มาเรียออกไปแล้ว เท็นมองเมธาวิ่งเข้าไปกอดเปรมดังหมับ ดวงตายาวรีทอประกายหวงแหน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น ตัดสินใจถามว่า
“รู้จักกันเหรอ”
“ใช่แล้ว ฉันกับเปรมอยู่หอเดียวกัน” เมธาพูดพลางฝังหน้ากับอกพ่อครัวหนุ่ม เปรมกอดตอบ งั้นเหรอ...‘เพื่อนสมัยเด็กที่กำลังเศร้าของเท็น’ ที่ว่าก็คือ ‘เมธา’ เองเหรอเนี่ย
“โลกกลมจังนะ” เปรมอดพูดออกมาไม่ได้
“สุดๆ ไปเลย!” เมธาหัวเราะ เท็นมองภาพนั้นด้วยแววตาที่บอกอารมณ์ไม่ได้ ครูคณิตพยักหน้า “งั้นเหรอ...นักเรียนเจ้าปัญหาของเปรมก็คือไอ้เท็นเองเหรอเนี่ย”
“เจ้าปัญหา?” เท็นขมวดคิ้ว เปรมยิ้มแห้ง แต่ก็ตอบว่า “อื้ม”
คนฟังหัวเราะ “ดีใจจัง”
เปรมมองใบหน้าน่ารักของอีกฝ่ายที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมธา
“แล้วนี่ทำอะไรกันอยู่อะ” ครูคณิตมองในกระทะอย่างสนใจ ดวงตาเป็นประกาย “โห กุ้งชุบแป้งทอดเหรอ น่ากินมาก” เท็นพยักหน้ารับ “อร่อยนะ”
“อยากกิน” เมธายืนน้ำลายสอ เปรมสั่นหัวขำๆ แทรกตัวเข้ามาแล้วพูดว่า “เอาล่ะเด็กๆ ถ้าหิวก็ไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารอย่างเรียบร้อยนะ”
“ยืนดูไม่ได้เหรอ” เท็นว่า เมธาเสริมอีกแรง “เปรมทอดกุ้งให้ดูหน่อย”
“...”
เปรมยืนปลง ทอดกุ้งไปก็พูดได้แค่ว่า “อย่าซนกันล่ะ”
พ่อครัวยืนทอดกุ้งชุบแป้งทอดจนเสร็จตามด้วยจัดเรียงใส่จานเสิร์ฟ เหลือบตาเห็นว่าข้าวในหม้อสุกแล้ว เขาหยิบกระทะอีกใบขึ้นมา คิดจะผัดคะน้าหมูกรอบ
เปรมใส่หมูกับคะน้าลงในกระทะ เขาปรุงรสอย่างชำนาญ ก่อนจะขยับข้อมือโยกกระทะส่งให้อาหารม้วนตัวท่ามกลางเสียงฮือฮาของเมธากับดวงตาที่เป็นประกายของเด็กตัวโต
ในที่สุดผัดคะน้าหมูกรอบควันฉุย กุ้งชุบแป้งทอดตัวโต และข้าวสวยร้อนๆ สามจานก็ถูกจัดเรียงบนโต๊ะอาหาร เท็นมองตาเป็นประกาย ส่วนครูคณิตนั่งน้ำลายสอ
“อร่อยมาก” เมธาพูดหลังชิมคะน้าหมูกรอบ เปรมมองยิ้มๆ “ดีใจที่ชอบนะ”
“ดีขึ้นไหม” เท็นโพล่งถาม เมธาหันมา ดวงตาสีนิลอ่อนแสงลง “อื้ม...ดีขึ้นแล้วล่ะ”
“เมไม่สบายเหรอ?” เปรมมองอย่างสำรวจ คนฟังหัวเราะ “เปล่าหรอก แค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ”
ใช่เรื่องที่ทำให้ร้องไห้วันนั้นหรือเปล่านะ...
“เราไปเที่ยวกันไหม?” ไม่รู้อะไรดลใจให้เปรมถามออกมา เมธาเลิกคิ้ว “พวกเราน่ะเหรอ?”
“อื้ม เราว่าถ้าได้พักผ่อนบ้างน่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้นนะ” พ่อครัวถาม “เมอยากไปไหนล่ะ”
เมธานิ่งไปอย่างใช้ความคิด แต่สุดท้ายก็ตอบว่า “ไปไหนก็ได้”
“เท็นล่ะ?” เปรมหันไปถามอีกคน
“สวนสนุก”
เปมทัตกระพริบตา เขาหันไปมองเมธา ฝ่ายหลังหัวเราะลั่น “สวนสนุกเหรอ เอาสิ” ดวงตาคู่นั้นทอประกายสนใจ ทว่าครูคณิตก็อดที่จะถามไม่ได้ว่า “แต่ไปกันสามคนจะแปลกๆ ไหม”
เปรมได้ยินแล้วยิ้มออกมา ในหัวปรากฏภาพคนกลุ่มหนึ่งอย่างพร้อมเพรียง “ไม่ต้องห่วง ถ้าเรื่องจำนวนคนล่ะก็ไม่มีปัญหาหรอก”
“งั้นเราจะไปกันวันไหนดี” เมธาถามความเห็น
“วันเสาร์นี้” เท็นตอบ เปรมเลิกคิ้ว “เร็วไปไหมคุณชาย”
“เราอยากไป”
“ก็ได้นะ” เมธาว่าแล้วถามพ่อครัวหนุ่ม “เปรมล่ะสะดวกไหม”
“ได้อยู่แล้ว” เปรมพูดออกมา เมธายิ้มกว้าง “จริงเหรอ ดีใจจัง”
ก่อนเด็กหนุ่มสามคนจะแลกเปลี่ยนเรื่องราวกันผ่านโต๊ะอาหาร บรรยากาศเคล้าด้วยเสียงหัวเราะพูดคุยราวกับครอบครัวสุขสันต์ ตอนนั้นเองที่เท็นหันไปถามเพื่อนสมัยเด็กว่า
“เมมีความสุขไหม?”
เมธาตอบแทบจะทันที
“อื้ม! ขอบคุณมากนะเท็น!”
ภาพนั้นทำให้เปรมต้องยิ้มตามออกมา
ในเช้าวันเสาร์บริเวณลานหน้าทางเข้าสวนสนุก เปรมกับไดนาไมต์และสามสีกำลังยืนรอคนที่ยังมาไม่ถึง โดยสองคนหลังมาอยู่ที่นี่ตามคำชวนของพ่อครัวหนุ่ม เปรมโทรถามเมธาแล้ว อีกฝ่ายบอกว่ากำลังเดินทางมาพร้อมกับเท็น
เปมทัตมองสามสีกับไดนาไมต์ที่จ้องด้านในสวนสนุกอย่างตื่นเต้นแล้วยิ้มออกมา สองคนนี้ยังไม่เคยเจอเมธามาก่อน แต่กระนั้นพ่อครัวก็มั่นใจว่าพวกเขาจะเข้ากันได้ดี
“ตกลงวันนี้มีใครบ้างนะ?” สามสีถามขึ้น เปรมตอบว่า “ก็เราสามคน เมธากับเท็น แล้วก็...”
“ไอ้ไฟ” ไดนาไมต์ยิ้มเผล่ เปมทัตเลิกคิ้ว “ฮะ? ไอ้ไฟมาด้วยเหรอ?”
“เออ พอมึงชวนกูเลยโทรไปหามันมา มันว่างพอดีเลยตกลง”
เปรมกระพริบตา “ฉิบหายละ กูโทรชวนไอ้โชมา...”
“แล้วไงวะ?” ไดนาไมต์ไม่เข้าใจ ในขณะที่สามสีถึงบางอ้อ
“ตายห่า ไอ้โชมันเด็กประมงนี่หว่า ซวยละ”
“เออว่ะ” หนุ่มผมทองหน้าเหวอ เป็นจังหวะที่ไฟเดินเข้าลานมา สามทหารเสือจากภาควิชาคหกรรมหันไปมองคนตัวสูงหวาดๆ ไฟเลิกคิ้ว “เป็นเหี้ยไร ไม่เคยเห็นเทวดากันเหรอ”
วันนี้หมอยาผมแดงสวมเชิ้ตแขนยาวสีกรมท่า ช่วงขาอยู่ในกางเกงสแล็คแฟชั่นสีแดงอิฐ แว่นกันแดดเรย์แบนด์สีดำที่สวมใส่รับกับจมูกโด่งสัน สามสีจุ๊ปาก “แหม่มันจ๊าบแท้วะ!”
“คนมันฮอตอะ” อัคคียักไหล่ เปรมมองอย่างชั่งใจ แต่สุดท้ายก็พูดว่า “ไฟ...”
“หืม?”
“มึง คือวันนี้กูชวนเพื่อนที่อยู่ประมงมาด้วยอะ แบบ เอ่อ...มึงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?”
“เฮ้ย กูแยกแยะได้” ไฟตบไหล่เพื่อนยิ้มๆ “โฟกัสรายบุคคลอยู่แล้ว แค่อยู่คณะเดียวกับคู่กรณีกูไม่ซีหรอก” ได้ยินแบบนี้พ่อครัวก็โล่งใจ ก่อนเปรมจะกดรับสายเมื่อโชโทรเข้ามา “ฮัลโหล”
(ไอ้เปรมกูถึงแล้วนะ)
“เออๆ กูอยู่ตรงทางเข้าอะ มึงเดินมาเลย” เด็กหนุ่มเว้นวรรค รีบพูดว่า “เออโช!”
(หืม?)
“เอ่อ...คือวันนี้กูชวนเพื่อนที่อยู่เภสัชมาด้วยอะ แบบว่า...มึงไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม?” เปรมพูดแล้วหรี่ตารอฟังอย่างนึกลุ้น
(เฮ้ย กูแยกแยะได้!) เสียงนั้นตอบกลับมาอย่างร่าเริง (กูโฟกัสรายบุคคลอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่คู่กรณีกูก็ไม่ซีหรอก)
เปรมถอนหายใจอย่างโล่งอก พูดว่า “โอเค เจอกัน” แล้วกดตัดสาย
ไม่ถึงห้านาทีเบื้องหน้าพวกเปรมก็ปรากฏร่างของโชเดินสะพายกระเป๋าเข้ามา เด็กหนุ่มสวมเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายอาร์ตสีดำ และกางเกงขาสั้นสีเข้มยาวเท่าเขา ชลันธรมองหน้าทุกคนผ่านแว่นดำที่ตัวเองสวมใส่
“หวัดดีเพื่อนๆ” โชทักทาย มองเลยไปยังหนุ่มผมแดงตัวใหญ่ เด็กประมงนิ่งไป มือขาวถอดแว่นกัดแดดออกช้าๆ เผยให้เห็นรอยช้ำบนหน้าที่ยังไม่หายดี
ไฟเองก็ถอดแว่นออกเช่นกัน ข้างแก้มปรากฏรอยข่วนที่เริ่มจางทว่ายังคงเจ็บแปล๊บๆ ทุกครั้งที่สัมผัส
“มึง!!”
สองหนุ่มกระโจนเข้าหากันทันทีที่สบตากัน โชกระชากคอเสื้อคนใหญ่ กำหมัดง้างแขนออกไปสุดแรง
“เฮ้ยยยย!!” ร้อนถึงสามทหารเสือต้องเข้ามาจับแยก สามสีล็อคแขนโชไว้ ส่วนไดนาไมต์กับเปรมคว้าแขนคนตัวใหญ่กันคนละข้าง คู่กรณีต่างไซส์แยกเขี้ยวใส่กันเจียนเตรียมขย้ำอยู่รอมร่อ
“ไหนว่าแยกแยะได้ไงวะ!” ไดนาไมต์ตะโกนใส่อัคคี
“แบบนี้มึงเรียกโฟกัสรายบุคคลเหรอ!” เปรมนิ่วหน้า พยายามรั้งหมอยาตัวใหญ่เอาไว้สุดแรงเกิด
“กูแยกแยะได้ แต่ไม่ใช่กับไอ้เหี้ยนี่!” ไฟตะโกนลั่น โชฟังแล้วเลือดขึ้นหน้า “ถุย! หล่อตายแหละไอ้ห่า!”
กรรมการจำเป็นทั้งสามมองหน้ากัน อย่าบอกนะว่า...
“มันนี่แหละที่ต่อยหน้ากู!!”
ชัดเจน...สองเสียงประสานใส่กันอย่างพร้อมเพรียง
ฉิบหายละ...
“เออน่า กูขอวันเดียว...วันเดี้ยว!” สามสีส่งเสียงกระท่อนกระแท่นเมื่อคนในอ้อมแขนพยายามสะบัดตัวให้หลุดไปต่อยหน้าคู่กรณีตัวใหญ่ให้ได้
“ไอ้ไฟกูขอ วันนี้เราพาเมธามาเที่ยวนะเว้ย มึงจะทำให้งานกร่อยเหรอวะ”
เปรมต่อรองเสียงอู้อี้เพราะต่อสู้กับแรงปะทะจากหมอยาอยู่ ไฟได้ยินชื่อเพื่อนสมัยเด็กก็ชะงักไป เขาสูดลมหายใจลึกอย่างพยายามสงบลง ยังไงเมธาก็ต้องมาก่อนอารมณ์ของเขาอยู่ดี
แต่โชไม่ใช่...
“เปรม มึงไม่บอกกูวะว่ามึงพาไอ้เหี้ยนี่มาด้วย!”
“กูบอกแล้วนะ...”
“บอกเหี้ยอะไร!”
“ก็กูบอกมึงแล้วว่าวันนี้มีเพื่อนที่อยู่เภสัชมา” พ่อครัวตอบเสียงอ่อน
“แล้วกูจะไปรู้มั้ย!” โชตวาดอย่างโมโห เขาสะบัดตัวออกจากสามสีได้สำเร็จ เหน็บแว่นดำกับอกเสื้อ พูดว่า “พอกันที ทริปนี้ไม่เอาด้วยแล้ว กูจะกลับ”
หน้าคนฟังเจื่อนลงถนัดตา ตอนนั้นเองที่เท็นกับเมธาเดินเข้ามา เด็กโข่งเดินมากอดเปรมทันทีที่เจอหน้า ส่วนครูคณิตทักทายทุกคนยิ้มๆ “คนเยอะจังเลย ท่าทางจะสนุกนะ” เมธาหันไปทางโช “หวัดดี เราชื่อเมธานะ นายล่ะ?”
โชเองก็พอจะได้ยินเรื่องอีกฝ่ายมาจากเปรมมาบ้าง เขายิ้มให้เมธา ตอบว่า “เราชื่อโช”
“เราไดนาไมต์” หนุ่มผมทองแนะนำตัว เด็กหนุ่มตัวสูงอีกคนพูดว่า “เราสามสี”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะไดนาไมต์กับสามสี” เมธาพูดยิ้มๆ ในขณะที่เท็นขยับไปกอดกุ๊กจากด้านหลังอย่างเรียบร้อย
“โอเค รู้จักกันแล้วนะ งั้นลาล่ะ สวัสดี” โชพูดจบก็เดินออกไป เมธาเบิกตาโพล่ง “อ้าว...ทำไมล่ะ?”
“เราไม่โอเคอะ” โชหันมาตอบ เมธามองซ้ายมองขวาเลิกลัก ถามเสียงอ่อน “เพราะเราเหรอ...”
“เฮ้ย เปล่าๆ” ชลันธรปฏิเสธ
“แล้วทำไมไม่อยู่ด้วยกันล่ะ” ครูคณิตถามอย่างไม่เข้าใจ นี่เขาทำอะไรให้อีกฝ่ายไม่พอใจหรือเปล่านะ
“เออโชมึงอยู่เหอะ” สามสีพยายามช่วยพูด ไดนาไมต์เสริมว่า “ห่า ขาดมึงจะสนุกเหรอวะ”
“สนุกดิ คนเยอะแยะ กูไม่โอเคจริงๆ ว่ะโทษที ไปนะ” พูดจบก็เดินออกไป เมธาซึมลงไปถนัดตา เปรมหน้าเสีย เขาตะโกนใส่หลังเพื่อน “ไอ้เหี้ยโช! กลับมา!”
ชลันธรโบกมือไหวๆ ทั้งๆ ที่หันหลังให้อยู่อย่างไม่แยแส เท็นมองตาม “เพราะเรามาช้าเหรอ”
“ไม่ใช่หรอก คิดมาก” เปรมตบข้อศอกเด็กตัวโตเบาๆ บรรยากาศเลวร้ายลงถนัดตา เปมทัตคิดจะเข้าไปคว้าตัวเพื่อนเจ้าอารมณ์เอาไว้ แต่ก็ช้ากว่าใครบางคนอยู่มาก
ทุกคนมองอย่างนึกทึ่ง ไฟวิ่งไปถึงตัวโชตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้!
“อะไรวะ...เฮ้ย!” โชร้องลั่นเมื่อถูกคนตัวใหญ่จับอุ้มพาดบ่า เด็กประมงห้อยหัวตีลังกา ออกแรงดิ้น สบถคำหยาบดังลั่น “ไอ้สัตว์! ปล่อยกู!”
“อยู่นิ่งๆ ได้มั้ย!”
“ปล่อยกูลงเดี๋ยวนี้! ไอ้เชี่ย ปล่อย!” โชทุบหลังอีกฝ่ายดังอั้กด้วยความโมโห ตะโกนจนเส้นเสียงแทบแตก “กูเกลียดมึง! อย่ามาแตะตัวกู! ออกไป!”
“อย่าดิ้น!”
“ปล่อยกู! ไอ้เหี้ย! ให้ตายกูก็ไม่อยู่กับมึงเด็ดขาด! ไปตายซะ! อุก!” โชถึงกับหยุดดิ้นเมื่อไฟเขย่าตัวจนท้องเขากระแทกไหล่อีกฝ่ายดังอั้ก ดวงตาเหมือนแมวทอประกายวาวโรจน์ จ้องคนตัวใหญ่อย่างโกรธแค้น
“โตแล้ว อย่าดื้อให้มากนัก” ไฟใช้น้ำเสียงเหมือนกำลังพูดกับเด็ก “วันนี้วันเที่ยวไอ้เมธา กูไม่อยากให้มันไม่สบายใจ”
โชหันไปมองเมธาที่จ้องมาด้วยใบหน้ากังวลอย่างรู้สึกผิด เขาเข้าใจ แต่ก็ไม่อยากอยู่กับไอ้บ้านี่อะ...
“กูเกลียดมึง!”
“กูขอโทษ”
ไฟยอมพูดออกมาในที่สุด โชเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู
“ขอโทษที่ด่าคณะมึง กูปากไม่ดีเอง เลิกดื้อได้ยัง” เสียงทุ้มนั้นจริงจังเสียจนโชไปต่อไม่ถูก เด็กประมงแก้มร้อนอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขาสบตากับเปรม ก่อนจะเบือนหน้าไปอีกทาง
“คำตอบล่ะ?” ไฟย้ำ
“กูเกลียดมึง...”
“หึ ว่าง่ายๆ สิดี” ไฟยิ้มแล้วหันกลับไปตรงทางเข้า โชประท้วงเสียงดัง “เอากูลงได้แล้ว!”
“เข้าสวนสนุกแล้วกูจะปล่อย”
“มึงมีสิทธิ์อะไรเนี่ย!”
“กันมึงหนี”
“ขนลุกสัดอะ เชี่ยเอ๊ย!” โชสบถ เขาซุกหน้ากับแผ่นหลังอีกฝ่ายในสภาพห้อยหัว บ่นอุบ “ไอ้เหี้ยมึงเดินเร็วๆ ดี้! กูมึนหัว!”
“มึงอย่าเสียงดังดิ คนมอง”
“มึงก็ปล่อยกูลงสิวะ!”
“เรื่องดิ” ไฟลอยหน้าลอยตาตอบ ก่อนจะอุ้มไอ้ตัวแสบแบกขึ้นไหล่เดินผ่านหน้าพวกเปรมไปท่ามกลางความอึ้งของผู้คนโดยรอบ แว่วเสียงโวยวายของโชดังมาให้ได้ยิน ไฟลอบยิ้ม
ไอ้แมวเถื่อนเอ๊ย...
สวนสนุกในวันหยุดคลาคล่ำไปด้วยผู้คน มีทั้งมากันแบบครอบครัว คู่รัก หรือกลุ่มวัยรุ่น แว่วเสียงกรีดร้องของฝูงชนบนเครื่องเล่นดังมาให้ได้ยิน เมธามองไปรอบๆ อย่างตื่นตา
เปรมพูดว่า “วันนี้พวกเราจะดูแลเมธาเอง อยากได้อะไรบอกเลยนะ”
“ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก” เมธาตอบยิ้มๆ
“เมอยากเล่นอะไร” สามสีหันมาถาม เมธากระพริบตาปริบๆ “เราอะไรก็ได้ แล้วแต่พวกแกเลย”
“มึงๆ กูอยากเล่นไอ้นั่น!” ไดนาไมต์ชี้นิ้วออกความเห็นยิ้มๆ โชมองตามแล้วอ้าปากหวอ “ห่า เปิดมาก็เฮอริเคนเลยเรอะ”
“กลัวรึไง” ไฟปรายตาค่อนขอด ก่อนจะทำหน้านึกขึ้นได้ “ลืมไป มึงส่วนสูงไม่ถึงนี่หว่า หึๆ”
โชหันควับ “มึงจะเอาใช่ไหม”
“กล้าป่ะล่า?”
“สัด ฉีกตั๋วกับกูตัวๆ เลยมา” โชท้าก่อนจะเดินเถียงกับหมอยานำเข้าเครื่องเล่นไป สามสีเหลือบมองหนุ่มผมทอง พูดว่า “มึงก็
เลือกอะไรไม่เกรงใจข้าวมันไก่ในท้องกูเล้ย”
“กูยังไม่ได้กินมาไง” ไดนาไมต์ยิงฟัน หันไปหาเมธาที่เดินอยู่ตรงกลาง “ว่าแต่เมเล่นได้ใช่ไหม”
“เราไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่...แต่จะพยายามนะ” คนตัวเล็กตอบยิ้มๆ หนุ่มผมทองแล้วยิ้มตาม “มานั่งข้างเราไหม ถ้ากลัวจะได้จับมือกันนะ”
“เย็นไว้พ่อร้อนรัก นี่เพื่อน” สามสีผลักหัวเพื่อนผมทองพูดหน้าตาย ไดนาไมต์บ่นอุบ “โห่ไรวะ เมยังไม่ว่าอะไรกูเลยแล้วมึงเป็นใครเนี่ย” สามสีเหลือกตาใส่ ก่อนสองหนุ่มจะเดินเถียงกันเข้าไปโดยมีเมธาหัวเราะไปตลอดทาง
“กุ๊ก”
“หืม?”
“จับมือกัน”
เท็นยื่นมือมาให้ เปรมพรูลมหายใจ ก่อนจะคว้ามือใหญ่เดินนำเข้าไปด้วยซีกแก้มที่แดงระเรื่อ
****************************************************** *
สวัสดีค่าาาา า

สองตอนในวันเดียว เย่ 5555555555 5
นั่นสิ แล้วตกลง #เมธาร้องไห้ทำไม
แต่อย่ากังวลเลยค่ะ จูนเองก็ไม่ชอบดราม่าสามเส้าเหมือนกัน 555555555 5
ตอนหน้าก็น่าจะเคลียร์กันแล้ว
ไม่อยากให้คนอ่านต้องอยู่อย่างหวาดระแวงค่ะ เห็นใจ 55555555 5
ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามมาก ๆ เลยนะคะ

เจอกันตอนที่แปดค่าาาาา า