Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]  (อ่าน 287707 ครั้ง)

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
รอตอนต่อไปค่าาาาาาาา

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รออ่านต่อออ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
ทำไมนายท่านตอนเด็กน่ารักจัง แตกต่างกับ...เอ่อ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
*เหมือนเดิมจ้า ตอนนี้กองตรวจยังไม่ว่าง ไว้ตรวจจะลงซ้ำนะ
Part12 นายท่าน

   ผมปั่นจักรยานมือเดียวจนถึงบ้าน เห็นวัตยืนชะเง้อคอมองอยู่ตรงประตูรั้ว พอเห็นผมก็รีบเปิดประตูให้เข้าไปจอดก่อนมองสิ่งที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างสงสัย

   “พี่เอาตัวอะไรมานั่น”

   “ลูกแมว ในตู้เย็นมีนมไหม เอามาให้มันกินหน่อย”

   “มีนมจืดอยู่ น่าจะใช้ได้”

   วัตผงกหัวรับถือขวดน้ำจิ้มไปเก็บในตู้เย็นแล้วเอานมอกมารินใส่จานเล็กให้ลูกแมว ส่วนผมหาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำทำความสะอาดเพราะชักจะทนกลิ่นไม่ไหว ก่อนจะปล่อยให้กินนม

   “วัตดูมันก่อนนะ พี่ขึ้นไปอาบน้ำแปบ ไม่ไหว กลิ่นขยะเหลือรับจริงๆ”

   น้องชายหัวเราะไม่เห็นใจพี่ชายคนนี้เลยสักนิด ผมใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน พอลงมาเห็นวัตอุ้มเจ้าตัวเล็กพร้อมถือหลอดค่อยๆ ป้อนนมให้กิน ใกล้กันนั้นมีกองผ้าสำหรับให้ลูกแมวนอน นับวันน้องชายผมชักเป็นแม่ศรีเรือนขึ้นทุกที ถ้าเจ้าตัวไม่แสดงว่าแมนเต็มร้อย ผมคงเข้าใจผิดว่าน้องตัวเองเริ่มจะโตเป็นสาว…

   “ใส่จานมันไม่กินเหรอ” ผมร่วมวงไปนั่งยองๆ ดูลูกแมวด้วย

   “สงสัยมันกินจากจานไม่เป็น พรุ่งนี้คงต้องซื้อขวดนม”

   ส่งเสียงตอบรับในคอ พอเห็นว่าลูกแมวท้องอิ่มนอนขดกลมอย่างเป็นสุข ถึงเวลาที่พวกเราหาอะไรใส่กระเพาะบ้าง หม้อถูกเปิดอีกครั้งรอจนกระทั่งน้ำซุปเดือด

   เวลากินสุกกี้ทุกคนจะมีวิธีกินของตัวเอง บางคนใส่ไปกินไป บ้านผมนี่ใส่ทุกอย่างรวดเดียวแล้วปิดฝารอมันสุก คราวนี้ผมเลยจัดการเทเนื้อผักจนเกือบล้นหม้อ ตีไข่ราดปิดท้ายแล้วปิดฝาโดยมีน้องชายมองอึ้งๆ

   “พี่หิวขนาดนั้นเลย”

   “มาก พี่ยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เที่ยง เอาข้าวสวยมาด้วย หุงไว้รึเปล่า”

   วัตส่ายหัววืด

   “ไม่อะพี่ อยู่คนเดียวแค่สุกกี้หม้อหนึ่งก็อิ่มแล้ว อ๊ะ แต่มีข้าวเย็นนะ ผมอุ่นให้แปบ”

   น้องชายไม่ได้กลับมาพร้อมข้าวสวยร้อนๆ อย่างเดียว มีพริกกระเทียมสับสำหรับใส่น้ำจิ้มมาด้วย ผมยกนิ้วโป้งให้ รอมันสุกก็เริ่มโซ้ยแหลก อยู่ที่บ้านไม่ต้องห่วงมาด กินไปพูดไปสบายใจ เราทั้งคู่สลับกันเล่าเรื่องที่ตัวเองเจอมาในช่วงที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

   ผมฟังเพลินๆ เห็นน้องยิ้มมีความสุข ผมก็รู้สึกดีไปด้วย ความจริงมีแมวมาเลี้ยงก็ดีเหมือนกันนะ เวลาที่ผมทำงานไม่อยู่ วัตจะได้ไม่เหงาอยู่บ้านคนเดียว แต่ยังไงก็ต้องถามความเห็นน้องก่อน

   “พี่จะเลี้ยงแมวตัวนี้ วัตว่าไง”

   เจ้าตัวนิ่งคิดไปชั่วครู่ คีบหมูใส่ปาก ตามองลูกแมวตัวจ้อยที่กำลังนอนบนกองผ้าอย่างเรียบร้อย สัตว์ที่ถูกเก็บมาได้มักจะสงบเสงี่ยมเจียมตัว คงเพราะรู้ตัวดีกว่ากำลังได้รับความเมตตา ต้องทำตัวน่ารักเข้าไว้ จะรู้นิสัยกันจริงๆ คงหลังจากคุ้นเคยกันแล้ว

   “ผมไม่มีปัญหาหรอก แต่ว่าลูกแมวเขาเลี้ยงกันยังไง”

   “…”

   เกิดความเงียบปกคลุมโต๊ะอาหาร เหลือเพียงเสียงเดือดปุดๆ ของน้ำซุป ผมมองซ้าย มองขวา เงยหน้า ก้มหน้า เออนั่นสิ ลูกแมวมันเลี้ยงกันยังไงนะ ยังไม่หย่านมด้วย

   “ไว้หาเอาในเน็ตแล้วกัน” คำตอบไม่สมกับตัวคนพูด ทำเอาวัตมองด้วยความแปลกใจ

   “เหลือเชื่อ มีเรื่องที่พี่วินไม่รู้ด้วยเหรอเนี่ย ไม่สิ พี่วินรู้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างทำอาหาร...”

   “พอ! พี่ก็คนนะเฟ้ย ไม่ใช่เทพมาจากไหน มันก็ต้องมีเรื่องที่รู้และไม่รู้แหละ”

   เสียงหัวเราะของน้องชายในยามนี้ ไม่ให้ความรู้สึกดีซะแล้วสิ เท้ากระตุกหมั่นไส้อยากถีบน้องตกเก้าอี้ยังไงชอบกล วัตรับรู้ถึงรังสีอันตราย รีบคีบเต้าหู้ปลาใส่ถ้วยเอาใจผม เห็นแก่ที่น้องบริการจะยอมปล่อยไปก่อนก็ได้ ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็อย่าหวัง

   อิ่มอร่อยกับสุกกี้ ผมช่วยน้องเก็บกวาดแล้วมานั่งเปิดมือถือหาวิธีการเลี้ยงลูกแมวในเน็ต ผมดูไม่ออกซะด้วยสิว่ามันอายุเท่าไหร่กันแน่ เลยพิมพ์หาหัวข้อแมวยังไม่หย่านม ขึ้นวิธีการเลี้ยงดูมาเป็นพรืด หลักๆ สิ่งที่ควรทำคือพาแมวไปตรวจสุภาพ

   ผมมองนาฬิกา เวลาป่านี้สัตวแพทย์อาบน้ำตีพุงนอนกันหมดแล้วมั้ง พวกเปิด 24 ชั่วโมงก็มีนะ แต่มันไกลเกินไปเสียเวลา มองลูกแมวยังปกติดีไว้ค่อยพาไปตรวจพรุ่งนี้

   เรื่องนม ควรจะเป็นนมแพะ แม่งไม่มีอีกตามเคยแถมกินนมวัวไปซะพุงกลม เอาไว้ค่อยแวะซื้อของจำเป็นหลังจากหาหมอแล้วกัน ผมนั่งพิมพ์รายการที่ต้องซื้อทิ้งไว้ในมือถือเหล่มองเจ้าก้อนขนสีขาวเป็นระยะ สักพักกลิ่นอะไรตุๆ โชยมาเพ่งมองดีๆ

   “วัต!! ทำไมมันถ่ายเหลวล่ะ ปกติหมาแมวมันถ่ายเป็นก้อนไม่ใช่เหรอ”

   ผมตาโตรีบผุดลุกจากโซฟาไปดูลูกแมว วัตได้ยินเสียงผมวิ่งออกมาจากครัวส่ายหัวพัลวัน

   “ไม่รู้เหมือนกันพี่ เอาไงดี มันยังเล็กมากด้วยจะเป็นอะไรรึเปล่านะ”

   “วัตดูมันที พี่หาในเน็ตแปบ!”

   “พี่ มันร้องใหญ่เลย”

   “เอานมยัดปากมัน”

   “เฮ้ย ลูกแมวนะไม่ใช่เด็กอ่อน พี่อย่าเอานิสัยที่ทำกับผมตอนเด็กมาทำกับแมวสิ อีกอย่างเราไม่มีขวดนมสักหน่อย”

   ผมหันขวับมองน้องชายทันที วัตรู้ได้ยังไง ตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งจะอายุไม่กี่เดือนเอง เรื่องมันมีอยู่ว่าผมกำลังเล่นเกมติดพันอยู่กับชิน แม่ไปซื้อของทำมื้อเย็นเลยฝากผมดูแลน้อง เจ้าวัตร้องไห้ ผมก็ยัดขวดนมให้อย่างเดียว ครั้งไหนหมดก็นั่งชงเอง จนแม่บ่นว่าผมให้น้องกินนมเยอะเกินไป ถึงได้เลิกนิสัยเอะอะยัดขวด

   “รู้ได้ไงน่ะ? ใครบอก??” ปากถามแต่มีคำตอบอยู่ในใจ

   “พ่อบอก” ไม่ผิดจากที่คาดเดาสักเท่าไหร่ เพราะชินไม่ทรยศผมชัวร์ เอาไว้ค่อยคิดบัญชีตอนกลับบ้านช่วงหยุดยาวแล้วกัน

   “พี่ อย่ามัวแต่คิดแผนชั่วร้าย ตกลงหาได้ยังว่าเจ้าเหมี้ยวมันเป็นอะไร”

   โดนน้องทักท้วง ผมเลยต้องงมหาในเน็ตต่อ ข้อมูลมีเยอะแต่พวกใช้งานได้จริงแทบไม่มี แล้วยังเวลานี้อีก ทำอะไรไม่สะดวกสักอย่าง คืนนั้นผมกับวัตเลยหัวหมุนกันอยู่ในบ้าน เจ้าเหมียวก็ร้องไม่หยุด ไม่ได้นอนกันทั้งคืน

   พอเช้าคลินิกเปิดปุ๊บ ผมก็บึ่งรถพาลูกแมวไปหาหมอทันที เรียกได้ว่ามาช่วยหมอเปิดคลินิกกันเลยทีเดียว เป็นผมเองก็ตกใจนะ เพิ่งตื่นกำลังเตรียมเปิดประตู เจอผู้ชายหัวทองตาเทาสายพันธุ์แพนด้าสองคนเกาะกระจกโคตรหลอน

   “หมอตรวจดูอาการแล้วนะครับ น้องแค่อ่อนแรงเพราะไม่ค่อยได้กินอะไร ส่วนเรื่องถ่ายเหลวเป็นเรื่องปกติของลูกแมวที่ยังไม่หย่านม แต่ก็ไม่ควรจะชะล้าใจ คอยเฝ้าดูอาการด้วย หากถ่ายมีเลือดปน หรือกลิ่นสีผิดปกติต้องรีบพามาหาหมอ”

   เวลานี้ผมกับน้องชายพากันพยักหน้าหงึกหงักกันอย่างพร้อมเพรียงเบื้องหน้าคุณหมอรุ่นพ่อ โดยมีเจ้าเหมียวตัวสั่นอยู่บนเตียง พวกสัตว์ทุกตัวไม่ว่าจะพันธุ์ไหนคงเห็นคลินิกไม่ต่างจากโรงเชือด ถึงได้ดูหวาดกลัวตื่นตระหนกไปหมด

   “แล้วเรื่องวัคซีนล่ะครับ” พอเห็นหมอส่งเจ้าตัวเล็กให้วัตผมเลยถามด้วยความแปลกใจ ปกติมันต้องฉีดวัคซีนกันโรคต่างๆ ไม่ใช่หรือ

   “อ่อ น้องยังเด็กเกินไป ต้องรอให้โตกว่านี้ก่อนถึงจะฉีดวัคซีนได้”

   “ฉีดได้ตอนไหนเหรอครับ” ฝ่ายน้องชายเริ่มถามบ้าง

   “2 เดือนก็ฉีดได้แล้วล่ะ จากที่หมอดูน่าจะสัก 3 สัปดาห์ พวกคุณไม่รู้วิธีเลี้ยงใช่ไหม ไหนๆ ก็ไหนๆ ช่วงเช้าไม่ค่อยมีคนผมจะสอนพวกคุณแล้วกัน”

   เสนอมาแบบนี้ ผมไม่ปฏิเสธ ขอบคุณหมอไปหลายรอบแล้วนั่งฟังอย่างสงบ มีวัตคอยจดรายละเอียดลงในมือถืออยู่ข้างๆ อันไหนซื้อจากคลินิกได้ผมก็ซื้อ อย่างนมแพะสำหรับสัตว์อ่อน ขวดนมเป็นต้น นอกนั้นต้องแวะร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงก่อนกลับ

   ผมไม่ได้เห่อนะ แค่ซื้อเบาะนอน ตะกร้าแมวแบบบุผ้านุ่มๆ ถาดพร้อมทรายแมว จานใส่อาหารสำหรับอนาคต ปลอกคอ ของเล่นและอื่นๆ วัตยืนอุ้มเจ้าเหมี้ยวมองผมอย่างอึ้งๆ

   ซื้อของเสร็จผมพาวัตไปส่งที่บ้านพร้อมเอาของลงทั้งหมดแล้วขับรถเข้าบริษัทเลย เราแบ่งเวรกันว่าช่วงกลางวันวัตจะเป็นคนดูแล ส่วนผมคอยดูตอนกลางคืน ลูกแมววัยนี้ไม่ได้กินนมสามเวลาแบบคน ให้เปรียบคงเหมือนเด็กทารก ที่ต้องคอยให้กินสม่ำเสมอในปริมาณที่พอเหมาะ เนื่องจากระบบทางเดินอาหารเขายังทำงานได้ไม่เต็มที่

   ช่วงนั้นผมเลยเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับบริษัท ระบบทุกอย่างก็เริ่มคงที่แล้ว ทำให้งานของผมลดลงด้วย จึงไม่เป็นปัญหาสักเท่าไหร่ แลกกับออร่าความหล่อของผมที่ลดลงไปเล็กน้อยตามขอบตาดำคล้ำ

   ขณะที่ผมกำลังเช็คงานรอบสุดท้าย บรรดาลูกสมุนทั้งหลายกลับพร้อมใจกันโผล่มาหาถึงห้อง

   “หัวหน้า เข้าใจว่าคิดถึงท่านรอง แต่ก็ไม่ควรหักโหมนะคะ” พี่มะลิพูดด้วยความเป็นห่วงในฐานะตัวแทนน้องๆ ในแผนก

   ผมเลิกคิ้วมอง “พูดอะไรน่ะ ฉันไม่ใช่พวกอ่อนหัดแบบนั้นสักหน่อย” เอาที่ไหนมาพูดว่าผมคิดถึงชินจนโหมทำงานหนัก เวลานี้มีอย่างอื่นที่ผมสนใจมากกว่า

   “อ้าว งั้นทำไมหัวหน้าถึงโทรมนัก รู้ไหมสภาพหัวหน้าตอนนี้ทำให้พนักงานตั้งแต่ชั้นล่างสุดยันชั้นบนพากันตื่นตกใจหมด” วายุถามอย่างสงสัย ผมโคลงหัวตอบไปตามตรง

   “พอดีฉันเพิ่งเก็บลูกแมวแรกเกิดมาเลี้ยงน่ะ ผลัดเวรกับน้องช่วยดูแลตอนกลางคืน เช้าตื่นมาทำงาน สภาพเลยเป็นอย่างที่เห็น เรื่องชินความจริงฉันลืมตอบข้อความหมอนั่นมาเกือบอาทิตย์แล้ว พวกนายมาทักนี่แหละถึงค่อยนึกออก”

   “หะ..โหยร้าย ทั้งๆ ที่ท่านรองทำเพื่อหัวหน้าแท้ๆ”

   วาโยยกสองมือปิดปาก ดวงตาคู่งามสั่นไหว ยิ่งรวมกับรูปร่างและเรือนผมที่ปล่อยยาวสยาย บางครั้งผมยังเข้าใจผิดว่ามีผู้หญิงมาเดินเล่นในแผนก ส่วนพี่มะลิถือเป็นกรณียกเว้นแล้วกัน

   “อย่าเศร้าใจไปเลยน้องพี่ หัวหน้าเป็นใครพวกเราย่อมรู้ดี เขาเป็นถึงซาตานเชียวนะ” วาโยดึงแฝดน้องมาซบทั้งที่ตัวสูงพอๆ กัน ผมชักสงสัยแล้วว่าตกลงสองคนนี้มันเป็นโปรแกรมเมอร์หรือนักแสดงฮอลลีวูด

   โป๊ก!

   มะเหงกจากองครักษ์พิทักษ์เจ้าหญิงจัดลงหัวแฝดตัวป่วนพลางพูดปรามด้วยสีหน้าจริงจัง

   “พวกนายพูดบ้าอะไรกัน หัวหน้าเป็นเทพบุตรต่างหาก! ภายในใจต้องอ้างว้างเจ็บปวดเรื่องที่คุณชินไม่อยู่แน่ๆ เลยรับลูกแมวมาเลี้ยงดูแลอย่างดีเพื่อลดความรู้สึกนั่นลงไปบ้าง”

   ท่าทางมั่นอกมั่นใจไม่ได้สังเกตเลยว่าทุกคนภายในห้องมองด้วยสายตาแบบไหน หากบอกว่าเจ้าแฝดเป็นนักแสดง อัคคีคงเป็นนักเขียนบท! เจริญจริงลูกน้องผม

   “จะยังไงก็แล้วแต่ ฉันว่าหัวหน้าน่าจะพักบ้างนะคะ ประเดี๋ยวล้มหมอนนอนเสื่อไปจะยุ่งเอาแล้วอย่าลืมติดต่อชินกลับเดี๋ยว คงจะเป็นห่วงจนอยู่ไม่สุขแล้ว” พี่มะลิเลิกสนใจตัวตลกทั้งสามกลับเข้าประเด็นอีกครั้ง สมกับที่อายุเยอะที่สุดในแผนก

   “เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้างั้นฉันจะส่งเรื่องขอวันหยุดสักวันสองวัน ระหว่างนั้นถ้ามีเรื่องด่วนติดต่อได้ตลอดนะ ผมขอตัวไปคุยงานกับบันก่อน”

   ผมโบกมือลาทุกคน ยื่นมือขยี้ผมเจ้าแฝดจนยุ่งอย่างจงใจ แล้วปล่อยให้พวกมันโวยวายใส่อัคคีด้านหลัง ก่อนขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของบัน

   จากเริ่มต้นกันสมัยเรียนมหาลัย มาถึงตอนนี้บันอยู่ในตำแหน่งสูงขึ้น มีห้องส่วนตัวน่าอิจฉา รออีกหน่อยไม่พ้นตำแหน่งประธานเป็นแน่ อนาคตผมถึงได้รู้ล่ะว่า มีเพื่อนเป็นประธานบริษัทนี่ดีจริงๆ จะเคลื่อนไหว จะทำอะไรก็สะดวก ขอแค่มีเหตุผลเพียงพอและไม่ส่งผลเสียต่อบริษัทก็พอ

   ผมยิ้มทักทายเลขาสาวหน้าห้อง เธอยิ้มรับมองด้วยสายตาเคลิบเคลิ้มลุกขึ้นผายมือเชิญผมเข้าไปด้านใน เพราะผมแจ้งมาก่อนล่วงหน้าแล้ว

   ภายในห้องเปิดแอร์เย็นฉ่ำ สิ่งแรกที่เห็นคือโต๊ะทำงานติดตั้งเครื่องฉายภาพสำหรับใช้แทนคอมพิวเตอร์ นับว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่บริษัททำขึ้น ใกล้จะเปิดตัวแล้วเหมือนกัน สงสัยมันจะเอามาใช้เป็นหนูทดลองก่อน ด้านหลังโต๊ะทำงานติดกระจกบานใหญ่ที่ภายนอกไม่สามารถมองเข้าเห็นภายในได้ แต่ด้านในเห็นวิวสวยงามชัดเจน ยิ่งตอนกลางคืนตึกน้อยใหญ่เปิดไฟคงราวดับทะเลดวงดาว

   ทางด้านซ้ายเป็นชั้นหนังสือ ความจริงสมัยนี้ในเมืองหลวงเขาอ่าน e-book กันหมดแล้ว แต่บันมันชอบสัมผัสกับกลิ่นกระดาษเลยยังมีชั้นหนังสือตั้งอยู่ ฝั่งขวาเป็นโซฟาชุดสำหรับรับรองแขกและเป็นที่นอนเจ้าของห้องอย่างในเวลานี้...

   “เฮ้ย นอนอู้แบบนี้หมายความว่าไง เอกสารที่ฉันส่งให้นายได้เปิดอ่านรึยัง”

   ผมใช้เท้าเขี่ยด้วยความเคารพคนให้เงินเดือน บันผุดลุก หนังสือที่ปิดหน้าร่วงลงไปกองบนพื้นดังตุบ เงยหน้าขึ้นมองผมอย่างเชื่องช้า ผมดีดนิ้วตรงหน้าปลุกให้มันตื่นจากภวังค์

   “วินเองเหรอ ขออีกห้านาที ฉันไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว” ทำท่าจะทิ้งตัวขนาดหมีลงไปนอนต่อ ผมใช้ขาเหยียบบนโซฟากักไม่ให้มันนอน

   “มันก็พอกันล่ะวะ อย่ามาทำสำออย”

   เทนงูทำหน้ายุ่ง จำต้องยอมลุกบิดขี้เกียจกดปุ่มบอกเลขาให้เอากาแฟดำเข้ามาสองแก้ว ก่อนจะมานั่งประจำตำแหน่งพยายามวางมาดทั้งที่หัวฟู เสื้อยับเพราะนอนเมื่อครู่

   พวกเราเริ่มคุยกันแบบสบายๆ ผ่านไปไม่กี่นาทีกาแฟก็เข้ามาพร้อมเลขาสาวที่ยิ้มหวานหยดให้กับผม ผงกหัวให้บันเล็กน้อยแล้วออกจากห้องไปอย่างรู้มารยาท

   “นายจงใจหว่านเสน่ห์ใส่เลขาฉัน ฉันจะฟ้องชิน” อีกาหัวรังนกบ่นอุบอิบ

   “เชิญเลยตามสบาย รีบคุยธุระเร็วๆ ฉันจะได้กลับบ้านสักที” นั่งไขว่ห้างจิบกาแฟ เมินเฉยเสียงนกกา

   “รีบกลับบ้าน? หรือว่านายจะซุกกิ๊กไว้ที่บ้านจริงๆ มิน่าล่ะช่วงนี้ชินถึงส่งข้อความว่าโวยกับฉัน หาว่าฉันให้งานนายเยอะจนไม่มีเวลาติดต่อไป แสดงว่านายมัวแต่ติดกิ๊กสินะ!!”

   ดวงตาคมเหลือบมองหางตาอย่างเหยียดหยาม บันลูบจมูกหัวเราะแหะๆ ไม่กล้าคุยเล่นอีก เปิดประเด็นเข้าเรื่องสำคัญแทน อุตส่าห์หาเรื่องผ่อนคลายแท้ๆ แต่วินที่ไม่มีชินอยู่ด้วยช่างดุร้ายซะเหลือเกิน

   ด้วยความที่เข้าใจกันดี ทุกอย่างเลยลงตัวไม่ต้องเสียเวลาถกให้มากความ ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็สรุปงานเสร็จเรียบร้อย แต่บันไม่ยอมปล่อยผมไปง่ายๆ พอผมทำท่าจะลุกยังจะเรียกเอาไว้อีก

   “เดี๋ยวก่อนๆ ใจเย็นพ่อคุณ ถามจริงทำไมนายไม่ติดต่อชิน ทางนั้นร้อนใจจนเพื่อนร่วมงานแทบจะมองหน้าไม่ติด”

   ตัวมันอยู่นี่ ยังมีหูตารู้เรื่องราวของชาวบ้าน สายข่าวบันดูถูกไม่ได้จริงๆ เจ้าบริษัทลูกนั่นคงมีคนของทางนี้ปะปนอยู่ไม่น้อย...ผมหรี่ตาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

   “ฉันมัวดูลูกแมวที่เพิ่งเก็บมาได้ เลยลืมชินไปซะสนิท”

   บันฟังผมมองตาปริบๆ ก่อนจะระเบิดหัวเราะดังลั่น หากชินได้ยินคงไม่พลาดที่จะถีบมันปลิวเป็นแน่

   “ขำอร่อยจริงนะนาย ฉันขอลาหยุดสองวัน มีเรื่องด่วนค่อยติดต่อมา เรื่องเอกสารขอหยุดฉันส่งให้นายแล้ว”

   “ฮ่าๆ ดะ...ได้ จะไปเลี้ยงแมวสินะ พรืด ซาตานนอกใจจิ้งจอกไปหาแมวแล้ว ก๊ากกก!” ปล่อยให้มันหัวเราะสะใจคนเดียว คงจะคับแค้นใจมาก ที่ผ่านมาถูกชินแกล้งปั่นหัวตลอด

   ธุระก็คุยเสร็จแล้ว วันหยุดก็ขอเรียบร้อย ผมเดินตัวปลิวฮัมเพลงกลับบ้าน ขับรถมาเจอวัตถือถุงผักเดินอยู่แถวซอยเข้าบ้านพอดี เลยรับน้องชายกลับบ้านไปด้วยกัน คงจะแวะตลาดเอาตอนขากลับจากมหาลัย

   สิ่งแรกที่ผมทำหลังเปิดประตูบ้านถือ ถลาไปหาเจ้าลูกแมวตัวน้อยเพื่อเช็คดูว่ายังอยู่ดีมีสุขรึเปล่า เพราะลูกแมวในวัยนี้เปราะบางมาก ต้องการความเอาใจใส่ อุ้งเท้านุ่มนิ่มสีชมพูยกยันหน้าผมขณะประคองเจ้าตัวจ้อยมาแนบแก้ม บ่งบอกความรำคาญ

   ผ่านไปแค่หนึ่งอาทิตย์ก็ออกลายซะแล้ว ปรับตัวเร็วจนน่าหมั่นไส้ นึกถึงตอนที่ผมกับวัตช่วยกันตั้งชื่อแล้วก็ขำ พวกเราพี่น้องเถียงกันหน้าดำหน้าแดงว่าจะให้มันชื่ออะไร

   “ผมว่ามันตัวขาวขนปุย ชื่อสำลีสิเหมาะ”

   “ไม่เอา ชื่อนั่นมันเกล่อ ชื่อชินดีกว่า” ผมพูดจบ วัตหันขวับ

   “พี่จะตั้งชื่ออะไรก็ได้ แต่พี่จะเอาชื่อพี่ชินมาตั้งให้แมวไม่ได้นะ! ไว้พี่เลี้ยงจิ้งจอกค่อยใช้ชื่อนั้น”

   เราสองคนมองหน้ากันก่อนจะพากันหัวเราะพรืด ป่านี้จิ้งจอกบางตัวคงจะจามสนั่นแล้วมั้ง ระหว่างนั้นเจ้าเหมี้ยวคงทนเสียงพวกเราไม่ไหว เลยแสดงจุดยืนของตัวเอง ด้วยการพยายามปีนป่ายสุดชีวิตไปบนกองผ้าส่วนที่สูงที่สุด(มากกว่าเดิม 2 เซ็น)แล้วเชิดหน้าร้องเสียงเล็กแหลม พวงหางจิ๋วตบปุๆ ท่าทางเริ่ดเชิดหยิ่งแต่เล็ก

   “ทำตัวเหมือนคุณนายหัวสูงแบบนี้ ให้ชื่อคุณหญิงซะดีไหม”

   ผมส่ายหัวกับความคิดวัต

   “มันเป็นตัวผู้นะ ใช้ชื่อนั้นน่าสงสารแย่”

   นิ่งคิดกันไปชั่วครู่ ชื่อหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ทำตัวมีอำนาจ เป็นตัวผู้ งั้นชื่อ...

   “นายท่าน!!”

   สองเสียงประสาน ลงมติเป็นเอกฉันท์ นับตั้งแต่วันนั้นมา เจ้าเหมี้ยวก็มีชื่ออันแสนไพเราะเพราะพริ้งว่านายท่าน ขณะที่วัตกำลังทำมื้อเย็น ผมเล่นกับแมวหยิบมือถือมาอ่านข้อความนับสิบฉบับจากชิน แล้วส่งกลับไปสั้นๆ ว่าผมไม่ว่างเลี้ยงลูกแมวอยู่ พร้อมแนบรู้เซลฟี่ของผมกับนายท่านเป็นการเย้ยหยัน

   ไม่กี่นาทีต่อมา จิ้งจอกต่างแดนโทรเข้ามา ผมเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจ ปกติถ้ามักจะวีดีโอคอลกันมากกว่า อันนี้โทรมาแค่เสียงแฮะ

   “ไง จิ้งจอกหัวเน่า” ผมทักขำๆ ชินส่งเสียงฮึในคอ

   /เราก็เป็นห่วงไปสิ ที่ไหนได้ นอกใจไปหาแมว!/ แม้จะบ่นแบบนั้น แต่น้ำเสียงแสดงออกชัดเจนว่าโล่งใจแกมยินดีที่ได้ยินเสียงผม หลังจากห่างหายกันไปนาน

   “รีบกลับมาเร็วๆ เข้า ไม่งั้นบ้านนี้จะไม่มีที่ของนายแล้วนะ”

   /ทำเป็นพูดไป ไว้ฉันคอยกลับไปทวงตำแหน่งที่หนึ่งในดวงใจของนายคืนก็ได้/ ผมเค้นเสียงเหอะอย่างหมั่นไส้

   “มั่นใจจริงนะ ทางนั้นเป็นไงบ้าง ทำไมไม่วีดีโอคอลล่ะ ไม่สะดวก?”

   /ก็เรื่อยๆ ถือว่าทำงานไวอยู่ ตอนนี้มีคนอื่นอยู่ด้วย ฉันไม่อยากให้ใครเห็นนาย เกิดพวกนั้นหลงใหลนายขึ้นมาฉันก็แย่สิ/ วาจาคล้ายหยอกเล่น เชื่อเถอะว่าชินหมายความอย่างงั้นจริงๆ

   “พยายามเข้า ฉันรอนายกลับมาอยู่” ตอนพูดประโยคนี้ ผมไม่รู้หรอกว่าตัวเองทำหน้ายังไง วัตมาแซวตอนหลังนั้นแหละ ว่าผมทำหน้าได้อ่อนละมุนมากกก ถ้าชินเห็นคงจะรีบกลับมาทันที

   /ฉันจะรีบเคลียร์งานแล้วกลับไปให้เร็วที่สุด แค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องเข้าทำงานต่อแล้ว/

   ผมรับคำในคอ ยอมเป็นคนกดตัดสายเองไม่อย่างั้นชินไม่ยอมวางแน่ ดวงตาสีเท้าจ้องหน้าจอดำมืดสักพักแล้วหันกลับไปเล่นกับลูกแมวต่อพยายามลบความรู้สึกลึกๆ ที่เผยออกมา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-05-2016 14:29:02 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
*ตรวจคำผิดจะลงซ้ำจ้า
Part13 Come Back

   หลังจากวันนั้น ผมใช้วันหยุดพักผ่อนอยู่กับบ้านสองวันเต็ม เช้าวันถัดไปเข้าบริษัท ตกเย็นกลับบ้านกินข้าวกับน้องชายแล้วดูแลแมว ผมไม่ขอบรรยายช่วงเวลาระหว่างนั้นก็แล้วกัน เพราะว่ามันธรรมดาซะจนไม่มีอะไรน่าสนใจ ที่เห็นจะพิเศษคงมีแค่เรื่องนายท่าน กินจุโตวันโตคืน เผลอแปบเดียวจากตัวเล็กแค่ฝ่ามือก็ตัวใหญ่จนต้องใช้สองมืออุ้มซะแล้ว พร้อมกับความหยิ่งที่มากขึ้นตามวัย ผลจากการถูกผมและวัตตามใจจนเสียแมว

   เดี๋ยวนี้ ผมไม่ได้ติดต่อชินผ่านทางโทรศัพท์อย่างเดียว พอเกมทางนู่นเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พวกเราก็ใช้เวลาว่างเข้าไปเจอกันในเกม ร่วมผจญภัยไปด้วยกัน เก็บเลเวล เกรียนใส่คนอื่น คอยดูว่าผลตอบรับของผู้เล่นเกมเป็นอย่างไรบ้าง ส่วนบันกำลังเตรียมตัวเป็นประธานคนใหม่ เวลาเล่นเกมเลยน้อยลงไปด้วย นานๆ ครั้งจะโผล่มาแจมปาร์ตี้กับพวกผม

   โดยส่วนตัวแล้ว ผมได้เห็นเกมที่ตัวเองสร้างกับตา เกิดเป็นความภาคภูมิใจถึงที่สุด ยิ่งเห็นรอยยิ้มของผู้เล่น ความมีชีวิตชีวา ถึงจะมีเรื่องน่ารำคาญ จากพวกผู้เล่นแย่ๆ บ้างแต่นั่นก็เป็นสีสันของเกม โลกเสมือนจริงที่เปิดกว้างให้ทุกคน ทุกเชื้อชาติเข้ามาสัมผัสกับความหัศจรรย์ของมัน

   ในที่สุด ความฝันของพวกเราทั้งสามคนก็เป็นจริง ครั้งก่อน เรายืนอยู่บนยอดผาของเกมอื่น คราวนี้เรายืนอยู่บนต้นไม้ที่เห็นภาพโดยรวมมากที่สุด ผู้เล่นใหม่กำลังตีมอนสเตอร์อยู่ในทุ้งหญ้ากว้าง ชาวเมืองที่เป็นพนักงานบริษัทให้คำแนะนำ เสนอขายสินค้าเริ่มต้นกันอย่างคึกคักภายในเมือง

   พวกที่ได้รับคำสาปมีปีกพากันบินอยู่เต็มน่านฟ้า ประสานงานกับผู้เล่นภาคพื้นดิน มีทั้งชายหญิงหลากหลายเผ่าพันธุ์ สกิลจากอาวุธต่างๆ และจากเวทมนต์เป็นประกายสวยงาม สุดสายตานั้นมีผืนน้ำกว้างสีครามจรดขอบนภาสีฟ้ากระจ่าง สมกับเป็นโลกแฟนตาซีในความฝัน

   “เฮ้อ เห็นแบบนี้แล้วบรรยายไม่ถูกเลยแฮะ ว่ารู้สึกยังไง” ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของบัน ความรู้สึกมันเต็มตื้อในอก ยากจะบรรยายเป็นคำพูดจริงๆ

   “ไม่ต้องบรรยายซะก็จบ อย่างนายมันไม่เหมาะกับอะไรที่มันละเอียดอ่อนหรอก”

   วาจาเหน็บแนมจากจิ้งจอก ไม่ระคายผิวอีกาที่สำเร็จวิชาหูทวนลม

   บนยอดไม้ใกล้เมืองเริ่มต้นปรากฏเงาร่างของชายสามคน ผู้ที่อยู่ทางซ้ายคือจิ้งจอกหนุ่มสวมชุดยูกาตะสีดำเช่นเดียวกับสีขน พวงหางทั้งสามส่ายไปมาตามอารมณ์ ส่วนด้านขวาเป็นร่างสูงใหญ่ของเทนกุที่ใส่ชุดแหวกแนวไม่สมเผ่าพันธุ์ บนแผ่นหลังมีปีกสีดำเหลือบเขียวขยับน้อยๆ คล้ายอยากจะโบกจิ้งจอกให้ร่วงตกต้นไม้

   ตรงกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองคน คือเทพบุตรซาตานที่หลายคนกล่าวขานถึง เขาสวยโค้งไปด้านหลัง เรือนผมสีทองลับใบหน้าปานรูปสลักประดับรอยยิ้มชวนลุ่มหลง ปีกสีขาวคล้ายจะทอประกายจางๆ ยามต้องแสงแดด ดวงคาคมคู่งามแสดงถึงความพึงพอใจอย่างปิดไม่มิด

   พวกเราอาศัยดวงตาที่ดีกว่ามนุษย์ธรรมดาหลายพันเท่าในการสำรวจโดยรอบ ชื่นชมบรรยากาศ

   “ฉันว่าพวกนายเอาเวลาทะเลาะกันไปคิดดีกว่า ทวีปต่อไปจะสร้างแบบไหนดี” เทพบ้างานพูดดักศึกจิ้งจอกปะทะอีกาที่กำลังปะทุอยู่ด้านหลัง

   “โห่ ยังไม่ทันไรนายคิดจะหางานเพิ่มอีกแล้ว! อย่างน้อยๆ รอชินกลับมารองมือรองเท้านายก่อนก็ดี ฉันยังไม่อยากเห็นลูกสมุนในแผนกของนายตายเกลื่อนนะ” คำนี้ไม่เกิดจริงแต่อย่างใด บันเคยเข้าไปเห็นด้วยตาตัวเองมาแล้ว ช่วงที่งานยุ่งมากๆ แผนกของวินแทบจะเปลี่ยนพนักงานเป็นซอมบี้ ไม่เว้นกระทั่งหัวหน้าแผนก เล่นเอาบันผงะ มองด้วยความหวาดผวา

   “อีกไม่กี่วันก็จะกลับมาแล้วนี่ ใช่ไหม” ผมพูดพลางหันไปทางชิน เจ้าตัวยิ้มรับ

   “ใช่ ทางนี้ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ฉันจะได้กลับไปหานายสักที”

   “พวกนั้นไม่รั้งตัวไว้เรอะ” บันถามทีเล่นทีจริง ในความคิด มั่นใจไปเกือบเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ว่าคนพวกนั้นต้องทำชัวร์ ที่ไหนได้ จิ้งจอกหนุ่มแสยะยิ้มโชว์เขี้ยวคมทำหน้าเหี้ยม

   “ลองพวกนั้นรั้งฉันไว้สิ หึหึ”

   เสียงหัวเราะเย็นจัดซะจนบันไม่กล้าถามต่อเลยว่าเจ้าตัวจะทำยังไง

   “ไว้นายกลับมาค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ ตอนนี้รีบไปเก็บระดับกันต่อเถอะ พวกเราใช่ว่าจะมีเวลาว่างเยอะ” อีกสองคนพยักหน้าเห็นด้วย พากันลงจากต้นไม้ด้วยวิธีของตัวเอง ชินกระโดดเหยียบกิ่งต่อกิ่ง ตัวเบาอย่างกับแมว ผมบินร่อนลงไปอย่างนุ่มนวล บันทิ้งตัวลงดื้อๆ ก่อนกางปีกตอนช่วงท้ายเพื่อชะลอจนถึงพื้น

   คงเพราะพวกเราเลือกตำแหน่งแลนดิ้งกันดีไปหน่อย ยืนอยู่กลางวงระหว่างมอนสเตอร์หนอนชาเขียวกับกลุ่มปาร์ตี้แถวนั้น ทุกคนพากันมองตาโตอ้าปากค้าง โดยเฉพาะชายผมทองที่ดูสว่างไสวที่สุด เพื่อป้องกันความวุ่นวาย ผม บัน หลบจากจุดนั้นไปสมทบกับชินหลังแนวไม้ เร้นกายหายไปจากแถวนั้น

   ภายหลังมีคนป่าวประกาศว่าเจอเหล่าบอสแรร์เป็นเทพปีศาจ พร้อมสมุนเทนกุและปีศาจจิ้งจอก เกิดเป็นเสียงฮือฮากันในกลุ่มผู้เล่น ทุกคนพยายามตามหาด้วยความอยากรู้อยากเห็น หารู้ไม่ ตัวต้นเรื่องทั้งสาม ขลุกอยู่ในดันเจี้ยนไม่รู้เรื่องใดๆ ทั้งสิ้น

   พอเคลียร์ดันจบ พวกเราจำต้องแยกย้ายเพื่อไปทำงานของตัวเองต่อ ระดับเพิ่มคนละนิดละหน่อย คาดว่าหากมีเวลาว่างเยอะๆ จะลุยเก็บแบบให้ตายกันไปข้าง

   ผมลืมตาขึ้นภายในห้องนอนของตัวเอง ใกล้ได้เวลามื้อเย็น ได้ยินเสียงน้องชายตะโกนเรียกจากชั้นล่าง พอเปิดประตู กลิ่นหอมของอาหารโชยมาถึงชั้นบน เรียกน้ำย่อยดีนักแหละ กินข้าวที่ไหนไม่อร่อยเท่าฝีมือแม่กับน้องชายจริงๆ ให้ตายสิ

   “อ้าว มาแล้วเหรอพี่ ผมกำลังจะขึ้นไปตามอยู่พอดี” วัตค้างท่าขึ้นบันไดผมกอดคอน้องชายมาที่โต๊ะอาหาร ซึ่งจัดวางทุกอย่างเรียบร้อยพร้อมกิน ส่วนนายท่านกินของตัวเองอยู่ในห้องครัว

   “จริงสิ พี่ชินกลับมาวันไหนครับ”

   “อีกสามวันก็กลับมาแล้ว ถามแบบนี้ จะไปรับกับพี่เรอะ”

   วัตส่ายหัวทำหน้าเซ็ง

   “ก็อยากนะ แต่ผมติดเรียนอะ วิชานี้โดดไม่ได้ด้วย อดไปเอาของฝากเลย”

   ผมวางช้อนดีดหน้าผากไปที

   “ให้มันน้อยๆ หน่อย ต่อให้ไม่ไปรับ ชินมันก็ต้องเอาของฝากมาให้ถึงบ้านอยู่แล้ว” ผมมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์เลย เจ้าตัวบ่นๆ อยู่ว่าอยากเจอคู่แข่งหัวใจ อีกอย่าง ชินเองก็รักวัตไม่น้อยกว่าผมหรอก กลับมาทั้งทีต้องอยากเจอหน้าน้องชายอยู่แล้ว

   เอาเข้าจริง พวกเราสองพี่น้องไม่มีใครได้ไปรับชินทั้งคู่ ไม่ใช่ว่าผมติดงานด่วนจนลืมนะ ชินทำตัวเองต่างหาก

   เสียงนาฬิกาปลุกยามเช้า บ่งบอกว่าผมควรจะรีบตื่นเพื่อเตรียมตัวไปรับเพื่อนวัยเด็กที่สนามบิน หากไม่ได้ยินเสียงข้างหู พร้อมสัมผัสหนักที่พาดตัวผมอยู่ ดวงตาสีเทาเปิดขึ้นเหลือบมองข้างกาย...

   “ยังเช้าอยู่เลย ปิดนาฬิกาให้หน่อย” เสียงอู้อี้ เนื่องจากเจ้าของซุกหน้าอยู่กับหมอนนุ่ม ผมตอบสนองด้วยการหยิบกาฬิกาปลุกมาจ่อข้างหูคนหลับ ถ้ายกผ้าห่มคลุมโปง ผมก็จะสอดนาฬิกาเข้าไปใต้ผ้าห่ม ทำทุกวิถีทางเพื่อก่อกวนไม่ให้อีกฝ่ายได้นอน

   สุดท้ายคนขี้เซาเริ่มทนไม่ไหว ยื่นมือปัดป่ายหมายจะปิดนาฬิกาปลุก เรื่องอะไรที่ผมจะยอมให้ปิดง่ายๆ ยกหลบไปมากระทั่งมือมาบนตำแหน่งไม่ควร

   หมับ ผัวะ!

   “จับอะไรของเอ็งวะ!!”

   ฝ่าเท้ายันโครมจนแขกไม่ได้รับเชิญร่วงลงไปกองบนพื้นห้อง เจ้าตัวตะกายขึ้นมาเกาะขอบเตียง ยิ้มเผล่ทั้งที่ตาปรือ

   “Good morning SWEET HEART” เสียงติดแหบเน้นคำจนน่าหงุดหงิด อีกฝ่ายอาศัยจังหวะที่เจ้าของห้องเผลอ คว้าหลังคอให้ก้มลงมาหา จูบปากดังจุ๊บ “Morning kiss จ๊ะ”

   “Morning kiss งั้นเหรอ... อรุณสวัสดิ์ไอ้จิ้งจอกเวร! เสนอหน้ามานอนเตียงฉันได้ยังไงฮะ!! แล้วไหนบอกว่าเครื่องลงสิบโมงไง”

   ผมกระโดดลงพื้นยกเท้าเหยียบจิ้งจอกรัวๆ ชินหัวเราะเสียงดัง ยิ่งยิ้มหวานเมื่อเห็นว่ามุมปากผมเองก็ยิ้มอย่างยินดี มือหนาลูบขาหวิดจะโดนผมก้านคอ หากไม่เกิดเหตุการณ์ต่อจากนี้ ฝ่ามือประคองบรรจงจูบหลังเท้าก่อนเงยหน้าสบนัยน์ตาพราวระยับ

   “กลับมาแล้วท่านซาตาน”

   ผมชักเท้ากลับ อารมณ์ขุ่นเคืองที่อีกฝ่ายมาไม่บอกปลิวหายเป็นปลิดทิ้ง ย่อตัวลงคุกเข่าคว้าอีกฝ่ายเข้ามากอด ชินลูบหลังผมเบาๆ

   “ยินดีต้อนรับกลับมา”

   “อื้ม คิดถึงนายจัง เพราะแบบนี้แหละฉันถึงรีบมาไวกว่ากำหนด”

   “เลยแอบย่องเข้าบ้านกลางดึกเพราะไม่อยากปลุกให้วัตตื่น และเนียนมานอนกับฉันสินะ” ผมต่อประโยคอย่างรู้ทัน พอผละออก สองมือประคองหน้าอีกฝ่าย ชินยังเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไรหนวดจางๆ ผมใช้นิ้วโป้งถูเล่น นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เห็น เพราะชินเป็นคนที่ดูแลตัวเองดีอยู่เสมอ นี่คงจะโหมทำงานเพื่อเร่งเวลากลับมา

   “อะแฮ่ม!”

   เสียงกระแอมหน้าประตู ไม่ทำให้เราผละออกจากกัน ดวงตาสองคู่มองผู้มาเยือนที่ยืนกอดอกหน้าขึ้นสี

   “ขอโทษทีที่มาขัดฉากหวานของพวกพี่นะ พอดีผมเห็นของในห้องนั่งเล่นกับกระเป๋าเดินทางเลยวิ่งขึ้นมาดู เอ่อ...เอาเป็นว่าพวกพี่เชิญต่อกันตามสบาย ผมขอลงไปทำมื้อเช้าก่อน พวกพี่ไม่ต้องรีบลงมาก็ได้นะ ผมจะเก็บอาหารไว้ให้”

   วัตพูดรัวสีหน้าเคอะเขิน เกาหัวแบบไม่รู้จะวางมือที่ไหนดี แม้จะเห็นมาตั้งแต่เด็ก ถึงงั้นฉากหวานแผ่ออร่าสีชมพูพริ้งขนาดนี้น้อยนักจะได้เจอ สุดท้ายเลยกดล็อกประตูปิดให้อย่างดี ต่างคนต่างหมดอารมณ์จะหวานต่อ ชินลุกขึ้นยื่นมือมาดึงให้ผมลุกตาม

   “วัตคงดีใจที่นายกลับมา”

   “ฉันรู้ แล้วนายล่ะ ดีใจมากรึเปล่า” จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ยิ้มใส่ตา

   “หึหึ”

   ผมไม่ตอบ แค่หัวเราะเสียงต่ำในคอลากคอมันเข้าห้องน้ำไปกระชับความสัมพันธ์ให้หายคิดถึง รอดูอะไรกัน ผมไม่ให้ดูหรอก

   เรื่องราวหลังจากนั้นก็อย่างที่ทุกคนรู้กัน ชินกลับมาทำงานตามเดิม เราสร้างทวีปใหม่ขึ้นตามที่วางแผนกันเอาไว้เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้เล่น รวมถึงอัพเดตอะไรใหม่ๆ อีกมหาศาล ต่อให้เป็นนักเล่นเกมมืออาชีพ ใช้เวลาเป็นปีก็สืบเสาะหาสิ่งที่ซ่อนไว้ไม่หมด

   พอวัตขึ้นปีสามก็เข้ามาเล่นเกมที่ผมกับชินสร้างพร้อมกับไวไว พบเพื่อนใหม่อย่างลินผู้มีความชอบแบบที่ผมไม่อาจเข้าถึงและบุคคลน่ารังเกียจที่สุดในโลก ว่าที่ลูกสมุนของซาตาน กลวัชร เจ้าเด็กตัวดำสมองอัจฉริยะ นิสัยแรกเจอเหลือรับยิ่งกว่าแฝดนรก ผมเกือบจะหักคอตายเสียหลายรอบ โดยเฉพาะเรื่องที่มายุ่งกับน้องชายของผม ดีที่ท่านซาตานคนนี้ยังใจเย็นพอ ใช้ประโยชน์จากเจ้าหนูนั้นในการคุ้มครองวัตจากแผนการร้ายของรุจ

   ราวกับการเพาะต้นกล้าแห่งความเลวร้าย พวกเราหาทางจัดการรับมือทุกวิถีทางจนกระทั่งเกิดเรื่องใหญ่เกินความควบคุม น้องชายผมตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ทุกคนเคร่งเครียดแทบสติแตก ผมกับกลตามล่าจนถึงตัวของรุจ จัดการทุกอย่างในโค้งสุดท้าย เสียเวลานั่งเก็บกวาดสิ่งที่รุจทำเกือบครึ่งปี ผลจากการร่วมมือของทุกคนในที่สุดก็จบลงได้ด้วยดี

   เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น น้องชายของผมเลือกคู่ชีวิตของตัวเอง วัตและกลอยู่ที่บ้านของเรา ขณะที่ผมยังคงแวะเวียนกลับไปเป็นระยะพลางโขกสับน้องเขยที่ทำงาน ไวไวกับลินได้แต่งงานกันมีลูกสาวหนึ่งคน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ผมคาดไม่ถึงเลยก็คือ

   กลและวัตมีโซ่คล้องใจตัวน้อย หลานชายของผม ซึ่งถือกำเนิดจากความรัก ความเสียสละของลินและวิทยาการทางการแพทย์ที่ล้ำหน้า

   ไม่ใช่แค่พวกเราที่เป็นปลื้ม ผู้ใหญ่สองครอบครัวยิ้มแก้มปริกันทั่วหน้า พร้อมๆ กับสายตาร้อนแรงจากพ่อชินและพ่อผมจ้องเขม็งมาทางพวกเราอย่างกับจะสะกดจิต ผมรู้ว่าพวกเขาคิดอะไร แต่ผมกับชินแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ฝันไปเถอะว่าผมจะมีลูก แค่งานตอนนี้ก็ท่วมหัวจนแทบไม่ได้พักผ่อน จะเอาเวลาที่ไหนไปเลี้ยงลูกกัน

   มนุษย์ตา มนุษย์ปู่ เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก เหมือนจะยอมวางมือจากพวกเราไปช่วงหนึ่ง พอบันแต่งงานมีลูกบ้าง สองคนนั้นรู้เข้า ทั้งข้อความทั้งโทรศัพท์กระหน่ำกดดันผมเสียเหลือเกิน ประเดี๋ยวจะมีหลานให้เลี้ยงซะให้เข็ด...

   เหนือสิ่งอื่นใด ยังมีอีกคนหนึ่งที่ผมไม่เคยลืม ชายผู้แอบรักผมข้างเดียว พญานกผู้น่าสงสาร ตอนนี้ไม่ใช่นกไร้คู่อีกต่อไปแล้ว ช่วงเวลาที่ผมกำลังพักดื่มกาแฟฝีมือชินอย่างเป็นสุขนั้น คนที่นานๆ ครั้งจะติดต่อมาสักทีเปิดวีดีโอคอลกับผม

   /สวัสดี อะไรกัน ฉันติดต่อมาทีไรเห็นนายดื่มกาแฟทุกที/

   “เป็นเพราะนายชอบโผล่มาได้จังหวะต่างหาก คอลมาได้แบบนี้ ว่างแล้วเหรอพ่อนาวาเอก” ผมพูดแซว ตอนนี้อินทรีเลื่อนขั้นมาทำหน้าที่แทนญาติเต็มตัวแล้ว

   /ว่างสิ ลาหยุดมา ฉันจะมาบอกข่าวดีกับนาย/

   น้ำเสียงมีความสุข สีหน้าก็สดใสพลอยทำให้ผมยิ้มตาม ไหนๆ ก็ไหนๆ ผมเลยดึงชินที่ทำงานอยู่ข้างๆ มาร่วมฟังข่าวดีด้วยเลย สองคนนี้ญาติดีกันแล้วครับ มีการผงกหัวทักทายกันเล็กน้อย

   “เอ้า ว่ามา”

   /คือว่า...ฉัน/ ไอ้อากาศเขินอายแก้มขึ้นสีนี่มันอะไร ผมกับชินขมวดคิ้วมองหน้ากัน จ้องกดดันจนอินทรียอมพูดออกมา

   /อย่าจ้องแบบนั้นสิ คือ...ฉันกำลังจะแต่งงานปลายเดือนหน้า อยากเชิญพวกนายมางานด้วย พวกนายสะดวกรึเปล่า/

   พวกเรายิ้มกว้าง มิน่าทำไมพ่อทหารเรือผู้เคร่งขรึมถึงได้ออกอาการเขินแบบนี้

   “สะดวกอยู่แล้ว! เพื่อนรักจะแต่งงานทั้งที ใช่ไหมชิน”

   “อ่าฮะ นายเตรียมเสียเงินกับประตูเงินประตูทองได้เลย” อินทรีหัวเราะตบกระเป๋าเสื้อเป็นเชิงบอกว่าเรื่องแค่นี้สบายมาก

   /ไว้ฉันจะส่งการ์ดแต่งงานให้พวกนายอีกทีนะ วิน ในที่สุดฉันก็พบคนที่ใช่สำหรับฉันแล้ว นายช่วยมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ฉันได้ไหม/ เจ้าตัวออกปากขอด้วยความหวัง ผมจะทำลายความสุขเพื่อนได้ยังไง

   “ได้สิ ยินดีด้วยนะ ที่เจออีกครึ่งของตัวเอง”

   รอยยิ้มกับใบหน้าอ่อนโยน สำหรับอินทรีแล้วมันไม่ต่างจากการอวยพรของเทพ แม้ใครต่อใครจะบอกว่าคนตรงหน้าเป็นซาตานก็ตาม

   /ขอบคุณพวกนายมาก…/

   ระหว่างที่พวกเขากำลังถามสารทุกข์สุขดิบกัน เสียงใสๆ ดังแทรกเข้ามาพร้อมกับเจ้าของเสียง

   /อินคะ ทุกคนมากันแล้ว รีบออกไปต้อนรับกันเถอะค่ะ…อ๊ะ ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังคุยเพื่อนอยู่/ หญิงสาวผู้มีหน้าตาธรรมดา แต่บุคลิกท่าทางที่แสดงออกมาให้เห็นนั่นงดงามกว่านางงามที่ไหนซะอีก ใบหน้าเล็กแย้มรอยยิ้มหวาน ดวงตาทอประกายสดใสแฝงความรู้สึกผิด

   /ขอโทษด้วยนะคะ ที่มาขัดจังหวะ/

   “ไม่เป็นไรครับ เฮ้ย ไอ้ไก่บ้าน ไม่คิดจะแนะนำว่าที่ภรรยาในอนาคตหน่อยเหรอ” จิ้งจอกเริ่มออกลายให้อินแยกเขี้ยวจ้องเขม็งใส่ แต่เพราะมีผมนั่งอยู่ด้วยเลยยอมแนะนำโดย

   /นี่วิลัยคนรักของฉันเอง ส่วนคนผมทองหน้าตาเหมือนเทพบุตรคนนั้นชื่อวิน ไอ้หมาบ้านข้างๆ นั่นชื่อชิน/

   การแนะนำที่แสนลำเอียงเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากร่างเล็กข้างกาย พวกเราทักทายกันแค่เล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้อินทรีไปรับหน้าครอบครัวแฟนสาวที่มาเยี่ยมถึงบ้าน เห็นใบหน้าเปี่ยมสุขของว่าที่เจ้าบ่าว เจ้าสาวทำให้ผมเกิดความคิดอะไรบางอย่าง

   “ชิน เรามาแต่งงานกันบ้างมะ” ผมเปรยขึ้นลอยๆ ขณะจิบกาแฟ

   “ก็ดีนะ เอาเมื่อไหร่ดี ถัดจากอินเลยเป็นไง”

   “นายจัดการเลย”

   “รับทราบ ท่านซาตานที่รัก” ชินโน้มกายมาจูบรอยสักที่หลังคอ ก่อนจะโดนผมโบกมือไล่ให้กลับไปทำงานตามเดิม

   ผมนึกทบทวนทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ พวกเราล้วนฝ่าฟันกันจนถึงจุดนี้ได้ เพราะเรารู้จักความทุกข์ ถึงรู้ว่าความสุขนั่นดีมากแค่ไหน ยามประสบปัญหาผู้ช่วยที่ดีที่สุดคือครอบครัวและคนสนิทใกล้ตัว อุปสรรคยากแค่ไหน ขอแค่มีสติก็สามารถผ่านมันไปได้อย่างงดงาม ฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอ ทุกคนคิดเหมือนผมไหม

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในที่สุด พาทพิเศษของท่านซาตานวินก็จบลงด้วยดี
จะบอกว่าจบบริบูรณ์ทุกอย่างก็ไม่ผิดนัก
หากจะมีคงเป็นตอนพิเศษขำๆ มากกว่า
ตอนนี้กำลังหันมาจับงาน ซีรี่ย์มหาลัยอย่างจริงจัง จบพี่วินได้เปิดคู่ป๋ามิทสักทีเย้! :mc4:

ออฟไลน์ ployspy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อยากอ่านตอนทั้งคู่แต่งงานกันอะ
งืออออออออออ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ PlenG

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ ขอบคุณผู้แต่งนะคะ
นิยายคุณสนุกค่ะ กระชับดี
ปกติแนวนี้มักไม่เป็นที่นิยมเท่าไร บางเรื่องก็แต่งไม่จบ เนื้อเรื่องก็ยืดเยื้อ อันนี้ต้องขอบคุณวัตเลยที่เป็นเซียนเกมแล้ว เวลาบรรยายจะได้ไม่ต้องไปเริ่มตั้งแต่ต้น อัพเวลกันเร็วมากด้วยส่วนตัวคิดว่าถ้ามัวไปบรรยายตอนเก็บเวลเยอะคงน่าเบื่อเกินไปค่ะ

แต่ตอนพี่วินนี่ขอได้มั้ยคะ อย่าเพิ่งจบเลย #ทีมพี่วิน
อยากรู้เรื่องของนางและสามีหลังจากแต่งงานและมีลูกไม่งั้นคงค้างมาก คนอื่นเขามีครอบครัวกันหมดแล้ว บ้านชินก็มีลูกชายคนเดียวด้วย มาร่วมกับพ่อชิน/วินกดดันคนแต่งให้คู่นี้มีลูกกัน ฮา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ความรักของซาตานวิน กับจิ้งจอกชิน ช่างปิดๆบังจัง
ไม่ได้เห็นความโรแมนติก เร่าร้อนเลย ก็จบซะละ
แค่สานสัมพันธ์กันในห้องน้ำ(ไม่บรรยาย) จุมพิตต้นคอ อะร้ายยยย  น้อยไปน้าาาา
ขอฉากวาบหวิวของท่านซาตานวินหน่อย ขอร้อง นะ นะ :mew1:
 :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
อ่านแล้วมันน่าสนุกอ่าาา อยากให้โลกจิงมีแบบนี้บ้างจัง ฮ่าๆๆๆๆ   o18
 :L2: :pig4: :pig4: :L2:

ออฟไลน์ funland

  • https://www.facebook.com/pew.pal
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
    • pew.pure

ออฟไลน์ zaturday

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 230
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
อ่านนิยายเกี่ยวกับโลกเกมออนไลน์มาก็หลายเรื่อง มีเรื่องนี้แหล่ะ ที่เราอ่านแล้วไม่งง ไม่ได้ใช้ศัพท์ย่อ ไม่อธิบายยาวเหยียด แต่เข้าใจได้ง่ายๆจากบริบทที่ใช้

เราอ่านนิยายมาเป็นสิบปีละ ช่วงที่อ่านแล้วเขิลตัวบิด หรืออ่านแล้วมีความสุขแบบยิ้มกว้างๆนี่ก็ผ่านมาหลายปีละ เรื่องนี้ทำให้เรากลับไปมีความสุขแบบนั้นอีกครั้ง ชอบกลอ่ะ เป็นพระเอกที่โคตรพระเอก เก่งเวอร์วังมันทุกเรื่อง แต่ตอนหื่นหรือตอนแสดงความรักนี่ทำเราอดเขิลตามไม่ได้

วัตเป็นตัวละครในเรื่องที่เราชอบมาก คือไม่เคะจ๋า ออกสาว แต่เป็นเด็กวัยรุ่น เกรียนๆ แมนๆคนหนึ่งที่มาพร้อมกับทักษะแม่บ้านเต็มเปี่ยม ไม่ซึนด้วย คือรู้ใจตัวเองดี และไม่ปิดกั้น ทำให้ฉากสวีทของพระนายมันฟินสุด


คู่พี่ชินวิน นี่ยกให้เป็นหนึ่งในดวงใจ ไม่คิดว่าพี่ซินมาดเคะราชินีของเราจะเป็นฝ่ายขอคบก่อน แอร้ยยย ฉากที่ทั้งคู่...กันครั้งแรกในคอนโดพี่ชิน ทำเราเขิลหนักมาก หลงพี่วินขั้นสุดอ่ะ

ขุนพลกับนายท่าน ให้ให้เรากลายเป็นทาสแมวตามไปด้วย ทั้งๆที่ในชีวิตจริงเราสุดแสนจะไม่ชอบแมว แต่อ่านเรื่องนี้คือ งื้ออออ รักขุนพลอ่ะ พ่อแมวน้อย?จอมบื้อ

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
อ่านนิยายเกี่ยวกับโลกเกมออนไลน์มาก็หลายเรื่อง มีเรื่องนี้แหล่ะ ที่เราอ่านแล้วไม่งง ไม่ได้ใช้ศัพท์ย่อ ไม่อธิบายยาวเหยียด แต่เข้าใจได้ง่ายๆจากบริบทที่ใช้

เราอ่านนิยายมาเป็นสิบปีละ ช่วงที่อ่านแล้วเขิลตัวบิด หรืออ่านแล้วมีความสุขแบบยิ้มกว้างๆนี่ก็ผ่านมาหลายปีละ เรื่องนี้ทำให้เรากลับไปมีความสุขแบบนั้นอีกครั้ง ชอบกลอ่ะ เป็นพระเอกที่โคตรพระเอก เก่งเวอร์วังมันทุกเรื่อง แต่ตอนหื่นหรือตอนแสดงความรักนี่ทำเราอดเขิลตามไม่ได้

วัตเป็นตัวละครในเรื่องที่เราชอบมาก คือไม่เคะจ๋า ออกสาว แต่เป็นเด็กวัยรุ่น เกรียนๆ แมนๆคนหนึ่งที่มาพร้อมกับทักษะแม่บ้านเต็มเปี่ยม ไม่ซึนด้วย คือรู้ใจตัวเองดี และไม่ปิดกั้น ทำให้ฉากสวีทของพระนายมันฟินสุด


คู่พี่ชินวิน นี่ยกให้เป็นหนึ่งในดวงใจ ไม่คิดว่าพี่ซินมาดเคะราชินีของเราจะเป็นฝ่ายขอคบก่อน แอร้ยยย ฉากที่ทั้งคู่...กันครั้งแรกในคอนโดพี่ชิน ทำเราเขิลหนักมาก หลงพี่วินขั้นสุดอ่ะ

ขุนพลกับนายท่าน ให้ให้เรากลายเป็นทาสแมวตามไปด้วย ทั้งๆที่ในชีวิตจริงเราสุดแสนจะไม่ชอบแมว แต่อ่านเรื่องนี้คือ งื้ออออ รักขุนพลอ่ะ พ่อแมวน้อย?จอมบื้อ

ขอบคุณจ้า อ่านคอมเม้นแล้วฟินมาก  :-[

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
สนุกมากกก อ่านรวดเดียวจบเลย

ขอบคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ neverland

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 653
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สนุกมากกกกกกก "ดีใจที่ไม่พลาดเรื่องนี้"
ปกติไม่ใช่คนที่อ่านนิยายแนวนี้เลย เพราะไม่ชอบการบรรยายตอนเล่นเกม(ส่วนใหญ่มันเวิ่นมากเกิน) เรื่องนี้คือ "สนุก" แบบวางไม่ลงจริงๆ เห็นแนะนำในกระทู้นิยายแนะนำเลยลองมาอ่าน ปรากฏว่าชอบมากๆๆๆๆ  o13 คนเขียนทำเราติดใจมากเลย อยากอ่านต่อไปอีกเรื่อยๆ เนื้อหาไม่ยัดเยียดให้เราต้องรู้ว่าเกมเป็นแบบไหนหรือเน้นบรรยายมากเกินไป ขอกอดแน่นๆที  :กอด1:
คุณทำให้เราประทับใจมากๆในนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :)

ออฟไลน์ MIwEMInE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 238
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมากค่ะ
แต่มีพิมพ์ชื่อผิดนะคะ ทำให้งงเป็นบางช่วง

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ขอบคุณสำหรับเรื่องสนุกๆ นะคะ เพราะเป็นแฟนตาซีแบบในเกม และยังมีชีวิตปกติของคนเล่นเกม แปลกดีค่ะ แต่ก็สนุกมากเลย ชอบที่กลกับวัตชอบกันรักกันก็ไม่มีเขินอายหนีกันค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ASAMENG

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :-[ แบบว่าอยากได้ภาค 2 เบยอ่ะ ได้โปรด เรารักทุกคน อ่านมา3 รอบแล้ว พอรอบนี้อ่านรอบที่ 3 จบวินพอดี แบบว่าไม่อยากให้จบจริง เรื่องนี้ อ่านง่ายเราชอบ เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะ สู้ๆ  :L2:

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
*ตรวจคำผิดแล้วจะลงซ้ำ

เป็นเรื่องราวหลังจากจบเรื่องหลักและภาคกำเนิดซาตานวิน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Lv.พิเศษ So Hot


    วันหยุดอันแสนหาได้ยากยิ่งของนาย ‘อาชวิน’ กลับไม่สวยงามอย่างที่คิด...

   “ร้อนมาก ร้อนจะตายอยู่แล้ว ทำไมเมืองไทยมันร้อนขนาดนี้ ความจริงฉันไม่น่าหยุดเลย ควรทำงานที่บริษัทตากแอร์ฟรีดีกว่า”

   ชายหนุ่มกำลังนอนแผ่กางแขนขาเป็นปลาดาวอยู่ตรงระเบียงบ้าน พัดลมสองตัวถูกเปิดจ่อพัดผมชื้นเหงื่อ ท่อนบนเปลือยเปล่าอวดผิวขาวผ่องหลังจากทำงานอยู่แต่ในห้องแอร์มาเป็นเวลาหลายปี ท่อนล่างเป็นกางเกงบ็อกเซอร์ปล่อยลมพัดผ่านสร้างอากาศระบาย หมดแล้วซึ่งสภาพเทพบุตรซาตานที่ใครต่างหลงใหล ใกล้กันนั้นมีแมวสายพันธุ์แองโกล่านอนหงายท้องตายอีกตัว

   คุณอัศวินปีศาจมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกหลากหลาย วินที่บ้างานอย่างกับอะไรดี ถูกเพื่อนควบตำแหน่งประธานอย่างเจ้าบันบังคับให้หยุดเพื่อพักผ่อนบ้าง โดยมีเหล่าลูกสมุนในแผนกเป็นผู้ช่วยกดดันเพราะเกรงว่าหากปล่อยหัวหน้าทำงานมากไปกว่านี้ จะเกิดความเครียดแล้วใช้พวกเขาเป็นเครื่องระบาย ช่างมีความรักเห็นใจหัวหน้ากันซะจริง

   วินที่รำคาญพวกนั้นเลยตัดสินใจหยุดกลับบ้าน แทนที่จะได้อยู่กับน้องชายและหลานสุดรัก เจ้าเด็กเลวดันพาลูกเมียไปเที่ยวทะเลคลายร้อนเพราะแอร์ที่บ้านพัง ทิ้งแมวสองตัวให้พวกพี่เลี้ยง ตัวหนึ่งอยู่ใกล้ อีกตัวลิ้นห้อยสิงสถิตอยู่หน้าตู้เย็น

   “ถ้าร้อนขนาดนั้นไปบ้านฉันมั้ยล่ะ แอร์ก็มี สระว่ายน้ำก็มี”

   ชินเสนออย่างใจกว้าง คนนอนผงกหัวขึ้นหรี่ตามอง สีหน้าจิ้งจอกดำแสดงถึงความหวังดีจากใจจริง ตรงข้ามกับแววตาพราวระยับอย่างรอคอยอะไรบางอย่าง ผมร้องเหอะ! ฝันไปเถอะ

   “อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะว่านายจะทำอะไร ไปบ้านนายเหมือนเอาตัวเองเขารังจิ้งจอก ไม่มีทางซะละ”

   ผมโบกมือปฏิเสธแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด ชินแสดงสีหน้าเสียดายชัดเจน เอาตรงๆ ไม่ใช่แค่ผมหรอกที่ร้อน ชินมันขี้ร้อนยิ่งกว่า สภาพตอนนี้เหมือนฝืนใส่กางเกงสี่ส่วน ทั้งที่อยากถอนเปลือยใจจะขาด หากอยู่ห้องพักส่วนตัว ผมมั่นใจเลยว่าชินมันต้องนุ่งลมห่มฟ้าแน่นอน

   “นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา งั้นจะเอายังไง นายร้อนไม่ใช่เหรออยู่แบบนี้ก็ไม่ทำให้เย็นขึ้นหรอก”

   “ไม่รู้ ร้อน สมองตื้อ คิดอะไรไม่ออก”

   สกิลเอาแต่ใจยังคงติดตัวอย่างเดียวแน่นตั้งแต่เด็กยันโตมีหลาน ชินไม่พูดอะไรต่ออีก คงไม่รู้จะหาอะไรมาคลายร้อนให้ผมมั้ง อ่า...จะว่าไปไอร้อนจะแผ่ออกมาจากทางด้านหลังสินะ ผมพลิกตัวนอนคว่ำโดยมีนายท่านพลิกท่าเดียวกันอย่างพร้อมเพรียง

   จู่ๆ มีสัมผัสเย็นเจี๊ยบมาโดนบนแผ่นหลังทำให้ผมสะดุ้งโหยง เอี้ยวตัวไปเห็นชินมันเอาผ้าชุบน้ำมาโปะหลังให้ ประเด็นคือกะละมังเล็กที่ใส่น้ำมามันมีน้ำแข็งเลยตุบป่อง เย็นจับขั้วหัวใจเลยทีเดียว

   “แก้ร้อน”

   “เข้าใจคิดดีนี่” ผมผ่อนคลายกลับมานอนคว่ำหน้าตามเดิม เฮ้อ เย็นสบาย ได้ยินเสียงชินหัวเราะในคอพร้อมๆ กับเอาผ้าอีกผืนมาโปะเพิ่ม ผมเลยนอนปล่อยให้มันบริการไป ในขณะที่คนมีน้ำใจเริ่มจะท่องพุทโธในใจ

   ผิวหลังขาวสมเป็นลูกครึ่งแต่ไม่ซีดจนดูอมโรค สะบักไหล่และกล้ามเนื้อเห็นชัดยามขยับตัว เส้นลากยาวของกระดูกไขสันหลังหายเข้าไปในกางเกงสีเข้มตัวบาง หยดน้ำใสไหลรินเป็นทางตามเรือนร่าง ผมสีเหลืองอ่อนทอประกายสวยยามเจอแสงจากภายนอก หลังคอขาวปิดด้วยเรือนผมร่ำไรชวนให้นึกถึงหญิงสาวที่สวมชุดวับๆ แวมๆ รู้สึกเซ็กซี่ ในความคิดของชิน วินช่างเป็นคนที่บาปหนาจริงๆ

   เจ้าตัวถอนหายใจเฮือก เสยผมชื้นเหงื่อไปด้านหลังเผยให้เห็นหน้าผากกว้างคิ้วเข้มกับโครงหน้าชัดเจน หากวินรู้ว่าชินกำลังคิดอะไรอยู่ในใจคงจะตอกกลับไปว่าตัวเองก็พวกบาปหนาไม่ต่างกัน ได้ยินพนักงานหญิงบางคนพูดด้วยซ้ำ คุณชินกฤตหล่อจนต้องร้องขอชีวิต เหอะ!

   “ผ้าหายเย็นแล้ว เปลี่ยนไปสิ” คำสั่งจากคุณท่านดึงสติชินให้ละสายตาจากแผ่นหลัง หยิบผ้ามาชุบน้ำใหม่ ตั้งใจว่าจะบิดหมาดแล้วโปะตามเดิม สมองปิ๊งไอเดียบางอย่างจึงเปลี่ยนใจลอบยิ้มโปะผ้าชุ่มน้ำไปบนหลัง!

   ผมได้สะดุ้งโหยงอีกรอบ น้ำเย็นชุ่มฉ่ำมันช่วยบรรเทาความร้อนในร่างกายก็จริง แต่มันเปียกไปหมด ขนาดพื้นไม้ที่นอนอยู่ยังมีน้ำเป็นวง เงาสะท้อนบนประตูกระจกที่เปิดกว้างเห็นชัดเจนว่าเจ้าหมาจิ้งจอกมันกำลังคร่อมอยู่ด้านหลังผมอยู่!

   คนอยู่ด้านใต้ใช้ศอกยันอกอีกฝ่ายที่เริ่มเปลี่ยนจากคร่อมเป็นทับ

   “จะทำอะไร” เสียงกดต่ำพลางกัดฟันกรอดๆ เผลอเป็นไม่ได้ เจ้าหมาตัวนี้

   “ช่วยนายไง แบบนี้จะได้เช็ดหลังถนัด” ตอบหน้าตาย ผมถลึงตาใส่

   “ไอ้ที่นายกำลังจะทำมันช่วยให้ฉันร้อนมากกว่าเดิม ลุกไป เดี๋ยว-นี้!” ย้ำคำท้ายประโยคหนักๆ หมาชินไม่นำพาผิวปากใช้ผ้าชุบน้ำใหม่แล้วโปะเพิ่มจนหลังผมเปียกไปหมด ลามไปถึงช่วงขา อย่าถามถึงบ็อกเซอร์เลย เปียกโชกแนบจนเห็นสัดส่วนชัดเจนไปนานแล้ว

   “นายไม่เคยได้ยินเหรอ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ร้อนมากก็ต้องทำให้ร้อนยิ่งกว่าจะได้หาย” ไม่ว่าเปล่า ปลายนิ้วชี้เกี่ยวขอบกางเกงน่าหวาดเสียว

   “เฮ้ยไม่ได้ ตรงนี้มันระเบียง”

   “นายพูดผิดนะ ต้องบอกว่าในห้องนั่งเล่นติดระเบียงต่างหาก อีกอย่าง ต่อให้ไปทำกันกลางสวนก็ไม่มีใครเห็นหรอก บ้านนายปลูกต้นไม้รอบทิศขนาดนี้”

   จมูกเป็นสันก้มลงมาซุกสูดกลิ่นหอมจากกลุ่มผมนุ่ม คนด้านล่างเริ่มจะเมื่อย จะขยับตัวขึ้นก็ไม่ได้ เพราะติดอีกฝ่ายที่คร่อมทับอยู่ จนตอนนี้อะไรกับอะไรมันแนบกันไปหมด สิงร่างกันเลยไหม หา!!

   “แล้วก็นะ แพทย์ที่มาร่วมงานกับเราเขาบอกว่า ผู้ชายมันต้องระบายบ้าง อย่าปล่อยให้อัดอั้นไม่งั้นจะเสียสุขภาพได้ นายเองก็เอาแต่ทำงาน วันหยุดทั้งทีก็ควรปลดปล่อย” วาจามีเหตุผล น้ำเสียงจริงจังสวนทางการกระทำที่เริ่มจะเลยเถิด

   “อ้างไปเรื่อย ต้องการก็พูดมา ทำงานก็ทำด้วยกันถ้าอัดอั้นมันก็พอกันนั่นแหละ” ผมประชดใครจะคิดล่ะว่ามันพูดออกมาจริงๆ

   “ใช่ ฉันต้องการนาย เรามาเอากันเถอะ”

   ต่อให้ผมไม่เห็นก็เดาสีหน้าอีกฝ่ายออก มันคงพูดออกมาทั้งที่หนังหน้าไม่เปลี่ยนสักนิด เจ้าจิ้งจอกหน้าด้าน อะไร หาว่าผมเองก็หนาเหมือนกัน ผมไม่ยอมรับใครจะทำไม

   “ไอ้ลูกหมา! มันใช่วัยมั้ยเนี่ย” อยากจะกรอกตา 360 องศา พวกเราอายุมากเกินกว่าจะมาพูดเรื่องหยาบโลนแบบเด็กวัยรุ่นแล้ว ของแบบนี้มันต้อง...

   ผมกระดิกนิ้วเรียกให้ชินก้มหน้าลงมา อีกฝ่ายคล้อยตามยอมทำตามว่าง่าย น่าจะเป็นการตอบรับอัตโนมัติของร่างกายที่ต้องคอยทำตามความต้องการของผมมาตั้งแต่เด็ก ผมอาศัยช่วงที่อีกฝ่ายกำลังเพลินจัดศอกซ้ายเข้าคอแล้วพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว โดยมีชินกลายเป็นเบาะรองนั่งด้านล่างแทน

   ผมยกคิ้วยิ้มมุมปากให้คนพลาดท่า ดวงตาคมมองตาปริบๆ ก่อนจะถอนหายใจยิ้มละมุนให้อย่างรู้ชะตากรรม ผมหัวเราะเบิกบานก้มลงไปดูดคอหนาจนเกิดรอยจ้ำแดง

   “ฉันชอบอยู่ด้านบน เอาไว้รอบต่อไปจะยอมให้ทำตามใจ”

   “ไม่จำเป็น...ขอแค่นายพอใจฉันก็โอเคทั้งนั้น” มือหยาบยื่นมาไล้ข้างแก้ม ผมยิ้มด้วยแววตาที่อ่อนลง จับมืออีกฝ่ายมาจูบไล้ลิ้นเลียพลางปรายตามอง เพราะผมนั่งทับอยู่บนตัวชินทำให้รู้ได้ทันทีเลยว่าท่าทางของผมทำร้ายอีกฝ่ายไม่น้อย จะช่วยให้สบายแล้วกันนะ

   “ถ้าฉันขอเป็นฝ่ายรุกแทนล่ะ” ท่านซาตานถามแบบไม่หวังผล สีหน้าอัศวินปีศาจถึงกับบิดเบี้ยว ทั้งชีวิตคงมีเรื่องนี้เรื่องเดียวแหละที่ชินยอมผมไม่ได้จริงๆ

   นิ้วยาวปลอบขวัญคนด้านล่างให้หายตกใจ พร้อมๆ กับกับรวบของตัวเอง อาศัยการขยับเนิบช้าสร้างความสุขสมพร้อมอาศัยน้ำช่วยเตรียมพร้อม

   ผ้าม่านถูกปิดด้วยฝีมือจิ้งจอกที่เกิดอาการหวงคนบนตัว ดวงตาสีเข้มซึมซับภาพแสนเร่าอารมณ์เบื้องหน้า ใบหน้าขึ้นสี ปอยผมชื้นเหงื่อและดวงตาหรี่ปรือตามแรงอารมณ์ ริมฝีปากได้รูปเผยอออกหอบหายใจระหว่างขยับกายคุมเกม สองมือจิ้งจอกจับกระชับสะโพกสอบนวดเฟ้นปลุกเร้า

   ระหว่างนั้นแอบสะดุ้งนิ่วหน้าเป็นพักๆ เมื่อซาตานคนดีขบกัดทิ้งรอยตามร่างกายอย่างเอาแต่ใจ วินเลียริมฝีปากยามเห็นสีหน้าทรมานของคนรัก ชินชักจะทนไม่ไหวกระชับฝ่ามือยึดบั้นท้ายได้รูปสวยหมายจะทำตามใจ วินรู้ทันจับข้อมืออีกฝ่ายกดติดกับพื้นพลางสอดประสานนิ้ว ดูเผินๆ ราวกับจิ้งจอกหนุ่มเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่เบื้องล่างท่านซาตานยังคงขยับเอวรองรับ

   จังหวะที่เสร็จสมใจ ผมกำลังพักหายใจหลังลงแรงไปเสียมากมาย ฉับพลัน! ร่างกายถูกพลิกกลับ โลกหมุนชั่ววูบ รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนด้านล่างเสียแล้ว มือหนายกสะโพกรั้งให้แนบชิดกับตัวเอง ผมเหยียดยิ้มมุมปากยามเห็นแววตาคล้ายสัตว์ป่าที่จวนจะคุมตัวเองไม่อยู่บ็อกเซอร์ตัวเดิมถูกรูดไปคาตรงข้อเท้า ขาขาวตวัดล็อกเอวหนา วงแขนโอบรอบคอดึงให้อีกคนก้มลงมารับจูบดูดดื่ม

   เสียงหอบหายใจคละเคล้าเสียงเสียดสีของผิวกาย ความวาบหวานจนเผลอแอ่นอกรับสัมผัสจากปากร้อนที่พรมจูบทุกสัดส่วน ฉากหลังผ้าม่านพลิ้วไหวตามกระแสลมอ่อน แสงแดดเล็ดลอดเข้ามากระทบร่างที่โอบรัดกัน เกิดเป็นภาพชวนฝัน

   เปลี่ยนสถานที่บ้างก็ไม่เลวเลยทีเดียว...

   ยามเสร็จกิจจิ้งจอกหนุ่มถูกใช้งานให้ช่วยชำระกายท่านซาตานจนหอมฟุ้ง สวมเสื้อผ้าใหม่มานอนเอนกายเท้าหัวดูทีวีโดยมีบริวารเป็นแมวขนฟูสองตัว แองโกล่าสีขาวหมอบนอนให้ลูบไล้ไปตามแนวหลัง เมนคูนตัวเขื่องกลายเป็นหมอนอิง

   ชินมองเหล่าแมวอย่างอิจฉา มือบิดผ้าเช็ดพื้นเป็นหน่วยเก็บกวาด ช่วงบ่ายวันนั้นช่างเข้ามาดูแอร์ให้ตามที่โทรแจ้ง ในที่สุด บ้านก็กลับมาเย็นฉ่ำตามเดิม ชินอดที่จะเสียดายเล็กๆ ไม่ได้ หากได้หาวิธีคลายร้อนให้กับวินอีกสักรอบก็ยังดี

   ผ่านไปสองวัน กล วัตและตินน้อยกลับมาบ้านพร้อมอาหารทะเลมากมายใส่กระติกนวัตกรรมใหม่สำหรับการถนอมความสดอย่างดี เย็นวันนั้นพวกเขาเลยมีปาร์ตี้ซีฟู้ดกันในสวนข้างบ้าน

   “ระหว่างผมไม่อยู่เป็นไงกันบ้าง” วัตถามพี่ชายที่กำลังง่วนกับการแกะกุ้งให้หลาน ทั้งที่ปกติร้อยวันพันปีใช้งานแต่พี่ชิน

   “ก็ดี...แต่ร้อนในหลายๆ ความหมาย” ผมยิ้มมีเลศนัยให้น้องชายลับหลังหลาน มือป้อนกุ้งให้ตินน้อยเคี้ยวตุ้ยๆ แก้มป่องอย่างน่าฟัด

   “เห~ ผมควรกลับมาช้ากว่านี้รึเปล่า คงไม่ได้ขัดจังหวะพวกพี่หรอกใช่ไหม” วัตเสียงดี เวลาหัวเราะยังน่าฟัง พี่ชายหมั่นไส้ยื่นไปมือโบกหัวด้วยความรัก

   “ทำมาเป็นพูดดี ถ้าไม่ติดว่าตินอยากเที่ยวทะเล คงจะทิ้งหลานให้พี่เลี้ยงแล้วสิ รู้นะว่าอยากไปฮันนีมูนกันสองต่อสอง” ถึงคราวผมแซวกลับบ้าง วัตหน้าแดงก่ำแยกเขี้ยวใส่ จะสู้กับพี่ยังเร็วไปหลายล้านปีแสงเจ้าน้องชาย

   “แม่ไม่อยากพาตินไปเที่ยวด้วยเหรอครับ!” หมาน้อยหูผึ่งเมื่อมีเรื่องตัวเองอยู่ในบทสนทนา ผมยิ้มมองพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง

   “ไม่ใช่ๆ แม่ต้องอยากให้ตินไปด้วยอยู่แล้วสิ”

   เจ้าตัวเล็กดิ้นยุกยิกลงจากตักผม เกาะขาแม่มองตาแป๋ว

   “จริงนะ! ถ้างั้นหลังจากนี้ถ้าแม่ไปไหนแม่ต้องพาตินไปด้วย นอนก็ต้องนอนกับติน”

   “เอ...เอาไงดีนะ” วัตเริ่มคิดหนัก พอดีกับที่เจ้าลูกศิษย์เวรมันเดินมาพร้อมกุ้งย่างร้อนๆ จานใหม่ หน้างี้ถมึงทึงเชียว หวงน้องชายผมขั้นสุด ขนาดลูกยังไม่เว้น ส่วนผมน่ะเหรอ? นั่งเฉยรอดูเรื่องสนุก ไม่ว่าตินจะอ้อนวัตสำเร็จหรือไม่ อย่างน้อยๆ ผมก็ได้กวนอารมณ์เจ้าเด็กบ้านั่น

   “ไม่ได้ วัตต้องนอนกับพ่อ” เสียงเข้มมาเชียว ตินน้อยทำหน้ายุ่ง เด็กวัยห้าขวบทำอะไรก็น่ารักไปหมด

   “พ่อนอนกับแม่ทุกวัน ถึงตาแม่นอนกับผมบ้าง!!”

   “บอกว่าไม่ได้ ก็คือไม่ได้ ตินโตแล้วต้องนอนคนเดียว” หมาป่าหนุ่มกอดอกจ้องลูกชาย มีคนรักยืนเก้าแก้มปลงกับศึกชิงแม่ประจำวัน

   “พ่อก็โตแล้วนอนคนเดียวสิ ตินยังเป็นเด็กต้องให้แม่นอนด้วย” มือเล็กจับแขนวัตแน่น เห็นว่าเถียงพ่อไม่ชนะเลยหันมาอ้อนแม่แทน เด็กคนนี้มันร้ายเหมือนพ่อไม่มีผิด “นะครับแม่ นอนกับผมนะ” หมาน้อยกอดเอวซุกหน้ากับขาวัต คนถูกแย่งนิ่งคิดก่อนจะยิ้มกว้างอุ้มลูกชายแล้วหันไปมองกล

   “งั้นนอนด้วยกันสามคนเหมือนตอนไปเที่ยวกัน”

   “เย้!” ตินชูสองแขนส่งเสียงร่าเริง

   “เอางั้นก็ได้”

   สามพ่อแม่ลูกพอตกลงกันได้ก็หันมากินต่อ วัตแกะกุ้งให้ทั้งลูกทั้งคนรัก กลเองก็คอยแกะปูป้อนลูกตามด้วยแม่ ส่วนตัวเองกินที่หลัง เป็นการแสดงความรัก ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ อย่างเป็นธรรมชาติ ผมมองภาพเหล่านั้นด้วยความรู้สึกยินดี น้องชายมีความสุขผมก็โอเค

   ชินรับหน้าที่ย่างหมึก ใช้มีดหั่นใส่จานขนาดพอดีคำตามมาสมทบที่หลัง จมูกโด่งชิงหอบแก้มในจังหวะที่ครอบครัวสุขสันไม่ทันหันมามอง

   “มองตาไม่กระพริบแบบนี้ อยากมีบ้างไหม”

   ผมขยับเก้าอี้เลื่อนจานให้ชิน

   “ไม่ล่ะ ฉันกับนายมีเวลาดูแลซะที่ไหน อีกอย่างมีแค่นายฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว”

   “พูดจาน่าฟัง คืนนี้นอนบนตัวฉันนะ”

   “ไม่มีปัญหา...”

   ดวงตามองสื่อความรู้สึกโดยไม่ต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูด ริมฝีปากจุมพิตกันแผ่วเบา

   “อะแฮ่ม! พี่ๆ ครับที่นี่มีเยาวชนอยู่นะ”

   น้องชายกระแอมเตือน กลมองด้วยสายตาเหนื่อยหน่าย สองมือยกปิดตาลูกชาย

   “ไหนๆ เกิดอะไรขึ้น ตินอยากเห็น พ่ออย่าปิดตาติน” มือเล็งพยายามแงะมือใหญ่ที่ปิดมิดหน้าออก ผมพยักหน้าให้กลปล่อย แล้วหยิบหมึกเป่าคลายร้อนป้อนใส่ปากตัวเล็ก

   “มีแต่หมึกนี่แหละ กินเยอะๆ จะได้โตไวๆ”

   “อื้ม!” ตินตินรับเสียงใส ป้อนลูกหมาไปแล้ว หมาตัวใหญ่เริ่มออกอาการเรียกร้อง ส่งขาหน้ามาสะกิดแขนยิกๆ ผมรำคาญเลยจิ้มหมึกร้อนควันกรุ่นยัดใส่ปากให้ ชินต้องรีบกระดกน้ำเย็นตามมองด้วยสายตาตัดพ้อ เจ้าเด็กกลมองเหมือนจะเย้ยเพราะตัวเองมีวัตป้อนอย่างดี ก่อนสะดุ้งเพราะกินหอยหวานร้อนๆ จากลูกชาย ชะตากรรมไม่ต่างจากชิน แบบนี้แหละเขาเรียกว่า หัวเราะที่หลังดังกว่า!


ออฟไลน์ TuiLoveKhaKing

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 141
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
So hot จริงง ซาตานวินน่ารักเหมือนเดิม ชอบชินมาก ดูแลวินดีตลอดเลย  :katai2-1:

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: คริบครัวสุขสันต์จริงๆ

ออฟไลน์ ployspy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่ารัก น่ารัก น่ารักกกกกกกกกก
อ๊ายยยยยยยย
อย่างนี้ต้องอ่านอีกรอบ 555+

ออฟไลน์ DESZCZ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านจบแล้ววว สนุกมากเลย อ่านไปฟินไป555

ออฟไลน์ fammi50

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
น่าร้ากกกกกกกกกกก :-[

ออฟไลน์ Persoulle

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ชอบมากเลยค่าาาา  :ling1: สนุกสุดๆ หาอ่านแนวนี้ยากจริงๆแหละค่ะ เสียอย่างตรงที่มีคำผิด แล้วคำตกหล่นไปบ้าง ที่เหลือเยี่ยมค่ะ  :hao7:  :pig4:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ออยยย!! ตินลูก น่ารักจิงๆ

ออฟไลน์ tamako

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1198
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-6
สนุกมาก
สารภาพว่ากดมาอ่านเรื่องนี้แบบเบลอๆ อ่านไปถึงพึ่งรู้ว่าเป็นแนวออนไลน์ที่ไม่เคยอ่านจบเลยสักครั้ง
แต่เรื่องนี้อ่านยาวรวด 3วัน 3 คืน สนุกมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกเรื่องนี้นะคะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด