เมียงู #1 ไปเยี่ยมญาติ (เมื่อผัวเมียห่างกัน)
"ภัทร เย็นนี้จะไปเยี่ยมย่ากับแม่ไหม"
ผมหันไปตามเสียงแม่ที่อยู่ในห้องครัวของร้านเบเกอรี่
แม่ของผมเปิดร้านเบเกอรี่ขนาดกลางๆ เป็นกิจกรรมยามว่างที่ชอบทำของหวานแต่กินไม่หมด พวกผมกับพ่อที่ทนกับน้ำตาลในเลือดที่พุ่งสูงของตัวเองทุกครั้งที่ตรวจสุขภาพไม่ได้ ก็เกิดอาการอ้อนวอนแม่ให้เปิดร้านเล็กๆ
แต่เวลายาวนานไปคุณนายทำแล้วยั้งไม่อยู่ อยากทำเยอะกว่าเดิม เลยต้องขยายร้านให้ใหญ่ขึ้นเพื่อสนองนี้ดเขาแหละ
"แล้วแม่จะปิดร้านเหรอ"
ผมเผลอแสดงความดีใจจนออกตามเสียง แม่เท้าเอวชี้หน้าผม
ก็อยู่ที่บ้านมาห้าวันแล้วแม่ลากผมมาช่วยงานตลอด
ไอ้ตัวที่อยู่ในห้องก็งอนเอาๆ กูก็ไม่รู้จะง้อยังไง
เอ๊ะ แล้วผมไปง้อมันทำไม เป็นอะไรกันรึก็เปล่า
"ว่าไงภัทร ไปกับแม่ไหม ถ้าไปก็เอาชุดไปด้วยนะ เราจะไปค้างกัน"
ผมอยู่แต่ร้านกับบ้านมาหลายวันแล้ว กลับไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่บ้างมันก็คงดี แต่ผมคงลืมอะไรบางอย่างไป
"ตกลงแม่ ภัทรไป"
ผมฮัมเพลงในลำคอ เปิดประตูเข้าห้องแต่ก็ต้องชะงัก
ชายร่างสูงผิวขาวราวกับงาช้าง ผมสีไม่ต่างกันยาวเลยบั้นเอวอยู่ในชุดที่ไม่เข้ากับบุคลิก เสื้อยืดสีมอๆ กับกางเกงสามส่วนที่ผมแอบจิ้กของพ่อมาให้งูขาวใส่
ดวงตาสีแดงทอดมองมาราวกับลูกหมาตัวโตที่ถูกทอดทิ้ง
นี่ใครเป็นคนส่งมึงเกิดมาเป็นงูว่ะ น่าจะเกิดเป็นหมาให้รู้แล้วรู้รอด
"เจ้าจะทิ้งเรา"
ผมกระพริบตาปริบๆ
"มึงเป็นเหี้ยอะไรอีก"
ผมถามมันออกไปด้วยกับไม่เข้าใจกับคำพูด สายตา ท่าทางหรือแม้แต่น้ำเสียง
เชื่อกูนะ ถ้ามึงไปเรียนการแสดง มึงรุ่งแน่ๆ กูมั่นใจ
"ก็เจ้าจะไปจากเรา"
"จะไปไหนว่ะ"
"เจ้าจะทิ้งเรา"มันย้ำคำพูดของตัวเอง
มึงช่วยหาใจความที่กูต้องการจากประโยคดิว่ะ จะคุยกับรู้เรื่องมั้ยวันนี้น่ะ
"กูจะไปทิ้งมึงตอนไหน"
"เจ้าจะทิ้งเรา"
"กูถามว่ากูจะไปทิ้งมึงตอนไหน"
"เจ้าจะทิ้งเรา"
"..."
ผมว่ามันต้องกวนตีน ไม่สิ มันกำลังกวนตีนผมอยู่
"เจ้าจะทิ้งเรา"
"ไอ้สัส!! กูถามว่ากูจะไปทิ้งมึงตอนไหน มึงจะตอบกูไหมไอ้เชี่ย ย้ำอยู่นั้นกูจะทิ้งมึง กูจะทิ้งมึงอ่ะไอ้ห่า"
คราวนี้ชายร่างสูงเงียบ สักพักก็หันหลังหนี
"โอเคๆ มึงเป็นอะไร ไหนตอบสิ"
ผมปรับเสียงให้นิ่งกว่าเดิม แตะไหล่หนา (นอกเรื่องแป๊ปได้ไหม ไหล่มันแน๊นแน่น) ร่างสูงหันมาทำหน้าเจี๋ยมเจียม
"ก็ที่เจ้าคุยกับแม่เจ้าไง"
คุยอะไรว่ะ
"เรื่องอะไร วันๆ หนึ่งกูคุยกับแม่เป็นสิบเรื่อง"
"เจ้าจะไปบ้านย่าเจ้าไง"
อ๋อยาวๆ ไร้สาระชิบหาย แค่ไปเยี่ยมย่าแล้วจะไปทิ้งมันยังไงว่ะ พูดเหมือนทำได้
แต่คิดอีกที จะหนีตอนนั้นเลยก็ได้
ถึงตอนนี้ผมจะอยู่กับเจ้างูขาวได้มาห้าวันแล้ว พอสนิทๆ กันบ้าง แต่ผมก็ยังสงสัยอะไรหลายๆ อย่างในตัวมันอยู่
อย่างเช่น มันมาหาผมทำไม
หรือว่า วันไหนมันเกิดหิวแล้วจะเขมือบผม
และ มันเป็นใคร
อ่า ผมว่าผมจิตแข็งจัง อยู่กับงูตัวใหญ่ทั้งยังกลายร่างเป็นคนได้จะห้าวันอยู่แล้ว
"เงียบทำไม เจ้าจะหนีเราใช่มั้ย"
"เหอะๆ กูไปค้างแค่คืนเดียว"หลังจากนั้นก็หนีไปเลย
"ไปด้วย"
"ตลกแล้ว มึงคิดว่ามึงเป็นใครที่กูจะพามึงไปไหนมาไหนด้วยได้ มึงคิดว่ากูกล้าพามึงออกจากห้องไปหรือไง คิดบ้างไหมว่าแม่กูจะพูดว่าไง"
เอาตรงๆ นะ ผมรู้สึกเหมือนตัวเองซ่อนชู้ไว้ในบ้าน ทั้งๆ ที่บอกแม่ไปก็ได้ว่ามันเป็นเพื่อนนะ ถึงจะหน้าตาดีเกินหน้าเกินตาไปบ้าง แต่ผมไม่กล้า ไม่รู้ว่าทำไม มันเป็นความรู้สึกกลัวเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เข้าใจ
"เจ้าเอาเราใส่กระเป๋าไปก็ได้"
"มึงคิดว่าตัวเองเป็นงูหลามบอลเหรอ ถึงตัวเล็กขนาดที่ใส่กระเป๋าไปได้"
ผมพูดอย่างใส่อารมณ์แต่ก็ต้องผ่อนอารมณ์อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นสีหน้าของร่างสูง
"เอาน่ามึง กูจะรีบไปรีบกลับ"
ร่างจำแรงของงูขาวมีสีหน้าไม่ดีขึ้นแต่จู่ๆ ร่างสูงก็เผยยิ้มออกมา
"เจ้าไปพรุ่งนี้ได้มั้ย เราขอเวลาทำใจสักพัก"
"กูตกลงกับแม่ไว้แล้ว"
"นะ"
ดวงตาสีแดงส่องประกายวูบไหว
"เออ เดี๋ยวจะลองขอแม่ดู"
"ภัทร ตกลงแกไม่ได้ทะเลาะกับเจ้าเหมียวใช่มั้ย มันนอนที่ห้องแม่มาสี่วันแล้วนะ"
อ่า ใช่สิตั้งแต่เจ้างูนั้นมาอยู่ เจ้าเหมียวที่ปกติชอบนอนห้องผมก็หายไปเลย
"เปล่าทะเลาะนี่แม่ ภัทรก็ปกตินะ สงสัยมันเบื่อภัทรแล้วมั้ง"
แม่หรี่ตามองผมอย่างไม่ไว้ใจ
"แม่ ภัทรขอ"
"เออภัทร เราไปเยี่ยมย่าวันพรุ่งนี้นะ เมื่อกี้ภัทรจะพูดอะไรนะ"
"เปล่าแม่"
อ่า ถือว่าเรียกว่าโชคดีหรืออะไรเนี่ย
"คืนนี้เอาเจ้าเหมียวไปนอนด้วยเลยนะ แม่นอนไม่ถนัดเลย มันชอบมานอนกั้นพ่อกับแม่ "
เหอะๆ จะสวีทกันแล้วมีแมวมากั้นว่างั้นเถอะ
แง๊ว ฝ่อวววว
ฝ่อวววว
รู้สึกเหมือนเดจาวูเลยแฮะ
เสียงแมวผมดังขึ้นมากลางดึกอีกแล้ว
เออ มีงูอยู่กลางห้องผมนี่เนอะ จะขู่ไปก็ไม่แปลก
ชั่ววูบที่ฝืนเปลือกตาขึ้นมองแมวตัวเอง ผมเห็นแสงสว่างสีขาวโพลนจากมุมห้อง โดยที่ข้างตัวไม่มีงูใหญ่นอนข้างกันเหมือนทุกคืน
แต่สักพักความรู้สึกอุ่นชื้นก็มาสัมปัสที่ริมฝีปาก เรียวเนื้ออุ่นแหวกปากผมให้เปิด มันค่อยระเรี่ยลิ้น แผ่วเบาและนุ่มนวล
ผมตื่นนอนตอนเช้าตรู่ก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะบ้านย่าค่อนข้างไกลจากที่นี่
งูเกล็ดสีขาวตัวยาวนอนเหยียดกายหลับสนิท
ผมรีบคว้ากระเป๋าที่จัดไว้ตั้งแต่เมื่อคืน น้ำหนักที่มากกว่าเดิมทำให้ผมหันกลับไปดูงูยักษ์ว่ายังอยู่ที่เดิมรึแอบเข้ากระเป๋าผมแต่ร่างสัตว์เลื่อยคลานก็ยังนอนตัวยาวอยู่ที่เดิม
"ป่ะแม่ภัทรพร้อมแล้ว"
"ภัทรช่วยจับเจ้าเหมียวหน่อยได้มั้ย แม่จะฝากเขาที่โรงพบาบาลสัตว์"
"ครับ"
แม่ผมกลัวเจ้าเหมียวมันหิวครับ เลยต้องฝากไว้ที่นั่น
ผมเผลอนึกถึงงูที่อยู่ในห้องว่าหิวหรือยัง
ตอนอยู่ด้วยกันใหม่ๆ(คำพูดเหมือนข้าวใหม่ปลามันเลย)ผมเคยถามนะว่ามันจะเขมือบผมหรือเปล่า
มันบอกว่ามันไม่ได้กินดะขนาดนั้น มันไม่ใช่งูทั่วไป ต้องหิวหรือบาดเจ็บจริงๆถึงจะกิน ปกติก็ดำรงด้วยพลังงานชีวิตตลอด
พอถึงตรงพลังงานมันก็ยิ่มกรุ่มกริ่มใส่ผม
ผมคิดว่าผมรู้ความหมายว่าพลังงานชีวิตนะ ผมเลยไม่ถามอะไรมันอีก
"ภัทรเอาแมวไปซิลูก"
ผมรับแมวจากแม่ แต่เจ้าเหมียวก็ดินไม่ยอมให้ผมอุ้มแถมยังจะหันมาข่วนผมอีก
"แม่อุ้มเหอะ มันจะข่วยภัทรอ่ะ"
"แกต้องทำให้มันโกรธแน่ๆ แม่ว่าแล้ว"
"ภัทรเปล่านะ"ผมจะหันไปกอดแม่แต่แมวก็ขู่ผมใหญ่จนกอดแม่ไม่ได้
ผมกับแม่ขึ้นรถที่พ่อเป็นคนขับ พอถึงโรงพยาบาลสัตว์แม่ผมก็ส่งเจ้าแมวทรยศผมลงหาพี่หมอสุดสวยที่ผมแอบหลิ่วตาขอเบอร์มาได้ แต่รู้สึกเสียวๆ สันหลังยังไงไม่รู้
ผมเดินทางสักห้าหกชั่วโมงก็ถึงบ้านย่า บ้านย่าเป็นบ้านไม้ มีหญ้าหน้าบ้านสวยมากๆ มีสวนด้านหลังเป็นสวนรวมทุกอย่างไว้ในนั้น
"ย่าสวัสดีครับ ป้าแหม่ม อาปั่น พี่ใหม่ หวัสสดีคร๊าบบบ"
ผมสวัสดีญาติพ่อที่อยู่ในบ้าน อาปั่นยังโสดอยู่ นี่คงมาเยี่ยมย่าเหมือนกัน พี่ใหม่เป็นลูกป้าแหม่ม ป้าแหม่มเป็นคนเฝ้าย่าที่นี่ครับ
"มาเหนื่อยๆ เอากระเป๋าไปเก็บป่ะลูกไป"
"คร๊าบบบ"
ผมเดินเข้าห้องที่พี่ใหม่เตรียมไว้ให้
เปิดตู้เอาไม้แขวนเสื้อมาเตรียมชุดไว้กลับบ้านพรุ่งนี่ ลื้อของหน้ากระเป๋ามาวาง
พอเปิดกระเป๋าดูผมก็ชะงัก ก่อนจะถดตัวไปข้างหลัง
ไอ้เชี่ยอะไรอยู่ในกระเป๋าผมว่ะ!!!
Tbc.
สุดท้ายก็ยังไม่ได้เปิดคอม
ขอโทษอีกครั้งที่ตอบคอมเมนต์ไม่ได้
เอางี้ ทิ้งคำถามไว้ถามดีกว่า เราจะทำไว้เป็นตอนพิเศษให้
อย่างให้ใครตอบเป็นพิเศษก็บอกไว้ด้วยเนอะ
ตอนนี้เป็นอีกครั้งที่เขียนนิยายไปก็ถามตัวเองว่าทำอะไรอยู่ว่ะเนี่ย
เขียนเองมึนเอง