนพักตอนนี้ เคาะประตูห้องสองที ก่อนจะได้ยินเสียงตอบรับเป็นเสียงคุณแม่ของแทนว่าเข้ามาได้ ผมเปิดประตูเข้าไป ห้องที่แทนพักเป็นห้องพิเศษที่ดีที่สุดของโรงพยาบาล คุณยายของแทนกำลังยืนเฝ้ามองหลานอยู่ข้างๆ ส่วนคุณแม่ของแทนเดินสวนผมออกไปโดยไม่มองหน้าผมเลยสักนิด

“หลานบิ๊ก” คุณยายเดินมาหาผมด้วยไม้เท้าอย่างรีบร้อนจนผมต้องรีบเดินเข้าไปหา คุณยายของแทนกอดผมแน่นๆ ก่อนจะบอกว่า

“ตั้งแต่เมื่อคืน แทนหัวใจกลับมาเต้นปกติแล้ว ความดันโอเคแล้ว ลองถอดเครื่องช่วยหายใจก็หายใจเองพอได้บ้าง ไม่มีเลือดออกจากสมองแล้วด้วย คุณหมอเลยย้ายมาฟักฟื้น” ผมพยักหน้ายิ้มดีใจไม่แพ้คุณยายที่กำลังเล่าตอนนี้

ผมเดินไปจับมือแทนที่ตอนนี้นอนในชุดคนไข้ ขาซ้ายกับแขนซ้ายเข้าเฝือกเอาไว้อยู่ ศีรษะของแทนมีผ้าพันแผลรอบๆ ท่อหายใจขนาดเล็กเกาะอยู่ที่จมูก ตามร่างกายของแทนส่วนที่ผมมองเห็น มีรอยแผลขีดข่วน ฟกช้ำไปหมด แทนไม่ได้ตอบสนองอะไรตอนผมจับมือ ผมกระซิบข้างๆ หูของแทน

“ขอบใจที่ไม่ทิ้งเรานะ” ผมร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกดีใจ นาทีนี้ความรู้สึกหนักๆ ที่ผมแบกไว้ มันเบาลงอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าแทนจะเป็นยังไงต่อจากนี้ จะอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป ผมก็ยินดีจะดูแลคนที่ผมรักโดยไม่มีเงื่อนไขเหมือนกัน

“ยายขอบใจเรานะ หลานบิ๊กคือสิ่งที่ดีที่สุดของแทน ขอบใจที่ดูแลแทนมาตลอดนะ” คุณยายเองก็กำลังร้องไห้เหมือนที่ผมเป็นอยู่

“คุณยายรู้ไหมครับ ผมไม่เคยคิดว่าผมจะรักหลานคุณยายเลย แต่ตั้งแต่ผมอยู่ใกล้ๆ ตั้งแต่วันแรก ผมสัญญาครับ ผมจะรักแทนให้ดีที่สุด เท่าที่ผมจะทำได้ ขอบคุณคุณยายที่อนุญาตให้ผมคบกับแทนด้วยครับ” ผมก้มล้มกราบเท้าคุณยายทันที

“ไม่เอาๆ ไม่ต้องขนาดนี้ ลุกขึ้นมานะๆๆ” ผมลุกขึ้นไหว้ขอบคุณคุณยายอีกครั้ง

“คุณหมอบอกไหมครับ แทนจะฟื้นเมื่อไหร่” คุณยายหันกลับไปมองหลานตัวเอง ก่อนจะกลับมาบอกผมว่า

“คุณหมอบอกยายว่า ถ้าอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะฟื้นนะ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่” น้ำเสียงคุณยายดูไม่สบายใจเท่าไหร่นัก

“ผมจะดูแลแทนเองครับ จะนอนเฝ้าให้ทุกวันจนกว่าแทนจะฟื้น ไม่ว่าแทนจะเป็นยังไง ผมจะไม่ทิ้งไปไหนครับ” คุณยายพยักหน้าด้วยยิ้มทั้งน้ำตา

ผมมองคนรักผมกำลังนอนหลับด้วยลมหายใจที่ปกติ สัญญาณชีพจรกับความดันของเครื่องยังชีพก็อยู่ในเกณฑ์ปกติดี ผมหวังว่าความรู้สึกที่ผมมีตอนนี้ แทนจะรับรู้และตื่นขึ้นมาอีกครั้งให้ได้

เรารอแทนอยู่นะ...

……………….

หลังจากแทนออกมาฟักฟื้นแล้ว ถึงแทนจะยังไม่รู้สึกตัว แต่แทนก็อาการดีขึ้นเรื่อยๆ สองวันหลังจากออกมาพักฟื้น ท่อช่วยหายใจไม่ต้องแล้ว ชีพจรกับความดันปกติตลอดสามวัน หมอถอดเครื่องวัดชีพจรออกแล้ว แต่ก็แวะมาเช็คความดันกับชีพจรอยู่ทุกชั่วโมง แต่แทนยังไม่ขยับตัวอะไรนอกจากการขยับขึ้นลงเบาๆ ของหน้าอก ที่อาจจะหายใจติดขัดไปบ้าง แต่ก็หายใจด้วยตัวเองได้

ตอนนี้เกือบจะครบสัปดาห์แล้ว เพื่อนๆ ผมกับเฮียโบ้กลับ กทม. กันไปก่อนตั้งแต่หลังจากที่แทนออกมาพักฟื้นแล้ว กิจวัตรประจำวันที่ผมพอจะทำได้ในแต่ละวันคือการนั่งมองแฟนผมที่กำลังหลับอยู่ ผมไปหากีตาร์โปร่งตัวหนึ่งที่ตลาดมาเพื่อเล่นกับร้องเพลงให้แฟนผมฟัง กลับไปที่บ้านคุณยายเพื่อเอาหนังสืออ่านเล่นที่แทนชอบอ่านมาอ่านให้ฟัง และคอยวัดชีพจรของแทนอยู่เรื่อยๆ เพื่อความไม่ประมาทไปด้วย

“ห้าทุ่มแล้ว บิ๊กจะไปนอนแล้วนะ วันนี้ครบ 10 วันที่เราไม่ได้คุยกันเลย” สองมือของผม จับมือของแทนที่ต่อสายน้ำเกลือกับท่อให้อาหารทางหลอดเลือด

ที่จริงแล้ว ผมแอบเสียขวัญเล็กๆ ยิ่งวันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แล้วแทนไม่ตื่นแบบนี้ ผมยิ่งรู้สึกใจไม่ดีเอาซะเลย ผมร้องไห้อีกแล้ว...ผมขอให้แทนไม่ตาย แต่ผมอยากโลภมากขอให้แทนกลับมาเป็นปกติได้ไหม

“แทนตื่นมามองบิ๊กได้ไหม รู้สึกตัวขึ้นมามองเราได้ไหม ฮือๆๆๆ” น้ำตาของผมไหลกระทบหลังมือของแทนเรื่อยๆ ผมหยุดร้องแล้วเช็ดน้ำตาออกจากหลังมือของแทน สูดหายใจลึกๆ ผมจะร้องไห้ให้แทนได้ยินไม่ได้เด็ดขาด

“เดี๋ยวเราตื่นมาพรุ่งนี้ มีหนังสือเล่มใหม่กับเพลงใหม่ๆ มาให้แทนฟังอีกนะ ราตรีสวัสดิ์ครับ” ผมลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำจะล้างหน้าแล้วกลับมานอน

“บิ๊ก...” ผมไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหม...ผมหยุดนิ่ง ก่อนจะหันกลับไปหาแทน แทนยังหลับตานอนอยู่ ผมไปนั่งฟังใกล้ๆ ว่าผมไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหม

“บิ๊ก...” ใช่ด้วย!!! แทนเอยชื่อผมออกมา

“เราอยู่นี่แทน อยู่นี่ไง” ผมกุมมือแทนเอาไว้ นิ้วมือของแทนเริ่มตอบสนองเบาๆ แทนค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ

“โอ็ย....” แทนร้องเจ็บเบาๆ จากการพยายามขยับตัว แทนลืมตาแบบปรือๆ แต่กรอกตามาทางผม ไฟหัวเตียงที่น่าจะสว่างพอมองเห็นหน้าผมตอนนี้ ก็พอที่ผมจะเห็นแทนชัดๆ ว่าฟื้นขึ้นมาแล้ว

ผมดีใจจนร้องไห้ ผมกุมมือแทนไว้แน่นขึ้น สิ่งที่ผมเห็นผ่านสองตาที่กำลังร้องไห้ตอนนี้ คือน้ำตาของแทนที่ไหลออกมาจากตาปรือๆ ของแทนที่กรอกมามองผมค้างไว้อยู่เหมือนกัน

“เราเรียกพยาบาลก่อนนะ” ผมคว้าปุ่มกดเรียกที่หัวเตียงมากดไปสองที

ขอบใจที่แทนกลับมานะ ขอบใจที่กลับมานะครับ

*************

ช่วงนี้งานออกเร็ว เพราะผมก็อยากปิดให้จบหลังจากปล่อยเวลาไปนานพอสมควร ยังไงแล้ว เหลืออีก 4 ตอนโดยประมาณ กับบทพิเศษอีกตอน (บทพิเศษเขียนเสร็จไปตั้งแต่สองเดือนก่อน แต่ขอยังไม่ปล่อยตอนนี้)

ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ บทถัดไปจะรีบเข็นมาให้อ่านกันต่อครับผม^^

รักคนอ่านครับ^^

ออฟไลน์ toung

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แทนฟื้นแล้ว ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นนะครับ
ตอนต่อไปมาเร็วๆนะครับ

ออฟไลน์ zipboy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
แทนฟื้นแล้ว ทุกอย่างน่าจะดีขึ้นนะครับ
ตอนต่อไปมาเร็วๆนะครับ

ขอบคุณ+จะพยายามรีบเข็นออกมาให้เร็วที่สุดตามที่เวลาในชีวิตจะอำนวยครับ^^

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ขอบคุณคนเขียนที่สละเวลามาต่อให้นะครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด