◐ เธอที่ร้าย ◑ THE END
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◐ เธอที่ร้าย ◑ THE END  (อ่าน 744411 ครั้ง)

ออฟไลน์ khwanruen

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-3
เศร้า ไปหมด กลัวความคิดของพี่  :ling3:

ออฟไลน์ pooinfinity

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-3
เป็นนิยายเรื่องแรกที่อยากให้จบแบบ sad ending

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
โอยใจจะขาด พี่เขาไปไหนแล้ว อยากให้น้องรู้เรื่องที่ไม่สบายอ่ะ
อย่างน้อยในช่วงสุดท้ายอาจได้ดูแลกัน หรืออาจมีปาฏิหาริย์ให้หายดีก็ได้ ฮือ เศร้า
โพสต์อิสที่แปะไว้คือซึ้งมาก ความทรงจำดีๆ อะไรๆ ก็เป็นของตัวเล็ก ฮืออออออออ น้ำตาซึม

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ mr.nine

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 109
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขอให้ไอ้ภูผามันตาย ดีทรมานชอบ :pighaun:

ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
อยากให้เขากลับมาอยู่ด้วยกัน
สิงหาขวางพี่ภูทีเหอะ จะไปตายแน่ๆเลยนะนั่น

ออฟไลน์ guitaros

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
พี่แกคิดจะฆ่าตัวตายรึเปล่า โฮรวว การกระทำหลายๆอย่างมันใช่มากกก ความจริงก็อยากให้ตายๆไปซะดูจากสิ่งที่เคยทำมาในอดีต แต่อีกใจนึงก็คิดว่าถ้าเค้าเสียใจและทรมานกับสิ่งที่เค้าได้รับจนเป็นขนาดนี้ได้มันก็สาสมพอแล้ว ยังไงก็ยังอยากให้แฮปปี้อยู่ดีล่ะน้า  :mew6: ไม่อยากให้นายเอกของเราเสียใจ ดูแล้วยังไงก็ยังรักเค้าอยู่ชัดๆ  :hao5:

ออฟไลน์ destiny_dr

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 50
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านแล้วยังไม่รู้สึกเกลียดพี่ภูเลย แต่รู้สึกรำคาญสิงหาหน่อยๆ ㅠㅠㅠㅠ
ดูอ่อนแอและปวกเปียกมากๆเลย บนโลกนี้มันมีพื้นที่สำหรับคนอ่อนแอด้วยหรอ ? อีกอย่างหนึ่งคือยึดติดและปิดกั้นตัวเองมาก ก็เข้าใจแหละว่าคนอยู่ด้วยกันดูและกันมาตั้งเกือบ2ปีมันต้องผูกพันกันมากเป็นธรรมดา แต่นี่เหมือนสิงหาปล่อยวันเวลาผ่านไปเฉยๆ บอกว่าลืมไม่ได้แต่ในขณะเดียวกันก็ปล่อยความรู้สึกเอาไว้ไม่พยายามลืม ยังไงดี คือเหมือนปล่อยไว้เฉยๆให้หายไปเองแทนที่จะพยายามทำให้มันหายไป เอ้อ งงมั้ย55555555 ส่วนพี่ภูก็อย่างที่บอกยังไม่เกลียดแต่กำลังงงๆว่านร่เธอเป็นอะไร กำลังสับสนงงงวยอะไรในชีวิตรึเปล่า ปากบอกยังรัก(ในพาร์ทก่อนๆ)แต่การกระทำมันช่าง...อืมม นะ เป็นนี่ นี่ก็รักไม่ลง555555

ออฟไลน์ แป้งข้าวหมาก

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 749
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
บอกตรงๆคือไม่ชอบอ่านแนวดราม่าเลย
แต่กับเรื่องนี้เลิกอ่านไม่ได้จริงๆอ่านไปร้องไห้ไป
 :m15:

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3

ออฟไลน์ Amocha

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ไม่ชอบสิงหาเลยคับ :katai1: :katai1:

ทำตัวแย่มากตอนแรกแล้วตอนนี้ทำเป็นหยิ่งงงงงง :katai4: :katai4:

ไม่อยากไห้พี่ภูตายเลย แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะได้สะใจไห้สิงหารู้สึกผิดไปตลอดชีวิต :fire: :fire: :m31:
(เลวมาก อิอิ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ drasil

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1690
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-1
จะจบยังไงเนี่ย

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
สงสาร

ออฟไลน์ Mickey199663

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
จะไม่มีใครเอะใจเลยเหรอว่าพี่ภูมันป่วยอ่ะ ทำไมไม่มีใครคิดอะไรเลยว่าช่วงนึง คนๆหนึ่งจะเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น แล้วมินตาที่รู้อยู่คนเดียวว่าพี่มันเป็นอะไรไม่เอะใจบ้างเหรอว่าพี่มันไม่ยอมกินยาและไม่ยอมไปหาหมอ จะผิดมั้ยถ้าจะโกรธทุกๆคนเลย ถ้ามีคนใส่ใจพี่มันสักนิด สังเกตว่าพี่มันป่วยก่อนที่เรื่องมันจะลามมาถึงตอนนี้ อะไรๆมันอาจจะไม่แย่เท่านี้ก็ได้ เพราะคนป่วยทางนี้มันต้องการคนเอาใจใส่เป็นพิเศษอ่ะ แต่ถ้าจะโทษต้องโทษทางครอบครัวพี่ภูที่น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พี่มันป่วย ตอนนี้เกลียดไบโพล่ามาก เพราะโรคนี้ที่ทำให้คนที่เค้ารักกันต้องเจ็บขนาดนี้ สงสารพี่ภูสุดๆ ถ้าคนรอบข้างใส่ใจพี่มากกว่านี้ พี่อาจจะไม่ต้องป่วยหนักขนาดนี้ก็ได้....

แล้วเราก็ยังไม่เห็นว่าพี่ภูมันจะผิดตรงไหนนะ พี่ภูป่วยอ่ะ การกระทำที่ผ่านมาก็อธิบายไปแล้วว่าเกิดจากอาการป่วยของพี่ พี่มันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายสิงหา มันไม่ได้อยากให้น้องเจ็บ แต่พี่มันควบคุมตัวเองไม่ได้ไง แต่เราไม่โกรธสิงหานะที่ตอนนี้ดูเหมือนจะใจร้ายกับพี่ เพราะน้องมันไม่รู้ความจริงทั้งหมดเพร่ะพี่มันไม่ยอมบอก แล้วน้องมันเจ็บมาเยอะมันก็ไม่อยากจะกลับไปเจ็บอีก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2015 23:08:04 โดย Mickey199663 »

ออฟไลน์ Pimjean

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
คิดถึง

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
 :katai5: :katai5:ๅ

ออฟไลน์ spsygk

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 193
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
หายไปไหนน :katai4:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
สงสารพี่ภูอ่ะ ปวดใจอ่ะ...
ทุกคนเจ็บปวดกันพอแล้ว อย่าทรมานกันเองอีกเลยนะ

ออฟไลน์ Paparazzi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1050
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-11
กลับมาได้แล้วน้า ตอนนี้คิดถึงพี่ภู สงสารมากๆๆๆๆ :m15:

ออฟไลน์ hibarinsama

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อ่านมาถึงตอนนี้แล้วตงิดๆใจว่าพี่ภูจะไปตามเพื่อนยังไงไม่รู้แฮะ อย่าให้พระเอกตายเลยนะครับขอร้อง TwT ผมชอบอ่านนิยายแนวดราม่านะครับตามอ่านมาหลายเรื่องขอให้ทั้งน้องสิงหาและพี่ภูกลับมารักกันเหมือนเดิมเถอะนะครับ แงงงงง #Fc ดราม่าแต่จบแฮปปี้

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:


ออฟไลน์ Jittirain12

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1238/-18


เนื้อหาอาจมีความไม่เหมาะสม
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน



ตอนที่ 14


   วันที่สองของความฝัน...

   ความจริงผมอยากอยู่คนเดียว ด้วยไม่อยากทำให้คนตัวเล็กต้องรู้สึกแย่ ผมทิ้งเขาไว้ที่คอนโด เขียนข้อความบ้าบอเต็มห้องไปหมด มันคงไม่ดีแน่ถ้าเราจะกลับมาเจอกันอีกครั้ง ขณะที่สิงหาเองก็อาจมองผมด้วยสายตาที่ต่างออกไปเช่นกัน

   ผมบอกรักเขาไปแล้ว กลัวว่าสิ่งที่ได้ตอบแทนกลับมาจะเหลือเพียงความสมเพชเวทนา แต่ถึงเป็นอย่างนั้นก็ควรยอมรับความจริงตั้งแต่แรก ตั้งแต่ตัดสินใจสารภาพกับเขาตรงๆ อาจเพราะผมไม่อยากให้วันเวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์อีก แม้อีกฝ่ายจะยังรักหรือไม่แล้วก็ตาม

   จะบอกว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัวก็ยังได้ วินาทีสุดท้ายที่คิดจะจากไปผมก็ยังทำให้ตัวเล็กต้องเจ็บอีกตามเคย

   แม่งโคตรเลว

   ผมกวาดตามองไปยังขวดยาสองกระปุกบนหัวเตียง กระปุกหนึ่งเป็นยารักษาอาการซึมเศร้าที่ไม่เคยคิดแตะต้อง กับอีกกระปุกเป็นสิ่งที่ผมได้มาตอนเช้ามืด

   ในห้วงเวลาจมดิ่งตอนนี้ การเลือกที่จะจากไปอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด

   Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

   แต่สัญญาณโทรศัพท์กลับดังขัดขึ้นมาเสียก่อน ปลายสายเป็นเบอร์ของไอ้เซน ช่างภาพมือโปรที่ไปได้ดีถึงมิลาน ผมไม่คิดจะรับสาย ปล่อยให้ดังอยู่อย่างนั้นหลายครั้งก่อนจะดับไป ทว่าความพยายามของอีกฝ่ายที่เอาแต่โทรตื้อก็ทำให้ผมไม่สามารถทำใจวางเฉยได้นาน

   “ว่าไง” กรอกเสียงลงเป็นปกติ

   [เปิดประตูบ้านไอ้ภูผา สิงหาเข้าบ้านมึงไม่ได้ ผู้จัดการเขามารอตั้งนานแล้ว]

   ผมขมวดคิ้วมุ่น แทบไม่ได้ยินเสียงเรียกขานจากภายนอกเลยด้วยซ้ำ หรือบางทีความคิดว้าวุ้นที่กำลังตีกันในหัวมันทำให้ไม่ได้ยินเสียงใดๆ แทรกเข้ามากัน ยิ่งกริ่งหน้าบ้านถูกถอดออกด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ผมไม่ได้ยินเสียงจากภายนอกเข้าไปอีก

   “เหรอ...ฝากบอกเขาว่ากูขอโทษด้วยแล้วกัน”

   [จะฝากบอกทำห่าอะไรครับ เดินไปเปิดประตูให้เขาเข้ามา จะทำมั้ยงานอ่ะ] ปลายสายพูดเสียงติดรำคาญเล็กน้อย

   “ฝะ...ฝากมึงขอโทษเขาด้วย กูคงทำไม่ได้แล้ว”

   [ไอ้ภูมึงเป็นอะไร พักนี้มึงแปลกไปนะ]

   “เปล่า กูแค่ทำผิดกับสิงหา”

   [มึงทำอะไรเขา]

   “กูยื้อเขาไว้ กูบอกรักเขา กูผิด” ผิดมหันต์เมื่อคิดว่าจะไปแต่กลับรั้งอีกฝ่ายให้เจ็บอีกตามเคย

   [มึงไม่ผิดที่จะรัก เขาเคยเป็นของมึงแล้วมันผิดอะไรที่มึงจะขอโอกาส]

   “มึงไม่เข้าใจ”

   [เออ! กูไม่เข้าใจหรอก ไม่เคยเข้าใจเหี้ยอะไรเลยทั้งมึงทั้งไอ้วัชร! จะผิดหรือไม่ผิดที่บอกรักเขาก็ช่างหัวแม่งมัน เขาจะรักอยู่หรือเปลี่ยนไปก็ช่างแม่ง แต่มึงต้องรับผิดชอบที่ทำให้ใครคนหนึ่งรอ ถ้าไม่อยากให้รอเพราะความรู้สึกผิดไปบอกเขา! บอกว่าไม่ต้องรอ จบ!]

   ปลายสายถูกตัดไปซะดื้อๆ ไม่ปล่อยให้ทักท้วงใดๆ ผมพรูลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน วางมือถือไว้บนโต๊ะก่อนย่างเท้าออกไปหน้าบ้านด้วยความรู้สึกหลากหลาย

   อีกแล้ว...อีกแล้วที่เราต้องเผชิญหน้ากันภายใต้ความกดดันเป็นเท่าทวี

   “คุณภูผา พี่เรียกตั้งนานนึกว่าไม่อยู่บ้านซะแล้ว สิงหามายืนรอนานมาก” ผู้จัดการเอ่ยขึ้นทันทีที่ผมเดินมาถึงหน้าประตู

   “ขอโทษครับ พี่ขอโทษด้วยนะตัวเล็ก” หันไปพูดกับอีกฝ่าย แม้เจ้าตัวจะไม่ยอมสบตาด้วยก็ตามที

   เปลี่ยนไป...อย่างสิ้นเชิง

   เพิ่งรู้ในตอนนี้ การกระทำบ้าๆ ที่ผ่านมาเป็นเพียงตัวช่วยที่ทำให้ผมรู้ว่าเขาหมดรักผมไปแล้ว

   “งั้นพี่ไปก่อนนะสิงหา ตอนเย็นเสร็จงานจะให้คินมารับ”

   “ครับ”

   ร่างบางตบปากรับคำ พลางสับเท้าตามผมเข้ามาในตัวบ้าน ปล่อยให้รถตู้สีดำขลับของผู้จัดการเคลื่อนตัวออกไปโดยที่เราไม่ได้ให้ความสนใจสักเท่าไหร่

   “ขอโทษนะที่พี่ทิ้งเราไว้ที่นั่น” กลั้นใจพูดออกไปเพื่อทำลายความเงียบที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามา คนตัวเล็กทิ้งตัวลงบนเก้าอี้โยก หยิบหนังสือของแดน บราวน์ที่อ่านค้างไว้ขึ้นมาเปิดโดยไม่สนใจจะตอบคำถาม

   “และก็ขอโทษอีกเหมือนกันที่ทำให้เราอึดอัดใจ อย่าคิดมากเลย”

   “...”

   “ตัวเล็ก”

   “คุณจะถ่ายงานมั้ยครับ” ดวงตากลมโตจ้องมองผมด้วยสายตาว่างเปล่า เขาแทบไม่สนใจว่าประโยคก่อนหน้าพูดถึงอะไรด้วยซ้ำ   

   “โอเค พี่ขอโทษนะ ทำให้เราเสียเวลาเลย”

   “ไม่เป็นไร” ผมเดินไปหยิบกล้องกับเลนส์ที่ใช้ถ่ายเมื่อวานจากโต๊ะ หันกลับมาหาคนตัวเล็กที่เริ่มวางหนังสือลงและเดินสำรวจไปทั่วบ้านไม่พูดไม่จา จนผมต้องทำลายความเงียบอีกตามเคย

   ผมเจ็บ แต่ผมไม่โกรธน้อง ผมโกรธตัวเองที่ยังมัวแต่งี่เง่าอยู่แบบนี้

   “เรากลับมากับใคร”

   “พี่คินครับ”

   “เห็นกระดาษในห้องนั้นมั้ย อย่าใส่ใจเลยนะ พี่ก็แค่เขียนอะไรมั่วๆ น่ะ”

   “ผมรู้ คุณก็โกหกไปซะทุกครั้ง คุณแต่งงานแล้วจะมาคิดแบบนั้นกับผมได้ยังไง ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ว่าไปอย่าง”

   ผมเงียบ กลืนก้อนแข็งๆ ที่จุกคออย่างหนักหน่วง บางที...ยอมให้คนตัวเล็กเข้าใจผิดแบบนี้อาจเป็นคำตอบที่ดีระหว่างเรา ปล่อยให้เขาเกลียดดีกว่าปล่อยให้เขารู้สึกผิดที่รักผมไม่ได้มันยังดีซะกว่า

   เนิ่นนานที่เราต่างเงียบใส่กัน ผมเดินตามถ่ายภาพสิงหานับชั่วโมงกระทั่งมีความคิดแปลกใหม่เกิดขึ้น จริงๆ แค่กลัวว่าเขาจะอึดอัดกับการอยู่กับผมเพียงลำพัง เลยพยายามเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

   “ตัวเล็กเราไปร้านกาแฟกันมั้ย”

   “แถวนี้เหรอครับ”

   “ใช่ ร้านเล็กๆ เขาเปิดเป็นเรือนเพาะชำด้านหลังด้วย”

   “ก็ดีเหมือนกัน จะได้เปลี่ยนบรรยากาศและอาจได้ภาพที่คุณต้องการ”

   เราแทบไม่รอช้า เดินเท้าผ่านบ้านมาแค่ไม่กี่หลังก็ถึงจุดหมาย ร้านกาแฟที่นี่ไม่ค่อยมีคน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้ เรานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ด้านหน้าระเบียงสูงสามเมตร ซึ่งได้ร่มเงาจากหลังคาไม้เลื้อยคอยบังแสงไม่ให้ร้อนเท่าที่ควร

   “ขับรถผ่านหลายครั้งแต่ไม่เคยได้แวะมา พอได้มานั่งปุ๊บมันดีกว่าที่คิดเยอะเลย” สิงหาพูดด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้มเจือจาง ผมกดชัตเตอร์รัวจนมือแทบสั่น รอยยิ้มบางเบาของเขาที่มองเห็นผ่านเลนส์กล้อง ทำให้ผมคิดถึงอดีตระหว่างเราขึ้นมาเป็นฉากๆ

   “ใช่ดีมาก”

   “คุณมานั่งบ่อยมั้ย”

   “ไม่ค่อยเท่าไหร่ พี่อยู่แต่ที่บ้าน”

   “ไม่กลับบ้านไปหาคุณพ่อบ้างเหรอครับ” เป็นครั้งแรกที่เขาถามถึงครอบครัวของผม

   “อ่า...จะว่ายังไงดี พวกเขาไม่ว่างน่ะ มัวแต่ทำงาน แม่พี่ก็แต่งงานใหม่แล้ว เลยไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่”

   “คงเหงาแย่ ดีหน่อยที่ยังมีพี่มินตราอยู่”

   “ก็คงใช่” ผมจำต้องโกหก เพราะไม่สามารถบอกเหตุผลทุกอย่างออกไปได้ สิงหาเลือกที่จะรับรู้ว่าผมบอกรักเขาไม่ว่าจะจริงหรือโกหก แต่เขาไม่ได้เลือกให้เรากลับมาคบกันใหม่ นั่นหมายความว่าผมก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องอธิบายเรื่องเหล่านี้ให้เขาเข้าใจ

   “สั่งอะไรกันก่อนมั้ยครับ”

   “เราสั่งเถอะ พี่แค่อยากนั่งถ่ายรูปเราเฉยๆ”

   “โอเค”

   เจ้าตัวเล็กไม่เคยเปลี่ยนไปเลย เขายังกินอะไรเหมือนเดิม สั่งเครื่องดื่มรสชาติเดิมๆ และก็นั่งจิบด้วยท่าทางเหมือนเด็กน้อยแม้จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม สิงหาในวันนี้แม้จะเติบโตจากเมื่อก่อนแต่เขาก็ยังเป็นคนเดิมที่ผมรู้จักเสมอ

   เจ็บ

   ผมเจ็บจนทนไม่ไหว อยากต่อเวลาอีกสักหน่อย แต่อีกใจหนึ่งมันก็บอกให้รีบไป เพราะรู้ว่าสักวันเราก็ไม่มีทางได้อยู่ด้วยกันอยู่ดี

   เวลาเคลื่อนผ่านจากนาทีเป็นชั่วโมง เรานั่งอยู่ที่ร้าน นานจนเกือบเย็นถึงได้เดินเท้ากลับไปยังบ้านกึ่งสตูดิโอ ผมเก็บภาพความทรงจำเอาไว้ในเมมโมรี่ของกล้อง บันทึกทุกอย่างก่อนก๊อบปี้ลงบนคอมพิวเตอร์เครื่องประจำ สิงหาไม่ได้พูดอะไร ผมชำเลืองมองเขาเป็นครั้งคราวก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังคุยโทรศัพท์อยู่

   และหลังจากนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นมาจากรั้วหน้าบ้าน

   ผมลุกขึ้นเต็มความสูง เดินเข้ามาหาคนตัวเล็กด้วยหัวใจเต้นกระหน่ำ

   “คินมาแล้วเหรอ”

   “ครับ”

   “ไปไหนต่อ”

   “ทานข้าวกับพี่คินและเพื่อนๆ ที่กองถ่ายซีรีส์ เรา...ฉลองเฉพาะกิจน่ะครับ”

   “อ้อ ขอให้สนุกนะ สิงหาในวันนี้มีเพื่อนมากกว่าตอนนั้นเยอะเลย ต่อไปก็ต้องมีคนเอ็นดูมากกว่านี้แน่ๆ” ผมพูดด้วยรอยยิ้ม เห็นอีกฝ่ายส่งยิ้มกลับก็ใจชื้นขึ้นมาทันที ค่อยๆ เดินตามร่างบางที่ย่างเท้าออกมาหน้าบ้านในระยะประชิด รอจนกระทั่งอีกฝ่ายเดินพ้นประตูรั้วออกไปถึงได้โบกมืออำลา

   สิงหาไม่ได้รีบขึ้นรถ เขาหันมาที่ผมก่อนขยับริมฝีปากแผ่วเบา

   “คุณภูผา ข้อความที่คุณเขียนในห้องนั้นน่ะ ผมขอบคุณมาก”

   “ไม่เป็นไร”

   “ผมรู้คุณไม่ได้โกหก แต่ผมรักคุณตอบไม่ได้อีกแล้ว...”

   “พี่รู้ อย่าโทษตัวเองเลย ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นความผิดของพี่ทั้งหมด”

   “คุณมีภรรยาที่แสนดี เธอดีกว่าผมมาก”

   “ไม่มีใครดีไปกว่าใครหรอก มีแค่ว่าเข้าใจหรือไม่เข้าใจเท่านั้น และก็หวังว่าตัวเล็กจะเจอคนที่เข้ากันได้และมีความสุขเหมือนกัน”

   “ครับ”

   “สมุดบันทึกเล่มนั้น หมายถึงเล่มที่พี่เขียนไว้ที่คอนโดน่ะ”

   “...”

   “จะทิ้งก็ได้นะ”

   เขาไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ก่อนคำพูดของไอ้เซนจะแทรกเข้ามาในหัว ความจริงผมควรรับผิดชอบการกระทำของตัวเองให้มากกว่านี้

   “ตัวเล็ก พรุ่งนี้...” 

   “...”

   “ไม่ต้องรอพี่นะ มะรืนก็ไม่ต้องรอ”

   “ทำไม”

   “จบแล้วล่ะ งานเสร็จเร็วกว่ากำหนด ไฟล์รูปพี่จะส่งให้เพื่อนจัดการ ส่วนเงินจะรีบโอนเข้าบัญชีให้เรา ไม่มีอะไรต้องห่วง”

   “โอเคบอกผมแบบนี้ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องรอ”

   เท้าเล็กๆ ก้าวเข้าไปในตัวรถ ผมส่งยิ้มให้ รอกระทั่งรถเคลื่อนผ่านออกไปจนลับสายตา ก่อนเดินกลับขึ้นไปยังห้องนอนด้วยจิตใจวูบโหวงพอดู

เขาไม่รอก็ดีแล้ว...








   ความจริงวันนี้เป็นเพียงวันที่สองของความฝัน...

   แต่มันคงเป็นวันสุดท้ายสำหรับชีวิตของผู้ชายที่ชื่อภูผา

   ผมไม่ได้หวังอะไร ทุกอย่างที่ค้างคาในชีวิตตลอดยี่สิบกว่าปีในการทำเพื่อคนอื่น หมดลงแล้ว...

   จะเหลือติดค้างก็แค่ความสุขของตัวเอง ผมได้แต่ภาวนา ทุก...วินาที ถ้ามีโอกาสได้เกิดใหม่และมีชีวิตที่ดีกว่าจุดที่เป็นอยู่ ผมขอ ขอให้ผมหัวเราะได้มากกว่านี้ ยิ้มได้มากกว่านี้ และมีความสุขกับคนที่รักได้มากกว่าที่ผ่านมา

   ผมไม่มีความจำเป็นที่ต้องเจอกับสิงหาอีก ทุกอย่างที่ผ่านมามันเพียงพอในความรู้สึก รูปภาพที่ใช้เวลาถ่ายตลอดสองวันถูกเซฟลงไดรฟ์วางไว้บนโต๊ะทำงานตัวเก่ง ก่อนจะหันมานั่งลงกับพื้น ตรงนี้มีกระดาษมากมายวางอยู่ข้างตัว ผมหยิบดินสอที่เคยเหลาขึ้นมาและเริ่มวาดภาพด้วยลายเส้นแปลกประหลาด

   ตอนเป็นเด็กผมชอบวาดภาพ ผมวาดบ้านที่อบอุ่นด้วยมือข้างซ้าย พ่อมักตีผมอยู่บ่อยๆ ทุกครั้งที่เริ่มจับดินสอกด เขาอยากให้ผมหัดใช้มือขวาเหมือนคนอื่นๆ พ่อกำหนดทุกอย่างในชีวิตตั้งแต่ตอนนั้น เริ่มเรียนในโรงเรียนที่เขาเลือก ทำในสิ่งที่เขาต้องการ ผมเป็นแบบนั้น เป็นภูผาที่ใช้ชีวิตตัวเองโดยการควบคุมของคนอื่น

   วันนี้ผมได้ใช้ชีวิตในแบบที่ผมได้เลือก ได้วาดภาพด้วยมือซ้ายอีกครั้งหลังจากไม่ได้ทำอย่างนั้นมาตลอดยี่สิบปี ในหัวมันมีแต่อะไรไม่รู้เต็มไปหมดจนไม่สามารถจัดระบบความคิดของตัวเองได้ รู้แค่ว่ามือข้างซ้ายมันยังคงขยับไม่หยุด ผมเขียนข้อความและวาดภาพมากมายลงกระดาษแผ่นแล้วแผ่นเล่า

   ภาพแรกเป็นพ่อ

‘พ่อ ผมวาดภาพบ้านของเรา’ ผมมักพูดแบบนั้นตอนเป็นเด็ก แล้วพ่อก็มักจะตอบกลับมาว่า…

‘ใช้มือข้างไหนวาด!’

ทุกครั้งที่ผมตอบว่ามือซ้ายเขาจะตีผม ทุกครั้งที่ผมหยิบดินสอด้วยมือนั้นเขาจะตะคอกใส่ ความคิดของเด็กในตอนนั้น ผมแค่ไม่เข้าใจว่านิ้วมือข้างซ้ายมันผิดอะไร

‘ผมแค่ถนัดข้างซ้าย ทำไมพ่อต้องดุผม’ และทุกครั้งที่ผมเถียง

เขาก็จะจบบทสนทนาด้วยการตีเสมอ

‘พ่อตีผม พ่อตีผม ผมเจ็บ...’

ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น รู้แค่ว่าในห้วงความคิดพ่อยังคงตีผมไม่หยุด ตีมาตลอดยี่สิบกว่าปี ผมเข้าใจทุกอย่างในวินาทีนี้ นิ้วมือซ้ายไม่ผิดหรอก แต่ผมต่างหากผิดที่เกิดมา

และถึงแม้พ่อจะเกลียดผม แปลกเหมือนกันที่ผมยังรักพ่ออยู่ดี





ภาพที่สองเป็นแม่

ตอนเป็นเด็กผมอ้อนแม่ อยากได้อะไรแม่จะให้เสมอ ผมอยากได้รถแข่งแม่จะซื้อให้ ผมอยากได้หุ่นยนต์ เช้าวันต่อมามันจะถูกวางไว้ข้างหมอน แม่ใจดี เขาให้ทุกอย่างที่ผมต้องการ เขาบอกว่าเขารักผมแต่เขากลับไม่เคยกอดผมสักครั้งตั้งแต่จำความได้...

เราไม่เคยนอนบนเตียงด้วยกัน ผมทำได้แค่กอดหุ่นยนต์ไร้หัวใจและหลับไปในแต่ละคืนเท่านั้น

กอดของแม่เป็นยังไงเหรอ ได้แต่ตั้งคำถาม กระทั่งวันนี้ที่อาจเป็นวันสุดท้ายของชีวิต ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่ากอดของแม่มันอบอุ่นเหมือนที่คนอื่นบอกเอาไว้หรือเปล่า

ถ้ามีโอกาส ถ้ามีโอกาสในครั้งต่อไปผมก็อยากกอดเขาแล้วบอกว่ารักซ้ำๆ เท่าที่คนคนหนึ่งจะพูดมันออกมาได้

ผมรักแม่





ภาพที่สามเป็นพี่ชาย

ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอที่เราไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน อาจเป็นตอนที่ผมตัดสินใจเรียนในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความต้องการของพ่อและพี่ ขอโทษครับ ขอโทษที่ผมเถียงพี่ในวันนั้น อยากบอกออกไปแต่คิดว่าคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว

พี่...

ผมชอบช่วงเวลาที่เราไปเที่ยวทะเลด้วยกันสองคนเหลือเกิน

‘ถ้าเกิดชาติหน้ามีจริง เราไปเที่ยวทะเลด้วยกันอีกได้มั้ยครับ’

ภาพที่สี่เป็นเพื่อนและกล้องถ่ายรูปตัวแรกที่ผมเก็บเงินซื้อด้วยตัวเอง

ไอ้วัชรคือเพื่อนคนแรก หน้ามันเหมือนหมี ชอบใส่กางเกงยีนส์ขาดเข่า แถมยังหิ้วกีตาร์ไปมาขณะเดินอยู่บนตึกเรียน ใครต่างก็สงสัยว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเด็กถ่ายภาพหรือเด็กดุริยางค์ฯ กันแน่

วัชรเป็นคนพูดจาประหลาด หรือความจริงก็คือพูดไม่รู้เรื่อง มันรู้จักกับใครอีกคนที่อยู่ห้องข้างเคียงในหอเดียวกัน ก่อนจะชักชวนเข้ามาอยู่ในก๊วนแก๊งเด็กถ่ายภาพหัวใจแบดบอย ไอ้เซน...จากนั้นกลุ่มเราก็ใหญ่ขึ้น ดังขึ้น และมีคนรู้จักมากมาย

ผมคิดถึงช่วงเวลานั้น ตอนที่เราซื้อกล้องถ่ายรูปด้วยเงินน้ำพักน้ำแรงของตัวเองแล้วเอามานั่งอวด เราออกไปถ่ายภาพ ร้องเพลงและเมามายไปด้วยกัน นั่งรถไฟจากกรุงเทพไปไกลถึงสุราษฎร์ฯ ด้วยความคิดอยากหนีโลกเหมือนวัยรุ่นทั่วไป

ไม่กลัว แม้ข้างหน้าจะเผชิญกับอะไรก็ตาม

ไอ้วัชรเคยบอกกับผม อดีตที่มีความสุขก็เหมือนความฝัน แค่หลับตาและฝันไปนานๆ ก็ได้พบกับความสุขที่เราตามหาแล้ว

ผมเชื่อ เชื่อสนิทใจในวันที่มันตัดสินใจเข้าไปอยู่ในความฝันตลอดกาล คิดว่ามันคงมีความสุขกับสิ่งที่ได้เลือกด้วยตัวเองแล้ว และอีกไม่นานผมก็คงได้เจอกับความสุขในความฝันเหมือนกัน

ถึงไอ้วัชร เพื่อนคนแรกในมหา’ลัย

ขอบคุณสำหรับมิตรภาพหลายปีที่ผ่านมา

กู...จะมีความสุข





ภาพที่ห้าผมจินตนาการว่ามันคือมินตรา แม้ดินสอที่วาดออกมามันแทบไม่เป็นลายเส้นแล้วก็ตามที

เจ้าสาวของผม...

ผมโชคดีที่ได้แต่งงานกับเธอ ถึงเราจะไม่ได้รักกัน แต่งานแต่งงานในวันนั้นพิเศษที่สุดแม้มันจะมีความเศร้าปะปนอยู่ในนั้นก็ตาม รอยยิ้มของเธอต่อลมหายใจให้ผมได้อีกหน่อย กำลังใจของเธอทำให้ผมตัดสินใจมีชีวิตอยู่เพื่อเจอกับสิงหาอีกครั้ง

สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยบอกเธอเลย แต่ถ้ามินตราอยู่ตรงหน้าในเวลานี้ และวินาทีนี้ ผมอยากบอก...

คุณสวยเหลือเกิน

สุดท้าย ผมไม่รู้ว่าจะอวยพรเจ้าสาวของผมว่ายังไงดี

คง...ขอให้โชคดีล่ะมั้ง




ภาพที่หกคือแมวตัวอ้วนอย่างของขวัญ

พ่อรักหนูนะ






ภาพสุดท้ายและอีกหลายๆ ภาพเท่าที่กระดาษข้างกายของผมจะหมด ผมก็วาดแต่หน้าของสิงหา สิงหา และสิงหา...

ความทรงจำอีกครึ่งค่อนมันมีแต่ภาพเจ้าตัวเล็ก เด็กผู้ชายเสื้อสีชมพู

ตอบได้เต็มปากเลยว่าการได้รักเขา คือความฝันที่สวยงามที่สุดในชีวิต

   “พี่ชื่อภูผานะ”

   “สะ...ส่วนผมชื่อสิงหาครับ”

นั่นคือบทสนทนาแรกระหว่างเรา แม้จะเป็นความทรงจำแสนนาน ทว่ามันไม่เคยเลือนรางในหัวใจแม้แต่เสี้ยว ใบหน้าแสนหวานกับริมฝีปากเล็กๆ สีระเรื่อนั้นหยุดทุกอย่างลงคล้ายกับนาฬิกาตาย

โลกทั้งใบของผมเข้าไปอยู่ในห้วงจักรวาลประหลาด ผมไม่เคยเจอใครเหมือนเขา ไม่เคยรู้สึกกับใครเพียงได้สบตาแค่เสี้ยววินาทีแล้วมันจะกลายเป็นทั้งหมดที่ผมมีจนถึงวันนี้ เราผ่านทั้งความสุขและความเศร้า ความเหงา เจ็บปวด ทรมาน เราต่างผ่านมันมาทั้งหมด

ถ้าผมมีความกล้าพอที่จะบอกไปตั้งแต่แรก

ขอโทษ

ขอโทษ

ขอโทษนับพันครั้ง แม้ไม่หลงเหลือความรักในหัวใจของคนตัวเล็ก ผมก็อยากให้เขายอมรับมันอยู่ดี

ยกโทษให้พี่ได้มั้ย?







   ผมเคยฝันว่าพอโตขึ้นจะเป็นในแบบที่อยากเป็น อย่างน้อยความฝันตอน
ม.ปลายก็ไม่ได้โกหก มันคือความเป็นจริงที่ตัวเองได้ยืนอยู่จุดหนึ่งของวงการช่างภาพ และเมื่อถึงเวลาผมจะเริ่มเดินทาง ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเร็วกว่าที่คิด ภูผาในวันนี้กำลังเก็บกระเป๋าเดินทางแล้วจริงๆ

   บางคนปรารถนาชีวิตแสนยืนยาวและความเป็นนิรันดร์ สำหรับผมความคิดแบบนั้นคืออดีต พอผ่านโลกมาเยอะๆ คนเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่าความสุขในชีวิตหรอก มันผ่านผมไปแล้ว สิ่งที่ต้องการ หลงเหลือแต่ความทรมานที่ไม่สามารถผ่านพ้นมันไปได้

   ผมยังคงเจ็บ ทุกครั้งที่ลืมตาและพบกับแสงตะวัน ไม่มีวันไหนที่รู้สึกว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเลย ไม่มีฟ้าใส ไม่มีความอบอุ่น ไม่มีอ้อมกอด โลกตรงนี้หนาวเหลือเกินในความรู้สึก หนาวจนอยากหายไปก่อนมันจะกัดกินหัวใจให้เจ็บเจียนตาย

   เท้าสองข้างเดินวนไปทั่วห้อง ผมทำแบบนี้ซ้ำๆ หลังจากกระดาษสีขาวไม่หลงเหลือให้วาดภาพอีก ผมอยากเป็นภูผาที่ทำเพื่อตัวเอง ทำในสิ่งที่ชอบและอยู่กับมันก่อนวินาทีสุดท้ายจะมาถึง เพลง All of me ของ John Legend ถูกเปิดวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าผ่านโทรศัพท์มือถือ ผมชอบเพลงนี้ที่สุด...

   ชอบโดยไม่ได้ใส่เหตุผลลงไป รู้แค่ว่าต้องร้องออกมา


‘Cause all of me Loves all of you
Love your curves and all your edges
All your perfect imperfections
Give your all to me I'll give my all to you
You're my end and my beginning
Even when I lose I'm winning
'Cause I give you all, all of me
And you give me all, all of you, oh
   

   น้ำตาร้อนไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ยังดันทุรังเปล่งเสียงร้องออกไปแม้จะเต็มไปด้วยเสียงสั่นปร่าฟังแทบไม่ได้ศัพท์ ดีเหมือนกันที่ได้ฟังเพลง โลกตรงนี้นาฬิกาเหมือนจะหยุดเดิน หรือบางทีมันอาจเดินถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

   เพลงยังคงแทรกผ่านโสตประสาท ผมลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หยิบผ้าขนหนูผืนโปรดก่อนเดินตรงดิ่งไปยังห้องน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ภูผาคนนี้ตอนโกนหนวดแล้วหล่อเหลาไม่เบา ภาพในกระจกบอกแบบนั้นยามผมส่งยิ้มให้ตัวเอง ปาดมีดโกนไปบนผิวที่เริ่มเกลี้ยงพลางขยับมือไปมา

   หล่อแล้ว

   แทบไม่ได้นับว่าใช้เวลาในห้องน้ำไปนานเท่าไหร่ ผมแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ สระผม ก่อนเดินออกมาหาเสื้อผ้าใส่ ในนี้มีชุดเก่าๆ ที่เคยรีดเอาไว้แล้วไม่ได้ใส่อยู่หลายตัว ผมตัดสินใจหยิบชุดที่ดูดีที่สุดในความคิดออกมาจากตู้เสื้อผ้าในสภาพเก่ากลางใหม่

   ชุดนิสิตตัวแรกตอนเข้ามาเรียนนิเทศศาสตร์

   ผมผูกเนคไทให้ตัวเอง สำรวจร่างกายผ่านกระจก พึมพำออกมาราวกับคนบ้า

   “เปิดเรียนแล้ว”

   เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กมหา’ลัยอีกครั้ง

   “ตั้งใจเรียนนะ”

   เวลาของผมเริ่มเคลื่อนผ่านจากอดีตราวกับเส้นเวลากำลังทำงานของมัน ภาพในหัวตัดฉับไปมาแทบล้มทั้งยืน ผมไม่สามารถควบคุมร่างกายและสองขาได้ เอาแต่ยืนโงนเงนอยู่ตรงนั้น โดยปล่อยให้เวลาเปิดเทอมวันแรกในความทรงจำผ่านพ้นไปโดยไม่สามารถดึงมันย้อนกลับมาได้อีก

   คงจะดีถ้าผมได้แต่งตัวแบบนี้ในทุกเช้า แต่มันสายเกินไปแล้วจริงๆ

   พรุ่งนี้จะไม่มีแม้แต่เงาที่ยืนอยู่หน้ากระจกบานนี้ พรุ่งนี้หลายอย่างจะหายไป ของทุกชิ้นที่นี่จะกลายเป็นของคนอื่น ไม่มีอะไรหลงเหลือเป็นของผมแม้แต่อย่างเดียว

   หลังจากผูกเนคไทเสร็จ ผมรีบตรงดิ่งเข้ามายังห้องครัว ลงมือทำอาหารตามสิ่งที่ถนัด มีหลายอย่างที่ผมชอบกิน แต่เท่าที่นึกออกในตอนนี้ก็คงมีแค่ไม่กี่อย่าง หนึ่งในนั้นก็คงเป็นแกงจืดธรรมดาสักชาม ความจริงผมไม่ได้ชอบกินมันตั้งแต่แรก เพียงแต่ผมเคยชินที่จะเห็นมันบนโต๊ะอาหารเสียมากกว่า

   ใครคนนั้นชอบแกงจืดฝีมือของผม

   อาหารทุกอย่างถูกวางบนโต๊ะ ผมนั่งทานเงียบๆ โดยไม่ปริปากใดๆ ออกมา ไม่มีเสียงสะอื้นเหมือนก่อนหน้า ไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียว แต่ถึงไม่ได้ร้องไห้ ผมกลับพูดได้เต็มปากเลยว่ามันเจ็บยิ่งกว่าร้องไห้ฟูมฟายออกมาเสียอีก

   ผมได้วาดภาพด้วยมือซ้าย ฟังเพลงที่ตัวเองรัก ใส่เสื้อผ้าที่ชอบ และสุดท้าย...ผมได้กินกับข้าวที่ผมชอบที่สุด แม้จะรู้สึกขมปร่าในลำคอก็ตาม

   จานชามถูกวางไว้ตรงซิงก์หลังจากผมกินมันไปเพียงเล็กน้อย จัดการล้างและวางไว้อย่างที่ควรเป็น ก่อนลากเท้าเข้าห้องนอนพร้อมกับแก้วน้ำอีกหนึ่งใบ พลางยืนนิ่งๆ อยู่นับสิบนาทีโดยไม่ขยับไปไหน

   ความเจ็บปวดที่ผ่านมามันทำให้ผมกล้าที่จะไป

   น้ำตามากมายไหลลงมาอีกครั้งหลังจากพยายามสะกดกลั้นเอาไว้สุดความสามารถ ขอบตาแม้ร้อนผ่าวและพร่าเบลอแค่ไหนผมก็ไม่คิดจะเช็ดมันออก

   “เดินต่อไปไม่ได้อีกแล้วใช่มั้ย ภูผา”

   ถามย้ำตัวเอง

   และคำตอบที่ได้คือผมเดินต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ เหนื่อยแล้ว พอแล้ว...

   แค่กินยา กินไปแค่ครั้งเดียวผมก็จะหลับ

   การเดินทางของผมมันยังมีจุดหมาย เหมือนกับหลุดเข้าไปในความฝัน

   มันคงเป็นฝันที่สวยงามมาก ในนั้นผมจะไม่มีวันหลงทาง เท้าทั้งสองข้างแม้จะเปล่าเปลือยแต่คงไม่รู้สึกเจ็บอีก ข้างกายยังคงมีใครอีกคนคอยยิ้มอยู่ใกล้ๆ แม้เราจะไม่ได้พูดอะไรกันแต่โลกแห่งนั้นต้องอบอุ่นแน่นอน

   ผมได้ยานอนหลับจากเภสัชกรมาจำนวนหนึ่ง แน่นอนเพราะหมอไม่ยอมจ่ายมันให้กับผม เขาเอาแต่บอกว่าให้อดทนอีกไม่นานมันจะผ่านไป แต่ความว้าเหว่ที่กัดกินหัวใจไม่เคยปรานีเลยสักครั้ง ถ้าหากต้องผ่านมันไปด้วยตัวเองพร้อมความเจ็บจนหัวใจกลัดหนอง ผมยอม...ผ่านมันไปด้วยตัวเองโดยไม่รู้สึกอะไรเลยยังจะดีซะกว่า

   เม็ดยาสีขาวถูกเทจากขวดสีชาในปริมาณมากพอสมควร ผมไม่ได้นับหรอกว่ามันมากเท่าไหร่ รู้แค่ว่าจำนวนนี้มันจะพาผมไปยังฝันแสนหวานนั้นได้แน่นอน

   ผมอาจเห็นแก่ตัวที่ทำให้ใครหลายๆ คนเจ็บปวด แต่ผมอยากขอร้องอีกสักครั้ง ยกโทษให้ผม และมีชีวิตที่ดีต่อไปเถอะ

   ลืมผู้ชายคนนี้ซะ ลืมภูผาแล้วมีความสุข

   ผมเองก็จะมีความสุขเหมือนกัน

   อีกไม่นานผมจะได้กลับบ้าน

   บ้านที่ถูกวาดด้วยมือซ้าย และมีรอยยิ้มของทุกคนรออยู่ตรงนั้น...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2022 16:52:03 โดย Jittirain12 »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ keepout

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ค้างกว่านี้มีอีกไหมมมมมมมมมม  :katai1:  :sad4:  :z3:

ออฟไลน์ XVIII.88

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
    • XVIII.88
จะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันไหมมมม มีไหมมมม ฮือออออ
ต้องการรรรรร  :z3: :z3:



ออฟไลน์ SOMCHAREE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-2
อ่านแล้วบีบหัวใจ เศร้า TT

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
สุขที่สุดแล้วนะภูผา แต่มันยังสุขได้อีกนะกลับมานะ ต้องกลับมา
ภาวนาให้ใครก็ได้มาหาภูผาที สิงหาย้อยกลับมาได้ไหม ลืมของลืมอะไรก็ได้
มาทีนะ   :hao5: :hao5:

ใจจะขาดอ่ะ ฮืออออออออ มันตีกันไปหมดใจนึงก็อยากให้ภูไป แต่อีกก็อยากรัง  :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
พี่ภู  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:  ไม่ไหวทั้งพี่ภูทั้งคนอ่าน

ออฟไลน์ secret_LP

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ร้องไห้แบบ จะขาดใจอ่ะ
ขอร้องสิงหา สะกิดใจแล้วกลับมาดูเขาหน่อยเถอะ
มารับรู้ความรู้สึกจริง ๆ ของผู้ชายที่ชื่อภูผาหน่อยได้ไหม

เราไม่ไหว เราสงสารพี่ภูมาก นี่อ่านได้ครึ่งตอนต้องพักร้องไห้แล้วมาอ่านใหม่ ฮึกกก ทำร้ายยยยยย

ออฟไลน์ Jupiter(Zeus)

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
ภูผาอย่าเป็นอะไรเลยนะ แค่นี้คนอ่านก็ใจจะขาดแล้ว แล้วเราคิดว่าที่ผ่านมาที่ภูผาได้รับมันก็สาสมกับที่ทำไว้กับสิงหาแล้ว แล้วดูจากสิงหาก็น่าจะยังรักภูผาอยู่แต่เข้าใจเรื่องที่ภูผาแต่งงานไปแล้วขอให้ตอนจบแฮปปี้นะ  :sad4: :hao5:

ออฟไลน์ cakecoco-boom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
เราจะใจร้ายไปไหม ถ้าอยากเห็นภูผาตายไวๆ :mew5: :mew5: :mew5:
คนเขียนทอดอารมณ์ได้เก่งมากๆเลยค่ะ น้ำตาไหลพรากเลย :mew6: :mew6: :mew6:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด