Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)  (อ่าน 679119 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowtoy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หมอแปดพูดว่าอะไร!!!!!! :katai1:
แล้วตัดเอื้อเมได้ทรมานใจมากกกก :ling1:
แอบสงสารเมแต่ก็ดีใจแทนเม ในที่สุดเอื้อมันก้อรู้ใจตัวเองแล้วนะ อย่าแกล้งหน่องเมมากล่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
สวัสดีค่า มาตามอ่านครั้งแรก

อ่านจนจบแล้วววว

สนุกมาเลย ติดตามต่อไปนะคะ :)

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
อิเอื้อเลวอ่ะ   ฉวยโอกาศ .....

ออฟไลน์ kpHJstdy

  • HHD요
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
เพิ่งเคยเข้ามาอ่านเรื่องนี้เลยค่ะ จะบอกว่าชอบมาก มันทั้งตลกและมีอะไรบางอย่าง คือตอนแรกเราคิดว่าจะมีแค่การทำอาหารหรือว่าบทน่ารักกุ๊กกิ๊กตลกเฮฮาอะไรแบบนี้แต่นี่สืบสวนมีปมให้ชวนลุ้น มันสนุกมากกกกกกกกก อ่านแล้วก็ขำมาก คือติดใจไอ้คุณเอื้อออออออมาก เราไม่รู้แปลกไหมที่ชอบผู้ชายคนนี้แต่ก็เกลียดปนหมั่นไส้เช่นเดียวกัน เป็นผู้ชายที่ชั่วร้ายแต่ไม่ได้ชั่วร้ายแบบที่น่ารังเกลียดหรือชวนยี๊ แต่เรื่องที่เราหมั่นไส้และอยากจะบีบคอเอื้อที่สุดคือเรื่องเม สงสารเมมาก คิดว่าไม่น่ามารักไอ้เอื้อเล้ยยยยยแต่ความรักมันกำหนดไม่ได้หรอกว่าจะรักหรือไม่รัก ยังไงตอนล่าสุดก็ยังดีที่เป็นเอื้อคนที่เมรัก แม้เอื้อจะเลวมาก มันฉวยโอกาส ไอ้เอื้อออออออออออ นี่อ่านเรื่องนี้ไปตะโกนว่าไอ้เอื้อบ่อยกว่าชื่อเท็นอีกแม้จะเอ็นดูเท็นเหลือเกิน หืมมมมมม ทูนหัวของบ่าวววว  :hao7:  แล้วตัวละครที่ชอบมากคือไดนาไมต์ คิดว่าไดเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตลกและบ้ามาก ขำตอนไปเปลี่ยนผมเป็นสีชมพูมีถักเปียกแล้วจะเห็นสีม่วงด้วย คือ พ่อคุ๊ณณณณณณ ตลกกก แล้วหน่องเปรมก็น่ารักอะ แถมอ่านแล้วอยากมุดจอเข้าไปกินกับข้าวเปรมด้วยคนเลยค่ะ  จะรอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ แค่ความทรงจำ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
เอื้อแก่มันเลวมากก หลอกกันได้

ปากแข็งอีกต่างหาก ชอบเขาก็ไม่บอก น่าโดน  :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

ลุ้นๆ ต่อไป

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
“พอได้แล้ว”


ความเงียบโรยตัวไปทั่วโบสถ์หลังสิ้นคำ เจ้าของเสียงคือร่างใหญ่ในชุดสูทสีครีมและรองเท้าหนังเข้าชุด ดวงตายาวรีคู่นั้นทอประกายสุขุม ใบหน้าหล่อเหลาไม่ส่อเค้าอารมณ์ใด


หมอแปดบอกว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเธอ”


“แต่เท็นเป็นเพื่อนพวกผม” อัคคีหันไปแย้งเพื่อนสนิทพ่อ ข้างๆ เป็นเปมทัตที่มองเจ้าบ้านด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว พ่อครัวพูดว่า “ผมคงยอมให้เท็นอยู่ใกล้คนอันตรายแบบนี้ไม่ได้”


“ฉันไม่สนว่าพวกเธอจะรู้อะไรมา แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่พวกเธอจะตัดสิน” เสียงทุ้มนั้นเย็นเยียบ ท่าทีของหมอแปดแสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่รับฟังคำพูดพวกเขา


ไฟแทบตะโกนว่า “ตาสว่างสักทีเถอะ! ผมไม่เชื่อว่าคุณจะแต่งงานกับเธอโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรหรอกนะ!” เปมทัตมองร่างใหญ่อย่างไม่เข้าใจ ถามว่า


“คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”


หมับ!


ไม่ทันหมอแปดจะได้ตอบอะไร รู้ตัวอีกทีเจ้าสาวผมสีทองก็ปราดเข้าไปล็อคคอร่างสูงในชุดสูทสีเทาจากทางด้านหลังเสียแล้ว ออกัสเบิกตากว้าง ร้องลั่น


“เท็น!”


“หึ...” 


ชาร์ลอตต์แสยะยิ้ม มืออีกข้างถือปืนกระบอกเล็กจ่ออกเสื้อด้านซ้ายของเด็กหนุ่ม เธอใช้ความเร็วชั่วพริบตาคว้ามันขึ้นมาจากน่องใต้กระโปรงสีขาวที่ยาวระพื้นเมื่อครู่นี้


พวกเปรมหน้าซีด ออกัสขยับตัวไปบังหมอแปดไว้ทันที ร้องว่า “หยุดนะคุณชาร์ลอตต์!”


“ถอยไป!” หญิงสาวตะโกนขู่ เธอกดปากกระบอกปืนจนส่วนปลายแทบหายไปในอกเสื้อร่างสูง เท็นเหลือบมอง นิ้วของชาร์ลอตต์อยู่ในสภาพพร้อมลั่นไกสังหารเขาได้ตลอดเวลา


“เท็น...” เปมทัตเรียกชื่อตัวประกันเสียงแผ่ว ทศทิศสบตา พูดว่า


“เราไม่เป็นไร”


“หุบปาก!” ชาร์ลอตต์รัดคอเด็กหนุ่มแน่นขึ้น เท็นหน้าเชิด เหงื่อเม็ดเล็กไหลลงข้างขมับ หายใจลำบากกว่าปกติ เจ้าสาวหันไปตวาดคนอื่นเสียงแหลม


“ถ้าพวกแกเข้ามามันตายแน่!”


“แม่งเอ๊ย...” ไฟสบถอย่างเจ็บใจ โชกับไดนาไมต์และสามสีเองก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน


หมอแปดมองภาพนั้น พูดว่า “วางปืนลงซะ...ชาร์ลอตต์”


“วางปืนงั้นเหรอ...” หญิงสาวเหยียดยิ้มแปลกตา ส่งเสียงกลั้วหัวเราะ “พูดอะไรเห็นแก่ได้จังนะคะคุณหมอ”


“เธอต้องการอะไรกันแน่!” เปรมถามอีกครั้ง สมองพยายามคิดหาวิธีดึงเด็กโข่งออกมา ดวงตาสองสีคู่นั้นทอประกายเจ็บปวดแวบหนึ่ง ทว่าไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ


“ฉันจะฆ่าไอ้เด็กนี่! ให้มันสาสมกับที่ผู้ชายคนนั้นทำกับแม่ของฉัน!” ใบหน้าสวยหยาดฉายแววโกรธเกรี้ยว เธอกดปากกระบอกปืนแรงขึ้น ร้องใส่เจ้าบ้านว่า


“แกเป็นคนทำให้แม่ของฉันต้องตาย! ไอ้ฆาตกร!”


ทุกสายตาพุ่งไปทางหมอแปดเป็นจุดเดียว ออกัสขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่ายังไง?”


หญิงสาวฉีกยิ้มบิดเบี้ยว เธอมองหน้าเจ้าบ้านพลางหัวเราะคล้ายกำลังเสียสติ


“นางแบบสาวที่แกเป็นคนรับผิดชอบการผ่าตัดเมื่อหลายปีก่อน...” ชาร์ลอตต์พูดชัดถ้อยชัดคำ “แองเจิ้ล ไวโกฮาร์โมนิเช่...คือแม่ของฉัน คนไข้ที่ตายด้วยฝีมือของแกกับหมออีกคนไงล่ะ!”


พวกเปรมได้ยินแล้วเบิกตากว้าง พวกเขาเพิ่งรู้เรื่องนี้


“หลังจากแม่ตายฉันก็ถูกส่งไปสถานสงเคราะห์ หลายปีที่ฉันต้องใช้ชีวิตแบบตายทั้งเป็น ในขณะที่ฆาตกรอย่างพวกแกยังคงเสพสุขและมีหน้ามีตาในสังคม!!”


“คุณไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหน” สามสีถามขึ้นมา เรื่องที่ชาร์ลอตต์เล่าน่าจะเป็นส่วนที่เขาให้เอื้ออังกูรช่วยหา และแน่นอนว่าจนถึงตอนนี้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลก็ยังไม่ได้บอกอะไรพวกเขา


หญิงสาวเหลือบตามองคนถามแล้วเหยียดยิ้ม “พวกแกหาคลิปมาก็น่าจะรู้นี่...” ชาร์ลอตต์ตวาดเสียงกร้าว “หมออีกคนก็คือผู้ชายที่จะหมั้นกับฉันยังไงล่ะ!!”


สามสีปิดปากฉับ สมองเริ่มประมวลผล


“หมอนั่นมันหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้น พอโดนฉันมอมเหล้ากับหลอกถามเข้าหน่อยมันก็สารภาพออกมาจนหมดเปลือก ว่ามันเป็นคนฉีดพิษชะลอการแข็งตัวเลือดเพราะมันชอบแม่ของฉัน และรับไม่ได้ที่แม่ของฉันหนีมันไปแต่งงานใหม่แล้วมีลูก!”


ชาร์ลอตต์สูดลมหายใจลึก เล่าว่า


“โดยไม่ได้รู้สักนิดเลยว่าฉันนี่แหละคือลูกสาวของคนที่มันฆ่า ไอ้โง่เอ๊ย! ฉันเลยหลอกมันมาเจอแล้วยิงทิ้งในห้องไงล่ะ!” ดวงตาสองสีคู่งามฉายแววอมหิต บอกอีกว่า “แต่ที่สืบมามันมีหมอสองคน ฉันตามหาหมออีกคนนานมาก และในที่สุดก็เจอ...”


หญิงสาวสบตากับหมอแปด หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง


“แกไงล่ะ! แกกับไอ้หมอนั่นสมคบคิดกันฆ่าแม่ของฉัน!” ชาร์ลอตต์ยิ้มทั้งที่ดวงตาแข็งค้าง พูดช้าๆ “แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าแกจะโง่ปล่อยฉันเข้าบ้านมาง่ายๆ แบบนี้ คงไม่รู้เลยสิว่าฉันเข้ามาตีสนิทเพื่อแก้แค้น”


ถึงตรงนี้ทำนบน้ำตาของหญิงสาวก็พังทลายลงมา เธอตวาดลั่น


“ฉันจะฆ่าคนที่แกรักทั้งหมด! ให้มันสาสมกับที่แกทำกับฉัน!!”


“มันไม่ใช่แบบนั้น!” 


ชาร์ลอตต์สะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายตะโกนเสียงดัง ดวงตาสองสีจับจ้องร่างใหญ่ในชุดสูทสีครีมตรงหน้า ทันทีที่เขาสบตาหัวใจของเธอก็บีบรัดจนเจ็บอย่างน่าประหลาด


“มันไม่ใช่แบบนั้น...” หมอแปดเว้นวรรค ก่อนจะเปล่งเสียงออกมาว่า


“เชอร์รี่”


หญิงสาวเบิกตากว้าง ร้องเสียงหลง “อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ!”


“ฉันไม่ได้ฆ่าแองเจิ้ล” ดวงตายาวรีทอประกายเจ็บปวด เชอร์รี่ตะโกนทั้งน้ำตา “ไอ้คนโกหก! เลิกเสแสร้งสักที! ฉันจะฆ่าลูกชายของแก! จงโทษความโง่ของตัวเองที่ไม่รู้ซะ!”


“ฉันรู้...”


“ว่าไงนะ?” เชอร์รี่นิ่งไป ปวดหนึบบริเวณอกซ้ายยามอีกฝ่ายสบตา


“ฉันรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของแองเจิ้ล...” เสียงทุ้มนั้นแผ่วหวิว หมอแปดก้มหน้าคล้ายระงับความเจ็บปวด


“รู้มาตลอด...จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังจำดวงตาสองสีที่จ้องมาจากนอกห้องผ่าตัดคู่นั้นได้ดี” เจ้าบ้านสบตากับหญิงสาว ใบหน้าของเขาอ่อนล้าเหลือเกิน “มันเป็นดวงตาของเธอ...เชอร์รี่ และที่เธอเสียใจกับต้องการแก้แค้นฉัน...ฉันรู้”


“โกหก!” เชอร์รี่แผดเสียงอย่างเกรี้ยวกราด “ถ้าแกรู้ว่าฉันจะแก้แค้นแล้วแกจะมาขอฉันแต่งงานทำไม!”


“เรื่องนั้น...”


“แกมันฆาตกร...แกสมคบคิดกับไอ้หมอเวรนั่น! ฆ่าแม่ของฉัน! ฮึก...ทำไมต้องฆ่าคุณแม่ด้วย!”


กึก!


ตอนนั้นเองที่นิ้วเรียวตรงไกปืนขยับ อัคคีเบิกตากว้าง พรวดเข้ามาคว้าข้อมือหญิงสาวจนฝ่ายหลังสะดุ้งแล้วหันไปฟาดแขนใส่ ทศทิศอาศัยจังหวะนี้สลัดตัวออกมา เชอร์รี่กัดฟันกระชากปืนกลับมาจากไฟ


เธอสะบัดมือไปทางเท็นแล้วเหนี่ยวไกอย่างแม่นยำ


ปัง!


แว่วเสียงกรีดร้องดังมาจากวงนอก ทศทิศเบิกตาโพล่ง ตามด้วยร่างหนึ่งที่โผเข้าอกกว้าง ท่อนแขนแข็งแรงรวบอีกฝ่ายไว้แน่น เด็กหนุ่มร้องลั่น


“กุ๊ก!!”


เปมทัตในชุดสูทเปื้อนเลือดทรุดฮวบในอ้อมกอดเขา เท็นขอบตาร้อนผ่าวแสบจมูก เด็กหนุ่มย่อตัวประคองร่างอีกฝ่ายเอาไว้ด้วยท่อนแขนอันสั่นเทา


ใบหน้าพ่อครัวขาวซีด ดวงตาสีนิลเลื่อนลอยทว่ายังคงเผยยิ้มออกมา


“กุ๊ก...ฮึก กุ๊ก...” ดวงตายาวรีคลอไปด้วยหน่วยน้ำ มือหนาพยายามเขย่าเรียกสติคนในอ้อมกอดอย่างใจเสีย


“ไอ้เปรม!!” พวกที่เหลือร้องลั่น เชอร์รี่รีบตั้งหลักแล้วเล็งปืนไปทางหมอแปด เธอเหนี่ยวไกอีกที


ปัง!


“โอ๊ย!”


ทว่าใครบางคนกลับปราดเข้ามาใช้สันมือฟาดข้อมือหญิงสาวอย่างแรงจนกระสุนเปลี่ยนทิศทาง พวกไฟหมอบลงตามสัญชาตญาณ เชอร์รี่ร้องลั่นเมื่อถูกชายหนุ่มผมสีน้ำตาลล็อคแขนจากด้านหลัง


“ปล่อย! ปล่อยฉัน!!”


ออกัสกดหญิงสาวคว่ำลงกับพื้นด้วยใบหน้าเหี้ยมเกรียม ดวงตาสีเขียวท่วมท้นไปด้วยจิตสังหาร เชอร์รี่พยายามดิ้นทว่าไม่อาจหลุดออกไปจากเงื้อมมืออีกฝ่ายได้


“กุ๊ก...” เท็นเรียกคนในอ้อมกอดเสียงแผ่ว หยดน้ำตาร่วงผล็อย เปรมมองภาพนั้น ส่ายหน้ายิ้มๆ


“ชู่ว...เท็น ไม่ร้อง...”


มือขาวซีดพยายามยื่นมาเช็ดน้ำตาให้ ทศทิศคว้ามือนั้นไว้แน่น ส่ายหน้าร้องเสียงสั่น


“ไม่ ฮึก...ไม่เอานะ กุ๊ก...”


“ไอ้เท็นลุกขึ้น” ไฟได้สติคนแรก เขารีบหยิบกุญแจรถออกมา เท็นช้อนร่างพ่อครัวขึ้นแนบอก ดวงตายาวรีคู่งามทอประกายสับสน


“ฮึก กุ๊กอย่าเป็นอะไรไปนะ...”


“ไอ้โชโทรเรียกตำรวจ กูจะเอาไอ้เปรมไปโรงพยาบาล”


โชรีบควักสมาร์ทโฟนออกมา ร้องว่า “กูไปด้วย!”


“ไอ้เท็นมานี่!” ไฟดึงแขนเสื้อเพื่อน ก่อนพวกเขาสามคนจะรีบพาพ่อครัวออกจากโบสถ์ไป สามสีขยับจะวิ่งตาม ทว่าสุดท้ายก็หยุดเท้าแล้วยืนอยู่กับที่


“...”


ไดนาไมต์ไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มซ่อนดวงตาไว้ใต้เรือนผมสีชมพูอย่างคาดเดาอารมณ์ได้ยาก ตอนนั้นเองที่เชอร์รี่ร้องไห้ออกมา   


“ทำไม...ฮึก ทำไมถึงเป็นฉันที่แพ้ล่ะ! ทำไมต้องเป็นฉันที่ทรมานอยู่ฝ่ายเดียวในขณะที่พวกแกยังลอยหน้าลอยตาเสพสุขอยู่ในสังคมได้! มันไม่ยุติธรรมเลย! ฮือ...” หญิงสาวสะอื้นเจียนจะขาดใจ ตวาดผ่านม่านน้ำตาอย่างเจ็บปวด


“ไอ้ฆาตกร! ทำไมต้องฆ่าคุณแม่ด้วย! ทำไม!”


ดวงตาสีเขียวของออกัสหม่นแสงลงอย่างเห็นใจ หญิงสาวในตอนนี้ตัวสั่นเทาราวกับลูกนก เธอตะโกนว่า


“เมียแกก็เหมือนกัน! ในงานศพแม่...ผู้หญิงคนนั้นบอกกับฉันว่าจะคอยช่วย ทำมาบอกว่าไม่ต้องห่วง แต่สุดท้ายเธอก็หายไป!”
   หยาดน้ำใสไหลรินออกจากดวงตาสองสี ดูแล้วราวกับอัญมณีเลอค่าอันแสนบริสุทธิ์


“ฉันเคยหวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะช่วยฉันได้...ฉันเคยหวังว่าเธอจะช่วยฉันจริงๆ...” เชอร์รี่ร้องออกมาอย่างเคียดแค้น “แต่สุดท้ายมันก็แค่คำโกหกของฆาตกร! ผู้หญิงคนนั้นโกหกฉัน!”


“พอสักที!”


เสียงหนึ่งดังขึ้นเรียกทุกสายตาให้หันไปมอง สามสีหลับตาลงช้าๆ


ไดนาไมต์เดินมาหยุดยืนข้างหญิงสาว เขาล้วงเข้าไปในอกเสื้อ พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น “ขอโทษที่อ่านก่อนโดยพลการ นี่คือสิ่งที่ผมพบในห้องนอนของนายหญิง”


เด็กหนุ่มวางของในมือลงตรงหน้าหญิงสาว มันคือซองจดหมายสีขาวจำนวนมาก เชอร์รี่มองพวกมันผ่านม่านน้ำตา ร้องเสียงแผ่ว


“อะไร...?”


“จดหมายของนายหญิงที่ถูกตีกลับเพราะบ้านปลายทางถูกทุบทิ้ง” ไดนาไมต์พูดอย่างขมขื่น เสียงของเขาแผ่วเบาเหลือเกิน “จากวันที่...นายหญิงพยายามส่งจดหมายหาคุณมาตลอด พร้อมแนบค่าเลี้ยงดูไว้ให้ แต่สุดท้ายก็ถูกตีกลับ”


ถึงตรงนี้ออกัสปล่อยเชอร์รี่ให้เป็นอิสระแล้ว หญิงสาวหยิบซองจดหมายใกล้มือขึ้นมาเปิดอ่านช้าๆ เนื้อความด้านในถามถึงสารทุกข์สุขดิบของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าเชอร์รี่ไม่เคยได้เห็นมัน


จดหมายลายน่ารักมากมายที่นายหญิงตั้งใจเขียนให้เธอ...ทว่ากลับส่งไปไม่ถึง


“นี่มัน...”


หญิงสาวอ่านจดหมายทั้งน้ำตา ตอนนั้นเองที่หมอแปดเดินมาหยุดลงตรงหน้าเธอ


“หลังจากเกิดเรื่อง ฉันกับสองพยายามตามหาเธอมาตลอด” ดวงตายาวรีคู่นั้นทอประกายปวดร้าวเมื่อนึกถึงฝันร้ายนับสิบปี “แต่ทำยังไงก็หาไม่เจอ...ตอนนั้นที่งานของฉันหนักขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่สองยังคงไม่ละความพยายาม”


เจ้าบ้านผู้เย็นชาบอกว่า “สองตามสืบที่อยู่ของเธอต่อคนเดียวเงียบๆ แต่ไม่นานเธอก็จากฉันกับลูกไป...”


เชอร์รี่เบิกตากว้าง หมอแปดย่อตัวลงตรงหน้าเธอพร้อมรอยยิ้มเศร้า “เหมือนเวรกรรมตามทันเลยนะ...หลังจากนั้นฉันก็โหมงานหนักจนไม่มีเวลาให้ครอบครัวอย่างทุกวันนี้”


ดวงตายาวรีแดงก่ำ “ส่วนเรื่องในห้องผ่าตัดวันนั้น ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าหมออีกคนคิดจะทำร้ายแม่ของเธอ” หมอแปดเว้นวรรค บอกว่า “ฉันเพิ่งรู้หลังจากที่เขาตายว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ถ้าฉันรู้ให้เร็วกว่านี้ฉันคงจะห้ามเขาได้ ฉันเสียใจ...ที่ฉันช่วยแองเจิ้ลเอาไว้ไม่ได้”


เชอร์รี่สะอื้นออกมาอย่างเจ็บปวด


“ฉันพยายามสืบเรื่องของเธอต่อจากสอง จนได้รู้ว่าเธอถูกเจ้าบ้านชาร์มมาลิครับไปเลี้ยง และที่ขอเธอแต่งงาน...ก็เพราะฉันไม่รู้ว่าควรจะชดใช้ให้เธอยังไงดี”


หมอแปดพูดเสียงแผ่ว “ขอโทษนะ...เชอร์รี่”


ดวงตายาวรีทอประกายรวดร้าว ทว่ากลับยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน “ขอโทษที่ฉันช่วยแม่ของเธอเอาไว้ไม่ได้ในวันนั้น ขอโทษที่ทำให้เจอแต่เรื่องแย่ๆ ที่ผ่านมาเธอคงลำบากมาก...ฉันขอโทษ”


หญิงสาวเงยหน้ามองอีกฝ่ายผ่านม่านน้ำตา ตอนนั้นเองที่มือหนายื่นมาลูบหัวเธออย่างแผ่วเบา


“แองเจิ้ลในห้องผ่าตัด...เธอเข้มแข็งมาก” เสียงทุ้มนั้นอ่อนโยนเสียจนเชอร์รี่ร้อนวูบในอก “เธอบอกฉันว่า...เธอจะต้องรอดออกไป เพราะลูกสาวของเธอรอเธออยู่”


แก้มขาวของเจ้าสาวผมสีทองอาบไปด้วยหยดน้ำ


“คำพูดสุดท้ายของแองเจิ้ล...” นิ้วยาวเกลี่ยน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน


“มันเป็นชื่อของเธอ...เชอร์รี่”


“ฮึก...แม่...” หญิงสาวสะอื้นออกมาอย่างใจสลาย เชอร์รี่กอดจดหมายของผู้หญิงที่เธอนึกแค้นเสมอมา พร่ำเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยในอกที่ปวดหนึบ


“คุณสอง...หนูขอโทษ คุณหมอ...ขอโทษค่ะ ฮือ...”


เจ้าบ้านลูบเส้นผมสีทองนั่นอย่างทะนุถนอม เชอร์รี่ร้องไห้พลางพรั่งพรูคำขอโทษพร้อมน้ำตา ทั้งๆ ที่เธอมีชีวิตอยู่เพื่อแก้แค้นครอบครัวนี้แท้ๆ


กลับกลายเป็นพวกเขาเอง...ที่พยายามจะช่วยเหลือเธอเสมอมา


“ขอโทษค่ะ ฮึก...หนูขอโทษ” เชอร์รี่ร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ ออกัสยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เจ้านาย ฝ่ายหลังรับมาก่อนจะใช้มันเช็ดน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน


“ไม่เป็นไร”


“ฮือ...” เชอร์รี่สะอื้น ตอนนั้นเองที่ตำรวจมาถึง


เจ้าหน้าที่เก็บปืนก่อนจะคุมตัวหญิงสาวไป ซึ่งฝ่ายหลังก็ยอมรับโทษแต่โดยดีทั้งน้ำตา ไดนาไมต์มองภาพนั้นด้วยแววตาอ่านไม่ออก จนสามสีเดินเข้ามากอดคอเขา



“ไปกันเถอะ”


เด็กหนุ่มผมสีชมพูก้มหน้า ผงกหัวเบาๆ


“อืม...”




เฟอร์รารี่สีแดงสดจอดลงหน้าห้องฉุกเฉินในเวลาสองทุ่ม ประตูหลังฝั่งคนขับถูกเปิดออกพร้อมร่างสูงที่พรวดลงจากรถ เท็นอุ้มเปรมวิ่งขึ้นบันไดไป ด้วยสิทธิ์ลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลทำให้เขาได้เตียงให้พ่อครัวในเวลาอันรวดเร็ว


บุรุษพยาบาลเข็นร่างของเปมทัตไปยังห้องผ่าตัด เท็นกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไปด้วยใบหน้าร้อนรน ดวงตายาวรีแดงก่ำ เขากำมือพ่อครัวไว้แน่น


“ญาติคนไข้กรุณารอด้านนอกนะคะ” พยาบาลสาวยกมือห้ามเขา ทำให้เท็นต้องปล่อยมือเปรมอย่างช่วยไม่ได้ ไฟกับโชวิ่งตามมาทีหลังด้วยใบหน้าอาบเหงื่อ ทศทิศยืนมองประตูห้องผ่าตัดอย่างใจลอย


“กุ๊ก...”


เสียงนั้นแหบแห้ง ร่างสูงทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ตัวหนึ่งด้านหน้าอย่างหมดแรง ไฟกับโชมองหน้ากัน พวกเขานั่งขนาบข้างคนตัวใหญ่ เท็นประสานมือจรดหน้าผากด้วยไหล่อันสั่นเทา สูทของเขาเปื้อนเลือดพ่อครัว


“ใจเย็นๆ นะมึง” ไฟลูบหลังเพื่อนแม้ใบหน้าจะไม่สู้ดี ดวงตาแมวของโชคลอไปด้วยหน่วยน้ำ พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น “ไอ้เปรมดวงแข็งจะตาย มันไม่เป็นอะไรหรอก”


เท็นกระชับมือตัวเองแน่น


‘เด็กดี...ฉันอยู่ตรงนี้’


“กุ๊ก...”


‘ชู่ว...เท็น ไม่ร้อง...’


“ได้โปรด...ฮึก”


ทศทิศเงยหน้าทั้งน้ำตา


“กลับมา...”


‘ฉันจะอยู่กับนาย’


“กลับมาหาเรา...”


ผมเสียเขาไปไม่ได้อีกแล้ว...




เปมทัตลืมตาขึ้นมา ภาพเบื้องหน้าคือท้องฟ้าสีดำสนิท เด็กหนุ่มขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ จำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่


ฝันเหรอ?


เปรมยืนขึ้นช้าๆ รู้สึกร่างกายเบาโหวงอย่างนึกประหลาด ดวงตาสีนิลจับจ้องแม่น้ำสายใหญ่สีแดงซึ่งแบ่งพื้นดินออกเป็นสองฝั่ง ใกล้ๆ นั้นมีสะพานสีดำพาดอยู่


เด็กหนุ่มเห็นฝูงคนสวมชุดสีขาวเดินข้ามสะพานเหนือแม่น้ำนั่นไป ใบหน้าพวกเขาหมดอาลัยตายอยากเหลือเกิน เปมทัตเอียงคอมองอย่างสงสัย รู้สึกตัวอีกทีเขาก็เดินมาหยุดตรงตีนสะพานแล้ว


จังหวะที่กำลังจะก้าวขานั่นเอง   


“หยุดอยู่แค่นั้นแหละ”


เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง เปรมตกใจหันไปมอง


“...”


เจ้าของเสียงเป็นเด็กหนุ่มตัวสูงซ่อนร่างกายผอมบางเอาไว้ใต้ผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่ ใบหน้าอ่อนเยาว์เฉยชารับกับเส้นผมสีเข้มราวกับปีกกาตัดสั้น ดวงตาสีนิลเข้าคู่นั้นดำลึกราวกับไม่มีที่สิ้นสุด อีกฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบทว่ากลับดูเป็นมิตรอย่างน่าประหลาด


“ถ้าข้ามไปล่ะก็นายจะกลับออกมาไม่ได้อีกแล้วนะ”


เปมทัตกระพริบตา หลุดปากถามว่า


“คุณเป็นใคร?”


“ฉันเป็นคนของโลกนี้...” อีกฝ่ายสบตาเขาแวบหนึ่ง “รู้เท่านี้ก็พอ”


“ผมตายแล้วเหรอ?” ไม่รู้อะไรดลใจให้เปรมถามออกมา คนฟังได้ยินแล้วหัวเราะในลำคอ “ก็เกือบอยู่...อย่างน้อยนายก็ยังโชคดีที่เจอฉันห้ามไม่ให้ข้ามไปฝั่งโน้นล่ะนะ”


เปมทัตมองฝูงคนชุดขาวทยอยกันเดินข้ามสะพาน ถามว่า “พวกเขาจะข้ามไปไหน?”


“ไปยังที่ไกลแสนไกล” ดวงตาลึกล้ำคู่นั้นมองทอดยาวออกไป แขนขาวซีดสะบัดผ้าคลุมทีหนึ่งก่อนในมือของเขาจะปรากฏกระบองทอนฟาที่ทำจากเหล็ก บอกว่า “มาเถอะ”


เปรมเลิกคิ้ว “ไปไหน?”


“ฉันได้รับคำสั่งให้ส่งนายกลับ” เด็กหนุ่มสวมผ้าคลุมสีดำบอกเขา เปมทัตเลิกคิ้ว “กลับไปไหน?”


“กลับไปในที่ของนาย...จนถึงตอนนี้ใครบางคนก็ยังเรียกหานายไม่หยุดเลย หนวกหูชะมัด” คนพูดกระชับทอนฟาแกมบ่นว่า “ฉันจะส่งนายกลับไปหาเขา”


เปมทัตมองอย่างไม่เข้าใจ มีคนเรียกหาเขางั้นเหรอ...ใครกัน?


ตอนนั้นเองที่ร่างสูงเหวี่ยงปลายทอนฟามากระแทกกัน พลันเกิดแสงสีขาวสว่างวาบก่อนสองท่อนเหล็กจะหลอมรวมกันเป็นด้ามเคียวขนาดใหญ่


วิ้ว...


ลมเย็นหอบวูบพัดผ้าคลุมเด็กหนุ่มพลิ้วไสว แขนขาวซีดฟาดเคียวลงกับพื้นอย่างแรงจนพสุธาร้องก้องกัมปนาท แว่วเสียงกลุ่มคนชุดขาวร้องโอดโอยดังมาให้ได้ยิน ทว่าสิ่งนั้นกลับไม่มีผลกระทบต่อเปมทัตแม้แต่น้อย


พรึบ!


ชั่วพริบตาบนพื้นก็เกิดบ่อวงกลมสีขาวขนาดใหญ่ซึ่งมีประกายไฟฟ้าสถิตล้อมกรอบ ร่างสูงถอยออกมา บอกว่า “นี่คือประตูที่จะส่งนายกลับ กระโดดลงไปได้เลย”


เปรมกระพริบตาปริบๆ แสดงท่าทางไม่ไว้ใจชัดเจนจนคนมองคิ้วกระตุก


“เร็วๆ เข้าเถอะน่า ฉันเปิดประตูไว้ได้ไม่นานนักหรอกนะ” ร่างสูงบ่นกระปอดกระแปด เปมทัตหันไปสบดวงตาล้ำลึกครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมา


“ผมไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ว่า...ขอบคุณมากนะ”


“...เออๆ รีบๆ ไปเถอะ” คนฟังเกาท้ายทอยเก้อๆ เปรมทำท่าจะกระโดดลงไป แต่แล้วก็ชะงักขาไว้ หันมาถามว่า


“นี่ นายชื่ออะไรเหรอ?”


เด็กหนุ่มสวมผ้าคลุมเลิกคิ้วแปลกใจ “ถามทำไม?”


“เร็วๆ เข้าสิ เดี๋ยวประตูปิดหรอก!” เปมทัตเร่งเร้า ร่างสูงมุมปากกระตุก เขาพยายามหลบสายตาอีกฝ่าย แต่สุดท้ายก็ทนคำรบเร้าไม่ไหวจนต้องตอบตัดรำคาญไปว่า


“ผิง”   


“ผิงงั้นเหรอ” เปมทัตยิ้มกว้าง ถามเสียงสดใส “ผิงชอบกินแกงอะไรเป็นพิเศษไหม?”


“พะแนงหมู” ผิงตอบเซ็งๆ เขามองช่องประตูที่ค่อยๆ หดลงทุกที ร้องว่า “ไสหัวไปสักที! กางประตูไว้แบบนี้มันเปลืองพลังฉันนะเฟ้ย!” เปรมหัวเราะร่วน “เข้าใจแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะผิง!”


สิ้นคำพ่อครัวก็กระโดดลงบ่อวงกลมหายไป


แวบ!


ประตูมิติปิดลงแล้ว ผิงมองพื้นดินที่กลับมาเป็นปกติพลางขมวดคิ้ว...ไว้เจอกันใหม่งั้นเหรอ?


“หึ ขอให้ไม่ใช่เร็วๆ นี้ก็แล้วกัน...” ยมทูตหนุ่มพึมพำออกมา 

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
(ต่อ)


เปลือกตาอันหนักอึ้งเปิดปรือขึ้นช้าๆ เบื้องหน้าเปมทัตคือเพดานสีขาว กลิ่นสะอาดของโรงพยาบาลฉุนกึกจนแสบจมูก แผลตรงสะบักฝั่งขวาเจ็บแปลบจนพ่อครัวต้องนิ่วหน้า


เปรมมองออกไปนอกหน้าต่าง พระจันทร์บนท้องฟ้าสีดำสนิทบอกให้รู้ว่าเขาตื่นขึ้นมากลางดึก เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว รู้สึกเหมือนตัวเองฝันถึงอะไรบางอย่าง...ทว่ากลับนึกไม่ออก


แต่เอาเถอะ อย่างน้อยที่ยังตื่นขึ้นมาดูพระจันทร์ได้แบบนี้ก็แสดงว่ายมทูตคงไม่ได้พิศวาสอะไรเขามากนัก
เปมทัตขยับหมายพลิกตัว ก่อนจะรู้สึกได้ถึงแรงกดทับจากด้านซ้าย


“หึ...”


ดวงตาสีนิลจับจ้องเสี้ยวหน้าหล่อเหลาซึ่งหันมาทางเขา เท็นฟุบหลับเฝ้าคนป่วยอยู่ข้างเตียง พ่อครัวมองอีกฝ่ายที่กุมมือของเขาไว้หลวมๆ แล้วจุดยิ้มออกมา


เปมทัตไล้แก้มสีซีดนั่นเบาๆ อย่างนึกเอ็นดู


“อือ...” ว่าที่คุณหมอลืมตาปริบ ดวงตายาวรีเปิดปรือจับจ้องพ่อครัวคล้ายยังไม่ตื่นดี ทว่าพอได้สบตากัน ทศทิศก็ตื่นเต็มตา ร้องว่า “กุ๊ก!”


เปรมชะงักเมื่อเห็นหยาดน้ำใสไหลลงจากดวงตายาวรีคู่นั้น พ่อครัวหัวเราะเบาๆ เขายกมือลูบหัวอีกฝ่าย หยอกว่า “ร้องไห้ตอนเห็นฉันฟื้นนี่หมายความว่าไงหืม?”


“กุ๊ก...ฮึก...” เท็นร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ “กุ๊กตื่นแล้ว...ฮือ หลับไปตั้งสองวัน...”


“เด็กดี...” เปรมพูดคล้ายฮัมเพลง เส้นผมสีดำสนิทของอีกฝ่ายนิ่มมือจนทำให้นึกถึงลูกสุนัขตัวใหญ่ “ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว” นิ้วเรียวเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มสีซีดให้อย่างอ่อนโยน


ตอนนั้นเองที่ร่างสูงชะโงกหน้าเข้ามา


จุ๊บ...


ริมฝีปากเหยียดตรงทาบทับลงกลีบปากพ่อครัวอย่างแผ่วเบา เท็นผละออกก่อนจะกดจมูกเข้าข้างแก้มที่เริ่มขึ้นสีเรื่อของคนป่วยอย่างออดอ้อน เปรมสะดุ้งยามอีกฝ่ายล้วงเข้าใต้เสื้อ ร้องอึกอัก


“ทะ...เท็น...”


มือคู่นั้นสัมผัสเขาอย่างทะนุถนอมจนพ่อครัวใจเต้นไม่เป็นระส่ำ เปมทัตหลับตาปี๋ ครางฮือในลำคอยามอีกฝ่ายสอดลิ้นเข้ามากวาดต้อนภายในโพรงปาก


“อื้อ...” มือหนาปลดเชือกเสื้อผู้ป่วยของเปรมอย่างแช่มช้า ตอนนั้นเองที่ทศทิศยกตัวเขาขึ้น


“โอ๊ย!” พ่อครัวร้องลั่น เพราะแรงขยับทำให้แผลตึง เปมทัตน้ำตาเล็ด ร้องเสียงแผ่ว “แผล เจ็บ...”


“...ขอโทษ” ร่างสูงผละออกด้วยแววตารู้สึกผิด ลืมไปเสียสนิทว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บอยู่ ทศทิศมองคนตัวเล็กนอนโอดครวญแล้วคอตก ดวงตายาวรีหม่นแสงจนเกือบไร้แวว


“เราต้องอดทนเหรอ...”


เปมทัตแก้มร้อน เข้าใจดีว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร เขาเบือนหน้าหนีพลางตอบตะกุกตะกัก “คะ...คงงั้นมั้ง...”


“...” เท็นมองพ่อครัวตาละห้อย 


เปรมหลับตาอย่างข่มอารมณ์ ตัดสินใจหันกลับมา ร้องว่า “...รอฉันหายก่อนสิ!”


พลันดวงตายาวรีคู่นั้นก็เกิดประกาย สุดท้ายเปมทัตก็ถูกคนตัวใหญ่ยื่นหน้าเข้ามาฉกชิมความหวานจากริมฝีปากไปอีกหลายรอบในคืนนั้น




ห้องพักผู้ป่วยในตอนเช้าเต็มไปด้วยความคึกคัก แว่วเสียงโทรทัศน์และเสียงพูดคุยดังมาให้ได้ยิน เปมทัตขมวดคิ้ว เขาลืมตาขึ้นช้าๆ


“ไอ้เปรมตื่นแล้ว!”


โชร้องลั่นก่อนจะพรวดเข้ามาเกาะข้างเตียงกับไดนาไมต์คนละฝั่ง ฝ่ายหลังแทบตะโกน “ไอ้เปร๊มมมม! โอ๊ยยยย มึงจำกูได้ใช่ไหม นี่ใครๆ กูเป็นใครเปรม?”


“เปรมๆ นี่น้องโชเอง!” เด็กประมงร้องทั้งน้ำตา เด็กหนุ่มผมสีชมพูชูสองนิ้วโบกผ่านหน้าคนป่วยรัวๆ “มึงมองเห็นไหม? ตาบอดรึเปล่า นี่กี่นิ้วเปรม?”


“ไอ้เปรมกูอยู่นี่!” เสียงโชดังมาจากด้านซ้าย


“พูดอะไรบ้างสิ! อย่าเย็นชากับกูแบบนี้!” ไดนาไมต์ฟูมฟายอยู่ทางขวา


“...”


เปรมมองทั้งคู่หลับหูหลับตาร้องห่มร้องไห้ด้วยแววตาว่างเปล่า ตอนนั้นเองที่สามสียื่นจานใส่แอปเปิลซึ่งปอกเป็นรูปกระต่ายมาให้ บอกว่า “แม่กูฝากมาให้”


“ขอบใจ” เปมทัตเสียงแห้ง เด็กหนุ่มตัวสูงจึงส่งแก้วน้ำดื่มให้เขา


“ไง พระเอกซีรีส์” ไฟเพิ่งกลับมาจากคุยโทรศัพท์ด้านนอก สัพยอกหน้าตาย “เอาตัวไปบังกระสุนปืนแทนนางเอกงี้ แหม พ่อเต้าหมิงซื่อ”


“ซันไช่ร้องไห้หนักมากกูบอกเลย” โชทำหน้าเหนื่อยยามคิดถึงสภาพเท็นตอนอยู่หน้าห้องผ่าตัด


เปรมหลุดหัวเราะเมื่อนึกภาพออก เขามองไปรอบๆ ในห้องพักตอนนี้มีเพียงพวกเขาห้าคนเท่านั้น ก่อนสามสีจะพูดว่า “เออไอ้เปรมโทรหาแม่มึงด้วย วันก่อนกูโทรไปบอกว่ามึงโดนยิง แม่มึงตกใจใหญ่เลย”


“อา เดี๋ยวกูโทรกลับ” เปรมผงกหัว พ่อกับแม่ของเขาทำงานอยู่ต่างประเทศ ทุกเดือนทั้งคู่จะคอยโอนค่าใช้จ่ายเข้าบัญชีให้ นานๆ ทีถึงได้กลับมาเจอกัน


พ่อครัวถามว่า “แล้วคนอื่นไปไหน?”


“วันนี้ไอ้เท็นกับไอ้เมมีสอบ ส่วนออกัสเคลียร์เอกสารให้หมอแปดอยู่ บอกเสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวตามมา” ไฟบอก เปมทัตรับรู้ เปล่งเสียงอีกทีว่า


“ไอ้เอื้อล่ะ?”


“ติดต่อไม่ได้” อันนี้สามสีเป็นคนตอบ ทั้งห้องเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนชลันธรจะโพล่งขึ้น “แล้วมึงเป็นไงบ้างไอ้เปรม นอนยาวไปสองคืน ไอ้เหี้ย กูนี่ไม่เป็นอันทำอะไรเลย”


พ่อครัวมองอย่างซาบซึ้ง “มึงคงเป็นห่วงกูมาก...”


“เปล่ากูนอน ว่างฉิบหาย ไม่มีคนเล่นด้วย” โชบอกหน้ายุ่ง เปรมยิ้มค้างชูนิ้วกลางให้ “อ๋อเหรอจ๊ะ”


“แต่มึงลุกได้แบบนี้ก็ดีแล้ว อีกสองอาทิตย์สอบ” สามสีนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง ขยับตัวเล็กน้อยเมื่อไดนาไมต์เดินมานั่งตัก เด็กหนุ่มผมสีชมพูตาเป็นประกาย ร้องว่า


“มึงสอบเสร็จเที่ยวกัน!”


“นัดวันมาเลยดีกว่า” ไฟยิ้มสนุก


สามสีเลิกคิ้ว “ทะเลเป็นไง?”


“เอาๆ!” โชยกมือ ชื่นชอบกิจกรรมทางน้ำเป็นที่สุด


พ่อครัวยังไงก็ได้ เลยถามว่า “ใครไปบ้าง?”


“ติดต่อไอ้เอื้อไม่ได้แบบนี้ ก็คงเป็นเราเจ็ดคนเหมือนเดิม” สามสีตอบ หมอยาทำหน้าตื่นเต้น “ไปชลบุรีกันมึง เขาว่าน้ำสวยแล้ว อยากเห็น” 


“เออดี กูอยากกินไส้กรอกซีพีของเซเว่นแถววงเวียนโลมาด้วย” ไดนาไมต์บอก เด็กหนุ่มตัวสูงหรี่ตา “แหม ไปไกลเนาะ”


“เฮ้ยมันอร่อยกว่าในกรุงเทพนะมึง กูเคยกิน” เด็กหนุ่มผมสีชมพูตาโต เปมทัตหัวเราะ ก่อนจะชะงักไปจังหวะหนึ่ง ตัดสินใจถามว่า


“แล้วเชอร์รี่ล่ะ?”


ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ดวงตาของไดนาไมต์หม่นแสงไปแวบหนึ่ง ตอบว่า “ศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิตน่ะ”


“งั้นเหรอ...” พ่อครัวหน้าเศร้า


“เออ ไหนๆ ก็พูดแล้วกูถามเลยละกัน” ตอนนั้นเองที่โชโพล่งขึ้น “ตกลงวิดีโอนั่นใครเป็นคนเปิดวะ?”


ไฟผงกหัว ตอบว่า “ถามมาแล้วล่ะ เห็นว่ามีสตาฟฝึกงานคนหนึ่งเข้าไปตกลงกับทีมงานควบคุมไฟ ติดตั้งเครื่องฉาย จากนั้นก็เปิดวิดีโอเองเลย”


“แล้วเขามีคลิปได้ยังไง?” เปรมขมวดคิ้ว หมอยาไหวไหล่ “ใครจะรู้ จนถึงตอนนี้กูยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสตาฟคนนั้นเป็นใคร หมอนั่นทำงานเร็วมาก แถมยังไร้ร่องรอยราวกับมืออาชีพ”


“แต่ยังไงงานนี้ก็ต้องขอบคุณเขาล่ะนะ” สามสีพูดขึ้นมา ไดนาไมต์ถอนหายใจ “อา พวกเราตอนนั้นก็ตกที่นั่งลำบากกันหมด ถ้าไม่ได้หมอนั่นช่วยไว้คงแย่น่าดู”


“ฝีมือใครกันนะ...” เปมทัตทอดมองออกไป


สุดท้ายก็ไม่ได้คำตอบกลับมา




ย้อนกลับไปวันแต่งงาน
ภายในโบสถ์อาสนวิหารระหว่างพิธีจุดเทียน เอื้ออังกูรนั่งบนเก้าอี้ยาวตัวหลังสุด ดวงตาปิศาจเลื่อนลอยอย่างผิดวิสัย เขาโยนแฟลชไดรฟ์ในมือเล่นอย่างใช้ความคิด


กานต์พาเมธาออกไปได้พักใหญ่แล้ว เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลขมวดคิ้วคล้ายรู้สึกสับสน จนสุดท้ายเขาก็คิดออก วิธีเดียวที่จะหาคำตอบได้คือตามอีกฝ่ายไป


ไม่รอช้า...ร่างสูงลุกพรวดออกมาจากโบสถ์ทันที




เอื้ออังกูรหยุดเท้าลงหน้าปอร์เช่สีขาว ดวงตาจับจ้องกล่องเหล็กบนเบาะข้างคนขับอย่างชั่งใจ อุปกรณ์ซึ่งเขาจะใช้เปิดโปงนางแบบสาวที่โรงแรมทั้งหมดอยู่ในนั้น


“...” 


ประจวบเหมาะกับใครบางคนเดินผ่านมาพอดี เอื้ออังกูรมองเสื้ออีกฝ่าย จำได้ว่าเป็นเสื้อทีมของสตาฟฝ่ายออแกไนซ์งานแต่งในครั้งนี้


ปิศาจร้ายเหยียดยิ้มเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก ร้องว่า


“นาย!”


“...ครับ?” เด็กหนุ่มตัวเล็กดวงตาเหมือนแฮมสเตอร์หันมาตามเสียง เอื้ออังกูรกวักมือเรียก


“มานี่”


“มะ มีอะไรเหรอครับ?” สตาฟร่างเล็กวิ่งมาหน้าตื่นๆ ดวงตาปิศาจหลังแว่นกันแดดราคาแพงลอบสำรวจอีกคนตั้งแต่หัวจรดเท้า ถามว่า “มีบัตรห้อยคอแบบนั้น นายเป็นสตาฟฝึกงานสินะ?”


“ใช่ครับ”


“หน้าตาน่ารักดีนี่” เอื้ออังกูรยืนล้วงกระเป๋าสูทด้วยท่าทีสบายๆ แฟลชไดรฟ์บรรจุคลิปนางแบบสาวยังคงนอนอยู่ในนั้น “มาทำงานพิเศษเหรอ?” 


“เอ่อ...ครับ” เด็กหนุ่มหน้าอ่อนกระพริบตา ร่างสูงผงกหัวรับรู้ “แล้วนี่จะไปไหน?”


“งานส่วนของผมเสร็จแล้ว กำลังจะไปรับค่าแรงแล้วกลับมหาลัยครับ” คนตัวเล็กตอบเสียงค่อย เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลครางรับในลำคอ “อยู่มหาลัยอะไรล่ะ?”


เอื้ออังกูรเลิกคิ้ว แปลกใจนิดหน่อยเมื่อได้รับคำตอบว่าอีกฝ่ายอยู่มหาลัยเดียวกับตัวเอง ปีหนึ่งเหมือนกันเสียด้วย อดถามไม่ได้ว่า “เรียนคณะอะไร?”


“คณะเกษตรครับ” สตาฟหน้าอ่อนตอบยิ้มๆ


“แบบนี้นี่เอง ฉันก็มีเพื่อนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน” เอื้ออังกูรหันไปเปิดประตูรถ ก่อนจะพูดว่า “ช่วยอะไรหน่อยสิ”


“เอ๊ะ?” คนตัวเล็กร้อง เป็นจังหวะที่ร่างสูงหยิบกล่องเหล็กด้านในออกมา เขายื่นมันให้สตาฟฝึกงานพร้อมแฟลชไดรฟ์ อธิบายเสียงทุ้ม


“ในกล่องเหล็กมีเครื่องฉายภาพกับโน้ตบุ๊กเครื่องเล็ก เมื่อเจ้าสาวเดินมาหยุดหน้าเจ้าบ่าวให้นายดับไฟแล้วฉายวิดีโอในแฟลตไดรฟ์อันนี้ซะ เข้าใจไหม?”


“เอ่อ...เดี๋ยวนะครับ คุณเป็นใคร?” ดวงตาแฮมสเตอร์คู่นั้นฉายแววระแวง


“ฉันเป็นเลขาของหมอแปด”


เอื้ออังกูรยิ้มร้าย ยื่นนามบัตรที่เขาได้มาจากเลขาลูกครึ่งตอนเอาดอกไม้ไปแสดงความยินดีกับหมอแปดเมื่อตอนเย็นให้ด้วยท่าทางลื่นไหล


สตาฟตัวเล็กรับนามบัตรไปดู ใบหน้าอ่อนใสคลายความแคลงใจลงอย่างเห็นได้ชัด


“หมอแปดต้องการเซอร์ไพรส์เจ้าสาวน่ะ ช่วยหน่อยนะ” ร่างสูงตบไหล่อีกฝ่ายเบาๆ เสริมว่า


“เสร็จงานแล้วเอาอุปกรณ์ใส่กล่องไปเก็บในโรงแรมที่ใช้จัดงานตอนค่ำ และมันเป็นเซอร์ไพรส์เพราะงั้นอย่าให้ใครรู้ได้ว่านายเป็นคนทำ เข้าใจไหม?”


“ทราบแล้วครับ” สตาฟหน้าอ่อนรับคำ เอื้ออังกูรยกยิ้มถูกใจ “เข้าใจอะไรง่ายดี”


ในจังหวะที่คนตัวเล็กหันหลังให้ ร่างใหญ่ก็ร้องอย่างนึกขึ้นได้ “เดี๋ยวก่อน”


“ครับ?” อีกฝ่ายหันมา เอื้ออังกูรเอี้ยวตัวไปเปิดที่เก็บของหน้ารถ หยิบอะไรบางอย่างออกมาแล้วส่งให้ “ค่าจ้างของนาย เอาไปสิ” 
มือขาวรับมาถือ ก่อนจะเบิกตาโพล่ง “นี่มัน...”


“บัตรกำนันพักโรงแรมสุดหรูริมทะเลแถวพัทยาฟรีสองคืนแบบจำกัดสิทธิ์แค่สองท่าน ที่นั่นบรรยากาศดีนะ รีบใช้ก่อนบัตรจะหมดอายุก็แล้วกัน” เอื้ออังกูรบอกอย่างไม่ยี่หระ โรงแรมนั้นเป็นหนึ่งในเครือของธุรกิจของบ้านเขา


คนตัวเล็กลอบกลืนน้ำลาย รีบยื่นคืนมือสั่น “พะ แพงขนาดนี้ ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ...” 


“ง้องแง้งน่า รับค่าจ้างแล้วก็ไปทำงานซะ ฉันมีธุระต่อ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลตัดบท เขาก้าวเข้าไปนั่งบนเบาะคนขับแล้วปิดประตูรถ ก่อนจะเลื่อนกระจกลงถามว่า “ชื่ออะไรล่ะเรา?”


“เอ่อ ผมชื่อ...”


พลันเอื้ออังกูรก็ยกมือห้าม


“เสียเวลา หัวนายเป็นแบบนั้นฉันเรียกว่า ‘นายหัวหลิม’ ก็แล้วกัน” สิ้นคำก็ยกยิ้มร้ายแล้วขับรถออกไป ทิ้งสตาฟตัวเล็กให้ยืนโวยวายอยู่ด้านหลังเพียงลำพัง 


“ผมไม่ได้ชื่อหัวหลิมสักหน่อย!”



****************************************************** *   

สวัสดีค่าาาา า
 :katai4:
หายไปเกือบสองอาทิตย์อีกแล้ว เขินจน 555555555 5
จบปมชาร์ลอตต์แล้วค่ะ ฮุเร่ !
ตอนหน้าจะพาพวกตัวแสบไปทะเลแล้ว พักผ่อนบ้าง 55555555 5

จากตอนที่แล้วอีเอื้อคือพลีชีพสุด
ได้รับการพูดถึงแบบอลังการมาก สงสารมันจน 555555 5
ขอบคุณทุกคนที่อ่านและอินกับนิยายเรื่องนี้นะคะ
ทั้งความคิดเห็นที่เป็นบวกและลบ จูนขอรับไว้ด้วยความเต็มใจค่ะ
ส่วนข้อข้องใจทั้งหลายนั้น จูนจะขอตอบผ่านเนื้อเรื่องนะคะ
สุดท้ายแล้วไม่ว่าจะจบแบบไหน นั่นก็คือคำอธิบายและบทสรุปจากจูนค่ะ

ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและให้กำลังใจนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ ไม่มีพวกคุณจูนก็คงมาถึงตรงนี้ไม่ได้เลย
ขอให้อ่านนิยายอย่างมีความสุขนะคะ
 :katai2-1:

เจอกันตอนที่ยี่สิบห้าค่าาาาา า   

ออฟไลน์ boboman

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :pig4:   ซันไช่อดทนไว้ก่อนนะ. ไม่ค่อยจะมือไวเลยอะ
หน่องเปรมกลับมาแล้ว. โอ๋ๆ อย่าลืมพะแนงหมูของผิงล่ะ.

ยังคงคาใจและรอพาร์ทน้องเมต่อไป.
ขอบคุณค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-08-2015 09:53:55 โดย ❣☾月亮☽❣ »

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
เป็นการแค้นที่ผิดที่ผิดทางเสียจริง เหมือนจะฉลาดนะแต่ก็แอบซื่อนิ๊ดนึงเชอร์รี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ k_keenny

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 370
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
เรื่องนี้สนุกดีนะเราชอบ

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
น้องเอื้อ 3p :katai2-1:

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
หุยยยย นังเอื้อออ ขอบคุณที่ยังมีสำนึกฉุดคิดนะยะ (ปมเปิมไรไม่สน นะวินาทีนี้ อิ เอื้ออออออ!!!!!!!)
อย่าลืมทำพะแนงหมูให้ผิงอันนะกุ๊ก

ออฟไลน์ bpyt

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1340
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-2
เอื้อแม่งฟันแล้วหายหัวเลยนะ
เท็นอะไรอ่ะ กุ๊กฟื้นมาก็รุกเลยหรอ 55

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
เอื้อ นิสัย! :z6:

ออฟไลน์ littlegirlfriend

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
มาแล้ววววววววว


 :hao7:

ออฟไลน์ why yyy

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4565
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-8
ปมอะไรนั่นช่างมัน ติดอยู่นิดเดียวอะไรคือเดินมานั่งตักห๊ะระเบิด




ขอบคุณ :)

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เปรมเท่จังเลย เป็นอัศวินปกป้องเจ้าชาย

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
นึกสงสัยจริง ๆ ว่าผิงนี่จะกลายมาเกิดเป็นลูกของเท็นกับเปรมอ่ะ 5555


ส่วนตอนนี้ในที่สุดบทสรุปก็จบลงด้วยดี ดีที่เปรมไม่ตายนะไม่งั้นเท็นคงใจสลายแน่


สงสัยหมอแปดต้องรีบมาสู่ของเปรมให้เท็นแล้วนะ ลูกสะไภ้อุตสาเอาตัวบังกระสุนให้ลูกชายแบบนี้แสดงว่ารักจริง หึหึ   :hao6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
ไดนาไมต์นั่งตักสามสี?!! :-[ งานนี้ฟินกันไปยาวๆ~

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ขำพะแนงหมูอ่ะ ใช่เรื่องมั้ยเปรม ถามเขาว่าชอบกินอะไรเนี่ย แบบว่ามันควรจะกลัวป่ะ
นี่ถามเขากลับเฉย มีสติมากเกินไปแล้วววว
ดีแล้วที่กลับมาหาเท็น
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ครึครึ

เจ็บแลกรักกกกก

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5
ทำไมมมถึงคิดว่าเด็กที่เอื้อให้ไปทำงานให้ จะไม่ธรรมดานะ
หึหึ

สงสารเชอรรี่จังงง ใช้ชีวิตอยู่กับความแค้นมาตลอดดดด
โถ่ๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ threetanz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 766
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
คลี่คลายแล้ววว อย่างน้อยก็รู้ว่าหมอแปดไม่ได้ทำอะไรผิด :)

ออฟไลน์ lemonpreaw

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 882
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
แล้วสถานการณ์ฝั่งน้องเมกับเอื้อเป็นยังไงบ้างละนี่ อิเอื้อมันทำอะไรน้องเมของช้านมั้ย

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คล้ายๆกับเท็นจะทำอะไรตามสัญชาตญาณเนอะ บางทีดูโต บางทีดูเด็กโดยเฉพาะเวลาอยู่กับกุ๊ก มันเป็นอะไรที่น่ารักมาก ชอบให้กุ๊กโดนอ้อนเยอะๆจัง
ปล. แอบอยากเห็นกุ๊กอ้อนเท็นบ้าง

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นายหัวหลิมกลับมาแล้ววววววววววววววววว :impress2:

อยากรู้ว่าเอื้อกับเมเป็นยังไงบ้างงงงงงง :z3:

ออฟไลน์ nun.sj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อร้ายยยยย เราชอบนาย นายหัวหลิม เป็นตัวประกอบที่มีบทเรื่อยๆจริงๆ :ling1: :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด