(ต่อ)
ผืนฟ้าเวลาหนึ่งทุ่มเปลี่ยนเป็นสีเข้ม เปมทัตลงรถเมล์หน้าประตูมหาวิทยาลัยแล้วเดินเข้ามา จุดหมายคือมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ข้างตึกรวมแลป
“เปรม!”
เสียงหนึ่งเรียกชื่อเขา ตามด้วยเจ้าของเส้นผมสีทองที่วิ่งเข้ามาหาเหมือนติดเรดาร์ อีกฝ่ายโผกอดพ่อครัวเหมือนเด็กๆ “ฮือ คิดถึงเปรมที่สุดเลย!”
เปรมกอดตอบยิ้มๆ “ไงแชงมา”
“เล่นกับเขาเบาๆ หน่อยสิเจ้าทึ่ม!” เด็กหนุ่มตาเหยี่ยวเดินตามมาทีหลัง พ่อครัวหัวเราะ “ไม่เป็นไรหรอก” มองแชงมาแล้วเลิกคิ้ว “เห ผอมลงหน่อยแล้วนี่?”
“ผลจากการพยายามอย่างหนักล่ะนะ” เดย์ถอนหายใจ เปมทัตยิ้มแหย “คงลำบากน่าดูเลยสินะ”
“มากๆ เลยล่ะ! แต่ฉันจะรีบกลับมาผอมนะ! เพื่อเปรมไงล่ะ!” แชงมาฉีกยิ้มประกายเจิดจ้าจนรอบข้างสว่างขึ้นมาแวบหนึ่ง เปรมหรี่ตา ดูท่าความสามารถนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้ำหนักตัวแฮะ
“งั้นแยกกันตรงนี้นะ นายเองก็รีบไปได้แล้ว” เดย์บอกเพื่อนตัวโต พ่อครัวถามขึ้น
“ไปไหนเหรอ?”
“วันนี้คณะศึกษาฯจัดงานเลี้ยงต้อนรับคนที่เข้าคอร์สลดน้ำหนัก ฉันเลยต้องไปเป็นชิ้นเนื้อตัวอย่างให้ทุกคนเห็นว่า ‘ลดน้ำหนักได้ผลนะ’ น่ะ” เด็กหนุ่มมาดโฮสต์บอกทื่อๆ เปรมมุมากกระตุก ชิ้นเนื้อตัวอย่างเรอะ...
“แล้วเดย์?”
“เดย์มีนัดกับสาวแหละเปรม! ฮือออ” แชงมาร้องไห้แบบไม่มีน้ำตา “ฉันต้องไปที่นั่นคนเดียวเลยนะ! ดูสิ ใจร้ายมากใช่ไหม นี่ไม่มีเพื่อนเลยนะเนี่ย!”
“ซันไง หมอนั่นไม่ปล่อยให้นายอยู่คนเดียวแน่ๆ” เดย์สัพยอก คิ้วเหนือดวงตาหางชี้กระตุกหงึก
“มีหมอนั่นฉันยอมอยู่คนเดียวซะดีกว่า!”
เปรมกระพริบตา “แย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“หมอนั่นหน้าบึ้งตลอดเวลาเลย แถมยังชอบบังคับฉันด้วย นิสัยแย่มากเลยล่ะ” แชงมาสะบัดหน้าขวับ “เปรมของฉันน่ารักกว่าตั้งเยอะ!”
“...เหรอ” พ่อครัวขานรับอย่างไม่รู้จะพูดอะไร เป็นจังหวะที่เดย์บอกว่า “งั้นฉันไปก่อนนะ”
“โชคดีนะเดย์” เปรมหันไปโบกมือให้ เด็กหนุ่มตาเหยี่ยวโบกมือกลับก่อนจะเดินออกไป
“แล้วแชงไม่รีบไปเหรอ?” อันนี้หันมาถามเด็กหนุ่มมาดโฮสต์ แชงมาทำหน้าเหนื่อย
“นั่นสิ ถ้าไม่รีบไปมีหวังฉันโดนไอ้โหดนั่นเฉ่งอีกแหงๆ” เขาสบตาเปมทัตแวบหนึ่ง ก่อนจะยกมือแตะข้างแก้มพ่อครัวอย่างแผ่วเบา
“เปรม...ร้องไห้เหรอ?”
“เอ๊ะ” คนฟังสะดุ้ง ดวงตาหางชี้ทอประกายคมกริบ “ไม่มีน้ำตาหรอก ฉันเห็นตาแดงๆ เลยถามดูน่ะ”
“งะ งั้นเหรอ...” เปมทัตขยับตัวอย่างกังวล ร่างสูงมองท่าทางนั้น ถามว่า “เกิดอะไรขึ้นใช่ไหม?”
เปรมก้มหน้า ตอบเสียงแผ่วราวกับกระซิบ
“ไม่ใช่...”
“เทคนิคจับโกหกบอกว่าคนที่ตอบปฏิเสธแบบทวนคำถามส่วนใหญ่มักจะโกหกนะ” นิ้วยาวเชยคางเล็กขึ้นให้สบตา แชงมาใช้นิ้วโป้งแตะใต้ขอบตาพ่อครัวเบาๆ
“ไม่รู้หรอกว่าไปเจออะไรมา...แต่อย่าฝืนมากไปนักล่ะ” เจ้าของเส้นผมสีทองพูดชัดถ้อยชัดคำ
“ฉันอยู่ข้างเปรมเสมอนะ”
พ่อครัวสบตาอีกฝ่าย ยิ้มออกมาในที่สุด
“ขอบคุณนะ แชงมา”
ตั้งแต่วันนั้นเปรมก็หลบหน้าเท็น พ่อครัวมักจะหายไปจากห้องและให้เพื่อนๆ ช่วยกลบเกลื่อนเสมอเวลาทศทิศเข้ามาหาหลังเลิกเรียน รวมถึงไม่ยอมรับสายและไม่ตอบข้อความใดๆ จากร่างสูงทั้งสิ้น
เขายังไม่พร้อมจะเจออีกฝ่าย...
ต้นเดือนธันวาคมเวียนมาถึง ยามเย็นที่ลมหนาวพัดผ่าน หลังเรียนปิงปองเสร็จเปมทัตก็แยกกับเพื่อนเพื่อกลับหอ ระหว่างทางเดินไปที่จอดรถนั่นเอง...ใครบางคนยืนรอเขาอยู่
เปรมมองคล้ายไม่อยากจะเชื่อ เบื้องหน้าปรากฏร่างสูงอันคุ้นเคย
“...”
ดวงตายาวรีคู่นั้นจับจ้องเขา
วิ้ว...
ลมหนาวพัดมาวูบหนึ่งคล้ายสลับฉาก เย็นยะเยือกกรีดผิวเนื้อเด็กหนุ่มจนรู้สึกเจ็บ แต่นั่นคงไม่สาหัสเท่าบาดแผลตรงหัวใจที่บอบช้ำจนแทบไม่เหลือแรงเต้นแล้วในตอนนี้
“กุ๊ก”
เท็นก้าวเข้ามาหา เปรมทำท่าจะเดินหนีทว่ากลับถูกอีกฝ่ายปราดเข้ามาคว้าแขนไว้
“ปล่อย!”
“กุ๊กหลบหน้าเราทำไม?”
“ฉันไม่ได้...”
เสียงพ่อครัวเงียบหายไป ทศทิศจับไหล่อีกคนให้หันมาเผชิญหน้า
“กุ๊กเป็นอะไรกันแน่!!”
เปมทัตนิ่งไป เขามองเงาตัวเองที่สะท้อนอยู่ในดวงตายาวรีของอีกฝ่าย
“ฉัน...”
ช่วงที่ผ่านมาเปรมคิดอยู่ตลอด...ตั้งแต่เจอเดียร์เขากับเท็นก็คุยกันน้อยลง ปกติตารางเรียนอันแน่นขนัดของว่าที่คุณหมอก็ทำให้เจอกันยากอยู่แล้ว
กอปรกับฝ่ายหญิงไปหาทศทิศแทบทุกวันทำให้ร่างสูงต้องรับรองแขกจนไม่มีเวลามาเจอกันอีก ยิ่งช่วงหลังพ่อครัวยังพยายามหลบหน้าอีกฝ่ายด้วย แถมเท็นกับเด็กสาวก็ช่างเข้ากันได้ดีเหลือเกิน...
ในที่สุดความคิดทั้งหมดก็ส่งให้พ่อครัวพูดออกมา
“พอสักทีเถอะ”
“ว่าไงนะ?” เท็นขมวดคิ้ว เปมทัตสูดลมหายใจคล้ายรวบรวมความกล้า พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
“ฉันมาคิดดูแล้ว เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้หรอก”
“หมายความว่ายังไง” ทศทิศเพิ่มแรงบีบแขนอีกคนโดยไม่รู้ตัว “ทำไมพูดแบบนั้น?”
เปรมก้มหน้า “ฉัน...”
ครืด...
เป็นจังหวะที่สมาร์ทโฟนในกางเกงเปมทัตสั่นตัว เท็นคลายมือออกคล้ายยอมให้กดรับสาย พ่อครัวแนบมือถือขึ้นข้างหูโดยไม่มองหน้าจอ “ฮัลโหล...”
(เปรมจ๋า! อยู่ไหนแล้ว?)
“แชงเหรอ?” เปรมเพิ่งนึกออกตอนนั้น เขานัดอีกฝ่ายไว้เพื่อจะเอาสูตรอาหารคลีนไปให้เย็นนี้นั่นเอง ยังไม่ทันเอ่ยตอบเท็นก็คว้ามือถือไปจากเขาอย่างรวดเร็ว
ดวงตายาวรีทอประกายวาวโรจน์ นิ้วยาวกดตัดสายอย่างเย็นชา เปมทัตเบิกตากว้าง “เท็น! เอามือถือฉันคืนมานะ!”
“ไม่” เท็นตอบเสียงทุ้ม ขบกรามแน่น “นี่ใช่ไหมเหตุผลที่กุ๊กหลบหน้าเรา! เพราะไอ้หมอนี่ใช่ไหม!”
“อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะ! นิสัยเสีย!”
พ่อครัวพยายามเข้าไปแย่งคืน ทศทิศกัดฟันกรอด เขาใช้มือหนาจับสองข้อมืออีกฝ่ายไว้ ใบหน้าหล่อเหลาฉายแววเกรี้ยวกราดกึ่งเจ็บปวด “เริ่มคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมเราไม่รู้เรื่อง!”
“ก็ตั้งแต่ที่นายไปอยู่กับเด็กคนนั้นไงเล่า!!” เปรมตะโกนออกมาอย่างเหลืออด คนฟังขมวดคิ้ว “น้องเดียร์เกี่ยวอะไร? ไปคุยกับมันทำไมกุ๊กไม่บอกเรา!”
“ทำไมฉันต้องบอกนายด้วย!” พ่อครัวสวนกลับทันที
ทำให้มันจบลงตรงนี้แหละ...
“กุ๊กเป็นของเรา!”
“ฉันไม่ใช่ของๆ นาย!!” เปมทัตเผชิญหน้าอย่างไม่ลดละ ยกยิ้มเยาะ “หึ...นายจะหมั้นยังไม่เห็นบอกฉันเลยนี่?”
“ไปรู้เรื่องนั้นมาจากไหน?” ทศทิศจ้องหน้า พ่อครัวพูดกระแทกเสียง “ทำไมล่ะ ไม่พอใจรึไงที่ฉันรู้น่ะฮะ!” ความกล้านั้นมีมากพอกับความเจ็บปวดทีเดียวในตอนนี้
“เรื่องนั้น...”
“ทีนายยังมีคนคุยได้...” เปมทัตจ้องตาอีกฝ่าย
“แล้วทำไมฉันจะมีคนคุยบ้างไม่ได้!!”
“ไมได้!!” เท็นสวนกลับแบบไม่ต้องคิด ก่อนสมาร์ทโฟนในมือเขาจะสั่นขึ้นอีกรอบ พ่อครัวขมวดคิ้ว
“เอาของฉันคืนมา!”
“เราไม่ยอม!”
“ฉันก็ไม่ยอมเหมือนกัน!” เปมทัตพรวดเข้าไปกระชากมือถือ ก่อนจะถูกร่างสูงคว้าเข้าไปกอดไว้แน่น
“กุ๊กฟังเราก่อน”
“ฉันยังต้องฟังอะไรอีก...” คนพูดพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น “นายจะหมั้น...แต่นายไม่ยอมบอกฉัน มันหมายความว่ายังไง? เพราะตัวนายเองก็ต้องการแบบนั้นใช่ไหมล่ะ!!”
“กุ๊ก...”
“ปล่อย!” เปรมสะบัดตัวหลุดจากอ้อมแขนใหญ่ได้สำเร็จพร้อมมือถือ ก่อนจะโดนคนตัวใหญ่รวบไปกอดไว้อีกครั้ง
“เท็น!”
“ไม่เอา!” ทศทิศซุกหน้ากับไหล่พ่อครัวอย่างใจเสีย ดวงตายาวรีสั่นวูบ “เราไม่ให้กุ๊กไป อย่าไปเลยนะ”
“อย่ามาแตะตัวฉัน! ปล่อย!” เปรมเหยียบเท้าร่างสูงเต็มแรง ฝ่ายหลังร้องลั่น เปมทัตอาศัยจังหวะนี้สลัดตัวให้หลุดจากอ้อมแขนใหญ่แล้วผลักจนอีกฝ่ายล้มลง
กึก!
เท็นนิ่วหน้า หันไปมองขาที่พับอยู่ ข้อเท้าของเขาพลิกเสียแล้ว
“กุ๊ก...”
เปรมชะงัก เขาไม่ได้ตั้งใจให้อีกฝ่ายเจ็บตัว แต่พอสบดวงตายารีคู่นั้นแล้วก็ทำได้เพียงหันหลังให้เพราะกลัวตัวเองเผลอใจอ่อน
เท็นหน้าเสีย พยายามลุกขึ้นด้วยใบหน้าเหยเก “กุ๊ก...ฮึก ไม่เอานะ...”
“เรื่องของเรามันจบแล้ว...” เปรมพูดอย่างเย็นชา หลับตาตะโกนสุดเสียง
“อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!”
“ไม่นะ...” เท็นมองพ่อครัวหันหลังวิ่งจากไปแล้วเบิกตากว้าง จะลุกขึ้นวิ่งตามก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ “ไม่เอา ฮึก กุ๊ก...” แผ่นหลังของเปมทัตไกลออกไปทุกที
“กุ๊กอย่าทิ้งเรา...ฮือ กุ๊กกลับมา...”
ตอนนั้นเองที่เบนซ์สี่ประตูคันหรูแล่นมาจอดเทียบท่า ออกัสวิ่งลงมาอย่างตกใจ
“เท็น!”
ทศทิศนั่งนิ่งเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยว ก่อนจะสะอื้นออกมาในที่สุด
“เราขอโทษ เราจะไม่ทำอีกแล้ว กุ๊กกลับมาหาเราเถอะนะ ฮือ...” เสียงร้องนั้นเจ็บปวดราวกับจะขาดใจ ดวงตายาวรีคู่งามเคลือบด้วยม่านน้ำตา หัวใจคนมองปวดแปลบยามหยาดน้ำใสไหลลงข้างแก้มเด็กหนุ่ม
“กุ๊กอย่าทิ้งเราไป...”
ออกัสย่อตัวกอดนายน้อยด้วยดวงตาแดงก่ำ กระชับอ้อมแขนอย่างนึกสงสารน้องชายจับใจ
อีกด้าน เปมทัตที่วิ่งมาสุดแรงก็ชนเข้ากับใครบางคน
ตุบ!
“ขอโทษครับ!” พ่อครัวก้มหน้า ก่อนจะออกแรงดิ้นเมื่อถูกคว้าแขนไว้
“เปรม!”
เจ้าของชื่อยืนนิ่งเมื่อได้ยินเสียง ทันทีที่เงยหน้าสบตาอีกฝ่าย ทำนบน้ำตาก็พังทลายลงมาในที่สุด
“แชง...”
ร่างสูงคว้าอีกฝ่ายเข้ามากอดดังหมับ พ่อครัวสะอื้นฮักจนเจ็บหน้าอก “ฉันทำเขาร้องไห้...ฮึก ฉันผิดเอง...” กำปั้นลุ่นทุบเข้าอกกว้าง เปมทัตแผดเสียงออกมาราวกับจะขาดใจ
“ฉันมันเลวที่สุดเลย!! ฮือ...”
ดวงตาหางชี้ทอประกายเจ็บปวดยามได้สินเสียงสะอื้นของอีกฝ่าย ทำได้เพียงกอดร่างที่ราวกับจะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อของพ่อครัวเอาไว้ พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
“ฉันอยู่กับเปรมนะ”
“ฮือ...”
ในเวลาเดียวกันมีคนสองคนหัวใจสลาย
“เขาไม่จำเป็นต้องมีฉันอีกแล้วแชง...”
หนึ่งคือคนที่ถอยออกมาเพราะไม่เข้าใจ
“ฮือ กุ๊กอย่าไปเลยนะ...”
อีกหนึ่งไม่ยอมอธิบายอะไรแล้วปล่อยอีกคนให้จากไปอย่างเจ็บปวด
****************************************************** *
สวัสดีค่าาาา า

เฮ้ยรอบนี้มาเร็วอะ ตบมือแมะ 5555555 5
จริง ๆ กะจะเก็บตอนนี้ไว้ลงกลาง ๆ เดือนหน่อยด้วยซ้ำ
แต่คอมเกิดติด ๆ ดับ ๆ เลยเอาวะ ลงเลยละกัน
ขอบคุณคอมที่เจ๊งเนาะ 555555 5
เคยลองแกล้งทวิตถามว่าถ้าจบไม่สวยจะเป็นอะไรมั้ย
ผลคือน่าจะโดนด่านั่นเอง เอาซะนี่ลังเลเลยค่ะ 55555 5
อีกสอง .. หรืออาจจะสามตอนเรื่องนี้ก็จะจบแล้ว
เกือบปีนึงพอดีเลยค่ะ วู่ยนานอะไรเบอร์นั้น 555555 5
หายใจเหมือนกันนะคะ จะออกหัวหรือก้อยก็มาลุ้นกันเนาะ
สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนิยายเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณที่สนใจและให้ความสำคัญกับนิยายกิงกะหล่าเรื่องนี้ค่ะ
ทั้งออกสื่อและไม่ออกสื่อเลย รวมถึงคนที่ช่วยบอกต่อด้วย
พอแอบไปเห็นมันก็ดีใจจนต้องยิ้มแบบนางงามออกมาเลยค่ะ อิ๊ ๆ คริ ๆ
โซนขายของ ฝากเพจด้วยนะคะ
iJune4S
น้องจูนคนเดิม ไม่มีอะไรเพิ่มเติมเลยค่ะ
จะโฆษณาทำไมก็ไม่รู้ ก็ไปหลับ ๆ หู หลับ ๆ ตากดกันเนาะ 55555 5
ใครว่าง ๆ ก็ไปเล่นแท็ก #เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ ในทวิตเตอร์กันได้นะคะ

แล้วเจอกันตอนที่สามสิบค่าาา า