**หลุดจอง1ชุด** {ปาฏิหาริย์รักของลูกหมู} ลูกหมู & ลีโอ......[31/1/60]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **หลุดจอง1ชุด** {ปาฏิหาริย์รักของลูกหมู} ลูกหมู & ลีโอ......[31/1/60]  (อ่าน 231675 ครั้ง)

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
ชอบๆๆๆ. สนุกดีครับ. พระเอกปากแข็งสินะ.   ลูกหมูก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลยย. ออิอิอิอิอิ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ลูกหมูน่ารักกกกกกกกกกกกกกก
อย่าให้เจอนะลีโอ แม่จะบิดหูให้เจ็บเลย แกล้งน้องได้ยังไง!!!
รอตอนต่อไปปป

ออฟไลน์ HanATarO

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2
ลีโอ คงจะห่วงน้องน่าดู ใช่มั้ย????

ออฟไลน์ premierfour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชื่อตอนมาแล้วววว รอๆๆๆ  :z2:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
ตอนที่ 3

ลีโอ

“มองหาใคร  ถ้าหาลูกหมูล่ะก็  น้องเพิ่งออกไป...คุณดูสิคะ  ไม่รู้ว่าลูกคุณน่ะ  ธุระเยอะจริงหรือแกล้งลงมาช้ากันแน่”  จากที่ผมพยายามมองหาใครบางคน  เสียงของคุณแม่ที่ดังขึ้นก็เฉลยให้ผมได้รู้  ว่าคนที่ผมมองหาออกไปมหาวิทยาลัยแล้ว  ที่สำคัญผมยังได้ค้อนวงใหญ่  มาพร้อมประโยคประชดประชันแถมให้อีกด้วย

“ลูกผมคนเดียวที่ไหนคุณสุมนา  เจ้าลีโอก็ลูกคุณนะ  ฮึๆ”  คุณพ่อเลือกที่จะแซวคุณแม่กลับ  ด้วยน้ำเสียงและสีหน้าล้อเลียน  ทำเอาคนเป็นลูกอย่างผมอดที่จะยิ้มให้กับคำเย้าแหย่ของบุพการีไม่ได้

“ค่ะ  ลูกเรา  นิสัยแบบนี้ไม่รู้ไปติดใคร  ระวังให้ดีเถอะจะโดนเมินเข้าสักวัน  ลูกนะลูก  เฮ้อออ”  คุณแม่มองมาที่ผมอย่างเหนื่อยใจ  สอดคล้องไปกับอาการถอนหายใจยาวเหยียดที่ได้ยิน

“ลีโอ  ทำอะไรก็คิดให้ดี  เราน่ะโตแล้ว  พ่อจะไม่พูดมาก  ถือว่าเมื่อวานพ่อเตือนลูกไปจนหมดแล้ว”  ใบหน้าและแววตาจริงจังของคุณพ่อ  ทำให้ผมรับคำท่านเบาๆ  ด้วยไม่คิดเถียงเพราะรู้ว่าท่านทั้งคู่รักผม  ที่เตือนที่บ่นก็เพราะหวังดีกับผมอย่างแท้จริง

“แม่บ้านแอบมากระซิบบอกแม่  ลูกหมูแทบไม่แตะมื้อเช้า  ไม่รู้วันนี้จะมีสมาธิเรียนมั้ย  โชคร้ายน้องอาจจะเป็นลม  เพราะไม่ได้ทานมื้อเช้าก็ได้  เรานะเรา...ลีโอ  แม่ขอสั่งให้ลูกคุยกับน้องซะ  แค่เมื่อเช้าแม่ก็สงสารลูกหมูจะแย่  จนนึกอยากจะจับเรามาหวดให้ก้นลายเลยทีเดียว”  สีหน้าและแววตาของคุณแม่จริงจังไม่มีแววล้อเล่น  เชื่อว่าหากผมเด็กกว่านี้  คงได้โดนตีอย่างที่ท่านพูดเป็นแน่

เรื่องที่ได้ยินไม่ทำให้ผมแปลกใจสักนิด  แต่อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่ผมเป็นต้นเหตุให้คนที่บุพการีรักและเป็นห่วงนักหนา  ต้องคิดมากพาลกินข้าวเช้าไม่ลง  แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ช่วงเช้าที่ผ่านมาหรอก  เพราะลูกหมูของทุกคนมีอาการผิดปกติ  ทานน้อยพูดน้อยมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว  ต้นเหตุทั้งหมดมันเกิดจากตัวผมเองนี่แหละครับ  แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะทนวางเฉยอยู่ได้  หากเห็นคนที่เราแอบรักและเฝ้าดูแลมาตลอด  โดนใครก็ไม่รู้หาเศษหาเลยต่อหน้าต่อตา  ดีเท่าไหร่แล้วที่ไอ้นั่นไม่โดนผมต่อยคว่ำอยู่หน้าบ้าน 

เหตุการณ์ที่ผมพบเจอ  จึงส่งผลให้ผมพาลใส่คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรอย่างลูกหมู  หากผมจะมีความผิดผมก็ผิดจุดนี้  แต่มันอดใจไม่ได้จริงๆที่เห็น  ‘หมูน้อยของผม’  ไม่ยอมระวังตัว  ทั้งๆที่ผมคอยเตือนมาตลอดให้ระวังในเรื่องการคบคน  แถมผมยังลงทุนยอมให้คนอื่นมองว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว  เพราะพยายามสร้างความเชื่อผิดๆให้แก่หมูน้อย  ด้วยสิ่งที่ผมพยายามฝังใส่หัวน้องนั้น  ช่างตรงข้ามกับตัวตนของหมูน้อยแบบสุดขั้ว 

อย่างคำพูดที่ว่าลูกหมูเป็นหมูน้อยที่แสนขี้เหร่  ทั้งๆที่ความจริงลูกหมูออกจะมีรูปลักษณ์ที่แสนน่ารักน่ามองไม่ต่างจากชื่อ  แถมน้องยังเป็นเด็กว่าง่ายและใสซื่อเสียจนผมทั้งหวงและห่วง  เพราะทุกวันนี้ในสังคมเราหาคนแบบนี้ได้ยากนัก  และคนแบบน้องนี่แหละที่มักจะโดนเอาเปรียบไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ  ซึ่งเพราะเหตุผลที่ว่ามาทำให้ผมทำสิ่งแย่ๆกับน้อง

ผมรู้ว่าคำพูดของผมทำให้หมูน้อยขาดความมั่นใจในการเข้าสังคม  ส่งผลต่อการคบหาเพื่อนฝูง  ด้วยความคิดที่ฝังหัวว่าตัวเองนั้นแตกต่าง  จนไม่กล้าคบใครเพราะกลัวโดนคนอื่นรังเกียจ  หมูน้อยจึงเลือกที่จะปลีกตัวอยู่คนเดียวเสียมากกว่า  เป็นมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งโตขึ้น  หากจะต่อว่ากันผมก็ยินดีที่จะรับ  แต่จะเอาอะไรมากกับผู้ชายเห็นแก่ตัวที่หลงรักน้องชายบุญธรรมมาตั้งแต่เด็กกันล่ะครับ 

จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นตั้งแต่เราสองคนยังเด็ก  เป็นช่วงที่หมูน้อยอยู่ชั้นอนุบาลได้มั้งครับ  น้องเป็นเด็กอ้วนจ้ำม่ำที่เวลาผมได้กอดที  ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มชวนเคลิ้มไปเสียทุกครั้ง  จนผมไม่อยากผละห่าง  ที่สำคัญน้องมีใบหน้าที่แสนน่ารักเหมือนตุ๊กตา  ด้วยดวงตาเรียวเล็กเวลายิ้มแต่ละที  ดวงตาทั้งคู่จะเปลี่ยนเป็นรูปสระอิ  และริมฝีปากแดงสดก็เปิดโชว์ฟันขาวเกือบทุกซี่อย่างน่าดู 

น้องยิ่งน่ารักมากยิ่งขึ้น  เมื่อปรากฏรอยบุ๋มเป็นลักยิ้มข้างแก้มเวลาน้องคลี่ยิ้มกว้าง  แถมด้วยลูกหมูยังมีผิวใสที่ขาวจัด  ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็โดดเด่นจนดึงดูดสายตา  และยากที่จะละสายตาไปจากน้อง  และถ้าใครเผลอจับน้องแรงนิดๆหน่อยๆผิวใสๆก็จะขึ้นรอย  จนคนใกล้ชิดที่รู้ข้อนี้ต่างให้ความทะนุถนอมลูกหมูเป็นพิเศษ  แบบที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวสักนิด  แต่เมื่อวานกลับเป็นผมเองที่ทำรุนแรงกับลูกหมู  จนผิวขาวๆขึ้นรอยแดง  แต่ยังดีที่ไม่เป็นจ้ำเขียวให้ผมปวดใจไปมากกว่าเดิม

ตั้งแต่เด็กผมสังเกตได้ว่าเวลาไปไหนมาไหนกับลูกหมู  ผู้ใหญ่ที่ได้เห็นเราก็มักจะเข้าหาน้องด้วยความเอ็นดู  เพื่อนๆรุ่นเดียวกันก็อยากจะเล่นด้วย  น่าจะเป็นเพราะรอยยิ้มสดใส  ความน่ารัก  และความมีน้ำใจของหมูน้อยนั่นเอง

ที่สำคัญลูกหมูมีความพิเศษอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครเหมือน  คือการที่ผิวกายอุ่นๆของน้องมักส่งกลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกลิ่นดอกไม้อยู่ตลอดเวลา  ทำให้คนที่ได้ใกล้ชิดออกอาการประหลาดใจเสมอยามได้กลิ่นกายน้อง  โดยเฉพาะเวลาที่หมูน้อยอารมณ์ดี  กลิ่นกายหอมประหลาดมักจะส่งกลิ่นหอมชวนลุ่มหลงมากยิ่งขึ้น  ความพิเศษเหล่านี้ของลูกหมูทำให้พี่ชายอย่างผมหวงและออกอาการไม่พอใจทุกครั้ง  เมื่อใครต่อใครอยากจะเข้าใกล้ลูกหมู  เพราะหลงใหลได้ปลื้มในตัวน้อง 

ข้อสำคัญอีกข้อที่ผมยอมไม่ได้ที่จะให้มีใครมาวอแวน้องคือ  ในช่วงเวลานั้นความสนใจของหมูน้อยได้ถูกแบ่งปันไปให้คนอื่นที่ไม่ใช่ตัวผมเอง  ซึ่งผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนั้นเลย  เหมือนว่าน้องไม่เห็นผมเป็นที่หนึ่งอีกต่อไป  ทั้งๆที่ผมออกจะรักลูกหมูและเห็นว่าน้องเป็นคนสำคัญที่สุดของผม  เพราะตั้งแต่ผมได้เจอน้องในครั้งแรกด้วยความบังเอิญ  ทำให้ผมเชื่อมาตลอดว่าลูกหมูถูกส่งมาให้เป็นคนของผมแต่เพียงผู้เดียว  ดังนั้นใครก็ไม่มีสิทธิ์ได้ใกล้ชิดหมูน้อย  จึงเป็นที่มาของพฤติกรรมแปลกๆและคำพูดเห็นแก่ตัวของผม

นอกจากคุณพ่อและคุณแม่แล้ว  ผมแทบไม่อยากให้น้องไปใกล้ชิดใครอื่นอีกเลย  ด้วยความขี้หวงและวัยที่ยังอ่อนเดียงสา  จึงหลุดปากบอกน้องว่าหมูน้อยน่ะขี้เหร่  อย่าพยายามไปใกล้ชิดใคร  เดี๋ยวคนอื่นจะรังเกียจเอา  คราวนั้นน้องยังเด็กจึงไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่ผมพูดนัก  แต่ผมก็เป่าหูและยัดเยียดความคิดผิดๆให้หมูน้อยมาตลอด 

มาเห็นผลก็ต่อเมื่อช่วงที่หมูน้อยเรียนอยู่ป.3  มีเพื่อนในห้องน้องมาชอบหมูน้อยของผม  แต่ด้วยความเป็นเด็ก  ไอ้เด็กนั่นจึงแกล้งหมูน้อย  หวังให้น้องหันมาสนใจมัน  ในแบบฉบับของเด็กน้อยที่แอบชอบเพื่อน  ผมที่อายุมากกว่าน้องสองปีจึงใช้โอกาสนั้น  ย้ำความคิดผิดๆให้น้อง  พร้อมๆกับสั่งสอนไอ้เด็กเวรที่แกล้งเพราะชอบน้องไปด้วย  ซึ่งตั้งแต่นั้นมาหมูน้อยหลงผิดคิดว่าตัวเองอ้วนจนน่าเกียจ  ทำให้โดนเพื่อนแกล้งและไม่มีใครอยากคบด้วย 

กระทั่งปัจจุบันผมก็ยังคงใช้มุกนี้อยู่บ้าง  แม้จะรู้ว่าผิดและรู้ว่าน้องเสียใจ  แต่มันก็ได้ผลดีทุกครั้ง  เพราะหมูน้อยจะตีตัวออกห่างคนที่พยายามเข้าใกล้ตัวเอง  ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้สานต่อ  มีก็แต่ไอ้ปูนนี่แหละที่ใช้วิธีนี้ไม่ได้ผล  แถมหมูน้อยยังเถียงผมจริงจังในแบบที่น้องไม่เคยเถียงแบบนี้มาก่อน  ที่ผ่านมาน้องมีแต่จะยอมทำตามสิ่งที่ผมพูด 

กรณีนายปูนผมก็ไม่แปลกใจนักหรอก  ที่มันมาหลงเสน่ห์ความน่ารักของลูกหมู  ด้วยรูปลักษณ์ของหมูน้อยออกจะเป็นชายหนุ่มที่ดึงดูดสายตา  ไม่ใช่หล่อหรือน่ารักแบบเฟคๆ  แต่ให้ความรู้สึกละมุนและเพลินตา  เป็นธรรมชาติที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่ง  สำคัญที่อย่าให้น้องได้ยิ้ม  เพราะสายตาเหล่านั้นจะไม่อาจละสายตาไปไหนได้เลย  แถมด้วยผิวกายที่ขาวจัด  พวงแก้มอมชมพูตลอดเวลา  บวกตาเล็กๆที่ทอประกายสดใสออกแนวใสซื่อชวนมองเข้าไปอีก  ทำเอาคนที่เห็นหลงใหลน้องมานักต่อนักแล้ว  ไม่ใช่แค่นายปูนเท่านั้นหรอกครับ

ลูกหมูไม่รับรู้ว่าตัวเองน่ะน่ามองแค่ไหน  ถึงแม้รูปร่างน้องจะไม่ผอม  ออกเจ้าเนื้อนิดๆแต่ไม่ถึงกับอ้วน  เรียกได้ว่ารูปร่างน้องกำลังพอดีกับอ้อมกอดของผมจะเหมาะกว่า  กอดทีเต็มอ้อมกอดและนุ่มนิ่มจนไม่อยากปล่อยเชียวล่ะ  ซึ่งรูปร่างของลูกหมูก็ไม่ได้ทำให้ความดูดีของน้องในสายตาผมลดลงแม้แต่น้อย

เหตุการณ์เมื่อเย็นวานบนห้องนอนของผม  คราแรกที่ได้ยินได้เห็นท่าทางจริงจังปฏิเสธผมของลูกหมู ผมยอมรับเลยว่าทั้งตกใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน  ตกใจเพราะเพิ่งเคยได้ยินน้องขึ้นเสียงกับผม  เสียใจเพราะความหวังดีของผมโดนคนที่ผมรักสุดหัวใจปฏิเสธแบบไม่มีเยื่อใย  แต่ผมเลือกที่จะแสดงออกว่าตัวเองโกรธจัด  ผมเดินหนีน้องออกจากห้องทันที  เพราะเชื่อว่าหากยังอยู่ตรงนั้น  ผมจะกลายเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนแอในสายตาหมูน้อย  หรืออาจจะกลายเป็นพี่ชายที่แสนโหดร้ายสำหรับน้องไปเลยก็ได้ 

ผมเลือกที่จะไม่พูดไม่สนใจหมูน้อย  ด้วยอยากแสดงออกให้น้องรู้ว่าผมไม่พอใจ  ที่น้องแสดงออกว่าเห็นคนอื่นสำคัญกว่าผม  ที่สำคัญหากว่าการที่น้องเถียงผมเป็นครั้งแรก  เป็นเพราะน้องชอบไอ้เด็กนั่น  ผมอยากให้น้องรู้ว่าผมไม่มีวันยอมให้คนทั้งคู่ได้คบหากัน  แม้ทุกคนจะต้องเจ็บไปหมดกับการกระทำของผมก็ตามที  จะหาว่าผมพาลเป็นเด็กๆก็ได้  แต่อย่างที่บอกไปว่าผมแอบรักและเฝ้าดูแลหมูน้อยของผมมาตั้งแต่เด็ก  ผมไม่มีทางยอมยกน้องให้ใครง่ายๆ  หากท้ายที่สุดผมเก็บน้องไว้ได้แต่ตัวไร้ซึ่งหัวใจ  ผมก็จะขอเห็นแก่ตัวให้ถึงที่สุด  ไม่ยอมยกหมูน้อยให้ใครอย่างเด็ดขาด

ผมรู้ว่าหมูน้อยเสียใจและรู้สึกผิดที่พูดกับผมแบบนั้น  ซึ่งนั่นคือความต้องการของผม  หมูน้อยเองก็คงรู้ได้ไม่ยากว่าคำพูดตัวเองก็ทำให้ผมเสียใจไม่ต่างกัน  แม้ผมจะสงสารในใบหน้าหงอยเหงา  และแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดของน้อง  แถมในตาตี่ๆก็เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆตลอดเวลา  ยามที่น้องเห็นผมเมินใส่  และทำตัวผิดปกติไปจากเคย  อย่างการไม่พูดด้วย  ไม่มองหน้า  และไม่สนใจที่จะดูแลยามหมูน้อยมานอนด้วย  ช่วงเวลานั้นผมก็ได้แต่ทำใจแข็งกลายเป็นพี่ชายที่แสนเย็นชาใส่น้อง

แต่สุดท้ายผมก็อดใจอ่อนไม่ได้  จนต้องเข้าไปอุ้มลูกหมูที่นอนตัวสั่นอยู่บนโซฟา  ให้มานอนด้วยกันบนเตียง  ผมรู้สึกผิดไม่น้อยที่สัมผัสได้ถึงผิวกายที่เย็นเฉียบ  แก้มกลมซีดเซียว  ริมฝีปากที่เคยอมชมพูเริ่มแตกแห้ง  ทำให้ผมต้องแอบกระซิบขอโทษน้องยามที่หมูน้อยหลับใหลไปแล้ว  ใจจริงก็หวังที่จะให้คำขอโทษไปถึงคนที่ผมรัก 

เมื่อคืนสภาพของหมูน้อยช่างน่าสงสาร  ทำให้ผมตั้งใจไว้ว่าตอนเช้าผมจะคุยกับหมูน้อยให้เหมือนยามปกติ  พยายามจะลืมๆเรื่องที่เกิดขึ้น  เพราะเชื่อว่าเราได้รับบทเรียนในการทะเลาะกันครั้งนี้เพียงพอแล้ว  และสำคัญที่ผมทนคิดถึงลูกหมูไม่ไหวอีกต่อไป  เมื่อวานได้แค่ตีเนียนถือว่าตัวเองโกรธ  จับจูบมาได้แค่ครั้งเดียว  ยังไม่หายคิดถึงน้องเลย 

เช้านี้ผมก็ไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้  เพราะมีโทรศัพท์สายด่วนจากฮ่องกงให้ผมต้องรับสาย  และติดพันคุยยาว  จนเลยเวลาตื่นของหมูน้อย  ทำให้เราคลาดกันและไม่ได้เจอหน้ากันอย่างที่ผมคิดไว้  จึงไม่แปลกที่คุณแม่จะต่อว่าลูกชายคนเดียวอย่างผม  ที่ทำให้ลูกชายคนเล็กแสนรักของท่านเป็นทุกข์  ก็ใช่ว่าผมจะมีความสุขในสถานการณ์นี้

ถึงตรงนี้คุณคงมีข้อสงสัยถึงที่มาความรักของผมไม่มากก็น้อยใช่มั้ยครับ  งั้นผมจะเล่าให้ฟัง  คงต้องเริ่มจากคนที่ผมรักก่อน  ‘ลูกหมู  อัครภูมิเมธี’  เป็นคนที่ผมรักและมีฐานะเป็นน้องบุญธรรมของผมเอง  และผมมักเรียกน้องติดปากมาตั้งแต่เด็กว่า  ‘หมูน้อย’  ซึ่งไม่มีใครเรียกน้องแบบนี้จะมีก็แต่ผม  และผมเองก็ไม่ยอมให้ใครเรียกน้องว่าหมูน้อยทั้งนั้น  เพราะมันทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษสำหรับน้องคนเดียว  เรื่องนี้คนในครอบครัวเราต่างรู้ดี 

หมูน้อยเป็นเด็กกำพร้าที่สถานสงเคราะห์  ผมไปเจอน้องครั้งแรกตอนคุณแม่พาไปทำบุญวันเกิดครบห้าขวบ  เห็นหมูน้อยครั้งแรกผมนึกรักและถูกชะตาในตัวเด็กน้อยตัวกลมทันที  โดยเฉพาะยามที่ผมสัมผัสถึงรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแรกของน้องนั้น  ช่างแสนสดใสและแสนตราตรึงใจแก่ผมมากนัก  รวมเข้ากับความพิเศษต่างๆที่เป็นตัวตนของหมูน้อย  ทำให้ผมประทับใจและผูกพันกับลูกหมูได้อย่างประหลาด  จึงไม่แปลกที่น้องลีโอหรือเด็กชายทัตเทพขณะนั้น  หลงรักเด็กชายลูกหมูอย่างหมดใจ  ถึงขนาดเอ่ยปากขอคุณพ่อพาน้องกลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วย 

คราแรกคุณพ่อและคุณแม่ต่างตกใจในความคิดของผม  ทำท่าไม่ยอมรับความคิดของผมง่ายๆ  แต่ผมก็ขอร้องท่านในแบบที่ผมไม่เคยทำมาก่อน  วันนั้นพวกท่านไม่ได้รับปากทันที  แต่เมื่อเวลาผ่านไปร่วมเดือน  ท่านจึงค่อยทำเรื่องขอรับหมูน้อยมาเป็นลูกบุญธรรม  คงเป็นเพราะผมตื๊อขอท่านไปเยี่ยมน้องที่สถานสงเคราะห์เกือบทุกวัน  จนคุณพ่อกับคุณแม่ได้เห็นความรักและความผูกพันของเรา  จึงยอมที่จะรับหมูน้อยมาอยู่ด้วย  หมูน้อยเองก็เป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่ดื้อไม่งอแง  สมแล้วที่ได้รับความรักและความเอ็นดูจากท่านทั้งคู่ 

คำถามที่ว่าผมรักน้องตั้งแต่เมื่อไหร่  ผมคงตอบไม่ได้แน่ชัด  รู้แต่ว่าผมรู้สึกเป็นเจ้าข้าวเจ้าของหมูน้อยมาตั้งแต่เด็ก  บวกความผูกพันของเราด้วยแล้ว  จึงไม่ยากที่จะเปลี่ยนจากความรักแบบพี่น้อง  ให้กลายเป็นความรักแบบคนรักได้  ส่วนความรู้สึกของหมูน้อยว่าน้องรักผมมั้ย  คำตอบคือแน่นอนว่าน้องต้องรักพี่  แต่จะรักแบบที่พี่รักน้องมั้ย  ขอตอบว่าผมค่อนข้างมั่นใจว่าหมูน้อยรักผมเกินคำว่าพี่ชาย 

แม้เจ้าตัวจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม  เพราะยามที่น้องมองผม  มักใช้สายตาอ่อนเชื่อมสื่อว่าทั้งรักและชื่นชมมาให้เสมอ  สำคัญที่ถ้าไม่รักกันจริงน้องคงไม่ยินยอมให้ผมจูบง่ายๆ  คงต้องปฏิเสธหรือมีอาการเสียใจให้เห็นแล้ว  แต่ที่ผ่านมาน้องกลับไม่แสดงออกให้ผมเห็น  ถึงแม้หมูน้อยจะใสซื่อเข้าขั้นขาดความมั่นใจ  แต่น้องก็โตพอจะแยกแยะออก  ถึงวิธีการแสดงออกถึงความรัก  ระหว่างพี่ชายกับผู้ชายที่รักได้แล้ว

คงมีอีกหลายคนแย้งขึ้นมาว่าในเมื่อน้องก็โตพอจะรับรู้  และผมก็รักน้องมากเสียขนาดนั้น  ทำไมผมถึงไม่บอกให้น้องได้รับรู้ความรู้สึกนี้ไปเสียล่ะ  ผมน่ะอยากสารภาพใจจะขาด  เรียกได้ว่าอยากบอกว่ารักน้องตั้งแต่หกปีก่อนแล้ว  แต่ติดที่ว่าคุณพ่อและคุณแม่ที่รู้เรื่องนี้เข้าได้ห้ามไว้  ไม่ใช่ว่าพวกท่านจะกีดกันไม่อยากให้ลูกชายรักกันเองแน่นอน  เรื่องนี้ผมแน่ใจ  แม้ว่าคราแรกที่รู้ท่านทั้งคู่จะตกใจก็ตาม 

มีต่อด้านล่างค่ะ
.
.
.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2015 11:01:15 โดย MiSS-U »

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
อ่านต่อกันเลยค่า^^  :mew1:
.
.
.

ท่านให้เหตุผลกับผมว่าหมูน้อยยังเด็ก  และอาจจะไม่มีความรู้สึกเดียวกันกับผมก็ได้  อยากให้ผมค่อยๆแสดงออกให้น้องรับรู้  ร่วมกับสังเกตท่าทีที่น้องมีให้ผมไปด้วย  ถ้าสุดท้ายหมูน้อยรักผม  พวกท่านก็จะไม่ห้ามแต่จะสนับสนุนให้รักกันด้วยซ้ำ  เพราะเราต่างเป็นลูกที่ท่านรัก  จะมีพ่อแม่ที่ไหนบ้างไม่อยากเห็นลูกของตัวเองมีความสุข

ที่สำคัญช่วงเวลานั้น  ผมติดออดิชั่นของบริษัทเพลงที่ฮ่องกงพอดี  และต้องเซ็นสัญญาเพื่อไปเป็นนักร้องในสังกัด  AJ  Music  Record  ทำให้ต้องย้ายไปใช้ชีวิตที่ฮ่องกง  ทั้งร้องเพลงและเรียนปริญญาไปพร้อมๆกัน  คุณพ่อและคุณแม่คงอยากให้ผมทำตามความฝันของตัวเองให้ได้เสียก่อน  ส่วนเรื่องความรักคงไม่อยากให้รีบร้อน  เพราะอย่างไรซะหมูน้อยก็อยู่ในสายตาและความดูแลของท่าน  แต่ก็ไม่วายมีเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อเข้ามาวอแวคนของผมจนได้

สิ่งสำคัญยิ่งกว่านั้นคือมีหนึ่งความลับอันยิ่งใหญ่  แต่จะเรียกว่าเป็นความมหัศจรรย์แสนน่ายินดี  ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประทานให้ครอบครัวอัครภูมิเมธีก็ได้  ดังนั้นบุพการีของผมจึงอยากให้ความรักของเราค่อยๆเบ่งบาน  จนกลายเป็นดอกรักแสนสวยที่ทั้งถูกคนและถูกเวลา  ผมพูดแบบนี้เชื่อได้ว่าอีกหลายคนคงไม่เข้าใจ  และต้องการคำอธิบายที่มากกว่านี้  แต่ผมคงยังบอกไม่ได้  ด้วยถูกคุณพ่อกำชับนักหนาว่าห้ามแพร่งพราย 

ความลับนี้ผมได้รู้โดยบังเอิญ  ก่อนที่ผมจะเดินทางไปฮ่องกงไม่กี่วันของช่วงหกปีก่อนนั่นเอง  แรกรู้ยอมรับว่าตกใจและยินดีไม่น้อยที่อัครภูมิเมธีไม่ได้จบที่รุ่นผม  สายเลือดแห่งความภาคภูมิใจของท่านปู่ท่านทวดยังสามารถมีผู้สืบทอดต่อไปได้  ปลดแอกความหนักใจลึกๆของผมจนหมด

ดังนั้นจากคำห้ามของบุพการีและความลับที่แสนยิ่งใหญ่  ทำให้ผมยอมที่จะไปฮ่องกงทั้งๆที่ไม่ได้บอกความรู้สึกแก่คนที่ผมแน่ใจว่ารัก  แม้จะมั่นใจว่าคุณพ่อและคุณแม่จะดูแลหมูน้อยอย่างดี  แต่นั่นก็แค่เรื่องทางกาย  สำหรับเรื่องของหัวใจถ้าไม่ใช้ใจดูแลคงไม่ได้  ผมจึงหมั่นโทรข้ามประเทศมาหาหมูน้อยเกือบทุกอาทิตย์  และติดต่อน้องผ่านโลกอินเตอร์เน็ตทุกทางที่ผมจะสามารถหาเวลาได้  ซึ่งหากมีช่วงให้พักก็แน่นอนที่ผมจะบินตรงกลับเมืองไทย  และใช้ช่วงเวลาว่างทั้งหมดกับหมูน้อยของผม 

แม้หมูน้อยเองจะเรียนหนัก  แต่เจ้าตัวก็แบ่งเวลาอยู่กับผมเท่าที่จะทำได้เสมอ  ผมเองก็พยายามแสดงออกให้น้องรับรู้  แต่ก็เหมือนจะไม่คืบหน้าเท่าไหร่  อาจจะเป็นเพราะความใส่ซื่อและความถ่อมตัวจนเกินพอดีของหมูน้อยก็ได้  ที่ทำให้ความรักของเราไม่คืบหน้านัก  แต่ผมก็พอใจและมีความสุขในแบบที่น้องเป็น  แม้จะแอบหนักใจเรื่องที่หมูน้อยชอบดูถูกตัวเองอยู่บ้าง  เพราะถึงน้องไม่พูดแต่แววตาน้องก็บอกผมจนหมด 

ข้อนี้ผมขอรับผิดไว้แต่ผู้เดียว  ตั้งใจไว้แล้วว่าต่อไปจะไม่พูดอะไรที่ตรงข้ามกับตัวตนของน้องอีกแล้ว  และจะทำทุกวิธีที่จะสร้างความมั่นใจให้ลูกหมูแสนรักคนนี้  ได้มีความเชื่อมั่นในตัวเองว่าน้องน่ารักและมีค่าสำหรับผมเสมอมา  ที่สำคัญน้องต้องเชื่อมั่นในความรักที่ผมมีให้  เพราะมันถึงเวลาของเราแล้ว  สมควรแก่เวลาที่ดอกรักของเราจะเริ่มเบ่งบานตามวิถีทางที่สมควรเป็น

“ว่าไงนะครับแม่!...หมูน้อยตกบันได!.....แม่ใจเย็นๆครับ  ผมจะไปดูน้องเอง  ถ้าได้รู้อาการน้อง  ผมจะรีบโทรกลับนะครับ”  ข่าวที่เพิ่งได้รู้สร้างความตกใจให้ผมไม่น้อย  แต่ผมก็ต้องรีบรวบรวมสติให้เร็วที่สุด  เพราะอยากเป็นหลักให้คุณแม่ที่อยู่ปลายสาย  ด้วยเสียงของท่านนั้นสั่นเครือชัดหู 

แม้ผมจะรู้สึกกังวลกับอาการของคุณแม่  แต่ก็มีเวลาปลอบโยนท่านไม่มากนัก  ยังดีที่ได้ยินเสียงป้าแม่บ้านแว่วๆว่าให้คุณแม่สูดหายใจเข้าลึกๆ  ไม่พ้นท่านคงใกล้เป็นลมหรือเป็นลมมาแล้วก่อนโทรหาผมก็สุดรู้  แต่ทำให้ผมรู้ว่าท่านมีคนดูแลใกล้ชิดแล้ว  นาทีนี้ผมจึงมีคนที่น่าเป็นห่วงมากกว่า  ด้วยหมูน้อยตกบันไดหมดสติรอผมอยู่ที่โรงพยาบาล  อาการมากน้อยอย่างไรก็ไม่มีรายละเอียด 

ผมหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนทันที  ที่เห็นช่วงว่างบนถนนพอจะแทรกรถเข้าไปได้  การกระทำของผมไม่พ้นมีเสียงบีบแตรและเสียงเบรกรถดังขึ้นตามหลังแทบทันที  แต่เวลานี้ผมไม่มีเวลามารู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำ  ด้วยใจเป็นห่วงคนที่ผมรักเกินกว่าจะมาสนใจความรู้สึกใคร  หรือแม้แต่ความปลอดภัยของตัวเอง 

ท่ามกลางช่วงเวลาวิกฤตผมยังคงมีโชคอยู่บ้าง  เพราะจุดหมายปลายทางแต่แรกของผม  คือมหาวิทยาลัยที่หมูน้อยเรียนอยู่แล้ว  ด้วยผมตั้งใจไปรับเพราะต้องการง้อหมูน้อย  เพียงแต่เปลี่ยนจากตึกคณะเภสัชเป็นโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเท่านั้น  ผมใช้เวลาไม่นานจึงได้มาถึงที่หมาย  และลืมนึกถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการปรากฏตัวของผมในที่สาธารณะไปเสียสนิท  เพราะความสนใจของผมทั้งหมดอยู่เพียงอาการของคนที่ผมรัก

“ดะ...เดินตรงไป  ห้องฉุกเฉินอยู่  ซะ...ซ้ายมือ  ค่ะ  พี่  ละ...ลีโอ~”  นักศึกษาสาวตะกุกตะกักตอบคำถามผมด้วยสติที่ยังไม่ครบนัก  แต่ผมไม่คิดที่จะรอ  เพราะเอ่ยขอบคุณจบก็จ้ำอ้าวไปตามทางที่เธอบอก

นาทีนี้ผมเพิ่งนึกได้ว่าตัวเองนั้นถูกให้ความสนใจแค่ไหน  เพราะเกือบทุกสายตาในบริเวณที่ผมเดินผ่าน  มองตามจับจ้องมาที่ผมแบบเหลียวหลัง  คงเป็นไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจปะปนไปกับความไม่แน่ใจ  ที่เห็นลีโอแห่งวง  Chic  ปรากฏตัวที่โรงพยาบาล  ผมได้แต่รีบสาวเท้าให้ถึงหน้าห้องฉุกเฉินให้เร็วที่สุด  สิ่งแรกที่ผมเห็นคือไอ้ผู้ชายคนนั้น 

นายปูนนั่งรอยังเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน  ด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและจ้องไปยังประตูที่ปิดสนิทแบบไม่ละสายตา  ผมเดินไปหยุดอยู่หน้ามัน  มันเองก็เงยหน้าขึ้น  มีแววตาประหลาดใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม  และจ้องสบตาผมไม่กระพริบ  หากเป็นเวลาปกติผมคงเคลียร์กับมันให้รู้เรื่องไปแล้ว  แต่นาทีนี้ความห่วงใยที่ผมมีให้หมูน้อยนั้นมีมากกว่า  ผมจึงเลือกที่จะถามถึงอาการของคนที่อยู่ข้างใน

“ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าลูกหมูเป็นไงบ้าง  แต่ตั้งแต่ตกบันไดที่คณะ  จนถึงเข็นลูกหมูเข้าไปในนั้น  ลูกหมูไม่ได้สติเลย”  แววตาไอ้ปูนเศร้าและรู้สึกผิดจนผมสังเกตได้  ซึ่งคำบอกเล่าของมันก็ทำผมใจหายแทบยืนไม่อยู่  จึงเลือกที่จะนั่งเก้าอี้ข้างๆมันแทน

“เกิดอะไรขึ้น  ทำไมลูกหมูถึงตกบันได”  ไอ้ปูนหันมามองผมชั่วแวบ  ก่อนหันกลับไปมองยังประตูบานเดิม

“ดูเหมือนจะหน้ามืด  แต่จะไม่อันตรายเลย  ถ้าเราไม่ได้กำลังก้าวลงบันได...ลูกหมูตกบันไดจนเจ็บตัว  ทั้งๆที่ผมก็อยู่ตรงนั้น  แต่ผมกลับ...ช่วยไม่ได้...ลูกหมู  ลอยละลิ่ว  มองมาที่ผมด้วยแววตาตื่นๆ  และร้องอย่างเจ็บปวด  ก่อนหมดสติไป  ที่น่าเป็นห่วงคือ  ที่หัว  ดูเหมือนลูกหมูจะหัวกระแทกพื้นด้วย”  น้ำเสียงที่ปูนใช้เล่าเหตุการณ์มันแหบโหย  และแทบจะไม่เป็นคำเมื่อจบประโยค  แต่ในหัวผมกลับเห็นเหตุการณ์ที่มันเล่าชัดเจน  ทั้งๆที่ไม่ได้เห็นด้วยตา

หัวใจผมเจ็บไปหมดและปวดหนึบอยู่ในอก  จนหายใจแทบไม่ออก  และคิดไปต่างๆนานา  หากว่าหมูน้อยเป็นอะไรไปผมจะทำยังไง  ที่สำคัญความทรงจำสุดท้ายของน้อง  คงมีแต่สีหน้าโกรธเคืองไม่ได้อย่างใจของผมเป็นแน่  ผิดไปจากความเป็นจริงที่ว่าผมรักน้องมากเท่ากับชีวิตตัวเองด้วยซ้ำ  ผมสัญญาว่าถ้าหมูน้อยปลอดภัย  ผมจะสร้างความทรงจำใหม่ให้น้อง  ให้รู้ว่าพี่ลีโอรักหมูน้อยคนเดียวและรักหมูน้อยมากที่สุด

ผมกับนายปูนนั่งรออยู่เงียบๆ  เราไม่มีคำพูดอะไรต่อกัน  จนกระทั่งเป็นนายปูนเองที่เปิดประเด็นขึ้นมา  และเป็นประเด็นที่หากอยู่ในภาวะปกติ  ผมคงยืนยันด้วยการกระทำ  ไม่เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแค่นี้หรอก

“คุณรักลูกหมูใช่มั้ย  รักที่ไม่ใช่รักของพี่ชาย”  ขณะที่พูดนายปูนไม่ได้มองมาที่ผมหรอกครับ  มันยังคงมองที่บานประตูเช่นเดิม 
การที่นายปูนกล้าถาม  ผมว่ามันคงแน่ใจระดับหนึ่ง  และรู้ความเป็นไปของครอบครัวเรามาบ้าง  บวกกับท่าทางของผมเมื่อวานที่แสดงออกชัดว่าหวงหมูน้อย

“ใช่  นายเข้าใจไม่ผิดหรอก  ฉันรักลูกหมู  และรักมานานแล้ว...นายเองคงรู้ตัวนะว่าต่อไปต้องทำตัวยังไง  ขืนทำเป็นไม่เข้าใจ  อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน”  ผมจ้องตากับนายปูน  โดยที่มันเองก็ไม่มีหลบ

แววตาที่ผมเห็นออกอาการดื้อดึงและเอาเรื่องอยู่ไม่น้อย  ผมเองก็ไม่ยอมแพ้ยังคงจ้องกลับอย่างเอาเรื่องเช่นกัน  สุดท้ายมันเองเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนี  ก่อนจะเอนหลังพิงพนักหัวพิงผนัง  มีหลับตาพร้อมผ่อนลมหายใจออกมายาวเหยียด  ผมเองเมื่อเห็นว่ามันไม่คิดจะต่อความ  และดูเหมือนว่าจะถอยให้  ก็กลับมานั่งกุมมือวางศอกลงบนหน้าขา  พร้อมโน้มตัวไปด้านหน้า  และจ้องไปยังประตูห้องฉุกเฉินเช่นเดิม

“ผมอยากจะลงสนามสู้กับคุณสักตั้งเหมือนกัน  แต่...”  อยู่ๆมันก็พูดขึ้นมาทั้งๆที่ยังนั่งหลับตาอยู่ท่าเดิม 

ผมทำเพียงเบือนหน้ากลับและรอให้มันเป็นฝ่ายขยายความเอง  ในเมื่อความหมายในประโยคที่ได้ยิน  บอกให้ผมรู้แล้วว่ามันถอนตัวจากการเป็นศัตรูความรักของผมแล้ว

“แต่คงจะเหนื่อยเปล่า  ในเมื่อคนที่ผมจะสู้เพื่อเค้า  เค้ากลับไม่มีผมอยู่ในสายตา”  ประโยคนี้ทำให้ผมกระตุกยิ้มได้เป็นครั้งแรก  ตั้งแต่ได้รับข่าวของหมูน้อย

ผมไม่คิดจะปลอบใจไอ้คนข้างๆ  ด้วยเชื่อว่าขืนผมสะเออะพูดปลอบ  จะเป็นเหมือนว่าไม่จริงใจเสียเปล่าๆ  พาลทำให้มันโมโหมากกว่าจะทำให้นายปูนรู้สึกดีขึ้น  ที่สำคัญเรื่องของหัวใจไม่มีอะไรเยียวยาได้ดีไปกว่า  เจ้าของหัวใจต้องเข้มแข็งและเยียวยาหัวใจด้วยตัวเอง  หากไม่หายสนิทคงต้องหาหัวใจดวงอื่นมาช่วยดูแล  แน่นอนว่าต้องไม่ใช่หัวใจของหมูน้อย  เพราะหัวใจดวงนั้นผมจับจองเป็นเจ้าของมานานแล้ว

“หมูน้อย!!...ลูกหมู!!”  ผมกับไอ้ปูนถลาไปยังเตียงนอนที่มีร่างหมูน้อยนอนอยู่  และกำลังถูกเข็นออกจากห้องฉุกเฉินทันที

“ผมขอตัวคนไข้ไปสแกนสมองก่อนครับ”  ผมกับนายปูนถูกคุณหมอผู้ชายวัยกลางคนห้ามไว้ 

ผมก็ได้แต่มองตามเตียงเข็นที่มีหมูน้อยของผมนอนอยู่ให้เคลื่อนจากไป  ก่อนจะได้สติหันมาถามอาการของน้องจากหมอเจ้าของไข้

“ร่างกายภายนอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากครับ  กระดูกขาร้าว  แผลแตกที่ศีรษะ  ผิวหนังฟกช้ำเพราะถูกกระแทก  ซึ่งผมจัดการให้หมดแล้ว  แต่ที่น่าห่วงคืออาการทางสมอง  เพราะคนไข้หัวกระแทกพื้นเพราะตกบันได  รอผลสแกนก่อน  ผมถึงจะยืนยันได้อีกที  และยังไงคืนนี้คนไข้ก็ต้องนอนดูอาการที่นี่นะครับ”  หมอพูดจบก็เดินไปทางเดียวกับที่ผู้ช่วยพยาบาลเข็นหมูน้อยจากไป  ผมจึงตัดสินใจหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับนายปูน

“นายกลับบ้านไปก่อนเถอะ  นี่ก็ค่ำแล้ว  เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วง  ส่วนลูกหมูปล่อยให้เป็นหน้าที่ของว่าที่คนรักอย่างฉันเอง”  สิ้นคำพูดของผมเจ้าของแววตาไหววูบก็ถอนใจเฮือกใหญ่  ก่อนมันจะยืดตัวขึ้นและหมุนตัวเดินจากไปอย่างว่าง่าย  แต่ก็เต็มไปด้วยความทะนงตนจนผมเองยังทึ่ง

ได้เห็นท่าทางแบบนั้นของนายปูน  ผมอดชื่นชมและยอมรับ  ในความเป็นลูกผู้ชายและการมีน้ำใจน้ำกีฬาของมันไม่ได้จริงๆ  คนแบบนี้สิผมถึงจะยอมให้มันคบกับหมูน้อยของผมในฐานะของเพื่อนสนิทต่อได้

ผมเลิกสนใจคนอื่น  เพื่อตามไปรอฟังผลสแกนสมองของหมูน้อย  โดยระหว่างที่รอผมก็โทรรายงานอาการของหมูน้อยให้คุณแม่ทราบ  ซึ่งท่านก็รับทราบและบอกว่า  ท่านกับคุณพ่อเตรียมจะเดินทางมายังโรงพยาบาล  ผมจึงฝากให้ท่านบอกป้าแม่บ้านจัดชุดใส่กระเป๋ามาให้ผมด้วย  เพราะตั้งใจนอนค้างที่นี่เพื่อเฝ้าหมูน้อยด้วยตัวเอง

ผมหวังว่าผลการสแกนสมองคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  และคงไม่มีบทดราม่าเหมือนในละคร  อย่างการที่หมูน้อยตื่นขึ้นมาและความจำเสื่อมจำผมไม่ได้  หรือแม้แต่ไม่ตื่นเลยจนกลายเป็นเจ้าชายนิทราตลอดกาล

..........................................

โปรดติดตามตอนต่อไป^^

การที่ลีโอออกมาตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้มั้ย  ดูท่าจะโดนหนักกว่าเดิม 
เหมือนเราเอาพระเอกมายำเลยเนอะ  เอ็นดูพระเอก MiSS-U มาหน่อยนะคะ   :impress2:
แต่เม้นท์ได้เต็มที่เลยค่ะ  ยินดีรับฟังทุกความเห็น

ตอนนี้ใครแอบจับความลับของครอบครัวภักดิภูมิเมธีได้บ้างรึเปล่า   o18
ถ้ายังจับไม่ได้  ตามอ่านในตอนหน้าน้า  น่าจะพอรู้อะไรบ้าง
ติดตามตอนหน้าในวันอาทิตย์ค่ะ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์  ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

ปล.3เม้นท์ต่อจากนี้รอรับ magnet ได้เลยน้า
ท่านใดได้ไปแล้วขออนุญาตข้ามนะคะ^^

 :pig4:  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-04-2015 11:03:08 โดย MiSS-U »

ออฟไลน์ premierfour

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ลูกหมูไม่เป็นไรหรอก(มั้ง)
แต่ลีโอน่าตบมาก  :hao3:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ไม่ม่าน้า~  :hao5: เป็นห่วงหมูน้อยจัง.รักแรกพบของพี่ลีโอ~~

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
คำแก้ตัวไม่ได้ฟังขึ้นเล้ยยยย พ่อพระเอกกกกก   :angry2:
เรายังรู้สึกว่าลีโอเห็นแก่ตัวมากจริงๆอะ
ตอนต่อไปเอาใหม่นะ  :เฮ้อ:

ปล.น้องท้องได้ใช่มั้ยยยย  :hao7:

ออฟไลน์ yokky34

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ถถถถ พ่อลีโอ อยากเป็นที่หนึ่งในสายตาน้อง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ takara

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +379/-13
หวังว่าน้องคงไม่ความจำเสื่อมหรอกนะ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่มีอาการอย่างที่ลีโอกังวลน่ะ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
ความลับคือ ลูกหมูท้องได้รึป่าว

ออฟไลน์ minneemint

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0

ออฟไลน์ ๐๐ตะวัน๐๐

  • ๐๐๐ลูกตาล๐๐๐
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อยากรู้ความลับแล้วสิ

หมั่นไส้ลีโอจริงๆเลย

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
ความลับคือออออ หมูน้อยท้องได้แน่ๆ ฮิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอร้องอย่ามาม่าแบบความจำเสื่อมเลยนะะะ
รอตอนต่อไปปปปป

ออฟไลน์ Pumpkin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ความลับอะหยังน้อ เดาไม่ถูก เห็นมีความเห็นหนึ่งว่าลูกหมูท้องได้ ไม่มั้งงงง คงไม่ใช่แหละ
พยายามเดา แต่เดาไม่ออก คนเขียนอย่าทิ้งประเด็นนี้นานน้าาา เค้าอยากรู้อะ 5555 ต่อมเผือกมันทำงาน
มีอย่างที่ไหนมาหย่อนระเบิดตู้ม แล้วก็ทำไฉไม่ยอมบอกต่อ ชิชะ!

คงไม่ตื่นมาแล้วความจำเสื่อมหรอกนะ ถ้าจะให้พูดตรงๆเลยก็คือ เกลียดดราม่ามุกแบบนี้มาก ไม่ชอบจริงๆ ฮ่ะๆ
คือเคยเจอของจริงแล้วมันรู้สึกไม่ดีแบบไม่ดีจริงๆ มันไม่เหมือนอย่างในละครเลย
ในละครว่าสะเทือนใจแค่ไหน แต่ที่เคยเจอจริงๆมันทำเอาเราใจกระตุก ใจงี้หายวาบเลยจริงๆตอนที่เพื่อนฟื้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้อยู่เดือนกว่า

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เม้น ไม่ทันอะ อยากได้แม๊กเน็ท อิอิ.  ลูกหมูจะเป็นไรไหมอะ ขอให้ปลอดภัย ไม่ความจำเสื่อม. ไม่อยากกินมาม่าอะ

ออฟไลน์ silverphoenix

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +347/-3
พระเอกออกมาเฉลยความจริงเร็วจังงง
ยังมาม่าได้ไม่เท่าไรเลย 555
โถ่ หมูน้อย ไม่กินข้าวมื้อเดียว ตกบันไดไปซะแล้ว
พี่ลีโอได้โอกาสแก้ตัวแล้วครัช  ดูแลหมูน้อยดีๆน้าาา

ออฟไลน์ wan_sugi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ความคิดพระเอกงี่เง่า พ่อแม่ก็ยังให้ท้ายลูกให้กรอกความคิดผิดๆ แบบนี้กับลูกหมูมาได้ เฮ้อ....อ
แล้วจะมาเปลี่ยนวิถีความเชื่อตอนโตนี่นะ ช่างคิดจริง
สงสัยลูกหมูตื่นจากสลบน่าจะกลายเป็นอีกคนไปเลยละมั้ง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
ความลับคืออะไร ใครจะเป็นผู้สืบทอด หวังว่าลูกหมูคงไม่ความจำเสื่อมนะ  ไม่อยากกินมาม่าตั้งแต่ต้นเรื่อง

ไหนๆ ปูนก็ยอมรับว่าตัวเองอกหักแล้ว  ก็หาคนมาดามใจปูนแทนล่ะกัน


:ling1: อยากได้แม็กเน้ท แต่เม้นท์ไม่ทัน 555

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
ที่บอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องทายาทสืบสกุลเหรอ!?

หรือว่า.......!?

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
ไม่มีมาม่าแบบความจำเสื่อมอยู่แล้วเน้อ คนเขียนไม่ใจร้ายแน่ ติดตามความลับตอนหน้าจ้า

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
ลูกหมูจ๋าาา ขออย่างเดียวอย่าความจำเสื่อมมันจะดราม่าเกินไป
อิพี่ลีโอบอก 555555


ออฟไลน์ PaTtO

  • อาซามิซามะ.. ทาคาบะ4ever
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
ลูกหมูท้องได้แน่เลย ความลับสุดยอด :katai2-1:
พี่ลีโอรักน้องให้ถูกทาง
จากนี้อย่าปลูกฝังอะไรแปลกให้น้องอีกนะ
ยกนิ้วให้ปูน o13 โครตลูกผู้ชาย

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
ลีโอปลูกฝังความคิดน้องลูกหมูมาตั้งแต่เด็ก   :a5:
น้องน่าสงสาร

ออฟไลน์ DarkAki

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 481
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
อือหือออออออ

พี่เลโอคะ...พี่มัน...พี่มันนนนน  :katai1: :katai1:

ลูกหมูลูกกกกก หนูไม่เป็นอะไรใช่มั๊ยลูกกกกกก

ความลับไม่กล้าเดา กลัวผิดง่ะ รอพี่มาเฉลยดีกว่า หุหุ ><

ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ลีโอเห็นแก่ตัวจุงง

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2545
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
น้องจะเป็นยังไงบ้างหล่ะนั่น !!!

จับหัวพระเอกเขกพื้นเอาคืนเลย!  :beat:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด