Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)  (อ่าน 721753 ครั้ง)

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :call:   มาต่อเถอะค่ะ

ออฟไลน์ vlavender

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :impress2: เมื่อไหร่จะมาต่อน้าาาา รอร้อรอ นานน้านนาน เลยอ้ะ อ่านตอนนี้ซ้ำๆ ไปมาหลายรอบมาก มาเร็วๆ นะคะ มีคนรอฟินอยู่

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
:impress: อยากอ่านต่อแล้วค่าา ..รอน้า~

ออฟไลน์ BoolinMini

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 220
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ฮือออออ :sad4:

กุ๊กกับเด็กโข่งอยู่หม๊ายยยยยยย

เค้าคิดตึ๋งงงงงงงง เมื่อไหร่จะมาาาาาา

ใจจะขาดรอนๆแล้วอิแม่เอ้ยยยยยย :ling1:

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
ในครัวสำหรับฝึกสอนทำอาหารตกแต่งสไตล์โมเดิร์นยังคงวุ่นวายอยู่เช่นทุกอาทิตย์ เหล่านิสิตชายหญิงภาควิชาคหกรรมศาสตร์ในชุดเชฟสีขาวกระดุมดำเดินสวนกันด้วยใบหน้าอาบเหงื่อ มือพวกเขาถือถาดสแตนเลสใบใหญ่ ใช้บรรทุกเครื่องปรุงจากรถเข็นหน้าห้องกลับไปยังเคาน์เตอร์ตัวเอง


ที่เคาน์เตอร์หมายเลขหนึ่งทำเลทอง เพราะอยู่ใกล้กับรถเข็นจึงสามารถหยิบเครื่องปรุงได้เร็วกว่าทำให้ไม่ต้องออกไปฝ่าสมรภูมิรบกับคนอื่นด้านนอก บนเขียงพลาสติกขนาดใหญ่ หมึกกล้วยสีขาวผู้น่าสงสารกำลังโดนนายเปมทัตใช้ปลายมีดกรีดตัวให้กางออกเป็นแผ่น


พ่อครัวยืนบั้งแผ่นเนื้อสีขาวหยุ่นเป็นตารางแนวทแยง เมื่อครบทุกชิ้นก็รวบมันใส่ไว้ในจานสแตนเลส ตามด้วยหั่นมะเขือเทศ หัวหอม และสับปะรดเป็นชิ้นพอดีคำ


“เปรมจ๋า ทำหน้ากระฉีกให้หน่อย”


เสียงไอริณแหวกอากาศมาจากทางซ้ายมือ เปรมมองพาร์ทเนอร์สาวที่กำลังวุ่นอยู่กับการนึ่งข้าวเหนียวดำด้วยซึ้งแล้วพยักหน้า


“เข้าใจแล้ว”


เปมทัตเดินถือมะพร้าวทึนทึกไปที่อ่างล้าง ใช้สันมีดใหญ่เฉาะพลางหมุนมะพร้าวในมือเป็นจังหวะ เขาเล็งตรงรอยช้ำรอบลูกแล้วจึงแบะเปลือกออก เทน้ำมะพร้าวใส่ถ้วยเอาไว้ เมื่อหงายเปลือกด้านในขึ้นก็พบเนื้อมะพร้าวสีขาว เด็กหนุ่มเปิดลิ้นชักหยิบมือแมวออกมา ก่อนจะใช้มันขูดเนื้อเบาๆ ให้เป็นฝอย 


หลังปิดฝาซึ้งไอริณก็เริ่มจับเวลานึ่งข้าวเหนียวดำ เมนูวันนี้เป็นหมึกผัดเปรี้ยวหวานกับข้าวเหนียวมูนดำหน้ากระฉีก เด็กสาวเปิดแก๊สตั้งกระทะ ผัดเปรี้ยวหวานครั้งนี้เธออาสาเป็นคนทำเอง


กลับมาที่เปมทัต หลังได้มะพร้าวทึนทึกขูดเยอะพอสมควรแล้วเขาก็มายืนข้างพาร์ทเนอร์สาว เปรมตั้งกระทะทองเหลืองก่อนจะใส่น้ำลงไปปริมาณหนึ่ง เพิ่มความแรงไฟแล้วจึงตักน้ำตาลปี๊บลงไปสองก้อน


กระทะข้างๆ ส่งเสียงดังฉ่ายามไอริณเทส่วนผสมที่เปรมหั่นเตรียมไว้ให้ลงไป พ่อครัวลอบมองด้านข้างเด็กสาว ดวงหน้าหวานเผยรอยยิ้มมั่นใจพร้อมดวงตาที่เป็นประกาย


“ท่าจะอร่อยนะเนี่ย” เปมทัตอดแซวไม่ได้ ทุกทีเธอมักจะเป็นฝ่ายขอให้เขาทำให้กิน ไอริณหัวเราะ “แน่นอน อันนี้เป็นของขึ้นชื่ออย่างเดียวที่ไอมั่นใจเลยนะ”


“เค้ารอกินนะ” เปรมยิ้ม ก่อนจะใส่มะพร้าวฝอยลงกระทะทองเหลือง ใช้พายไม้คนแทนตะหลิว


“เฮ้ย น้องไอผัดข้าว” เสียงคุ้นหูดังมาจากด้านนอกเคาน์เตอร์ ไอริณหันไปมอง ยิ้มออกมา “ตั้งใจมากอะพูดเลย”


“นี่เซียนนะเนี่ย” ไดนาไมต์จุ๊ปาก มองท่าทางเด็กสาวอย่างสนใจ “ผัดๆ ไปนี่เห็นมังกรผงาดขึ้นมาเลยอ่ะ”


“มึงกลับไปดูการ์ตูนที่บ้านไป” เปรมสั่นหัวระหว่างคนหน้ากระฉีกให้เข้ากัน อดถามไม่ได้ว่า “แล้วแกงจืดลูกรอกมึงอะ?”


“ไอ้เพลินทำอยู่”


“แล้วมึงไม่อยู่ช่วยมัน” พ่อครัวเลิกคิ้ว ไดนาไมต์ตอบหน้าตาย


“กูต้องการเวลาส่วนตัว”


“...เหรอ” เปรมมองเพื่อนผมสีชมพูอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เขาทำหน้ากระฉีกเสร็จแล้ว เป็นจังหวะที่ข้าวเหนียวดำสุกได้ที่พอดี พ่อครัวยกผ้าขาวบางออกจากซึ้ง ก่อนจะนำข้าวเหนียวดำมามูนด้วยหัวกะทิ


“หูยอร่อยว่ะ” ไดนาไมต์จิ๊กหน้ากระฉีกไปชิม เปรมตีมือเพื่อนดังเพียะ ดุว่า “อย่าใช้มือจับสิ!”


“บ่นเหมือนไอ้สามเลยเว้ย” เด็กหนุ่มผมสีชมพูคร่ำครวญ เปมทัตสั่นหัวหน่ายๆ แต่ท่าทางของไดนาไมต์ก็ทำให้เขานึกถึงใครบางคนจนต้องยิ้มออกมา


ตอนนั้นเองที่ทางเดินหน้าห้องเกิดเสียงฝีเท้า ตามด้วยเหล่านิสิตแพทย์บางกลุ่มที่ก้าวเข้ามาในห้อง


“ตาลลล” เต้ส่งเสียงเรียกมาตั้งแต่หน้าประตู เขาเดินไปเกาะเด็กสาวร่างอวบที่กำลังง่วนอยู่กับการทอดไข่ พูดว่า “วันนี้แลปยากมากเลยอะ มีอะไรกินบ้าง”


“ไข่ยัดไส้ หอมแมะ?”


เต้สูดจมูก ดวงตาเป็นประกาย “หูย หอมอะอยากกิน” เด็กหนุ่มยื่นมือไปทางส่วนที่ทำเสร็จแล้ว ก่อนจะโดนเด็กสาวฟาดมือดังเพียะ “อย่าใช้มือสิ!”


เปรมมองแล้วยิ้มออกมา ไดนาไมต์บ่นว่า “ให้ตายสิ เหมือนกันไปหมดเลยนะพวกพ่อครัวแม่ครัวเนี่ย”


“มันเป็นเรื่องของสุขาภิบาลเว้ย” เปรมบอก หลังจัดจานเสิร์ฟข้าวเหนียวมูนดำหน้ากระฉีกเสร็จแล้วเขาก็นำไปวางไว้ที่โต๊ะกลาง


ในขณะที่หมึกผัดเปรี้ยวหวานของไอริณรสชาติลงตัวพอดี เด็กสาวยิ้ม เธอขยับข้อมือโยกกระทะครั้งสุดท้ายก่อนจะเทอาหารลงจานเสิร์ฟสีขาวก้นลึกที่วางเตรียมไว้


แล้วใครบางคนก็เดินเข้าครัวมา


“อ๊ายยย” เสียงผู้หญิงในห้องร้องวี้ดว้ายทำให้เปรมเงยหน้าขึ้นจากอ่างล้าง เลิกคิ้วเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตา


“อ้าวไฟ?” เต้เรียกชื่อผู้มาใหม่ ไฟเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มร่างเล็ก ในมือเขากำสมาร์ทโฟนเอาไว้ ถามเสียงทุ้มด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า


“เห็นไอ้เท็นไหม?”


เต้ส่ายหน้า มองหมอยาผมสีแดงอย่างแปลกใจ “ไม่นี่ วันนี้เท็นไม่ได้มาเรียนเลยนะ” พร้อมกันนั้นก็หันไปมองคนอื่นด้วย ซึ่งที่เหลือก็พร้อมใจกันพยักหน้าแทนคำยืนยัน


“เกิดอะไรขึ้นวะ” ไดนาไมต์ส่งเสียง อัคคีหันมา ตกใจเล็กน้อยที่เห็นเด็กหนุ่มผมสีชมพู แต่พอนึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในห้องคหกรรมก็ตอบออกไปว่า


“ไอ้เท็นหายตัวไป”


เคร้ง!


กระทะทองเหลืองในมือพ่อครัวร่วงใส่อ่างล้างทันทีที่ได้ยิน



   
ห่าเม็ดฝนตกกระทบกระจกหน้ารถจนเกิดเสียง พร้อมก้านปัดน้ำฝนที่ทำงานอย่างแข็งขัน ในเฟอร์รารี่คันหรูสีแดงสดซึ่งจอดนิ่งตรงสี่แยกท่ามกลางสายฝน ไฟนั่งเคาะพวงมาลัยอย่างนึกกังวล โดยมีเปมทัตนั่งเงียบอยู่ข้างๆ


หลังรู้เรื่องพ่อครัวก็ขอกลับก่อนถึงสรุปแลป เขาบอกอาจารย์ว่ามีธุระด่วนซึ่งฝ่ายหลังก็ยอมให้อย่างเข้าใจ เปรมออกมาทั้งเสื้อเชฟเพราะไม่อยากเสียเวลาถอด พร้อมฝากงานช่วยไอริณเก็บล้างไว้กับสามสีและไดนาไมต์ ซึ่งเพื่อนทั้งสองก็ตอบตกลงอย่างยินดีช่วย


เปมทัตมองสายฝนเย็นเฉียบด้านนอกด้วยในอกร้อนรุ่ม ความกระวนกระวายลอยคลุ้ง ตกตะกอนจนหมอยาที่นั่งอยู่ข้างๆ รู้สึกได้ ร่างสูงอึดอัดจนต้องเอื้อมมือไปกดหาคลื่นข่าวฟังไม่ให้รถเงียบ


“หมอนั่นหายไปเมื่อไหร่” เปรมถามขึ้น ไฟมองสัญญาณไฟสีแดงที่กำลังนับถอยหลังอย่างอ้อยอิ่ง ตอบว่า “ออกัสโทรมาบอกกูเมื่อเช้า แต่กูมีสอบถึงเย็นเลยเพิ่งได้ออกมาตามหาเนี่ยแหละ”


“มือถือล่ะ”


“โทรไปมาเรียรับอะ เท็นไม่ได้เอาติดตัวไปด้วย” ไฟบอก หลังสอบเสร็จเขาก็ไล่โทรหาทุกคนที่เกี่ยวข้อง เมื่อไม่คืบหน้าจึงบุกไปหาเพื่อนในคณะของเจ้าตัว ความจริงหมอยาคิดว่าถ้าถามเพื่อนๆ ของเท็นเสร็จจะไปถามพวกเปรมต่อ แต่ก็ดีที่ได้เจอทั้งหมดพร้อมกันในทีเดียว


“มันไม่ได้บอกอะไรมึงเลยเหรอ” ไฟถาม เปรมถึงได้สำเหนียกตอนนั้นเองว่าแม้แต่เบอร์มือถือของอีกฝ่ายเขายังไม่มี พ่อครัวคอตก พูดเสียงเศร้า “กูไม่มีแม้แต่เบอร์ของเท็นด้วยซ้ำ”


“เอาน่า...ข่าวด่วนก็ยังไม่มีแจ้งอุบัติเหตุหรือคดีอะไร มันคงยังไม่เป็นไรหรอก” ไฟพยายามปลอบ


สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว หมอยาออกรถขับไปตามถนน เสียงรายงานข่าวจากวิทยุดังผ่านหูพ่อครัวไป เปรมมองหยาดฝนที่เทลงมาผ่านกระจกรถอย่างนึกกังวล


“แม่งเอ๊ย ถ้าเจอล่ะก็พ่อจะหวดให้หน้าปลิวเลย” พ่อครัวพูดพลางหักมือกรอบแกรบ ไฟเหงื่อไหลข้างขมับหวาดๆ แต่พอมองหยาดฝนเบื้องหน้าแล้วก็พูดออกมาว่า “อา นั่นสินะ”


ตามด้วยสมาร์ทโฟนบนคอนโซลกลางที่แผดเสียงร้อง ไฟมองรถซ้ายขวา ถามว่า “ใครวะมึง” พ่อครัวชะโงกหน้าไปมอง ออกเสียงว่า “ออกัส”


“เออรับเลย” ไฟบอก เปรมสไลด์หน้าจอกดรับสายให้อย่างว่าง่าย


“ฮัลโหล”


(เอ๊ะ) ปลายสายร้องคล้ายแปลกใจ เปรมจึงพูดว่า “นี่เปรมนะออกัส”


อีกคนเหมือนคลายความข้องใจไปได้ รีบถามว่า (คุณเปรมเจอเท็นไหมครับ)


“ไฟกำลังขับรถวนหาในเมืองให้อยู่ครับ” เปรมตอบ แว่วเสียงปลายสายลอดออกมา (ทำยังไงดี เพราะผมดูแลเท็นไม่ดีแท้ๆ เลย...) เสียงนั้นสั่นคล้ายจะร้องไห้ เปมทัตกัดฟันกรอด ปลอบอีกฝ่ายทั้งๆ ที่กำหมัดแน่น


“ออกัสใจเย็นๆ นะ ยังไม่มีข่าวหรือคดีอะไร เท็นคงไม่เป็นไรหรอก”


ไฟลอบมองคนข้างๆ อดคิดไม่ได้ว่าคนที่ควรใจเย็นๆ น่าจะเป็นพ่อครัวมากกว่า


(เขาหายไปตอนหกโมงเช้า ผมน่าจะเอะใจ) ออกัสเล่า (ผมไม่รู้ว่าเขาถูกลักพาตัวหรือออกไปด้วยตัวเองกันแน่ แต่ยังไม่มีโทรศัพท์เรียกค่าไถ่เข้ามา แถมเท็นก็ไม่ได้ทิ้งข้อความอะไรไว้เลย)


เปรมฟังแล้วอดถามไมได้ว่า “แล้วพ่อของเท็นล่ะ?”


(นายท่านยังไม่กลับจากการประชุมตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ ผมฝากข้อความไว้แต่ก็ยังไม่มีการติดต่อกลับ) ออกัสพูดเสียงสั่น (คุณเปรม ผมกลัว...)


“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็เจอแล้ว” เปรมบอก ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงฟ้าลงตรงบริเวณใกล้ๆ


บึ้มมม!


“โฮ่ย ค่อยคุยอีกทีดีกว่าไหม ฟ้ามันร้องอะ” ไฟแทรกเข้ามา เปรมมองตาม พูดว่า “นั่นสินะ”


(เข้าใจแล้วครับ ถ้างั้นผมจะช่วยกระจายคนหาในตัวเมืองด้วย) ออกัสบอก เสริมว่า (ยังไงถ้ามีอะไรคืบหน้ายิงมาหาผมเบอร์นี้ได้เลยนะครับ เบอร์ส่วนตัวของผมเอง)


“เข้าใจแล้ว” เปรมกดตัดสาย ก่อนจะวางสมาร์ทโฟนไว้ที่เดิม


“มึงว่าเท็นหายไปเพราะอะไร” พอใจเย็นลงแล้วเขาก็ถามคนขับ ไฟมองทางพลางกลอกตาอย่างใช้ความคิด “ทะเลาะกับหมอแปดมั้ง”


“แต่ออกัสบอกว่าพ่อเท็นไม่ได้กลับบ้านมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” เปรมนั่งคิด ดวงตาของไฟเกิดประกายประหลาด หมอยายิ้มร้ายคล้ายนึกสนุก “อา ชักได้กลิ่นแปลกๆ แล้วสิ”


“อะไรนะ”


“เปล่า มึงมองข้างทางให้ดีละกัน” คนผมแดงตัดบท พ่อครัวพยักหน้า ช่วยสอดสายตามองไปรอบๆ อย่างเต็มที่


ไฟมองตรงไป นอกจากสะท้อนภาพหยาดฝนแล้วดวงตาคมกริบก็ไม่สื่ออะไรออกมาอีกเลย



   
เฟอร์รารี่คันหรูปราดวูบผ่านไปคล้ายเงาของปิศาจในยามค่ำคืน เกิดเสียงล้อบดถนนตรงทางโค้งส่งให้กลุ่มน้ำขังบนพื้นสาดกระจาย ก่อนคนขับจะกระชากตัวรถฝ่าการจราจรหายลับไปจากสายตา


เจ้าของรถเป็นเด็กหนุ่มผมสีแดงเพลิง เขาลดความเร็วลงพลางบ่นว่า “นี่สองทุ่มแล้วนะ ไปไหนของมันเนี่ย” เปรมมองทิวทัศน์ด้านนอก พูดว่า “ก็ยังดีที่ฝนหยุดตกแล้ว”


ติ๊ด! ติ๊ด!


สมาร์ทโฟนของไฟส่งเสียงร้อง พ่อครัวเลิกคิ้ว “อะไรวะน่ะ”


“แบตจะหมดอะเด่ะ” ไฟตอบตาโหล เมื่อคืนเขาอ่านหนังสือสอบแบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน แถมตอนเช้ายังตื่นสายจนไปสอบแทบไม่ทันอีกต่างหากจึงไม่มีเวลาชาร์จแบตเตอรี่


“เปรมเอามือถือมึงเมมเบอร์ออกัสไว้ดิ๊” ไฟบอก พ่อครัวพยักหน้าว่าง่าย “เข้าใจแล้ว”


เปมทัตหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมา ขณะที่กำลังจะเมมเบอร์จู่ๆ หน้าจอของเขาก็แจ้งเตือน


ติ๊ด! ติ๊ด!


“อะ...”


ฟุ่บ!


“เหี้ยเอ๊ย! มาม่องอะไรตอนนี้วะ!” เปรมแยกเขี้ยวโวยวาย เขาเงื้อมืออีกข้างคล้ายจะชกโทรศัพท์ด้วยความโมโห “ต่อยกับกูเดี๋ยวนี้!” ไฟมองหวาดๆ รีบพูดว่า “เฮ้ยใจเย็น ไปชาร์จที่คอนโดกูก่อนก็ได้ จะได้โทรถามออกัสด้วย”


“แม่ง...” เปรมสบถ แต่สุดท้ายก็ยอมพูดว่า “เอางั้นก็ได้”


ไฟเปลี่ยนเส้นทางหลังสิ้นคำ เขาบังคับตัวรถมุ่งไปทางคอนโดมิเนียมของตัวเอง ไม่นานทิวทัศน์สองข้างทางก็เริ่มกลับมาคุ้นตาเด็กหนุ่ม เปรมมองออกไป เฟอร์รารี่คันหรูพาทั้งคู่วนมาผ่านมหาวิทยาลัยอีกครั้ง


ข้ามไฟแดงไปเพียงสองแยก ไม่ถึงสิบห้านาทีก็ถึงที่หมาย เบื้องหน้าเปมทัตคือคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองสุดหรู ตัวตึกเปิดไฟตั้งตระหง่านโดยมีท้องฟ้าสีเข้มทาเป็นฉากหลัง พ่อครัวลอบกลืนน้ำลาย ไว้อาลัยล่วงหน้าให้กับราคาที่คงจะแพงหูฉี่ แต่ก็สมกับหมอนี่ดีล่ะนะ


ไฟวนรถไปจอดในที่จอดรถ ก่อนทั้งคู่จะเดินเข้าประตูมาเจอล็อบบี้ เปรมกวาดสายตา ดูแล้วที่นี่เหมือนโรงแรมที่เปิดเป็นคอนโดไม่มีผิด จังหวะที่หมอยาจะพาพ่อครัวไปขึ้นลิฟต์พนักงานสาวประชาสัมพันธ์ก็เรียกเขา


“คุณไฟคะ!”


“ครับ?” เจ้าของชื่อชะงักฝีเท้าแล้วจึงเดินเข้าไปหา หญิงสาวดึงโพสอิทที่แปะไว้บนโต๊ะออกมา พูดว่า “มีคนมาถามหาคุณไฟด้วยค่ะ”


“เอ๊ะ?” หมอยาหันไปมองหน้าพ่อครัวโดยอัตโนมัติ ฝ่ายหลังหรี่ตา เดาว่า “อะไร อย่าบอกนะว่ามึงไปกินตับกับใครจนเขามาทวงความยุติธรรม...”


“จะเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง! มึงนี่ก็!” ไฟพูดตาถลน ไม่วายแอบหันไปบ่นอุบอิบว่า “...กูใช้ถุงทุกครั้งแหละ”


“...” เปรมมองเพื่อนด้วยแววตาหมดศรัทธา ร้อนถึงพนักงานสาวที่ต้องรีบชี้แจ้งด้วยใบหน้าแดงเรื่อ “ว้าย ไม่ใช่นะคะ คนที่มาติดต่อเขาเป็นผู้ชายค่ะ”


“ว่าไงนะ!” เปรมกับไฟประสานเสียง หญิงสาวสะดุ้ง กระพริบตาปริบๆ แล้วพูดว่า “เป็นผู้ชายตัวสูงๆ ผิวซีดๆ หล่อๆ แต่ดูเย็นชา แล้วก็ใส่ชุดนักศึกษา...”


“แบบไหน แบบนี้รึเปล่าครับ?” เปรมดึงชายเสื้อหมอยาประกอบคำพูด พอคนฟังพยักหน้าพ่อครัวก็เบิกตากว้าง “อยู่ที่ไหน ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนเหรอครับ!”


“ถ้ามาถึงนี่ต้องยังไปไหนได้ไม่ไกลแน่ๆ” ไฟสันนิษฐาน ตอนนั้นเองที่พนักงานสาวตอบว่า


“ดิฉันเห็นว่าฝนกำลังจะตก แถมท่าทางเขาดูเศร้าๆ เลยชวนไปกินขนมแล้วก็ให้เล่นกับเด็กๆ ที่ห้องพักพนักงานด้านหลังแทนน่ะค่ะ แต่เขาดูสนุกอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะคะ น่ารักมากๆ เลย”


“...” เปรมกับไฟฟังด้วยสีหน้าปลงโลก อา...ถ้าอีหรอบนี้ล่ะก็อาจจะเป็นหมอนั่นก็ได้


“ดิฉันจะนำทางให้ค่ะ นี่ใครก็ได้มาอยู่ข้างหน้าคนหนึ่งซิ” เธอพูดกับกลุ่มพนักงานที่อยู่ด้านหลัง ครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็ออกมาจากเคาน์เตอร์ ก่อนจะพาเด็กหนุ่มสองคนเดินไปทางห้องพักพนักงาน


ไม่นานนักก็ถึงที่หมาย หญิงสาวเปิดประตูเข้าไป แล้วภาพด้านในก็ปรากฏแก่สายตา


เบื้องหน้าเปมทัตคือภูเขามนุษย์ลูกย่อม เด็กอนุบาลชายหญิงสี่ห้าคนนอนกองกันอยู่กลางห้อง ใบหน้าพวกเขายามหลับดูมีความสุข กองของเล่นกระจายอยู่ใกล้ๆ เหมือนเพิ่งเล่นเสร็จ ในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศทำให้เย็นจนน่าหลับสบาย


ใจกลางกองมนุษย์นั่น ร่างสูงในชุดนิสิตสภาพเสื้อหลุดออกนอกกางเกง เส้นผมสีดำชี้ฟูเคลียลงข้างแก้มสีซีดราวกับเพิ่งผ่านสมรภูมิรบมา ทว่าใบหน้าหล่อเหลากลับแต้มยิ้มบาง เขานอนหายใจสม่ำเสมอโดยมีพวกเด็กๆ นอนหนุนอยู่ตามตัว


“เท็น!”


เปรมร้องออกมา ขอบตาร้อนผ่าวไม่โดยทราบสาเหตุ พ่อครัววิ่งเข้าไปหา ก่อนจะคุกเข่าเอามือแตะแก้มเด็กโข่งเบาๆ ด้วยสีหน้าเหมือนจะร้องไห้ “หาเจอสักที...”


ดวงตายาวรีปรือขึ้นแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น เท็นพูดเสียงพร่าด้วยท่าทางง่วงงุน


“กุ๊ก...หิวแล้ว...”


“ไอ้บ้า หิวแล้วทำไมไม่มาที่แลปเหมือนทุกทีเล่า!” เปรมลอบยกแขนเสื้อเช็ดหางตาพลางสูดน้ำมูกเบาๆ ดวงตาสีนิลสะท้อนร่างสูงที่ยิ้มออกมาเหมือนเด็กๆ เห็นแล้วอดยื่นมือเข้าไปดึงแก้มสีซีดนั่นอย่างนึกเอ็นดูไม่ได้


ไฟมองภาพนั้นแล้วยิ้มออกมา แหม ไหนบอกว่าเจอแล้วจะหวดให้หน้าปลิวไง


“เฮ้อ พอจบเรื่องก็หิวขึ้นมาซะแล้วสิ” อัคคียืนกุมท้อง ในขณะที่หญิงสาวทยอยปลุกลูกๆ หลานๆ ของพนักงานคนอื่น เปรมที่กำลังประคองเท็นให้นั่งพูดว่า “ตอนเดินเข้ามาเห็นมีร้านขายของสดอยู่ใกล้ๆ อยากกินอะไรไหมล่ะ?” 


“เออว่ะ เรามีพ่อครัวมือฉมังอยู่ข้างตัวนี่หว่า” ไฟทำหน้าอย่างนึกขึ้นได้ เขาเดินเข้ามาหาเท็นพร้อมพูดว่า “งั้นเอาเป็นแกงเทโพหมูสามชั้นก็แล้วกัน ไม่ได้กินมาเป็นเดือนละ”


เปรมพยักหน้า “อย่างเดียวเหรอ?”


“พะโล้...” เสียงทุ้มโมโนโทนลอดออกมาจากปากคนที่ยังไม่ตื่นดี ไฟมองเพื่อนสมัยเด็ก ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมพ่อครัว เปรมสรุปว่า “งั้นคืนนี้กินพะโล้กับแกงเทโพละกัน”


“มันต้องอย่างนั้น” ไฟส่งมือให้ว่าที่คุณหมอ ไม่วายหันไปพูดกับพนักงานสาวว่า “ขอบคุณมากนะครับ” ตามด้วยเปรมที่ค้อมหัวให้เธออย่างสุภาพแทนคำพูด


“ยินดีค่า” เธอยิ้มให้หมอยากับพ่อครัวก่อนจะพาเด็กๆ เดินออกไป อัคคีหันกลับมา พูดว่า “เอ้าไอ้เท็นลุกเว้ย จะได้ไปกินข้าวกันสักที กูหิว...”


“อุ้ม”


“ฮะ?”


“อุ้มหน่อย”


“...”

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
(ต่อ)



เบื้องหน้าเปมทัตคือห้องพักขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรูสไตล์โมเดิร์น โซฟารับแขกกับเบาะนั่งบุนวมอย่างดีโทนสีขาวดำวางพาดอยู่หน้าโทรทัศน์จอยักษ์แบบฝังผนัง   


พ่อครัวเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปทางเคาน์เตอร์บาร์ทำอาหาร วางถุงของสดที่เพิ่งซื้อมาลงบนโต๊ะกินข้าวที่ทำจากกระจกใส ตามด้วยไฟที่แบกเท็นขึ้นหลังเดินเข้าห้องมา หมอยาปล่อยเพื่อนสมัยเด็กลงตรงทางเข้า ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปเอาสายชาร์จสมาร์ทโฟน


เปรมยืนเช็คเครื่องครัวที่ต้องใช้ อุปกรณ์ของไฟครบครันและใหม่เอี่ยม ดูท่าจะไม่ค่อยได้ใช้ พ่อครัวหยิบมีดเซรามิกของตัวเองออกมาจากกระเป๋า เขาเตรียมจานชามบรรจุวัตถุดิบ ต่อด้วยกางถุงแล้วหยิบเนื้อสัตว์ออกมา


“กุ๊ก”


สัมผัสอันคุ้นเคยเข้ามาจากด้านหลังเช่นทุกที เปรมก้มหน้าหั่นหมูสามชั้นเป็นชิ้นพอดีคำ “หิวล่ะสิ”


“อืม...” จมูกโด่งสันกดลงเรือนผมสีเข้ม กระซิบว่า “คิดถึงจัง”


มือคนฟังชะงักเล็กน้อย ซีกแก้มขาวขึ้นสีเรื่อ ตอบตะกุกตะกัก “มะ ไม่ต้องมาพูดดีเลย...”


“ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะ” เท็นซุกหน้าลงกับไหล่ของพ่อครัว เปมทัตขมวดคิ้ว อดพูดไม่ได้ว่า “ทีหลังมีอะไรก็บอกกันสิ นายหายไปแบบนี้ไม่คิดบ้างเหรอว่าคนอื่นเขาจะรู้สึกยังไง”


“เราขอโทษ” ร่างสูงกระชับอ้อมกอด ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ “ดีกันนะ”


“เฮอะ” เปรมก้มหน้าหั่นหมูต่อด้วยหัวใจที่เต้นผิดจังหวะ ตามด้วยไฟที่เดินออกมาพร้อมกับสายชาร์จ


“ไอ้เปรมนี่ของมึง” หมอยาวางส่วนของพ่อครัวไว้บนโซฟาหน้าโทรทัศน์ เปรมเห็นแล้วพยักหน้า “เออมึงวางไว้นั่นแหละ เดี๋ยวกูไปชาร์จเอง”


“โอเค” ไฟว่าง่าย พอได้ยินเสียงมีดกระทบเขียงแล้วจึงเดินเข้ามาดูใกล้ๆ เคาน์เตอร์บาร์ดูเล็กลงไปถนัดตาเมื่อผู้ชายสามคนยืนอยู่ด้วยกัน หมอยาจุ๊ปาก “บ๊ะ มีเพื่อนเป็นกุ๊กมันดีอย่างนี้”


“กุ๊กอร่อย” เท็นบอก เด็กหนุ่มผมสีแดงเลิกคิ้ว “หืม หมายถึงอาหารใช่ไหม?”


“...ใช่”


“มึงเงียบไปจังหวะหนึ่งนี่!” ไฟชี้หน้าเพื่อน เปมทัตแทรกขึ้น “เอ้าๆ มายืนกันแล้วก็อย่ามัวแต่นิ่งดูดาย” เขายื่นถุงผักบุ้งกับมะขามเปียกให้อีกสองคน “คนหนึ่งหั่นผัก อีกคนคั้นน้ำมะขามเปียกนะ”


เปรมกระจายงานให้คนตัวใหญ่ทั้งสองระหว่างหุงข้าว พวกเขารับคำทำตามอย่างว่าง่าย แม้จะเงอะๆ งะๆ กันไปบ้างตามประสาคนไม่เคยเข้าครัว แต่ก็น่าเอ็นดูจนพ่อครัวอดยิ้มออกมาไม่ได้


เมื่อกระทะเดือดแล้วเปรมจึงใส่กะทิลงไป แม้จะขัดใจนิดหน่อยที่ต้องใช้กะทิกล่อง แต่เพราะความหิวของอีกสองคนที่แทบจะทำลายล้างโลกได้อยู่แล้วทำให้เขาไม่มีทางเลือก พ่อครัวรอจนกะทิแตกมันจึงใส่พริกแกงแล้วใช้ตะหลิวยีให้เข้ากัน รอจนพริกแกงแตกมันได้ที่อีกครั้งจึงใส่หมูสามชั้นลงไป


เปมทัตปรุงแกงเทโพด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก เกลือและน้ำปลา เมื่อรสชาติได้ที่แล้วก็รอจนเดือด จากนั้นจึงใส่ผักบุ้งที่หั่นเป็นท่อนลงไป โรยด้วยใบมะกรูด ก่อนจะราดแกงในกระทะด้วยหัวกะทิ


“โอ้โห...” ไฟน้ำลายสอ เท็นที่ยืนกอดพ่อครัวอยู่ด้านหลังตาเป็นประกายเมื่อได้กลิ่นอาหาร
ในส่วนของแกงพะโล้ เปรมขยับตัวไปเปิดหม้อที่ต้มเครื่องเทศกับหมูสามชั้นและเต้าหู้ค้างเอาไว้ เขาใส่ไข่เป็ดต้มสุกแล้วลงไป จากนั้นจึงปิดฝาจับเวลาต้มไปอีกสิบนาที


ไม่นานนักไข่พะโล้ก็ปรุงเสร็จ เปรมใช้ช้อนส่วนตัวชิมน้ำพะโล้ครั้งสุดท้ายก่อนจะตักแกงใส่ชามสีขาว โดยได้ไฟช่วยเทแกงเทโพหมูสามชั้นใส่จานเสิร์ฟแล้วเดินถือออกไปที่โต๊ะ


เท็นเดินขนไข่พะโล้ตามออกมา ในขณะที่เปรมหันไปคดข้าวใส่จานสามใบ


เด็กหนุ่มสามคนนั่งร่วมโต๊ะกัน รอจนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มจัดการมื้อเย็น ไฟตักน้ำแกงเทโพเข้าปากแล้วอุทานออกมา


“อร่อย!”


“ธรรมด๊า” เปรมแบมือออกข้างตัว ทำหน้าตากวนโอ๊ย


“อร่อย” เท็นบอกหลังจากกัดไข่พะโล้เข้าไปเต็มคำ


“อะ อืม...” เปรมไหล่ตก หลุบตาด้วยใบหน้าแดงเรื่อ


“...” ไฟเห็นแล้วยกช้อนค้าง ทำไมรีแอคชั่นมันต่างกันขนาดนั้น


“จริงสิ ยังไม่ได้โทรบอกออกัสเรื่องเท็นเลย” เปรมลุกไปชาร์จแบต ไฟที่เคี้ยวหมูสามชั้นจากแกงเทโพอยู่พูดเสียงอู้อี้ “กูโทรบอกแล้ว เดี๋ยวหมอนั่นมา”


“ที่นี่น่ะเหรอ?” เปรมเลิกคิ้ว ไฟยื่นมือไปตักพะโล้กินบ้างพลางพยักหน้า “นี่ก็คงใกล้ถึงแล้วล่ะ...”


ก๊อกๆ!


พลันที่ประตูห้องก็เกิดเสียง ไฟแบมือออกข้างตัว ทำหน้าประมาณว่า ‘บอกแล้ว’ ก่อนจะเป็นคนลุกไปเปิดให้


“เข้ามาสิ” เบื้องหน้าเขาคือเลขานุการส่วนตัวของหมอแปดผู้เก่งกาจ ผู้มาใหม่ยามวิกาลค้อมหัวพูดด้วยท่าทีสุภาพว่า “รบกวนด้วยครับ”


เท็นหันไปมองคนที่เดินเข้ามา เรียกว่า “ออกัส”


เจ้าของชื่อเงยหน้า ดวงตาสีเขียวคู่งามสั่นวูบ ก่อนออกัสจะปราดเข้ามาคว้าคอเสื้อคนตัวใหญ่แล้วตะคอกเสียงดัง “ทำไมทำแบบนี้!”


“...”


“ทำไมนายถึงไม่บอกอะไรฉันบ้างเลย...มีอะไรทำไมไม่พูดล่ะ!” ชายหนุ่มผมสีน้ำตาลก้มหน้ากำหมัดแน่น เท็นมองไหล่อีกฝ่าย...มันกำลังสั่น


ออกัสพูดเสียงแผ่ว “ฉันมันไม่น่าพึ่งพาขนาดนั้นเลยเหรอ...”


เปรมกับไฟมองท่าทางนั้นเงียบๆ


“นายท่านสั่งให้ฉันดูแลนายนะ! แล้วถ้าเกิดนายเป็นอะไร...ฮึก ถ้าเกิดนายเป็นอะไรขึ้นมา...”


“ออกัส...”


“คิดว่าฉันจะรู้สึกยังไง!”


“เราขอโทษ”


เท็นพูดออกมา ชายหนุ่มเบิกตากว้าง นิ่งไปเมื่อมือใหญ่วางลงบนหัวอย่างแผ่วเบา


“อย่าร้องไห้เลยนะ”


ออกัสหลุดสะอื้น เขาซ่อนดวงตาไว้หลังเรือนผมสีน้ำตาล ตะโกนว่า “ฉันไม่ได้ร้องสักหน่อย!”


เปรมกับไฟยิ้มออกมาให้กับภาพที่เห็น ความรู้สึกของออกัสนั้นพวกเขาเข้าใจดีทั้งหมด




หลังจากช่วยกันเก็บล้างจานเรียบร้อย ทั้งสี่คนก็มารวมตัวกันที่หน้าโทรทัศน์ ไฟวางถุงขนมซองที่ลงไปซื้อมาไว้บนโต๊ะกระจกตรงกลาง หมอยากับออกัสจับจองเก้าอี้บุนวมเดี่ยวคนละฝั่ง เหลือโซฟายาวตรงกลางให้เปรมกับเท็นที่เพิ่งเดินออกมาจากเคาน์เตอร์บาร์


“กุ๊กนอนตัก” เท็นบอกคนข้างๆ พ่อครัวกระพริบตา ขยับตัวให้เงอะๆ งะๆ “อะ เอาสิ”


เด็กโข่งเอนตัวนอนหนุนตักกุ๊ก หลับตาพูดคล้ายละเมอว่า “ลูบหัว...”


เปรมทำตามด้วยซีกแก้มที่ขึ้นสีเรื่อ เส้นผมอีกฝ่ายนุ่มมือให้ความรู้สึกคล้ายลูกสุนัขตัวใหญ่ ออกัสมองภาพนั้นยิ้มๆ ก่อนพวกเขาจะนั่งดูโทรทัศน์พลางคุยสัพเพเหระกันไปเรื่อย


จนเท็นหลับแล้วจึงเริ่มเข้าเรื่อง


“ทำไมเท็นถึงหนีมาล่ะ?” เปรมตั้งคำถาม ออกัสมองเด็กโข่งที่กำลังหลับสบาย ตอบว่า “เรื่องนั้นผมคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับคุณชาร์ลอตต์”


“ชาร์...?” เปรมได้ยินไม่ถนัด ไฟแกะถุงมันฝรั่งทอดกรอบลมเยอะในมือแล้วพูดว่า “ชาร์ลอตต์...หนึ่งในห้าอันดับนางแบบขายดีทางฝั่งยุโรปในตอนนี้ สั้นๆ ก็...” หมอยากัดขนมดังกร้วม


“เธอแม่เลี้ยงของเท็น” ออกัสต่อให้ เมื่อเห็นเปรมทำหน้าไม่เข้าใจ จึงรีบพูดว่า “อาจจะเป็นการเสียมารยาทกับนายท่าน แต่ผมรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ ‘ไม่ธรรมดา’”


“อา กลิ่นไม่ดีโชยมาจนหึ่งเลยล่ะ” ไฟล้วงถุงมันฝรั่งในมือ เปรมลอบมองอาการของคนทั้งคู่ พยายามเก็บข้อมูลอยู่เงียบๆ


“เมื่อคืนคุณชาร์ลอตต์มาพักที่คฤหาสน์ครับ” ออกัสเปิดปากเล่า “ในกลางดึกสงัด ตอนที่ผมกำลังจะออกไปชงกาแฟดื่มระหว่างทำงานเช่นทุกที ก็เห็นคุณชาร์ลอตต์เดินออกมาจากห้องของเท็น...”


เลขาคนเก่งเว้นวรรค “ในสภาพชุดนอนหลุดลุ่ย”


ไฟอ้าปากค้าง เปรมเบิกตาโพล่ง


“แล้วในตอนเช้าเท็นก็หายตัวไปอย่างที่รู้กันนั่นแหละครับ”


“เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่ ตื่นมาอธิบายเดี๋ยวนี้นะ!” เปรมตีไหล่คนบนตักดังเพียะ ไฟสะดุ้ง พรวดเข้ามาจับแขนพ่อครัวไว้แทบไม่ทัน “ไอ้เหี้ยเปรมมึงใจเย็นๆ”


“ไม่เย็นแล้ว! จะด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่เห็นสมควรจะทำแบบนั้น! ออกัส นายบอกพ่อของเท็นเถอะ!” พ่อครัวส่งเสียงจนแทบตะโกน ดวงตาสีเขียวคู่งามหลุบต่ำ “แต่ผมไม่มีหลักฐาน...”


“นายไงหลักฐาน!” เปรมชี้หน้า


“ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะ” ดวงตาของออกัสอ่อนแสง พูดด้วยสีหน้ากึ่งเจ็บปวดว่า “แต่ผมไม่คิดว่านายท่านจะเชื่อเลขาอย่างผมมากกว่าว่าที่นายหญิงของบ้านหรอกนะครับ”


เปรมเงียบไปอย่างใช้ความคิด ก่อนจะชี้คนบนตักแล้วพูดว่า “ถ้าเป็นหมอนี่ล่ะ?” ออกัสมองตาม เขาสั่นหัวเบาๆ “ผมไม่คิดว่าเท็นจะพูด ขนาดผมถามยังไม่ยอมบอกอะไรสักคำ”


“ไม่เห็นยาก...” ไฟที่เอนตัวกินมันฝรั่งห่อที่สองแทรกขึ้น


“ถ้าไม่มีหลักฐานแค่สร้างขึ้นมาก็หมดเรื่อง”


   “ยังไง” เปรมถาม ออกัสมองตาม ทว่าหมอยาทำแค่ยักไหล่เบาๆ “ใครจะรู้”


“เอ้าอีเหี้ย” พ่อครัวด่า เริ่มกลับมาคิดอย่างจริงจังแล้วพูดว่า “แต่ถึงจะเค้นเอาจากปากเท็นได้ มันก็ไม่มีอะไรยืนยันว่าจะได้ผลอยู่ดี เราคงต้องหาหลักฐานแบบรูปธรรม”


ออกัสนิ่งคิดไปนิดหนึ่ง ตัดสินใจพูดว่า “วันเสาร์หน้าเป็นวันเกิดของนายท่าน จะมีการจัดงานเลี้ยงตอนกลางคืนที่คฤหาสน์ ยังไงคุณเปรมไม่ลองมาเป็นพ่องานฝ่ายจัดการครัวดูล่ะครับ ส่วนตำแหน่งลูกมือก็ยกให้มาเรียกับพ่อบ้านที่เกี่ยวข้องคอยช่วยเวลาขาดเหลืออะไร”


เปมทัตตาโต “จริงสิ! ถ้าแบบนั้นล่ะก็อาจจะได้หลักฐานมัดตัวดีๆ มาก็ได้”


ไฟคิดตาม “นั่นสินะ ถ้าผู้หญิงคนนั้นเล็งเท็นอยู่เธอต้องหาทางทำอะไรสักอย่างในงานแน่ๆ อีกอย่างเราเข้าไปแบบนี้จะทำอะไรก็ไม่ผิดสังเกตด้วย”   


“คุณเปรมสะดวกไหมล่ะครับ แน่นอนว่าเรื่องค่าตอบแทนทางเรายินดีจ่ายให้อย่างงาม”


เปมทัตเป็นประกาย ก่อนจะพูดอึกอัก “เอ่อ ฉันเอาเพื่อนมาช่วยด้วยได้ไหม?”


“เอาที่คุณเปรมสะดวกเลยครับ ถ้าตกลงกันเรียบร้อยแล้วยังไงเสาร์นี้รบกวนคุณเปรมกับเพื่อนมาคุยกันเรื่องเมนูอาหารด้วย ผมจะได้เตรียมรายงานนายท่าน” ในมือออกัสมีดินสอขึ้นมาเขียนกำหนดการตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เขามักดูจริงจังและยุ่งกับงานอยู่เสมอ


“งั้นฉันขอไปปรึกษากับเพื่อนก่อน” เปรมกดมือถือโทรเข้าเครื่องออกัสให้แสดงเบอร์ตัวเองแล้วพูดว่า “ถ้าตกลงเสร็จแล้วจะโทรหานะ”


“ทราบแล้วครับ” ออกัสยกแขนมองนาฬิกา พูดว่า “นี่ก็ใกล้เวลาที่นายท่านจะกลับมาแล้ว ผมถือโอกาสขอตัวไปจัดการเอกสารกับเรื่องงานเลี้ยงของท่านก่อนเลยดีกว่า” เลขาคนเก่งเก็บของใส่กระเป๋า เปรมมองท่าทางนั้นอย่างนึกทึ่ง


“ตามหาเท็นมาทั้งวันแล้วยังจะไปทำงานต่ออีกเหรอ”


“มันเป็นหน้าที่ของผมครับ” ดวงตาสีเขียวเป็นประกาย เปรมเห็นแล้วอดพูดไม่ได้ว่า “ออกัสเนี่ย...รักครอบครัวเท็นน่าดูเลยนะ”


“ผมอยู่ที่นี่เพื่อพวกเขาครับ” ออกัสยิ้มออกมา เปรมพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ขับรถดีๆ นะ”


“เอาขนมไปกินมั้ยล่ะ” ไฟยื่นส่วนที่ยังไม่ได้แกะให้ ชายหนุ่มปฏิเสธอย่างสุภาพ “ขอบคุณครับ แต่ไม่ดีกว่า”


หลังส่งเลขาส่วนตัวของพ่อเพื่อนออกจากห้องไปแล้วไฟก็กลับมานั่ง เขายกบิสกิตแท่งเคลือบช็อคโกแลตกล่องสีแดงขึ้นมากัดดังกร้วม ดวงตาคมกริบสะท้อนภาพเกมโชว์ในโทรทัศน์


“ไอ้เหี้ยกินมั่ง” เปรมแบมือขอด้วยท่วงท่าที่ถูกจำกัด ไฟยื่นที่เหลือพร้อมเลื่อนถุงขนมบนโต๊ะให้ “มึงกินเลย กูไปอาบน้ำนอนละ” พูดจบก็ลุกออกไป


“โอเค แต๊งกิ้ว” เปรมรับมา เขาเหลือบตามองนาฬิกาที่บอกเวลาห้าทุ่ม คืนนี้คงต้องค้างที่นี่ ไว้พรุ่งนี้เช้าค่อยนั่งรถเมล์กลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอ พ่อครัวก้มมองคนตัวใหญ่ที่นอนเอาหัวหนุนตัก ก่อนจะเอานิ้วโป้งข้างที่ว่างบดแก้มอีกฝ่ายเบาๆ อย่างนึกหมันเขี้ยว


ลมหายใจคนตัวโตดังสม่ำเสมอ เปรมมองใบหน้าหล่อเหลายามหลับ “อย่าทำให้เป็นห่วงนักได้ไหม...” ก่อนจะยกมือลูบหัวเด็กโข่งเบาๆ แล้วก้มหน้าบ่นว่า


“แค่นี้ในหัวฉันก็มีแต่เรื่องของนายจะแย่อยู่แล้วนะ”




ไฟเดินออกมาจากห้องอาบน้ำ หมอยาสวมชุดนอนเดินเช็ดหัวออกมา ดวงตาคมกริบมองพ่อครัวที่นั่งกินขนมดูเกมโชว์อยู่แล้วถามว่า


“ไม่ไปนอนเรอะมึง”


เปรมตอบเนือยๆ “เท็นหลับอยู่ กูนอนนี่แหละ”


ไฟหัวเราะ “มึงปลุกมันก็ได้นะ”


“นานๆ ทีจะเห็นหมอนี่หลับ กูไม่เป็นไรหรอก” เปรมกัดขนมดังกร้วม พูดอีกว่า “สบายมาก มึงไปนอนเถอะ เดี๋ยวกูปิดไฟข้างนอกให้”


“เออ คือกูจะบอกว่ามันมีห้องนอนเล็กอีกห้อง ถ้ายังไงมึงจะใช้ห้องนั้นก็ได้นะ” ไฟชี้ไปทางห้องใกล้ๆ เปรมมองตาม พยักหน้าหงึกหงัก “ขอบคุณมาก”


“งั้นกูไปละ ฮ้าวววว” ไฟแทบจะหาวเป็นดาวเป็นเดือน เปรมสั่นหัวยิ้มๆ ก่อนจะนั่งดูเกมโชว์ต่อไปเงียบๆ


ไม่นานนักสติเขาก็ดับวูบลง




เท็นตื่นตอนตีสองด้วยเสียงของโทรทัศน์ สัมผัสหนึ่งวางอยู่บนหัวเขา ร่างสูงคว้าไว้เบาๆ มันคือมือของเปมทัต เด็กโข่งลุกขึ้นนั่ง ข้างๆ เป็นกุ๊กคนเก่งในสภาพฟุบหลับกับพนักพิง


ว่าที่คุณหมอกดปิดโทรทัศน์ เหลือเพียงแสงไฟสีส้มสลัวและความเงียบ ดวงตายาวรีสะท้อนใบหน้ายามหลับของพ่อครัว คนตัวเล็กหลับลึกอย่างอ่อนเพลีย


ทศทิศสอดแขนเข้าไปใต้ช่วงขาของกุ๊กก่อนจะอุ้มร่างเล็กขึ้นแนบอก เปมทัตฟุบหน้าเข้ากับอกกว้าง ลมหายใจสม่ำเสมอ เป็นจังหวะที่ประตูห้องนอนของหมอยาเปิดออก


ไฟทักเด็กโข่ง “ไง ตื่นแล้วเหรอ”


เท็นพยักหน้า เขาอุ้มพ่อครัวเดินผ่านเพื่อนสมัยเด็ก “ขอใช้ห้องเล็กนะ”


“เอาเลย” ไฟหาวหวอด เท็นหันมาสบตาเพื่อน พูดว่า “ขอบคุณนะ”


ไฟหัวเราะ “เปลี่ยนเป็นติดต่อสาวในคณะมึงให้กูสักคนก็แล้วกัน” เด็กโข่งได้ยินแล้วยิ้มออกมา “เดี๋ยวก็โดน ‘คนนั้น’ เกลียดเอาหรอก”


ไฟมุมปากกระตุก “...อย่ามารู้ดีน่า กูไปเยี่ยวละ ฝันดี”


เท็นพยักหน้า ก่อนจะอุ้มพ่อครัวเข้ามาในห้องนอนเล็ก เขาวางอีกฝ่ายลงบนเตียง เปรมฟุบหน้าลงกับหมอน ซีกแก้มขาวปรากฏแก่สายตา


ทศทิศโน้มหน้าเข้าไปหา กดจมูกสูดกลิ่นจากแก้มเนียนดังฟอด


“อือ...” เปรมลืมตาปริบ เรียกชื่อคุณหมอแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น “เท็น...”


ดวงตายาวรีสะท้อนใบหน้ากุ๊กยามง่วงงุน อดใจไม่ไหวจนต้องโน้มคอลงแตะริมฝีปากกับอีกฝ่ายเบาๆ


“อะ...” พ่อครัวหางคิ้วตกยามลิ้นร้อนสอดเข้ามา มือหนาขยุ้มเส้นผมสีนิลที่นิ่มเหมือนขนแมวนั่นอย่างหลงใหล ปลายลิ้นรับรู้ได้ถึงรสหวานจากช็อคโกแลตที่เจ้าตัวกินเข้าไป มือหนาขยับคางอีกฝ่ายเข้าหาเพื่อจะลิ้มรสชาติให้ถนัดถนี่


“แฮ่ก...” ลมหายใจพ่อครัวสะดุด ดวงตาสีนิลหยาดเยิ้มขณะที่มือเล็กดึงแขนเสื้อร่างสูงไว้คล้ายกับจะประท้วง


เท็นจำใจถอนริมฝีปากออกมาอย่างนึกเสียดาย กระซิบข้างหูอีกฝ่ายว่า


“ค่าอาหารครับ”



 
เปรมนั่งรถเมล์กลับมาที่หอพักในตอนเช้าเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำไปเรียน รู้สึกเหมือนเมื่อคืนตัวเองจะฝันอะไรแปลกๆ แต่กลับนึกไม่ออก สุดท้ายก็ทิ้งความคิดเหล่านั้นไปแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากหอ


เปมทัตอาศัยช่วงพักกลางวันเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังพร้อมปรึกษาเพื่อนเรื่องงานวันเกิดพ่อเท็น ในส่วนหลังไดนาไมต์กับสามสีตอบตกลง เด็กหนุ่มตัวสูงพูดว่า “เคยมีลูกค้ากระเป๋าหนักๆ มาจ้างแม่กูจัดงานอยู่เหมือนกัน คิดว่าชนิดอาหารคงไม่ต่างกันมากหรอก”


เปรมขยับดินสอในมือวงคำว่า ‘งบประมาณ’ แล้วพูดว่า “ระดับพ่อเท็นกูว่างบไม่อั้น งั้นเราก็ใช้ของดีไปเลย”


“ในส่วนของเครื่องดื่ม...” สามสีมองหัวข้อที่ยังไม่ถูกพูดถึงอย่างครุ่นคิด ไดนาไมต์ยักคิ้ว “อันนี้ให้พี่ พี่เคย”


พ่อครัวผงกหัว เขากดดูปฏิทินในมือถือ พึมพำว่า “งานมีอาทิตย์หน้า เหลืออีกเจ็ดวัน...ก็ยังพอมีเวลาอยู่”


“แต่ระหว่างนี้เราต้องหาโอกาสเข้าไปสำรวจพื้นที่ด้วย” สามสีเคาะปลายดินสอตรงพื้นที่ว่างบนกระดาษ เปรมพูดว่า “ออกัสนัดพวกเราไปดูสถานที่วันจันทร์หน้า เรียนเสร็จบ่ายโมงเดี๋ยวเขาจะส่งคนมารับ”


ไดนาไมต์ผงกหัว “ก็ดี ถือโอกาสหาหลักฐานแบบรูปธรรมไปในตัว”


“แผนรบล่ะ?” สามสีหันไปถาม คนผมสีชมพูขมวดคิ้วพลางกอดอก “งานนี้งานใหญ่ ขอคิดก่อน”


เปรมมองเพื่อนทั้งสองแล้วยิ้มออกมา ราคาของทั้งคู่คุ้มค่ามากพอที่จะให้เชื่อใจ

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
Special Part.
Love Course ! โบรกเกอร์ร้อยล้านกับอาจารย์ห้าร้อย


ย้อนกลับไปในวันเสาร์ของการสอนพิเศษครั้งแรก หลังแยกจากเปรมแล้วเมธาก็ขึ้นบันไดเลื่อนมาติดต่อเจ้าหน้าที่ของสถาบันเพื่อเตรียมตัวสอนคอร์สส่วนตัวตามที่ได้ตกลงกันไว้


“มาเร็วจังเลยนะคะ” เจ้าหน้าที่สาวยิ้มให้เขาขณะตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวผู้สอน ครูคณิตพูดกลั้วหัวเราะ “สายกว่านักเรียนคงไม่ดีมั้งครับ”


“โอเค...คุณเมธา สันติสุข ตัวจริงเนอะ” เธอชวนคุยด้วยท่าทีอัชฌาสัย “ทานอะไรมาหรือยังคะเนี่ย?”


“เรียบร้อยแล้วครับ” เมธายิ้มรับ หญิงสาวยกกล่องใบใหญ่ขึ้นมาพร้อมพูดว่า “คุณเมตามกิ๊ฟมาเลยค่ะ เดี๋ยวจะนำทางไปห้องเรียนให้นะคะ”


“เอ่อ ผมช่วยถือไหมครับ?” เด็กหนุ่มมองของในมืออีกฝ่าย คนฟังยิ้มกว้าง “สบายมากค่า ตามมาเลย”


ครูคณิตกระชับกระเป๋าเดินตามเงียบๆ ไม่นานนักหญิงสาวก็หยุดลงหน้าห้องด้านในสุด “ห้องนี้แหละค่ะ วิชาคณิตศาสตร์ม.ปลาย คอร์สส่วนตัวเนอะ”


เมธาพยักหน้า เมื่อเจ้าหน้าที่สาวเปิดประตูออกเขาก็ก้าวเข้าไป


“กล่องนี้เป็นไอเท็มสำหรับคุณครูนะคะ” กิ๊ฟเปิดกล่องใบใหญ่ ด้านในมีกล่องขนาดต่างกันอีกสามกล่อง เธอหยิบกล่องรูปสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ออกมา พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ว่า “อันนี้เป็นปากกาเขียนไวท์บอร์ดค่ะ มีหลายสีเลย”


ต่อด้วยกล่องแบนใหญ่ใบที่สอง “อันนี้เป็นหนังสือที่ต้องแจกนักเรียนนะคะ” ปิดท้ยด้วยกล่องที่ฝาเป็นรูปวงกลมขนาดเท่าฝ่ามือ เธอเปิดมันแล้วหยิบของด้านในออกมา “ส่วนนี่ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉินค่ะ”


เมธากระพริบตาปริบๆ มันคือปุ่มกดเรียกแบบไร้สาย กิ๊ฟเสริมว่า “จริงๆ มันมีเอาไว้เรียกเจ้าหน้าที่เวลาอุปกรณ์หรือสื่อในห้องมีปัญหา แต่นักเรียนคนนี้เห็นว่ามีความเสี่ยงสูง เลยอยากให้คุณเมพกไว้กับตัวค่ะ”


“เขาร้ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ครูคณิตลอบกลืนน้ำลาย กิ๊ฟเหลือบตาขึ้น ยิ้มกว้าง พูดเสียงสูง “อู๊ยไม่หรอกค่า คนเค้าก็ลือกันไป๊...”


“...ครับ” เมธารับของในกล่องมาด้วยสีหน้าปลงโลก


“อีกเดี๋ยวก็ใกล้เวลาสอนแล้ว เชิญคุณเมเตรียมตัวตามสบายนะคะ” เธอยิ้มกว้าง เสริมว่า “มีอะไรก็...กึ๊กๆ เลยน้า แล้วจะส่งทีมงานมาช่วยเหลือทันทีค่ะ”


เมธาค้อมหัวให้อย่างสุภาพ “ขอบคุณมากครับ”


พอกิ๊ฟออกไปทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ครูคณิตหยิบแผนการสอนออกมา พลันหางตาก็เหลือบเห็นเด็กมัธยมปลายหลายคนเดินผ่านหน้าห้องไป นั่นทำให้เมธานึกถึงตัวเองเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เขาไปเรียนที่สถาบันกวดวิชาคอร์สตะลุยโจทย์คณิตศาสตร์ในแถบนี้ แล้วพบเข้ากับใครบางคน...


ใครบางคนที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล




หลังเลิกเรียนในวันธรรมดา เมธาในวัยมัธยมศึกษาปีที่หกเดินสะพายประเป๋าเข้าสถาบันกวดวิชามาพร้อมชีทโจทย์คณิตศาสตร์หนาปึ้ก ขณะที่กำลังจะขึ้นบันไดไปเรียนก็ได้ยินเสียงวี้ดว้ายของกลุ่มนักเรียนหญิง


“เอื้อจ๋า แนนนี่อยากไปดูหนังจังเลย”


“เอาสิ ช่วงนี้เรื่องอะไรเข้าล่ะ”


เมธาหันไปมอง ใจกลางนั้นคือเด็กหนุ่มตัวสูงผมสีน้ำตาลที่กำลังพูดคุยกับเด็กสาวด้วยท่าทีเป็นธรรมชาติ ใบหน้าหล่อร้ายเผยยิ้มกรุ้มกริ่มเจ้าเสน่ห์ ในมือถือหนังสือคณิตศาสตร์พื้นฐานเล่มหนาเอาไว้ นั่นเป็นคอร์สที่เมธาเพิ่งเรียนจบไปเมื่ออาทิตย์ก่อน


ตอนนั้นเองที่อีกฝ่ายหันมาสบตา เมธาสะดุ้งราวกับโดนไฟช็อต ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นบันไดไปเรียนคอร์สของตัวเอง


เด็กหนุ่มมาทันตอนอาจารย์ในวิดีโอเริ่มสอนพอดี เขานั่งจดเทคนิคกับเนื้อหาเพิ่มเติมที่อาจารย์แนะนำให้อย่างตั้งใจ เมธาอยากเป็นครู และถ้าจะสอนนักเรียนก็ต้องเป็นวิชาที่เขาชอบที่สุด...คณิตศาสตร์


เข็มนาฬิกาวนไปตามเวลา รู้ตัวอีกทีท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีเข้มเสียแล้ว พร้อมกับความยาวเทปสอนที่สิ้นสุดลง เมธาเก็บของใส่กระเป๋า เขาโทรหาพ่อซึ่งปลายสายก็บอกให้เขารออีกสักพัก


เด็กหนุ่มออกจากห้องเรียนมาคนสุดท้าย นอกจากเด็กหนุ่มม.ปลายกลุ่มใหญ่ตรงหน้า บนชั้นนี้ก็ไม่มีใครอีกแล้ว เมธาเดินสะพายกระเป๋าผ่านกลุ่มคน ตอนนั้นเองที่เขาโดนคว้าแขนไว้


“อ๊ะ!” คนตัวเล็กสะดุ้ง เจ้าของมือเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงหน้าเหี้ยมที่จ้องเขาด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ย มันถามว่า “เธอชื่ออะไรเหรอ”


“มะ...เมธา” เขาตอบ พยายามแกะมืออีกฝ่ายออกจากต้นแขน “มีอะไรเหรอ ปล่อยเราก่อนได้ไหม”


“ว้าว ชื่อน่ารักเชียว” มันหันไปหัวเราะกับเพื่อนที่เหลือ ก่อนจะหันมาพูดใส่หน้าด้วยท่าทีหยาบโลนว่า “เรามองนายมาละ เราอยากเอานายว่ะ ยอมป้ะ”


เมธาหน้าซีด เขาสั่นหัว พยายามแกะมือหนาออกด้วยท่าทางรีบร้อน “ไม่...ขอร้อง ปล่อยเรา...โอ๊ย!” เด็กหนุ่มนิ่วหน้ายามถูกอีกฝ่ายบีบแขนจนกระดูกแทบแตก คนหน้าเหี้ยมตะคอกใส่เขาว่า “มึงอย่ามาดีดดิ้น! ยอมกูดีๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว มาทางนี้!”


คนตัวเล็กพยายามขืนตัวไว้เมื่อถูกลากไปทางห้องน้ำชาย เมื่อสู้แรงไม่ได้จึงตะโกนขอความช่วยเหลือ “ช่วยด้วย!ใครก็ได้ช่วยด้วยครับ!” เมธาดิ้น ตอนนั้นเองที่หนึ่งในเพื่อนของไอ้หน้าเหี้ยมต่อยเข้าที่ท้องของเขา


เมธาจุกจนร้องไม่ออก ก่อนจะถูกไอ้หน้าเหี้ยมอุ้มขึ้นพาดบ่า ดวงตาสีนิลคู่เล็กสั่นวูบอย่างหวาดกลัว ร้องเสียงแผ่ว “อย่า...ฮึก อย่าทำอะไรเราเลย”


พวกนั้นได้ยินแล้วก็หัวเราะชอบใจ พวกมันอุ้มเมธาเข้ามาในห้องน้ำชาย ไอ้หน้าเหี้ยมทุ่มเขาลงบนพื้นแล้วเริ่มถอดเข็มขัด พูดเสียงพร่า “นี่เหยื่อกู กูเปิดก่อน”


พวกที่เหลือพร้อมใจกันบ่นเสียงขรม แต่หนึ่งในนั้นก็ยอมพูดว่า “เออๆ มึงเปิดรูล่างไป เดี๋ยวพวกกูเล่นอย่างอื่น” ก่อนแต่ละคนจะทยอยกันถอดกางเกง เมธาร้องไห้ ยกมือไหว้ตัวสั่นระริก “ได้โปรด...ฮึก อย่าทำอะไรเราเลย...”


“น่ารำคาญ!” ไอ้หน้าเหี้ยมปราดเข้ากระชากท้ายทอยเด็กหนุ่ม เมธาเม้มริมฝีปากกลั้นสะอื้น “เรากลัวแล้ว...ฮึก” ดวงตาที่เต็มไปด้วยราคะมองภาพนั้นแล้วยิ้มกริ่ม แสร้งพูดเสียงปลอบประโลมว่า “เอาน่า...เดี๋ยวก็สนุกแล้ว”


“ได้โปรด...” เมธาส่ายหน้า ก่อนจะถูกไอ้หน้าเหี้ยมฉีกเสื้อนักเรียนจนขาดวิ่น


“อย่า!” สิ้นคำราวกับสัญญาณ ร่างสูงจู่โจมที่ซอกคอขาว มันสูดดมอย่างหื่นกระหาย ส่วนมือก็ปัดป่ายไปตามร่างกายเล็กๆ ที่สั่นเทาอย่างหวาดกลัว ราวกับนรก เมธาพยายามดิ้นออกจากดงอสูรกายในคราบมนุษย์ 


“มะ ไม่เอา...ฮือ” เมธาพยายามปัดมือที่เข้ามาสัมผัสตัวเองออก ตามด้วยมือหนาที่พยายามจะปลดกางเกงนักเรียนของเขา


“เสร็จกูล่ะ!”


“ไม่!”


ผัวะ!


ตอนนั้นเองที่ร่างไอ้หน้าเหี้ยมลอยหวือกระเด็นไปกระแทกผนังอีกฝั่ง เกิดเสียงฮือฮาปนก่นด่าจากรอบทิศ เมธาก้มหน้าปิดหูสะอื้นตัวสั่นระริก


“ไอ้เหี้ยมึงเป็นใครวะ!” นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่พวกมันได้พูดจนจบ ตามด้วยเสียงหมัดกระแทกกล้ามเนื้อเคล้าเสียงร้องโหยหวนดังสะท้อนไปทั่วห้องน้ำชาย แต่ไม่นานนักทุกอย่างก็เงียบลง


วีรบุรุษกลับมายืนด้วยท่าปกติ เบื้องหน้าคือกลุ่มวัยรุ่นชายในสภาพสะบักสะบอมจากฝีมือและฝีเท้าของเขา เอื้ออังกูรปัดมือเบาๆ พลางพรูลมหายใจ หันไปมองร่างเล็กที่นั่งก้มหน้าตัวสั่นอยู่บนพื้น


นิ้วยาวแตะไหล่ขาวมนที่โผล่พ้นเสื้อ


“เฮือก!” เมธาผงะถอย เอื้ออังกูรเองก็สะดุ้งไปเหมือนกัน เขาสบดวงตาสีนิลคู่งามที่สั่นวูบนั่น ก่อนจะคุกเข่าลงแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรแล้วนะ”


เมธาพยายามเรียกสติตัวเองกลับมา ตอบเสียงสั่น “มะ...ไม่เป็นไร”


เอื้ออังกูรมองยิ้มๆ ถามว่า “ลุกไหวไหม?” เขามองคนตัวเล็กพยักหน้างกๆ พลางพยายามฝืนลุกทั้งที่ขาสั่นระริกอย่างนึกเอ็นดู


อดยื่นมือเข้าไปช่วยไม่ได้ “ให้ฉันช่วยนะ”


เมธาค่อยๆ ยืนได้ด้วยการประคองจากร่างสูง แขนเล็กที่มีรอยฟกช้ำขยับกอดตัวเองเอาไว้พลางก้มหน้าพูดเสียงสั่น


“ขะ...ขอบคุณครับ”


เอื้ออังกูรมองเสื้อนักเรียนที่ขาดวิ่นของอีกฝ่ายจนเผยให้เห็นผิวขาววับๆ แวมๆ แล้วตัดสินใจถอดแจ็คเก็ตของตัวเองคลุมให้แล้วพูดว่า “บ้านอยู่ไหน เดี๋ยวฉันไปส่ง”


เมธาเงยหน้าอย่างนึกอึ้ง “ดะ เดี๋ยวพ่อเรามารับ...”


“เข้าใจแล้ว” เอื้ออังกูรพยักหน้ารับรู้ เขาวางมือลงบนกลุ่มผมสีนิลนุ่ม ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “งั้นเดี๋ยวฉันไปรอเป็นเพื่อนก็แล้วกัน”


วินาทีนั้นเองที่เมธาตกหลุมรักคนตรงหน้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น




เวลาผ่านไปความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นตามลำดับ หลังเลิกจากที่โรงเรียนทั้งคู่จะมานั่งกินข้าวก่อนเข้าเรียนกวดวิชาด้วยกันทุกครั้ง ทุกครั้งที่เอื้ออังกูรมักจะยิ้มและเล่นหัวคนตัวเล็กอย่างอบอุ่น


ในวันสุดท้ายของคอร์สเรียนกวดวิชาที่ความรู้สึกมันท่วมท้นเกินกว่าจะกักเก็บเอาไว้นั่นเอง เมธาก็คิดจะสารภาพรักกับอีกฝ่าย


เด็กหนุ่มรอเจอกับร่างสูงเช่นเคย และตอนที่ทุกอย่างพร้อมแล้วนั่นเอง


“เราชอบนายนะ!”


เสียงของเขาเอง...


“ขอบคุณที่ดีกับเรามาตลอด เรารักเอื้อนะ!”


เมธารวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเพื่อบอกออกไป...


“...”


อีกฝ่ายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนร่างสูงจะหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง คนตัวเล็กเงยหน้าอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้าหล่อเหลาจ้องมาด้วยรอยยิ้มหยัน


“โง่น่า ผู้ชายสองคนจะรักกันได้ยังไง ประสาท”


เพล้ง!


เสียงหัวใจดวงเล็กแตกสลายไม่มีชิ้นดี เมธายืนหน้าชา เกิดอาการหาเสียงตัวเองไม่เจออีกต่อไป


“เฮ้อ มุกตลกอะไรเนี่ย เล่นซะฉันขำจนหายใจไม่ทันเลย” เอื้ออังกูรเช็ดหยดน้ำตรงหางตา พูดเสียงดูแคลนว่า “นี่ตกลงนายเป็นเกย์เหรอเนี่ย รู้แบบนี้ตอนนั้นไม่ช่วยเอาไว้ซะก็ดี น่าขยะแขยงเป็นบ้า”


เมธาจ้องอีกฝ่ายผ่านม่านน้ำตา ดวงตาสีนิลทอประกายเจ็บปวด


“เอาล่ะ ในเมื่อชอบฉันแล้วแบบนี้นายก็ไม่มีความน่าสนใจอีกต่อไป” เด็กหนุ่มตัวสูงเดินเข้ามาตบไหล่ ก่อนจะเดินจากไปด้วยประโยคเด็ดว่า


“ไว้คราวหน้าจะมาเล่นด้วยใหม่นะ...ไอ้ของเล่น”




กลับมาที่ปัจจุบัน เมธานั่งหน้าเศร้า ถ้าเขาไม่สารภาพรักกับอีกฝ่ายไปตอนนั้นเรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้ พวกเขาคงยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่ถึงจะมารู้สึกผิดตอนนี้ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว


ก่อนประตูห้องจะถูกเปิดออก ครูคณิตตบหน้าเรียกสติตัวเอง ลูกศิษย์คนแรกของเขาเข้ามาแล้ว


“สวัสดีครับอาจารย์” เสียงทุ้มร้องทักอย่างสดใส เมธาอึ้งไป จ้องผู้มาใหม่ตาไม่กระพริบ


เอื้ออังกูร


“เม...”


เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเองก็ดูจะตกใจไปแวบหนึ่ง ทว่าสุดท้ายก็แสยะยิ้มออกมา “ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเจอกันที่นี่ แหม บังเอิญจริงๆ” มือหนาวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ ไม่วายพูดจาค่อนขอด


“ว่าแต่นายนี่ไม่เปลี่ยนมุกเลยนะ หากินกับที่เรียนพิเศษอยู่ได้ไม่เบื่อบ้างรึไง” เอื้ออังกูรหัวเราะในลำคอ “แต่อย่างว่าแหละนะ เด็กม.ปลายผู้ชายสมัยนี้ก็งานดีเยอะอยู่ คงจะถูกใจนายน่าดู”


ดวงตาสีนิลคู่เล็กสั่นระริกให้กับคำดูถูก ตอนนั้นเองที่ร่างสูงย่างสามขุมเข้ามาหา เมธาผงะถอย


“อ้าว ทำไมกลัวผมแบบนั้นล่ะครับ...อาจารย์?” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแค่นยิ้ม ครูคณิตถอยจนหลังติดผนัง พูดเสียงสั่น “ยะ...อย่าเข้ามา...”


เมธาสะดุ้งยามคนตัวใหญ่ปราดเข้ามาประชิดตัว มือหนาล็อคคางเล็กให้เชิดขึ้นก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาประกบปากอย่างจาบจ้วง


“ฮื้อ...”


ดวงตาสีนิลคู่งามสั่นวูบ ลิ้นร้อนไล่เกี่ยวกระหวัดพันลิ้นเล็กที่พยายามหลบหนีอย่างขลาดกลัว ลีลารัญจวนเสียจนขาของคนตัวเล็กสั่นแทบยืนไม่อยู่


“อย่า...” แก้มครูคณิตเปลี่ยนเป็นสีจัดยามมือหนาเลื่อนลงต่ำ แขนเล็กๆ พยายามดันอีกฝ่ายออกทั้งที่สั่นระริก


“ปากแข็งน่า” เอื้ออังกูรกระซิบชิดริมฝีปาก มองร่างเล็กที่เหมือนพร้อมจะทรุดลงไปกองกับพื้นได้ทุกเวลาแล้วหัวเราะหึ “อ่อนไหวจริงนะ ทำเป็นไม่เคยไปได้”


คนตัวเล็กร้องไห้เมื่อโดนรังแก ตอนนั้นเองที่เมธารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้วดึงของข้างในออกมา เอื้ออังกูรเห็นแล้วเบิกตากว้าง เขาผละออกไปเหมือนโดนของร้อน


เมธาทรุดตัวนั่งหอบ กำอาวุธสุดท้ายของตัวเองไว้แน่น พูดว่าเสียงแผ่ว “ฉันจะกดมัน...”


“เข้าใจแล้ว! ฉันไม่ทำอะไรแล้วน่า! โธ่เอ๊ย หยอกเล่นหน่อยเดียวเอง” เอื้ออังกูรพูดหวาดๆ เจ้าหน้าที่สาวอธิบายกฎการใช้งานของห้องมาแล้ว ปุ่มกดไร้สายนั่นเป็นคำสั่งจากแม่ของเขา


จำนวนครั้งที่ปุ่มถูกกดเท่ากับจำนวนโทษทัณฑ์จากแม่ที่เอื้ออังกูรจะได้รับ


เมธาจ้องอย่างระแวง ทว่าพอเห็นสีหน้าซีดเผือดของอีกฝ่ายก็นึกทึ่งอาวุธในมืออยู่เหมือนกัน ครูคณิตค่อยๆ ลุกขึ้นยืน พอยื่นมือไปข้างหน้า เอื้ออังกูรก็โยกตัวหลบเหมือนเห็นผี ตะโกนเสียงทุ้ม


“ฉันยอมแล้ว! ไม่แกล้งแล้วน่า! เอามือออกจากปุ่มนั่นสักที!”


เมธามองอีกฝ่ายบ่นเป็นหมีกินผึ้งพลางเริ่มเปิดหนังสือเรียนในกล่องอย่างจริงจัง เขาลดมือลงช้าๆ


แล้วคาบเรียนแห่งความวุ่นวายก็เริ่มขึ้น



****************************************************** *

สวัสดีค่าาา า

 :katai4:

โอ๊ย คิดถึงคนอ่านจัง หายไปเกือบสามอาทิตย์แน่ะ 555555555 5

ติดสอบค่าาา า แงงง ง จูนขอโทษจริง ๆ

 :hao5:

รอบนี้จัดเต็มสามรีเลย อ่านกันให้หายคิดถึงไปเลยเนอะ

ช่วงนี้ปิดเทอมแล้วคิดว่าคงจะมาลงได้บ่อยขึ้นนะคะ

พอมีคนมารอแล้วรู้สึกผิดมากเลย นี่ก็รีบแจ้นมาลงให้เลยค่ะ 555555555 5

ขอบคุณสำหรับทุกการติดตามและกำลังใจนะคะ

มันสำคัญกับจูนมากจริง ๆ ค่ะ

สุดท้าย .. อย่าเกลียดเอื้อเลยนะคะ 55555555555 5

 :katai2-1:

เจอกันตอนที่สิบเก้าค่าาาา า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 06:07:37 โดย iJune4S »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13. สุดยอดค่ะ. ขอบคุณที่มาต่อ

ไม่เกลียดแต่ขอถีบอิเอื้อสักสามทีได้ไหมเผื่อจะสำนึกบ้าง  :z6:
เปมเท็นมุ้งมิ้งหวานมากๆ ขอเป็นแฟนซักทีเถอะชิมกุ๊กบ่อยแล้วนะ ก้อกุ๊กอร่อยนี่เนอะ  :hao6: 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 10:38:53 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
เราอยากให้เมแกล้งทำเป็น 'อุ้ย! บังเอิญมือมันไปโดนปุ่มเองน่ะ' จังเลยค่ะ ฮ่าๆ :laugh: อยากเห็นนายเอื้อถูกคุณแม่ทำโทษเสียเหลือเกินค่าา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-05-2015 11:03:44 โดย Mouse2U »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
เป็นเราจะขอซ้อมเอื้อหนักๆซักที!!!!!
ทำไมเกลียดคนแบบนี้ไม่รู้ อยากให้เมเจอคนดีๆ
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
สงสารเม
เอื้อแม่งใจร้าย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4062
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เกลียดเอื้อไปแล้วอ่ะค่ะ ทำไงดีน้อ

(ว่าที่คุณนายบ้านเท็นเนี่ย......11รดจริ๊งงงงงง)

ออฟไลน์ minnin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
แม่เลี้ยงเท็นไม่ธรรมดา แล้วพ่อเท็นคว้ามาทำไมเนี้ย
ไม่เข้าใจจริงๆ ชอบจริงๆหรอผู้หญิงแบบนี้

เปรมดูแลเท็นดีๆนะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ทำไมเอื้อทำร้ายจิตใจเมจังเลย เข้าใจผิดอะไรกันรึเปล่า หรือว่าเอื้อเป็นคนอย่างงี้อยู่แล้ว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
เกลียดไปแล้วไอ้เอื้ออะไรนั้น เมก็กดไปเลยสิ จะสงสารคนอย่างมันทำไม เหี้ยๆแบบนี้ถึงจะเคยช่วยไว้การเหตุการณ์แบบนั้นก็เถอะนะ มันก็ไม่ต่างจากพวกสะวะยั้นป่ะว่ะครับ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
น่ากดปุ่มจัง แกล้งไอ้นักเรียนเกเร

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
 มาต่อทีเดียวยาวเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
พี่หมีเท็นขี้อ้อนอ่า
ทำผิดแล้วยังมาอ้อนไฟ อเอนเท็นอีก. น่ารักอ่าาาาาา  :hao3:

อยากบอกว่า ชอบเรื่องนี้นะคะ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8

ออฟไลน์ miya_pp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ พิมพ์จัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 2
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
 :mew1: คิดถึงไรท์มากกกกกกกกเลยค่ะ รอนะจ้า    เอื้อถึงกับหน้าซีดกันไปเลยทีเดียวเห็นเมธามีของเด็ดอยู่ในมือ(สะใจจร้า)จะได้ไม่มาแกล้งคนตัวเล็กอีก :z2:

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ไอเอื้อ
ปากไม่ตรงกับใจ
มัวขี้เก็กอยู่ได้ เพราะว่าไม่เคยชอบใครจริงๆขึ้นมาล่ะสิ
ถึงได้กลัวจนหลอกตัวเองแบบนี้
พอมาอยู่แบบนี้แล้ว อาจจะหลงคุณครูจนถอนตัวไม่ขึ้นเลยก็ได้นะ
 :z1:

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
โอ๋ๆๆๆ เท็นน้อยของป้า

เจออิแก้ปร้า เข้าหาถึงกับขัวญกระเจิงเลยหรือลูก

อิแก่บ้า อิโรคขาดผู้ชายไม่ได้ มายุ่งกับเท็นน้อยทำไม

ดีนะที่ไม่หนีเตลิดไปใหน เปรมดูแลเท็นให้ดีนะ

อย่าปล่อยให้ใครเอาความโสโมมมาแปะเปื้อนเขาเลย แค่นี้เท็นน้อยก็เป็นคน สองบุคคลิคแถมกลัวสัมพัสของคนแปลกหน้า

แล้วยังต้องมาเจออิแก่ร่าน กามารมณ์ลวนลาม เท็นก็จะกลายเป็นคนหวาดระแวงผู้คนไปจนเสียการเรียนซะเปล่าๆ

เปรมต้องเยียวยา แก้ไข และปกป้องเท็นนะ

หนูเม ที่น่าสงสาร ต้องเข้มแข็งนะลูก

อย่าไปอ่อนข้อให้ไอ้เอื้อมันมาก

รู้ว่าร่างกายเราอ่อนแอ เปราะบางสู้ใครเขาไม่ได้

ก็พก ที่ช๊อทไฟฟ้า สนับมือ หรือ สเปรย์พริกไทย เอาใว้ป้องกันตัวซิ

อย่าให้ใครมาทำเหมือนเราไรค่า อย่าให้ใครมารังแกเราได้

แล้วไอ้พวกที่มาลวนลามเราจะข่มขืนเรา ได้บอกพ่อใหม ได้แจ้งความหรือเปล่า

อย่าปล่อยใว้ เดี๋ยวมันได้ใจไปทำคนอื่นๆอีก เรารอดเพราะมีคนช่วยใช่ว่าคนอื่นๆจะโชคดีมีคนช่วย

บทสรุปคือ คนผิดต้องพถูกลงโทษ เมคิดว่าตนเองผิดที่ไปสารภาพรักเอื้อ เลยโดนเอื้อเกลียด ก็สมเหตุผล

แล้วที่เอื้อมันแสดงอาการดูถูก เหยียดหยามเราอยู่นี่ มันควรโดนลงโทษแบบใหนดีเหรอ กระทืบดีใหม

หรือ ทำให้มันรักแล้วหักอกมันดี แต่ก่อนอื่น เมต้องแข็งแกร่งกว่านี้ อย่าแหย๋ อย่าอ่อนแอนะเม

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
รู้ไหมฉันคิดถึงนิยายของหล่อนนะ

ออฟไลน์ รุ่งนภา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
รอน้องเท็นจ่ายค่าอาหาร..................................ชุดใหญ่ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:



ขอบคุรสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อ่านเรื่องนี้เวลาเกือบเที่ยงแบบนี้รู้มัยว่ามันหิวววววว :hao5:
เอาใจช่วยให้กระชากหน้ากากยัยแม่เลี้ยงของเท็นให้ได้ :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด