ตอนที่ 12ลีโอ“แล้วลูกคิดว่าเรื่องทั้งหมดมันเกี่ยวข้องกันยังไง” ไม่เพียงแต่คุณพ่อเท่านั้นที่ต้องการความคิดเห็นของผมจนเอ่ยปากออกมา แต่คุณแม่สุมนาคนสวยของเราก็เพียรส่งสายตาอยากรู้ให้ผมเช่นกัน
ผมจึงเลือกที่จะเริ่มพูดจากสิ่งที่ผมค้นหามา แรกรู้ผมต้องยอมรับว่าข้อมูลที่ได้มาทำผมตกใจพอสมควร ซึ่งผมจะไม่มีอาการดังกล่าวเลย หากเรื่องที่ปะติดปะต่อได้ไม่เกี่ยวข้องกับคนรักของผม
“จากเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้นกับลูกหมู และความพิเศษของน้อง ตอนแรกต้องยอมรับว่าผมสับสนและกังวลในที่มากับชาติกำเนิดของลูกหมูมากครับ ผมพยายามเอาข้อมูลทั้งหมดมาประมวล แต่ผมก็ไขข้อข้องใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเรื่องของน้องอยู่เหนือธรรมชาติ และเราคงใช้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์มาอธิบายไม่ได้
จนกระทั่งผมไปอ่านตำนานของเทพกรีกเข้าโดยบังเอิญ ทำให้ผมพอปะติดปะต่อเรื่องของลูกหมูได้ครับ คงต้องเริ่มจากเทพเมอร์คิวรี่ที่เป็นหนึ่งในบุตรชายของเทพเมอาและเทพซุส มีอาวุธประจำกายคือแท่งไม้ศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่าที่มีงูคู่พันอยู่ และมีปีกคู่สีขาวติดที่ส่วนปลาย ไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ว่าเป็นสัญลักษณ์ของการปัดเป่าและรักษาโรคภัย ปัจจุบันใช้เป็นสัญลักษณ์แห่งการแพทย์ ส่วนลักษณะนิสัยของเมอร์คิวรี่เป็นเทพที่มีจิตใจเมตตา ชอบช่วยเหลือ จนเป็นที่รักใคร่ของเทพองค์อื่นๆ มีความสามารถพิเศษคือ สามารถเหาะเหินเดินอากาศไปไหนมาไหนได้รวดเร็วดังใจนึก เพราะมีปีกติดที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง จนได้ฉายาเป็นเทพแห่งสายลม
นี่แค่ข้อมูลคร่าวๆที่ผมหาได้จากอินเตอร์เน็ต ที่สำคัญตำนานของเทพเมอร์คิวรี่มีอะไรหลายอย่างตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกหมูตอนนี้ครับ แน่นอนว่าเรื่องของความฝันสองครั้งที่น้องเล่าให้ฟัง และคนที่ปรากฏกายให้เห็นชั่วแวบ แต่หายไปกับตาตอนเรานั่งเรือด้วยกัน แม้แต่รอยแดงรูปปีกที่ข้อเท้าของลูกหมู ทุกสิ่งเกี่ยวโยงไปถึงตำนานของเทพเมอร์คิวรี่ทั้งนั้น”
หลังประโยคยาวๆบุพการีทั้งคู่ของผมนั่งเงียบไม่พูดอะไรออกมาสักคำ แต่แววตาท่านนั้นเหมือนคนได้ฟังสิ่งเหลือเชื่อ หรือเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้มาหมาดๆ แต่เป็นอยู่ครู่เดียวสีหน้าแววตาของท่านทั้งคู่ออกแวววิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“นี่...คงไม่ได้หมายความว่าลูกหมูต้องจากเราไปใช่มั้ยลีโอ” หลังจากเงียบไปพักใหญ่คุณแม่ก็พูดประโยคดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งตรงกับความคิดของผมในขณะนี้ แต่เป็นสิ่งที่ผมไม่มีวันยอมรับได้
ผมไม่มีทางปล่อยให้ลูกหมูต้องจากไปไหน ไม่ว่าจะต้องจากไปในรูปแบบไหนก็ตาม
“ใจเย็นๆก่อนคุณสุมนา เราก็ด้วยลีโอ อย่าเพิ่งคิดกันไปไกล...คนเราทุกคนย่อมต้องมีที่มาที่ไปของตัวเอง ซึ่งกับลูกหมูเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น และไม่ว่าจะเป็นเพราะใครหรือสิ่งใดดลบันดาลให้เกิด ท่านเหล่านั้นคงส่งสัญญาณเตือนพวกเราว่าคงถึงเวลาแล้ว ที่ลูกหมูจะได้รับรู้ความจริงทั้งหมดที่เราปกปิดไว้ก็ได้” คำพูดของคุณพ่อทำให้ผมสงบใจลงได้บ้าง แต่เรื่องความกังวลนั้นยังคงอยู่
ผมไม่ได้กังวลกับปฏิกิริยายามรับรู้ความจริงของลูกหมูนัก ด้วยเชื่อว่าตัวเองสามารถจัดการอารมณ์ของน้องได้แน่นอน แต่ที่ผมกังวลจริงๆคือกลัวใครหรืออะไรก็ตามมาพรากคนที่ผมรักไป หากเป็นคนธรรมดาผมจะไม่กังวลเช่นนี้ เพราะผมคงจะสู้เพื่อรั้งน้องไว้อย่างเต็มกำลัง แต่เรื่องทั้งหมดดันเกี่ยวข้องกับตำนานแห่งเทพกรีก ซึ่งผมรู้แก่ใจดีว่าผมไม่มีอำนาจหรือความสามารถอะไรไปต่อกรกับทวยเทพได้เลย
“น้องเห็นด้วยกับคุณพี่ค่ะ บางทีเหตุการณ์แปลกๆที่เกิดขึ้น คงอยากบอกอะไรเราบางอย่างถึงสิ่งพิเศษสุดที่ลูกหมูมีก็ได้นะคะ หรือว่าสิ่งที่เราคาดหวังกันไว้จะเป็นไปตามที่หวังจริงๆคะคุณพี่ เราจะมีหลานให้ได้ชื่นชมจริงๆใช่มั้ยคะ” หลังได้ฟังคุณแม่สุมนาคนสวย จากที่เครียดๆผมถึงกับชะงักงันด้วยคาดไม่ถึงในสิ่งที่คุณแม่พูด
ยามผมมองไปที่คุณพ่อก็มีอาการไม่ต่างกัน ก่อนท่านจะคลี่ยิ้มละมุนส่งให้คู่ชีวิต เมื่อคุณแม่มองท่านอย่างขอความเห็น ด้วยใบหน้าสวยที่ประดับยิ้มกว้างอย่างคนที่ตื่นเต้นดีใจสุดๆ พร้อมๆกับที่คุณพ่อจะพยักหน้าให้คุณแม่ และประคองมือบอบบางมากอบกุมไว้ ก่อนตบลงบนหลังมือเบาๆ
ผมที่ได้เห็นภาพของบุพการียามนี้ จึงอดที่จะมีรอยยิ้มไปกับท่านทั้งคู่ไม่ได้จริงๆ เรื่องหนักๆที่สร้างความว้าวุ่นใจพลันจางหาย ส่วนเรื่องที่เราจงใจปกปิดเจ้าของเรื่องอย่างลูกหมูไว้นั้น คือเรื่องที่หมูน้อยตัวกลมของเรามีความพิเศษของร่างกาย ต่างจากผู้ชายทุกคนบนโลกนี้ ด้วยลูกหมูมีอวัยวะภายในชิ้นหนึ่งที่สามารถให้กำเนิดทารกได้
‘ใช่แล้วครับ...ลูกหมูมีมดลูก!?’
ไม่เท่านั้นผลจากการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เราพบว่าน้องยังมีรังไข่ เครื่องเพศภายในที่ไม่ต่างจากผู้หญิง แต่จะต่างตรงขนาดนี่แหละ ที่เล็กกว่าปกติหากเทียบกับผู้หญิงในวัยเดียวกัน ซึ่งคงเป็นสาเหตุให้น้องไม่มีสิ่งที่ควรมีทุกเดือนเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ และทำให้ความลับยังคงเป็นความลับแก่เจ้าตัว รวมถึงบุคคลอื่นที่ไม่ใช่อัครภูมิเมธี ยกเว้นก็แต่คุณหมอวิทยาหมอประจำครอบครัวเรา และหมอเจ้าของไข้ที่รักษาอาการบาดเจ็บเมื่อเร็วๆนี้ของลูกหมู
ความพิเศษแสนมหัศจรรย์นี้ของลูกหมู คุณพ่อและคุณแม่ทราบตั้งแต่ลูกหมูอายุสิบสองแล้วครับ ซึ่งเป็นการรับรู้โดยบังเอิญ ผมจำได้ว่าตอนนั้นลูกหมูปวดท้องหนักมากช่วงกลางดึก จนพวกเราต้องหามน้องส่งโรงพยาบาล และได้คุณลุงหมอวิทยาเป็นหมอเจ้าของไข้ให้
ในเวลานั้นลุงหมอหาสาเหตุอาการปวดท้องของน้องไม่เจอ ทำให้ตัดสินใจส่งน้องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ จนพบความพิเศษดังกล่าว สร้างความแปลกใจให้พวกท่านเป็นอย่างมาก
โดยที่คุณแม่ขอร้องให้ลุงหมอปกปิดความลับนี้ไว้ แม้แต่กับผมเองตอนนั้นก็ยังไม่รู้ และท่านเลือกที่จะให้ลุงหมอดูแลน้องเป็นกรณีพิเศษด้วยตัวเอง ไม่ต้องการส่งน้องไปรักษาใดๆ เพราะถือว่าน้องมีความพิเศษในตัว ไม่ใช่เกิดจากความผิดปกติ หรือแม้แต่ไม่ยอมให้ลุงหมอได้ปรึกษาเคสของน้อง กับหมอท่านอื่นที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญกว่า
คุณแม่มาให้เหตุผลกับผมทีหลังว่า ท่านสงสารลูกหมูไม่อยากให้เจ้าตัวรู้สึกแปลกแยกเป็นตัวประหลาดในสายตาคนอื่น เพราะชีวิตน้องก็น่าสงสารพอแล้วที่ต้องเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า โดยที่ในขณะนั้นลูกหมูเองก็ไม่มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงเหมือนยามที่อยู่บ้านอีกเลย
ผมจำได้ว่าตัวเองในตอนนั้น เป็นห่วงหมูน้อยจนเฝ้าน้องไม่ยอมห่าง แม้น้องจะหลับไปเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดแล้วก็ตาม แต่ผมก็นอนเฝ้าน้องที่ห้องพักคนไข้ในโรงพยาบาล ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคุณพ่อและคุณแม่ ด้วยเป็นห่วงกลัวว่าผมจะป่วยตามลูกหมูไปอีกคนนั่นเอง
เรื่องที่ลูกหมูมีมดลูกถูกเก็บเป็นความลับของคนสามคนมาตลอด แต่ทุกปิดเทอมใหญ่ลูกหมูและผมจะถูกคุณแม่พาไปตรวจร่างกายเป็นประจำทุกปี ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องอ้างเหตุผลอะไรมากมาย เด็กๆอย่างเราก็ไม่คิดสงสัยเช่นกัน เมื่อการตรวจร่างกายปีละครั้งกลายเป็นเรื่องปกติของคนสมัยนี้ไปแล้ว แต่เหตุผลหลักของการกระทำนี้ เพื่อตรวจการเจริญเติบโตของลูกหมูเป็นกรณีพิเศษอย่างลับๆมากกว่า
ความลับยังคงเป็นความลับ จนกระทั่งผมได้รู้โดยบังเอิญเมื่อเจ็ดปีก่อน ช่วงก่อนที่ผมจะไปฮ่องกง ตอนนั้นผมตัดสินใจไปสารภาพความรู้สึกที่มีต่อลูกหมูให้คุณพ่อและคุณแม่ทราบ จึงได้ยินพวกท่านคุยกันถึงผลตรวจร่างกายของน้องเข้าอย่างบังเอิญ
แรกรู้ผมยอมรับว่าทั้งตกใจและกังวล แต่ไม่ได้นึกรังเกียจน้องเลยสักนิด ผมตกใจเพราะหมูน้อยมีความพิเศษที่คนอื่นไม่มี และกังวลด้วยกลัวว่าลูกหมูจะเป็นอันตรายเพราะความพิเศษนั้น สำคัญที่ผมกังวลว่าหากเจ้าตัวรู้เข้า น้องจะรู้สึกแย่และคิดมากไปว่าพวกเราจะรังเกียจน้อง
ดังนั้นผมจึงยอมรับปากคุณพ่อว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้แม้แต่ตัวลูกหมูเอง และยอมที่จะเก็บความรู้สึกที่มีให้แก่น้องไว้ ตามที่คุณแม่ขอไว้เช่นกัน เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมอย่างเช่นตอนนี้ ช่วงเวลาที่หมูน้อยเติบโตขึ้น และพร้อมที่จะรับรู้ความจริงทั้งหมด โดยที่มีความรักความห่วงใยของพวกเราอัครภูมิเมธี คอยประคับประคองความรู้สึกของน้อง ยามที่น้องได้ฟังเรื่องทั้งหมดจากคุณแม่สุมนา สำคัญที่สุดคือการที่ลูกหมูมีผมกุมมือ และจับจ้องปฏิกิริยาของน้องไว้ตลอดเวลาเช่นในขณะนี้
“ลูกหมู...หมูน้อยพูดอะไรบ้าง พูดกับพี่หน่อยสิครับ” ผมกระชับฝ่ามือเย็นเฉียบให้แน่นขึ้น กระตุ้นเจ้าของอีกทาง เพื่อให้น้องได้พูดอะไรออกมาบ้าง เพราะจากสีหน้าตื่นตะลึงของน้องทำให้ผมนึกเป็นห่วง
ไม่เว้นแม้แต่คุณพ่อและคุณแม่ที่นั่งโซฟาตัวใกล้ๆเราก็พลอยเป็นกังวลไปด้วย
“พี่...ครับ ลูกหมู...ลูกหมูเป็นตัวประหลาดใช่มั้ย” หลังจากน้องหันมามองผมด้วยน้ำตาคลอเบ้า น้องก็พูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ฟังดูน่าสงสารและน่าเจ็บปวดใจในเวลาเดียวกัน
ผมไม่รอช้าที่จะรวบกอดร่างอวบอิ่มของลูกหมูเข้าหาอก และเริ่มลูบหัวลูบหลังปลอบประโลมทันทีที่รู้สึกถึงความชื้นที่แผ่นอก ลูกหมูร้องไห้แบบไร้เสียงเช่นนี้ ทำเอาผมยิ่งปวดใจ ผมปวดใจมากกว่าที่น้องจะโวยวายสติแตกตามอย่างที่เคยวาดภาพไว้ในใจเสียอีก
ผมสบตาบุพการีที่มีสีหน้าและแววตา ที่ฉายชัดถึงความกังวลและห่วงใยคนในอ้อมกอดของผม
“ลูกหมูฟังพี่ให้ดีๆนะ ตั้งแต่พวกเรารู้เรื่องนี้ สำหรับพี่และคุณพ่อคุณแม่ไม่เคยเห็นลูกหมูเป็นตัวประหลาดเลยสักครั้ง พวกเราได้แต่คิดว่าโชคดีที่มีโอกาสได้ดูแลคนพิเศษอย่างลูกหมู ตลอดมาลูกหมูเองก็น่าจะรับรู้และสัมผัสได้ว่า พวกเรารักและเป็นห่วงลูกหมูมากขนาดไหน ใช่มั้ยครับ”
ผมลอบถอนใจแผ่วเบา เมื่อรับรู้ว่าคนในอ้อมกอดหยุดร้องไห้แล้ว ด้วยหมูน้อยของผมน่าจะคิดตามในสิ่งที่ผมพูด แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลายกอดและเงยหน้ามามองผมเท่านั้น ผมขอความเห็นผ่านสายตาไปยังบุพการี ซึ่งพวกท่านก็พยักหน้าส่งสัญญาณให้ผมพูดต่อ ผมจึงตัดสินใจดันไหล่นุ่มนิ่มออกอย่างช้าๆ
ลูกหมูเองก็ไม่ขืนแรงยอมที่จะคลายกอด แต่ยังคงซ่อนหน้าหลบตากัน ผมพยายามเชยคางน้องขึ้น แต่คราวนี้น้องเบือนหน้าหลบ ด้วยคงไม่อยากสู้หน้าเพราะกำลังขมขื่นใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ผมเลือกที่จะไม่ฝืนใจน้อง แต่เปลี่ยนมาโอบไหล่และดันหัวน้องให้ซบลงมากับไหล่ ก่อนจะลูบหัวน้องอย่างอ่อนโยนไปด้วย
“ลูกหมูเป็นคนพิเศษสำหรับพวกเราทุกคน โดยเฉพาะกับพี่...พี่ดีใจและภูมิใจมากนะที่ลูกหมูยอมคบด้วย อย่างที่ลูกหมูรู้ว่าพี่ต้องเก็บความรักที่มีให้ลูกหมูมาตั้งหลายปี แต่พี่ก็อดทนเพื่อรอเวลาที่เหมาะสม และพี่ไม่เคยเสียดายเวลาเหล่านั้นเลย เพราะหมูน้อยของพี่ที่พร้อมทั้งกายและใจนั้นตอบรับรักพี่ในที่สุด
แม้แต่คุณแม่ที่เคยขอร้องไม่ให้พี่บอกความรู้สึกเรา ท่านก็ว่าพี่ไม่ได้ เพราะหลานสุดที่รักรับรักลูกชายอย่างพี่แล้ว แถมในอนาคตพี่กับลูกหมูยังจะมีหลานให้พวกท่านได้อุ้มด้วย จึงไม่มีข้ออ้างข้อไหนที่จะทำให้รักของเราไม่สมหวัง พี่รักหมูน้อยของพี่มากนะครับ เรื่องอื่นลูกหมูอย่ากังวลไปเลยนะ”
คราวนี้หมูน้อยของผมยอมขยับตัว และเงยหน้าที่กำลังเห่อแดง แต่ดวงตาบวมน้อยๆขึ้นมองหน้ากัน ส่วนแววตาของน้องนั้น แม้จะฉายแววอาดูรแต่ก็แฝงไปด้วยแววตาแห่งความภูมิใจและร่องรอยของความเขินอาย ผมจึงจงใจคลี่ยิ้มอบอุ่นให้น้อง พร้อมกับยื่นมือไปไล้เกลี่ยคราบน้ำตาบนผิวแก้มใส และผิวใต้ตาบวมๆทั้งคู่ของลูกหมู
“ลูกหมู การที่แม่ยอมรับการคบหาระหว่างลูกกับพี่ลีโอ ไม่ใช่เพราะเหตุผลที่ว่าลูกมีความพิเศษนี้ในตัว แม่ถึงรับลูกหมูเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ เพราะอยากมีหลานนะครับ ความเป็นจริงไม่ว่าลูกหมูจะเป็นยังไง หรือลีโอจะรักลูกเหมือนทุกวันนี้หรือไม่ คุณพ่อกับแม่เราก็ยังคงรักลูกหมูไม่เปลี่ยน”
ประโยคของคุณแม่เหมือนเป็นการปลดล็อคในใจของลูกหมูตัวกลมในอ้อมกอดของผมอย่างเด็ดขาด เพราะทันทีที่คุณแม่สุมนาเปิดอ้อมแขนรอรับ ลูกหมูก็โผจากอกผมไปซุกตัวเข้าหาอกของท่านแทน ก่อนจะปล่อยโฮร้องไห้เสียงดัง แต่การร้องไห้คราวนี้ของน้อง พวกเราที่เหลือต่างเปิดยิ้มกว้าง ด้วยต่างรับรู้ว่าคนตัวกลมของพวกเรายอมรับความจริงในสิ่งที่ตัวเองเป็นได้แล้ว
พวกเราปล่อยให้ลูกหมูร้องไห้กับอกคุณแม่จนพอใจ ซึ่งในที่สุดน้องก็หยุดร้อง ก่อนจะวุ่นวายเช็ดน้ำมูกน้ำตาตัวเองเป็นการใหญ่ ด้วยสีหน้าเขินอายแกมขัดใจตัวเอง แน่นอนว่าผมไม่มีทางนิ่งดูดาย ผมเลือกที่จะเข้าไปนั่งบนพื้นเคียงข้างน้อง และลงมือใช้กระดาษเช็ดคราบน้ำมูกน้ำตาออกจากใบหน้ากลมๆของคนรัก
นาทีนี้แก้มกลมสุกปลั่งด้วยเจ้าของเขินจัดและไม่กล้าสบตาใครสักคน ผมล่ะอยากฟัดแก้มแดงๆนี่ใจแทบขาด แต่ยังพอมีสติที่จะหักห้ามใจ ด้วยรู้ว่าอยู่ต่อหน้าบุพการีที่เคารพรัก ขืนทำอะไรรุ่มร่ามต่อคนของพวกท่าน ผมคงได้หูชาและเนื้อเขียวจากฝีมือคุณแม่อย่างแน่นอน
คุณแม่สุมนาเรียกหาลูกหมูด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนจับใจ แม้แต่ผมเองยังรู้สึกถึงความรักความเอ็นดูของท่านที่มีต่อลูกหมูตัวกลมของเรา กระทั่งเกิดความรู้สึกอบอุ่นไปทั้งหัวใจ หมูน้อยเองก็เงยหน้ามองคุณแม่ด้วยแววตาเทิดทูลแกมรักใคร่ชัดตา
“ลูกหมู...จำไว้นะลูก ว่าลูกหมูคือคนสำคัญของพวกเราทุกคน ต่อจากนี้ไม่ว่าลูกกับลีโอจะเจอปัญหาอะไร แม่กับคุณพ่อพร้อมจะอยู่เคียงข้างพวกลูกเสมอ” ไม่เพียงแค่คนที่คุณแม่ลูบหัวอย่างอ่อนโยน ระหว่างที่พูดประโยคดังกล่าวจะก้มลงกราบแทบเท้าท่าน
ผมเองก็กระทำไม่ต่างกัน ด้วยสำนึกในความรักและความหวังดีที่คุณแม่มีให้แก่พวกเรา รวมถึงก้มกราบคุณพ่อที่นั่งอมยิ้มมองเราอย่างรักใครเอ็นดูด้วยเช่นกัน
ผมได้สบตากับลูกหมู พบว่าในดวงตาคู่เรียวที่ฉ่ำไปด้วยน้ำตา กำลังทอประกายแห่งความสุข ที่แม้แต่ผมก็พลอยมีความสุขตามน้องไปด้วย ก่อนผมจะรวบมือนุ่มมากุมไว้ และแตะริมฝีปากที่หางตาชื้นๆของหมูน้อยด้วยความเผลอไผล
กระทั่งเสียงกระแอมของคุณพ่อดังขึ้นเรียกสตินั่นแหละ ผมจึงยอมผละห่างและฉุดข้อมือคนแก้มแดงให้ขึ้นมานั่งด้วยกันตามเดิม โดยที่ผมเองก็ยังไม่ยอมปล่อยมือน้องให้ห่างกาย ยังคงกุมไว้เหมือนให้สัญญากับหมูน้อยว่า ต่อจากนี้เราจะมีเราแบบนี้ตลอดไป ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม
“ต่อจากนี้ พ่ออยากให้เราสองคนใช้ชีวิตตามปกติ อย่าไปกังวลในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเรื่องเหล่านั้นจะน่ามหัศจรรย์ใจ และสร้างความสงสัยชวนให้ค้นหาคำตอบแก่เรามากขนาดไหนก็ตาม เพราะถ้ามันทำให้เรากังวลใจและเป็นทุกข์ เราควรจะปล่อยวางอย่าไปใส่ใจมันนักเลย เพราะไม่ว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด อยู่กับปัจจุบันดีที่สุด
ที่สำคัญสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ ถึงเราจะพยายามแสวงหาคำตอบ แต่ถ้าสิ่งนั้นไม่อยากให้เรารับรู้ หาไปก็ไม่เจอคำตอบหรอก นอกจากสิ่งนั้นจะยอมเปิดตาเปิดใจให้เรารับรู้เอง เหมือนเช่นความฝันและสิ่งที่ลูกหมูรับรู้มา
ต่อไปขอแค่เรามีสติไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต ผลจากมนุษย์ธรรมดาหรือสิ่งเหนือธรรมชาติจงใจให้เกิด พวกเราจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้เอง พ่อเชื่อว่าความพิเศษที่ติดตัวลูกหมูมา เป็นเพราะผลบุญมากกว่าสิ่งใด จงใช้ผลบุญที่ได้รับต่อบุญด้วยการทำดีดีกว่านะลูก”
ถ้อยประโยคสั่งสอนกึ่งเตือนสติของคุณพ่อ ทำให้ผมตาสว่างนึกรู้ในความเป็นจริงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติมอะไรอีก นอกจากการใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างมีสติเท่านั้น ลูกหมูเองก็คงคิดเห็นไม่ต่างจากผม เพราะน้องยกมือขึ้นไหว้คุณพ่อพร้อมเอ่ยคำขอบคุณ น้องทำเหมือนอย่างที่ผมกระทำ ก่อนเราจะหันมาส่งยิ้มให้แก่กัน ภายใต้รอยยิ้มทั้งสีหน้าและแววตาของหมูน้อยไร้ซึ่งความกังวลชวนปลอดโปร่งใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดผมพร้อมที่จะเดินเคียงข้างหมูน้อยของผมเสมอ
“ตกลงปีนี้เราจะไม่จัดงานฉลองวันเกิดให้ลูกหมูจริงๆเหรอคะคุณพี่”
“คงต้องแล้วแต่ความต้องการของเจ้าของวันเกิดแหละคุณสุมนา”
บทสนทนาระหว่างบุพการี ทำให้ผมต้องพินิจไปยังวงหน้าสดใสของลูกหมูอย่างจริงจัง ด้วยอยากถามย้ำถึงความต้องการของเจ้าของวันเกิด เพราะหมูน้อยของผมได้ออกตัวปฏิเสธ ตั้งแต่แรกรู้ว่าคุณแม่ตั้งใจจัดงานวันเกิดในปีนี้ให้ ด้วยท่านอยากจะเชิญบรรดาเพื่อนๆในคณะที่เปิดใจรับลูกหมูเป็นเพื่อนมาร่วมงาน เพราะท่านอยากให้วันเกิดปีนี้ของลูกหมูพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา และอยากให้มีงานรื่นเริงของเด็กๆในช่วงเย็นบ้าง เพิ่มจากการตักบาตรตอนเช้า ถวายสังฆทานตอนสาย และเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กกำพร้ายังสถานที่ที่พวกเราเจอลูกหมู แต่น้องเลือกที่จะทำกิจกรรมในวันเกิดเหมือนอย่างทุกปี จะมีเพิ่มคือชวนเพื่อนๆมาทำบุญที่สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนแทนงานรื่นเริง
“ลูกหมูต้องขอบคุณคุณแม่ที่เมตตาลูกหมู แต่ลูกหมูไม่อยากจัดงานจริงๆครับ ขอแค่คุณพ่อและคุณแม่กับพี่ลีโอ ยอมเสียเวลามาทานมื้อเย็นฝีมือลูกหมูอย่างพร้อมหน้า และอวยพรวันเกิดให้ลูกหมูแค่นั้นก็พอ ลูกหมูไม่ต้องการของขวัญอะไรเลย เพราะเท่าที่ทุกคนเมตตาลูกหมูอย่างตอนนี้ ก็คือของขวัญพิเศษสุดในชีวิตแล้วครับ” จบประโยคลูกหมูโปรยยิ้มอ่อนหวานส่งให้แก่ทุกคน
คำพูดที่แสนเจียมเนื้อเจียมตัวและเต็มไปด้วยความสำนึกในบุญคุณของหมูน้อย ทำเอาผมเต็มตื้นและหัวใจสั่นไหวไปกับความน่ารักและความถ่อมตัวของน้องนัก ลูกหมูที่ไม่เคยเรียกร้องอะไรจากใคร แต่วันนี้ยอมเอ่ยปากขอในสิ่งที่ทุกคนแสนเต็มใจทำให้ และคงไม่มีใครคิดจะปฏิเสธคำขอของน้อง มีแต่จะยิ่งเพิ่มความเอ็นดูและอยากเติมเต็มความรักให้แก่ลูกหมูตัวกลมของเราทั้งนั้น
โดยเฉพาะกับผมที่แทบจะตอบรับคำน้องในทันที ด้วยอยากเอาใจคนตัวกลมที่แสนน่ารักน่าใคร่ ซึ่งผมก็ได้รอยยิ้มสดใสจากน้องเป็นรางวัล ถึงกลับเผลอสะดุดลมหายใจในความดูดีของน้อง ส่วนคุณแม่ที่เปิดประเด็นเรื่องนี้ แน่นอนว่าย่อมยอมตามใจว่าที่ลูกสะใภ้สุดน่ารักแต่โดยดี คุณพ่อเองก็ได้แต่นั่งระบายยิ้มละมุนตามสไตล์ท่านชายมาดนุ่ม
เมื่อคุณพ่อเห็นว่าผมเอาแต่นั่งจ้องคนตัวกลมข้างกายไม่ละสายตา โดยที่เจ้าตัวก็เอาแต่ก้มหน้าหนีสายตาผมด้วยแก้มแดงก่ำ ท่านจึงออกปากให้ผมพาน้องไปพักผ่อน ด้วยคุณพ่อและคุณแม่เองก็มีนัดที่ต้องออกจากบ้านเช่นกัน แต่ก่อนที่ผมจะเดินผ่านท่านไป ด้วยผมเดินตามหลังลูกหมูและคุณแม่ที่เดินคล้องแขนนำหน้าไปก่อนนั้น ท่านกลับพูดเตือนสติในบางสิ่งแก่ผม
“ดูแลน้องให้ดีนะลีโอ รักน่ะพ่อไม่ว่า แต่เรื่องผลพวงของความรัก ควรที่จะมีในช่วงเวลาที่เหมาะสม น้องยังไม่จบ หลานน่ะพ่อกับแม่รอได้” รอยยิ้มของท่านก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นใจแก่ผมเสมอ ไม่เว้นแม้แต่รอยยิ้มในครั้งนี้ คุณพ่อตบหลังผมเบาๆ ก่อนจะเอามือไพล่หลังและเดินจากไป
ผมได้แต่ยืนอึ้งอยู่ที่เดิมและได้แต่ทบทวนในสิ่งที่คุณพ่อพูดทิ้งท้ายไว้ สุดท้ายผมก็ได้แต่ระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่คนเดียว ลูกหมูจะรู้มั้ยนะว่าทั้งพ่อและแม่ของเราเป็นห่วงสวัสดิภาพของว่าที่ลูกสะใภ้เพียงใด พวกท่านกลัวแต่ว่าผมจะเอาเปรียบลูกหมูของพวกท่าน เล่นดักทางผมกันทั้งคู่เลยทีเดียว แต่ความรักของคนหนุ่มย่อมร้อนแรง ขืนให้เก็บกดไว้ไม่ระบายออกไปบ้าง ย่อมต้องอัดอั้นจวนเจียนเป็นบ้าเอาได้ง่ายๆ
ในเมื่อมีโอกาสใกล้ชิดคนที่ตัวเองรักขนาดนี้ อดทนไหวผมก็ไม่ใช่คนธรรมดาแล้วครับ และพวกท่านก็น่าจะเคยผ่านจุดนี้ไปแล้ว ย่อมน่าจะเห็นใจลูกชายอย่างผมบ้าง หากได้มารู้ทีหลังว่าผมหวังถ่ายทอดความรักให้ลูกหมูได้รู้ เพราะมีวิธีตั้งมากมายที่คุณพ่อไม่ต้องมีหลานในเร็ววันนี้ และถือว่าการกระทำของผมไม่ได้ฝ่าฝืนคำเตือนของท่านแต่อย่างใด
“พี่ลีโอครับ เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงเล็กๆดังขึ้นมาจากขอบประตู ทำให้ผมหยุดหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลังลง
สายตาตื่นๆของหมูน้อยตัวกลมที่มองมายังผมแบบหวาดๆ ทำให้ผมต้องรีบปรับสีหน้าและท่าทางให้กลับมาเคร่งขรึมดูน่าไว้วางใจอีกครั้ง ก่อนจะระบายยิ้มบางเบาและส่ายหน้าน้อยๆให้แก่คนตัวกลมที่ยื่นเพียงใบหน้ามาจากขอบประตู และมองมาที่ผมอย่างระแวดระวัง
“มาตามพี่เหรอหมูน้อย” น้องพยักหน้าให้ผมช้าๆ ก่อนจะเสหลบตากัน ด้วยผมจงใจมองน้องด้วยแววตากรุ้มกริ่ม พร้อมเอ่ยถามด้วยเสียงนุ่มๆชวนละลาย
ผมเดินเข้าหาร่างอวบอิ่มที่พยายามแทรกตัวผ่านเข้าไปในผนังเสียให้ได้ ยิ่งระยะทางระหว่างเราลดลงเรื่อยๆ ก็ดูเหมือนว่าตัวหมูน้อยจะหดเหลือเล็กลง ผมกลั้นขำกับท่าทางเขินอายของลูกหมูตัวกลมที่ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะรั้งร่างนุ่มนิ่มเข้าหาอก และโอบกอดน้องไว้อย่างอ่อนโยน
“พี่ให้สัญญา ต่อไปพี่จะดูแลหัวใจรักดวงนี้ของพี่อย่างดี ขอแค่ลูกหมูยอมอยู่เคียงข้างพี่ไม่ไปไหนก็พอ”
...................................................
โปรดติดตามตอนต่อไป^^ตอนนี้เราจับเอาตำนานเทพเมอร์คิวรี่มาผสมผสานกับจินตนาการส่วนตัว
เพื่อเป็นสตอรี่ของน้องลูกหมูนะคะ ดังนั้นอาจจะไม่เป็นไปตามตำนานเดิมทั้งหมด
ขอให้อ่านด้วยความบันเทิงน้า และก็เป็นที่แน่ชัดว่านายเอกเรื่องนี้ท้องได้!!!
(ในแบบที่มีที่มาที่ไป

)
ตอนหน้าลีโอขอสร้างปรากฏการณ์หวานหวิวกับน้องลูกหมู (หืมมม!!!!)
จะร้อนแรงหรือหวานแค่ไหน ติดตามได้วันพุธค่ะ+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.สวัสดีวันปีใหม่ไทยล่วงหน้านะคะ ขอให้ทุกท่านมีความสุข
เล่นน้ำให้สนุกและระวังเรื่องความปลอดภัยด้วยน้า
ใครที่เดินทางให้ระมัดระวังเรื่องรถเรื่องอุบัติเหตุด้วยนะคะ
ขอให้มีความสุขในวันสงกรานต์ทุกท่านค่า ชุ่มฉ่ำเย็นฉ่ำทั้งกายใจถ้วนหน้าจ้า
