☼ โอบตะวัน ☼ ตอนพิเศษ 02 (01/08/15) p.64 **แจ้งข่าว**
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนพิเศษ 02 (01/08/15) p.64 **แจ้งข่าว**  (อ่าน 550604 ครั้ง)

ออฟไลน์ nicksrisat

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 948
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 08 (02/05/15) p.14
«ตอบ #450 เมื่อ07-05-2015 16:48:06 »

เข้ามาอ่านรวดเดียวยาวๆเลยครับ พึ่งเข้ามาอ่านครั้งแรกเนื้อเรื่องชวนติดตาม รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ white feather

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 08 (02/05/15) p.14
«ตอบ #451 เมื่อ08-05-2015 20:17:20 »

ที่ชวนเพื่อนมาค้างด้วยแล้วให้อยู่ห้องเดียวกันเนี่ย เป็นแผนหรือเปล่าคะหนึ่งตะวัน
กะยั่วให้กฤชหึงหรือเปล่า จะได้รู้ตัวสักทีว่าคิดเหมือนกัน >\\]]<

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #452 เมื่อ09-05-2015 23:55:21 »

ตอนที่ 09


ความสับสนของผมยังอยู่ ไม่เลือนหายไปง่าย ๆ ไม่สามารถตกตะกอนจนแยกแยะดีเลว เหตุและผลใด ๆ ได้โดยสิ้นเชิง ท้ายที่สุดก็เลิกใส่ใจ หากแต่บ่อยครั้งก็แวบเข้ามาในหัวในช่วงเวลาที่ไม่ทันตั้งตัว

อาการของหนึ่งตะวันดีขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากเพื่อนชายคนสนิทแวะมาหา แต่เขายังคงไม่พูดกับผม อย่างมากก็ถามคำตอบคำ แม่กับป้าแวว รวมไปถึงไอ้โจ้เลิกถามแล้วว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ทุกคนเห็นเป็นปกติธรรมดา เหมือนนกที่บินออกจากรังไปหาอาหารยามเช้า เหมือนอุณหภูมิสี่สิบองศาในฤดูร้อนของประเทศไทย

ผมถอนหายใจ แบกแฟ้มรวบรวมค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนของไร่ตะวันฉายขึ้นชั้นสอง เคาะประตูเบา ๆ บิดลูกบิดเข้าไป เจ้าของห้องกำลังสาละวนกับการดูคลิปยูทูป สวมหูฟังขนาดใหญ่หน้าคอมพิวเตอร์ส่วนตัว

“ผมเอาเอกสารมาให้” ว่าพลางเดินไปหาหนึ่งตะวันพยักหน้าโดยไม่หันมามองผม “ขาเป็นยังไงบ้างครับ”

“เวลาเดินลงเต็มแรงยังเจ็บอยู่นิด ๆ แต่ไม่มาก ที่จริงก็ลงไปดูที่ไร่ได้แล้ว”

“อย่าเพิ่งเลยครับ ให้หายดีก่อน”

“อืม”

เป็นการตัดบทสนทนาอย่างที่เป็นมาหลายวัน ผมถอนหายใจ เดินมาซ้อนด้านหลัง วางมือทั้งสองข้างบนพนักพิงเก้าอี้ล้อหมุน

“เพลงที่เปิดบนรถวันนั้นนี่ครับ”

“อืม”

หนึ่งตะวันยังคงตอบผมเหมือนเดิม แต่ปิดเสียง เมื่อคู่สนทนาถอดหูฟังวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ผมก็หมุนเก้าอี้หนังให้หันมาเผชิญหน้า ส่วนตัวเองคุกเข่าลงคุยด้วย เนิ่นนานพอแล้ว เขาทำให้ผมอึดอัด ไม่มีเสียงของหนึ่งตะวันตวาดแหวคล้ายชีวิตขาดหาย การเงียบไปเลย หรือเมินใส่นับตั้งแต่อาหารมื้อนั้นก่อมวลความไม่ชอบใจขนาดมหึมาในใจเราทั้งคู่ ผมรู้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องสะสาง กวาดล้างให้สะอาด ไม่จำเป็นต้องรักกันกลมเกลียวแต่ไม่ใช่คาราคาซังความสัมพันธ์ปั้นปึ่งแบบนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด

แน่นอนมันไม่สิ้นสุดแน่ ถ้าผมไม่ใช่ฝ่ายพูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน

“คุณหนึ่งโกรธอะไรผม”

คู่สนทนาค้อนขวัก ตอบแทบจะในทันทีโดยปราศจากการใช้เวลาตรอง

“เปล่า”

“โกหก” ผมยกมือขึ้นมาคลายปมที่คิ้วของอีกฝ่ายแบบที่ไอ้โจ้ชอบทำกับตัวเอง ไอ้นั่นมันเด็กกว่าผม ใช้โอกาสความเป็นเด็กปีนเกลียวทำอะไรไร้มารยาท แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการสัมผัสเป็นวิธีบำบัดความเครียดอย่างหนึ่ง หนึ่งตะวันเบี่ยงตัวหลบ เม้มริมฝีปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง “ผมขอโทษก็ได้”

ในเมื่ออีกฝ่ายยังแข็งขืน หากผมไม่โอนอ่อนก็มีแต่หัก ด้วยวัยวุฒิ ด้วยตำแหน่งหน้าที่ การลดทิฐิของตัวเองลงก่อนก็ไม่เสียหาย ผมไม่ใช่คนคำนึงถึงเรื่องนี้เท่าไรนัก ลึก ๆ แล้วก็ยอมรับว่าตัวเองมีส่วนผิดที่จงใจยียวนอีกฝ่าย

“ขอโทษทำไม” คู่สนทนายังคงถามเสียงเข้ม ไม่โอนอ่อนตามง่าย ๆ

“ผมไม่อยากให้คุณหนึ่งโกรธ”

“แต่นายก็ทำ”

ผมถอนหายใจ ลึก ๆ แล้วก็รู้ว่าคุณหนึ่งโกรธเรื่องคุณแพท แต่หากให้พูดกันจริง ๆ ผมเองก็มีสิทธิ์โกรธเหมือนกัน ทั้งเรื่องที่ใช้คำพูดจาไม่น่ารัก ไหนจะเรื่องคุณพอร์ชที่อี๋อ๋อกันออกนอกหน้านั่นอีก

“คุณแพทแค่หยอกผมเล่น”

“ฉันไม่ชอบ”

“แค่บนโต๊ะอาหาร”

หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันเลย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เช้าวันถัดมาเมื่อเจอหน้าน้องสาวภูดิศก็แค่ยิ้มล้อ ไม่เหมือนเจ้าของบ้านกับพี่ชายคนดีที่ยังกระหนุงกระหนิงกันตลอดทั้งวัน ภูดิศเล่นเปียโนตัวนั้น ปลายนิ้วพลิ้วไหว แต่ห้วงทำนองบนโน้ตทั้ง 88 ตัวนั่นยังไม่สะดุดหูราวกับชวนให้คนฟังหลุดไปอีกมิติเช่นเจ้าของเครื่องดนตรีตัวจริง กระนั้น หนึ่งตะวันก็ยังนั่งฟังตาละห้อย ไม่รู้ถูกใจเสียงเครื่องดีดหรือคนดีดกันแน่

ผมกลืนคำที่อยากพูดเรื่องเหล่านั้นลงคอ ไม่รู้ว่าหากหยิบมาเป็นประเด็นผลที่ตามมาคืออะไร ถ้านายน้อยย้อนถามว่าทำไมผมถึงไม่ชอบใจภูดิศเท่าไรนักก็ยังไม่อาจหาคำตอบที่ถูกใจและสมเหตุสมผลให้ได้ กลับมาที่ประเด็นอันทำให้ผมกับหนึ่งตะวันไม่สามารถพูดคุยกันได้อย่างปกติเห็นจะเป็นเรื่องเดียวที่ควรพูดในเวลานี้มากที่สุด

“ผมไม่คิดว่าคุณจะโกรธขนาดนี้”

“สมควรโกรธไหมล่ะ รู้หรอกนะว่าชอบผู้หญิง แต่แพทเป็นน้องสาวของเพื่อนฉัน ฉันที่ชอ– ที่เป็นเจ้านายของนาย”

“คุณชนินทร์เป็นเจ้านายผม” เอ่ยล้อ ๆ เมื่อเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงจัด ผมรู้ว่าคำที่ขาดหายไปคืออะไร ซึ่งปฏิกิริยาแบบนี้ทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย ชุ่มฉ่ำในอก อธิบายได้ยาก

“คุณหึงผมกับคุณแพทเหรอ”

“เปล่า”

“โธ่ คุณหนึ่ง” เถียงออกมาได้ ทั้ง ๆ ที่แสดงออกมาชัดเจนขนาดนี้แท้ ๆ สีเลือดที่แล่นริ้วจากหน้าลามลงมาถึงลำคอ ผมยิ้ม อยากยีหัวอีกฝ่ายแต่ยังชะงักมือไว้ทันก่อนแก้ตัว “ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณแพท คุณแพทก็ไม่ได้ชอบผมจริง ๆ แค่แซวเล่นตามความคะนองปากเท่านั้นเอง”

“แพทชอบคนแบบนาย”

“แล้วคุณหนึ่งชอบคนแบบผมหรือเปล่า”

จบประโยค หนึ่งตะวันก็ทำหน้าตึง พยายามหมุนเก้าอี้กลับแต่ผมยังยึดไว้ในท่าเดิม เมื่อหลบลี้หนีไม่พ้น ชายหนุ่มก็นั่งหลับตาเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ผมหัวเราะ เขาตลก น่าขันและน่าเอ็นดูเหมือนเด็ก ๆ

“ถ้าชอบผมก็เลิกงอนกันเสียทีเถอะครับ ลืมตาหน่อยคุณหนึ่ง ถ้าอารมณ์ดีแล้วผมจะสอนงานให้”

“ไม่ต้องมายุ่ง จะไปไหนก็ไป”

“ไม่ให้ยุ่งได้ยังไงล่ะครับ” ผมว่าพลางแตะมือลงบนเข่าอีกฝ่าย หนึ่งตะวันยังหลับตานิ่ง ดวงตาใต้เปลือกตาขาวหลุกหลิกไปมา “ถ้าคุณหนึ่งเป็นงานแล้วจะเฉดหัวผมอย่างที่พูดเมื่อไรก็ได้ ขืนยังทำแบบนี้อยู่คุณเองนั่นแหละที่จะเสียผลประโยชน์นะ”

“ฉันเกลียดนาย”

หนึ่งตะวันย้ำ แต่ผมกลับฉีกยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่ายยอมลืมตาขึ้นมองหน้ากัน

“ผมทราบครับ” เมื่อจบประโยคนั้น หนึ่งตะวันก็หลับตาลงใหม่




ฝนไม่ตกหลายวันแล้ว นับจากคืนที่ภูดิศมาค้างด้วย แต่นายน้อยยังไม่ชินกับที่นี่เพราะบ่อยครั้งที่ยามย่ำรุ่งผมจะเห็นเงาตะคุ่มของร่างหนึ่งนอนสลบสไลคาเปียโนตัวเดิม

ทุกคืนเสียงเมโลดี้ดีดเมื่อปลายนิ้วเรียวจิ้มลงบนคีย์บอร์ดจะดังเป็นเพลงบ้างไม่เป็นบ้าง บ่อยครั้งจะเล่นเป็นบทเพลงเดิม Somewhere only we know ของ Keane มีเพียงพักหลัง ๆ ที่หนึ่งตะวันเริ่มบรรเลงบทเพลงใหม่ ผมยืนเท้าแขนอยู่ที่ริมระเบียง มองเข้าไปยังชั้นหนึ่งของบ้านหลังใกล้ ๆ กันที่เปิดไฟสว่างโร่ ในมือถือน้ำขิงอุ่น ๆ จิบขณะเพ่งสายตาลอดผ่านผ้าม่านเข้าไปด้วย

Please don’t see, Just a boy caught up in dreams and fantasies
Please see me, Reaching out for someone i can see…

“นายน้อยบรรเลงแต่เพลงเศร้า”

เสียงหวานของมารดาเรียกให้ผมที่ฮัมเพลงตามไปด้วยหยุดชะงัก หันไปโอบเอวหญิงวัยกลางคนให้มาอยู่ในอ้อมแขน ใช้คางเกยบ่าเล็ก ๆ ไว้ โยกตัวไปมาตามจังหวะเพลง โศกเศร้า เหงาหงอย เพรียกหา สะท้อนทุกความโดดเดี่ยวไว้ในอก กระนั้นก็ยากที่จะค้านว่าในความเจ็บปวดของถ้วงทำนองนั้นแฝงความรื่นรมย์ของรสดนตรีไว้

“ตั้งแต่ได้เปียโนแม่เลยมีเพลงฟังก่อนนอน”

“ไม่น่าสบายใจนักหรอกกฤช” หญิงคนเดิมกล่าว ถอนหายใจทิ้ง “นายน้อยน่าสงสาร”

“นายกฤชน่าสงสารกว่า มีแม่ แม่ก็รักลูกคนอื่น” ผมโยงเข้าเรื่องอื่น ชวนทำทีเป็นขำขัน แต่มิอสจดึงดูดความสนใจนั้นไปได้

“คนอื่นที่ไหน นายน้อยเป็นลูกของคุณชนินทร์นะ เขามีพระคุณกับเรามาก กฤชก็รู้” ผมเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนแม่จะเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของผมกับหนึ่งตะวัน “ช่วงนี้นายน้อยเกเรกับเรามากหรือเปล่า”

“นิดหน่อยครับ แต่น้อยลงมาก”

“กฤชต้องเข้าใจพี่เขานะ”

 เสียงดนตรียังบรรเลงคลอไปกับสายลมไม่หยุด ผมนึกภาพของนิ้วเรียวทั้งสิบและปลายเท้าที่กลับมาใช้งานได้อีกครั้งของหนึ่งตะวันยามทิ้งน้ำหนักลงไป แน่นอน มันอ้างว้างตามที่แม่บอก และมีเพียงคำพูดเท่านั้นที่ขาดช่วงไปเป็นพัก ๆ ของมารดาก่อนพูดต่อเมื่อเรียบเรียงประโยคได้ “นายน้อยไม่ได้วางใจแม่กับคุณชนินทร์เหมือนที่กฤชวางใจ เขาไม่ได้อยู่กับพ่อ เขากลัวตลอดว่าแม่จะแย่งคุณชนินทร์ไปจากเขา นายน้อยเสียคุณรุ้งไปตั้งแต่เล็ก ยากที่จะทำใจ”

“เรื่องมันนานแล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“กฤชความฝังใจไม่เกี่ยวกับระยะเวลาหรอก มันอยู่ที่ใจต่างหาก”

ผมเห็นด้วย แต่ไม่ใช่ทั้งหมด “ที่เขาไม่ชอบผมช่วงแรก ๆ อาจจะไม่เกี่ยวกับแม่ก็ได้”

“เด็กโง่ คิดว่าผู้ใหญ่ไม่มีหูมีตาหรือไง”

“แต่ตอนนี้เขาไม่ได้เกลียดแม่แล้ว...”

“เปล่าเลย นายน้อยยังไม่ชอบแม่เหมือนเดิมนั่นแหละ” หญิงวัยกลางคนกล่าว ทอดสายตาไปยังทิศเดียวกัน ไม่มีความขุ่นข้องหมองใจ มีเพียงความเมตตาเท่านั้นที่ฉายออกมาจากดวงจาคู่สวย “เขาแค่รักกฤชเท่านั้นเอง”

“แม่...”

“ดีกับนายน้อยให้มาก ๆ เข้าใจไหมกฤช ถ้าไม่ชอบพอกันอย่างที่เขาคิด ก็พูดจากันดี ๆ หรือถ้ามั่นใจแล้วก็คุยกับคุณชนินทร์ให้รู้ความ แม่อยากให้กฤชมีความสุข”

“ผมไม่ได้คิดอะไรกับคุณหนึ่งทั้งนั้นแหละครับ” ผมกระชับอ้อมแขนที่กอดหญิงคนเดิมไว้แน่น แม่ยิ้ม ไม่บอกว่าเชื่อหรือไม่ แต่ลูบหลังมือผมไปมาเบา ๆ

“ไปส่งคุณหนึ่งเข้านอนเถอะกฤช ดึกแล้ว”

“เขาเข้านอนเองได้น่า”

“แต่ไม่รู้จะยอมหลับกี่โมงกี่ยาม แม่เข้านอนก่อนดีกว่า กฤชก็คิดเอาเองว่าอยากจะทำยังไง”

ผมคลายแขนที่โอบกอดสตรีอันเป็นที่รักออก แม่เดินกลับเข้าไปในบ้าน ทิ้งไว้เพียงผมและบทเพลงlost star ในคืนที่ดวงดาวทอประกายทั่วทั้งท้องฟ้าสีกำมะหยี่ ผมไม่แปลกใจที่แม่ดูออก ความรู้สึกของหนึ่งตะวันชัดเจนจนไม่ว่าใครก็มองเห็น เขาชอบผม ชอบในฐานะชู้รักไม่ใช่น้องชายหรือคนงานคนสนิทอย่างที่ควรจะเป็น

เสียงเพลงบรรเลงยังดังเชื่องช้า ไม่นุ่มนวล ส่วนหนึ่งเพราะนั่นเป็นเพลงที่อีกฝ่ายเพิ่งแกะโน้ตได้ใหม่ แต่ยังคงสะกดหูให้ตกอยู่ภายใต้อำนาจของเพลงบรรเลงได้อย่างแยบยล ภายใต้เสียงที่ขาดห้วง ผมรู้สึกเหมือนหนึ่งตะวันเป็นเด็กน้อยหัดเดินเตาะแตะ พยายามเปล่งเสียงความอ่อนแอออกมาให้ดังที่สุด โอบกอดฉันเถิด ฉันเป็นเพียงดวงตะวันที่อยู่เพียงลำพังมาเนิ่นนานแล้วเท่านั้น

ผมเท้าแขนกับระเบียง ทอดสายตามองออกไป
ปล่อยสมองให้ว่างเปล่าและหลับตาลงเมื่อนึกถึงท่าทางคล้ายเด็กโยเยอยากได้ของเล่นของอีกฝ่าย




รุ่งสาง ก่อนพระอาทิตย์จะโผล่พ้นหุบเขาผมก็มาที่คอกม้าตามนัด ไอ้โจ้กำลังเก็บฟางเข้ากระบะ มาถึงก่อนผมสักระยะได้

“เมื่อคืนคุณหนึ่งเล่นเพลงใหม่”

ผมไม่แน่ใจว่าเป็นประโยคคำถามหรือบอกเล่า พยักหน้าส่ง ๆ “ที่บ้านเอ็งได้ยินด้วยเหรอ”

“เปล่าหรอก โจ้ออกมาคุยโทรศัพท์กับสาว แถวคอกม้าเนี่ย”

“มาไกลนะ”

“พวกนั้นชอบแซว” มันว่า “บอกโจ้คิดจะสอยดอกฟ้า ลูกสาวกำนันสร้อย คุณกฤชเคยเห็นไหม”

ผมพยักหน้า หน้าตาสะสวยแม้ไม่ประทินโฉม “ดูเรียบร้อยดี”

“ใช่ไหมล่ะ น่ารักมากด้วย เจอกันตอนไปซื้อปุ๋ยกับพี่คม” รอยยิ้มของคนมีความรักประดับบนหน้า ไอ้โจ้โคลงหัวไปมา หน้าขึ้นสีเล็กน้อย “โจ้ว่าโจ้มีหวังว่ะคุณกฤช”

“อืม” ผมตอบในลำคอ เปิดตู้เหล็กที่ตั้งไว้ด้านในสุดของคอกม้า อุปกรณ์ขี่ม้าครบชุดที่ไม่ได้หยิบมาใช้เนิ่นนานนอนสงบนิ่งรอวันใครสักคนพามันออกมาพบแสงตะวันใหม่ “เดี๋ยวเอาชุดขี่ม้าไปทำความสะอาดนะ สาย ๆ ข้าจะใช้”

“จะสอนนายน้อยขี่ม้าเหรอครับ”

“ดีกว่าปล่อยให้แอบมาฝึกเอง”

“ก็จริง” ไอ้โจ้ว่า “ผมห่วงคุณหนึ่ง รั้นเหมือนเด็ก ๆ”

“น่าปวดหัวใช่ไหมล่ะ” ไอ้โจ้พยักหน้า เป็นเรื่องที่ปฏิเสธได้ยาก “คุณพอร์ชเก่งมากที่เป็นแฟนกับนายน้อยได้ ท่าทางเอาแต่ใจเป็นเลิศ”

ผมเงียบเสียงไปเมื่อสมุนคนเก่งพูดถึงคนที่ผ่านมาให้ฟัง ผมเชื่ออย่างที่คุณแพทบอก ภูดิศกับหนึ่งตะวันมีความสัมพันธ์บางอย่างที่อธิบายได้ซับซ้อน ในห้องที่อยู่กันเพียงลำพัง คืนฝนตกที่ไฟถูกปิดลงก่อนฟ้าจะผ่าจนหม้อแปลงระเบิดเหมือนคืนที่ผมไปอยู่ด้วยเกิดอะไรขึ้นบ้าง แน่นอน ถ้ามันลึกซึ้งกว่าเพื่อนชายทั่วไปผมก็ไม่แปลกใจนักหรอก ที่สงสัยคือการที่คุณพอร์ชมาพูดแบบนั้นกับผมในช่วงหัวค่ำ

มันผิดวิสัยของคนคบหากันในเชิงชู้สาวมากไปหน่อย

“คุณกฤชเคยได้ยินเรื่องคู่เกย์ที่มักจะเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ หรือเปล่า ตอนแรกโจ้กลัวมากเลยว่านายน้อยจะเป็นแบบนั้นไหม ไม่เรียกว่ากลัวสิ ห่วงมากกว่า ยิ่งดูมีความอาทรกับคุณกฤชแปลก ๆ แล้วยิ่งกังวล แต่พอเห็นรักใคร่กันดีกับคุณพอร์ชค่อยวางใจหน่อย”

ไอ้โจ้ฉีกปากยิ้ม แต่กลายเป็นผมเองที่หุบปากฉับ “เขาก็มีความรักเหมือน ๆ เรานี่แหละเนอะ คุณกฤชเนอะ”

เสียงขูดครากของไม้กวาดทางมะพร้าวเมื่อลากกับพื้นซีเมนต์ดังแทนคำตอบ แสงเพชรกับแสงฟ้าคำรามเบา ๆ และบทสนทนาของผมกับไอ้โจ้ก็สิ้นสุดลง




ช่วงสายเมื่อตะวันเอียงทำมุมกับต้นไม้ผมก็กลับจากไร่โดยแวะคอกม้าอันดับแรก หยิบอุปกรณ์ขี่ม้าที่ไอ้โจ้ทำความสะอาด ผึ่งแดดไว้ให้ขึ้นหลังม้าสีขาว ควบออกมายังบ้านไม้เรือนใหญ่หลังเดิม

หนึ่งตะวันยังคงหมกอยู่ในห้องส่วนตัว ดูรายการผลผลิตและอ่านหนังสือเกี่ยวกับไร่องุ่นกองมหึมาที่ผมยกไปให้ แม่บอกว่าเขาขอแค่กาแฟแก่ ๆ กับข้าวต้มร้อน ๆ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ลงมาอีก

พักหลัง ๆ ในช่วงเช้าถ้าคุณหนึ่งไม่จำเป็นต้องเข้าไร่ผมก็จะปล่อยเขาไว้คนเดียว นอนให้เต็มตื่น หาความรู้เชิงทฤษฎีหลังจากรู้จักต้นไม้ใบหญ้าจริง ๆ พอสมควร นายน้อยไม่ว่ากระไร เขาใช้เวลานี้เรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก

“คุณหนึ่งครับ”

หลังจากเคาะประตูตามมารยาทผมก็ผลักเข้าไปด้วยความคุ้นชิน กาแฟบนโต๊ะดูเย็นชืด พร่องไปเพียงครึ่ง “ออกไปขี่ม้ากันไหม?”

“ตอนนี้?”

“เดี๋ยวลัดเลาะไปทางข้าง ๆ ไร่ ตรงนั้นถนนเรียบ ไม่มีคนสัญจร ท้ายไร่เป็นลำธารเล็ก ๆ ถ้าเหนื่อยคุณหนึ่งจะพักเท่าไรก็ได้ บรรยากาศร่มรื่น”

“มีลำธารด้วยเหรอ ไปสิ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายวาววับ ผมเผลอยิ้มเมื่ออีกฝ่ายกดเซฟหน้าจอแล้วปิดคอมพิวเตอร์

“แต่ต้องใส่อุปกรณ์ให้ครบนะครับ ถ้าหล่นลงมาจะได้ไม่เจ็บตัวมาก”

“ไม่หล่นแล้วมั้ง มีนายไปด้วย”

“ไม่แน่หรอกครับ” ผมบอก ถึงสนิทกับแสงเพชรเท่าไรก็ไม่อาจอ่านใจได้ เกิดเจ้าม้าแสนรักพยศหรือตื่นกลัวอะไรขึ้นมาผมเองก็ไม่อาจทำให้มันสงบได้ในทันที ทางที่ดีคือทำทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุดต่างหาก

“เอาน้ำตาลก้อนให้มันก่อนครับ ม้าจะได้เชื่อง”

“มันชอบเหรอ”

“ดูจะโปรดปรานเป็นพิเศษ”

คุณหนึ่งหยิบก้อนน้ำตาลก้อนที่ผมถือติดมือมาจากครัวป้อนม้าสีขาวปลอด มือเล็กแตะเบา ๆ บนสันจมูก ไล้ขึ้นไปด้วยความหลงใหล

“ฉันอยากขี่ม้ามานานแล้ว”

หนึ่งตะวันรำพึง รอยยิ้มหวานผุดขึ้นที่มุมปาก คุณหนึ่งสวมเสื้อเชิ้ต กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น สิ่งที่ผมเสริมให้คือหมวก หลังจากทุกอย่างครบชุดเรียบร้อยแล้วผมก็ยื่นมือหาอีกฝ่าย

“มาตรงนี้ครับ นี่เรียกว่าโกลน คุณหนึ่งเหยียบโกลน จับอานกับสายบังเหียนไว้ด้วย แล้วเหวี่ยงตัวขึ้นหลังม้าได้เลย” หลังจากสอนวิธีเบื้องต้นแล้วอีกฝ่ายก็ทำตามอย่างว่าง่าย นายน้อยปีนขึ้นไปบนแผ่นหลังของอาชาได้ในครั้งเดียวและนุ่มนิ่มจนแสงเพชรไม่มีทีท่าตกใจ

“นั่งหลังตรงครับ ให้หู ไหล่ และส้นเท้าอยู่ในแนวเดียวกัน ตามองไปข้างหน้า น่องแนบอยู่ที่ลำตัวม้า น่องกับบังเหียนจะเป็นตัวควบคุมทิศทางของม้า คุณหนึ่งต้องระวังตรงนี้ดี ๆ นั่งชิดหัวอานกว่านี้นิดครับ”

“ได้หรือยัง” เขาถาม ในเวลานี้หนึ่งตะวันดูสง่างามเหลือเกิน

“ครับ ใช้น่องกดน้ำหนักลง สลับข้าง ส่งเสียงกระตุ้นให้แสงเพชรเดินด้วย ถ้าจะเลี้ยวให้ดึงบังเหียนที่จะเลี้ยวเข้าหาตัว แนบขาข้างที่จะเลี้ยวไว้ข้างลำตัวม้า ส่วนอีกข้างก็เคาะเบา ๆ ที่ท้องม้า เอี้ยวตัวถ่ายน้ำหนักข้างที่จะเลี้ยว ส่วนถ้าจะหยุดให้ดึงสายบังเหียนให้สั้นลง ร้องว่าหยุด เอนตัวไปด้านหลัง อย่าดึงสูงหรือแรงไปจะตกม้าได้”

หนึ่งตะวันพยักหน้าหงึกหงัก ผมเดินเลียบข้างไปเมื่อนายน้อยเริ่มบังคับให้แสงเพชรเดินช้า ๆ

“เวลาที่คุณหนึ่งจะขี่ม้า อย่าเริ่มขี่ที่คอกม้าแต่เวลาขี่เสร็จต้องไปลงที่คอกม้านะครับ แล้วก็สังเกตปฏิกิริยาดี ๆ ด้วย ถ้าหูสองข้างแกว่งไปมาสลับกันแปลว่ากำลังอารมณ์ดี ถ้าลู่ไปด้านหลังคือกำลังโกรธ”

“แปลว่าเมื่อกี้มันอารมณ์ดีใช่ไหม”

“ครับ” ผมตอบพลางเดินเคียงไปด้วย หนึ่งตะวันไม่เร่งเร้า เขาค่อย ๆ บังคับให้ม้าเดิน ยังไม่ใช่วิ่ง “คุณหนึ่งต้องทำความคุ้นเคยกับเขามาก ๆ เช้า ๆ ผมจะพาเขาออกไปวิ่งด้านนอก ม้าจำเป็นต้องออกกำลังกายสม่ำเสมอ คนขี่ม้าเองก็ต้องมีกำลังร่างกายที่แข็งแรง”

“ฉันจะพามันออกมาวิ่งทุกวัน”

“ได้เท่าที่คุณหนึ่งอยากตื่นเลยครับ”

“หมายความว่าไง”

ผมหัวเราะ เงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่บนหลังอาน เกลียดจริง ๆ สิน่า เวลาที่ถูกดูแคลนไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม

“ไม่ได้หมายความว่ายังไงครับ ถ้าคุณหนึ่งตื่นมาขี่ม้าด้วยกันทุกเช้าก็ดี มีม้าสองตัวพอดี ผมจะได้ไม่ต้องสลับกันออกมาวิ่ง ไอ้โจ้ก็ไม่ชอบขี่ม้าเสียด้วย”

หนึ่งตะวันแก้มแดงนิด ๆ แต่สมาธิยังดี เขามองตรงไปข้างหน้า เตะน่องตัวเองกับท้องม้าเร่งความเร็วขึ้นเล็กน้อย

“แต่ห้ามมาขี่คนเดียวเด็ดขาดนะครับ คุณหนึ่งยังไม่คล่องพอ”

“รู้แล้วน่า” เสียงทุ้มรับคำตัดรำคาญ หลังจากนั้นเราก็ค่อย ๆ เดินกันไปเรื่อย ๆ รับสายลมแสงแดดของธรรมชาติกระทั่งไปโผล่ยังพื้นที่ชุ่มน้ำที่เป็นปลายทาง

“ไม่อยากจะเชื่อว่ามีที่แบบนี้อยู่หลังบ้านตัวเอง” นายน้อยตาโตเมื่อภาพตรงหน้าปรากฏ ไม่ใช่พื้นที่สวยงามจนสะกดสายตา หากแต่ค่อนข้างเหนือความคาดหมาย หนึ่งตะวันลงจากหลังม้าโดยการช่วยเหลือจากผม แสงเพชรถูกผูกไว้ใกล้ธารน้ำ สะบัดหางไปมาอารมณ์ดี

“เล่นน้ำได้ไหม”

“ไม่ได้เอาชุดมานะครับ”

“แต่น้ำมันน่าเล่นจริง ๆ นะ ใสแจ๋วเลย” หนึ่งตะวันถอดรองเท้ากับถุงเท้า หาที่นั่งใต้ร่มไม้เหมาะ ๆ แล้วยื่นขาลงไปแตะ รอยยิ้มสวยผุดขึ้นบนโครงหน้าในแบบของผู้ชายกลับทำให้มันดูน่ามองยิ่งกว่าครั้งไหน

“เย็นเจี๊ยบ”

“ใส่บ็อกเซอร์มาหรือเปล่าครับ ถ้าใส่มาก็ถอดเสื้อผ้าอย่างอื่นไว้แล้วลงไปเล่นน้ำได้ ขากลับจะได้ไม่เปียก”

“หา! ให้แก้ผ้าน่ะเหรอ ตลก”

“ถอดทั้งหมดเสียเมื่อไร อีกอย่าง ตอนทายานั่น–”

“สถานการณ์มันบังคับหรอก!” หนึ่งตะวันเถียงเสียงสั่น เบือนหน้าหนี “ใครอยากจะแก้ผ้าต่อหน้าคนที่...”

ผมเติมคำว่า’ชอบ’ของอีกฝ่ายในใจ เห็นแก้มเจือสีเลือดฝาดแล้วก็เผลอยิ้ม บ่อยครั้งที่ตัวเองเป็นแบบนี้ มีความสุขกับท่าทางเคอะเขินของคนตรงหน้า หนึ่งตะวันนิ่งเงียบ เชิดหน้ากลับไปอีกฟาก

“ถอดกางเกงขายาวก่อนแล้วเอาขาจุ่มก็ได้ครับ ใส่เสื้อกับบ็อกเซอร์ไม่ถือว่าโป๊หรอก”

ผมช่วยเสนอทางแก้อีกอย่าง ชายหนุ่มมีทีท่าคิดอยู่นาน ลังเลกว่าจะตัดสินใจ น้ำใสไหลเย็นและธรรมชาติอันเงียบสงบขับกล่อมให้หนึ่งตะวันยินยอมที่จะเปลื้องอาภรณ์อันเป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวเล่นในที่สุด เขาวางพาดกางเกงตัวนั้นบนเนินดินที่สูงขึ้นจากน้ำ แล้วตัวเองก็เดินย่ำไปบนพื้นแฉะกระทั่งน้ำท่วมมิดหัวเข่า

“เย็นมากกกก” หนุ่มวัย 29 ปีร้องออกมา เขาเดินไปบนก้อนหินในลำธารอย่างระมัดระวังก่อนไปหยุดนั่งที่โขดหิน ผมนั่งเล่นกิ่งไม้ใกล้ ๆ น้ำ มองอีกฝ่ายตื่นตาตื่นใจกับฝูงปลาเล็ก ๆ ที่ว่ายวนมาตอดผิวหนังเพลินตา

ใจหนึ่งนึกอยากลงไปว่ายเล่นด้วย กระโดดลงไปกลางน้ำ ฟัดนายน้อยให้ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน ทำเหมือนที่เพื่อนผู้ชายมักจะเล่น แม้ว่าผมจะห่างหายจากพฤติกรรมเหล่านั้นมานานแสนนาน

ครั้งหนึ่งผมก็เคยเป็นที่รักและเข้ากันดีในกลุ่มเพื่อน กระทั่งเจอพี่นุ่น เธอก็เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต นอกจากเรียนหนังสือ ดูแลไร่และแม่แล้ว สิ่งที่สำคัญกับผมก็มีเพียงพี่นุ่นเท่านั้น
กระทั่งผมสูญเสียเธอไป
ความสนุกสนานของวัยเด็กก็ถูกลบเลือนโดยไม่อาจย้อนหวนคืนมาได้ใหม่ คล้ายถูกจุดขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสดใสของคนตรงหน้า

“ไม่ลงมาเล่นด้วยกันเหรอ”

“ไม่ครับ” ผมตะโกนตอบ นายน้อยมุ่ยหน้าลงเล็กน้อยแต่ก็ก้มตัวลงไปวักน้ำขึ้นมาแตะแขนต่อ

“น้ำเย็นโคตร ๆ ไม่รู้จะอธิบายยังไงเลย เหมือนใส่น้ำแข็ง”

“คุณหนึ่งไม่เคยเล่นน้ำตกเหรอครับ”

หนึ่งตะวันส่ายหน้า เขายิ้มจนตาปิดแต่ประโยคที่พูดออกมากลับฟังแล้วหดหู่ “ฉันเที่ยวแค่ในกรุงเทพกับหอพักเท่านั้นแหละ อ้อ มีช่วงที่ได้เปิดหูเปิดตาตอนไปอังกฤษกับพอร์ชอีกสองปี แต่ไม่เหมือนที่ไทยหรอก อยู่นั่นก็หมกตัวอยู่กับเหล้ายา นายก็รู้ ไลฟ์สไตล์ของลูกคนมีเงินตามเมืองนอก”

“ไม่ดีเลย”

“ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะติดหรอก ลองเทคไปเรื่อย ไม่ได้พอร์ชคงกู่ไม่กลับเหมือนกัน” หนึ่งตะวันยังพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเหมือนเคย แต่ผมไม่เห็นดีเห็นงามไปด้วย ไม่เลยแม้แต่น้อย

“จากนี้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ไหมครับคุณหนึ่ง”

เขาหันหน้ามามองผม เราสบตากัน ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมโกรธอีกฝ่ายเมื่อรับรู้ถึงเรื่องราวที่ผิดเพี้ยนบิดเบี้ยวจากที่คิดเอาไว้แบบนี้

หนึ่งตะวันไม่ได้ขาวบริสุทธิ์อย่างที่วาดภาพไว้โดยสิ้นเชิง
มันไม่ใช่ความรู้สึกผิดหวัง แม้จะใกล้เคียงกันมากก็ตาม

“ผมเป็นห่วง”





TBC


เอะอะก็เป็นห่วง ๆ  เดี๋ยวให้พี่หนึ่งแปลงร่างเป็นลูกบาสลอดห่วงซักทีเลยนี่
ยังไม่คืบหน้าค่ะ อิกฤชยังงงไม่เลิก ขอเวลานางหน่อย ไปพูดใส่หน้าเค้าไว้ว่าไม่มีทางชอบผู้ชายด้วยกันให้เอะใจสงสัยตัวเองเดี๋ยวเสียฟอร์มหมดพอดี อดใจไว้ค่ะ นางเริ่มสับสนทางเพศแล้ว โถ ๆ
นี่มาลงพร้อมเด็ก58เปิดรับแอดมิดชั่นพอดีเลย ตอนนี้เค้าเรียกอะไรนะ แกทแพทไรไม่รู้ สับสนมาก ใครยื่นคะแนนปีนี้ขอให้โชคชะตานำพาไปสู่อนาคตที่ดีนะคะ วางแผนเลือกให้รอบคอบ ถามใจตัวเองดูว่าจะรับผลกรรมจากสิ่งที่เราก่อได้หรือไม่ (ฮาา) สิ่งที่เลือกวันนี้ชี้ชีวิตไปอีกนานค่ะ นี่ไม่ได้ขู่ เป็นผู้ประสบภัยโดยตรง กร๊ากกก

(ปล. แอบไปส่องแท็ก #โอบตะวัน ในทวิตเตอร์อยู่ค่ะ ตามไปกด Fav.เงียบ ๆ ถ้าเป็นการรบกวนขอโทษไว้ในที่นี้ก่อนเลยน้า)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-05-2015 12:15:04 โดย -west- »

ออฟไลน์ after.day

  • คนเดียวกับยูส afterday ค่ะ #แหะ
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 59
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #453 เมื่อ10-05-2015 00:03:43 »

พอร์ชอยู่ไหนนน  ไมไม่มีพอร์ชชช คุณภูดิสสสส
อดเห็นคนดิ้นแรงเพราะความหึงเลยย  :laugh:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #454 เมื่อ10-05-2015 00:12:30 »

สกิลภาษาไทยเราไม่แข็งแรง

อ้างถึง
“นายน้อยบรรยายแต่เพลงเศร้า”

ใช้บรรยายหรือบรรเลงคะ? หรือว่าในบริบทนี้ต้องใช้บรรยาย? ปกติถ้าเป็นภาษาพูดเราเคยใช้แต่ว่า เล่น

กฤชนี่ทำเอาคนอ่านงงตามนะคะ
นายน้อยอายุมากกว่าตัวเอง
นางก็มีชีวิตมาก่อนมาเจอตัวเองเหมือนกัน
ใจอยากให้นายน้อยซิงเหรอกฤช?

โจ้ออกมาทีไรขโมย ซีน จากกฤชทุกทีเลย

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #455 เมื่อ10-05-2015 00:23:53 »

หึงก็บอกว่าหึง ไม่ใช่บอกว่า ห่วง
เข้าใจมั้ยคะคุณกฤต

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #456 เมื่อ10-05-2015 00:25:47 »

สกิลการอ่อยยังแรงเสมอต้นเสมอปลายนะนายกริช
ชิชะ ทำมาหงุดหงิดกับอดีตของพี่หนึ่ง มันน่าหยิกให้เนื้อเขียว!

ออฟไลน์ chaoyui

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1143
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #457 เมื่อ10-05-2015 00:49:36 »

นี่หรอไม่ชอบเขา นายน้อยคิดไปไกลถึงดาวอังคารล่ะ

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #458 เมื่อ10-05-2015 00:56:45 »

นายน้อยพูดถึงพอร์ชมากเกินไปแล้ว เราเข้าใจว่าสนิทกันมากนะคะ แต่ว่าสนิทแบบไหนกันล่ะ? ไม่มีความชัดเจนเลย เราว่า..ถ้ายังเป็นแบบนี้ความรู้สึกของกฤชก็คงจะไม่เดินหน้าไปมากกว่านี้หรอกค่ะ เพราะสำหรับกฤชก็คงได้แค่คิดว่า ไม่อยากจะยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วเหมือนกับอดีตที่เคยผ่านมา + ความซึนส่วนตัวเข้าไปอีก หัวใจเลยเลือกที่จะปฏิเสธความรู้สึกจริงๆ ที่มีต่อนายน้อยไปเสีย ไม่อย่างนั้นป่านนี้กฤชคงจะรู้สึกตัวไปนานแล้วล่ะค่า~ :laugh:

ออฟไลน์ anchoviiz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #459 เมื่อ10-05-2015 01:05:08 »

โฮยยยยยยยยยยยย
แบบนี้เรียกให้ความหวังได้ป่ะเนี้ย
เอะอะหยอด ฝั่งนายเอกนั่นก็ไม่ต้องพูดถึง
ชอบอยู่แล้วหละให้เค้าหยอด

โฮยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
« ตอบ #459 เมื่อ: 10-05-2015 01:05:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Coaramach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 185
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #460 เมื่อ10-05-2015 01:20:24 »

เอาให้พี่กฤชแกสบสนยิ่งกว่านี้เลยค่ะ
แหมะ! คำก็หน้าที่ คำก็เป็นห่วง โถ่... พ่อพระเอก

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #461 เมื่อ10-05-2015 01:26:03 »

ขยันห่วงจริ๊งงงง  o16

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #462 เมื่อ10-05-2015 01:40:11 »

เป็นคุณแม่ที่เข้าใจอะไรง่ายดี

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #463 เมื่อ10-05-2015 01:42:54 »

บรรยากาศรอบตัวสองคนนี้เวลาดีๆ กันคือฟินมากกก ถ้าหากนังกฤชจะสำนึกตัวได้เร็วๆ จะฟินกว่านี้มากกก บางทีก็อยากเอาไม้เรียวมาตีกฤต ทำดีกับนายน้อยสารพัด แต่พูดว่าไม่ได้รักไม่ได้ชอบ ชิ สงสารนายน้อยยย สิ่งที่เองทำน่ะ มันเลยขั้นของคำว่าชอบแล้วย่ะ

โอ้ยยยย อยากอ่านต่อแล้วค่ะ เร่งวันเร่งคืนเลยได้มั้ยยยย

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 459
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #464 เมื่อ10-05-2015 01:45:04 »

จริงๆแล้วกฤชอ่อยๆมากเลยนะ  เดี๋ยวก็มีมาคุกเข่าขอโทษ 

เดี๋ยวก็ชวนขี่ม้าด้วยกันทุกเช้า  นี่มาเล่นน้ำตกก็ยังมาบอกว่าเป็นห่วงอีก        ถ้าหนึ่งตะวันจะคิดไกลไปจนย้ายกาแล็คซี่ได้เลยก็คงไม่แปลก      ชอบแม่กฤช คุณแม่ดูออกด้วย แถมสนับสนุนอีกแน่ะ
ปรบมือๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #465 เมื่อ10-05-2015 02:06:22 »

เริ่มเบื่อกฤชนิดๆแหละ
นายน้อยก็เขินไปสิ
อิกฤชก็มีแต่หยอด เซ็ง

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #466 เมื่อ10-05-2015 04:49:35 »

สนุกมากครับบบบบ

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #467 เมื่อ10-05-2015 05:17:19 »

นายน้อยน่ารักขนาดนี้ คงซึนได้ไม่นานหรอก 5555

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #468 เมื่อ10-05-2015 06:45:21 »


ติดเรื่องนี้มากถึงมากที่สุด

เวลาอ่านเนี่ยไม่อยากเลื่อนลงมาเจอ TBC เลย

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #469 เมื่อ10-05-2015 07:14:07 »

 :mew1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
« ตอบ #469 เมื่อ: 10-05-2015 07:14:07 »





ออฟไลน์ oss_tw

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #470 เมื่อ10-05-2015 07:16:57 »

 :laugh:

โถ...น้องกฤช ยังมึนกับตัวเองอยู่

รอต่อไป อิอิ

  o13

ออฟไลน์ NOoTuNE

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +317/-15
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #471 เมื่อ10-05-2015 07:55:55 »

ดีๆให้มันสับสนมากๆ เวลารู้ตัวจะได้ถอนตัวไม่ทันอิอิ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #472 เมื่อ10-05-2015 08:13:44 »

อ่อยกั๊กๆ อยู่นั่นแหละกฤช

ออฟไลน์ GlassesgirL

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1038
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-2
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #473 เมื่อ10-05-2015 08:17:45 »

โถๆๆ กฤชเอ้ย เป็นห่วงนายน้อย หรือหึงนายน้อยกันแน่จ้ะ 5555
เมื่อไรจะยอมรับสักทีว่าชอบนายน้อยเข้าให้แล้ว เป็นห่วงเขามากขนาดนี้
รู้ตัวและยอมรับหัวใจตัวเองให้ได้เร็วๆก็ดีนะ จะได้ดูแลและเติมเต็ม
ความรู้สึก ความรักที่นายน้อยรู้สึกขาดไปได้ โอบกอดนายน้อยหนึ่งตะวันไว้
แม่ของกฤชคือดีงาม แม่รู้แม่เห็น และแม่เชียร์ 55555 ชอบๆคุณแม่
แล้วโจ้นี่คือพูดให้กฤชหึงเล่นๆ หรือพูดจากใจจริง แอบสงสัย 5555
นายน้อยยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลย แต่แอบสงสารนายน้อยนะ
คงรู้สึกอ้างว้างโดดเดี่ยว และต้องการความรักมาเติมเต็มสินะ
แต่อีกไม่นานนายน้อยคงไม่รู้สึกแบบนั้นอีกแล้วล่ะ เพราะคนๆหนึ่งกำลังเริ่มหวั่นไหวขั้นสุด ฮาาาา

 :mew1: :L2:

ออฟไลน์ pedchara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #474 เมื่อ10-05-2015 08:26:18 »

กฤษตนี่มีแต่ความเป็นห่วงให้  ส่วนหนึ่งก็เหงาๆนะ ถ้าอิกฤษตเลิกงงๆได้ก็ดี  หนึ่งดูโดเดี่ยวจนน่าสงสารเลยบางที

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4339
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #475 เมื่อ10-05-2015 08:29:08 »

เอาไรมาง้างปากพระเอกดี ปากแข็งม้าก ขนาดแม่ยังรู้ โจ้นี่คือฮา แหย่ตลอด พอเขาพูดเรื่องคุณหนึ่งเป็นแฟนกับพอร์ช
อีตากฤชถึงกับหุบปากฉับ ตลกกกกก ขี้หึงนะเราอ่ะ
ชอบตอนไปง้อกัน ดูท่านั่งง้อ นี่มันแฟนกันแล้ว ชอบตอนคุณหนึ่งหลับตา ไม่อยากฟัง น่ารักมาก
พระเอกมีคิดว่าจะลงไปฟัดเขาในลำธารด้วยค่ะ ฮั่นแน่~~~~

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4015
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #476 เมื่อ10-05-2015 09:21:50 »

นายน้อยต้องทำให้มันรัก ให้มันหลง ให้มันเสน่ห์หาแต่น้อยน้อยเพียงคนเดีว หมันไส้นังกฤชมากกกกกกกกก

ออฟไลน์ kautumn

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #477 เมื่อ10-05-2015 09:59:36 »

อีตาพระเอกยังคงอึนไม่หายระวังคุณหนึ่งตะวันตะโดนคนอื่นคาบไปแดกนะเออ

ออฟไลน์ ichnuan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 163
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #478 เมื่อ10-05-2015 10:23:21 »

เบื่อคนชอบให้ความหวังงงง
จะงงในตัวเองอีกนานมั้ยอิกฤชชชช
อยากกระโดดลงไปฟัดกับนายน้อยก็รีบไปเร็ววว
ขาขาว ๆ น้ำเย็น ๆ อดใจไงไหวฟร่ะะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1586
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
Re: ☼ โอบตะวัน ☼ ตอนที่ 09 (10/05/15) p.16
«ตอบ #479 เมื่อ10-05-2015 10:31:28 »

อยากให้นายน้อยเข้มแข็ง

อยากให้มีเพื่อนใหม่ที่จริงใจและไม่หวังผลประโยชน์ เข้ามาหานายน้อย

เอาคนที่มีเวลามาเทคแคร์ เอาคนที่มีเวลามาใส่ใจ เอาคนที่ไม่รังเกียจนิสัยและพร้อมจะตามใจนายน้อยคนเดียว

เอาคนที่เห็นคุรค่าในความเป็นคุณหนึ่งอย่างเต็มหัวใจ ได้ใหม ไม่เอาคุณกฤช ที่ทำตามหน้าที่ ไม่เอาคุณกฤช ที่แคร์แค่

เพราะนึกถึงบุญคุณ ไม่เอาคุณกฤชที่พูดกับทุกคนที่ถามอยู่ตลอดเวลาว่าไม่คิดเกินเลยกับคุณหนึ่ง  ไม่เอาคุณกฤช

 ที่มองว่าคุณหนึงเป็นแค่เกย์ ที่เปลี่ยนคู่เปลี่ยนคนมีเซ็กส์ได้ไม่เลือกหน้าแบบที่ไอ้โจ้มันพูดให้ฟัง

ส่วนคุณพอร์ช ที่แสดงออกมาแบบนั้นเพราะต้องการเป็นแค่เพื่อนคุณหนึ่งใช่ใหม

ถ้าต้องการเป็นแค่เพื่อนคุณหนึ่ง คุณก็จงเป็นแค่เพื่อนนั่นแหละดีแล้ว

โปรดส่งคนมารักคุณหนึ่งที สงสารเธอ ต้องอยู่กับคนที่เธอรักแต่เขาไม่รักเธอ น่าสงสารเธอจัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด