Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Charm Online สาปผมเป็นแวมไพร์! [Up Lv.พิเศษ พจนินท์สไตล์3 100% 8/4/61]  (อ่าน 287698 ครั้ง)

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ขุนพลน่ารัก มาอยู่ด้วยกันไหม

ออฟไลน์ heaven13

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-1
สนุกมากกกกกก

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 450
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
จินตนาการถึงขุนพลแมวยักษ์

ขุนพลวัยละอ่อน




ปัจจุบันหล่อเปล่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2015 22:24:40 โดย Tumz »

ออฟไลน์ •ผั๑`|nกุ้va’ด•

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1279
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-69
คู่แมวน่ารักได้อีก♡

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.32 เป็นห่วง

   ผมนั่งอยู่ในห้องพร้อมแมวสองตัว นายท่านนอนหาวอยู่บนตัก ส่วนขุนพลกระแซะมานอนเบียดขาผมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ พวกแกเป็นแมวขาดความอบอุ่นรึไงกัน

   ช่วงเวลากลางวัน ไม่สิ แถมจะตลอดเวลาทุกคนในแผนกต่างคนต่างทำงานในส่วนของตัวเอง นานๆ ทีจะเห็นออกมาเข้าห้องน้ำ หาน้ำดื่มบ้าง ขนาดพี่ชินที่เข้าออกห้องทำงานบ่อยสุดเพื่อบริการท่านหัวหน้าแผนกยังเก็บตัวเงียบไปตามๆ กัน

   การประชุมครั้งล่าสุดพี่วินสันนิษฐานว่าอาจจะมีสายของพวกมันแฝงอยู่ในฝั่งพวกเรา ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ คิดทำการใหญ่ต้องรู้จักศัตรูให้มาก รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ฝั่งเราเองคงไม่น้อยหน้าหรอก รู้เรื่องอีกฝ่ายดีขนาดนี้ ต้องมีสายแฝงตัวไปกับพวกมันด้วยแน่นอน

   ประเด็นคือ ผมเบื่อชะมัด วันๆ อยู่แต่ในแผนก ไม่ค่อยได้ออกไปไหน ทำงานเป็นแม่บ้านอย่างเดียว เล่นเกมก็ไม่ได้ อยู่อย่างสงบเสงี่ยมไม่ใช่นิสัยผมจริงๆ ตั้งแต่จำความได้ บ้านผมปล่อยลูกให้ทำอะไรอิสระอยู่เสมอ วัยเด็กยังอยู่ในสายตา พอโตขึ้นมหาลัยก็ปล่อยตามสบาย ผมเลยติดนิสัยอยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป ขอแค่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนและไม่เป็นภัยกับตัวเองก็พอ

   มาโดนกักตัวอยู่แบบนี้ จะรู้สึกเบื่อก็ไม่แปลก จำได้ว่าแถวหน้าบริษัทมีสวนสวยร่มรื่นให้คนเดินเล่น พาเจ้าสองเหมียวไปเดินหน่อยดีกว่า

   ผมกดลิฟท์เนียนลงมาชั้นล่าง คาดว่าทุกคนในแผนกไม่ออกจากห้องทำงานเร็วๆ นี้แน่ แต่เพื่อความชัวร์ ผมเลยเขียนกระดาษโน๊ตแปะไว้ตรงกำแพงห้องทำงานพี่วินซะเลย ตรงจุดนั้นต้องคนเดินผ่านหมด ตัวพี่วินออกมาเองก็เห็น แขนอุ้มนายท่าน ข้างกายมีขุนพลเดินตาม นับวันผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าตกลงขุนพลเป็นหมาหรือแมว

   ถ้าจะผิดคงต้องโทษคนเลี้ยง คนเลี้ยงดันเป็นหมาป่า เลี้ยงแมวเลยเลี้ยงมาสไตล์เดียวกันสินะ ผิดกับนายท่าน มีดีกรีความเป็นเจ้านายเต็มเปี่ยม เชิดซะไม่มี บางทีผมเองยังหมั่นไส้

   ลงมาถึงชั้นล่างรอบข้างเงียบสงบ แต่ละคนทำงานของตัวเอง อย่างมากแค่เงยหน้ามองยิ้มทักทายนิดหน่อย สีผมสีตาผมมาแบบเดียวกับพี่ชายเป๊ะ พี่วินเป็นคนดังของบริษัท ผมเลยพลอยเป็นที่รู้จักไปด้วย

   ความจริงห้ามนำสัตว์เลี้ยงมาในบริษัท เว้นเจ้าสองตัวนี้เป็นกรณีพิเศษ ผมถามพี่วินแล้วว่าทำไม เจ้าตัวบอกว่า เพราะตัวเองไปขอท่านประธานมา ทางนั้นคงกลัวว่าพนักงานแผนกพี่วินจะเป็นโรคประสาทตายกันหมดซะก่อน เลยยอมอนุโลมให้สองเหมียวเข้ามาในบริษัทได้ โดยมีข้อแม้คือ ต้องดูแลไม่ให้มารบกวนคนอื่น และอยู่ได้แค่ที่แผนกพี่วิน กับชั้นล่างสุดเท่านั้น

    นายท่านถูกเลี้ยงมาแบบระบบปิด ผมเลยอุ้มตลอดไม่ปล่อยให้วิ่งเอง ส่วนขุนพล กลฝึกวินัยมาดีมาก เขาเลี้ยงแบบเปิด ปล่อยให้วิ่งเล่นตามสบาย เจ้าเหมียวตัวยักษ์คงรู้ ที่นี่ไม่คุ้นไม่ควรวิ่งมั่ว เลยเดินตามผมไม่ห่าง

   ผมเห็นใจขุนพลแมวผู้แสนจะขาดความอบอุ่น พ่อเป็นซะแบบนั้น  ไอ้ผมเองจะอุ้มก็ไม่ไหว แม้จะยังเป็นแค่แมวที่ยังไม่โตเต็มวัย แต่สายพันธ์นี้ก็ตัวใหญ่กว่าแมวทั่วไปอยู่ดี

   “เมี้ยว” แมวยักษ์เหมือนจะรู้ตัว เงยหน้ามองผมแล้วร้องเสียงหล่อ แถมยังเดินเชิดหน้าชูตาลัลล้าจนน่าฟัด พอผมย่อตัวลงลูบหัวเกาคางขุนพล เจ้าเหมียวตัวโตส่งเสียงครืดๆ ในคอดูมีความสุข นายท่านเห็นเอาหัวมาดันๆ ใต้คางผม พวงหางขาวกระตุกส่ายไปมาคล้ายไม่สบอารมณ์ เจ้าแมวขี้อิจฉาเอ๊ย นิสัยเสียเพราะพี่วินกับผมตามใจแท้ๆ จะฝึกตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว

   “โอเคๆ รักทุกตัวไม่ต้องแย่งกัน นายท่านอย่างกกับน้องสิ” ผมบ่นแบบไม่จริงจังนัก ได้ยินเสียงหัวเราะแถวหน้าประตู ระหว่างที่ผมกำลังเปลี่ยนตัวเองเป็นรางวัลให้กับแมวทั้งสองอยู่หน้าประตูบริษัท

   “แมวสวยดีนะครับ” ลุงยามทักด้วยรอยยิ้ม ผมยิ้มให้กระชับแขนอุ้มนายท่านเรียกขุนพลเดินเข้าไปหา หลบจากหน้าประตูให้คนเข้าออก

   “คงเพราะเป็นพันธุ์นอกมั้งครับ แต่ผมว่าแมวไทยก็สวยนะ สวยคนละแบบ”

   “บ้านลุงเองมีอยู่ตัว เป็นแมวสามสีเลี้ยงคู่กับไอ้ด่างหลังอาน”

   เริ่มประเด็นกันมาแบบนี้ คุยกันยาวล่ะครับ ผมชอบคุยกับพวกผู้ใหญ่ ได้ความรู้ใหม่ๆ เยอะดี ประสบการณ์หลายอย่างสามารถใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตของตัวเองได้ อย่างช่วงแรกคุยกับเรื่องหมาแมว สักพักไหลยาวไปถึงชีวิตสมัยก่อน ความแตกต่างของอดีตกับปัจจุบันกับวิธีการแก้ไขปัญหาชีวิต

   พอลุงแกต้องกลับไปทำงานต่อ ผมถึงหลบออกมาเดินเล่นของตัวเองบ้าง ยามบริษัทไม่ได้มีแค่ลุงหรอกครับ ลุงเขาอยู่ตรงหน้าประตูคอยเช็คคนเข้าออก ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนอื่นๆ แยกกันประจำจุดของตัวเอง บางคนลาดตระเวณรอบๆ บริษัท ผมไม่ค่อยรู้รายละเอียดสักเท่าไหร่ แต่ถือว่าบริษัทนี้มีการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนามากกว่าที่ตาเห็น

   ว่าจะมาเดินเล่นผ่อนคลาย สมองดันไปนึกถึงเรื่องพวกองค์กรนั่นซะได้ ไม่รู้ว่าป่านี้พวกมันดำเนินการไปถึงไหนแล้ว รางสังหรณ์บางอย่างบอกผมว่าอีกไม่นานตัวผมต้องเจอกับปัญหาใหญ่แน่ๆ

   “เฮ้อ”

   ผมถอนหายใจเลือกนั่งบนเนินหญ้าใต้ต้นไม้ใหญ่ สองเหมียวนอนกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นหญ้านุ่มไม่ไกลจากผมนัก แสงแดดส่องผ่านใบไม้สีเขียวสด ลมเบาๆ หลายคนอาจไม่สังเกตว่าเวลาอยู๋ใต้ต้นไม้กับใต้ร่มพวกอาคารลมจะต่างกันมาก เวลาอยู่ใต้อาคารต่อให้มีลมแค่ไหนก็ยังรู้สึกถึงความร้อนจากไอแดด ส่วนใต้ต้มไม้มีเพียงลมเย็นสบายพัดผ่าน

   นึกถึงบรรยากาศในเกมเลย อยากกลับไปเล่นชะมัด ผู้คนมากมายมาจากทุกแห่งทั่วโลก ธรรมชาติผสมผสานกับสิ่งก่อสร้างอย่างลงตัว ความสามารถพิเศษอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน มันเหมือนกับดินแดนแห่งความฝันในวัยเด็ก ที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้

   ละจากเรื่องปวดหัวชั่วคราว ไปเพิ่มพลังในเกม แล้วค่อยกลับมาลุยกับโลกความจริงในวันรุ่งขึ้น ไม่แปลกใจเลย ทำไมทุกคนดูชื่นชมพี่วินนัก ในเมื่อเจ้าตัวเป็นคนริเริ่มสร้างเกมนี้ขึ้นมาจากความฝันร่วมกับพวกเพื่อน ส่วนผมน้องชายผู้แสนน่ารัก ใช้ชีวิตอันสดใสโลดแล่นอยู่ในเกมที่พี่ชายสร้าง ฮือ อยากเล่นเกม...

   ผมคงกลายเป็นเด็กติดเกมแล้วจริงๆ คิดถึงไวไวกับคนอื่นจังเลย ถ้าไวไวอยู่ รู้ความคิดผมคงจะหันมาทำหน้าเอือมใส่ แล้วพูดประมาณว่า ช่วงแรกพูดซะดูดี ที่แท้ก็เด็กติดเกมที่ลงแดงเพราะโดนพี่สั่งห้ามไม่ให้เล่น

   ทุกวันนี้มันยังส่งโทรมาเย้ยผมเรื่องในเกมรัวๆ อิจฉาเฟ้ย หลังเรื่องวุ่นพวกนี้จบเมื่อไหร่ จะเล่นเกมปั่นตัวให้เทพสร้างกิลด์ของตัวเองมั้งคอยดู

   “ฟ่อ! ฟู่!!” จู่ๆ สองเหมียวขู่น่ากลัว ผมเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเงาที่ทาบทับตัวผม เพราะอีกฝ่ายยืนตรงต้นแสง ทำให้ผมต้องหรี่ตามอง

   “สวัสดี ในที่สุดก็ออกมาจากกรงได้แล้วเหรอ” เสียงลากยาวดูยียวนมาจากคนที่ผมไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด

   “เข้ามาที่นี่ได้ยังไง!” ผมลุกขึ้นก้าวถอยหลังออกห่างจากชายตรงหน้า นายท่านกับขุนพลขู่พองขนกางเล็บน่ากลัว ถ้าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ผมอีกนิดคงโดนสองแมวข่วนยับแน่ ดูอีกฝ่ายจะไม่เดือดร้อนสักเท่าไหร่ เขายืดตัวขึ้นยืนด้วยรอยยิ้มกับดวงตาไม่น่าไว้ใจ

   “พูดเป็นเล่น การป้องกันรอบนอกหละหลวงขนาดนี้ ถ้าฉันเข้ามาไม่ได้คงเหมือนพวกไร้ความสามารถ ที่เป็นได้แค่ขยะกันพอดี ไม่ต้องระแวงไป ฉันยังไม่เอาตัวนายไปตอนนี้หรอก แค่แวะมาทักทายเฉยๆ”

   “นายพูดเหมือนกับว่าถ้าต้องการตัวฉันเมื่อไหร่ก็พาไปได้อย่างนั้นแหละ”

   “ไม่เชิง แม้ภายนอกจะห่วย แต่ด้านในการป้องกันแน่นหนามาก สมกับที่วินเป็นคนวางระบบ ยังไงซะ ต่อให้ระบบจะสมบูรณ์แบบแค่ไหนมันยังคงมีจุดอ่อนเสมอ เหมือนที่นายพาตัวเองออกมาล่อเป้าอยู่แบบนี้ไง นายว่างั้นไหม”

   อือหือ ถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ตรงข้ามกับวาจาเจ็บแสบ บ่งบอกถึงความชื่นชมในตัวพี่วินจนดูน่ากลัว สำหรับคนอื่นในสายตารุจนอกจากพี่วินแล้วคงเป็นได้แค่คนไร้ค่า เกินเยียวยาแบบที่พี่วินพูดไว้ไม่มีผิด ผมยอมรับตัวเองพลาดไปแล้วจริงๆ ที่ลงมาด้านล่างแบบนี้

   “สำนึกไปเถอะ นายนี่คล้ายกับวินดีนะฉันชอบ” อีกฝ่ายยื่นมือเรียวเข้าใกล้ผม ก่อนจะต้องถอยหลังไปเพราะโดนนายท่านทำท่าจะตะปบใส่ขา และอาจมีรายการกระโจนใส่ในอนาคตอันใกล้

   รุจถือว่าเป็นผู้ชายที่ดูดีออกไปทางสวย น่าจะเป็นสเปคของผู้หญิงหลายคน รูปร่างเพรียวบางเหมือนไม่เคยทำอะไรที่ต้องออกแรงหนักมาก่อน ดูเผินๆ ไม่น่ากลัวเลยสักนิด แค่ซัดทีสองทีก็หมอบ สิ่งที่ทำให้อีกฝ่ายอันตรายคือความฉลาดกับนิสัยเหลือรับ

   “แมวนี่เกะกะจริง ช่างเถอะ อีกไม่นานนายต้องตกอยู่ในมือฉันอยู่แล้ว เอาไว้เจอกันนะ น้องวัต...”

   เขายักไหล่ โบกมือแล้วเดินจากไปเสียเฉยๆ ผมมองจนชายในชุดสูทเดินหายไปจากสายตา พลางบ่นอุบอิบ

   “ฉันจำไม่ได้ว่ามีคนโรคจิตเป็นพี่ชาย...ไม่สิ พี่วินเองก็ เหอะๆ ไม่พูดถึงแล้วกัน ไปนายท่านขุนพล กลับขึ้นข้างบนกันเถอะ ป่านนี้คนอื่นๆ คงรอแย่แล้ว”

   ผมย่อตัวลงกางแขนรับนายท่านที่กระโดดขึ้นมาให้ผมอุ้มอย่างเหมาะเหม็ง แล้วพยักหนาเรียกขุนพลเดินกลับเข้าบริษัท เรื่องเจอกับรุจผมต้องบอกพี่วิน ถึงไม่อยากให้เป็นห่วงมากกว่าเดิม แต่เก็บเงียบไว้อาจส่งผลร้ายมากกว่า ผมยิ้มทักลุงยาม รีบเดินเร็วๆ เข้าลิฟท์ขึ้นชั้นบน

   ลิฟท์เปิดออก ผมชนเข้ากับใครคนหนึ่งจนแทบหงายหลัง อีกฝ่ายรีบมากถึงขนาดไม่รอให้คนออกจากลิฟท์ก่อน นายท่านตกใจกระโดดหนีลงจากแขน ส่วนผมได้คนชนนั้นแหละคว้าแขนไว้เลยไม่หงายกลับเข้าลิฟท์ ได้กลิ่นหอมเย็นๆ ประจำตัวผมถึงรู้ว่าใคร

   กลมองผมด้วยสีหน้าตื่นๆ แบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ในมืออีกข้างกำกระดาษที่ผมเขียนแปะไว้จนยับยู่ยี่ไม่พูดอะไรสักคำ จากที่ปกติไม่ใช่คนพูดมากอยู่แล้วทีนี้เงียบสนิทเป็นป่าช้า อาการคล้ายกับเครียดกังวลมากจนพูดอะไรไม่ออก ผมเห็นท่าไม่ดี ลากกลเข้าห้องเจ้าตัวแล้วปิดประตูล็อก ปล่อยแมวให้อยู่ด้านนอก เวลานี้ผมขอดูอาการเจ้าหมาก่อน

   กลนั่งนิ่งบนเตียง จับมือผมไม่ปล่อย พอผมจะพูดอะไรเขายกมือห้ามแล้วสูดลมหายใจลึกๆ สองสามที เรานั่งเงียบกันสักพัก กลดึงผมเข้าไปกอด

   “ดีจริงๆ ที่นายยังไม่หายตัวไปไหน”

   เสียงทุ้มปกติจะราบเรียบหนักแน่นกลับสั่นดูไม่มั่นคง ผมพอเข้าใจแล้วล่ะว่ากลเป็นอะไร

   “ใจเย็นๆ ฉันอยู่นี่ อยู่กับนาย ขอโทษที่ลงไปข้างล่างคนเดียว”

   “อย่าทำอีก ฉันขอ” แววตาขอร้องทำให้ผมพยักหน้ารับไปโดยไม่รู้ตัว มันต้องมีอะไรมากกว่าเรื่องที่ผมลงไปข้างล่างแน่ๆ ไม่งั้นกลที่เคยเก็บความรู้สึกเก่งอยู่ตลอด คงไม่ออกอาการขนาดนี้ ผมรอให้เขาสงบลงแล้วลองถาม

   “บอกได้มั้ย ว่าเกิดอะไรขึ้น นายเจออะไรมา”

   หมาป่าหนุ่มย้ายตัวเองมานอนบนเตียง เอาหัวหนุนขาผมแล้วกอดเอวใช้หน้าซุกพุงอย่างหวงแหน ผมลูบผมยุ่งของอีกฝ่ายเบาๆ ไม่ใช่แค่พวกพี่วินที่ทำงานหนัก กลเองไม่ต่างกัน ทั้งที่เพิ่งอายุแค่สิบแปด แต่ต้องทำอะไรที่เหมือนกับพวกผู้ใหญ่ ต่อให้ไม่มีคนบอกผมก็รู้ ทั้งหมดทั้งสิ้นกลทำเพื่อผม

   “ระหว่างที่ฉันสรุปข้อมูลทั้งหมดตามที่อาจารย์สั่ง มันมีบางอย่างทำให้ฉุกคิดว่าพวกมันคงลงมือเร็วๆ นี้ ช้าสุดคือหนึ่งอาทิตย์ เร็วสุดไม่เกินสามวัน”

   กลพูดเสียงอู้อี้เพราะยังซุกหน้าอยู่กับท้องผมไม่เลิก ถือว่าเป็นการคาดเดาที่แม่นมาก พวกนั้นคิดจะลงมือแล้วจริงๆ ไม่งั้นรุจคงไม่ถ่อมาทักทายผมถึงที่ ส่วนเรื่องทำไมเขาถึงรู้ว่าผมที่ถูกกักอยู่ชั้นบนลงมาด้านล่างที่การป้องกันน้อย ต้องมีสายในหมู่พวกเราแน่นอน

   “พอฉันกำลังไปบอกอาจารย์ เห็นกระดาษของนายรู้มั้ยตกใจแค่ไหน วันหลังอย่าทำอีก ไม่งั้นฉันจะล่ามนายไว้กับเตียง รับรองว่าอาจารย์ต้องเห็นด้วยแน่ๆ”

   ดวงตาผมสีนิลวาววับบ่งบอกว่าเอาจริง ผมกลืนน้ำลายอึก ลูบๆ หัวหมาพลางเสตาหลบไปทางอื่น กลไม่ยอมปล่อยผมเฉไฉง่ายๆ ลุกขึ้นมาใช้สองมือประกบแก้มผมดึงไปจูบหนักคล้ายจะระบายความกรุ่นภายใน เหมือนไม่หน่ำใจเจ้าตัวร้องฮึ่มในคอ มือหนาเริ่มสอดเข้าใต้เสื้อ ผมสะดุ้ง ชัดเลย เจ้าหมาบ้าหนิมันจะใช้วิธีนี้เพื่อตัดกำลังผมและระบายความอัดอั้นของตัวเอง!

   ร้ายกาจ ร้ายกาจมากๆ ที่น่าเศร้ามากกว่านั้นคือ ผมดันเอาตัวเองมาเสิร์ฟให้ถึงปากหมาป่า

   “เดี๋ยวกล นายต้องไปรายงานผลการสรุปกับพี่วินไม่ใช่เหรอ” ผมเริ่มอ้างพี่ชายผู้น่ากลัวที่สุดในแผนก หมาป่าที่เริ่มกลายพันธ์ชะงักกึก เงยหน้าจากซอกคอผมมาจ้องเป๋ง แล้วลุกขึ้นหรี่ตามอง

   “ห้ามไปไหนฉันจะกลับมา” สองประโยคสั้นๆ พร้อมเจ้าหมาป่าสะบัดก้นออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมนั่งอยู่บนเตียงคนเดียว หลังประตูปิด พอผมจะลุกไปเปิดเตรียมเผ่นไปห้องพี่วิน มันดันเปิดไม่ได้ เจ้าหมามันขังผมไว้ในห้อง! มือตะปบกระเป๋ากางเกงหาโทรศัพท์มือถือ เพื่อโทรให้ใครสักคนในแผนกมาเปิดประตูให้ แน่นอนว่ามัน-หาย-ไป!!

   “กล ไอ้ลูกหมา! กลับมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย”

   ไร้เสียงตอบรับจากปลายทาง ผมเดินไปเดินมา ห้องกลเหมือนห้องพี่วินและคนอื่นๆ อุปกรณ์สื่อสารภายในห้องมีก็จริง แต่เชื่อเถอะเจ้าหมาโปรแกรมเมอร์มันบล็อกไม่ให้ผมใช้ชัวร์ ถึงมีความสามารถของตัวเองในการแก้ไขดัดแปลง แต่มันไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาใช้ซี้ซั้วได้ รอรับชะตากรรมอย่างเดียวหมด หวังแต่ว่าพี่วินจะเอะใจ


   หมาป่าเดินฉับๆ เข้าห้องประชุมประจำแผนก วินและคนอื่นที่กำลังปรึกษากันอยู่ หันขวับไปทางผู้มาใหม่เป็นตาเดียว กลเดินเข้าไปนิ่งๆ ยื่นกระดาษที่ตัวเองขยับจนยับให้วิน เจ้าตัวรับไปดูสีหน้าไม่แปลกใจสักนิด จะให้แปลกใจได้ไง ในเมื่อคนข้างล่างติดต่อขึ้นมาแจ้งแล้วว่าวัตลงไปข้างล่าง วินเลยสั่งให้คนคุ้มกันอยู่ห่างๆ เรื่องที่เจอรุจวินก็รู้ แค่ไม่ทำอะไร เพราะยังไม่ถึงเวลา

   ยังไงซะทางฝั่งนั้นพาตัววัตไปไม่ได้แน่นอน ตราบใดที่ยังอยู่ในสายตาของวิน นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รุจยังไม่ลงมือก็เป็นได้ คนที่ไม่รู้อะไรเลยคงมีแค่เจ้าหนูสองตัว

   วินกับกลไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมาก เห็นท่าทางไม่เดือดร้อนของวิน กลก็พอจะรู้เรื่องทั้งหมด เลยขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ พอโดนดวงตาสีเทาจ้อง ปมตรงหว่างคิ้วถึงหายเปลี่ยนมาเป็นสีหน้านิ่งตายไม่สื่ออารมณ์ตาเดิม คนอื่นๆ ที่เหลือนอกจากชินมองการสื่อสารผ่านทางโทรจิตของอาจารย์ลูกศิษย์อย่างเงียบๆ

   “ฉันเห็นผลสรุปที่นายส่งมาแล้ว กำลังคุยกับคนอื่นพอดี นายลองบอกความคิดของตัวเองหลังจากอ่านสรุปนี้ออกมาซิ”

   หัวหน้าแผนกสั่ง เด็กฝึกงานควบตำแหน่งลูกศิษย์และน้องเขย มีทางเลือกเดียวคือตอบ

   “พวกนั้นจะลงมือในอีกไม่ช้า เร็วสุดสามวัน ช้าสุดหนึ่งอาทิตย์” สั้นง่ายได้ใจความ ข้อมูลทุกอย่างทุกคนรู้อยู่แล้ว เพยีงแค่มาแลกเปลี่ยนความคิดหลังจากอ่านเท่านั้นเอง

   “พวกเราคิดเหมือนกัน แต่ฉันว่าเร็วสุดคือพรุ่งนี้ ดูวัตให้ดีๆ ในฐานะหัวหน้าแผนกที่ประสานงานกับนักโปรแกรมเมอร์และหน่วยงานอื่นๆ ฉันไม่อยากให้พวกมันได้ตัววัตไป ไม่งั้นเราคงทำงานได้ยากขึ้น ตอนนี้เรามีข้อมูลของทางนั้นครบหมดแล้ว ที่เหลือคือรอเวลาลงมือตามแผนการกับหาตำแหน่งที่แน่นอนของพวกนั้นให้เจอ”

   ทุกคนพยักหน้ารับ ไม่มีใครขัด การทำงานหนักตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ใช่การกระทำโดยไร้ประโยชน์ ทุกสิ่งทุกอย่างของทางนี้ก็พร้อมแล้วเช่นกัน หากการเตรียมตัวของทุกฝ่ายเสร็จเมื่อไหร่ สามารถลงมือได้ทันที

   ชายร่างโปร่ง หลับตาลง ก่อนจะลืมตาขึ้นมาใหม่ ไม่มีสีหน้าแววตาจริงจังเช่นตอนแรก มันคือโฉมหน้าของคนเป็นพี่คนหนึ่งที่เป็นห่วงน้องชายจับใจ วินก้มหัวลงน้อยๆ แบบไม่สนว่าทุกคนตรงหน้าเป็นแค่ลูกน้อง

   “ในฐานะพี่ชายคนหนึ่ง ฉันขอยืมกำลังทุกคนปกป้องน้องชายด้วย”

   “ฉันขอร้องด้วยอีกคน” ชินเสริมขึ้นมาทำท่าแบบเดียวกับวิน แต่ละคนนิ่งอึ้ง มะลิที่มีอายุมากที่สุด รวมถึงประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่าทุกคนในห้อง ยิ้มและถอนหายใจออกมา

   “พวกนายไม่ต้องลงทุนถึงขนาดนั้นหรอก พวกเราเข้าใจดี เรื่องนี้เรื่องใหญ่ยังไงก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว” วินกับชินเงยหน้าขึ้นออกปากขอบคุณสาวคนเดียวในแผนก บรรยากาศในห้องประชุมผ่อนคลายลง วาโยพูดทีเล่นทีจริง

   “พวกเราไม่ยอมให้แม่บ้านเป็นอะไรแน่ ทุกคนเป็นหนี้ชีวิตน้องวัต ถ้าเกิดไม่มีน้องวัตเราคงจะอดตายกันหมด”

   “วัตเป็นคนรักผม ผมไม่ยอมให้วัตเป็นอะไรไปอยู่แล้ว” คนสุดท้ายดูจะมาวินสุด วายุลุกจากเก้าอี้มากอดคอรุ่นน้องที่ดันสูงกว่า แอบทิ้งน้ำหนักเหมือนจะกดให้อีกฝ่ายเตี้ยลงให้ได้

   “น้อยๆ หน่อยไอ้เสือ พี่ชายบราค่อนอยู่ตรงหน้าตั้งสอง เดี๋ยวโดนขบหัวตายพอดี”

   “ยุอย่าแกล้งรุ่นน้อง” อัคคีผู้ดูแลแฝดสายลมวายุวาโยเอ็ดขึ้น เขากลัวเหลือเกินว่าถ้าเกิดขาดรุ่นน้องคนนี้ไป งานมากมายและการรองมือรองเท้าหัวหน้าคงตกใส่หัวเขาแหง พักหลังอุตส่าห์มีโอกาสให้พักหายใจหายคอ

   วินขำกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ชินบีบบ่าเบาๆ เจ้าตัวตบๆ มือบนบ่าเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร

   “เรื่องนอกประเด็นฉันจะคิดซะว่าไม่ได้ยินแล้วกัน ยังไงก็ขอบคุณทุกคนมาก หลังจากนี้คงต้องเหนื่อยกันอีกเยอะ ไว้จบเรื่องฉันจะให้ทุกคนพักเต็มที่!”

   “เฮ้!!”

   “อย่าเพิ่งดีใจไป ใครทำพลาด ต้องทำงานส่วนของทุกคนในช่วงวันหยุด” เสียงเฮตอนแรกเงียบเป็นเป่าสาก

   “แยกย้ายไปทำงานได้”

   แต่ละคนบ่นอุบอิบโดยเฉพาะเจ้าแฝดดูจะเยอะสุดจนอัคคีต้องใช้มือปิดปากลากตัวออกไป ก่อนจะซวยมากไปกว่านี้ มะลิทำหน้าเหมือนอยากร้องไห้จนพี่ชินต้องปลอบด้วยบุพเฟ่ของหวานฟรีสามที่สำหรับแม่ผู้ทำงานหนักและลูกผู้น่ารักทั้งสอง เธอถึงอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

   ในห้องประชุมจึงเหลือเพียงวิน ชินและกลสามคน หมาป่าไม่ทันออกปาก วินโบกมือไล่

   “อนุญาต จะขอวัตไปนอนด้วยใช่มั้ยล่ะ”

   อาจารย์พูดแบบรู้ทัน กลยิ้มขอบคุณแบบที่นานทีปีหนจะได้เห็นสักที ลับหลังกลออกไปชินหันมาคุยกับเพื่อนตัวเอง

   “ทำไมปล่อยง่าย ฉันคิดว่านายจะไม่ยอมซะอีก” ชินเลิกคิ้ว วินหัวเราะในคอ

   “ถือว่าให้รางวัลเด็กมัน ทำงานเกินวัย พักๆ ซะมั้งเดี๋ยวสมองจะฝ่อจนใช้การตอนโตไม่ได้พอดี ฉันไม่อยากได้คนใช้งานไม่ได้มาอยู่ในแผนก”

   คนฟังหัวเราะอย่างรู้ทัน กระแซะไหล่เพื่อนตามสไตล์ชินเวอร์ชั่นอยู่กับคนสนิท ไม่วางตัวแสนจะน่าพึ่งพาเหมือนทุกที

   “ใจอ่อนแล้วทำเป็นอ้างนู่นอ้างนี้ไปได้ นายกลายเป็นพวกซึนเดเระตั้งแต่เมื่อไหร่ เอาเถอะ จะแบบไหนฉันก็ชอบ ขอแค่เป็นนายพอ ซึนบ้างอะไรบ้าง ตรงมากบางครั้งฉันปวดใจนะ” ไม่พูดอย่างเดียวยังเนียนมาซบเลยโดนหลังมือเข้าหน้า

   “ไม่ต้องมาใช้ศัพท์แปลกๆ ตามเจ้าวายุ ใจอ่อนแค่ส่วนเดียว ที่เหลือเป็นไปตามที่พูด” ชินไม่ตอบโต้อะไร แค่ยิ้มหัวเราะเบาๆ

   “ขอบใจ ฉันรู้สึกดีขึ้นเยอะ”

   “เพื่อนายแล้วได้เสมอ ต่อให้สั่งฉันไปเป็นโล่บังกระสุนฉันยังทำให้นายได้ ขออย่างเดียว อย่าสั่งให้ฉันอยู่ในที่ ที่ไม่สามารถปกป้องนายได้ก็พอ”

   สีหน้าจริงจังถูกส่งมา วินไม่หลบความรู้สึกอีกฝ่าย แค่ยิ้มรับและยักคิ้วให้

   “อย่าห่วงเลย ฉันสัญญาแล้วไม่มีทางทำผิดสัญญาเด็ดขาด ต่อให้เป็นนรก ฉันก็จะพานายไปด้วย นายพร้อมรึเปล่าล่ะหืม?”

   “พร้อมเสมอ สำหรับนาย” ชินยกมือที่กุมกันของอีกฝ่ายมาแตะริมฝีปากเบาๆ ก่อนแยกทำงานตามปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น วาโยที่กลับเข้ามาสอบถามไม่เอะใจอะไรเลยสักนิด


   กลับมาทางวัต รอเกือบชั่วโมง ในที่สุดหมาป่ายอมเสด็จกลับราชฐานสักที อารมณ์กรุ่นๆ ตอนขาไปพอกลับมีสีหน้าดูดีขึ้น

   “คืนนี้นายนอนกับฉัน”

   ผมอ้าปากค้าง เป็นไปได้ไงพี่วินยอม? หรือหมาป่ามันโมเมเอาเอง??

   “ฉันขออาจารย์มาแล้ว ถ้านายสงสัยจะออกไปถามก็ได้ แต่หลังจากที่ฉันจัดการนายเสร็จ”

   ใบหน้าหล่อๆ ยื่นเข้ามาใกล้พูดด้วยน้ำเสียงในคอ ตอนนี้นายอยู่นอกเกมนะ ไม่ได้เป็นหมาป่าเหมือนในเกมสักหน่อย อย่าทำเหมือนจะคำรามแบบนั้นสิ

   กลตัดกำลังผมแบบจัดเต็มไม่พอ ตัวผมช่างน่าสงสาร ถูกรังแกแล้วยังต้องเอาใจหมาป่าให้อารมณ์ดีอีก ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย อยู่ข้างล่างว่าหนัก พอต้องมาอยู่ข้างบนให้หมาป่ารังแกเหนื่อยเพิ่มอีกสิบเท่า เวลานี้เลิกคิดเรื่องก้าวเท้าออกจากห้องได้เลย

   หากเทียบกับในเกม หมาป่าได้รับการฟื้นฟูพลังเต็มเปี่ยม แถมยังบัพเพิ่มความสามารถจนกระปรี้กระเปร่า ส่วนผมโดนทำดาเมจรัวๆ เลือดเหลืออยู่ก้นหลอดปล่อยให้หมาป่าบริการพาไปอาบน้ำเสิร์ฟอาหารถึงเตียง ตัวต้นเหตุกลับไปทำงานสลับแวะมาดูผมเป็นระยะ ส่วนผมนอนแผ่อยู่บนเตียง มีแมวสองตัววนเวียนใกล้ๆ

   ผมนอนคว่ำหน้า นายท่านกระโดดทับผมเหมือนทุกที แต่ร่างกายผมมันไม่ปกติเหมือนเดิม ขุนพลไม่รู้คึกมาจากไหน ตามมาสมทบบนหลังผมอีกตัว ลามไปแถวสะโพก เจ็บร้าวเหลือเกิน กว่ากลจะกลับมาดูใจ ผมแน่นิ่งใต้ตัวแมวไปเรียบร้อย

   ฝากให้อาหารแมวข้าด้วย คร่อก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 20:20:42 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เหตุเกิดจากความหมันไส้นี่เอง  o13

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 969
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
อ้างถึง
“เห็นนายตอนโตแล้ว อยากขังนายไว้ในห้อง”

   น้ำเสียงเรียบเรื่อยแฝงความเอาแต่ใจแบบเด็กๆ ผมตบหัวหมาป่าปุ๊ๆ
บอกเลย กรี๊ดมากอ่ะตรงนี้อ่ะ กลโคตรน่ารักอ่ะ แบบมันฟินเวอร์ :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
โอ๊ยกลน่ารักๆ :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ oss_tw

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 154
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
มาต่อไวไวนะ

มันค้าง

กำลังสนุกเลยค่ะ 

  :bye2:

ออฟไลน์ P★RiTŸ

  • he's mine
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1282
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-5
ท่าดื่มเลือดนี่ฮิโรติกดีเนอะ หุหุ
อยากเห็นวัตตอนโตเต็มวัยบ้าง

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
กลต้องเป็นมาโซแน่ๆเลยยย :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
พี่วัต เจ้าเล่ห์ว่ะ แต่ชอบ  :z6:โดนกลถีบ

ออฟไลน์ nuja

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มาตีพังพอนช่วยแล้วค่ะ

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
งานนี้คนให้ภารกิจเหงื่อแตกแน่ๆ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
กลสมหวังล่ะสิ 5555555 หื่นที่สุดด
สงสารไวไวนะ แต่ชอบลินเวอร์ชั่นนี้ที่สุด!!!
รอตอนต่อไปเนาะ

ออฟไลน์ nightsza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-1
เป็นท่ากินเลือดที่อีโรติกมาก อ่านแล้วฟินนนน

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กลตอนเปนแวมไพร์ เท่ออร่ากระจายยยย
ดีแระลากไปกลางหมู่บ้านเบย หมั่นไส้อินาคา!!!

ออฟไลน์ VentoSTAG

  • ไม่รักอย่าทำให้มโนฯ GO AWAY!!!
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-9
 o22 นี่เราโดนรูปลักษณ์เจ้าลูกเทนนิสสีทองหลอกมาตลอดเลย
เชื่อแล้วว่าทำไมคำสาปแวมไพร์ถึงเหมาะกับวัต คนเจ้าเล่ห์

นี่แค่โดนมัดมือชกทำเควสต์ ถึงกับจะพามอนฯ ไปถล่มหมู่บ้านเชียว
สู่สุขคตินะชาวนาคา :z6: โดนลูกบ้านถีบ

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สนุกๆๆๆ เอาอีกๆๆ จะตีบอสพังพอน

ออฟไลน์ ไม่เคย

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ความคิดวัตนี่สะใจจุงง  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7579
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
ร้ายกาจและฉลาดกันเกินปาย 55555

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
เจ้าเล่ห์นะ หึหึ  :katai2-1:

ออฟไลน์ kothan

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
แผนไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นเลยใช่ไหม? ไวไวก็ให้เพื่อนดูเทพหน่อยก็ไม่ได้

ออฟไลน์ ขนมโก๋

  • เป็ดหัวเน่า
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-0
กล หื่นเฟ่อร์  :oo1:

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 557
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
55อยากเห็นนาคาโดนถล่มมาต่อไวๆ :hao7:น้าา

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ชาวนาคาคงผวากันหล่ะงานนีั5555

ออฟไลน์ ployspy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
โอ๊ยยยยยยย อยากอ่านต่อแล้วววววววววว
มาต่อไวๆน๊า

ออฟไลน์ เลิฟลี่

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แวะมาส่อง อยากอ่านอีกตอนไวไวจังจ้าคนเขียน

ออฟไลน์ Silver Fish

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 335
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-0
    • Fanpage
Lv.33 สาย

   ผมฟื้นสภาพหลังจากนั้นสามวัน กลับมาฟิตปกติอีกครั้ง พร้อมคิดบัญชีทั้งหมาและแมวด้วยการปล่อยให้นอนด้วยกันหมด ส่วนผมกลับไปนอนห้องพี่วินตามเดิม กลฮึดฮัดนิดหน่อย แต่พอมีคนเดินผ่านไอ้อาการเหมือนเด็กโดนขัดใจกลับเป็นนิ่งเงียบจนผมเริ่มเป็นห่วง สักวันกลจะมีปัญหาสองบุคลิครึเปล่า คงต้องดูแลดีๆ

   ก่อนหน้านี้ผมว่าทุกคนงานยุ่งจนหัวหมุนแล้ว มาช่วงนี้แลจะหนักกว่าเดิม แทบไม่มีเวลากินข้าวเป็นกิจลักษณะ ผมต้องทำของง่ายๆ แต่คุณประโยชน์ครบถ้วนให้ทุกคนทาน

   ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังเตรียมตัวลงมืออย่างจริงจัง หลังจากต้องรอฝ่ายนู้นฝ่ายนี้พร้อมมานาน หน้าที่ของผมคือเป็นแม่บ้านต่อไป สงบเสงี่ยมอยู่ในแผนก ไม่ออกไปซนที่ไหน เพราะพี่ชินเตือนว่าคนพวกนั้นเริ่มมาป้วนเปี้ยนแถวบริษัทและเป็นคำขอของกล

   ระหว่างที่ผมกำลังทำตัวเป็นนางซินเพ่งรอยเปื้อนตรงพื้นหน้าลิฟท์ พยายามขัดถูให้ใสปิ้ง ประตูลิฟท์เปิดออก ชายร่างโปร่งเดินฉับๆ เข้ามาชะงักเท้าตรงหน้าผม พอเงยหน้าไล่ขึ้นมอง กางเกงสแล็คสีเทา เสื้อเชื้ตสีขาวกับใบหน้าคุ้นเคย

   “มาก้มหาเศษเหรียญอะไรตรงนี้ หลบสิ มันเกะกะขวางทางเดินคนอื่นเขา”

   “ผมไม่ได้หาเศษเหรียญสักหน่อยคุณลาส กำลังทำความสะอาดอยู่ต่างหาก”

   ผมพูดพลางลุกขึ้นหลบทางให้หัวหน้าแผนกฝ่ายบุคคล ตั้งแต่มาสถิตอยู่แผนกพี่วิน ครั้งนี้ครั้งแรกที่ผมเห็นคุณลาสมาถึงที่นี่ ฝ่ายบุคคลกับโปรแกรมเมอร์มันคนละส่วนกันนี่นา เอาเถอะ การทำงานแบบองค์กรใหญ่ สุดแสนจะลึกลับซับซ้อน ยิ่งเป็นบริษัทที่มีคนธรรมดาอยู่น้อยนิด จะโผล่กันข้ามแผนกคงไม่แปลกมั้ง

   “ขยันดีนะ น่าจะลงไปทำที่แผนกฉันบ้าง” เขาเลิกคิ้วมองพื้นเงาวับ

   “ไม่เชิงขยัน แค่ว่างจัดไม่มีอะไรทำมากกว่าครับ คุณลาสมาหาพี่วินเหรอ”

   “อืม”

   เขารับคำนิ่งๆ แล้วเดินดุ่มๆ เลี้ยวเข้าห้องพี่วิน ผมมองตามตาปริบๆ กลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง กวาดพื้นก็ทำแถว ถูก็ถูแล้ว ส่วนห้องนอนทุกคนแทบไม่ต้องทำอะไร ในเมื่อแต่ละคนไม่ได้เข้าไปนอนเลย ตายดับคาห้องทำงาน ไปแปรงขนเจ้าสองเหมียวก็ได้ฟะ

   ผมจับแปรงขนแมวเดินไปหาสองเหมียวที่กำลังนอนสบายใจอยู่บนเบาะนอนของตัวเอง พอนายท่านกับขุนพลเห็นแปรงในมือผม กระโดดหนีไปคนละทิศ อะไรฟะ แค่แปรงขนบ่อยๆ จนเอามาปั้นเป็นอีกตัวได้แค่นั้นเอง ไม่เห็นต้องหนีกันเลย

    หัวหน้าแผนกฝ่ายบุคคลออกจากห้องพี่วินเห็นผมไล่จับแมวอยู่ตรงทางเดินเลยคว้าคอผมไว้

   “มันไม่ใช่สถานที่วิ่งเล่นนะ ถ้าว่างขนาดมากวนแมวแบบนี้ไปช่วยงานฉันดีกว่า” ผมหันขวับ

   “ผมยังเรียนไม่จบเลย จะให้ไปทำงานที่แผนกคุณลาสไม่ดีมั้ง”

   “แล้วใครบอกให้นายไปทำงานแบบนั้นกัน ฉันลืมหยิบของมาให้เจ้าซาตานเผด็จการ นายตามฉันลงไปเอาขึ้นมาที ไม่อยากขึ้นมาอีกรอบ”

    ไม่รอให้ผมตอบตกลง แขนยาวๆ คว้าคอลากเข้าลิฟท์กดลงชั้นล่าง สองเหมียวนั่งอยู่หน้าลิฟท์ดูโล่งใจสุดๆ ส่ายหางไปมา ถ้ามันโบกมือลาสะบัดผ้าเช็ดหน้าได้คงทำไปแล้ว ใช่ซรี้ เวลาหิวอย่ามาง้อเค้าแล้วกัน

   ลิฟท์เลื่อนลงชั้นล่างตามตัวเลขที่ลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงชั้นห้า ผมพอเข้าใจแล้วล่ะว่าทำไมคนข้างตัวเองไม่อยากเทียวขึ้นเทียวลง อยู่ห่างกันเป็นสิบชั้นเสียเวลาตาย ชายผมเงินไม่พูดอะไรเดินนำไปลานจอดรถชั้นที่ตัวเองทำงาน ทักทายคนอื่นแค่พยักหน้าเล็กน้อย ปกติคุณลาสเป็นคนนิ่งๆ ก็จริง แต่ขี้บ่นมากจากการรับรองของพี่วินกับประสบการณ์ที่ผมเคยเจอมากับตัว ไหงถึงเงียบผิดปกติหนอ ผมว่ามันชักยังไงแล้วสิ

   “ฉันมีลูกสาวอยู่หนึ่งคน” คุณลาสพูดทำลายความเงียบ ผมเลิกคิ้วมองด้วยความแปลกใจ เหมือนว่าเขาพูดขึ้นมาลอยๆ ไม่ต้องการคำโต้ตอบจากผม

   “เธอชื่อคาเรน ปีนี้อายุ 4 ขวบ นี่ก็ใกล้จะถึงวันเกิดเธออีกไม่กี่วัน ฉันยังไม่มีของขวัญจะให้เธอเลย”

   “เด็กผู้หญิงซื้อพวกตุ๊กตาน่าจะชอบนะครับ” ผมตอบไปตามที่คิด คุณลาสชะงักฝีเท้าหันมามองผม ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ในลานจอดรถ รอบข้างไร้วี่แววของผู้คน มีเพียงรถจอดอยู่ไม่กี่คัน

   “นั่นสินะ ขอบใจที่ช่วยคิดและขอโทษ...”

   เอี๊ยดดด!

   เสียงล้อยางเสียดสีกับพื้นเรียบ รถติดฟิมล์ดำคันหนึ่งจู่ๆ เปิดไฟสูงกระทันหัน เหยียบคันเร่งพุ่งมาทางพวกเรา ผมยกแขนปิดตา วิ่งหลบพร้อมกับลากคนข้างตัวไปตัว แทนที่คุณลาสจะวิ่งตามผม กลับเป็นฝ่ายคว้าแขนจับผมไว้ซะเอง ไม่ทันจะได้พูดอะไรอีก รถสีขาวจอดเทียบด้านข้างพร้อมกับประตูที่เปิดออก ตัวผมถูกชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนคว้าเอาไว้

   “คุณลาส! นี่มันเรื่องอะไรกัน ปล่อยนะเว้ยไอ้พวกคิงคอง!!”

   ผมตวาดถามอย่างไม่เข้าใจ แขนขาเอามาใช้เป็นอาวุธ ซัดหมัดเข้ากลางท้องคนที่คิดจะมาจับผม สรุปเป็นผมกระโดดเหยงๆ สะบัดมือไล่ความเจ็บ ส่วนมันไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด อีกตัวหมายรวบตัวผมจากทางด้านหลัง หางตาผมเหลือบไปเห็นพอดีเลยย่อตัวหลบใช้หัวเสยคางแม่ง เจ็บน้ำตาเล็ดหัวปูดแล้วเนี่ย ส่วนไอ้บึกผงะถอยไปกุมคาง แม้ผมจะต่อยตีไม่เก่ง ไม่ได้ฝึกวิชาการป้องตัวมาแบบคนอื่น ก็ยังพอเอาตัวรอดได้บ้าง ยังดีกว่าโดนจับไปแบบโง่ๆ

   สองเท้าวิ่งหลบใช้ขนาดตัวให้เป็นประโยชน์ ตัวผมสูงตามมาตรฐานชายไทย คนพวกนั้นเป็นคนต่างชาติเทียบกันแล้วผมดูเหมือนเด็กน้อยไปเลย อีกสิ่งที่ผมสังเกตได้คือ คนพวกนั้นแค่ต้องการจับตัวผมเฉยๆ ไม่มีการทำร้ายร่างกาย เลยใช้อุปกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น พอจะเดาได้แล้วล่ะว่าเจ้าพวกนี้เป็นคนของใคร

   ส่วนตัวผมไม่ใช่คนมีศัตรูอะไร ปัจจุบัน มีอยู่คนเดียวที่เป็นปัญหา รุจ!

   “ใช้การไม่ได้ เจ้าพวกสมองกล้ามเนื้อไร้หัวคิด แค่จับเด็กคนเดียวยังทำไม่ได้ เอานี่ไป ทำให้มันสลบ ห้ามทำอะไรนอกเหนือจากนั้นเด็ดขาด”

   ตายยากชะมัด นึกถึงไม่ทันไร โผล่หัวออกมาจากรถโยนผ้าให้สองคนร่างบึก ทำเป็นละครหลังข่าวไปได้โปะยาสลบ ไอ้บ้าเอ๊ย! เผ่นสิครับ จะรอให้พ่อตัดริบบิ้นรึ ผมโกยแน่บ อาศัยจังหวะพวกมันมัวแต่เล่นรับส่งผ้านี่แหละ เป้าหมายคือประตูบริษัท ขอแค่ผมเข้าไปในบริษัทได้ก็จะปลอดัย เรื่องกล้องวงจรปิดในลานจอดรถ ผมไม่หวังพึ่งอะไรมันอยู่แล้ว แวบๆ ว่าจะเห็นยามนอนกองอยู่หลังเสาด้วย

   รุจเป็นพวกนักโปรแกรมมือฝีมือร้ายกาจแบบพี่วิน การที่เขามาจับตัวผม ต้องจัดการพวกกล้องวงจรปิดไปหมดแล้วแน่นอน ถ้ามันสั่งการด้วยสมองหรือเสียงก็ดีสิ ผมจะได้ใช้ความสามารถของตัวเองในการสั่งให้มันแจ้งเหตุด่วนไปหาห้องรปภ.

   เสียงฝีเท้าหนักๆ วิ่งไล่ตามหลัง มันดังก้องไปทั่วลาน ผมไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองให้เสียเวลา ตรงหน้าคือประตู จวนจะถึงอยู่แล้ว ไอ้พวกตัวบึกกระโดดชาร์จล็อกตัวผมไว้กับพื้น ตัวกระแทกรวมกับน้ำหนักจากทางด้านหลังจนรู้สึกจุก ผ้าผืนใช้เปียกชื้นไปด้วยยาสลบถูกโปะบนหน้า ผมรีบกลั้นหายใจพยายามดิ้นขัดขืน

   ผมเริ่มกลั้นหายใจต่อไปไม่ไหว สติของผมเริ่มเลือนราง ร่างกายของผมถูกแบกขึ้นบ่ากลับไปโยนใส่รถตรงเบาะหลัง ได้ยินเสียงคนคุยกันจากที่ไกลๆ แล้วผมก็ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย...

   “พี่คะ”

   “พี่ชาย ขี้เซาจัง ตื่นสิ ไม่งั้นจะเขียนหน้าแล้วนะ”

   เสียงเล็กใสไม่ทำให้ผมสะดุ้งได้เท่าเขียนหน้า มุกนี้ยังเล่นกันอีกเรอะ! ผมขมวดคิ้วค่อยๆ ลืมตาพบกับแสงสว่างจ้าจากหลอดไฟ จนต้องกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับสายตา สิ่งแรกที่เห็นคือใบหน้าน่ารักของเด็กผู้หญิง ดวงตากลมโต ปากนิดจมูกหน่อย ดูยังไงก็เหมือนกับตุ๊กตาฝรั่ง ยิ่งมีผมสีเดียวกับคุณลาส

   “เย้ พี่ชายตื่นแล้ว พ่อคะ พี่ชายตื่นแล้วค่ะ! หนูเก่งใช่มั้ยปลุกได้ด้วย” สาวน้อยส่งเสียงเจื้อแจ้ววิ่งไปหาชายอีกคน ผมพยุงตัวลุกขึ้น รู้สึกหัวหนัก มันตื้อๆ เหมือนคนมีอาการเมาค้าง คิดว่ายาสลบคงแรงพอดู

   “คาเรนของพ่อเก่งมากเลย แล้วจะเก่งกว่านี้ถ้าไม่ส่งเสียงดังนะคะ”

   เด็กน้อยยกสองมือเล็กปิดปาก หยักหน้ารับหงึกๆ ท่าทางน่ารักน่าชัง ผมคงจะยิ้มกับเธอได้ ถ้าไม่เงยหน้าไปเจอพ่อเด็ก

   “คุณลาสผมต้องการคำอธิบาย พาผมมาเอาของซะไกลเลยนะครับ”

   ผมกัดฟันพูดประชด แทบจะแยกเขี้ยว ถ้าอยู่ในร่างแวมไพร์เหมือนในเกมนี่กระโดดเข้าไปขย้ำคอแล้ว

   “เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง เป็นยังไงบ้าง ยังมึนหัวอยู่รึเปล่า ดื่มน้ำสักหน่อยเผื่อจะดีขึ้น”

   ชายผมเงินอุ้มลูกสาวด้วยแขนข้างหนึ่ง อีกข้างส่งแก้วน้ำมาให้ผม ผมไม่รับแก้วมา เพิ่งจะโดนหลอกมาหยกๆ จะให้เชื่อยอมดื่มไปได้ยังไง เกิดผสมยาอะไรแปลกๆ ผมก็แย่สิ

   คุณลาสเห็นท่าทางของผม เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่ง แล้วดื่มน้ำให้ดูแล้วส่งมาให้ผมอีกครั้ง

   “น้ำธรรมดา ฉันไม่ใส่ยาอะไรหรอก ดื่มซะ”

   อีกฝ่ายยืนยันขนาดนี้ แถมมีการทดลองให้เห็น ผมกลืนน้ำลาย รู้สึกคอแห้ง ยอมรับน้ำมาดื่มไม่ทิฐิต่อไป แต่ยังคงไม่ไว้ใจอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก พอผมดื่มหมดจากครึ่งแก้วที่เหลือ เขาเห็นว่าผมยังไม่พอเลยรินให้เพิ่ม ก่อนเดินมานั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง

   ผมเพิ่งรู้ว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเดี่ยวกลางห้องโล่ง มีแค่โต๊ะวางเหยือกน้ำ กับเก้าอี้ ถัดไปเป็นด้านขวาเป็นประตู ต้องใช้ระบบแสกนรอยนิ้วมือในการเข้าออก รอบด้านเป็นกำแพงบุนวมสีขาว มีเพียงด้านเดียวที่มีกระจกบานใหญ่ เห็นคนเดินผ่านไปมาเป็นระยะ

   “ผมหลับไปนานเท่าไหร่”

   คำถามสุดคลาสสิกสำหรับคนหมดสติหรือโดนมอมยาสลบเพื่อระบุว่าตัวเองอยู่ในสภาวะไร้การป้องกันมานานเท่าไหร่ และเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนหนีต่อไป

   “แปดชั่วโมง ตอนนี้เป็นเวลาประมาณหกโมงเย็น อีกเดี๋ยวจะมีคนเอาอาหารมาให้ กินไปคุยไปแล้วกัน”

   สักพัก มีคนเอาอาหารมาให้จริงๆ ด้วย ไม่ใช่ของกินหรูหราอะไร แต่ก็ไม่เลวร้ายเหมือนให้นักโทษกิน ผมนั่งทานเงียบๆ ตาคอยมองคุณลาสที่กำลังป้อนลูกสาว พอเห็นผมจ้องมากๆ เข้า คงนึกรำคาญยอมอธิบายสักที

   “คาเรนถูกจับเป็นตัวประกัน ฉันเลยต้องทำงานให้กับพวกมัน”

   ผมขมวดคิ้ว คำอธิบายแค่นี้ยังไม่พอ

   “แล้วคุณแม่ของคาเรนอยู่ที่ไหน” คุณลาสดูเป็นคนรักครอบครัว ในเมื่อลูกสาวอยู่ที่นี่ไม่ยอมให้ห่างตัว ภรรยาล่ะ หวังว่าคงไม่...

   ชายผมเงินจ้องมองผมอย่างไม่พอใจ พอเห็นว่าผมแสดงสีหน้าสลดไปวูบหนึ่ง

   “เธออยู่ในที่ปลอดภัย ฉันรู้ตัวช้าเกินไป เลยช่วยได้แค่ภรรยาเท่านั้น” เขาพูดพลางลูบผมของลูกสาวแผ่วเบา แม้จะไม่บอกเป็นคำพูด แต่ท่าทางของคุณลาสไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรคาเรนแน่นอน

   ผมต้องหาทางหนี ไม่อยากเป็นตัวสร้างปัญหาให้พี่วิน ถึงงั้นก็เหอะ ขอถามหน่อยแล้วกัน มันค้างคาใจ!

   “คุณทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

   คุณลาสนิ่งไปมองสบตาผมนิ่ง แววตาของเขาฉายความรู้สึกผิดออกมา

   “สามอาทิตย์ก่อน”

   “แสดงว่าวันที่ผมเจอคุณลาสในเกม กับวันที่รุจโผล่มาครั้งแรก คุณก็อยู่ฝั่งเดียวกับเขาแล้วสินะ”

   “ใช่…”

   บทสนทนาของเราจบลงด้วยความเงียบ ผมนึกย้อนกลับไป ช่วงเวลาที่ผมกำลังสนุกสนานอยู่ในเกมกับพวกเพื่อน พวกพี่วินกำลังหัวหมุนกับการสืบหาองค์กรที่รุจทำงานให้ ไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ชายคนนี้ต้องพบกับความกดดันและความกังวลมากแค่ไหน ผมถอนหายใจ ความโกรธในตอนแรกตอนถูกหักหลังลดไปเกือบครึ่ง ถึงงั้นก็ยังแอบเคืองอยู่ดี คนฉลาดๆ อย่างคุณลาสน่าจะมีวิธีอะไรสักอย่างให้ตัวเองหลุดจากสถานการณ์แบบนี้

   แรงสะกิดจากใต้โต๊ะดึงให้ผมออกจากห้วงความคิด ผมขมวดคิ้ว คุณลาสนั่งหันหลังให้กล้องวงจรปิดภายในห้อง เขาจับมือลูกสาวแบออกแล้วมองโต๊ะพร้อมเท้าสะกิดขาผม แวบแรกผมยังไม่เข้าใจ เขาทำซ้ำอีกรอบค่อยถึงบางอ้อ แบมือข้างที่ไม่ถนัดไว้ใต้โต๊ะ ส่วนมือขวาจับขนมปังกินตามปกติ

   สัมผัสบนฝ่ามือ คุณลาสใช้นิ้วเขียนบอกอะไรบางอย่างเหมือนที่ผมชอบเล่นกับเพื่อนตอนเด็ก ข้อความนั้นมีแค่คำสั้นๆ ไม่กี่คำ

   จะ

   พา

   หนี

   ผมตาโต แทบเก็บสีหน้าดีใจไว้ไม่ไหว จนคุณลาสต้องส่งแรงเข้ามาสะกิดผมแรงๆ อีกทีให้สะดุ้งโหยง รองเท้าหนังมันเจ็บนะคุณ!

   “เรื่องที่เหลือไว้ฉันค่อยเล่าวันหลัง”

   “ไว้เจอกันใหม่นะคะพี่ชาย” คุณลาสลุกขึ้นถือพวกถาดอาหารจูงมือลูกสาวที่โบกมือยิ้มน่ารักให้ผมเดินออกจากห้องไป

   ถ้าแปลความหมายดีๆ คงจะบอกว่า เรื่องวันเวลาแผนการหลบหนีเอาไว้คุยกันอีกที

   ช่วงผมอยู่ในห้อง คุณลาสกับคาเรนจะแวะมาเยี่ยมเสมอ เรานัดแนะผนการกันเงียบๆ อาศัยคุณลาสที่สำรวจจนรู้เส้นทางในองค์กรเป็นอย่างดี ในการหลบหนีออกจากสถานที่แห่งนี้

   วันที่ผมรอคอยมาถึง คืนวันที่สี่อาศัยช่วงเวลาในตอนกลางคืนที่พนักงานทั้งหมดกลับไปพักผ่อนในห้องของตัวเอง เหลือแค่เพียงพวกการ์ดเดินลาดตระเวณโดยรอบ คุณลาสมีตารางเวลาและตำแหน่งของการ์ดพวกนั้นทั้งหมด เขาเลือกเส้นทางที่สั้นและปลอดภัยมากที่สุด

   “ตามมา ระสังกล้องด้วย” คุณลาสเดินนำผมออกจากห้อง เขามองซ้ายขวา ผมทำตามวิ่งตามหลังไปติดๆ

   อาคารถูกแบ่งเป็นสามส่วน ด้านในสุดใจกลางของอาคารคือจุดที่รุจทำงาน ถัดมาเป็นห้องควบคุมต่างๆ รอบนอกสุดจะเป็นที่พักของพวกนักวิจัย เราจะออกไปทางส่วนนี้

   ระหว่างทางเจอพวกการ์ดกับนักวิจัยเป็นระยะ รอกระทั่งพวกเขาเดินไปผมกับคุณลาสถึงออกมาจากที่ซ่อน รีบตรงไปตามเส้นทางที่กำหนดไว้ ด้วยเหตุนี้กว่าจะหลุดจากชั้นใต้ดินขึ้นมาถึงส่วนของที่พักนักวิจัยเล่นเอาเสียเวลาไปไม่น้อย

   “เดินผ่านทางนี้ไปเราก็จะถึงที่หมาย…” ชายผมเงินพูดไม่ทันจบประโยค เสียงแจ้งเตือนคนหลบหนีดังสะท้อนไปทั่วบริเวณ

   “บัดซบ! วิ่งเร็วเข้า”

   “งานเข้าแล้ว” ผมวิ่งสุดฝีเท้าไปตามทางยาว ตรงทางแยกมีพวกการ์ดโผล่มา ผมกับคุณลาสพร้อมใจกันคว่ำกระถางต้นไม้แถวนั้นเพื่อชะลอการไล่ตาม ทันทีที่เราเลี้ยวตรงหัวมุมวิ่งออกมาจากอาคาร รอบข้างผมเห็นเป็นป่าและคนที่ผมเกลียดที่สุด

   “รุจ!”

   “หึหึ คิดว่าฉันไม่รู้แผนการตื้นๆ ของพวกนายหรือไงกัน ยอมรับว่าพวกนายเก็บอาการดีมาก แต่นายพลาดไปอย่างนะลาส เพราะฉันไม่เชื่อใจนายตั้งแต่แรกและที่นี่คือถิ่นของฉัน”

   “ไม่อยากจะใจตรงกันกับไอ้วิปริตเลยแฮะ ฉันไม่เคยเชื่อใจนายเหมือนกัน วัตพาคนเรนหนีไป ตรงนี้ฉันจะจัดการเอง”

   เด็กสาวตัวน้อยถูกอุ้มส่งมาให้ผม เธองัวเงียตื่น ดวงตากลมโตแปลกใจกับสิ่งที่เห็น รอบกายถูกล้อมไปด้วยคนมากมาย ทุกคนถือกระบองไฟฟ้า คงกลัวว่าถ้าใช้ปืนผมแล้วผมอาจจะโดนลูกหลง

   “บ้าน่า คนเยอะขนาดนี้คุณจะรอดได้ไง ขนาดเปิดทางให้ผมยังยากเลย คนจริงๆ นะ ไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่หรือพระเอกในหนัง” ผมสวนกลับ

   “ฉันมีเจ้านี่”

   เขาคุ้ยดินหลังกระถางหน้าอาคารหยิบวัตถุทรงกลมมีห่วงตรงส่วนหัว ผมตาโตอ้าปากข้าง ไปเอามาจากไหน ชายผมเงินไม่พูดพล่ามทำเพลง คุณลาสดึงสลักขว้างลูกแรกใส่พวกที่อยู่ตรงหน้าประตู ขว้างกันดื้อๆ คนที่ยืนบื้อรอระเบิดก็โง่เต็มทน เสียงระเบิดตูมดังสนั่นจนอาคารสะเทือน ทางด้านหน้าโล่งไร้การ์ด

   ชายผมเงินผลักหลังผมไปทางนั้น เขาวิ่งตามหลังโยนพวกระเบิดกันไม่ให้พวกนั้นวิ่งตามมา

   ปัง!

   เสียงปืนดังขึ้นพร้อมกับเสียงล้มลงของคนที่วิ่งตามหลัง ผมหันกลับไปมอง

   “พ่อคะ!!”

   คาเรนหวีดเสียงร้อง ผมจับหน้าเธอให้ซุกกับอก ขณะวิ่งเข้าไปหาคุณลาสที่ถูกยิงด้านหลังทรุดคุกเข่าอยู่บนพื้น คนยิงไม่ใช่ใครอื่น รุจถือปืนจ่อมาทางพวกเรา เขาเดินเข้าใกล้ทีละก้าว... ทีละก้าว

   “อย่าคิดว่าฉันไม่กล้ายิงนะวัต การจะยิงขาหรือแขนตัดความเคลื่อนไหวเธอนั้นสบายมาก หรือจะเอาเป็นยัยหนูคนนั้นดี”

   คาเรนร้องไห้เรียกหาพ่อ คุณลาสกัดฟันไล่ผมทั้งที่ตัวเองเจ็บหนัก

   “ไป...! พาคาเรนไป”

   “แต่...”

   “ไปสิ! ฉันเชื่อว่าพวกซาตานต้องอยู่แถวนี้แล้ว” ฉายาพี่วินทำให้รุจชะงัก เขาลดปืนลงมองด้วยแววตายินดี

   “นายจะบอกว่าวินมางั้นเหรอ... โอ๊ย!”

   คุณลาสไม่ตอบแถมยังคว้าก้อนหินขว้างใส่แล้วฝืนลุกขึ้นดันหลังผมแล้วออกวิ่งไม่สนใจเลือดสีแดงที่ซึมเป็นวงกว้างบนเสื้อ ใบหน้ามีเม็ดเหงื่อเกาะพราว กัดฟันข่มความเจ็บจนเห็นกรามนูน เสียงปืนดังขึ้นอีกนัด เฉียดขาผมไปนิดเดียว

   ผมคิดอย่างสับสน หมายความว่ายังไง พวกพี่วินมาแล้วงั้นเหรอ ผมจำได้ว่าล่าสุดพวกพี่ยังไม่รู้ที่ตั้งของพวกมันนี่

   “คิดรึว่าจะหนีพ้น ฉันขอขานายสักข้างแล้วกันนะวัต”

   มีการ์ดโผล่มาจากหลังต้นไม้ยืนขวางหน้าพวกเรา ด้านหลังคือรุจถือปืนไล่ตาม ปืนถูกเหนียวไกอีกครั้ง ผมจ้องเขม็งเตรียมรับความเจ็บปวด ในชั่วพริบตานั่นชายผมเงินโถมกายกอดรวบตัวผมกับคาเรนหลบไปอีกทาง กระสุนปืนเฉียวขาของเขาแทน

   “ชิ เกะกะขวางทางจริงไอ้หนูโสโครก เอาตัวทดลองกับเด็กผู้หญิงนั่นมา” รุจสั่งการ ลูกน้องเข้ามารวบตัวผม

   “พ่อคะ พ่อ! ตอบหนูสิ!!” คาเรนร้องไห้หนักจนน่าสงสาร เธอพยายามจะไปหาพ่อลูกเดียว ผมกอดเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้พวกมันแย่งเธอไปจากผม คุณลาสเสียสละปกป้องผมหลายครั้ง ผมเองก็ต้องปกป้องคนสำคัญของเขาเช่นกัน

   “เฮ้ย ปล่อยสิวะ”

   พอเห็นว่าหัวหน้าตัวเองยิงเอาๆ ลูกน้องคิดว่าทำร้ายร่างกายไปคงไม่เป็นไร ท่อนแขนหนักซัดหลังผมจนเซไปด้านหน้า ในช่วงที่ผมคลายวงแขนแค่นิดเดียว มันพาตัวคาเรนไปแล้วรวบตัวผมจนดิ้นไม่หลุด เสียงเด็กน้อยกรี๊ดบาดใจคนเป็นพ่อ

   “ปล่อยลูกฉัน ไอ้พวกชั่ว!”

   ชายผมเงินคลานกอดขาคนที่จับคาเรนไว้แน่น ก่อนถูกซัดจนหงาย แน่นิ่งไปบนพื้น

   “คุณลาส!!” ผมตะโกนออกแรงดิ้นจนโดนซัดเข้าท้องไปอีกหมัด จุกเจ็บจนพูดไม่ออก

   “แล้วหมอนี่จะทำยังไงครับนาย” คนลงมืออย่างร้ายกาจหันไปถามนายตัวเองด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ

   “ปล่อยมันตายไป วินกำลังมา เราต้องรีบลงมือไม่งั้นสิ่งที่ฉันวางแผนมาตลอดได้พังทลายลงไปแน่ๆ ไปลากไอ้พวกนักวิจัยมาให้หมด ฉันจะเริ่มเดินระบบทันทีที่ไปถึงห้องควบคุมหลัก”

   “ครับ!”

   พวกมันรับคำ แบกผมและอุ้มคาเรนกลับเข้าไปในอาคาร ผมมองร่างชายผมเงินที่ออกห่างไปเรื่อยๆ ขอร้องล่ะ ถ้าเกิดพวกพี่วินกำลังมาจริงๆ ขอให้ช่วยคุณลาสทันด้วยเถอะ

   ผมถูกพามาห้องกว้าง ดูแล้วคงเป็นศูนย์กลางของที่นี่ แต่ละคนประจำตำแหน่งของตัวเอง ตรวจเช็คสภาพของระบบ เบื้องหน้าผมคือเตียงแคปซูลที่มีเครื่องกับสายอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ถัดไปเหมือนจะเป็นระบบสมองกลขององค์กรที่ควบคุมทุกอย่างรวมถึงการแทรกแซงระบบของชาวบ้านด้วย มันมีรูปร่างเหมือนลูกเต๋าขนาดใหญ่ เชื่อมสายเส้นโตขึ้นไปบนเพดานกับใต้ฐาน

   ใช่ว่าผมไม่คิดอยากจะหนี ผมคอยมองหาลู่ทางมาตลอด แทบไม่มีช่องให้เล็ดลอดออกไปได้เลย ที่สำคัญคาเรนยังตกอยู่ในเงื้อมมือพวกมัน
   
   ชายด้านหลังผลักผมมาหารุจที่ยืนอยู่ข้างแคปซูล ผมอิดออดไม่ยอมขึ้นไปนอนเป็นค้างคาวรอโดนเชือด จนรุจต้องสั่งให้ลูกน้องตัวบึกมาหิ้วผมไปยัดใส่แคปซูล

   “ยอมลงไปดีๆ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทนเป่าหัวยัยเด็กนี่”

   รุจใช้ปืนในมือจ่อไปทางคาเรน ผมกัดฟันกรอดมองภาพเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ร้องไห้ตัวสั่นแต่ไม่อาจสงเสียงได้ เพราะถูกปิดปากแน่น

   “นายทำไม่สำเร็จแน่นอน”

   ผมพูดเสียงกดต่ำ ยอมลงไปนอนตามที่มันต้องการ เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ซึ่งมันโคตรน่าโมโหในความคิดผม

   “เห่าหอนไปเถอะ เริ่มลงมือได้!”

   เขาหันไปสั่งลูกน้องให้เดินระบบ ก่อนหันมาคุยกับผมอย่างอารมณ์ดี

   “เครื่องที่แก่นอนอยู่ฉันสั่งให้คนแกะเครื่องเล่นกะหลั่วนั่นมาเสริมเข้าไปในแคปซูลแล้ววางระบบด้วยตัวเองเชียวนะ”

   ผมจ้องมันเขม็ง ถ้าไม่ติดว่าคาเรนถูกจ่อหัวด้วยปืนล่ะก็ ผมกระโดดถีบปากอีกฝ่ายไปแล้ว รุจไม่นำพากับสายตาโมโหของผมสักนิด มือเรียวลูบไล้แคปซูลเล่น

   “หน้าที่ของมันคือการขังแกเอาไว้ในโลกที่วินสร้าง เชื่อมต่อการทำงานกับระบบสมองกลของฉัน”

   ผมเบิกตากว้าง นั่นเท่ากับว่าผมจะต้องเป็นเจ้าชายนิทราถูกขังอยู่ในเกมของพี่ชายตัวเอง โดยที่พี่ไม่สามารถช่วยอะไรผมได้ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องหลักจะส่งผลต่อเครื่องนี้ด้วย ผมกัดฟัน อย่างน้อยชวนมันคุยยืดเวลาไปสักนิดก็ยังดี

   “นายดูเกลียดระบบโลกจำลอง แล้วทำไมถึงสร้างพวกเครื่องเถื่อนนั่นขึ้นมาล่ะ!”

   รุจเอียงมองผมพลางแสยะยิ้ม

   “มันแค่ขยะทดลอง เป้าหมายของฉันคือสิ่งนี้” เขาผายมือไปทางสมองกลด้วยรอยยิ้มชื่นชมราวกับว่ามันเป็นลูกของตัวเอง

   “เมื่อไหร่ที่เครื่องพวกนั้นสำเร็จและแพร่หลายออกไป ข้อมูลทุกอย่างจะถูกดึงมายังสมองกล ส่วนคนพวกนั้นจะทำอะไรต่อไปก็เรื่องของมัน สิ่งที่ฉันต้องการคือเงินทุนที่จะสร้างผลงานใหม่ๆ ขึ้นมาพร้อมกับวินต่างหาก”

   เห็นสีหน้ารุจตอนนี้ แม่งเกินเยียวยาแล้ว!!

   “หัวหน้าครับ มีคนกำลังบุกมาที่ฐานของเรา” ผู้ชายอีกคนวิ่งเข้ามารายงาน แทนที่จะกังวล รุจกลับแสดงสีหน้ายินดีออกมา เขาไม่พูดพล่ามอะไรอีก รีบปิดฝาแคปซูลโดยไม่สนใจผมสักนิด ผมพยายามทั้งทุบทั้งดันไม่สะเทือนแม้แต่น้อย กระทั่งรุจกดคำสั่งบนแผงควบคุม ความง่วงเข้ามาครอบงำ สิ่งสุดท้ายที่ผมได้เห็น คือรอยยิ้มน่ารังเกียจของรุจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-11-2015 20:22:00 โดย Silver Fish »

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
เพราะความหมั่นไส้เลยได้เควสลับมาเชยชมเลย :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด