Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)  (อ่าน 678829 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukkai

  • a Day dreamer
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
มาต่อ มาต่ิอ มาต่อ :katai4:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
นี่สาบานว่า 50% ยาวเว่อร์ 555
แต่ลุ้นมากเลยอ่ะ ความจริงจะเป็นไงน๊อออ

ออฟไลน์ icecreamii8_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
งานสืบสวน งานฆาตกรรม ก็มาจ้าา อ้ากกกก ลุ้นๆๆ รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ natty.poko

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
สนุกง่อวววว ลุ้นสุดๆ รอครึ่งตอนหลังงงงงง  :katai1:

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง[/size.     :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ sam3sam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-4
เรื่องนี้สนุกมาก
เอ็นดูเด็กโข่งมากจริงๆ กุ๊กก็น่ารัก
ยิ่งตอนนี้ยิ่งลุ้นแผนการไปกับเด็กๆด้วย
รอตอนต่อไปอยู่นะจ๊ะ

ออฟไลน์ มูมู่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
อยากไปบุกงานแต่งแล้วค่ะคนเขียน  :mew2:

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
คืนวันอังคารก่อนถึงวันแต่งงานของหมอแปดกับชาร์ลอตต์ ในห้องนอนขนาดใหญ่โทนสีขาวดำซึ่งตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงและพรมขนสัตว์สุดหรู เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลกำลังหงุดหงิด


“ชิ”


เอื้ออังกูรสบถอย่างขัดใจเมื่อแหล่งข่าวสุดท้ายที่เขาหาได้ปฏิเสธที่จะมอบข้อมูลให้กับเขา แสงสีฟ้าจากจอโน้ตบุ๊กสาดเข้าใบหน้าหล่อร้าย ดวงตาปิศาจฉายแววคุกรุ่น


“น้องเอื้อออ”


จูเลียร์เปิดประตูเข้าห้องมาร้องเสียงหวาน หญิงสาววางชุดว่ายน้ำสองแบบลงบนเตียงใหญ่ ก่อนจะเดินนวยนาดมากอดคอเอาคางเกยหัวลูกชายจากด้านหลังอย่างออดอ้อน


“เอื้อจ๋า...”


“ยุ่งอยู่ มีไร” เอื้ออังกูรพูดทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอ จูเลียร์คิ้วกระตุก เธอคว้าแก้มเด็กหนุ่มดังหมับ เส้นเลือดข้างขมับหญิงสาวปูดโปน เธอบิดแก้มลูกชายอย่างแรงจนฝ่ายหลังร้องลั่น


จูเลียร์พูดลอดไรฟัน “อย่าเย็นชาค่ะ”


“โอ๊ย! หยุดๆ...ยอมแล้ว!” เอื้ออังกูรสะบัดตัวออกห่าง รีบยกมือห้ามเมื่อคนเป็นแม่ทำท่าจะเข้ามาประทุษร้ายเขาอีกรอบ เด็กหนุ่มกุมแก้มตัวเองเซ็งๆ ต้องถามจนได้ว่า


“มีอะไร”


หญิงสาวตาเป็นประกาย รีบวิ่งไปหยิบชุดว่ายน้ำบนเตียงลูกชายมาชูยิ้มๆ บอกว่า “เลือกให้เค้าหน่อยจิ”


“...สีส้ม” เอื้ออังกูรตอบพลางขยับมือนวดหน้าให้หายชา จูเลียร์ร้องคล้ายเสียดายอีกอัน “แล้วสีฟ้าล่ะ?”


“สายคาดมันบางไป เจ๊นมใหญ่ สีส้มสายคล้องคอเส้นใหญ่กว่า” เด็กหนุ่มตอบง่ายๆ หญิงสาวตาเป็นประกาย เธอโผกอดลูกชายแล้วหอมแก้มอีกฝ่ายดังฟอด “กรี๊ดดดด รักน้องเอื้อที่สุดเลยยย”


เอื้ออังกูรกลอกตาเหนื่อยๆ “หมดเรื่องแล้วใช่ไหม”


“จ้า” เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้วหญิงสาวก็ยิ้มกว้าง เธอผละออกไปอย่างว่าง่ายพร้อมเอื้ออังกูรที่หันไปทางจอโน้ตบุ๊กตามเดิม
จูเลียร์กำลังจะเดินออกจากห้อง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นโพสอิทที่แปะอยู่บนผนังเหนือโต๊ะทำงานของลูกชาย เธอดึงออกมาดูใกล้ๆ อย่างถือวิสาสะ


“เนี่ยเหรอยุ่งที่ว่า?”


เอื้ออังกูรเพียงเหลือบตามองเท่านั้น มือยังคงพรมนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ด “อือ ต้องใช้พรุ่งนี้ด้วย”


“ใช้ทำอะไร” ดวงตาเอื่อยเฉื่อยคู่งามเกิดประกายวูบ เด็กหนุ่มตอบทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาจากหน้าจอ “จะเอาไปแหกคน แต่ตอนนี้ยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย”


“แหงล่ะ”


จูเลียร์หัวเราะ เธอขยับตัวไปนั่งบนเตียงอย่างเกียจคร้าน “มันเป็นความตั้งใจของ ‘ใครบางคน’ ที่อยากให้เรื่องนี้จบลงในแบบที่เขาต้องการ ยังเร็วไปสิบปีที่แกจะตามกลิ่นเองหนูน้อย”


“เจ๊รู้อะไร?” เอื้ออังกูรหันมาสนใจทันที หญิงสาวสบตาลูกชาย ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มหวานเยิ้ม


“เข้ามา ‘ขอร้อง’ สิจ๊ะ”


จูเลียร์ยักคิ้วอย่างท้าทาย เอื้ออังกูรถอนหายใจ ดวงตาเอื่อยเฉื่อยเกิดประกายวูบยามลูกชายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เด็กหนุ่มหยุดลงตรงหน้าเธอ ตอนนั้นเองที่ร่างสูงโน้มตัวลงมา


ฟอด...


จมูกโด่งสันแตะเข้าข้างแก้มหญิงสาวอย่างแผ่วเบา จูเลียร์เลิกคิ้วล้อๆ “เห...เข้ามาแบบไม่ลังเลเลยนะ”


“แน่นอน” เอื้ออังกูรกลับไปนั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้ตามเดิม ดวงตาปิศาจจับจ้องหญิงสาว ฝ่ายหลังเห็นแล้วอดสัพยอกไม่ได้ “อย่าจ้องด้วยสายตาร้อนแรงนักสิ เขินนะ”


“เร็วๆ” เอื้ออังกูรขมวดคิ้วเร่ง จูเลียร์จิ๊ปากอย่างขัดใจ เธอโบกโพสอิทในมือไหวๆ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่อง


“เชอร์รี่ ไวโกฮาร์โมนิเช่ เป็นลูกสาวคนเดียวของ ‘แองเจิ้ล ไวโกฮาร์โมนิเช่’ นางแบบสาวตาสองสีผู้เคยเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นทั่วโลก...” หญิงสาวเห็นลูกชายทำหน้าเหมือนจะบอกว่า ‘รู้แล้ว’ จึงเล่าต่อ


“ฉันเคยร่วมงานกับแองเจิ้ล เธอเป็นผู้หญิงที่วางตัวดี ฉลาดและงดงาม เส้นทางวงการนางแบบของเธอโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ...แต่น่าเสียดายที่ชีวิตคู่ของเธอกลับไม่ได้สวยงามแบบนั้น”


เอื้ออังกูรยกถ้วยจิบน้ำชาอันเย็นชืด จ้องคนพูดตาไม่กระพริบ


“แองเจิ้ลแต่งงานกับชายหนุ่มเจ้าของบริษัทที่เธอสังกัดอยู่ สื่อให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก และคิดว่าพวกเขาคงจะรักกันราบรื่น แต่สุดท้าย...ด้วยเหตุผลบางประการก็ทำให้ชีวิตคู่ของทั้งสองจบลง”


จูเลียร์เว้นวรรคหายใจ “หลังแยกทางแองเจิ้ลก็หยุดต่อสัญญากับบริษัทเดิม ตอนนั้นมีเชอร์รี่แล้ว แองเจิ้ลจึงผันตัวมาเป็นคุณแม่ใบเลี้ยงเดี่ยว สื่อยังคงให้ความสนใจเธอ และเพราะขยันดูแลตัวเองแองเจิ้ลเลยยังมีงานเดินแบบเข้ามาเรื่อยๆ...”


ดวงตาเอื่อยเฉื่อยหม่นแสงลงวูบหนึ่ง “แต่ไม่นานเธอก็ถูกรถชน”


“อุบัติเหตุงั้นเหรอ?” เอื้ออังกูรเลิกคิ้ว จูเลียร์เหยียดยิ้ม “มันก็แค่ถูกทำให้เป็นแบบนั้น”


เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตาเป็นประกาย เห...เรื่องนี้น่าสนใจกว่าที่คิดแฮะ


“จริงๆ คงสรุปได้ว่าการตายของแองเจิ้ลเป็นอุบัติเหตุไปแล้วถ้าหลังชันสูติศพ...เราไม่พบพิษชนิดพิเศษที่ทำให้เลือดแข็งตัวช้าในร่างกายของเธอ แต่เรื่องนี้ถูกปิดเป็นความลับกับสื่อเอาไว้...”


“ด้วยอิทธิพลของสามี” เอื้ออังกูรเดายิ้มๆ จูเลียร์หัวเราะ “ฉลาดนี่ อา...มีคนรู้เรื่องนี้ไม่กี่คนเท่านั้น”


หญิงสาวพูดอีกว่า “พอโดนรถชนแองเจิ้ลก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล มีหมอสองคนรับผิดชอบเคสผ่าตัดนี้ หนึ่งในนั้นรับเงินจากอดีตสามี ลอบฉีดยาชะลอการแข็งตัวของเลือดเข้าไปในร่างกายของเธอ”


เอื้ออังกูรผิวปากหวือ “เชือดนิ่มๆ เลยแฮะ”


จูเลียร์หัวเราะในลำคอ “สุดท้ายแองเจิ้ลก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จริงๆ นอกจากเชอร์รี่แล้วแองเจิ้ลยังมีน้องชายอีกหนึ่งคน น้องชายเธอพยายามเปิดโปงเรื่องที่ผู้ชายคนนั้นทำกับพี่สาว แต่สุดท้ายเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย”


ลูกชายหรี่ตา “โหย โดนเก็บไปแล้วมั้ง”


ทว่าจูเลียร์แสยะยิ้ม “อันนี้ความลับจ้ะ”


“แล้วหมอที่รับเงินล่ะ?” เอื้ออังกูรไม่สนใจก็ได้ เขาถามต่อ หญิงสาวตอบว่า “ไม่นานนักก็มีคนพบศพเขาถูกยิงตายเป็นปริศนาในห้องที่โรงแรมของตัวเอง” จูเลียร์ยักไหล่ “แต่อันนี้ไม่รู้นะว่าใครทำ”


เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตาเป็นประกาย สมองเริ่มประมวลเรื่องราว


“พอหมอคนนั้นตายก็มีมือดีที่ไหนไม่รู้คุ้ยข่าวที่เขาเคยผ่าตัดแองเจิ้ลขึ้นมาอีก แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบลงด้วยเม็ดเงินของอดีตสามีอยู่ดี แหม ผู้ชายอะไร เลวได้เร้าใจจริงๆ”


เอื้ออังกูรมองแม่ทำหน้าเคลิ้มฝันแหยงๆ อดถามไมได้ว่า “แล้วหมออีกคนล่ะ?”


“หมออีกคนไม่รู้เรื่องอะไร ก็คนที่ฉันเพิ่งไปงานวันเกิดเขามาเร็วๆ นี้น่ะแหละ เป็นเจ้านายของเพื่อนน่ะ” จูเลียร์บอกเท่าที่รู้ เด็กหนุ่มฟังแล้วอดถามไม่ได้


“แล้วเจ๊ไปรู้เรื่องพวกนี้มาจากไหน?”


หญิงสาวกระพริบตาปริบๆ เธอเสมองไปทางอื่น ตอบเสียงสูง “...ก็เพื่อนที่ทำงานเค้าเม้าท์ก๊าน”


“เจ๊ทำงานอะไรวะ?” จนถึงตอนนี้คนเป็นลูกชายก็ยังไม่รู้ จูเลียร์ถอนหายใจ ถามว่า “จะฟังต่อแมะ?”


“ว่ามา” เอื้ออังกูรไม่รบเร้า จริงๆ เรื่องนี้เดี๋ยวเขาไปสืบเอาทีหลังเองก็ได้


“หลังฝังศพแองเจิ้ล เชอร์รี่ที่ยังเด็กก็ถูกส่งไปรับเลี้ยงในสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่ง ชีวิตคงลำบากน่าดู แต่รู้สึกตอนนี้จะได้เป็นนางแบบเหมือนแม่ไปแล้วมั้ง”


เอื้ออังกูรเหยียดยิ้มหลังปะติดปะต่อเรื่องราวได้ทั้งหมด


“ฉันเล่าแค่นี้นะ” จูเลียร์ตัดบท เด็กหนุ่มแบมือออกข้างตัวอย่างไม่แยแส เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว


“เชอร์รี่ผู้น่าสงสาร...”


จู่ๆ หญิงสาวก็พูดขึ้นมา ดวงตาเอื่อยเฉื่อยมองโพสอิทในมืออย่างเวทนา “เธอไม่รู้หรอกว่าตัวเองเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งของผู้ชายคนนั้นเท่านั้น”   


ถึงตรงนี้เอื้ออังกูรก็เลิกคิ้ว “อ้าว เชอร์รี่ไม่รู้หรอกเหรอว่าทั้งหมดเป็นฝีมือของพ่อตัวเอง?”


“เชอร์รี่ไม่มีวันตามผู้ชายคนนั้นทันหรอก” จูเลียร์จุดยิ้มอย่างเทพธิดา “เพราะเธอเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งไงล่ะ”


“ว่าไงนะ?” เด็กหนุ่มย่นคิ้ว เป็นครั้งแรกที่เขาตามไม่ทัน


จูเลียร์ไม่ตอบแต่บอกว่า “เอื้อ... ‘มนุษย์’ น่ะไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่พวกเราจะเข้าไปยุ่งได้หรอกนะ” เธอจุดยิ้มลึกลับ ก่อนจะเดินมาหอมแก้มเขาฟอดหนึ่งแล้วถือชุดว่ายน้ำออกจากห้องไป


เอื้ออังกูรขมวดคิ้ว


“แล้วพวกเราไม่ใช่คนรึไงวะ?”




ในห้องนอนขนาดกลางซึ่งตกแต่งอย่างเรียบง่าย บนเตียงเดี่ยวตรงมุมห้อง เจ้าของห้องกำลังนั่งสะเดาะกุญแจด้วยลวดอยู่อย่างขะมักเขม้น


เขาเป็นเด็กหนุ่มเส้นผมสีชมพูถักเปียก้างปลาเผยให้เห็นเฉดสีม่วงอ่อนที่ซ่อนอยู่ด้านใน เหล็กเส้นเล็กกระจายอยู่รอบๆ ตัวเด็กหนุ่ม ข้างๆ เป็นโน้ตบุ๊กเครื่องเล็กที่จอแสดงวิดีโอวิธีเปิดกล่องเหล็ก


ตอนนั้นเองที่ประตูห้องถูกเปิดออก ผู้มาใหม่เป็นเด็กหนุ่มม.ปลายกัดผมสีฟ้าสว่างตัวสูง ไดนาไมต์ส่งเสียงแบบไม่เงยหน้าขึ้นจากกล่อง “ไงมึง”


“ไดทำไรวะ” น้องชายถามพลางหย่อนตัวนั่งลงพื้นที่ว่างบนเตียง ดวงตาคมกริบจับจ้องมือของพี่ชายที่ขยับตำแหน่งลวดไปมา ไดนาไมต์ตอบเสียงอู้อี้เพราะคาบลวดไว้ในปาก “ขืนใจอีหนูอยู่”


บอมบ์มองหวาดๆ บอกว่า “เราอยากปรึกษาอะ”


ไดนาไมต์ผงกหัว “ว่ามา หูกูว่าง”


“ไดเคยแอบรักเพื่อนปะ?”


“...”


ไดนาไมต์เงยหน้ามองน้องชายด้วยแววตาเหมือนปลาตาย ครู่หนึ่งก็ก้มลงไปใหม่ พูดว่า


“อีกแล้วเหรอมึงอะ”


น้องชายเขามันคาสโนว่าตัวพ่อ แต่ใครจะเชื่อว่าเด็กหนุ่มม.ปลายห้องหัวกะทิที่ทั้งหน้าตาดีและตัวสูงผิดกับพี่มันนั้น จะถูกผู้หญิงบอกเลิกมาแล้วเป็นสิบ นี่ก็ยังเป็นเรื่องประหลาดที่ไดนาไมต์ยังหาคำตอบไม่ได้


“เฮ้ยคนนี้จริงจังเว้ย” บอมบ์ร้อง ไดนาไมต์หรี่ตา “มึงก็จริงจังทุกคน”


“ถ้าไดแอบรักเพื่อนไดจะบอกปะวะ” น้องชายถามอย่างประหม่า เด็กหนุ่มผมสีชมพูเสียบลวดเพิ่มอีกรูตามวิดีโอ บ่นว่า “จะไปรู้ไหม ผู้หญิงในเจอร์กูตอนนี้ก็มีแต่พวกบ้าๆ บอๆ ทั้งนั้น”


“...ไม่ต้องผู้หญิงก็ได้” บอมบ์ตอบอ้อมแอ้ม คนเป็นพี่ชายเบิกตาโพล่ง “มึงว่าไงนะ!!”


เด็กม.ปลายเอามืออุดหู ร้องว่า “โอ๊ย...ตะโกนทำไมล่ะ เอาเถอะน่า ถ้าเป็นไดจะทำยังไง”


“...”


ไดนาไมต์คิดหนัก ถ้าเขาแอบรักเพื่อนงั้นเหรอ...จริงๆ อย่าว่าแต่เพื่อนผู้หญิงเลย ไอ้เพื่อนผู้ชายรอบๆ ตัวเขาก็มีแต่พวกลิงค่างไม่ปกติทั้งนั้น เออถ้าอย่างไอ้เปรมนี่คงพอได้อยู่เพราะขนาดตัวใกล้กัน แต่ขืนทำแบบนั้นมีหวังได้โดนไอ้เท็นยิงทิ้งแน่ไม่ต้องสงสัย


สุดท้ายพี่ชายก็ตอบน้องไปว่า “กูดูแนวโน้มว่ะ ถ้าเขาเล่นด้วยก็คงบอกแหละ”


“แล้วถ้าไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับเราอะ?”


“ก็ถามตัวเองเถอะว่ามีความสุขไหม ถ้าการที่ได้อยู่ข้างๆ เขาไปแบบนี้เรามีความสุขอยู่แล้วก็ไม่เห็นต้องทำอะไรเลยนี่? บางความสัมพันธ์ไม่ต้องไปพัฒนามันก็ลึกซึ้งอยู่แล้วนะ”


“แล้วถ้าเขาไปชอบคนอื่นอะ?”


ไดนาไมต์คิ้วกระตุก “รอแม่งจะได้คบกันจริงๆ ก่อนเถอะแล้วค่อยแย่งมา แต่ไอ้ห่า...ถ้าเขาจะมีความสุขแล้วมึงไปขัดมึงจะยังกล้าบอกว่าตัวเองชอบเขาอยู่อีกเหรอวะ?”


บอมบ์ผงกหัวอย่างคิดตาม ตอนนั้นเองที่กล่องเหล็กบนตักไดนาไมต์เกิดเสียงดังกริ๊ก เด็กหนุ่มผมสีชมพูตาโต กล่องปริศนาที่เขาทุ่มเวลานั่งขลุกกับมันมาทั้งวันบัดนี้ได้ถูกสะเดาะออกแล้ว


ไดนาไมต์เปิดกล่องช้าๆ


“นี่มัน...”




บ่ายสามโมงวันพุธ เอื้ออังกูรยืนติดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องนอน ดวงตาปิศาจจับจ้องเงาสะท้อนของตัวเอง สมองนึกถึงแผนการที่ตกลงกันไว้เมื่อวันเสาร์


หลังเสร็จพิธีในโบสถ์พวกเขาคิดจะฉายวิดีโอเปิดโปงนางแบบสาวที่โรงแรมซึ่งใช้จัดงานช่วงค่ำ และด้วยโรงแรมนั้นเป็นหนึ่งในเครือของธุรกิจบ้านเอื้ออังกูร เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลจึงได้รับหน้าที่เตรียมการติดตั้งเครื่องฉาย โดยรอบนี้ไฟได้เสนอให้ทุกคนพกแฟลตไดรฟ์บรรจุคลิปเอาไว้เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน


เอื้ออังกูรแสยะยิ้มใส่กระจก แต่แหม ถ้าทำตามแผนแบบนั้นมันก็ไม่สนุกน่ะสิ


ครืด...


สมาร์ทโฟนของเด็กหนุ่มสั่นตัวก่อนจะแผดเสียงร้อง ดวงตาปิศาจเหลือบมองชื่อบนหน้าจอ เอื้ออังกูรสไลด์นิ้วรับสายแล้วกดเปิดลำโพง


(มึงอยู่ไหน?) ปลายสายคือนายกานต์เจ้าเก่า เอื้ออังกูรตอบขณะผูกเนคไท


“บ้าน”


ตอนนั้นเองที่ปลายสายร้องว่า (มึง! วันก่อนกูไปถามเพื่อนๆ ของเมมา เขาบอกว่าวันนี้เมจะไปโบสถ์อาสนวิหารตอนเย็น กูเลยคิดว่าน่าจะได้เจอกวางน้อยในงานแต่งของหมอแปด)


เอื้ออังกูรหรี่ตา เผลอเสียงแข็งว่า “แล้วไง?”


(มึงก็ได้การ์ดเชิญใช่ไหม เอื้อ มึงช่วยกูหน่อยดิ) เสือร้ายขอความช่วยเหลือ คนฟังได้ยินแล้วขมวดคิ้ว “มึงจะให้กูช่วยอะไร?”


(กูอยากงาบกวางน้อยแล้วอะ กูจีบมานานแล้ว) กานต์บอกง่ายๆ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลคิ้วกระตุก “นานของมึงน่ะมันเท่าไหร่?”


(อาทิตย์นึงแล้วนะเว้ย! นานขนาดนี้มันต้องได้แล้วอะ เดี๋ยวเสียมาตรฐาน) หนุ่มหน้าตี๋กระเง้ากระงอด เอื้ออังกูรถอนหายใจ ในอกเกิดความรู้สึกปวดหนึบประหลาดแต่สุดท้ายเขาก็ปัดมันทิ้ง ถามว่า


“แล้วจะให้กูช่วยยังไง?”


(กูอยากเผด็จศึกกวางน้อยอะ หมอแปดมีงานตอนเย็นที่โรงแรมมึงนี่ เอาที่นั่นก็ได้) กานต์บอกอย่างกระตือรือร้น เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลมองบน ได้ยินเพื่อนพูดอีกว่า (กูจะทำยังไงให้เขายอมมากับกูดีวะ?)


“...มึงเอาคนนี้จริงดิ” เอื้ออังกูรหลุดถามออกมา ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะตอบกลับมา


(ถามจริงไอ้เอื้อ...มึงหวงเหรอ?)


ใบหน้าหล่อร้ายกระตุกหงึก ตัดสินใจโพล่งขึ้นว่า “มึงมาเจอกูพร้อมกับหมอนั่นให้ได้ก่อน เดี๋ยวกูจัดการเอง”


(เฮ้ย เอางั้นเลยเหรอวะ) กานต์ร้องกึ่งตื่นเต้นกึ่งไม่แน่ใจ (อะไรมึงจะเท่ขนาดนั้น)


“อยากได้ก็ทำตามที่กูบอกพอ” เอื้ออังกูรตัดบท ใช่แล้ว เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับเมธาเสียหน่อย หมอนั่นมันก็แค่ผู้ชายที่เคยบอกรักเขา แบบนั้นแล้วจะผู้ชายคนไหนมันก็คงไม่ปฏิเสธหรอก


(หูยรักมึงที่สุดเลยเอื้อ ขอบใจมาก แล้วเจอกัน!) เสือร้ายร้องบอกก่อนจะตัดสายไป


เอื้ออังกูรหยิบเสื้อสูทสีดำเข้ารูปขึ้นมาสวม เขาสบตาตัวเองในกระจกครั้งสุดท้าย เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็คว้ากุญแจรถกับกล่องเหล็กบนโต๊ะแล้วเดินออกจากห้องไป




บริเวณหน้าโบสถ์อาสนวิหารยามเย็นเต็มไปด้วยความคึกคัก ปรากฏรถหรูยี่ห้อดังนำเข้าจากต่างประเทศจอดเรียงรายประชันโฉมล้อแสงอาทิตย์อัสดง เหล่าผู้ทรงอิทธิพลและกลุ่มบุคคลมีชื่อเสียงมากมายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพง พวกเขาเดินพูดคุยกันเข้าประตูโบสถ์ไปด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม


ตอนนั้นเองที่ปอร์เช่สีขาวคันงามแล่นเข้าเทียบท่า ผู้มาใหม่คือเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลในชุดสูทสีดำสนิท


ใบหน้าหล่อร้ายถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีชาไปเสียเกือบครึ่ง ร่างสูงเดินถือช่อดอกไม้ราคาแพงเข้าโบสถ์มาท่ามกลางหลายสายตาที่จับจ้องคล้ายชื่นชม ตอนนั้นเองที่มีคนเรียกเขา


“ไอ้เอื้อ!”


เอื้ออังกูรยกยิ้ม ยกมือทักทายกลับ “หน่องเปรม!”


เขาเดินเข้าไปหาพ่อครัว อีกฝ่ายอยู่ในชุดสูทเข้ารูปสีครีม เปมทัตมองมือเพื่อนแล้วถามว่า “มึงเอาดอกไม้มาทำอะไรวะ?”
เอื้ออังกูรโบกช่อดอกไม้กลั้วหัวเราะ “เอามาให้ไอ้ตัวใหญ่ลูกชายหมอแปด”


“เท็นน่ะเหรอ” เปรมเลิกคิ้ว จำได้แล้วว่าหมอนี่เคยโดนเด็กโข่งต่อยหน้ามาก่อน ร้องเสียงสูง “ให้ดอกไม้เนี่ยนะ?”


“แสดงความยินดีกับมันไง ได้แม่ใหม่” เอื้ออังกูรสัพยอกแรงจนโดนพ่อครัวต่อยแขนดังผัวะ เปรมด่าว่า “ปากมึงนี่ไม่ต้องหมาเหมือนใจก็ได้”


“โอ้โห พูดอะไรให้เกียรติเนคไทกูนิดนึง” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยืดตัวทำหน้ากวน ถึงตรงนี้ไฟก็เดินเข้ามาสมทบ


อัคคีสวมทักซิโด้สีเทาอ่อน ใบหน้าหล่อเหลานั้นฉายแววกังวล หลังทักทายเอื้ออังกูรแล้วหมอยาก็ลดเสียงลงคล้ายกระซิบ “เอื้อ มึงแน่ใจเหรอว่าแผนนี้จะเวิร์ค?”


“เวิร์คเด่ะ” เอื้ออังกูรตอบกวนๆ ไฟขมวดคิ้ว แย้งว่า “แต่ดูยังไงก็เหมือนแค่เราเปลี่ยนมาถือแฟลตไดรฟ์กันทุกคนเองนะเว้ย มันจะไม่ได้โดนแหกอีกเหรอวะ?”


“ระดับนี้แล้วน่า คิดมากไปได้” ว่าที่โบรกเกอร์ตบไหล่เพื่อน หมอยาหน้ากระตุก “ไอ้ห่า กูไม่ยอมโดนแหกอีกแล้วนะเว้ย นี่ไปเดินส่องมาก็เหมือนจะเห็นลูกน้องชาร์ลอตต์แฝงตัวเป็นบอดี้การ์ดในงานหลายคนเลย”


“ระวังตัวแจน่าดูเลยนะทางนั้น” เปรมเหงื่อตก ก่อนไฟจะหันไปทางเอื้ออังกูรอีกรอบ “อีกทีเถอะ มึงแน่ใจนะไอ้เอื้อ?”


“เออน่า ทำตามที่กูบอกนั่นแหละ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตัดบท ไฟมองอีกฝ่ายอย่างนึกสังหรณ์ไม่ดี แล้วเอื้ออังกูรก็พูดว่า “งั้นกูเอาดอกไม้ไปเยาะเย้ยไอ้เท็นก่อนนะ”


“ไอ้เอื้อ!” เปรมเอ็ดเสียงเขียว ปิศาจร้ายหัวเราะชอบใจ หยอกว่า “จะแกล้งให้ร้องไห้เลยคอยดู”


แม้จริงๆ แล้วเขาจะแค่เอาดอกไม้มาให้หมอแปดแทนจูเลียร์เท่านั้นก็ตาม




วีออสสีขาวจอดลงหน้าโบสถ์อาสนวิหารในเวลาเกือบห้าโมงเย็น ประตูข้างคนขับถูกเปิดออก เด็กหนุ่มผมสีชมพูสวมทักซิโด้สีดำก้าวลงจากรถ เขาบอกขอบคุณน้องชายที่เป็นคนขับแล้วรถก็เคลื่อนจากไป


ไดนาไมต์เดินมาหยุดหน้าประตูโบสถ์ พลันหางตาเหลือบเห็นความเคลื่อนไหวทางขวามือ


เด็กหนุ่มตัวสูงในชุดสูทสีกรมท่าจอดบิ๊กไบค์สีขาวเสร็จพอดี มือหนาถอดหมวกกันน็อคสีเดียวกับรถออกเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลา เส้นผมสีดำตัดสั้นถูกจัดทรงอย่างดีไม่มีเสียรูปแม้แต่น้อย


สามสีเข้ามาสมทบกับคู่หู ดวงตาคมกริบจับจ้องใบหน้าอีกฝ่าย อดถามไม่ได้ว่า “หน้าซีดเชียวมึง เป็นไรวะ?”


“กูท้องเสียอะ มวนท้องมากเลยตอนนี้” ไดนาไมต์ตอบเสียงแผ่ว สามสีหัวเราะ นึกออกแล้วว่าก่อนหน้านี้อีกฝ่ายมาบ่นเรื่องท้องไส้ให้ฟังอยู่บ่อยๆ หยอกว่า “กูบอกแล้วว่าให้กินตำลึง”


ไดนาไมต์ส่งสายตาว่างเปล่ากลับมาแทนคำตอบ ก่อนทั้งคู่จะเดินเข้ามาสมทบกับเปรมและไฟที่ยืนรออยู่ด้านใน สามสีเปิดปากถามว่า “แล้วคนอื่นล่ะ?”


“ไอ้โชหลบไปทำสมาธิเตรียมแสดง” ไฟเป็นคนตอบ “ส่วนไอ้เท็นอยู่กับหมอแปด ยังไม่ออกมา”


“เมยังไม่มาเลย” เปรมเสริม ไดนาไมต์เลยถามหาอีกคน “แล้วไอ้เอื้อมายัง?”


“มาแล้ว เพิ่งเอาดอกไม้ให้เจ้าภาพหลังโบสถ์เมื่อกี้” พ่อครัวบอก เด็กหนุ่มผมสีชมพูผงกหัวรับรู้ เขาล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อตัวเอง คิดจะบอกเรื่องความลับในกล่อง


พลันอาการมวนท้องก็จู่โจมขึ้นมา ไดนาไมต์หน้าเสีย รีบร้องว่า “มึงๆ กูไปห้องน้ำก่อนนะ!”


“ให้กูไปด้วยไหม?” สามสีหันมาถาม ทว่าคนฟังสั่นหัว บอกว่า “ไม่ต้อง เดี๋ยวกูมา” ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากโบสถ์ไป ตามด้วยพวกเปรมและแขกคนอื่นๆ ที่เริ่มทยอยกันจับจองเก้าอี้นั่ง




ไม่นานนักพิธีแต่งงานก็เริ่มขึ้น เอื้ออังกูรแสดงความยินดีกับหมอแปดเรียบร้อยแล้ว เขาเดินออกมายืนอยู่นอกโบสถ์อย่างผิดวิสัยแขก เจอกับกานต์ที่เดินถือช่อดอกไม้ราคาแพงเข้ามาพอดี


หนุ่มหน้าตี๋ยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขา ร้องเรียก “ไอ้เอื้อ!”


“เออ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลพยักหน้าให้ กานต์กวาดตาไปรอบๆ อย่างตื่นเต้น “เฮ้ย กวางน้อยกูมายังวะ?”


“ยัง” เอื้ออังกูรตอบเรียบๆ คนฟังผงกหัวรับรู้ ชูช่อดอกไม้ขึ้นแล้วพูดว่า “งั้นเดี๋ยวกูเอาดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับหมอแปดก่อน แต่พิธีเริ่มแล้วกูจะให้ยังไงวะเนี่ย”


“มึงเอาไปฝากเลขาเขาก็ได้” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลบอก มือหนาล้วงเข้าใต้อกเสื้อก่อนจะโยนบางสิ่งให้เพื่อน


หมับ!


กานต์โดดรับไว้แทบไม่ทัน ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นของในมือ


“กุญแจห้อง” เอื้ออังกูรพูดหน้าตาย หนุ่มหน้าตี๋ตาโต กระโดดกอดร่างสูงด้วยความดีใจ “วู่ยยย ขอบใจมากกก มึงนี่กัลยาณมิตรของกูจริงๆ เอื้อ รักกก!”


ร่างสูงกลอกตาหน่ายๆ


เอาเถอะ...แบบนี้แหละดีแล้ว


ก่อนกานต์จะวิ่งถือช่อดอกไม้เข้าโบสถ์ไป เป็นจังหวะที่เมธาเพิ่งนั่งแท็กซี่มาถึงพอดี เด็กหนุ่มร่างเล็กสวมสูทสีฟ้า เดินเข้างานมาด้วยใบหน้าอิดโรย ก่อนเอื้ออังกูรจะก้าวเข้าไปยืนดักหน้าเอาไว้


ครูคณิตสะดุ้งเฮือก ดวงตาสีนิลคู่เล็กสั่นระริก


“จะไปไหน?”


เอื้ออังกูรถามเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะเดินหนี ดวงตาปิศาจจับจ้องเหยื่อตัวน้อยที่เขากำลังจะต้อนให้เสือร้ายขย้ำในไม่กี่อึดใจข้างหน้า เมธาหลุบตาต่ำ ตอบกลั้วไอ “แค่ก...ฉะ ฉันจะไปหาเปรม”


“ไม่ต้องแล้ว” คนตัวสูงตัดบท เมธามองหน้าคนพูดคล้ายตามไม่ทัน “นายหมายถึง...?”


เอื้ออังกูรสบตาคนฟัง พูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า “เราเปลี่ยนแผนกันนิดหน่อย ให้นายล่วงหน้าไปรอที่โรงแรมจัดงานช่วงค่ำได้เลย”
คนตัวเล็กขมวดคิ้ว เขาหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดโทรหาเปมทัต ก่อนเอื้ออังกูรจะขัดว่า “เสียใจด้วยนะ แต่เขาให้ปิดมือถือระหว่างดำเนินพิธี”


แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เมธาหน้าเสีย กำลังจะพูดว่า “ให้ฉันเข้าไป...”


“นายคิดว่าฉันมายืนรอนายทำไมกัน” เสียงทุ้มนั้นเย็นเยียบ “อย่าให้ต้องพูดซ้ำ ไปรอที่โรงแรมของฉัน”


“ละ แล้วฉันจะไปยังไง” เมธาถามอย่างไม่เข้าใจ ตอนนั้นเองที่กานต์กลับออกมาจากในโบสถ์ เมื่อเห็นร่างเล็กคุ้นตายืนอยู่ก็ร้องว่า “เม!”


ครูคณิตหันไปตามเสียงเรียก เบิกตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเจออีกฝ่าย เรียกว่า “คุณกานต์...”


เอื้ออังกูรแสยะยิ้ม โฮ่...เรียกเสียงหวานเลยแฮะ


“เอื้อมึงแกล้งอะไรคุณเมรึเปล่าเนี่ย” กานต์สัพยอกด้วยรอยยิ้มเทพบุตร เอื้ออังกูรลอบกลอกตาให้กับท่าทางสับปลับนั่น เมธาเลิกคิ้ว “เอ๊ะ พวกคุณสองคน?”


“เราเป็นเพื่อนกันครับ” กานต์กอดคอเอื้ออังกูรพร้อมยิ้มหวาน ก่อนฝ่ายหลังจะพูดว่า “พอดีเลย นี่ก็รู้จักกันใช่ไหม งั้นกานต์ กูฝากมึงไปส่งเมที่โรงแรมกูใกล้ๆ นี้หน่อยสิ”


กานต์กระพริบตา แต่ก็รับมุกว่า “เอ๊ะ คุณเมจะไปเหรอครับ?”


“เอ่อ ผม...” เมธาอ้ำอึ้งอย่างลำบากใจ เขาไม่ได้เข้าฟังตอนรวมพลเลยไม่รู้แผน แต่เคยได้ยินจากเปรมมาแล้วว่าเอื้ออังกูรก็เข้าร่วมในภารกิจครั้งนี้ด้วย


เมธาสบตาตัวคนใหญ่ เขาควรเชื่ออีกฝ่ายหรือเปล่านะ...


“เออ หมอนี่มีธุระต้องไปน่ะ ฝากด้วยนะ” ใบหน้าหล่อร้ายไม่ส่อเค้าอารมณ์ใด เสือร้ายลอบยิ้ม ก่อนจะหันไปพูดกับครูคณิตอย่างอบอุ่นว่า “งั้นเชิญคุณเมทางนี้ครับ”


เอื้ออังกูรสบตาเมธาที่หันมามองหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย พลันในอกปิศาจร้ายก็เกิดความรู้สึกประหลาดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
(ต่อ)



ท้องฟ้าเวลาหกโมงเย็นเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ภายในโบสถ์อาสนวิหารเปิดไฟแล้ว พร้อมพิธีจุดเทียนซึ่งสิ้นสุดลงอย่างราบรื่นท่ามกลางสายตาของแขกในงานที่มองเจ้าบ่าวอย่างชื่นชม


หมอแปดสวมสูทสีครีมและรองเท้าหนังสีน้ำตาลยืนอยู่ด้านหน้า ดวงตายาวรีคู่นั้นทอประกายสุขุม เส้นผมสีดำหวีเสยขึ้นล้อมกรอบใบหน้าหล่อเหลาอย่างมีภูมิฐาน


พลันเพลงต้อนรับก็ถูกบรรเลงขึ้น เจ้าของท่วงทำนองคือเด็กหนุ่มตัวเล็กในชุดสูทสีงาช้าง ดวงตาแมวคู่งามหลับพริ้ม พร้อมนิ้วเรียวที่พรมลงบนแป้นคีย์บอร์ดเปียโนอย่างพลิ้วไหว เรื่องราวซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านตัวโน้ตโดยโชนั้นช่างงดงามราวกับภาพวาด


ถึงตรงนี้ขบวนเจ้าสาวก็เริ่มทยอยเดินเข้ามาในโบสถ์ นำโดยเด็กน้อยผู้ถือแหวนหมั้น ตามด้วยกลุ่มเด็กหญิงซึ่งกำลังโปรยดอกไม้ไปด้านข้างให้แขกที่ลุกขึ้นยืนพร้อมรอยยิ้ม


ที่เก้าอี้ยาวใกล้ๆ นั่นเอง สามสีรู้สึกว่าคู่หูของเขาหายไปนานผิดปกติ


เด็กหนุ่มตัวสูงหันไปมองพ่อครัวกับหมอยาที่ยืนข้างกันอยู่อีกฝั่ง เลยไปยังรอบๆ ด้านใน ขมวดคิ้วเมื่อพบว่าจำนวนลูกน้องชาร์ลอตต์บางตาลงจนน่าผิดสังเกต


ด้วยความสงสัยจึงคิดจะเดินออกไปข้างนอก ตอนนั้นเองที่อะไรบางอย่างกดลงตรงสีข้างของเขา


กึก...


สามสีเหลือบตามอง สีดำเมทาลิคแบบนั้นดูแวบเดียวก็รู้ว่าคืออะไร เขากัดฟันกรอด นึกเจ็บใจที่ตัวเองนั่งเหม่อจนเผลอตัวให้ศัตรูเอาปืนเข้ามาจ่อประชิดตัวได้แบบนี้


“อยู่นิ่งๆ”


ชายฉกรรจ์สั่งพร้อมยื่นมืออีกข้างเข้ามาตบตามตัวเด็กหนุ่ม สามสีพยายามส่งสัญญาณให้เปรมกับไฟที่อยู่เยื้องไปด้านหน้าคนละฝั่ง ทว่าก็ไร้ผล


“หึ” ทหารรับจ้างหัวเราะในลำคอเมื่อล้วงกระเป๋าสูทของอีกฝ่าย ในมือปรากฏแฟลตไดรฟ์ที่เด็กหนุ่มคิดจะใช้เปิดโปงนางแบบสาวที่โรงแรม ก่อนจะขยับจมูกฟุดฟิด “เอ กลิ่นคุ้นๆ นะ...”


ชายฉกรรจ์สบตาเด็กหนุ่มแล้วยกยิ้มเหี้ยมเกรียม “อะฮ้า มึงนี่เองหนูสกปรกในห้องคุณชาร์ลอตต์!”


สามสีนิ่วหน้ายามอีกฝ่ายกดปากกระบอกปืนแรงขึ้นจนเขาเจ็บสีข้าง มันพูดเสียงเย็น “เป็นอย่างที่คุณชาร์ลอตต์พูดจริงๆ ด้วย ในที่สุดเหยื่อก็ติดกับจนได้”


ดวงตาเด็กหนุ่มแข็งกร้าว “หมายความว่ายังไง?”


“คุณชาร์ลอตต์บอกกูว่าเธอวางรูปถ่ายไว้ใต้เตียง แต่ตอนที่กูเข้าไปค้นไม่เห็นมีอยู่ หึ...พวกมึงเก็บไปแล้วล่ะสิท่า” ท้ายประโยคคล้ายเยาะเย้ย สามสีกัดฟันกรอด รูปถ่ายนั่นเป็นกับดักล่อเขาจริงๆ!


ตอนนั้นเองที่ทหารรับจ้างยื่นหน้าเข้ามา กระซิบว่า “ส่วนหนูอีกตัวตอนนี้อยู่ในห้องน้ำสินะ?”


“ว่าไงนะ”


เสียงทุ้มนั้นเย็นเยียบ สามสีจ้องอีกฝ่ายเขม็ง ชายฉกรรจ์เห็นแล้วแสยะยิ้ม หยอกว่า “หึๆ โดนแมวกินไปแล้วมั้ง?”


“ชิ”


เพียงเท่านั้นสามสีก็อาศัยจังหวะที่คนกำลังสนใจขบวนเจ้าสาวรีบวิ่งออกมานอกโบสถ์ทันที




ท้องฟ้าด้านนอกมืดลงแล้วทว่าเด็กหนุ่มตัวสูงยังคงสับขาวิ่ง จุดหมายคือห้องน้ำด้านหลังโบสถ์ ตอนนั้นเองที่รอบข้างเกิดเสียงพุ่มไม้ขยับ รู้สึกตัวอีกทีสามสีก็ตกอยู่ในวงล้อมของเหล่าชายฉกรรจ์เสียแล้ว


หนอย...กับดักงั้นเหรอ


“ให้รอซะนานเลยนะ...ไอ้หนู”


หนึ่งในนั้นพูดพลางหักมือกรอบแกรบ สามสีเข้าใจทันที ที่คนด้านในจำนวนบางตาลงเพราะพวกมันออกมารออยู่ข้างนอกกันหมดนี่เอง


“อา โทษทีละกัน” เด็กหนุ่มตั้งสติได้แล้ว เขาจุดยิ้มยียวน ลอบกวาดสายตานับจำนวนอีกฝ่าย


แปดคน...เยอะเอาเรื่องแฮะ


“ปากดีนี่” ชายร่างสันทัดซึ่งยืนอยู่ข้างหลังผิวปากหวือ ตามด้วยอีกคนที่ส่งเสียงขึ้นมาอย่างคึกคะนอง “เดี๋ยวจะดูว่าหลังโดนพวกกูไปแล้วมึงจะยังปากดีแบบนี้ได้อยู่ไหม!”


“ร้อนแรงกันจังนะ” สามสีคลายเนคไทยิ้มๆ เขาสูดลมหายใจลึก ก่อนจะพูดว่า


“ออมมือให้หน่อยล่ะ...สูทเค้าแพง”




ท่วงทำนองอ่อนหวานดังก้องไปทั่วสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ ผู้บรรเลงบทเพลงยังคงเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็กสวมสูทสีงาช้างซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเปียโนหลังใหญ่


ทว่าใบหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก...


จากตรงนี้โชมองเห็นทุกอย่าง เด็กประมงมองเห็นสามสีโดนชายฉกรรจ์ใช้ปืนขู่แต่เขากลับทำอะไรไมได้ ชลันธรพยายามหาจังหวะสบตากับไฟแบบไม่ให้ผิดสังเกต


ตอนนั้นเองที่ทั้งคู่สบตากัน...


โชไม่รอช้า รีบบุ้ยปากไปทางที่นั่งของสามสีทันที



 
ไฟสบตากับนักเปียโนจำเป็นแล้วขมวดคิ้ว เขาหันคอมองตาม ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อที่ว่างนั้นไร้ร่างเพื่อนตัวสูงอย่างที่ควรจะมี
ถึงตรงนี้เจ้าสาวก็เดินเข้ามาแล้ว แขกทุกคนนั่งลงตามเดิม ไฟกระซิบบอกเปรมที่นั่งข้างกันว่า “มึง...ไอ้สามหาย เดี๋ยวกูออกไปดูข้างนอกแป๊บ...”


กึก!


ตอนนั้นเองที่อะไรบางอย่างจ่อเข้ากลางหลังหมอยา อัคคีชะงักยามได้ยินเสียงแหบห้าวกระซิบ


“อย่าขยับ”


เด็กหนุ่มผมสีแดงหันไปมองหน้าพ่อครัว ฝ่ายหลังขยับตัวเล็กน้อย เผยให้เห็นสีข้างตัวเองที่ถูกลูกน้องชาร์ลอตต์อีกคนเอาปืนจ่อไว้เช่นกัน ไฟกัดฟันกรอด


เสร็จมัน...


ชายฉกรรจ์ยื่นมือมาค้นตัวพวกเขา ไม่นานแฟลตไดรฟ์ที่จะใช้เปิดโปงชาร์ลอตต์ก็ถูกหยิบไปจากทั้งคู่ หมอยาจิ๊ปากอย่างขัดใจ เขาหันไปโวยวายใส่เปรมเสียงกระซิบ


“ไอ้เหี้ย! กูบอกแล้วเห็นไหมว่าเดี๋ยวก็โดนแหกอีก!”


เปรมหน้าเจื่อน ฟังเพื่อนบ่นอีกว่า “แล้วไงทีนี้ ไอ้สามกับไอ้ไดหาย มึงกับกูก็ง่อยแดกแบบนี้ ไอ้โชก็ดีดเปียโนอยู่ตรงโน้น ไอ้เมก็ยังไม่มา...นี่ไม่มาแล้วมั้งเนี่ย!”


“มึงใจเย็นๆ นะ” พ่อครัวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ แต่อัคคีแทรกว่า


“แผนเราโดนแหกอีกแล้ว! ละนี่ไอ้เอื้อไปไหน...” พลันไฟก็เบิกตาโพล่ง ก่อนจะเปลี่ยนมาทำหน้าสิ้นหวัง พูดเสียงแข็ง “นั่นไง...กูว่าแล้ว ไอ้เหี้ยเอื้อนี่เอง มันรู้แน่ๆ ว่าจะต้องเป็นแบบนี้ แม่งเลยทิ้งพวกเราไปแล้ว!”


“ไม่หรอก...”


“ไม่หรอกอะไร นี่ไง...ทิ้งกูไว้กลางทางของแท้เลยไอ้เหี้ย!” ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววโกรธขึ้ง ก่อนไฟจะเหลือกตาเปล่งเสียงร้องทื่อๆ แบบประชดว่า “ทำ...ถูก...แล้ว...ที่เธอเลือกเขา...และทิ้ง...ฉันไว้...ตรงกลางทาง...”


“...”


เปรมมองเพื่อนอย่างไม่รู้จะขำหรือสงสารดี ถึงตรงนี้เหมือนหมอยาจะปลงแล้ว พูดว่า “ทำไงทีนี้ แผนพังหมดแล้ว...ก็จบแบบเดิมอะเหรอ?”


ทว่าในเวลาแบบนี้ พ่อครัวก็ยังยิ้มออกมา

“ไม่จบแบบเดิมหรอก...”


ชาร์ลอตต์หยุดลงตรงหน้าหมอแปดที่ยืนรออยู่แล้ว เปมทัตมองภาพนั้น ก่อนจะหันมาสบตากับไฟแล้วพูดว่า


“เพราะครั้งนี้เรามีเอื้ออังกูรไงล่ะ”


พรึบ!


สิ้นคำไฟทุกดวงในโบสถ์ดับลง เกิดเสียงฮือฮาจากทั่วสารทิศ ตามด้วยเสียงกุกกักตรงบริเวณแท่นพิธีด้านหน้า ไม่นานนักก็เกิดลำแสงฉายภาพขึ้นปรากฏบนฝาผนังโบสถ์


“นั่นมัน...” หมอยาอ้าปากค้างอย่างนึกอึ้ง


บนฝาผนังโบสถ์ตอนนี้แสดงภาพวิดีโอหลักฐานที่พวกเขาตัดต่อเอาไว้ แขกในงานเริ่มซุบซิบกันวิจารณ์อย่างสนใจ แว่วเสียงใครบางคนสั่งให้ปิดเครื่องฉาย ทว่าก็ไม่นานก็เงียบหายแล้วปล่อยให้วิดีโอเล่นต่อไปแบบนั้น


เปมทัตรู้สึกได้ถึงอาการลนลานจากชายฉกรรจ์ที่นั่งข้างๆ เขาสบตาไฟในความมืด ก่อนจะอาศัยจังหวะนี้ขยับตัวหันไปวาดขาใส่ลูกน้องชาร์ลอตต์เสียงดัง


ปึง! โครม!


เก้าอี้ยาวเอียงล้มกระเท่เร่ตามด้วยแขกในงานที่ลุกพรวด เสียงหนึ่งตะโกน “มีคนตีกัน!” ตามด้วยพวกผู้หญิงที่พร้อมใจกันกรีดร้องแล้วพากันวิ่งออกจากโบสถ์ไป


ภายในโบสถ์เกิดความโกลาหลวุ่นวาย โชเห็นแบบนั้นจึงรีบลงจากแท่นเปียโนมาช่วย ตอนนั้นเองที่วิดีโอเกิดเสียงดัง...


ปัง!




ปัง...


สามสีลืมตาขึ้นช้าๆ หูเหมือนได้ยินเสียงปืนดังมาจากที่ไกลๆ


“อึก...” เด็กหนุ่มนิ่วหน้ายามขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ตะลุมบอนกับชายฉกรรจ์แปดคนตึงมือกว่าที่คิด ดวงตาสีนิลกวาดมอง รอบตัวเขาเต็มไปด้วยร่างไร้สติของเหล่าลูกน้องชาร์ลอตต์


“อะไรเนี่ย...ฉันตื่นก่อนเหรอ”


สามสีบ่นกลั้วหัวเราะพลางลุกขึ้นปัดกางเกง ดูเวลาแล้วเหมือนเขาจะน็อคไปประมาณสิบนาทีได้ เด็กหนุ่มมองด้านในโบสถ์ที่ปิดไฟมืดอย่างแปลกใจ


แต่ก่อนอื่นคงต้องไปหาตัวการที่ทำให้เขาโดนหลอกออกมาเสียก่อน


ใช้เวลาไม่นานสามสีก็มาถึงห้องน้ำหลังโบสถ์อย่างปลอดภัย แว่วเสียงกดชักโครกดังมาให้ได้ยิน ตามด้วยประตูห้องน้ำบานด้านในสุดที่ถูกเปิดออก


“ไอ้สาม?”


สามสีมองคู่หูที่เดินเสียบหูฟังออกมาหน้างงๆ แล้วถอนหายใจ พูดว่า “ไง เพลินเลยสิมึง”


“ดูหนังจบไปเรื่องนึงได้” ไดนาไมต์ถอดหูฟังกลั้วหัวเราะ ใบหน้าของเขากลับมาสดใสเมื่อได้ปลดปล่อย


เด็กหนุ่มตัวสูงมองเพื่อนที่ยังเป็นปกติดีด้วยแววตาเหมือนยกภูเขาออกจากอก ถามเสียงแผ่ว “ไม่ได้โดนทำอะไรใช่ไหม...”


“เปล่านี่?” ไดนาไมต์เลิกคิ้ว ก่อนจะตาโตเมื่อเห็นสภาพเพื่อนเต็มตา ร้องว่า “เฮ้ย! นี่มึง...”


ปึก!


ตอนนั้นเองที่ร่างสูงโถมลงมากอดเขาแล้วทรุดฮวบ ไดนาไมต์รวบร่างใหญ่เอาไว้แน่น แทบตะโกนถาม “สาม! มึงเป็นอะไร? ใครทำอะไรมึงเนี่ย สาม...”


“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”


เสียงทุ้มนั้นดังอยู่ข้างหู เด็กหนุ่มผมสีชมพูกระพริบตาอย่างไม่เข้าใจ ใบหน้าของเขาฉายแววร้อนรน


“สาม! ตอบกูก่อน! เฮ้ยทำไมมึงเละงี้อะ ใครทำอะไรมึง...” เสียงนั้นสั่นคล้ายจะร้องไห้ สามสียกมือลูบหัวเพื่อนกลั้วหัวเราะ กระซิบว่า


“กูไม่เป็นไร...แค่ตาลายนิดหน่อย พากูเข้าโบสถ์ที”


“ขะ เข้าใจแล้ว!” แม้ยังตามไม่ทันแต่ไดนาไมต์ก็พยักหน้ารับ เขาจับแขนเพื่อนตัวสูงพาดบ่าตัวเอง ก่อนจะออกแรงประคองให้เดินไปด้วยกัน




ไดนาไมต์ประคองสามสีมาหยุดอยู่หน้าประตูโบสถ์ที่มืดสนิท พลันไฟด้านในก็สว่างโร่ พวกเขาปรับสายตาครู่หนึ่ง แล้วภาพเบื้องหน้าก็ปรากฏแก่สายตา


เก้าอี้ยาวด้านในโบสถ์ปราศจากผู้คน บนพื้นมีร่างของลูกน้องชาร์ลอตต์อีกส่วนที่ถูกจัดการจนนอนหมอบกระแตอยู่ เลยไปยังตรงแท่นพิธี บัดนี้เหลือเพียงเจ้าบ่าว เจ้าสาว ออกัสและพวกเปรมเท่านั้น รวมทั้งทีมงานออแกไนซ์บางส่วนที่ยังคอยดูลาดเลาจากวงนอกอยู่ประปราย


คู่หูมาทันตอนที่ไฟกำลังพูดกับหญิงสาวว่า


“คุณเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม และวิดีโอเมื่อกี้นี้คือหลักฐาน”


ตามด้วยเปมทัตที่ร้องขึ้น


“คุณต้องการอะไรกันแน่!”


ทุกสายตาพุ่งไปทางชาร์ลอตต์เป็นจุดเดียว เจ้าสาวผมสีทองในชุดแต่งงานสีขาวยืนก้มหน้านิ่ง บรรยากาศในโบสถ์เงียบไปชั่วอึดใจ


ตอนนั้นเองที่หมอแปดพูดว่า


“...”




เมธาลืมตาขึ้นมาด้วยท้ายทอยอันหนักอึ้ง ข้างขมับปวดตุบเพราะไข้หวัด ดวงตาสีนิลหยาดเยิ้มพร้อมแก้มขาวที่ขึ้นสีจัด เนื้อตัวสั่นระริก รู้สึกร่างกายร้อนผ่าวแปลกๆ


เบื้องหน้าเขาคือเพดานห้องสีขาวตกแต่งไฟสีส้ม เด็กหนุ่มหรี่ตาอย่างสู้แสงจ้าไม่ไหว จำได้แล้วว่าหลังขึ้นรถมากับคุณกานต์เพียงครู่เดียวเขาก็หมดสติไป


แกร๊ง!


เสียงประหลาดเรียกครูคณิตตื่นจากภวังค์ เมธาเบิกตากว้าง ขยับแขนทั้งสองข้างอย่างตกใจ


แกร๊งๆ!


“ไง้ ตื่นแล้วเหรอ”


“คุณกานต์!” เมธาหันไปทางต้นเสียง จ้องชายหนุ่มโกรกผมสีทองอย่างตื่นตระหนก “ทะ ทำไมถึงล่ามผมเอาไว้แบบนี้ล่ะครับ”


ร่างสูงย่างสามขุมเข้ามาหา เขาจ้องดวงตาสีนิลที่สั่นระริกนั่นอย่างนึกเอ็นดู กานต์ยกมือแตะแก้มเนียน จุดยิ้มพอใจเมื่อเห็นอาการขัดขืนนิดๆ จากอีกฝ่าย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มสบายหู


“เพราะเธอต้องเป็นของฉันไงล่ะ”


เมธาขมวดคิ้วคล้ายตามไม่ทัน พลันอาการปวดหัวก็จู่โจมจนต้องนิ่วหน้า ถามเสียงแหบ “คุณกานต์พูดอะไร...ปล่อยผม...อ๊ะ!”


“ฉันมีคำถาม ตอบมาตามจริง”


ตอนนั้นเองที่คนตัวสูงล็อคคางเล็กไว้แน่น ดวงตาลูกคนจีนทอประกายเย็นชา ใบหน้านั้นมืดดำไปครึ่งซีก เสียงทุ้มดังยะเยือก


“เธอเคยอ้าขาให้ไอ้เอื้อหรือยัง?”   


เมธาเบิกตากว้าง ร่างกายร้อนผ่าวยามได้ยินชื่อของชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ดวงตาสีนิลทอประกายกร้าว “คนสกปรก! โอ๊ย!” 


คนตัวเล็กร้องออกมาเมื่อมือหนาเพิ่มน้ำหนักมือ เจ็บจนน้ำตาเล็ด กานต์ชายตามองเหยื่อตัวน้อยอย่างโหดเหี้ยมราวกับเป็นคนละคนที่เห็นในตอนแรก


“ฉันถามก็ตอบมาซะ” เขาชูมีดพกเล่มเล็กขึ้นในระดับสายตาครูคณิต ประกายของมันล้อแสงไฟอย่างน่าหวาดเสียว “แค่อยากรู้เท่านั้นแหละว่าเคยไหม เร็วๆ!”


เมธาสะดุ้งยามใบมีดแนบกับใบหน้า ดวงตาสีนิลไหววูบ “ผม...”


“...”


“ทำไมผมต้องบอกคุณด้วย!”
   

เพียะ!


เด็กหนุ่มถูกตบจนหน้าหัน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั้งปาก กานต์เหยียดยิ้ม บีบคางอีกฝ่ายให้หันมาเผชิญหน้าอีกครั้ง พูดเสียงลอดไรฟัน “อย่าวอนให้มากนัก เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันไม่ใช่คนใจดี”


“อึก”


“ฉันจะถามอีกครั้ง...”


“...”


“เธอเคยอ้าขาให้เอื้อมันรึยัง?”


เมธาพยายามคายเลือดออกจากปาก น้ำตารื้นอย่างหวาดกลัว “มะ ไม่...”


“...”


“ฮึก ไม่เคย...”


“ก็แค่นั้นแหละ” กานต์สะบัดร่างเล็กทิ้งอย่างไม่ใยดี เมธาครางแผ่วยามโซ่เหล็กบาดข้อมือจนเลือดซิบ พยายามร้องอ้อนวอน “ปละ ปล่อยผมไปเถอะครับ”


“โง่น่า คิดว่าฉันจีบเธอไปเพื่ออะไรกัน” หนุ่มหน้าตี๋แสยะยิ้ม เมธาตัวสั่นอย่างหวาดกลัว สะดุ้งยามอีกฝ่ายพลิกตัวมาขึ้นคร่อม ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาแทบชิด


“รู้ตัวไหมเนี่ยว่าถูกหลอกมาน่ะ?” น้ำคำนั้นดูแคลนอย่างชัดเจน เมธาเบิกตากว้าง หรือว่า...


“แหม ต้องขอบคุณเอื้อเพื่อนรักเลยนะเนี่ยที่กรุยทางให้ เรื่องง่ายขึ้นเยอะเลย” กานต์ยิ้มเยาะ ครูคณิตพยายามก้มหน้าหลบตา เขาไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น ก่อนจะถูกกระชากผมจนหน้าแหงน


กานต์ตกใจไม่น้อยที่เห็นหยาดน้ำใสไหลออกจากดวงตาสีนิลคู่สวยนั้น ครูคณิตเม้มริมฝีปากแน่น ดูท่าคงพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้น่าดู


เสือร้ายแสยะยิ้ม จุ๊ปากพูดว่า “แต่เอาจริงๆ เธอก็น่ารักตรงสเปคฉันเลยนะ เอาล่ะนี่เป็นกรณีพิเศษ ถ้าฉันจะให้เธอเป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันจะเปิดตัวว่าคบด้วย เธอจะว่ายังไง?”
   

เมธาสบตาคนพูด ตอบคำถามเสียงแผ่วทว่ามั่นคง


“ขอปฏิเสธ”


“ว่าไงนะ?” กานต์แนบใบมีดลงบนลำคอขาวคล้ายขู่ “คิดก่อนพูดก็ดีนะ เธอคิดว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกัน”


ครูคณิตมองประกายมีดล้อแสงไฟ ดวงตาสีนิลหมดอาลัยตายอยากเหลือเกิน


“ลองใช้ปากนั่นทำให้ฉันดูหน่อยเป็นไง” กานต์ยั่วเย้า กระตุกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายพยายามขยับหน้าหนีสัมผัสจากมือเขา “อย่าดื้อไปหน่อยเลยน่า เดี๋ยวก็ติดใจเองแหละ”


“อย่ามาแตะตัวผม!”


เมธาตะโกน ก่อนร่างกายจะรู้สึกร้อนรุ่มแปลกๆ มันครั่นเนื้อครั่นตัวจนอยู่ไม่สุข ตามด้วยมือหนาที่กระชากท้ายทอยเขาจนหน้าเชิด


“เธอจะปากดีได้ก็แค่ตอนนี้แหละ”


“อะไรนะ...เอ๊ะ!” เมธาสะดุ้งยามร่างสูงใช้ผ้าสีดำสนิทมาคาดปิดตาเขาไว้ ครูคณิตออกแรงดิ้น ปฏิเสธโลกสีดำที่อีกฝ่ายมอบให้สุดฤทธิ์ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจขัดขืนได้


“คุณจะทำอะไร! อุ๊บ!” เมธาร้องในลำคอยามร่างสูงก้มลงมาประกบปาก ครูคณิตเม้มริมฝีปากแน่น ครางขู่ในลำคอ “ฮื้อ!”


ร่างผอมสะดุ้งเฮือกยามมือหนาล้วงเข้าใต้เสื้อเชิ้ตสีขาว ลูบไล้กายบางอย่างย่ามใจ เมธาพลิกตัวหนี ร้องห้ามยามอีกฝ่ายซุกไซร้ลำคอระหง “อย่า ฮึก...ไม่เอา...อ๊ะ!”


ร้องเสียงหลงยามยอดอกสีอ่อนถูกครอบครองด้วยโพรงปากร้อน คนตัวเล็กนิ่วหน้า พยายามดิ้นหนีสัมผัสอันน่าขยะแขยงนั่น


“ปละ ปล่อยผม แฮ่ก...” ทว่าความร้อนรุ่มประหลาดที่ตีวนในช่องท้องกลับทำให้ขัดขืนได้ไม่เต็มที่นัก


กานต์แสยะยิ้ม “ฉันเล่นตุกติกกับร่างกายเธอนิดหน่อย คงไม่โกรธกันหรอกนะ?”


“คุณทำอะไร!!” เมธาตะโกนปนหอบ พยายามจับความรู้สึกเพื่อเบี่ยงตัวหลบฝ่ามือของอีกฝ่าย หนุ่มหน้าตี๋มองภาพนั้นยิ้มๆ


“วางใจเถอะน่า ก็แค่ยาปลุกเอง”


เมธากัดฟันกรอด เกร็งตัวยามมือหนาเลื่อนลงต่ำ เขาสะบัดแขนจนเหล็กบาดข้อมือ ตะโกนเสียงสั่น “คุณมันเลวที่สุด! ฮึก...ปล่อยนะ!” พยายามโงหัวขึ้นมาขัดขืน กานต์เอามือกดลำคออีกฝ่ายไว้จนกระดูกเล็กนั่นแทบหักเป็นชิ้นๆ


“อะ อึก”


“เธอสู้ฉันไม่ได้หรอกน่า” เสือร้ายจูบใบหูเล็กอย่างหยอกล้อ ก่อนจะถามว่า “จริงๆ ฉันมีอีกคำถาม...”


ทั้งห้องเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนคนตัวเล็กจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจที่เป่ารดหน้า


“เธอน่ะ...รักไอ้เอื้อมันใช่ไหม?”
   

“อึก...” เมธาชะงัก โดนคำถามของอีกฝ่ายกรีดแทงหัวใจเสียจนเจ็บปวด “ระ เรื่องนั้น...”
   

“จริงๆ ด้วยสินะ” ดวงตาลูกคนจีนจับจ้องเรือนร่างตรงหน้า หัวเราะในลำคอ “หึ ก็สงสารเธออยู่หรอกนะที่โดนมันหลอกแบบนั้น แต่เลิกหวังกับไอ้เอื้อจะดีกว่าล่ะมั้ง”


เมธานิ่งไป ก่อนทำนบน้ำตาจะพังทลายลงมา


“ผมทำไม่ได้หรอก...”
   

กานต์เงียบเสียงไปแล้ว ครูคณิตอาศัยช่วงเวลานี้พูดมันออกมา
   

“ผมทำไม่ได้ ถึงเขาจะเกลียดผม หรือทำร้ายผมสารพัด...ฮึก” เมธาสะอื้นจนเจ็บหน้าอก เขากำมือแน่นอย่างขมขื่น “แต่ผมก็ตัดใจจากเขาไมได้!”


เสือร้ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมา


“ได้โปรดเถอะครับ...” เมธาอ้อนวอน


“แค่นี้...ฮึก”


น้ำตาหยดหนึ่งกลิ้งลงข้างแก้มขาว


“แค่นี้เขาก็เกลียดผมมากพออยู่แล้ว”
   

ริมฝีปากสีซีดสั่นระริกอย่างน่าเวทนา
   

“อย่าทำให้ผมต้องถูกเกลียดไปมากกว่านี้เลย ขอร้องล่ะครับฮือ...” เมธาสะอื้น ตอนนั้นเองที่ประตูห้องเกิดเสียง


ก๊อกๆ!


“นั่นใคร!” กานต์หันไปตะโกนถาม แว่วเสียงตอบกลับมา “รูมเซอร์วิสครับ!”


“ชิ...” เสือร้ายจิ๊ปากอย่างขัดใจ เขาใช้ผ้าอีกผืนมัดปากคนตัวเล็กเอาไว้ เมธาดิ้นพล่าน “อึก...อื้อ! อื้ออออออ!”


“อย่าริส่งเสียงเชียว” แผ่นโลหะเย็นเยียบแนบแก้มขาว ครูคณิตตัวสั่น ก่อนจะรู้สึกได้ถึงร่างสูงที่ผละออกไป หัวใจของเด็กหนุ่มเต้นรัว พยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ


“ฮื่อออออ ฮึก! อื้อออ!”


ปัง!


พลันประตูห้องก็ถูกปิดลง หัวใจดวงน้อยร่วงไปที่ตาตุ่มเมื่อความหวังสุดท้ายของเขาอันตรธานหายไป


“ฮึก...”


หูครูคณิตได้ยินเสียงฝีเท้า อีกฝ่ายกลับเข้ามาแล้ว ตอนนั้นเองที่ร่างสูงพรวดเข้ามาล็อคคางเขาเอาไว้แน่นก่อนจะก้มลงประกบปากอย่างดุดัน เมธาสะดุ้งเฮือก ตะโกนเสียงสั่น


“อย่า! ฮึก!”


มือหนาล้วงเข้าใต้เสื้อก่อนจะบีบเนื้อขาวจนขึ้นรอยมือ เมธาพลิกตัวหนีอย่างหวาดกลัว “ย่ะ อย่า...ฮือ ไม่นะ ได้โปรดเถอะคุณกานต์” เด็กหนุ่มร้องไห้ยามนิ้วยาวสอดเข้ามาในโพรงปาก เล็บคมจิกครูดเพดานสีอ่อนอย่างโหดร้าย


“เจ็...บ ฮึก มะ...”


มือหนากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวจนกระดุมเม็ดบนร่วง ลิ้นร้อนแลบเลียยอดอกสีหวานก่อนจะดูดดุนจนมันตั้งชันอย่างหื่นกระหาย คนตัวเล็กเกร็งหน้าท้อง พยายามควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน “อึก ฮะ...ฮื้อ!”


อีกฝ่ายพยายามปลดเข็มขัดเขาออก เมธาส่ายหน้าร้องเสียงสั่น “อย่า ฮึก หยุดนะ ค...คุณกานต์!” กายบางสะท้านยามท่อนล่างถูกถอดออกไปจนหมด ครูคณิตหนีบขาแน่น หวังให้ชายเสื้อเชิ้ตช่วยบดบังส่วนน่าอายเอาไว้
   

ทว่ามือหนากลับเลิกชายเสื้อเขาขึ้นมาถึงหน้าอก เมธาร้องไห้ กัดริมฝีปากด้วยความอัปยศ
   

“มะ ไม่เอา...” ครูคณิตร้องไห้ออกมา “คุณกานต์อย่าทำแบบนี้ ฮือ ปละ ปล่อยผมไปเถอะ...”
   

นิ้วยาววนรอบยอดอกนิ่ม ถูจนแข็งเป็นไต เล็บคมจิกอย่างวาบหวาม เมธาเกร็งต้นขา หยัดสะโพกจนหลังแทบไม่ติดเตียง หอบหนักราวกับวิ่งร้อยเมตรอยู่ภายใน
   

“ขะ ขอร้อง...ฮึก” เมธาอ้อนวอนยามลิ้นร้อนแลบเลียติ่งหูนิ่ม ความต้องการพลุ่งพล่านทว่าเขาก็พยายามขัดขวางมัน “ได้โปรด พอเถอะครับ คุณกานต์...”
   

เด็กหนุ่มหนีบต้นขาไว้แน่นเมื่อมือร้อนรุกไล่เข้าด้านหลัง เท้าเล็กๆ พยายามถีบลำตัวแข็งแกร่งนั่นออกไปก่อนจะถูกขายาวของอีกฝ่ายกดทับเอาไว้ ร้องเสียงหลงยามนิ้วยาวพยายามสอดเข้าช่องทางด้านหลัง
   

“ไม่!!!” เมธาหวีดร้อง ดิ้นทั้งน้ำตา “อย่า ฮือ ผมขอร้อง...” กายบางกระตุกยามนิ้วร้อนสอดเข้าไปได้สำเร็จ คนตัวเล็กเม้มปากแน่น ดวงหน้าหวานเหยเกด้วยความกระสันระคนเจ็บปวด
   

“ไม่เอา...” เสียงนั้นแผ่วระโหยก่อนจะไอออกมาดูท่าไข้จะกลับเสียแล้ว เสียงโซ่กระทบกันดังหนวกหูบ่งบอกว่าเด็กหนุ่มพยายามต่อต้านผู้บุกรุกมากเพียงไร
   

ร่างสูงเพิ่มจำนวนนิ้ว เขามองเมธานอนหอบอย่างทรมาน โน้มตัวไปประกบริมฝีปากบวมแดงนั่น ใช้มืออีกข้างล็อคหน้าผากอีกฝ่ายพบว่ามันร้อนจัดจนน่ากลัว
   

“ฮึก แค่ก! แค่กๆๆ...อะ อึก” เมื่ออีกฝ่ายถอนปากออกไปเมธาก็ไอจนตัวโยน เขาพยายามดิ้นด้วยแรงทั้งหมดที่มี ร้องไห้ออกมาอย่างหวาดกลัว
   

ตอนนั้นเองที่นิ้วยาวถอนออกไป ก่อนจะคนตัวใหญ่จ่อความเป็นชายตรงปากทางแล้วดันเข้ามาสุดแรง
   

“อ๊าาาา! ฮึก” เมธาหวีดร้อง เสียงโซ่กระทบกันดังแกร๊ง!


“ไม่นะ!!! อย่า!!! ฮือ...ได้โปรดเถอะ” คนตัวเล็กร้องไห้ออกมาด้วยหัวใจที่แตกสลาย ช่องทางที่ไม่เคยมีใครรุกล้ำมาก่อนบัดนี้กลับถูกรุกรานจากคนใจร้าย
   

ในตอนที่รู้สึกอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายลงไปตรงนั้น ราวกับรู้ทัน เมื่ออีกฝ่ายยื่นนิ้วมาขัดขวางเขาเอาไว้ เมธากัดมันด้วยแรงทั้งหมดที่มี ด้วยความโกรธและความหวังที่ว่าจะหนีความอัปยศนี้ไปให้พ้น
   

ร่างสูงไม่พูดอะไรก่อนจะกระแทกแก่นกายเข้ามาตามจังหวะ เมธาส่ายหน้า ร้องไห้ออกมาอย่างสิ้นหวัง
   

“ฮะ...ฮ้า” ครูคณิตกัดนิ้วอีกฝ่ายจนรับรู้ได้ถึงกลิ่นคาวเลือด ก่อนร่างสูงจะถอนมือออกไป เมธาตัวสั่นคลอนไปตามจังหวะอีกฝ่าย พยายามกลั้นเสียงอันน่าอาย ตอนนั้นเองที่เขาร้องออกมา
   

“เอื้อ...”


รู้สึกได้ว่าจังหวะช่วงล่างชะงักไปครู่หนึ่ง ทว่าแค่เสี้ยววินาทีก็กลับมาเป็นปกติ


“ฮึก ช่วยด้วย...”
   

ตอนนั้นเองที่ช่วงล่างหยุดลงตามด้วยมือหนาปราดเข้ามาบีบคางเล็กให้เชิดขึ้น คิดว่าอีกฝ่ายคงโกรธที่เขาพูดอะไรไร้สาระ ทว่าเมธาก็ยังยืนยันที่จะพูดต่อ “เมขอโทษ...”
   

หยาดน้ำใสไหลริน


“อย่าเกลียดเมเลยนะ ฮือ...”


   

สิ้นคำกายหนาก็กระแทกเข้ามาอย่างดุดัน จังหวะสุดท้ายนั่นเองที่เมธาหวีดร้องทั้งน้ำตา สะท้านไปทั้งกายยามความกระสันกลั่นตัวเป็นหยาดน้ำมารวมที่ส่วนปลายแล้วปะทุออก
   

คนตัวเล็กหัวหมุนคว้าง กายบางหนักอึ้งราวกับโดนเหล็กถ่วง เขาหอบหนัก เวียนศีรษะสติเจียนหลุดอยู่รอมร่อ


“อะ ฮึก” เมธานิ่วหน้าด้วยความเจ็บยามอีกฝ่ายถอนกายออกไป รู้สึกได้ถึงมือหนาที่จับหน้าผากเขาเอาไว้ ตามด้วยผ้าคาดตาที่ถูกดึงออก


แสงไฟสาดเข้ามาจนตาพร่า ดวงหน้าหวานอ่อนล้า ฝืนเปิดตาด้วยแรงเฮือกสุดท้าย
   

“มะ ไม่จริง...” ตอนนั้นเองที่เมธาร้องออกมา


เบื้องหน้าเด็กหนุ่มปรากฏบุคคลที่เขาคาดไม่ถึง เมธามองภาพนั้นด้วยแววตาสั่นระริก


“ทำไมล่ะ...”


แทนที่จะได้พบกับหนุ่มหน้าตี๋ เขากลับกลายเป็นร่างสูงเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลล้อมกรอบใบหน้าหล่อร้าย ผู้ชายที่คอยกลั่นแกล้งและผลักไสไล่ส่งเขาเสมอมา คนที่ปฏิเสธความรักของเขาได้อย่างเย็นชา คนที่ไม่เคยเห็นเมธาในสายตาเลยสักวินาทีเดียว
   

แต่ทำไมคนๆ นั้นถึงได้มาอยู่ที่นี่...ในเวลาแบบนี้
   

“เอื้อ...”



****************************************************** *

สวัสดีค่าาา า
 :katai4:
หายไปเกือบสองอาทิตย์เลยอะ เขิน 555555555 5
ตอนหน้าจะเฉลยปมแล้วค่ะ โอ๊ย สักทีเนาะ
อยากให้ไอ้พวกนี้พักบ้าง รู้สึกจะเล่นคุ้มค่าตัวกันเหลือเกิน

ใครว่าง ๆ ไปเล่นแท็ก #เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ ในทวิตเตอร์ได้นะคะ
พอพ้นตอนที่ 24 เรื่องก็จะกลับมาเลิฟคอมเมดี้เหมือนเดิมแล้วค่ะ
ตบมือแมะ ถถถถถถถ ถ

ขอบคุณคนที่ยังติดตามและให้กำลังใจนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ
ขอให้อ่านอย่างมีความสุขนะคะ
 :katai2-1:
เจอกันตอนที่ยี่สิบสี่ค่าาาา า 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :katai1:    ค้างงงงงงง.   :ling1:   

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 10:19:13 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ มูมู่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ขุ่นแม่จูเลียร์คือฮีโร่ นางสวยมากอ่ะพาร์ทนี้  :กอด1:
เชอรรี่คือชาร์ลอต แล้วหมออีกคนที่ว่าคือหมอแปด ใช่มะๆๆ
ขอให้คลี่ปมไวๆ เด็กๆโดนแหกบ่อยจนเสียเซลฟ์แล้ว
ส่วนเอื้อนี่จะชมหรือจะอะไรดี สงสารเมอ่ะ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
สงสารน้องเมสุดจิต
สงสารสามสีสุดใจ พระเอกสัดๆเลยพ่อคุณเอ๊ยยยยย
ตอนนี้คู่หลักหายต๋อม คู่รอง รอง รอง เด่นมาก ดีค่ะ ใช้ค่าตัวให้คุ้ม
รอตอนต่อไปเนาะ

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ค้างแรงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 814
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
ไอ้เอื้อ. ไอ้ชั่ว
ทำไมแกล้งแรงแบบนี้วะ
ใจจริงก็อยากจะได้เค้าใจจะขาดล่ะสิ
ถึงได้ทำแบบนี้ โด่  เมก็ใจอ่อนเกินไปแล้วว
แต่จะว่าแบบนั้นก็เหอะ  ใจจริงทำไมเราชอบเอื้อนะ (หรือเราเป็นพวกมาโซโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวไปแล้ววอ๊ากก)
เราชอบอะ  เอื้อออ  และแล้ว เอื้อก็งาบเมไปเป็นที่เรียบร้อย
ปล. ขอถามหน่อยค่ะ ข้องใจนานแล้ว ไอ้คำว่า หน่องเปรม  หน่อง. นี่มันคืออะไรเหรอคะ
 :mew2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 11:17:22 โดย fanglest »

ออฟไลน์ Mi.07

  • ชัดชัดชาด่าดาดั๊ดชัด~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
นั่นไอ้เอื้อใช่มั้ยน่ะ หาาาาาาาาา โถ่หนูเม ทำไมโชคร้ายแบบนี้นะ  :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-07-2015 11:02:13 โดย Mi.07 »

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ลุ้นเหลือเกินค่ะ
เราแอบเดาว่าหมอแปดรู้อยู่แล้วปะ แกล้งตลบหลังชาร์ลอตอะไรเงี้ย
พอลุ้นเรื่องหมอแปดแอนด์เดอะแก๊งเสร็จ ก็มาลุ้นเอื้อเมต่อ
แอบสงสารเมอะ  :hao5:
ปล.ชอบเอื้ออะ เลวดี 5555

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
แหกไหม?
สงสารเม รักไอ้โรคจิต คึ คึ
ไดคิดอะไรกับสามสี?
หน่องเปรมคือเสียงเรียกที่เพี้ยนจาก"น้อง" รึเปล่า?
สุดท้าย กลับมาที่คู่เอกเร็วๆ ตอนเน้"อิเท็น"มันทำไรอยู่ ถูกแย่งซีนโดยไอ้ตี๋กานต์อย่างแรง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
โอย ตอนนี้ยาวมากกกก
สนุกมากกกกก

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2021
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
ลุ้นจนเกร็งงงงงง อ๊ากกกกก ไอ้เอื้ออ เกือบเกลียดแกแล้ววววว โอ๊ยยยย หมอแปดพูดอารายยยยยย รอออ

ออฟไลน์ farfarneenee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โอ๊ยยยยยยยยยย ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง   :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ ชัดเจนกาบ

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1695
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-23
ขอพูดคำไม่สุภาพนะนะใครจะให้คะแนนติดลบก็เิญกูไม่สน ตอนแรกกูคิดนะว่านิยายเรื่องนี้จะดีแล้วน่าจดจำ ไอ้พวกที่ชอบนี้กูส่งสัยว่ามันเป็นโรคจิตกันรึเปล่า เรื่องการขืนใจ หรือข่มขืนมันไม่ใช่เรื่องสนุกเรื่องตลกนะ ถึงมันจะเป็นแค่นิยายแต่มันไม่ได้อยู่กับแค่นิยายนะโว้ย ไอ้พวกที่ชอบๆมีความสุขเนี้ยกูขอแช่งให้แม่งโดนข่มขืนเหมือนเมย์ให้หมดเลย หลายงานให้ลบกูจากเหล้าก็ได้นะ ใครที่ไม่เคยเจอมันจะไม่รู้ความรู้สึกเลยว่าคนที่ถูกข่มขืนแม้จะจากคนรักก็ตาม บ้างคนถึงกับหมดอะไรตายอยาก กลายเป็นโรคทางจิตเลยนะเว้ย ถ้ารู้ก่อนน่าคงไม่เข้ามาอ่านจะสติแตกแบบนี้ เนื้อหามันแรงไป รองคนใกล้ตัวเจอแบบนี้บ้างคุณจะพูดไม่ออก มันโหดร้ายเกินไป ถึงไม่รักกันแค่ไหนก็ไม่เห็นจะทำให้คนคนหนึ่งตายทั้งเป็นแบบนี้ เรื่องอับปรีแบบนี้ใครมันจะกล้าไปประกาศให้คนอื่นรู้ ถ้าเท็นรู้ก็ว่ามีการฆ่ากันตายอ่ะ อีกอย่างอยากรู้คนแต่งต้องการจะสื่ออะไรช่วยตอบคำถามไอ้คนโง่ไอ้คนโลกสวยคนนี้หน่อย จากที่ดีๆมาพอถึงตอนนี้ความดีางามหลายหมดกลความดีไม่มีเหลือ เจ็บปวดแทนเมเลยว่ะ เกลียดๆพูดได้คำเดีียวว่าเกลียดมากถึงมากที่สุด

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
ค้าง  :katai1: :katai1: :katai1:

เริ่มชอบเอื้อ...แต่พอมาตอนจะจบตอนนี้นี่แบบ ทำไมแกทำแบบนี้ไอ้เอื้อ!!! แต่เราว่าเราก็ยังคงชบเอื้อต่อไป 555+

ออฟไลน์ icecreamii8_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ฮือออ ค้างงงงง
รอตอนต่อไปค่า :)

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารเมมาก :o12:
เราลุ้นสามสีกับไดนาไมต์ชอบคู่นี้

ออฟไลน์ kukkikkooka

  • insomnia~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 287
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
สงสารน้องเมมมมม อิเอื้อออออออ

เรื่องชาลอตต์น่าจะหมดห่วงแล้วแหละ

ออฟไลน์ yearrayoeng

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
โห ถูกซ้อม ถูกข่มขืน ถ้าไม่จำ คงไม่ใช่คนแล้ว เลิกโง่ได้แล้วสินะ เม

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
ร้ายสุดนี่เอื้ออังกูรป่ะว่ะ หึหึ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด