◐ เธอที่ร้าย ◑ THE END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◐ เธอที่ร้าย ◑ THE END  (อ่าน 744409 ครั้ง)

ออฟไลน์ jamlovenami

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 639
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เอาแต่ร้องไห้ ไม่เบื่อบ้างเหรอสิงหา  :เฮ้อ:

เอาแต่ยึดติดอะไรงี่เง่าอยู่นั่นแหละ เป็นเราเราก็เบื่อ น่ารำคาญจะตาย ไม่คิดรำคาญตัวเองบ้างรึไง

ไม่ต้องไปคิดเผื่ออนาคตอะไรทั้งนั้นแหละ เอาปัจจุบันให้รอดก่อน ร้องจนจะตาย เจ็บจนจะบ้า

ยังงี่เง่าคิดอะไรเหมือนเด็กๆ รักแล้วไง? ถ้ารักแล้วต้องมานั่งทุกข์ นั่งเสียใจ โดยที่ไม่รู้ว่ามันความผิดใครกันแน่

ระหว่างอิภพที่มันไม่รักแต่ไม่ยอมปล่อย หรือเรา ที่เค้าหมดรักแล้วยังไม่ยอมไป

คิดดูให้ดีๆ อย่าเอาแต่บอกว่า เพราะรักถึงทนได้ เพราะรักต่อให้เจ็บแค่ไหนก็ยอม

มันไม่ใช่เพราะรักแล้ว แต่มันเพราะตัวเราเองรึเปล่า? ที่ยอมรับความจริงไม่ได้สักที

นาทีนี้ไม่ต้องต่อว่าใครที่ไหนแล้วแหละ ไอภพก็ปล่อยให้มันเลวของมันไป มันจะบ้างี่เง่าปัญญาอ่อนก็ปล่อยมัน

เราเลือกได้ ชีวิตเรามันต้องเป็นของเราดิ ไปฝากให้คนอื่นที่มันไม่เห็นค่าทำไม

สุดท้ายก็ต้องมานั่งเสียใจกับการกระทำตัวเอง บอกว่าไม่เจอกันแต่แรกคงจะดีกว่า แล้วไง?

มันย้อนไม่ได้แล้ว แล้วไปมัวคิดถึงแต่ความหลังแสนสุข และหวังลมๆแร้งๆว่าอนาคตจะได้เคียงคู่กันเหมือนเจ้าหญิงเจ้าชาย

แล้วปัจจุบันล่ะ? มองสารรูปตัวเองบ้าง ร้องไห้กับความรู้สึกโง่ๆของตัวเองไปกี่ครั้ง

รักเค้าแต่ไม่รักตัวเอง ไม่สิ ..... ต้องบอกว่ารักตัวเองมากไป ถึงคิดอะไรได้แค่นั้น

 :angry2:  แค้นอิภพนะ ถึงต่อว่ามันจะมีเหตุผลในสิ่งที่มันทำก็เหอะ แต่คนเราควรมองความเป็นจริง

อิภพมันก็โง่ เค้าอุตส่าห์หนีไป มึงยังไปตาม เหมือนพวกโตแต่ตัว คิดอะไรได้แค่นั้น เป็นห่วงแต่ตัวเอง

แต่มุมนี้ คนที่มีหน้าที่ตัดสินใจจริงๆไม่ใช่อิภพแล้ว .... มันอยู่ที่สิงหาทั้งหมด มองข้ามความรู้สึกอิภพไป

เพราะทีมัน มันยังไม่สนใจจะแลมอง หรือสนใจแต่ไม่คิดจะให้ได้ ยื้อไปก็มีแต่สิงหาที่เจ็บ

ภพมันได้ทุกอย่างไปแล้ว ควรให้มันพอบ้าง รักมันมาก ก็มีแต่มันนั่นแหละที่จะเหยียบหัวเราขึ้นไปน่ะ

สงสารคนอ่านด้วยก็ดี เห็นสิงหาร้องไห้ตลอดๆมันก็จุกอกนะเออ อยากกระทืบอภพมาก แต่กลัวโดนข้อหาเจตนาฆ่าอ่ะดิ  :katai1:

ออฟไลน์ wann

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เหยยยยยยยย  :ling1:

ทำไมอิพี่ภามันเลวแบบเน้!!!!

สงสารน้องมากกกกก ฮืออออ อย่าให้ถึงมีน้องบ้างนะะะ

จะเอาให้ทรมานใจสุดๆไปเล้ยยยย :ling3:

พูดเหมือนเปนคนแต่งเองซะงั้นนนน :z3:

ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18


ตอนที่ 7


   ผมนั่งอยู่ปลายเตียง คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ อยู่ในหัว ไม่รู้หรอกว่าพี่กับผู้หญิงข้างนอกพูดคุยหรือทำอะไรกันต่อ แต่โลกของผมมันได้ปิดลงพร้อมกับประตูไม้ที่พี่เป็นคนผลักจนเกิดเสียงดังก่อนหน้านั้นแล้ว เขาบอกว่าผมควรอยู่คนเดียวและสงบสติอารมณ์ที่ยากเกินความคุมนั้นไว้ซะ

   ตอนนี้มันเริ่มเย็นลงแล้ว ผมมองเห็นความผิดเล็กน้อยของตัวเองที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ในความรู้สึก การกระทำงี่เง่าที่ผมทำลงไป ด้วยการปาข้าวของลงพื้นและกระแทกเท้าเดินเข้าห้องอย่างไม่แยแส มันแย่จริงๆ นั่นแหละ

   ถ้าจะให้ผมทบทวนมันก็คงระลึกได้เพียงแค่นี้ เพราะนอกจากนั้นแล้วมันก็ไม่เหลืออะไรให้รู้สึกอีกเลยนอกจากความเสียใจ

   แกร๊ก!!

   เสียงลูกบิดถูกหมุน ผมหันกลับไปมองยังประตูไม้บานเดิมอีกครั้ง และก็เห็นว่าคู่หมั้นของพี่กำลังโน้มหน้าชิดกับกรอบประตูและส่งยิ้มให้ เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

   “สิงหาฉันกลับแล้วนะ ไว้ว่างๆ เราไปเที่ยวกัน” เจ้าตัวส่งยิ้มก่อนโบกมือไหวๆ ส่วนผมก็ได้แต่จ้องมองนิ่งๆ โดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

   “เดี๋ยวไปส่ง” และผมก็ได้ยินเสียงของพี่

   “ไม่ต้องๆ ฉันมาเองก็ต้องกลับเองสิ”

   ประตูถูกปิดลงพร้อมกับสองร่างที่หายไปจากสายตา ผมได้แต่ถอนหายใจซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ชีวิตช่างไร้ค่าสิ้นดีจะทำอะไรก็ไม่ได้ ทำได้แค่หายใจทิ้งไปวันๆ เหมือนคนไร้ประโยชน์

   ผมแค่หวังว่าวันต่อไปมันจะดีขึ้น แค่หวังว่าพี่จะทำดีตอบกลับและไม่ทำให้ผมต้องเสียใจอีกก็เพียงพอแล้ว ผมไม่ได้อยากร้องไห้ มันเหนื่อยจนรู้สึกเกลียดน้ำตาบ้าๆ นี่จะตาย แต่ทำยังไงมันก็ไม่เคยเหือดแห้งเลยสักที พยายามหลายครั้งเพราะไม่อยากให้ตัวเองรู้สึกแย่ แต่พอนึกถึงทุกอย่างที่พี่ทำ ความพยายามทั้งหมดมันก็สูญเปล่าทันที

   เกือบสามสิบนาทีได้มั้งที่พี่ภูหายไป...

   “ไปล้างหน้าล้างตาซะ” ใบหน้าหล่อเหลาที่แนบอยู่ตรงขอบประตูทำให้ผมกะพริบตาปริบๆ จนกระทั่งร่างสูงเดินเข้ามาใกล้กับผม วางมือไว้บนบ่าแล้วก็ตบเบาๆ

   “...”

   “ไปล้างหน้าแล้วเช็ดน้ำตาซะ ตาแดงหมดแล้ว” ดูเหมือนพี่ก็ยอมอ่อนลงให้เหมือนกัน ไม่รู้หรอกนะว่าถูกบังคับมาจากผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า

   “ผมไม่สำคัญก็ไม่ต้องทำเหมือนว่าผมสำคัญก็ได้นะ” เผลอพูดออกไปอย่างที่คิด ไม่ได้อยากประชด แค่กำลังคิดอย่างนั้นอยู่จริงๆ

   “สิงหา...อย่าชวนทะเลาะ”

   “...”

   “ไปล้างหน้าซะ เดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอกกัน”

   “ไปไหนครับ”

   “ไปเที่ยวห้าง แล้วอย่าคิดมากอีกล่ะ”

   “พี่จะพาผมไปจริงๆ เหรอ”

   “หรือไม่อยากไป” ผมรีบส่ายหัวไปมา เดินเข้าห้องน้ำเพื่อกวักน้ำล้างหน้า อย่างน้อยก็ชะล้างความเศร้าหมองและคราบน้ำตาออกไปบ้าง เพราะตอนที่เห็นหน้าตัวเองในกระจกมันชวนให้ตกใจไม่น้อยเหมือนกัน

   นี่คือสัญญาณที่ดีใช่มั้ย ดีแล้ว...แค่นี้ก็ดีแล้ว


   “แล้วคู่หมั้นของพี่ภูจะไม่ว่า...” พูดไม่จบประโยคผมก็ได้รับสายตาขวางๆ จากพี่ซะแล้ว เราสองคนกำลังเดินอยู่ที่ห้าง นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้ เดินกับพี่ พูดคุยกัน แม้ว่าหัวข้อสนทนาหรือในความคิดของเราทั้งคู่จะมีแต่คนอื่นก็ตาม

   “เลิกพูดถึงมินตราเถอะน่า”

   “แค่เห็นพี่สนิทกัน”

   “ก็เคยทำงานด้วยกันมาก่อน” เราเดินผ่านช็อปต่างๆ อย่างไร้จุดหมาย แค่เดินไปเรื่อยๆ ลากเท้าไปตามพื้นเหมือนกำลังใช้ช่วงเวลานี้ตอบคำถามที่ค้างคาใจเสียมากกว่า

   “พรุ่งนี้...”

   “...”

   “พรุ่งนี้ผมจะไปขอโทษเขาครับพี่ภู”

   “ช่างเถอะยัยนั่นไม่ว่าอะไรหรอก” มือหยาบใหญ่วางไว้บนหัวผม โยกไปมาเหมือนเด็กน้อยราวกับไม่ถือสาความผิดที่เคยเกิดขึ้น พี่เปลี่ยนไปจริงๆ กลายเป็นภูผาใจดีคนเดิมที่ผมเคยรู้จัก สุภาพ อ่อนโยน ถึงจะนิ่งไปบ้างแต่ก็ไม่เคยละเลย

   “แล้วพี่โกรธผมมากมั้ย”

   “ถ้าเชื่อฟังพี่จะโกรธเราทำไมล่ะ แค่อย่าดื้อ แล้วนี่อยากได้อะไรหรือเปล่า”

   “ไม่ครับ”

   “เสื้อผ้าล่ะ”

   “ไม่...ผมมีพอแล้ว” ผมส่ายหัวไปมาไม่กล้ารับอะไรจากเขาอีก ไม่รู้สิแค่ความรู้สึกที่มีให้กันก็เพียงพอแล้วมั้ง ถึงไม่รู้ว่ามันจะยาวนานแค่ไหนก็เถอะ หวังว่าสักวันเราจะไม่ติดค้างกันอีก ผมแค่ใช้ความรู้สึกแลก ถ้าจะติดมันก็มีเพียงความรู้สึกของเราเท่านั้นแหละที่เหนี่ยวรั้งกันเอาไว้

   “อยากกินไอติมมั้ย”

   “ครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของพี่อีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้อยากปฏิเสธ สุดท้ายเราก็มานั่งอยู่ตรงโต๊ะมุมสุดในร้านไอศกรีมแห่งหนึ่ง

   “อยากกินอะไรสั่งเลย”

   “เหมือนเดิม” ผมตอบ

   “เหมือนพี่อ่ะเหรอ”

   “ครับ” ผมชอบกินไอศกรีมรสเดียวกับพี่ แต่ความจริงแล้วมันคือความเคยชินที่ติดมาตั้งแต่สมัยเรียนปีหนึ่งแล้วต่างหาก ช่วงที่จีบกันใหม่ๆ มันมีแต่ความเขินอาย พอพี่ภูสั่งอะไรผมก็จะสั่งตามหมดจนกระทั่งเคยชิน...รสชาติแบบนั้นมาจนถึงตอนนี้

   จากนั้นพี่ก็หันไปสั่งพนักงาน เรารอกันสักพักก่อนไอศกรีมจะถูกยกเสิร์ฟ

   “กินเลย”

   “พี่ก็กินด้วยสิครับ มันเป็นของที่พี่ชอบ”

   “อืม...” ไม่ปล่อยให้บอกซ้ำสองมือหนาที่ถือช้อนใบเล็กก็จิ้มตักไอศกรีมเข้าปากสองสามคำ ก่อนความเงียบจะค่อยๆ ปกคลุมพื้นที่จนกระทั่งผมรู้สึกอึดอัด ใจจริงอยากถามถึงช่วงเวลาที่เราห่างหายกันไป อยากถามเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น แต่ก็กลัวพี่จะโกรธ

   พี่ภูอารมณ์ดีได้แค่แป๊บเดียว และผมกลัวว่าจะทำอะไรพลาดให้เขารู้สึกโมโหอีก

   มันค่อนข้างแย่

   “มีอะไรเหรอสิงหา” กลายเป็นเสียงทุ้มพูดทำลายความเงียบซะเอง ผมจึงเงยหน้าขึ้นและได้สบตากับอีกฝ่ายตรงๆ อีกครั้ง ทั้งที่รู้สึกกลัวเป็นเท่าทวี

   “เปล่าครับ”

   “จะถามอะไรก็ถามมา นี่เปิดโอกาสแล้ว”

   “สามเดือนที่ฝึกงาน...พะ...พี่คิดถึงผมบ้างหรือเปล่าครับ เคยคิดที่จะกลับมาที่ห้องของเราสักครั้งมั้ย” จริงๆ นี่อาจเป็นสิ่งที่ค้างคาที่สุดในหัวของผมก็ได้ มันสำคัญมากกว่าเรื่องของคู่หมั้นซึ่งรู้คำตอบอยู่แล้วเป็นไหนๆ

   “จริงๆ ตอนแรกก็คิดถึง อยากกลับ...” เจ้าตัววางช้อนลง ชันแขนทั้งสองข้างกับโต๊ะพร้อมกับพูดเสียงราบเรียบและสายตาเอื่อยเฉื่อยเหมือนไม่มีความรู้สึก

   “...”

   “แต่เพราะงานมันรัดตัว อะไรๆ มันก็ยุ่งยากไปหมดจนรู้สึกว่าเวลาที่อยากเดินทางไปไหนมาไหนมันน้อยลง ระยะทางจากที่ทำงานและคอนโดของเราก็เหมือนห่างขึ้น ความวุ่นวายของการทำงานมันมีอิทธิพลจนทำให้ลืมไปเลยว่าต้องทำอะไร ไปที่ไหน รู้แค่สิ่งที่จำเป็นต้องทำในเวลานั้นจริงๆ”

   “งั้นตอนนั้นผมก็คงไม่จำเป็น”

   “ก็คงงั้น”

   เจ็บจัง บางทีพี่ก็ตอบตรงเกินไป ผมรู้ว่าพี่ภูเหนื่อยที่จะต้องมาพูดถนอมน้ำใจ แต่ช่วงเวลาของคนรอที่ไม่รู้ว่าปลายทางมันอยู่ตรงไหนก็เหนื่อยเป็นเหมือนกัน ต้องร้องไห้ ต้องโดดเดี่ยว กอดเข่าตัวเองหลับบนโซฟา ขณะที่ริมฝีปากก็เอาแต่พึมพำว่าคืนนี้ขอให้พี่กลับห้องนับร้อยนับพันครั้ง

   แต่ไม่มีเลย...มันว่างเปล่าไปหมด

   “สิงหาขอโทษนะ”

   “...!!”

   “สำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”

   “รู้มั้ยผมอยากโกรธพี่ อยากเกลียดพี่ อยากเลิกรักพี่ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยทำได้เลย ถึงแม้รู้อยู่เต็มอกว่าจะต้องเจ็บสักแค่ไหนแต่ผมก็ยังยอมให้มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นไอ้โง่ดักดานอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพราะถ้าพี่ยืนยันว่าจะจับมือของผมต่อไป ผมก็จะจับมือของพี่ไว้เช่นกัน”

   “สัญญาแล้วนะว่าจะไม่ปล่อยมือ” เสียงทุ้มถามย้ำ เลื่อนมือมากุมมือของผมเอาไว้จนแนบสนิท

   “ครับ ถ้าวันไหนที่มันหลุดคือพี่เลือกที่จะปล่อยมันเอง”

   “...”

   “และผมยินดียอมรับความจริง”

   Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

   อาการสั่นครืดจากโทรศัพท์เครื่องหรูทำให้เจ้าของหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะกดรับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ริมฝีปากได้รูปขยับตอบอยู่สองสามประโยคก่อนจะวางสายไป และผมก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร เพราะถ้าเจ้าตัวอยากบอกเขาก็คงเป็นฝ่ายบอกผมเองนั่นแหละ

   “รีบกินไอติมเถอะ พี่มีธุระต้องเข้าไปจัดการ”

   “ถ้ารีบมากพี่ภูไปก่อนเลยครับ เดี๋ยวผมนั่งแท็กซี่กลับเอง”

   “...”

   “ผมไม่หนีพี่ไปไหนหรอก” หนีไปก็ไม่เคยพ้น สุดท้ายก็ถูกตามตัวกลับมาอยู่ดี หนำซ้ำอาจเจ็บตัวมากกว่าที่เป็นอยู่ ฉะนั้นผมถึงไม่อยากดิ้นรนจะหนีไปไหนอีก เพราะถ้าวันไหนมันไม่ใช่แล้วพี่เหนื่อย เขาก็คงจะหยุดเอง

   “ไม่ต้องพูด เดี๋ยวไปด้วยกัน”

   “ที่ไหนครับ?”

   “สตูดิโอเล็กๆ ของพวกช่างภาพนี่เอง ไม่มีอะไรหรอก”

   ไอศกรีมในถ้วยนั้นไม่ได้พร่องลงไปมากนัก เราสองคนต่างก็เร่งรีบไปงานสำคัญของพี่เสียก่อน จนกระทั่งมาถึงจุดหมายในเวลาอันรวดเร็ว

   ที่นี่เป็นสตูดิโอเล็กๆ อย่างที่พี่บอกไว้จริงๆ มันเหมือนบ้านหลังหนึ่งซึ่งถูกปรับแต่งเป็นออฟฟิศสำหรับใช้ทำงานของช่างภาพอิสระที่อยากหาความเป็นส่วนตัว เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เหมือนกับบ้านสวน แต่ดีไซน์และการตกแต่งภายในนั้นแตกต่างจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง เมื่อมันเต็มไปด้วยภาพถ่ายจำนวนมากถูกแขวนอยู่บนฝาผนัง

   “นั่งตรงนี้ก่อน” พี่ภูสั่ง ผมเลยทิ้งตัวลงบนโซฟา ปล่อยให้คนตัวสูงเดินไปพูดคุยกับเพื่อนตากล้องที่รู้จักกันอีกคนหนึ่ง

   ผมไม่รู้หรอกว่าเขาคุยอะไร จากที่นั่งรอก็กลายเป็นเริ่มหาว พอเริ่มหาวจากคนไม่มีอะไรทำสุดท้ายก็ล้มตัวลงนอนบนโซฟาจนเผลอหลับไปซะดื้อๆ

   ผมไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกนิ้วแกร่งสะกิดไหล่เบาๆ เนี่ยแหละ

   “สิงหาตื่นก่อน” เสียงเรียกของพี่ และใบหน้าของเขาอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่เซ็นต์

   “ครับ” ผมขยี้ตาเพื่อปรับโฟกัสสายตาอีกครั้ง

   “ค่ำแล้ว แต่พี่ต้องออกไปทำธุระข้างนอกกับเพื่อนเพราะงั้นนอนอยู่ตรงนี้ก่อนแล้วกัน หรือไม่ก็นั่งดูทีวีไป”

   “ให้ผมไปด้วยได้มั้ยครับ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว”

   “พี่ไปไม่นาน เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว รออยู่ที่นี่เนี่ยแหละ” ก็ได้แต่พยักหน้าเข้าใจยอมทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย ทั้งที่จริงๆ แล้วในใจมันอยากวิ่งตามร่างสูงที่เดินผละห่างออกไปใจแทบขาด

   กลัว...

   ความรู้สึกเดียวที่สัมผัสได้ในตอนนี้ ด้วยไม่ชินกับบรรยากาศและสถานที่ทำให้ผมไม่กล้าลุกจากโซฟาเดินไปไหนเลยนอกจากนั่งนิ่ง ควานหารีโมตกดดูรายการอย่างมั่วๆ เพื่อทำลายความเงียบเพียงเท่านั้น

   กุกกักๆ แกร๊ก!!

   เสียงตะกุกตะกักจากประตูทางเข้าทำให้ผมหันหลังไปมองด้วยความขยาด ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้เป็นพี่กับเพื่อน ผมจะได้ไม่ต้องวิตกกังวลอะไรแบบนี้ แต่ภาพที่เห็นและเงามืดของร่างสูงซึ่งสะท้อนไฟนั้นกลับไม่ใช่พี่ แต่เป็นใครก็ไม่รู้อีกสองคนที่กำลังย่างกรายเข้ามา

   “ไอ้วัชรอยู่มั้ย” เสียงเข้มแตกพร่าโพล่งถาม

   เขาเป็นตากล้องเหมือนกันเหรอ หรือว่าเป็นทีมอาร์ตคนไหนในออฟฟิศแห่งนี้หรือเปล่า

   “มะ...ไม่อยู่ครับ อะ...ออกไปกับพี่ภู”

   “อ๋อเหรอ ไปนานหรือยัง”

   “ได้สักพักแล้วครับ” ผมรีบลุกขึ้นเต็มความสูง ถอยกรูดไปด้านหลังอย่างไม่คิดชีวิต ไม่รู้หรอกว่าสองคนนั้นปลอดภัยหรืออันตรายแค่ไหน ผมแค่ปกป้องตัวเองจากความหวาดระแวงที่ถูกสร้างขึ้นในจิตใจก็เท่านั้น

   “แล้วนี่น้องเป็นใคร”

   “ผะ...ผมเป็นแฟนพี่ภูครับ”

   “อยู่ที่นี่คนเดียวเหรอ” เจ้าของคำถามยิ้มกริ่ม มันเป็นรอยยิ้มที่น่ากลัวมากในความคิดของผม แต่กลับทำอะไรไม่ได้นอกจากถอยหลังไปเรื่อยๆ

   “ครับ แต่เดี๋ยวพี่มา”

   “มันไม่มาตอนนี้หรอกน้อง เพราะมันเพิ่งสั่งให้พี่ดูแลน้องแทนเนี่ย”

   “มะ...ไม่นะ!”

   โครม!!

   ไวเท่าความคิด หลังจากที่ผู้ชายสองคนนั้นกำลังพุ่งจู่โจมมายังผม ร่างกายที่มันสั่นกลัวก็ตอบสนองอัตโนมัติด้วยการหันตัวและวิ่งหนี แต่มันดันพลาดที่ข้างหลังไม่ใช่ประตูหรือพื้นที่โล่งอะไร แต่มันกลับเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะตัวใหญ่ซึ่งถูกผมเหวี่ยงแขนใส่จนล้มครืนลงมาต่อหน้าต่อตา

   “ฮืออออออ อย่า...อย่าทำผมเลย” แข้งขาอ่อนเปลี้ยไปหมด ได้แต่ทรุดเข่าลงพร้อมกับยกมือไหว้ขอร้องทั้งน้ำตา

   “เฮ้ยน้องเป็นอะไรมากหรือเปล่าเนี่ย”

   “ฮืออออไม่คะ...ครับ พี่อย่าทำผมนะ กลัวแล้ว ผมกลัวแล้ว” ผมบอกไปแทบไม่เป็นภาษา ดวงตาทั้งสองข้างฟ่าฟางไปหมด และที่สำคัญความเจ็บก็กำลังแผ่ซ่านไปทั่วปลายเท้าเมื่อเห็นว่าข้าวของอะไรบางอย่างหล่นร่วงลงมาทับจนขยับไปไหนไม่ได้

   “พี่ไม่ได้จะทำอะไร น้องเข้าใจผิดแล้ว”

   “อย่า..อย่าแตะผมนะ” ผมรีบสะบัดแขนอย่างแรงเมื่ออีกฝ่ายตั้งท่าจะดึงตัวผม

   “ฟัง!! น้องฟัง!!”

   “ฮึก...”

   “ไอ้ภูสั่งให้พี่มาอยู่เป็นเพื่อน ตอนนี้มันติดธุระสำคัญ แต่เห็นทีคงต้องโทรตามมันกลับมาซะล่ะมั้ง” ผมได้แต่เงียบ ประมวลผลทุกอย่างอยู่ในหัว

อยู่เป็นเพื่อน...แล้วสิ่งที่คิด สิ่งที่กลัวล่ะ ผมคิดไปเองอย่างนั้นเหรอ

   หวาดระแวงไม่เข้าเรื่อง จนทำให้คนอื่นพลอยลำบากไปด้วย

   แย่จริงๆ สิงหา แกจะเป็นภาระกับคนอื่นไปอีกนานแค่ไหน







   “ให้มันได้อย่างนี้สิวะ!!”

   เสียงสบถของพี่ภูดังลั่นสตูดิโอจนทำให้ผมสะดุ้งโหยง หลังเขากลับจากธุระ ใบหน้าเรียบเฉยก็ขมวดคิ้วมุ่น เอาแต่กัดฟันกรอดมองดูสารรูปของผมที่นั่งก้มหน้างุดอยู่ตรงโซฟา พร้อมกับคอมพิวเตอร์ราคาแพงซึ่งนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น

   “ผมไม่ได้ตั้งใจครับ” ตอบกลับไป แม้รู้ดีว่ามันไม่ใช่ข้อแก้ตัวที่ฟังขึ้นเลยสักนิด

   “ก็ไม่ได้ตั้งใจตลอดแหละ แล้วคิดยังไงนึกว่าไอ้พวกนี้เป็นโจร”

   “ปะ...เปล่า เขา...เขาเข้ามาแบบ...”

   “หัดดูตาม้าตาเรือซะบ้างสิ ไม่ใช่อะไรก็กลัวไปหมด แล้วรู้มั้ยว่าทำข้าวของพังไม่พอไหนจะงานที่อยู่ในนั้นอีก มันเร่งส่งแต่ก็ทำให้มันล่าช้าไปอีกนะสิงหา!!” ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งขึ้นเสียงสูงเรื่อยๆ จนเพื่อนพี่ภูต่างพากันตบบ่าและปรามเอาไว้ไม่ให้เขาหงุดหงิดงุ่นง่านไปมากกว่านี้

   “ใจเย็นภู ไฟล์มันไม่หายหรอกแค่หน้าจอพัง เดี๋ยวกูทำในพีซีก็ได้”

   “ก็ไง เสียเวลาอีกมั้ย”

   “ขอโทษจริงๆ ครับ” ผมเอาแต่บอกประโยคซ้ำๆ เดิมๆ อย่างไม่มีเบื่อหน่าย ด้วยหวังว่าพี่จะเห็นใจสักนิด คือผมไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ ยอมรับว่ากลัวไม่เข้าเรื่องและมองโลกในแง่ร้ายเกินไป แต่เพราะผมไม่คุ้นชินกับสถานการณ์ที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวในสถานที่แบบนี้เลยเผลอทำเรื่องไม่เข้าท่าออกไป

   “พี่ไม่น่าพาเรามาเลย น่าจะให้กลับตั้งแต่กลางวัน ก็ไม่คิดว่าเราจะเป็นแบบนี้”

   “ขอโทษครับ”

    “ไม่น่าโง่ขนาดนี้เลยจริงๆ”

   “มึงจะพูดทำไมวะเชี่ยภู อีกอย่างน้องมันก็เจ็บ พามันกลับก่อนเหอะ งานที่เหลือจะส่งยังไงเดี๋ยวกูจัดการเองไม่มีอะไรแล้ว ไปๆ วันนี้กูงดรับแขก” พี่วัชรที่เป็นเจ้าของสตูดิโอดันหลังร่างสูงให้เดินเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับดึงข้อมือของผมยัดใส่ในมือของพี่ ก่อนจะผลักเราออกนอกตัวบ้านอย่างหน้าตาเฉย

   ผมปวดเท้า จำไม่ได้แล้วว่าอะไรร่วงลงมาทับแต่ก็พยายามเดินตามอีกฝ่ายให้เป็นปกติที่สุด อย่างน้อยก็ไม่ทำให้เขาโกรธไปมากกว่าเดิม

   “กลับไปที่ห้องคงต้องคุยกันอีกยาว”

   “...”

   “ยังจะยืนนิ่งอยู่อีก รีบตามมาสิ!!”

   “ครับ”

   ผมวิ่งปนเขย่งไปจนถึงตัวรถ และพี่ก็ขับกระชากออกไปด้วยอารมณ์โกรธอยู่เต็มเปี่ยม ผมเองที่รู้ว่าผิดอยู่เต็มเปาจึงไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ นอกจากกลับมายังห้องและฟังคำบ่นของพี่จนหูชา

   ผมนึกว่าวันนี้จะเป็นวันดีซะอีก

   สุดท้ายก็พังไม่เป็นท่า ไม่น่าตั้งความหวังไว้เยอะเลยสิงหา...







   “ไหนดูเท้าซิ” ร่างสูงทรุดตัวนั่งลงตรงพื้น เอื้อมมือมาดูข้อเท้าของผมที่กำลังแดงช้ำและปูดบวมจนห้อเลือด

   “ไม่เป็นไรครับ ทายาเดี๋ยวก็หาย”

   “ก็เดี๋ยวจะทาให้ไง” มือหนาหยิบยาหลอดสีขาวมาทาไปทั่วบริเวณที่บวม ความเจ็บจากการสัมผัสทำให้ผมชักเท้ากลับเป็นครั้งคราว แต่พี่ก็ไม่เบามือเอาซะเลย

   “ขอบคุณครับ”

   “ก่อเรื่องอะไรไว้อย่าคิดว่าจะลืม”

   “ผมไม่รู้ นึกว่าเพื่อนพี่ภู...”

   “ไม่รู้ๆๆ วันๆ รู้จักแต่คำนี้หรือไง ขอร้องเถอะสิงหาพี่แม่งโคตรเหนื่อยเลยว่ะ ทำให้สบายใจสักเรื่องได้มั้ย วันไหนเชื่อฟังไม่ต่อต้านดันเสือกก่อเรื่องอีก อยากให้พี่บ้าตายเหรอ”

   “...”

   น้ำตาหนึ่งหยดเริ่มไหลแหมะอีกครั้ง ทว่าผมต้องรีบใช้หลังมือเช็ดออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับก้มหน้าไม่พูดไม่จา พี่จะว่ายังไงก็ได้ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภาระ เหมือนคนไม่มีประโยชน์ยังไงชอบกล

   “ที่สตูดิโอตอนนี้มีโปรเจ็กต์ใหญ่และต้องการนายแบบหน้าใหม่ เตรียมตัวไว้ให้ดีเพราะพี่จะเลือกเรา”

   “ฮะ?”

   “เดี๋ยวใกล้ๆ จะบอกรายละเอียดอีกทีหนึ่ง แล้วเมื่อตอนเย็นเอเจนซี่ของเราเขาโทรมา พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า พี่ก็รับงานถ่ายแบบของเราเอาไว้แล้วด้วย”

   “...”

   “เตรียมตัวซะ ขืนยังเป็นแบบนี้โดนใครต่อใครที่ไม่ใช่พี่ว่าเราจะเจ็บยิ่งกว่า”

   “ผะ...ผมไม่อยากไปถ่ายแบบครับพี่ภู” ใบหน้าของเขามองผมแน่นิ่ง เหมือนพยายามข่มความรู้สึกโมโหแทบทะลุเอาไว้สุดความสามารถ

   ใช่! พี่คงผิดหวังกับคนอย่างผมที่มันไม่มีอะไรดีเลย พอตั้งใจจะทำอะไรมันก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า

   “ทำไมไม่อยากไป อยากเข้าวงการไม่ใช่เหรอ”

   “...”

   “พี่ถามให้ตอบ!!”

   “ผมเป็นภาระ ผมอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อน”

   “...”

   “ผมรู้พี่ก็คิดแบบนั้นใช่มั้ยล่ะ เพราะผมทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องได้ราวสักอย่าง...พี่หรือคนอื่นก็เอาแต่พูดแบบนั้น มันเจ็บ...” แล้วน้ำตาก็ยังคงไหลลงมาเงียบๆ

   เหมือนมีใครสักคนหนึ่งด่าเราว่าโง่ แรกๆ นั้นเจ็บปวดแสนสาหัส ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่านานๆ ไปมันอาจจะชิน แต่ไม่เลย หัวใจของผมไม่ได้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงถึงขนาดไม่รู้สึกอะไร

   “ผมอยากเป็นเหมือนคนอื่น เป็นเหมือนคู่หมั้นของพี่ที่ดูมั่นใจไปซะทุกอย่าง ไม่ต้องกลัวผิด ไม่ต้องกลัวจะโดนพี่ด่า ไม่กลัวอะไรเลย”

   “...”

   “ผมอยากเป็นเธอ”

   “คิดได้แค่นี้ใช่มั้ย”

   “...”

   “นี่คือความคิดของคนที่ชื่อสิงหาเหรอเนี่ย”

   “...”

   “ไม่น่าเกิดมาเลยจริงๆ”

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2022 16:09:29 โดย Jittirain12 »

ออฟไลน์ mimasopu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
ไม่ใช่สิงหาไม่น่าเกิดมาหรอก
ไอพี่ภูนี่แหละไม่น่ามาเจอสิงหา
ตอนแรกสิงหาก็ดูเหมือนคนธรรมดาสามัญนะ
ที่มาหวาดระแวงอ่อนแอนี่อีภูเป็นสาเหตุทั้งนั้น
เชียร์น้องให้เชิดใส่ออกจากชีวิตมันไปเถอะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
คุณจิตติคะ   หมั้นใจ  -  มั่นใจค่ะ

ถอนหายใจ  ภูเมิงจะเ-ี้ยไปถึงหนาย?
สิงหาไม่เหลืออะไรแล้วแม้แต่ความเป็นคนธรรมดาสามัญ
ยิ่งกว่าสัตว์เลี้ยงอีก

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
 :เฮ้อ: กว่าสิงหาจะเติบโตและเข้าใจชีวิต นี่น้ำตาอาจไหลจนตัวแห้งตายนะเนี่ยะ
เป็นคนที่อยู่ในกรอบมีมุมมองเฉพาะสิ่งที่ตาเห็นโลกที่น้องอยู่มันแคบ แถมน้องกลายเป็นคนขี้ระแวงไปแล้ว
เพราะเจ็บปวดจากความรักของพี่ภู :ling2:

สำหรับตอนนี้ ย้ำว่าตอนนี้ พี่ภูร้ายใส่ก็หวังดีอ่ะแหละ อยากให้สิงหาได้คิด แต่เพราะสิงหายอมตลอด
คำพูดหรือการกระทำจึงออกมาแบบทำร้ายทำลายหัวใจ :monkeysad:

แต่สำหรับตอนอื่นๆที่สิงหาร้องไห้ เพราะพี่ภูนอกใจขอ :z6:
เข้าใจตรงกันนะ

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ที่สิงหาต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะพี่ภูไม่ใช่หรือไง :m16:

ออฟไลน์ Maytbb

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1763
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ไอ้พี่ภู ทำไมชอบพูดจาทำร้ายจิตใจสิงหาตลอดเลย   :m31:

ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
ยังย้ำคำเดิมว่าเกลายกภู ต่อให้สิวหาอ่อนต่อโลกหรือน่ารำคาญแค่ไหนมันก็เป็นคนละเรื่องกับความเลวที่ภูทำไว้กับสิงหานะ เราอยากให้สิงหาเข้มแข็งแล้วสู้กับความเลวร้ายของภู แล้วก็เพื่อที่ตัวเองจะอยู่ในสังคมนี้ได้ด้วย สู้ๆนะสิงหา

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
อยากให้สิงหาหนีไปจากพี่ภูอีกจัง
โลกของสิงหามันแคบเพราะมีแต่พี่ภูไม่ใช่เหรอไง
เอาแต่ด่า เอาแต่ว่า คิดว่าสิงหาอยากให้เป็นแบบนั้นเหรอ

หนีออกมาจากพี่ภูซะ
ออกมาเห็น ออกมาเผชิญโลกที่ไม่มีพี่ภูเถอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
ถ้าสิงหาโตแล้ว ยืนหยัดด้วยตัวเองได้แล้วโดยไม่ต้องมีพี่ภู จะเป็นยังไงนะ? พี่ภูจะปล่อยน้องไปไหม??




ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่ภูเหมือนสตรีประจำเดือนมาไม่ปกติเลยนะคะ เป็นอะไรมากไหมนิ? ดีแต่บังคับจริงๆ สิงหาหลอนไปเองก็เพราะพี่นั่นแหละ รู้ยัง?

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
เบื่ออิพี่ภูมาก แกไปกดดันน้องมันขนาดนั้นเองนะ
แล้วคำพูดคำจารักษาน้ำใจหน่อย
คนรักกันเขาไม่ทำแบบนี้หรอก เรื่องนายแบบก็เหมือนกัน
ตอนแรกคิดว่าจะหวงจนไม่ยอมให้ทำซะอีก งงไปเลย

สิงหา เราต้องเข้มแข็งได้แล้ว ยิ่งทำแบบนี้คนอื่นยิ่งสมเพช
สู้เพื่อตัวเองสิ ลุกขึ้นมา พี่เพ่อปล่อยแม่งไป
ฮืออออ อ่านเรื่องนี้แล้วทำร้ายจิตใจตัวเองมาก

 :mew6:  :mew6:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
เมิงใกล้วัยหมดฮอร์โมนใช่ไหมอีภู อิห่า ลมขึ้นลมร่อง น้ำไม่ออกหรือยังไง บ่นๆๆๆๆ สิงหาอยู่นั่นแหละ :angry2: แล้วไอ้สองตัวนั่นก็เสือกทำท่าทำทางกระลิ้มกระเลี่ย อาจจะล้อเล่น แต่สิงหาซึ่งหวาดระแวงและขี้กลัวอยู่แล้วเลยออกอาการกลัว เมิงน่าจะเอะใจนะที่น้องเป็นมากขนาดนี้ ยังเสือกเอาแต่ด่าอยู่ได้ ที่เจ็บสุดไอ้คำว่า ไม่น่าเกิดมาเลย เมิงพูดมาได้ยังไง พ่อแม่เขาเต็มใจให้เกิดเมิงเป็นใครมาพูดคำนี้ เมิงต่างหากไม่น่าจะเกิดมา มีปมด้อย  :fire: เอาเถอะจะรอดูวันที่สิงหาเปลี่ยนตัวเอง เข้มแข็งขึ้น มั่นใจมากขึ้น เป็นตัวของตัวเองขึ้นมา วันนั้นอีพี่เมิงเมิงคงจุกไม่น้อย ขอให้จุกและเจ็บปวดกว่าที่สิงหาเป็นร้อยเท่าพันเท่า  :katai2-1:

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1037
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
สิงหาต้องได้เรียนรู้และเข้มแข็งขึ้นให้ได้กว่านี้นะ
พี่ภูนี่ก็อารมณ์ขึ้นๆลงๆ พูดกับน้องดีๆบ้างสิพี่
นับวันสิงหาจะยิ่งคิดมากกดตัวเองให้ด้อยกว่าคนอื่น
เพราะทุกการกระทำคำพูดของพี่นี่ล่ะ
สิงหาสู้กว่านี่นะ สู้ๆ

 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
เง้อ
รอดูการพัฒนาของสิงหานะ

ขอบคุณคนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ wikawee

  • มีชีวิตอยู่เพื่อทำฝันให้เป็นจริง
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-7
การที่สิงหามาจากบ้านด้วยตัวคนเดียว แล้วมาเจออิพี่ภูแล้วก็คบกันมาโดยที่อิพี่เป็นคนดูแลทุกอย่าง พอเกิดจุดหักตอนที่อิพี่นอกใจสิงหา ทำให้สิงหาเป็นคนขี้กลัวขี้นะแวง ไหนจะโลกแคบอีก ทุกวันนี้ชีวิตของสิงหาหมุนรอบอิพี่ภู เราคิดว่ทีาสิงหาเป็นแบบนี้คงเพราะอิพี่นีีแหละ เป็นคนที่ทำให้เกิดจุดหักเหของชีวิต  :ruready

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
แรงไปนะกับประโยคนี้
อ้างถึง
“ไม่น่าเกิดมาเลยจริงๆ”

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
บรรยายไม่ถูกเลย ไม่รู้จะพูดไรดี
ภูแม่ง.....ผู้ชายโครตเ-ี้ย
ตัวเองน้องมาเป็นภาระปะวะ?
บังคับน้องมาปะวะ?
เห้ยน้องลูกมีพ่อมีแม่นะ
เหยียบหน้าแม่ง :z6: :z6: :z6: :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Viewonohm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 843
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-5
พี่ภูอารมณ์ขึ้นๆลงๆ ไม่อยากคาดหวังอะไร  :mew2:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
ไม่อยากให้สิงหาทนแล้ว  :katai4: :katai4:

เกลียดดดดดดดดด นังพี่ภู คนใจร้าย ทำอะไรไม่คิดถึงความรู้สึกคนอื่นบ้าง !!  :katai1:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :katai4: โอ้ยย ยย  ย :katai1: จะหนีแล้วก็ตามกลับมา พอกลับมาก็เป็นว่าเสียๆ หายๆ แบบนี้เนี่ยนะ ไอ้ภู สู้ให้น้องมันเข้มแข็งด้วยตัวเองดีกว่ามั้ย เหอะ! ถามว่าน้องมันกลัวก็เพราะใครล่ะ การกระทำของตัวเองแท้ๆ ทำอะไรเค้าไว้บ้าง กักขังหน่วงเหนี่ยว บังคับขื่นใจด้วย  :z6:  :beat:

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
กว่าสิงหาจะเข้มแข็งคงหมดน้ำตาไปอีกหลายลิตร :เฮ้อ:
อีพี่ภู :z6:

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
บางทีพี่ภูก็แรงไปนะ น้องมันผิดก็จริง แต่มันก็แรงไปอยู่ดี รักน้องบ้างมั้ยเนี่ย ถ้าไม่รักก็ปล่อยน้องไปเถอะ -3- :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ wann

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 151
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อ่านแล้วนอยด์อิพี่ภูมากกกก

จ้ะ คุณพี่เก่งง เก่งจิงจิ๊งงง ไม่เหมาะกะน้องที่ไม่น่าเกิดมาเล้ยย

ไปตายซะ!!!! :z3: :z3:


ปล.ต้องขอโทษแฟนขับ เอ้ย! แฟนคลับพี่ภูด้วยนะค้าา (ถ้ามี หึหึ..)

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
ก็ถ้าน้องไม่เจอแกมันก็น่าจะดีกว่านี้นะ

ช่วงเวลาเรียนรู้โลกของน้องโดนแกยึดไปหมด กักไว้ในกรงบ้าๆของแก ไปถนุถนอมดูแลจนมันใช้ชีวิตไม่เป็น แล้วก็ทิ้งมัน

เหมือนแกเลี้ยงหมา หมามันก็กินของมันเองได้ วันนึงแกมาให้อาหารหมาด้วยมือจนมันติด ต้องกินจากมือแก

แล้วแกก็เลิก เพราะขี้เกียจแล้ว มักง่ายนะภูผา

แล้วเชื่อไหมถ้าแกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับสิงหา โดนแนะนำว่าเป็นพี่ แล้วน้องมันก็ไปเจ๊าะแจ๊ะกับคนที่มีแนวโน้มว่าจะชอบมันหรือมันจะชอบ แกจะอาการหนักกว่ามันแน่ๆค่ะภู

ส่วนสิงหา งี่เง่าค่ะ เราเข้าข้างนะ แต่ก็งี่เง่ามากจริงๆ ชีวิตหนูขับเคลื่อนด้วยความรักของอิพี่ภูไม่ได้หรอก ทำตัวมีค่าหน่อย

ความรักอาจสำคัญก็เพราะมันทำให้เรามีความสุขค่ะสิงหา ถ้ามันไม่ทำให้มีความสุข มันก็ไม่สำคัญขนาดที่มันเคยเป็นแล้ว

แล้วก็อย่าเอาแต่คิดว่าคนอื่นเข้มแข็งแล้วตัวเองอ่อนแอจะได้ไหม คนอื่นเขาก็อ่อนแอเป็นเหมือนกันแหละค่ะ เป็นสิงหานี่ก็ดีนะ อยากร้องก็ร้อง ร้องได้จนพอใจ คนบางคนอยากร้องให้ตายก็ร้องไม่ได้ด้วยซ้ำนะคะ อันนี้เราไม่ค่อยอะไร แต่ค่แต่ แต่ทำไมชอบคิดว่ามีแต่ตัวทั้งชีวิตมีแต่พี่ภู เบียร์คือใครคะ แม่คือใคร คนรู้จักเหรอ โอ๊ยมีเพื่อนดีแบบเบียร์นี่ถือว่าโชคดีกว่าได้แฟนดีอีกค่ะ  เอาแต่คิดว่าไม่มีพี่ภู พี่ภูไม่รัก ชีวิตก็ไร้ค่าไม่คู่ควรกับเขานี่ ตั้งสติค่ะลูก เห็นหัวเพื่อนกับแม่หน่อย เห็นความสำคัญที่เขาให้หนูหน่อย อย่ามองข้ามหัวใครไปโฟกัสแต่ผู้ชายสิคะ

ขอโทษที่ใส่อารมณ์ค่ะ อิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2015 12:49:37 โดย JustWait »

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
เฮ้อออออ ไม่รู้จะสงสารสิงหาแบบไหนดี  :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
เป็นมนุษย์ที่ self estreem ต่ำมาก
คือโตมายังไงฟระ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
รำคาญ!!!!! และที่น่ารำคาญมากกว่าคือเรานั้นแหละอ่านแล้วบ่นแล้วอ่านอีก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด