ตอนที่ 22
ผมโดนลากออกมายังที่จอดรถคุณชายไม่พูดพร่ำทำเพลงจับผมยัดเข้าไปนั่งในรถฝั่งข้างคนขับแล้วก็ปิดประตูดังปั้งจนผมตัวสะดุ้งโหยงอาการปวดข้างขมับเริ่มกลับมาผมพยายามหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อควบคุมสติอารมณ์
และเมื่อเขากลับเข้ามานั่งในรถแล้วร่างผมก็ถูกกระชากให้เข้าไปรับจูบที่แสดงออกถึงความโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัดทันที
แม้จะพยายามหลีกหนีสัมผัสเขาแค่ไหนผมก็ถูกจับใบหน้าให้หันไปตอบรับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เรียวลิ้นที่แทรกเข้ามามันจาบจ้วงแล้วก็รุนแรงเขาไม่เคยทำอย่างนี้กับผมมันทำให้ผมตัดสินใจออกแรงกัดที่ริมฝีปากอีกฝ่ายเพื่อให้เขาหยุด
คุณชายผละออกไปมองหน้าผมด้วยสายตาขุ่นเคือง
“อยากไม่ใช่เหรอทีอย่างนี้ทำไมปฏิเสธ”
เขาเอ่ยขึ้นเสียงดังผมได้แต่นิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออก
“เงียบทำไมถ้าผมไม่รู้เรื่องพวกนี้จากเจ้านายเพื่อนตัวดีของคุณป่านนี้คุณคงไปมีอะไรกับใครต่อใครแล้วสิ”
“ตอบมาสิที่ผมพูดมันจริงใช่ไหมคุณน่ะอยากมีอะไรกับคนอื่นมากจนต้องโกหกผมแบบนี้ใช่รึเปล่า!?”
ร่างผมถูกเขย่าอย่างแรงผมรู้สึกอึดอัดเอามากๆคำพูดและการกระทำของเขามันบีบรัดผมจนหายใจไม่ออกผมพยายามจะลุกออกจากรถแต่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้ผมขยับหนีไปไหน
“คุณชายปล่อย...”
“ปล่อยให้คุณไปมีอะไรกับคนอื่นไปทั่วงั้นสิที่มีอะไรกับผมมันไม่พอหรือไง”
“......”
ผมรู้สึกเหมือนพึ่งถูกตบหน้าด้วยคำพูดแรงๆ ไปฉาดนี่เขากำลังหาด่าหาว่าผมไม่รู้จักพอยู่กลายๆ หรือเปล่าแล้วผมผิดตรงไหนที่อยากมีอิสระบ้างเขานั่นแหล่ะที่ไม่รู้จักพอเอาแต่เรียกร้องจากผมอยู่ได้คนอย่างเขามันงี่เง่าที่สุด!
“ผมไม่น่าช่วยคุณเลยผมน่าจะปล่อยให้คุณตายไปตั้งนานแล้วไอ้บ้า!”
ผมตะโกนว่าเขาเสียงดังมันทำให้เขาหยุดชะงักไปทันทีผมถือโอกาสนั้นรีบลงจากรถแล้วปิดประตูดังปั้ง
สองขาผมเดินออกมาเรียกรถแท็กซี่ที่อีกฟากฝั่งของถนนผมไม่คิดว่าที่ออกไปเที่ยวกับปุ๊มันจะเป็นเรื่องที่ผิดต่อเขามากขนาดนั้นใช่ที่ผมอาจจะอยากลองแต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะทำมันจริงๆ ซะหน่อยผมก็แค่อยากมีอิสระบ้างและเขาก็ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก
แต่ถึงผมจะโมโหและอึดอัดกับเขามากแค่ไหนในใจผมก็รู้สึกเสียใจที่เขาไม่ได้วิ่งตามผมมาเหมือนอย่างเคยมากกว่า
------
เมื่อกลับถึงห้องผมก็ตรงไปอาบน้ำเพื่อให้กระแสน้ำช่วยบรรเทาความขุ่นเคืองอารมณ์แต่ดูเหมือนมันจะไม่ช่วยอะไรผมยังมีอาการปวดหัวตุบๆหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเวลาที่ภาพของเขานั้นแวบเข้ามาในหัวผมจึงพยายามเปิดทุกลิ้นชักในห้องเพื่อค้นหายาแก้เครียดหรือยานอนหลับแต่ก็ไม่พบสักขวดคุณชายคงเอายาไปทิ้งเหมือนเดิม
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกันที่ผมเลิกสนใจว่าจะไม่มียาเหลืออยู่ในห้องอีกแต่กลับสนใจเรื่องที่มีเขาอยู่ในห้องนี้แทนและพอมารู้สึกตัวอีกทีคุณชายก็แทรกซึมอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างของห้องนี้หมดแล้ว
มองไปที่โต๊ะทานข้าวก็นึกถึงเขาที่นั่งฝั่งตรงข้ามทำท่าพยักเพยิดให้ผมทานอาหารเยอะๆเปิดตู้เย็นก็เจอของชอบของเขามากมายในตู้เสื้อผ้าก็เต็มไปด้วยข้าวของแน่นเอี๊ยดแทนที่จะเป็นตู้โล่งๆเหมือนก่อนทั้งชั้นหนังสือเครื่องคอมพิวเตอร์ของใช้คู่ที่มีเพิ่มมาก็ทำให้นึกถึงเขาแล้วถ้าเกิดผมเอาของทุกอย่างของเขาไปทิ้งอย่างที่เคยพูดไว้จริงๆห้องนี้คงดูโล่งไปถนัดตา
ร้ายกาจที่สุดมันต้องเป็นแผนการของคุณชายแน่ๆที่กะทำให้ผมหนีเขาไม่พ้นแม้เจ้าตัวจะไม่อยู่ที่นี่ก็ตาม
ผมทิ้งตัวลงนอนที่เตียงอย่างเหนื่อยอ่อนพยายามข่มตาลงนอนแต่ก็ทำไม่ได้ก็ปกติผมจะต้องมีคนตัวยักษ์มานอนเบียดอยู่ข้างๆมาหอมแก้มมาจูบมาลูบหลังกล่อมให้นอนพอวันนี้เขาไม่อยู่ผมถึงได้ตระหนักว่าผมเลิกพึ่งยานอนหลับได้ก็จริงแต่ผมกลับต้องพึ่งพิงอย่างอื่นแทนแล้วต้องพึ่งพิงสิ่งนั้นอย่างร้ายกาจเสียด้วย
จะสายไปไหมที่ผมพึ่งรู้ตัวว่าผมพูดจารุนแรงกับคุณชายมากเกินไปคำพูดที่ว่าผมไม่น่าช่วยเขาผมน่าจะปล่อยให้เขาตายมันกลับมาเล่นงานผมซ้ำๆผมไม่ได้อยากให้เขาตายผมพูดไปด้วยความโมโหและไม่ทันยั้งปากตลอดหลายเดือนที่เขาหลับไปผมเต็มใจช่วยเขาจริงๆให้ย้อนเวลากลับไปได้ผมก็ยังจะช่วยเขาแบบเดิมผมจะเลือกให้เขาตื่นขึ้นมาตามติดผมแจเหมือนเดิม
ตอนนี้ผมคิดถึงคุณชายเอามากๆแล้วผมก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่ส่วนเกินในชีวิตแต่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมต่างหาก
ถ้าพรุ่งนี้ผมจะไปตามเขาให้กลับมาอยู่ด้วยกันเขาจะยังยอมผมเหมือนเดิมไหม? เขาจะยังยิ้มให้ผมแล้วก็รีบเข้ามากอดผมแน่นเหมือนเดิมหรือเปล่า? ผมอยากจะขอโทษเขาเหลือเกิน
ถ้าหากว่าทุกอย่างมันยังไม่สายเกินไป...
.
.
TBC
___