<< คำสาปร้ายพ่ายรัก>>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: << คำสาปร้ายพ่ายรัก>>  (อ่าน 154430 ครั้ง)

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ทำบุญเยอะๆนะ  :ling2:
กลัวนางกลับมาฉายแสง

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                         คำสาปร้าย พ่ายรัก                                                                                             
                                            บทที่ 14



                               เสียงกำไลข้อพระบาทดังแว่วอยู่ในอุทยานกลางราชวังเมื่อเจ้าหญิงราบีอาก้าวพระบาทมาประทับ

อยู่กลางสวน พระพักตร์งามยามนี้กลับบูดบึ้ง พระหัตถ์กำแน่นไปด้วยไฟแค้นเมื่อถูกหยามศักดิ์ศรีจากบุรุษที่เฝ้าใฝ่ปอง

                               ด้วยความเป็นราชกุมารี สู้อุตส่าห์ลดศักดิ์ศรีลงไปด้วยใจที่โหยหาแต่สิ่งที่ได้กลับคืนมาคือดวงตา

สมเพช เหยียดหยาม มันยิ่งทำให้ขัตติยะมานะด้อยลงจนไม่มีค่า ไฟรักไฟเสน่หาจึงได้กลับกลายเป็นไฟแค้นไปชั่วพริบ

ตา

                           เสียงย่ำเท้าแผ่วเบาดังขึ้นที่ใต้ต้นไม้ไม่ไกลนักทำให้เจ้าหญิงทรงชะงักและหันพระพักตร์           

ไปมองด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด


                       “ผู้ใดยืนอยู่ตรงนั้น ออกมาเดี๋ยวนี้”


        ร่างสูงใหญ่ที่แฝงเงาตะคุ่มเผยกายออกมาช้าๆ ท่ามกลางความมืดในคืนเดือนแรม ฝีเท้ามั่นคงเดินตรงเข้ามา หยุด

ยืนเบื้องหน้าพระพักตร์ เจ้าหญิงทอดพระเนตร พระขนงขมวดแน่นเมื่อแลเห็น


        “ฮาอัส ท่านเข้ามาในเขตนี้ได้อย่างไร”


                       หลังจากที่ทรงรู้ว่าผู้ที่เป็นอาจารย์ได้ลักลอบมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับพระสนมเซฟเทตผู้เป็นพระมารดา

ความนับถือในวิชาความรู้ที่ได้ประสิทธิ์ประสาทจึงเลือนหาย นามที่เจ้าหญิงราบีอาทรงตรัสเรียกจึงแทบไม่เหลือความ

เคารพ


        “ไม่ใช่เรื่องยากเลยเจ้าหญิงที่หม่อมฉันจะเหยียบย่างเข้ามา”


       เสียงหยิ่งทะนงตอบโต้กับความจริงที่เป็น สำหรับเสนาบดีคนสำคัญที่เก่งกล้าไปด้วยวิชาความรู้ จนแม้แต่องค์

ฟาโรห์ยังต้องยำเกรงจะมีใครหน้าไหนกล้าขัดหากฮาอัสคิดจะเยื้องกราย


                   “และถ้าหากข้ามิได้มาเวลานี้ ใครเล่าจะเป็นคนถวายการรับใช้ยามที่เจ้าหญิงกำลังโกรธกริ้ว”


                  “ข้าไม่อยากเห็นหน้าผู้ใดทั้งนั้น ไปให้พ้น”

               “แม้ว่าข้าพระองค์จะช่วยให้เจ้าหญิงทรงได้ในทุกสิ่งที่ประสงค์หรือพะยะค่ะ”


                 เจ้าหญิงราบีอาทรงสบพระเนตรกับดวงตายาวรี เมื่อได้รับฟังถ้อยคำ ยิ่งเมื่อฮาอัสมองอย่างท้าทาย พระศอ

จึงยิ่งเชิดสูง


                   “ท่านรู้หรือ ว่าข้าต้องการสิ่งใด”


               มุมปากบางเฉียบของฮาอัสแสยะยิ้ม เมื่อได้ฟังคำถามของเจ้าหญิง ฮาอัสเดินตรงเข้าไปและก้มลงไปพูด

เบาๆที่ข้างพระกรรณ


               “ข้ารู้แจ่มแจ้งในสิ่งที่เจ้าหญิงทรงมีพระประสงค์ หากเจ้าหญิงทรงปฏิบัติตามที่หม่อมฉันแนะนำ ก็ไม่มีอะไรใน

โลกนี้ที่เจ้าหญิงทรงมีพระประสงค์แล้วไม่ได้ ถ้าเจ้าหญิงไม่ทรงเชื่อถือ ก็ทรงกลับไปถามพระมารดาเถิด ว่าตำแหน่งพระ

สนมได้มาอย่างไร และพระมเหสีทรงสิ้นพระชนม์ด้วยเหตุใด”


                  เจ้าหญิงราบีอาเบิกพระเนตรอย่างตกพระทัยเมื่อทรงได้ฟังในสิ่งที่ไม่เคยคาดคิด ก่อนที่จะทรงตัดสินใจลง

ไป


               “เราต้องทำอย่างไร”


                “อีกสองคืนในคืนเดือนดับ ไปรอข้าพระองค์ที่โอเอซิสร้างทางทิศตะวันตก ข้าพระองค์จะไปพบเจ้าหญิงที่

นั่น”


                 พระเนตรลุกวาบอีกครั้งด้วยไฟแห่งโทสะและความมืดมนในพระหทัย เมื่อทรงสดับรับฟัง

                 ยิ่งรักและต้องการมากขนาดไหน เมื่อชังแล้วเพลิงแห่งความแค้นก็ยิ่งกระพือโหมเป็นร้อยเท่า


                  ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าได้มีความสุข ข้าสาบาน









                    ดวงเนตรหวานกระพริบถี่ๆ เมื่อรู้สึกได้ถึงการถูกรบกวนจากนิทรา ครั้นเมื่อพระเนตรเบิกกว้างด้วยความตก

พระทัยที่มีผู้บุกรุกมาถึงพระแท่นบรรทมในยามราตรี โอษฐ์งามที่เตรียมกู่ตะโกนก็ถูกปิดลงทันที


                      เจ้าชายราโมสที่ทรงดิ้นรนขัดขืนในช่วงแรก เมื่อทรงถูกจู่โจมด้วยปลายลิ้นที่คุ้นเคยอยู่เพียงชั่วครู่

เรี่ยวแรงที่มีพลันหมดสิ้นลงจนต้องปล่อยให้ผู้บุกรุกตักตวงความหวานจากเรียวโอษฐ์จนพอใจ ก่อนที่ผู้บุกรุกจะค่อยๆ

มอบอิสรภาพคืนให้อย่างเสียดาย จนกระทั่งผู้บุกรุกพลิกตัวนอนหงายอยู่บนแท่นบรรทมและดึงพระวรกายบางเข้าสู่อ้อม

กอด พระองค์จึงได้สอดพระพาหา ตอบรับพลางซุกพระพักตร์ซบกับอกกว้าง
 

                    “มาอี เจ้ามาแบบนี้ข้าตกใจรู้ไหม”


                    มาอียิ้มรับ ใช้มือหนาลูบพระเกศาเบาๆพลางกระชับอ้อมกอดแน่นหนา ราชองครักษ์ลอบถอนหายใจยาว

อย่างกลัดกลุ้มเมื่อหลบจากเจ้าหญิงราบีอามาได้


                       ด้วยความที่เติบโตมาด้วยกันกับทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงของไอยคุปต์ทิ่ยิ่งใหญ่ มาอีจึงกระจ่างแจ้งใน

อุปนิสัยของเจ้าหญิงราบีอา มาอีจึงหนักใจเมื่อรู้ว่าเจ้าหญิงราบีอาจะไม่ทรงอยู่เฉยเป็นแน่

แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไร เขาจะไม่มีวันยอมให้เจ้าชายราโมสเป็นอันตรายแม้แต่ปลายเล็บข่วน


                     “คิดอะไรอยู่หรือ มาอี”


                     ทรงรับสั่งอย่างห่วงใย จนมาอีต้องระงับความวิตกกังวลลงและหันมาให้ความสนใจกับผู้ที่นอนกอดกันอยู่

บนแท่นบรรทม


                   “คิดถึงเจ้าน่ะสิ ราโมสของข้า”


                   มาอีมองอย่างเอ็นดูเมื่อเจ้าชายทรงหลบพระเนตรอย่างขัดเขิน


                 “ข้ารู้สึกได้ถึงการอำนวยพรจากเทพีไอซิสมาสู่เจ้าในคืนนี้”


                 “อำนวยพรด้วยเรื่องใด”


                 พระเนตรหวานเป็นประกายระยิบระยับอยู่ในความมืดเมื่อทรงตรัสถาม จนมาอีอดไม่ได้ที่จะกดริมฝีปากลงไป

เบาๆ


                   “เทพีแห่งความรักทรงอำนวยพรให้เจ้าได้พบกับคนที่เจ้ารักและคิดถึงดุจเดียวกับในคืนนั้นที่เราสองได้รับ

พรร่วมกัน”


                     ร่างกำยำส่งเสียงออดอ้อนจนอีกฝ่ายร้อนวูบอย่างขัดเขิน แล้วทรงตวัดพักตร์ค้อน


                  “ใครรึคนที่ข้ารักและคิดถึง หาได้มีไม่ ถ้ามีคงไม่ทิ้งให้ข้าต้องทนเหงาอยู่หลายเพลานับแต่วันนั้น”


                    “โธ่ ราโมสแห่งข้า อย่าได้โกรธเคืองเลย เจ้าก็รู้ว่าโอกาสสำหรับเราสองมันช่างมีเพียงน้อยนิด เจ้าอย่ามัว

ต่อว่าข้าอยู่เลย”


                 มาอีพลิกกายขึ้นไปอยู่เบื้องบนพระวรกายบางแล้วพรมจูบไปทั่วพระพักตร์อย่างโหยหา


                “ใช้เวลาให้คุ้มกับที่ได้รับพรจากองค์เทพีเถิดราโมส”


                 แล้วมาอีก็กอดรัดจับต้องไปทั่ววรกายจนเจ้าชายทรงถอนพระอัสสาสะสะท้านไปทุกจุดที่มือร้อนสัมผัส ยิ่ง

เมื่อมาอีแทรกกายเติมเต็มเข้าไป พระองค์ก็ยิ่งแทบขาดใจในสิ่งที่มาอีมอบให้ พระหัตถ์นุ่มจิกลงบนแผ่นหลังเมื่อทรง

กลั้นเสียงครางลึกที่เกิดขึ้นเมื่อความสุขแล่นวาบ


                      “มาอี ยอดรักของข้า ข้ารักท่าน”


                      ทรงตรัสเป็นคำสุดท้ายเมื่อทุกอย่างระเบิดขึ้นภายในกาย ก่อนที่จะหลับใหลไปอย่างหมดแรงเมื่อมาอี

สอนให้รู้จักสรวงสวรรค์อีกครั้ง









                     “มาอี มาอีของข้า”


                   เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นใกล้ๆ จนสิงหาต้องเปิดเปลือกตาตะแคงตัวไปมองคนที่นอนอยู่ด้านข้าง ใบหน้า

หวานยังคงหลับตาแต่ริมฝีปากกลับพึมพำไม่เป็นภาษา ท่อนแขนที่ป่ายเปะปะ ยังมาคว้าเอาตัวเขาเข้าไปกอด สิงหาได้

แต่คลี่ยิ้มเมื่อเจออาการแบบนี้ เขาเล่นตามน้ำโดยขยับตัวเข้าใกล้อีกนิด อยู่ๆ คนที่หลับอยู่ก็เบียดตัวพร้อมริมฝีปากลง

มา คนตื่นก่อนชะงักไปเล็กน้อย แล้วกลับเป็นฝ่ายออกแรงตอบรับจูบที่ไม่ได้ตั้งตัว


                     “มาอี ข้ารักเจ้า”


                    เมื่อริมฝีปากเปิดกว้างเขาจึงถือโอกาสดันปลายลิ้นเข้าไปม้วนวนตวัดแนบอยู่ในช่องปาก พลางดึงตัวธรา

เทพเข้ามากอด

                     เมื่อริมฝีปากที่แนบสนิทเริ่มเรียกร้องมากขึ้น ธราเทพจึงค่อยมีสติตื่นจากนิทรา ตาหวานกระพริบปริบๆ

เมื่อตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองถูกกอดก่ายซ้ำร้ายยังถูกจูบโดยสิงหา ธราเทพออกแรงผลักสิงหาออก ก่อนจะกระโจนหนีไป

ยืนตั้งหลักไกลออกไป พร้อมกับมองสิงหาอย่างตกใจและโมโห


              “เฮ้ย อะไรวะ ทำงี้ได้ไง”


               สิงหายักไหล่ พลางใช้มือดันศีรษะ ตะแคงมองธราเทพอย่างขำขัน


               “ถามตัวเองดีกว่าว่าคิดอะไร อยู่ๆ ก็ดึงเข้าคนอื่นไปกอดจูบ”


              “ไม่จริง ใครจะไปทำอย่างนั้น”


              “จะใคร ถ้าไม่ใช่นาย หืม วิน”


                  เขาลุกจากที่นอนพลางก้าวเดินเข้าไปหา ธราเทพถอยกรูดจนหลังติดผนังเมื่อสิงหาเดินมาถึงและใช้มือบีบ

เบาๆ ที่ปลายคาง


                  “ปากก็บอกว่าเกลียด แต่นายกลับเป็นฝ่ายมายั่วกันก่อน ถ้า “อยาก” มากนักก็บอกกันดีๆ ก็ได้ จะสนองให้”


                 “ไอ้บ้า”


                   ธราเทพมองอย่างแค้นเคืองเมื่อได้ฟังคำพูดเหยียดหยาม ฝ่ามือตวัดอย่างรวดเร็วไปกระทบบนใบหน้าคม

ของสิงหาเสียงดังสนั่น รอยมือเห่อขึ้นทันที

                  ดวงตายั่วเย้าเมื่อครู่กลายเป็นปะทุเป็นไฟเมื่อหันกลับมา มือที่จับคางอยู่บีบแน่นราวกับเหล็ก เมื่อสิงหาโน้ม

ตัวไปจูบอีกครั้งแต่คราวนี้มันรุนแรงยิ่งกว่าวันแรกที่เหยียบแผ่นดินอียิปต์เสียอีก ธราเทพได้แต่พยายามไม่ให้น้ำตาไหล

ออกมาจนกระทั่งสาแก่ใจสิงหาก็เหวี่ยงจนธราเทพถลาไปที่เตียงแล้วก้าวไปนอนทับ


                    “ตบทีนึงก็จะเจอจูบอีกสองเท่า ถ้าอยากยั่วก็ตบบ่อยๆ”


                    เขากระชากเสียงแข็งใส่ ก่อนจะลุกออกเดินตรงไปที่ห้องน้ำ ปล่อยให้ธราเทพนอนน้ำตาไหลด้วยความ

เจ็บใจ









             “เฮ้ย ดูนี่”


              เสียงวาโยดังขึ้นอย่างตื่นเต้นเมื่อขุดดินลงไปแล้วเจออะไรบางอย่าง สิงหาที่ยืนสำรวจอยู่ไม่ห่างจึงก้าวเดินมา

หาเพื่อน แล้วช่วยขุดดินลึกลงไป ใช้เวลาอยู่พักใหญ่จนได้วัตถุทองเหลืองมีด้ามจับด้านบนโค้งเว้า นักโบราณคดีหลาย

คนมาออกันอย่างตื่นเต้น


            “นี่มันเป็นอาวุธนี่หว่า”


            วาโยอุทานเมื่อพลิกไปมาอยู่พักหนึ่ง สิงหาพยักหน้ารับ


             “ใช่ มันเรียกว่าเคเพซ เป็นอาวุธอย่างหนึ่ง”


              เขาพลิกที่ด้ามเมื่อเห็นรอยสลักจางๆ


             “เคเพชเล่มนี้ เจ้าของมันชื่อว่า มาอี”





















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-04-2015 21:57:49 โดย Belove »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ต้องรอให้ราโมสเฉลยเรื่องราวอย่างเดียวเลย   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ทำร้ายจิตใจน้องวินของป้าตลอดเลย

ออฟไลน์ Respire

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 37
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ตกลงหญิงร้ายชายเลวคู่นั้นเป็นตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดสินะ แต่อะไรที่เป็นสาเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดระกว่างองค์ชายราโมสกับมาอีกันนะ ทำไมถึงแค้นได้ขนาดนั้น ทั้งๆที่รักกันแท้ๆ :mew2: :mew4: :mew6:

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
รอค่ะรอ  :z2:

ออฟไลน์ lovemongjang

  • ตลอด
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
รีบ มาต่อน่ะคะกำลังสนุกเชียว :z1:

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
สงสารมาอีมากกกกกกกก
มาต่อไวไวนะคะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                    คำสาปร้าย พ่ายรัก                                             

                                          บทที่ 15



ธราเทพก้าวเข้ามาในห้องพักของโรงแรมแล้วบิดตัวอย่างเมื่อยขบโดยไม่สนใจร่างสูงที่ก้าวตามเข้ามา เรียกได้ว่าตลอด

ทั้งวันที่สิงหายอมให้เขาไปทำงานในปิรามิดธราเทพไม่ได้เอ่ยปากพูดกับสิงหาแม้แต่คำเดียว ซ้ำยังไม่ชายตามองแม้แต่

น้อยเพราะยังขัดเคืองกับการลงมือที่ป่าเถื่อนในช่วงเช้า ใครกันจะทนไหวกับการกระทำที่รุนแรงไม่มีเหตุผล ธราเทพ

ตั้งใจว่าเขาจะไม่ยุ่งไม่ข้องเกี่ยวกับคนที่ต้องอยู่ร่วมห้องกันเด็ดขาด


  หนุ่มน้อยจากเมืองไทยเดินตรงไปที่ตู้เย็นแล้วหยิบขวดน้ำมาเทใส่แก้ว ก่อนที่จะยกขึ้นดื่มอย่างกระหาย สิงหาลอบมอง

อย่างเป็นห่วงเพราะเขาสังเกตธราเทพทำงานมาตลอดวัน  คนที่เขาบังคับให้เดินทางมาทำงานอย่างเอาเป็นเอาตาย

แทบไม่สนใจที่จะพัก สิงหารู้โดประสบการณ์ว่ากล้ามเนื้อในร่างกายของธราเทพคงจะประท้วงกันแน่ในคืนนี้


  “เหนื่อยมากไหมวันนี้”


  เขาเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อน แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่หันมามองหน้า แถมยังยืนหันหลังให้


“ผมจะขอย้ายไปอยู่ห้องเดียวกับไอ้เซน แล้วคุณก็อยู่กับอาจารย์วาโย”


น้ำเสียงราบเรียบตอบกลับทั้งที่ยังไม่มองหน้ากันทำให้สิงหาต้องขบกรามแน่นเดินไปกระชากต้นแขนให้หันหน้ามาแล้ว

ส่งเสียงห้วนถามกลับ


“มีเหตุผลอะไรต้องทำแบบนั้น”


ธราเทพนิ่วหน้ากับแรงบีบที่ต้นแขน แต่ก็ต้องอดทนไว้เพราะเขาไม่อยากจะอ่อนแอต่อหน้าสิงหาอีกแล้ว


“ผมไม่ชอบหน้าคุณ ส่วนคุณก็ไม่ชอบหน้าผม ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้เราจะทนอยู่ห้องเดียวกันไปทำไมมิทราบครับคุณอัส

ลาน”


อีกครั้งที่สิงหาต้องกัดฟันฟังน้ำเสียงยียวนของเจ้าเด็กที่ชอบยั่วโมโหจนจบประโยค มือสองข้างเลื่อนมาจับยึดที่ข้อมือ

แล้วยึดไว้แน่น แม้ว่ามือข้างหนึ่งของธราเทพจะกำแก้วน้ำไว้เขาก็ไม่ได้สนใจ


“ฉันไม่ได้จ้างนายให้มาออกคำสั่งกับฉัน นายมีหน้าที่ทำตามที่ฉันสั่ง เข้าใจไหมวิน”


“ไม่เข้าใจโว้ย”


ธราเทพตะโกนใส่หน้าพลางบิดข้อมือให้พ้นพันธนาการแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อมือแกร่งนั้นยังออกแรงบีบเพิ่มขึ้นตามอารมณ์

ที่คุกรุ่น


“ผมไม่เข้าใจ ว่าคุณจะมาทนอยู่กับผมทำไมถ้าคุณไม่ชอบหน้าผม คุณก็ปล่อยให้ผมไปตามทางของผมสิวะ เฮ้ย!”



เพล้ง!!!


ธราเทพอุทานอย่างตกใจเมื่อแรงบีบที่ข้อมือนั้นมากมายจนกระทั่งแก้วที่เขาถืออยู่ในมือแตกออกเป็นเสี่ยง เดชะบุญว่า

มันหลุดออกไปจากมือของเขาแล้ว จึงไม่เกิดอันตราย


แต่อันตรายกลับไปเกิดที่ท่อนแขนของสิงหาเมื่อเศษแก้วชิ้นหนึ่งกระเด็นไปบาดเป็นทางยาวจนโลหิตแดงฉานไหลออก

จากบาดแผล สีหน้าตระหนกเกิดขึ้นทันทีบนใบหน้าหวานเมื่อก้มลงไปมองแต่สิงหากลับไม่สนใจรอยแผลเมื่อมัวแต่จ้อง

หน้าของธราเทพ


ธราเทพสะบัดข้อมือออกจากการจับยึดแล้วเป็นฝ่ายดึงท่อนแขนที่เต็มไปด้วยเลือดขึ้นมามองอย่างเป็นห่วงโดยไม่รู้ตัว


“ทำอะไรบ้าพลังไม่เข้าเรื่อง ดูซิว่าเกิดอะไรขึ้น”


เขาเผลอดุออกไปแล้วลากแขนให้สิงหาเดินตามไปในห้องน้ำเพื่อที่จะเปิดน้ำจากก๊อกให้ไหลรินชะล้างรอยเลือด ก่อนที่

จะคว้าผ้าขนหนูผืนใหม่มากดลงไปที่บาดแผลเพื่อห้ามเลือด เมื่อรอจนคิดว่าเลือดหยุดไหล ธราเทพก็ค่อยๆ ดึงผ้าขนหนู

ออกแล้วมองอย่างตรวจตราไปที่แผลเพื่อหาเศษแก้วที่อาจจะคงค้างอยู่ตามผิวหนัง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วธราเทพก็

ลากแขนของสิงหาออกมานอกห้องน้ำและเดินไปค้นที่กระเป๋าเพื่อหยิบพลาสเตอร์ยามาปิดที่ปากแผล ตลอดทุกการกระ

ทำสิงหาได้แต่เงียบมองและปล่อยให้ธราเทพจัดการ


“สักวันหนึ่งนายก็จะรู้เองว่าทำไมฉันถึงต้องทนอยู่กับนาย และบังคับให้นายทนอยู่กับฉัน”


“ว่าไงนะ”


ธราเทพที่มัวแต่สนใจกับบาดแผลเงยหน้าขึ้นมาถามเมื่อได้ยินเสียงพึมพำของสิงหาไม่ถนัด สิงหาได้แต่ลอบถอน

หายใจพลางดึงแขนให้พ้นจากมือของธราเทพ


“ช่างเถอะ นายควรไปอาบน้ำแล้วนอนซะ พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นเช้าอีก”


สิงหาหันหลังให้แล้วเดินตรงไปที่ระเบียง


“อ้อ วิน”


ธราเทพที่เตรียมจะตรงเข้าห้องน้ำหันขวับมามองคนที่เรียกไว้


“เอ่อ ขอบใจนะที่ช่วยทำแผล”


แล้วธราเทพก็ต้องเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงเบาหวิวอยู่ในคอก่อนที่เจ้าของเสียงจะหันกลับแล้วก้าวออกไป

ที่ระเบียงทันที หนุ่มน้อยจากเมืองไทยได้แต่คลี่ยิ้มตามหลัง


“อืม พูดจาดีๆ ก็เป็นนะคุณอัสลาน”








เมื่อสิงหากลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เขาก็เห็นธราเทพนอนดิ้นขยุกขยิกอยู่ในผ้าห่ม โผล่พ้นมาแต่ใบหน้าเหยเก


“เป็นอะไร ทำไมไม่นอน”


“นอนไม่หลับ ปวดไปหมดทั้งตัวเลย”


คนที่นอนไม่หลับตอบอย่างหงุดหงิด เมื่อรู้สึกเมื่อยขบจนปวดไปทั้งตัวจากการทุ่มเทแรงกายไปกับการทำงาน


“สมน้ำหน้า บอกให้ทำงานในเต็นท์เก็บของก็ไม่เชื่อ”


ถึงปากจะยอกย้อนแต่สิงหากลับเดินไปค้นอะไรบางอย่างที่กระเป๋าแล้วตรงมาที่เตียงของธราเทพ


“ถอดเสื้อออก”


เขาออกคำสั่ง หนุ่มน้อยได้แต่ตาเหลือกเมื่อได้ยิน


“ฮะ อะไรนะ จะบ้าเรอะ”


ธราเทพโวยวายก่อนที่สิงหาจะปรามด้วยสายตา


“บอกให้ถอดก็ถอดเถิดน่า จะทายาคลายกล้ามเนื้อให้”


“ตะ แต่ว่า…”


“หรือจะทนนอนปวดอย่างนี้ไปทั้งคืนก็ตามใจ ถ้าพรุ่งนี้ไปขุดไม่ไหวฉันจะให้นายไปนั่งทำงานคนเดียวในเต็นท์”


เพราะความที่อยากทำงานสนามมากกว่าไปนั่งแกร่วอยู่ในเต็นท์ ทำให้ธราเทพต้องยอมถอดเสื้อยืด

ตัวบางออกพร้อมกับใบหน้าที่มีเลือดไปเลี้ยงจนร้อนซู่ แต่เมื่อสบตากับสิงหา ธราเทพก็ต้องแปลกใจเมื่อมันมีแต่ความ

ห่วงใยฉายอยู่บนดวงตาคมคู่นั้น


“นอนตะแคงไปด้านโน้นสิ จะได้นวดกล้ามเนื้อที่ต้นคอด้านหลังให้ จุดนี้แหละปวดที่สุดแล้ว”


ธราเทพตะแคงหันหลังให้สิงหา รู้สึกได้ถึงความเย็นจากตัวยาและการนวดที่นุ่มนวลจากฝ่ามือของสิงหา


“ทำไมถึงไปอาศัยที่วัด”


คนนวดตั้งคำถาม


“ก็พ่อแม่ทิ้ง หลวงพ่อเก็บได้ ท่านก็เลยเลี้ยงไว้ในวัด”


ธราเทพตอบเสียงอู้อี้ซุกใบหน้าลงบนหมอน รู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูกเมื่อตัวยาเริ่มซึมลงเข้าผิวหนัง


“อยู่วัดลำบากหรือเปล่า”


“นิดหน่อย ต้องตื่นเช้า ไปช่วยหลวงพ่อตอนบิณฑบาตร ต้องทำความสะอาดวัดด้วย”


สิงหาถอนหายใจและเงียบไปเมื่อได้ยิน นึกสงสารกับชะตาชีวิตของอดีตเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ในชาติภพนี้


“แล้วเงินล่ะ มีพอใช้ไหม วิน วิน”


สิงหาเหนี่ยวเบาๆ ธราเทพก็พลิกตัวมาพร้อมหลับตาพริ้ม ลมหายใจที่สม่ำเสมอบอกให้เขารู้ว่าหนุ่มน้อยนั้นหลับไปเสีย

แล้ว ทั้งๆที่เขายังนวดที่แผ่นหลังให้อยู่


“เด็กบ้า บทจะหลับก็หลับง่ายซะจริง เสื้อยังไม่ได้ใส่เลยเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรอก”


รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อสิงหาจ้องมองไปที่หน้าหวานในห้วงนิทรา เขาดึงผ้าห่มขึ้นจนถึงลำคอ

ก่อนที่จะก้มลงไปจูบที่หน้าผากแผ่วเบา


“นอนหลับเสียเถิด เจ้าชายของข้า เพื่อที่เทพราจะได้อวยพรเมื่อแล่นเรือมาถึงขอบฟ้าในยามเช้า”









ท้องฟ้าในคืนเดือนดับยิ่งมืดกว่าทุกคืน เมื่อไม่มีแสงจันทร์คอยส่อง ฝีเท้าที่ก้าวเข้าไปในโอเอซิสร้างว่างเปล่าจึงเต็มไป

ด้วยความพรั่นพรึง เสียงนกกลางคืนที่บินออกหากินส่งเสียงโหยหวนจนร่างที่ซ่อนอยู่ในผ้าดิบทอผืนหนาต้องโผล่

สายตาออกมามองโดยรอบอย่างระแวดระวัง ก่อนที่จะสะดุ้งกับเสียงเยือกเย็นที่ดังขึ้นเบื้องหน้า


“ตรงเวลาดี ลูกศิษย์แห่งข้า”


ร่างสูงใหญ่ปรากฏกายขึ้นจากใต้ต้นไม้ใหญ่แล้วจึงเดินตรงเข้ามาหา ภายใต้เสื้อผ้าสีเข้มดูแปลกตาจากที่เคยทำให้คน

ที่มาเยือนขมวดคิ้วมอง


“ถ้าไม่เป็นเพราะคำโอ้อวดของท่าน ข้าคงไม่ต้องเสียเวลามา”


ฮาอัสคลี่ยิ้ม ไม่ใช่สิ ต้องใช้คำว่าแสยะยิ้มจะเหมาะกว่าเมื่อได้ยินคำพูดในเชิงดูหมิ่น เขาก้าวเข้าหาร่างในผ้าทอผืนใหญ่


“แล้วหม่อมฉันจะทำให้พระองค์รู้ว่า คำพูดของหม่อมฉันไม่ใช่คำโอ้อวดอย่างที่เจ้าหญิงทรงเข้าใจ

เจ้าหญิงราบีอา”


เจ้าหญิงราบีอาทรงเหยียดวรกายขึ้นดึงผ้าคลุมออกจากพระเศียร ทอดพระเนตรฮาอัสด้วยหางตา


“ไว้เห็นผลงาน ข้าจะเป็นผู้บอกเองว่าท่านโอ้อวดหรือไม่ ฮาอัส เอาเถอะ ท่านมีวิธีการใดก็รีบลงมือ

กระทำเสีย ข้าไม่อยากอยู่แถวนี้นานนัก”


ฮาอัสค้อมศีรษะลงเล็กน้อยเมื่อฟังดำรัส


“ทรงตามกระหม่อมมาเถิด”


แล้วร่างสูงใหญ่ก็กลับหลัง เดินนำลับไปในความมืด เจ้าหญิงราบีอาทรงยกผ้าขึ้นคลุมพระเศียรอีกครั้งแล้วก้าวตามไป

ติดๆ เพียงเสี้ยวอึดใจเจ้าหญิงราบีอาก็ทรงตื่นตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อมีวิหารเล็กๆ ปรากฏขึ้น มันเป็นวิหารเก่าแก่ แต่ไม่

ทรงคุ้นตากับรูปทรงของวิหารว่าเป็นที่บูชาของเทพเจ้าองค์ใด


ฮาอัสหันกลับมามองเมื่อเห็นเจ้าหญิงหยุดชะงัก เขาเตือนด้วยสายตาให้เจ้าหญิงทรงก้าวพระบาทตามเข้าไป เมื่อก้าว

ล่วงเข้ามาถึงด้านในห้องโถงเล็ก เจ้าหญิงทรงปลดผ้าคลุมออกจากพระเศียรพลาง

ทอดพระเนตรไปที่รูปสลักหินเบื้องหน้าด้วยความตกพระท้ยถึงขีดสุด


พระองค์ไม่เคยทอดพระเนตรรูปสลักเจ้าของวิหารที่ไหนแน่ๆ เมื่อรูปสลักนั้นไม่มีความคล้ายคลึงกับเทพเจ้าองค์ใดที่

มีชื่อเป็นที่สักการะในดินแดนไอยคุปต์ ในเมื่อรูปสลักหินนั้นเป็นรูปงูตัวใหญ่ที่กำลังแผ่แม่เบี้ยหรา ซ้ำดวงตาที่เป็นสีเพลิง

ตรงหน้าก็ดูราวกับว่ามันจ้องมาที่ร่างของเจ้าหญิงอย่างประสงค์ร้าย


เจ้าหญิงราบีอาทรงกลืนพระเขฬะลงคออย่างยากเย็น พระโลมะทั่ววรกายลุกชันเมื่อหันกลับไปทอดพระเนตรฮาอัส ผู้เป็น

อดีตอาจารย์อีกครั้ง


“ฮาอัส ท่านอย่าบอกข้านะ ว่าท่านบูชางูร้ายอาโปฟิส”


ทันทีที่เอ่ยนาม อสุนีบาตก็ฟาดเปรี้ยงลงมาทั้งที่ไม่มีเค้ามาก่อน






















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2015 20:04:07 โดย Belove »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :z3:  :really2:  ยิ่งอ่านยิ่งไม่แน่ใจว่า ใครคือคนที่สาปแช่ง กัน แล้วตกลง ??? .... @%=#$%  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ปริศนาเยอะจริงๆ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ความจริงค่อยๆ เผยสินะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
สุดท้ายคนที่สาปแช่งคือใครกัน

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove

                                      คำสาปร้าย พ่ายรัก                                           

                                            บทที่ 16




แสงสว่างชั่วเสี้ยววินาทีที่สายฟ้าฟาดลงมาจากนภาอันมืดมิด แค่นั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เจ้าหญิงราบีอาทรงมองเห็นไป

ทั่วห้องโถงในวิหารร้าง


ดวงตาสีแดงฉานของอสรพิษที่สลักนูนจากผนังสูงเบื้องหน้าลุกวาวแดงก่ำสะท้อนแสงจับจ้อง ยิ่งทำให้เจ้าหญิงแทบผวา

ดีที่พระองค์จิตใจแข็งกล้าเกินหญิงแต่วัยเยาว์จึงทำให้ระงับอาการตื่นตระหนกนั้นไว้ได้


“เจ้าคิดว่าเทพเจ้าทั้งหลายที่ปกครองอยู่เหนือไอยคุปต์ให้อะไรเจ้าได้บ้าง ราบีอา


ฮาอัสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา และยังงดเว้นคำราชาศัพท์กับผู้เป็นพระธิดาแห่งฟาโรห์ เมื่ออยู่ในเขตแดนแห่งนี้ ดู

เหมือนฮาอัสจะยิ่งมั่นใจในตนเองจนแทบจะกลายเป็นยะโส


“แต่กับพญางูใหญ่ที่เป็นศัตรูกับเทพราเจ้าแห่งเทพ เมื่อข้าหันมาบูชาและยกย่องข้ากลับได้ในสิ่งที่ข้าต้องการทุกอย่าง

ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาใกล้พลางใช้ปลายนิ้วมือแตะต้องไปที่พระหนุ เจ้าหญิงราบีอาทรงปัดออกไปอย่างรังเกียจ


“อย่ามาบังอาจเหิมเกริมกับเรานะ ฮาอัส


ดวงตาหลุกหลิกราวกับงูเลื้อยมองตรงมาอย่างคุกรุ่น เมื่อเห็นการกระทำของเจ้าหญิง เขากระชากพระหัตถ์เข้ามาแล้ว

ตะคอกด้วยโทสะ


“คิดว่าที่ข้ายิ่งใหญ่อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าผู้ใดในแคว้นนี้มาจากเหตุใด ราบีอา หากไม่ใช่เพราะข้าบูชาเทพแห่งงูอาโปฟิส

อย่าโง่ที่จะปฏิเสธในเมื่อสิ่งที่เจ้ากระสันอยากจะได้มันยากเย็นเกินไปสำหรับเจ้า


พระเนตรกลมโตของเจ้าหญิงราบีอาเบิกกว้างอย่างตกพระทัย เมื่อฮาอัสล้วงเข้าไปหยิบบางอย่างออกมาจากเสื้อคลุม

แล้วยัดใส่พระหัตถ์


หนูตัวเล็กวิ่งวนอยู่ในกรงไม้อันจ้อยส่งเสียงร้องราวกับจะรู้ชะตากรรม และเมื่อเจ้าหญิงทอดพระเนตรเบื้องหน้าจึงทรง

เห็นงูตัวใหญ่ที่มาแผ่แม่เบี้ยอยู่ตั้งแต่เมื่อใดพระองค์ก็หาคำตอบไม่ได้


“บทเรียนแรกที่เจ้าต้องทำคือบูชาพญางูด้วยสัตว์เป็นๆ และขอพร สำหรับพรข้อแรกที่ข้าแนะนำคือ จงขอให้พ่อเจ้าออก

คำสั่งให้เจ้าแต่งงานกับราโมสจริงจังเสียที








“ลูกสาวของเจ้าช่างหัวแข็งกว่าที่คิด กว่าจะยอมบูชาพญางูข้าต้องเสียเวลาไปมาก


น้ำเสียงถือตัวกล่าวด้วยความไม่พอใจ เมื่อฮาอัสกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงกว้าง โดยมีพระสนม

เซฟเทตนอนคลอเคลียกอดรัดอยู่ด้านข้างอย่างหลงใหล


“ท่านจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า ฮาอัส ท่านก็รู้ว่าราบีอานิสัยเยี่ยงนี้มาแต่เกิด


“มันเป็นหน้าที่ของแม่อย่างเจ้าที่ต้องเกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวทำเพื่อแม่มิใช่รึ เซฟเทต หรือว่าเจ้ามันไร้ซึ่งความสามารถไป

แล้ว


ฮาอัสปัดฝ่ามือที่ลูบไล้อยู่บนแผ่นอกอย่างเบื่อหน่าย พระสนมเซฟเทตรีบผวากอดก่ายร่างกำยำนั้นไว้


“ข้าจะพยายาม ฮาอัส ท่านอย่าเพิ่งวิตกไปเลย


ฮาอัสดันร่างอวบอัดของเซฟเทตจนผงะหงายก่อนที่จะพลิกตัวไปอยู่เบื้องบน มือหนาบีบปลายคางจนเซฟเทตนิ่วหน้า


“แค่พยายามมันไม่พอหรอก เจ้าต้องทำให้ได้ จำได้หรือเปล่าเซฟเทตว่าแผนของข้าคืออะไร


“จำได้ ข้าจำได้ขึ้นใจ ราบีอาต้องแต่งงานกับราโมสแล้วข้าจะได้เป็นใหญ่


“แต่ข้าว่า เจ้าควรมีแผนสำรองนะเซฟเทต


ฮาอัสแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์


“ถ้ารอราบีอากับราโมสแต่งงานกันมันช้านัก เจ้าก็ควรกำจัดเจ้าแก่เพตเทเมนนั้นให้หายไปจากโลกนี้ โดยที่ข้าจะเป็นผู้

ช่วยเหลือเหมือนเมื่อครั้งที่ข้าช่วยกำจัดราชินีคนเก่า เมื่อไม่มีฟาโรห์ เจ้าก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นเป็นราชินีถ้าราชโอรสไม่คู่ควร


มือที่แข็งราวกับคีมเหล็กบีบคางจนเซฟเทตเผลอร้องอย่างเจ็บปวด


“เมื่อถึงตอนนั้นราชินีผู้แสนโดดเดี่ยวก็ต้องหาใครสักคนที่เหมาะสมมาช่วยเหลืองาน ไหนลองบอกให้ข้ารู้ทีสิ เซฟเทต

ว่าใครคือคนที่เจ้าคิดว่าเหมาะสมกับตำแหน่งฟาโรห์เคียงคู่เจ้า


“เป็นท่าน…”


เซฟเทตร้องออกมา


“ท่านคือคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งฟาโรห์เคียงคู่ข้า


ฮาอัสหัวเราะลั่น ก่อนที่จะก้มลงไปซุกหน้าลงกับอกอวบอัดด้วยแรงแห่งไฟปรารถนา












สิงหายกท่อนแขนขึ้นปาดเหงื่อที่ใบหน้าท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าว ดวงตาคมมีแววครุ่นคิดกังวลเมื่อยังไม่พบ

เบาะแสที่ตามหา เขาเร่งให้คนงานขุดสำรวจรวมทั้งตัวเองก็ลงมาเป็นผู้นำด้วยในวันนี้

สมาธิจึงมุ่งไปที่งานจนลืมแม้แต่อาหารกลางวันเมื่อเวลาผ่านมื้อเที่ยงไปเกือบชั่วโมง


ชะงักเมื่ออยู่ๆ กล่องอาหารก็ยื่นมาตรงหน้า เขาเงยหน้าขึ้นมองตามมือและแขนก็เห็นธราเทพผู้เป็นเจ้าของกำลังยืนทำ

หน้าไม่รู้ไม่ชี้


“ขอบใจ”


คนที่นั่งทำงานอยู่บนพื้นดินเอื้อมมือไปรับกล่องอาหาร แต่มือกลับเลยขึ้นไปกุมมือเรียวที่ยื่นมาพร้อมกล่องอาหารด้วย

คนที่หวังดีนำมาให้หน้าร้อนวูบจนชักมือกลับแทบไม่ทัน


“ไม่ได้เป็นห่วงนะ แค่กลัวว่าจะอดตายแล้วไม่มีใครจ่ายเงินค่าจ้าง”


“ยังไม่ได้ถามเลยนะว่าเป็นห่วงหรือเปล่า รีบชิงตอบอย่างนี้ร้อนตัวหรือไง”


สิงหากลั้นยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเห็นธราเทพแสร้งทำหน้าบึ้งปิดบังความขัดเขิน ทั้งที่พวงแก้มแดงเรื่อแสดงออกมาอย่าง

ชัดเจน


“ปากอย่างนี้ คงไม่ต้องกินแล้วมั้ง เอาคืนมาเลย”


ธราเทพยื่นแขนลงมาจะแย่งกล่องอาหาร สิงหารีบกางแขนหนีแถมยังใช้มืออีกข้างจับและดึงธราเทพจนเซลงมาปะทะ

กับแผ่นอกของเขา สิงหาต้องรั้งเอวบางไว้ด้วยท่อนแขนเพื่อไม่ให้ล้มทับลงมา


ลมหายใจของธราเทพสะดุดเมื่ออยู่ในภาวะใกล้ชิดเกินกว่าเหตุ ใบหน้าที่แนบชิดจนรู้สึกถึงลมหายใจของ

อีกฝ่ายทำให้เนื้อตัวร้อนผ่าวไปหมด


“ขอบใจอีกทีที่เอาอาหารมาให้นะวิน”


ปลายเสียงทอดยาวและอ่อนหวานอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ทำให้หนุ่มน้อยที่ไร้ประสบการณ์ทำอะไร

ไม่ถูก ยิ่งเมื่อสบตาก็ยิ่งขัดเขินจนต้องเอียงหน้าหนี


“ตอบแทนที่นวดให้เมื่อคืนหรอกน่า รีบๆ กินเหอะ”


เมื่อควบคุมสติได้แล้ว ธราเทพก็พูดเสียงเข้มพลางพยายามแกะมือที่เกาะเกี่ยวอยู่ตรงเอวออก แต่ก็ไม่

สำเร็จเมื่อวงแขนนั้นยิ่งรัดแน่นเข้าไปอีก


“ปล่อยเสียทีสิ จะได้ไปทำงานต่อ”


นอกจากจะยังไม่ปล่อย สิงหายังยิ้มพร้อมดวงตาแพรวพราว ธราเทพยิ่งทำอะไรไม่ถูก มือเรียวจึงกำ

แน่นไปที่ท่อนแขนแล้วดึงออกจากตัว


“โอ๊ย!”


   สิงหาสะดุ้งอุทานเสียงดังเมื่อตำแหน่งที่ธราเทพจับอยู่นั้นคือแผลที่ยังปิดพลาสเตอร์ไว้ เพราะรู้สึกเจ็บ

ทำให้ต้องปล่อยแขนออกจากเอวของธราเทพ หนุ่มน้อยมองอย่างตกใจ เขาเปลี่ยนท่ามานั่งขัดสมาธิอยู่ข้างกายสิงหา

แล้วคว้าท่อนแขนมาดูอย่างรวดเร็ว


“เป็นอะไรมากหรือเปล่า เจ็บไหม”


สิงหาลอบคลี่ยิ้มเมื่อเห็นอาการที่ธราเทพแสดงออกมา เมื่อมันเต็มไปด้วยความห่วงใยจนเขาอยากจะดึง

เอาร่างบางมาสวมกอด


“คุณนี่นะ เรื่องยั่วโมโหนี่เก่งจริงๆ แล้วนี่อะไร พลาสเตอร์อันเดิมของเมื่อคืนนี่ ทำไมไม่รู้จักเปลี่ยน”


ธราเทพบ่นอุบ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์จากกางเกงแล้วเปิดหาพลาสเตอร์ที่เก็บไว้ในนั้นมาสาละวน

เปลี่ยนให้


“ทำอะไรกันอยู่หรือคะ”


เสียงของวริษฐาดังขึ้นใกล้ๆ ทำให้สิงหาและธราเทพต้องผละออกจากกัน ก่อนที่สิงหาจะหันไปยิ้มให้

แล้วกล่าวทัก


“อ้าว ก้อยนั่นเอง เป็นไงบ้างสบายดีหรือเปล่า พี่อัคนีล่ะมาด้วยไหม”


“สบายดีค่ะพี่สิงห์ คุณอาไปติดต่องานในเมืองค่ะ เลยให้ก้อยมาคุมงานคนเดียว”


วริษฐาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย สิงหาลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวตอบ


“อืม ก้อยอยากคุยกับเพื่อนใช่ไหม ตามสบายนะพี่ไปทานอาหารก่อน”


แล้วสิงหาก็ก้าวเดินจากไป ธราเทพจึงได้ลุกขึ้นยืนยิ้มให้เพื่อน


“ดูสนิทกันจังเลยนะ ตอนแรกเห็นเกลียดกันแทบตาย”


ธราเทพสะดุดหูกับน้ำเสียงที่วริษฐาใช้เมื่อฟังดูแล้วมันคล้ายการประชดประชัน


“ก็ไม่ถึงกับสนิทนะ แค่พอคุยกัน เขาทำดีมาก็ดีตอบแค่นั้นเอง”


วริษฐาขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน เมื่อคิดถึงภาพที่เธอเห็นเมื่อสักครู่ มันช่างขัดกับคำพูดของธราเทพที่ใช้คำว่า

พอคุยได้ เมื่อสิ่งที่เธอเห็นคือผู้ชายสองคนกำลังกอดกันมันบาดตาจนทนไม่ไหว ต้องออกมาทำลายภาพนั้น


“ก็ดีแล้ว เราก็แค่เป็นห่วงว่าแกจะอยู่กับเขาไม่ได้”


ธราเทพได้แต่ยิ้มรับ มื่อวริษฐาเดินตรงมาใกล้ ช้อนตามองด้วยแววตาที่เขาอ่านไม่ออก


“อีกอย่างฉันคิดถึงแกด้วยนะวิน”


ธราเทพทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นกิริยาของเพื่อน เขาได้แต่ยิ้มเจื่อนเมื่อนึกไปถึงภูหิรัณย์ที่เคยบอกว่าวริษฐา

แอบชอบเขา


เขาก้าวถอยหลังออกเพื่อรักษาระยะห่าง แล้วโบกมือไปทางตำแหน่งของภูหิรัณย์


“ไอ้เซนอยู่ตรงโน้น เราไปคุยกันตรงนั้นดีกว่า เซนมันคงมีเรื่องคุยกับแกเยอะ”


แล้วเขาก็จัดแจงลากแขนเพื่อนให้เดินตามไป ธราเทพจึงไม่ได้เห็นแววตาของวริษฐาที่ไม่เหมือนเดิม














เจ้าหญิงราบีอาทรงมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงได้ก้าวพระบาทตรงเข้าไปใน

เขตหวงห้าม แล้วทรงมองหาอะไรบางอย่างก่อนที่จะเริ่มค้นหาอย่างเบามือ


เขตหวงห้ามในห้องตำราปาปิรัสไม่มีใครสามารถเข้ามาได้โดยง่าย เมื่อเป็นที่เก็บตำราปาปิรัสส่วน

สำคัญที่นายอาลักษณ์บันทึกไว้ รวมทั้งเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้าทุกองค์ แม้แต่เจ้าหญิงเองก็ไม่เคยเข้ามา

ในส่วนนี้


สะดุดตากับปาปิรัสเก่าแก่ที่วางอยู่เบื้องบน เจ้าหญิงทรงปัดฝุ่นออกช้าๆ เมื่ออ่านชื่อเรื่องของหนังสือ

พระเนตรก็สว่างวาบ ก่อนที่จะทรงซ่อนปาปิรัสนั้นไว้ในเสื้อคลุม แล้วทรงก้าวพระบาทอย่างรวดเร็ว

กลับไปที่ห้องของพระองค์


เมื่อนั่งลงบนแท่นบรรทม เจ้าหญิงก็ทรงหยิบตำราปาปิรัสออกมาอ่านอย่างตื่นเต้น


“เทพเจ้างูยักษ์อาโปฟิส ศัตรูแห่งเทพรา”






“ถึงเวลาที่เจ้ากับราบีอาต้องอภิเษกกันได้แล้ว”


เจ้าชายราโมสทรงนิ่งอึ้งเมื่อได้ฟังกระแสรับสั่งของฟาโรห์เพตเทเมนที่เริ่มชรา


“ข้าไม่แต่ง ข้าไม่ได้รักราบีอา”


และเมื่อทรงกล่าวปฏิเสธ ฟาโรห์ก็ทรงตรัสเสียงดังจนเจ้าชายตกพระทัย


“ข้าไม่ได้ถามความเห็นของเจ้านะ ราโมส แต่นี่คือสิ่งที่ข้าบอกให้เจ้าทำตาม จะมัวรออะไรอยู่อีก”


ฟาโรห์เพตเทเมนก้าวเข้าไปใกล้โอรส


“คราวนี้ข้าจะไม่เปิดโอกาสให้เจ้าหนีไปจากงานอภิเษกได้ ต่อให้เจ้าบินได้ดังนก หรือว่ายน้ำได้ดังมัจฉา

ข้าก็จะไปลากเจ้ามา ราโมส เจ้าต้องแต่งงาน และเตรียมขึ้นครองราชเป็นฟาโรห์แทนข้า”


เจ้าชายทรงหันวรกายไปอีกทางแล้วทรงลอบถอนพระอัสสาสะอย่างกลัดกลุ้ม

























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-04-2015 22:41:19 โดย Belove »

ออฟไลน์ qilarsy39

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
 :ling1: :ling1: :ling1:
ติดตาม ลุ้นสุดๆ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ใกล้แล้วสินะ

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                                           คำสาปร้าย พ่ายรัก

                                                                 บทที่ 17


ธราเทพก้าวเข้ามาในโรงแรมตอนค่ำพร้อมใบหน้าที่ไม่เป็นสุข เขายกมือขึ้นนวดขมับเบาๆ เพื่อผ่อนคลายอาการปวด

ศีรษะ แรงบีบที่เต้นตุบๆ ตามจังหวะชีพจรมันสร้างความทรมานให้เขาไม่น้อยจนต้องหยุดยืนแล้วสะบัดหน้าเบาๆ เมื่อรู้สึก

ถึงสติที่ใกล้จะหลุดลอยไป ณ วินาทีนี้ เขาคิดถึงที่นอนนุ่มเป็นที่สุด


การที่ต้องทำงานกรำแดดร้อนอบอ้าวอยู่เป็นสัปดาห์ ทำให้ร่างกายของเขาและภูหิรัณย์ที่เพิ่งออกภาคสนามเป็นครั้งแรก

ปรับตัวไม่ถูก เพื่อนของเขาก็ไม่สบายเป็นไข้ไปเมื่อสองวันก่อน  แม้ว่าร่างกายของเขาจะแข็งแรงแต่ก็เกินกว่าจะทนได้

ธราเทพรู้ตัวว่าตอนนี้อุณหภูมิในร่างกายมันสูงเกินกว่าปกติไปมากโข แต่เขาก็พยายามฝืนออกไปทำงานในวันนี้อีกทั้งวัน

พิษไข้ทำให้เขาปวดตึงที่หน้าผาก ปวดเมื่อยไปตามเนื้อตัว ร่างกายต้องปรับตัวมันทำให้เขารู้สึกหนาวจนต้องกัดฟันไว้


เมื่อแรงบีบที่ขมับเพิ่มความรุนแรงจนระดับความรู้สึกตัวลดลง เขาถึงกับเซไปด้านหน้าอย่างไม่มีทิศทาง เกือบจะล้ม

ศีรษะฟาดฟื้นถ้าไม่มีมือแกร่งมายึดที่ต้นแขนทั้งสองข้างไว้จากด้านหลัง


สิงหานั่นเองที่คว้าธราเทพไว้ได้ทันก่อนที่จะล้มลง เขาดึงรั้งร่างที่อ่อนเพลียเข้ามาจนแผ่นหลังของธราเทพพิงอยู่กับอก

ของเขา ด็อกเตอร์หนุ่มสังเกตมาตลอดวันถึงความผิดปกติ สิงหาได้แต่ลอบมองใจหนึ่งก็นึกอยากจะปล่อยให้คนที่มัวแต่

หยิ่งในศักดิ์ศรีดูแลตัวเองไปตามสภาพ แต่กับอีกใจหนึ่งกลับนึกเป็นห่วงจนแทบจะเข้าไปลากตัวมานอนพักเสียตั้งแต่

เมื่อตอนบ่าย


“เป็นอะไรมากไหม


เป็นเพราะสำนึกฝ่ายดีต่างหากที่ทำให้เขาถามออกไป ไม่ใช่เพราะเขาแคร์คนที่เงยหน้าพิงศีรษะมาที่บ่าของเขาหรอกนะ


สิงหาหาข้ออ้างให้การกระทำของตัวเอง


“เฮ้ย ไอ้วิน เป็นอะไรวะ


วาโยเดินลิ่วมาถามด้วยความเป็นห่วงลูกศิษย์


“เป็นไข้แดดน่ะ ตัวร้อนเชียว


สิงหาเป็นผู้เอ่ยตอบ วาโยโคลงศีรษะอย่างอ่อนใจ


“เออ ไอ้เด็กพวกนี้หัวอ่อนกันจริง โดนแดดแค่นี้ก็ไม่สบาย เจ้าเซนที่ล้มหมอนนอนเสื่อก็เพิ่งจะฟื้นมาได้ วันนี้ถึงคิวเจ้าวิน

อีกคน เฮ้อ…”


คนเป็นอาจารย์ได้แต่ถอนใจ มองธราเทพอย่างเป็นห่วงเอื้อมหลังมือไปแตะที่หน้าผากของลูกศิษย์แล้วก็สะดุ้ง


“แล้วนี่ เอาไงดี ตัวร้อนจี๋ขนาดนี้


“ผมไปนอนสักหน่อยก็คงดีขึ้นครับ อาจารย์


น้ำเสียงอ่อนระโหยดังขึ้นจากร่างที่ไร้เรี่ยวแรง จนคนที่ยังยึดพยุงตัวไว้มองเสี้ยวหน้าด้านข้างอย่างหมั่นไส้

เก่งจริงๆ เลยนะ นี่ขนาดไม่มีแม้แต่แรงยืน แค่เขาปล่อยมือร่างบางๆ ก็คงทรุดไปนอนกับพื้น แต่ก็ยังปากเก่งไม่เลิก


“เดี๋ยวกูจะพาลูกศิษย์คนโปรดของมึงไปนอนเอง ฝากสั่งอาหารเย็นให้ขึ้นไปส่งบนห้องด้วยแล้วกัน


ไม่ต้องรอคำตอบ สิงหารีบดึงตัวให้ธราเทพเดินตามผลุบหายเข้าไปในลิฟท์





สิงหาค่อยๆ ประคองให้ธราเทพล้มตัวลงบนที่นอนช้าๆ เมื่ออยู่ตามลำพังในห้อง เขาก้มลงไปถอดรองเท้าให้แล้วยกขา

ของธราเทพตามไป ดึงผ้าห่มผืนหนามาห่มจนถึงลำคอ


แค่มองเห็นใบหน้าหวานผ่านกระจกในลิฟท์ ก็ยิ่งทำให้ความเป็นห่วงท้วมท้นเมื่อใบหน้าของธราเทพแดงก่ำจากไข้ จน

เขาต้องดึงร่างบางให้เอนกายพิงมาที่ตัวเขา แล้วสอดแขนเข้ามาโอบรอบไปที่เอวเพื่อจะยึดไม่ให้ธราเทพล้มลง ใบหน้า

ที่เอนซบพร้อมลมหายใจที่ร้อนผ่าว ดวงตาหวานหรุบปิดลงทำให้สิงหาตัดสินใจสอดแขนอีกข้างเข้าที่ใต้เข่าแล้วอุ้มธรา

เทพออกมาจากลิฟท์จนมาถึงหน้าห้องถ้าไม่ติดว่าต้องควานหาคีย์การ์ดมาเปิดประตู เขาก็คงจะอุ้มคนที่สลบไสลมา

จนถึงเตียงนอน


สิงหาถอนหายใจเมื่อเห็นสภาพของธราเทพ เขาเพิ่มความอุ่นของเครื่องปรับอากาศไม่ให้อุณหภูมิภายในห้องหนาวเย็น

จนเกินไปนัก แล้วลุกไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กไปผ่านน้ำอุ่นจากก๊อกน้ำบิดจนหมาดก่อนจะเดินกลับตรงมาหาคนที่นอน

คุดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มทรุดตัวลงนั่งที่ขอบเตียง สิงหาพยายามดึงผ้าห่มออกจากธราเทพที่ยึดไว้ แล้วจัดการใช้ผ้าขนหนูเช็ด

ไปที่ใบหน้าเนียน ธราเทพส่ายหน้าหนีด้วยอาการกระสับกระส่าย สิงหาต้องยึดใบหน้านั้นให้อยู่นิ่ง ก่อนที่จะเลื่อนมือที่

จับผ้าลงมาจนถึงลำคอขาว



สิงหาดึงผ้าห่มลงมาถึงเอวแล้วดึงเสื้อยืดออกจากตัวของธราเทพ ใช้ผ้าขนหนูเช็ดไปที่เนื้อตัวของธราเทพอย่างรวดเร็ว

ธราเทพตัวสั่นเป็นลูกนกเมื่อสิงหาเช็ดตัวให้ จนสิงหาต้องวางผ้าขนหนูลงแล้วเอนตัวลงไปนอนดึงให้ธราเทพเข้ามาอยู่


ในอ้อมกอดของเขา


เสียงครางจากพิษไข้ทำให้สิงหาลูบผมของธราเทพแผ่วเบา กระชับวงแขนจนเนื้อตัวนุ่มลื่นแนบชิดกับอกกว้าง



“ไม่เป็นไรแล้วเจ้าชายของข้า เทพราจะอวยพรให้ท่านปลอดภัย"






“วิน วิน


สิงหาปล่อยให้ธราเทพนอนหลับอยู่พักใหญ่ จนโจ๊กที่วาโยสั่งมาให้คลายความร้อนจัดจนเหลือแค่พออุ่นเขาจึงเขย่าตัว

ปลุกธราเทพให้ตื่นขึ้นมา


“ตื่นมากินอาหารนะ จะได้กินยา


ตาคู่หวานปรือขึ้นมาพร้อมส่งเสียงแหบโหย


“ยังอยากนอนต่ออยู่เลย มาอี


สิงหาชะงักเมื่อได้ยินชื่อที่ธราเทพเรียกขาน เขาจ้องใบหน้าเนียนที่ปิดตาลงไปอีกครั้งแล้วก็ต้องถอนหายใจเมื่อรู้ว่าสิ่งที่

ได้ยินเกิดจากร่างที่ไร้สติ การรอคอยยังไม่สิ้นสุด


ร่างสูงของสิงหาก้มลงประคองให้ธราเทพขยับลุกขึ้นมานั่งพิงตัวไปกับหัวเตียง มือแกร่งประคองใบหน้าของธราเทพให้

ตั้งตรงอย่างอ่อนโยน


“ตื่นก่อนนะ กินโจ๊กก่อนจะได้มีแรง


สิงหาพยายามป้อนโจ๊กให้คนที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นช้าๆอย่างอดทน จนหยุดเมื่ออาหารเกือบหมดชาม เขาจึงหยิบยาลดไข้

มาวางไว้ที่ปลายนิ้วแล้วจ่อไปที่ริมฝีปากแห้งผาก


“กินยาลดไข้นะวิน


ดันยาเข้าไปในช่องปาก ธราเทพปรือตามองเผยอปากรับยาไว้แล้วกลืนมันลงไป


“แค่กๆๆ


ธราเทพไออย่างแรงเมื่อกลืนยาลงไปแล้วไปติดอยู่ที่คอ สิงหาหน้าเสียเขาใช้มือบีบคางธราเทพแล้วพยายามใช้นิ้วล้วง

เม็ดยาออกมาแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อเม็ดยาลงไปติดในลำคอที่ลึกเกินกว่าจะล้วงออก


“ยาอยู่ไหน วิน คายมันออกมาสิ


“แค่กๆ


ธราเทพไอจนหน้าแดงก่ำ สิงหาละล้าละลังมองซ้ายมองขวาก่อนที่จะตัดสินใจยกแก้วน้ำขึ้นมาแล้วกระดกอมน้ำไว้ใน

ช่องปาก เขาใช้มือกดกระชับที่ปลายคางของธราเทพบีบเบาๆให้ริมฝีปากเปิดกว้าง แล้วเขาก็ประกบริมฝีปากลงไปจน

แน่นสนิทปล่อยให้น้ำไหลลงเข้าไปในลำคอของธราเทพ


เมื่อของเหลวพาเม็ดยาให้เดินทางเข้าสู่หลอดอาหารธราเทพก็หยุดไอ แต่สิงหากลับไม่ยอมหยุด ลิ้นร้อนสอดลึกลงไป

ตามน้ำ เข้าไปควานลึกอยู่ในช่องปากเกี่ยวกระหวัดอยู่กับลิ้นนุ่มของธราเทพที่ตอนนี้เนื้อตัวกำลังสั่นเทา


เปล่าหรอก มันไม่ได้สั่นเพราะพิษไข้ ธราเทพรู้ แต่มันสั่นตามทุกครั้งที่สิงหาบดเบียดริมฝีปากลงมา และยิ่งเมื่อปลายลิ้น

ซอกซอนไปจนลึกสุดขอบลำคอ ธราเทพก็แทบผวาร่างแกร่งดึงตัวธราเทพเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน มือที่วางแนบกับแผ่น

หลังเปลือยเปล่าร้อนผ่าวเสียยิ่งกว่าคนเป็นไข้จนธราเทพสะบัดร้อนสะบัดหนาวไปทั้งตัว


ปลายลิ้นนุ่มค่อยๆ ถอนออกมาอย่างอ้อยอิ่งทั้งที่ริมฝีปากยังไม่หยุดการเคลื่อนไหว สิงหาเม้มที่ริมฝีปากล่างของธราเทพ

เบาๆ หนุ่มน้อยก็เป็นฝ่ายผวา ใช้มือดึงลำคอของสิงหาเข้าหาแล้วฉกลิ้นเข้าไปในปากของสิงหาอย่างลืมตัวสิงหาส่ง

เสียงครางลึกในลำคออย่างพึงใจเมื่อตวัดลิ้นกลับมาคลุกเคล้าซึ่งกันอีกครั้ง คราวนี้ยิ่งรุนแรงเร่าร้อนจนเขาอยากจะกดให้

ร่างนี้นอนแนบไปกับเตียงนุ่ม แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อสติสัมปชัญญะที่รางเลือนเตือนว่าธราเทพในตอนนี้ไม่ใช่ช่วงที่ร่างกาย


และจิตใจเป็นปกติ


สิงหาตัดใจถอนปลายลิ้นออกจนสำเร็จ มองตาปรือของธราเทพอย่างข่มใจ ก่อนที่จะคว้าชุดนอนมาสวมใส่ให้ธราเทพ

ย่างรวดเร็วแล้วผลักเบาๆให้ธราเทพล้มตัวลงนอน


“นอนเสีย เจ้าชาย


สิงหาดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดจนถึงคอ ก้มลงไปจูบที่หน้าผากแผ่วเบาแล้วจึงเดินลิ่วเข้าห้องน้ำเปิดน้ำเย็นรดตั้งแต่หัวจรดเท้า

เพื่อลดความร้อนระอุในร่างกาย เมื่อกัดฟันข่มทุกอย่างลงจนร่างกายเกือบเป็นปกติ เขาจึงถอนหายใจแรงๆ


“เกือบไปแล้ว ไอ้สิงห์เอ้ย










เจ้าหญิงราบีอาทรงก้าวพระบาทยาวๆ เข้าไปสู่ห้องลึกภายในเขตหวงห้ามของพระมารดาอย่างที่ไม่มีผู้ใดสามารถหยุด

ยั้งได้ จนมาหยุดอยู่เบื้องหน้าแท่นบรรทมที่มีการเคลื่อนไหวอย่างเร่าร้อนอยู่ภายใต้ผ้าบางที่คลุมปิดกั้นสายตาไว้


“พวกท่านจะเสพสังวาสกันอีกนานแค่ไหน


ทรงตรัสด้วยสุรเสียงโกรธกริ้ว จนพระสนมส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ ส่วนฮาอัสได้แต่
หลียว

มอง ก่อนจะหันกลับไปกระแทกกายเข้าหาร่างพระสนมอย่างไม่แยแส


“อะ อ๊า เจ้าเข้ามาในนี้ได้อย่างไร ราบีอา”


น้ำเสียงหอบกระเส่าปนคำถามของพระมารดาทำให้เจ้าหญิงต้องกำพระหัตถ์แน่น



“บ้า บ้า พวกท่านมันบ้ากันทั้งสองคน จะทำอะไรก็รีบทำ ข้าจะไปรออยู่ด้านนอก


แล้วเจ้าหญิงก็ได้ทรงนั่งรอด้วยพระพักตร์บึ้งตึง จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง พระสนมเซฟเทตก็ลนลานออกมาทั้งที่ยังแต่งตัว

ไม่เรียบร้อยดี รวมทั้งฮาอัสที่เดินตามออกมาพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก


“มีอะไรรีบร้อนนัก ราบีอา บอกแม่มาเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนล่ะก็แม่จะตีเจ้า

พระสนมเอ่ยอย่างขัดเคือง


“เรื่องอภิเษกของข้ากับราโมสมันด่วนพอไหม ท่านแม่


สุรเสียงดุดันของเจ้าหญิงกลับเป็นฝ่ายข่มจนพระมารดาต้องเกรง


“ท่านพ่อทรงรับสั่งให้ราโมสอภิเษกกับข้าแล้ว มันเป็นหน้าที่ของเมียอย่างท่านที่จะไปพูดจาส่งเสริมให้จัดงานขึ้นโดยเร็ว

หาใช่เวลาที่จะมาหลงระเริงไปกับชายชู้


“ได้ๆ ลูกแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้แม่จะไปหาท่านพ่อ


“เดี๋ยวนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้


เจ้าหญิงราบีอากระแทกเสียงช้าชัดจนพระมารดาตัวสั่น“จ้ะ ราบีอา แม่จะไปเดี๋ยวนี้


พระสนมตาลีตาเหลือกก้าวออกจากห้อง พร้อมกับที่ฮาอัสจะก้าวตาม


“เดี๋ยว


ทรงส่งสุรเสียงห้าม ฮาอัสหันมามองด้วยหางตา


“ข้าอ่านจากปาปิรัสเก่าแก่ว่า พญางูอะโพรฟิสสามารถบันดาลเรื่องการสาปแช่งให้แก่สาวกผู้บูชาได้ จริงหรือไม่”


ทรงตรัสถามด้วยความไว้พระองค์ ฮาอัสเลิกคิ้วเมื่อฟังคำถามจบ


“ข้าเคยบอกท่านแล้วเจ้าหญิง ว่าพญางูจะให้ท่านได้ทุกอย่างขอเพียงท่านยอมเป็นสาวก


“ทำได้ทุกอย่าง?”


ทรงตรัสถามอีกครั้ง ฮาอัสได้แต่แสยะยิ้มแทนคำตอบ“ได้ทุกอย่าง แม้แต่สาปแช่งมิให้คนที่ท่านชังได้ไปสู่มตภูมิ


ฮาอัสก้าวตรงเข้ามาหาเจ้าหญิงราบีอา ก้มลงไปพูดเสียงเบาๆ ที่ข้างหู


“หากเจ้าหญิงต้องการ เพียงแค่บอกข้า ข้าจะทำพิธีปวารณาตนเป็นสาวกแด่พญางู และเมื่อนั้นเจ้าหญิงจะได้ทุกสิ่งที่

ต้องการ




















« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2015 22:41:50 โดย Belove »

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :katai1:  ร้ายและเลวพอทั้งแม่และลูกเลย อ้อ ท่านอาจารย์ชู้อีก  :z6:

สรุปยัยเจ้าหญิงนี่สินะที่แช่ง แล้วทำให้ ราโมสกับมาอีเข้าใจผิดกันก่อนตาย  :m16:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-04-2015 22:45:04 โดย yymomo »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6

ออฟไลน์ love AJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ลูกสาวแทบจะกินหัวแม่อยู่แล้ว


ส่วนวินตอนป่วยนี่ไม่ดื้อเลยอ่ะ ดีจัง ฮ่าๆๆ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
แล้วจะแก้คำสาปยังไง
ต้องให้ราบีอาอโหสิให้เหรอ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ราบีอาจะทำอะไร

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เป็นไข้แล้วว่าง่ายเชียวน้าาา
ตกลงนี่คือราบีอาเป็นคนสาปแช่งใช่ไหม

ออฟไลน์ Belove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +703/-2
    • ฺBelove


                                           คำสาปร้าย พ่ายรัก                                             
                                                 บทที่ 18



ดวงตาคู่หวานกระพริบถี่แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมาช้าๆในความมืดมิดกลางดึก ลำคอแห้งผากจากไข้ที่เพิ่งคลายลงทำให้

ธราเทพดันตัวขึ้นนั่งเพื่อจะลุกไปหาน้ำดื่ม แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเงาตะคุ่มนั่งฟุบอยู่ที่ขอบเตียง

สำนึกที่กลับคืนมาพยายามนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงหัวค่ำ เมื่อทบทวนได้แก้มเนียนก็ร้อนผ่าว เขาก้มลงไปมองสิง

หาที่ซบหน้าฟุบหลับอยู่ใกล้ๆ


ผู้ชายคนนี้เป็นคนอย่างไรกันแน่นะ บางครั้งก็ดุดันเหมือนโกรธแค้นกันมาแรมปี แต่บางครั้งกลับอ่อนโยนต่อเขาเหมือน

เป็นคนพิเศษ นายอัสลานคนนี้ช่างทำให้เขาสับสันเหลือเกิน คนที่ฟุบหลับอยู่จะรู้ไหมว่าทุกครั้งที่ใกล้ชิด ทุกครั้งที่ริม

ฝีปากบดเบียดลงมามันทำให้หัวใจของเขาสั่นไหว


หัวใจของเขาหวั่นไหวและเพริดไปกับมัน ยิ่งเมื่อตกอยู่ในอ้อมกอดอุ่นร่างกายของเขาแทบจะหลอมละลายและเผลอไผล

สนองตอบทุกครั้งจนเขาอดโกรธตัวเองไม่ได้เมื่อกำแพงที่ตั้งไว้ถูกทำลายลงอย่างช้าๆแถมในบางครั้งเขากลับรู้สึกเป็น

ห่วงอีกฝ่ายเวลาที่ทุ่มแรงกายไปกับงานเหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย


ถ้าจะบอกทั้งหมดในใจก็ต้องบอกว่าเขาแอบทึ่งกับการทำงานอย่างตั้งใจของสิงหา จนต้องลอบมองบ่อยครั้งเมื่อออก

ภาคสนาม หรือเวลาที่เขาแอบมองแผ่นหลังกว้างที่ชอบยืนตรงริมระเบียงเพื่อทอดสายตามองแม่น้ำไนล์เบื้องหน้า มัน

ดึงดูดสายตาของเขาจนไม่อาจละได้


ธราเทพสะดุ้งในใจ นี่เขากำลังจะบอกตัวเองว่า เขาชอบผู้ชายคนนี้ใช่หรือเปล่า


ความคิดสะดุดลงเมื่อสิงหาขยับตัวจากท่าฟุบหลับ เขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นธราเทพลุกขึ้นมาจึงได้ขยับตัวลุกมานั่งบนขอบ

เตียง มันใกล้จนธราเทพแทบหยุดหายใจ


“ตื่นมาทำไม ยังไม่สว่างเลย


เสียงท้วงอ่อนหวานจนธราเทพร้อนวูบที่แก้มลามไปถึงใบหู


“ผมหิวน้ำ


           ตอบอย่างตะกุกตะกักพร้อมกับการหลบตาด้วยการก้มหน้าลงต่ำสร้างรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าที่เคร่งขรึมเป็น

ประจำ สิงหาลุกขึ้นเดินไปเทน้ำใส่แก้วแล้วมายื่นให้ ธราเทพช้อนสายตามองแล้วรับแก้วน้ำมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว สิง

หามองท่าทีนั้นก่อนที่จะใช้ปลายนิ้วเช็ดรอยน้ำเบาๆที่รอบริมฝีปากแดงเรื่อ ดวงตาที่มองมามันบอกถึงความสับสนจนเขา

ทนไม่ไหว


เขาตวัดอุ้งมือไปประคองที่หน้าเรียวนั้นอย่างรวดเร็วแล้วประกบริมฝีปากลงไปอย่างนุ่มนวลกว่าทุก

ครั้งที่เขาเคยสัมผัส ปากอิ่มของอีกฝ่ายชะงักอยู่ชั่วครู่จึงยอมเปิดรับลิ้นร้อนให้สอดลึกเข้าไปในโพรงปาก

ในที่สุด


ธราเทพรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นขนนกที่กำลังลอยละล่องไปตามสายลม ตามแต่ลมอย่างสิงหาจะพัดพาไป ยิ่งปลายลิ้น

อุ่นแวะเวียนซอกซอนไปทั่วแม้แต่ใต้ลิ้นมันยิ่งทำให้ขนนกอย่างเขาสะท้านวูบไปทั่วทั้งร่าง

สิงหาเม้มเบาๆ ที่ริมฝีปากล่างแล้วผละออกแค่เพียงเล็กน้อย เพียงเท่านั้นธราเทพก็หมดความอดทน เขาผวาเข้ากอดร่าง

ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อเบียดตัวเข้ากับอกอุ่น สองมือโอบรอบที่ลำคอแล้วรั้งเข้ามาอย่างลืมตัวพลางเป็นฝ่ายถอยปลาย

ลิ้นหนีออกมาจนสิงหาต้องขยับลุกไล่ และเมื่อได้โอกาสธราเทพก็เป็นฝ่ายส่งปลายลิ้นเข้าไปในช่องปากของสิงหาบ้าง


“อืม วิน เจ้าชาย อย่ายั่วกันนักได้ไหม”


สิงหาครางอยู่ในลำคอ เสียงนั่นเบาจนธราเทพจับใจความได้ไม่ถนัดแต่วินาทีนี้ร่างกายที่กลับร้อนผ่าวมาอีกครั้งทำให้เขา

ไม่อยากที่จะให้ความสนใจกับสิ่งใดทั้งสิ้น


ไม่ใช่แต่ธราเทพคนเดียวที่ลืมตัว สิงหาเองก็แทบทนไม่ได้เขาเอนตัวทิ้งน้ำหนักลงไปเพียงนิดเดียวก็ทำให้ธราเทพหงาย

หลังกลับลงไปนอนราบอยู่บนที่นอนโดยที่มีเขานอนทับอยู่เบื้องบน สิงหากดริมฝีปากลงไปอีกครั้ง แต่คราวนี้จุดหมาย

อยู่ที่ซอกคอเนียนละเอียด จมูกโด่งฝังลึกตามด้วยริมฝีปากที่ขบเม้มลงไปยิ่งทำให้ร่างบางที่อยู่ข้างใต้ผวาได้ทุกครั้ง แต่

สิงหากลับยิ่งได้ใจเขาเลื่อนตัวลงต่ำแล้วขบเม้มไปที่ยอดนูนเม็ดเล็กที่ดึงดันผ่านชุดนอนนั้นออกมา


“โอ๊ะ”


ธราเทพสะท้านตามแรงกระตุ้นจนเผลอแอ่นกายตอบรับ ความอดทนของสิงหาหมดลงในที่สุด เขากระชากทีเดียวเสื้อยืด

ตัวบางของธรเทพก็ขาดติดมือมา เผยให้เห็นเนื้อเนียนที่สว่างโพลนอยู่ในความมืด แม้จะเห็นมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อหัวค่ำที่

ผ่านมา แต่ครั้งนี้มันกลับทำให้อารมณ์ปะทุยิ่งกว่า สิงหากัดฟันอีกครั้งเมื่อต้องพูดเตือนสติทั้งตนและธราเทพ


“ถ้านายห้าม ฉันจะหยุดแค่นี้


ไม่มีคำพูดจากธราเทพ มีแต่ดวงตากึ่งสับสนกึ่งเว้าวอนที่เป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ขาดลงทำให้สิงหาไม่ลังเลอีกต่อ

ไปที่จะก้มหน้าดูดซับความหวานจากร่างที่เขาเฝ้ารอคอย จมูกโด่งฝังลงพร้อมกับขบเม้มไปที่ติ่งหูลากลึกลงไปตรงซอก

คอเนียน สิงหาเม้มลงไปดูดดุนอยู่พักใหญ่จนกลายเป็นรอยแดงฝากไว้เมื่อเขาย้ายที่ลงมาฝังหน้าลงที่หน้าอกขาว มือ

แกร่งวางทาบลงอีกฝั่งแล้วบีบเค้นอย่างห้ามใจไม่อยู่ ก่อนเขาจะขยับตัวถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ทุกชิ้นออกจากตัวอย่าง

รวดเร็วแล้วทาบต้นขาแข็งแกร่งลงกับสะโพกกลมกลึงที่ทอดกายรองรับ


มองเม็ดเล็กยอดอกสีสวยอย่างตะลึงลาน เขาใช้ปลายนิ้วแตะลงไปคีบมันขึ้นมาจนแข็งเป็นไต ปากเม้มตามลงไปปลาย

ฟันเสียดสีจนเนื้อตัวของธราเทพสั่นระริกไปด้วยไฟสวาสที่ปะทุขึ้นมาไม่แพ้กัน หนุ่มน้อยเผลอตัวส่งเสียงครางพลาง

ทอดแขนไปรอบลำคอแล้วกอดรัดให้เนื้อตัวยิ่งกระชับมากขึ้นไปอีก


ทุกครั้งที่มือร้อนผ่าวของสิงหาวางทาบไปตามเนื้อตัวธราเทพถึงกับผวาราวกับมือนั้นเป็นแม่เหล็กคนละขั้วกับเขา ยิ่งมือ

นั้นวางนาบอยู่ตรงจุดสำคัญกึ่งกลางตัวก็ยิ่งปลุกเร้าให้อารมณ์แห่งสัมผัสหวามไหวจนลมหายใจแทบสะดุด สิงหากด

สะโพกให้ต้นขาเรียวเปิดกว้าง แท่งเนื้อหนั่นแน่นที่ไม่เคยผ่านมือใครถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเมื่อสิงหาแตะปลายลิ้นไปลาก

ไล้แผ่วเบา


“อา พี่สิงห์


ธราเทพเรียกชื่ออีกฝ่ายด้วยเสียงแหบพร่า เอวบางแอ่นรับช่องปากที่ดูดกลืนส่วนสำคัญเข้าไปจนหมด หนุ่มน้อยใช้มือ

เสยเข้าไปในกลุ่มผมดำนุ่มที่ยังคลอเคลียอยู่ตรงช่วงล่าง ท้องน้อยบีบแน่นเขม็งเกลียวหน่วงหนัก


“พะ พี่สิงห์ อ๊ะ


กลั้นหายใจเมื่อความอัดแน่นบีบตัวพุ่งทะลักอยู่ในช่องปากร้อนของอีกฝ่าย ธราเทพหอบหายใจถี่ใบหน้าแดงก่ำเมื่อสิง

หาที่ถอนใบหน้าออกจากการครอบครองยืดตัวขึ้นมามองด้วยดวงตาพราวระยับ


“อย่ากลืนเข้าไปสิครับ


ธราเทพบอกอย่างตกใจพลางเอื้อมปลายนิ้วมาเช็ดมุมปากที่ยังเปรอะเปื้อนน้ำรัก สิงหากุมมือนั้นไว้แล้วก้มลงไปกระซิบที่

ข้างหู


“ฉันขอนะ ขอเป็นเจ้าของตัวนาย


พูดจบสิงหาก็ใช้ปลายนิ้วแตะวนทักทายรอบช่องทางสีสวยจนธราเทพผวาเมื่อของจริงกำลังจะเริ่มต้น คนเชี่ยวชาญกว่า

จับขาคนด้อยประสบการณ์ให้ยกสูงแล้ววางพาดมาที่บ่ากว้างของเขา พลางมองช่องทางของอีกฝ่าย ดวงตาที่เคยดุกล้า

บัดนี้วาววับไปด้วยความต้องการเป็นเจ้าของพร้อมกับที่ปลายนิ้วเริ่มเปิดทางทักทายเข้าไปจนธราเทพต้องกลั้นหายใจอีก

รอบ


“จูบพี่สิครับวิน


เสียงกระเส่ากับสรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้ธราเทพคล้องแขนไปรอบคอของสิงหาแล้วโน้มลงมาอย่างกลัวๆ กล้าๆ เรียว

ปากอิ่มประทับไปกับริมฝีปากอุ่นที่รอรับอยู่แล้ว หนุ่มน้อยค่อยๆ เป็นฝ่ายสอดลิ้น

ไปแตะในโพรงปากอย่างคนไม่เคย สิงหาต้องเป็นฝ่ายช่วยตวัดลิ้นสอนเชิงจนธราเทพเคลิบเคลิ้มลืมตัว เมื่ออิสริยะสอด

แทรกความแข็งแกร่งของท่อนเนื้อร้อนเข้าไปในช่องทางคับแน่นทีละนิด


“อื้มมม


ธราเทพนิ่วหน้าเมื่อความรู้สึกเจ็บเริ่มมาเยือนแม้ว่าจะยังคงเตลิดไปกับรสจูบ มือแกร่งของสิงหาคว้าหมับไปที่แก่นกาย

ของหนุ่มน้อยช่วยกระตุ้นให้ยิ่งเพลิดเพลินไปกับรสสวาสจนกระทั่งเขาดันตัวเข้าไปได้จนหมด สิงหาเองก็ต้องกลั้นใจกับ

ความคับแน่นตอดรัดภายในของช่องทางแสนหวานที่เขากำลังครอบครอง


“เก่งมากครับวิน


เขาเช็ดเหงื่อที่ไรผมของธราเทพพลางก้มจูบตามเมื่อหนุ่มน้อยผ่านขั้นตอนแห่งความเจ็บปวดไปได้


“เราจะมีความสุขด้วยกันต่อจากนี้เป็นต้นไป


สิงหาเริ่มต้นขยับตัวพลางใช้มือดึงเอวและสะโพกแน่นเนื้อของธราเทพให้เคลื่อนไหวตามจนความเสียวซ่านแล่นไปทั่ว

ร่าง เขาค่อยๆ สอนจนธราเทพให้รู้จักความหวานและทะยานไปสู่สวรรค์

ยิ่งรอมานานเพียงใด เขาก็มอบความหวานให้มากเท่านั้นจนลมหายใจที่สั่นสะท้านของเขาและธราเทพต้องปลดปล่อย

ออกมาพร้อมกันอย่างเป็นสุข









กว่าค่อนคืนผ่านไป จนเขานอนกอดร่างเปล่าเปลือยที่หลับใหลอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่นอยู่บนเตียงเล็กอย่างสุขสม สิงหาก้ม

หน้าไปมองธราเทพที่เป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ด้วยความอิ่มเอม


ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ไม่ว่ากายหยาบภายนอกจะแปรเปลี่ยนไปอย่างไร เจ้าชายของเขาก็ยังคงเป็นเจ้า

ชายอยู่ในจิตวิญญาณ


เขาก้มลงไปจูบที่ขมับแผ่วเบา ธราเทพที่นอนหลับตาขยุกขยิกและคลี่ยิ้มน้อยๆเมื่อกระชับอ้อมแขนที่กอดรอบร่างแกร่ง

ของสิงหาเป็นการตอบรับ


“ยังไม่ยอมนอนอีกนะ


เสียงหวานพูดเบาๆ ทั้งที่ดวงตายังปิดสนิท


“ถ้ายังไม่นอน ตอนทำงานมีหวังผมได้เห็นช้างล้มแน่


สิงหาหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยิน เขาจับคางเรียวให้เงยขึ้นจนธราเทพต้องยอมลืมตาขึ้นมา


“อย่ามาว่าแต่พี่ เราเองก็ยังไม่ยอมนอน


สรรพนามที่เรียกขานปรับเปลี่ยนตามความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลง สิงหากดริมฝีปากไปที่ปากอิ่ม

เร็วๆ อย่างมันเขี้ยวก่อนที่จะเอียงหน้ามองหน้าหวานๆ


“เพิ่งหายไข้ด้วย จะทำงานไหวหรือเปล่า


แก้มเนียนแดงเรื่อ ยกกำปั้นขึ้นทุบที่อกกว้างจนสิงหาร้องอุบ


“ถ้าจะทำงานไม่ไหว ไม่ใช่เพราะเพิ่งหายไข้หรอก แต่เพราะนายนั่นแหละ


“ไม่เอาวิน เลิกเรียกพี่ว่านายนั่นนายนี่ได้แล้ว พี่มีชื่อนะ เรียกว่าพี่สิงห์สิ


“ก็มันไม่ชินปากนี่


ธราเทพเอียงหน้าหนีดวงตาคู่ที่เคยดุแต่บัดนี้กลับมีแต่ความแพรวพราวจนเขาไม่กล้าสบตา


“ไม่ลองเรียกแล้วเมื่อไหร่จะชิน


สิงหาเลิกคิ้วเข้มขึ้นยิ่งทำให้ใบหน้านั้นดูดีขึ้นไปอีก


“พี่สิงห์


ธราเทพหลับหูหลับตาเรียก สิงหาขำจนเผลอหัวเราะเบาๆ


“ครับ เรียกพี่ทำไมครับวิน อยากให้พี่จูบอีกใช่ไหมครับ


ว่าแล้วสิงหาก็ทำท่าจะทำอย่างที่พูดจนธราเทพต้องรีบยกมือขึ้นปิดปากนั้นไว้


“พอแล้ว ผมจะแย่แล้วครับพี่สิงห์


คำพูดนั้นจุดรอยห่วงใยขึ้นในดวงตาของสิงหา มือเรียวแกร่งลูบไล้ที่พวงแก้มเนียนอย่างเบามือ


“พี่ทำให้วินเจ็บมากไหม


คราวนี้ธราเทพหน้าแดงเป็นมะเขือเทศสุกเมื่อได้ยินคำถาม แต่เขาก็กลั้นใจมองสบตาสิงหา


“มันก็เจ็บนะ แต่ เอ่อ มันก็ทำให้ผมมีความสุข


คำตอบนั้นทำให้สิงหายิ้มได้ เขาโน้มตัวไปหอมที่หน้าผากมนแผ่วเบาเป็นการขอบคุณ ธราเทพได้แต่มองใบหน้าที่เป็น

เจ้าของตัวและใจของเขาอย่างสมบูรณ์ พลางตัดสินใจเอ่ยถามข้อข้องใจ


“พี่เป็นใครกันแน่


สิงหาชะงักเมื่อในที่สุดคำถามนี้ก็เกิดขึ้น เขาสบตาที่เต็มไปด้วยคำถามคู่นั้น


“มองตาพี่สิ วิน มองให้ลึกเข้าไปให้ทะลุกายหยาบ แล้ววินจะรู้เอง


ธราเทพสบตาคู่นั้นนิ่งนาน ความคุ้นเคยค่อยๆแล่นวาบเข้ามาในจิตใจจนความเย็นยะเยือกวิ่งวนไปทั่วร่าง


“มาอี”











“มาอี”


สุรเสียงแผ่วเบาดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อความสุขสมระเบิดขึ้นในและนอกร่าง ก่อนที่ร่างกำยำจะซบตัวลงอย่างหมดแรง

ลงบนวรกายบอบบาง ผลผลิตแห่งความรักยังคงหยาดหยดเปรอะเปื้อนวรกาย  มาอีค่อยๆใช้ปลายลิ้นร้อนลากชิมจนไม่มี

เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว เจ้าชายราโมสประคองใบหน้านั้นขึ้นมาแล้วทรงพรมจูบไปทั่ว


“ข้ารักเจ้า รักจนไม่เหลือจิตใจไว้เพื่อตัวเองอีกแล้ว มาอี เจ้าต้องรับผิดชอบ


มาอีจูบตอบอย่างหลงใหล พลางกระชับอ้อมกอดเข้ามาแนบแน่น


“ข้ารับผิดชอบด้วยการมอบดวงใจของข้าไว้ให้เจ้าเป็นการทดแทนไปแล้ว มันยังไม่เพียงพออีกรึ เจ้าชายของข้า


“ข้ากลัว มาอี


พระเนตรคู่หวานเบือนหน้าหนี


“เจ้าชายของข้า หวาดกลัวด้วยเรื่องใด


คำถามเชิงปลอบโยนทำให้พระพักตร์คมหันกลับมาสบตาอีกครั้ง


“ท่านพ่อเร่งรัดงานอภิเษกจนข้าหาสาเหตุผ่อนผันอีกไม่ได้ เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่สามารถแต่งงานกับราบีอาได้จริงๆและข้าก็ไม่

สามารถแต่งงานกับหญิงใดได้อีก


มาอีก้มตัวลงไปปิดพระโอษฐ์ที่ตรัสด้วยสุรเสียงเศร้าสร้อยนั้นไว้ด้วยปากของเขา เขาไม่ชอบเห็นพระพักตร์ที่เต็มไปด้วย

ความเศร้าหมองนี้เลย หากเป็นไปได้ เจ้าชายราโมสของเขาต้องเต็มไปด้วยความ

สดใสมีชีวิตชีวา อย่างที่เขามองจนเจนตามาตลอดชีวิตแม้จะรู้ว่าที่ทรงตรัสมาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไหนจะยังเรื่องที่เจ้า

หญิงราบีอาทรงลอบมาหาเขานั่นอีกเล่า ยิ่งเป็นเรื่องที่จะให้เจ้าชายราโมสทรงรับรู้ไม่ได้เป็นอันขาด เพราะจะยิ่งสร้าง

ความขุ่นเคืองและกังวลใจไม่เลิกรา


ช่างมันก่อนเถอะ


จิตใจของมาอีประท้วง


จะมัวคิดเรื่องที่ทำให้ความสุขตรงหน้าหมดสิ้นลงไปเพื่อเหตุใด


ในเมื่อตอนนี้ ร่างกายของเขาที่ยังคงฝังลึกอยู่ในวรกายบอบบางเริ่มตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเจ้าชายทรงตอบรับจุมพิต

ด้วยการสั่นสะท้านไปทั้งร่างพระโสณีแน่นกลมกลึงเบียดรับ ยิ่งทำให้เขาต้องขยับตัวอีกครั้ง


“มะ มาอี


สุรเสียงสุดท้ายสั่นพริ้วขาดหายไปในลำคอ เมื่อมาอีดึงให้พระองค์เดินทางไปสู่สรวงสวรรค์อีกครา

























« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-04-2015 19:36:29 โดย Belove »

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
 :-[   รู้ใจแล้ว ฟันฝ่าอุปสรรคให้ไดันะ

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
พี่สิง เป็นสิงโตหรือ งูเขียวกันแน่ แอบกินตับกันเฉ๊ยยย  :z1:

แต่ตอนนี้อีกอย่างที่ปริ่มคือ ยัยราฟ่อน ไม่โผล่หัวมาให้ลำคาญใจ   :hao6:

ทางที่ดีหายๆไปเลยจะแหล่มมาก

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เข้าใจกันแล้วว
แบบนี้ค่อยๆ ช่วยกันหาความจริงให้ได้นะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
เขาเริ่มชอบกันแล้วๆๆ

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด