END*ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด★❥ [14/06/18]P53
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: END*ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด★❥ [14/06/18]P53  (อ่าน 514665 ครั้ง)

ออฟไลน์ Timber

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รีบมาต่อนะคร้าาาบ  รออ่านอยู่ "ค้างงง"  :z3:

ออฟไลน์ วายซ่า

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +205/-6
ป๋าหื่นเอ๊ย  เมึยเจ็บก็ไม่คิดจะเว้นเลยนะ 

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ใคร ใคร ใคร ทำน้องมินของเค้า เฮียไปจับมาลง โทษแบบด่วนเลยค่ะ

ออฟไลน์ Cady

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 113
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ขยันสร้างความหวานจริงๆเลยคู่นี้
อิพี่ป๋าก็เอาใจน้องสุดๆ

ออฟไลน์ Supparang-k

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1908
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-3
ใครมาขัดจังหวะวะ โหยยยยยยยยยยยยยยยย

 :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
น่ารักสม่ำเสมอนะคู่นี้ แต่อีกคู่น่าลุ้นกว่า

ออฟไลน์ meepooh2499

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เรื่องรักเมี ห่วงเมีย หลงเมียนี่ อิป๋าทิวชนะเลิศเอาถ้วยไปเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★.:***♡มหาลัยวุ่นรัก♡...เดอะ ซีรี่ย์❥***:.★
เรื่อง
♡.:*ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด*:.★❥
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡


ตอนที่ 12 (ปูกะโจ) คำตอบ




พาร์ทโจ



"แค่นอนกับผมไม่กี่ครั้งคุณก็บอกว่าคุณชอบผมเนี๊ยะนะ หึ!! คุณกลับไปเถอะ ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ ผมอยากอยู่คนเดียว"




นั่นคือคำตอบของผมครับ ผมพูดจบก็ผลักเขาออกจากห้องของผมแล้วปิดประตูทันที เขาไม่ขัดขืนผมเลยซักนิด ยอมให้ผมผลักเขาออกไปง่ายๆ มันดูง่ายไปกว่าทุกๆ ครั้งที่ผมเคยพยายามทำมัน ช่วงเวลาที่เขาบอกว่าเขาชอบผมมันทำให้สมองผมอื้ออึงไปหมด คำบอกรักที่ดูหยาบคาย สั้นๆ ดูพูดออกมาง่ายๆ กลับทำให้ผมใจเต้นแรง นี่ผมบ้าไปแล้วใช่ไหมครับ ดันใจเต้นแรงกับคำบอกรักจากผู้ชายห่วยๆ ที่แรกเริ่มก็ทำร้ายผมเนี๊ยะนะ หึหึ บ้าจริง!! มันต้องเป็นเรื่องที่ผมกำลังเข้าใจอะไรตัวเองผิดหรือผมอาจจะกำลังสับสนอะไรสักอย่างอยู่เลยทำให้เกิดอาการบ้าๆ แบบนี้ใช่ไหมครับ





ผมเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วล้มตัวลงนอนอย่างหมดแรง นอนคิดเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับผม ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากหัวเราะเยาะตัวเองออกมาดังๆ เพราะผมคิดว่าถ้าชีวิตนี้ผมได้อยู่อย่างสงบสุขมันคงจะไม่ใช่ชีวิตที่แท้จริงของผมซินะ ตั้งแต่เกิดมาจนผมโตมาขนาดนี้ ชีวิตผมยังไม่เคยสงบสุขเลยซักวัน ผมนอนคิดไปเรื่อยจนเผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาตอนเช้าผมก็ต้องกลับสู่ชีวิตที่ผมสร้างขึ้นซักที ผมลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วขับรถไปบริษัท หมดวันพักร้อนบ้าๆ ของผมไปกับเรื่องที่ดูวุ่นวายและทำให้การใช้ชีวิตผมผิดแผนไปหมด แล้ววันนี้ผมก็ได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เขาไม่มาให้ผมเห็นหน้าอีกแล้วครับ เขาไปแล้ว....





ก๊อก ก๊อก ก๊อก



"เชิญครับ"


"บอสค่ะ ลูกค้าที่นัดไว้มาถึงแล้วค่ะ"


"ผมขอเวลาห้านาที คุณพาลูกค้าไปรอพบผมที่ห้องประชุม แล้วบอกนพให้เตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะ"


"ค่ะ บอส..."




เมื่อคือผมเตรียมพรีเซนต์งานจนดึกครับ ลูกค้าเจ้านี้ค่อนข้างรายละเอียดเยอะพอสมควร ผมเลยต้องเตรียมงานมากกว่าลูกค้าเจ้าอื่นนะครับ ผมเตรียมไฟล์งานนิดหน่อยก็เดินไปยังห้องประชุมทันที เพราะถ้าให้ลูกค้ารอนานๆ คงจะดูไม่ดีแน่....




"สวัสดีครับ คุณภัทร"


"สวัสดีครับ คุณโจ"


"ขอโทษที่ทำให้รอนานนะครับ"


"ไม่เป็นไรครับ ผมเพิ่งมาถึงได้ไม่นาน"


"งั้นเราเริ่มกันเลยไหมครับ?"





ผมพรีเซนต์งานให้คุณภัทรซึ่งเป็นลูกค้าใหม่ของผม ลูกค้าคนนี้กำลังจะสร้างบ้านหลังใหม่ครับ สไตล์โมเดิร์นที่ดูแล้วสบายตา ดูปลอดโปร่งและน่าอยู่ โดยให้เหตุผลผมมาว่า... "มีบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ไม่อยากอยู่บ้านที่ดูแออัดจนเกินไป อยากอยู่แล้วรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนต่างจังหวัดมากกว่า..." ผมเลยทำการบ้านกับงานชิ้นนี้เยอะมากครับ รายละเอียดค่อยข้างเยอะพอสมควร แต่ผมก็ถือว่ามันเป็นงานที่ท้าทายงานหนึ่งที่ผมอยากทำให้มันสำเร็จ ผมพรีเซนต์งานประมาณสองชั่วโมงนิดๆ ก็จบการพรีเซนต์ ดูท่าทางลูกค้าผมจะชอบพอสมควรนะครับ อย่างนี้ต้องรอลุ้นครับ





"ผมชอบมากเลยครับ... คุณโจนี่เก่งสมคำร่ำลือจริงๆ เลยนะครับ ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่ผมเลือกบริษัทคุณมาสร้างบ้านหลังนี้ให้ผม"


"ขอบคุณที่คุณภัทรชอบงานที่ผมนำเสนอนะครับ ถ้าคุณภัทรต้องการอะไรเพิ่มเติมบอกได้เลยนะครับ"


"งั้นเราคงต้องเจอกันบ่อยขึ้นแล้วซินะครับ"


"ผมยินดีครับ ถ้าคุณภัทรวางใจให้บริษัทผมทำงานนี้ให้ครับ"


"แน่นอนอยู่แล้วครับ คุณโจเก่งซะขนาดนี้ ผมจะปล่อยผ่านได้ไงล่ะครับ ต้องรีบคว้าตัวมาให้ทำงานให้ล่ะซิไม่ว่า ฮ่าๆๆ"


"ขอบคุณมากครับ..." ผมพูดขอบคุณอีกครั้ง


"งั้นคุณโจจะเริ่มงานได้เมื่อไหร่ครับ ถ้าผมอยากให้เสร็จซักกลางปีหน้าจะทันไหมครับ"


"ผมคงต้องรอดูองค์ประกอบหลายๆ อย่างให้ดีซะก่อนครับ ถ้าผมได้คำตอบแล้วจะรีบแจ้งให้คุณภัทรทราบทันทีเลยนะครับ"


"ได้ครับ งั้นผมจะรอคำตอบจากคุณโจแล้วกันนะครับ ผมชักอยากจะเห็นบ้านใหม่ของผมแล้วล่ะซิ ว่าจะสวยขนาดไหน"


"ต้องสวยมากแน่นอนครับ เพราะผมจะทำสุดฝีมือเลยครับ"



ผมตอบอย่างมั่นใจ เพราะถ้าผมตั้งใจทำมันแล้วงานทุกชิ้นของผมย่อมออกมาดีเสมอ ที่ผมมีลูกค้าเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ก็เพราะลูกค้าที่เคยให้บริษัทผมออกแบบบ้านให้บอกต่อกันไปอีกทีนะครับ นี่ก็คืออีกหนึ่งความภาคภูมิใจของผมครับ



"งั้นผมขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะครับ พอดีว่าผมต้องไปธุระต่อนะครับ" คุณภัทรพูดบอกกับผม


"ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป โอกาสหน้าผมขอเลี้ยงข้าวคุณภัทรซักมื้อนะครับ"


"ได้ซิครับ ผมก็อยากเลี้ยงข้าวเพื่อเป็นการขอบคุณคุณโจเหมือนกันครับ ที่ช่วยออกแบบบ้านสวยๆ หลังนี้ให้ผม แต่วันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ"


"ครับ สวัสดีครับ"


"แล้วเจอกันครับคุณโจ สวัสดีครับ"





หลังจากคุณภัทรลูกค้าของผมกลับไป ผมก็มานั่งเก็บรายละเอียดงานอีกครั้ง เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ที่สุด เวลาที่จะทำงานซักชิ้นผมจะเน้นที่ความต้องการของลูกค้าและอิงหลักความเป็นจริงที่สามารถสร้างขึ้นได้จริงเป็นหลักครับ ผมจะคิดถึงใจลูกค้าเสมอ เพราะผมรู้ว่าทุกคนย่อมอยากมีบ้านในฝันทุกคนแหละครับ ผมอยากให้บ้านที่ผมสร้างเป็นบ้านที่อยู่แล้วมีความสุขนะครับ ผมกำลังนั่งคิดงานเพลินๆ จนลืมเวลาไปเลยครับ เสียงเคาะประตูผมก็ดังขึ้นครับ





ก๊อก ก๊อก ก๊อก



"เชิญครับ...."


"บอสค่ะ... มีพนักงานร้านกาแฟด้านล่างเอากาแฟกับเค้กมาส่งค่ะ"


"ใครสั่ง? ผมไม่ได้สั่งนิ"


"คือ... เขาบอกว่าเป็นของบอสนะค่ะ"


"ของผมงั้นเหรอ?" ผมถามด้วยความงุนงงสุดๆ เพราะผมทานกาแฟร้านนี้ เวลานี้ก็จริง แต่วันนี้ผมยังไม่ได้โทรสั่งเลยนะครับ เพราะผมนั่งทำงานจนลืมเวลาจิบกาแฟยามบ่ายไปแล้วด้วยซ้ำ



"งั้นคุณเอามาให้ผมแล้วกัน" ผมสั่งเลขาของผม


"ค่ะบอส...." พูดจบเธอก็ปิดประตูแล้วเดินออกไป ใช้เวลาไม่นานเธอก็เดินถือถาดที่มีกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นที่ผมคุ้นเคย พร้อมกับเค้กวนิลาที่ผมชอบทานคู่กับกาแฟ



"นี่ค่ะบอส กาแฟมอคค่าหวานน้อยกับเค้กวนิลาค่ะ"


"แปลกจริง ผมยังไม่ได้โทรสั่งเลย คุณโทรสั่งให้ผมรึป่าว?"


"ป่าวค่ะบอส วันนี้จูนยุ่งๆ บอสยังไม่ได้โทรบอกให้จูนสั่ง จูนเลยยังไม่ได้โทรสั่งให้บอสเลยค่ะ"


"อืม... ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณหรอก คุณออกไปได้แล้ว ขอบคุณมาก"


"ค่ะบอส...."




แล้วเลขาผมก็เดินออกไป ทิ้งเค้กกับกาแฟที่ผมสั่งกินประจำไว้ที่โต๊ะทำงานของผม ผมหยิบกาแฟขึ้นมาจิบเพียงเล็กน้อยก็รู้ทันทีว่าคือรสกาแฟที่ผมสั่งกินเป็นประจำ ผมนั่งทำงานไปกินกาแฟกับเค้กไปจนหมดโดยไม่รู้ตัว มองดูเวลาอีกทีก็ทุ่มกว่าแล้วครับ ผมมักจะทำงานเพลินจนลืมเวลาเลิกงานอย่างนี้เป็นประจำ ผมเก็บของที่วางเกลื่อนกลาดอยู่บนโต๊ะทำงานให้วางอย่างเป็นระเบียบเหมือนเดิม แล้วคว้ากระเป๋าพร้อมกับโทรศัพท์มือถือเพื่อเตรียมตัวกลับคอนโดครับ





หลังจากผมกลับมาถึงคอนโด ผมก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วมานั่งดูรายการทีวีอีกซักพักก็เตรียมตัวเข้านอน หลังจากวันที่เขาไม่มาให้ผมเห็นหน้าอย่างที่ผมเคยบอกเขาไป ผมก็ใช้ชีวิตปกติมาได้หนึ่งเดือนแล้วครับ ส่วนพี่จินพี่ชายต่างมารดาของผมก็ยังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ผมเหมือนเดิม แต่ผมเลี่ยงที่เจอ ผมพยายามหลบทุกวิถีทาง เพราะผมไม่อยากให้ปัญหาวุ่นๆ ตามมาทำร้ายผมอีกครับ ผมเหนื่อยเหลือเกิน....





ผมอยากจะลืมเรื่องบางเรื่อง อยากลบมันออกจากสมองของผม แต่ผมก็ยังทำไม่ได้ ภาพที่ผมเคยโดนเขาทำร้ายผมสารพัด ภาพที่ผมเคยโดนพี่ชายที่ไว้ใจพยายามจะบังคับเพื่อมีอะไรกับผม ภาพที่เขาคนนั้นเข้ามาช่วยผมไว้ และภาพสุดท้ายคือภาพที่เขาบอกว่าเขารักผม เรื่องราวต่างๆ มันยังวนเวียนอยู่ในหัวผมตอนนี้ไม่ได้หายไปไหน ทั้งที่ผมพยายามที่จะลืม....




ณ บริษัท



ก๊อก ก๊อก ก๊อก



"เชิญเข้ามาได้ครับ"


"บอสค่ะ แฮะๆ กาแฟกับเค้กเหมือนเดิมค่ะ จูนไม่ได้สั่งเลยนะค่ะ"


"ผมรู้แล้ว ไม่เป็นไร คุณวางเอาไว้ก่อนแล้วกัน"


"ได้ค่ะบอส แต่จูนอยากรู้จัง ว่าใครน้าา... ที่มาซื้อกาแฟจีบบอสจูนทุกวันขนาดนี้" ผมขมวดคิ้วตรงประโยคที่ว่า "ซื้อกาแฟจีบผมงั้นเหรอ" บ้าไปแล้ว ผมว่าว่างๆ ผมจะลงไปถามแล้วจ่ายค่ากาแฟที่มาส่งซะหน่อย นี่มันก็อาทิตย์หนึ่งเต็มๆ ที่มีกาแฟกับขนมเค้กส่งขึ้นมาให้ผมแบบเดิม เวลาเดิมทุกๆ วัน



"คุณจูน...." ผมแกล้งทำเสียงเย็นๆ ใส่เลขาผมครับ ที่จริงเธอก็เป็นคนน่ารักและทำงานดีมากคนหนึ่ง แต่ผมต้องวางตัวเพื่อให้เธอเคารพและเกรงใจนะครับ แต่บางเรื่องเราก็พูดคุยเหมือนเป็นเพื่อนกันครับ



"อุ๊ยย!!! จูนขำๆ นะค่ะบอส งั้นจูนไปก่อนนะค่ะ"
แล้วเธอก็รีบเดินออกไปเลยครับ ผมไม่ได้โกรธเธอหรอกครับ ผมได้แต่ส่ายหัวให้ความน่ารักของเธอซะมากกว่า ผมนั่งมองถ้วยกาแฟกับเค้กจานโปรดอยู่สักพัก ก่อนที่จะตัดสินใจกินมันเหมือนทุกๆ ครั้ง






หลังเลิกงาน.... ณ ร้านกาแฟ




"เอ่อ... ขอโทษนะครับ ผมอยากสอบถามเรื่องๆ หนึ่งหน่อยนะครับ"


"ค่ะ คุณลูกค้ามีอะไรให้ทางร้านเราช่วยรึป่าวคะ?"


"ผมอยากสอบถามว่ามีคนมาสั่งกาแฟให้ผมทุกวันรึเปล่านะครับ เพราะมีพนักงานทางร้านของคุณขึ้นไปส่งกาแฟผมทุกๆ ช่วงบ่ายเลย ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ได้โทรมาสั่งนะครับ"


"เชิญคุณลูกค้านั่งรอสักครู่นะค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะไปตามผู้จัดการให้ค่ะ"


"อ่อ... ได้ครับ"
แล้วผมก็มานั่งรอตามที่พนักงานสาวบอกให้ผมนั่งรอครับ ผมนั่งอ่านนิตยาสารรอสักพักผู้จัดการร้านก็เดินออกมาหยุดยืนใกล้ๆ ผมครับ



"สวัสดีครับคุณลูกค้า ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ทางร้านเรารับใช้ครับ"



"สวัสดีครับ ผมต้องการทราบเกี่ยวกับเรื่องที่มีกาแฟขึ้นไปส่งให้ผมที่ออฟฟิตผมทุกวันนะครับ พอดีว่าผมไม่ได้โทรสั่ง แต่ปกติผมก็ใช้บริการจากทางร้านคุณอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว แต่ช่วงหนึ่งอาทิตย์ก่อน ผมไม่ได้มีการสั่งกาแฟกับเค้กร้านคุณเลย แต่ยังมีขึ้นไปส่งให้ผมทุกวัน ผมเลยอยากทราบว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ ถ้าทางร้านได้รับข้อมูลว่าผมสั่งผมจะได้มาจ่ายค่ากาแฟกับค่าเค้กทั้งหมดที่ส่งไปให้ผมนะครับ"



"อ่อ... อันนี้เป็นทางลูกค้าของทางร้านสั่งให้เราจัดส่งให้ทางคุณนะครับ"


"ลูกค้าอีกคน?" ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย


"ใช่ครับ ลูกค้าอีกคนของทางร้านได้สั่งให้ทางร้านของเราจัดส่งกาแฟมอคค่าหวานน้อยหนึ่งแก้วและเค้กวนิลาหนึ่งชิ้น ส่งให้คุณทุกวันตามเวลาที่ลูกค้ากำหมดมานะครับ"


"เอ่อ.... แล้วลูกค้าอีกคนที่คุณว่าคือใครครับ?" ผมถามต่อ


"อันนี้ผมบอกข้อมูลของลูกค้าไม่ได้ครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ถ้าคุณจะให้เราแจ้งลูกค้าท่านนั้นให้ยกเลิกไม่ให้เราส่งกาแฟให้คุณก็สามารถทำได้นะครับ แต่ผมขอแจ้งลูกค้าท่านนั้นให้ทราบเรื่องก่อนนะครับ"


"งั้นผมขอเบอร์โทรกับชื่อของเขาได้ไหมครับ? เดี๋ยวผมจะบอกเขาเอง"


"เอ่อ... อันนี้ไม่ได้จริงๆ ครับคุณลูกค้า ทางเราไม่สามารถบอกข้อมูลตรงนี้ได้จริงๆ ครับ"


"งั้นไม่เป็นไรครับ แต่พอจะบอกผมได้ไหมครับ ว่าเขาจะมาที่นี่อีกเมื่อไหร่?"


"ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ลูกค้าท่านนั้นไม่ได้บอกไว้ครับ"


"งั้นถ้าเขามา คุณช่วยโทรหาผมที่เบอร์นี้ด้วยนะครับ" พูดจบผมก็ยื่นนามบัตรผมให้กับผู้จัดการร้านครับ



"ได้ครับ เอาอย่างนี้แล้วกันนะครับ ถ้าลูกค้าท่านนั้นมาผมจะให้เขาโทรไปหาคุณตามนามบัตรนี้ เพราะผมไม่สามารถทำโดยไม่แจ้งลูกค้าท่านนั้นก่อนได้ครับ แต่ถ้าคุณลูกค้ารู้สึกไม่ปลอดภัย เราจะหยุดการส่งโดยแจ้งให้อีกฝ่ายทราบเมื่อเขามาติดต่อกับทางร้านนะครับ ถ้ายังไงคุณลูกค้าช่วยรับไปก่อนนะครับ คุณลูกค้าจะไม่ทานก็ได้ครับ แต่ผมยังคงต้องทำตามออเดอร์ไปก่อนจนกว่าจะแจ้งให้ลูกค้าอีกท่านทราบก่อนนะครับ"



"ครับ ผมเข้าใจดีครับ งั้นผมรบกวนด้วยนะครับ"


"ได้ครับ ต้องขออภัยในความไม่สะดวกด้วยนะครับคุณลูกค้า" ผู้จัดการร้านถึงขั้นยกมือไหว้ผมเลยอ่ะครับ


"ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"


"ครับ สวัสดีครับ" ผู้จัดการยกมือไหว้และกล่าวลาผม




หลังจากผมไปสอบถามถึงเรื่องกาแฟกับเค้กที่ส่งมาให้ผมทุกวัน สรุปแล้วรู้แค่ว่ามีคนสั่งให้ทางร้านส่งให้ผมครับ แถมทางร้านยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าคนนั้นให้ผู้รู้ได้ ใครกัน? เขาทำเพื่ออะไร? แต่เค้กกับกาแฟที่ผมทานทุกวันก็ปกติดีนะครับ ไม่มีอะไรผิดปกติสักนิด เอ่อใช่!! จะว่าไปทำไมผมถึงยอมกินของที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนซื้อเนี๊ยะ เฮ้อ!! ผมว่าผมคงต้องเลิกกินตั้งแต่พรุ่งนี้แล้วแหละ เผื่อมันจะมีอะไรที่มากกว่านี้ที่ผมอาจจะไม่รู้





ผมขับรถมาจอดยังลานจอดรถของคอนโด แล้วผมก็แวะซื้อของใช้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตครับ พอดีของใช้บางอย่างของผมหมด ว่างๆ ว่าจะไปเดินซื้อจริงๆ จังๆ ที่ห้างซักหน่อย แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาเลยครับ เพราะโปรเจคใหม่ที่ต้องออกแบบบ้านให้คุณภัทรทำให้ผมแทบจะไม่มีเวลาทำอย่างอื่นเลย หลังจากเดินเลือกซื้อของได้สักพัก ผมก็ได้ของใช้บางส่วนไว้ใช้ชั่วคราวก่อนครับ พอผมจ่ายเงินเรียบร้อยก็กำลังเดินกลับเข้ามาในคอนโดแล้วยืนรอลิฟท์เพื่อจะขึ้นไปยังห้องพักของผมครับ





"คุณโจค่ะ... คุณโจ" ผู้จัดการคอนโดวิ่งเข้ามาหาผมอย่างรีบร้อน


"มีอะไรกับผมเหรอครับ?" ผมถามผู้จัดการสาว


"มีของส่งมาถึงคุณโจนะค่ะ รบกวนเชิญคุณโจไปเซ็นรับที่รีเซฟชั่นด้วยนะค่ะ"


"ส่งถึงผมเหรอครับ?" ผมถามขึ้นด้วยความสงสัย


"ใช่ค่ะ...."


"อ่อ... ครับ" ผมตอบไปอย่างงงๆ


"เชิญทางนี้เลยค่ะ"
ผู้จัดการคอนโดเธอเดินนำผมไปที่เค้าเตอร์รีเซฟชั่น ผมหยุดชะงักทันทีที่เห็นสิ่งของที่วางอยู่ที่เค้าเตอร์



"นี่ค่ะ เชิญคุณโจเซ็นรับที่ช่องนี้นะค่ะ" เธอยิ้มแล้วยื่นปากกาให้ผม


"นี่ของผมแน่เหรอครับ? ส่งผิดคนเหรอป่าวครับ?" ผมรัวคำถามใส่เธอทันที


"ไม่ผิดค่ะ มีชื่อคุณโจและเลขห้อง ถูกต้องทุกอย่างค่ะ" เธอตอบด้วยรอยยิ้ม


"แต่ผมว่า...."



ผมกำลังจะถามต่อนะครับ แต่พนักงานอีกคนได้ถือของสิ่งนั้นขึ้นมาถือไว้บนมือตอนไหนก็ไม่รู้ครับ เหมือนจะเตรียมพร้อมส่งมันให้กับผม แล้วยังทำหน้าสงสัยกับท่าทางที่ผมแสดงออกว่าประหลาดใจกับสิ่งของที่ส่งมาให้ผม ผมเลยตัดปัญหาโดยการเซ็นชื่อรับในช่องที่ผู้จัดการสาวให้เซ็นนะครับ



"นี่ค่ะ ของคุณโจค่ะ" เธอหันไปหยิบของจากอีกคนแล้วยื่นมาให้ผม ผมจึงยื่นมือออกไปรับของสิ่งนั้นไว้


"ขอบคุณมากครับ"


"ยินดีค่ะ ดอกไม้สวยดีนะค่ะ แฟนคุณโจน่ารักจัง"


"เอ่อ... ขอบคุณมากครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"




ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากตอบเออออตามผู้จัดการสาวไปนะครับ
ผมถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่ซึ่งไม่น่าจะเข้ากับผมเลยซักนิดขึ้นมายังห้องพักของผม ผมวางมันลงที่โต๊ะเล็กข้างโซฟาหน้าทีวี แล้วผมก็เก็บของที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตจัดเข้าที่อย่างเป็นระเบียบ ก่อนจะหันมามองช่อดอกไม้ที่วางอยู่ เป็นดอกกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่มากแปดดอกแซมด้วยดอกคัตเตอร์สีขาว ห่อหุ้มด้วยกระดาษสีขาวผูกโบสีฟ้า ในนั้นมีการ์ดอยู่หนึ่งใบครับ ผมเดินเขาไปหยิบขึ้นมาอ่านในการ์ดนั้นเขียนไว้ว่า "Miss you" ผมขมวดคิ้วทันทีที่ได้อ่านข้อความนั้น ใคร? หรืออาจจะ....





"พี่จิน....." ผมวางดอกไม้นั้นลงทันที ปล่อยให้มันวางอยู่ตรงนั้น แล้วผมก็เข้าไปในห้องนอน ปิดประตูและนอนแผ่ลงอย่างหมดแรง


"จะใช่พี่จินรึเปล่า? คงไม่ใช่หรอกมั้ง" ผมพรึมพรำกับตัวเอง จู่ๆ ภาพคนๆ นั้นก็ขึ้นมาแทนที่พี่จินในสมองของผม


"หึหึ... นั่นยิ่งไม่น่าจะใช่เข้าไปใหญ่ เฮ้อออ.... เลอะเทอะ!!"





ผมสลัดความคิดนั้นออกไปทันที แล้วเตรียมตัวอาบน้ำเพื่อจะเข้านอน พรุ่งนี้ผมมีงานต้องทำแต่เช้า ถ้าขืนผมมัวแต่คิดเรื่องไร้สาระแบบนี้คงจะไม่ดีแน่ ผมลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที พออาบน้ำเสร็จผมก็รีบเข้านอนเลยครับ พรุ่งนี้เช้าตื่นขึ้นมาแล้วสมองผมจะได้ปลอดโปร่ง




ต่อด้านล่างค่ะ....


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3

ต่อจากด้านบนค่ะ.....





เช้า.......




ในขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเหมือนทุกๆ วัน



ก๊อก ก๊อก ก๊อก




"เชิญเข้ามาได้ครับ" ผมเงยหน้าขึ้นมองก็ปรากฏว่าเป็นเลขาของผมนั่นเอง


"บอสค่ะ แซนวิชคุณลุงมาส่งแล้วค่ะ"


"ขอบคุณมากคุณจูน เดี๋ยวผมรบกวนคุณจ่ายค่าแซนวิสให้คุณลุงด้วยนะ จ่ายเหมือนที่ผมเคยจ่ายนะครับ"


"เอ่อ.... คือว่า...." เธอตะกุกตะกัก ที่จะพูดตอบผมครับ


"มีอะไรรึป่าว?" ผมถามเธอ


"คือว่าจูนเตรียมเงินจะจ่ายค่าแซนวิชเหมือนที่เคยจ่ายให้บอสทุกครั้งนะค่ะ แต่คุณลุงบอกว่ามีคนจ่ายให้แล้วค่ะ จูนเลย...."


"แล้วคุณลุงบอกไหมว่าเป็นใคร?" ผมถามเธอทันที


"คุณลุงไม่ได้บอกจูนค่ะ แต่จูนถามให้แล้วนะค่ะบอส แต่คุณลุงก็บอกว่าบอกไม่ได้จริงๆ ค่ะ"


"เฮ้ออ.... ผมเข้าใจแล้ว งั้นคุณออกไปได้ ผมจะทำงานต่อ"


"ค่ะบอส งั้นจูนวางไว้ตรงนี้นะค่ะ" เธอรีบวางแซนวิชลงที่โต๊ะเล็กหน้าโซฟารับแขกทันที


"เดี๋ยวครับจูน..."


"ค่ะ... ค่ะบอส"


"ขอบคุณมากครับ ผมขอโทษที่ใช้น้ำเสียงดุไปหน่อย" ผมพูดจบก็ส่งยิ้มให้เธอครับ ผมกลัวว่าเธอจะกลัวผมจนไม่กล้าทำงานให้ผมแล้วลาออกไปซะก่อนนะซิครับ


"ค่ะบอส จูนโอเคค่ะ" เธอยิ้มตอบอย่างโล่งใจ





ผมนั่งทำงานไป มองแซนวิชที่วางอยู่บนโต๊ะไป ก่อนที่จะเดินไปหยุดยืนข้างหน้าแซนวิชชิ้นน้อยๆ นั้นที่ผมซื้อกินประจำทุกเช้า โดยผมจะจ่ายเงินคุณลุงเจ้าของแซนวิชล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์ แล้วคุณลุงก็จะมาส่งให้ผมทุกๆ เช้า เพราะเป็นทางผ่านที่คุณลุงเดินผ่านทุกวันเพื่อไปตั้งโต๊ะขายที่หน้าสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินครับ ผมนั่งลงแล้วหยิบแซนวิชชิ้นนั้นขึ้นมองดู พลิกไปพลิกมาก็ไม่มีอะไรที่ผิดแปลกไปจากเดิม ก่อนจะแกะห่อพลาสติกที่ห่อหุ้มแซนวิชไว้ออกแล้วลองกัดชิมดู ผมคงไม่โชคร้ายถึงขนาดมีคนวางยาพิษใส่แซนวิชเหมือนในนิยายหรือหนังหลายๆ เรื่องหลอกมั้งครับ เพราะผมไม่ได้เป็นคนที่สำคัญมากอะไรขนาดนั้น รสชาติของแซนวิชยังอร่อยเหมือนทุกๆ วัน ไม่มีอะไรที่ผิดแปลกไปจากเดิมเลยแม้แต่น้อย แต่ใครล่ะที่เป็นคนจ่ายค่าแซนวิชนี้ให้กับผม? ไหนจะกาแฟกับเค้กวนิลา และรวมไปถึงดอกไม้ช่อนั้น ผมอยากรู้จริงๆ ครับ ว่าคนส่งคือใครกันแน่?





ผ่านไปอีกหนึ่งเดือน ผมก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติเหมือนทุกๆ ไม่มีอะไรหวือหวาน่าสนใจนอกจากงานที่กองอยู่ตรงหน้า ผมเริ่มงานสร้างบ้านของคุณภัทรมาได้อาทิตย์กว่าๆ แล้วครับ งานราบรื่นไปด้วยดีอย่างที่ผมตั้งใจไว้ ผมทุ่มเท่ให้กับงานตรงหน้าจนทานข้าวไม่เป็นเวลา เริ่มมีอาการปวดท้องเป็นสัญญาณเตือนว่าถ้าผมไม่ดูแลตัวเองมากกว่านี้ ผมต้องเป็นโรคกระเพาะแน่นอนครับ





ผมยังคงโหมงานหนักเพื่อไม่ให้คิดถึงเรื่องบางเรื่อง คนบางคน และไม่ให้คิดถึงภาพเหตุการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตผม ผมพยายามที่จะลืมมันไปให้ได้ แซนวิชในตอนเช้า กาแฟพร้อมเค้กในช่วงบ่ายและช่อดอกไม้แบบเดิมในตอนเย็นที่ผมกลับถึงคอนโด ยังคงส่งถึงผมทุกวัน จนมาถึงวันนี้ก็ร่วมเดือนกว่าๆ เข้าไปแล้วครับ





ผมพยายามจะตามหาคนที่ส่งและสั่งของพวกนี้มาให้ผม แต่ตามยังไงผมก็ไม่ได้คำตอบซะทีจนผมเลิกตามแล้วครับ ถ้าเขาอยากบอกว่าเขาคือใคร สักวันหนึ่งเขาคงจะแสดงตัวออกมาให้ผู้รู้เองแหละครับ ส่วนพี่จินก็ไม่มาวุ่นวายกับผมแล้ว ผมไม่เห็นหน้าพี่จินเกือบเดือนได้แล้วครับ ผมเองก็ไม่รู้สาเหตุที่พี่จินเงียบหายไปเหมือนกัน แต่ก็ดีแล้วแหละครับ พี่จินจะได้ตัดใจจากผมซะที เพราะถึงยังไงพี่จินกับผมเราก็เป็นได้เพียงแค่พี่ชายกับน้องชายเท่านั้น.... เวลาผ่านไปเหมือนทุกๆ วัน หมดเวลาของวันนี้แล้วพรุ่งนี้ผมก็ต้องเริ่มวันใหม่อีกครั้ง.....





เช้า.......



ก๊อก ก๊อก ก๊อก




"บอสค่ะ... แซนวิชพร้อมนมสดค่ะ วันนี้จูนแวะซื้อของกินแถวรถไฟฟ้า จูนเลยซื้อมาฝากบอสค่ะ" เธอพูดบอกด้วยน้ำเสียงที่สดใสเช่นเคย


"ขอบคุณมากครับ แต่วันหลังจูนไม่ต้องซื้อมาฝากผมก็ได้นะครับ ผมเกรงใจ"


"ไม่เป็นไรค่ะบอส จูนตั้งใจซื้อมาฝากบอสค่ะ"


"ที่ผมหมายถึง คือผมเกรงใจนพนะ เดี๋ยวจะหาว่าจูนดูแลผมดีมากกว่าดูแลเขานะครับ หึหึ"


"โหห... บอสค่ะ อย่าแซวจูนซิค่ะ บอสทานเลยนะค่ะ จูนอุ่นมาให้ใหม่กำลังอุ่นๆ พอดีเลยค่ะ จูนไปก่อนนะค่ะ ทานให้อร่อยนะค่ะบอส คริคริ"


"ขอบคุณมากครับ"





ผมเห็นท่าทางเธอแล้วก็อดเอ็นดูเหมือนน้องสาวคนหนึ่งไม่ได้ เราทำงานกันมานานครับ ถือว่าเธอรู้ใจผมพอสมควร และที่สำคัญเธอเป็นแฟนกับนพซึ่งเป็นผู้ช่วยที่สำคัญอีกคนนึงของผมครับ เขาสองคนคบหาดูใจกันได้พักใหญ่แล้ว ผมเห็นเขาสองคนดูมีความสุขและรักกันดี ผมก็ยินดีไปกับเขาสองคนด้วยครับ




ผมนั่งทำงานต่ออย่างขมักเขม้น เพราะอีกไม่ถึงอาทิตย์ผมจะมีนัดคุยงานกับลูกค้ารายใหม่ครับ ซึ่งลูกค้ารายนี้ก็เป็นเพื่อนๆ ทางธุรกิจของคุณภัทรที่แนะนำผมให้รู้จัก และลูกค้าเจ้านี้ก็มีโครงการจะทำบ้านพักต่างอากาศที่เขาใหญ่ เลยอยากให้ผมลองเข้าไปคุยรายละเอียดเบื้องต้นก่อนครับ ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่ผมจะได้รับงานโปรเจคที่สำคัญมากอีกโปรเจคหนึ่งครับ งานนี้ต้องทุ่มสุดตัวซะหน่อยแล้ว...




วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ผมทำงานอย่างบ้าคลั่งจนล่วงเลยเวลาอาหารเที่ยงมาได้สักพักแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลย พูดแล้วก็เริ่มหิวขึ้นมาแล้วซิ......





ก๊อก ก๊อก ก๊อก




"เชิญเข้ามาได้ครับ" คงจะเป็นเลขาผมที่เอาเค้กกับกาแฟเข้ามาให้เหมือนทุกๆ วัน ผมมองดูนาฬิกานี่ก็ได้เวลาพอดี


"เอ่อ.... คุณจูนคุณช่วยสั่ง....." ผมกำลังจะเงยหน้าขึ้นพูดกับเลขาของผม แต่ยังพูดไม่ทันจบก็ต้องชะงักจนพูดไม่ออกด้วยความตกใจ




"คุณ!!!....."




"ดูผอมลงไปนะ กินข้าวบ้างรึป่าว?"



TBC.



อื้อ...หือออ...  :katai2-1:
อิจฉาอีพี่โจจุงเบย...

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
:L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
อิพี่โจมีคนส่งข้าวส่งน้ำตลอด อิอิ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:  จีบเขาก็ไม่บอกเนาะ
 :mew1:  รอคำตอบพี่โจ

ออฟไลน์ aom2529

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 885
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ nutty

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-3
น่ารักตรงที่มาแอบส่งน้ำขนมให้

ออฟไลน์ meepooh2499

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
บทจะหวานกะน่ารักเลยนะคะคุณพี่ปู

ออฟไลน์ kitwiphat

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-7
อ่านแล้วสนุกมากรอลุ้นนะๆๆๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★.:***♡มหาลัยวุ่นรัก♡...เดอะ ซีรี่ย์❥***:.★
เรื่อง
♡.:*ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด*:.★❥
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡


ตอนที่ 13 (ปูกะโจ) จีบ



หลังจากวันที่ผมได้ฟังคำตอบนั้นผมก็ถึงกับรู้สึกชาไปทั้งตัว พอรู้สึกตัวอีกทีก็มาหยุดยืนอยู่ข้างนอกห้องของมันแล้วครับ หึ!! แค่นอนด้วยไม่กี่ครั้งงั้นเหรอ? ก็จริงอย่างที่มันพูดนั่นแหละ ผมแค่นอนกับมันไม่กี่ครั้งเอง ทำไมผมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ทำไมผมถึงปล่อยให้มันมีอิทธิพลกับผมขนาดนี้ ผมตั้งสติได้ก็ขับรถกลับคอนโดคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าแล้วขับรถกลับหัวหินทันที หลังจากนี้ผมจะทิ้งทุกอย่างที่เกี่ยวกับมันออกไปให้หมด ช่างมัน!! ผมจะไม่สนใจมันอีกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับมันก็ตาม....





"โธ่โว๊ยยย!!!" ผมทุบพวงมาลัยรถแล้วสถบออกมาเสียงดัง


"มึงมีดีตรงไหนว่ะ?!! ทำไมกูต้องเป็นห่วงมึง!! ทำไมก็ต้องอยากดูแลมึง!! ทั้งที่มึงไม่เคยสนใจกูเลยเนี๊ยะนะ หึ!! กูคงจะบ้าไปแล้ว โธ่โว๊ย!!!" ผมหันพวงมาลัยรถเข้าข้างทาง เสียงล้อบดเบียดกับพื้นถนนเสียงดัง



เอี๊ยดดด....




ผมซุกหน้าลงกับพวงมาลัยรถ มือไม้สั่นไปด้วยความโกรธ ความขุ่นเคืองใจ ไม่เคยมีใครทำกับผมอย่างนี้ ไม่เคยมีใครปฏิเสธผมอย่างนี้ ทุกคนล้วนแต่เสนอตัวให้ผมและอยากคบกับผมทั้งนั้น มีแต่มัน!!! มีแต่มันที่ปฏิเสธผมอย่างง่ายดาย ทั้งที่ผมยอมทิ้งศักดิ์ศรีที่ไม่เคยต้องง้อใครหรือเอ่ยปากว่าชอบใครมากก่อน มีแค่มันคนเดียวจริงๆ





ผมหมุนพวงมาลัยรถแล้วออกตัวทันที ครั้งนี้ผมใช้เวลาขับรถไม่กี่ชั่วโมง ก็ขับมาจอดอยู่ที่จอดรถหน้าบ้านของผม ผมเปิดประตูแล้วลงจากรถก่อนจะเปิดประตูบ้านแล้วเดินผ่านความมืดขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสอง ผมทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนอย่างหมดแรง ในสมองก็ครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับมัน ทั้งที่ผมตั้งใจจะลืมมันไปซะ แต่ผมก็ยังทำไม่ได้ ประโยคที่มันพูดยังคอยวนเวียนอยู่ในหัวของผมอยู่อย่างนั้น ผมคิดอะไรไปเรื่อย ทั้งเหนื่อยทั้งปวดหัว จนหัวผมแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ จนในที่สุดผมก็หลับลงด้วยความเหนื่อยล้า




เช้า......




"เฮ้ย!! ตื่นๆ ไอ้ปู!! ตื่น!!" ผมงัวเงียขึ้นมามองไอ้คนที่มาปลุกผมแต่เช้าด้วยอารมณ์ที่ค่อยดีเท่าไหร่


"อะไรของมึงว่ะ!!! ออกไป!! กูจะนอน" ผมไล่มันทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร


"ไอ้น้องเวร!! มึงกลับมาตอนไหนว่ะ? แล้วทำไมถึงกลับมาในสภาพที่ยับเยินอย่างนี้!! มึงไปทำอะไรไอ้ปู!!"


"เรื่องของกู!! ออกไปไอ้ป่าน!! กูจะนอนโว๊ย!!"


"กูไม่ออก!! มึงลุกมาเดี๋ยวนี้เลยไอ้สัส!! กูถามว่ามึงไปฟัดกับใครมา!!" ไอ้ป่านแมร่งกระชากคอเสื้อผมอย่างแรงจนผมถลาไปด้วยแรงกระชากของมันเลยครับ


"ปล่อยกูไอ้เหี้ย!! หรือมึงอยากจะโดนกูต่อยห๊ะ!!"


"เออ!! ถ้ามึงไม่ลุกมาคุยกับกูดีๆ กูกระทืบมึงแน่!!" ไอ้เหี้ยป่านแมร่งไม่ได้ขู่ธรรมดาครับ แต่มันแสดงให้ผมดูทันทีว่าแมร่งทำจริง



ตุบ!!!



มันกระชากผมขึ้นจากที่นอนแล้วเหวี่ยงผมลงไปนอนกองที่พื้นครับ ไอ้เหี้ย!! พี่กูแมร่งโหดฉิบหาย สัส!!



"ไอ้เหี้ยป่าน!! มึงจะเอากับกูใช่ไหม?!! ได้!! กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่เสือกอยากลองของ งั้นมึงก็แดกหมัดกูแทนข้าวเช้าแล้วกัน!! พูดจบผมก็พุ่งเข้าใส่ไอ้ป่านทันทีด้วยหมัดขวา



พรึ่บ!!!




ไอ้ป่านมันเบี่ยงตัวหนีได้ทันก่อนที่จะก้มตัวมุดใต้วงแขนผมแล้วยืดตัวขึ้นมาคว้าแขนขวาผมไว้ ผมใช้มือซ้ายผ่าลงที่แขนมันอย่างแรงจนทำให้มือมันหลุดจากแขนผมก่อนจะพุ่งเข้าใส่มันด้วยหมัดซ้ายแต่มันก็ดันหลบได้ทัน มันคว้าแขนผมไปล็อคไว้ด้านหลังก่อนจะคว้าแขนอีกข้างผมมาล็อคไคว้กันที่หลังของผม





"ไอ้เหี้ย!!! ปล่อยกู!!"


"มึงจะหายบ้าได้รึยัง!! กูถามว่ามึงไปกัดกับใครมา ห๊ะ!!!" มันตะโกนใส่ผมสุดเสียง ไอ้เหี้ยป่าน!! มึงทำกูได้ไง กูเป็นน้องมึงนะสัส!!


"เออ!! กูโดนรถชนที่กรุงเทพฯ มึงพอใจยัง!! ไอ้เหี้ย!!" ผมบอกมันถึงสาเหตุที่ร่างกายภายนอกของผมยับเยินขนาดนี้ว่าเป็นเพราะอะไร แล้วตะโกนด่ามันกลับครับ


"รถชนมึง?!! มึงเจ็บตรงไหนบ้างว่ะ? มึงเป็นอะไรมากไหม? ไหนหันมันให้กูดูดิ๊" มันปล่อยแขนผมลงแล้วจับผมพลิกตัวหันไปให้มันสำรวจทันที


"กูไม่เป็นอะไรมาก กูแค่หัวแตกนิดหน่อย"
ผมบอกไอ้ป่านพี่ชายผม ไอ้บ้านี่มันห่วงผมยิ่งกว่าใครๆ ในบ้านครับ ถึงผมกับมันจะทะเลาะกันบ่อย ต่อยกันบ่อย แต่มันโคตรเป็นพี่ชายที่รักผมโคตรๆ เท่โคตรๆ สำหรับผมเลยครับ



"มึงไปทำอีท่าไหนให้รถชนห๊ะ!!" นี่มันกำลังเป็นห่วงผมอยู่นะครับ แต่แมร่งเป็นง่อยด้านการแสดงออกสุดๆ เลยครับพี่ชายผม


"กูวิ่งตัดหน้ารถมั้ง มันคงเบรคไม่ทันว่ะ!" ผมอธิบาย


"ไอ้โง่!! มึงปัญญาอ่อนรึไงถึงไปวิ่งตัดหน้ารถนะไอ้ปู"


"พอๆ เลย มึงเลิกบ่นกูเลยไอ้เหี้ยป่าน กูอยากแดกเหล้าว่ะ!! ไปแดกเหล้าเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ๊" ผมบอกมัน


"กวนตีน!! ไอ้น้องเวร!! ป่ะ กูเพิ่งซื้อเหล้านอกมาใหม่ จะแดกก็ลงไปแดกข้างล่าง"


"หึหึ!! เออ!! กูโคตรเปรี้ยวปากเลยว่ะ ป่ะ"
พูดจบผมกับมันก็กอดคอกันลงไปดวลเหล้ากันเพรียวๆ ที่บาร์เหล้าเล็กๆ ชั้นล่างในบ้านผมครับ ผมกับมันมักจะต่อยกันก่อนด้วยความบ้าบิ่น แต่พอต่อยกันเสร็จก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ "แดกเหล้า" ด้วยกัน



"ไหนมึงเล่ามาดิ๊ ไอ้คนที่มึงไปตามหาเขานะ มึงเจอเขาไหม?" แมร่งยิงคำถามแรกผมก็อยากกระทืบปากพี่ชายตัวเองแล้วครับ


"เจอ!! แต่แมร่งกวนตีนกูไอ้สัส!!"


"หึหึ ทำไมว่ะ? เขาไม่เล่นด้วยกับมึงว่างั้น!!" แมร่งถามโคตรกวนตีนเลย ถ้าไม่ติดว่าเป็นพี่กูนะ กูยิงทิ้งแมร่ง!!


"กวนตีนนะมึง!! อย่าถามมาก แดกๆๆ กูอยากเมา"
ผมไม่ตอบมันครับ แต่จับขวดเหล้ากรอกปากทั้งมันและผมแทนแก้วเหล้าทันที กินไปเรื่อยจนเย็น จนไม่รู้เผลอหลับไปตอนไหน สภาพผมสองคนโคตรดูไม่ได้เลยครับ ไอ้ป่านก็เมาเละ ผมก็เมาเละไม่ต่างจากมัน แถมแมร่งเสือกนอนก่ายผมไว้ทั้งตัวอีก แมร่ง!! หนังชิบหาย



"ไอ้ป่านตื่น!! ไอ้ป่าน!!"
ผมตะโกนปลุกมันให้ตื่นครับ แมร่งตื่นมาอีกที่สี่ทุ่ม ข้าวก็ยังไม่กิน เจอมันก็ดวลเหล้ากันเลย ขวดเหล้ากลิ้งอยู่สามขวดรอบๆ ตัวพวกผม ไอ้ห่า!! นี่กูแดกหรืออาบว่ะเนี๊ยะ



"ไอ้ป่าน!! ตื่นโว๊ย!! ลุกขึ้นไปนอนดีๆ ดิ๊!!"
แมร่งปลุกเท่าไหร่แมร่งก็ไม่ยอมตื่นครับ ผมจะทำไงได้นอกจากแบกมันขึ้นไปบนห้องนอนผม ตัวกูเองยังจะเอาตัวไม่รอด มึงยังมาเป็นภาระให้กูแบกมึงอี๊กก....




ผมทิ้งมันลงบนที่นอนของผม ก่อนจะจับมันถอดเสื้อผ้าให้เหลือแต่บ็อกเซอร์ตัวเดียว พอจัดการไอ้ป่านเสร็จผมก็จัดการถอดของตัวเองให้เหมือนมันครับ แล้วทิ้งตัวลงนอนข้างแมร่งเลย


คร่อกฟี่.....


++++++++++++++++



ผมตื่นมาอีกทีก็บ่ายโมงของอีกวันแล้วครับนอนหลับเป็นตาย ไอ้เหี้ยป่านก็หายหัวไปล่ะ ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำหาข้าวกิน หิวชิบส์!! ตั้งแต่กลับมาถึงข้าวยังไม่ตกถึงท้องผมเลยนี่ครับ ซัดเหล้าอย่างเดียว ยิ่งไอ้ป่านพี่ชายผมนะ ถ้าได้แดกเหล้าด้วยกันนี่ไม่เมาเหมือนหมาไม่ใช่ผมสองคนแน่ๆ หึหึ... ผมเดินลงมาหาข้าวกินที่ครัวก็มีกับข้าวจัดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย ผมเพียงแค่เอามันมาอุ่นนิหน่อยพอให้มันร้อน นี่คงเป็นฝีมือไอ้ป่านแน่ๆ ซากที่พวกผมกินเหล้ากันเมื่อถูกเก็บกวาดสะอาดเรียบร้อย แถมกับข้าวก็เตรียมให้เหมือนทุกๆ วัน มันคงไปบอกแม่บ้านว่าผมกลับมาแล้ว บ้านถึงได้เข้าสู่โหมตปกติแบบนี้




ผมนั่งกินข้าวไปก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่พ้นเรื่องของไอ้โจที่ทำให้ผมแมร่งโคตรปวดหัว คือกูไม่เข้าใจไง เออ!! กูผิดกูก็ขอโทษแล้วไงว่ะ!! กูยอมให้แมร่งทำอะไรกับกูก็ได้แล้วด้วย แต่ทำไมมันถึงไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผมบ้างว่ะ?!! เหี้ยเฮ้ยยย!!! ยิ่งคิดแมร่งก็ยิ่งปวดหัวสัสๆ เลย



"เป็นอะไรว่ะ? แดกข้าวทำหน้ายังกะมีใครตาย กับข้าวไม่ถูกปากรึไง?" ไอ้เหี้ยป่านแมร่งเข้ามาก็พูดกวนตีนซะอยากถีบปากเลย


"เออ!! มึงตายมั้ง!! หน้ากูเลยเป็นอย่างนี้ ไอ้สัส!!" ผมด่าพี่ชายตัวเอง


"หึ!! ก็ยังดีที่กูตายแล้วมึงยังรู้สึกเสียใจบ้าง"


"เออ!! ไอ้เหี้ย!! แล้วนี่มึงไปไหนมา?"


"กูไปดูลูกกูมา เมื่อคืนก็นอนที่บ้านย่าไม่กลับไปนอนกับกูเลยว่ะ ไม่รู้ว่าเป็นลูกกูจริงๆ รึเปล่า? หึ!!"


"มึงก็อ่อนโยนกับลูกมึงบ้างดิ๊ ไอ้ห่า!! ลูกมึงเป็นผู้หญิงจะเลี้ยงเหมือนลูกผู้ชายได้ไงว่ะ!!"


"เฮ้ออ!! เออว่ะ! กูลืมคิดไปว่าลูกกูเป็นผู้หญิง จะให้กูทำไงว่ะก็กูเป็นผู้ชายนี่หว่า"


"มึงก็หาแม่ใหม่ให้ลูกมึงดิ๊ ลูกมึงแต่สองขวบกว่าๆ เอง หรือไม่ก็อยู่กับลูกเล่นกับลูกบ่อยๆ เดี๋ยวลูกก็ติดมึงเองแหละ!!"


ผมเดินไปนั่งลงข้างมันที่โซฟา มันกึ่งนั่งกึ่งนอนแล้วเอามือก่ายหน้าผากตัวเอง โคตรน่าสงสารพี่กูเลยสัส!! มีเมีย เมียก็หนีไปมีชู้ ทิ้งลูกไว้ให้เลี้ยง แล้วเสือกให้ลูกรู้ไม่ได้อีกว่ามีแม่เลวๆ ที่หนีตามผู้ชายไปตั้งแต่ลูกยังเด็กๆ ไอ้เหี้ย!! โคตรน้ำเน่าเลยสัส!!



"กูไม่อยากมีใหม่แล้วว่ะ ลูกกูคนเดียวกูเลี้ยงเองได้ ว่าแต่มึงเหอะ!! หายหัวไปตามตัวผู้ถึงไหนมา เล่าให้กูฟังได้ยัง?" มันถามผม


"ก็อย่างที่มึงเห็น มันไม่สนใจกู เหี้ย!! กูแมร่งห่วงมันชิบหาย แมร่งเสือกไล่กูตลอด กูแมร่ง!! ทำเหี้ยอะไรไม่ได้เลย สัส!! แล้วพี่ชายแมร่งก็จ้องจะแดกมันอยู่ด้วย ไอ้เหี้ย!! อย่าให้กูเห็นอีกนะว่ามายุ่งกับมันอีก กูไม่เอามันไว้ทำพันธุ์แน่ สัส!!" ผมหยุดไปสักพักก็คิดสมน้ำหน้าตัวเอง เขาไล่ขนาดนี้แล้วยังจะหน้าด้านตามตื้อเขาอีก



"แล้วไงว่ะ!! มึงก็กลับมาเพราะเขาแค่ไล่มึงเนี๊ยะนะ?!!" ไอ้ป่านมันถามผมครับ


"เออดิ๊ว่ะ!! มันไล่กูแล้วนิแล้วกูจะอยู่ทำเหี้ยอะไรล่ะ!!"


"อ่อน!! ไอ้ห่า!! น้องกูอ่อนขนาดนี้เลยเหรอว่ะ?"


"ป่าวอ่อนไอ้เหี้ย!! แต่เขาไม่ต้องการกู มึงเกลียดกู มึงไม่ได้ยินเหรอสัส!!"


"แล้วมึงก็กลับมาง่ายๆ เพราะแค่โดนเขาไล่แค่นี้? แล้วก็ปล่อยให้พี่ชายมันคาบไปแดกเนี๊ยะนะ ว่าแต่ทำไมพี่ชายมันถึงอยากแดกน้องตัวเองว่ะ?"


"เออดิ๊ไอ้เหี้ย!! พี่ชายมันเป็นพี่คนล่ะแม่ เสือกแอบชอบน้องตัวเอง อยากแดกมันซะงั้นไอ้ห่า!! ถูกอยากฆ่ามันชิบหาย!! หึ!! แต่กูลืมไปว่ะ ว่ามันไม่ต้องการให้กูไปยุ่งเรื่องของมันอีก" ผมทั้งเล่าทั้งสถบอย่างหัวเสีย ไอ้เหี้ยป่านแมร่งก็โคตรตั้งใจฟังเลย


"แล้วมึงจะปล่อยให้พี่ชายมันทำว่างั้น?! หึ!! ปกติน้องกูก็ไม่ได้หน้าบางขนาดนี้นี่หว่า แค่เขาไล่ก็กลับมาง่ายๆ ซะงั้น"


"อ้าว!! ไอ้เหี้ย!! แล้วมึงจะให้กูทำยังไงว่ะ?"


"อ้าว!! ถ้ามึงชอบเขาจริงๆ มึงก็ง้อเขาดิ๊ว่ะ!!"


"แต่มันไม่ได้ชอบกู กูเป็นเกย์แต่มันเป็นผู้ชาย ที่สำคัญมันเกลียดกู ไอ้เหี้ย!!"


"เขาไม่ชอบมึง แต่มึงพาเขามาซั่มที่บ้าน แถมเขาเป็นผู้ชายเนี๊ยะนะ หึหึ ไอ้เหี้ย!! น้องกูนี่โคตรไม่ธรรมดาเลยว่ะ!!"


"เออ!! ไอ้สัส!! กูมันเหี้ยแบบไม่ธรรมดาอย่างที่มึงว่านั่นแหละ ห่า!! ไม่ช่วยแล้วเสือกมาด่ากูอีก"


"กูช่วยมึงไม่ได้หรอกไอ้น้องชาย เรื่องของหัวใจมึงต้องช่วยตัวเอง ถ้ามึงรักเขามึงจริงมึงก็ต้องพยายามมากกว่านี้ ถ้ามึงเริ่มต้นด้วยเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่มึงก็เริ่มใหม่ได้นิ ไม่ลองก็ไม่รู้หรอก หึหึ" มันตบไหล่ผมปุๆ ให้กำลังใจผมครับ


"แล้วกูจะทำยังไงดีว่ะ?"


"จีบดิ!!" แมร่งตอบสั้นๆ เลย ง่ายไปป่าวว่ะ?


"จีบ?" ผมหน้าเอ๋อแดกไปเลยครับ ตั้งแต่จำความได้ยังไมเคยจีบใครเลยนะเว้ย!!


"เออ!! ไอ้ฟาย!! ชอบเขาก็จีบเขาดิ๊ ถึงมึงจะแดกเขาไปแล้วก็เหอะ ผิดขั้นตอนไปนิดแต่พอกลับให้ขั้นตอนปกติได้ หึหึ"


"แต่กูไม่เคยจีบใครเลยนะเว้ย!!"


"อ้าว!! ไม่เคยก็ลองดิว่ะ!! จะไปยากอะไร"


"แต่มันเป็นผู้ชาย มึงจะให้กูตามจีบมันเนี๊ยะนะ?


"เออดิ๊ว่ะ ผู้ชายแล้วไง มึงชอบเขามึงก็แค่จีบเขา ยากเหรอว่ะ?"


"ไม่ยากไอ้เหี้ย!! แต่ถ้ามันไม่โอเค กูไม่แดกแห้วเหรอว่ะ?"


"ก็แค่แดกเพิ่มอีกนิด แต่ถ้ามึงไม่ลองมึงจะรู้ได้ไงว่ะว่ามึงจะได้แดกแห้วเพิ่มรึป่าว"


"วู๊ว์!! ยุ่งยากชิบหายเลยสัส!!" ผมยีหัวตัวเองอย่างบ้าคลั่ง


"หึหึ กูก็แนะนำมึงได้แค่นี้แหละ ที่เหลือก็แล้วแต่มึงเลย กูไปล่ะ ไปดูลูกกูก่อนว่ะ เดี๋ยวจะติดย่ามากกว่าติดพ่อมัน" ไอ้ป่านพูดขึ้นขำๆ


"เออ!! รู้จักทำตัวเป็นพ่อบ้างเหอะมึง"


"ปากดีไอ้น้องเลว!! หึ!!" แล้วไอ้ป่านก็กำลังเดินออกไปจากบ้านผม


"เห้ย!! ไอ้ป่าน...." ผมเรียกมัน มันหันหน้ากลับมามองผม


"ขอบใจว่ะ" นี่คงเป็นครั้งแรกมั้งครับที่ผมพูดแบบนี้กับมันมั้งครับ


"เออ!! แค่นี้เรื่องเล็ก อ่อ!! ไอ้ปีมันถามหามึง มึงโผล่หัวไปให้มันเจอด้วยล่ะ"


"เออ เดี๋ยวกูแวะไปหามันเอง" พูดจบไอ้ป่านก็เดินออกจากบ้านผมไปแล้วครับ


"เฮ้อออ!!! นี่กูต้องจีบผู้ชายเหรอว่ะเนี๊ยะ?"



ผมนี่แทบจะเอาตีนขึ้นมาก่ายหน้าผาก คือไม่เคยจีบคนอื่นก่อนง่ะ คือจะเริ่มจากตรงไหนดี คือมันไปไม่ถูกนะครับ จะว่าไปผมเป็นเกย์ถ้าจะจีบผู้ชายก็คงไม่แปลกนี่หว่า แต่ถ้าให้ไปจีบผู้หญิงนี่ซิแปลก เอาว่ะ!!! ไม่ลองก็ไม่รู้ ถ้าลองแล้วไม่เวิคก็คงต้องหยุดซะที ก็อยากทำไม่ดีกับเขาก่อน ผมที่ออกมาเป็นอย่างนี้ก็คงไม่แปลก แต่ว่าจะปรึกษาใครดีว่ะ? เอางี้แล้วกัน....




Tru Tru Tru.....



"สวัสดีครับนาย..."


"เออ! ไอ้ต้นมึงอยู่ไหนว่ะ มึงถึงร้านรึยัง?"


"ถึงแล้วครับนาย ผมกำลังเตรียมเปิดร้านให้นายครับ"


"เออๆ เดี๋ยวกูเข้าร้านวันนี้ มึงไปรอกูที่ห้องทำงาน อีกครึ่งชั่วโมงกูถึง"


"อ้าว!! นายกลับมาแล้วเหรอครับ?"


"เออดิ๊ว่ะ ไม่กลับมากูจะเข้าร้านได้รึไง!! ถามโง่ๆ นะมึง"


"ครับๆ นาย เดี๋ยวผมรอที่ห้องทำงานนายนะครับ"


"เออ แค่นี้ เดี๋ยวกูไป"


"ครับนาย สวัสดีครับ" จากนั้นสายไอ้ต้นก็ตัดไป


"หึ!! ขำชิบหาย..." ผมพูดกับตัวเอง



หลังจากผมวางสายจากไอ้ต้นก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเตรียมตัวออกไปร้านครับ ผมใช้เวลาไม่นานมากก็ขับรถมาจอดที่ร้านของผม เด็กๆ ที่ร้านเห็นผมก็ยกมือไหว้กันยกใหญ่ ผมเดินผ่านพวกเด็กๆ เข้าไปในร้านแล้วเดินตรงไปยังห้องทำงานของผมที่อยู่ชั้นสองของร้านครับ




"สวัสดีครับนาย..." ไอ้ต้นยกมือไหว้ผม


"เออ! พูดมาระหว่างกูไม่อยู่ร้านมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง?" ผมเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน เอกสารวางกองกันอย่างเป็นระเบียบ ไอ้ต้นก็ยืนตัวตรงเอามือประสานกันไว้ที่เป้ากางเกงแล้วรายงานเรื่องเกี่ยวกับร้านให้ผมฟัง


"คืออย่างนี้ครับนาย ช่วงที่นายไม่อยู่คุณป่านเข้ามาดูแทนไม่มีปัญหาอะไรครับ ลูกค้าก็เยอะเหมือนทุกๆ วัน มีทะเลาะวิวาทกันนิดหน่อยแต่เคลียร์ได้ครับ ส่วนเหล้าที่ต้องสั่งเข้าร้านคุณป่านก็จัดการเรียบร้อยแล้วครับ จะมีก็แต่....."


"แต่อะไรว่ะ?" ผมถามไอ้ต้น


"พวกเด็กๆ นายนะครับ มาถามหานายทุกวันเลย คุณโมก็มาหานายทุกวันเลยนะครับ แต่ผมตอบคุณโมไปว่านายไปทำธุระที่กรุงเทพฯ ไม่รู้ว่าจะอยู่นานแค่ไหนครับ แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่านายจะกลับมาเมื่อไหร่ สองวันมานี้คุณโมเลยไม่ได้มาร้านครับ"


"เออ... ดีแล้ว ไม่มีอะไรแล้วมึงออกไปทำงานต่อได้"


"ครับนาย...."


หลังจากไอ้ต้นออกไปผมก็กดโทรออกหาเพื่อนผมทันที ปรึกษาเรื่องรักๆ ใครๆ ต้องไอ้โยเลยครับ ไอ้เชี่ยนี่เชี่ยวชาญด้านการหม้อสาว ส่วนผมกับไอ้ทิวเน้นการฟาดและฟันมากกว่า




ต่อด้านล่างค่ะ.....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2015 19:05:27 โดย Star_ss »

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
ต่อจากด้านบนค่ะ....




Tru Tru Tru.....



"What's up my friend"


"เออสัส!! รับโทรศัพท์ได้กวนตีนมากเลยนะมึงไอ้เหี้ยโย" อดด่าแมร่งไม่ได้ครับ กวนตีนชิบหาย


"อ้าว!! ไอ้หล่อครับ คุณมึงมีอะไรให้เพื่อนคนนี้รับใช้ล่ะครับ อ๊ะๆๆ มึงอย่าบอกนะว่า... จะให้กูพามึงไปบุกคอนโดที่ไหนอีกไอ้เพื่อนเลิฟ หึหึ"


"หึ!! ป่าวไอ้เหี้ย กูจะถามอะไรมึงหน่อยว่ะ"

"อ่ะเคร ถามได้ตอบได้ ถามมาได้เลยครับคุณเพื่อน"

"ไอ้สัส!! กวนตีนให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหมว่ะ กูแมร่งลืมหมดแล้วว่าจะถามอะไรมึง ไอ้เหี้ย!!"


"ฮ่าๆๆๆ เออๆ ว่ามาไอ้สัส!! กูเลิกกวนล่ะ มีอะไรถามมาเลยเพื่อน เพื่อนคนนี้... นี้มีแต่ให้ กร๊ากกก...." ไอ้สัสโยไม่เลิกกวนตีนง่ายๆ หรอกครับ ผมรู้สันดานมันดี


"เฮ้ออ!!! กูถามมึงแล้วจะได้คำตอบป่าวว่ะ กวนตีนดีชิบส์"


"ได้ดิ๊หว้าาา.... กูยิ่งกว่าอับดุลอีกนะมึง ตอบได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของกูเอง ฮ่าๆๆ เท่สัสๆ เลยกู"


"พอๆ กูจะถามล่ะ เข้าเรื่องดีกว่าเดี๋ยวแมร่งยาวกว่าเดิม กูจะถามมึงว่าตอนมึงจีบแฟนมึง มึงทำยังไงบ้างว่ะ?" ผมแมร่งกลั้นลมหายใจแล้วถามออกไปอ่ะครับ อายโคตรๆ ไม่คิดว่าคนอย่างไอ้ปูจะต้องมาถามเรื่องแบบนี้กับเพื่อนตัวเอง เชี่ย!!


"กร๊ากกกก..... ไอ้เหี้ย!! กูขอฮาแป๊ปไอ้สัส!! มึงอย่าบอกนะว่ามึงจะจีบสาว โนๆๆๆ ไม่จริง เพื่อนกูเป็นอะไรกูรู้ดี มึงอย่ามาคิดกลับตัวกลับใจตอนนี้ไอ้เหี้ย!! กูรับไม่ได้ กร๊ากกกก....." แมร่ง!!! วันนี้กูจะได้คำตอบไหมสาดดด...


"ไอ้เหี้ยโย!! มึงหยุดขำแล้วตอบกูมาได้แล้ว สัส!!"  :angry2:


"ฮ่าๆๆ ไอ้ปูกูขอถามมึงก่อน มึงจะจีบใครว่ะ?"


"มึงไม่ต้องรู้ก็ได้มั้ง รีบๆ ตอบกูมาเลยไอ้เหี้ย!! ก่อนที่กูจะขับรถไปกระทืบมึงที่คอนโด!!" ผมตะโกนด่ามันเลยครับ เหี้ยแมร่ง!!! กวนตีนได้โล่จริงๆ


"หึหึ งั้นกูขอเดาว่ะ มึงโดนพ่อหนุ่มหล่อคนนั้นปฏิเสธมาใช่ป่าวว่ะ ประมาณว่าเขาไม่เล่นด้วย แต่มึงจะเอาเขาให้ได้ มึงก็เลยเปลี่ยนแนวจากบทโหดมาสู่บทรักหวานซึ้งใช่ป่าวว่ะ? กร๊ากกกก.... ไอ้เหี้ยกูฮาว่ะ"


"เออ!! ไอ้สัส!! ตกลงมึงจะตอบกูไหม? ถ้าไม่บอกกูว่าทำยังไงกูจะได้วาง ไอ้เพื่อนเลว!!!"


"ฮ่าๆๆ บอกๆๆ เพื่อนจะรักใครจริงๆ ทั้งทีมีหรือกูจะไม่ช่วยว่ะ"  :laugh:


"กวนตีนนะมึง ตอบมา!!" แมร่งอารมณ์เสียชิบส์


"กูจีบแฟนกูยังไงนะเหรอ ก็พาไปกินข้าว ดูหนัง ช๊อปปิ้ง แต่ก่อนหน้าจะพาไปแบบนี้ก็ก็ปล้ำก่อนว่ะ เรียกว่าได้กันก่อนค่อยเกิดโมเม้นท์นี้ ซื้อดอกไม้ให้บ้าง ทำอะไรเซอร์ไพส์บ้าง พาไปแดกข้าวร้านหรูๆ ส่งขนมไปให้ที่ทำงานบ้าง ทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญ ให้เขารู้สึกว่าเป็นคนที่โชคดีที่ใครหลายๆ คนอิจฉา กูสร้างโลกใบใหม่ให้แฟนกูเว้ยย!!! โลกของสองเรา กร๊ากกก.... กูดีงามอ่ะ กูมันหล่อว่ะ"
 :hao3:


พูดไปพูดมาแมร่งก็ชมตัวเองให้ผมฟังแหละครับ ไอ้เหี้ยนี่เพิ่งเปลี่ยนแฟน แต่โลกแมร่งโคตรสวย เปลี่ยนแฟนเดือนล่ะคน ไอ้เหี้ย!! ที่บอกว่าทำดีมาทั้งหมดมันทำให้คนล่ะเดือนครับ โปรโมรชั่นแมร่งแค่ระยะสั้นๆ เดือนเดียวทิ้งแล้วเปลี่ยนคนใหม่



"เออไอ้เหี้ย!! พูดมาแค่นี้ก็จบล่ะ โยกโย้จริงๆ ไอ้สัส!!"


"อ้าว!! ไอ้เพื่อนปูสุดหล่อครับ นี่กูช่วยมึงอยู่นะครับ มึงช่วยสำนึกนิดนึงนะครับเพื่อน"


"เออ!! ขอบใจนะ ไอ้ฟายยย!!!!"


"กร๊ากกก..... ยินดีครับผม ว่าแต่มึงเหอะ กูไม่เคยเห็นมึงอยากจะจีบใคร รอฟันอย่างเดียว แต่คนนี้มึงเปลี่ยนแนวซะกูเกือบรับไม่ทัน มึงรักเขาจริงๆ เหรอว่ะ?"


"เฮ้อออ!!! กูไม่รู้ว่ะไอ้เหี้ยว่าเขาเรียกว่ารักรึป่าว แต่กูแมร่งไม่อยากปล่อยให้มันอยู่คนเดียว ไม่อยากให้มันต้องเจออะไรที่แย่ไปกว่านี้ว่ะ" ผมเล่าไปก็คิดถึงเรื่องของมันไปครับ


"เหอะๆ กูว่าเขาเจอมึงนี่ก็น่าจะแย่สุดป่ะว่ะ ไอ้เหี้ย!! วันนั้นกูนึกว่ามึงจะไปฆ่าเขามากกว่าอยากปกป้องเขาซะอีก กูนึกว่าคอนโดกูจะเป็นข่าวตอนเช้าของอีกวัน "ชายหนุ่มหึงโหด ฆ่าดับคู่ขาหน้าหล่อ" ฮ่าๆๆ กูนี่เสียวสันหลังแทบผู้ชายคนนั้นเลยว่ะ"


"หึหึ ตอนแรกก็เกือบฆ่าแล้วสัส!! แต่กูเอาไม่ถึงตาย ฟัดมันแค่ไม่กี่ทีแมร่งก็หมดทางสู้ล่ะ"


"โหหห.... ไอ้เหี้ย!!! โหดสาดดด.... ฟันยับสมชื่อปูเป้าเปียกจริงๆ กูโคตรสงสารเขาเลยว่ะ ฮ่าๆๆ ท่าจะรับบทหนัก จัดหนักจัดเต็มจากมึง"


"ก็พอตัวว่ะ เฮ้อออ.... พูดแล้วก็แมร่ง!!!" ผมถอยหายใจเฮือกใหญ่


"พูดแล้วแมร่งอะไรว่ะ?" ไอ้โยถามต่อ ไอ้นี่เสือกระดับสิบจริงๆ ครับ


"อยากไงไอ้สัส!!" ผมตอบอย่างไม่อาย


"กร๊ากกก.... ท่าทางคนนี้จะมีดีว่ะ เพื่อนกูแมร่งเพ้อหนัก"  :jul3:


"เออ!! ไอ้เหี้ย!! เพราะแมร่งคนเดียวแหละกูถึงนั่งบ้าอยู่อย่างนี้"


"หึหึ แก้ไม่ยาก มึงไปทำตามที่หัวใจมึงต้องการซะ แล้วจะดีเอง แค่นี้ก่อนนะมึง กูต้องพาแฟนกูไปแดกข้าวว่ะ"


"เออ!! อวดนะไอ้สัส!! ขอบใจมึงมากว่ะเพื่อน"


"เออ!! โชคดีครับคุณเพื่อน อย่าลืมโทรมาเล่าให้กูฟังบ้างล่ะว่าผลเป็นยังไง"


"เสือก!!....." นี่คือคำตอบผมครับ


"ขอบคุณครับที่ให้กูได้เสือก ฮ่าๆๆ แค่นี้นะมึง บายเพื่อน"


"เออ!! บายสัส!!"



แล้วผมก็วางสายจากไอ้โยครับ ผมนั่งคิดเรื่องนี้ต่อเกือบครึ่งชั่วโมงก็รีบทำงานที่ผมค้างไว้หลายวัน เพราะผมจะได้ไปจัดการเรื่องของผมต่อให้เสร็จ ผมทำงานเลิกพร้อมๆ กับปิดร้านอยู่สามวันติด ตอนเช้าก็แวะไปหาพี่ปีพี่ชายคนโตของผม มันก็บ่นผมหูดับเลยครับ เรื่องวิ่งไปให้รถชนบ้าง เรื่องหายหัวไม่ยอมมาให้ย่ากับปูเห็นบ้าง คือเรื่องของผมมันรู้เรื่องหมดครับ ไอ้ป่านคงรายงานมันเรียบร้อย หูชาเลยกู





ผมเคลียร์งานอยู่สี่วันเต็มๆ ก็ฝากร้านให้ไอ้ป่านช่วยดูให้ เพราะผมจะต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปทำบางอย่าง หลังจากผมเคลียร์งานทุกอย่างลงตัวแล้วผมก็ขับรถเข้ากรุงเทพฯ ทันทีโดยแวะเอาของฝากไปให้พ่อกับแม่ผมที่บ้านก่อนครับ ได้พูดคุยกับท่านบ้างสองสามชั่วโมงพ่อกับแม่ผมก็ต้องบินไปดูงานอีก ผมจึงขับรถกลับมาที่คอนโด อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถไปที่บริษัทมันตามที่อยู่ที่ผมได้มา ผมจอดรถที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามกับตึกที่มันอยู่แล้วเข้าไปนั่งดูคนเดินผ่านไปผ่านมาที่ร้านกาแฟเล็กๆ ใต้ตึกเผื่อว่าจะเห็นมันครับ ผมเลือกนั่งติดกระจกมุมสุดในร้านแต่สามารถมองเห็นข้างนอกได้ชัดเจน ผมนั่งรอตั้งแต่สิบโมงเช้าตอนนี้ก็บ่ายโมงล่ะ ผมนั่งมองอยู่นานก็ยังไม่เห็นมันเดินผ่านมาเลย จนกระทั่ง....




กริ๊ง......



"สวัสดีค่ะ" เสียงทักทายของพนักงานพูดขึ้นหลังจากประตูร้านถูกเปิดออก ผมหันไปมองก็เห็นว่าคือคนที่ผมรออยู่เกือบสองชั่วโมงเดินเข้ามาในร้าน


"สวัสดีครับ ผมขอมอคค่าเย็นหวานน้อยกับเค้กวนิลาเหมือนเดิมครับ" เสียงที่ผมไม่ได้ยินมาหลายวันทำเอาผมเกือบนั่งไม่ติดเก้าอี้ อยากจะเดินเข้าไปหามัน ถามมันว่าระหว่างที่ผมไม่อยู่มันเป็นยังไงบ้าง? แต่ผมคงจะสำคัญตัวผิดไป ผมไม่อยู่มันคงจะรู้สึกดีกว่ามีผมอยู่ด้วยซินะ



"วันนี้ไม่ให้เลขาโทรมาสั่งให้เหรอค่ะ?" พนักงานสาวถามขึ้น


"อ่อ พอดีผมเพิ่งมาจากข้างนอกนะครับ เลยแวะเข้ามาสั่งเองนะครับ" มันตอบพนักงานด้วยรอยยิ้ม ดูเธอก็คงจะชอบรอยยิ้มของมันอยู่ไม่น้อย


"อ่อค่ะ แล้วทานที่ร้านหรือจะให้ขึ้นไปส่งข้างบนดีค่ะ?"


"งั้นผมขอทานที่นี่ดีกว่าครับ จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก"


"ได้ค่ะ งั้นเชิญคุณลูกค้านั่งรอที่โต๊ะเลยนะค่ะ"


"ครับ ขอบคุณครับ" พอพูดจบมันก็หันซ้ายหันขวามองหาโต๊ะว่าง ซึ่งก็มีแค่โต๊ะตัวที่อยู่ข้างหน้าผม ผมหยิบหนังสือพิมขึ้นมาอ่านเพื่อไม่ให้มันรู้ว่าเป็นผม เพราะถ้ามันรู้มันคงไม่นั่งกินต่อแน่ๆ



ผมนั่งมองมันที่นั่งหันหลังให้ผม สายตาของมันเหม่อลอยมองออกไปนอกร้านผ่านกระจกใส มองดูผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างล่องลอย มันนั่งอยู่สักพักพนักงานก็ยกกาแฟพร้อมกับเค้กหนึ่งชิ้นมาเสริฟที่โต๊ะ


"มอคค่าเย็นหวานน้อยกับเค้กวนิลาค่ะ ทานให้อร่อยนะค่ะ" พนักงานสาวพูดด้วยอาการเขินอาย


"ขอบคุณมากครับ"


"ยินดีค่ะ...." เธอพูดตอบแล้วก็เดินกลับไปที่เค้าเตอร์



ผมนั่งมองมันดื่มกาแฟสลับกับตักเค้กวนิลาเข้าปากอย่างเงียบๆ มันกินไปมองบรรยากาศข้างนอกไป ผมเห็นแล้วอยากจะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ มัน ถามมันว่าเค้กอร่อยเหรอ? ชอบกินเค้กวนิลาเหรอ? แล้วชอบกินอะไรอีกนอกจากเค้กวนิลากับกาแฟมอคค่าที่กำลังกินอยู่ ผมนั่งมองมันกินไปเรื่อยๆ จนมันลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อจ่ายเงินค่ากาแฟกับเค้ก




"ขอบคุณมากค่ะ โอกาสหน้าเชิญมาทานที่ร้านอีกนะค่ะ" พนักงานสาวพูดขึ้น


"ครับ...." มันตอบแล้วก็เดินออกไปจากร้านทันที ผมลุกพรวดจากโต๊ะ เดินดิ่งตามหลังมันไปแต่ต้องชะงักเพราะคิดขึ้นได้ว่ายังไม่ถึงเวลา ผมเลยเดินกลับมาที่เค้าเตอร์มุ่งตรงไปที่พนักงานสาว


"สวัสดีครับ..." ผมกล่าวทักทายเธอ


"ค่ะ คุณลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมค่ะ?"


"อ่อ ไม่แล้วครับ ผมจะมาจ่ายเงิน แล้วอยากถามว่าคนที่ออกไปจากร้านเมื่อกี้เขามาที่นี่ทุกวันรึป่าวครับ?"


"อ่อ คุณโจเจ้าของบริษัทอินทีเรียใช่ไหมค่ะ?"


"ใช่ครับ..."


"คุณโจไม่ได้มานั่งทานที่นี่ทุกวันหรอกค่ะ ส่วนมากจะให้เลขาโทรมาสั่งให้ขึ้นไปส่งบนตึกนะค่ะ"


"อ่อครับ แล้วเขาสั่งอะไรทานบ้างครับ?" พนักงานทำหน้าสงสัยในคำถามของผมนะครับ เธอคงอยากรู้ว่าผมจะถามไปทำไมมั้งครับ


"เอ่อ.... คือว่า..."


"งั้นผมขอคุยกับผู้จัดการได้ไหมครับ?" ผมเห็นเธอลังเลเลยขอคุยกับผู้จัดการร้านเลยดีกว่า ทีเดียวจบ


"ได้ค่ะ งั้นคุณลูกค้านั่งรอสักครู่นะค่ะ"


"ครับ...." ผมเดินกลับไปนั่งรอผู้จัดการร้านที่โต๊ะเดิมที่ผมนั่ง นั่งรอได้ประมาณห้านาทีผู้จัดการร้านก็เดินออกมาหาผม


"สวัสดีครับคุณลูกค้า มีอะไรให้ทางร้านเรารับใช้เหรอครับ?"


"สวัสดีครับ คือผมต้องการ....."




แล้วผมก็ถามเกี่ยวกับบริการของทางร้านว่ามีบริการจัดส่งออเดอร์ตามที่ลูกค้าต้องการให้ส่งหรือป่าว ถ้าผมจะสั่งให้ส่งถึงคนๆ นึงแล้วผมชำระเงินล่วงหน้าเลยจะได้ไหม? ผู้จัดการร้านก็บอกว่ามี แต่ทางร้านจะทำการจัดส่งให้อย่างเดียวไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าที่ร้านได้ เพราะมันคือเรื่องส่วนตัวของลูกค้าเขาจึงไม่สามารถบอกว่าใครชอบทานอะไรได้ ผมเลยตกลงสั่งให้ทางร้านสั่งกาแฟมอคค่าเย็นหวานน้อยกับเค้กวนิลาให้มันทุกวัน ช่วงเวลาที่ให้ส่งผมก็เลือกเวลาเดียวกับวันนี้ที่เจอมันนี่แหละครับ ช่วงบ่ายนี่แหละครับ นั่งทำงานง่วงๆ ช่วงบ่ายคงจะเป็นเวลาดีที่สุดถ้าได้กาแฟซักแก้ว




หลังจากผมจัดการสั่งกาแฟให้มันเรียบร้อยผมก็ขับรถกลับไปที่คอนโดโทรหาไอ้ทิว ไอ้นี่ก็ติดเมียคุยเหี้ยอะไรก็ไม่ค่อยได้ กลัวเมียรู้ว่าช่วยผม แต่มันบอกว่าจะโทรกลับหาผมครับ ผมนอนพักไปได้สักพักมันก็โทรกลับมาหาผม





ครืดดด.... ครืดดด.....



"โหล... ว่าไงครับไอ้ประธานสมาคม" ไอ้ทิวโทรเข้ามาครับ


"ประธานสมาคมห่าอะไรของมึงว่ะ?" มันถามกลับ


"ไอ้เหี้ย!! ประธานชมรมคนกลัวเมียไงสัส!! แมร่ง!! ป๊อดชิบหาย" ผมได้ทีก็หลอกด่ามันเลยครับ


"เออ!! ไอ้เหี้ย!! เดี๋ยวมึงก็ได้เข้าชมรมกูไอ้สัส!! กูจะต้อนรับสมาชิกให้สุดโต่งไปเลยไอ้เหี้ย!!" สาดดด.... เข้าตัวเลยกู


"หึหึ คนอย่างกูไม่มีทางว่ะ อีกไกล...."


"ไกลส้นตีนอะไร กูว่าโคตรใกล้เลย ว่าแต่มึงเหอะ มีอะไรป่าวว่ะถึงโทรหากูได้?"


"มี!! มึงพอจะรู้จักร้านดอกไม้ที่รับส่งดอกไม้ในกรุงเทพฯ ป่ะว่ะ เอาร้านที่ดูดีหน่อย ไอ้ห่า!! กูไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้ว่ะ" ผมบ่นอุบ


"พอมีว่ะ กูสั่งให้ลูกค้าป๊ากูประจำ มึงจะส่งให้ใครว่ะ?"


"ถามมากว่ะ!! บอกๆ มาไอ้สัสทิว" ผมด่าแมร่งเลย กูอายจะตอบ


"เออ!! ไอ้เหี้ย!! ชื่อร้านxxxxx เบอร์เดี๋ยวกูส่งไปให้ทาง line" มันตอบแบบกระแทกเสียงไม่พอใจนะครับ ผมจะทำไงได้นอกจากกระแทกเสียงกลับ ฮ่าๆๆ


"เออ!! ขอบใจมึงมาก!!"


"เออ!! ไอ้เหี้ย!! กูไปรับเมียกูที่มหาลัยก่อน มีอะไรมึงค่อยโทรมาใหม่" ไอ้ห่า!! ไม่พ้นเรื่องเมียจริงๆ


"ตามสบาย กูถามมึงแค่นี้แหละ"


"เออ..... บาย"



ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด......




แล้วมันก็ตัดสายผมทิ้งทันที ไอ้ห่าทิว แมร่งติดเมียสัสๆ เพื่อนนี่ให้เวลาได้ไม่เท่าเมียจริงๆ แต่ก็นะ มันรักเมียหลงเมียมันมากขนาดนี้ผมเห็นแล้วก็แอบอิจฉามันเหมือนกันครับ รอสักพักมันก็ส่งเบอร์โทรร้านดอกไม้มาให้ผม ผมเลยจัดการโทรไปสั่งดอกไม้ให้ไปส่งที่คอนโดมันครับ ผมเลือกเวลาที่คิดว่ามันจะกลับถึงคอนโด ผมจึงให้ทางร้านไปส่งดอกไม้ตอนหกโมงเย็น ให้เอาไปฝากไว้ที่รีเซฟชั่นของคอนโด ผมเลือกดอกกุหลาบสีแดงแปดดอกครับ ถ้าผมมีโอกาสได้บอกความหมายเกี่ยวกับดอกไม้ที่ผมให้มัน ผมจะบอกมันด้วยตัวของผมเอง





หลังจากจัดการเรื่องดอกไม้เสร็จผมก็นอนหลับไปด้วยความเหนื่อย เพราะตั้งแต่มาถึงผมก็ยังไม่ได้พักเลยครับ ผมตื่นมาอีกที่เกือบห้าโมง เลยอาบน้ำแต่งตัวไปรอดักมันที่คอนโดของมัน ผมนั่งรออยู่ที่โซฟาด้านล่างของคอนโด รออยู่นานพอสมควรก็เห็นมันหิ้วของพะรุงพะรังเดินตรงไปที่ลิฟท์ แล้วผู้จัดการคอนโดก็วิ่งตามมันไป ต่อมาไม่นานมันก็เดินมาหยุดอยู่ที่รีเซฟชั่นแล้วรับดอกไม้ที่ผมสั่งให้มาส่งด้วยใบหน้าที่งุนงง ยิ้มรับด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย แต่มันต้องยิ้มเพราะผู้จัดการสาวดันไปแซวมันว่าแฟนส่งมาให้ แฟนมันน่ารักจัง หึหึ ผมนี่นั่งฟังยิ้มตัวแทบลอย คือกูน่ารักเหรอว่ะ? มันถือดอกไม้แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไป หลังจากนั้นผมก็ขับรถกลับคอนโด




เช้าวันต่อมันผมมาดักรอมันแต่เช้า ขับรถตามมันจนถึงบริษัท ผมจอดรถหยุดคุยกับลุงแก่ๆ คนนึงที่ถือตะกร้าแซนวิชไว้ในมือ ผมพูดคุยกับลุงคนนั้นด้วยรอยยิ้ม แล้วมันก็ขับรถขึ้นตึกไป ผมจอดรถที่ร้านอาหารตรงข้ามร้านมันที่เดิมแล้ววิ่งไปดักลุงคนนั้น



"ลุงครับ ลุง... เดี๋ยวก่อนครับ"


"มีอะไรเหรอครับ?" คุณลุงหันมาถาม


"ผู้ชายคนเมื่อกี้เขาซื้อแซนวิชลุงเหรอครับ ต้องอร่อยแน่ๆ เลยผมว่า..."


"อ่อ!! คุณเขาซื้อของลุงทุกเช้าครับ แต่ปกติลุงจะเดินขึ้นไปส่งให้กับเลขาคุณเขานะ วันนี้คุณเขาขับรถผ่านมาเจอลุงพอดีเลยหยุดทักทายลุงนิหน่อยนะครับ"


"อ่อ!! ครับ งั้นผมซื้อห้าชิ้นครับลุง แต่ต่อไปนี้ผมอยากจะสั่งแซนวิชลุงให้ขึ้นไปส่งให้ผู้ชายคนนั้นทุกเช้าเหมือนเดิม นี่ครับ ผมจ่ายเงินล่วงหน้า แต่ลุงห้ามบอกเขานะครับว่าใครเป็นคนสั่ง" ผมยื่นเงินจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าน่าจะพอสำหรับค่าแซนวิชของลุงครับ


"จะดีเหรอครับ คือลุง....."


"ดีครับ ลุงก็ส่งให้ตามปกติ แต่ผมเป็นคนจ่ายเงินให้ คือผมทำเรื่องไม่ดีกับเขานะครับ เลยอยากขอโทษเขาด้วยแซนวิชอร่อยๆ ของลุงนะครับ ลุงช่วยผมหน่อยนะครับ ถือว่าผมขอร้องก็ได้อ่ะ" ผมยกมือไหว้ลุงเลยครับ อ้อนวอนสุดๆ ลุงทำท่าลังเลสักพักก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง



"อ่ะ ก็ได้ครับคุณ ลุงถือว่าช่วยๆ กัน แล้วแซนวิชของลุงก็ไม่ได้ฆ่าใครได้ ถ้ามันจะทำให้คุณสองคนเข้าใจกันลุงก็ยินดีช่วยครับ"


"ขอบคุณมากครับลุง ขอบคุณมากครับ งั้นผมจ่ายให้เป็นรายเดือนเลยนะครับ ครบเดือนเมื่อไหร่ผมจะมารอลุงอยู่ที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามตึกนี้นะครับ"


"ได้ครับ งั้นลุงไปก่อนนะครับ ลุงต้องรีบไปตั้งแผงขายของนะครับ"


"ครับลุง ขอบคุณมากนะครับ"




หลังจากขอร้องลุงได้สำเร็จผมก็ตามดูมันต่ออีกสามวันแล้วก็ต้องกลับไปทำงานที่ร้านครับ ผมเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ - หัวหินอยู่อย่างนี้สามเดือนเต็มๆ ของที่ผมสั่งก็ยังจัดส่งให้เหมือนเดิม ผมเข้าไปจ่ายเงินที่ร้านกาแฟ ผู้จัดการร้านก็เล่าเรื่องที่มันตามหาคนส่งให้ผมฟัง ผมบอกเขาว่าให้ส่งเหมือนเดิมทุกอย่างแล้วผมจะเป็นคนบอกมันเองว่าคือผมเองที่เป็นคนส่งกาแฟกับเค้กให้มัน ผู้จัดการร้านก็โอเคครับ ทำตามออเดอร์เดิมแต่ไม่รับประกันว่าคนรับจะรับสินค้ารึป่าว ผมก็ตอบไปว่ารับไม่รับก็ให้ส่งเหมือนเดิมทุกอย่าง ดอกไม้กับแซนวิชก็ยังคงส่งไปให้มันทุกวันตามที่ผมสั่ง จนวันนี้มาถึง เวลาผ่านไปสามเดือนเต็มๆ ที่ผมต้องวิ่งกลับไปกลับมา ทำงานกับตามดูมัน เหมือนเป็นชีวิตประจำวันผมไปซะแล้ว ไอ้ป่านก็บ่นผมตลอดว่าชอบทิ้งร้านให้มันดู ผมเลยเอาเงินฟาดหน้าผากมันเป็นค่าปิดปาก ไอ้บ้านี่ก็ขำกร๊ากกก.... บอกว่าเป็นค่าเลี้ยงดูหลานสาว มันก็ไม่ต้องการอะไรจากผมหรอกครับ เพราะเงินที่ผมให้มันก็ไม่ได้มากมายอะไร มันแบ่งไปให้ย่าผมแล้วก็ซื้อของให้ลูกมันนั่นแหละครับ เงินมันมีเยอะกว่าผมอีก




วันนี้เป็นวันที่ผมเคลียร์ตัวเองทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานและเรื่องต่างๆ ที่วุ่นวายที่เกิดขึ้นในชีวิตผม วันนี้จะเป็นวันที่ผมจะเดินเข้าไปหามัน คุยกับมัน บอกมันในสิ่งที่ผมต้องการจะบอก ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมก็จะยอมรับครับ เพราะคงไม่มีอะไรที่ผมจะยอมแพ้ง่ายๆ แล้วยอมทิ้งมันไปง่ายๆ โดยที่ผมไม่ลงมือทำซะก่อน




ผมขับรถออกจากหัวหินตั้งแต่เช้า มาถึงคอนโดผมก็เกือบๆ เที่ยง ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวซะใหม่ โกนหนวดโกนเคราให้ดูสะอาดสะอ้าน คือกูจะเถื่อนมากกว่านี้ไม่ได้ไงครับ ต้องหล่อนิดนึง จะไปหามันในสภาพที่โทรมๆ อย่างตอนมาถึงก็คงจะไม่ไหว เดี๋ยวมันวิ่งหนีไปอย่างนี้ก็ซวยดิ๊ครับ ผมขับรถมาถึงตึกมันก็จอดรถไว้ที่เดิม อ่อ!! ผมจอดรถไว้ผมให้ค่าจอดนะครับไม่ได้จอดฟรี หลังจากจอดรถเสร็จก็ลงจากรถขยับปกคอเสื้อให้เข้าที่เข้าทางแล้วเดินตรงไปยังร้านกาแฟใต้ตึกที่มันอยู่



"ขอโทษนะครับ วันนี้ได้ขึ้นไปส่งกาแฟที่ผมสั่งไว้รึยังครับ?" ผมถามพนักงานสาว


"อ่อ!! ยังค่ะ เหลือเวลาอีกสิบนาทีค่ะ ถึงจะขึ้นไปส่ง"


"งั้นเหรอครับ รบกวนทำกาแฟกับห่อเค้กมาให้ผมนะครับ วันนี้ผมจะเอาขึ้นไปส่งเองครับ" พนักงานสาวเธอทำหน้ายิ้มๆ ให้ผม


"ได้ค่ะ งั้นรอสักครู่นะค่ะ" แล้วเธอก็จัดการชงกาแฟแล้วห่อเค้กใส่กล่องให้ผมครับ ผมรอไม่นานเค้กกับกาแฟก็อยู่ในถุงพร้อมส่งเรียบร้อย


"เอ่อ... ไม่ทราบว่าอยู่ชั้นไหนครับ?" ผมถามเธอ เธอทำหน้างงๆ ก่อนจะยิ้มและตอบผม


"ชั้นเก้าค่ะ ออกจากลิฟท์เลี้ยวซ้ายแล้วเดินตรงไปค่ะ หน้าห้องจะมีคุณจูนนั่งรอรับเค้กที่หน้าห้องค่ะ"



"ครับ ขอบคุณมากครับ" ผมยิ้มแล้วบอกขอบคุณเธอก่อนจะเดินออกมาจากร้าน ผมได้ยินเสียงเธอพูดกับพนักงานอีกคนว่า "หล่ออ่ะแก... หล่อทั้งคู่เลยเนอะ ฉันอยากได้" ผมยิ้มให้กับสิ่งที่ผมได้ยิน ผมชินแล้วครับ แต่ขอโทษทีที่ผมไม่เคยชอบหรือมองผู้หญิงคนไหนเลย ถ้าพวกเธอรู้ความจริงคงจะเสียใจอยู่ไม่น้อย



ผมเดินตรงมาที่ลิฟท์ รอลิฟท์อยู่สักพักแล้วก็กดลิฟท์ขึ้นไปชั้นเก้า ออกจากลิฟก็เดินเลี้ยวซ้ายแล้วตรงไปตามที่เธอบอก ไม่มีคนนั่งอยู่หน้าห้องครับ ผมเลยเดินเข้าไปทันที จะบอกยังไงดีล่ะ ตอนนี้ใจผมเต้นแรงโคตรๆ อะไรที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ ไม่เคยง้อใครก็ได้ง้อ ไม่เคยจีบใครก็ได้จีบ ตื่นเต้นชิบหายเลยครับ




ก๊อก ก๊อก ก๊อก.....



"เชิญเข้ามาได้ครับ" เสียงที่ตอบกลับมาหลังจากผมเคาะประตูทำเอาผมใจเต้นแรงแทบจะควบคุมไม่อยู่ ผมคิดอยู่อย่างเดียวว่า... นี่กูโคตรลงทุนเลยนะ ถ้ามึงปฏิเสธกูอีกกูคงต้องบ้าแน่ๆ




แกร๊ก!!!




ผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นมันนั่งก้มหน้าอ่านอะไรอยู่ก็ไม่รู้ครับ สงสัยจะเป็นเอกสารที่เกี่ยวกับงานมันนั่นแหละ มันพูดกับผมเพราะคงนึกว่าผมเป็นเลขาของมันที่เข้ามา แต่พอเงยหน้าขึ้นมันก็ถึงกับชะงักเล็กน้อยด้วยความตกใจ



"คุณ!!...."


"มึงดูผอมไปนะ กินข้าวบ้างรึป่าว?" ผมถามมันทันทีที่เห็นมัน มันดูผมและซูบลงไปมาครับ หน้าตอบอย่างเห็นได้ชัด


"คุณมาได้ยังไง?" มันถามด้วยสีหน้าที่ดูตกใจไม่น้อย ผมไม่ทันได้อธิบายดีก็ได้ยินเสียงคนวิ่งเข้ามาในห้องผมเลยหันไปมอง


"บอสค่ะ ขอโทษทีค่ะ พอดีจูนไปเข้าห้องน้ำมานะค่ะ" เลขามันวิ่งหน้าตั้งเข้ามาอธิบาย


"ไม่เป็นไรครับจูน เดี๋ยวผมขอคุยกับเขาก่อนครับ" มันพูดบอกเลขามันครับ


"ค่ะบอส..." เธอพูดตอบแล้วก้มหัวให้ผมเล็กน้อย ผมก็ยิ้มตอบเธอครับ


"คุณมีอะไรก็ว่ามา...." ผมเดินเข้าไปหามัน มันลุกขึ้นเดินมานั่งลงที่โซฟารับแขกในห้อง ผมก็เดินตามไปนั่งลงโซฟาอีกตัวที่อยู่ข้างๆ มัน



"คือว่ากู....."



บอกเลยว่าตอนนี้ยาวมากกกก...... ก.ไก่ล้านตัว
อีพี่ปูปัญหาเยอะ ตัวปัญหาก็ว่าได้เนอะ
คนอ่านก็รอเนอะ เลยจัดหนักให้พี่มันทำอะไรซักที อย่าเอาแต่ใช้กำลังปลุกปล้ำอย่างเดียว หื่นๆๆ  :hao6:


ขอบคุณที่คนอ่านยังไม่หนีหายไปไหน บางคนก็กลับมาเม้นให้เรื่อยๆ บางคนอ่านไปคงไม่ใช่แนวเลยจากหาย
ขอบคุณที่ยังติดตามแล้วเม้นให้นะค่ะ ยิ้มปัญญาอ่อนมอบให้คนอ่านทุกคน กร๊ากกกก....  :laugh:

ปล. ที่โฟส์คือนำมาจากไฟล์ดิบนะค่ะ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
 :L2: :L2: :L2: :L2:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-09-2015 18:52:45 โดย Star_ss »

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
อิพี่ปูสร้างภาพเข้าไปนะสู้ๆ. อย่าไปแสดงเวอร์ชั่นปูเป้าเปียกกับปูปลุกปล้ำให้พี่โจเห็นอีกล่ะ. ได้เห็นพี่แกทำแบบนี้แล้วรู้สึกทึ่งนิดนึง   อุตส่าห์ทำมาขนาดนี้แล้วอย่าหลุดล่ะ แสดงความจริงใจให้เต็มที่ เรื่องอยากเก็บไว้ก่อน
ชอบเพื่อนโย  พูดโดนใจทุกคำ.  :laugh: 

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
พี่โจอย่าเพิ่งตระหนกไปค่ะ เพราะมาคราวนี้พี่ปูเขามาพร้อมกับมาดใหม่ พี่โจอยากจะชี้ไม้ให้เป็นนก หรือว่าจะชี้นกให้เป็นไม้ก็ย่อมได้~~ :hao7: ..

ออฟไลน์ nuttzier

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
ตื้อเข้าไว้อิพี่ปูโจน่ะเป็นคนใจอ่อนจะตาย
ดูอย่างที่ทำเค้าไว้ขนาดนั้นเค้ายังยอมคุยด้วย

ออฟไลน์ Star_ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 552
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +136/-3
★.:***♡มหาลัยวุ่นรัก♡...เดอะ ซีรี่ย์❥***:.★
เรื่อง
♡.:*ผัวขี้หึงVSเมียขาโหด*:.★❥
♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡♡



ตอนที่ 14 (ปูกะโจ) หวั่นไหว



พาร์ทโจ



ผมนั่งกุมมือตัวเองไว้แน่น ทั้งตกใจทั้งรู้สึกอะไรหลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน คนที่ผมไม่ได้เจอหน้าเลยสามเดือนเต็มๆ คนที่วิ่งเข้ามาในความคิดผมตลอดสามเดือนที่หายไป ตอนนี้เขามานั่งอยู่ต่อหน้าผมแล้วครับ ผมมองแก้วกาแฟกับกล่องเค้กที่ยังไม่ได้แกะวางอยู่ตรงหน้าผม คือเขาเองเหรอที่ซื้อให้ผมตลอดเวลาสามเดือนที่ผ่านมา แล้วดอกไม้ล่ะ แซนวิชล่ะ ใช่เขาด้วยรึป่าวที่เป็นคนซื้อให้ผม ผมรู้สึกแปลกๆ ครับ เริ่มทำตัวไม่ถูกแต่พยายามนั่งให้นิ่งที่สุด




"คือกูมาหามึงนะ มึงยุ่งอยู่รึป่าว?" คำถามแรกก็ทำเอาผมอดแปลกใจไม่ได้ มาหาผม?

"มาหาผมทำไม คุณมีธุระอะไรกับผมงั้นเหรอ? ผมว่าผมบอกคุณไปหมดแล้วนะว่าคุณกับผมเราไม่ควรจะเจอหน้ากันอีก" ผมพูดไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นนิดๆ

"เฮ้อออ..... มึงมีเหตุผลหน่อยดิ๊ว่ะ กูง้อมึงอยู่นะมึงรู้ตัวรึป่าวเนี๊ยะ กูลงทุนจีบมึงใหม่เลยนะเว้ย!! เกิดมากูยังไม่เคยตามตื้อใครขนาดนี้เลย มึงเกลียดอะไรกูหนักหนาว่ะ? เคลียร์กันให้เข้าใจไปเลยดีกว่าว่ะ!!! กูเริ่มไม่ไหวกับอารมณ์บ้าๆ แบบนี้อีกแล้ว แล้วกูก็จะไม่ทนต่อไปด้วย!!" เขาตอบกลับมาเสียงค่อนข้างดุ หน้าตาเอาจริงเอาจังที่สุดจนผมอดผวาไม่ได้ครับ


"อารมณ์บ้าๆ งั้นเหรอ?" ผมทวนคำพูดเขาครับ คืออะไรที่ว่าอารมณ์บ้าๆ ผมไม่เข้าใจ

"เออ!! กูนี่โคตรหงุดหงิดเลย อยากเข้ามาคุยกับมึงก็เข้ามาคุยไม่ได้ อยากอยู่ใกล้ๆ มึงก็อยู่ไม่ได้ อยากคบกับมึงก็คบไม่ได้ อยากได้มึงมาเป็นแฟนมึงก็ไม่ยอม"

"เฮ้อออ.... กูเหนื่อยว่ะ!!" เขาพูดจบก็นอนแผ่ไปกับโซฟาที่เขานั่งนั้นแหละครับ ทั้งๆ ที่ตอนนี้ผมใจเต้นระรัวเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา ใจเต้นงั้นเหรอ? ทำไมผมถึงรู้สึกอย่างนี้ล่ะ

"แล้ว....." ผมกำลังจะพูดต่อก็ต้องหยุดเพราะเขาเด้งตัวขึ้นมาตั้งใจฟังสิ่งที่ผมจะพูดจนผมลืมคำพูดตัวเองไปเลยครับ

"ห๊ะ!!! แล้ว? คือกูพูดมาตั้งนานมึงพูดตอบมาได้แค่นี้ อ่อไม่ซิ แล้วๆๆ? มึงถามกูกลับเหรอว่ะ เหี้ย!! แล้วทำไมกูต้องทำตัวแปลกๆ อย่างนี้ด้วยว่ะ พูดอะไรวกไปวนมาเนี๊ยะ!! เซ็งตัวเองวุ้ยย!!!" ตอนแรกเขาก็พูดเหมือนคุยโต้ตอบกับผมนี่แหละครับ แต่พูดไปพูดมาดันบ่นตัวเองซะนี่ ผมล่ะงงจริงๆ


"หึ....." ผมดันหลุดขำออกไปซะงั้น เขาหันควับกลับมาหาผมทันทีเลยครับ

"มึงขำกูเหรอว่ะ?"

"ป่าวนิ ป่าว... ผมจะขำคุณทำไมล่ะ" ผมสั่นหัวปฏิเสธทันที

"หึหึ ไม่ได้ขำก็แล้วไป แล้วตอนเที่ยงมึงกินข้าวกับอะไร?"

"....." ผมเงียบไม่ได้ตอบ ถ้าตอบว่ายังไม่ได้กินเขาจะเชื่อรึเปล่า เพราะนี่ก็เลยเวลากินข้าวมาแล้วด้วย

"ยังไม่ได้กินใช่ไหม?" เขาถามต่อ ผมยังคงเงียบเหมือนเดิม

"...."

"งั้นลุกขึ้น" พูดจบเขาก็ลุกขึ้นยืนเลยครับ

"ลุกขึ้นทำไม?" ผมถามกลับ

"ไปกินข้าวไง เนี๊ยะ!! เพราะมึงไม่ยอมกินข้าวอย่างเนี๊ยะถึงผอมจนจะเห็นกระดูกอยู่แล้ว ไป๊ลุก ไปกินข้าว เดี๋ยวกูพาไปกินใกล้ๆ ถ้ามึงกลัวจะทำงานไม่เสร็จนะ"

"ผมไม่ไป ผมสั่งมากินที่นี่ก็ได้ คุณไม่ต้องลำบากหรอก เดี๋ยวผมสั่งเลขาผมเอง คุณกลับไปเถอะ"

"ลุกขึ้นนน......"

"เห้ย!!!! คุณจะทำอะไรนะ" ผมจับแขนผมแล้วฉุดผมให้ลุกขึ้น ผมไม้ทันตั้งตัวเลยลุกขึ้นยืนตามแรงดึงเลยอ่ะครับ

"ไปกินข้าว เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง" เขาหันมาตอบพร้อมกับดึงผมให้เดินตามครับ

"แต่ผมไม่อยากไป!!"

"จะไปกับกูดีๆ หรืออยากอายเลขามึงที่นั่งอยู่หน้าห้องก่อน" ผมชะงักกึ่ก

"งั้นปล่อยแขนผม ผมเดินเองได้" ผมพูดบอก

"หึ!! งั้นป่ะ ไปกินข้าวกัน" เขายิ้มมุมปากก่อนที่จะ....

"เห้ย!! ผมบอกให้ปล่อยไง ผมเดินเองได้" คือเขาปล่อยแขนผมแล้วครับ แต่เปลี่ยนมันจับมือผมเดินแทน ผมใจเต้นรัวทันที ไม่รู้จู่ๆ ทำไมถึงรู้สึกอย่างนี้



แกร๊กกก.....



"บอสจะออกไปไหนเหรอค่ะ?"

"อ่อ!! ผมจะพาบอสคุณไปทานข้าวนะครับ นั่งทำงานจนลืมทานข้าวได้ไง หือ.. ผมขอตัวพาบอสคุณไปทานข้าวก่อนนะครับ คุณเลขาสุดสวย" ผมอ้าปากค้างไปเรียบร้อยแล้วครับ สายตาเลขาผมกำลังจะมองต่ำมาที่มือของผมที่โดนจับไว้แน่น ผมรีบเดินเข้าไปยืนให้ใกล้ที่สุดเพื่อบดบังอีกมือที่จับมือผมไม่ยอมปล่อย


"อ่อ!! ค่ะ งั้นจูนฝากบอสด้วยนะค่ะ บอสชอบทานอาหารไม่ค่อยตรงเวลาเท่าไหร่นะค่ะ"

"ได้ครับ งั้นผมสองคนขอตัวนะครับ ทานข้าวเสร็จจะรีบพาบอสคุณกลับมาส่งถึงที่เลยครับ"

"เอ่อ... คุณจูนเดี๋ยวผมมานะ ผมคงไปไม่นานหรอกครับ" ผมพูดไม่ค่อยถูก ไม่รู้จะพูดยังไง แก้ตัวยังไงดีนะครับ

"ไม่ต้องรีบนะค่ะบอส เดี๋ยวจูนจัดการเรื่องงานให้ค่ะ ทานข้าวให้อร่อยนะค่ะ"

"ไปเถอะ!!" ผมพูดบอกเขาครับ ผมไม่อยากยืนนานกว่านี้นะครับ

"กินอะไรดีว่ะ มึงอยากกินอะไร?" เขาหันมาถามผมในขณะที่เดินไปยังลิฟท์เพื่อลงไปชั้นล่าง

"คุณปล่อยมือผมก่อน...." ผมพยายามแกะเท่าไหร่เขาก็ไม่ยอมปล่อย พอมีคนเดินผ่านมาผมก็ต้องเลิกแกะเพราะกลัวคนอื่นสงสัยว่าผมกำลังทำอะไร

"ไม่ปล่อย!! เดินอย่างนี้แหละดีแล้ว ตกลงอยากกินอะไร? จะได้พาไปกิน"

"อะไรก็ได้ เอาใกล้ๆ แถวนี้ ผมต้องกลับมาทำงานต่อ"

"โอเค... จัดให้"
เขาพาผมเดินไปอีกฝั่งของตึกที่ผมทำงานอยู่ เดินไปถึงผมก็รู้ทันทีว่ารถคันที่จอดอยู่คือรถของเขา ผมเคยนั่งแค่ไม่กี่ครั้งครับ แต่ผมจำรถเขาได้


"ไหนบอกจะกินใกล้ๆ ไง ผมไม่อยากไปไกลนะ"

"เออ! ไม่ไกลหรอกน่าา.... ขึ้นรถเร็ว" เขาเดินมาเปิดประตูให้ผมแล้วดันตัวผมเข้าไปนั่งก่อนจะปิดประตูรถแล้วเดินไปขึ้นนั่งฝั่งคนขับ

"เดี๋ยวพาไปกินร้านอร่อย...." เขาพูดแค่นั้นแหละครับ แล้วเขาก็ขับรถออกไปเลย ผมนั่งเงียบตลอดทาง ไม่รู้จะพูดอะไรนี่ครับ

"มึงสบายดีไหม?" คำถามแรกที่ผมนั่งเงียบอยู่บนรถอยู่นานก็ดังขึ้น ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไรออกไป มือไม้สั่นไปหมด จังหวะการเต้นของหัวใจผมก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ


"....."


"พี่มึงไม่ได้มากวนใจอะไรแล้วใช่ไหม?" ผมหันควับกับคำถามนี้ แต่ผมก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป "....."

"กูคิดถึงมึงว่ะ"


มือผมที่สั่นอยู่แล้วก็สั่นแรงขึ้น มือนี่เย็นเฉียบ ใจก็เต้นระรัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผมคงไม่ได้ตื่นเต้นหรือรู้สึกดีกับสิ่งที่เขาพูดบอกใช่ไหมครับ แต่ทำไมผมถึงรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้เลยล่ะ


"....."


"มึงจะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอว่ะ? กูยังบอกมึงทุกอย่างที่กูอยากพูดกับมึงเลย"

"ผมไม่มีอะไรจะพูด..." ผมตอบออกไปอย่างนั้นครับ แต่ใจผมยังคงเต้นแรงไม่หาย



เอี๊ยดดด......



เขาหักพวงมาลัยแล้วจอดรถเข้าชิดข้างทางทันที ผมจับเบ้ลไว้แน่นด้วยความตกใจ


"มึงใจร้ายว่ะ..." ผมหันหน้าไปมองคนที่พูด


"....."



"กูแทบจะทำอะไรไม่ได้เลยตลอดสามเดือนที่ผ่านมาเพราะกูคิดถึงแต่เรื่องมึง คอยตามมึงตลอดทั้งที่มึงไม่เคยรู้เลยว่ากูตามดูมึงอยู่ เป็นห่วงว่ามึงจะอยู่ยังไง กินข้าวตอนไหน มีใครมายุ่มย่ามกับมึงไหม? กูเป็นอย่างนี้มาตลอดสามเดือน จะไม่เกินไปหน่อยเหรอว่ะ แค่กูถามว่ามึงกินข้าวหรือยัง มึงยังไม่อยากจะตอบกูเลย มึงบอกกูได้ไหมว่ากูควรจะทำยังไงมึงถึงจะยอมพูดกับกูบ้าง ตอบกูบ้างเวลาที่กูถาม กูแค่อยากรู้ว่ามึงสบายดีไหมแค่นี้มันยากนักเหรอว่ะโจ มึงบอกกูมาดิ๊"



สายตาเขาสั่นไหวเล็กน้อย ผมก็ยิ่งใจสั่นมากขึ้นครับ ทุกอย่างมันตื้อไปหมด เขาบอกว่าเขาทำทุกอย่างที่ผมไม่เคยรู้ตลอดสามเดือนเต็ม แสดงว่าของที่ผมได้รับมาทั้งหมดก็น่าจะเป็นของเขาที่เป็นคนส่งให้ผม ผมคิดอะไรไม่ออกแล้วครับ มันมึนๆ งงๆ ไปหมด



"ผมหิวข้าว คุณบอกจะพาผมไปกินข้าวไม่ใช่เหรอ?" ผมตอบไปได้แค่นี้แหละครับ ผมคิดคำพูดไม่ทัน ไม่รู้จะพูดอะไรดี

"เฮ้อออ!! เดี๋ยวกูพาไปกินข้าวก่อนแล้วเราค่อยคุยกัน อดเข้าไปข้าวนะ! ผอมจนจะเห็นกระดูกอยู่แล้ว มึงจะไปเดิบแบบรึไงถึงอดข้าวจนผอมขนาดนี้นะห๊ะ!!"


เขาถอนหายใจเฮื้อกใหญ่เสร็จก็ต่อด้วยการพูดบ่นอะไรของเขาไปเรื่อยนะครับ ผมฟังไม่ค่อยได้ฟังที่เขาพูดเท่าไหร่หรอกครับ เพราะตอนนี้ผมว่าหัวใจผมเต้นแรงและดังจนเกินไปเหมือนมันกำลังทำงานหนักมาก


"ถึงแล้ว...." ผมพูดบอกผมหลังจากที่เงียบไปสักพัก


เขาจับรถเข้ามาจอดที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง ในร้านตกแต่งด้วยโต๊ะไม้สีขาวสะอาดตา รายล้อมไปด้วยไม้ดอกหลากหลายพันธุ์ที่ปลูกตกแต่งร้านซะสวยงาน ต้นไม้ก็ดูร่มรื่นดีครับ


"สวัสดีค่ะ มากี่ท่านค่ะ?" พนักงานของร้านเดินมาต้อนรับทันทีทั้งๆ ที่ผมเพิ่งลงจากรถครับ

"สองคนครับ ผมขอโต๊ะที่ติดกับสวนนะครับไม่เอาห้องแอร์" เขาพูดบอกพนักงาน ส่วนผมทำได้แค่เดินตามเขาไปเงียบๆ

"ได้ค่ะ งั้นเชิญทางนี้เลยค่ะ"


พนักงานผายมือก่อนที่จะเดินนำผมสองคนไปยังโต๊ะขนาดใหญ่สีขาว ปูด้วยเบาะรองนั่งสีเขียวอ่อน ด้านข้างเป็นบ่อน้ำตกเล็กๆ ส่วนด้านหลังเป็นสวนที่จัดตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ผมเดินตามเขาเข้ายังโต๊ะที่เขาต้องการนั่ง


"มึงนั่งตรงนี้โจ"
ผมมองตาดุๆ ใส่เขา ผมไม่ชอบคนที่พูดจาไม่เพราะต่อหน้าคนอื่น จะรู้จักกันยังไงก็ไม่ควรพูดแบบไม่ให้เกียรติเขา

"อะไรว่ะ?! มองกูแปลกๆ ยังกะจะกินกูงั้นแหละ หิวขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ? หึหึ"

"พูดกับผมให้มันดีๆ หน่อยซิ ถ้าคุณพูดกับผมตอนไม่มีใครอยู่ด้วยผมจะไม่ว่า แต่นี่มีคนอื่นที่ผมไม่รู้จักอยู่ด้วย อย่างน้อยคุณต้องรู้จักให้เกียรติผมบ้าง"

"เออๆ ขอโทษคร๊าบบ.... ไม่ทราบว่าคุณโจจะทานอะไรดีครับ นี่ครับเมนูอาหาร" เขายื่นเมนูอาหารมาให้ผม ผมรู้นะครับว่าเขาแกล้งพูดประชด แต่ก็ยังดีกว่าที่จะให้เขาพูดแบบเดิมต่อหน้าคนอื่น


"ผมทานอะไรก็ได้ คุณสั่งได้เลย ผมทานได้หมด"

"งั้นใส้กรอกทอด ใส่กรอกชีส ยำใส้กรอก ใส้กรอกผัดผริกกระเหรี่ยงดีป่าวครับ คุณโจ? หึหึ"

"งั้นคุณก็กินเองเถอะ ผมขอตัวก่อน" คือผมแพ้ไส้กรอกไงครับ แต่เมนูที่เขาพูดมามีแต่ใส้กรอกล้วนๆ แล้วอย่างนี้จะพาผมมากินข้าวเพื่อ?

"เห้ย!! ล้อเล่นๆ นั่งลงๆ เดี๋ยวสั่งใหม่เอาดีๆ ล่ะ ใจเย็นๆ ครับ นั่งรอแป๊ปครับ"


ผมจำเป็นต้องนั่งลงเหมือนเดิมครับ พนักงานที่อยู่ในร้านที่ได้ยินที่เขาพูดก็เริ่มพากันขำไปตามๆ กัน เขาดูจะไม่แคร์คนรอบข้างที่กำลังมองเขาอยู่เลยตอนนี้ แต่ผมนี่ซิที่เป็นคนที่ต้องอายแทนเขา



"งั้นผมขอเป็น เต้าหู้ทรงเครื่อง ไก่ทอดเกลือตะไคร้กรอบ เห็ดฟางผัดใบโหระพา เอ่อ แป๊ปนะครับ" เขาหยุดสั่งอาหารแล้วหันมาถามผม

"คุณโจครับ คุณโจทานเผ็ดได้ไหมครับผม?"

"พอทานได้ แต่ไม่เผ็ดมาก" ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่ เพราะเขาพูดจาประชดผมไงครับ

"งั้นผมขอต้มข่าไก่กับทอดมันกุ้งเพิ่มอีกสองอย่างแล้วกัน ส่วนน้ำก็ขอเป็นน้ำเปล่าครับ" เขาหันไปสั่งอาหารเพิ่มอีกสองอย่างแล้วยื่นเมนูคืนพนักงานไปครับ


"รบกวนรออาหารสักครู่นะค่ะ" พนักงานพูดตอบ

"ครับ อ่อ!! ขอน้ำมะพร้าวปั่นเพิ่มอีกที่นึงด้วยนะครับ"

"ได้ค่ะ...." พนักงานของร้านรับเมนูแล้วก็เดินออกไปทันที

"คุณสั่งมาซะเยอะขนาดนี้จะกินหมดเหรอ?"

"หมดดิ๊ มึงกินด้วยต้องหมดอยู่แล้ว"

"แต่ผมไม่ได้หิวมากขนาดนั้น แล้วปกติผมก็กินข้าวแค่นิดเดียว" ผมพูดบอก

"ก็เพราะกินแค่นิดเดียวนี่ไงถึงได้ผอมขนาดนี้ กินเข้าไปเยอะๆ นั่นแหละ เชื่อกู เห้ย!! เชื่อผมนะคร๊าบ"

"คุณไม่ต้องพูดจาประชดผมก็ได้ ถ้าไม่สะดวกจะพูดก็เชิญคุยพูดเหมือนที่คุณเคยพูดเถอะ"


ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ครับ เหมือนที่เขาพูดจาเพราะๆ กับผมเพราะเขาแค่พูดประชดแค่นั้นเอง มันคงจะไม่ใช่นิสัยการพูดของเขามั้งครับ


"เออ!! ก็ดีเหมือนกัน เหนื่อยจะเก็กพูดดีว่ะ มันไม่ชิน"

"หัดบ้างก็ดีนะ" ผมพูดขึ้นลอยๆ ไม่ได้ดังมันครับ

"ห๊ะ!! เมื่อกี้ว่าอะไรนะ?"

"ป่าว ผมไม่ได้พูดอะไรซักหน่อย"

"หึหึ นึกว่าแอบด่ากู"
ผมขอนั่งเงียบๆ ดีกว่าครับ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้มากความ เรารออาหารไม่นานพนักงานก็นำอาหารมาเสริฟจนครบ


"อ่ะนี่...." เขายื่นแก้วน้ำมะพร้าวปั่นมาให้ผม ผมขมวดคิ้วมองด้วยความสงสัย

"ให้ผมทำไม?"

"กูเคยเห็นมึงสั่งกินตอนที่อยู่โรงแรมที่หัวหินนะ กินซะ! ที่นี่รสชาติโอเคใช้ได้ ไม่หวานมาก"


ผมมองน้ำมะพร้าวที่วางอยู่ตรงหน้า ใช่ครับ... ผมเคยสั่งกินตอนที่อยู่โรงแรมที่หัวหิน ตอนที่นั่งกินข้าวกลางวันกับลูกค้า ผมจะชอบดื่มน้ำมะพร้าวปั่นหลังจากกินข้าวเสร็จ ไม่รู้ซิ ผมรู้สึกว่ามันสดชื่นดี และที่สำคัญต้องไม่หวานมาก เพราะผมเป็นคนไม่ชอบทานหวานครับ



"ขอบคุณ...." ผมพูดตอบแล้วหยิบแก้วน้ำมะพร้าวปั่นขึ้นมาชิมว่ารสชาติดีอย่างที่เขาพูดไหม? รสชาติดีจริงครับ ไม่หวานมาก... ผมชอบน้ำมะพร้าวสดๆ ที่ไม่ใส่น้ำเชื่อมนะครับ


"อร่อยไหม?" ผมเงยหน้าจากแก้วมองไปที่คนถาม

"ก็อร่อยดี ไม่หวานมาก"

"อืม แสดงว่ามึงเป็นคนไม่ชอบกินรสหวาน โอเค..."

"โอเคอะไร?"

"ก็กูรู้แล้วว่ามึงไม่กินของหวานๆ ไง เอ้า!! กินข้าวได้แล้วเดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด"



เขาตักทอดมันกุ้งให้ผมหนึ่งชิ้นวางใส่ในจานของผมก่อนจะตักต้มข่าไก่ใส่จานตัวเอง ผมรู้สึกปั่นป่วนแปลกๆ อย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน มือเย็นเฉียบเพราะมีอาการบางอย่างเกิดขึ้นกับผม มันบอกไม่ถูกครับว่ามันคืออะไร ผมรู้แค่ว่าผมไม่เคยรู้สึกทำตัวไม่ถูกอย่างนี้มาก่อน ผมได้แต่ก้มหน้าก้มตากินข้าวที่มีอยู่ในจานให้หมดโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว



"กินอย่างอื่นมั่งดิ๊ จะกินแค่ทอดมันกุ้งชิ้นเดียวรึไงว่ะ? อ่ะนี่เต้าหู้นี่ไม่เผ็ดกินได้"
เขาตักอาหารใส่จานให้ผมเรื่อยๆ ผมก็นั่งกินอย่างเงียบๆ ต่อไปจนข้าวหมดจานอย่างไม่รู้ตัว


"เอาข้าวเพิ่มอีกป่ะ?"

"ไม่ผมอิ่มแล้ว" ผมรีบตอบทันที คือมันรนๆ ยังไงไม่รู้ครับ

"อิ่มได้ไงว่ะ เพิ่งกินไปได้นิดเดียวเอง อ่ะนี่กินอีกนิดนึง" เขาตักข้าวใส่จานเพิ่มให้ผมครับ

"แต่ผมอิ่มแล้ว ผมไม่...."

"จิ๊!! กินอีกนิดเดียว กับข้าวเหลือตั้งเยอะแยะนะเห็นไหม? รู้จักเสียดายของบ้างดิ๊!!"


คือเขาบ่นผมเฉยเลยครับ ทั้งที่กับข้าวทั้งหมดที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะเขาเป็นคนสั่งมาทั้งหมด แล้วยังมาบังคับให้ผมกินให้หมดอีก ถ้าผมกินเข้าไปทั้งหมด ท้องผมคงจะแตกตายแน่ๆ เลยครับ


"แต่ผมอิ่ม...." ผมบอกเขาอีกครั้ง

"อืม... กินอีกนิดเดียว ช่วยกูกินหน่อยดิ๊ว่ะ กับข้าวอร่อยจะตาย เอ้าๆ กินซะ รีบกินจะได้รีบกลับไปทำงงานไง"



ผมจะทำไงได้ล่ะครับ นอกจากกินตามที่เขาบอก ถ้ามัวแต่เถียงกันไปเถียงกันมาผมว่าวันนี้ผมคงไม่ได้กลับไปทำงานที่ค้างไว้แน่ๆ
หลังจากเรากินข้าวเสร็จก็ต่อด้วยผลไม้ที่เขาสั่งมาตอนหลัง ผมก็โดนบังคับอีกตามเคย กลั้นใจกินจนหมด ท้องผมแทบแตกแน่ะครับ ผมไม่เคยกินอะไรที่เยอะขนาดนี้มาก่อน พอเขาจ่ายเงินค่าอาหารเสร็จเขาก็ขับรถพาผมกลับมาที่บริษัทครับ



"คุณกลับไปได้แล้ว เดี๋ยวผมต้องไปทำงานต่อ" ผมพูดขึ้นเมื่อเขาจอดรถไว้ที่เดิม

"เออน่า!! เดี๋ยวไปส่งถึงที่"

"ไม่ต้อง!! ผมเดินไปเองได้" ผมรีบปฏิเสธทันที

"เออ!! เดี๋ยวเดินไปส่งน้าา.... อย่าเถียงดิ๊ ไป๊ไป!! เดินๆ เดี๋ยวงานก็ไม่เสร็จหรอกมัวแต่นู้นนี่นั่นอยู่ได้" เอาผลักผมเบาๆ ให้เดินนำหน้าเขาครับ

"แต่ผมจะไปเอง คุณกลับไปได้แล้ว" ผมพูดบอกทั้งๆ ที่กำลังเดินไปข้างหน้าด้วยแรงดันที่เขาค่อยๆ ดันผมให้เดินไปข้างหน้าโดยไม่สนใจสิ่งที่ผมกำลังพูดกับเขาเลย

"เห้ยย!! ดื้อจริงวุ้ย!! เดินเร็วๆ คนมองแล้วเห็นไหมนะ"



พอมีคนเริ่มมองอย่างที่เขาพูด คราวนี้ผมก็รีบเดินเลยครับ ผมไม่อยากตกเป็นเป้าสายตาคนอื่นซักเท่าไหร่ แล้วเขาก็เดินมาส่งผมถึงห้อง ทักทายเลขาผมซะสนิทสนมแล้วยื่นขนมเค้กที่ซื้อจากร้านอาหารไปให้ เลขาผมก็ชื่นชมซะยกใหญ่ ผมได้แต่ยืนมองเขาคุยกันก่อนที่ผมจะตัดสินใจเดินเข้าห้องทำงานไปคนเดียว ทำไมผมต้องยืนฟังเขาพูดได้อยู่ตั้งนานแทนที่จะเข้าห้องไปทำงานที่ค้างไว้


เฮ้อออ....



แกร๊กกก.....



"ทำไมคุณยังไม่กลับไปอีก?" เขาเปิดประตูแล้วเดินเข้ามานั่งลงที่โซฟาในห้องทำงานผมเฉยเลยครับ

"รอมึงทำงานให้เสร็จก่อน ค่อยกลับพร้อมกัน" เขาตอบพร้อมกับหยิบหนังสือนิตยาสารมาเปิดอ่านอย่างหน้าตาเฉย

"ไม่ต้องรอ!! คุณกลับไปได้เลย ผมกลับของผมเองได้" ผมพูดค่อนข้างเสียงดังครับ รู้สึกหงุดหงิดนิดๆ ครับ

"จะรอ... รีบๆ ทำดิ๊ เดี๋ยวนั่งอ่านหนังสือรอเงียบๆ ไม่กวนหรอกน่าา..."

"แต่ผมไม่มีสมาธิ" ผมรีบพูดต่อทันที เพราะผมเริ่มมีอาการแปลกๆ เกิดขึ้นอีกแล้วครับ บ้าจริง!!



"จุ๊ๆๆ ทำงานไป เนี๊ยะ!! นั่งเงียบๆ แล้วนะ มึงอย่าชวนกูคุยดิ๊ เดี๋ยวงานไม่เสร็จพอดี หึหึ" เขาตอบด้วยหน้าตาที่ดูยียวนกวนประสาทผมมากเลยครับ ท่าทางพูดไปก็เสียเวลาเปล่า ผมเลยนั่งทำงานของผมต่อครับ ส่วนเขาก็นั่งอ่านนิตยาสารไปเรื่อยๆ
ผมนั่งทำงานไปก็รู้สึกว่าตัวเองทำตัวแปลกๆ แอบมองเขาซะงั้น พอเขาเงยหน้าขึ้นมาผมก็ก้มลงทำงานต่อ ทำเหมือนปกติทุกอย่าง บางครั้งผมก็ได้ยินเสียงเขาขำในลำคอ หึหึ... แต่พอเงยหน้าขึ้นไปมองเขาก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากอ่านหนังสือ ผมนั่งทำงานไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเลิกงาน




ก๊อก ก๊อก ก๊อก...


"เชิญครับ...."

"ขออนุญาตค่ะบอส จูนจะมาบอกบอสว่าจูนขอตัวกลับก่อนนะค่ะ" ผมเงยหน้ามองนาฬิกาบนข้อมือก็เลยเวลาเลิกงานมาครึ่งชั่วโมงแล้วครับ

"อ่อ!! คุณกลับได้เลย เดี๋ยวอีกสักพักผมก็จะกลับเหมือนกัน" ผมบอกเธอ

"ค่ะบอส งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะค่ะ แล้วอย่ากลับดึกมากนะค่ะ จูนเป็นห่วงค่ะ"

"ขอบคุณครับจูน..."

"ไม่ต้องห่วงหรอกครับคุณจูน ผมอยู่ทั้งคน รับรองบอสคุณถึงบ้านอย่างปลอดภัยหายห่วงแน่ครับ" จู่ๆ เขาก็พูดขึ้นมา ผมทำหน้าไม่ถูกเลยครับ จูนก็มองผมแล้วทำหน้ายิ้มๆ

"จูนฝากบอสของจูนด้วยนะค่ะคุณปู งั้นจูนกลับแล้วนะค่ะ สวัสดีค่ะ"

"ครับผม กลับบ้านดีๆ นะครับ แล้วพรุ่งนี้เจอกันครับ"

"โอเคค่ะ เจอกันพรุ่งนี้นะค่ะ คริคริ สวัสดีอีกครั้งค่ะบอส คุณปู" แล้วเลขาผมก็กลับออกไป ผมมองจ้องเขาด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

"คุณพูดอะไรของคุณนะ?" ผมถามขึ้นทันที

"ป่าวนิ ก็แค่ทักทายเซกู๊ดบายตามมารยาท"

"แล้วพรุ่งนี้เจอกันคืออะไร?"

"ก็ป่าว!! ก็หมายถึงมึงต้องมาทำงานไง พรุ่งนี้นะ" ผมขมวดคิ้วกับคำตอบที่เขาตอบผมกลับมาครับ ยุ่งจริง!!

"แล้ว?"

"งานเสร็จแล้วรึไง? ถามจัง!! ถ้าเสร็จแล้วก็กลับบ้าน"


"คุณกลับไปเลย เพราะผมต้องทำต่ออีกนิด งานผมยังไม่เสร็จ ไม่ต้องรอ ผมกลับเองได้ คุณกลับไปเถอะ" ผมรัวคำพูดใส่ไม่ยั้ง ผมรู้สึกนั่งทำงานแบบเกร็งๆ นะครับ ทำตัวแปลกๆ ด้วย รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาซะมากๆ


"รีบๆ ทำไป เดี๋ยวนั่งอ่านหนังสือรอตรงนี้แหละ"

"เฮ้อออ....." ผมถอนหายใจเฮื้อกใหญ่ เหนื่อยที่จะพูดแล้วครับ พูดไปเขาก็ไม่ยอมทำตามที่ผมต้องการ ผมก็เลยหันมาทำงานต่อ ผมทำงานต่ออีกสักพักผมก็เริ่มรู้สึกล้าขึ้นมา ผมเลยกะว่าพรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ เพราะงานเหลือรายละเอียดอีกไม่มากนักก็จะเสร็จเรียบร้อย แล้วที่เหลือก็แค่เก็บรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลังครับ



ผมเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นว่าเขานั่งพิงโซฟาแล้วหลับไปซะอย่างงั้น ผมมองนาฬิกาที่ข้อมือก็ต้องตกใจอ่ะครับ สี่ทุ่มกว่าแล้ว นี่ผมนั่งทำงานเพลินขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ผมรีบเก็บเอกสารเข้าที่แล้วหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์แล้วเดินไปหาเขา
"คุณๆ คุณ...." ผมสะกิดที่ไหล่ของเขาเบาๆ แต่เขาก็ยังไม่ยอมตื่นครับ



"คุณๆ ตื่นได้แล้ว ผมจะกลับแล้วนะ" ผมเปลี่ยนจากสะกิดไหล่มาเป็นจับที่แขนของเขาแล้วเขย่าเบาๆ ครับ

"อืออ... งานเสร็จแล้วเหรอ?" เขางัวเงียตื่นขึ้นมา หรี่ตามองผมด้วยอาการที่ยังไม่ตื่นดี

"ผมจะกลับแล้ว...." ผมพูดบอกเขา

"อืมๆ ป่ะ กลับกัน" เขาลุกขึ้นยืน บิดตัวเล็กน้อย ลูบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติแล้วมองมาที่ผม

"ผมว่าคุณไปล้างหน้าก่อนดีกว่า ง่วงอย่างนี้จะขับรถได้ยังไง"

"อืม ล้างหน่อยก็ดี ห้องน้ำอยู่ไหน?"

"ตรงนั้นไง"



ผมชี้ไปทางเดินเล็กๆ ที่อยู่หลังตู้โชว์ถ้วยรางวัลและประกาศต่างๆ ข้างหลังเป็นห้องน้ำส่วนตัวผมเองครับ ถ้าเดินผ่านกระตูบางเล็กๆ ที่อยู่ตรงทางเดินนั้นไปจะเป็นห้องอีกห้องหนึ่งที่ผมออกแบบเองแล้วจ้างให้ช่างทำให้ครับ ข้างในจะเป็นห้องนอนเล็กๆ มีโซฟาแบดขนาดพอดีที่ผมใช้สำหรับนอนค้างเวลาที่ผมน้องทำงานโปรเจคที่สำคัญจนไม่สามารถกลับไปนอนคอนโดได้ ในห้องนอนก็จะมีห้องน้ำที่สามารถอาบน้ำได้ด้วยครับ และยังมีตู้เสื้อผ้าเล็กๆ ที่ผมเอาไว้เก็บชุดไว้ใส่เวลาที่ผมนอนค้างที่นี่แล้วต้องตื่นขึ้นมาทำงานต่อ มีโต๊ะวางของอีกเล็กๆ กระทัดรัดและกระจกบานใหญ่พอสมควรสำหรับยืนแต่งตัวครับ



"ตรงนั้นเหรอ?" เขาชี้ไปทางเดียวกันกับที่ผมชี้ให้ดูครับ

"ใช่ เดินตรงไปแล้วเปิดประตูเข้าไป ห้องน้ำอยู่ในนั้นแหละ ผ้าเช็ดหน้าอยู่ในชั้นวางในข้างในตู้เล็กๆ หยิบมาใช้ได้เลย" ผมพูดบอก

"อืม งั้นรอแป๊ป เดี๋ยวไปล้างหน้าก่อน" เขาพูดจบก็เดินเข้าไปตามที่ผมบอก ผมก็นั่งลงที่โซฟารอเขาเข้าไปล้างหน้าเพื่อให้สดชื่นกว่านี้ ถ้าปล่อยให้ขับรถไปในสภาพแบบนี้มีหวังได้หลับในแน่ๆ เลยครับ ผมรอเขาอยู่สักพักเขาก็เดินออกมาครับ


"ข้างในเป็นห้องนอนเหรอว่ะ?" เขาถามขึ้น

"อืม ผมเอาไว้นอนเวลาที่ต้องทำงานด่วน"

"อ่อ!! ไปเถอะ เดี๋ยวกูไปส่งที่คอนโด"

"ไม่ต้อง!!! ผมขับรถมา" ผมรีบพูดขึ้นทันที

"เออ!! รู้แล้ว ก็แค่จะขับรถตามไปส่งเฉยๆ ไปๆ ดึกแล้ว ทำงานอะไรหนักหนาว่ะ กลับบ้านดึกขนาดนี้เนี๊ยะ"



แล้วก็เป็นเหมือนทุกครั้งครับ คือผมเถียงไม่ชนะ ผมก็ต้องปล่อยให้เขาขับรถตามผมไปจนถึงคอนโดผม พอถึงแล้วเขาก็ขับรถกลับ เช้าเขาก็ขับรถมาหาผมที่คอนโดครับ แต่ผมไม่ได้นั่งรถของเขาไปทำงานนะ ผมขับรถของผมไปครับ ส่วนเขาก็ขับตาม กาแฟ เค้ก แซนวิช ดอกไม้ ผมยังคงได้รับเหมือนเดิมทุกอย่าง ต่างกันตรงที่ผมจัดดอกไม้ใส่แจกันไว้ทุกวัน ไม่ได้ปล่อยทิ้งเหมือนก่อนหน้านี้ เช้าเขาก็ขับรถตามมาส่งผมที่ทำงาน เที่ยงเขาก็บังคับพาผมไปกินข้าว ช่วงนี้ผมกินข้าวค่อนข้างตรงเวลาครับ บ่ายเขาออกไปไหนผมก็ไม่รู้ แต่พอตกเย็นเขาก็จะมานั่งรอเพื่อขับรถตามไปส่งผมเหมือนทุกครั้ง บางวันก็นั่งอ่านหนังสือรอที่ห้องทำงานผมทั้งวัน ผมไล่ก็ไม่ไป ผมไล่จนผมขี้เกียจจะพูดนะครับ จนเวลาผ่านอาทิตย์หนึ่งเต็มๆ วันนี้เขาก็นั่งรอผมเหมือนทุกวันครับ


"เอ่อใช่!! พรุ่งนี้กูไม่ได้ไปหาที่คอนโดนะ"


ผมเงยหน้าจากงานขึ้นมามองเขา ที่เขาว่ามาหาคงจะหมายถึงขับรถมาหาผมที่คอนโดแล้วขับตามมาส่งที่ทำงานมั้งครับ


"จะกลับไปดู้ร้านหน่อยนะ" เขาพูดบอก ผมก็ยังมองเขาโดยไม่พูดอะไรเหมือนเดิม


"เฮ้อออ.... มึงนี่ใจร้ายโคตรๆ เลยว่ะ แต่ช่างเหอะ กูไม่อยู่ก็อย่ากลับบ้านดึกนักล่ะ ข้าวก็กินให้ตรงเวลาด้วย เดี๋ยวกูโทรหา"
ผมรู้สึกใจเต้นแรงเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดบอก แต่อีกใจก็รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน ตอนนี้ผมควรรู้สึกดีใจหรือเสียใจดีล่ะครับ ผมควรจะดีใจใช่ไหมที่เขากำลังจะไปแล้ว เขาจะไม่มากวนใจผมอีก แต่ทำไมผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ใจผมกลับรู้สึกโหวงเหวงแปลกๆ พิกลพอรู้ว่าเขากำลังจะไป


"อืม...." ผมตอบเพียงสั้นๆ ครับ แต่สมองผมกลับคิดอะไรหลายๆ อย่างพันกันยุ่งเหยิงไปหมด


"เฮ้อออ.... คงมีกูคนเดียวซินะที่รู้สึกไม่ดีถ้าไม่ได้อยู่ใกล้ๆ มึง แต่ก็ช่างเหอะ!! ยังไงมึงก็อย่าทำงานจนลืมกินข้าวล่ะ กูเป็นห่วง" เขายังไม่ทันจะพูดจบประโยคดี ใจผมก็เต้นแรงเหมือนมีคนตีกลองอยู่ข้างในหัวใจของผมเลยครับ เขามองหน้าผม ผมก็มองหน้าเขา ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบทันที ผมทำตัวไม่ถูกจนผมเผลอพูดสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะพูดออกไป.....




"แล้วจะกลับมาเมื่อไหร่?"




แล้วผมก็เห็นรอยยิ้มเกิดขึ้นที่ใบหน้าของเขา ผมได้แต่นั่งมองรอยยิ้มนั้นที่ยิ้มด้วยความดีใจ จนผมรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่เขาสวมกอดผมไว้แนบอก ผมยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของผม ส่วนเขาก็ยืนอยู่ข้างๆ แล้วกอดผมไว้แน่น ผมรู้สึกอบอุ่นกับสัมผัสนี้อย่างบอกไม่ถูกเลยครับ มันรู้สึกดีแปลกๆ ครับ




"เสร็จแล้วกูจะรีบกลับมา มึงรอกูนะ"





TBC.



หึหึ  พี่โจ แอบหวั่นไหวแต่ขี้เก็กเนอะ

โปรดติดตามตอนต่อไปนะค่ะ
 :L2: :L2: :L2: :L2:



ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
แค่ประโยคเดียวที่หลุดออกมาก็ถือเป็นกำลังใจชั้นดีให้กับพี่ปูเขาแล้วนะคะพี่โจ :m4:

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
อิพี่ปูได้ยินโจถามกลับก็มีแรงใจไปทำงาน
แล้วรีบกลับมาหาโจแน่นอน ความพยายามที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
นึกว่าจะจุ๊บแล้วบรรยากาศกำลังได้เลย แต่แบบนี้ก็มุืงมิ้งดีค่ะ
ค่อยๆรักกันเบาๆเนอะ
ขอบคุณค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด